CHAPTER 60 เพื่อนใหม่ & พี่ฟ้ารู้....
[น้ำฝน...♥]
ผมสะลึมสะลือลืมตามอง
อืม...
ภาพที่เห็นไม่ใช่ฝูงเพื่อนที่นอนเกยกันอยู่เหมือนเคย แต่เป็นหน้าต่างที่มีผ้าม่านทิ้งตัวลงมานิ่งสงบ แอร์เย็นฉ่ำตกกระทบผิว
ผมกะพริบตาอีกรอบ ทบทวนว่าที่นี่คือที่ไหน
เรือนเล็ก...
ผมมาอยู่ที่นี่ได้ไง?
จำได้ว่าเมื่อคืนก๊งหนักอยู่กับเพื่อน ๆ นี่
ตอนนี้ก็น่าจะนอนเกลือกกลิ้งอยู่ในบ้านหลังใหญ่ แล้วทำไมผมมานอนอยู่ที่นี่ได้
ผมก้มมองตัวเอง เบิกตากว้างเพราะมีวงแขนปริศนามากอดผมไว้จากทางด้านหลัง รู้สึกได้ถึงไออุ่นจากเรือนร่างนั้นด้วย กลิ่นกายก็คุ้นเคย
หัวใจผมไหวแรงนิด ๆ
อย่าบอกนะว่า…
ผมค่อย ๆ หันไปมองเจ้าของวงแขนนั้น
แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริง ๆ T^T
พี่หมอ…
พี่มันนอนหลับสนิท หัวอยู่เหนือผมขึ้นไป วงแขนแกร่งโอบกอดผมไว้ หายใจเข้าออกสม่ำเสมอ เรือนร่างของเราสองคนเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ ผมเม้มปากแน่น
เมาทีไรเป็นงี้ทุกที
ผมค่อย ๆ ขยับหวังออกไปจากวงแขนแกร่ง คนด้านหลังครางอื้อ กระชับกอดผมแน่นขึ้น ซุดหน้ากับหัวผม โอบร่างผมไว้ทั้งตัว ผมหน้าร้อนผ่าวเพราะเนื้อตัวของเราแนบชิดกันมากขึ้น ผมพยายามทบทวนความทรงจำ
แต่จำไม่ได้เลยครับ จำได้แค่ว่าผมกินหนัก ดื่มหนัก แล้วก็หลับไป
ผมค่อย ๆ ขยับลุก ไม่อยากให้พี่หมอตื่น พอลุกขึ้นยืนได้ก็ต้องร้องเหวอเพราะถูกรวบเอวลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าบนที่นอนอีกรอบ พี่มันซุกหน้ากับหลังผมเบา ๆ บดเบียดไปมาเหมือนเด็กน้อยบดเบียดหน้าท้องแม่
“ปล่อย ผมจะไปอาบน้ำ”
“อืม..” พี่มันงึมงำอะไรสักอย่างที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง
“พี่หมอ”
“ขอนอนต่อก่อน เมื่อคืนเราใช้งานพี่หนัก”
ผมอ้าปากค้าง
ไม่จริง!! มึงโกหก กูไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ ๆ
ดะ เดี๋ยวนะ เมื่อกี้พี่หมอแทนตัวเองว่าอะไรนะ ‘พี่’งั้นเหรอ
หรือว่าผมหูฝาด?
“ผมปวดฉี่”
ผมหาทางเลี่ยง พี่หมอทำท่าจะไม่ยอมแต่ก็ยอมปล่อยดี ๆ
ผมรีบลุกยืน แต่ยังไม่ทันจะขยับก้าวเดิน บางสิ่งของพี่หมอในตัวผมก็ไหลเยิ้มลงมาเป็นทางผ่านขาลงไปถึงข้อเท้า ผมชะงักกึก ก้มมอง เม้มปากแน่น ดูจากจำนวนแล้วไม่น่าจะใช่รอบเดียวแน่ ๆ ผมเงยหน้ามองคนทำ พี่หมอฟุบหน้าหลับอยู่ท่าเดิม ผมรีบเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอาบท่า พันผ้าเช็ดตัวเดินออกไปหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายบนพื้นมาสวมใส่ ปล่อยให้พี่หมอฟุบหลับอยู่ท่าเดิม
ผมเดินสะโพกครากกลับเข้าบ้านใหญ่ไป กวาดมองไปยังพื้นที่ที่ผมควรจะนอนเมื่อคืน เพื่อนผมแต่ละคนยังนอนไม่ได้สติ(มีแต่เพื่อนผู้ชายครับ เพราะพวกผู้หญิงเข้าห้องกันไปหมดแล้ว) ผมไล่สายตาไปยังที่นอนตัวเอง ภาพที่เห็นทำเอาผมขมวดคิ้วงุนงง
เพราะตอนนี้พี่หมอนนท์มานอนอยู่แทนที่ โดยมีไผ่กอดพี่มันไว้หลวม ๆ กอดท่าเดียวกับที่มันชอบกอดผมนั่นแหละ
นี่มันรู้ตัวหรือเปล่า
พี่หมอนนท์นอนหงายเหยียดยาว สองมือประสานกันไว้ที่หน้าท้อง กรนฟี้เบา ๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ผมละสายตาเดินเข้าครัวไป เห็นพี่ฟ้ายืนทำอาหารอยู่
“ไปนอนที่ไหนมา ทำไมคุณหมอนนท์มานอนแทนที่ได้ล่ะ”
พี่ฟ้าหันมาถาม ผมหลบตาพี่ฟ้าวูบ
“ฝนเมา ไปนอนที่เรือนเล็กได้ไงก็ไม่รู้”
พี่ฟ้ามองหน้าเหมือนค้นหาอะไรบางอย่าง แต่ไม่พูดอะไร ไล่ให้ผมไปช่วยหั่นผัก
วันนี้ฟรีสไตล์ครับ ไม่ได้เล่นน้ำ พวกเราเลยกระจัดกระจายไปนั่ง ๆ นอน ๆ เล่น บางคนก็จั่วไพ่ ส่วนผมกับพี่ฟ้าขอใช้เวลาที่เหลือเพื่ออยู่กับตาและยายให้นานที่สุด
แต่ถึงตัวผมจะอยู่กับพวกท่าน ใจกลับประหวัดคิดไปถึงใครบางคนที่กอดผมไว้เมื่อคืน ผมจำไม่ได้จริง ๆ ว่าไปอยู่กับพี่หมอได้ไง พี่หมอมาลากตัวผมไป หรือว่าผมไปหาเขาเองกันแน่
ผมนอนหนุนตักตาที่กำลังนั่งดูเกมโชว์อยู่ ในขณะที่พี่ฟ้าครองตักยาย ผมล้วงหยิบมือถือขึ้นมากดเล่น ตั้งแต่มายังไม่ได้เช็กเฟซบุ๊กเลย ผมกดดู เพื่อนแต่ละคนที่มาด้วยกันอัพรูปลงกันเพียบ
“ห่า ถ่ายกูหล่อ ๆ หน่อยก็ไม่ได้”
ผมพิมพ์ข้อความใส่ภาพที่ไอ้หินแท็กมา ในนั้นพวกเราทุกคนกำลังทำหน้าแป้นแล้น เดาแทบไม่ออกว่าใครเป็นใคร เพราะหน้าขาววอกกันทุกคน
“มึงเคยหล่อด้วยเหรอวะหมาฝน”
เพื่อนคนอื่นในห้องเรียนที่ไม่ได้มาด้วยกันเม้นท์กลับ
“พระเอกหนังไทยดี ๆ นี่เอง”
แล้วก็มีคนเข้ามากดไลค์ข้อความผมพร้อมอ้วกเรี่ยราดใส่ ผมหัวเราะจนทั้งพี่ฟ้าและตากับยายหันมามอง
“หัวเราะอะไรลูก”
“เพื่อนมันถ่ายรูปฝนลงเฟซตา หลานตาออกจะหล่อ มันดันถ่ายมาซะทุเรศ ดูดิ”
ผมโชว์ให้ดู พอตาเห็นก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ผมเลยรวบทั้งตายายแล้วก็พี่ฟ้ามากดถ่ายร่วมกันอัพลงเฟซ ขึ้นสถานะ
‘ครอบครัวสุขสันต์’
ผมฉีกยิ้มแป้น พอลงไปพวกเพื่อน ๆ ก็พากันเข้ามาชื่นชมแต่ความสวยของพี่ฟ้าและประณามหยามเหยียดในความขี้เหร่ของผม จนผมต้องด่ากราด
ในระหว่างไล่อ่านเม้นท์ของแต่ละคนผมกดเลื่อนขึ้นไปเช็กด้านบน เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีคนขอแอดมาเป็นเพื่อนด้วย ผมกดดู
ใครวะ หน้าคุ้น ๆ??
มีข้อความจากคนอื่นที่ไม่ใช่เฟรนด์เข้ามาด้วย ผมกดเปิดอ่าน
'พี่ต้าร์เอง รับแอดพี่ด้วยนะ'
ผมนอนอ่านอึ้ง ๆ
นี่พี่แกเอาจริงหรือวะเนี่ย
ถ้ารับ แปลว่าผมยอมรับให้เขาเข้ามาจีบน่ะสิ แต่ถ้าไม่รับ มันจะเป็นการเสียมารยาทไปไหม เพราะเขาบอกว่าอยากขอเป็นเพื่อนไม่ใช่จะมาจีบสักหน่อย
ผมค้างนิ้วไว้กึ่งกลางระหว่างตอบรับกับปฏิเสธ แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจอะไร แขนยายมาชนจนนิ้วผมเลื่อนไปกดรับเฉยเลย
“อ้าว”
ผมครางตกใจ แล้วข้อความใหม่ก็เด้งขึ้นมา
“ดีใจจังที่รับ คิดว่าจะไม่รับซะอีก พี่ต้าร์นะ ที่เจอกันวันสงกรานต์หวังว่าน้ำฝนจะจำได้”
“ครับ”
ผมตอบรับไปมึน ๆ เอาไงดีวะกู
“ฝนเรียนอยู่โรงเรียน…ใช่ไหม ไม่ไกลจากมหา’ลัยพี่เลย พี่เรียนอยู่…คณะบริหาร”
โห บังเอิญจริง ๆ
ผมพูดคุยกับเขาอยู่พักใหญ่ มันเป็นการสนทนากันแบบปกติ เหมือนเพื่อนใหม่ทักทายเพื่อนใหม่กันทั่วไป ไม่เห็นมีข้อความไหนเป็นเชิงจีบเลย
สงสัยผมจะคิดมากไปจริง ๆ ผมหัวเราะตัวเองอยู่ในใจ
มีข้อความไลน์เด้งขึ้นมา ผมกดเช็ก ก่อนเม้มปากแน่น มองออกไปด้านนอกที่เห็นใครบางคนก้มหน้ามองมือถือ แล้วเหลือบมองมาทางผม
‘ทำอะไรอยู่’
‘นอนหนุนตักตา’
ผมตอบกลับ เห็นแล้วยังจะถามอีก
‘ฉันหมายถึง เล่นอะไรบนมือถือ’
‘เรื่องของผม’
ตอบแล้วก็เหลือบมองคนที่มองกลับมา
‘หึ แต่นายเป็นเมียฉัน’
ผมหน้าร้อนผ่าว ข้อความเตือนจากพี่ต้าร์เด้งขึ้น แต่ผมไม่คิดจะกดอ่าน
‘ผมเป็นผู้ชาย และจำไม่เคยได้ว่าเป็นเมียพี่’
พี่หมอเลิกคิ้ว ยกยิ้มนิด ๆ มันดูร้ายนะ แต่ทำไมผมถึงรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มองก็ไม่รู้
‘จำไม่ได้รึไง เมื่อคืนก็ออกจะร้อนแรง ฉันนอนของฉันกับนนท์อยู่ดี ๆ นายก็เข้ามาเคาะห้อง มาขี่ฉันจนนนท์ต้องออกไปนอนที่อื่น ออดอ้อนจนฉันแทบไม่มีแรงเหลือ’
ผมอ้าปากค้าง สิ่งที่ผมต้องการจะรู้ถูกเปิดเผยออกมาหมดเลย ผมเม้มปากแน่น รัวพิมพ์กลับไป
‘ผมเมา’
‘เมาแล้วร่าน’
ผมสะอึก กดปิดมือถือยัดลงกระเป๋ากางเกง มองพี่หมอตาเขียว ขยับหันหลังให้ ได้ยินเสียงข้อความไลน์ดังขึ้นอีก ผมไม่หันไปมอง แต่ค่อย ๆ ล้วงหยิบมือถือขึ้นมากดอ่านอีกรอบแบบไม่ให้ใครเห็น
‘แต่ไม่เป็นไร หมอคนนี้ชอบรักษาคนเป็นโรคร่าน’
ผมไม่ตอบอะไร กดปิดอีกครั้ง สักวันผมจะฆ่าพี่มันให้ได้
50%
รุ่งขึ้นพวกเราทุกคนพากันมายืนกราบลาตากับยาย ผมทั้งกอดทั้งซบ ป้ากับพี่ฮัทและพี่แฮ็คก็มาส่งด้วย
“ไว้วันไหนว่าง ๆ พี่จะไปเยี่ยม”
ผมยิ้มแป้นใส่พี่ฮัท กอดพวกพี่มันเบา ๆ ก้าวขึ้นรถไป มายังไงก็กลับอย่างนั้นครับ พี่หมอบังคับให้ผมนั่งหน้าข้างตัวเองเหมือนเดิม ซึ่งผมต้องทำหน้าที่ป้อนทั้งน้ำและขนม โดยมีไผ่กัดกับพี่มันมาตลอดทางและมีตัวห้ามทัพคือพี่หมอนนท์
ความรู้สึกของผมตอนนี้มันบอกไม่ถูกครับ มันก้ำกึ่งระหว่างมีความสุขกับทุกข์นิด ๆ ตื่นเต้นที่พี่หมอทำเหมือนผมเป็นคนพิเศษ แต่ในความพิเศษนั้นมันดูจะไม่จริงจัง เพราะพี่หมอก็ยังคงเห็นผมเป็นแค่ทาสเอาไว้คอยใช้ตามสั่ง สั่งให้มาก็ต้องมา สั่งให้ไปก็ต้องไป จนผมไม่แน่ใจว่าผมควรจะรู้สึกยังไงกับพี่หมอกันแน่
ผมถูกปลุกให้ตื่นหลังจากรถมาจอดสนิทหน้าบ้าน ไผ่มันรีบลงจากรถไปขนของทั้งของผมและของมันเองลงจากรถ มันค้างกับผมแน่นอนคืนนี้
“ไว้เดี๋ยวว่าง ๆ จะมาช่วยทำร้าน” พี่หมอบอก
“ไม่ต้องเสือก พวกมึงไม่มาจะเป็นมงคลร้านมากกว่า”
ไผ่ดักคอ
“อะไรกันครับคุณไผ่ เมื่อคืนก็เห็นกอดผมแน่น”
ไผ่มันสะอึกอึ่ก เป็นความอัปยศของมันที่เผลอไปกอดพี่หมอนนท์เข้า
“นั่นเพราะกูคิดว่าเป็นฝน ไม่คิดว่าจะมีใครเสือกมานอนแทนพี่เพื่อนกู แถมเพื่อนมันยังมาลากเพื่อนกูไปกอดอีกต่างหาก”
ไม่มีใครพูดอะไรต่อ พวกพี่หมอพากันเดินเข้าไปไหว้ลาพ่อกับแม่ผม บอกลาพี่ฟ้าแล้วพากันขับรถออกไป
ไผ่หันมามองตาผม ทำหน้าถะมึงทึง
“กูว่ามึงห้ามดื่มอีกเด็ดขาด กินแล้วเอาตัวไปถวายให้มันกินถึงที่”
“กูไม่รู้”
“เอ้อ ๆ คงเป็นจิตใต้สำนึกลึก ๆ ของมึงนั่นแหละ แม่ง เพื่อนกู”
มันทำท่าฟึดฟัดแบกกระเป๋าทั้งของผมและตัวมันเองเดินลิ่ว ๆ เข้าบ้านไป
ผมนั่งเอกเขนก เล่นเกมกับเพื่อนสองคนบนพื้น พี่ฟ้าเคาะห้องเบา ๆ แล้วถือวิสาสะหมุนเปิดประตูเข้ามาเองเลย ถือจานขนมมาวางไว้ที่พื้นข้าง ๆ
“แหมรู้ใจกันจัง”
ไผ่มันรีบคว้าหมับเข้าปาก พี่ฟ้าหัวเราะ ทิ้งตัวลงนั่งข้างเตียง ผมกับไผ่ไม่ได้สนใจพี่ฟ้า เพราะกำลังเร่งเพิ่มเลเว่ลยิก ๆ
“ไผ่ พี่ถามอะไรหน่อยสิ”
“ถามสิ” มันตอบรับโดยไม่หันไปมอง
“กดเกมค้างไว้ก่อน”
พี่ฟ้าสั่ง มันจำต้องกดเกมค้าง หันไปมองพี่ฟ้า ผมหยิบขนมกินคำหนึ่ง หันไปมองหน้าพี่ฟ้าเหมือนกัน
“กับคุณหมอ ไปถึงไหน ยังทะเลาะกันอยู่ไหม”
ไผ่มันวางจอยลงทันที
“ถามทำไมให้เสียอารมณ์ การได้หายใจร่วมกับมันคือความวิบัติของชีวิต” ดูมันพูดเข้า พี่ฟ้าหัวเราะ ไม่ถามอะไรต่อ ลุกขึ้นยืน เดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตู
“ฝน”
“หือ?”
ผมหันไปครางรับ พี่ฟ้าพยักหน้ามาทางผมนิดหนึ่ง ชี้ไปแถว ๆ ต้นคอตัวเอง พอกลับมาถึง ผมกับเพื่อนก็พากันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ผมลูบคอตัวเองเบา ๆ ในจุดเดียวกัน
สงสัยจะมีอะไรติดอยู่ ไผ่หันมามองตามบ้าง พี่ฟ้ายิ้ม
“รอยคิสมาร์คโผล่แน่ะ”
พี่ฟ้าพูดแค่นั้น ก้าวเดินออกจากห้อง ปิดประตูให้เบามือ ผมนั่งนิ่งตัวแข็งทื่อ
“ฝน”
ไผ่มันรีบขยับมาจับสองไหล่ผมไว้ เขย่าเรียกเบา ๆ
“มะ มึง พี่ฟ้าหมายความว่ายังไง พี่ฟ้าพูดเล่นใช่ไหม ระหรือว่า…”
ผมกุมคอตัวเองตรงจุดที่คิดว่าน่าจะมีรอยอย่างว่าอยู่
“ไม่มีรอยอะไรใช่ไหมไผ่”
ผมถามมันเสียงเบา ไผ่หน้าเสีย คนที่ผมไม่อยากให้รับรู้คือคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือพี่ฟ้า
“ใจเย็นฝน บอกพี่ฟ้าไปว่าโดนแมลงกัดหรือโดนกูแกล้งเอาตอนเมาก็ได้ อย่าเพิ่งคิดมาก”
ผมพยักหน้า มันรวบผมเข้าไปซบอก ผมตัวสั่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว หวังว่าทุกอย่างจะไม่เลวร้ายอย่างที่ผมคิดนะ
เกมกลายเป็นหมัน หลังจากนั่งคิดไม่ตกอยู่พักผมก็ผล็อยหลับไป ตื่นมาอีกทีไผ่ก็ไม่อยู่ในห้องแล้ว ผมอยากไปหาพี่ฟ้า แต่ก็ไม่กล้าเผชิญหน้า ผมลุกขึ้นส่องกระจก รอยคิสมาร์คเด่นหราอยู่ตรงต้นคอจริง ๆ ด้านล่าง ๆ ถ้าเสื้อตัวอื่นคงไม่เห็น แต่เสื้อตัวนี้เห็น ผมเม้มปากแน่น เลิกถอดเสื้อออก หยิบตัวใหม่ที่มิดชิดกว่ามาใส่
ผมเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง กอดเข่าแน่น เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนสะดุ้งเพราะฝ่ามือที่วางไว้บนหัวไหล่ ผมหันไปมอง
“ตื่นแล้วเหรอ ข้าวเย็นเสร็จแล้ว ลงไปกินกันเถอะ”
“ไผ่ กูไม่กล้าเจอหน้าพี่ฟ้า”
ผมหันไปเผชิญหน้า มันรวบผมเข้าไปกอด ก่อนดันผมออกเบา ๆ มามองหน้า
“กูเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ฟ้าฟังแล้ว”
ผมตาโต หัวใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม
“มึงเล่าทำไม แล้วพี่ฟ้า…”
“ใจเย็นมึง พี่ฟ้าเขาเข้มแข็งกว่าที่มึงคิดนะฝน พี่เขาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็เข้าใจ”
ผมมองตามันหวั่น ๆ
“มึงเล่าเรื่องอะไรให้พี่ฟ้าฟังบ้าง”
ผมถามเสียงพร่า
“ทั้งหมด ทั้งเรื่องที่กูมีปัญหากับมัน ใช้มึงหลอกว่าเป็นแฟนกูจนมันเข้าใจผิดคิดว่าเราเป็นแฟนกันจริง ๆ เรื่องที่มันใช้มึงเพื่อแก้แค้นกู ทุกเรื่อง”
มือไม้ผมร่วงผล็อยอย่างหมดแรง น้ำตารินอย่างห้ามไม่อยู่ มันกอดผมไว้อีกรอบ
“รวมถึงเรื่องที่พี่หมอถ่ายรูปมึงเพื่อแบล็กเมล์ด้วย”
ผมใจแป้วลงไปอีก ถ้าพี่ฟ้ารู้ แล้วพี่ฟ้าเอาเรื่องล่ะ พี่หมอจะติดคุกไหม
“แล้วพี่ฟ้าว่าไง”
“พี่ฟ้าก็บอกว่าทุกอย่างให้มึงเป็นคนตัดสินใจเอง”
ผมเม้มปากแน่น ใจชื้นขึ้นมานิดหนึ่งที่พี่ฟ้าไม่แจ้งตำรวจจับพี่หมอมัน อย่างน้อยก็เพื่อตัวผมเองและลึก ๆ ผมก็ไม่อยากให้เขาคนนั้นถูกจับด้วย
“ไปกินข้าวเถอะ ทำตัวเหมือนเดิมนั่นแหละ”
“กะ กูไม่หิว”
“ไปเถอะ อย่าให้พี่ฟ้าคิดมาก และอีกอย่าง…” มันนิ่งเงียบไป “พี่ฟ้าเขารู้ความรู้สึกลึก ๆ ที่มึงมีต่อพี่หมอนะ และบอกกูด้วยว่าพี่หมอเองก็อาจจะรู้สึกแบบเดียวกับมึงด้วย”
ผมมองมันอย่างไม่เชื่อหู
“พี่ฟ้าแอบสังเกตมาพักใหญ่แล้ว แต่ถึงมันจะรู้สึกยังไงกับมึง กูไม่สน มันจะเป็นคนเดียวที่กูจะไม่ยอมให้มึงคบด้วยเด็ดขาด” มันบอกอย่างมุ่งมั่น
ใช้เวลาอยู่นานกว่าไผ่มันจะลากผมออกจากห้องได้ พอลงไป ผมแทบไม่กล้าสบตาพี่ฟ้า แต่รายนั้นยังทำสีหน้าปกติจนผมผ่อนคลาย พี่ฟ้าเดินมาลูบหัวผมเบา ๆ ส่งสายตาว่าให้ผมไว้วางใจ ผมกอดพี่ฟ้าแน่นจนพ่อแม่ที่พากันเดินลงมาจากชั้นบนพากันแซว ผมถึงได้ผละปล่อย
อย่างน้อยตอนนี้ผมก็เบาใจเรื่องพี่ฟ้า และหวังแค่ว่า เรื่องทุกอย่างจะจบลงเร็ววัน
To be con....
หึ ๆ หัวเราะอย่างมีเลศนัย
อย่างเร็วคนเขียนอาจมาวันเสาร์นะคะ แต่ถ้าติดธุระด่วน ก็เจอกันอีกทีวันที่ 11 เลย เพราะวันที่ 7-10 มันไปถือศิลที่ลำปาง ซียูนะคะ ^^
ตัวอย่างตอนต่อไปค่ะ : ตอนที่ 61 หน้าที่ของเมีย (พี่หมอ พาร์ท)
“ใครเป็นเมียพี่”
“ต้องให้ย้ำตรงนี้ไหม”
ผมขยับเข้าไปใกล้ มันรีบถอยกรูด
“มะ ไม่ต้อง”
แต่ผมยังคืบคลานไม่หยุด
“บอกสิ ใครเป็นผัวนาย”
ตัวคนเขียนระเบิดตู้มในทุ่งข้าวสาลี "บอกสิ ใครเป็นผัวนายยยยยยยย" ข้าขอตายอย่างสงบ ลาก่อนทุกคน >//<
::ทอล์ก ตะละล็อกต๊อก ๆ::
*ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับคอมเม้นท์นี้**
นี่เป็นกรณีที่ติดค้างอยู่ในใจในฐานะคนเขียนที่ชื่นชอบแนวพระเอกข่มขืนนายเอกมากระดับหนึ่ง (สายมาโซ =.,= )
โดยเฉพาะเรื่องนี้
อธิบายไว้ก่อนว่าน้ำฝนไม่ได้ชอบพี่หมอเพราะถูกข่มขืนนะคะ (ไม่ใช่โดนข่มขืนปุ๊บรักปั๊บ อันนั้นก็เวอร์ไป = =)
แต่รักเพราะพฤติกรรมที่พี่หมอทำหลังจากข่มขืนแล้วต่างหาก
หลังจากถูกข่มขืน ถูกทำร้ายร่างกาย น้ำฝนก็หวาดกลัว ตื่นตระหนก และเกลียดชังพี่หมอมาก นี่คือภาวะปกติ ไม่มีคำว่ารักหรือถูกใจอะไรในตัวพี่หมอทั้งนั้น
แต่พี่หมอต่างหาก ที่"ติดใจ"คนที่ตัวเองข่มขืนอย่างน้ำฝน จนเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของพี่หมอนี่แหละ ที่ทำให้น้ำฝนพลิกจากความเกลียดชังมากมาเป็นความเกลียดชังน้อยลง(แต่ก็ยังไม่รักค่ะ) และจากความเกลียดน้อยลงมาเป็นความเข้าใจ(แต่ก็ยังไม่รักอยู่ดี) และจากความเข้าใจมาเป็นความรักทีละนิด ๆ(ซึ่งมาตอนนี้ก็ฉุดน้ำฝนกลับไม่ได้แล้ว)
หลังจากพี่หมอเริ่มชอบพอน้องฝนโดยไม่รู้ตัว ก็เปลี่ยนพฤติกรรมจากทำให้เจ็บ มาเป็นพฤติกรรมทำให้พอใจ(แบบที่อิพี่หมอเองก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองทำ เช่นอุ้มน้องน้ำฝนแบบเจ้าหญิง รักษาเบามือขึ้น กอดหรือจูบน้องแบบอ่อนโยนขึ้น) ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้คนที่ถูกปฏิบัติอย่างน้ำฝน รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงด้วยตัวเอง(พี่หมอมันฉลาดจับจุดอ่อนน้องถูกด้วย)
สิ่งที่ทำให้น้ำฝนชอบพี่หมอคือความอ่อนโยนที่พี่หมอแสดงออกต่อน้ำฝน แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่มันก็มากพอสำหรับน้ำฝน (หรือคนที่เคยถูกทำร้ายหนัก ๆ มาก่อน)
พี่หมอค่อย ๆ แสดงความอ่อนโยนใส่น้ำฝนทีละนิด(พี่หมอก็ไม่รู้ตัว) และยิ่งพอพี่หมอรู้ตัวก็แสดงออกมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อให้น้ำฝนใจแข็งเป็นหิน โดนน้ำหยดใส่ทุกวัน หินมันต้องกร่อนบ้างละ พี่หมอไม่ได้หยดน้ำธรรมดาด้วย น้ำหวานนะคะน้ำหวาน มดแห่กันมาช่วยกัดอีก = =
เพราะงั้น อย่าเพิ่งสรุปว่านายเอกชอบพระเอกเพราะถูกขืนใจ แต่เพราะถูกพฤติกรรมที่พี่หมอแสดงออกอย่างอ่อนโยนทำให้ชอบต่างหาก
บางคนเจ็บแล้วจำ
บางคนเจ็บแล้วไม่จำ
บางคนเจ็บแล้วไม่เอามาใส่ใจ
ในกรณีของน้ำฝน เจ็บแล้วจำเหมือนกัน แต่ก็เลือกที่จะไม่เอามาใส่ใจหรือแก้แค้นคืน และอีกอย่างต้องดูพื้นนิสัยน้ำฝนด้วย ตามความเชื่อของน้ำฝน คนที่กตัญญู=คนดี
เพราะงั้นถึงน้ำฝนจะถูกพี่หมอกระทำรุนแรงใส่ แต่ความเชื่อลึก ๆ ของน้ำฝนก็ยังเชื่อว่าพี่หมอเป็นคนดีอยู่ดี แต่ทำตัวเลวเพราะถูกไผ่กระตุ้นเท่านั้น
จุดเริ่มต้นที่ทำให้น้ำฝนชอบพี่หมอคือปีศาจพี่หมอในวันที่ฝนป่วย (วันที่พี่หมอขอมานอนค้างที่บ้านด้วยนั่นแหละ จำได้ไหม) น้ำฝนเกลียดชังและหวาดกลัวพี่หมอมาตลอด แต่อยู่ ๆ วันหนึ่งพี่หมอดันแปลงร่างเป็นปีศาจพี่หมอมากอดน้ำฝนตอนสติไม่สมประกอบ
ถึงสติไม่สมบูรณ์ แต่จิตใต้สำนึกของน้ำฝนยังทำงานดีอยู่ (ช่วงเวลากึ่งหลับกึ่งตื่น เป็นสภาพที่จิตใต้สำนึกทำงานได้ดีที่สุด สภาวะคล้ายถูกสะกดจิต) จิตใต้สำนึกน้ำฝนรู้สึกดีและมีความสุขมากที่ปีศาจพี่หมออ่อนโยนด้วย (โยโย่เอฟเฟคหลังจากถูกทำร้าย ยิ่งน้ำฝนเกลียดพี่หมอตัวจริงที่ทำเลวมากเท่าไหร่ น้ำฝนจะยิ่งชอบปีศาจพี่หมอที่แสนอ่อนโยนในจินตนาการมากขึ้นเท่านั้น)
พอตื่นขึ้นมา น้ำฝนก็ยังเกลียดและหวาดกลัวพี่หมออยู่เหมือนเดิม แต่จิตใต้สำนึกของน้ำฝนชอบปีศาจพี่หมอไปแล้ว(อย่างไม่ตั้งใจ) และจิตใต้สำนึกของคนเรามีอำนาจมากกว่าจิตสำนึกอีก น้ำฝนจึงเกิดอาการตีกันเองเบา ๆ ว่าทำไมตัวเองคิดแบบนั้น
มันทั้งชอบและไม่ชอบพี่หมอในเวลาเดียวกัน(ใจสั่งให้ไม่ชอบ แต่จิตใต้สำนึกมันชอบ) เพราะงั้นเวลาพี่หมอทำตัวไม่ดี น้ำฝนจะไม่ชอบ แต่ถ้าพี่หมอเผลอทำตัวอ่อนโยนขึ้นมาเมื่อไหร่ มันจะไปกระตุ้นต่อมถูกใจน้ำฝนขึ้นมาทันที และที่น้ำฝนเผลอตัวมองตามพี่หมอ หรือย่องเงียบมาหาตอนเมาหนัก ก็เพราะจิตใต้สำนึกสั่งมานี่แหละค่าาา
เพราะงั้นตัวละครเรื่องนี้ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บรักกัน แต่เริ่มจากเกลียดก่อน แล้วค่อย ๆ กลับกลายเป็นรักนะคะ และจะรักมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นขาดกันไม่ได้เลยละ -,.-
ซียูค่าาาา
Tag #พี่หมอน้ำฝน #ทาสแค้น #ทาสแค้นแสนรัก #Hatelove