Chapter : 61: หน้าที่ของเมีย
[พี่หมอ...♥]
ผมกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม เข้าโรงพยาบาลตามเวรที่ได้รับ ว่าง ๆ ก็ไปช่วยหมอนนท์ที่คลีนิค ใช้ชีวิตทุกอย่างเหมือนเดิม จะมีแปลกใหม่ขึ้นมาหน่อยก็คือ..
ผมยกยิ้มเมื่อข้อความที่ผมส่งไปก่อนหน้าได้รับการตอบรับ ผมหยิบมือถือมากดเปิดดู
‘ทำกระดานเมนู’
คำตอบจากคำถามที่ผมถามไว้เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ช่วงนี้ผมอยู่เวรดึกเลยไม่ได้ไปช่วยน้ำฝนทำร้าน ผมรู้แค่ว่าร้านใกล้เปิดแล้ว ซึ่งเพื่อนผมมันเตรียมตัวไปเป็นลูกค้ารายแรกเพราะติดใจในฝีมือการทำอาหารของทั้งฝนและฟ้า
ผมคิดอะไรได้ กดส่งข้อความไป
‘วันเสาร์มาทำอาหารให้กินที่คอนโดหน่อย’
‘ผมไม่ใช่เบ๊พี่นะ’
‘นายไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ’
ไม่รู้ว่าปลายทางกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน ผมยิ้มกริ่ม กลับมาทำงานเหมือนเดิม
กระทั่งวันเสาร์ ผมนั่งคอยจนได้ยินเสียงกริ่งหน้าห้อง ผมเดินไปเปิด ฝนยืนหน้ามุ่ยอยู่หน้าประตู
“กะว่าถ้ามาช้าอีกนิดจะไปลากมาจากบ้าน”
ผมเปิดประตูกว้างขึ้นให้มันเข้ามา
“อยากกินอะไร โทษทีผมลืมซื้ออาหารหมามาฝาก”
ผมกระชากมันเข้ามาจนชิด จับท้ายทอยมันตรึงให้แหงนหน้า มันมองผมหน้าตื่น สองมือกั้นอกผมไว้
“อย่ายั่วน่า”
“ผมไม่ได้ยั่ว” มันรีบผลักผมออก “แล้วตกลงอยากกินอะไร”
“ไปดูเอาเองสิ”
ผมพยักหน้าไปทางห้องครัว มันเดินตรงดิ่งเข้าไป เปิดตู้เย็นออก ก่อนเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม คิ้วเรียวขมวดมุ่น
ผมหัวเราะหึ ๆ
จะไม่ให้มันขมวดคิ้วได้ไงก็ในเมื่อตู้เย็นผมไม่มีของสดอะไรสักอย่างนอกจากเครื่องดื่มเย็น ๆ
“ไม่เห็นมีอะไรสักอย่าง แล้วจะให้ผมทำอะไร”
“อ้าวเหรอ คิดว่าของเต็มตู้ซะอีก งั้นเราคงต้องไปซื้อกันสินะ”
ผมเดินไปหยิบกุญแจ
“มาสิ”
“ผมว่าพี่สั่งซื้อกินเองก็ได้”
“ป่ะ”
ผมตีมึน จับข้อมือมันเดินออกจากห้อง เราเดินเคียงไปด้วยกัน มันไม่มองหน้าผม แก้มขึ้นสีฝาดนิด ๆ ผมหัวเราะหึ ๆ กับกิริยานั้น
ผมขับรถพามันมาซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้บ้าน เลือกหาซื้อเฉพาะผักปลอดสารพิษและเครื่องดื่มพวกผลไม้ไปเก็บไว้ในตู้เย็น ตอนแรกมันจะไม่ยอมมาเดินเลือกกับผม แต่ก็ถูกบังคับจนต้องทำตาม ผมเข็นรถเข็น เลือกหยิบไม่ต่างกับมัน
บอกตามตรงว่าคอนโดผมมีครัว แต่ผมไม่เคยแตะอุปกรณ์ทำครัวสักอย่าง เพราะงั้น พอมันถามว่ามีอะไรบ้าง ผมก็บอกไปเท่าที่มี ทำให้ต้องซื้อของเพิ่มกันหลายอย่าง
มันมองสิ่งที่อยู่ในรถเข็นอึ้ง ๆ ผมยื่นบัตรให้พนักงาน ลากรถเข็นไปช่วยกันขนของขึ้นรถ พอกลับถึงคอนโดก็ช่วยมันแกะข้าวของออกมาจัดเรียง สภาพไม่ต่างกับผัวเมียซื้อของเข้าบ้านแม้แต่น้อย
“เหมือนผัวเมียซื้อของเข้าบ้านเลยแฮะ”
ผมพูดขึ้นมาลอย ๆ มันทำกล่องทิชชู่ที่ถืออยู่ตกพื้น เงยหน้ามอง
“ใครผัวเมียกัน”
“ต้องให้ย้ำตรงนี้ไหม”
ผมขยับเข้าไปใกล้ มันรีบถอยกรูด
“มะ ไม่ต้อง”
แต่ผมยังคืบคลานไม่หยุด
“บอกสิ ใครเป็นผัวนาย”
“มะ..ไม่”
ผมจ้องตามันเขม็ง มันก้มหน้าลงต่ำอ้อมแอ้มบอก
“พะ พี่หมอ”
ผมไม่เห็นหน้า แต่หูมันแดงอย่างเห็นได้ชัด ผมหัวเราะชิดใบหูนั้นงับเบา ๆ จนมันหดหน้าหนี
“ปล่อย ผมจะรีบทำอาหารให้กิน”
มันผลักผมออกเบา ๆ และผมก็ยอมโดยดี มารื้อเอาของที่เหลือออกจากถุง ส่วนมันเดินไปหยิบหม้อหุงข้าวมาเทข้าวใส่แล้วหุง หยิบผักไปล้างต่อ ทำทุกอย่างคล่องแคล่วไม่ต่างกับเวลาที่มันอยู่บ้านตัวเองนั่นแหละ พอจัดของเสร็จผมก็มายืนกอดอกมองเฉย ๆ
“ลืมซื้ออะไรไปอย่าง”
ผมพูดขึ้นมาลอย ๆ มันหันมามอง
“อะไร”
“ผ้ากันเปื้อน”
มันอ้าปากค้าง
“ไม่จำเป็น”
“นายดูดีตอนใส่ผ้ากันเปื้อน”
มันไม่โต้ตอบอะไร หันกลับไปก้มหน้าล้างผักต่อ ผมไม่กวนอะไรอีก ยืนมองมันทำกับข้าวไปเงียบ ๆ หลังจากเตรียมเครื่องเสร็จ มันก็ลงมือทำ แค่สามอย่างครับ กลิ่นอาหารที่ทำเสร็จแล้วลอยคลุ้งกระตุ้นท้องผมให้ร้องจ๊อก ๆ ได้ยินเสียงหม้อหุงข้าวดีด ผมเดินไปเปิดดู ข้าวฟูขึ้นมาอย่างสวยงาม ผมปิดไว้อย่างเดิมทิ้งไว้อีกสักพักให้มันขึ้นหม้อ เดินไปหยิบแก้วน้ำช้อนชามมาเตรียมไว้ เพราะหิวมากแล้ว
มันยังไม่หยุดอยู่แค่อาหาร หันไปหยิบผลไม้มาล้างจนสะอาด ปอกเปลือก หั่นสวยเรียงใส่จาน ผมยืนมองทุกการกระทำนั้นนิ่ง ๆ
บอกตามตรงว่านี่ออกจะนอกเหนือไปจากสิ่งที่ผมเคยวางแผนไว้
ครั้งแรก ผมมั่นใจแน่ ๆ ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นฟ้า ผู้หญิงที่มีทรวดทรงองค์เอว เป็นเพศที่ให้กำเนิดลูกผมได้ แต่ตอนนี้ คนที่ยืนเก็บถุงผลไม้เข้าตู้เย็น กลับกลายเป็นฝน น้องชายของคนที่ผมเคยชอบ เพื่อนสนิท ไม่สิ คู่ขาของน้องชายตัวเอง
มาถึงตอนนี้ ผมรู้สึกฉุนนิด ๆ เพราะยังไม่รู้ว่าสองคนนี้เลิกกันจริง ๆ แล้วรึยัง เพราะยังเห็นพวกมันทำตัวสนิทสนมกันเหมือนเดิม
“ทานได้แล้ว” มันวางจานผลไม้ไว้บนโต๊ะ พูดเรียบ ๆ เช็ดมือ “แค่นี้ใช่ไหม งั้นผมกลับล่ะ”
ผมจับข้อมือมันไว้
“ใครให้กลับ”
“ก็พี่บอกมาทำอาหารให้กิน ผมก็ทำแล้ว”
“นั่งกินด้วยกัน ฉันไม่ใจร้ายปล่อยนายท้องร้องหรอก”
“ผมจะกลับไปกินที่บ้าน”
“แล้วใครจะให้นายกลับบ้าน”
“พี่หมอ”
“นั่ง”
ผมสั่ง มันเม้มปาก ทิ้งตัวลงนั่ง ผมหัวเราะ จับช้อนขึ้นมาตักข้าวกิน อาหารรสดีมาก ผมกินจนเกลี้ยงจานทุกเมนู กวาดไม่เหลือแม้แต่เศษกระเทียมเจียว
“เลียเลยก็ได้นะ”
มันแซวยิ้ม ๆ ก่อนตีสีหน้าบึ้งตึง ผมไม่โต้กลับอะไร หยิบน้ำมาดื่ม มันเลื่อนจานผลไม้มาให้อย่างรู้งาน ผมจิ้มกินไปคำเดียวแล้วยื่นส้อมไปให้มันแทน
“ผมอิ่มแล้ว”
“ใครว่าให้นายกินเอง ให้ป้อนฉันต่างหาก”
“กินเองสิ”
“ป้อน”
ผมออกคำสั่ง มันรับส้อมไปจิ้มแอ๊ปเปิ้ลแรงจนปลายส้อมทะลุถึงจาน ยื่นมาตรงหน้าตาขวาง ผมยกยิ้ม อ้าปากรับ ผมให้มันป้อนทุกคำจนหมดจานเหมือนกัน มันลุกขึ้นเก็บจานชามไปล้าง ส่วนผมนั่งมองอารมณ์ดี
“อยากดูหนังเรื่องอะไร”
ผมถามคนที่ยืนหันหลังอยู่
“ไม่ดู”
“อ๋อ อยากทำหน้าที่เมียเร็ว ๆ”
ผมรวน มันหันขวับมามอง
“ผมไม่อยากดูกับพี่”
“เลือกเอา ดูหนังหรือขึ้นเตียง”
มันเม้มปากแน่น สะบัดมือเช็ดผ้าลวก ๆ
“มีเรื่องอะไรบ้าง”
มันถามเหวี่ยง ๆ ผมหัวเราะ พยักหน้าให้มันเดินตามไปที่ห้องรับแขก
“กองนี้ฉันยังไม่ได้ดู กองนี้ดูแล้ว แต่ถ้าอยากดูอีกก็ดูด้วยได้”
ผมให้ทางเลือก มันเลือกหยิบกองที่ผมยังไม่ได้ดู ผมนั่งเท้าแขนบนพนักโซฟา ปล่อยให้มันเลือก มันเลือกได้หนังแอ็คชั่นมาเรื่องหนึ่ง ผมเดินไปเปิดแล้วกลับมาทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ มันเขยิบจนชิดโซฟาอีกด้าน แต่ผมลากมันมานั่งข้าง ๆ มันยื้อจะขยับหนี ผมเลยรวบตัวมันมานั่งพิงอก มันทำท่าจะลุกหนีอีก
“ดิ้นปล้ำนะ”
คำขู่นี้ได้ผลเสมอ มันนั่งนิ่งตัวแข็งทื่อ ผมหัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างพอใจ คล้องมือกอดเอวมันไว้หลวม ๆ มันไม่พูดไม่ดิ้นรนขัดขืนอะไรอีก นั่งดูหนังกับผมไปเงียบ ๆ กระทั่งหนังจบเรื่อง
“ผมกลับก่อนล่ะ”
มันยังไม่คิดจะยอมแพ้ต่อโชคชะตาตัวเอง ดันตัวลุก ผมจับข้อมือมันไว้ หยิบรีโมตมากดปิดทีวี
“ไปอาบน้ำ”
“ผมจะกลับบ้าน ไม่ได้บอกใครว่าจะค้างข้างนอก”
“งั้นโทรบอกซะ”
“พี่หมอ”
“โทรสิ หรือจะให้ฉันโทรให้”
มันเม้มปากแน่น ล้วงหยิบมือถือตัวเองมากดโทรออก มันโทรหาฟ้า ผมยืนคอยกระทั่งมันวางสาย
“จะนอนได้ไง ผมไม่มีเสื้อผ้า”
“ใส่ของฉันไปก่อน”
มันหลุกหลิกสายตาไปมา ผมพยักหน้าไปทางห้องน้ำ มันเดินหน้าบึ้งเข้าไป ในขณะที่ผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาเสื้อผ้าเหมาะ ๆ มาให้ กางเกงหมดสิทธิ์ คงได้แต่เสื้อ แต่ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว เพราะผมอาจไม่ให้มันใส่อะไรเลยตลอดทั้งคืน
เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกเบา ๆ มันเยี่ยมแค่หน้าออกมามอง
“เสื้อผ้าผมล่ะ”
ผมหยิบเสื้อยืดที่เตรียมไว้เดินไปให้มัน
“แล้วกางเกงล่ะ”
“ไม่มี”
มันมองหน้าผม แววตาไม่พอใจ แต่ไม่พูดอะไร ปิดประตูลง ประมาณสองนาทีมันก็เดินออกมาเผชิญหน้าผมพร้อมเสื้อยืดของผมกับกางเกงตัวเดิมของมันเอง
“ถอดกางเกงตัวนั้นออก” ผมยืนกอดอกสั่ง
“พี่หมอ”
“ถอด ชั้นในด้วย”
มันเม้มปากแน่น ก้มถอดกางเกงพร้อมชั้นในออกจนเหลือไว้เพียงแค่เสื้อยืดตัวเดียว ผมดึงเสื้อผ้าจากมือมันเดินเข้าห้องน้ำไป ใช้เวลาไม่นานผมก็อาบน้ำเสร็จ เดินออกจากห้องน้ำในสภาพผ้าขนหนูพันเอว ฝนที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่หันมามอง ก่อนหันกลับไปมองทีวีตรงหน้าต่อ มันไม่กล้าหนีหรอก เพราะชุดมันอยู่กับผมหมด ผมเดินเอาเสื้อผ้ามันไปแขวน หยิบชุดนอนมาใส่ เป็นเสื้อยืดไม่ต่างกับมัน กางเกงขาสั้นใส่สบาย เดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ
“หอมจัง” ผมก้มดมหัวมันเบา ๆ มันรีบก้มหลบหนี
“ก็สบู่อันเดียวกัน”
“เหรอ”
มันเขยิบหนีอีก ผมลากมันเข้ามาชิด ยกขาขวามันพาดสะโพกจนมันร้องเหวอตัวเอนหงายหลัง เสื้อยืดร่นสูงจนเกือบเห็นท่อนล่าง แต่มันมือไวรีบยึดชายเสื้อไว้ดึงปิด พยายามจะชักขากลับ
“ปล่อย!”
ผมหัวเราะหึ ๆ มองใบหน้าแดง ๆ ของคนด้านล่าง จับปลายเท้ามันยกสูงขึ้นมากดจูบเบา ๆ ไล่ต่ำลงไปที่เรียวขา หัวเข่า กระทั่งถึงปลีน่องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างผู้ชาย ต่ำกว่านั้นคือมือมันที่ยังยึดชายเสื้อไว้อยู่ ผมเลื่อนปากกลับมาจูบปลายเท้ามันอีกรอบ มองตาคนด้านล่าง
“ทำหน้าที่เมียได้แล้ว น้ำฝน”
“ผมไม่ใช่เมียพี่” มันยืนยัน
“งั้นฉันคงต้องทำให้นายรู้สินะ ว่าใครเป็นเมียฉัน”
ผมยกขามันสูงขึ้น อีกข้างถูกเบียดจนชิดพนักโซฟา เลื่อนมือผ่านชายเสื้อไปสัมผัสยอดเม็ดเล็กที่แสนขัดอกขัดใจ มันรีบตะครุบจับมือผมไว้ทันทีพยายามดันออก แต่พลังมันหยุดมือผมไว้ไม่ได้หรอก ผมรุกคืบ สะกิดติ่งเล็ก มือมันที่จับผมไว้สั่นขึ้นมานิด ๆ ครางออกมาเบา ๆ
“พี่หมอ...” ดวงตามันเริ่มเชื่อมหวาน ปากนั้นดูยั่วยวนจนผมต้องก้มลงไปทักทาย สองมือผมยังทำงานประสานกัน ข้างหนึ่งบดคลึงหัวนม อีกข้างลูบไล้อยู่แถว ๆ ต้นขาลามมาถึงสะโพกกลมกลึง มือมันที่ยึดมือผมไว้เปลี่ยนเป็นคลึงเบา ๆ ก่อนเลื่อนขึ้นมาจับต้นแขนผมไว้
ผมละปากมัน เลื่อนต่ำลงไปที่ลำคอ ทั้งที่รูปร่างมันก็เป็นผู้ชาย แต่ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่ามันหอมหวานน่าลิ้มรสขนาดนี้ ใบหน้าของคนด้านล่างแหงนนิด ๆ ตอบรับ ลมหายใจของเราสองคนเริ่มผสานเป็นเสียงเดียวกัน ผมเลิกชายเสื้อมันขึ้นสูงจนโชว์หัวนม ก้มลงไปงับทันที
บางส่วนของมันตื่นตัวขึ้นมาชนผมแล้ว ผมว่าฝนเป็นผู้ชายที่ตื่นง่ายระดับหนึ่งเหมือนกัน ปากมันครางสะท้าน เลื่อนสองมือขึ้นมาบดคลึงหัวผมอย่างเคยชิน ขยับเรือนร่างให้รู้ว่ากำลังทรมานผสมสุขสมขนาดไหน หลังจากดอมดมมันจนสาแก่ใจผมถึงได้เคลื่อนปลายนิ้วลงไปด้านล่างเพื่อเบิกทาง มันรัดนิ้วผมแน่น จนผมแทบจะขาดใจแทนมัน คาดเดาได้ไม่ยากเลยว่าถ้าเปลี่ยนจากนิ้วเป็นของผมมันจะบีบรัดรุนแรงขนาดไหน
ผมไม่รอให้เป็นเพียงความคิด ถอนนิ้วออก ดึงความพร้อมออกมาภายนอก ยกขามันพาดบ่า จับร่างของมันเชื่อมประสานเป็นหนึ่งเดียวกับผมทันที
ฝนรัดผมแน่นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด ภายในร้อนผ่าว ผมครางในลำคออย่างพอใจ จ้องประสานดวงตามันที่มองมา ดวงตามันฉ่ำเยิ้มยิ่งกว่าเดิม กลีบปากได้รูปเผยอคล้ายจะเรียกร้องให้ผมจูบ
ให้ตาย เด็กนี่มันยั่วได้ใจจริง ๆ ผมจับมันพลิกขึ้นมานั่งพร้อมกันบนตัก ตัวผมนั่งพิงพนักโซฟาไว้ ยอดอกมันถูกบังมิดด้วยเสื้อยืดที่ตกลงมา แต่มันก็ดูเร้าใจให้ผมคาดเดาเอาว่ามันอยู่ตรงไหน ผมก้มงับหน้าอกมันผ่านเสื้อ ใช้ลิ้นควานหาเหมือนนักล่าหาเหยื่อ ฝนแอ่นอกเข้าหาผมอย่างเคยชิน สองมือแทรกผสานไว้กับเส้นผมผม นวดคลึงให้รู้สึกผ่อนคลาย
ผมไม่ได้รีบร้อนที่จะกินมัน เคลื่อนไหวด้วยความอ่อนโยนแบบที่มันชื่นชอบ มันโอบสองแขนรอบลำคอผมไว้ ในขณะที่ผมเลื่อนมือจากสะโพกมาโอบกอดมันไว้เหมือนกัน รัดแน่นราวกับจะหลอมละลายสองร่างเอาไว้ด้วยกัน
“อืม...พี่หมอ” น้ำเสียงหวาน ๆ นั้นครางเรียกแต่ชื่อผม ร่างกายมันกลืนกินแค่ผม
สิ่งนี้เท่านั้นแหละ ที่ผมต้องการ
ผมนอนอยู่บนโซฟาที่เดิม โดยมีร่างไร้เรี่ยวแรงของน้ำฝนก่ายเกยอยู่ด้านบน หลับไปแล้วล่ะครับ หลังจากผมบรรเลงมันไปสามยก คนตัวเล็กหลับสนิทเหมือนเด็กน้อยนอนอยู่บนอ้อมกอดของแม่ ผมอุ้มมันแผ่วเบาเดินไปที่เตียง วางมันลง คลี่ดึงผ้าห่มมาห่ม สอดกายเข้าไปนอนเคียงข้าง โอบกอดมันไว้
ผมก้มจูบหน้าผากมันเบา ๆ ทีแล้วหลับใหลไป
To be Con
พี่หมอนี่บังคับน้องตลอดเลย >//< ดีนะที่น้ำฝนเราสายมาโซ -,. -
หายหัวไปนานเพราะเดินทางไปลำปางมา หวัดกินด้วย
#ลำปางหนาวมาก #จริง ๆ