ทาสแค้น {พี่หมอ-น้ำฝน} [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ทาสแค้น {พี่หมอ-น้ำฝน} [END]  (อ่าน 1134789 ครั้ง)

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ทำไมเราต้องตื่นมาเพื่อร้องไห้แต่เช้าด้วย  ฮืออออออออออสงสารฝน อีพี่หมอต้องรักฝนมากๆนะรักมากกว่าเดิมอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก  ใจจะสลาย

ออฟไลน์ booboos

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
สงสารน้ำฝนนะ  และเป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยจ้า 
รอติดตามตอนต่อไปจ้า   

ออฟไลน์ i_Tipz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :m15:  :m15:  :m15: จับมันเข้าไปอยู่ในกรงซะ

ออฟไลน์ sasi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตามอ่านจนทัน ณ วินาทีแรกที่อ่านถึงตอนฝนโดนลักพาตัว ไม่คิดว่าผู้แต่งจะใจร้ายให้น้ำฝนโดนข่มขืนด้วย ตอนนั้นคือแบบ เฮ๊ย จริงเหรอ เอาแบบนี้จริงๆ เหรอ เชื่อไม๊ว่าทำเอาเราเครียดไปเป็นวันสองวัน จนตอนนี้เริ่มโอเคแล้ว ถึงได้กลับมาคอมเม้นท์

จริงๆก็เข้าใจนะ ว่าชีวิตคนเราแต่ละคน มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบทุกคนไป เอาเถอะ มาขนาดนี้แล้ว จะรื้อเขียนใหม่ก็ใช่ที่ แต่จะรอดูว่าจะกลับมายังไง เพราะจากที่อ่านมา โดยนิสัยฝนแล้ว คงรับไม่ได้อย่างแรง และรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกะพี่หมออีกต่อไปแล้ว ถึงแม้พี่หมอจะไม่รังเกียจก็ตาม จะรอดูว่า ผู้แต่ง จะทำยังไงให้เรื่องมันกลับมามีความสุขได้ เพราะถ้าเป็นเราเอง ก็คงไม่สามารถจะบอกได้ว่าจะกลับมามีความสุขในชีวิตได้อีกแล้วอย่างแน่นอน มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ถ้าเป็นคนโสดที่โดนข่มขืน มันจะมีความรู้สึกแบบนึง หวาดกลัว นั่นนี่นู่น แต่ถ้าเป็นคนที่มีแฟน (สามี) แล้ว และเป็นคนที่คิดแบบฝน เอาจริงๆ นี่มองไม่ออกเลยว่ามันจะกลับมาดีไดยังไง ถ้าเราเป็นฝน ณ ตอนที่โดนข่มขืนแรกๆ เราคิดว่าเราคงฆ่าตัวตายไปแล้วอย่างแน่นอน เพราะความรู้สึกคือ เราไม่มีหน้ากลับไปพบสามีเราได้แน่ๆ ต่อให้เค้าให้อภัยเรา แต่ตัวเราเองนี่แหละที่รังเกียจตัวเอง และรู้สึกขยะแขยงตัวเองมากจนทนไม่ไหวแล้ว

แต่เอาเถอะ เราเข้าใจคนแต่งนะ ว่าวางเรื่องมาแล้ว ไม่อยากให้มาเขวเพราะคำติของผู้อ่าน ยังไงก็สู้ๆ นะคับ เรารอติดตามตอไป ถึงแ้มันจะสะเทือนใจ สะเทือนอารมณ์เราแค่ไหนก็ตาม

ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้ให้เราอ่าน ^ ^

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
อ่านแล้วจิตตก  หดหู่แต่เราชอบมากๆ
ให้อารมณ์แบบหนังฮ่องกงดี ที่นางเอกโดนตัวร้ายข่มขืน แล้วพระเอกเข้ามาช่วยไม่ทัน
ไม่ใช่แบบละครไทยที่ยังไงพระเอกก็มาช่วยทัน
ขออนุญาตละลาบละล้วงหน่อยน่ะคะ ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร
ที่คนเขียนบอกว่าเจอหนักกว่าน้ำฝน คือถูกล่วงละเมิดทางเพศหรอค่ะ???

ออฟไลน์ Jupaeindy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากรู้ตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
เราว่า หลัง ๆ มันวนลูป มาที่เดิมอ่ะ คือ ฝนถูกทำร้ายซ้ำ ๆ

เราไม่ได้โลกสวยนะเพราะถ้าเอาจิง ๆ สังคมปัจจุบันมันก้อเงี้ย

 ไหน ๆ แบดมาขนาดนี้ล่ะ ตอนจบเอาแบบฝนเป็นบ้าเลยดิพีคดี เหอ ๆ

อย่าโกรธ เรานะ ยังไงก้ออ่านต่อ ส่วนตอนนี้ข้าม ๆ มันไปล่ะกัน =_=

ปูลู เราว่าตอนฝนหายไป กะ ล่องลอย ดูรวบรัดไปมันเลยดูขาด ๆ อ้ะอ่านล่ะตะหงิด ๆ

ออฟไลน์ Newtun_td

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ดีนหลงรักฝนหรือปล่าวนะ!!เสียใจ น้องฝนสู้ๆ :sad4:
รักคนเขียนด้วยยยยย :katai2-1:  :katai3:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
บทพิสูจน์รักที่ใหญ่หลวง ผ่านมันไปให้ได้นะพี่หมอและน้ำฝน

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
เราว่า หลัง ๆ มันวนลูป มาที่เดิมอ่ะ คือ ฝนถูกทำร้ายซ้ำ ๆ

เราไม่ได้โลกสวยนะเพราะถ้าเอาจิง ๆ สังคมปัจจุบันมันก้อเงี้ย

 ไหน ๆ แบดมาขนาดนี้ล่ะ ตอนจบเอาแบบฝนเป็นบ้าเลยดิพีคดี เหอ ๆ

อย่าโกรธ เรานะ ยังไงก้ออ่านต่อ ส่วนตอนนี้ข้าม ๆ มันไปล่ะกัน =_=

ปูลู เราว่าตอนฝนหายไป กะ ล่องลอย ดูรวบรัดไปมันเลยดูขาด ๆ อ้ะอ่านล่ะตะหงิด ๆ
ตอนจบเป็นบ้าไปเลยก็ดีน่ะ รับรองเรื่องนี้คงดังไปเลย
เพราะตราตรึงคนอ่านไปอีกนาน. จบหักมุมทำร้ายจิตใจแบบนี้
เราแล้วแต่คนเขียนอยู่แล้วจะจบแย่ยังไงก็ได้เราไม่ซีเรียส
เราชอบแบบดาร์กๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
ถ้าไอ้ดีนไม่เป็นบ้าเพราะการกระทำครั้งนี้ ก็ขอให้มันตายทั้งเป็นเพราะไม่หลงเหลือใครเคียงข้างมัน

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
น้ำฝนของแม่ :sad4: รอวันฟ้าสดใส

ออฟไลน์ automaton

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
รอลุ้นว่าฝน พี่หมอ ไผ่ พ่อแม่ พี่ฟ้าและเพื่อน ๆ จะมีมุมมองกับเรื่องนี้อย่างไร
ที่สำคัญอิพี่ดีนจะทำอย่างไงต่อไป ยังอาจารย์หมอและแม่ของดีนด้วย
เราว่าจะมีข้อคิดดี ๆ ในตอนต่อไปแน่ และก็ชอบและเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคนแต่งตอนท้ายด้วย
รอและเป็นกำลังให้คนแต่งต่อไป จะออกมาแบบไหนก็อ่าน หลากหลายมุมมองดี
 :pig4:

ออฟไลน์ Naeon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
แค่อย่าให้ไอ้ดีนเป็นพระเอกอีกคนพอ ถ้าเป็นก้อเลวเกินไปแล้ว

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
พายุลูกนี้ทิ้งอะไรไว้มากมาย ทุกครั้งที่มองฟ้า ยังไงก็มีเศษซากจากพายุอยู่ในสายตาอยู่ดี คงยากที่มันจะสดใส



เป็นนิยายที่เศร้ามาก

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
แต่งตามที่ผู้แต่งคิดไว้แต่แรกเลยค่ะ เราไม่มีปัญหา ขอแค่แฮปปี้เอนดิ้งพอ 55

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รีบฟื้นขึ้นมานะฝน...

ออฟไลน์ cakecoco-boom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
คนเขียนสู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีดีนแมร่งเลวมาก  :fire: :fire: :fire:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
เห็นด้วยกับไรท์นะชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ในชีวิตของคนอาจจะต้องผ่านเหตุการณ์ทั้งดีและร้าย
กว่าจะมาถึงวันนี้ได้
เราต้องเลือกว่าจะทำยังไงกับปัจจุบัน
จะเลือกที่จะทิ้งอดีตหรือเจ็บตลอดชีวิต
ชีวิตคนเหมือนเส้นกราฟมีขึ้นมีลง
อยู่ที่ใครจะยอมรับความจริงได้
นิยายเรื่องนี้เป็น real จริงๆ
ขอบคุณที่แต่งนิยายให้อ่าน
ชีวิตจริงกับนิยายแตกต่างกันมาก
ตอนอ่านคอมเม้นตอนแรกกลัวที่จะอ่านเลย
แต่ก็ตัดสิ้นใจอ่าน
พออ่านจบเข้าใจคนเขียนเลย
รอวันฟ้าหลังฝนของน้ำฝนนะ
เป็นกำลังให้ไรท์ น้ำฝน หมอนะ
 :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ jajomjun

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พูดไม่ออก..น้ำฝน :hao5:

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
84 : ฝันที่เป็นจริง (น้ำฝน)



ผมฝันอีกแล้ว ฝันว่าพี่หมอมาหา มาช่วยผมจากน้ำมือของพี่ดีน แต่มันคงเป็นแค่ความฝัน เพราะหลังจากนั้นไม่นาน พี่หมอก็จะจางหายไป เหลือไว้แค่ผมให้อยู่ในห้องคนเดียว รอคอยเวลาให้พี่ดีนมาเสพสมร่างกายนี้
 
ผมปรือเปลือกตามอง ภาพตรงหน้าคือแผงอกกว้างของใครบางคนที่โอบกอดผมไว้แน่น ตอนแรกผมเข้าใจว่าเป็นพี่ดีน
 
แต่พี่ดีนไม่ได้ใช้น้ำหอมกลิ่นนี้
 
พี่ดีนไม่ได้ผิวขาวแบบนี้
 
และพี่ดีนไม่ได้ใส่เสื้อเชิ้ตสไตล์นี้
 
หัวใจผมเต้นระทึก
 
หรือว่าผมมองเห็นภาพพี่หมอในจินตนาการอีกแล้ว ผมค่อยๆ เงยหน้ามอง พี่หมอนอนหลับอยู่ตรงหน้า ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ แม้จะหลับสนิท แต่สองมือตระกองกอดผมไว้แน่น ลมหายใจที่พ่นมาถูกหน้าผาก
 มันเหมือนจริงมากกว่าความฝัน ผมค่อยๆ เลื่อนมือที่กำลังสั่นเทาขึ้นสัมผัสผิวแก้มของคนตรงหน้า ถ้าเป็นความฝันจริง ภาพนี้จะต้องเลือนหายไป
 
ทันทีที่มือผมสัมผัสผิวแก้มพี่หมอ พี่หมอไม่ได้มลายหายไป ผมจับเต็มมือมากขึ้น
 
“พี่หมอ”
พี่หมอจริงๆ ด้วย น้ำตาผมร่วงลงมาอาบแก้ม เจ้าของดวงหน้าที่กำลังหลับสนิทค่อยๆ ปรือเปิดตาขึ้นมอง
 
“น้ำฝน”
 
“พี่หมอ พี่หมอจริงๆ ใช่ไหม”
 
พี่หมอรีบเด้งตัวลุก ดึงผมเข้าไปกอดแน่น ผมกอดตอบ สะอื้นฮักหนักหน่วงกว่าเดิม
 
“ฉันอยู่ตรงนี้ พี่อยู่ตรงนี้แล้วน้ำฝน”
 
“พี่หมอ พี่หมอ พี่หมอ”
ไม่มีคำไหนออกจากปากผมได้อีกยกเว้นชื่อที่ผมพร่ำเรียกมาตลอด ตอนนี้พี่หมอมาอยู่ตรงหน้าผมแล้ว
 
พี่หมอปล่อยให้ผมร้องไห้จนเหนื่อยอ่อน จูบซับปลอบประโลม กระทั่งผมมั่นใจว่าผมไม่ได้ฝันไปถึงได้คลายปล่อย
 
ผมเริ่มกวาดมองไปรอบๆ ที่นี่น่าจะเป็นโรงแรมสักแห่ง
 
“ที่นี่ที่ไหน แล้วผม…”
ผมหยุดคำไป กัดปากแน่น รู้สึกรังเกียจร่างกายตัวเองขึ้นมาตงิดๆ พี่หมอจูบปากผมเบาๆ ลูบหัวผมไปมา
 
“พวกเราตามไปเอาตัวนายออกมาจากเกาะ”
 
“พี่ดีน”
ผมถามได้แค่นั้น เพราะไม่รู้จะพูดอะไรได้อีก สิ่งที่พี่ดีนทำมันเลวร้ายจนเกินไป ผมรู้ว่าพี่ดีนรักผม ไม่รู้ว่ารักเพราะรักจริงๆ หรือเป็นความรักที่อยากเอาชนะพี่หมอกันแน่
 
พี่หมอกอดผมแน่นขึ้น
 
“ดีนจะถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมาย”
 
ผมซุกหน้ากับหน้าอกพี่หมอ อยากมุดเข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจดวงนี้จริงๆ
 
“พี่หมอมาช่วยผมช้า” ผมตัดพ้อ น้ำตาพากันร่วงหล่นอีกรอบ พี่หมอกอดผมแน่นขึ้น โยกเบาๆ คล้ายจะปลอบใจ “เพราะพี่หมอมาช้า ผมถึงถูกพี่ดีน…”

พี่หมอรีบก้มปิดปากผมไว้ด้วยปากตัวเอง บดแน่นคล้ายกับจะห้ามไม่ให้ผมพูดอะไรอีก
 
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นฝน ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ไม่ว่านายจะเจอมาแบบไหน ให้ลืมมันซะ ลืมมันให้หมด”
 
ผมสะอื้น
 
“ผมแปดเปื้อนแล้ว”
 
“ไม่ นายยังใสสะอาดสำหรับฉันเสมอ”
พี่หมอลูบหัวผมราวกับจะย้ำว่าสิ่งที่พี่หมอพูดนั้นคือความจริง พี่หมอก้มจูบผมอีกรอบ แทรกลิ้นเข้ามา มันไม่ใช่รสจูบแห่งความใคร่ แต่เป็นรสจูบที่เต็มไปด้วยการปลุกปลอบ ความรัก ความห่วงใย ผมจูบตอบในลักษณะเดียวกัน
 
เราค่อยๆ ถอนปากออกจากกัน
 
“หิวรึยัง” พี่หมอถาม ผมส่ายหน้าไปมา “ไผ่มันคงเป็นห่วงแย่แล้ว นนท์ ต้าร์หินก็ตามมาด้วย”
 
ผมพยักหน้าเข้าใจ พี่หมอประคองผมไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน แต่งตัวออกมาด้วยชุดเดิม กดมือถือโทรบอกพี่หมอนนท์ว่าผมฟื้นแล้ว ไม่เกินสามสิบวินาทีประตูห้องก็ถูกเคาะแรง พี่หมอรีบเดินไปเปิด ไผ่มันถลาราวกับพายุผ่านพี่หมอมากอดผมแน่น ผมกอดตอบ กอดแน่นอย่างโหยหา
 
“กูขอโทษ” มันกระซิบบอก เสียงมันเครืออย่างฟังได้ชัด “ทั้งที่กูสัญญาว่าจะปกป้องดูแลมึง แต่กู…” แล้วมันก็เงียบไป เพราะขืนพูดอีก น้ำตามันคงร่วงแน่ๆ
 
“กูไม่เป็นไร”
ผมปลอบมันเหมือนอย่างทุกครั้งที่ผมเคยทำ ไผ่มันสะอื้น รู้สึกชื้นไปทั่วทั้งหัวไหล่ แต่ผมก็ไม่คิดจะปล่อยมันเพื่อมาปลอบใดๆ ทั้งสิ้น และรู้ว่ามันเองก็คงต้องการเวลานี้เพื่อทำใจในเรื่องของผมเหมือนกัน
 
ผมกับมันกอดกันแน่น กระทั่งมันหยุดร้องไห้ มันดึงตัวขึ้นมามอง ตามันแดงก่ำ กรามคมบดแน่น
 
“มึงปลอดภัยแล้วนะ”
มันปลุกปลอบ ผมพยักหน้ารับ มันลูบหัวผมแผ่วเบา แล้วพี่หมอนนท์ก็เข้ามาลูบหัวปลอบใจบ้าง ผมยิ้มผ่านดวงตาให้คนตัวสูง
 
หินกับพี่ต้าร์นอนห้องเดียวกัน พอพี่หมอแจ้งข่าวไปก็รีบมาหาไม่ต่าง หินกอดผมแน่นไม่ต่างกับพี่ต้าร์ ผมดีใจที่พวกเขาเป็นห่วงผมกันขนาดนี้ ไผ่มันโทรแจ้งบอกทุกคนเรียบร้อยแล้วว่าผมปลอดภัย รอแค่ให้ผมฟื้นแล้วจะโทรแจ้งอีกที มันบอกแม่นี่ปล่อยโฮใส่มือถือเลย
 
สายตาที่ทุกคนมองมา เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจเป็นห่วงระคนสงสาร ผมอยากทำร่าเริงแบบที่เคยทำ แต่สภาพจิตใจผมตอนนี้ร่าเริงไม่ออกจริงๆ
 
พี่หมอแทบจะไม่ห่างจากตัวผม โอบกอดผมไว้ ไม่สนด้วยซ้ำว่าใครจะมองหรือไม่มอง ในขณะที่ผมก็มีสภาพไม่ต่าง ยอมให้พี่หมอโอบกอด ยอมให้พี่หมอดูแล ยอมให้พี่หมอเทคแคร์ประหนึ่งทารกน้อยเพิ่งหัดตั้งไข่
 
ตอนแรกพี่หมอจะพาผมกลับกรุงเทพให้ได้ภายในวันนี้ แต่ก็ไม่อยากให้ผมโหมมาก อยากให้พักผ่อนปรับสภาพจิตใจเพื่อไปพบเจอกับครอบครัว และอาจต้องไปโรงพักเพื่อดำเนินคดีกับพี่ดีน
 
หลังมื้อเช้า สติผมเริ่มกลับคืนมา ผมก็เริ่มโทรไปหาคนที่เป็นห่วงผมแทบทุกคน แม่ปล่อยโฮเสียงดัง แทบจะไม่ยอมวางสาย บอกให้ผมรีบกลับบ้าน พ่อเห็นด้วยกับพี่หมออยากให้ผมปรับสภาพจิตใจให้ดีเสียก่อน ในขณะที่เพื่อนๆ ก็ต่างให้กำลังใจ เพื่อนผมไม่มีอะไรต้องพูดมาก เพราะหินมันรายงานตลอด มาจบที่พ่อกับแม่พี่หมอ ซึ่งไผ่มันก็โทรรายงานตลอดเช่นกัน
 
“ไหวไหมลูก ให้พ่อไปรับไหม”
คุณพ่อพี่หมออาสา ผมตอบปฏิเสธไปเพราะไงก็มีทั้งพี่หมอและพี่หมอนนท์อยู่แล้ว พอวางสายจากทุกคน ผมก็ง่วง ชีวิตตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ผมจะหลับเสียเกือบทั้งวัน ตอนนี้ร่างกายมันยังชินอยู่
 
พี่หมอพาผมกลับเข้าห้องหลังจากไปนั่งผ่อนคลายที่ชั้นลอยเพื่อโทรหาทุกคน ตอนแรกพี่หมอจะให้ทิ้งตัวลงนอนธรรมดา แต่ผมอยากใกล้ชิดพี่หมอ
 
“ผมขอนอนบนตักพี่ได้ไหม”
ผมร้องขออ้อนๆ เชื่อเถอะ ก่อนหน้านี้ผมไม่มีทางร้องขอแบบนี้กับพี่หมอเด็ดขาด พี่หมอไม่ว่าอะไร ดึงหมอนมารองหลัง นั่งเหยียดขายาวแบบที่เคยทำ ผมขึ้นไปทิ้งตัวลงนั่งบนตัก ซบหน้ากับแผ่นอก ฟังเสียงหัวใจที่กำลังเต้นของพี่หมอ ผมทาบมือไว้เคียงกับหู อยากฟังให้มันชัดขึ้น
 
“พี่หมอ”
ผมครางเรียกอย่างเผลอไผล พี่หมอก้มมอง ไม่พูดอะไร โอบกอดผมไว้ จูบซับหน้าผาก
“ผมรักพี่หมอนะ”
ผมสารภาพตรงๆ
“รักมาก” ผมเผลอปลดปล่อยน้ำตาออกมาอีกรอบ
 
เหตุการณ์ครั้งนี้สอนให้ผมรู้ว่า ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่ ผมควรทำสิ่งที่ตรงกับหัวใจให้มากที่สุด 
 
“ฉันก็รักนาย…พี่ก็รักนาย”
 
ผมเงยหน้ามองตาคนตัวสูง พี่หมอมองตากลับ สรรพนามที่พี่หมอใช้แทนตัวเอง เป็นเหมือนเครื่องยืนยันว่าพี่หมอจะอ่อนโยนกับผมมากขึ้น
 
“ผมชอบให้พี่หมอแทนตัวเองแบบนี้นะ”
 
พี่หมอไม่พูดอะไร จูบขมับผมเบาๆ โอบกอดผมแน่นให้รู้ว่าพี่แกพร้อมที่จะดูแลและปกป้องผมเสมอ
 
“ผมง่วงแล้ว”
 
“หลับสิ รับรองว่าตื่นขึ้นมา นายจะยังอยู่ในอ้อมแขนพี่เหมือนเดิม”
พี่หมอบอกเสียงนุ่ม ผมค่อยๆ ปิดเปลือกตาลง ปล่อยให้สติด่ำดิ่งลงสู่ความมืด

[40%]








ผมตื่นอีกทีหลังจากนั้นสองชั่วโมงจากการปลุกของพี่หมอ ผมเงยหน้ามองเก้าอี้มีชีวิตที่ยังคงตระกองกอดผมอยู่ท่าเดิม พี่หมอเก๊กหน้าหล่อ ก่อนเบ้หน้านิดๆ ตอนขยับขา
 
“ตะคริวกิน”
 
ผมหลุดหัวเราะออกมา
 
โธ่ นึกว่าจะแน่
 
“ตอนนั้นไม่เห็นกิน ทำไมตอนนี้กิน” ผมท้วงบ้าง
 
“ตอนนั้นพี่หลับตลอดไม่รู้สึกตัว แต่วันนี้ตื่นตลอด”
 
“แล้วทำไมไม่หลับ ผมคิดว่าพี่จะหลับด้วยซะอีก”
ผมถามอย่างฉงน
 
“ไม่ใช่เวลานอนพี่”
ผมพยักหน้าเข้าใจ งั้นจะตะคริวกินก็ไม่แปลก เพราะเล่นนั่งอยู่ท่าเดิมตลอด พี่หมอเบ้หน้าหนักขึ้น ผมรีบขยับลุกไปช่วยบีบๆ นวดๆ ขาคนสูงวัยกว่าทันที
 
“เมียพี่ตัวหนัก”
 
ผมอมลม
 
“กินข้าวแค่วันละมื้อ จะไปหนักได้ไง”
 
พี่หมอชะงัก มองตาผม
 
“ดีนมันไม่ยอมให้กินข้าวเหรอ”
 
ผมส่ายหัวไปมา
 
“ผมไม่หิว กินไม่ลง ผมเคยไม่กินอาหารติดต่อกันเป็นวันด้วยซ้ำ หวังให้ตายไปให้พ้นๆ แต่พี่ดีนก็หลอกล่อให้ผมกินข้าวจนได้”
 
พี่หมอกำหมัดแน่น รั้งเอาผมไปกอดอีก
 
“กลับไปพี่จะขุนเยอะๆ”
 
“คนไม่ใช่วัว”
ผมชกอกพี่มันไปที พี่หมอหัวเราะหึๆ
 
เสียงมือถือพี่หมอดังขึ้น เขาหยิบมากดรับแนบหู ตอบรับอือๆ แล้วกดวางสาย ผมยังไม่ได้เคลื่อนหนีไปจากอ้อมแขนใหญ่อันอบอุ่นนั้น
 
“หินให้ลองถามดู ถ้าไหวจะชวนไปเดินเล่นที่ตลาดในเมือง ไหนๆ ก็พักแล้ว”
ใจจริงผมไม่อยากไปไหนเลย อยากอยู่ตรงนี้ อยู่ในอ้อมแขนพี่หมอ พี่หมอจับมือผมไว้
 
“พี่สัญญาว่าวันนี้จะไม่ยอมปล่อยมือจากฝนเด็ดขาด”
ราวกับพี่หมอจะอ่านใจผมได้ ผมจ้องมองดวงตาแฝงไปด้วยความห่วงใยนั้น ยิ้มให้นิดหนึ่ง พยักหน้ารับ
 
เราเดินออกจากห้อง เห็นทุกคนออกมายืนกันตรงทางเดินแล้ว ทุกคนหันมามอง
 
“ไหวไหมมึง หรือจะอยู่ที่ห้อง พวกกูจะไปเดินเล่น”
หินมันถามมาก่อนด้วยความเป็นห่วง
 
“ถ้าไม่ไหว กูจะขี่คอไผ่”
 
“อ้าว” ไผ่มันร้องอ้าว “ผัวมึงก็มี ขี่ผัวมึงดิ” มันตอกกลับทำเอาผมหน้าร้อนผ่าว
 
“มึงก็ไปว่ามันไผ่ มันไม่ถนัดขี่คอหรอก ถนัดแต่ขี่อย่างอื่น”
หินมันรับมุก ผมรีบวิ่งไปถีบไอ้หินทันที มันหัวเราะร่วน รีบวิ่งหนีอุ้งตีนผม ไม่รู้ว่าพวกมันจงใจพูดจาให้ผมหัวเราะ หรือว่าเป็นเพราะสันดานเลวๆ กันแน่
 
ผมเดินกลับมาจับมือพี่หมออีกครั้ง พากันเดินจากทางเดินลงลิฟท์ กระทั่งมาถึงที่จอดรถ ตลอดทางพี่หมอไม่เคยปล่อยมือผมอย่างที่พูดไว้เลย
 
รถสองคัน ขับตรงไปยังตลาดในเมือง อากาศช่วงเที่ยงนั้นร้อนระอุ ผมเหงื่อซึม พี่หมอหันมาเช็ดให้เบามือ ผมยิ้มให้ไปที พี่หมอมองหน้าผมนิ่งๆ คล้ายจะอึ้ง ก่อนส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ ลูบหัวผมเบาๆ
 
เรื่องกินสำคัญที่สุด พวกเราเลือกร้านที่มีแอร์เย็นฉ่ำ พี่หมอนั่งก่อน ดึงผมไปนั่งบนตัก ผมไม่ค้านสักคำ สั่งอาหารมากมายมาเต็มโต๊ะ หลายคนพากันมองมาแล้วพูดจาซุบซิบ แต่ผมเลือกที่จะไม่สนใจ ผมไม่รู้ว่าอีกชั่วโมงต่อจากนี้ หรือพรุ่งนี้ ผมจะโดนใครลักพาตัวไปทำอะไรบ้าง วันนี้ผมขออยู่และทำสิ่งนี้กับพี่หมอให้มากที่สุด อย่างน้อยสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ผมต้องการมาตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
 
“เอานี่เพิ่มอีกไหม ฝนชอบนี่”
พี่หมอชี้ให้ผมดูยำไข่ดาวหน้าตาน่าทาน ตอนนี้มีพนักงานสาวคนหนึ่งยืนจดอยู่ ผมส่ายหน้า
 
“เยอะแล้วนะ”
 
“กินเยอะๆ จะได้ตัวอ้วนๆ หน่อย”
 
“อยากให้กลิ้งทับรึไง วันนี้แค่สองชั่วโมงก็ตะคริวกินแล้วนี่”
 
“นั่นเพราะพี่ตื่นอยู่ตลอดหรอก เอานี่เพิ่มด้วย”
แล้วพี่หมอก็หันไปสั่งพนักงานหญิงคนนั้น เธอแก้มแดงปลั่งก้มจดยิกๆ
 
“พี่ต้าร์ เคยกินอะไรแปลกๆ บ้างรึเปล่า”
หินมันหันไปถาม พี่ต้าร์ที่กำลังกวาดไล่ดูเมนูเล่นเงยหน้ามอง
 
“เคยสิ”
 
“เช่น?”
 
“ลาบ ก้อย น้ำตก” นั่นมันแปลกตรงไหนวะ = =
 
หินทำหน้าหน่าย
 
“เอาที่มันแปลกๆ กว่านี้หน่อย อย่างพวกตั๊กแตนทอด”
 
พี่ต้าร์ตาโต ก่อนหัวเราะ
 
“เคยสิ เพื่อนๆ ชอบลากพาไปเดินเล่นถนนข้าวสารบ่อยๆ ที่นั่นเยอะ”
 
“ทำอะไรผิดลุคนะพี่”
 
พี่ต้าร์ยิ้มเขิน ท่าทางพี่แกดูเป็นคุณชาย เป็นลูกผู้ดีมีตังค์ แต่ตัวจริงติดดินน่าดู
 
“เราลองมาแข่งกินเร็วกันไหมล่ะ รับรองได้ว่าหินแพ้พี่ราบคาบ”
 
หินมันเลิกคิ้วสูง
 
“อย่าท้ามันดีกว่าพี่ต้าร์ ในกลุ่มหินถือว่ามีหลุมอากาศรองๆ จากตันเลยนะ”
ผมเตือน พี่ต้าร์หันมายิ้ม
 
“ลองดูไหม”
พี่ต้าร์ยักคิ้วท้า หินรับคำแบบไม่ให้เสียเวลา แล้วสองคนนั้นก็หันไปสั่งข้าวผัดมาเพิ่มคนละ 3 จาน ไม่ได้เอาเยอะกว่านี้เพราะต้องไปเดินกันต่อ เดี๋ยวจุก แต่จะแข่งกินเร็วกันแทน
 
“สั่งได้รึยังครับคุณไผ่ น้องเขาจะกลายเป็นหินแล้ว”
 
“เสือก มึงก็สั่งดิ สั่งเผื่อกูด้วย”
 
ผมเลิกคิ้วใส่ไผ่กับพี่หมอนนท์ มึงคิดได้ไงวะ ด่าแล้วยังให้เขาสั่งข้าวให้มึงอีก พี่หมอนนท์ร่ายรายการอาหารที่ไผ่มันชอบโดยไม่ต้องมองเมนู พอน้องพนักงานจากไปเราก็กลับมาพูดคุยกันต่อ ไม่มีใครพูดพาดพิงไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับผม แต่ต่างพากันเล่าให้ฟังถึงเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะหินที่มีเรื่องเม้าท์ในโรงเรียนเยอะ
 
“หมาฝนหายไปคนเดียว งานกลุ่มแทบล่ม”
 
“ไผ่ก็อยู่”
 
“มันเป็นไข้ใจ ไม่ยอมช่วยอะไรสักอย่าง ไม่เห็นว่าเป็นเพื่อนกัน กูบอกได้คำเดียว ถีบออกจากงานกลุ่มไปแล้ว”
 
ผมหัวเราะหึๆ เพิ่งรู้ว่าพี่ต้าร์ไปช่วยงานที่ร้านผมทุกวัน ส่วนหนึ่งก็ไปรอข่าวคราวจากผม พี่ต้าร์น่ะไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่มาช่วย แต่หินนี่สิ เสือกตามมาช่วยด้วย โดยให้เหตุผมว่ารอข่าวผมเหมือนกัน คนขี้เกียจอย่างมันช่วยงานผมได้ทุกวันนี่ก็เก่งแล้วนะ
 
ส่วนไผ่ ใช้เวลาส่วนใหญ่ตามหาผม โดยลากพี่หมอนนท์ไปด้วย เพราะมีความรู้ความสามารถและเส้นสายทางนี้มากกว่า
 
ผมนั่งฟังทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานทั้งที่ผมยังนั่งอยู่บนตักพี่หมอ
 
“หนักไหม”
ผมถามคนตัวสูง พี่หมอยิ้ม กระชับกอดผมแน่นแทนคำตอบ
 
ไม่นานอาหารก็พากันลำเลียงมาบนโต๊ะ แน่นอนพี่ต้าร์กับหินรีบแข่งกินเร็วกันทันที ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ เห็นดูคุณชายผู้เรียบร้อย พอสัญญาณเริ่ม หินยังตามไม่ทัน เผลอแผลบเดียวเกลี้ยงสามจาน หินมันอ้าปากค้าง เพราะมันเพิ่งเริ่มกินจานที่สามเอง
 
พี่ต้าร์ยิ้มในชัยชนะตัวเอง ยักคิ้วที ถึงจะช้า แต่หินก็กินครบทั้งสามจาน นั่งพุงยื่น พี่ต้าร์ยังนั่งชิลล์ๆ
 
“เอาไปไว้ตรงไหนหมดเนี่ย”
หินมันมองแถวๆ ท้องพี่ต้าร์แล้วถาม พี่ต้าร์หัวเราะ ดึงมือหินไปวางไว้บนหน้าท้องตัวเอง
 
“อยู่นี่ไง”
 
หินหน้าเหวอ หูแดงนิดๆ รีบชักมือกลับ
 
สงสัยวันนี้จะมีพี่หมอกับเพื่อนสนิทอยู่กันครบ ผมถึงได้รู้สึกว่าอาหารอร่อยกว่าทุกวัน ยำไข่ดาวที่พี่หมอสั่งมาให้ ผมแทบเลียจานกิน
 
ส่วนพี่หมอ
 
ไม่แดกเองครับ = =
 
พี่แกให้เหตุผลว่ากินไม่ถนัด ต้องอุ้มผม พอผมจะลงจากตักก็ไม่ยอม มือหนึ่งเราจับกันไว้แน่นไม่ปล่อย อีกมือโอบกอดผมไว้ ตอนนี้ผมเลยมีมือเดียวในการตักอาหารกินเองและตักป้อนพี่หมอ
 
“พอเหอะว่ะฝน มดกัดกูตัวจะพรุนแล้ว” ไผ่มันทัก “แต่ก่อนกูว่าพวกมึงเลี่ยนแล้ว กลับมาครั้งนี้เลี่ยนยิ่งกว่าเดิมอีก คนมองกันใหญ่ ตาร้อนเป็นไฟกันหมดแล้ว”
 
ผมหันไปมองหน้าไผ่ มือยังเขี่ยตักยำมาป้อนพี่หมอไม่หยุด
 
“อิจฉา” ผมเลิกคิ้วถาม
 
“ไม่ว่ะ แค่เลี่ยน”
 
“อิจฉาก็บอกมาเถอะ ฮ่าๆ หาผัวดิ”
ผมแซวมันกลับบ้าง
 
“รับหน้าชื่นเลยนะมึง”
 
ผมไม่พูดอะไร ตักเนื้อไก่ป้อนพี่หมอ
 
“พอแล้ว ขืนมากกว่านี้พี่คงเดินไม่ไหว นายกินบ้างสิ”
 
“ผมอิ่มแล้ว”
 
พี่หมอพยักหน้าไม่บังคับอะไร
 
“พี่คะๆ หนูขอโทษนะคะ แต่หนูขอถ่ายรูปพี่สองคนได้ไหมคะ”
มีน้องสองคนวิ่งมาขอถ่ายรูป ผมกับพี่หมอพากันมองงงๆ
 
“พี่เป็นแฟนกันใช่ไหมคะ”
 
ผมอ้ำอึ้ง พี่หมอก็ไม่พูดอะไร
 
“พวกพี่น่ารักจังเลย ขอถ่ายรูปหน่อยนะคะ รับรองว่าไม่เอาไปเผยแพร่ในทางที่เสียหาย พอดีหนูบอกเพื่อนๆ ไปว่าเจอพี่สองคนกำลังนั่งสวีทกันอยู่ น่ารักมากๆ พวกนั้นอยากเห็น นะคะๆ”
ไหนบอกไม่เผยแพร่ แต่ที่ขอถ่ายเนี่ย ขอไปเผยแพร่ไม่ใช่เหรอ
 
พี่หมอไม่พูดอะไร คล้ายกับจะยกหน้าที่การตัดสินใจทั้งหมดให้กับผม ผมหน้าร้อนผ่าว
 
“กะ ก็ได้..มั้ง”
ผมพูดไม่เต็มเสียง แค่นั้นแหละ น้องก็รัวถ่ายชนิดนับภาพกันไม่ทัน ก่อนพากันกรี๊ดๆ วิ่งจากไป ผมมองตามตาปริบๆ ก่อนหันกลับมามองหน้าทุกคนบนโต๊ะ แต่ละคนยักไหล่ หันกลับมาคุยกันต่อ
 
[ต่อค่ะ]


หลังจากมื้อเที่ยง พวกเราก็พากันไปเดินย่อย แน่นอนว่ามือผมยังคงสอดแทรกตรึงแน่นอยู่กับมือพี่หมอ แม้มันจะเปียกเหงื่อในบางครั้ง เกะกะคนอื่นในบางที แต่สิ่งนั้นไมได้เป็นอุปสรรคให้ผมกับพี่หมอต้องแยกจากกันเลย
 
“เสื้อกล้ามไหมครับ เสื้อกล้ามเท่ๆ”
ได้ยินคำว่าเสื้อกล้ามหูไผ่ก็ผึ่ง มันรีบถลาไปร้านนั้นทันที ร้านนี้เจ้าของออกแบบและตัดเย็บเอง งานฝีมือล้วนๆ ผมเดินเข้าไปเลือก หยิบมาได้ตัวหนึ่งยื่นให้ไผ่มัน
 
“ตัวนี้ไผ่ เหมาะกับมึงดี”
มันรับไปรวบไว้กับอันที่มันเลือกเองทันที
 
“ตัวอื่นเห็นเลือกตั้งนานสองนาน ทำไมอันที่ฝนเลือกให้ไม่คิดจะตรวจสอบดูก่อนว่าถูกใจจริงๆ ไหม”
พี่หมอนนท์ถามงงๆ
 
“อะไรที่ฝนเลือกให้ เหมาะกับกูเสมอ มันรู้ใจกูที่สุด”
 
“แต่คงไม่รู้ไปหมดทุกเรื่องหรอกมั้ง”
พี่หมอนนท์พูดแล้วมองตามัน
 
“ถ้ามึงไม่อยากกินตีนกูหยุดพูดไปเลย”
 
พี่หมอนนท์ยกยิ้ม
 
“ทำได้ก็ลองดู”
 
ไผ่มันจ้องตาคนท้า แล้วหันหลังให้อย่างไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงอะไรอีก
 
โถ่ไผ่ กูก็คิดว่ามึงจะแน่ = =
 
ผมหันไปมองพี่หมอบ้าง ตั้งแต่รู้จักกันมา ผมไม่เคยเห็นพี่หมอใส่เสื้อกล้ามเลย
 
“พี่มีเสื้อกล้ามบ้างไหม”
 
พี่หมอเลิกคิ้ว ส่ายหน้าไปมา ผมหันมองไปรอบๆ ก่อนสะดุดเข้ากับเสื้อตัวหนึ่ง เป็นเสื้อกล้ามที่ดูเรียบร้อย ดูเป็นผู้ใหญ่สไตล์เนี้ยบเรียบหรูแบบพี่หมอ ผมหยิบมาพลิกดูซ้ายขวาหน้าหลัง แล้วเอามาเทียบกับอกพี่หมอ พี่หมอมองงงๆ ผมยิ้มให้พี่แกที
 
“เวลาอยู่บ้านใส่แล้วสบายตัวดีนะ เอาไว้ใส่หน้าร้อนก็ได้”
 
พี่หมอมองหน้า ผมรู้ว่าเสื้อผ้าส่วนใหญ่ของพี่หมอจะแบรนด์ทั้งนั้น คนตัวสูงพยักหน้าไม่ว่าอะไร ผมยิ้ม รีบยื่นให้พนักงาน พี่หมอล้วงหยิบกระเป๋าเงินมาง้างเปิดตรงหน้า เพราะมืออีกข้างยังกุมกันอยู่ ผมเลยทำหน้าที่หยิบจ่ายให้ พี่หมอกระซิบข้างหู
 
“ซื้อแล้วใส่ให้พี่ด้วยนะ”
 
ผมหน้าร้อนผ่าว กระแทกไหล่ใส่แขนพี่มันทีปรามไม่ให้ทำอะไรให้ผมอายกลางที่สาธารณะ
 
ผมเลือกซื้อเสื้อผ้าสำหรับใส่วันพรุ่งนี้อีกชุด ชุดที่ผมใส่อยู่ปัจจุบันนี้เป็นชุดที่พี่ดีนซื้อมาให้ ผมได้เสื้อยืดสีขาวตัวละ 299 กับกางเกงยีนเซอร์ๆ ตัวละ 690 มาอีกตัวหนึ่ง
 
“หินกับพี่ต้าร์ไปไหน”
ผมกับไผ่พากันมองหา จนหันไปเจอสองคนนั้นกำลังทำตัวกลมกลืนนั่งอยู่ในร้านเพ้นท์ตุ๊กตาสำหรับเด็กๆ มีเด็กๆ นั่งเรียงกันเป็นแถว ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาวาด แต่กำลังมองสองหนุ่มตัวสูงใหญ่สองคนที่นั่งหัวชนกันบนตั่งตัวเล็กๆ สำหรับเด็ก
 
ผมหัวเราะจนตัวงอ พวกนั้นเลือกตุ๊กตากันคนละตัว ผมเห็นท่าน่าสนุก จูงมือพี่หมอชวนไผ่เข้าไปนั่งวาดด้วย พี่หมอไม่เล่นด้วยครับ อายเด็ก แต่ผมอยาก พี่แกเลยยอม เราสองคนนั่งชิดกันบนตั่งตัวน้อย เลือกตุ๊กตามาเพียงตัวเดียว ช่วยกันละเลง สวยงามไม่เอาเน้นฮาล้วนๆ
 
ชักมันมือ ตัวเดียวไม่หนำใจ ผมกับพี่หมอเลยขอมาเพิ่มอีกคนละตัว ละเลงทั้งที่มือเราสองคนยังกุมกันไว้ มีคนเดินมาถ่ายรูปพวกเราขำๆ บางคนมายืนดูเลย ตอนแรกอายครับ หลังๆ ก็เลิกคิด เน้นเอาสนุกดีกว่า
 
ตุ๊กตาพี่ต้าร์หน้าตาดูดีสุด รองมาก็ของผม พี่หมอ พี่หมอนนท์ หิน ทุเรศสุดคือไผ่
 
“ไผ่ มึงคิดผิดคิดใหม่ได้นะ งานฝีมือมึงโคตรทุเรศเลย มึงจะเป็นหมออะไรได้วะ”
ผมถามมันด้วยน้ำเสียงจริงจัง
 
“หมอนวด”
พี่หมอนนท์แนะนำมา ไผ่หันขวับไปมอง
 
“อยากโดนนวดด้วยตีนรึไง”
 
“หึ อยากโดนนวดด้วยอย่างอื่นมากกว่า”
พี่มันพูดแค่นั้น ก้มหน้าลงไปวาดต่อ ไผ่มันพาล ปัดตุ๊กตาพี่หมอนนท์ล้มกลิ้งไปไกลจนน้องๆ ที่นั่งวาดกันอยู่ริมๆ ตกใจ ไผ่มันหัวเราะแหะๆ ใส่เด็ก เด็กคนหนึ่งหยิบตุ๊กตาตัวนั้นกล้าๆ กลัวๆ ส่งคืนมาให้ พี่หมอนนท์จับวางไว้ที่เดิม แล้ววาดต่อหน้าตาเฉย
 
ผมละมึนกับคนคู่นี้จริงๆ ผมกับพี่หมอหิ้วตุ๊กตาตาสามตัวที่ละเลงกันไว้เมื่อกี้ติดมือมาด้วย ตอนแรกพี่หมอบอกให้ทิ้งไว้ เพราะมันทุเรศ แต่ผมอยากเก็บเพราะเป็นความทรงจำของเราสองคนจริงๆ

To Be con...

กำลังใจลดลงเรื่อยๆ (จนอยากยอมแพ้ )แต่จะสู้ต่อไป (เพื่อคนที่ยังตามอยู่)

ตอบเม้นท์: 'ทำไมน้ำฝนถึงฟื้นตัวเร็ว
ตอบ : เพราะน้องฝนมีความหวังและกำลังใจและได้กำลังใจจากคนรอบข้าง
     
ออกตัวก่อนว่าคนเขียนเขียนไม่เก่งนะคะ บางอย่างก็อาจผิดพลาดตกหล่นไปบ้างก็ขออภัย(เขียนเพราะชอบล้วนๆ อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด)


ตามความเข้าใจของคนเขียนตอนที่เขียนพาร์ทนี้ไม่ได้ให้น้องหลอนหนัก หรือจิตตกหนักๆ เพราะน้องไม่ได้โดนข่มขืนครั้งแรก และไม่ได้ถูกทารุนหนักเหมือนครั้งที่โดนพี่หมอขืนใจ (แต่มีปัญหาทางจิตแน่ๆ ซึ่งอ่านไปเรื่อยๆ จะเจอเองค่ะ)

ตอนโดนพี่หมอขืนใจครั้งแรก พี่หมอโหดร้ายกับน้องสารพัด ทั้งเซ็กส์ครั้งแรกที่รุนแรง(จนน้องเกือบตาย) และเซ็กส์ครั้งต่อๆ มาที่เน้นสร้างความเจ็บปวดและทุกข์ทรมานให้กับน้องมากกว่า บังคับฝืนใจและทำให้อึดอัด ทำให้รู้สึกกดดัน วิตกกังวลและหวาดผวา ทุกอย่างที่พี่หมอทำ ทำไปเพราะความเกลียดและเคียดแค้นล้วนๆ จริงๆ   

ในขณะที่พี่ดีนทำไปเพราะความแค้นเหมือนกัน แต่มีความรักผสมปนเปอยู่(ซึ่งพี่ดีนไปรักน้ำฝนตอนไหน อ่านไปเรื่อยๆ จะเข้าใจเองค่ะ เพราะเรื่องนี้ใช้ตัวละครสองคนเล่า ตัวปริศนาอื่นๆ จึงจะถูกเล่าให้คลายไปทีละจุด)

เพราะงั้นพี่ดีนจึงไม่ได้รุนแรงกับน้องเหมือนรุ่นพี่หมอ สิ่งที่ทำคือบังคับมีอะไรกับน้องและไม่ให้อิสระน้องเท่านั้นเอง (ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ มันจะค่อยๆ คลายออกมาเอง จากการดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ ค่ะ) 

อ่านต่อไปเรื่อยๆ แล้วจะเข้าใจเอง
#เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2017 15:02:59 โดย memew »

ออฟไลน์ gatenutcha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :hao5:
ตามอ่านมาตลอด ลุ้นไปด้วย ร้องไปด้วย
ขอบคุณที่แต่งบทได้ใจแบบสุดๆ ถึงไม่อยากให้น้ำฝนโดนแบบนี้เลย
แต่ฟ้าหลังฝนคงจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นบ้างละนะ
รับรองเรื่องนี้ไปพลาด เก็บเงินแปปนะ  ไม่เกินสิ้นเดือนนี้  จะเอามากอดเลย
 o13 o13 o13

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ร้องไห้เลย ฮือออออ :hao5:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
น้ำตาจิไหล น่าสงสารน้อแต่เพราะเกิดเหตุการณ์แบบนี่ต้องเข้มแข็ง

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
รักกันนะ...มันเป็นสิ่งที่ดี...

ออฟไลน์ gunghan

  • In the end, we must separate, that’s it
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

เหตุการณ์ครั้งนี้สอนให้ผมรู้ว่า ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่ ผมควรทำสิ่งที่ตรงกับหัวใจให้มากที่สุด 



อ่านตรงนี้แล้ว...คำพูดโอปอล์มาเลย
"ชีวิตคนเรามันสั้น...อย่าทำตัวเองให้ซับซ้อน
รักให้ "บอก" เกลียดให้ "ถาม"
มีปัญหาให้ "เคลียร์"

เฮ้อออออออ สงสารน้ำฝนจัง :ling2: :ling2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ leefever

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ขอบคุณคนเขียนนะคะที่ทำให้'ช่วงอึดอัด'จบไปแบบเร็วๆ ไม่เยอะ

เวลาอ่านนิยายแล้วเจอช่วงแบบนี้คือต้องรีบๆอ่านค่ะ อ่านแบบข้ามๆ ไม่ต้องไปอะไรมาก
ทำแบบนี้ละช่วยได้เยอะ เพราะช่วงอึดอัดนี้มันจะไม่ได้รับการจดจำ ตราตรึงเข้าไปในใจน้อยๆของคนอ่านค่ะ

โล่งงงง


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด