Chapter : 98 : ว่าที่คู่แข่ง [น้ำฝน...♡] 150%
เมื่อคืนผมโดนลักหลับครับ ดีว่าโดนไปแค่รอบเดียว ตานี่ไว้ใจไม่ได้จริงๆ ขนาดหลับไปแล้วยังปลุกขึ้นมาทำให้ผมต้องออกกำลังกายเรียกเหงื่อตอนดึกได้
“มึงรู้พี่รหัสมึงยังฝน”
หินกระซิบ มันบ่นเสียดายใหญ่ที่พี่ต้าร์ไม่มาเป็นพี่ว้ากกับเขาด้วยเพราะติดกิจหลายอย่าง แต่ผมว่าดีแล้วล่ะครับ ไม่งั้นคงมีมหกรรมแซวกันแหลกลาญเกิดขึ้นแน่ๆ
“ยังเลย บอกใบ้มาแค่สิงโตหัวเหลือง”
มันนิ่งคิด กวาดมองไปรอบๆ แล้วไปชะงักอยู่ที่ใครสักคน
“กูว่ากูรู้แล้ว”
ผมมองตามสายตามันไป จนไปเจอะใครบางคนที่กำลังนั่งกดมือถือเล่นยิกๆ ในกลุ่มพี่ว้ากด้านหน้า ตัวคนไม่ได้ทำให้ผมสนใจได้เท่ากับมือถือที่อยู่ในมือ กรอบเป็นสีดำ แต่สายห้อยโทรศัพท์เป็นตุ๊กตาสิงโตหัวเหลืองอ๋อย และตอนนี้ตุ๊กตาตัวนั้นกำลังดิ้นยุกยิกตามแรงกดของเจ้าของ ให้เดาน่าจะกำลังเล่นเกมอยู่(ช่วงนี้เบรกครับ)
“หมายความว่า…” ผมค้างคำไว้แค่นั้น
“น่าจะใช่นะ”
ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ พี่ปีสองในคณะมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมต้องมาเจาะจงให้พี่คนนี้มาเป็นพี่รหัสผมด้วยนะ
คนที่กำลังเล่นเกมอยู่คงรู้ว่ามีคนมองถึงได้เงยหน้าจากเกมมองตรงมาด้านหน้า พอเห็นว่าใครมองอยู่ก็คลี่ยิ้ม ขยิบตาให้ทีหนึ่ง
ผมกลืนน้ำลายฝืดๆ ลงคอ
“น่าดูชมเหมือนกันนะฝน ไม่รู้เอาจริงหรือล้อเล่น”
หินกระซิบต่อ
“กูว่าพี่เขาล้อเล่นมากกว่า”
ผมกระซิบกลับ พอเห็นว่าผมยังมองอยู่พี่แกก็กดปิดมือถือ ยัดใส่กระเป๋ากางเกง เดินตรงมาทางผมที่นั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ อยู่ที่พื้นคอนกรีต
“มองพี่แบบนี้ จะถือว่าให้ความหวังพี่นะ”
ผมอ้าปากค้าง
“ถอยไปไกลๆ เลยชาร์จ มึงนี่นะ เดี๋ยวได้ปีนต้นงิ้ว”
ใครสักคนมาลากคอพี่ชาร์จลุกห่างออกไป
“ระวังตัวไว้หน่อยละกัน”
หินตบบ่าผมเบาๆ เตือน ผมพยักหน้า
วันนี้พี่ว้ากว้ากพอเป็นพิธีเพราะจะให้เราซ้อมเชียร์
“เอาล่ะ ก่อนซ้อม เราจะหาผู้เข้าประกวดดาวเดือนคณะกัน รู้จักกันมาพักหนึ่งแล้วนี่ เลือกมากันได้เลยว่าคนไหนสวยหล่อดูดีมีสไตล์สะดุดตาเหมาะแก่การยกขึ้นหิ้งถีบออกไปเชิดหน้าชูตาให้คณะเราได้สำหรับปีนี้”
พี่มี่ผู้นำทีมว้ากวันนี้(ใครว่าคณะผมคุณหนู ดูใหม่นะครับ พี่มี่น่าจะเหมาะกับการไปเรียนวิศวะมากกว่า) พอสิ้นเสียงพี่มี่ ทั้งรุ่นพี่และเพื่อนๆ ร่วมรุ่นก็ต่างพากันเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ามา สวยหล่อกันจริงๆ นั่นแหละ
“น้ำฝนค่ะ”
หือ ผมสะดุ้ง หันซ้ายหันขวามองหา ชื่อเหมือนก็จริง แต่อาจไม่ใช่ผมก็ได้ แต่ทุกสายตาพุ่งตรงมาทางผมกันหมด
ผมชี้นิ้วใส่หน้าตัวเอง
ผมเนี่ยนะ
“โอเค”
“เฮ้ย ไม่โอเคนะพี่มี่!!”
ผมรีบค้าน
“ไหน ใครอีก”
แต่พี่มี่ไม่สนใจเสียงค้านของผมหันไปถามคนอื่นต่อ
“พี่มี่ ไม่เอา”
เสียงค้านของผมกลืนหายไปกับเสียงของผู้คนที่พากันเซ็งแซ่พูดจาแซวเพื่อหาผู้เข้าประกวดต่อ
ฟังกูบ้างสิครับทุกคน T^T
“หินกับพีมค่ะ”
มีคนเสนอเพื่อนผมอีกสองให้มารับชะตากรรม พีมรีบปฏิเสธหัวสั่นเหมือนผม ส่วนหินแค่หันไปมองคนโหวตเท่านั้น
พี่มี่ไม่สนใจเสียงปฏิเสธ ตีมึนจดชื่อเพื่อนผมไปเหมือนกัน
ฝ่ายหญิง น้ำหวานเพื่อนผมก็โดนหางเลขตามไปด้วย อันนี้ผมไม่เถียงครับ เพราะเพื่อนผมสวยจริงๆ
หลังซ้อมเชียร์ พวกที่ถูกคัดเลือกจะต้องอยู่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการประกวดต่ออีก
อ๊ากกก แค่นี้กิจกรรมก็เยอะแล้ว ยังจะมาเพิ่มให้กันทำไมอี๊ก
..50%...
..50%...
ใช้เวลาในการพูดคุยเรื่องการประกวดไม่นาน เริ่มซ้อมเดินกันตั้งแต่พรุ่งนี้ ที่เหลือพี่มี่ก็ให้การบ้านว่าต้องหาอะไรขึ้นโชว์วันประกวด ผมพยายามไปขอสละสิทธิ์ แต่พี่มี่ไม่ยอม ผมก็ได้แต่ทอดถอนใจ
ได้ตำแหน่งคงดังยิ่งกว่าเดิม ไม่ได้ก็ขายขี้หน้า
ผมรีบโทรหาไผ่ เสียงรอสายดังอยู่ไม่นานปลายสายก็กดรับ
“ทำไรอยู่มึง กลับบ้านยัง”
“เล่นบาสอยู่”
มันตอบหอบๆ ผมยิ้ม กะจะบอกมันเรื่องโดนเลือกให้ไปประกวดเดือนคณะวันนี้ แต่สงสัยมันจะยังเล่นอยู่
“คณะเหรอ”
ผมถาม เพราะสนามบาสมีหลายจุด หน้าคณะมันละที่หนึ่ง มันรับปาก “งั้นเดี๋ยวกูไปหา”
มันครางอื้อเดียวรับ
“กูจะไปหาไผ่ที่สนามบาสหน้าคณะมัน มีใครอยากไปกับกูบ้าง”
“เอาดิ”
พวกมันรับปาก พากันเฮโลเดินคุยกันโฉงเฉงไปยังสนามบาส ได้ยินเสียงลูกบาสเด้งพื้น พอๆ กับเสียงเอี๊ยดอ๊าด พอเดินใกล้เข้าไปมากขึ้นก็เห็นไผ่ในสภาพเสื้อนักศึกษาลุ่ยๆ พับแขนถึงศอก แบะอกจนเห็นซิกแพ็ก มันโดดเด่นมาก เพราะผู้เล่นคนอื่นเขาแต่งตัวกันเรียบร้อยมาก หนำซ้ำมันยังเป็นคนเดียวที่หัวเกรียนอีกต่างหาก
แต่เชื่อเหอะ เสียงกรี๊ดที่ดังอยู่รอบสนามตอนนี้ มีแต่เสียงเรียกชื่อมันทั้งนั้น
“ไผ่!!/น้องไผ่สู้ๆ!!/ ไผ่ ดังก์ไปเลย!!/กรี๊ดผัวไผ่ขา อยากจับไข่ผัวไผ่จังเลยค่า”
เอ่อ… อันหลังนี่เดาได้ใช่ไหมครับว่าจากคนประเภทไหน
“เพื่อนกูเสน่ห์โคตรแรง”
หินมันเปรยอย่างหมั่นไส้
มันดีดตัวขึ้นสูงยัดลูกลงห่วง พาคะแนนนำลิ่ว ใช้หลังมือเช็ดเหงื่อหันมาทางพวกเรา หันไปโบกมือขอตัวกับคนในทีม วิ่งลิ่วๆ เข้ามาหา มาถึงมันก็พุ่งตรงเข้าชาร์จผม มุดหน้าใช้เสื้อผมแทนผ้าขนหนูทันที
“ไผ่ เสื้อกูไม่ใช่ผ้าเช็ดตัว ปล่อย!!”
ผมรีบดันหัวมันออก แต่มันไม่ฟังโอบเอวผมไว้หลวมๆ กันหนี มุดหน้าไซ้ไปไซ้มาอยู่อย่างนั้นแหละ ได้ยินเสียงกรี๊ดสนั่นไปทั่วทั้งสนามบาส
“อายเขาไหม” ผมพยายามดันหน้ามันออก มันกอดแน่นขึ้น ซุกหน้าไปมาเหมือนเด็ก “เดี๋ยวคนก็เข้าใจผิดกันหรอก”
“ผิดตรงไหน กูกับมึงเป็นแพนกันไม่ใช่เหรอ”
มันพูดขึ้นมาหน้าตาเฉย ผมผลักหน้าผากดันมันออก
“เล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง เสื้อกูเปื้อนหมดแล้ว”
“เดือดร้อนอะไร ไม่ได้ซักเองสักหน่อย”
“นี่พวกมึงสองตัวเลิกทำให้คนเขาเข้าใจผิดกันสักที ว่าแต่มึงอะไผ่ จะเล่นต่อหรือจะเลิกตอนนี้”
น้ำหวานมันถาม
“ขอเล่นต่ออีกสักยี่สิบนาทีนะ เพิ่งลงสนาม เหงื่อออกยังไม่เยอะเลย”
โหย นี่ขนาดออกไม่เยอะนะ เสื้อกูเปียกหมดแล้วเนี่ย
มันขอตัววิ่งลงสนามไป พวกผมรีบหามุมเหมาะๆ สิง มีคนเดินเข้ามาขอลายเซ็นกับถ่ายรูปผมด้วย ซึ่งผมก็ยอมดีๆ
ชินแล้วครับ
มันเล่นต่อประมาณครึ่งชั่วโมง สนุกทั้งคนเล่นคนเชียร์ เพื่อนผมมันเป็นตัวทำคะแนนเลย ลงห่วงทีเสียงกรี๊ดก็ดังที
มันโบกมือเป็นสัญญาณขอเลิกเล่น เปิดโอกาสให้คนอื่นได้ลงเล่นต่อ มันวิ่งไปหยิบน้ำมากินจนหมดไปครึ่งขวด ราดส่วนที่เหลือใส่หัว หยิบผ้าเช็ดตัวบนเป้มาเช็ดตั้งแต่หน้าขึ้นไปหัวแล้วลงมาที่แผงคอและหน้าอกต่อ เสื้อนักศึกษามันเปียกจนเสื้อแนบเนื้อไปหมด มันคุยอะไรกับเพื่อนในคณะมันอีกนิดหน่อย ก่อนคว้าเป้มาแบก โบกมือลาคนในทีม เดินตรงมาทางพวกผมที่นั่งคอยกันอยู่
“ไปหาไรกินกัน โทรเรียกไอ้ตากับน้ำตาลมาด้วย”
มันหันไปบอกน้ำหวาน รายนั้นพยักหน้ารับ ไผ่มันวางกระเป๋าลงกับพื้นข้างเท้า คลี่ปลดกระดุมเสื้อชุ่มเหงื่อออก โยนมาใส่หัวผม เสียงกรี๊ดดังกระหึ่ม มีเสียงสาวแท้สาวเทียมพูดกันแซ่สนั่น
“ไผ่ถอดเสื้อ/ กล้ามไผ่/ ว้ายลอนหกลูก/ หัวนมไผ่/ โอ๊ย ไผ่จ๋า ทำไมไผ่หล่อแบบนี้”
และอะไรอีกสารพัด ที่เจ้าตัวดูจะไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ได้ยินแม้แต่น้อย
“ซกมก”
ผมแอบต่อว่า กลิ่นเหงื่อหึ่ง ดีว่าผมชอบกลิ่นตัวมันไม่งั้นไม่รับประทานเหมือนกัน ผมพับเสื้อให้มันดีๆ ม้วนเป็นแท่งกลมๆ ถือไว้ในมือ ส่วนมันก้มลงไปรื้อหยิบเสื้อที่แพ็กใส่ถุงพลาสติกอย่างดีออกจากเป้(มันจะเตรียมเสื้อนักศึกษามาวันละสองตัวเสมอ เพราะเล่นกีฬาบ่อย) หยิบเสื้อที่ผมม้วนให้อย่างดีไปยัดใส่ถุงพลาสติกใบนั้น โยนเข้าเป้ไป
“มึงนี่ขยันเรียกเรตติ้งนะ”
น้ำหวานมันกอดอกแซว
“ตรงไหน” มันตอบหน้าตาย สวมเสื้อ ขยับปรับตรงคอเสื้อให้เข้าที่เข้าทาง “ติดกระดุมให้หน่อยหมาฝน” แล้วหันมาสั่งผม
“กูว่ามึงติดนิสัยพี่มึงมาแล้วนะ”
มันเลิกคิ้วสูง พยุงหน้าที่หล่อลากของมันอยู่แล้วให้หล่อมากขึ้นไปอีก
“มันเคยสั่งแบบนี้ด้วยเหรอ กูคิดว่ามันจะสั่งให้มึงถอดให้อย่างเดียวซะอีก”
ผมขยับปากด่าด้วยคำหยาบท่อนล่าง แต่ไม่มีเสียง มันหัวเราะหึๆ เร่งมา ผมส่ายหัวไปมาอย่างระอา ขยับไปกลัดกระดุมให้
“รับน้องเป็นไงบ้างวันนี้”
มันยืนให้ผมติดกระดุมเสื้อให้ ส่วนตัวมันเองพับแขนเสื้อขึ้นไปที่ศอกหันไปถามเพื่อนคนอื่น
“เหมือนเดิม” น้ำหวานบอกเบื่อๆ “แต่กู หิน พีม แล้วก็น้ำฝนถูกคัดเลือกให้เข้าประกวดเดือนดาวคณะกัน”
“ใครบ้างนะ”
ไผ่มันเลิกคิ้วถามอีกรอบ
“กู หิน พีมแล้วก็มัน” น้ำหวานมันพยักหน้ามาทางผม “โดนโหวตมา”
ไผ่เลิกคิ้วสูง มองกวาดใบหน้าทุกคนที่ถูกโหวต ก่อนมาจบที่ผมเป็นคนสุดท้าย
“หินกับพีมกูพอเข้าใจเพราะมันหน้าตาดี แล้วไอ้นี่โผล่มาได้ไง เขาประกวดหาเดือนคณะหรือว่าหาคนไปกินเพ็ดดีกรี”
ไอ้เพื่อนสารเลว!!
ผมเตะหน้าขามันไปทีป้าบใหญ่ ปล่อยกระดุมเม็ดสุดท้ายที่กำลังจะกลัดออก มันหัวเราะหึๆ กลัดกระดุมเม็ดสุดท้ายด้วยตัวเอง ปล่อยชายออกมานอกกางเกง ล้วงหยิบน้ำหอมมาฉีดกลบกลิ่นเหงื่อ
“เขาเลือกมันมาประดับเวที คนไม่พอ”
ได้ข่าวว่ากูถูกโหวตมาเป็นคนแรกในกลุ่มเลยนะตัน
“นั่นน่ะสิ อย่างมึงก็ทำได้แค่นี้แหละ”
เรายืนคุยกันไม่นานน้ำตาลกับตาก็โผล่ พวกเราพากันเฮโลออกจากสนามบาสไป ระหว่างทางผมเหลือบไปเห็นใครบางคนเข้าพอดี
“เดี๋ยวพวก กูขอตัวแป๊บ”
ผมรีบบอกเพื่อนๆ ที่กำลังพูดคุยกันมาตามทาง รีบวิ่งตรงไปทางพี่ชาร์จที่ยืนคุยอยู่กับใครสักคน คนคนนั้นหันหลังอยู่เลยไม่รู้ว่าเป็นใคร ตราบจนพี่ชาร์จเห็นผมวิ่งเข้าไปหา ดวงตานั้นแวววาวขึ้นมาทันที
ดวงตาราวกับสิงโตเห็นเหยื่ออันโอชะเดินผ่าน
คนที่หันหลังอยู่หันมามองตาม
พี่ภูมิ
[100%]
ผมรีบยกมือไหว้ทันที วันนี้ไม่เห็นมาว้ากเลย
“ไม่ต้องไหว้หรอก ทักทายกันปกติก็พอ”
พี่แกบอกมาเรียบๆ ด้วยสีหน้าและแววตาฉบับพี่หมอยังหนุ่ม
“ขอโทษที่รบกวนนะพี่ ผมแค่จะมาถามว่าพี่ชาร์จใช่พี่รหัสผมหรือเปล่า”
พี่ชาร์จเลิกคิ้ว
“รู้ได้ยังไง”
พี่แกถาม ผมชี้ไปที่สายห้อยโทรศัพท์ที่ห้อยโผล่ออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“เก่งมาก คิดว่าจะไม่สังเกตเห็นซะอีก”
ผมหัวเราะแหะๆ
“เพื่อนผมบอก”
พี่ชาร์จหัวเราะ
“ใช่ พี่เป็นพี่รหัสนายเอง ส่วนภูมิเป็นลุงรหัส พี่กับมันอายุเท่ากัน แต่มันเข้าเรียนก่อนพี่ เลยเล่นหัวกันสนิทสนมแบบนี้ นายไม่มีปู่รหัสนะ เพราะออกไปนานแล้ว”
ผมถึงบางอ้อ สายรหัสอยู่กันครบเลย
“กำลังจะไปไหนกัน”
พี่มันถามต่อ
“ว่าจะไปหาอะไรกินกัน”
ผมพยักหน้าไปทางเพื่อนๆ พี่ชาร์จกับพี่ภูมิมองตรงไปทางนั้น
“ไหนๆ ก็รู้สายรหัสแล้ว เดี๋ยวพี่จะเลี้ยง”
“เอ่อ แต่ผมนัดเพื่อนๆ ไว้แล้ว” ผมอ้อมแอ้มบอก “พรุ่งนี้ก็ได้ครับ”
“อยากกินวันนี้ กำลังจะชวนไปกินกันพอดี ไม่เป็นไร ลุงรหัสเรารวย”
ไหนว่าพี่จะเลี้ยง ผมทำหน้าแหยงมองหน้าลุงรหัสตัวเอง
“เอ่อ พรุ่งนี้ก็ได้ครับ”
“วันนี้แหละ” พี่ชาร์จแกตัดบท “ใช่ไหมภูมิ”
พี่ภูมิพ่นลมหายใจแรงอย่างเหนื่อยอ่อน พยักหน้ารับเบาๆ แล้วคนทั้งคู่ก็เดินตามผมมาที่กลุ่มเพื่อน คนในคณะผมรู้จักสองคนนี้ดีอยู่แล้ว ยกเว้นไผ่ น้ำตาล แล้วก็ตา ไม่มีใครสนใจพี่ชาร์จ แต่พากันจ้องหน้าพี่ภูมิกันเขม็ง
แน่ล่ะ หน้าตาเหมือนพี่หมออย่างกับแกะ แต่หนุ่มกว่าเท่านั้นเอง
“นี่พี่รหัสกูเอง พี่ชาร์จ ส่วนพี่ภูมิเป็นลุงรหัสกู”
ทุกคนพยักหน้าหงึกหงัก
“หน้าเหมือนพี่หมอชะมัด จับพี่หมอใส่ชุดนักศึกษาล่ะใช่เลย เสียแต่พี่ภูมิหนุ่มกว่า”
น้ำตาลมันบอก ทุกคนจ้องหน้าพี่ภูมิกันตาแทบไม่กะพริบ โดยเฉพาะไผ่
“พวกพี่แกบอกจะเลี้ยงพวกเรา”
“เอาจริงเหรอพี่ พวกเรากินจุนะ”
หินรีบออกตัว
“ถ้าเงินไม่พอ เดี๋ยวใช้ให้ฝนถือขันไปนั่งข้างถนน”
ทุกคนพากันหัวเราะร่วน ผมค้อนคนตัวสูงกะหลับกะเหลือก
ไผ่มันจ้องหน้าพี่ชาร์จกับพี่ภูมิเขม็ง ก่อนเบียดตัวเองมาเดินเคียงข้าง กอดคอผมไว้
เราได้ร้านอาหารไม่ห่างมหา’ลัย ถึงจะบอกว่าเลี้ยง พวกเราก็เกรงใจอยู่ดี เลยไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยกัน ไผ่มันกินไปเหงื่อแตกซกจนผมต้องคอยเช็ดเหงื่อให้
“ฝนนี่ดูแลคนเก่งจัง พี่หมอนี่โชคดีเนอะ ได้ฝนเป็นแฟน”
ผมหันไปมองพี่ชาร์จคนพูด หน้าร้อนขึ้นมานิดๆ พี่ชาร์จขยิบตาให้ผมทีหนึ่ง
“สนใจอยากได้กิ๊กเพิ่มสักคนไหม”
พอจบประโยคของพี่ชาร์จทุกคนในโต๊ะก็ต้องสะดุ้งโหยงเพราะไผ่มันวางตะเกียบกับโต๊ะแรง
“อย่าเสือกจีบเพื่อนกู!”
มันมองหน้าพี่ชาร์จตาขวาง
เฮ้ย ใจเย็นไผ่ นี่พี่รหัสกู
“องครักษ์พิทักษ์ฝนออกโรง”
ตาพูดขึ้นขำๆ
“อย่าดีกว่าพี่ชาร์จ พี่หมอว่าขี้หึงแล้ว ไอ้นี่ร้ายยิ่งกว่า มันหวงไว้ให้พี่ชายมันเอง”
หินออกโรงปกป้องผมด้วยอีกคน
พี่ชาร์จยักไหล่
“แต่พี่ชอบน้ำฝน น่ารักดี”
ผมอ้าปากค้าง เพื่อนๆ ผมทุกคนยกเว้นไอ้ไผ่ที่นั่งตาขวางกว่าเดิมพากันรุมเขวี้ยงทิชชู่ใส่ผม
“โรคเสนียดกำเริบอีกแล้วนะมึง น้ำฝน”
ผิดกูไหม ไผ่มันดึงผมเข้าไปนั่งจนชิด จ้องพี่ชาร์จราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ พี่ชาร์จหัวเราะ ไม่สนใจอะไร ก้มหน้าก้มตากินต่อ
“พี่ภูมิก็อย่าไปหลงเสน่ห์น้ำฝนมันด้วยอีกคนล่ะ”
น้ำตาลเตือน
มึงอย่าชักใบให้เรือเสียสิน้ำตาล
“ไม่หรอก พี่ชอบผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชาย”
พี่ภูมิตอบยิ้มๆ ดูจะฟังเป็นเรื่องขำๆ มากกว่า
“พี่หมอก็พูดงี้”
มันพูดขึ้นมาเบาๆ หันไปสั่งก๋วยเตี๋ยวมาเพิ่มอีกชาม
ตันมันจ้องหน้าพี่ภูมิจนคนถูกจ้องต้องเงยหน้ามอง
“มีอะไรเหรอ”
“ไม่มีอะไรครับ พอดีคิดว่าพี่หน้าตาเหมือนพี่หมอแฟนฝนมันอย่างกับแกะ แต่ย้อนเวลาไปอีกสิบปีนะ ถ้าอยากรู้ว่าหน้าตัวเองอีกสิบปีข้างหน้าเป็นยังไง ดูพี่หมอไว้เลย รูปร่างหน้าตา บุคลิก ส่วนสูง แล้วก็ความรู้สึก”
พี่ภูมิเลิกคิ้วสูง(ท่าเลิกคิ้วยังเหมือน)
“โทษที พอดีพี่ไม่เคยเห็นหน้าแฟนฝน เลยไม่รู้ว่าหน้าตาเขาเป็นไง”
“เหมือนพี่เลย แต่อายุเยอะกว่า”
พี่ภูมิพยักหน้า ไม่พูดอะไร เหลือบมองผมนิดหนึ่งให้ผมหน้าร้อนเล่น สายตาที่มองมาไม่มีความหมายอะไรหรอกครับ แต่ทำเอาใจผมสั่นยังไงพิกล
เหมือนโดนพี่หมอมอง
พอแยกทางกับสายรหัสเพื่อนผมก็รุมบ้องหูผมอีกรอบ(ยกเว้นไผ่)
“งานเข้าแล้วมึง หมาฝน”
“ทำไม”
ผมถามงงๆ
“ดีว่ามึงไม่มีปู่รหัส ไม่งั้นงานงอกยิ่งกว่านี้”
“อะไรวะ”
ผมถามงุนงงกว่าเดิม
“สายรหัสจ้องเขมือบมึงกันยกสายเลย”
ผมอ้าปากค้าง
“มึงคิดมาก พี่ชาร์จน่ะพอเห็นอยู่ แต่แค่เล่นๆ เพราะกูก็เห็นเขาเรี่ยราดไปทั่ว แต่พี่ภูมิไม่ใช่แน่ๆ เขานิ่งจะตาย”
น้ำตาลจ้องหน้าผมเขม็ง
“ควายฝน”
มึง กูนี่หลายสปีชี่ส์ดีนะ เดี๋ยวหมาเดี๋ยวควาย “พี่ภูมิเขาไม่ได้มีแค่หน้าตานะที่เหมือนพี่หมอ อะไรหลายๆ อย่างที่สื่อออกมาทางดวงตามันเหมือนด้วย ปากบอกชอบผู้หญิง แต่มึงไม่สังเกตสายตาเวลาพี่เขามองมึงบ้าง”
“กูไม่เห็น”
“ก็เพราะเขามองมึงตอนเผลอไงเล่า”
ผมกลืนน้ำลายลงคอ
“สายตาคล้ายพี่ดีนกับพี่หมอผสมกัน”
ผมหันไปมองหน้าไผ่ มันขมวดคิ้วคิดหนักกว่าผมอีก
โธ่ ชีวิตมหา’ลัยผมจะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย
to be Con...
ใจอยากแต่งนิยายแนวรับน้องกับวิศวะบ้าง แต่ข้อมูลไม่แน่นเลยไม่ได้แต่ง ไว้มีข้อมูลดีๆ เมื่อไหร่ เจอกานนนนน
สติลFCพี่ภูมิ (พี่หมอจูเนียร์)>//<
พี่ภูมิเป็นตัวละครอีกหนึ่งตัวที่ไรท์อยากเขียนนิยายแยกออกมารองจากนนท์ไผ่ รองจากพี่ภูมิก็พี่ดีน เคยจับพี่ภูมิกับพี่ดีนมาจ้องตากัน สรุปคือไปกันไม่รอด จะจับพี่ดีนคู่กับพีม พีมก็บอกไม่เอา สรุปก็ต้องใช้ตัวละครใหม่ ทำใจเจ้าค่ะ
ประกาศ!! วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2559 นี้มีงานตลาดฟิคครั้งที่ 8 ที่โรงพยาบาลเซ็นหลุยส์ คนเขียนเอาหนังสือที่เขียนไปลงด้วย 10 เรื่อง ใครต้องการก็ไปเจอกันหน้างานเลยจ้า (จองก่อนจะเก็บหนังสือไว้ให้ ส่วนรายละเอียดจะมาแจ้งอีกทีนะคะ ช่วงนี้ติดเดินทาง แป่วววว)
หนังสือ&ebook
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54068