Chapter : 99:
ใครชอบน้ำฝน ดาหน้ากันเข้ามา!!
[พี่หมอ...♡]
“เป็นอะไร”
ผมถามคนที่นั่งขมวดคิ้วอยู่บนเตียง
“ผมถูกโหวตให้ประกวดเดือนคณะ”
ผมเลิกคิ้วสูง
“คนเลือกใช้อะไรคิด”
ฝนอมลม
“ผมก็ไม่ได้อยากเป็นสักหน่อย”
ผมลากคนตัวเล็กมาไว้บนตัก
“รู้ไหมพี่ได้เป็นเดือนคณะด้วยนะ”
ฝนเงยหน้ามองตาวาว
“จริงเหรอ”
ผมพยักหน้า
“แล้วได้เป็นเดือนมหา’ลัยด้วยไหม”
ผมส่ายหน้า
“ได้แค่รอง เพราะมีคนหล่อกว่า”
“พวกนั้นตาถั่ว”
ผมหัวเราะหึๆ
“อยากเป็นหรือเปล่า”
ผมถาม ฝนส่ายหัวพรืด
“ไม่อยากเด่น อายคน”
“มีเรื่องอะไรสนุกๆ มาเล่าให้พี่ฟังบ้างไหม”
มันนิ่งคิด ทำท่าจะพูด ก่อนเงียบเสียงลง
“มีอะไร”
“เปล่าหรอก วันนี้ก็แค่ซ้อมเชียร์ รับน้องไม่หนัก แล้วก็เรื่องคัดประกวดนี่แหละ แกล้งป่วยดีไหม”
ผมหัวเราะ
“ทำไปเถอะ มีโอกาสแล้ว ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อย่าให้เสียน้ำใจคนเลือก”
มันพยักหน้ารับ ผมหอมแก้มมันไปเบาๆ ที
“หมอแซมคะ”
ผมหันไปตามเสียงเรียก
“ว่างไหมคะ อรอยากปรึกษาเรื่องบทความ”
ผมนิ่งคิด
“ครับ”
เธอฉีกยิ้มดีใจ ชวนผมไปนั่งอ่านในห้องพักแพทย์ ผมกวาดไล่อ่าน แล้วชี้ให้หมออรดูจุดผิดพลาด หมออรขยับเข้ามาชิด กลิ่นน้ำหอมลอยคลุ้ง กลิ่นมันกระตุ้นเร้าอารมณ์ดิบยังไงพิกล
“อรนี่แย่จัง ไม่ตรวจสอบให้ดี”
เธอแทบจะแนบหน้ากับไหล่ผม ทัดหูเบาๆ ผมเริ่มอึดอัด อรชม้ายตามอง ยิ้มยั่วอย่างมีเสน่ห์
“ผมว่าน่าจะแค่นี้นะ”
ผมยื่นบทความคืนให้ เธอไม่ได้รับไปถือ แต่เลื่อนมือมากุมมือผมไว้ ผมมองตาเจ้าหล่อน ปากสวยคลี่ยิ้มอ่อนหวาน
ดวงตาที่ถูกกรีดไว้อย่างดีจ้องผมไว้ ก่อนที่ปลายนิ้วข้างหนึ่ง จะเลื่อนมาแตะปลายคาง เหมือนร่างกายถูกสะกดให้หยุดนิ่ง ใบหน้านั้นเลื่อนชิดเข้ามาเรื่อยๆ กระทั่งปากเราสองคนแทบชิดกันอยู่รอมร่อ ผมสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงข้อความไลน์ดังขึ้น ผมรีบดีดตัวลุกทันที
เกือบไปแล้วไหมล่ะ
“ผมขอตัว”
“คุณหมอคะ” หมออรดึงแขนผมไว้ ขยับเข้ามาโอบกอด “คุณหมอรู้ใช่ไหมว่าอรชอบคุณหมอ”
ผมอึ้งไปกับคำสารภาพนั้น
“ขอโทษครับ แต่ผมมีเมียแล้ว”
“แต่เขาเป็นผู้ชายนะคะ”
“จะผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาก็เป็นเมียผม”
“คุณหมออาจแค่หลงผิด ไม่ลองกลับมาคบกับผู้หญิงดูล่ะคะ อรรับรองว่าจะดูแลคุณหมออย่างดีเลย”
เธอพูดยั่วๆ ผมดึงมือเธอที่กำลังไต่อกผมออก
“ขอบคุณครับ แต่ผมเลือกแล้ว ผมขอตัว”
ผมค่อยๆ ผละจากมา ปรับสีหน้าเนื้อตัวให้ดี สูดลมหายใจและบังคับร่างกายไม่ให้หลงเสน่ห์หลุมยั่วระดับร้ายแรงนั้น ยกมือถือขึ้นมาดู
คนที่ช่วยผมไว้ทันการคือเทวดาของผมนี่แหละ ผมยิ้มทันทีที่เห็นข้อความ
‘คิดถึง’
แล้วฝนก็ส่งรูปหน้าตัวเองที่ทำปากจู๋เบื่อๆ มาให้ ผมกดถ่ายหน้าตัวเองบ้าง แล้วส่งไปให้พร้อมข้อความ
‘เหมือนกัน’ แต่ไม่ได้ทำปากจู๋หรอกนะ
“คุณหมอ!!”
พี่ณีย์อุทาน ผมเลิกคิ้วสูงมอง
“ทำไมครับ”
“เสร็จเจ้าหล่อนแล้วเหรอ”
เธอชี้มาที่แผงอกเสื้อผม ผมก้มมองตาม ก่อนชะงักกึกมอง เพราะตอนนี้บนอกเชิ้ตด้านซ้ายของผมมีรอยลิปสติกประทับอยู่ สงสัยจะตอนที่หมออรกอดเมื่อกี้ ผมทำหน้าซีเรียส
“ยังครับ แค่เกือบๆ”
“รีบเช็ดออกเลยนะ เกิดน้องฝนเห็นล่ะเป็นเรื่องยุ่ง”
พี่ณีย์รีบขยับมาเช็ดให้ แต่มันติดแน่นไปแล้วล่ะครับ ดีว่าใส่เสื้อกาวน์ทำงาน ไม่งั้นคนได้เห็นแน่ๆ
พอกลับถึงบ้าน ผมรีบหย่อนเสื้อตัวนั้นลงตะกร้าซัก กลัวฝนเห็นแล้วเข้าใจผิดเหมือนกัน วันนี้ฝนกลับดึกเพราะติดกิจกรรมเหมือนเคย ผมคงไม่อยู่รอ หลังอาบน้ำเสร็จก็เข้านอนก่อน
ตื่นมาเช้านี้ ดูฝนจะซึมๆ ไป นั่งเขี่ยข้าวต้มในชาม
“เป็นไรหรือเปล่าน้ำฝน”
แม่ถาม ฝนส่ายหัว จ้องตาผมนิดๆ ผมเลิกคิ้วมองงงๆ
“มีอะไรหรือเปล่า”
ผมถาม ฝนส่ายหัวไปมา จ้วงตักข้าวต้มใส่ปาก พออิ่มก็เดินซึมๆ ออกจากบ้าน ผมรีบเบรกฝนไว้
“มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า บอกพี่สิ พี่ไม่ชอบเห็นฝนเป็นแบบนี้เลย”
ฝนส่ายหัวไปมา ผมถอนหายใจเบาๆ
“พรุ่งนี้พี่หยุด เราไปดูหนังกันนะ”
มันตาวาวขึ้นมานิดหนึ่ง ก่อนซึมนิ่งไปอีก
“พี่ไม่รู้ว่าฝนกลุ้มเรื่องอะไรนะ แต่ถ้าพร้อมก็บอกพี่ละกัน”
มันหลุกหลิกสายตาไปมา เงยหน้ามองผมอีกรอบ
“เมื่อคืน…” ตามันแดงก่ำ กลืนน้ำลายลงคอ “ผมเห็นรอยลิปสติกบนอกเสื้อพี่” แล้วน้ำตามันก็ร่วงลงมา ผมเบิกตาขึ้น “พี่หมอทำแบบนี้ทำไม พี่แค่นอนด้วยกันเฉยๆ หรือว่าเลิกรักผมไปแล้ว”
ผมรีบรวบมันมากอดแน่น
“พี่ขอโทษ”
มันสะอื้นฮัก
“พี่ไม่ได้นอกใจหรือนอนกับใครทั้งนั้นนะฝน”
“แล้วรอยนั้นมาได้ยังไงกัน”
“รอยนั้นเป็นของหมออร มันบังเอิญมาถูกตัวพี่ตอนเขามาขอปรึกษาเรื่องบทความ” มันมองอย่างไม่เชื่อ “พี่ไม่ได้นอกใจหรือคิดนอนกับใครจริงๆ พี่รักฝนนะ” ผมโอบกอดมันแน่นขึ้น ฝนพยักหน้า ผมเดินไปส่งฝนที่รถ ก่อนเปลี่ยนใจ หันไปยิ้มใส่คนที่กำลังตาแดงนิดๆ
“พี่ทำให้ฝนร้องไห้ พี่ว่าวันนี้พี่ไปส่งฝนด้วยตัวเองดีกว่า แล้วตอนเย็นจะไปรับ”
“ลำบากพี่เปล่าๆ”
ผมส่ายหัว ลูบหัวมันเบาๆ
“ฝนจะได้รู้ไงว่าพี่รักฝนขนาดไหน ไม่เชื่อใจพี่เหรอ”
มันเม้มปากแน่น พยักหน้ารับ เดินไปเอาของบางอย่างที่รถมันเอง ก่อนเดินมานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้ผม ฝนยังซึมอยู่ ผมจับมือมันไว้
“พี่รู้นะว่ามันอาจฟังดูไม่น่าเชื่อใจ แต่พี่มีฝนเป็นเมียแล้ว พี่ไม่คิดจะไปยุ่งเกี่ยวกับใครอีกหรอก ไม่ว่าจะทางร่างกายหรือจิตใจ”
ผมจอดรถหน้าคณะ ฝนปลดเบลท์ ผมจับมือมันมาจูบแผ่วเบารอบหนึ่ง ฝนยิ้มตอบ ก้าวลงจากรถไป ผมมองตามอย่างเป็นห่วง ผมรู้ว่าฝนคงไม่สบายใจ และอาจจะหวาดระแวงอย่างหนัก ผมก็หวังแค่ว่า ฝนจะเชื่อใจผมให้มากพอสำหรับเรื่องนี้
ผมทำงานแบบสบายกาย แต่ไม่สบายใจ นึกถึงสีหน้าซึมๆ ของฝนแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ผมเลิกงานเร็วเพราะไม่ติดเคส แต่ฝนเลิกกิจกรรมดึก ผมไลน์ไปถาม รายนั้นยังติดซ้อมรับน้องกับซ้อมเชียร์อยู่
แอบไปส่องเมียที่มหา’ลัยหน่อยก็ดี
ผมขับรถตรงไปมหา’ลัยฝน ผมรู้ว่าคณะฝนอยู่ไหน จอดรถไว้ การหาตัวว่ากลุ่มของฝนอยู่ไหนไม่ใช่เรื่องยาก เพราะได้ยินเสียงพี่ว้ากแหกปากสั่งทำโทษดังลั่นอยู่ ผมหัวเราะหึๆ เดินเข้าไปใกล้ สงสัยพวกเด็กๆ จะเห็นผมแล้วจำได้ ต่างพากันชี้ชวนให้หันมามอง กระทั่งคนกลุ่มฝนหันมาเห็น แต่เจ้าตัวคนที่ผมอยากให้เห็นที่สุดยังไม่หันมามอง น้ำหวานเป็นคนสะกิด บุ้ยหน้ามาทางผมฝนถึงได้เงยหน้ามองตาม ทำหน้าอึ้งเล็กน้อย ผมโบกมือให้เบาๆ ที มันอมยิ้ม ได้ยินเสียงโห่แซวดังมาแต่ไกล พวกรุ่นพี่ที่กำลังว้ากๆ อยู่หันมามอง
“อ้าว น้ำฝน สามีมาตามกลับบ้านแล้ว”
ใครสักคนพูดแซว ผมชักไปไม่เป็น ไม่คิดว่าจะโดนแซวซึ่งๆ หน้า ผมกระแอมไอ ทำเป็นนิ่งกลบเกลื่อน ฝนก้มหน้างุด
ใครคนหนึ่งวิ่งตุบๆ มาทางผม
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คนดังมาดูการรับน้องของเรา เชิญพี่หมอทางนี้ครับ”
“ไม่เป็นไร พี่ไม่อยากกวน”
ผมตอบรับ
“ไม่หรอกพี่ มาเถอะ”
ผมจำต้องเดินตาม มันลากผมไปยืนอยู่ข้างๆ ใครคนหนึ่ง ซึ่งผมจำได้แม่นว่าคือคนที่เล่นเกมแมงมุมกับฝน
คนที่มีหน้าตาเหมือนผมราวกับภาพพิมพ์ เพียงแต่อ่อนวัยกว่าเท่านั้น
“มึงดูไว้นะภูมิ มึงตอนอายุ 35 หน้าตาจะประมาณนี้”
หนึ่งในคนที่ยืนอยู่ในกลุ่มแซว คนถูกแซวยิ้มสุขุม
“ผมภูมิครับ เป็นลุงรหัสน้ำฝน”
ผมพยักหน้ารับ จ้องตาคนตรงหน้า รู้สึกเสียวสันหลังยังไงพิกลกับสายตาที่มองกลับมา
มันไม่ใช่สายตาแบบไผ่ ไม่ใช่สายตาแบบดีน แต่มันเป็นสายตาเหมือนเวลาที่ได้ส่องกระจกมองตัวเอง
คนคนนี้เหมือนผม..
เหมือนจนเกินไป..
ผมถูกต้อนให้ไปยืนดูอยู่เฉยๆ รับน้องไม่มาก แต่เน้นซ้อมเชียร์มากกว่า ผมยืนมองนิ่งๆ โดยมีภูมิมายืนอยู่ข้างๆ ส่วนสูงของเด็กคนนี้แทบไม่ต่างกับผมเลย
“ผมคล้ายพี่จนน่าใจหายเนอะ”
ภูมิพูดขึ้นมาลอยๆ
“อืม”
ผมครางรับ เรานิ่งกันไปสักพัก ก่อนภูมิจะพูดขึ้นมาอีก
“น้ำฝนเขาน่ารักนะ”
ผมชะงักไปกับคำนั้น รู้สึกสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง
“เด็กนั่นมีเสน่ห์ อย่าเผลอตัวเผลอใจไปชอบเข้าล่ะ”
ผมพูดเตือน ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอ
“ผมชอบผู้หญิงไม่ได้ชอบผู้ชาย”
ผมถอนหายใจแรง
“ก่อนหน้านี้พี่ก็พูดแบบนี้แหละ ถึงขนาดเกลียดคนประเภทนี้ด้วยซ้ำ แล้วดูตอนนี้สิ”
ผมบอกมันเสียงเบา น้ำฝนหันมาส่งยิ้มหวานสว่างไสวให้ รอยยิ้มที่ผมชื่นชอบ
หลังจากซ้อมเชียร์เสร็จ ฝนก็ซ้อมเดินแบบสำหรับประกวดเดือนคณะ ทำให้นึกถึงคืนวันเก่าๆ ผมกับภูมิยืนมองเด็กปีหนึ่งเงียบๆ เท่านั้น กระทั่งการซ้อมจบลง รุ่นพี่สั่งแยกย้าย น้ำฝนถึงได้วิ่งกึ่งเดินมาทางผม
“รอนานไหม เมื่อยแย่ ทำไมไม่หาที่นั่งรอ”
“พี่นั่งทำงานมาทั้งวันแล้วนะ”
มันยิ้ม
“คนนี้เหรอ แฟนน้ำฝน”
คนที่ยืนอยู่ในกลุ่มรุ่นพี่มันเดินเข้ามาทัก ผมมองหน้า ฝนยิ้มเจื่อน
“พี่ชาร์จครับ พี่รหัสผมเอง ส่วนพี่ภูมิเป็นลุงรหัสผม”
ฝนแนะนำ
“ฝากดูแลด้วยนะ”
ผมบอกคนทั้งคู่ ภูมิไม่พูดอะไร พยักหน้ารับนิดๆ ชาร์จมองตาผม ยกยิ้มนิดหนึ่ง
“ครับ จะดูแลให้…อย่างดีที่สุดเลย”
ผมหน้าขรึมลง หันไปมองน้ำฝนที่มีสีหน้าแปลกๆ กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ผมหัวเราะหึๆ ในลำคอ
เสน่ห์แรงจริงนะ
ไหน ใครจะตกหลุมเสน่ห์น้ำฝนอีก ดาหน้ากันเข้ามาเลย
To be Con...
แจ้งข่าว เจอกันงานตลาดฟิค#8 บูท A8 นะคะ
หนังสือ&e-book
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54068.msg3389162#msg3389162