ทาสแค้น {พี่หมอ-น้ำฝน} [END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ทาสแค้น {พี่หมอ-น้ำฝน} [END]  (อ่าน 1134779 ครั้ง)

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
เหมือนกระทั่งชอบน้ำฝนเหมือนกันใช่ไหมค่ะ555

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
กลัวพี่หมอจะเสร็จหมออรจุง

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ awfsp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
Chapter : 100 : หนี
[น้ำฝน...♡]

 

ไม่นึกไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าพี่หมอจะมารอรับ ดีใจครับ เพราะนั่นหมายความว่าพี่หมอไม่แคร์ว่าใครจะมองยังไง และมีผมเพียงคนเดียวเท่านั้น แอบกลัวพี่หมอจับได้แทบตาย เรื่องพี่ชาร์จ แต่พี่หมอคงไม่รู้หรอก

ผมยังรู้สึกไม่สบายใจเรื่องหมออร แต่ก็ต้องเชื่อใจคนที่ผมรัก

วันนี้ผมกับพี่หมอสัญญากันไว้ว่าจะไปเที่ยวกันครับ พอแต่งตัวเสร็จลงไปข้างล่าง ก็เห็นแขกหน้าประจำนั่งโบกมือให้แล้ว

“พี่หมอนนท์” ผมทักทาย

“จะไปไหนกัน” พี่แกถาม

“ดูหนังครับ”

พี่หมอนนท์ตาวาว

“บังเอิญจัง วันนี้พี่ชวนไผ่เขาไปดูหนังด้วยเหมือนกัน”

“ชวนหรือบังคับ” เสียงเขียวๆ ของไผ่ดังมาจากชั้นสอง มันแต่งตัวเท่ตามสไตล์มันลงมา “ไปดูหนังกันเหรอ” แล้วถามผมต่อ

ผมพยักหน้ารับ หันไปมองพี่หมอ เหมือนพี่หมอจะอ่านใจผมได้ พยักหน้าเบาๆ ที

“ไปด้วยกันไหม หรือพี่หมอนนท์อยากไปกับไผ่แค่สองคน”

“ไปด้วยกันนั่นแหละดีแล้ว” ไผ่รีบบอกก่อนที่พี่หมอนนท์จะขยับปากพูดอะไร “กูไม่อยากไปกับมันสองคน”

พี่หมอนนท์ยักไหล่

“ยังไงก็ได้ ไปหลายคนก็สนุกดี”

พวกเราพากันก้าวออกจากบ้านตรงไปห้างดัง แวะซื้อตั๋วหนังกันก่อน มีเวลาอีกเป็นชั่วโมง เราเลือกเดินเล่นกันใกล้ๆ โรงหนังเพื่อฆ่าเวลา จริงๆ ต่อให้มีคู่ไผ่มาด้วย มันก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับผมกับพี่หมอในการแสดงความใกล้ชิดต่อกันเลย พี่หมอกุมมือผมไว้ตลอดเวลา ยิ่งฝ่ามือของเราแนบผสานกันมากเท่าไหร่ ผมยิ่งมั่นใจว่าพี่หมอไม่มีทางนอกใจผมแน่ๆ

มีคนเลียบเคียงเข้ามาขอถ่ายรูปผมกับพี่หมอบ้าง ซึ่งผมกับพี่หมอก็ยืนให้ถ่ายด้วยดีๆ เพราะความเคยชิน แฟนคลับไผ่มันเยอะเหมือนกันครับ มีคนขอถ่ายรูปเพียบ ซึ่งมันก็ยอมให้ถ่ายดีๆ เหมือนกัน

อ้อ ผมลืมบอก ไผ่มันถูกคัดเลือกให้เป็นเดือนคณะด้วย คือมันถูกคัดเลือกให้เป็นเดือนคณะแบบไม่ต้องมีคู่แข่งเทียบเคียงเลย ทุกคนโหวตให้มันคนเดียว แต่ผู้หญิงต้องประกวด เพราะมีตัวเลือกหลายคน เป็นไงเสน่ห์เพื่อนผม กินขาดไหมล่ะ

“พี่ไผ่ๆ พี่คนนี้เป็นแฟนพี่ไผ่หรือเปล่าคะ เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ”
น้องคนที่เข้ามาขอถ่ายรูปถาม ไผ่หน้าบึ้งขึ้นมาทันที ในขณะที่พี่หมอนนท์หัวเราะ แต่ไม่พูดอะไร มันเอียงคอลง 45 องศา สีหน้าประหนึ่งจะระเบิดโลกให้ไหม้เป็นจุณ น้องหน้าซีด

“ขอโทษค่ะ หนูแค่สงสัย แต่เป็นก็ดีค่ะ พวกหนูแอบเชียร์”
แล้วน้องก็รีบขอตัววิ่งหนีไปก่อนระเบิดจะลง ผมขำจนตัวโยน

“ถ้ามึงไม่หยุดหัวเราะ กูจะกระทืบจนผัวมึงเป็นหม้ายลงตรงนี้เลยฝน”

“พาลนะมึง”
ปากผมตำหนิก็จริง แต่ตัวถอยร่นไปซ่อนอยู่ด้านหลังพี่หมอ พี่หมอหัวเราะหึๆ

ผมกระซิบบอกอะไรบางอย่างครับ ผมว่าเพื่อนผมเริ่มมีใจให้พี่หมอนนท์แล้วล่ะ ไม่ก็ความผูกพัน แต่ศักดิ์ศรีค้ำคอมันอยู่ มันเลยไม่ยอมรับสักที ส่วนพี่หมอนนท์ความอดทนเป็นเลิศพอๆ กับความหน้าด้านหน้าทน เทียวไล้เทียวขื่อจนตอนนี้พ่อกับแม่เริ่มสงสัยมาเลียบๆ เคียงๆ ถามผมกับพี่หมอแล้ว

ผมว่าพ่อกับแม่ไม่โง่ ขนาดแฟนคลับมันยังดูออก นับประสาอะไรกับผู้ใหญ่

ผมกับพี่หมอตกลงใจกันว่าจะให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ พิสูจน์ว่าพี่หมอนนท์รักไผ่มันได้ยาวนานแค่ไหน และเมื่อไหร่ไผ่มันจะใจอ่อน

เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้

เราได้ตั๋วหนังแบบเรียงกันสี่ที่ พี่หมอนนท์นั่งก่อน ตามด้วยไผ่ผมและพี่หมอ ผมนั่งกอดแขนคนตัวสูง หัวซบต้นแขนแกร่ง สองมือเรากุมประสาน แอบขำนิดหน่อยตรงที่พี่หมอนนท์คงอยากสวีทกันแบบคู่ผมบ้างถึงได้พยายามดึงมือไผ่ไปกุม มันยื้อแน่นอนอยู่แล้ว แต่รายนั้นมือตุ๊กแกกว่า สุดท้ายมันต้องยอมให้มือตัวเองถูกครอบครองไว้ไม่ต่างกับผม

ผมไม่สนใจอะไรอีก นอกจากหนังและคนข้างตัว กระทั่งหนังจบเรื่อง

เราพากันออกจากโรงหนังไปเดินเล่นกันต่อ ช็อปปิ้งสไตล์ผู้ชายนั่นแหละครับ สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันระหว่างไผ่กับพี่หมอนนท์คือเขาค่อนข้างจะแต่งตัวแนวเดียวกัน ชอบอะไรที่เป็นมังกรเหมือนกันด้วย(อันนี้ผมรู้มาจากพี่หมออีกที) จริงๆ ถ้าไม่ติดเรื่องว่าเป็นผู้ชาย(ที่ถึกเหมือนกัน) ผมว่าพวกเขาสองคนก็เป็นคู่ที่เหมาะสมกันดีนะ ความชอบกับรสนิยมการใช้ชีวิตก็ไปด้วยกันได้ดีทีเดียวเชียว

แต่ก็นั่นแหละ ปัญหาหลักคือดันเป็นผู้ชาย(ถึกมาก)ด้วยกันทั้งคู่นี่แหละ

ปัญหาใหญ่ด้วย = =

และตอนนี้ผมก็กำลังยืนมองคนสองคนถกกันเรื่องสีของเสื้อที่จะซื้อ ไผ่มันอยากได้สีดำมิดไปเลย แต่พี่หมอนนท์ยืนยันว่าน้ำตาลเข้มจนดูคล้ายดำเหมาะกับมันมากกว่า ซึ่งผมเห็นด้วยกับพี่หมอนนนท์นะ เพราะสีน้ำตาลเข้มเหมาะกับมันมากกว่าจริงๆ ถ้ามันมาให้ผมเลือกให้ ผมก็จะเลือกสีนั้นแหละให้มัน

ไม่รู้ว่ามันต้องการสีดำมากจริงๆ หรือแค่ต้องการเอาชนะพี่หมอนนท์จัดๆ กันแน่ สุดท้ายมันก็เดินหน้าบึ้งเข้ามาหาผม

พี่หมอนนท์วินไปตามระเบียบพัก = =

“ใครจ่ายอะไผ่”
ผมถามอย่างเสือกรู้อีกรอบ

“มันเลือกก็ให้มันจ่ายเองสิ เสือกยุ่งกับชีวิตกูดีนัก จะถลุงให้หมดตัว”

พี่หมอหัวเราะ

“ยาก เห็นมันทำตัวไม่ฟุ้งเฟ้อแบบนั้น แต่จริงๆ ครอบครัวมันรวยมากนะ เพียงแต่ไม่อยากรับมรดกที่ตัวเองไม่ได้หามาเองแค่นั้นเอง”

ไผ่กรอกตาขึ้นฟ้าไม่ใส่ใจอะไร ผมได้ชุดให้พี่หมอสองชุด พี่หมอก็ได้ชุดของผมสองชุดเหมือนกัน

“ฝน นี่เหมาะกับมึงดีนะ”

ผมหันไปมองตามปลายนิ้วไผ่ไปยังเป้าหมาย จนเห็นชั้นในลายหน้าหมา ผมเจาะยางมันไปที มันหัวเราะร่วน

หลังจากนั้นพวกเราก็พากันไปหาอะไรกิน ผมกับพี่หมอนนท์ทำหน้าที่สั่ง เพราะรู้ใจคนของตัวเองดีที่สุด

ผมว่าดูๆ ไป สีสันของคู่มันก็คงอยู่ที่ความดื้อไม่ยอมคนอย่างไร้สาระของไผ่นี่แหละ และดูเหมือนพี่หมอนนท์จะชื่นชอบซะด้วย

ผมหยิบทิชชู่มาเช็ดปากให้พี่หมอเบาๆ รายนั้นมองผมตาเชื่อม แล้วอยู่ๆ ก็ก้มหอมแก้มผมเฉย ผมฟาดแขนคนตัวสูงไปเบาๆ ที

“อายคนอื่นเขาบ้าง”

“ผิดตรงไหน หอมแก้มเมีย”

“ผิดตรงที่ตอนนี้เราอยู่กันข้างนอก”

“งั้นกลับบ้านไปพี่จะหอมมากแค่ไหนก็ได้ใช่ไหม”

ผมหน้าร้อนผ่าวไปกับคำนั้น ผลักคนที่เอียงหน้ามากระซิบพูดประโยคเมื่อกี้ พี่หมอหัวเราะหึๆ ไม่กินเองครับ โอกาสให้เมื่อไหร่ พี่แกจะกลายเป็นหมอง่อยขึ้นมาทันที นั่งเฉยให้ผมป้อน

แน่นอน ว่าผมก็ต้องป้อนอยู่แล้ว หึๆ

“จะอ้วกว่ะ”
อยู่ๆ ไผ่มันก็พูดขึ้นมาทำสีหน้าเลี่ยนๆ ใส่ พี่หมอนนท์ชะงักกึกหันไปมองหน้าไผ่ทันที

“แพ้ท้องเหรอ”
พี่แกถามหน้าซื่อ ไม่รู้ว่ากวนหรือว่าถามจริงกันแน่ ผมเกือบพ่นของที่กินอยู่ พี่หมอเองก็แทบพ่นเหมือนกัน ได้ยินเสียงปึ้กใต้โต๊ะ ให้เดาคงเกิดสงครามใต้โต๊ะแน่ๆ ถ้าพี่หมอนนท์ไม่โดนลูกเตะก็คงเป็นลูกถีบหรือลูกกระทืบสักอย่าง(ได้ยินบ่อยครับ)

คันปากอยากแซวเหมือนกัน แต่รู้ว่ามันไม่เหมาะ คือคู่ผมแซวได้ เพราะคนรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน แต่ของไผ่ยังอยู่ในสถานะปิดบัง ผมไม่ควรเป็นชนวนให้คนอื่นสงสัย

ไผ่ปล่อยแสงเลเซอร์ใส่พี่หมอนนท์ พี่หมอนนท์ยิ้มรับ

“ว้า คิดว่าน้ำยาได้ผล จะได้รวบหัวรวบหางส่งคนที่บ้านไปสู่ขอ”

“มึงเลิกคิดอะไรอุตริชวนให้กูอยากไปกระโดดน้ำตายนะ แค่ทุกวันนี้ก็นรกสำหรับกูอยู่แล้ว”

พี่หมอนนท์ยกยิ้ม มองมันด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ผมหน้าร้อนผ่าว เพราะสายตาแบบนี้ คล้ายพี่หมอเวลาจะแกล้งอะไรผมสักอย่าง

“อ้าว คิดว่าทำหน้าที่ดี พาขึ้นสวรรค์บ่อยๆ ซะอีก”

อ๊ากกกกกกกกกกกกกก ตัวผมระเบิดบึ้มในทุ่งข้าวสาลี

กูรู้แล้วว่าทำไมพี่หมอกับพี่หมอนนท์เป็นเพื่อนสนิทกันได้ เห็นนิ่งๆ แต่แอบเสี่ยวกันทุกคน

ได้ยินเสียงสหบาทาด้านล่างอีกโครมใหญ่ พี่หมอนนท์ทำสีหน้าเจ็บปวด แต่ริมฝีปากกับดวงตาประดับไปด้วยรอยยิ้มพอใจ

เอ่อ.. ผมว่าพี่ออกแนวซาดิสม์นะ เจ็บตัวแล้วมีความสุขเนี่ย = =

ผมเลิกเสือกเรื่องคนทั้งคู่หันมาเอาใจพี่หมอต่อกระทั่งกลับบ้าน







 
วันนี้วันอาทิตย์ครับ

วันเกลือกกลิ้งแห่งชาติ พี่หมอเข้าเวร ไผ่ถูกพี่หมอนนท์ลากตัวไปกกตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้ผมจึงอยู่บ้านคนเดียว

เบื่อจัง

ผมนึกอะไรออกเด้งตัวลุก ไม่ได้กลับบ้านไปหลายวัน แวะไปหาพี่ฟ้าแล้วทำอาหารไปให้พี่หมอที่โรงพยาบาลดีกว่า ผมรีบแต่งตัว เอาให้น่ารักที่สุดเท่าที่จะน่ารักได้ ขับรถตรงไปบ้าน เห็นพี่ฟ้านั่งเอกเขนกอ่านหนังสืออยู่บนชิงช้า พี่ฟ้ายิ้มทันทีที่เห็นผม

“ลมอะไรหอบมา”

ผมบู้หน้า

“พูดเหมือนผมไม่ใช่คนบ้านนี้”

“ไม่ใช่แล้ว”
พี่ฟ้าแซวยิ้มๆ ผมมีข่าวดีมาบอก ตอนนี้พี่ฟ้ามีคนรู้ใจแล้วครับ เป็นหนุ่มลูกครึ่ง อย่างหล่อเชียว และตอนนี้เขาคนนั้นก็นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน เป็นเชฟครับ เชฟดังด้วย แวบมากินอาหารฝีมือพี่ฟ้า ไม่รู้ติดใจอาหารหรือแม่ครัวกันแน่ ถึงได้แวะมากินบ่อยๆ จนตอนนี้พี่แกแทบจะกลายเป็นแขกประจำบ้านไปแล้ว ผมยกมือไหว้คนตัวสูง

“กินไรมารึยัง” พี่ฟ้าถาม

“ยัง จะมาทำปิ่นโตไปให้พี่หมอ”

พี่ฟ้าทำสายตากรุ้มกริ่ม วางหนังสือลงเดินตรงเข้าครัวไปกับผมโดยมีเชฟหนุ่มสุดหล่อเดินตามมาเป็นผู้ช่วย

“เจนนี่ น้องสาวพี่เป็นแฟนคลับแซมกับฝนด้วย” พี่จิมมี่บอกด้วยลิ้นลูกครึ่ง ชัดแบบไม่ชัด ผมเลิกคิ้วมอง บอกขอบคุณไป

ผมทำอาหารไปลอบมองพี่สาวกับพี่จิมมี่ไป เห็นพี่สาวยิ้มแล้วผมก็พลอยดีใจตามไปด้วย สิ่งนี้แหละที่ผมต้องการเห็น

หวังว่าคนนี้จะรักพี่ฟ้าสุดหัวใจ และไม่ทอดทิ้งพี่ฟ้าเหมือนที่ใครบางคนเคยทำ

ผมตรวจสอบดูปิ่นโตของตัวเอง บอกลาพี่ฟ้า ขับรถตรงไปโรงพยาบาล ผมไม่ได้โทรบอกล่วงหน้า กะว่าจะเซอร์ไพรส์สักหน่อย
 
แล้วผมก็ได้เซอร์ไพรส์จริงๆ ครับ

ผมเม้มปากแน่น มองคนสองคนที่กำลังจูบกันอยู่ในห้องพักแพทย์

บังเอิญ

บังเอิญมาก

ดีแค่ไหนแล้วที่มาเห็นตำตาแบบนี้ ผมจะได้รู้ไว้ว่าสิ่งที่พี่หมอพูดเชื่อได้จริงแท้แค่ไหน

ผมก้มมองปิ่นโตที่ถือไว้ในมือ น้ำตาร่วงผล็อยตกพื้น

“อ้าว น้องฝน มาหาคุณหมอเหรอคะ” พี่ณีย์เดินผ่านมาพอดี “คุณหมอเบรกอยู่ ไปหาซิคะ ว้าย น้องฝนร้องไห้ทำไม”
เธอรีบเข้ามาปลอบ ผมยืนสะอื้น พี่ณีย์หันรีหันขวาง ผมปาดน้ำตากลืนน้ำลาย

“ไม่มีอะไรครับ รบกวนพี่ณีย์ช่วยเอานี่ไปให้พี่หมอทีนะครับ”
ผมยื่นปิ่นโตไปให้ หันหลังวิ่งลิ่วๆ หนีมา พี่ณีย์ตะโกนเรียกตามหลัง แต่ผมไม่คิดจะหันกลับ วิ่งตรงไปยังลานจอดรถ

คนสับปลับ ไม่รักษาสัญญา ไหนว่าจะรักจะซื่อสัตย์ แค่นี้ก็ทำไม่ได้

ผมขับรถไปร้องไห้ไป เสียงมือถือดังเบาๆ หน้าจอโชว์หน้าพี่หมอหรา แต่ผมไม่คิดจะรับ กดตัดสายแล้วปิดเครื่องเลย

ผมปล่อยโฮออกมาเสียงดัง ไม่มีใครได้ยินอยู่แล้วนี่ ผมขับรถไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะไปสิงอยู่ที่ไหนดี ไปบ้านเพื่อน พี่หมอก็ตามตัวได้ทุกคน กลับบ้านพี่หมอก็โทรตามเจอ ตอนนี้ผมไม่พร้อมเจอพี่หมอจริงๆ ผมวนรถไปเรื่อยๆ กระทั่งมาจอดอยู่หน้ามหา’ลัย

จะมาทำไมเนี่ย

มันคงเป็นอีกสถานที่ที่ผมรู้สึกคุ้นเคยล่ะมั้ง

ผมวนรถไปจอดไว้ไม่ห่างประตูทางออก ประตูรั้วเปิดไว้ทุกวัน วันนี้มีคนมาน้อยนิด ส่วนใหญ่เป็นพวกเตรียมงานกีฬา ผมเดินไปทิ้งตัวลงนั่งยังใต้ต้นไม้ที่ผมชอบมานั่งทอดหุย มันเป็นต้นไม้ใหญ่ เก่าแก่มาก ผมแนบหน้าลงกับเข่า เหม่อมองทิวไม้ที่กำลังไหวเอน

กรีดน้ำตาออกจากหางตาเบาๆ

บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะทำยังไงกับอนาคตต่อไปดี ไม่คิดไม่ฝันว่าจะโดนคนรักนอกใจ

“น้ำฝน”
ผมสะดุ้งเฮือก หันไปมอง

“พี่หมอ…”
ผมครางเรียก ก่อนกะพริบไล่หยาดน้ำตาที่หลั่งรินออก จ้องมองคนตรงหน้าดีๆ

ไม่ใช่พี่หมอครับ แต่เป็นคนหน้าเหมือนพี่หมอ

“พี่ภูมิ”

ผมรีบปาดน้ำตาออกลวกๆ

“ขอโทษครับ ผมคิดว่าเป็นพี่หมอ”

พี่ภูมิขมวดคิ้วมอง

“ร้องไห้ทำไม”
พี่แกถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง พอฟังดีๆ แล้ว ผมว่าเสียงพี่ภูมิไม่เหมือนเสียงพี่หมอนะ เสียงพี่ภูมิไม่ทุ้มต่ำเท่าพี่หมอ แต่จังหวะการพูดคล้ายกัน

“เปล่า”
ผมปฏิเสธทั้งๆ ที่หลักฐานค้านอยู่เต็มหน้า

“ทะเลาะกับพี่หมอมาเหรอ”

“เปล่า”
ผมปฏิเสธอีกรอบ พี่ภูมิถอนหายใจ วางมือไว้บนหัวผม

“กินติมไหม พี่เลี้ยง”

ผมส่ายหัว ไม่มีอารมณ์อยากกินหรอกตอนนี้

“แต่พี่อยากกิน ไปเร็ว เดี๋ยวไม่ทัน”
พี่ภูมิจับมือผมลากให้ถลาไปทางหน้ามหา’ลัย มืออีกข้างก็โบกเรียกไอติมรถเข็นไหวๆ รถเข็นที่กำลังขับผ่านเบรกกึกตัวโก่ง เลี้ยววนมาหา เป็นไอติมแท่งครับ แบบแท่งละสิบบาท ในถังสี่เหลี่ยม

“ชอบกินรสไหน”
พี่แกถาม ผมยังอึ้งไม่หาย

แต่พี่ภูมิเป็นลุงรหัสผมนี่ จะดูแลเทคแคร์ผมดีก็ไม่แปลก ผมไล่น้ำตาทิ้ง ชี้เอารสกะทิมาหนึ่ง พี่ภูมิเลือกกินแบบเดียวกัน

แล้วพี่แกก็พาผมไปนั่งอยู่ข้างทาง บนอิฐประสานที่เรียงประดับกั้นระหว่างพื้นหญ้าและถนนคอนกรีตภายในมหา’ลัย

มันแทบไม่มีรสชาติ ไม่ใช่มันไม่อร่อย แต่ผมกำลังเสียใจ

“ไม่อร่อยเหรอ”

“เปล่าครับ”

“ละลายหมดแล้ว”

ผมรีบเลียกินทันทีอย่างช่วยไม่ได้

“บอกพี่ได้รึยังว่าทะเลาะอะไรกับพี่หมอมา”

ผมเม้มปากแน่น หันไปมองพี่ภูมิ น้ำตาพากันเอ่อล้นอีกรอบ

“พี่ภูมิเคยโดนคนรักนอกใจไหม”

พี่ภูมินิ่งค้าง ก่อนพยักหน้ารับ

“เคยสิ เขาไปนอนกับผู้ชายคนอื่น จับได้คาหนังคาเขาเลย”

ผมเบะหน้า ภาพพี่หมอจูบหมออรลอยเด่นขึ้นมาในสมอง

“พี่หมอนอกใจฝนเหรอ”

ผมไม่ตอบ

“ไม่น่าเชื่อนะ พี่ว่าพี่หมอเขารักฝนมาก คงไม่ทำแบบนั้นหรอก”

“ผมก็ไม่เชื่อ ถ้าบังเอิญไม่เห็นตำตา”

“เห็นขนาดไหน”

ผมกลืนน้ำลาย น้ำตาร่วงเต็มพื้น

“จูบกันในห้องสองต่อสอง”
ถึงห้องนั้นจะมีคนเดินเข้าเดินออกก็เถอะ จูบกันแบบไม่กลัวว่าใครจะมาเห็นนั่นก็ยืนยันได้แล้วว่าพี่หมอไม่แคร์ใครจริงๆ

พี่ภูมิไม่พูดอะไรอีก ดึงผมเข้าไปกอดเบาๆ

ไม่เหมือน…

อ้อมกอดพี่ภูมิไม่เหมือนพี่หมอ ผมอยากได้อ้อมกอดของพี่หมอ

“เข้มแข็งไว้นะ อาจไม่มีอะไรก็ได้ หรือไม่ก็แค่ความต้องการทางร่างกาย นิสัยผู้ชาย ฝนก็รู้”

“พี่หมอสัญญาไว้แล้วว่าจะไม่นอนกับใครนอกจากผม”
พี่ภูมิถอนหายใจแรง ไม่ได้พูดปลอบอะไรต่อ โยกตัวผมไปมาเบาๆ
 
...80% ...





“กลับยังไง”
พี่ภูมิถามหลังจากนั่งปลอบผมอยู่นาน ผมส่ายหัว

“ไม่อยากกลับบ้าน”

“ไปค้างบ้านเพื่อนสักคนก็ได้”

ผมส่ายหัวอีกรอบ

“พี่หมอตามตัวได้ ผมยังไม่พร้อมจะเจอหรือพูดคุยกับเขาตอนนี้”

พี่ภูมินิ่งคิด

“งั้นไปบ้านพี่ก่อนไหม”

ผมมองตาคนชวน ดวงตานั้นฉายแววเป็นห่วงจริงๆ ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครแล้วจริงๆ ผมพยักหน้ารับ

“แล้วพี่ไม่ติดธุระอะไรเหรอ”

“เรียบร้อยแล้ว พี่มาช่วยเพื่อนคุมเด็กดูแลอุปกรณ์เชียร์ที่สั่งไป”

ผมพยักหน้า พี่ภูมิชวนให้ลุกยืน “พี่เอามอ’ไซค์มา ทิ้งไว้ที่นี่ละกัน พรุ่งนี้ค่อยมาเอา” แล้วพี่แกก็แบมือมาด้านหน้า ผมมองงงๆ พี่ภูมิยิ้มนิดๆ

“ให้พี่ขับดีกว่า เราไม่รู้เส้นทาง”

ผมล้วงหยิบกุญแจรถตัวเองมายื่นให้ พี่ภูมิดูพวงกุญแจ มันเป็นรูปผมกับพี่หมอยืนกุมมือกันไว้ พี่ภูมิไม่พูดอะไร พากันเดินตรงไปที่รถ ขึ้นประจำตำแหน่งขับตรงไปบ้านตัวเอง ไกลอยู่เหมือนกัน เป็นบ้านในหมู่บ้านย่านคนมีตังค์ สมหนังหน้าอยู่หรอก ประตูก็ระบบอัตโนมัติ

ทำถูกไหมนะ มานอนค้างบ้านคนอื่นโดยไม่บอกกล่าวแบบนี้

แต่ช่างเถอะ วันนี้ขอผมทำใจก่อน พรุ่งนี้ค่อยกลับไปจัดการ

พี่ภูมิยื่นผ้าเช็ดตัวให้พร้อมเสื้อผ้า เห็นบอกว่าเป็นของน้องชาย เรียนอยู่ที่เดียวกันนี่แหละแต่คณะวิศวะ วันนี้คงไม่กลับเพราะค้างบ้านเพื่อน ผมรับมาถือไว้เดินเข้าห้องน้ำไปแล้วกลับออกมาอีกรอบ

พี่ภูมิเข้าไปอาบต่อเพราะเหนียวตัวจากการช่วยงานที่มหา’ลัย ผมนั่งเหม่ออยู่ในห้องแสนกว้างนั้น กว้างกว่าห้องผมกับพี่หมอซะอีก ไม่นานพี่ภูมิก็ออกมาในสภาพไม่ต่างกับผม เสื้อยืดกางเกงขาสั้นเหนือเข่าเก่าๆ สบายๆ

“คนที่มหา’ลัยไม่เคยเห็นพี่สภาพนี้หรอกนะ ฝนคนแรก”

ผมขำออกมาเบาๆ

“แก้ผ้าก็หล่อ”

พี่ภูมิชะงักไปกับคำผม

“ผมหมายถึง ต่อให้นุ่งลมห่มฟ้าก็ยังหล่ออยู่ดี”
ทำไมประโยคมันไม่ไกลกันเลยวะ พี่ภูมิทำหน้าพิพักพิพ่วน หรือว่าจะแอบรังเกียจผมอยู่ลึกๆ

“เอ่อ เพื่อเป็นการตอบแทนที่ให้ที่พักพิงคืนนี้ ผมขอทำมื้อเย็นให้กินละกัน”
ผมพูดเรื่องอื่นไปแก้เก้อ ต่อให้เป็นลุงรหัส พี่แกอาจรับเรื่องนี้ไม่ได้ก็ได้

พี่ภูมิพยักหน้ารับทันที พาผมเดินลงไปชั้นล่าง บ้านกว้างดีครับ ดูสมกับเป็นผู้ดี แม่บ้านเดินมาถามความต้องการ พี่ภูมิปฏิเสธ บอกว่าผมจะทำให้กิน ใช้เวลาไม่นานหรอกครับ เพราะเครื่องครัวครบอยู่แล้ว ไม่เกินครึ่งชั่วโมง อาหารสี่อย่างก็มาวางแหมะไว้ตรงหน้า พี่ภูมิมองอึ้งๆ

“เร็วจัง”

“พ่อครัวนี่”
ผมตักข้าวให้ ไม่ต่างกับของตัวเอง พี่ภูมิตักกิน ตาโตทันที

“อร่อย”

ผมยิ้มออกมาทันที

“งั้นกินให้หมด”

“ท้องแตกตาย”

ผมหัวเราะ

“พี่หมอนี่โชคดีนะ ได้เมียทำอาหารเก่ง” พอพูดจบพี่ภูมิก็ชะงัก “โทษที” แล้วก็ก้มหน้าก้มตาตักข้าวกิน

“ได้ข่าวว่าพี่ภูมิเป็นนายแบบ”

“แค่จ๊อบพิเศษ ไม่ได้โด่งดังอะไร พี่ว่าฝนกับพี่หมอดังกว่าพี่อีก”

ผมหน้าเฝื่อนลง

“โทษที จะพยายามไม่พาดพิงถึงเขาคนนั้นอีก”
พี่ภูมิกินแทบไม่เหลือ ส่วนผมกินไปได้แค่ไม่กี่คำก็อิ่มแล้ว
 



ผมนั่งๆ นอนๆ อ่านหนังสือที่อยู่ในห้องพี่ภูมิ

“พี่ชอบอ่านหนังสือเหรอ”

“อืม”
พี่มันตอบรับแค่นั้น เหมือนพี่หมอเลย

แล้วผมจะไปคิดถึงเขาทำไม

ผมรีบสลัดภาพพี่หมอทิ้ง ไล่มองหนังสือของพี่ภูมิ มีทั้งหนังสืออ่านเล่น การ์ตูนสำหรับเด็กผู้ชายและหนังสือพวกความรู้และหนังสือเรียนเต็มไปหมด ครึ่งหนึ่งเป็นภาษาต่างประเทศ พอไล่ดูจนเบื่อพี่ภูมิก็ชวนดูหนัง

“พี่ไม่มีแฟนเหรอ”
ผมถามเพื่อหาเรื่องคุยในระหว่างรอหนังฉาย ดูอยู่ในห้องพี่แกนั่นแหละ มีโซฟาตัวเบ้อเร่อ

“เลิกกันแล้ว”

“ขอโทษ แล้วทำไมไม่หาใหม่ล่ะครับ”

พี่ภูมิยักไหล่

“ยังเจ็บอยู่มั้ง”

“ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ปีที่แล้ว”
โห ก็ไม่นาน มิน่า

“ไม่น่าเชื่อเนอะว่าเขาจะทำได้”

“ก็เหมือนฝนนั่นแหละ ดีขนาดนี้พี่หมอนอกใจได้ไง” พี่ภูมิชะงักไปอีกรอบ “ขอโทษ”

ผมหันกลับมากอดเข่า หนังฉายพอดี เราจึงเลิกพูดอะไรใส่กันอีก ผมนั่งหนาวสะท้าน นึกไปถึงช่วงเวลาที่ผมนั่งดูหนังกับพี่หมอ เป็นช่วงเวลาที่ผมเป็นสุขจริงๆ พี่หมอไม่เคยปล่อยให้ผมนั่งดูหนังอย่างเดียวดายเลย แต่จะโอบกอดผมไว้ หรืออย่างน้อยๆ ก็จะต้องให้ผมพิงอก พิงต้นแขน แขนหนึ่งโอบกอดผมไว้อย่างอบอุ่น

“หนังมันไม่ได้เศร้านะ จะร้องไห้ทำไม”

ผมหันไปมองคนพูด พี่ภูมิจ้องตาผม เลื่อนมือมาเกลี่ยหยาดน้ำตาออกให้เบาๆ

“พี่ชอบเวลาฝนยิ้มมากกว่านะ มันสว่างไสวดี”

ผมสะอื้นในอกเบาๆ อยากยิ้มอยู่เหมือนกัน แต่ยิ้มไม่ได้ พี่ภูมิดึงผมไปกอดแนบอก ไม่พูดอะไรอีก ลูบหัวผมแผ่วเบา ผมแทบดูหนังไม่รู้เรื่อง ไม่คิดว่ามันจะเจ็บปวดขนาดนี้ ผมร้องไห้จนเหนื่อย เผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พี่ภูมินั่งพิงพนักโซฟา โอบผมไว้ในอ้อมแขน พอผมตื่น พี่แกก็ตื่น

“เผลอหลับไปตอนไหนเนี่ย”
ผมพูดเก้อๆ ดันตัวออกจากอกกว้างนั้นเบาๆ

“ร้องไห้จนเหนื่อยหลับไปเอง ขึ้นไปนอนบนเตียงก็ได้”

“ผมไม่รบกวนพี่ดีกว่า ผมนอนโซฟาได้”

“เกรงจงเกรงใจอะไร พี่เป็นลุงรหัสเรานะ”

“เอ่อ พี่ไม่รังเกียจผมเหรอ”
ผมถามหยั่งเชิง พี่ภูมิจับหัวผมไว้ ก้มลงมาพูดจนหน้าผากแทบชิดกัน

“เมื่อกี้เรากอดกันร่วมสองชั่วโมง ถ้ารังเกียจพี่คงเตะทิ้งไปนานแล้ว”
ผมพยักหน้าเข้าใจ เดินขึ้นเตียงไป เตียงกว้างดีครับ

พี่ภูมิดับไฟ ผมนอนมองเพดานผ่านความมืด กระทั่งดวงตาชาชินกับมัน ไม่รู้ป่านนี้พี่หมอจะทำอะไรอยู่ นอนกกหมออรหรือออกมาตามหาผม 

น้ำตาผมร่วงอีกรอบ สะอื้นออกมาเบาๆ พี่ภูมิคงได้ยิน รายนั้นขยับพลิกหันหน้ามาหา จับหน้าไว้ กรีดน้ำตาให้เบาๆ ดึงผมไปกอดแน่น ใช้เสื้อตัวเองเป็นที่ซับน้ำตาให้ ลูบหัวปลอบใจ

ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปากของคนตัวสูง มีเพียงสัมผัสอันอ่อนโยนในฐานะรุ่นพี่ที่ดีเท่านั้น




ผมฝันร้ายอีกแล้ว ในฝันพี่หมอกำลังจะเดินจากผมไป ผมพยายามไขว่คว้า เรียกหาจนเจ็บคอไปหมด ผมวิ่ง วิ่ง วิ่งแล้วก็วิ่ง จนตามคนตัวสูงทัน ผมโอบกอดพี่หมอไว้ รัดแน่น แล้วอ้อมแขนอบอุ่นนั้นก็โอบผมกลับ ผมซุกหน้ากับแผงอกกว้าง แผงอกที่ผมโหยหา

“ผมรักพี่นะ” ผมสารภาพ

To be Con

เลิฟพี่ภูมิ นี่ถ้าไม่ติดว่าพี่หมอเป็นพระเอกก็อยากจับน้ำฝนใส่ตะกร้าล้างน้ำยกให้พี่ภูมิเหมือนกัน แต่น้ำฝนเป็นของพี่หมอแล้วววว
รอพี่หมอมาตามล่าหาเมียตอนหน้า เป็นกำลังใจให้พี่หมอกันด้วยน้า 




ประชาสัมพันธ์เล็ก ๆ เจอกันงานตลาดฟิคครั้งที่ 8 บูท A8 นะคะ
หนังสือ&e-book http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54068.msg3389162#msg3389162
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2017 15:19:03 โดย memew »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตอบ ข้อ๑ แรดอร จูบพี่หมอ
หมออร กล้าได้กล้าเสียมาตลอด
ไผ่ จะหาทางลงได้อย่างไรนะ
ชักสงสารพี่หมอนนท์ และ โดนไผ่ทำร้ายบ่อยๆ
พี่หมอ ฝน ช่วยพาไผ่ลงบันไดสักที
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เห็นข้อค.แล้วถึงกับลั่น555+

ป้าบ้าจี้น้า เลือกค.แล้วกันค่ะ ฝักใฝ่สายฮา :hao6:

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฮาก็ตรงข้อสุดท้ายนี่แหละ คิดได้เนอะคนเขียน 555555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีหมออรเอาอีกละ. ยังไม่ละความพยายามนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
รออยู่นะครับรีบมาต่อๆ

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
อร๊ายยยยย
ตอนไหนคู่ไผ่จะเลิฟๆกันนนน
 :z13:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อย่าบอกนะว่าดราม่ามาอีกแล้ว!?

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
วันนี้ 22/09 = วันแรดโลก

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
มองเห็นถึงความวุ่นวายในอนาคต

ออฟไลน์ evanescence_69

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
เหมือนจะจบ แฮปปี้เอนดิ้งไปละ นี่แต่งต่อ เหมือนละครเพิ่มตอนงี้เหรอ

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
เริ่มมองเห็นความน่ารักของไผ่แล้วซึ่งตอนแรกก็คิดอยู่ว่าจะเป็นคู่แบบไหนกัน  :mew5:  แต่พอพี่หมอนนท์แกล้งแหย่บ่อยๆแล้วรู้สึกว่าไผ่ขี้อายกว่าที่คิดมาก


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
โอยยยยยยยยยยยยย
อีพี่หมอมาอธิบายเด๋วนี้
 :z6:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ awfsp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่หมอ พลาด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
พี่หมอแซมหลงกลแรดจนได้  :ling2: :ling2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
พี่หมออธิบายด่วน!!

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
เกิดเรื่องจนได้ ..

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
พี่หมอทำน้ำฝนร้องไห้  :sad4: :katai1:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
อีพี่หมอเอาอีกเเล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว :z3:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
ฝนเอ้ย....พี่หมอไม่นอกใจฝนหรอก

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
งานเข้า!!

ออฟไลน์ HerBerry

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นิยายที่ลำใยที่สุด โทษที ความคิดเห็นส่วนตัว

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ชีวิตคู่แม้ผ่านการแต่งงานแล้ว ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีปัญหาเข้ามาอีกตลอดไป ที่จริงมันก็คือจุดเริ่มของการเผชิญหน้ากับปัญหาอีกรูปแบบหนึ่ง

แล้วเรื่องหมออรคือยังไม่เคลียร์ คนแต่งก็กำลังเคลียร์ปมที่ผูกไว้ให้หมดก่อนจะจบเรื่อง เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบและไม่ดูถูกคนอ่านที่น่าชื่นชม

นิยายสนุกๆ อ่านได้อีกยาวๆเรื่อยๆ ไม่อยากให้ตอนต่อๆไปเป็นตอนจบเลยค่ะ ยังคอยติดตามให้กำลังใจคนแต่งเสมอๆนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ :L2:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด