Chapter : 102 : เดือนพันทาง
[น้ำฝน...♡]
สรุปเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพราะผมเข้าใจผิด แต่แหม เห็นตำตาขนาดนั้นใครจะไม่เชื่อ ดีว่าได้รับการยืนยันมาจากพี่ณีย์ รวมถึงอาจารย์หมอที่โทรมาหาผมโดยตรง ผมละปลื้มปริ่มกับชีวิต ตั้งแต่พี่ดีนไปนอนกินข้าวในซังเต ผมกับพี่หมอก็ถือโอกาสไปเที่ยวหาท่านที่บ้านบ่อยๆ ไปกินข้าวบ้าง ไปทำอะไรให้พวกท่านกินบ้าง จนเหมือนผมกับพี่หมอเป็นลูกของท่านจริงๆ (วันเกิดผมที่ผ่านมาท่านก็ออกเงินซื้อรถให้ผมร่วมกับพ่อผม พ่อพี่หมอ และตัวพี่หมอเองด้วย) บางครั้งก็พากันยกโขยงไปเยี่ยมพี่ดีน ดูท่าพี่แกจะได้ออกจากคุกเร็วกว่ากำหนดด้วย เพราะได้รับพระราชทานอภัยโทษ
หวั่นๆ เหมือนกันว่าออกมาแล้วจะสร้างความเดือดร้อนอะไรอีกหรือเปล่า แต่เท่าที่ไปเยี่ยมก็เป็นผู้เป็นคนแล้วนะ
วันนี้ประกวดเดือนคณะกันแล้วล่ะครับ จะว่าตื่นเต้นก็ตื่นเต้น จะว่าไม่ตื่นเต้นก็ไม่ตื่นเต้น เพราะไงผมก็ว่าผมไม่ได้อยู่แล้ว แน่นอนความสามารถพิเศษของผมนั้นไม่มีอะไรเด่นเลย ยกเว้นเรื่องทำอาหาร ทุกคนขึ้นเวทีกันหมดแล้ว ส่วนผมก็ตระเตรียมสิ่งที่จะโชว์ไปด้วย มันเป็นของที่อยู่ในลังครับ เพื่อนผมแต่ละคนโชว์พาวกันมาก พีมวาดรูป รู้ว่ามันวาดเก่ง แต่ไม่คิดว่าจะวาดได้สวยขนาดนี้ ใช้พู่กันปาดปรื้ดปราดสองสามทีก็ได้ภาพสวยๆ มาโชว์แล้ว หินโชว์เดาะบอลลีลาไม่มีร่วงเลยเป็นร้อยลูก ชวนหวาดเสียวมาก
ส่วนผมให้ไปโชว์ร้องเพลง คนฟังคงเขวี้ยงรองเท้าใส่ โชว์อะไรที่ตัวเองถนัดนี่แหละ ผมยกอุปกรณ์มาวางไว้บนเวที แล้วจัดการเปิดมันออก ทุกคนครางฮือ เพราะผมยกเครื่องครัวมาไว้บนเวที แล้วลงมือเปิดแก๊ส ทำอาหารให้กินกันสดๆ บนเวทีเลย สองหม้อ(ทำพร้อมกันเลย) หม้อแรกเป็นข้าวต้มน้ำฝน อีกหม้อเป็นบัวลอยไข่(ไม่ต้องเติมน้ำฝนนะครับ = =) บางขั้นตอนผมทำเตรียมไว้แล้ว ที่เหลือคือโชว์ลีลาการหั่นผักให้ดู มีควงมีดนิดหน่อย(อันนี้ทำง่ายครับ เปิดยูทูปเอา) ทำให้คนร้องว้ายหวาดเสียวกันเล่นๆ ปรุงรสด้วยความเร็วระดับลูกค้าเอามีดจี้คอหอยเพราะความหิว
ไม่กี่นาที อาหารสองอย่างของผมก็เสร็จเรียบร้อยหอมกรุ่นพร้อมเสิร์ฟ ทุกคนลุกฮือกันขึ้นเพื่อขอเทสรสชาติ แน่นอนว่ามันอร่อยเหาะ
“มึงติดสินบนคณะกรรมการนะฝน”
หินโบกหัวผมทันทีที่ผมแสดงจบ
“แล้วจะให้กูทำอะไร กูทำเป็นอยู่อย่างเดียว”
หลังจากสอบสัมภาษณ์ครบหมดทุกคนก็ถึงเวลาประกาศผล
และแน่นอนว่าผม…
….
...
.
“เสียใจด้วยนะ”
“กูด้วย”
“กูเสียใจกับมึงจริงๆ”
แล้วก็มีเพื่อนๆ อีกหลายคนกรูกันเข้ามาแสดงความเสียใจกับคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ผม
“เสียใจด้วยจริงๆ นะน้ำหวาน ที่ต้องมาเป็นดาวคู่กับเดือนพันทางแบบมัน ชีวิตมึงเกือบดีแล้ว มาตกอับเพราะได้เป็นเพื่อนกับน้ำฝนมันนี่แหละ กูเสียใจกับมึงด้วยจริงๆ”
“ไอ้พวกสารเลว!!”
ผมไล่เตะพวกมันเรียงตัว
ครับ ผมได้ตำแหน่งเดือนคณะไปแบบมึนๆ ไม่คิดว่าจะถูกเลือก ได้มาเพราะเสน่ห์ปลายจวักล้วนๆ โดนทุกคนแซวใหญ่ว่าเพราะงี้ไง พี่หมอถึงได้รักได้หลงจนต้องแห่ขันหมากไปสู่ขอ ผมก็อายแสนอาย ไม่ได้อายที่ได้ตำแหน่ง แต่อายที่โดนแซวเรื่องพี่หมอนี่แหละ
ดีว่ามหา’ลัยเราไม่มีดาวเดือนมหา’ลัย ไม่งั้นงานงอกยิ่งกว่านี้อีก
“กูทำใจไว้แล้ว เสนียดมันแรง ยิ่งทำของใส่อาหารให้คณะกรรมการกิน มีเหรอทุกคนจะไม่หลง” น้ำหวานมันว่า ผมเขวี้ยงเศษกระดาษใส่มันทีแก้แค้นคืน(โบกหัวแบบเพื่อนผู้ชายไม่ได้ครับ เพราะไงมันก็เป็นผู้หญิงให้เกียรติมันหน่อย) ส่วนมันก็ได้เป็นดาวคณะด้วยความสามารถรอบด้าน โดยเฉพาะช่วงตอบคำถาม มันทำได้ดีทีเดียว ส่วนผมตอบคำถามไม่ได้เรื่องครับ เสน่ห์ปลายจวักล้วนๆ จริงๆ
“ถ้าพูดถึงเรื่องหน้าตา หินกับพีมหล่อกว่ามันหลายขุม นี่ถ้ามันไม่ติดสินบน รับรองกรรมการไม่มีทางเลือกมันแน่ๆ”
เอ้า เอากันเข้าไป
ฤดูการรับน้องจบสิ้นลงแล้ว เข้าสู่ช่วงแข่งขันกีฬา คนไม่เอาอ่าวเรื่องกีฬาแบบผมทำหน้าที่กองเชียร์กับเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟอาหารเท่านั้นแหละ(แรกๆ เขาให้เชียร์ หลังๆ โดนเรียกไปทำหน้าที่บริการ) ซึ่งผมอยู่คณะบริหารก็จริง แต่ถูกออกคำสั่งให้ไปเชียร์บาสคณะแพทย์ตามคำสั่งของไผ่มัน ดีว่าคณะผมชิงแพ้ไปตั้งแต่รอบแรก ตอนนี้รอบชิงเป็นของรัฐศาสตร์กับแพทยศาสตร์ครับ
ผมวิ่งวุ่นช่วยคณะตัวเอง จนไผ่มันโทรเรียกให้ไปเตรียมพร้อมที่สนามบาส พวกผมถึงได้พากันเฮโล(แอบหนี)ยกแก๊งไปจับจองพื้นที่ข้างสนามแข่ง แน่นอนชิดขอบสนามเลย เพราะไผ่มันจองที่ให้แล้ว(มึงกล้ามโตมากไผ่)
พอไผ่กับคนในทีมพากันก้าวเข้ามาภายในสนาม เสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่ม
อื้อหือ นั่นกรี๊ดนักกีฬามหา’ลัยหรือนักร้องเกาหลี แต่จะว่าก็ไม่ได้ เพราะก็รู้ๆ กันอยู่ว่าคณะนี้หน้าตาผิวพรรณดีกันขนาดไหน ยกเว้นเพื่อนผมแล้ว ที่เหลือนี่ราวกับเจ้าชาย เพื่อนผมเถื่อนสุดละ แต่เสียงกรี๊ดเรียกชื่อมันนี่ดังกระหึ่มสุด มันเล่นเป็นตัวทำแต้มด้วย
มันลงไปรวมกลุ่มในกลางสนาม สุมหัวพูดคุย แล้วก็มีเสียงเฮ้ดังๆ คล้ายกับจะเรียกพลัง ไผ่รีบตรงดิ่งมาทางพวกผมก่อน
“ถ้าทีมกูชนะ พวกมึงเลี้ยง”
“เอาให้ชนะก่อนเถอะ”
พวกเพื่อนๆ ผมแซว มันยักคิ้วสองจึก มันไปเกรียนคิ้วมันมาด้วยครับ แหว่งหายไปตรงท้ายๆ สองเส้น ลายอย่างเท่
“ขอกำลังใจหน่อยหมาฝน”
“อะไร”
ผมถามงงๆ มันไม่พูดอะไร ดึงผมลุกขึ้นแล้วกอดหมับ เสียงกรี๊ดดังสนั่นไปทั่วทั้งสนามบาส
“ตื่นเต้นฉิบ”
กำลังจะผลักมันออกเพราะอายชาวบ้าน แต่พอมันพูดแบบนี้ผมเลยต้องยอมยืนอยู่นิ่งๆ ให้มันกอด มันกอดผมแน่นขึ้น มันไม่ได้พูดเล่นที่บอกว่าตื่นเต้น เพราะหัวใจมันเต้นแรงมาก ผมกอดตอบบ้าง ตบหลังเบาๆ ให้กำลังใจ
“เล่นให้เต็มที่ แพ้ชนะช่างมัน”
มันคลายอ้อมแขนออก พยักหน้ารับ หันหลังก้าวลงสนามไป ผมทิ้งตัวลงไปนั่งที่เดิม พอสัญญาณเริ่มไผ่มันก็กลายร่างเป็นปีศาจทันที มันเล่นบาสเหมือนต่อยมวย เร็ว แรง ฉับไว เรียกได้ว่าบ้าระห่ำสุดๆ แต่ก็มีความเป็นทีมเวิร์ค ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมีแต่คนชื่นชอบ
“มึงระวังเอาไว้บ้างนะฝน”
น้ำตาลที่นั่งติดผมกระซิบ
“ทำไม”
“แฟนคลับไผ่ จ้องมึงตาเป็นมัน”
“จ้องทำไม”
“มึงมีพี่หมออยู่แล้ว แต่ดันมาอี๋อ๋อกับไผ่ เขาจะหาว่ามึงเป็นนางวันทองสองใจ”
“เพื่อนกูเหอะ”
“นั่นแหละ คนอื่นเขาอาจเข้าใจผิดได้ง่ายๆ ยกเว้น…”
“ยกเว้นอะไร”
ผมหันไปถามมันดีๆ
“ยกเว้นว่ามันจะยอมรับว่ามีตัวจริงอยู่แล้ว”
ผมตาโต
“มึงรู้”
“กูไม่ได้โง่นิ พวกนี้ก็รู้”
มันพยักหน้าไปด้านหลังที่เพื่อนๆ กำลังส่งเสียงเชียร์กันอยู่ “แต่พวกกูไม่พูด เพราะจะรอดูว่ามึงกับไอ้ปากหนักนั่นจะพูดกันเมื่อไหร่”
ผมกลืนน้ำลายลงคอ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่”
มันยักไหล่
“ก็ไม่นาน เอาเป็นว่าตอนแรกแค่สงสัย หลังๆ เห็นตำตา”
ตำตาแบบไหน ผมมั่นใจว่าคู่นี้ไม่ค่อยพลาดในที่สาธารณะแล้วนะ
“มึงรู้ใช่ไหม ฝ่ายตรงข้ามเป็นใคร”
ผมถาม
“รู้ดิ”
“มึงว่าไง” ผมหยั่งเชิง
“ยังไง”
“ฝั่งนู้นรู้สึกยังไงกับคนของเรา แล้วคนของเราล่ะ”
จริงๆ ผมก็รู้อยู่แล้ว แต่อยากรู้ว่าในสายตาเพื่อนๆ คิดเหมือนผมหรือเปล่า น้ำตาลยกยิ้ม
“ทางนู้นน่ะร้อยเปอร์เซ็นต์ ทางเราก็เกินครึ่งแล้ว แต่การยอมรับติดลบ”
ผมตาโต โห มันรู้ขนาดนั้นเลย
“แล้วมึงว่าจะมีความเป็นไปได้ไหมที่มันจะยอมรับ”
น้ำตาลโบกมือไหวๆ
“กูว่าอย่าเลย ให้มันแสดงออกว่าไม่ชอบแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะดูดีกว่า”
“ทำไม”
ผมขมวดคิ้วถามงงๆ
“มึงคิดดูนะฝน ถ้าวันไหนมันยอมรับขึ้นมาแล้วแสดงความรักกับพี่หมอนนท์แบบที่แสดงกับมึง มันจะเป็นยังไง”
ผมคิดภาพตาม ยิ้มแหะๆ ใส่
“ก็จริง”
“เพราะงั้น ปล่อยไปแบบนี้แหละ พวกกูไม่ว่าหรอกถ้ามันจะคบกับพี่หมอนนท์ แต่ที่เคืองคือมันไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟังนี่แหละ มึงก็เหมือนกัน รู้แล้วเก็บเงียบ”
ผมหน้าเจื่อน
“มันจำเป็น”
“งั้นถ้าโอกาสเหมาะๆ บอกความจำเป็นนั้นมา ก่อนที่พวกกูจะเป็นฝ่ายโพนทะนาความลับของมันด้วยตัวเอง”
ผมตาโต แต่เอาจริงๆ ผมว่าพวกมันไม่ทำหรอก คงขู่ไปงั้นเอง ผมพยักหน้าหันไปสนใจคนที่เรากำลังพูดถึงอยู่ต่อ
...................50%..................
สกอร์นำลิ่วจนคณะแพทย์ชนะขาด พวกผมพากันเฮลั่น ไผ่กอดเพื่อนร่วมทีม โห่ร้องอย่างดีใจ ก่อนวิ่งตรงมาทางพวกเรา พวกผมรีบพากันลงไปแสดงความยินดีร่วมกับทีมมันทันที
พอเชียร์บาสเสร็จ พวกผมต้องวิ่งรอกไปเชียร์หินเตะบอลรอบชิงชนะเลิศต่อ สำหรับรายนั้น กำลังใจจากเพื่อนไม่สำคัญเท่ากับกำลังใจจากแฟนมันเองหรอก
ผมกับเพื่อนๆ นั่งรวมอยู่กับเพื่อนของพี่ต้าร์ พอนักกีฬาลงสนามเสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่ม หินถ้ามันไม่รั่ว ผมว่ามันก็เป็นผู้ชายที่หล่อเข้มคนหนึ่งทีเดียว
หลังจากบูมทีมเสร็จมันก็กวาดมองมาทางสแตนเชียร์ สงสัยจะมองหาพี่ต้าร์ พอเจอมันฉีกยิ้มกว้าง ชี้นิ้วมาทางสุดที่รักของมัน เสียงกรี๊ดฝั่งผมดังกระหึ่ม แล้วมันก็เลิกถอดเสื้อออกทางหัว ถือเสื้อไว้ กางแขนออกกว้างให้เห็นตัวหนังสือที่มันเพ้นท์ไว้ด้วยหมึกสีแดงบนแถบดำคล้ายผ้าใบบนลอนหน้าท้องหกห่อสูงขึ้นไปถึงหัวนมด้วยตัวหนังสือภาษาอังกฤษชัดถ้อยชัดคำ
‘LOVE TAR FOREVER’
แค่นั้นแหละ เสียงกรี๊ดที่ดังอยู่ก่อนหน้าดังสนั่นหวั่นไหวยิ่งกว่าเดิม เป็นเสียงกรี๊ดที่เหมือนจะกรี๊ดให้ขาดใจกันไปข้าง
บอกแล้วว่าคู่นี้เขาเปิดเผย
พี่ต้าร์ยิ้มกว้าง ยกนิ้วขึ้นประกบกันเป็นรูปหัวใจวางไว้ตรงตำแหน่งหัวใจตัวเองผลักออกไปด้านหน้าเบาๆ ให้มัน ขยับปากบอก ‘ไอเลิฟยู’
สุดยอด!! บอกรักกันกลางสนาม!!
พอได้กำลังใจ มันก็เหมือนเครื่องยนต์ถูกเติมน้ำมัน เล่นบอลเหมือนพายุทอนาโด
แต่ยอมรับเลยว่ามันเก่งจริงๆ แล้วคณะของเราก็ชนะขาด มีลูกหนึ่งโกล์ต้องวิ่งหนีเพราะหินมันเล่นเตะอัดใส่ผู้รักษาประตูเต็มแรง ผู้คนพากันหัวเราะครึกครื้น
หลังจากจบพิธีและช่วยกันเก็บงานในส่วนที่พอจะเก็บได้ หลายคนร่วมใจกันไปเลี้ยงฉลองกันที่ร้านผมทั้งเพื่อนกลุ่มผม เพื่อนกลุ่มพี่ต้าร์ เพื่อนร่วมทีมของไผ่กับหินบางคน(เฉพาะคนที่สนิทและรู้จักกันดีเท่านั้น) รวมถึงรุ่นพี่ที่สนิทกันหน่อยในคณะผมด้วย(พี่ภูมิ พี่ชาร์จ พี่ทิม พี่มี่ มากันหมดเลย)
ผมโทรบอกพี่ฟ้าแล้ว เพราะงั้นพอมาถึงอาหารจำนวนมากมายก็เตรียมไว้พร้อม ผมโทรบอกพี่หมอแล้วว่าคืนนี้จะค้างที่บ้าน ดีหน่อยว่าพี่หมออยู่เวรดึก
“งานเลี้ยงใดไม่มีสุราเมรัย ถือว่าไม่ใช่งานเลี้ยงที่แท้จริง”
ใครสักคนชูแก้วขึ้นเหนือหัวพูด ทุกคนเฮลั่นเห็นด้วย
กินกันกำลังเมาได้ที่ก็มีคนสองคนเดินโผล่เข้ามา ยังไม่ทันที่ผมจะได้ขยับทำอะไร ตันก็ลุกขึ้นวิ่งพุงกระเพื่อมเข้าไปหาก่อน
“พี่หมอ มาเลยๆ นี่จะมาร่วมแจม หรือมาลากเมียกลับบ้านครับ”
พี่หมอหัวเราะร่วน
“มารอเก็บศพคน”
คำพูดมันคุ้นๆ นะ ผมมองเลยไปยังด้านหลังพี่หมอ เห็นพี่หมอนนท์มองมาทางไผ่ที่หน้าหงิกระดับสิบ
รู้ได้เลยว่าชะตาชีวิตมันกับผมหลังตื่นนอนคืนนี้จะเป็นยังไง
“พี่ขอเอาของขึ้นไปเก็บก่อนนะ”
พี่มันบอกแค่นั้น ถือวิสาสะเดินขึ้นห้องผมไป
“เอ้าฝน ทำไมไม่ไปรับผัวมึงล่ะ”
“ผัวใคร วันนี้กูโสดดดดดด”
“เอ้า เว้ยเฮ้ย ไอ้ฝน ไอ้เดือนพันทาง มึงวอนหาเรื่องให้พี่หมอจับหมกเตียง”
ผมไม่สนใจอะไร ดื่มต่อกระทั่งพี่หมอเดินลงมา อย่างหล่อเลย เพราะพี่แกเล่นยีผมจนยุ่งนิดๆ พับแขนเสื้อขึ้นไปที่ศอก คลายกระดุมออก เนกไทหายไป โหลดอายุให้ต่ำลงมาได้อีกหลายปีเลย
อื้อหือ เห็นแล้วน้ำลายแทบไหล
จากที่ว่าจะไม่สนใจ ผมเปลี่ยนเป้าหมายเป็นลุกขึ้น เดินแถกๆ เซไปสโลว์ซบอกกว้างของคนตัวสูงทันที เสียงหมาเสียงแมวจากที่ไหนก็ไม่รู้ พากันเห่าหอนดังสนั่น แต่ผมหาได้สนใจไม่(เวลาเหล้าเข้าปากแล้วต่อมบางอย่างบนหน้าผมจะหนาขึ้นครับ) พี่หมอได้ที่นั่งที่เดิมที่ผมเคยนั่งส่วนตัวผมเองถูกอันเชิญให้ขึ้นไปนั่งบนตักพี่มันแทน
โห กูก็เพิ่งรู้ว่าที่บ้านเลี้ยงสัตว์ไว้หลายตัวนอกจากพวกวันเวย์กับทูเวย์ ทั้งเห่าทั้งหอนทั้งโห่ แต่ผมไม่สน นั่งเก้าอี้มีชีวิตกินเลี้ยงร่วมกับทุกคน
“หน้าด้านว่ะหมาฝน ไม่อายพี่รหัสมึงบ้าง”
ใครสักคนพูดขึ้น สติผมเริ่มขาดๆ หายๆ
“อ้าว เฮ้ย พี่หมอเอามันไปเก็บเลย ช้ากว่านี้มันคงปล้ำพี่ต่อหน้าพวกเราทุกคนแน่ เมาแล้วหื่น”
ใครสักคนพูดอีก
“เคยเห็นแต่ดาวยั่ว วันนี้มีเดือนยั่วให้เห็นแฮะ”
แล้วหลังจากนั้น ผมก็ไม่รับรู้อะไรอีก
กระทั่งรุ่งเช้า
ผมนอนคว่ำหน้า กระดิกได้แค่ปลายนิ้ว เคล็ดขัดยอกไปทั่วทั้งบั้นเอว ไม่ต้องเดาเลยครับว่าเมื่อคืนผมรุกพี่หมอหนักขนาดไหน ดูจากสภาพเอวตัวเองตอนนี้ กว่าผมจะแงะตัวเองออกมาจากเตียงได้ก็เกือบเที่ยง ซากต่างๆ ถูกเก็บเรียบ เพื่อนๆ ที่เคยอยู่ด้วยกันหายหัว พี่ฟ้ามองมาหน้ายิ้มๆ ผมหน้าร้อนผ่าว ไม่รู้เมื่อคืนเมาแล้วทำอะไรทุเรศๆ ไปไหม
“จำเรื่องเมื่อคืนได้ไหม”
“อะ อะไร”
ผมถามหวาดๆ พี่ฟ้ากลั้นขำ
“หินน่าจะส่งคลิปให้ทางไลน์หรือเฟซแล้วนะ เปิดดูสิ”
ผมตัวชาวูบ รีบล้วงหยิบมือถือมากดเปิดเฟซ มันส่งมาที่กล่องแชท ผมอ้าปากค้างเมื่อแสงสีเสียงมาครบ
ผมไม่ได้โชว์อะไรน่าเกลียดหรอก
แต่แค่โชว์เอ็กซ์ T^T
เพิ่งเคยเห็นตัวเองตอนเมาหนักๆ ก็วันนี้แหละครับ ให้ผมโชว์อะไรทุเรศๆ ยังรู้สึกดีกว่าสภาพที่เห็นตอนนี้เลย พี่หมอเคยด่าว่าผมร่านอย่างเข้าใจผิดมาก่อน แต่สภาพผมตอนนี้มันยิ่งกว่าร่านซะอีก(ถึงจะกับพี่หมอคนเดียวก็เถอะ)
เพราะในคลิป ผมนั่งอยู่บนตักพี่หมอ สองแขนโอบรอบลำคอแกร่งไว้ หันหลังให้กับทุกคน สภาพเนื้อตัวหุ่นเหิ่น ยั่วให้ตาย พี่หมอนั่งกินเฉยๆ ไม่สนใจอะไร มือหนึ่งถือแก้วดื่ม อีกมือโอบประคองเอวผมไว้หลวมๆ เท่านั้น ปล่อยให้ผมทั้งกอดทั้งยั่ว และที่สำคัญ ผมพยายามซุกซอกคอพี่มันด้วย!!!
อ๊ากกกกกก ทำไมพี่หมอกล้าปล่อยให้ผมทำแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น
แล้วนี่พวกพี่ๆ เขาจะมองผมยังไง ไปทำอุจาดต่อหน้าคนอื่นแบบนั้น TT พี่หมอนะพี่หมอ รีบพาผมขึ้นห้องไปเลยก็จบเรื่อง แล้วดูดิสายตาแต่ละคนที่มองมา
โดยเฉพาะสายตาพี่ชาร์จ
หื่นมากกกกกก
ผมทำหน้าเหมือนอมมะนาวเปรี้ยวๆ ไว้สิบกว่าลูก มองหน้าพี่ฟ้า
“เมาแล้วยั่ว”
ยังไม่ทันที่พี่ฟ้าจะได้แซวอะไรผมต่อเสียงมือถือก็ดังขึ้น คนโทรมาคือพี่หมอครับ ผมรีบเดินเลี่ยงไปกดรับสายห่างๆ ใต้ต้นลีลาวดีนั่นแหละ ยืนแงะตาปุ่มมันแก้เขิน
“พี่หมอ”
ผมกรอกเสียงลงไปแผ่วๆ
“ตื่นนานแล้วเหรอ”
“เพิ่งตื่น”
ผมอ้อมแอ้มบอก ไม่อยากบอกว่าปวดเอวฉิบหาย
“เจ็บเอวไหม”
อ๊ากกกก ไม่ต้องถามก็ได้นะ กูไม่ว่ามึงหรอก
“เกิดอะไรขึ้น”
ผมถามไปทั้งที่รู้อยู่แล้ว
“ไม่รู้สิ พี่หลับ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย”
“โกหก ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วผมจะเจ็บเอวได้ไง”
ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆ จากปลายสาย
“เด็กร่าน”
ผมฉุนกึกไปกับคำต่อว่านั้น แต่เหมือนเป็นฉายาแบบน่ารักๆ ของผมไปแล้วมากกว่า โดยเฉพาะเวลาเมาจัดๆ จนจำอะไรไม่ได้ ผมมักจะยั่ว(ตามที่พี่หมอบอก) แล้วเอาตัวไปถวายคนตัวสูงเสมอ
แต่ผมทำแบบนี้เฉพาะกับพี่หมอคนเดียวนะ ไม่ได้ไปแสดงท่าทีแบบนี้เรี่ยราดกับใคร ซึ่งพี่หมอก็รู้ดี
“ร่านแล้วรักป่ะล่ะ”
ผมย้อนกลับบ้าง
“ไม่รักหรอก”
ผมหน้าบึ้งใส่ต้นลีลาวดี ทุบมันไปปักใหญ่อย่างเจ็บใจแทนปลายสาย
“ไม่รักนิดเดียว แต่รักมากกกกกกกกก รักเท่าโอ่งมังกรเลย”
ผมหัวเราะออกมาทันที เพราะมันเป็นคำพูดของผมเองตอนเมา พี่หมอหัวเราะตาม
“หมดเวลาพักเบรกแล้ว พี่ไปทำงานต่อล่ะ นอนพักไปนะ วันนี้น่าจะดึกหน่อย หลับรอเลยก็ได้”
“ให้ผมกลับเองก็ได้นะ”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวหายระหว่างทาง”
“บ้า”
ผมอมยิ้มใส่ต้นไม้ พี่หมอไม่พูดอะไรอีก ตัดสายแล้วไปทำงาน ผมอมยิ้มใส่ต้นไม้อีกที ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัว โดยเฉพาะพ่อกับแม่ที่แอบแซวมาเบาๆ ว่าลูกสาวคนที่สองไม่ค่อยกลับมาเยี่ยมบ้านเลย
TO BE CON....
ตอนนี้หินต้าร์เอาไปกิน เป็นอีกคู่ที่อยากจับแยกแต่งมาก คงฮาพิลึก (ผิดกับพี่หมอนนท์กับไผ่ คู่นั้นออกแนวฮาร์ดคอร์ แต่แบบไหนก็อยากอ่าน (บีบคอตัวเองเขย่าแรง แต่งสิวะ แต่งงงงงงง)
แจ้งข่าว :
ไปสอยหนังสือ Memew ได้ที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ศูนย์สิริกิตติ์ วันที่ 13-24 ต.ค นี้นะคะ ที่บูธ Hermit กับ B2S มีนิยายไปวาง 5 เรื่อง คือ
1. Try Love รักครั ขอจีบได้ไหมครับ อาจารย์ 350.-
2. Brother พี่ตัวร้ายกับนายตัวดี 250.-
3. Hate Love ทาสแค้น 1,300.-
4. Kiss Love รักวุ่นวายนายสุดหล่อ 1,500.-
5. Boyfriends 300.-
(5 เรื่องเลย 3,700.)
ไรท์จะชูแวบไปแจกลายเซ็นที่บูธ B2S วันอาทิตย์ที่ 16 เวลา 11.00-12.00 ไปเจอกันได้นะคะ ^^
ส่วนร้านที่จัดจำหน่ายมีร้าน That Y (ลิโด้ สยาม), B2S (ช่วงปลายเดือน)
สามารถสั่งซื้อนิยายได้ทั้งกับไรท์ เว็บ Memewbooks ของ Hermit, ร้าน Nananaris, ค่ะ ^^
หนังสือ&e-book :
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54068.msg3389162#msg3389162