‘คิง’ part 2
ไอ้หมอบเป็นคนเสนอว่าผมควรจะให้นิลกาฬเป็นผู้จัดการระหว่างที่มันไม่อยู่
แน่นอนว่าผมปฏิเสธ เรื่องอะไรต้องให้คนนอกมายุ่งกับกิจการกูวะ เป็นเมียก็นอนครางอยู่บนเตียง เพราะคนอย่างนิลกาฬก็มีดีที่เรื่องเซ็กซ์อยู่แล้ว
ส่วนอย่างอื่นหมาไม่มอง!
“น้องนิลมันเบื่อจะแย่”
ไอ้หมอบยังคงเกลี้ยกล่อม
“และกูก็ต้องไปเฝ้าเพื่อนมันด้วย หรือมึงจะคุมผับควบไปด้วยทั้งที่เป็นแค่เรื่องง่ายๆ แต่โคตรน่ารำคาญที่ไม่ว่าใครก็ทำได้อย่างดูคน เช็คสต็อกและปิดร้านวะ อย่าหวงปราสาทมึงนักเลยน่าไอ้คิง การที่มึงลากน้องนิลกลับมาทั้งที่น้องมันจะถอนตัวก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่ามึงเห็นน้องเป็นคนพิเศษ”
“กูแค่ยังอยากมีเซ็กซ์กับมัน”
“แล้วอยากอีกนานมั้ยล่ะเพื่อน” ไอ้หมอบมันหัวเราะเมื่อเห็นผมไม่ตอบ ก็แหงล่ะ ใครจะไปรู้อนาคตได้ล่ะวะว่าเมื่อไหร่กูจะเบื่อ
“คนอย่างน้องนิลหาไม่ได้ง่ายๆ นะโว้ย คนที่เข้าขากับมึงได้ขนาดนี้เนี่ย”
“ปากมันเสียจะตายห่า”
“แต่มึงก็ชอบไม่ใช่รึไง”
เออ ชอบจูบ ชอบให้มันครางดังๆ
แล้วก็...ชอบฟังเวลามันบ่นอะไรยืดยาว
ทั้งที่แต่ก่อนรำคาญชิบหาย แต่ตอนนี้เหมือนจะเริ่มชินไปโดยไม่รู้ตัว เพราะถึงจะปากหมาแค่ไหนแต่มันก็ทำให้ผมรู้ทันทีว่าคนคนนี้แหละ...นิลกาฬ คนที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร คนที่ไม่รู้ว่าจะเจอแบบนี้อีกมั้ย จนไม่กล้าที่จะ...ปล่อยมือเมื่อมันเลือกจะไปเอง
“ไว้กูคิดดูอีกที”
“เออ คิดให้ดีล่ะมึง”
สรุปวันนั้นผมก็แทบไม่ต้องคิด
เพราะหลังจากแนะนำตัวไอ้หมอบกับเพื่อนมัน และรอรับเมียที่บ่นว่าเบื่อนักเบื่อหนาจนต้องจอดรถรอที่หน้าคณะอักษรฯตอนหนึ่งทุ่ม มันก็ทำให้ผมเกินคาดจนรู้ตัวอีกทีก็มาที่คิงส์คลับ และปล่อยเลยตามเลยอย่างที่ไอ้หมอบแนะนำ
ให้ตาย...ผมไม่เคยเจอใครที่คาดเดาแบบนี้ไม่ได้มาก่อน นิลกาฬมันเหมือนกระดาษที่แต่งแต้มสีสันจนแสบตา กลายเป็นสีที่จัดจ้านและไม่เคยทำให้ผมละสายตาหรือหมดความสนใจจากมันได้
แต่ว่านะเมีย...มึงทำเกินไปว่ะ
ผมล็อกตัวนิลกาฬให้มองภาพรุมทำร้ายที่เกิดจากปากพล่อยๆ ของมัน และแน่นอน...ลูกน้องของผมก็รู้ว่านี่ไม่ใช่คำสั่งจากคิง เพราะผมไม่เคยเอาเรื่องของผับมาเกี่ยวกับคลับมาก่อน ถ้ามีคนมาหาเรื่องที่หน้าร้าน ผมก็จะทำตามกฏหมายนั่นคือการแจ้งตำรวจ เพราะไอ้พวกนั้นมันยังไม่บรรลุนิติภาวะซะด้วยซ้ำ แต่ถ้ามีคนมาหาเรื่องที่คลับ…
เมื่อนั้นกฏของ ‘คิง’ ก็เป็นสิทธิ์ขาด
ฉะนั้นการที่เมียของผมทำให้ปราสาทที่แบ่งแยกอย่างชัดเจนปะปนกัน แถมยังเหมือนหลอกใช้ให้ลูกน้องของผมกระทืบเด็กอย่างเสียเวลา การควบคุมปราสาทของผมจึงเริ่ม ‘รวน’
เพราะมันคือที่ที่ไร้ ‘กฏ’ ฉะนั้นจึงต้องเคารพใน ‘กฏ’
กฏที่พระราชาบัญญัติ เพื่อควบคุมพื้นที่อันตรายในปราสาทหลังนี้ เพื่อควบคุมกลุ่มคนอันตรายที่ไร้สติยับยั้งชั่งใจ เพราะถ้าหละหลวมเพียงเล็กน้อย มันก็จะทำให้...
“เชี่ย!”
เป็นอย่างที่ผมสังหรณ์ เพราะทันที่เดินเข้ามาในออฟฟิศเสียงสบถของนิลกาฬก็ดังลอดออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับเสียงโครมครามที่ไม่บอกก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...อันที่จริง ผมพอเดาได้ว่ามันจะต้องเกิด เพราะสายตาของไอ้คนที่เห็นผมเอากับเมียมีทั้งความไม่พอใจปนกับความอยาก...แต่ก็คาดไม่ถึง ว่ามันจะลงมือเร็วขนาดนี้
ทั้งหมดเป็นเพราะระบบที่เริ่มเสีย!
การกระทำของนิลกาฬก็เหมือนกับการทำลายกฏ ลูกน้องที่ถูกควบคุมด้วยสิ่งนั้นถึงได้เกิดอารมณ์ต่อต้านและเลือกที่จะทำตามใจชอบโดยไม่เกรงกลัวคิง บางที...ผมคงจะหย่อนหยานเกินไปสินะ
ผมที่ถือกฏเป็นสิทธิ์ขาดเสมอ ถูกเรียกว่าเป็นพระราชาไร้จุดอ่อน กลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เสียงโครมครามด้านในยังคงดังขึ้น แต่ผมกลับแค่ยืนอยู่หน้าประตู และจุดบุหรี่สูบเงียบๆ
...นี่ถือเป็นบทลงโทษ นิลกาฬ
โทษที่ทำให้ปราสาทหลังนี้ถูกแทรกแซงจากภายใน โทษที่ทำให้ตำแหน่งราชาของผมสั่นคลอน
“โอ้ว...ตอดดีว่ะ”
ผมคิดว่าจะยืนรอสักพัก อย่างน้อยก็จนกว่าพวกมันเสร็จ แล้วค่อยไปสั่งสอนลูกน้องอีกทีเพื่อความเท่าเทียม
“อ่า...โคตรน่าเอาเลย”
แต่แม่ง...
มือที่ถือบุหรี่สั่นโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกต่อต้านปรากฏอย่างรุนแรง ผมถีบประตูทั้งที่ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงขัดแย้งกับสิ่งที่ตั้งใจตอนแรก ก่อนที่สมองจะว่างเปล่าเมื่อเห็นภาพของนิลกาฬถูกกดให้นอนคว่ำกับพื้น เนื้อตัวมีแต่รอยฟกช้ำจากแรงกระแทกและกระชาก ที่สำคัญ...
“พวกมึงกำลังทำอะไร”
ผมเอ่ยเสียงเรียบ แม้ใบหน้าจะไร้ความรู้สึก แต่ความจริงคือผมโกรธจนเกินกว่าจะแสดงออกผ่านสีหน้าไปแล้ว ทำไมวะไอ้คิง...มึงก็รู้ว่านิลกาฬน่ะง่าย อย่างที่เจ้าตัวชอบพร่ำบอกเสมอ ถึงขนาดจะเอากับโจ๊กเกอร์เพื่อช่วยเพื่อน ฉะนั้นเรื่องเสียตัวให้ลูกน้องเพื่อสั่งสอนสักยกน่ะก็อยู่ในสภาพยอมรับไหวไม่ใช่รึไง ก่อนหน้านี้มันก็กระดกก้นให้ใครต่อใครตั้งมาก แต่ถ้าผมช่วยมันตอนนี้ ภาพลักษณ์ของ ‘คิง’ ในสายตาลูกน้องจะยิ่งกลายเป็นความเอนเอียง แล้วหลังจากนี้ผมจะคุมคลับได้อีกเหรอ
แต่ว่า...
“พวกผมแค่พยายามสั่งสอนเมียบอสครับ เป็นแค่คู่นอน จะมาทำอวดดีวางท่าข่มบอสได้ยังไง ให้นอนครางไปอย่างเดียวน่ะพอแล้ว”
“รวมถึงนอนครางให้พวกมึงฟัง?” ผมพ่นควันบุหรี่ พยายามสงบใจให้เยือกเย็น
“คือ...ถ้าไม่ใช่วิธีนี้ เมียบอสก็คงไม่รู้สำนึกน่ะครับ ถ้าไม่โดนสั่งสอนหนักๆ เดี๋ยวมันจะยิ่งได้ใจ”
“ใช่ครับบอส ขนาดพวกผมมันยังเชิญชวนเลย”
“มันไม่ซื่อสัตย์กับบอสเลยนะครับ”
“ถ้าปล่อยไว้เดี๋ยวมันต้องไปกระดกก้นให้คนอื่นด้วยแน่ๆ อย่างไอ้โจ๊กเกอร์ที่มันเคยยั่วนั่นไง”
ไอ้พวกลูกน้องมันพูดถูก มันพูดในสิ่งที่ผมเพิ่งคิด และเป็นสิ่งที่คิงส์คลับไม่เคยยกมาเป็นเรื่องขัดแข้งขัดขา เพราะเมื่อก่อนผมมักจะโยนคู่นอนให้พวกมันเป็นรางวัลเสมอ พวกคู่นอนที่ไว้ตอบสนองแค่คืนเดียว ไม่สิ...แค่คืนเดียวยังไม่เพียงพอเท่าที่นิลกาฬทำให้ผมได้ในครั้งแรกซะด้วยซ้ำ!
“มึง...มานี่”
ผมหันหัวบุหรี่ไปทางไอ้หัวโจก ซึ่งผมไม่ค่อยแปลกใจนักที่มันเป็นคนต้นคิด เพราะมันค่อนข้างยึดติดกับภาพลักษณ์ของผม ตามกระดิกหางไม่ห่าง แถมยังมีกำลังกายและความต้องการทางเพศสูง เลยต้องส่งมาคุมชั้นสองซึ่งเปิดโล่งเรื่องเพศและเซ็กซ์ เพื่อให้มันหาคู่นอนระบายอารมณ์ออกไปซะบ้าง
“คะ...ครับบอส”
มันปล่อยนิลกาฬ เดินเข้าหาผมทั้งที่น้องชายยังชี้โด่เด่
“กลัวทำไม มึงทำเพื่อกู กูก็จะให้รางวัลมึง”
“บะ...บอส”
ผมต่อยหมัดขวาออกไปทันที หมัดข้างที่ถนัดที่สุดของผม ซัดเข้าจังๆ ที่กกหูให้สลบในครั้งเดียว
เสียงกระแทกดังโครมเมื่อร่างนั้นเสียการทรงตัวแล้วลงไปนอนวัดพื้น ผมดูดบุหรี่ อารมณ์ร้อนๆ เริ่มจะเย็นลงขึ้นมาบ้าง ทั้งที่รู้ว่ามันผิด...การทำแบบนี้คือการเข้าข้างเมียตัวเอง แต่ผมก็ไม่ลังเลที่จะกวักมือเรียกลูกน้องอีกสี่คนที่เหลือ
“เมียกู กูสั่งสอนเองได้ และกูจะถือว่านี่เป็นการสั่งสอนลูกน้องเหมือนกัน หวังว่าพวกมึงจะไม่เข้าใจอะไรผิดๆ อีก”
ผมต่อยด้วยความโมโหมากกว่าจงใจสั่งสอน จนกระทั่งคนสุดท้ายลงไปนอนกองกับพวกที่เหลือ ผมก็หันไปมองนิลกาฬที่ซึ่งนั่งกอดเข่าอยู่มุมห้องจนดูตัวเล็กชิบหาย
มึงจะแทรกตัวไปกับกำแพงรึไง
“เมีย มานี่” ผมกวักมือเรียก
“มึงจะต่อยกูเหรอสัด”
สถานการณ์แบบนี้ยังทำให้กูหัวเราะออกอีกนะ ผมล่ะสุดจะบรรยายกับคนคนนี้เลยจริงๆ คิดได้ยังไงว่าผมจะต่อยมันลง โดยเฉพาะในสภาพเหมือนลูกไก่ตื่นคนแบบนี้
“กูไม่ต่อยมึงหรอก มานี่”
“กูไม่ใช่หมา และกูก็สำออยอยู่ แม่ง กูเพิ่งจะเกือบโดนรุมโทรมนะสัด! ข้อมือกูพลิก หน้าผากก็โดนกระแทก เนื้อตัวปวดไปหมดเพราะไอ้พวกเหี้ยมันกระชากเอาๆ มันคิดว่ากูเป็นตุ๊กตายางรึไง แล้วที่เชี่ยที่สุด คือแม่งเอาดุ้นยัดเข้ามาแล้วครึ่งนึง กูเจ็บชิบหาย กูเครียดชิบหาย กูขยะแขยงชิบหาย เหี้ยเอ๊ย!”
เหี้ยจริงๆ...
ผมเดินเข้ามาใกล้นิลกาฬที่ตะโกนลั่นซุกหน้าอยู่กับเข่า มันรู้ตัวมั้ยนะว่าเสียงมันสั่นแค่ไหน มึงกลัวงั้นเหรอนิลกาฬ...คนที่ชอบเซ็กซ์อย่างมึงกำลังกลัวงั้นเหรอ ไม่สิ ผมคงจะโง่ไปหน่อยหากจะเหมารวมระหว่างเซ็กซ์ด้วยความเต็มใจทั้งสองฝ่ายกับการบังคับด้วยกำลัง ถึงนิลกาฬมันจะ...แตกต่างกับคนอื่นๆ แต่ความจริงมันก็มีความกลัวเหมือนคนปกติ
ผมเคยไม่เข้าใจในตัวมันที่นึกอยากจะทำอะไรก็ทำเหมือนไม่คิด แต่ในตอนนี้ ผมคิดว่าคงจะเริ่มเข้าใจมากขึ้นล่ะมั้ง
ถึงจะปากเสีย เซ็กซ์จัด แต่มันก็ยังเป็นคนที่เผยความอ่อนแอออกมาเมื่ออยู่ในสถานการณ์เกินควบคุม
ให้ความรู้สึกอยากทะนุถนอมขึ้นมาตงิดๆ
“นิลกาฬ” ผมกระซิบข้างๆ หูมัน พยายามที่จะไม่ยิ้มเมื่อเอ่ยยั่ว ยอมรับว่าอาจจะฟังดูเหมือนหัวเราะเยาะไปนิด แต่ความจริงผมก็แค่ดีใจที่ค้นพบว่าเมียตัวเองไม่ได้บ้าดีเดือด ไม่ทุกข์ร้อนกับทุกสิ่งทุกอย่างแบบที่มักแสดงออก “ไม่ทำตัวเก่งแล้วเหรอ”
“มึงโดนรุมบ้างมั้นล่ะไอ้สัด แล้วนี่หัวเราะหาเหี้ยรึไง ไม่ต้องหาหรอก มึงลองส่องกระจกนะ แล้วมึงก็จะเจอเอง ไอ้ผัวเหี้---!”
ผมจูบมัน จูบด้วยความรู้สึก...เอ็นดูและปลอบโยน ไม่ได้มีความหื่นกระหายอย่างที่มักสปาร์คเมื่อเข้าใกล้หรือแตะเนื้อต้องตัวมัน
“แม่ง...พูดขอโทษไม่เป็นเหรอวะ”
“กูไม่ผิด พวกมันลงมือเอง กูบังคับใครไม่ได้”
ผมพูดความจริง แต่ดูเหมือนมันจะไม่พอใจเลยหันหน้าหนีทำปากจู๋แอบสบถหงุดหงิด เห็นแล้วก็เลยตบหัวมันเบาๆ เหมือนเคย
“กลับกันเถอะ”
ทั้งที่ทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้น แต่ว่า...
“ตอนนี้กูไม่มีอารมณ์กับมังกรของมึง ข้อตกลงเป็นโมฆะ เราเลิกกันเพียงเท่านี้แล้วกันไอ้คิง”
วินาทีที่ได้ยินคำนั้น ใจผมเหมือนดิ่งลงเหว
“กูบอกว่ากูจะเอามึง จนกว่ากูจะเบื่อ”
“แต่ตอนนี้กูเบื่อมังกรมึง เบื่อคลับของมึง เบื่อทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับมึง!” นิลกาฬตะโกนออกมา นานครั้งผมจะเห็นมันทำท่าเหมือนอดกลั้นขนาดนี้ “มึงจำที่กูพูดกับไอ้ต่ายได้มั้ย ถ้าอยู่ไปก็มีแต่จมปรัก กูก็ขอเลิกแล้วแยกตัวออกมาดีกว่าว่ะ กูยังไม่อยากถลำลึกไปกว่านี้ โดยเฉพาะในโลกของมึง เชี่ยคิง”
มึงอดทนขนาดนั้นเลยรึไง...ในโลกของกู...คิงส์คลับของกู
ผมไม่ตอบ แต่เดินไปจุดบุหรี่สูบเพื่อบรรเทาความเครียด ยอมรับว่าผมยังไม่อยากปล่อยมันไป โดยเฉพาะในตอนที่เริ่มคิดว่ากำลังรู้สึกดีๆ กับมันนอกจากเรื่องเซ็กซ์ แต่ว่า...นี่อาจจะเป็นโอกาสดีก่อนที่ผมจะถลำลึกไปกับมันเหมือนกัน
นิลกาฬ...มึงบอกว่าโลกของกูอันตราย แต่มึงเองก็อันตรายกับกูเหมือนกัน
การกระทำเมื่อวานของผมแม้จะพอแถไปได้ว่าเป็นลงโทษลูกน้อง แต่ไอ้เรื่องที่ว่ากำลังเข้าข้างเมียอย่างผิดวิสัยของคิงก็ทำให้เริ่มมีอีกหลายคนไม่พอใจ ตำแหน่งของผมกำลังถูกท้าทาย และการที่นิลกาฬถอนตัวออกไปตอนนี้ ก็ทำให้ฐานบังลังก์ของผมกลับมามั่นคงอีกครั้ง
หรือผมควรจะยกเลิกข้อตกลงที่เริ่มจากเซ็กซ์จริงๆ
เซ็กซ์...ที่เลยเถิดจนกลายเป็นการความคุ้นชิน ผมเริ่มที่จะเรียนรู้ว่ามันชอบกินผลไม้ในตอนเช้า กินข้าวในตอนเที่ยง และหาอะไรหนักๆ รองท้องในตอนเย็นเพื่อมาเผาผลาญพลังงานยามดึก ผมไม่ได้อยากจะจำแต่เพราะต้องซื้อข้าวให้มันทุกวันเลยรู้ได้เอง มันชอบนอนขดตัวเหมือนกอดตัวเองเอาไว้ เพราะเป็นท่าเวลาที่ผมช่วยมันทำความสะอาดหลังมีเซ็กซ์ มันชอบอาบน้ำอุ่น เพราะเวลาผมเข้าไปในห้องน้ำหลังมันทีไรจะมีไอร้อนอวลอยู่เสมอ มันชอบเสื้อสีเข้ม เพราะชอบชมตัวเองหน้ากระจกว่าจะขับสีผิวมันให้ดูโดดเด่นน่ามอง
แน่นอนว่าสำหรับเซ็กซ์มันชอบเวลาที่ผมกระแทกแรงๆ และในช่วงหลังมานี้...มันชอบที่จะเสร็จพร้อมกัน
ความรู้สึกในตอนนั้นมันสุดยอด...ผมยอมรับ แต่ในความวิเศษก็เหมือนการผูกมัดบางอย่าง มันทำให้ร่างกายของเราใกล้ชิดมากขึ้น ยึดติดยิ่งขึ้น เหมือนเราสองคนเป็นคู่รักมากกว่าคู่นอน ฉะนั้นเวลามันร้องขอ ผมก็เลยไม่เคยทำให้ตามต้องการ
หึ ความสัมพันธ์ของเรามันก็ขาดๆ เกินๆ แต่แรกแล้ว
ผมขยี้บุหรี่ที่เพิ่งสูบได้ครึ่งม้วนทิ้ง ในใจยังนึกเสียดาย แต่เมื่อจ้องตาของนิลกาฬ...ดวงตาสีดำที่มักเปล่งประกายเจิดจ้าอย่างน่าหลงใหลซึ่งกำลังสั่นไหว เหมือนกำลังนึกถึงเรื่องเมื่อวานที่เกินจะรับได้ ผมก็ไม่คิดรั้งไว้อีก
“ได้” ผมพยักหน้ารับ คิดดูดีๆ แล้วการเลิกกันครั้งนี้ก็ทำให้ชีวิตของเราทั้งคู่ดีขึ้นกว่าเดิม...ก่อนที่จะถลำลึกไปกว่าเดิม “ถ้ามึงตัดสินใจแล้ว กูก็ไม่ขัด”
“งั้นเดี๋ยวมึงไปส่งกูที่หอไอ้ชายด้วยนะ”
“เออ”
หลังจากนั้นชีวิตผมก็กลับมาเหมือนเดิม
พอผมเลิกกับนิลกาฬ พวกลูกน้องก็เข้าใจว่านั่นเป็นบทลงโทษของพระราชาที่กลับมายึดกฏเป็นที่สุดอีกครั้ง พวกคนที่คิดจะหือกับผมเพราะอยากท้าทายก็กลับไปสงบเสงี่ยมเหมือนเดิม เป็นปราสาทหลังเก่าที่เป็นระเบียบเรียบร้อยภายใต้ความโสมม
แต่ไม่รู้ทำผมถึงหงุดหงิดนัก ทั้งที่เพิ่งเลิกกับมันแค่หนึ่งวัน
“มึงไม่ติดต่อน้องนิลเหรอวะ”
“กูเลิกกับมันแล้ว”
“กูรู้ ก็มึงไล่กูออกจากห้องไอ้ชายตอนไปส่งน้องนิลเมื่อวานเนี่ย แต่มึงจะปล่อยไปง่ายๆ แบบนี้เหรอวะ”
“มึงอย่ามากากแถวนี้”
“มึงดูหงุดหงิดง่ายกว่าเดิม เมื่อก่อนแซวนิดแซวหน่อยแม่งยิ้มหึหึ ตอนนี้ทำเหมือนจะหยิบมีดมาแทงกูตาย ไอ้คิง ถ้ามึงไม่อยากเลิก มึงก็ไปง้อน้องนิลสิวะ”
“ทำไมกูจะไม่อยากเลิก” ผมชักจะหงุดหงิดจริงๆ ก็เพราะไอ้คำถามเซ้าซี้ของเพื่อนอย่างมันนี่ล่ะ “ตั้งแต่คบกับนิลชีวิตกูก็วุ่นวายไม่หยุด มันไม่เคยอยู่นิ่งๆ เชื่อฟังกูสักครั้ง”
“ก็นั่นมันเมีย ไม่ใช่ลูกน้อง หรือลูกค้าในปราสาทมึงนะครับคุณคิง” ไอ้หมอบมันพูดก่อนจะเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ เมื่อผมเงยหน้าจ้องอย่างเอาเรื่อง “เอาเป็นว่ากูไม่คิดว่ามึงจะเหมาะกับใครเท่าน้องนิลแล้วว่ะ และก็ไม่คิดว่าน้องนิลจะหาใครเลวได้ดีเท่ามึงด้วย”
นี่มันกำลังด่าผมใช่มั้ย
“ตอนนี้น้องนิลก็ไม่มีใคร มึงคิดดูดีๆ แล้วกัน”
“กูมีตัวเลือกมากพอ” ผมตอบมันเสียงเรียบ ก่อนจะเดินเข้าออฟฟิศที่มีเด็กคนหนึ่งนอนรออยู่ ใช่ ผมน่ะมีตัวเลือกเสมอ ไม่ใช่ว่าต้องการนิลกาฬคนเดียว แค่ยืนนิ่งๆ ก็มีคนกระโจนเข้าหา ไม่เว้นกระทั่งพนักงานของตัวเอง
ไอ้เด็กนี่ทำงานที่ผับ ตัวเล็กๆ ขาวๆ แต่ใจกล้าใช่เล่นเพราะเป็นคนแรกที่เสนอตัวหลังผมเลิกกับเมีย
“พี่คิง...”
“เงียบ” ผมดับบุหรี่ ก่อนจะเดินขึ้นเตียง ไอ้เด็กนั่นมันรีบเข้ามาช่วยถอดกางเกงใส่ถุงยางอย่างรู้งาน ก่อนจะตาโตเล็กน้อยเมื่อเห็นขนาดของผม...ที่นิลกาฬชอบเรียกว่ามังกรแล้วลูบไล้ด้วยความหลงนักหลงหนา
“ให้ผมช่วยมั้ยครับพี่”
“ไม่ต้อง นอนลงไป อ้าขากว้างๆ”
ผมไม่มีอารมณ์มาเล้าโลมอะไรทั้งนั้น ก่อนหน้าที่มันจะมานอนเปลือยตรงนี้ ผมก็สั่งให้มันเตรียมช่องทางให้เรียบร้อย เมื่อวานผมไม่ได้เอาใคร วันนี้เลยค่อนข้างอึดอัด หวังก็ว่าไอ้เด็กนี่มันจะทนผมได้สักสองยกเป็นอย่างต่ำ
“อื้อ...”
มันพยายามกลั้นเสียงเมื่อผมสอดใส่เข้าไป ตัวจิกเกร็ง คับแน่น...จนปวดไปหมด แรงตอดนั้นทำให้ผมเริ่มมีอารมณ์ จับขามันฉีกกว้างก่อนจะกระทั้นตัวเข้าไปแรงๆ
“อื้อ...อ๊า อ๊า”
เสียงครางแผ่ว...กับจริตที่คล้ายจะพยายามสวนเอวเข้าหาด้วยท่าทางอ่อนต่อเซ็กซ์ทั้งที่ไม่บอกก็รู้ว่านี่ไม่ใช่การเสียตัวครั้งแรก มันทำให้ผม...หงุดหงิด ผมเกลียดการเสแสร้ง โดยเฉพาะกับเรื่องบนเตียง แทนที่จะทำให้คึก กลับยิ่งทำให้เสียอารมณ์ซะเปล่าๆ
...ขัดใจเป็นบ้า
เสียงครางนี่ก็เหมือนกัน ถ้าจะร้องระโหยขนาดนั้น ทำไมไม่ร้องลั่นอย่างสะใจเหมือนนิลกาฬ การขยับตัว ส่ายสะโพก มันเทียบกับรสเซ็กซ์ที่เคยสัมพันธ์ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ได้แม้แต่น้อย
“อื้อ!”
ผมปิดปากไอ้เด็กที่นอนระทวยใต้ร่างด้วยความรำคาญ ก่อนจะกระแทกตัวเข้าไปแรงๆ หลายครั้ง พยายามอยู่นานกว่าจะเสร็จ เจ้าเด็กนั่นมองผมตาเชื่อม พยายามเอื้อมมือมากอดก่าย แต่ผมก็ลุกหนี
“...บอสครับ?”
“แต่งตัวซะ”
มันทำหน้าตกใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะผมหันไปจุดบุหรี่และยืนหันหลังด้วยความงุ่นง่าน ทั้งที่อึดอัดแทบตาย แต่พอมีเซ็กซ์...ได้ปลดปล่อย มันกลับยิ่งทำให้ขุ่นเคืองกว่าเก่า รสเซ็กซ์ที่เปลี่ยนไป มันไม่เร้าใจ มันไม่สนุก...ไม่สุดอย่างเคย
ถ้าให้เปรียบ ไอ้เด็กนี่ก็เหมือนเครื่องปรุงรสที่พยายามจัดจ้าน ขณะที่นิลกาฬคือพริกทั้งเม็ด แค่กัดเข้าไปคำเดียวก็รับรู้ถึงรสเผ็ดที่ลวกปาก ถึงจะแสบทรวงขนาดไหนแต่รสชาติกลับติดตรึงไปตลอดชีวิต
ผมหลุดยิ้มออกมาเมื่อนึกถึง ก่อนจะหุบยิ้มหลังจากได้ผลลัพธ์จากคำเปรียบเปรยนั่น
ถ้านิลกาฬคือพริกที่รสชาติแสบร้อนไม่เหมือนใคร ถ้าอย่างนั้น...
เซ็กซ์หลังจากนี้ของผมก็กลายเป็นอะไรที่น่าจืดชืดซะแล้ว
พอครบหนึ่งสัปดาห์ผมก็ชักทนไม่ไหว
ถ้าเซ็กซ์กับคนอื่นมันน่าเบื่อนัก แล้วทำไมผมต้องทนฝืนตัวเองเพื่อจะหานิลกาฬคนที่สองด้วย
มันก็อยู่ในสายตาของผม อยู่ใกล้แค่นี้ อยากจะทำอะไรก็ง่ายดายทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องผูกพัน แค่เซ็กซ์..ที่ผมรู้ดีว่ามันเองก็ต้องการ
“ล่อนิลกาฬมาหากูที่ห้องน้ำชั้นสี่”
“ครับ บอส”
แผนการง่ายๆ ที่ได้ผลอย่างจัง ทั้งไอ้หมอบและสายของผมรายงานว่านิลกาฬเองก็ไม่ได้ไปนอนกับใครที่ไหนพอๆ กับผม ยกเว้นที่ผมทำแต้มนำกับไอ้เด็กที่ร้าน ซึ่งบอกตามตรงว่าไม่มีอะไรให้น่าจดจำสักนิด เทียบกับอีกฝ่ายแล้ว...แค่ปรากฏตัวต่อหน้าผม เอียงคอรับรอยจูบจากผม พร้อมสัมผัสมือที่ลูบไล้มาที่กลางลำตัวของผมอย่างคุ้นชินและหลงใหลต้องการ ก็ทำให้อารมณ์ที่อัดอั้นมานานเหมือนถูกปะทุอย่างจัง
ผมมีเซ็กซ์กับมันอย่างเอาเป็นเอาตายในห้องน้ำ
สองวันต่อมา ก็เป็นที่รถใกล้ๆ โรงยิมของเพื่อนมัน ทำเวลารวดเร็วภายในยี่สิบนาที
และอีกสองวันต่อมา...
“อ๊ะ อ๊า! ไอ้คิง เร็วๆ หน่อย เดี๋ยวไอ้ชายสงสัย”
ผมไม่เข้าใจนักหรอกทำไมมันต้องแคร์เพื่อนขนาดนั้น ถึงขนาดทำตัวปกปิดเหมือนว่าผมเป็นชู้ลับๆ แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่ามันน่าตื่นเต้นไปอีกแบบ การมีเซ็กซ์แบบไม่ผูกมัด ในที่สาธารณะอย่างมหาลัย แถมยังเป็นสถานที่ลับๆ มันชวนให้รู้สึกแปลกใหม่จนต้องรีบเร่งทำเวลา ไม่ใช่แค่เพราะห่วงเพื่อนมันจับได้ แต่เพราะต้องไม่ให้คนอื่นจับได้ด้วย
เพราะผมกับมันเลิกกันแล้ว
ไม่มีใครรู้ว่าเราสองคนสานสัมพันธ์ต่อในรูปแบบนี้ การนัดเจอโดยที่ต่างคนต่างมาต่างเวลา มีคนช่วยดูต้นทาง ทำให้ไม่มีใครในมหาลัยรู้ว่าผมและมันยังลักลอบมีเซ็กซ์ แน่นอนยังมีคนเข้าหาผมมากมาย แต่ผมก็ได้แต่ปฏิเสธไป เพื่อเฝ้ารอที่จะได้นัดนิลกาฬออกมาเล่นเซ็กซ์มันส์ๆ ต่างสถานที่ไปเรื่อยๆ
อย่างครั้งนี้ผมเลือกห้องแลปของตึกวิศวะซึ่งไป(ขู่) ขอกุญแจมาจากอาจารย์สำเร็จ ห้องปิดทึบที่ว่างโล่งในช่วงบ่าย ผมดันตัวนิลกาฬนอนตะแคงกับโต๊ะ ยกขาข้างหนึ่งพาดกับบ่าตัวเอง ก่อนจะเสือกมังกรเข้าไปในช่องทางซึ่งแม้จะไม่คับแคบเท่าคนอื่นแต่ก็ตอดรัดและรองรับแก่นกายของผมเป็นอย่างดี
ดีเกินไปซะด้วยซ้ำ!
“อ๊ะ...ฮ๊า อา...”
ผมหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นนิลกาฬพยายามกลั้นเสียงร้องด้วยใบหน้าที่แสนจะเย้ายวนจนแทบทนไม่ไหว ผมโน้มตัวลงจูบ จูบครั้งแล้วครั้งเล่านับไม่ถ้วนตั้งแต่เจอคนคนนี้ ริมฝีปากของนิลกาฬมีรสที่เผ็ดร้อนเหมือนเซ็กซ์ของเจ้าตัว มันชวนให้รู้สึกซี๊ดซ๊าด ท้าทายจนต้องจกจ้วงไปทั่วโพรงปากอย่างเอาแต่ใจ ที่น่าตื่นเต้น คืออีกฝ่ายก็ตอบสนองอย่างถึงอกถึงใจพอกัน
ลิ้นตวัดเกี่ยว ส่วนท่อนล่างก็ต่างโหมใส่กันจนได้ยินเสียงกระแทกดังเป็นจังหวะถี่รัว ผมเปลี่ยนท่าให้อีกฝ่ายนอนหงาย ยกสะโพกสูง นิลกาฬก็รู้ใจตวัดขาเกี่ยวกับเอวและสวนตัวเองเข้าหาโดยไม่ยอมให้จังหวะขาดช่วง ครอบครองมังกรผมที่ทิ้งตัวกดต่ำจนมุดเข้าไปลึกสุดขั้ว นิลกาฬสูดปาก ใบหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ราคะจนผมต้องเอื้อมมือบีบเค้นแก้มก้นให้เต็มสองมือ เสียงกระแทกเปลี่ยนเป็นจังหวะทุ้มหนักๆ เมื่อผมเสือกมังกรเข้าออกเน้นๆ โดยใช้น้ำหนักตัวเป็นแรงส่ง จนต้นขาถูกนิลกาฬจิกเล็บเพื่อระบายความเสียวซ่าน
“อ๊ะ...อ๊ะ...อื้อ อ๊า”
แรงกระแทกที่ได้รับการตอบสนองอย่างถึงใจมันชวนให้รู้สึกสุขสม ยิ่งมีความชื้นแฉะจากน้ำคาวที่ผมเพิ่งปล่อยจากยกก่อนหน้านี้ก็ยิ่งเสริมให้การสอดใส่ราบรื่นและเร็วขึ้นกว่าเดิม นิลกาฬกระชากผมเข้าไปจูบ แรงตอดรัดด้านในทำเอาผมนิ่วหน้า ก่อนจะรู้สาเหตุเมื่ออีกฝ่ายหลั่งออกมาเปรอะเต็มหน้าท้องขาวเนียน
หัวมังกรผมยิ่งขยาย นิลกาฬถึงกับแหงนหน้าครางแผ่วอย่างชอบพอ เห็นแล้วก็อดจับจูบอีกครั้งไม่ได้ จัดหนักจัดเต็มเข้าไปเน้นๆ จนมือนั้นปัดป่ายขย้ำเสื้อผมซะยับไปหมด ลำตัวผอมบางโยกคลอน เสียงกระทั้นยังดังไม่หยุดพร้อมๆ กับเสียงแลกลิ้นซึ่งต่างดูดดุนกันสุดชีวิต อากาศในห้องเหมือนจะพุ่งสูง เหมือนกับอารมณ์ของเราทั้งคู่จนแทบห้ามตัวเองไม่ไหว
“อื้อ อื๊อ!”
รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรทำแรงเกินไป แต่ผมก็อดใจส่งมังกรเข้าไปเน้นๆ หนักๆ ไม่ได้ทุกที เมื่อปลดปล่อยออกมาก็ต่อเป็นรอบที่สามโดยไม่ให้อีกฝ่ายทักท้วง จนกระทั่งพออิ่มท้องนั่นแหละ ถึงได้ช่วยทำความสะอาดพลางก้มลงจูบนิลกาฬซึ่งนอนหอบหายใจด้วยใบหน้าแดงเรื่อเข้ากับปากสีชมพูบวมเปล่งเหมือนเชิญชวนให้สัมผัสตลอดเวลา
“อา...”
สองนิ้วของผมล้วงเข้าไปอย่างระมัดระมัง แม้รู้ดีแก่ใจว่ามันค่อนข้างเลอะเทอะ แต่ผมก็ชอบหลั่งในเมื่อมีเซ็กซ์กับนิลกาฬ อาจเพราะติดนิสัยสมัยยังเป็นผัวเมียที่ต้องมีเซ็กซ์แบบสดๆ และเพื่อตอบแทนความเชื่อใจนั้น ผมจึงมักจะเป็นคนทำความสะอาดเสมอ ถือเป็นความรับผิดชอบของคนที่ปล่อยออกมา
ผมช่วยเช็ดหน้าท้องขาวก่อนจะส่งเสื้อซึ่งถอดพาดไว้บนเก้าอี้ให้นิลกาฬสวมใส่ พวกเราสองคนไม่มีอะไรพูดกันสักคำ เหมือนกลัวว่าหากหลุดอะไรออกมา ความสัมพันธ์ลับๆ ที่มีแค่เซ็กซ์นี้จะเป็นอะไรที่เกินเลยเหมือนที่เคยเกิดขึ้นจนยากควบคุม
พวกเราต่างกลัวที่จะผูกสัมพันธ์มากเกินไป
ทั้งที่รู้...ว่าในใจน่ะมันเกินกว่านั้นไปแล้ว!
แต่ไม่เป็นไรหรอก...ปล่อยให้เป็นแบบนี้อีกสักพัก ให้ผมยืนยันอะไรให้แน่ใจ หลังจากนั้นค่อยทำให้มันชัดเจนขึ้นก็ไม่สาย
“แย่แล้วคิง ชายโทรบอกกูว่าน้องนิลโดนไอ้โจ๊กอุ้มไปแล้ว!”
“สัด ใครใช้มันมายุ่งกับเมียกู”
“ไหนบอกเลิกแล้วไงมึง”
“ไม่ต้องมากาก ไอ้หมอบ นิลอยู่ไหน รีบๆ นำไปเลย!”
----------------
ยอมใจให้พี่คิงกันรึยังค่ะ

จัดมายาวๆ ทดแทนตอนที่แล้วที่สั้นกุด ตอนหน้าจะวกกลับไปว่าพี่คิงไปช่วยน้องนิลยังไง แล้วทำไมพี่คิงถึงเมื่อยปาก แต่ดูจากเม้นท์แล้วหลายคนทายถูกค่ะ ฮี่ๆๆ
ปล.เรื่องนี้มีสารบัญแล้วนะคะ ขอบคุณคุณ Kaewkaew มากๆ เลยค่า
