ตอนที่ 21 : ชั้นสอง
วันต่อมา ผมก็โดนพามานั่งแปะที่ชั้นสอง
ชั้นนี้ไม่ได้มีคอกแยกเหมือนชั้นแรก เพราะแต่ละโต๊ะก็มีม่านสีแดงให้รูดปิดสร้างความเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว เพลงคลาสสิคบรรเลงให้พอเคลิ้มน่าหลับ ขัดกับคนยืนเฝ้าที่ตัวโตหน้าดุอย่างกับนักมวยปล้ำ แต่อายุเสือกไม่ถึงยี่สิบ ผมกับไอ้เก่งนั่งจ้องตาตั้งแต่คุณผัวทิ้งไว้ตรงนี้แล้วล่ะครับ แต่ยังดี...ที่มันไม่กล้าทำอะไรเท่าไหร่เพราะคิงโยนผมให้มานั่งโต๊ะใกล้ๆ กับบาร์เครื่องดื่ม ซึ่งมีตั้งแต่เหล้า ไวน์ ถุงยาง และยาเสพติด
มั่วชิบหาย
โชคดีคือพี่แว่นมีที่นั่งประจำตรงมุมอับท้ายบาร์ครับ ดูเหมือนว่าเวลาต้องการติดต่อกับไอ้คิงต้องติดต่อกับพี่แว่นก่อน เพราะผมเห็นลูกค้าใส่สูทผูกไทค์อย่างดีเดินเข้าไปเจรจากับพี่แว่นเรื่องการซื้อขายยาที่จะฝากขายกับทางคลับอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ ถ้าให้เปรียบเปรยตำแหน่งพี่แว่นก็คงประมาณเลขาล่ะมั้ง
และก็เป็นไม้กันหมาให้ผมด้วย
ถ้าถามกันตรงๆ ผมค่อนข้างชอบบรรยากาศเฮฮาชั้นแรกมากกว่า เพราะไอ้ชั้นนี้มันดูวิเวกส่วนตัวชะมัด คุยอะไรกันทีก็กระซิบกระซาบ ไอ้ที่เสียงดังที่สุดก็คงจะเป็น
“อูววว อาาาา”
เสียงกินตับที่มาพร้อมม่านสีแดงขยับไหว นี่ขนาดพระอาทิตย์เพิ่งตกนะเฮ้ย แล้วตอนกลางคืนจะขนาดไหนวะ ผมล่ะไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมไอ้เก่งมันดูหื่นกาม ก็เล่นต้องฟังเสียงคนบรรเลงกิจกามทุกวันขนาดนี้ ขนาดผมยังเริ่มคันยุบยิบคิดถึงมังกรขึ้นมาตงิดๆ
จะมีก็แต่พี่แว่นนั่นแหละที่นั่งหน้านิ่งโคตรๆ ตาก็จ้องๆ จิ้มๆ อยู่กับไอแพคที่ไม่รู้ว่าทำงานหรือกำลังเล่นเกมกันแน่ ผมเองก็ไม่กล้าเข้าไปก่อกวนเท่าไหร่ เกิดพี่ท่านรำคาญขึ้นมาจะเข้าทางไอ้เก่งให้ตอกย้ำซ้ำเติม
เบื่อ...
ข้างล่างยังพอมองคนเล่นไพ่เล่นพนันลุ้นระทึกตึกตักบ้าง แต่ชั้นนี้มันไม่มีอะไรเลย ผมไม่ชอบดื่มแอลกอฮอล์เว้นแต่เกิดอารมณ์อยากดื่มขึ้นมา เนื่องด้วยร่างกายผมก็ไม่ได้แข็งแรงถึกทึนอยู่แล้วเลยต้องดูแลดีเพื่อให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งรับศึกหนักตอนกลางคืน
เบื่อ...เบื่อ...เบื่อ
เรื่องการซื้อขายอะไรผมก็ไม่ค่อยอยากยุ่งนัก ก่อนหน้านี้ผมยื่นคำขาดกับไอ้คิงว่าอย่างอื่นน่ะได้แต่เรื่องยาผมขอผ่านเพราะไม่ถูกจริต ความจริงคือผมเกลียดยาทุกชนิด จะยาปลุกยาบ้าก็เกลียดทั้งนั้น เพราะที่แม่ตัดสินใจขายผมก็ด้วยไม่มีเงินไปซื้อไอ้อย่างหลัง ส่วนอย่างแรกก็รู้กัน ดีนะไอ้คิงไม่ถามอะไรมาก แถมยังตอบตกลงโดยไม่อิดออดสักนิด
ผมนั่งเรียงไพ่ที่แอบขอจากเบอร์หนึ่งตั้งแต่เมื่อวานมานั่งเรียงแก้เซ็ง ก็เข้าใจหรอกว่าไอ้คิงอยากให้ผมเข้าใจบรรยากาศของคลับ อยากให้ผมปรับตัวว่าเวลาไหนจะเป็นช่วงปวดกบาล เวลาไหนเป็นช่วงสุขสงบ แต่บอกตามตรงเลยว่าเบื่อชิบเป๋ง
“โป๊กเกอร์?”
ผมเงยหน้า...เอิ่ม มึงทนไม่ไหวจนต้องมาหาเรื่องถึงนี่เลยเหรอวะไอ้เก่ง
“ควีนเล่นโป๊กเกอร์ไม่เป็นหรือครับ”
ยังมาทำหน้าเยาะเย้ยอีก เหอะ ดูถูกนิลกาฬเกินไปแล้ว
“นั่งสิ ฉันกำลังเซ็งพอดี” ผมผายมือเชื้อเชิญด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรสุดขีด “ไม่ต้องลงเงินหรอก แต่คนชนะถาม คนแพ้ตอบ ดีมั้ยล่ะคุณอัศวิน”
หมอนั่นยืดอกเหมือนภาคภูมิใจกับตำแหน่งนั้นมาก สงสัยชีวิตจริงเพื่อนไม่รักหญิงไม่แล เลยต้องมากร่างเอาแถวนี้
“ได้” ไอ้เก่งตั้งใจหาเรื่องอยู่แล้ว พอผมเล่นด้วยก็เลยรีบตอบรับ “แต่ไม่ลงเงินแบบนี้จะวัดผลแพ้ชนะยังไงล่ะควีน โป๊กเกอร์น่ะวัดใจกันตรงที่เกทับเงินไม่ใช่รึไง”
“ครับ”
“...ห๊ะ?”
“ถ้าไม่พูดสุภาพกับควีน จะทำให้ภาพลักษณ์ของคิงส์คลับเสียหายว่านายไม่เคารพบอสก็ได้นะ” ผมคลี่ยิ้มก่อนจะสับไพ่อย่างเชื่องช้าสวยงาม ไม่ใช่อะไร...สับเร็วแล้วเละครับ เลยต้องทำทีเป็นใจเย็นไม่สะทกสะท้าน “งั้นเรามาเล่นแบล็คแจ็คแล้วกัน คงไม่มีปัญหาแล้วใช่มั้ย”
ไอ้เก่งกอดอกกึ่งยอมรับ ปิดปากเงียบไปพักใหญ่เพราะยังทำใจพูดสุภาพกับผมไม่ค่อยได้
แหม...ทำเป็นคนอื่นคนไกล ก็มึงไม่ใช่รึไงที่ถึงเนื้อถึงตัวแถมยังเกือบจับกูทำเมียเนี่ย!
ผมแจกไพ่สองใบให้กับตัวเองและไอ้เก่ง ก่อนจะเอนหลังพิงผนักแล้วยกขาไขว่ห้างชิลๆ วันนี้อ่านเกมมาดีครับ เพราะรู้ว่าต้องโดนพามานั่งชั้นสองที่ค่อนข้างมิดชิดก็เลยใส่เสื้อกล้ามสีดำทับด้วยเสื้อไหมพรมสีเดียวกันถักบางๆ คอกว้างเผยให้เห็นหัวไหล่ขาวเนียนและแขนวับๆ แวมๆ จะเล่นกับคนหื่นก็ต้องเปลืองตัวหน่อย แน่นอนว่าผมที่ถึงขั้นแก้ผ้าต่อหน้ามันมาแล้วไม่ได้มีความขวยเขินแต่อย่างใด
แถมไอ้รอยจูบของคุณผัวเนี่ยก็ออกจะน่าโชว์ว่ามันรักมันหลงผมแค่ไหน เผื่อไอ้เก่งจะได้สำนึกซะบ้างว่าควรจะรีบๆ ก้มหัวให้สักที
หลังแจกไพ่เสร็จผมก็แทบไม่ดูแต้มซะด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้ตั้งใจเอาชนะเป็นจริงเป็นจัง ฉะนั้นพอผลออกมาแพ้เลยแค่ยักไหล่อย่างไม่รู้สึกอะไร ถึงไอ้เก่งจะกำหมัดชูขึ้นฟ้าเหมือนว่าเพิ่งถูกหวยสองตัวท้ายก็เถอะ
“ควีนคิดจะทำอะไรกันแน่ กู...ผมรู้นะว่าควีนไม่ได้รักบอส”
“ครับ?” ผมเลิกคิ้ว
“ควีนคิดจะทำอะไรกันแน่...ครับ”
การมีอำนาจเหนือกว่ามันดีอย่างนี้นี่เอง ผมชักจะชอบระบบของคิงส์คลับซะแล้วสิ
“เรื่องนั้นคงต้องไปถามบอสของนายเองนะ เพราะคนที่ลากฉันมานั่งเป็นควีนตรงนี้ก็คือไอ้คิง ไม่ใช่ฉัน” ผมยิ้มกว้างแล้วแจกไพ่ใหม่ “อีกอย่าง แม้ฉันจะไม่ถึงกับรักบอสของนาย แต่บอกเลยว่าหลง...ของมันมาก”
เดาช่องว่างที่หายไปได้ใช่มั้ยครับทุกคน
ไอ้เก่งหน้าดำหน้าแดง มันเข็ดเคี้ยวฟันพึมพำออกมาว่าวันนั้นน่าจะปล้ำๆ ผมไปซะ บอสจะได้ตาสว่างว่าผมมีดีแค่หื่น วะ ไอ้เห้นี่
“ระวังปากหน่อย กฏข้อที่สี่ของคิงส์คลับ ห้ามลบหลู่คิงและควีนด้วยถ้อยคำหยาบคาย” ผมว่าก่อนจะทำหน้าดีใจเกินจริงเมื่อได้แต้ม 21 พอดีโดยไม่ต้องจั่วเพิ่ม “ตานี้ฉันชนะ งั้นขอถามหน่อย...ว่าการที่นายทำตัวทุเรศแบบนี้คิดเหรอว่าพี่แว่นจะหันมาสนใจ เผลอๆ จะสมเพชมากกว่าน่ะสิ”
“ไอ้...!”
ไอ้เก่งพูดไม่จบคำก็รีบปิดปากเมื่อผมส่งสัญญาณว่าไม่ดี ไม่เอา อย่านะคุณอัศวินเจ้าขา ประเดี๋ยวจะโดนถีบกระเด็นนะเออ
วะฮ่าๆ สนุกชะมัด!
“ใคร...ใครเป็นคนบอกครับ”
“พี่แว่น” ผมฉีกยิ้มหวานหยด “เมื่อวานคิงให้พี่แว่นมาดูแลฉันจนถึงเที่ยงคืน นายก็น่าจะเห็นนะว่าเราสองคนสนิทสนมกันแค่ไหน”
พี่แว่นที่นั่งห่างออกไปเล็กน้อยเหลือบมามอง ดีเหลือเกินที่พี่ท่านไม่เคยเปิดปาก ฉะนั้นถึงผมจะโกหกนิดๆ หน่อยพี่ท่านก็ไม่ปฏิเสธ ทำเอาไอ้เก่งหันไปมองหน้าสลับไปมาระหว่างผมกับพี่แว่นด้วยหน้าแดงก่ำ
“ฮึ่ย!”
มันทั้งเขินทั้งโกรธที่โดนผมจับจุดอ่อน ก็เลยเดินกระทืบเท้าไปโดยไม่ร่ำลาสักนิด ช่างเป็นลูกน้องมารยาททรามซะจริงจริ๊ง แต่ผมเป็นควีนที่ใจดีพอจะไม่ห้ามปราม แถมยังช่วยเก็บไพ่มานั่งเรียงใหม่ด้วยสีหน้ามีความสุข เพราะอย่างน้อยไอ้เก่งก็คงไม่เข้ามาหาเรื่องผมสักพักล่ะนะ
จากนั้นทุกอย่างก็เข้าที่ดี น่าเบื่อเหมือนเดิม ผมแอบเคลิ้มหลับไปวูบหนึ่งด้วย ก่อนชั้นสองจะกลายเป็นความอลหม่าน...เมื่อเลยเที่ยงคืน
หากก่อนหน้านี้ปลีกวิเวกตัวใครตัวมัน ตอนนี้ก็บอกได้เลยว่า...โคตรเละเทะ!
“คะ...ควีน”
ผมเมินไอ้เบอร์หนึ่งที่มานั่งเป็นเพื่อนผมด้วยอาการกระสับกระส่าย พอตกเที่ยงคืนอะไรต่อมิอะไรในร่มผ้าก็เริ่มเผย ผมหมายความว่าตามนั้นจริงๆ นะ ไอ้พวกที่แดกตับกันในม่านมันเมาจนไร้ยางอายไปแล้ว จากที่ตับๆ อยู่ลับๆ ก็โอบอุ้มออกมาโชว์ จากได้ยินแค่เสียงคราวนี้มาเป็นภาพ แม่ง อย่างกับดูนั่งสดห่างจากตัวเองแค่ไม่กี่เมตร
นั่น...ตรงบาร์โคตรร้อนแรง ผู้หญิงขึ้นไปนั่งถ่างขาแล้วเอากันแบบเสียงร้องลั่นสนั่นหวั่นไหว แน่นอนว่าผมไม่มีอารมณ์กับฉากชายหญิงหรอก ความจริงผมก็ไม่ชอบผู้หญิงมาตั้งแต่เด็กแล้ว อาจจะเป็นเพราะปมด้อยเรื่องแม่ล่ะมั้ง แต่เอาเป็นว่าสิ่งที่ทำให้ผมตื่นตัว ก็เพราะไส้กรอกของใครสักคนที่กำลังเล่น 3P อยู่ที่โต๊ะข้างๆ สายตาของนิลกาฬสำรวจแล้วบอกได้เลยว่าไอ้ฝ่ายรุกนี่อย่างเด็ด!
แต่ก็สู้คุณผัวกูไม่ได้หร๊อก
สายตาเริ่มสอดส่ายหาอาหารตาคุณภาพดี ไม่ได้ครอบครองแต่ได้มองก็ยังพอกระชุ่มกระชวยล่ะวะ ทำเอาไอ้เบอร์หนึ่งมันสะกิดผมหยิกๆ จนชักหงุดหงิดขึ้นมา
“ควีนครับ”
“อะไรไอ้เบอร์หนึ่ง อย่ามาขัดสิวะ” ผมหันไปมองค้อนมันเคืองๆ
“ก็ควีน...มัวมองแต่ไอ้นั่นของผู้ชายคนอื่นนี่นา” ยัง ยังจะมาพึมพำอีก ไม่พูดออกมาตรงๆ เลยล่ะเอ้อ คนอย่างนิลกาฬกล้าทำกล้ารับอยู่แล้ว
“โว๊ะ โชว์ขนาดนี้ขืนไม่มองก็เสียดายของน่ะสิ” ว่าแล้วก็หันไปสำรวจโต๊ะข้างๆ อีกรอบ อือหือ...ไอ้คนนั้นมันแซ่บจริงๆ ครับ ขนาดมีรับสองคนทั้งชายทั้งหญิง ก็ล่อซะสองคนนั้นอ่อนระทวย สงสัยจะเด็ดจริงดังตาเห็น เด็กเสิร์ฟชั้นสองก็รู้งานดีมาก พอไอ้พวกนั้นล่อท่าแซนวิซไปรอบที่สาม ก็เดินมาขายถุงยางแถมผ้าเย็นให้แบบรู้งานสุดๆ
เพล้ง!
เอ้า คู่ตรงบาร์ก็เมามันส์กันจนไปโดนรูปปั้นเซรามิกประดับจนแตกเพล้ง คนของคิงส์คลับเดินเข้ามาเก็บเงินทันทีโดยไม่รอให้ไปถึงฝั่งฝัน แม่ง มองไปทางไหนก็มีแต่เซ็กซ์กับเงิน เซ็กซ์ที่เรียกเงิน มั่วแต่ได้เงิน ไอ้คิงมันฉลาดจริงๆ
“ควีน...”
“อย่าขัดน่า กำลังจะเริ่มยกสี่แล้วนั่น” ผมพูดกับเบอร์หนึ่งทั้งที่ตามองไม่กะพริบ แบบว่าเห็นของดีก็อยากจ้องนานๆ คิดในใจว่าถ้าไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน ผมอาจจะเป็นคนเดินไปสะกิดไอ้ผู้ชายผิวคล้ำคนนั้นเพื่อไปแลกน้ำกันสักยกก็ได้
แค่คิดน่า อย่าเครียดๆ
“ควีน...”
“ไม่นึกเลยว่าควีนจะมีรสนิยมแบบนี้”
ผมหมดอารมณ์ทันที พอเงยหน้ามองก็เจอกับหน้าบึ้งๆ ของไอ้เก่งที่มายืนกอดอกข้างหลัง นึกว่าจะได้สบายหูสักวันซะอีก แต่ดูเหมือนมันจะหมั่นไส้ผมมากจนยอมข่มความอายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเพื่อเข้ามาเหน็บแหนมโดยเฉพาะ นิสัยผู้หญิงว่ะ
“หรือจะให้ฉันหวาดกลัวตัวสั่น อุ๊ยว๊าย ลามกจกเปรต...อะไรแบบนี้เรอะ” ผมแสร้งทำเป็นเอามือทาบแก้มทำหน้าไม่เค้ยไม่เคย เบอร์หนึ่งหลุดหัวเราะ แต่ไอ้เก่งทำหน้าเหี้ยม “ถ้าใสซื่อขนาดนั้นไอ้คิงคงไม่จับกู...เอ๊ย ฉันทำเมียหรอกน่า”
“แล้วบอสจะรู้ว่าคิดผิด”
“ไม่ต้องไปคิดแทนมันหรอก ไอ้คิงฉลาดกว่านายอยู่แล้ว”
ผมไม่ได้ด่านะ ผมแค่พูดความจริง!
จะว่าไงล่ะ...บรรยากาศกำลังเร่าร้อนขนาดนี้ เสียงร้องอื้ออ๊าอิ๊อ๊ะก็ดังคลอกับเสียงดนตรีบรรเลง ให้อารมณ์ตื่นตัวและมัวเมาอย่างบอกไม่ถูก นี่ขนาดผมดื่มน้ำพันซ์ผสมแอลกอฮอล์แค่นิดเดียวนะเนี่ย ไอ้ปากเสียๆ ที่พยายามเก็บไว้ต่อหน้าลูกน้องเชี่ยคิงเลยเริ่มออกอาการ
แล้วหลังจากนั้นก็บรรลัยครับ
ไม่ใช่ว่าผมโดนไอ้เก่งต่อยซ้ายต่อยขวา แต่เป็นไอ้ดำคนนั้นต่างหากที่โดนกระชากผมจากชายแปลกหน้าแล้วหน้าสะบัดเน้นๆ
“เมียกู!”
อูววว นี่มันละครหลังข่าว ผมกระตือรือร้นยิ่งกว่าเดิม
“ขำๆ น่าพี่”
“ไอ้สัด!”
มวยเริ่มขึ้นชก เป็นสัญญาณว่าคิงส์คลับกำลังจะได้เงิน ผมถือแก้วพันซ์มองตาประกายวาวอย่างสนอกสนใจ ไม่อยากจะบอกในฐานะคนกลางว่าเมียของพี่คนนั้นน่ะไม่ได้ผ่านแค่ไอ้ดำนี่สักหน่อย ก็เล่นเปลี่ยนคู่สวิงกิ้งกันมั่วไปหมด ไอ้หมอนั่นก็ใช่ย่อย เล่นไปกินตับคู่ชาวบ้านเหมือนกัน แล้วยังจะมาทำหน้ามึนเป็นผู้เสียหายอีก
ตอนแรกผมคิดว่าคงจะเป็นการต่อยตีแล้วมีไทยมุงเหมือนเมื่อวาน สองต่อสองไม่มีใครเอี่ยว
แต่ผม...คิดผิด
“เหี้ย!”
กับแค่ไอ้ดำโดนต่อยกระเด็นไปชนอีกคู่ที่กำลังส่ายสะโพก จากสองก็เริ่มเป็นสาม...
“เฮ้ย นั่นคู่กู!”
จากสามเป็นสี่...
“สัด ใครปาแก้วมาวะ!”
จากสี่เป็นห้า...
“โว้ยยย รำคาญญญ กูกำลังป้อเด็กอยู่ไอ้สัด”
“ช่างมึงดิวะ!”
จากห้าเป็นหก...
“กรี๊ดดดดด!!”
จากหกเป็น...เป็น...โว้ย ขี้เกียจนับแล้ว!
จากที่นั่งชิดขอบเสนอหน้าเต็มที่ ผมก็เริ่มกระเถิบตัวเองมาโซฟาด้านในสุดแล้วดันไอ้เบอร์หนึ่งให้นั่งขวางเอาไว้เผื่อมีอะไรลอยมา ผมควรจะรู้...ควรจะเดาได้ว่ากับพวกคนที่แม่งดื่มจนไม่มีสติ แถมยังเสพยาจนเคลิ้ม ส่วนประสาทที่ทำงานได้ดีที่สุดก็มีแต่ไอ้ส่วนที่ชี้โด่เด่กลางลำตัว พอโดนหาเรื่องมันจะไปมีความคิดยับยั้งตัวเองได้ยังไง
แม่งมีแต่เลยเถิด เลยเถิดเถิดเลยเชี่ย!
ตรงหน้าผมบอกได้เลยว่าชุลมุน กระชากคอหาเรื่องกันไม่พอ บางคนยังเสือกต่อยคู่กรณีผิดคนด้วยนะไอ้ฟาย สงสัยเพราะแสงสลัวๆ ก็เลยทำให้มองไม่ชัด จำหน้าไม่ค่อยได้ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เลยยิ่งเละเทะจนมีแต่เสียงโครมคราม
“อ๊า อ๊า!”
แต่ก็ยังมีคนเอากันลงอีกนะ
ผมไม่รู้จะบรรยายสถานการณ์ตอนนี้ยังไง จากไอ้ที่คึกคักก็เริ่มกลายเป็นห่อเหี่ยว ไอ้เบอร์หนึ่งมันหันมายิ้มเจื่อนให้ผมเหมือนให้ทำใจ พอหันไปมองพี่แว่นก็พบว่าพี่ท่านสวมหูฟังนั่งจิ้มไอแพคได้อย่างชิลจนน่าอิจฉา ส่วนไอ้เก่ง...
“อย่ากะพริบตาล่ะควีน”
พูดจบ มันก็ตะลุมบอนไปกับเขาด้วย อ้าว เฮ้ย! มึงให้กูดูอะไร๊
แล้วผมก็พบคำตอบครับ เทียบกับไอ้พวกมึนๆ งงๆ แล้วไอ้เก่งมีสติกว่าเยอะ และพอมันขยับตัว บรรดาคนของคิงส์คลับที่ยืนนิ่งประจำมุมต่างๆ อย่างกับรูปปั้นก็เริ่มตามหลังลูกพี่พวกมันไปด้วย พอไอ้เก่งเดินเข้าไปกระชากจากคนนอกวงสุด โยนไปให้ลูกน้องใกล้มือ ลูกน้องก็ส่งต่อไปให้คนที่ยืนคุมเป็นทอดๆ ถ้าไอ้นั่นหยุดก็จะพาไปนั่งคิดค่าเสียหายเก็บเงิน แต่ถ้าไม่มีสติก็จะพากันลำเลียงส่งไปยังชั้นหนึ่งให้พี่เอก...
ทำงานกันเป็นทีมชิบหาย
ผมไม่อยากจะชมหรอกนะ แต่ท่ามกลางความวุ่นวาย การเคลื่อนไหวของไอ้เก่งและลูกทีมโคตรลื่นไหล สามัคคีชุมนุม เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ชาติบ้านเมืองเอามากๆ
เสียแต่โฉดไปนิด
ผัวะ!
ไอ้เก่งบุกเข้าไปถึงวงในสำเร็จ แล้วกระชากไอ้คนต้นเรื่องจับโยนลงบันได เจอแบบนี้คาดว่าเมาขนาดไหนก็ตื่นล่ะวะ หรือไม่ก็อาจจะหลับไปเลยตื่นอีกทีนอนอยู่โรงพยาบาล พร้อมกับเครดิตการ์ดที่ถูกรูดจนหมดตัวอะไรประมาณนั้น
พอโดนจับแยกแกะออกไปทีละคน วงในตรงกลางก็เริ่มนิ่งสงบเหมือนเมื่อกี้แค่สึนามิพัดผ่าน ไอ้เก่งตั้งใจจะจัดการกับไอ้ดำหุ่นดี แต่หมอนั่นโดนต่อยจนมีสติเลยรีบยกมือห้ามก่อนจะถูกจับโยนเป็นคนที่สอง พอหันหน้ามาผมนี่ตกใจแทบร้องจ๊าก เพราะหน้าแม่งเยินจนมองไม่ออกว่าเคยหล่อหรือเคยอุบาทว์กันแน่ รู้แค่ว่าตอนนี้มองแทบไม่ได้ เสียดายไส้กรอกที่ห้อยต่องแต่งเป็นบ้า
“เป็นไง”
พอสถานการณ์คลี่คลายพร้อมจำนวนเงินที่คงจะลอยเข้าท้องพระคลังอีกนับแสน ไอ้เก่งก็เดินมายืนกอดอกตรงหน้าผมพร้อมยักคิ้วอวด
เอ่อ...มึงเป็นเด็กเหรอ?
“เก่งจ้าเก่ง” ผมปรบมือชมเชย ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อไอ้เก่งแม่งยกเท้าเตะโต๊ะ ตกใจจนเผลอปัดมือไปโดนน้ำพันซ์แสนอร่อยกลิ้งตกแตก อ้าว ไอ้เชี่ยนี่ กูอุตส่าห์ชม “เวลาลูกน้องทำของแตกนี่ต้องจ่ายเงินชดเชยเปล่าวะเบอร์หนึ่ง”
ผมหันไปถามคนที่นั่งประกบไม่ห่าง
“เอ่อ...ก็แล้วแต่กรณีครับ การเข้าไปห้ามคนทะเลาะวิวาทโดยไม่ให้มีอะไรเสียหายนั้นยากมาก ฉะนั้นส่วนใหญ่เวลามีของเสียหายที่ชั้นสอง จะลงบัญชีเก็บกับลูกค้าเพราะยังไงลูกค้าก็จำไม่ได้อยู่แล้วว่าทำอะไรพังบ้าง”
นี่มันค้ากำไรเกินควรป่ะวะ
“แล้วถ้ามีคนเห็นคาตาว่าคนของคิงส์คลับทำของเสียหายโดยไม่เกี่ยวกับไอ้เหตุผลนั่นล่ะ”
เบอร์หนึ่งแอบเหล่ไอ้เก่งน้อยๆ
“คนของคิงส์คลับก็ต้องจ่ายตามความจริงครับ”
นั่นแหละคำตอบที่ต้องการ ไอ้นี่ก็พูดอ้อมโลกอยู่ได้ กลัวกูจะหาเรื่องไอ้เก่งหรือไง
เออ มึงเดาถูก
“คุณอัศวินครับ อย่าลืมจ่ายค่าชดเชยค่าแก้วด้วยนะครับ แก้วนี่ทำจากคริสตัลอย่างดีเหมาะกับควีนซะด้วยสิ แล้วยังค่าทำความสะอาดโต๊ะที่มีรอยแตกและรอยตีน...เอ๊ย รอยเท้านั่นด้วย คิงส์คลับของเราไม่มีการใช้เส้นสาย ฉะนั้นต่อให้เป็นอัศวินก็ต้องจ่ายสดงดเชื่อไม่มีต่อราคานะครับ”
ผมยิ้มแป้น ก่อนจะหน้าแตกเมื่อไอ้เบอร์หนึ่งมันหันมากระซิบ
“ปกติบอสจะเก็บค่าเสียหายจากคนในคลับโดยการตัดโบนัสตอนปลายปีครับควีน”
วะ ไอ้คิงแม่งโอ๋ลูกน้องไปแล้ว! แล้วไอ้เบอร์หนึ่ง...ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะหา!
“เห็นแก่ควีนที่เป็นห่วง อัศวินคนนี้จะบริการเอาน้ำแก้วใหม่มาให้ก็แล้วกันครับ หวังว่าครั้งนี้คงไม่ทำมือลื่นอีกหรอกนะควีน”
“งั้นขอเป็นน้ำเปล่าล้างคอก็พอ เผื่อว่าอัศวินจะแอบใส่อะไรแปลกๆ เข้ามา”
“ผมจะไปกล้าทำกับควีนแบบนั้นได้ยังไงล่ะครับ”
แม่งงง แม่งงงงง
อยากต่อยคนโว้ย!
ผมนั่งยิ้มแป้นทั้งที่ในใจไฟสุมทรวง ไอ้เบอร์หนึ่งมันขยับตัวน้อยๆ เพราะรู้สึกร้อนรุ่มกับประกายตาระหว่างผมกับไอ้เก่งที่หากไม่ติดว่าเป็นเจ้านายลูกน้องคงได้กระโจนซัดกันปากแตกสักยก แต่ไม่ทันได้ทำชั้นสองก็เกิดเรื่องอีกครั้ง...
“เมียกู!”
ยังกับเดจาวู ผมชักหน้าเซ็ง กอดอกพิงกับผนักโซฟาแล้วกระดิกเท้ารอให้ไอ้เก่งเอาน้ำมาเสิร์ฟ
ชั้นสองมันเหี้ยก็เหมาะกับที่คนเหี้ยๆ จะคุมล่ะนะ ไม่ไหว ถึงจะชอบเซ็กซ์แต่เล่นเกิดเรื่องตลอดเวลาด้วยคนไร้สติไม่มีสาระแบบนี้ผมก็ไม่อยากจะยุ่ง เพราะต้องใช้กำลังลุยแลกสถานเดียว
แล้วนั่น...ไอ้เก่งเข้าไปตะลุมบอนอีกแล้ว น้ำกูล่ะเชี่ย!!!
--------------
ชุลมุนวุ่นวายมาก ตกกลางคืนทีไรคิงส์คลับมีแต่เรื่องทุกที 5555
ว่าแล้วก็มาทำความเข้าใจกับอัศวินคนนี้กันหน่อย ไอ้เก่งจะเป็นพวกนิสัยเด็ก ก็เลยบ้าระบบคิงส์คลับกว่าชาวบ้านค่ะ เน้นใช้กำลังมากกว่าสมอง ขี้พาล แล้วยังมาอวดอีก ก็โดนน้องนิลตอกกลับกันไป 5555 หากสงสัยว่าทำไมเฮียคิงเลือกหมอนี่มาเป็นอัศวิน ไอ้ข้างต้นทั้งหมดคือคุณสมบัติที่ดีในการคุมชั้นสองค่ะ อีกอย่างด้วยความที่เก่งบ้าระบบลำดับชั้น ทำให้เป็นคนที่ซื่อสัตย์กับพระราชามากคนหนึ่ง ไม่ทรยศแน่นอน ถึงจะเคยแอบปล้ำน้องนิล แต่พอเป็นควีนก็ยอมพูดสุภาพ ยอมลงให้กับกฏเหมือนกัน อย่างที่คิงเคยบอกว่าเป็นข้อได้เปรียบของนิลกาฬค่ะ ไม่งั้นวางมวยไปแล้ว กร๊าก
มาจะกล่าวบทไป...ถึงชาย(หลายคน)รักกัน ฮู้เย้