{{ King’s Club }} เพราะเสพติดเซ็กซ์ - แจ้งข่าวรีปริ้น - P.149 -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{ King’s Club }} เพราะเสพติดเซ็กซ์ - แจ้งข่าวรีปริ้น - P.149 -  (อ่าน 1353082 ครั้ง)

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
พี่แว่นพลิกโผมากมาย...

ออฟไลน์ supizpiz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 692
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
พี่แว่นเนียนสุดดด ยังดีที่นิลยอมฟังเหตุผลนะ :z2:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ชอบฟิลของนิลในตอนนี้อะ  แบบอ่ายแล้วรู้ว่านิลเปิดใจกับคนที่คลับมาก ไม่ได้อยากสนุกหรือเอาชนะแต่มันมีความสัมพันธ์ต่างๆแอบซ่อนอยู่  อ่านแล้วชอบจุง

ออฟไลน์ Jthida

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ฌห็นชื่อ๖อนนึกว่าความลับเรื่องยาจะแตกกับชาย กลายเป็นเรื่องพี่แว่นซะได้

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
แบบนี้น้องนิลจะกล้าสวีทกับพี่คิงในคลับไหมละเนี่ย

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
โอ้ยยยพี่แว่นนน เนียนนน
เหมือนชายเลยยย
โอ้ยย นิลล ไม่เปนไรนะ ไม่เปนไร

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ช็อคดิ่....
เหนือความคาดหมายมากกกก
นิลไม่ยิ่งท้อแท้หรอวะเนี่ย ชาตินี้เก่งมันจะยอมรับมั้ยยย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ถ้าคิงจะชอบพี่แว่นแกก็ชอบไปนานแล้วค่ะ ดังนั้นถ้าคิงไม่เลือกก็ไม่ถือว่าเหมาะหรอกค่ะ

ออฟไลน์ ปังอุ่น

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เซแถ่ดๆไปด้านข้าง
ง่อววววว หรือสุดท้ายคนที่ยืนอยุ่ข้างควีนจริงๆก็คือไอ้เก่ง!?  :z10:

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ถ้ามองข้ามเรื่องที่เก่งเคยจะข่มขืนนิล
เก่งก็เป็นคนดีคนนึงนะ(มั้ง?) 5555
แต่พี่แว่นแกเก็บได้เนียนจริงๆแหละ

ออฟไลน์ Kaemmiizz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 727
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
อยากให้คิงรู้ ให้นิลกาฬหายไปสักพัก อยากเห็นคิงคลั่ง555
นิลกาฬสู้นะ คิงเลือกนาย แค่นี้นายก็มั่นใจได้เลยว่านายจะเป็นคนเดียวที่คิงรัก
สงสารพี่แว่นเหมือนกันนะ ปิดมาได้ตลอดแต่มาโดนเปิดเผยซะงั้น แต่นายแมนมาก

ออฟไลน์ ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥

  • เหรียญยังมีสองด้าน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
ความลับแตก ตามชื่อตอน  :z2:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
OMG  พี่แว่นเก็บความรู้สึกได้มิดชิดมากเลย
นี่ถ้านิลไม่คิดจะเป็นแม่สื่อคงไม่มีทางรู้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
 :sad4:
พากันเป้นอะไรไปหมดดด

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
พี่แว่นใจหล่อมากกกกกกกกก ละมุนสุดอะไรสุด


ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
มันสั้นเองหรือเพราะรู้สึกตื่นเต้นกับความรู้สึกพี่แว่น ไม่ก็ตกใจที่พี่แกพูดเยอะขึ้นกันแน่

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
เงิบบบ =[]=
แต่น้องนิลสู้ๆ นะ คิงเลือกแล้ว อย่าไขว้เขวเด็ดขาด -^-! เอาใจช่วยเน้อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกๆการกระทำนั้นมีเหตุผลในตัวของมันเอง...กรี๊ดดดดดดดพี่แว๊นนนนนน!!! :katai1: o22

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ชั้นกลัวมาม่าของเรื่องนี้ขึ้นสมองเลยนะคะ 555
อยากลองให้นิลหายตัวไปทำใจสักระยะ และเก่งจะได้รู้ว่าควีนที่แท้จริง ใครคู่ควร ไม่จำเป็นต้องเก่งหรือดีพร้อม เพราะคิงเลือกแล้ว ถ้าควีนหายไป นึกสภาพตอนคิงเลิกกับนิลดิ นั้นล่ะ เหตุผลที่ว่าทำไมนิลถึงคู่ควรกับตำแหน่งควีนและตำแหน่งทางใจ

(แกเลิกอคติสักที เดะแม่ตบให้!)

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
อ่านแล้วแอบสงสารพี่แว่น

เก่งรีบยอมรับสักที

รอนะจ้า

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
โธ่ๆ พี่แว่นผู้น่าเห็นใจ  :sad11:

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
คาดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าพี่แว่นจะมาในรูปแบบนี้ แต่จบแบบสามัคคีกับควีนนิลก็ดีสุด ๆ แล้วค่ะ. ขอโป้งอัศวินเก่งไว้ ณ ตอนนี้เลยละกัน กล้าปั่นหัวน้องนิลด้วยเรื่องนี้  หวังว่าควีนจะจัดการกับอัศวินผู้นี้อย่างสาสมนะคะ อุตส่าห์เชียร์ให้ได้จีบพี่แว่นติด เสียความรู้สึกจริงเชียว.  :fire:


รอตอนต่อไปนะคะ


 :katai3:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
อึ้งจ้าาาาา อึ้งตัวเท่าบ้าน ช๊อคมากกับความลับของพี่แว่น แต่บอกเลย คิงส์คลับฟินมาก เลิฟฟฟฟฟฟฟ

ออฟไลน์ SOO2

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มาแบบหักมุมมาก  :katai1:

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 35 : ตัดสิน

ไอ้คิงนั่งเกลี่ยหน้าผากผมเล่น ระหว่างที่เราสองคนนอนแผ่กันอยู่บนเตียง

“มึงรู้มาก่อนรึเปล่า”

“เปล่า” ไอ้คิงตอบเมื่อผมปรือตาถาม ร่างกายยังคงปรากฏรอยช้ำจากรสจูบรุนแรงที่ประพรมไปทั้งตัว เซ็กซ์กับไอ้คิงเป็นอะไรที่เปลืองพลังกายและพลังงานอย่างที่สุด แม้วันนี้พวกเราจะจัดกันเบาะๆ แค่สองยก แล้วพามานอนเกยกันในห้องที่ปิดไฟสนิทก็ตาม

“พี่แว่นเก่งจังเนอะ” ผมพึมพำ อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นตัวเอง แล้วหลงรักใครคนหนึ่งขึ้นมา การเห็นคนคนนั้นมีเซ็กซ์กับคนอื่นไปทั่ว แล้วเปิดตัวเมียแบบเอิกเกริกเกินหน้าเกินตา จะรู้สึกเจ็บช้ำขนาดไหน

แต่พี่แว่นกลับทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร และช่วยเหลือผมอย่างดี

“ไอ้เก่งก็ด้วย กูคงต้องมองมันใหม่ว่ะ”

ผมนึกถึงไอ้เก่งที่สุดท้ายก็ถูกพี่แว่นลากไปคุยสองต่อสองหลังคลับปิด ผมคิดว่าพี่แว่นคงจะต่อว่าที่มันทำความลับแตกทั้งที่อยากเก็บเอาไว้จนตาย แต่ไอ้เก่งก็ไม่หือไม่อืออะไร เพียงยืนฟังเงียบๆ ด้วยสีหน้าไม่รู้สึกผิดสักนิด ราวกับว่ารอคอยที่จะพูดเรื่องนั้นให้ผมฟังมานานเหลือเกิน

ก่อนขึ้นรถไอ้คิง ผมเห็นไอ้เก่งจับพี่แว่นกอดซ้ำรอยผมซะด้วยซ้ำ พี่แว่นดิ้นขัดขืนเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยอมอยู่นิ่งๆ ในอ้อมกอดแข็งแกร่งของอัศวิน

ทั้งที่ไม่เคยยอมลงให้มาก่อน สร้างเกราะแน่นหนาไม่ยอมให้อีกฝ่ายเข้าใกล้ แต่คนเดียวที่เข้าใจความรู้สึกพี่แว่นมากที่สุด ก็เห็นจะมีแค่ไอ้เก่งเท่านั้น

สุดท้ายต่อให้ผมไม่ต้องทำอะไร หรือพยายามฝืนจับคู่ พวกเขาสองคนกลับเป็นฝ่ายเดินเข้าหากันโดยไม่ต้องวางแผนวกวนให้ปวดสมอง นึกแล้วผมก็ชักรู้สึกเหนื่อย เหมือนว่าที่ทำไปทั้งหมดมันไร้ค่าชอบกล

“ไอ้คิง”

“หืม”

ผมหลับตาเมื่อไอ้คิงกดจูบบนหน้าผาก การมีใครสักคนอยู่ข้างๆ นี่มันให้ความรู้สึกดีจริงๆ ผมก็หวังแต่ว่าพี่แว่นจะใจอ่อนนะ เพราะผมเลิกความคิดที่จะดึงดันให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกันแล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย สิ่งที่สำคัญที่สุด คือความรู้สึกของแต่ละคน ไม่ใช่การจัดฉาก

เฮ้อ นิลกาฬเสแสร้งเก่งจนเลือกที่จะมองผ่านเรื่องพวกนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ

ไม่สิ คงเพราะผมไม่เคยเจอความรักจริงๆ มาก่อน คนสองคนที่ผูกพัน ยึดมั่นในความรู้สึกตัวเอง ผมเคยมีสิ่งนั้น เคยเชื่อใจแม่แท้ๆ ยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างแม้โลกรอบข้างจะเลวร้าย แต่สุดท้ายก็โดนหักหลังจนไม่คิดจะทำความรู้จักกับสิ่งนั้นอีกต่อไป เพราะมันเหมือนว่าผมเป็นตัวโง่งม จนเกลียดการหลอกลวงมากที่สุด และจะไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด

“มึงคงไม่มีความลับอะไรกับกูหรอกนะ”

“เช่นอะไรล่ะ”

“เช่นแอบมีเมียน้อย มีลูกติด หรือเคยมีพันธะอะไรมาก่อน มีอะไรมึงต้องบอกกูนะ กูไม่อยากเป็นคนรู้ทีหลัง!”

ผมกระชากเสื้อมันมาเขย่าแรงๆ ทำไมจู่ๆ นิลกาฬก็ฮาร์ดคอร์แบบนี้ ช่วยไม่ได้ พอพูดปุ๊บต่อมมโนของผมก็คิดตาม ภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่จูงลูกมาหา แล้วบอกว่าเป็นลูกของไอ้คิง ต้องการค่าเลี้ยงดูและความรับผิดชอบ

แค่นึกก็อยากจะพ่นไฟแล้ว!

“กูไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก กูป้องกันตัวเองดี”

เออ ผมเชื่อ มันเคยได้ชื่อว่าเป็นราชาไร้พ่ายนี่หว่า แถมยังใจดำ ทำอะไรโคตรระวังตัว

“แล้วมึงล่ะเมีย มึงมีอะไรจะบอกกูมั้ย”

“ก็บอกไปหมดแล้วนะ” ผมขมวดคิ้ว ตั้งใจคิดจริงจังเพื่อความเท่าเทียม “ถ้าไม่นับพวกคู่ขาที่ยังแอบส่งไลน์มาบ้าง กูก็ไม่ได้คุยกับใครเลย เอ้อ เรื่องสมศักดิ์มึงก็คงรู้จากเบอร์หนึ่งแล้วนี่ กูจัดการตอกกลับไปแล้ว มันคงไม่เข้ามาจีบกูแบบเปิดเผยหรอกน่า วางใจได้”

“เมีย”

“อะไร” ผมกลืนน้ำลายเมื่อมันคร่อมทับจากด้านบน แถมยังใช้สองมือกดข้อมือของผมยึดกับเตียงอีกด้วย แม่ง ทำไมถึงต้องทำหน้าดุแบบนั้น ผมก็อุตส่าห์ปฏิเสธสมศักดิ์แบบชัดถ้อยชัดคำแล้วไง ยังต้องการอะไรอีก

“มึงยังคุยกับคนอื่นอยู่เหรอ”

“ก็...นิดหน่อย มีคนทักก็ต้องตอบ เป็นมารยาททางสังคมนะไอ้คิง เฮ้ย จะทำอะไรโทรศัพท์กู!”

ผมมองไอ้คิงที่เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์รุ่นเก่าเครื่องเล็กของผมอย่างหวั่นวิตก ก่อนจะร้องโวยวายเมื่อเห็นมันเขวี้ยงวงสวิงสวยประหนึ่งเป็นพิชเชอร์ในวงการเบสบอล ปาโทรศัพท์ของผมปะทะกำแพงด้วยแรงระดับโฮมรัน เสียงกระแทกดังสนั่น ส่วนสภาพโทรศัพท์คงไม่ต้องพูดถึง

“เชี่ยคิง!”

“กูซื้อให้ใหม่”

“งั้นกูเอาไอโฟน รุ่นใหม่ล่าสุด”

“ได้ตามต้องการ”

นี่มันตบหัวแล้วลูบหลังชัดๆ! ผมมองซากโทรศัพท์แล้วก็ถอนหายใจเฮือก อย่างน้อยก็ดีกว่ามันจับผมโยนลงระเบียงล่ะวะ ไอ้หมอนี่แม่งจะหวงจะหึงทีโหดชิบหาย แถมยังทำอะไรไม่เคยบอกล่วงหน้าเหมือนเดิม ชาติไหนผมจะตามมันทันเนี่ย อารมณ์แปรปรวนอย่างกับผู้หญิงมีประจำเดือนนะมึง!

“แล้วไอ้ชายจะติดต่อกูยังไงวะ อื้อ”

ผมอ้าปากรับจูบจากไอ้คิง พอระบายอารมณ์เสร็จ ก็เตรียมระบายความใคร่ต่อเลยนะไอ้สัด

“พรุ่งนี้กูมีเรียนเช้า” ผมรีบพูดดักไว้ก่อน

“ขอยกเดียว”

“เออ...ได้ แต่อย่าทำแรงนะมึง เดี๋ยวกูลุกไม่ไหว” ผมท้วง เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งจัดไปสองยกเหนาะๆ ถ้าขึ้นรอบสามแล้วคงความเร็วแรงระดับเดิม ขาดว่าถ้ำสวรรค์ของนิลกาฬอาจระบมเอาได้

“กูเคยทำแรงด้วยเหรอ?”

โห ถามมาได้ กระแทกแต่ละทีตัวผมแทบจะไถลเกยหัวเตียง แล้วเสือกมาถามว่าทำแรงด้วยเหรอ ผมนี่แทบจะจับหัวมันโขกกับเข่า เอาให้ตั้งสติดีๆ แล้วค่อยถามใหม่อีกครั้ง เผื่อว่าจะฟั่นเฟือนชั่วคราว

“พูดผิดพูดใหม่ได้นะไอ้สัด โอ๊ะ!”

ผมผวาเฮือกเมื่อมันดันตัวเองเข้ามารวดเดียวมิดด้าม แน่ล่ะ ก็ถ้ำผมเพิ่งถูกทะลวงไปหมาดๆ นี่หว่า

“อย่าแตกในนะ ขี้เกียจอาบน้ำอีกรอบ”

“เดี๋ยวกูอาบให้”

“อะ...ไอ้คิง กูบอกว่าอย่าแรงไง!” ผมกระชากศีรษะมันที่ขบเม้มตรง     ยอดอกเอาไว้เมื่อเริ่มขยับตัวสวนเข้าออกหนักหน่วงขึ้นทุกที อูวว กระทุ้งทีล่อซะเสียวยันท้องน้อย มังกรจ๋าของน้องนิลยังคงคับแน่นและแรงดีเหมือนเดิมเลยนะจ๊ะ

“กูไม่ได้ทำแรง”

ยังมาเถียง

“เพราะถ้าแรงน่ะ...ต้องแบบนี้”

“อ๊า!”

ไอ้สัด ไอ้เชี่ย ไอ้ผัวเวร!!!

ผมร้องลั่นน้ำตาเล็ดเมื่อมันจับผมพลิกตะแคง ก่อนจะช้อนขาข้างหนึ่งให้ยกสูงจนเกยกับบ่าของมันที่อยู่ในท่าคุกเข่า พร้อมกระทั้นตัวในท่าเสยขึ้นหนักๆ จนผมเสียวจี๊ดถึงสมอง

“อะ...อ๊า คิง อ๊า!”

แรงกระหน่ำที่ล่อซะตัวบิดเกรียว ผมจิกนิ้วกับผ้าปูที่นอน ตัวโยกคลอนตามแรงเสยในจังหวะระรัวยิ่งกว่าตีกลอง แม่ง อยากจะร้องห้าม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโคตรรู้สึกดี

“อะ อ๊าาา”

หลังโดนจัดหนักจนน้ำพุ่ง ไอ้คิงก็พลิกตัวผมอีกครั้ง คราวนี้ช้อนสะโพกผมเอาไว้ ให้ถ้ำสวรรค์ยังเชื่อมติดกับมังกรที่เจ้าของเสือกอยู่ในท่านั่งคุกเข่ายืดตัวสูง มันกระทุ้งมาทีสะโพกก็ลอยขึ้น ก่อนจะกดลงเน้นๆ บนหัวมังกรร้อนจัดที่เสยย้ำจนสะโพกลอยแล้วกดต่ำตามแรงโน้มถ่วง ข้างในผมถูกกระทำอย่างรุนแรงหลายต่อหลายครั้งจนหนอนน้อยดีดเด้งตามแรงกระทั้นไม่หยุด

“อะ คิง กูบอกว่า...อ๊า! อย่าระ...แรง อูวว โคตรดีเลย อ๊า อ๊า!”

ความผิดชอบชั่วดีของนิลกาฬก็กระเด็นหายไปตอนนั้นนั่นแหละ

“ซี๊ดดด ไอ้คิง อ๊า แรงอีก แรงอีก!”

“แล้วพรุ่งนี้ล่ะ...” ไอ้คิงถามด้วยรอยยิ้มโฉดชวนใจสั่น มันชั่วร้ายมากเพราะพูดไปก็เร่งจังหวะไปจนเตียงสะเทือนเลือนลั่นไปหมด

“กูไหว!”

ไม่ไหวก็ต้องไหว ในเมื่อมังกรคึกจัดขนาดนี้ นิลกาฬจะยอมแพ้ได้ยังไง

ต่อให้โต้รุ่งก็จะถ่อสังขารไปให้ได้ แต่ขอเอามันส์ๆ ถึงใจแบบนี้ก่อนล่ะนะ

ผัวผมเด็ดโว้ย!




“นิล ทำไมตอนเช้าชายโทรไปหาไม่...นิล!”

ผมปรือตาง่วนงุนเมื่อไอ้ชายเดินเข้ามาสะกิดปลุกตรงโต๊ะม้าหินช่วงเช้า อย่าให้พูดว่าผมนอนกี่โมง ถามก่อนดีกว่าเมื่อสรุปแล้วเมื่อคืนผมโดนกี่รอบ ไอ้คิงแม่งก็รักเมียมาก พอเห็นฟ้าเริ่มสว่างค่อยลากตัวผมไปอาบน้ำ หาข้าวหาปลาให้แดก ก่อนจะมาจับหย่อนตรงโต๊ะประจำของผมได้ตรงเวลาชิบหาย

“มือถือกูพัง เดี๋ยวเย็นนี้จะไปซื้อกับไอ้คิง แต่ตอนนี้ขอนอนก่อนนะ ง่วงไม่ไหวแล้ว” ผมอ้าปากหาวก็จะนอนฟุบอีกรอบ ยังดีเมื่อเช้าไอ้คิงขับรถมาส่งทั้งที่มันมีเรียน แต่ถ้ามันกล้าปล่อยเมียที่โดนทะลวงจนถ้ำแทบพังเดินข้ามฝั่งร่วมหนึ่งกิโลได้ลงคอ ผมก็คงต้องเขียนจดหมายฟ้องศาลข้อหาถูกผัวทำร้ายร่างกายเกินกว่าเหตุล่ะวะ

“นิล...นิล”

ไอ้ชายสะกิดหลายครั้ง แต่ผมก็ยังฟุบหน้าทำเป็นหลับลึก โชคดีจริงๆ มันต้องถามผมเรื่องการเข้าคิงส์คลับแน่ๆ รอดตัวไปหนึ่งวันล่ะนะนิลกาฬ ผมจะทำเบลอให้สมกับที่ไม่ได้นอนทั้งคืน

สรุปแล้วผมถ่อสังขารมาทำไมเนี่ย เพื่อให้ไอ้ชายเห็นว่ายังมาเท่านั้นใช่มั้ย

ผมถอนหายใจเฮือก เริ่มทิ้งสติลงไปในห้วงความมืดอันลึกล้ำ ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงของเบอร์หนึ่งแม่งตะโกนลั่นจนปวดประสาทไปหมด

“พี่นิล! พี่นิล!”

“อะไรเบอร์หนึ่ง กูง่วงจะตายห่าอยู่แล้ว” ผมถลึงตามองเคืองๆ ไม่รู้รึไงว่าความสุขตอนกลางคืนมันแลกกับความเฉาตอนกลางวันน่ะห๊ะ!

“พี่นิล ไอ้สมศักดิ์มันจับตัวใบปอไปแล้วพี่!”

“เฮ้ย!”

ตาสว่างของจริง ผมรีบชะโงกดูโทรศัพท์ของเบอร์หนึ่งที่มีรูปของกระต่ายโดนมัดพร้อมกับหน้าตาตอบๆ ของไอ้สมศักดิ์ ดูจากเวลาน่าจะเป็นช่วงตีห้าของเมื่อคืน ตอนผมกำลังเล่นกินตับจนไส้แทบทะลักออกจากปากเพราะแรงทะลุทะลวงของมังกรโคตรอึดพอดี

“ทำไมไม่รีบบอกกูวะ”

“บอสปิดเครื่อง ส่วนพี่นิลติดต่อไม่ได้นี่ครับ”

...ขอโทษว่ะเบอร์หนึ่ง ผมปิดโทรศัพท์ไอ้คิงเองล่ะครับ ก็ก่อนหน้าจะเสียดสีสอดใส่สวบสาบจึ้กกะดึ๋ยกัน ผมนั่งพล่ามเรื่องไอ้เก่งกับพี่แว่นอยู่ แล้วบังเอิ๊ญ บังเอิญมีคนโทรผิด ทำเอาอารมณ์ที่บิ้วมาอย่างดีของผมล่มสลาย ก็เลยกดปิดเครื่องไอ้คิงไป ส่วนเครื่องของผม...ถามว่าตอนนี้ไอ้คิงเก็บซากไปทำบุญรึยังน่าจะดีกว่า เพราะตอนเช้าผมยังเห็นศพนอนตายอยู่ตำแหน่งเดิมจนอยากจะเอาชอล์กสีขาวมาวาดรอบๆ แบบหนังสืบสวนฆาตกรรมชะมัด

“แล้วรู้รึยังว่าอยู่ที่ไหน”

“รู้แล้วครับ แต่ผมยังติดต่อบอสไม่ได้ ก็เลยยังไม่กล้าลงมือทำอะไร อีกอย่าง...”

ผมเข้าใจว่าไอ้ที่เว้นไว้คืออะไร กระต่ายไม่ใช่คนของคิงส์คลับ ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนใจดำอย่างไอ้คิงจะออกคำสั่งยกคนไปช่วยเหลือ การที่มันยอมให้กระต่ายเข้ามายุ่งเรื่องยาเพื่อเพิ่มเงินเดือนให้ ก็นับว่ามันยอมเสี่ยงเกิดความจำเป็นไปมากแล้ว

“งั้นมึงมากับกู”

“นิล!”

เหวอ ลืมไอ้ชายไปเลย

“เอ่อ ชาย...กูขอไปทำธุระแป๊ปเดียว แล้วจะรีบกลับนะ”

“ชายจะโทรบอกหมอบ”

เหวอ เหวอ เหวอ พี่หมอบรู้ คิงรู้ และหมอนั่นแม่งต้องห้ามผมแน่ๆ

“พี่นิลครับ สมศักดิ์ทำคนเดียว มันไม่มีลูกน้องแล้ว ถ้าพี่นิลคิดว่าบอสไม่ลงมือจริงๆ ผมไปคนเดียวก็ได้ครับ”

“สองหัวดีกว่าหัวเดียวน่า” ผมรีบท้วง ยังไงก็เป็นห่วงกระต่ายสุดน่ารักของผมอยู่ดี

“ชายไปด้วย”

“เฮ้ย ไม่ได้!”

ถ้ามันตามมา ก็ต้องรู้ว่าไอ้สมศักดิ์แม่งเป็นพ่อค้าผลิตยา แล้วถ้ามันรู้ว่าคิงส์คลับเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น...

ตาย ตาย ตาย ทำไมทุกอย่างต้องมาลงตูมเดียวด้วยวะ!

“นิล ชายรับได้น่า”

“ไม่ล่ะ กูว่ามึงรับไม่ได้”

“นิล!”

“พี่นิลครับ ผมไปคนเดียวดีกว่า ขอตัวนะครับ”

โอ๊ย สติจะแตกอยู่แล้ว ผมรีบคว้าแขนทั้งสองเอาไว้ ก่อนจะสูดหายใจเฮือกแล้วตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

“ก็ได้ ไปด้วยกันให้หมดนี่ล่ะ!”

ยังไงผมก็ปิดชายไม่ได้ตลอด และมันเองก็อยากเข้ามามีส่วนรวมเข้าขั้นดื้อด้านชนิดที่พี่หมอบยังรับมือไม่ถูก

ถ้างั้นก็ให้เห็นด้วยตาเลยละกันว่าโลกคิงส์คลับเป็นยังไง!!!




จากนั้นผมก็มาอยู่ที่เขตก่อสร้างแห่งหนึ่ง ดูจากสภาพตึกร้างๆ แล้วคาดว่าคงเป็นโครงการอะไรสักอย่างที่สร้างไม่เสร็จดี และคุ้นๆ ว่าที่นี่เคยมีคนโดนลวงมาฆ่าข่มขืนบ่อยๆ ทำให้มีผีเยอะ...

ดีนะที่มาตอนกลางวัน ถ้าเป็นตอนกลางคืนนิลกาฬขอบาย กับคนนี่ลุยไม่ยั้ง แต่กับผีขอไม่เสวนาด้วยเป็นอันขาด!

“พี่นิล รออยู่ข้างนอกเถอะครับ ถ้ามีคนอื่นอยู่จริงๆ ผมจะส่งสัญญาณให้พี่รีบหนีไปก่อน” เบอร์หนึ่งบอกเมื่อผมตามหลังมันจนมาหยุดอยู่ที่ตึกร้างด้านในสุดที่ค่อนข้างโทรมกว่าที่อื่น ควรจะเตรียมหาอะไรปิดปากมั้ยเนี่ย ถ้าฝุ่นเยอะเกินไปผมกลัวจะหลุดไอออกมาชะมัด ถึงจะฝึกพลังปอดครางเสียงสนั่นหวั่นไหวที่คอนโดไอ้คิงทุกวัน แต่ผมว่ามันคงไม่ช่วยกับอาการแพ้โน่นแพ้นี่ของผมสักเท่าไหร่

ไอ้ชายก็รู้งานดีมาก เปิดกระเป๋าแล้วส่งผ้าปิดปากให้ผมผืนหนึ่ง...นี่มึงพกของแบบนี้ติดตัวด้วยเหรอเนี่ย

“อย่าพูดมากน่าเบอร์หนึ่ง คิดว่ากูจะโง่ให้มึงหลอกบ่อยๆ ด้วยท่าทางซื่อๆ นั่นรึไง มึงรอเจอกูกับคิงก็เพราะว่าไอ้สมศักดิ์ไม่ได้ทำคนเดียวอย่างที่บอก มึงไม่มั่นใจว่าเข้าไปคนเดียวจะช่วยได้ก็เลยต้องหน้าตื่นรอจนเช้า แต่พอเห็นว่ากูอยู่คนเดียวและไอ้คิงอาจทำเป็นไม่สนใจก็เลยรีบสลัดตัวถ่วงทิ้ง เบอร์หนึ่ง กูเป็นมวยนะโว้ย”

“พี่นิล...มวยใช้กับหมาหมู่ไม่ได้หรอกนะครับ” เบอร์หนึ่งพูดอึกอัก ท่าทางลำบากใจที่โดนผมมองออกจนหมดเปลือก ใครจะยอมเสียทีให้หมาจิ้งจอกนี่อีกล่ะวะ เวลามันพูดออกมาแต่ละคำ ผมต้องกรองแล้วกรองอีกหลายๆ รอบว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ

“เอาน่า คนเป็นมวยสองคน ไหวอยู่” ผมหันไปมองไอ้ชายที่ยังไงก็คงตามผมจนถึงที่สุดแน่ๆ

“ผมลองโทรหาบอสอีกทีดีกว่า...”

“ถ้ามึงอยากโดนตื้บเพราะลากกูมาถึงนี่ก็ลองดู”

“ยังไงผมก็ต้องโดนอยู่แล้ว แต่จะโดนมากโดนน้อยก็อยู่ที่ว่าพี่นิลจะรีบกลับไปตอนนี้หรือหลังจากนี้น่ะสิครับ”

เดี๋ยวนี้หัดพูดจายอกย้อนเรอะ

“คำสั่งกู ห้ามโทร แล้วกดปิดเครื่องไปซะ”

“พี่นิลครับ...”

“ขัดคำสั่งควีนรึไง หรือมึงไม่เคยเห็นหัวกูในฐานะควีน ตอบ!”

เบอร์หนึ่งขมุบขมิบปากไม่หยุด แม่ง จะบ่นอะไรก็พ่นกันตรงๆ สิวะ ไม่แมนเอาซะเลย

“นิล...”

เหวอ เหวอ เหวอ เมื่อกี้ผมพูดอะไรออกไปนะ ไม่ได้หลุดคำว่าควีนใช่มั้ย!

ผมหน้าซีดตัวสั่น หมดมาดทั้งที่เพิ่งออกคำสั่งเสียงเฉียบขาดเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง

“หลังจากนี้เรามีเรื่องต้องคุยกัน”

“จ้ะ ชาย” ผมรีบตอบรับเสียงอ่อน ถ้ายังดื้อดึงต้องโดนสอบสวนบัดเดี๋ยวนี้แน่ๆ โคตรไม่เหมาะไม่ควรอ่ะ

“แล้วพี่นิลจะทำยังไง พวกเราสามคนเข้าไปก็มีแต่โดนรุมนะพี่ ผมคนเดียวเคลื่อนไหวสะดวกกว่า เอาแบบนี้มั้ย ให้ผม...”

“กูกำลังคอยคนอยู่”

“คอยใครครับ...”

ผมบอกให้มันเงียบเสียงเพราะชักรำคาญ จากนั้นไม่เกินสิบนาทีรถตู้ก็มาจอดเทียบท่า พร้อมกับร่างสูงใหญ่สิบคนที่ผมแสนจะคุ้นเคย และเบอร์หนึ่งก็รู้จักมักจี่กันดีด้วย แน่ล่ะ ก็เจ้าพวกนี้เป็นเบี้ยในผับ ขึ้นตรงกับไอ้เก่งซึ่งคุมชั้นสอง และเคยไปร่วมขบวนการทวงหนี้ด้วยกันเมื่อไม่กี่วันก่อน ถึงโทรศัพท์ผมจะพัง แต่ผมจำเบอร์ลูกน้องได้นะครับ ระหว่างทางที่นั่งรถแท็กซี่มากับไอ้ชาย โดยมีเบอร์หนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์นำหน้า ผมก็รีบเรียกกำลังเสริมอย่างรู้แกวว่าต้องได้ต่อยตีกันแน่ๆ

“พี่นิลรู้จักพวกนี้ได้ยังไงครับ”

“กูคือใคร”

ผมยักคิ้ว ก่อนจะเดินออกจากที่ซ่อนของตึกฝั่งตรงข้ามไปลากเจ้าพวกนั้นมาจับกลุ่มมุงหน้าเข้าหากันแล้วอธิบายแผนการคร่าวๆ แน่นอนว่าง่ายดายมาก เบี้ยสิบคนลุยเข้าไปก่อน ส่วนพวกผมสามคนจะแอบย่องเข้าไปช่วยกระต่ายออกมา ถึงผมจะไม่รู้จำนวนคนด้านใน แต่ลูกน้องไอ้เก่งรับมือกับคนเมาอาละวาดในชั้นสองบ่อยๆ อยู่แล้ว แค่รูปร่างถึกถึนก็กินขาด เผลอๆ สิบล้อชนยังไม่ตายซะด้วยซ้ำ แถมยังสามัคคีเข้าขากันมาก รับรองว่าเป็นตัวชนชั้นเยี่ยมเลยล่ะ

“ฝากด้วยนะทุกคน”

“ได้ครับควีน!”

ต้องขอบคุณที่ก่อนหน้านี้ผมหว่านเมล็ดหวังผลเอาไว้ แถมยังเคยเลี้ยงข้าวต้มเป็ดจานละสามสิบบาทอีกต่างหาก ทำให้เจ้าพวกนี้มีอะไรก็จะมาพูดกับผมก่อนเพราะเกรงๆ ไอ้คิง ขนาดเรื่องไร้สาระอย่างน้องโดนแกล้งจนร้องไห้แม่งยังเล่าให้ฟัง และตอนนี้ก็ได้เวลาเก็บเกี่ยวครับ พอผมโทรเรียกบอกมีอะไรให้ช่วย ต่อให้ไม่เกี่ยวกับคลับ พวกมันก็พร้อมใจกันมาโดยไม่ถามสักคำทั้งที่เป็นนอกเวลางาน

ไม่ต้องอาศัยคิง ผมก็มีกำลังคนเหมือนกันล่ะน่า

“พร้อมนะ”

“พร้อมครับ!” พวกมันสิบคนขานรับหนักแน่นเสียงเบา ยังดีที่ไม่โง่ขนาดตะโกนเหมือนตอนอยู่ในคลับ ไม่งั้นพวกศัตรูมีหวังรู้ตัวซะก่อน

“งั้น...ลุย!”

ผมให้สัญญาณ พร้อมกับร่างโตๆ สิบคนที่เดินดุ่มเข้าไปพังประตูทันที พวกนี้แม่งเป็นหน่วยทำลายล้างชัดๆ ขนาดประตูทั้งบานยังแงะออกมาได้ ถึงจะบอกว่าเก่าโทรมอยู่แล้วก็เถอะ แต่มองแล้วบ้าดีเดือดชิบหาย

“นิล...”

“ไปกันเถอะชาย ป่ะ เบอร์หนึ่ง”

บิชอปวัยเยาว์รีบเดินนำไปก่อนใครเพื่อนโดยมีผมซึ่งใส่ผ้าปิดปากตามหลังและไอ้ชายรั้งท้าย มันคงตั้งใจจะเอาตัวบังไว้หากเกิดอะไรขึ้น นึกๆ แล้วก็สงสัยว่าผมอาจจะเป็นตัวถ่วงเข้าจริงๆ แต่เชื่อสิ ว่าผมต้องมีประโยชน์หากเจอหน้าสมศักดิ์ อย่างน้อยที่จู่ๆ มันจับกระต่ายมา ก็เพราะมีผมเป็นเหตุแน่ๆ ล่ะน่า

พอเข้ามาปุ๊บผมก็เห็นภาพตะลุมบอนปั๊บ เบี้ยสิบคนทำหน้าที่ได้ดีมากๆ แถมยังสู้แบบเกาะกลุ่มช่วยเหลือกันอย่างมีแบบแผน ผิดกับคนของสมศักดิ์ที่ค่อนข้างลุยแบบตัวใครตัวมัน แม้จะจำนวนมากกว่าประมาณสี่ห้าคน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ได้เปรียบมากขึ้นสักนิด ผมยิ้มอย่างชมเชยในใจ สงสัยจบงานนี้ต้องพาไปเลี้ยงข้าวต้มเป็ดอีกรอบซะแล้วสิ

แต่พอหันไปมองไอ้ชาย มันดันทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจนผมพลอยเกร็งไปด้วย เสียงโหวกเหวก เสียงกำปั้น เสียงไม้หน้าสาม ท่อแป๊ปเหล็ก และสารพัดอย่างเท่าที่จะหามาตีกันได้ทำให้ภาพออกมาค่อนข้างดิบเถื่อน มันคงไม่ค่อยชิน ขณะที่ผมโคตรเฉย เพราะตอนไอ้คิงลากพวกไปรุมโจ๊กเกอร์ก็เห็นเลือดมาแล้ว ตอนไอ้เก่งเอาพวกไปไถ่เงินก็ใช่ แล้วยังไม่นับสารพัดการรับมือกับพวกคนเมาอาละวาดตรงชั้นสองอีก และนั่นคือความมั่นใจว่าสิบคนนี้ต้องช่วยถ่วงเวลาดึงความสนใจได้แน่นอน

“ทางนี้ครับควีน”

(ต่อข้างล่าง)

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
เบอร์หนึ่งก็เผลอเรียกผมว่าควีนตามเจ้าพวกนั้นไปด้วย มันเดินลัดเลาะไปตามมุมก่อนจะนำไปยังห้องห้องหนึ่ง ระหว่างทางเจอคนยืนดักประปรายเล็กน้อย แต่โดนไอ้เบอร์หนึ่งพุ่งตัวด้วยความเร็วสูง ถลาเข้าไปเตะก้านคอด้วยท่าทางสุดเพอร์เฟ็คจนผมที่บอกว่าเคยเรียนมวยมายังอาย

“...ล็อคใช่มั้ย”

ผมถามเมื่อเบอร์หนึ่งบิดกลอนแล้วทำหน้าเสีย

“ครับ พี่นิลพอจะมีลวดอะไรมั้ย ผมสะเดาะกุญแจได้”

ให้น้อยๆ หน่อยเถอะเบอร์หนึ่ง ชักจะเกินหน้าเกินตาตัวเอกอย่างนิลกาฬมากไปแล้ว ผมผลักตัวให้มันถอยไป รั้งผ้าปิดปากลงมา ก่อนจะยืดอกแล้วสูดหายใจเข้าลึก พร้อมเคาะประตูเบาๆ

“สมศักดิ์ ฉันเอง นิลกาฬ เปิดประตูให้หน่อยสิ”

“นิล!/ควีน!”

ทั้งชายทั้งเบอร์หนึ่งสะดุ้งเฮือก ไม่คิดว่าผมจะบ้าบิ่นขนาดนี้

ไม่รู้อะไรซะแล้ว สมศักดิ์มันชอบผมนะ มันจับกระต่ายมาก็เพื่อจะเรียกร้องความสนใจไม่ก็คงอยากต่อรองอะไรบางอย่าง แต่เพราะติดต่อผมไม่ได้ ก็เลยส่งรูปไปหาเบอร์หนึ่งซึ่งมักเกาะติดกับผมที่มหาลัยแทน การที่มันไม่ส่งให้ไอ้คิง คือสิ่งยืนยันว่ามันต้องการคุยกับผมแบบตัวต่อตัว

ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่อยู่เรื่อย พกปืนไปมหาลัยก็ว่าหนักแล้ว งวดนี้แม่งหนักกว่าเดิมอีก

“คุณนิล...คุณจริงๆ ด้วย ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณต้องมา”

สมศักดิ์รีบเปิดประตูให้ มองผมอย่างหลงใหล รอยยิ้มฉีกกว้างเคลิบเคลิ้ม แต่มือสั่นแปลกๆ ตาก็กลอกซ้ายขวาล่อกแล่กลนลาน นี่มันอาการของคนเสพยาชัดๆ เวรแล้วไง สิ่งที่ผมไม่ถนัดที่สุด ก็คือการรับมือกับพวกไม่ค่อยมีสติเนี่ยล่ะ

“กระต่ายล่ะ”

“กระต่าย?”

“ฉันหมายถึง...อำพัน น้องชายของฉัน”

“อ้อ ผมดูแลอย่างดี ไม่ต้องห่วงเลยคุณนิล” ไอ้สมศักดิ์รีบเดินเข้าไปข้างใน ก่อนจะลากเก้าอี้ตัวหนึ่งที่มัดกระต่ายเอาไว้อย่างแน่นหนาออกมาเหมือนโอ้อวดฝีมือเล็กๆ เออ มึงมัดเก่งมาก เห็นแล้วถึงกับจนปัญญาจะแกะ ต้องใช้มีดตัดสถานเดียว

“จับน้องชายฉันมาทำไม”

ชายเหลือบมองน้อยๆ มันรู้ว่าผมไม่มีน้องชาย โดยเฉพาะน้องชายที่ชื่ออำพัน

“ผมแค่อยากคุยกับคุณสองคน”

“...ฉันไม่เห็นว่าจะสองคนตรงไหน” ผมชี้นิ้วข้ามไหล่ไปด้านนอกที่ยังมีเสียงตะลุมบอนวุ่นวาย

“ผมรู้ว่าหมอนั่นคงไม่ปล่อยคุณมาคนเดียว ก็เลยป้องกันไว้ก่อน” สมศักดิ์ถูมือสั่นๆ แม่ง ผมชักจะกลัวขึ้นมาแล้วว่ะ อาการของมันเหมือนแม่ผมตอนจะหลอกให้ผมกินยาปลุกเซ็กซ์เอามากๆ แค่เห็นก็รู้สึกพะอืดพะอมชอบกล “คุณนิล...ผมชอบคุณนิล อย่าตัดรอนผมเลยนะ ผมจะไม่ไปหาคุณที่คลับ แต่คุณต้องออกมาหาผมนะ”

“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย”

“เพราะไม่งั้นผมก็จะหาวิธีให้คุณออกมาเจอ...” มันว่าพลางลูบมือบนใบหน้าของกระต่ายที่พยายามขืนตัวหนี แต่ก็ทำไม่ได้เพราะโดนมัดโดนปิดปากจนเหลือแต่ลูกตาที่เหลือบมองพวกผมด้วยความหวาดกลัวเอามากๆ เออ กูก็กลัว เพราะสมศักดิ์ดูเหมือนคนบ้าที่อาจจะหยิบมีดมากระซวกได้ทุกเมื่อ “ถ้าคุณไม่อยากให้ผมทำ คุณก็ต้องยอมมาเจอกับผมนะ นะคุณนิล คุณไม่ชอบ ผมก็ไม่ทำ แต่ผมก็อยากเจอคุณ ออกมาเจอกับผมเถอะ ผมจะดูแลคุณอย่างดี นะคุณนิล”

พูดวกวนไปมา ท่าทางสติสตังจะไม่ค่อยมีแล้ว

ป่วยการจะเจรจาด้วย

“ถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ”

“ผมก็จะจับตัวน้องชายคุณเอาไว้!”

“เหอะ นั่นไม่ใช่น้องชายฉัน” ผมยอมเฉลยเรื่องตลกที่น่าขำที่สุดออกมา “ชื่อจริงของมันคือใบปอ ไม่ใช่อำพัน เป็นเด็กเสิร์ฟที่ผับและไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับคลับทั้งนั้น จะจับคนมาทั้งทีก็จับมั่วซั่วนะสมศักดิ์”

“...มะ...ไม่จริง ถ้าไม่ใช่น้องชาย แล้วคุณจะยอมมาช่วยทำไม!”

“ก็ฉันมันคนดี” ผมยักไหล่ “และก็อยากเจรจากับคุณให้รู้เรื่องด้วย เลิกตามตื๊อด้วยวิธีสิ้นคิดสักทีเถอะ ฉันมีสามีอยู่ทั้งคน จะคว้ากรวดมาทำผัวทำไม ถ้ายอมเปลี่ยนความคิดฉันจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น คิงจะไม่รู้เรื่องนี้ และคุณก็จะได้สิทธิ์ในฐานะหุ้นส่วนตามเดิม”

...ใครก็ได้ช่วยบอกชายให้เลิกมองผมด้วยสายตาทิ่มแทงสักทีเถอะ ล่อซะผมกลัวจนขาสั่นมากกว่าไอ้สมศักดิ์ที่ยืนโซเซแล้วเนี่ย!

“แต่ถ้าไม่ หากเรื่องนี้ถึงหูไอ้คิงเมื่อไหร่ กระทั่งสิทธิ์เจ้าของโรงงานก็จะถูกริบไม่เหลือ”

“กูไม่สน!”

ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ๆ มันก็ตะโกนลั่นออกมา ดวงตาแดงก่ำเหมือนไม่ได้นอนทั้งคืนจ้องผมเขม็ง มือก็บีบที่ลำคอไอ้กระต่ายจนเด็กน้อยดิ้นขลุกขลักอยู่กับที่ร้องอื้อไม่หยุด

“สมศักดิ์ อย่าทำอะไรบ้าๆ น่า มึงจะฆ่าคนรึไง คุกนะมึง”

“กูไม่สน!”

มันอัดเทปแล้วเปิดซ้ำป่ะวะ หรือฤทธิ์ยาทำให้สมองประมวลผลคำอื่นไม่ได้ ไอ้สัด! อุตส่าห์พยายามเอาเรื่องผลประโยชน์มาพูด แต่ดูเหมือนมันจะไม่ฟงไม่ฟังอะไรทั้งนั้น โคตรเปลืองน้ำลายอันศักดิ์สิทธิ์ของผมเลย

“ควีน...” เบอร์หนึ่งเข้ามากระซิบข้างๆ ผม แต่ดวงตาจ้องตรงไปยังกระต่ายที่เริ่มหน้าซีดเซียวตาเหลือกด้วยสีหน้าใจเย็นเกินคาด

“จัดการเลย”

พูดจบไอ้เบอร์หนึ่งพลันหายตัวอย่างกับนินจา โผล่พรวดมาอีกทีก็ยกเท้าถีบประทับบนหน้าของสมศักดิ์จนไอ้บ้านั่นล้มหงาย แต่คงจะดูดีกว่านี้มากถ้ามันช่วยจับเก้าอี้ของกระต่ายเอาไว้ด้วย เพราะพอกระโดดเข้าไปถีบ สมศักดิ์ที่ล็อคคอกระต่ายเอาไว้ก็ลากเอาไอ้เด็กน้อยล้มโครมตามลงไป

เบอร์หนึ่งมองกระต่ายที่ล้มกลิ้งขวางหน้าสมศักดิ์เหมือนเกะกะ สรุปแล้วมึงห่วงหรืออะไรวะไอ้เห้นี่ ผมสงสารน้องที่ถูกไอ้เบอร์หนึ่งถีบเก้าอี้ออกไปให้พ้นทางชะมัด ก็เลยย่องเข้าไปลากเก้าอี้กระต่ายออกมานอกวงกระทืบของเบอร์หนึ่งที่ดูจะถนัดเท้าเหลือเกิน

“มึงบ้านักใช่มั้ย งั้นเจอนี่เป็นไง!”

“โอ๊ย อ๊าก!”

เสียงร้องของสมศักดิ์ดังประกอบฉาก ระหว่างที่ผมกับไอ้ชายพยายามหาของมีคมมาตัดเชือกให้กระต่ายที่ถูกลากออกมาไกลจนชิดขอบกำแพง ไอ้ชายเดินวนดูรอบๆ ส่วนผมก็ช่วยเอาผ้าอุดปากออกให้ คอมันแดงก่ำ น่าสงสารว่ะ

“พี่นิล...” กระต่ายเอ่ยเสียงเครือ เบะปากเหมือนจะร้องไห้

“โอ๋ๆ” ผมลูบศีรษะน้องปลอบโยนไป มันยังเป็นเด็กกางเกงขาสั้นอยู่เลย จู่ๆ ก็โดนลากมาพัวพันกับคนบ้า แถมยังเป็นยาตัวที่มันดูแลอยู่ด้วย คงจะเป็นอะไรที่กลัวมากสินะ

เฮ้อ ผมล่ะเกลียดยาเหี้ยพวกนี้จริงๆ

“เบอร์หนึ่ง มึงมีมีดรึเปล่า” ผมถามไอ้คนที่ยังทำขนมตุบตับไม่เลิก มันหยุดชะงัก ยกมือปาดเลือดกระเซ็นบนใบหน้า ก่อนจะเดินเข้ามาสมทบพร้อมกับส่งมีดพับให้ด้วยใบหน้าเปื้อมยิ้มอย่างกับเทพบุตรมือสะอาด ถุย เช็ดเลือดก่อนเถอะ!

ผมรับมืดมาตัดเชือกให้กระต่าย ไอ้ชายกับเบอร์หนึ่งเข้ามาช่วยแกะ อีรุงตุงนังอยู่พอสมควร ผมส่งมีดคืนให้เบอร์หนึ่ง ก่อนจะเดินไปดูสมศักดิ์ที่นอนงอตัวเป็นกุ้ง กระอักเลือดสีสดออกมาเพราะบอบช้ำภายใน สภาพนี้คงจะลุกไม่ขึ้นไปอีกนาน เผลอๆ จะโดนซ้ำแผลเก่าที่ซี่โครงหักไปรอบด้วยล่ะมั้งนั่น

“สมศักดิ์”

ผมนั่งยองๆ ข้างตัวมัน แต่เว้นระยะห่างเกือบสองเมตรเพื่อความปลอดภัย เกิดมันบ้าคว้าคอผมไปบีบเล่นเหมือนที่ทำกับกระต่ายจะทำยังไงล่ะ นิลกาฬขอเซฟตี้เฟิร์สไว้ก่อนดีกว่า

“มึงนี่นะ...ยุ่งกับยาทำไมวะ ถ้ามึงเข้าหากูดีๆ ก็คงคุยกันรู้เรื่องกว่านี้ แล้วดูสภาพมึงสิ มันชวนให้กูหลงรักมั้ย ถ้ามึงอยากให้กูสนใจ ทำไมไม่หาข้ออ้างที่มันน่ารักกว่านี้ล่ะวะ” ผมเอ่ยเสียงอ่อนด้วยสายตากึ่งสมเพช เรียกให้สมศักดิ์ที่นอนนิ่งขยับตัวน้อยๆ “ถึงช่อดอกไม้จะเสี่ยวไปหน่อย แต่ก็ยังประทับใจกว่าจับตัวเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเป็นตัวประกันตั้งหลายเท่า แบบนี้มันไม่แมนเอาซะเลย แล้วยังเสือกมีหน้ามาบอกให้กูให้โอกาสมึงอีก ลองพิจารณาสิวะว่ากูควรจะให้มั้ย มึงเสพยาก่อเรื่องจนกูต้องโดดเรียนขนาดนี้ มันควรแล้วรึไง”

“คุณนิล...” มันเรียกผมเสียงเบา สายตาเต็มไปด้วยความหลงใหลได้ปลื้มแบบมัวเมาลุ่มหลง ไอ้เวรนี่ อุตส่าห์พูดเตือนสติเพราะเห็นว่าโดนซ้อมจนน่าจะบ้าไม่ออก แต่ฤทธิ์ยาเสือกแรงซะงั้น จะว่าไปไอ้คิงก็เคยบอกว่ายาพาเลชน่ะออกฤทธิ์นานกว่ายาทั่วไป สมน้ำหน้ามันแล้วล่ะ

ผมถอนหายใจเฮือก ก่อนจะหันหลังเตรียมเดินกลับไปสมทบกับไอ้ชายและเบอร์หนึ่ง

“พี่นิล ระวัง!”

กระต่ายร้องลั่น ตาเบิกกว้างมองอะไรบางอย่างข้างหลังผม

อะไร?

ผมหันกลับไปมอง ก่อนจะขาแข็งเมื่อเห็นปากกระบอกปืนที่เคยจ่อหลังผมมาแล้วกำลังชี้เป้าอย่างไม่ลังเล สีหน้าของสมศักดิ์เต็มไปด้วยความบิดเบี้ยวบ้าคลั่งแสนเจ็บแค้น ราวกับยอมไม่ได้ที่เห็นผมหันหลังให้อย่างไร้เยื่อใย

“นิล! / ควีน!”

วินาทีนั้นผมเหมือนเห็นทุกอย่างเป็นภาพช้า ไอ้สมศักดิ์ที่คลี่ยิ้มกว้างและค่อยๆ ลั่นไก กระสุนปืนที่พุ่งใส่ ก่อนจะกลายเป็นภาพกลอสองเท่าเมื่อจู่ๆ ทุกอย่างก็ดับวูบ ร่างกายโดนบางสิ่งกระแทกเข้าอย่างจังจนล้มหงายไปด้านหลัง ซ้ำรอยกับจุดช้ำในเพราะบทรักอันเร่าร้อนเมื่อคืนพอดิบพอดี

“โอ๊ย!”

ผมมั่นใจว่าร้องเพราะเจ็บก้น ไม่ใช่เพราะโดนยิง

เกิดอะไรขึ้นวะ?

ผมเริ่มเข้าใจว่าทำไมจู่ๆ ภาพก็ดับ ก็ผมแม่งหลับตาปี๋อยู่นี่หว่า สัมผัสอบอุ่นที่โอบรอบกายและค่อยๆ คลายออกทำให้ผมตัดสินใจลืมตา อย่างน้อยก็มั่นใจว่ากลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่โคตรกระตุ้นฟีโรโมนต้องเป็นคนเดียวกับที่ผมฉีดพรมให้เมื่อเช้าแน่ๆ

“ไอ้คิง...”

ใช่ครับ คุณผัวของผม ในชุดนักศึกษาปล่อยชายและผมสีแดงเซ็ทตั้งไม่กระดิก ผมมองมันเหวอๆ อารมณ์เหมือนเห็นภูติผีปีศาจปรากฏตัวกะทันหัน แม่งมาได้ไงวะ แต่ก็มาได้ถูกจังหวะมาก ผมหันไปมองสมศักดิ์ ปรากฏว่ารายนั้นโดนเบอร์หนึ่งเตะปืนกระเด็นไปไกลลิบ พร้อมกระทืบซ้ำหลายครั้งด้วยหน้าซีดเผือด

“มึง...มึง!!!”

ดีมากเบอร์หนึ่ง กระทืบแรงๆ เลยแม่ง กูเกือบโดนยิงตายเลยนะไอ้สัด!

นึกแล้วผมก็ขนลุกซู่อย่างบอกไม่ถูก วินาทีของความเป็นตายทำให้ผมตระหนักได้ว่าก่อนหน้านี้ใช้ชีวิตประมาทเกินไปแล้ว ผมหันหลังให้ศัตรู หลงคิดว่ามันไร้พิษสงทั้งที่รู้ดีกว่าใครว่าไอ้สมศักดิ์มีปืน ผมแม่งอ่อนต่อโลกขนาดนั้นเลยรึไง นิลกาฬ มึงก็รู้ดีว่าไอ้หมอนี่แม่งเสียสติไปแล้ว ความนึกคิดอย่างเดียวมีแต่ว่าจะทำยังไงให้ผมสนใจ ต่อให้เป็นวิธีการหลุดโลกแค่ไหนก็ตาม แล้วมึงกล้าปล่อยช่องว่างขนาดนั้นได้ไงวะ

ถ้าผมตายไอ้ชายต้องเกลียดคิงไปตลอดชีวิตแน่ๆ แล้วยังพ่อแม่ของมันอีกล่ะ ผมยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณท่านที่ช่วยส่งเสียทั้งที่ไม่ใช่ลูกแท้ๆ เลยสักครั้ง แล้วยัง...

 “คิง...”

ผมเอ่ยเรียกไอ้คิงที่มองผมนิ่งๆ ด้วยดวงตาวาวโรจน์ ตาของมันแทบจะพ่นไฟออกมาแล้ว ดูร้อนแรงยิ่งกว่าสีหัวของมันซะอีก

“คุณ...นิล”

ปัง!

ผมสะดุ้งเฮือก ครั้งนี้ตกใจจริงๆ ครับ ตกใจแบบหัวหดก้นขวิด ขวัญหายขวัญกระเจิงไปเลย ก็ใครใช้ไอ้คิงที่แม่งนั่งจ้องหน้าผม จู่ๆ ก็เอี้ยวตัวชักปืนจากข้างเอวยิงไอ้สมศักดิ์ด้วยการปรายตามองล่ะวะ เสียงปืนดังสนั่นในระยะประชิด ผมที่ยังหลอนไม่หายก็เลยยิ่งประสาทเสีย แต่ไอ้เบอร์หนึ่งเสือกชิลมาก อันที่จริงมันรีบลุกหนีตั้งแต่ไอ้สมศักดิ์เอ่ยชื่อผมและทำท่าตะเกียกตะกายเข้าหาแล้ว

ผมกลืนน้ำลาย ไอ้คิงแม่นชิบหาย ลูกกระสุนเจาะตรงมือไอ้สมศักดิ์ที่เอื้อมมือออกมาสั่นๆ เหมือนพยายามจะแย่งตัวผมไปจากมันจนเห็นแผลเหวอะวะเลือดทะลักเป็นน้ำพุ

“อะ...อ๊ากกกก!”

ผมกระถดตัวเข้าหาไอ้คิงเมื่อไอ้สมศักดิ์ร้องลั่น เจ็บกว่าที่เบอร์หนึ่งกระทืบล้านเท่า

และนั่นก็เป็นภาพที่สะเทือนผมโคตรๆ

เชี่ยเถอะ ผมเคยเห็นไอ้คิงพาพวกไปตื้บคนก็จริง แต่ผมไม่เคยเห็นมันชักปืนยิงสักครั้ง ผมไม่คิดด้วยซ้ำว่ามันจะกล้าลงมืออย่างไม่ลังเล ทั้งที่พยายามกันตัวเองออกจากเรื่องผิดกฏหมายที่อาจจะถูกซักไปยังคิงส์คลับมากที่สุด

“นิล...”

ก่อนไหล่อันแสนบอบบางของผมจะถูกกระชากให้ผละออกจากตัวไอ้คิง ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ไอ้ชายเดินมาอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มันพยายามดึงแขนผมให้ลุกขึ้น ส่งสายตาสื่อว่าพร้อมจะลากผมออกไปจากสถานการณ์นี้ให้เร็วที่สุด

แต่ไอ้คิงโอบเอวผมเอาไว้ และกดตัวให้นั่งนิ่งอยู่ในอ้อมอกของมัน

“ปล่อยนิลซะ”

“ไม่มีวัน” ไอ้คิงเอ่ยเสียงเหี้ยม ชายโว้ย มึงไม่เห็นรึไงว่าผัวผมยังถือปืนอยู่น่ะ

“มึงทำให้นิลตกอยู่ในอันตราย”

“กูปกป้องได้”

“แล้วถ้าวันไหนปกป้องไม่ได้ล่ะ!” ชายตะโกนอย่างโมโห ไอ้พวกนี้จะขยันทำให้ผมตกใจขนาดไหนวะ ผมพยายามกุมมือไอ้ชายเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเมื่อครู่ตอนผมหน้าซีดตัวสั่นอยู่ในอ้อมอกไอ้คิง ชายถึงกับต้องสติอยู่นานกว่าจะเดินเข้ามาหาผมได้
มันคงตกใจยิ่งกว่าตัวผมเองซะอีก

“กูบอกได้แค่ว่ากูจะปกป้องให้ได้”

ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเฮเลนงามล่มเมือง ถึงขนาดมีสองหนุ่มกระชากแขนอีกคนโอบเอวบีบเอาไว้แน่นจนนิ่วหน้า ไอ้พวกเหี้ย...กูเป็นคนนะไม่ใช่หมอนข้าง!

“กูไม่เชื่อมึงหรอกไอ้เหี้ย”

ไอ้ชายเข้าโหมดเด็กเกเรเต็มตัวแล้วครับ คำหยาบพ่นมาหมด

“หึ กูก็ไม่ได้ขอให้มึงเชื่อ และอีกอย่างนะชาญชาย...มึงลากนิลกาฬไปจากกูตอนนี้ก็ไม่ทันหรอก มันเป็นควีนไปแล้ว ต่อให้มึงพาออกไปจากที่นี่ ปิดหูปิดตาแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันก็ยังเป็นควีนของกูอยู่ดี แล้วมึงคิดว่าจะปกป้องมันได้ดีเท่ากูรึไง”

“กูจะพามันกลับบ้าน”

ผมใจหายวาบ บ้านที่ชายพูดถึงคงไม่พ้นครอบครัวของมันซึ่งอยู่ต่างจังหวัด นั่นเป็นทางเดียวที่ผมจะตัดขาดกับคิงส์คลับได้อย่างสมบูรณ์ เพราะอย่างน้อย...อำนาจของไอ้คิงและเรื่องบ้าๆ พวกนี้ก็ไปไม่ถึงที่แห่งนั้นอย่างแน่นอน

“ชาย...”

“ชายเป็นคนพานิลมาที่นี่เอง ชายขอโทษนะ เรากลับกันเถอะ” ไอ้ชายหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หากแต่ดวงตาสั่นเครือด้วยความหวาดหวั่น มันเป็นคนเสนอให้ผมต่อทุนที่กรุงเทพ จนกระทั่งเจอกับไอ้คิง มันคงคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ

แต่มันไม่ใช่ว่ะชาย

“กูไม่กลับ”

“นิล...”

ชายเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ อย่ามองแบบนั้นสิ ผมโคตรรู้สึกเหมือนเป็นลูกอกตัญญู

“กูเหลืออีกสองปีก็จะเรียนจบแล้ว ถ้ากลับไปตอนนี้กูจะทำอะไร ให้พ่อแม่มึงเลี้ยงงั้นเหรอชาย กูไม่เอาหรอก กูไม่อยากรบกวนพวกท่าน”

“ไม่มีใครคิดว่านิลรบกวนสักหน่อย”

“กูไงที่คิด” ผมพูดเสียงจริงจัง ก่อนจะบีบมือไอ้ชายไว้แน่นๆ เพื่อให้รู้ว่าผมยังให้ความสำคัญกับมัน กับครอบครัวมันเสมอ แต่ว่า...จะให้ผมต้องเกาะติด อยู่เป็นภาระให้พวกท่านไปตลอด...มันก็ไม่ใช่ตัวตนของนิลกาฬ “ปล่อยกูเถอะชาย ครั้งนี้กูประมาทเอง รับรองว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก กูไม่ทำให้ตัวเองตายหรอก จะให้มีชีวิตยืดยาวกว่ามึงด้วย”

ผมยิ้ม เมื่อครู่ ผมไม่ได้กลัวตาย เพราะสำหรับผม ชีวิตของนิลกาฬได้ตายไปนานแล้ว และตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าเมื่อถูกขายให้กับนาย ผมไม่มีพลังชีวิตที่จะต่อสู้เพื่อตัวเอง แต่ผมแค่ต้องการให้คนที่รออยู่ข้างหลัง...ทั้งชาย ทั้งครอบครัวของชาย รู้ว่าผมยังอยู่ดีมีสุข รู้ว่าคนที่พวกเขาช่วยเอาไว้ให้หลุดพ้นจากนรกนั้นกำลังใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ขนาดไหน

ถ้าผมตายตอนนี้ ที่พวกเขาคอยช่วยเหลือทั้งหมดก็เสียเปล่าน่ะสิ

กลุ่มคนที่ช่วยชีวิตของเด็กคนหนึ่งโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ ผมซาบซึ้งและไม่มีวันทำให้พวกเขาผิดหวังเสียใจแน่นอน เพราะขนาดผมชอบผู้ชาย ขาดเซ็กซ์ไม่ได้ พวกเขายังเรียกผมอย่างเอ็นดูว่าลูกซะด้วยซ้ำ

พอแล้ว...ที่ผมได้รับน่ะมากพอแล้ว

ถ้ามากเกินกว่านี้ ผมก็ไม่รู้ว่าชาตินี้จะตอบแทนยังไงไหว

ให้ผมอยู่ในเส้นทางนี้ มองเห็นพวกเขา แต่ไม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งที่แสนอบอุ่นราวภาพฝันเถอะ

“นิล...”

“ปล่อยกูเถอะชาย กูเลือกแล้ว”

เพราะที่นี่คือที่ที่เหมาะกับผม มากกว่าบ้านหลังอบอุ่นที่เต็มไปด้วยความรักบริสุทธิ์ เมื่อก่อน...ผมเคยคิดอยากตอบแทนพวกท่าน อยากเลิกทำตัวเป็นคนไร้ค่า โดนกล่าวหาว่าขายตัวปรนเปรอผู้ชาย แต่ผม...ทำไม่ได้ ผมขาดเซ็กซ์ไม่ได้ ต่อให้เลิกขายตัวแลกกับเงิน แต่การที่เดินไปไหนมาไหนแล้วมีคนเข้ามาทัก มาขอมีเซ็กซ์ด้วยต่อหน้าต่อตาพวกท่าน ก็ทำให้ผมทั้งอึดอัดและอับอาย แม้พวกท่านจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่คำนั้นก็ยิ่งซ้ำเติมให้ผมเกลียดตัวเอง

“ถ้ากูจะกลับ ก็ต้องไม่ใช่เป็นตัวภาระ ให้พวกท่านหาที่เรียนใหม่ ให้พวกท่านโดนถามว่าทำไมลูกชายถึงได้หนีกลับจากกรุงเทพ ชาย...ให้กูกลับด้วยความตั้งใจของกูเองเถอะนะ” ผมบีบมือมันแน่น เอ่ยด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่หวังให้มันเข้าใจ และผมเชื่อ...ว่าไอ้ชายต้องเข้าใจ

มันเป็นคนแรกที่เห็นผมทนอึดอัดไม่ไหวและเสนอทางหนี ฉะนั้นมันต้องรู้ดีว่าหากพาผมไปตอนนี้ทุกอย่างจะยิ่งเลวร้าย...หมายถึงสภาพจิตใจของผมที่ยิ่งเลวร้าย ความใจดีของมัน...ของครอบครัวมัน...คือสิ่งที่ทิ่มแทงและกดดันจนตัวผมแทบทนไม่ไหว ยิ่งให้มากเท่าไหร่นิลกาฬก็ยิ่งตีราคาตัวเองต่ำมากเท่านั้น

สู้ปล่อยให้ผมจมลงไปในโลกของไอ้คิงยังดีซะกว่า!

โลกแสนอันตราย ของกลุ่มคนที่ต่างทำอะไรตามความต้องการภายใต้กฏเกณฑ์ของปราสาทหลังใหญ่ ผมน่ะกู่ไม่กลับแล้ว ไม่ว่าจะพยายามชุบตัวให้ตายยังไง ผมก็ไม่มีวันกลับไปอย่างเดิม ถ้าอย่างนั้นสู้ปล่อยให้ผมถูกอ้อมแขนแข็งแกร่งกอดรัดและจมลึกไปด้วยกัน อย่าพยายามกระชากผมให้ไปเผชิญหน้ากับแสงสว่างที่จ้าจนแสบตานั้นเลย

“...เข้าใจแล้ว” ชายยอมปล่อยมือผมในที่สุด มันก้มหน้าต่ำ หน้าอกสะท้อนขึ้นลงเหมือนพยายามฝืนกลั้นอารมณ์ไม่ให้ปะทุไหวออกมา “เราเข้าใจแล้ว”

“ขอบคุณนะชาย” ผมเอ่ยกับมันด้วยความรู้สึกจริงๆ “สักวัน...กูจะกลับไปบ้านหลังนั้นพร้อมกับมึง”

“อืม” ชายขานรับในลำคอเบาๆ มันเป็นคนดื้อ โดยเฉพาะเรื่องของผมที่จะดื้อดึงเป็นพิเศษ คงเพราะเป็นลูกชายคนเดียวถึงได้ถูกตามใจ เลี้ยงดูด้วยความรักอย่างดี หากไม่เพราะมันสนิทกับผมตั้งแต่เด็กๆ จนร้องเรียกหาไม่หยุดปาก พ่อแม่ของมันคงไม่ให้ความเอ็นดูผมมากมายขนาดนี้ “ขอโทษนะนิล”

“กูต่างหากที่ต้องขอโทษ กูทำมึงปวดหัวหลายเรื่อง และจากนี้ก็คงจะมีเรื่อยๆ ว่ะ ทนหน่อยนะชาย” ผมยิ้มเผล่ เรียกรอยยิ้มน้อยๆ ของมันให้ปรากฏฉาบบางทั้งที่ยังคงก้มหน้าจนผมปรกตามองไม่เห็นความรู้สึกจริงๆ 

“พูดจบรึยัง”

...คุณผัวแม่งทำอารมณ์ซึ้งๆ ของผมที่พยายามบิ้วปลิวหายหมด!

“ถ้าพูดกันจบแล้ว มึงโทรหาหมอบซะ” ไอ้คิงพูดกึ่งออกคำสั่งกับไอ้ชาย นี่มึงสำเหนียกตัวเองผิดรึเปล่าวะผัว นี่เพื่อนกู ไม่ใช่ลูกน้องมึง “กร โทรเรียกอัศวินและบิชอปทุกคนให้มารวมตัวที่นี่”

“ครับ!” เบอร์หนึ่งขานรับเสียงดัง ก่อนจะผละออกจากตัวสมศักดิ์ซึ่งได้รับการห้ามเลือดอย่างถูกวิธีไปหยิบเชือกตัดปมจากกระต่ายมามัดมือผูกปมใหม่เพื่อความปลอดภัย ผมเห็นแว่บหนึ่งมันกับกระต่ายสบตากันซะด้วย แต่เสือกไม่พูดอะไรออกมาสักคำ จะถามไถ่สักนิดก็ไม่มี ปล่อยให้น้องมองตาปริบๆ อยากจะพูดก็พูดไม่ออกเพราะเหมือนเป็นตัวประกอบส่วนเกินในสายตาไอ้คิง สรุปแล้วมึงคิดจะต้มยำทำแกงอะไรกับกระต่ายของกูวะเนี่ยไอ้เบอร์หนึ่ง

ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ ปล่อยให้ไอ้ชายโทรศัทพ์เรียกพี่หมอบ ส่วนตัวเองก็หันมาจ้องตากับไอ้คิงที่ยังโอบเอวผมแน่นอย่างกับคีมเหล็ก

(ต่อข้างล่างค่ะ อีกนิดๆ)

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'

“มึงมาได้ยังไง”

“สายของกูไม่ได้มีแค่กร”

ประโยคเดียว กระจ่างแจ้งทุกอย่าง ไอ้คิงที่โคตรจะรอบคอบและขี้หวงคนนั้นคงไม่กล้าปล่อยผมให้อยู่ในการดูแลของบิชอปซึ่งต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างสองตึก แต่คงจะมีคนในคณะผมที่ช่วยจับตาดูเอาไว้ด้วย

ใครวะ

ผมนึกสงสัย แต่นึกให้ตายยังไงก็นึกไม่ออก สายของมันต้องไม่ใช่คนในคลับแน่ๆ

“แล้วทำไมมึงโผล่มาได้จังหวะจังล่ะ”

“ก็กูยืนฟังอยู่หลังประตู ตามหลังมึงเข้ามาแค่แป็ปเดียว”

“ว่าไงนะ!” ผมตะโกนลั่นอย่างตกใจ ไอ้คิงแม่งตามหลังผมแต่แรกเลยเหรอวะ ผมรึกระทำการอุกอาจปิดบังผัว แต่ไอ้ผัวเสือกเดินตามต้อยๆ เนี่ยนะ!

โคตรรู้สึกเสียความมั่นใจ

“กูไม่ตั้งใจแสดงตัว ถ้ามึงจัดการได้กูก็จะทำไม่รู้เห็น เพราะกูออกคำสั่งพร่ำเพรื่อในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับคลับไม่ได้ ความเชื่อถือของกูจะถูกเพ่งเล็ง แต่มึงทำได้ มึงเป็นควีน เป็นคนพิเศษที่ทุกคนต่างเข้าใจหากจะลงมือทำอะไรแปลกๆ ขึ้นมา”

“นี่มึงชมหรือด่ากูวะ”

“ชมสิ” ไอ้คิงยกยิ้มน้อยๆ ฮึ่ย หล่อบาดใจ “มึงทำได้ดีมาก”

วินาทีนั้น ผมรู้สึกเหมือนตาพร่าขึ้นมาชอบกล ไม่คิดไม่ฝันว่าไอ้คิงจะปล่อยออร่าในระยะประชิดขนาดนี้ ผมต้องเป็นโรคแพ้ไอ้คิงด้วยแน่ๆ ไม่งั้นทำไมเวลามันยิ้มสวยให้ทีไร สมงสมองเหมือนจะไปไม่เป็นทุกที

“ดีที่ไหน...กู...เกือบโดนยิงนะ” ผมพูดตะกุกตะกัก แบบว่าพูดแก้เก้อไปอย่างนั้นน่ะเข้าใจมั้ย แต่ดูไอ้คิงสิครับ ไม่ทันจบประโยค รัศมีพระราชาที่โคตรจะน่าซุกดันเสือกกลายเป็นเพชรฆาตซะอย่างนั้น สายตามันเย็นเยียบจนผมขนลุกซู่ ปรับอารมณ์แทบไม่ทัน

ผมกลืนน้ำลาย แตะต้นแขนไอ้คิงที่กำปืนแน่นจนกลัวว่าจะลั่นเพื่อสงบจิตสงบใจ

“ว่าแต่มึงเรียกคนอื่นมาทำไมวะ ในบอกว่าออกคำสั่งเรื่องไม่เกี่ยวกับคลับไม่ได้ไง”

“นั่นเป็นกรณีที่มึงอยากช่วยสัตว์เลี้ยงของตัวเอง แต่ในกรณีนี้...มึงถูกยิง” พูดไปเสียงมันก็ฟังเหี้ยมขึ้นเรื่อยๆ ถ้ามันจะหันไปยิงสมศักดิ์อีกรอบ ผมก็ไม่แปลกใจแล้วล่ะครับ

“เพื่อควีน...เหตุผลแค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว”

ผมพูดอะไรไม่ออก เพิ่งรับรู้ว่าชีวิตของผมผูกติดกับคนหลายคนมากแค่ไหน

อย่างน้อยก็ยังมีไอ้คิง และปราสาทของมัน

“ขอโทษนะ”

“เรื่องอะไร”

ผมไม่ตอบ แต่ซุกหน้ากับตัวมันน้อยๆ จะบอกได้ยังไงว่าตอนที่ผมถูกยิง ผมคิดถึงแต่ครอบครัวไอ้ชาย ไม่ได้นึกถึงใจมันสักนิด ผมแม่งโคตรเป็นคนเลวเลย

แต่หลังจากนี้ผมจะคิดถึงมันให้มากขึ้นนะ...สาบานด้วยชื่อนิลกาฬเลยเอ้า!

“เบี้ยสิบคนของกูล่ะ” ผมถามหลังไอ้คิงประคองให้ลุกขึ้นยืนหลังจู๋จี๋พอเป็นพิธี ไอ้ชายยังยืนอยู่ข้างๆ ผม แต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตา มันคงกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ ผมก็ไม่อยากไปกวนนัก

“กูสั่งให้รอข้างนอก”

“อ้อ” ผมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหากระต่ายที่ยืนพิงกำแพงอย่างทุลักทุเลทำอะไรไม่ถูก ขนาดบิดตัวแก้เมื่อยที่โดนมัดตลอดคืนยังไม่กล้า

“ไม่เป็นไรนะมึง”

“พะ...พี่นิล เอ่อ...ควีน”

“เฮ้ย ไม่ต้องเรียกแบบนั้นหรอกน่า มึงไม่ใช่คนของคลับ” ผมพูดก่อนจะฉุกคิดได้ว่าไอ้กระต่ายแม่งอยู่ในสถานะที่ชวนสับสน จะบอกว่าไม่ใช่คนของคลับก็บอกไม่ได้เต็มปาก ในเมื่อถูกสั่งไปดูแลโรงงานซึ่งเอาไปจำหน่ายในคิงส์คลับ ได้เงินเดือนเทียบเท่าคนในคลับ แต่ดันเสือกไม่รู้อะไรสักอย่าง

จะบอกว่าไงดี ครึ่งผับครึ่งคลับเหรอวะ?

คิดแล้วผมก็ขมวดคิ้วมุ่น ตบบ่ากระต่ายแปะๆ เป็นเชิงว่าไม่ต้องกลัว ประเดี๋ยวทุกอย่างก็จะเรียบร้อย

“สรุปแล้วมึงกับเบอร์หนึ่งนี่ยังไงกันแน่”

แต่ไม่วายกระซิบอย่างโคตรสงสัย โดยสายตาไม่ละไปจากหมาจิ้งจอกที่กำลังกระดิกหางให้พระราชา พวกมันสองคนคุยอะไรบางอย่าง คงจะออกคำสั่งเกี่ยวกับพวกที่กำลังเดินทางมาล่ะมั้ง แม่ง...หน้าตาระรื่นของเบอร์หนึ่งโคตรไร้ความน่าเชื่อถือเลยให้ตาย

“ผม...” กระต่ายหน้าแดงก่ำ โว๊ะ นี่มันยังไงกันแน่ อย่าบอกนะว่ามันหลงเสน่ห์หมาจิ้งจอก จะเลือกคู่ทั้งทีไม่ดูพันธุ์เลยนะมึง เป็นกระต่ายกินพืชอยู่แท้ๆ เสือกหย่อนผ้าเช็ดหน้ายั่วหมาล่าเนื้อ เดี๋ยวสักวันก็โดนขย้ำตายคากรงเล็บหรอก

ผมส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเบอร์หนึ่งที่น่าจะได้คำตอบชัดเจนมากกว่า

“สรุปมึงจะเอายังไงกับกระต่ายของกู”

เบอร์หนึ่งเลิกคิ้ว คาดไม่ถึงว่าผมจะถามด้วยน้ำเสียงชวนหาเรื่องขนาดนี้ แน่ล่ะ ผมเลี้ยงของผมมานานนะเว้ย ถึงจะดื้อโดนแว้งกัดบ้าง แต่ยังไงกระต่ายก็เป็นกระต่ายอยู่วันยังค่ำ

“กระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงดูเล่นนี่ครับควีน ผมก็ทำตามนั้น ให้น้ำให้อาหาร จับยัดใส่กรงคอยดูแล คงไม่ว่าอะไรนะครับ” เบอร์หนึ่งแม่งยิ้มตีเนียนชิบหาย สรุปคือตั้งใจกั๊กไว้หยอกเล่นว่างั้นเถอะ

“อย่าทำกระต่ายกูหนีเตลิดก็แล้วกัน”

“ผมเปิดกรงตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่คนที่กลับเข้ากรงให้ผมเลี้ยงน่ะคือกระต่ายของควีนต่างหากครับ” เบอร์หนึ่งพูดอย่างมั่นใจ เห็นแล้วโคตรน่าหมั่นไส้จนอดเตะตัดขาไม่ได้ มันก็ยืนให้ผมเตะด้วยนะ ร้องโอดโอยแสร้งทำเป็นทรุดพอขำขัน เห็นแล้วผมก็หมดอารมณ์ทำร้ายร่างกายไอ้หมาจิ้งจอกแสนเจ้าเล่ห์

กลับมาอ้อนผัวดีกว่า

ผมเดินไปหาไอ้คิงที่ยืนจิ้มโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆ แต่พอเดินเข้าไปคุณผัวดันมองผ่านผมไปทักไอ้ชายซึ่งยังยืนทำสมาธิอยู่ซะงั้น

“มึงยังอยากเข้าคลับอยู่รึเปล่า”

ในที่สุดไอ้ชายก็เงยหน้าขึ้นสักที ผมโล่งใจที่มันไม่ได้ดูกล้ำกลืนฝืนทนเกินจะรับอย่างที่คิด

แต่เดี๋ยวก่อน มึงถามแบบนี้หมายความว่าไงวะไอ้คิง

ผมดึงแขนเสื้อคุณผัว แต่โดนมองเมินต่อไป...อะไรวะ เห็นเพื่อนเมียดีกว่าเมียแล้วเรอะ!

“อยาก” ไอ้ชายเหลือบมองผมเล็กน้อย ก่อนจะตอบรับเสียงเรียบเหมือนตั้งใจไว้อยู่แล้ว เฮ้ย! ผมอุตส่าห์คิดแผนกับพี่หมอบเอาไว้ มึงจะมาทำเสียไม่ได้นะไอ้คิง!!!

ผมอยากจะกระชากผมไอ้ผัวที่ยิ้มหึๆ เป็นบ้า แต่ไม่ทันได้ทำประตูห้องก็ถูกเปิดพรวดพราดเข้ามาก่อน คนแรกคือพี่หมอบซึ่งมีสีหน้าตื่นตกใจอย่างเห็นได้ชัด พี่แกกวาดตามองรอบห้อง เริ่มจากกระต่าย เบอร์หนึ่ง ไอ้สมศักดิ์ซึ่งโดนมัดมือเลือดอาบ ก่อนจะหยุดสายตาที่ผม ไอ้คิง และไอ้ชาย

ตอนแรกผมคิดว่าพี่แกจะโวยวายถามไถ่ตามประสาซะอีก แต่ปรากฏว่าพี่หมอบนิ่งมากครับ หลังสบตากับไอ้ชายด้วยสัญญาณเทเลพาทีอะไรบางอย่าง พี่แกก็เดินหลบให้พี่แว่นเข้ามาในห้อง พี่แว่นนั้นปรายตามองเล็กน้อย ก่อนจะเดินหน้านิ่งประกบอยู่ข้างๆ ไอ้คิง ขณะเดียวกันเบอร์หนึ่งก็เดินมายืนข้างผม จากนั้นไอ้เก่งและพี่เอก ก็เข้ามาขนาบคนละฝั่งโดยมีพี่หมอบยืนทิ้งท้าย

ตำแหน่งตามตารางหมากรุก ขาดก็แค่เรืออีกคนหนึ่ง

ผมรู้สึกฮึกเหิมอย่างบอกไม่ถูก ถ้ามีเบี้ยยืนข้างหน้าด้วยคงจะได้อารมณ์มาก แต่ข้างหน้าผมตอนนี้มีแค่ชายและสมศักดิ์ ซึ่งไอ้คิงยังคงจ้องเพื่อนผมไว้เขม็ง ก่อนจะค่อยๆ เผยรอยยิ้มเหยียด

“ยินดีต้อนรับ...สู่คิงส์คลับ”

------

ตอนนี้ยาวมาก ไม่ใช่อะไร ตั้งแต่ช่วงน้องนิลเข้าโกดัง เป็นเนื้อเรื่องที่เราแต่งเอาไว้ก่อนอยู่แล้วค่ะ ก็เลยจัดยาวๆ มาขนาดนี้ ส่วนเรื่องตำแหน่งยืน เรียงแบบนี้นะคะ

เรือ(พี่หมอบ)->อัศวิน(ไอ้เก่ง)->บิชอป(พี่แว่น)->คิง->ควีน<-บิชอป(เบอร์หนึ่ง)-<อัศวิน(พี่เอก)<-เรือ(แหว่ง) ค่ะ

เบอร์หนึ่งเป็นบิชอปข้างควีนเลยตามควีน พี่แว่นเป็นบิชอปข้างคิงเลยตามคิงช่วยฝั่งคลับค่ะ <3 ส่วนเก่งเป็นอัศวินข้างพี่แว่นก็เลยต้องปกป้องพี่แว่นกันไป ด้านพี่หมอบ...//จับชายมาวางข้างๆ จะได้ไม่เหงา 5555

ปล.แหว่งหมายถึงตำแหน่งแหว่งนะคะ ไม่ใช่ชื่อเรืออีกคน เราไม่ใจร้ายขนาดน้านนนน

เพจนักเขียนที่เริ่มใจหาย จะจบแล้วเหรอ ไม่นะ ไม่ อย่าทิ้งกันไปเลยหนุ่มๆ ของช้านนนนน!!

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด