ตอนที่ 43 : รถล้ม
พอปิดเทอมผมก็แทบไม่เจอหน้าเพื่อนๆ สักเท่าไหร่ ไม่นับไอ้ชายที่ต้องเข้ามาก้มหัวให้ไอ้คิงด้วยสีหน้าเซ็งๆ ความจริงสองคนนี้ก็ยังไม่ค่อยถูกชะตานัก แต่คงเพราะเริ่มเบื่อคุณผัวก็เลยไม่ได้หาเรื่องทำเมินอีก มันถือว่าไอ้ชายเป็นหมากในกำมือ ไม่จำเป็นต้องสนใจไยดี
พี่หมอบซึ่งเป็นคนกลางก็เลยโล่งอกโล่งใจที่ไม่ต้องกังวลว่าคนรักจะตีกับเพื่อน แต่ก็ไม่วายลากไอ้ชายให้ออกห่างจากส้นตีนไอ้คิง ฉะนั้นถ้าผมต้องการสังสรรค์กับเพื่อน ก็มีแต่ต้องมาเสนอหน้าทางฝั่งผับเท่านั้น โชคดีหน่อยวันนี้หญิงมาร่วมจอยด้วย มันคงตัดใจจากชายได้แล้วล่ะ แต่แค่เป็นห่วงกลัวว่าสุภาพบุรุษอย่างไอ้ชายจะใจแตก ก็เลยมาดูให้มั่นใจว่าผมจะไม่พาเพื่อนเสียคน
“สรุปมึงจะหาเมียให้อเล็กซ์?” หญิงกระดกแป๊ปซี่ผสมเหล้าด้วยท่วงท่ามาดแมน ทั้งที่ดื่มไปตั้งมากแต่ไม่เมา ไม่มึนสักนิด มันน่ะคอแข็งกว่าไอ้ชายอีก
“คิดว่างั้น กูก็อยากจับคู่สำเร็จบ้างป่ะวะ อีกอย่าง ถ้ามีคนคุมอเล็กซ์มันจะได้ไม่วิ่งพล่าน”
“มึงก็เปรียบมันอย่างกับหมา”
“เออ หมา หมาโกลเด้นที่คึกคักกระตู้วู้ กระโดดโลดเต้นเรียกร้องความสนใจจนน่าถีบให้ร้องเอ๋ง”
ไอ้หญิงพยักหน้าหงึกๆ พอได้ระบายกับมันแล้วก็โล่งใจขึ้นมาหน่อย เพราะมันไม่รู้จักอเล็กซ์เป็นการส่วนตัว เวลาผมจะด่าจะว่าอะไรก็พูดได้เต็มปากเต็มคำ
“ว่าแต่พี่หมอบไปสนิทกับมันได้ยังไง ผมว่าพวกพี่ไม่น่าจะเข้ากันได้นะ”
พี่หมอบซึ่งถือถังน้ำแข็งมาเติมเลิกคิ้ว ก่อนจะตัดสินใจนั่งลงข้างๆ ไอ้ชาย ตอนแรกพี่แกไม่อยากขัดเพราะเห็นว่าพวกผมไม่ได้รวมตัวกันนานหลังปิดเทอม ก็เลยเดินลอยไปลอยมาช่วยอำนวยความสะดวกให้แทนเด็กเสิร์ฟด้วยความสอดรู้ล้วนๆ
“พี่ไม่ได้สนิทสักหน่อย กลับมางวดนี้อเล็กซ์ยังไม่มาทักทายสักคำ ของฝากก็ไม่มี” พี่หมอบทำหน้าเจื่อน “ตอนไปส่งขึ้นเครื่องเมื่อสี่ปีก่อน มันยังเอาแต่สั่งลากับไอ้คิง ทำเหมือนว่าพี่เป็นหมาหัวเน่า”
ผมมองพี่หมอบแล้วพยักหน้ารับ คนที่จืดจางอย่างพี่หมอบ ถ้าไปยืนข้างอเล็กซ์ที่มีสปอร์ตไลท์ส่องตลอดเวลาคงเหมือนแสงจ้าๆ และเงาดำๆ...
นะ...น่าสงสารโคตร!
“งั้นพี่ก็ไม่ใช่เพื่อนมันอ่ะดิ”
พี่หมอบยักไหล่
“มั้ง พี่ก็งงๆ เหมือนกัน แต่ช่างเถอะ มันไม่มาระรานฝั่งนี้ก็ดีแล้ว อเล็กซ์ไฮเปอร์จะตาย แถมยังอวยไอ้คิงถวายหัว พี่ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าถ้ามันรู้ว่าไอ้คิงมีเมียต้องโวยวาย ไอ้คิงเลยปิดเรื่องนี้ไม่ยอมบอก” พูดจบพี่หมอบก็ยิ้มนิดๆ “แต่มันไม่ได้ร้ายอะไรหรอกนะ น้องนิลทนๆ เอาแล้วกัน ถ้าเบื่อมันก็เลิกไปเอง”
พูดเหมือนไอ้คิงเปี๊ยบ!
“มันเป็นเด็กสามขวบเหรอพี่ ทำไมใครๆ ถึงยอมมันจัง”
แทนที่จะตักเตือน กลับปล่อยปละละเลยให้มันทำตามใจอยากซะงั้น ก็ไม่แปลกหรอกที่จะโตแต่ตัว
“สำหรับพี่ไม่เชิงเอาใจ แต่คิดว่าอเล็กซ์มันก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนเลยปล่อยๆ ส่วนไอ้คิง...” พี่หมอบมองผมพลางยิ้มแห้ง “ถ้าไม่ก่อเรื่องไอ้คิงก็ไม่ว่าหรอก แถมยังเป็นคนคอยให้ท้ายซะด้วยซ้ำ แม่งโอ๋อย่างกับเป็นน้องชายในไส้ คงเพราะอาการบ้าไอดอลของอเล็กซ์ทำให้คลับไม่เคยโดนเพ่งเล็งหรือตรวจค้นเป็นจริงเป็นจังสักครั้ง นามสกุลของมันดังมากนะน้องนิล ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าปู่ของมันจะเป็นถึงหัวหน้าผู้บัญชาการด้วยซ้ำ”
“น่าจะโหดเอาเรื่องมั้งพี่”
“โหด แต่กับหลานนี่อ่อนยวบ เคยได้ยินอเล็กซ์คุยโทรศัพท์กับปู่รึยังล่ะ”
ผมส่ายหน้า จะว่าไปไอ้อเล็กซ์เคยจะโทรถามปู่เพื่อปรึกษาวิธีการจีบผู้ชาย เอ่อ...ถ้าผมเป็นปู่คงหัวใจวายอ่ะ
“ดีแล้ว ไม่งั้นน้องนิลคงหมั่นไส้ไปอีก” พี่หมอบพูดยิ้มๆ ทำเอาผมสะดุ้งเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะดูออกด้วยว่าผมคิดยังไงกับเรืออีกคนของคลับ
“ผมแสดงออกชัดมากเลยเหรอพี่...” ผมพูดเสียงอ่อน กับไอ้คิงน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ผมไม่อยากให้คนในคลับเข้าใจผิดว่าควีนมีปัญหากับเรือ ขนาดเรื่องที่อเล็กซ์จะจีบผมยังต้องปิดเลย ก็เพิ่งได้รับการยอมรับไม่ถึงเดือนนี่หว่า ผมยังไม่อยากให้มีข่าวฉาวอะไรก็ตามที่ทำให้ความศรัทธาในคลับลดทอน
“ชัดมากเลยล่ะนิล” ไอ้ชายเป็นคนตอบเมื่อคนรักของมันถูกลูกน้องเรียกให้ไปดูหน้าร้าน คงจะมีคนเมาอาละวาดก่อเรื่องอีกแล้วละมั้ง “ตั้งแต่เล่ามานิลมีแต่คำด่าและคำถามว่า ‘ทำไม’ ตลอดเลย”
“กูไม่ได้อิจฉานะ!” ผมยืนยันคำเดิม ผมไม่ได้อิจฉา แต่แค่ไม่เข้าใจต่างหาก
“อย่าร้อนตัวน่าเพื่อน” ไอ้หญิงตบไหล่ผมแปะๆ “ว่าแต่ชายเถอะ ทำงานกลางคืนติดต่อกันแบบนี้ชินรึยัง หญิงเป็นห่วงนะ”
โห เพื่อนหญิง กับผมแค่ตบแปะหนึ่งที แต่กับชายล่ะถามเสียงออเซาะเชียวนะ ความยุติธรรมอยู่ตรงไหน
“เริ่มชินแล้วล่ะหญิง อีกอย่างฝั่งนี้ก็ไม่ได้วุ่นวายอะไร”
“ฝั่งนี้?”
ผมถึงกับหยิกขาไอ้ชายเมื่อมันหลุดพูดคำต้องห้ามออกมา อย่าลืมสิโว้ยว่าผมปกป้องเพื่อนสาวเพียงคนเดียวให้ห่างจากคิงส์คลับขนาดไหน!
“มึงก็ขี้สงสัยจริง ไม่เห็นรึไงว่าใกล้ๆ นี้มีผับมาเปิดใหม่ ไอ้ชายมันเลยเปรียบเปรยไง แบบว่าผับผัวกูน่ะคุมดี มีคนอาละวาดก็จัดการได้รวดเร็วฉับไว ขณะที่ไอ้ร้านนั่นน่ะดูแลควบคุมอะไรไม่ได้ เห็นว่าเมื่อวันก่อนก็มีคนโดนหามเข้าโรงพยาบาลด้วย!”
“เออ กูก็ได้ยินเหมือนกัน” หญิงตอบพลางขมวดคิ้วนิดๆ “แต่กูได้ยินว่าแถวนี้มีคนโดนห้ามเข้าโรงพยาบาลบ่อยอยู่แล้วนะ ก่อนหน้าผับนั้นจะมาเปิดอีก แต่ก็ไม่ใช่ที่ผับนี้...”
“คนตีกันมันเรื่องปกติ จะไปสนอะไรวะ ดื่มๆ! มื้อนี้กูเลี้ยง”
“โห มึงลงทุนมากไอ้นิล”
“เออ นี่หยาดเหงื่อแรงงานที่ผัวกูสร้างขึ้นมาเชียวนะ ตั้งใจดื่มไป ขากลับก็กลับพร้อมไอ้ชาย ยังไงมึงก็เป็นผู้หญิง เดี๋ยวก็โดนคนฝั่งนั้นฉุดเอาหรอก นี่กูไม่ห่วงมึงหรอกนะ แต่กูสงสารคนตาต่ำที่หลงผิดมากกว่า คลำไปคลำมาคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไหนด้านหน้าด้านหลัง”
“เหี้ยนิล!”
ไม่ได้ฟังคำด่าจากเพื่อนรักมานาน ผมแสนจะดื่มด่ำและดีใจ
“นิล...แล้วเรื่องอเล็กซ์ นิลจะทำยังไง”
“ก็หาเมียให้มันไง เออ จะว่าไปที่กูมานั่งก็เพราะตั้งใจเล็งสาวให้อล็กซ์เหมือนกัน พวกมึงคิดว่าสเป็คไอ้ฝรั่งนั่นจะชอบแนวไหนวะ ผู้หญิงที่ยืนกรี๊ดๆ ตรงนั้นดีมั้ย”
ลืมบอกไป พวกผมนั่งบนโต๊ะยาวบนชั้นสองเพื่อความเป็นส่วนตัว ก็เลยชะโงกหน้ามองหาเป้าหมายด้านล่างได้สบายๆ
“โทษทีเถอะเพื่อนที่เคารพรัก พวกกูยังไม่เคยเจออเล็กซ์ที่มึงพูดถึง แล้วจะไปตรัสรู้ได้ไงวะว่ามันจะชอบผู้หญิงแบบไหน”
“ก็ลองใช้พลังจินตนาการอันก้าวไกลของมึงไง” ผมกระแซะหญิง การแกล้งเพื่อนถือเป็นความบันเทิงอย่างหนึ่ง “จะว่าไป...มึงก็เป็นผู้หญิงนี่หว่า”
“ไอ้นิล ปากมึงนี่อยากโดนกูตบมากใช่มั้ย!”
“กูล้อเล่น” ผมรีบยกมือห้ามเมื่อเพื่อนสาวง้างมือมาแต่ไกล “กูไม่ยัดเหยียดเพื่อนตัวเองหรอกน่า อเล็กซ์มันหล่อแต่นิสัยไม่ได้เรื่อง ส่วนมึงก็...ก็นับว่าเป็นผู้หญิงเต็มตัวได้รึเปล่าวะ”
“ไอ้เหี้ยนิล!”
ผมหัวเราะร่า ยกน้ำผลไม้ขึ้นจิบพลางคิดในใจว่าเรื่องอะไรจะยกแม่คนที่สองให้ไอ้ฝรั่งไร้สมองกันล่ะ
ว่าแต่..
“ชาย พี่หมอบนอกใจมึงอ่ะ” ผมสะกิดไหล่เพื่อนยิกๆ เมื่อเห็นคนกากกำลังแบกร่างผู้ชายตัวโตๆ จากหน้าประตูด้วยท่าทางใกล้ชิดเกินเหตุ
ชายผุดลุกทันที เห็นแล้วผมก็พอใจที่มันมีพัฒนาการและแสดงอารมณ์หึงหวงออกมาบ้าง
“ไปหญิง ไปดูเรื่องสนุกกัน”
ผมลากแขนหญิงตามลงไป ก่อนจะเห็นว่าไอ้คนตัวโตนั่น..คือหมาอเล็กซ์!
“พี่หมอบ มันเป็นไรอ่ะ”
“มันเมา” พี่หมอบทำหน้าเหนื่อย “ช่วยกันแบกไปที่ออฟฟิศที ไอ้บ้านี่มันเมาแล้วอ้อนชิบหาย”
“งี๊ดด ปู่ กอดผมที”
ผมผละห่างแทบไม่ทัน ก่อนจะกวักมือเรียกพนักงานแถวนั้นให้ช่วยพยุงแทนพี่หมอบก่อนที่เพื่อนผมจะพิโรธ แต่ผิดคาดเพราะไอ้ชายเข้าไปช่วยประคองอย่างไม่ติดใจ หรือไม่ก็ขี้เกียจรอเลยพยายามแกะเห็บหัวตัวโตๆ ออกจากคนรักที่หน้าเริ่มซีดเหมือนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ พี่หมอบนี่...กากไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ
“ไม่ต้องพาเข้าออฟฟิศหรอก วางมันไว้ตรงนี้ก็ได้”
ผมไม่อยากให้แดนสวรรค์ของตัวเองถูกบุกรุก ก็เลยบอกให้ชายวางอเล็กซ์ให้นอนเหยียดบนโซฟารูปตัวแอลที่ชั้นสอง กะให้มันสร่างเมาแล้วค่อยว่ากัน ถึงจะยังงงไม่หายว่ามันแอบหนีจากโรงงานได้ไงวะ ไม่ได้ขับรถไปสักหน่อย หรือว่าจะดมกลิ่นผัวผมแล้วตามมาถูก
ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว ผมเลยช่างแม่งแล้วกลับไปนั่งโต๊ะเดิม เสียอย่างเดียว ไอ้หญิงก้มหน้ามองอเล็กซ์ที่นอนดูดนิ้วเป็นเด็กๆ ด้วยสายตา...
“นิล”
ผมชักสงหรณ์ใจไม่ดี
“มึงอยากหาเมียให้มันใช่มั้ย งั้นกูอาสาเอง”
“หญิง มึงอย่า หมอนี่มันมีดีแค่หน้าตา มึงอย่าให้ภาพลักษณ์ภายนอกหลอกลวงเด็กขาด”
“โทษทีเพื่อน แต่พอดีกูเพิ่งดูซีรี่ย์อเมริกา แล้วอเล็กซ์หน้าโคตรเหมือนพระเอกเลยว่ะ กูใฝ่ฝันอยากควงดารามานานแล้ว ไม่ได้ตัวจริงขอคนหน้าเหมือนก็ยังดี!”
หญิง...แล้วชายอดีตรักแรกล่ะ ทำไมจู่ๆ ก็เปลี่ยนสเป็คได้วะ นิลกาฬไม่เข้าใจ!
“ควี...เอ่อ พี่นิลครับ”
ผมหันไปตามเสียงเรียก เจอเบอร์หนึ่งยืนบิดไปบิดมาอย่างลำบากใจกับพี่หมอบที่ทำหน้าแปลกๆ สงสัยจะเป็นเรื่องคลับ ผมก็เลยฝากให้ไอ้ชายดูหญิงหน่อย อย่าให้มันไปลวนลามอเล็กซ์ไม่งั้นจะต้องรับผิดชอบหมาโกลเด้นเอาได้ ส่วนพี่หมอบก็กลับไปทำงานทำการ เพราะพอตกดึกลูกค้าก็เริ่มหนาตามากขึ้นจนดูแลลำบาก
“เบอร์หนึ่ง มึงมาส่งมันใช่มั้ย”
ผมว่าแล้วอเล็กซ์น่ะเหรอจะกลับมาถูก แถวโรงงานไม่มีแท็กซี่ซะหน่อยหากไม่โทรเรียกน่ะ
“เขาเป็นเรือ ผมจะขัดคำสั่งเขาได้ยังไงล่ะครับควีน” เบอร์หนึ่งหัวเราะแฮะๆ แต่ผมเชื่อว่าบิชอปของผมคนนี้ฉลาดพอจะทันเกมและรับมือกับเรือแปลกหน้า เว้นก็แต่อเล็กซ์จะไปล้ำเส้นอะไรสักอย่างจนต้องรีบเอามาส่งกลับ
“มันไปทำอะไร”
“เอ่อ...”
“ไม่ต้องปิดกูน่าเบอร์หนึ่ง น้ำหน้าอย่างมึงน่ะเหรอจะผูกมิตรกับอเล็กซ์ไม่ได้ ต้องมีปัจจัยอื่นแน่ๆ ที่ทำให้มึงเลือกขัดคำสั่งไอ้คิงโดยอ้างว่าเป็นคำขอร้องของเรือ”
เบอร์หนึ่งมองผมอึ้งๆ ก่อนจะยอมสารภาพเสียงอ่อย
“เขาไล่จีบคนในโรงงานจนวุ่นไปหมดเลยพี่”
“คนในโรงงานมีแต่พวกกล้ามบึกทั้งนั้น อเล็กซ์มันไม่หน้ามืดขนาดจีบดะหรอก หรือว่า...” ผมเบิกตากว้าง ชักจะเข้าใจอะไรมากขึ้น “มันจีบกระต่ายล่ะสิ”
“...เรือคนนี้ไม่รักษาคำพูดเลยนะครับควีน” น้ำเสียงอ่อนน้อมยอมความเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวราวกับคนละคน “ผมชนะพนันแท้ๆ แต่ก็ไม่ทำตามกฏ คนแบบนี้ผมนับถือไม่ไหวหรอก”
“เฮ้อ ใจเย็นน่าเบอร์หนึ่ง” ผมตกใจ ไม่คิดว่าเบอร์หนึ่งจะต่อต้านรุนแรงขนาดนี้ ว่าแต่พวกมันพนันอะไรกันวะ
“เขาพนันกับผมว่าถ้าแพ้จะไม่จีบกระต่าย แต่พอแพ้ก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วตามจีบกระต่ายโดยอ้างว่ามันเหมือนควีน นอกจากจะผิดกฏของคิงส์คลับแล้วยังดูถูกควีนอีก ผมไม่คิดเลยนะครับว่าเรืออีกคนจะเป็นแบบนี้ ห่วย...”
นี่มันเก็บกดอะไรรึเปล่าวะ ผมอ้าปากค้างกับอีกมาดของเบอร์หนึ่งที่ใส่มารัวๆ ก่อนจะเป็นมันเองที่ชะงักและหันมายิ้มเจื๋ยมเจื้ยมเหมือนเดิม
“...ขอโทษครับ ผมเผลอไปหน่อย ไม่ต้องห่วงครับควีน ถึงจะคิดขัดแย้งในใจแต่ในฐานะบิชอปก็ต้องยิ้มแย้มกับทุกคนอยู่ดี ขออย่างเดียวไม่ให้เขาเข้ามาในเขตของผมที่บอสมอบหมายให้ เพราะเขาไม่ช่วยอะไรนอกจากทำให้โรงงานไม่เป็นระเบียบ”
“มึงก็เลยพามันมาส่งแล้วจะไปรายงานไอ้คิงงั้นสิ”
“ครับ”
“แล้วทำไมมันเมาอย่างกับหมาล่ะ”
“...ควีนครับ ผมมีเรื่องอยากให้ช่วย” เบอร์หนึ่งทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกเรื่องสำคัญได้หลังจากแอบกัดอเล็กซ์ไปหลายยก “ตอนมาอเล็กซ์เห็นผับเปิดใหม่ก็เลยบอกให้ผมแวะถือว่าศึกษาคู่แข่ง ผมเลยตกลง ปรากฏว่าเขาเอาแต่...จีบดะไปทั่ว ก่อเรื่องแล้วยังไม่มีเงินจ่ายค่าเหล้า ผมตั้งใจแค่มาส่งแล้วกลับก็เลยไม่เตรียมเงินมาพอ พี่หมอบเองก็ไม่มีเหมือนกัน กับบอสผมคงพูดลำบาก กับพี่แว่นที่คลุมคลังคงไม่ให้เบิกเรื่องแบบนี้แน่ๆ ส่วน...”
“เออ กูรู้แล้ว เลิกอ้อมโลกแล้วบอกมาเถอะว่าให้กูจ่ายก่อน แล้วค่อยไปทวงเงินอเล็กซ์เอาเองตอนมันตื่น” ผมยกมือห้ามก่อนที่บิชอปคนเก่งจะไล่ให้ครบทั้งคลับ ดีหน่อยที่ผมไม่ต้องกลัวว่าไอ้อเล็กซ์จะเบี้ยว เพราะบ้านมันรวย “แล้วจะไปจ่ายยังไง พวกนั้นตามมึงมาถึงนี่เลยเหรอ”
“เปล่าครับ ผมให้บัตรประชาชนเอาไว้เป็นประกัน บอกว่าจะย้อนกลับไปจ่ายให้ในวันนี้”
ผมพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะเดินไปบอกไอ้ชายกับหญิงว่าจะออกไปข้างนอกกับเบอร์หนึ่งสักครู่ ทั้งคู่พอรู้จักหน้าค่าตาไอ้เด็กนี่อยู่แล้วเพราะชอบตามผมบ่อยๆ ตอนอยู่มหาลัย หญิงยังเข้าใจว่ามันเป็นลูกน้องแสนซื่อสัตย์ของไอ้คิง ก็เลยไม่ห่วงผมมากนัก
“ไปๆ”
ผมเดินออกไปขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์ที่จอดไว้หน้าร้าน ถึงจะไม่ได้พกเงินสดแต่วงเงินบัตรเครดิตที่ไอ้คิงให้พกเอาไว้คงเพียงพอในกรณีนี้ แน่นอนว่ามันไม่ได้ให้ผมพกเอาไว้เพื่อซื้อของ เพราะปกติก็ตัวติดกันอยู่แล้ว และมันจะเป็นคนออกเสมอ แต่มันให้ในกรณีฉุกเฉินสำหรับช่วยเหลือลูกน้องในกรณีเกิดอะไรขึ้นต่างหาก
พอมีควีน เวลามีปัญหาเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่ พวกเด็กๆ ในคลับก็มักจะเข้าหาผมก่อนเพราะคุยง่าย ไอ้คิงก็บอกว่าดีแล้ว มันจะได้ไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องจุกจิก และถ้ามีเรื่องชวนโมโห การให้ผมเข้ามาคุยแทนพวกลูกน้องก็ช่วยให้มันไม่ต้องเรียกมาดราชามาประทับ เพราะในลำดับชั้นของคิง จะไม่มีทางลดหย่อนผ่อนโทษได้เลย
ตำแหน่งของควีนทำให้เรื่องราวในคลับเป็นไปอย่างประนีประนอมแต่กลมเกลียวกันยิ่งขึ้น
ทั้งผมทั้งมันต่างวางตัวเด่นชัดและไม่ก้าวก่ายกันและกัน ถ้าเรื่องไหนผิดจนไอ้คิงมันต้องขึ้นจริงๆ ผมก็ไม่ห้ามหรอก เดี๋ยวจะไปกดบารมีราชา ส่วนไอ้คิงก็จะแสร้งเอาหลับตาข้างหนึ่งในเรื่องไร้สาระเวลาผมลงทุนไปช่วยทั้งที่ไม่จำเป็น อย่างเรื่องนี้ก็นับเป็นหนึ่งในนั้น เป็นปัญหาที่เบอร์หนึ่งคงไม่มีวันเข้าไปรบกวนไอ้คิงเด็ดขาด
“ดีเหมือนกัน กูยังไม่เคยไปผับนั่นเลย”
“เป็นแค่ร้านเล็กๆ ไม่มีอะไรเทียบเคียงกับของเราได้หรอกครับ” ไอ้เบอร์หนึ่งแม่งอวยสัด “ตอนนี้มีลูกค้าเพราะเพิ่งเปิดใหม่ แต่อีกไม่นานก็คงจะลดน้อยลงเพราะสถานที่เล็กกว่าของเรามาก”
ผมรับหมวกกันน็อคมาจากเบอร์หนึ่งมาสวม ก่อนจะเอามือยึดที่จับด้านหลังไว้ เพราะถ้ามีคนรู้จักมาเห็นว่าควีนโอบเอวชายอื่นคงจะไม่งามนัก ผมนี่โคตรรักผัวอ่ะ หวงทั้งมัน ทั้งภาพลักษณ์ของคลับ และจิตใจของเหล่าลูกน้อง นิลกาฬช่างเป็นคนดีอะไรขนาดนี้
นั่งซ้อนไปได้ไม่เท่าไหร่เบอร์หนึ่งก็จอดหน้าผับใหม่ ห่างจากคิงส์คลับไปแค่เลี้ยวตรงหัวซอยเท่านั้น ถ้าเดินคงใช้เวลาสิบห้านาที เบอร์หนึ่งมันไม่อยากให้ผมเข้าไป แต่เพราะบัตรเครดิตต้องเซ็นลายเซ็นบวกกับผมอยากไปศึกษาคู่แข่งเลยจำใจเดินนำเข้ามา ผลคือ...ไม่น่าแปลกใหม่จริงๆ นั่นแหละครับ ผับธรรมดา สถานที่เล็กกว่า เป็นไปอย่างที่เบอร์หนึ่งพูดว่าอีกไม่นานคงจะเจ๊ง เพราะถ้าไม่แน่จริง ไม่มีอะไรดึงดูดแตกต่างจากผับของไอ้คิง เห็นทีลูกค้าจะเลือกสิ่งที่ดีและสะดวกกว่าล่ะนะ
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นกว่าที่คิด แม้ว่าค่าความเสียหายจะล่อเอาผมสะดุ้งเพราะแม่งปาไปเกือบแสน ถึงว่าสิเบอร์หนึ่งและพี่หมอบพากันส่ายหน้า ใครจะคิดว่าอเล็กซ์จะรสนิยมดีขนาดสั่งไวน์มาดื่มในผับล่ะวะ แล้วเสือกดื่มจนเมาปลิ้นไร้สติด้วยนะ ฮ่วย!
“คุณหน้าคุ้นๆ นะ”
ตอนเดินกลับออกมา ลูกค้าคนหนึ่งในผับนั้นก็เดินเข้ามาทักผม
“ควีน? ควีนของคิงส์คลับนี่นา!”
ยังจำหน้าได้อีกโว้ย ผมที่กะกลับไปแบบสงบสุขเลยลอบถอนใจ ก่อนจะหันมายิ้มให้กับอดีตลูกค้าที่พอจะเคยเห็นหน้าค่าตากันบ้าง ถ้าจำไม่ผิดเมื่อวานไอ้หมอนี่โดนอเล็กซ์ถลุงจนเกือบหมดตัว เลยต้องรอมแรมมานั่งดื่มย้อมใจที่นี่แทน
“ไปเถอะเบอร์หนึ่ง” ผมหันไปบอกบิชอป ไม่อยากให้ใครจำเข้าใจผิดคิดว่าควีนของคลับตั้งใจสอดส่องคู่ค้าถึงถิ่น ไอ้เบอร์หนึ่งเองก็รู้ดี รีบเดินบังหลังผมเอาไว้แล้วยื่นหมวกกันน็อคให้สวมทันทีเมื่อออกมาหน้าร้าน
“ขอโทษนะครับ...”
“เฮ้ย ไม่เป็นไรน่า ของแค่นี้เอง” ผมปลอบใจ ปกติถ้าเกิดกรณีแบบนี้เบอร์หนึ่งอาจจะใช้วิธีจดจำนองก่อนละมั้ง แต่ตำแหน่งควีนก็มีไว้เพื่อเกื้อหนุนกันอยู่แล้วนี่หว่า ถ้าไม่มาหาผมสิมีเคืองแน่ๆ “กลับกันเถอะ เผื่ออเล็กซ์มันฟื้นจะได้เก็บดอกเบี้ยให้สะใจ”
“ครับ”
เบอร์หนึ่งสตาร์สเครื่อง แต่ไม่ทันได้ขับออกผมก็แตะไหล่มันก่อนแล้วกดเปิดสปีกเกอร์โฟนเพราะมีคนโทรเข้ามา
เสียงรอสายพิเศษแบบนี้มีคนเดียวล่ะครับ
“ว่าไงไอ้คิง”
(( มึงไปไหน ))
ออกมาข้างนอกไม่ถึงสิบนาทีก็รู้ตัวแล้วเหรอวะ อะไรจะไวปานนั้น
“ออกมาจัดการธุระกับเบอร์หนึ่งนิดหน่อย จะกลับไปแล้วเนี่ย” ผมบอกพลางสะกิดไหล่เบอร์หนึ่งให้ขับออกไปได้เลย ยังไงซะระยะทางแค่นี้ก็ใช้เวลาไม่กี่นาที
(( กูเจออเล็กซ์ ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ ))
“เดี๋ยวกูกลับไปเล่าให้ฟัง” นึกแล้วผมก็ทั้งฉุนทั้งขำกับเด็กปั้นของไอ้คิงที่ไม่เอาอ่าวซะเหลือเกิน สมแล้วที่ได้ชื่อว่าตำแหน่งหัวโขน “มึงต้องไม่เชื่อแน่ว่าขนาดเบอร์...เชี่ย!”
ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆ ก็มีรถตัดหน้า ไม่สิ ถ้าไอ้เบอร์หนึ่งหักหลบไม่ทันคงจะชนไปแล้ว อนาถแท้ที่นิลกาฬมัวแต่คุยกับผัวไม่ได้ยึดมอเตอร์ไซด์เอาไว้ก็เลยตกลงมากลิ้งขลุกๆ โชคดีมากเพราะตัวผมกระเด็นมาทางฟุตบาท ถ้าเป็นกลางถนนละซวยหนักแน่ เด็กๆ ก็จำไว้ให้ดีล่ะว่าทีหลังอย่าคุยโทรศัพท์ตอนกำลังนั่งซ้อนคนอื่น!
“อูย...” ผมครางเพราะรู้สึกเจ็บๆ ตรงเข่าและข้อศอก แต่ก่อนอื่นต้องหาโทรศัพท์ก่อนครับ เสียงเบรกเมื่อครู่ดังลั่นไปหมด ไอ้คิงคงตกใจแทบคลั่งแล้วมั้งนั่น
(( นิล...นิลกาฬ! ))
หาได้ไม่ยากเลย เพราะคุณผัวตะโกนลั่นจนผมควานเจออย่างรวดเร็ว
“กูโอเค รถล้มนิดหน่อย” ผมรีบรายงานตัว ได้ยินเสียงถอนหายใจแทรกออกมายาวเหยียด เมื่อกี้มันต้องอายุสั้นลงไปอีกสามปีแหงๆ
(( มึงอยู่ไหน กูจะไปรับ ))
“เฮ้ย ไม่เป็นไร ใกล้แค่นี้เอง เบอร์หนึ่ง เป็นไงบ้างวะ” ผมเข้าไปช่วยพยุงเบอร์หนึ่งที่ดูจะอาการหนักเพราะหักหลบกะทันหันจนรถล้ม โดนมอเตอร์ไซด์ทับไปโดยปริยาย ส่วนคู่กรณีน่ะเหรอครับ แม่งเผ่นหนีไปแล้ว!
“ไหวอยู่ครับ ผมประมาทเอง แล้วควีนล่ะครับ” มันรีบลุกกะเผลกๆ เมื่อผมจับมอเตอร์ไซด์ให้ตั้งขึ้น มีหลายคนมองมาอย่างสงสัย แต่พอเห็นเราสองคนสภาพสมบูรณ์ดีก็แยกย้ายกันไป ดีนะมาล้มอยู่แถวๆ ผับคนอื่น ถ้าเป็นหน้าผับตัวเองคงอับอายชิบหายเลย
“เข่าถลอกนิดหน่อย” ไม่น่าใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ แฟชั่นเลยครับ พอก้มมองนี่เลือดอาบอ่ะ ทำตัวเองแท้ๆ ถ้าไม่ใส่หมวกกันน็อคคงอาการหนักกว่านี้เพราะผมถึงกับกลิ้งสามตลบ ส่วนเบอร์หนึ่งแม้บอกไม่เป็นไร แต่ผมเห็นมันจับข้อมือเหมือนเจ็บๆ
(( มึงจะบอกได้รึยังว่าอยู่ที่ไหน หรือจะให้กูไปหาเอง ))
เกือบลืมว่ายังไม่วางโทรศัพท์ เสียงไอ้คิงแม่งเย็นยะเยือกจนเหมือนถูกแช่แข็งหลังจากแอบฟังสถานการณ์คร่าวๆ ผ่านบทสนทนาของผมกับเบอร์หนึ่ง
“เออๆ กูอยู่ตรงแถวๆ ผับเปิดใหม่เนี่ย” ถ้าไม่ติดว่าเบอร์หนึ่งเหมือนจะขับต่อไม่ไหว ผมก็ไม่อยากเดือดร้อนไอ้คิง ปกติมันเข้างานแล้วจะลุยงานยาวๆ ไม่ออกมาก่อนเว้นแต่ว่าจะกลับคอนโด แต่ดูจากสีหน้าสงบนิ่งของเบอร์หนึ่งที่มองรอยขูดของมอเตอร์ไซด์ที่ไถลไปกับถนนด้วยสายตาเตรียมเอาคืน...คาดว่าต่อให้อยากปิดก็ปิดไม่ได้
จะเกิดอะไรก็เกิดละวะ!
------
ใครบังอาจจจจจ ทำน้องนิลของข้ามีบาดแผลลลลลลลลลลลลลล จงรับแรงโทสะของราชาไปซ้าาาาา //อินจัด
เป็นอันว่าอเล็กซ์คู่กับหญิงค่ะ อย่างที่หลายคนเดาถูก เพราะผู้หญิงเรื่องนี้มีคนเดียว (ฮา) แต่จะไปลงเอยยังไงล่ออเล็กซ์ตื่นมาก่อนมีประเด็นแน่ คราวนี้เรื่องจะเริ่มคึกคักแล้วค่ะ ก่อนอื่นก็ต้องจัดการเรื่องของควีนก่อนล่ะนะ!
เพจนักเขียนที่เปิดไฟเขียวให้พี่คิงเอาคืนแบบจัดหนัก ให้รู้ซะบ้างว่าควีนของพวกเรานั้นเป็นที่รักขนาดไหน!