ผมหันไปมอง ก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อเจอกับภาพอเล็กซ์ที่กำลังโดนลวนลาม
“ไม่นะเพื่อนเมียเพื่อน อย่า อย่า”
อเล็กซ์...มึงเป็นสาวบริสุทธิ์รึไง
แล้วเพื่อนเมียเพื่อนคืออะไรวะ คำเรียกโคตรยาว แต่เสือกขัดขืนซะสะดิ้ง อย่าว่าแต่หญิงเห็นแล้วคึก ผมเห็นแล้วยังอยากแกล้งมันเลย
“หญิง มึงอย่าออกตัวมากดิ”
“ไหนมึงไฟเขียวให้กูแล้วไง” หญิงที่เข้าไปจับหน้าจับตาอเล็กซ์อย่างหลงใหลแถมยังเอานิ้วทาบปากตัวเองไปวางแปะบนแก้มว่าที่สามีพูดอย่างไม่อาย...ขนาดลูกครึ่งฝรั่งยังตกใจ แสดงว่ามึงเหิมเกริมไปนะ
“งั้นอเล็กซ์ มึงออกมาทำไมเนี่ย”
“ก็เพื่อนเมียเพื่อนบอกว่าถ้าออกมาเจอหน้าจะให้รางวัลอ่ะ กูอยากได้รางวัล” อเล็กซ์ทำหน้าบึ้งๆ ขณะยกมือถูแก้ม มึงโดนหลอกแล้วไอ้หมา สรุปแล้วที่เก็บตัวมันไว้ในออฟฟิศหามีประโยชน์ใดไม่สินะ ให้ทำงานเสือกนั่งเล่นไลน์ เจริญแท้
“แล้วมึงบอกไอ้คิงยังไง”
“บอกว่าเพื่อนเมียเพื่อนอยากเจอ เพื่อนคิงเลยบอกให้ไสหัวไปแล้วตามเมียเพื่อนให้ด้วย”
อเล็กซ์กระตือรือร้นมากกับการถูกใช้ นี่มึงไม่เคยโดนใครออกคำสั่งใส่เพราะมีแต่คนทำอะไรให้ตลอดใช่มั้ย ถ้ามันรู้ว่าไอ้คิงเป็นพี่ จะยิ่งคลั่งหนักกว่าเก่าหรือเออเร่อร์ไปเลยวะ
“เออๆ งั้นมึงกลับเข้าไปพร้อมกูเลย มานี่มา” ผมเกี่ยวคอเสื้ออเล็กซ์หมายลากเข้าห้อง ถ้าไอ้เก่งเป็นคู่กัด เบอร์หนึ่งเป็นรุ่นน้อง พี่แว่นเป็นพี่ชาย พี่เอกคือเพื่อนร่วมงานแสนดี ไอ้อเล็กซ์ก็คือหมาเลี้ยงเฝ้าคลับชัดๆ ถ้าเจอตำรวจก็ให้มันเห่าไล่ไป สะดวกดี
“นิล มึงอย่ากีดกันความรักของเพื่อนสิวะ”
“นี่มันเวลางานนะครับคุณ” ผมหันไปพูดสุภาพจริงจังกับไอ้หญิงที่เดินตามมาโวยวาย แน่ล่ะว่าจงใจกวนประสาท “เอ้า บ๊ายบายเพื่อนกูหน่อย”
“บายยย”
เชื่องใช้ได้นี่หว่า
ผมอมยิ้มกับอเล็กซ์ที่ปล่อยตัวให้ผมลากง่ายๆ แถมยังยกมือบอกลาไอ้หญิงด้วยรอยยิ้มซุกซนไร้เดียงสาอย่างน่ารัก ชักเข้าใจว่าทำไมไอ้หญิงถึงหลงหัวปักหัวปำจะเอาให้ได้ หญิงเป็นพวกบ้าผู้ชายประเภทอ่อนแอกว่าตัวเอง ผมหมายถึง...หัวอ่อนแบบน่าดูแลน่ะครับ ตอนไอ้ชายก็เพราะมันเอาแต่คอยตามผมจนไม่ค่อยสนใจตัวเอง ไอ้หญิงเลยทนไม่ไหวต้องเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ เอ่อ...นี่ผมเป็นภาระเหรอวะ ช่างแม่ง
แต่พอเข้าไปในออฟฟิศ ผมก็ต้องชะงักเมื่อเจอกับพี่เอก
แปลก ปกติพี่เขาคุมหน้าประตูตลอดเวลานี่หว่า เวลามีเรื่องหรือคนขอเข้าพบ มักจะเป็นไอ้เก่งไม่ก็พี่แว่นที่มารายงาน เพราะสำหรับตำแหน่งอัศวินพิทักษ์ประตูพ่วงดูลาดเลาแล้ว พี่เอกแทบจะกระดิกไปจากตำแหน่งเกินสิบนาทีไม่ได้เลย
“มีอะไรกัน” ผมจับได้ถึงบรรยากาศไม่ค่อยสู้ดี เอาอเล็กซ์ไปปล่อยบนโซฟา แล้วเดินอ้อมไปนั่งข้างๆ ไอ้คิง
“เมื่อกี้มีตำรวจมา”
ผมใจหายกับคำอธิบายสั้นๆ ของไอ้คิง
“ไม่ต้องกังวลหรอกครับควีน เป็นแค่การเข้าใจผิดเท่านั้น” พี่เอกรีบรายงาน แต่ไม่วายปรายตามองอเล็กซ์ที่นั่งทำตาแป๋วอย่างงุนงงไม่รู้สถานการณ์ว่าคุยเรื่องอะไรกัน “มีคนแจ้งความว่ามีการซื้อขายยาเสพติดที่หลังร้านของผับ เลยมีสายตำรวจเข้ามาเดินตรวจ ถึงจะจัดการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ แต่ผมคิดว่าต้องมีคนจงใจปล่อยข่าว”
เวรล่ะ ศัตรูไอ้คิงเยอะชิบหายจนไม่อยากจะนับนิ้วเลย
“สมบัติรึเปล่าพี่”
แต่ผมก็นึกถึงอริล่าสุดเป็นคนแรก
“ไม่ใช่ครับควีน สมบัติ...” พี่เอกเว้นจังหวะเล็กน้อย ผมเห็นนะว่าแอบเหยียดยิ้มได้สยองพอๆ กับคุณผัวที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมเลย “สมบัติคงไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลในเร็วๆ นี้แน่”
“อาจจะเป็นญาติหรือเมียสมบัติก็ได้ ถ้ามีคนเห็นว่ามันถูกทำร้ายขนาดนั้นก็คงผูกใจเจ็บนะพี่”
“นิล” ไอ้คิงจับต้นขาผมเอาไว้ทั้งที่ผมกำลังใช้ความคิด “สมบัติทั้งกู้เงินและติดการพนัน เจ้าหนี้ไม่ได้มีแค่เรา แต่ยังมีคนอื่นอีก ไม่มีใครคิดโยงมาที่คิงส์คลับได้เร็วขนาดนี้ทั้งที่เพิ่งผ่านมาวันเดียวหรอก”
เออว่ะ ผมหันไปยกมือขอโทษขอโพยไอ้คิงเพราะอาจจะไปขัดจังหวะคุยระหว่างมันกับพี่เอกโดยไม่ได้ตั้งใจ ลืมไปได้ยังไงนะว่าเวลาจะทำอะไรขึ้นมาทีผัวผมโคตรมีมาตรการรองรับความปลอดภัยเผื่อเอาไว้แล้ว มีแต่ผมเนี่ยล่ะที่ไม่ทันคิด
ไอ้คิงไม่ถือสา มันก้มจูบผมเร็วๆ หนึ่งทีแล้วส่งสัญญาณมือให้พี่เอกรายงานต่อจากที่ค้างเอาไว้
ต่อหน้าต่อตาลูกน้องเลยนะมึง
“ผมลองสอบถามกับคนที่บอสให้ติดต่อเวลาเกิดปัญหากับตำรวจแล้วครับ เขาบอกว่าเพราะไม่ได้มีการเจาะจงว่ารื้อค้นคลับจึงไม่ได้ห้ามปรามล่วงหน้า ฉะนั้นพวกเราต้องจัดการกันเอง”
ไอ้คิงเหลือบมองอเล็กซ์ที่ยังมองไปมองมาระหว่างพวกผมกับพี่เอกอย่างงุนงงแล้วยิ้มเย็น
“บอกไปว่าหาก ‘หลานที่น่ารัก’ โดนจับที่หน้าร้านแล้วถูกสอบสวนขึ้นมา ก็คงต้องให้ทางนั้นจัดการกันเองเหมือนกัน”
“ครับ บอส”
พี่เอกพยักหน้าอย่างพอใจ นี่มันขู่กันชัดๆ! จริงอยู่ว่าคนอื่นๆ ในคลับน่ะเก็บความลับดี ต่อให้มีคนมาตรวจก็ไม่ปากโป้งเอาง่ายๆ แต่กับอเล็กซ์น่ะ...ถ้าใช้สมองสักหน่อย ในเวลาไม่ถึงสิบนาทีคงรีดข้อมูลได้หมดเปลือก...
“นี่มึงคุยเกี่ยวกับกูอยู่ป่ะเพื่อน” อเล็กซ์ทนไม่ไหวอยากมีส่วนร่วมเมื่อพวกผมพากันมองมันอย่างไว้อาลัยในใจ
“ก้มหน้าไป”
“อ่า เอ่อ โอเค๊” อเล็กซ์ก้มหน้างุดๆ เมื่อโดนไอดอลสั่งเสียงเหี้ยม ผมว่าไอ้คิงคงโกรธที่จู่ๆ ก็มีตำรวจไม่ดูตาม้าตาเรือเข้ามาในเขตของตัวเองแหงๆ ถึงได้แผ่รัศมีราชาพิโรธอยู่อย่างนี้
“ปัญหาคือใครเป็นคนแจ้งความ” ไอ้คิงพูดนิ่งๆ แต่ตาจ้องตรงที่พี่เอกอย่างกับคาดเค้นเอาคำตอบให้ได้ ถ้าไม่เพราะรู้จักมันดี ผมคงหลงนึกว่ามันกำลังจะเอาอารมณ์ลงกับลูกน้องแน่ๆ แต่ไม่ใช่ครับ มันแค่อยากถามความเห็นเฉยๆ แต่ด้วยมาดดุๆ เลยทำให้เหมือนหาเรื่องชาวบ้าน
“ผมคิดว่าต้องเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับยา ‘พาเลซ’ ครับบอส”
ไอ้ยานรกนั่นอีกแล้ว จนตอนนี้ผมก็ไม่ค่อยเห็นด้วยที่ไอ้คิงมันทำโรงงานหรอกนะ
“แล้วมึงล่ะเมีย”
ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่มันหันมาถามผม เพราะการที่มันให้อเล็กซ์ไปตามตัวก็เพราะต้องการให้ผมเป็นส่วนหนึ่งในการระดมความคิดอยู่แล้ว
“สมศักดิ์? ไม่สิ มึงเอามันจับเซ็นเป็นเจ้าของโรงงาน มันคงไม่โง่” ผมพึมพำระหว่างคุณผัวนั่งโอบเอวอย่างคุ้นชิน “คนงานที่เบอร์หนึ่งจัดหามาก็ได้รับผลประโยชน์กันหมด ซึ่งถ้าโดนจับ ก็ต่างเสียประวัติกันทั้งนั้น พวกมันคงไม่กล้าเอาตัวเองมาเอี่ยวด้วย”
ไอ้คิงพยักหน้ารับเป็นช่วงๆ ขณะที่พี่เอกเองก็ตั้งใจฟังจนผมชักเกร็ง
“เบอร์หนึ่งตัดออกไปได้ ที่เหลือก็เป็น...”
ผมหันขวับมองไอ้คิงทันที
“อย่าบอกนะว่า...”
“เข้าเดือนที่สามแล้วหลังจากกูมอบหมายงาน แต่คนของมึงยังไม่ยอมเข้าร่วมเต็มตัวสักที”
อเล็กซ์กับไอ้ชายผ่านการทดสอบแล้ว แต่ยังเหลืออีกคนหนึ่ง
“มึงสงสัยกระต่ายเหรอวะ”
ผมกลืนน้ำลาย แต่พอคิดดูดีๆ ก็เป็นไปได้สูง กระต่ายเห็นซื่อๆ แต่ก็สามารถทำทุกอย่างได้เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง อย่างตอนที่ทำตัวเป็นนิลกาฬสองไงล่ะ เห็นแบบนั้นแต่ก็กล้าเกินวัย ไอ้คิงพูดถูก กระต่ายยังไม่ยอมลงงานอย่างจริงจัง เอาแต่สวมผ้ากันเปื้อนทำความสะอาดเหมือนไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับการค้าผิดกฎหมายที่น่ารังเกียจ
ผมเข้าใจกระต่ายนะ แต่ก็เข้าใจไอ้คิง
กระต่ายเป็นผู้ต้องสงสัยที่พอเข้าเค้าที่สุดจริงๆ
“เบอร์หนึ่งอยู่กับกระต่ายตลอด มันดูคนเก่งจะตาย คงไม่เผลอให้น้องมันหลอกหรอกน่า”
“ไม่มีใครไม่เคยผิดพลาด”
ผมเงียบไปชั่วอึดใจ มองหน้าพี่เอกแล้วก็พบว่าพี่แกเห็นด้วยกับไอ้คิง
“กระต่าย...รักเบอร์หนึ่งนะ มันคงไม่กล้าแจ้งความให้คนที่ตัวเองรักถูกจับหรอก”
“คนที่แจ้งความเจาะจงที่ ‘คลับ’ นะนิลกาฬ”
บางครั้งผมล่ะเกลียดเวลามันเรียกชื่อเต็มผมชะมัด
“ถ้าคลับถูกปิด กรต้องไหวตัวและหนีก่อนจะมีคนตามไปโรงงานอยู่แล้ว”
“ไม่ต้องมาพูดอ้อมค้อม” ผมถอนหายใจเฮือก แล้วยึดมือไอ้คิงตรงสะโพกตัวเองเอาไว้ “มึงบอกกูมาเลยดีกว่าว่ามึงคิดและเชื่อแล้วใช่มั้ยว่ากระต่ายคือคนแจ้งความ”
“ใช่”
ดีจริงๆ ที่ผัวผมเป็นพวกกล้าทำกล้ารับ
“มึงจะทำยังไงกับกระต่าย”
“ให้อัศวินจับมาเค้นคอ” ไอ้คิงว่าพลางเหลือบมองพี่เอกที่พยักหน้าน้อยๆ นับว่ามันยังมีเมตตากับสัตว์เลี้ยงของผมอยู่บ้าง เพราะให้พี่เอกลงมือ ย่อมดีกว่าไอ้เก่งเป็นไหนๆ
เหอะ ไอ้พวกถนัดแต่ใช้กำลังเอ๊ย!
“ขอเวลากูหนึ่งวัน ไม่สิ สักชั่วโมงก็พอ” ผมต่อรอง เชื่อว่ายังไงไอ้คิงก็ต้องฟัง ไม่งั้นมันจะพูดพล่ามมากมายทำไมถ้าไม่เพราะกลัวผมไม่เห็นด้วย “กูมีวิธีให้กระต่ายสารภาพ และดีกว่าการให้อัศวินคนสำคัญของมึงต้องลงแรงเอง แต่มึงต้องสัญญา ไอ้คิง ถ้ากระต่ายไม่เกี่ยวข้องจริงๆ มึงต้องตัดกระต่ายออกจากความเป็นไปได้ต่างๆ ในอนาคต”
“...ได้”
ไอ้คิงเว้นจังหวะอยู่นาน ผมก็เข้าใจหรอก มันเชื่อมั่นในตัวเอง และในคนของมัน แต่กับกระต่ายที่ไม่นับว่าเป็นคนของคลับเต็มตัว มันที่ชอบความสมบูรณ์แบบและเพอร์เฟ็คคงรู้สึกตงิดๆ กับส่วนเกินนี้จนกลายเป็นความระแวงไม่ไว้ใจ ถึงได้ส่งไปไกลลิบตา
ส่วนผม...ผมรู้จักกระต่าย ไม่ใช่แค่มองจากอดีตแล้วตัดสินแบบไอ้คิงที่นับว่าเป็นพวกแล้งน้ำใจ กระต่ายเคยทำผิดจริง แต่มันก็เหมือนผมนั่นแหละ พอยืนขึ้นได้แล้วก็ไม่มีวันทำผิดพลาดซ้ำสองหรอกน่า ไม่มีทางจะแจ้งความทั้งที่ได้นอนห้องเดียวกับคนที่ชอบทุกคืน เพราะเบอร์หนึ่งกลายเป็นที่พักพิงทางใจของมันไปแล้ว
ไอ้คิงสนแต่ว่าลูกน้องจะทำหน้าที่ได้ดีมั้ย ขณะที่ผมน่ะเอาแต่เสือกเรื่องชาวบ้าน
มันไม่เคยโทรศัพท์หาลูกน้องนอกเหนือจากงาน ส่วนผมชอบโทรถามสารทุกข์สุกดิบนักแล
โดยเฉพาะเบอร์หนึ่งและกระต่าย ฉะนั้นผมถึงมั่นใจว่าจะทำสำเร็จ
“หนึ่งชั่วโมง” ผมย้ำคำอีกครั้ง ยกนิ้วบอกทั้งไอ้คิงและพี่เอก “รอฟังผลได้เลย”
“ครับ ควีน” ค่อยยังชั่วที่พี่เอกไม่คัดค้าน หรือไม่ก็วีรกรรมของผมที่ชอบทำอะไรแผลงๆ นับตั้งแต่ออกไปทวงหนี้กับไอ้เก่งจะร่ำลือไปทั่วคลับ พี่เอกถึงได้ทำตาประกายวาวราวกับรอชมฉากเด็ด
ผมแกะมือไอ้คิงออกจากเอวเพื่อผละตัวออกเล็กน้อย ก่อนจะกดโทรศัพท์หาตัวการสำคัญ
“เบอร์หนึ่ง เงียบ และฟังกู”
ผมพูดดักทันทีที่ปลายสายกดรับ
“ตอนนี้...”
มิชชั่น...สตาร์ท!!!
-------------
ได้เวลาควีนโชว์ลวดลายหลังจากนั่งในตำแหน่งแบบสบายๆ มานานแล้วค่ะ
คิงไม้แข็งไม่กลัวใคร ควีนไม้อ่อนเล่นเทคติก เข้ากั๊นเข้ากันเนอะ 5555
ตอนหน้าเป็นของเบอร์หนึ่งกับกระต่าย รู้สึกว่าทำไมลำเอียงจัง เริ่มภาคมามีแต่คู่นี้เด่น พี่แว่นแทบจะหายไปเลย แต่มันเป็นบริบทของตัวเรื่องค่ะ ก็ต้องพยายามกระจายบทกันไป ตัวละครเริ่มเยอะเราเองก็มึนเหมือนกันค่ะ
เพจนักเขียนที่ยอมเป็นนางวันทอง อยู่ตรงกลางระหว่างคิงกับเอก อั๊ยปล.ใครรอฉากลูกเขยเจอพ่อตาแม่ยาย มีในตอนพิเศษแน่นอนค่ะ คงไม่อยู่เรื่องหลักเพราะต้องไทม์สคิปไปตอนน้องนิลเรียนจบเลย แบบว่าไปสู่ขอรวดเดียว 5555