ตอนที่ 57 : โดนจับ
(( หนูนิล...น้ามีเรื่องจะสารภาพจ้ะ ))
ผมสังหรณ์ใจไม่ดีชอบกล
(( เอกสารชุดนั้น...น้องๆ เขาทำเสียไปแล้วล่ะจ้ะ ))
“อะไรนะครับ!”
ผมไม่เคยขึ้นเสียงใส่แม่ไอ้ชายเลยสักครั้ง แต่ครั้งนี้ขอทีเถอะ อุตส่าห์ตื่นมาโทรหาแต่เช้าเพราะรู้ดีว่าครอบครัวนั้นนอนเร็ว แต่กลับได้รับข่าวร้ายซะนี่
(( อย่าโกรธน้องเลยนะหนูนิล น้องเขาไม่ได้ตั้งใจ และก็เป็นความผิดของน้าเองด้วยที่วันนั้นทำความสะอาดใหญ่ เลยเอาของทุกอย่างออกมาวางไว้ด้านนอก น้องๆ เห็นว่าเป็นซองกระดาษก็เข้าใจผิดว่าน้าเอามาให้วาดรูป เลยหยิบออกมาวาดเละเทะ และเพราะกระดาษมีจำนวนน้อยเลยทะเลาะแย่งกันจนขาด...น้าขอโทษจริงๆ นะจ๊ะ น้าไม่ได้บอกเรื่องนี้เพราะไม่อยากให้เครียด เพราะเรื่องเกิดตั้งแต่ปีก่อน ช่วงนั้นหนูนิลกำลังสอบปลายภาคพอดี ))
“...”
(( ว่าแต่มีเรื่องอะไรรึเปล่าจ๊ะถึงถามหาเอาตอนนี้ ))
“เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกครับ”
แล้วผมจะพูดออกไปได้ยังไง ครอบครัวไอ้ชายเปิดบ้านรับเลี้ยงเด็กสำหรับพ่อแม่ที่ไม่มีคนช่วยดูแลลูกน้อยเวลาทำงาน มีทั้งหน้าใหม่หน้าเก่าวนเวียนเข้ามา แต่ช่วงหลังมานี้คุณน้าเองก็เริ่มแก่เกินกว่าจะวิ่งไล่ทันแล้ว ถ้าเกิดเรื่องทะเลาะขึ้นมาบางทีก็คุมไม่อยู่
ซวย...ซวยโคตรๆ
ตอนรู้ว่านายจำเป็นต้องใช้เอกสารนี้เพราะเรื่องฟ้องร้อง ผมก็คิดว่าอาจจะยอมคืนให้เพราะไม่อยากโดนตื้อ นายเป็นพวกกัดไม่ปล่อยถ้าเข้าตาจน และตอนนี้ก็พอเข้าข่ายซะด้วยสิ
เสียงตะโกนของผมคงจะดังจนปลุกไอ้คิงที่นอนหลับอุตุโงให้หัวขึ้นมาจากหมอน มันทำตาปรือง่วงงุนมองหน้าเมียที่นั่งอยู่ขอบเตียงทั้งตัวเปล่าเปลือย ผ้าห่มร่นลงไปกองตรงช่วงเอวซ่อนมังกรยักษ์ เห็นแล้วเซ็กซี่บาดตาบาดใจ แต่ผมหื่นไม่ออกเพราะยังช็อกไม่หาย
“งั้นแค่นี้ก่อนนะครับคุณน้า ขอบคุณครับ”
ผมรีบวางสายก่อนแม่ไอ้ชายจะสงสัย ร้อยวันพันปีผมเคยถามถึงเอกสารของนายที่ไหนล่ะ ผมมอบให้พวกเขาเก็บรักษาแล้วทำเป็นลืมเรื่องวันนั้นมาตลอดเพราะฝังใจกับการถูกขายและถูกขังร่วมปี
“มีอะไรรึเปล่า” ไอ้คิงถามเสียงแหบ ตื่นไม่ค่อยจะเต็มตาสักเท่าไหร่เพราะผิดเวลาของมัน
“กูไม่มีเอกสารนั่นแล้วว่ะ ควรจะบอกนายดีมั้ย”
ไอ้คิงขมวดคิ้วทันที
“ไม่”
หน้าอย่างมัน ไม่มีวันเผยข้อเสียเปรียบให้ใครเห็นทั้งนั้น
“แต่กูรู้จักนายดี ไอ้คิง เขาไม่มีวันยอมเลิกราจนกว่ากูจะเอาไปคืนแน่ๆ ต่อให้จะมีคดีพรากผู้เยาว์อยู่ก็เถอะ แต่ตอนนี้นายเหมือน
กำลังเข้าตาจน ถ้าต้องติดคุกอยู่แล้วเขาก็ไม่สนหรอกว่าเพราะข้อหาอะไร”
“ถ้ามึงบอก คิดว่าเขาจะเชื่อ?”
เป็นคำถามที่หนักอกหนักใจเป็นอย่างมาก เพราะมีเปอร์เซ็นต์สูงหลังผมกวนตีนนายว่าคำพูดหลังจากนี้ล้วนแต่เป็นการบลัฟเพื่อยั่วโมโหอีกฝ่ายทั้งสิ้น
“ถ้าไม่เชื่อ ก็ไม่ต้องบอก”
ตรรกะเยี่ยมมากไอ้คิง ผมมองผัวที่แน่วแน่ในการเซฟตัวเองด้วยความทึ่ง
“แล้วจะทำไงกับนาย เขาต้องมาหากูอีกแน่”
“ที่ไหนล่ะ”
คุณผัวถามกลับพร้อมรอยยิ้มมุมปากที่โฉดเป็นอย่างมาก
คำตอบนั้นไม่ยากเลย
นายจะมาหาผมได้ก็ต่อเมื่อเข้ามาในคลับ แต่...คลับนั้นเป็นปราสาทของผมและไอ้คิง แถมยังมีอัศวินเฝ้าหน้าประตูอีกต่างหาก
“มึงทนอีกแค่หนึ่งเดือน นิลกาฬ”
ไอ้คิงว่าพลางดึงผมให้ลงไปนอนข้างๆ กัน
“หนึ่งเดือน”
มันย้ำ ก่อนจะหลับตาแล้วนอนหลับโดยกอดแน่นเหมือนบังคับ ไม่นานลมหายใจก็เป็นสม่ำเสมอ การทำให้ผัวแหกขี้ตาตอนเช้าโดยไม่มีเหตุจำเป็นใดๆ คงฝืนตัวเองมากสินะผัว
ผมกะพริบตาปริบๆ มองหน้าไอ้คิง ผมสีแดงปรกหน้าผากทำให้มันดูเด็กและหล่อใสไร้พิษภัย มองไปมองมาก็คล้ายอเล็กซ์อยู่เหมือนกัน แต่อ้อมกอดที่รัดแน่นทำให้ผมมั่นใจว่าตราบใดที่อยู่เคียงข้างมัน จะไม่มีอะไรทำอันตรายผมได้อย่างแน่นอน
ขอโทษแล้วกันนะนาย ถ้าจะซวย ก็ถือว่าทำตัวเองเถอะ
นิลกาฬไม่ขอยุ่ง
เย็นวันนั้น นายมาหาผมอีกครั้ง
แต่โดนพี่เอกจับโยนออกไปอย่างไร้ปราณี แม้ว่าจะเป็นคนแก่อายุสี่สิบเอ็ดก็ตาม
“ฉันมาหานิลกาฬ”
“ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณครับ” พี่เอกว่าอย่างสุภาพแต่มือจับต้นแขนนายไม่ปล่อย ส่วนผมนั้นยืนหลบมุมอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล อยากเสือกก็อยาก แต่ก็ไม่อยากให้นายเห็นหน้า เลยต้องทำตัวเป็นนินจาโดยจับลูกน้องยืนเป็นกำแพงบังเอาไว้
“ฉันเป็นสมาชิกอย่างถูกต้องนะ ทำไมถึงเข้าไปไม่ได้”
“เพราะคุณเป็นภัยต่อคลับ ต่อควีน” พี่เอกตอบเสียงเรียบ ใบหน้าหล่อเท่ที่มักยิ้มนิดๆ พอกระชุ่มกระชวยหัวใจกลายเป็นสีหน้าเอาจริงที่พร้อมจะลงไม้ลงมือทันที แต่เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นที่หน้าคลับ จึงต้องรักษาหน้ากันบ้าง “เสียใจด้วยครับ คุณติดแบล็คลิสต์ของคลับเราแล้ว เชิญ”
พี่เอกเดินผ่านม่านสีแดงโดยจับต้นแขนนายติดมือไปด้วย ถึงจะไม่ทันออกแรงมากแต่นายตัวแทบปลิวตามไปติดๆ รู้ตัวอีกทีก็ถูกพาไปนอกคลับซะแล้ว
ผมได้แต่มองอย่างชื่นชม ตอนพี่เอกเดินกลับมาถึงกับยกนิ้วชมเชย
“พี่เอกเก่งนะเนี่ย”
“ผมเป็นหน้าด่านของคลับ มีหน้าที่ทั้งต้อนรับและส่งแขกนี่ครับ” อัศวินชั้นหนึ่งยิ้มอย่างเป็นกลาง ไม่ถือตัว “ว่าแต่เขาคนนั้น...”
“อย่าสนใจเลยพี่ คิดซะว่าเป็นพวกตามตื้อเหมือนสมศักดิ์ก็ได้”
เรื่องในอดีตของผมไม่ได้เล่าให้ใครฟังนอกจากพี่หมอบและคิง ต่อให้สนิทใจกับเหล่าอัศวินและบิชอป ผมก็ไม่คิดจะเปิดปากถึงเรื่องราวพวกนั้นให้ฟังหรอก ก็ไม่จำเป็นต้องขอความเห็นใจหรือทำความเข้าใจกับรสนิยมด้านเซ็กซ์นี่นา
“คงต้องฝากพี่เอกดูแลสักระยะแล้วล่ะ”
“ไม่มีปัญหาครับควีน”
พี่เอกไม่เซ้าซี้ ผมเลยเดินขึ้นชั้นสองอย่างสบายใจมากขึ้น เฮ้อ ควรจะศรัทธาในอัศวินสินะ!
“ไม่นึกว่าควีนจะมีรสนิยมชอบคนอายุมากกว่าเยอะขนาดนั้นนะเนี่ย”
แต่อัศวินปากหาเรื่องอีกคนนี่น่าเตะสักป้าบจริงๆ ไอ้เก่งมองผมอย่างล้อเลียนราวกับว่าเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ถ้าไม่กัดผมสักวันมันจะเหงาปากจนตายเลยรึไง
“นั่นสินะ อาจจะได้ผลกระทบมาจากคนแถวนี้ละมั้ง” ผมเลิกคิ้วกวน ทำเอาไอ้เก่งสะดุ้งเพราะมันอายุแค่สิบเก้าส่วนพี่แว่นนั้นเฉียดสามสิบ คนที่ชอบคนอายุมากกว่าน่ะเป็นมันต่างหากไม่ใช่ผม!
“ควีนอยากให้ผมไปสั่งสอนหมอนั่นหน่อยมั้ย”
แต่ถึงมันจะยั่วโมโหไปสักนิด เรื่องความภักดีคงต้องยกให้เป็นอันดับหนึ่ง
หากผมตอบตกลง เชื่อสิว่าไอ้เก่งต้องปราดลงไปกระทืบนายให้ลุกไม่ขึ้นสักอาทิตย์เป็นอย่างต่ำ มันน่ะแรงควายจะตาย สมองก็ควายด้วย
“ไม่ต้องหรอก พี่เอกจัดการคนเดียวก็เอาอยู่”
ไอ้เก่งทำหน้าเสียดาย อะไรจะอยากโชว์ฝีมือขนาดนั้น สมเป็นพวกมนุษย์กล้ามเนื้อจริงๆ
ผมหันไปยิ้มให้พี่แว่นตรงเคาน์เตอร์ก่อนจะตรงเข้าออฟฟิศ พอเปิดประตูก็เจอกับหมาที่กำลังงอแงได้ที่ เกาะอยู่หน้าโต๊ะทำงานผัวผมที่ก้มหน้าก้มตามองแต่หน้าจอคอมพิวเตอร์เหมือนไม่สนใจจะฟัง
“เพื่อนคิง กูเบื่อมาก ม้ากมาก โอ๊ะ เมียเพื่อน ช่วยกูด้วย กูเบื่ออออ”
“ไปไกลๆ เลย”
ผมยกเท้าเตะไอ้หมาที่ลามปามจะมาเกาะขาผม จะว่าสงสารก็สงสาร เพราะก่อนหน้านี้มันก่อเรื่องจนถูกกักบริเวณ ไปไหนไม่ได้นอกจากคลับและผับ หลังจากนั้นก็โดนผมเร่งรัดหลักสูตรจำหน้าลูกน้องร่วมห้าสิบชีวิต อเล็กซ์ทั้งงี่เง่าและโวยวาย เลยใช้เวลาอยู่นานกว่าผมจะยอมให้ผ่าน แม้ว่าจะได้แค่คุ้นหน้าแต่จำชื่อไม่รอดก็ตาม
คงถึงขีดสุดของมันแล้ว ถึงได้สะดิ้งเป็นหมาโดนน้ำร้อนอยู่นี่ไง
“กูขอลาพักสามวัน กูจะไปเที่ยว กูจะไปหาแรงบันดาลใจ!”
“มึงแน่ใจนะว่าพาตัวเองกลับถูก” ผมตบหัวไอ้หมาที่ทำตาประกายวาวระยับอย่างพร้อมจะพุ่งออกไปซะเดี๋ยวนี้
“ถูกสิ ก็เพื่อนเมียเพื่อนเป็นคนชวนและอาสาพากูไปนี่นา”
“แล้วมึงตอบตกลงเนี่ยนะ!” ผมอ้าปากค้าง นับวันไอ้หญิงยิ่งทำคะแนนเว้ยเฮ้ย
“อย่างน้อยก็ดีกว่าอุดอู้แต่ในคลับ”
อเล็กซ์ทำปากจู๋เมื่อโดนผมตะโกนใส่หน้า
“กูไม่พูดกับมึงแล้ว เมียเพื่อนใจร้าย กูจะขอกับไอดอล”
แล้วไอดอลจะทำอะไรได้นอกจากปล่อยหมาคืนสู่ธรรมชาติ
พอไอ้คิงพยักหน้ารับอเล็กซ์ก็ชูมือดีใจแล้ววิ่งร่าไปบอกข่าวดีกับไอ้หญิง สรุปใครทำดีถูกใจเข้าหน่อย มึงก็โร่ไปหาโดยไม่คิด
อะไรเลยใช่มั้ยเนี่ยไอ้หมาโง่
อันที่จริงอเล็กซ์หายหัวไปสักพักก็ดี เพราะช่วงนี้ผมกำลังเล่นแหง่กับนาย ไม่มีเวลาดูแลไอ้หมาสักเท่าไหร่ เกิดมันไปขี้เรี่ยราดแล้วโดนตีก้นเข้า เจ้าของอย่างผมนี่ล่ะที่ซวย
ผมถอนหายใจเฮือก พออเล็กซ์หายไปออฟฟิศก็ถึงคราสงบสุข
“มึงคิดว่ากลับมาไอ้อเล็กซ์จะรอดเงื้อมมือหญิงมั้ยวะ”
เชื่อผมสิว่าเพื่อนหญิงของผมต้องวางแผนรวบหัวรวบหางแหงๆ แต่ไม่รู้จะจับกินแค่หัว แค่หาง หรือกินกลางตลอดตัวกันแน่
“หึ”
ไอ้คิงแค่นหัวเราะ นั่นน้องมึงนะเว้ย ไม่ห่วงเลยรึไง!
แน่นอนว่าผมก็ไม่ห่วงไอ้หมาหรอก ผมแค่ยังทำใจกับความมุ่งมั่นของไอ้หญิงไม่ได้...
ให้ตายสิ หรือว่าจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกธรรมชาติ
ผมยกมือเท้าคางอย่างเซ็งๆ พอเลื่อนเมาส์ให้คอมพิวเตอร์หายจากอาการสลีปก็เจอกับประวัติของนายที่ดูค้างอยู่
...หวังว่าพออเล็กซ์กลับมาผมจะเคลียร์เรื่องนายได้แล้วนะ
ผมหวังจากใจจริงๆ
แต่หลังจากนั้น นายก็ไม่ปรากฏตัวที่คลับอีกเลย
เพราะเสียหน้าที่โดนพี่เอกลากออกไปวันนั้น? หรือเพราะรู้ดีว่าเสียเที่ยวกันแน่ ตอนนายมารังควานผมก็แอบเครียด แต่พอหายไปเสียดื้อๆ ผมกลับเครียดยิ่งกว่า
คนอย่างนายจะถอยไปซะเฉยๆ แบบนี้น่ะเหรอ ทั้งที่เป็นฝ่ายมาหาผมเองเนี่ยนะ
ผมรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอีกแล้วสิ
จนกระทั่ง...เกิดเรื่องจนได้
“ไอ้คิงโว้ย!!”
พี่หมอบวิ่งตาลีตาเหลือกอย่างกระหืดกระหอบเข้ามาในออฟฟิศ
“ข้างล่าง....ข้างล่างมีตำรวจเต็มไปหมดเลย!”
พูดจบทางประตูฝั่งคลับก็เปิดอ้าพร้อมไอ้เก่งรีบวิ่งแจ้นเข้ามา ยืนคนละฝั่งกับพี่หมอบแต่สีหน้าดูตื่นตระหนกพอกัน
“บอสครับ ข้างล่างมีตำรวจล้อมเต็มไปหมด พี่เอกไหวตัวทันปิดประตูล็อกทำเหมือนไม่มีคนอยู่ไปแล้ว แต่เหล่าลูกค้ารู้สึกถึงความผิดปกติจึงเริ่มเกิดความระแวง ถ้าปล่อยเป็นแบบนี้ชื่อเสียงของคลับคง...”
“เดี๋ยว ฟังกูพูดก่อน ถึงกูจะกากและจืดจาง แต่ไม่ยอมให้ใครแย่งพูดในตอนนี้แน่ๆ!”
พี่หมอบหันไปยกมือห้ามไอ้เก่งที่อ้าปากค้าง
“ไอ้คิง...ถ้าเป็นอย่างที่เก่งบอกก็ไม่แปลกที่ตำรวจจะเลือกบุกเข้าทางหน้าผับแทน ตอนนี้ลูกค้าต่างถูกควบคุมเพื่อตรวจสารเสพติด เพราะการล้อมจับกุมครั้งนี้ตำรวจมีหลักฐานมาด้วย”
ว่าจบพี่หมอบก็หยิบโทรศัพท์ที่แอบถ่ายหลักฐานในมือตำรวจ ทำเอาผมและไอ้เก่งอุทานออกมาพร้อมกัน
“ยาพาเลซ!”
---------
เป็นเรื่องซะแล้วสิ มาแบบกระดึ้บๆ ค่ะ ตอนหน้ารับรองมันส์ - -+
ปล. เลขหน้ากำลังสวยเลย
เพจนักเขียนที่นั่งปั่นไฟลุกสุดชีวิต