Special : เลี้ยงเจ้าชายไม่ง่ายเลย
ตอนนี้เจ้าชายอายุสองขวบครึ่ง
ซนมากครับ แถมยังพูดไม่หยุด ขยันพูด ขยันเล่นมาก ขยับเป็นวิ่ง นิ่งเป็นหลับ จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าชายได้เชื้อไฮเปอร์มาจากไอ้หมารึเปล่า
และที่สำคัญที่สุด
“น้านิล น้านิล”
ความฝันของผมเป็นจริงแล้ว!!นิลกาฬยืนปลาบปลื้มน้ำตาไหล ไม่ว่าเจ้าชายจะขออะไรหากเรียกน้านิลเป็นยอมทำทุกอย่าง ไอ้หญิงมันก็ปรามนะครับ หาว่าที่พวกผมคอยยอมเจ้าชาย อวยเจ้าชายอยู่เนี่ยทำให้ลูกยิ่งซน เพราะปล่อยให้วิ่ง ปล่อยให้เล่นด้วยความเอ็นดูสุดแสน แต่ไม่ยักจะห้ามกันสักที มีก็แต่ไอ้คิงนั่นแหละครับ ที่หากพูดว่า ‘หยุด’ ปุ๊บ เจ้าชายก็จะนิ่งทันที เหมือนกดปุ่มสต็อป
ผมแสนจะงง ทำไมเจ้าชายถึงได้ฝังใจกับไอ้คิงขนาดนี้ ตอนเด็กยังไม่เท่าไหร่ รังสีไอ้คิงอาจมากเกินไปจนทำให้เด็กกลัว แต่นี่สองขวบกว่า วิ่งหนีได้แล้ว พูดจ้อได้แล้ว เจ้าชายก็ยังทำตัวสงบเสงี่ยมเจี๋ยมเจี้ยมกับไอ้คิงอยู่ดี อย่างกับรู้ว่าใครอยู่ชั้นบนสุดของห่วงโซ่อาหารอย่างนั้นละ
ใช่ครับ ไอ้คิงอยู่จุดสูงสุด รองมาคือหญิง จากนั้นก็เจ้าชาย และพวกผม...
วิ่งตามหลานจนน้ำหนักลด โดนสะกิดเรียกเป็นต้องเล่นซ่อนแอบ เล่นไล่จับ ไอ้อเล็กซ์นี่หนักหน่อย ลูกชายแทบไม่ค่อยเคารพ โดนเรียกให้เป็นม้าตลอด แต่ก็รักกันดีนะครับ มีอะไรเจ้าชายจะวิ่งมาหาอเล็กซ์ก่อน เพราะเกรงหญิงที่ชักจะดุขึ้นทุกทีๆ
“น้านิล หม่ำๆ”
นั่งเหม่อนานไปนิด เจ้าชายเลยดึงเสื้อผม ชี้ให้ดูว่ากินไอติมเสร็จแล้ว แต่ของผมยังพูนเต็มถ้วย เพราะเอาแต่มองหลานที่กินเปื้อนแก้มไปทั้งแถบด้วยความเคลิ้ม
“เจ้าชายรอน้านิลหม่ำก่อนนะ”
เจ้าชายพยักหน้ารับ แต่ก็นั่งนิ่งได้แค่หนึ่งวินาทีเท่านั้นแหละครับ หลานเริ่มขยับตัวหยุกหยิก รื้อกระเป๋าผม เล่นช้อน เล่นหลอด เล่นกระดาษทิชชูบนโต๊ะไปเรื่อย
ขยายความกันสักหน่อย ตอนนี้ผมพาหลานมาเที่ยวที่ห้างครับ เจ้าชายบ่นอยากกินไอติมมาหลายวันแล้ว ผมเลยพามาเดินเล่นข้างนอก อเล็กซ์ไปทำงานเหมือนเดิม ส่วนไอ้หญิงผมไม่ให้มาด้วย เดี๋ยวมันเอ็ดที่ผมสปอยหลาน ไอ้คิงเองก็โดนห้ามในเหตุผลเดียวกัน แต่มันก็เป็นคนมารับมาส่งนะครับ ตอนนี้คงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ในร้านกาแฟแถวนี้ รอจนกว่าผมจะโทรเรียก
“เจ้าชายช่วยน้านิลหม่ำมั้ย”
เจ้าชายที่กำลังเบื่อจนเริ่มส่ายหัวเล็กๆ นั่นดุกดิกไปมามองรอบร้านเหมือนพร้อมจะพุ่งออกไปทุกเมื่อรีบหันมาหาผมตาวาว พยักหน้ารับซ้ำๆ หลายครั้ง
“เอ้า อ้าม”
“อ้ามมมมม”
นะ...น่ารักโว้ย!!มองหลานพยายามยื่นหน้าสุดตัวจนพุงทาบไปกับขอบโต๊ะ อ้าปากส่งเสียงตามผม หลับตาพริ้มให้เห็นขนตายาวเหมือนกับตุ๊กตา ผมที่ถือช้อนถึงกับมือสั่น ปกติก็แพ้พวกมนุษย์ประเภทน่ารักอยู่แล้ว มาเจอสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าหลานตัวเอง นิลกาฬโคตรแพ้ทุกประตู
สุดท้ายผมก็ได้กินไอติมของตัวเองแค่ครึ่งถ้วย ส่วนอีกครึ่งถ้วยก็ลงไปอยู่ในกระเพาะของเจ้าชายเรียบร้อย ผมเดินจูงหลานออกจากร้านไอติม พาเดินเล่นรอบๆ ห้าง เวลามือเล็กๆ นั้นชี้อยากได้อะไรก็คอยยั้งใจตัวเองไว้ เพราะห้องเด็กเล่นที่บ้านคุณปู่มีของเล่นเยอะมาก ทั้งที่ผมซื้อให้ อเล็กซ์ซื้อให้ คนอื่นๆ ฝากให้ และคุณปู่ตัวดี ที่ไม่เคยขัดใจหลานได้เลยสักครั้ง อาการหนักยิ่งกว่าพวกเราทุกคน
“น้านิล น้านิล”
...โอ๊ย อย่ามาเรียกพร้อมส่งสายตาใสซื่อได้มั้ย แล้วมือที่กระตุกชายเสื้อนั่นอีก นิลกาฬใจอ่อนจะแย่อยู่แล้ว โอ๊ย โอ๊ยย
“เจ้าชายอยากได้จริงๆ เหรอครับ”
“ครับ!”
“เอางี้แล้วกัน น้านิลให้เลือกแค่อย่างเดียว ตกลงมั้ยครับ” ผมย่อตัวขณะคุยกับเจ้าชายอย่างจริงจัง เพราะตลอดทางที่ผ่านมาหลานชี้อยากได้โน่นได้นี่ไม่หยุด ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกตัวต่อ หุ่นยนต์ และอีกสารพัดอย่าง
“ก็ได้ครับ” เจ้าชายตอบเสียงหงอย แก้มอวบๆ พองลมเล็กน้อย เห็นแล้วอยากจะเอานิ้วจิ้มเป็นบ้า แต่ผมต้องระงับตัวเองไว้ ตีหน้าขึงขัง อย่างน้อยหากห้ามใจปรามเจ้าชายไม่ได้ ก็ต้องยอมลงอย่างพอดี
ผมยืนมองเจ้าชายที่เดินเลือกของเล่นทีละชิ้นแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา...สี่โมงแล้ว สงสัยซื้อตรงนี้เสร็จคงต้องโทรตามไอ้คิงกลับบ้าน ไม่งั้นจะกินอาหารเย็น แล้วไปคลับไม่ทัน
อ้อ ผมไม่ได้พักที่บ้านคุณปู่แล้วนะครับ นั่นน่ะแค่ช่วงหกเดือนแรกที่ไอ้หญิงมันจะตายเฉยๆ พอทุกอย่างเริ่มอยู่ตัว ผมก็ย้ายกลับคอนโดไอ้คิง แล้วคอยแวะมาหาในตอนเช้า สาเหตุสำคัญไม่ใช่อะไร...ที่นั่นมันเซ็กซ์ไม่สะดวก
“น้านิล เจ้าชายอยากได้อันนี้”
ความจริงเจ้าชายก็เป็นเด็กน่ารักนะครับ หน้าตาไม่ต้องพูดถึง ส่วนนิสัยแม้จะโดนตามใจมากไปหน่อย ซนไม่หน่อย แต่ก็พูดรู้เรื่อง ไม่งอแงงี่เง่าร้องไห้จะเอาจะเอาเวลาโดนห้าม
ผมมองหุ่นยนต์แปลงร่างเหมาะสำหรับเด็กก็หยิบกล่องไปจ่ายเงิน เจ้าชายยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ผม คอยเกาะชายเสื้อหน้าตาเบิกบานน่ารักสุดขีด
“น้านิลซื้อให้แล้วต้องรักษาดีๆ นะครับ”
“ครับ” เจ้าชายกอดถุงใส่กล่องหุ่นยนต์พลางตอบน้ำเสียงสดใส “ของที่น้านิลซื้อให้ เจ้าชายรักษาดีๆ ทุกอย่างเลย ทุกอย่างงงง เลยยยย”
...อย่าน่ารักให้มากจะได้มั้ย!!นิลกาฬแพ้หลาน แพ้แบบโคตรของโคตรของโคตรเลยจริงๆ เห็นแล้วแทบจะอยากโกยของเล่นแถวนั้นทั้งหมดไปจ่ายเงิน ใจเย็นๆ ไว้นิลกาฬ ระงับตัวเองให้ได้!
ผมจูงมือเจ้าชายที่ฮัมเพลงการ์ตูนมาหน้าห้าง ก่อนจะโทรเรียกไอ้คิงให้ขับรถลงมารับ ระหว่างนั้นหลานผู้ไม่เคยอยู่นิ่งก็รีบดึงกล่องออกมาจากถุง ยืนมองอย่างชื่นชมยกใหญ่
“น้านิล น้านิล”
มาอีกแล้วไม้ตายนี้...
“อะไรครับเจ้าชาย” ผมก้มมองหลานที่ทำปากยู่เป็นรูปตัวโอ
“คุณหุ่นยนต์มือขาด”
“เอ๊ะ”
ผมหยิบกล่องมาถือไว้เอง พบว่ามือหุ่นยนต์หักจริงๆ ด้วย ตอนแรกไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่หลับหูหลับตาจ่ายเงินกลัวเจ้าชายจะเปลี่ยนใจ เลยไม่ได้ตรวจดูให้ดี
“งั้นเดี๋ยวน้านิลเอาของไปเปลี่ยนก่อน เอ..ใบเสร็จยังอยู่ใช่มั้ยนะ”
ผมยื่นมือขอถุงคืนจากเจ้าชาย โชคดีที่ใบเสร็จยังนอนตายอยู่ตรงก้นถุง
“เจ้าชายยืนรอตรงนี้ได้มั้ยครับ รอลุงคิงก่อนนะ”
อย่าตกใจ ทำไมเรียกผมว่าน้า แต่ทำไมเรียกไอ้คิงว่าลุง...ก็คิงมันเป็นพี่ชาย อเล็กซ์ เรียกแบบนี้ก็ถูกแล้วนี่ครับ!
“น้านิล...” พอบอกชื่อลุงคิงปุ๊บ เจ้าชายก็ช้อนตาผมอย่างเว้าวอนปั๊บ ผมกลั้นขำ แกะมือเล็กๆ ที่จับชายเสื้อตัวเองออก
“น้านิลไปแป๊บเดียว จะรีบมานะ” ผมลูบหัวทุยๆ ของเจ้าชายก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปชั้นของเล่น ที่ไม่พาเจ้าชายมาด้วยก็เพราะกลัวจะไม่ทันไอ้คิงวนรถมารับนั่นแหละ ใช้เวลาเปลี่ยนของไม่นานเพราะพนักงานจำหน้าผมได้ก็รีบวิ่งมาชั้นล่าง เล่นเอาหอบแฮกเลยกู
อ้าว...เจ้าชายหายไปไหนผมถือถุงใส่กล่องหุ่นยนต์ยืนมองซ้ายมองขวาพยายามหาร่างเล็กๆ ของเจ้าชาย ปกติแล้วหลานผมเป็นเด็กดี บอกคำไหนก็เชื่อฟัง ในเมื่อรับปากแล้วก็น่าจะอยู่เฉยๆ นี่นา โดยเฉพาะเวลาเอาชื่อไอ้คิงมาขู่ เจ้าชายที่ไม่กล้าทำให้ผัวผมโกรธจะยิ่งทำตัวเหมือนตุ๊กตาไม่ขยับ
“เจ้าชาย!” ผมตะโกนเรียกหลาน คิดว่าบางทีอาจเบื่อเลยเดินเล่นแถวนี้ ไม่น่าจะไปไหนไกลได้ ทำเอาคนแถวนั้นหันมามองงุนงง คงสงสัยว่าใครที่ไหนจะบ้าชื่อเจ้าชาย
ผมลองไปสอบถามพนักงานแถวนั้นว่าพอเห็นเด็กผู้ชายอายุสองขวบครึ่งผมสีดำตาสีฟ้าใส่ชุดเอี๊ยมสีน้ำเงินบ้างมั้ย โชคดีที่เจ้าชายค่อนข้างเด่น พออธิบายก็มีคนจำได้ทันที
“อ้อ เห็นเดินออกไปข้างนอกแล้วค่ะ”
หรือไอ้คิงจะมาแล้ว
ผมค่อยโล่งใจหน่อย อย่างน้อยเจ้าชายก็อยู่ในมือไอ้คิง แต่พอเดินออกมานอกห้างกลับไม่เห็นรถมาเซราติสีดำเลยสักคัน ไอ้คิงยังมาไม่ถึง แล้วเจ้าชายล่ะ!?
พลันหางตาผมเห็นร่างเล็กๆ ยืนละล้าละหลังอยู่ริมถนน เงยหน้ามองมองซ้ายมองขวาเหมือนอยากรู้อยากลอง ปกติหน้าห้างก็มีรถเวียนเข้าเวียนออกตลอดเวลาอยู่แล้ว เช่นเดียวกับกลุ่มคนที่เดินเข้าออกตลอดเวลา บ้างก็ข้ามถนนมาจากอีกฝั่ง บ้างก็ข้ามจากฝั่งนี้ไปอีกฝั่ง ผมใจหาย รีบวิ่งเข้าไปหาเจ้าชาย กลัวว่าหลานจะวิ่งลงกลางถนน
แต่ไม่ทันแล้วครับ
พอรถจอดหน้าห้างขับออกไป เจ้าชายก็เดินกลืนไปกลุ่มคนเหมือนกำลังเล่นสนุก แต่ขาต้วมเตี้ยมของเด็กย่อมวิ่งไม่ทันคนอื่นๆ เพราะตรงนี้ไม่ใช่ทางม้าลาย แต่เป็นจังหวะข้ามถนนที่คนไทยชิ่งใช้ความเร็วเข้าว่า ทั้งที่หากเดินออกไปอีกนิดเดียวก็มีสะพานลอย
“เจ้าชาย!”
ผมร้องลั่น เพราะเห็นร่างเล็กๆ นั้นลนลานเมื่อตามคนอื่นไม่ทันจนล้มก้นจ้ำเบ้า โชคร้ายที่มีรถอีกคันสวนมาพอดี...หน้าห้างเป็นอะไรที่ชุลมุนมากจริงๆ ครับ เดี๋ยวคนก็รอจังหวะเดินข้าม เดี๋ยวรถก็รอจังหวะแทรกออก เบียดส่งคน เบียดรับคน ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด
เห็นแบบนั้นผมก็สติหลุด กระโจนเข้าไปอุ้มหลายสุดตัว
“นิลกาฬ!!”
เสียงตะโกนดังไล่เลี่ยกัน พร้อมกับตัวผมที่โถมเข้ากอดร่างเล็กกลิ้งไปกับพื้นถนนพยายามเบี่ยงหลบรถคันที่เบียดสวนให้ได้ เสียงแตรดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด หลายคนพากันเข้ามามุงดู ยามหน้าห้างเองก็รีบวิ่งเข้ามาช่วยห้ามรถไม่ให้มีคันไหนแทรกขึ้นมาอีก
เจ้าชายร้องไห้จ้าในอกผม คงตกใจเสียงดัง ส่วนผมถอนหายใจเฮือก โชคดีเป็นบ้าที่นอกจากรถคันนั้นแล้วก็ไม่มีคันไหนขับข้ามเลนพุ่งมา
ผมรีบลุกขึ้นแล้วก้มหัวขอโทษทุกคนที่ปล่อยปละละเลยเด็กจนเกือบจะเกิดอุบัติเหตุ แล้วอุ้มเจ้าชายที่ซุกหน้ากับอกผมร้องไห้โฮๆ ขึ้นฟุตบาทหน้าห้าง เดินไปเก็บถุงใส่หุ่นยนต์ที่เผลอปล่อยทิ้งไว้ตอนวิ่งถลาหาหลาน ก่อนจะเพิ่งมีแก่ใจมองตามเสียงตะโกนเรียกชื่อนิลกาฬ
ไอ้คิงวิ่งเข้าหาหน้าซีดเผือด รถของมันจอดถัดห่างออกไปอีกหลายช่วง คงจะเพิ่งมาถึง แล้วเห็นฉากผมวิ่งหน้าตั้งพุ่งลงถนนพอดี
“กูไม่เป็นไร” ผมรีบบอกมันให้ใจเย็นๆ ไอ้คิงถึงค่อยหายใจหายคอได้หน่อย ก่อนจะมองหลานสายตาน่ากลัวจนเจ้าชายที่เพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมาได้หนึ่งองศารีบก้มหน้าซุกอกผมลงไปอีกครั้ง แถมเสียงร้องไห้ยังดังลั่นกว่าเดิม “โอ๋ๆ”
ผมปลอบหลานพลางเดินไปที่รถพร้อมกับไอ้คิง เพราะจอดค้างหน้าห้างนานๆ ไม่ได้ พอขึ้นรถปุ๊บก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าหลังใบหูของเจ้าชายมีเลือดซึม ผมรีบจับให้หลานเอียงคอเพื่อดูชัดๆ ก่อนจะเห็นว่าเป็นรอยบาด สงสัยจะโดนเหล็กคล้องของสายเอี๊ยมที่หลุดตอนล้มบาดเข้า เพราะมือผมเองก็มีรอยบาดจางๆ เหมือนกัน ตอนแรกไม่ทันเห็น แต่ตอนนี้เลือดเริ่มไหลซึมเรื่อยๆ จนเปรอะแขนเสื้อ
“นิล...”
“กูไม่เป็นไร แต่เจ้าชายนี่ดิ...เหมือนจะลึกอยู่นะ ผิวเด็กยิ่งบอบบางอยู่ด้วย ไปโรงพยาบาลเหอะคิง”
“หึ”
“ไม่เอาน่าคิง เจ้าชายไม่ตั้งใจสักหน่อย”
จะว่าไปผมยังไม่ได้ถามเลยว่าทำไมเจ้าชายถึงไม่ยอมอยู่รอ แต่ให้เค้นเอาตอนนี้ก็ไม่เหมาะเพราะยังสะอื้นอยู่เลย คงกลัวไอ้คิงจนไม่กล้าพูดอะไรสักแอะ
สุดท้ายพวกเราก็ไปโรงพยาบาลครับ แผลข้างหูของเจ้าชายลึกเหมือนที่ผมคิด เพราะเลือดไม่หยุดไหลจนโดนเย็บไปตามระเบียบ แน่นอนว่าผมเอง...ก็เลือดไม่หยุดไหลเหมือนกันแม้แผลจะเล็กเท่าแมวข่วน อย่าลืมสิครับว่าร่างกายนิลกาฬนั้นอ่อนแอ เกล็ดเลือดน้อย เลือดเลยไม่จับตัวเร็วเหมือนชาวบ้านเขา
สรุปผมก็โดนจับทำแผลพร้อมเจ้าชายที่โรงพยาบาล กว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาไปห้าโมงครึ่ง ท้องเริ่มหิวพอดี
“ทำไมช้าจัง” ไอ้หญิงถึงกับยืนรออยู่หน้าบ้าน เพราะผมบอกว่าจะกลับมาไม่เกินห้าโมง แต่คงคิดว่าเจ้าชายจะดื้อขอต่อเวลา เลยยังไม่โทรมาตาม มันสัญญากับผมแล้วว่าวันนี้จะให้น้านิลดูแลหลานโดยไม่ขัดจังหวะ
“เกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะ” ผมหัวเราะแห้งๆ อุ้มเจ้าชายที่รีบตะกายลงจากอกผมเข้าไปอ้อนแม่ พยายามถอยห่างจากไอ้คิงให้มากที่สุด
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมมีแผลกันทั้งคู่เลยล่ะ” ไอ้หญิงถามงงๆ แต่ก็ยอมอุ้มเจ้าชายขึ้นปลอบ
“เข้าไปคุยข้างในเถอะ” ผมดึงแขนไอ้คิงให้เข้าไปด้วยกัน ตั้งแต่ที่โรงพยาบาลจนถึงตอนนี้ผัวผมแม่งไม่พูดไม่จา เหมือนกำลังแอบประท้วงกลายๆ ที่ผมเข้าข้างหลาน แต่หลานผมมีคนเดียว ไม่ให้เข้าข้างเจ้าชายจะให้ผมเข้าข้างใครล่ะเอ้อ ยังไงเด็กก็ไม่ตั้งใจหรอกน่า
พอพวกเรามานั่งกันที่ห้องรับแขก ผมก็เล่าให้หญิงฟัง เพราะอยากรู้ว่าทำไมเจ้าชายถึงได้วิ่งลงถนน ผมไม่กล้าถาม แต่ไอ้หญิงกล้าแน่นอน
“ก็...” เจ้าชายอึกอัก “ทุกคนเดินไปทางนั้นหมดเลย เจ้าชายอยากรู้ว่าไปไหน เลยเดินตามไป...โอ๊ย!”
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เจ้าชายพูดจบปุ๊บ ไอ้หญิงก็เงื้อมือตีก้นเด็กชายดังเพี้ยะ ผมตกใจ เจ้าชายก็ตกใจ หลานยืนตาเบิกกว้างอย่างตั้งตัวไม่ถูก ก่อนจะร้องไห้ลั่น ดังยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
เป็นครั้งแรกที่เจ้าชายโดนแม่ตีแรงขนาดนี้
“ไอ้หญิง...”
“ไม่ต้องเลยนิล ครั้งนี้ยังไงก็ยอมปล่อยไม่ได้!” ไม่พูดเปล่ายังขึ้นเสียง ขนาดผมยังพลอยหดหัวเหมือนทำความผิดไปด้วย
“แต่นั่นลูกนะ”
“ก็เพราะเป็นลูกนั่นแหละ!” ไอ้หญิงย้ำคำ มันน้ำตารื้น ดูเจ็บปวดไม่แพ้กันเมื่อเห็นเจ้าชายร้องไห้ไม่หยุดเหมือนน้อยใจที่โดนแม่ตี “ก็เพราะเป็นลูกนั่นแหละถึงต้องสั่งสอน น้านิลบอกให้รอทำไมไม่รอคะ เจ้าชายจะซนแค่ไหนแม่ยังรับได้ เพราะยังไม่เคยทำให้ใครเป็นอันตราย แต่ครั้งนี้ถ้าไม่ได้น้านิลจะทำยังไงคะ และถ้าเกิดมีรถสวนมาอีกคันล่ะจะทำยังไง ถ้าเขาเบรกไม่อยู่จะทำยังไง ถ้าไม่ได้เจอพ่อกับแม่อีก...จะทำยังไง”
เจ้าชายได้ยินแบบนั้นก็ร้องไห้หนัก แต่จากที่แอบเดินถอยหลังเพราะน้อยใจแม่ ก็รีบปรี่เข้ามาโผกอดเต็มรัก
“ขอโทษครับ...ขอโทษครับ”
“ขอโทษน้านิลสิลูก”
“น้านิล...เจ้าชายขอโทษครับ ฮึก”
ผมไม่เคยโกรธหลานอยู่แล้ว เลยยิ้มเป็นเชิงไม่ถือโทษ พลางสะกิดแขนไอ้คิงให้เลิกปั้นหน้าดุสักที แต่ผัวผมคล้ายจะพอใจนะครับที่หญิงตีเจ้าชาย มันคงคันไม้คันมือมานานแล้ว...แบบอยากจะต่อยน่ะไม่ใช่แค่ตี
“เจ้าชายจำเรื่องวันนี้ให้ดีนะคะ แล้วอย่าทำอีก เป็นเด็กดี ให้พ่อกับแม่ภูมิใจ และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องของลูก”
“...อะไรนะ” ผมถึงกับตบบ้องหูตัวเอง “นี่...หญิงท้องเหรอ ท้องใช่มั้ย”
“เออ เพิ่งตรวจเครื่องเมื่อกี้เลย ขึ้นสองขีด ชัดแจ๋ว” ไอ้หญิงตอบผมเสียงเหนื่อย แต่ใบหน้ากลับแย้มยิ้มดีใจอย่างกลั้นไม่อยู่ “เจ้าชายจะมีน้องแล้วนะลูก”
“น้อง...”
มือเล็กๆ ลูบท้องของหญิง เป็นภาพที่แสนอบอุ่นและช่างตราตรึง
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เจ้าชายก็ไม่ดื้อและซนอีกเลย
จบเรื่องจบราว พวกผมกินข้าวและไปคลับ แต่ภารกิจนิลกาฬยังไม่เสร็จ
ผมต้องง้อผัวตัวเอง
“ไอ้คิง มึงงอนอะไรเนี่ย ตอนนั้นถ้าเปลี่ยนกูเป็นมึง มึงก็ต้องวิ่งหน้าตั้งเหมือนกันแหละน่า” ผมถามไอ้คิงระหว่างนั่งอยู่ในออฟฟิศสองต่อสอง ยื่นหน้าพลางกะพริบตาปริบๆ กะให้คุณผัวยอมพูดด้วย “เนอะ”
ไอ้คิงตวัดตาขวางหันมาจ้อง เล่นเอาผมสะดุ้งเฮือก แต่ก็ยังปั้นหน้ายิ้มสู้
“ถ้าเป็นกูที่ลงไปช่วยหลาน แล้วมึงอยู่ในรถเห็นเหตุการณ์ จะรู้สึกยังไง”
ผมลองนึกตาม...ก่อนจะพบว่าขนแขนลุกไปหมด ไม่กล้าคิดว่าหากไอ้คิงมันโดนรถชน ผมจะทำยังไง ราชาไร้พ่ายอย่างมัน ไม่เคยต้องเจอเหตุการณ์สุ่มเสี่ยง ไม่เคยต้องบาดเจ็บจากความประมาทของตัวเอง ผมเคยชินซะแล้วที่จะเห็นมันนั่งเก๊กหน้าอยู่อย่างนี้ และไม่เคยคาดคิดถึงภาพเวลามันเจ็บตัว
“กู...” ผมพูดอะไรไม่ออก เหตุผลสำคัญที่ไม่กล้าโทษหลาน ก็เพราะคิดโทษตัวเองที่ชะล่าใจทิ้งเจ้าชายให้ยืนรอคนเดียว แต่พอสลับจากผมเป็นไอ้คิง...ผมก็...
ใจหาย ใจเสีย ใจตกไปที่ตาตุ่ม
แม้จะรู้ว่าควรให้อภัยเด็ก แต่ถึงอย่างนั้น...
“กูขอโทษนะคิง” ผมพูดเสียงเครือ “กูขอโทษ”
ไม่ใช่มันงอน หรือโกรธหลานจนอยากตีแทนหญิงหรอก แต่มันแค่ทำใจไม่ได้ หากว่าผมต้องเจ็บตัว...หากว่าผมเป็นอะไรหนักไปกว่านี้ต่างหาก
ผมขอโทษ ไม่ใช่เพราะว่ายอมรับผิด แต่ผมขอโทษ ที่ทำให้มันเสียใจ
“ดีแล้วที่มึงเป็นผู้ชาย”
“ทำไมวะ” ผมถามงุนงง มันคงโอเคขึ้นแล้วถึงได้เปลี่ยนหัวข้อ
“ถ้ามึงมีลูก...คงเห่อลูกจนเสียคน”
“เวอร์น่า กูก็พยายามยั้งใจแล้วนะ”
“รักกูน้อยลงด้วย”
“จะไปรักน้อยลงได้ไง ต้องบอกว่ารักเท่าเดิม แต่อาจจะรักลูกมากกว่า...”
“นิลกาฬ”
“จ๋าจ้ะ” ผมยิ้มหวานหยด ซบหน้าถูไถกับบ่าไอ้คิง พยายามเอาอกเอาใจสุดชีวิตเมื่อคุณผัวเรียกชื่อเสียงเข้มมาเชียว น่าหวาดผวายิ่งนัก
แต่ไอ้คิงไม่พูดอะไรต่อ มันเพียงถอนหายใจเฮือก แล้วยกมือลูบหัวผมให้หยุดถูไปถูมา ผมเลยนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้มันสัมผัส ซึมซับความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กัน
“มึงเคยฝันว่ากูท้องลูกผู้หญิงนี่”
“อืม”
“แสดงว่าถ้าเป็นหลานผู้หญิง มึงอาจจะสปอยหลานก็ได้นะ”
ผมคิดมานานแล้วว่าไอ้คิงแม่งดุกับเจ้าชายฉิบหาย เดี๋ยวส่งรังสี เดี๋ยวส่งสายตา จะทำอะไรก็ไม่ค่อยถนอม คงเพราะหลายคนนี้เป็นผู้ชาย
แต่ถ้าเกิดเป็นหลานสาวล่ะ...พระราชาองค์นี้จะปั้นหน้ายักษ์ได้อีกมั้ย
“ไม่มีทาง”
ไอ้คิงลั่นวาจาอย่างหนักแน่น
แต่มันก็ตระบัดสัตย์...ในอีกเจ็ดเดือนต่อมา
--------------
ใครอยากเห็นลุงคิงหมดมาดกับหลานสาว ขออุบอิบไว้สำหรับเล่มพิเศษนะคะ ><
อย่างที่เคยเกริ่นไป ตอนนี้จะเป็น
ตัวอย่างตอนสุดท้ายที่เราจะลงให้อ่านกันในเวป ส่วนที่เหลือสามารถอ่านต่อได้ในเล่มพิเศษค่ะ สำหรับหลานสาวนั้นชื่อ ขนิษฐา (เจ้าหญิง) จะได้คู่กับ ขัตติยะ (เจ้าชาย) ค่ะ น้องผมทองตาดำ สลับกับเจ้าชายที่ผมดำตาฟ้าแบบได้พ่อกับแม่มาอย่างละครึ่ง นางฟ้าสุดๆ ลุงคิงยอมมาก ยอมจนนิลหึงหลานเลย โดนคิงทิ้ง ประหนึ่งโดนเอาคืนจากตอนเจ้าชาย 5555
หลายสาวติดลุง หลายชายติดน้าค่ะ
แต่เจ้าชายก็รักน้องมาก น้านิลเลยกลายเป็นหมาหัวเน่----
นอกจากตอนเลี้ยงหลานแล้ว ยังมีตอนพิเศษสวีทหวาน นิลลักพาตัวคิงไปฮันนีมูนกลางทะเลด้วยค่ะ อันนี้ยาวมาก มีทั้งคิงนำและนิลนำเลย อยากรู้บทสรุปของคิงส์คลับ ตอนนี้ห้ามพลาดเชียว และยังมีทิ้งทวนกับหลานๆ ตอนโตขึ้นทั้งคู่แล้วด้วย ใครอยากเห็นหลานๆ จะมีรูปอยู่ในเล่มด้วยค่ะ!
ฮาร์ดเซลล์ขนาดนี้ไม่มีอีกแล้ว ไม่อยากให้พลาดกันจริงๆ เพราะหลังรีปริ้นและทำเล่มพิเศษในรอบนี้แล้ว คาดว่าจะคงเว้นช่วงจากคิงส์คลับอีกนานเลยค่ะ เพราะรีมาสองรอบแล้ว และด้วยตัวหนังสือที่มีเยอะ (หนึ่งชุดมีสี่เล่ม) ทำให้ที่บ้านไม่มีที่เก็บค่ะ ฉะนั้นการสั่งพิมพ์รอบนี้
จะมีเผื่อมาไม่มากนัก ไม่เหมือนกับเรื่องของหนูรัญกับพี่เอกที่ยังมีสต๊อกขาย เพราะคิงส์คลับหนึ่งชุด เท่ากับพี่เอกสี่เล่มแล้วค่ะ คิงส์คลับสิบชุด ก็เท่ากับพี่เอกสี่สิบเล่ม...ไม่มีที่วางจริงๆ ค่ะ ถ้าอยากสะสมก็ไม่ควรพลาดรอบนี้นะคะ ^ ^
รายละเอียดสั่งจอง ->
จิ้มเลย 
