วันนั้นถือเป็นวันเลิกรา เขาไปส่งเธอที่หอพักและจากนั้นก็ต่างคนต่างอยู่ ไอ้เด็กนั่นจ้องเขาเขม็ง แต่เขาก็แค่ขยับยิ้มอย่างผู้ชนะให้มัน ปล่อยให้คนโง่ๆ อยู่กับคนโง่ๆ ต่อไป ยังไงซะ ลูกในท้องของยัยนั่นก็ต้องมีพ่อเป็นไอ้เด็กเซ่อที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอยู่แล้ว ก็...สมกันดี
เรื่องทุกอย่างมันคงจะจบลงด้วยดีถ้าหาก..ไร้พ่ายไม่ประสบอุบัติเหตุและสูญเสียการมองเห็น นั่นเป็นวันที่ดรีมกลับมาเจอเขาอีกครั้ง กลับมาขอร้องอ้อนวอนให้พาไปเจอผู้ชายที่เธอรัก...เขายอมพาเธอไป เพราะในตอนนั้นไม่มีอะไรน่าหวั่นใจไปกว่าความทุกข์โศกของคุณท่านอีกแล้ว คนรักของเขาเอาแต่ร้องไห้ ตรอมใจไม่ยอมกินไม่ยอมนอน เฝ้าอยู่ข้างเตียงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอยู่ตลอดเวลา...
‘ทำยังไงดีวิน...พ่ายจะมองไม่เห็นอีกแล้ว จะมองไม่เห็นพ่ออีกแล้ว’
เขาดึงตัวคนรักที่กำลังอ่อนแอมาอยู่ในอ้อมกอด โอบกอดแน่นต่อหน้าไร้พ่ายที่ยังคงอยู่ในโลกที่มืดมิด ถึงมันจะเป็นครั้งแรกที่ความรักของเขาไม่ถูกเก็บซ่อน ทว่า...มันคงไม่ดีนักหากคนในอ้อมกอดต้องร้องไห้ปานจะขาดใจอย่างนี้
‘เธอบอกว่ารักไร้พ่ายมากใช่ไหม’ เขาเปิดบทสนทนากับดรีมขณะที่กำลังขับรถไปส่งเธอที่หอพัก
‘ใช่’
‘ตายได้ไหมล่ะ’
‘หมายความว่าไง!’
‘ไร้พ่ายต้องการกระจกตา เธอจะยอมตายแล้วมอบของเธอให้เขาได้ไหม’
‘พูดอะไรบ้าๆ ...มันต้องมีคนบริจาค’
‘ความรักของเธอมันก็มีเท่านี้เอง สุดท้ายเธอก็กลัวตายมากกว่า...ไร้ค่า’
‘แต่ลูกของฉัน...’
‘ฉันจะเลี้ยงลูกให้ เป็นข้อแลกเปลี่ยน เพราะยังไงเด็กนั่นก็ลูกฉันเหมือนกัน’
‘ฉันอยากช่วย...แต่ว่า...’
‘พรุ่งนี้เจอกันที่โรงพยาบาล ลงไปได้แล้ว’
ความลังเลของดรีมจุดความหวังให้เขาอยู่บ้าง ทว่า...พอเธอยอมตกลง เงื่อนไขระยะเวลากลับยืดยาวออกไป เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าถ้าหากเธอคลอดลูกสำเร็จ เธอจะยอมตายเพื่อคนที่เธอรักแทนการอยู่กับลูกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ และเขาก็อดรนทนเห็นคุณท่านต้องตรอมใจไปอีกหลายเดือนไม่ได้...เพราะถ้าหากสุขภาพย่ำแย่ไปมากกว่านี้...ก็คงไม่ส่งผลดีต่อคนในวัยอย่างท่านนัก
เพราะฉะนั้นในคืนหนึ่งหลังจากไร้พ่ายประสบอุบัติเหตุได้หนึ่งเดือน เขาตัดสินใจลงมือ... ใส่ยานอนหลับในอาหารให้น้องชายของดรีมกินตามอย่างวิธีปกติที่เคยทำมา...จึงจัดการทำตามแผน
เขาเคาะประตูห้องเรียกให้ดรีมมาเปิดประตู พอเธอเห็นหน้าเขาก็มีท่าทางงุนงงโดยไม่รู้ตัวเลยว่า...กำลังใกล้จะถึงวาระสุดท้ายของตัวเองแล้ว
‘น้องชายของฉันกำลังนอนอยู่ แกเข้ามาไม่ได้’
เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยกมือขึ้นปิดปากเธอ แล้วดันตัวเข้าไปในห้อง
‘แค่อยากมาคุยด้วย’
‘ฉันไม่มีอะไรจะคุย’
‘ลูกเป็นยังไงบ้าง...ดิ้นบ้างไหม’
‘นี่...’
‘ฉันมาคิดดูแล้ว ยังไงก็ควรทำให้ถูกต้อง ฉันต้องรับผิดชอบเธอกับลูก’
‘ไม่จำเป็น’
‘ดรีม ลูกควรมีพ่อนะ’
‘แกมาพูดเอาตอนนี้ มันสายเกินไปแล้ว คำพูดของแกฆ่าลูกฉันมากี่ครั้งกัน! แล้วตอนนี้จะมาบอกว่ารับผิดชอบ’
‘ดรีม...ให้โอกาสฉันเถอะ’
‘ไม่! ไปให้พ้น!’
เขาแสร้งตีหน้าเศร้า ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด แม้ว่าเธอจะขืนตัวไว้ด้วยความรู้สึกรังเกียจตัวเขาแค่ไหน เขาก็ยังดึงดันกอดเธอต่อไป
‘ถ้าอยากให้ฉันไป ฉันจะไปตามที่เธอขอ แต่ตอนนี้ขอให้ฉันได้กินข้าวกับเธอและลูกของเราได้ไหม เพราะตอนที่ลูกเกิดมา ฉันคงจะไม่ได้นั่งกินข้าวกับเขา...นะ... ฉันซื้อโจ๊กจากร้านที่พาเธอไปกินบ่อยๆ มาด้วย’
ดรีมมองเขาอย่างเคลือบแคลงใจ ก่อนจะเอ่ยปากตกลง
‘ก็ได้ ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของครอบครัวห่วยๆ นี่ก็แล้วกัน’
‘อืม งั้นเธอนั่งรอนะ เดี๋ยวฉันเอาไปใส่ถ้วยมาให้’
เพราะความใจอ่อนที่ไม่ควรมีให้กับศัตรูที่สู้รบปรบมือกันมานาน ดรีมจึงพลาดให้กับคนฉลาดอย่างเขา โจ๊กในถ้วยของเธอมียานอนหลับอยู่ในนั้น
‘แกใส่อะไรลงไป!’ เธอเอ่ยถามด้วยเสียงอ่อนแรง ยังคงฝืนสติต่อสู้กับฤทธิ์ของยานอนหลับ
‘อะไรเล็กน้อยที่จะทำให้เธอสบาย’
‘ได้โปรด...วิน ลูกของเรา...’ เธอร้องไห้อ้อนวอนเขา นอนระโหยโรยแรงมองเขาผูกเชือกไว้กับพัดลมเพดานกลางห้องซึ่งเป็นจุดเดียวที่สามารถทำได้
‘ฉันไม่มีทางเลือก...เพราะเธอโง่เองดรีม ทั้งโง่ทั้งอ่อนแอ’ มือของเขาสั่นยามที่ยกร่างของเธอขึ้น สองแขนที่ไร้เรี่ยวแรงของเธอตกห้อยโดยไม่มีการขัดขืน
‘ลูก...’ น้ำตาของเธอไหลไม่หยุด น้ำเสียงขาดห้วงในยามที่ลำคอสัมผัสกับเชือก ก่อนที่ปมจะขมวดรั้ง...รัดแน่น
‘ขอโทษ...และ...ลาก่อนนะดรีม’ เขามองร่างบอบบางดิ้นทุรนทุรายอยู่ไม่กี่นาทีก็แน่นิ่งไป ดวงตาเบิกโพลงจ้องมาที่เขา ดวงตาที่ยังคงมีน้ำใสๆ ไหลปริ่มออกมา เขาเดินเข้าไปใกล้ ยกมือขึ้นสัมผัสตรงเนินท้อง
‘เพราะฉัน...มีคนที่ฉันรักมากกว่า และต้องให้ความสำคัญกับเขามากกว่า ขอโทษ’
เขาเดินออกจากห้องนั้นไป...เพื่อในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาจะได้พาเจ้าหน้าที่มาเก็บดวงตาได้...
“มึง...มึง!” ผมกัดริมฝีปากตัวเองจนเลือดไหล แต่ก็คงไหลไม่มากเท่ากับน้ำตาของผมตอนนี้
“จะบอกว่าอยากฆ่ากูรึเปล่าไอ้เด็กโง่ หึหึ” ไอ้มาวินหัวเราะเย้ย แต่สำหรับผม...แค่ฆ่ามันให้ตายก็ยังไม่สาแก่ใจ คนที่เลวขนาดนี้ได้ จิตใจของมันทำด้วยอะไร ตกต่ำถึงขั้นเรียกว่าอมนุษย์ไม่ได้ด้วยซ้ำ!
“งั้นก็มาจบเกมกันดีกว่า...เกมโอเวอร์แล้วไอ้เพี้ยน” มันพูดขึ้นพลางเล็งปืนมาที่ผม ก่อนที่จะชะงักค้างเมื่อไร้พ่ายเดินเข้ามาพร้อมกับ...
“มึงต่างหากที่เกมโอเวอร์”
“คุณท่าน!”
“วิน...”
ใบหน้าโศกสลดของท่านประธานที่ยืนอยู่ข้างๆ พี่พ่าย โดยมีพี่เอยกปืนขึ้นเล็งตรงขมับ
“นาย...นั่นพ่อของนาย!”
“พ่อที่เลี้ยงปีศาจอย่างมึงให้โตขึ้นมาขนาดนี้ กูควรจะยิ้มแย้มแล้วปรบมือยินดี?”
ผมไม่ได้ดีใจเลยสักนิดที่มีคนมาช่วย...ไม่เลย...เพราะมันไม่ทันแล้ว มาเอาตอนนี้...จะช่วยอะไรได้!
“ห้องนี้มีทั้งเครื่องอัดเสียงและกล้องวงจรปิด ไม่ต้องไปหาหลักฐานมาเอาผิด มึงก็ไม่รอดแล้วไอ้วิน” พี่เอที่ร่าเริงอยู่เสมอ บัดนี้ไม่มีรอยยิ้มแม้แต่นิดบนใบหน้า เพราะคงรู้แล้วว่าคนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงนั้น...คือใคร
“มึงกล้าดียังไง! เอาปืนลงเดี๋ยวนี้!” เสียงกราดเกรี้ยวของไอ้มาวินดังลั่นห้อง แต่พี่เอไม่ได้สนใจ ในขณะที่พี่พ่ายพยักหน้าให้พี่เอพาท่านประธานให้เดินตาม
“หนูกิ๊ฟ...” ผมเห็นความเสียใจในแววตาที่เหนื่อยล้าของไอ้แก่นี่ พี่พ่ายหลับตาลงเพียงครู่ ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างของพี่กิ๊ฟไว้ แล้วขยับเข้ามาคลายเชือกออกให้ผม
“กูขอโทษ”
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปทั้งนั้น ผมเจ็บเกินกว่าจะพูดอะไรออกมาได้...
“ไอ้เอ! กูบอกให้เอาปืนลงเดี๋ยวนี้! ไร้พ่าย! มึงทำกับพ่อตัวเองแบบนี้ได้ยังไงวะ!”
ปัง!
กระสุนหนึ่งนัดเจาะลงบนขาขวาของไอ้มาวิน ผมได้ยินเสียงท่านประธานร้องขึ้นเบาๆ แต่พี่เอก็จับแขนไว้ไม่ให้ชู้รักของไอ้มาวินโผตัวเข้าไปหา
“คุณท่านครับ...” ไอ้มาวินร้องเรียกหา สายตามันอ้อนวอนปานกำลังจะขาดใจ “มาหาวินนะครับ...”
น้ำตาหลั่งไหลจากดวงตา อาบใบหน้าที่ดูแก่ชราลงมาก ริ้วรอยตามวัยทำให้ไม่ได้น่ามองอย่างที่เคยได้เห็นยามปกติ
“วินทำผิดมามากแล้ว พอเถอะนะลูก”
“ผมทำเพื่อคุณ...ผมทำเพื่อคุณ! ความรักของผมมันผิดตรงไหน!”
“มันผิดมาตั้งแต่แรก เกมโอเวอร์แล้วมาวิน ตำรวจกำลังจะมา และเดี๋ยวมึง...ก็ต้องเข้าไปชดใช้ความผิดในคุก รวมทั้งคนของมึงด้วย”
ผมไม่คิดว่านั่นคือสิ่งที่มันควรได้รับ...คนอย่างมัน...แค่ความตายยังไม่พอด้วยซ้ำไป
“เอาปืนมานี่!”
ผมแย่งปืนมาจากพี่พ่าย ก่อนจะดึงไอ้แก่ที่เป็นเหมือนหัวใจของไอ้มาวินเข้ามา แล้วถอยกลับมายืนอยู่ริมหน้าต่าง ความเจ็บจากแผลที่ถูกกระสุนปืนหรือถูกซ้อมมันยังอยู่ แต่ที่ใจของผมมันเจ็บยิ่งกว่านั้นหลายพันเท่า ผมไม่ได้ต้องการให้มันเข้าคุก ผมแค่ต้องการจะเห็นมันดิ้นตาย ทรมานเจียนขาดใจไปต่อหน้าต่อตาก็เท่านั้น
“ถ้าไอ้แก่นี่ตาย...มึงจะตายตามมันไปไหมไอ้มาวิน”
“ไอ้เพี้ยน! มึงปล่อยคุณท่านเดี๋ยวนี้!” ไอ้มาวินร้องเสียงหลง หน้าตาของมันซีดเผือดยิ่งกว่าตอนที่ผมจ่อปืนปลอมลงบนใบหน้าของน้องสาวมันซะอีก
“ไหนๆ กูก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว มาตายไปพร้อมกันเลยเป็นไง”
“เพี้ยน!” พี่พ่ายตวาดลั่น แต่ผมไม่ได้สนใจ ตอนนี้เสียงของใครก็รั้งผมไว้ไม่ได้ทั้งนั้น
“ทำเถอะ...ถ้ามันทำให้รู้สึกดีขึ้น ฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้มาวินต้องเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้น...”
“คุณท่านไม่ผิด! ไอ้เพี้ยน มึงปล่อย! ถ้ามึงไม่ปล่อยกูสาบานเลยว่าจะตามจองเวรมึงไปทุกชาติ!”
“กูกับพี่...ไม่เคยไปทำอะไรให้มึง ไม่เคยรู้จักกันด้วยซ้ำ แล้วทำไมต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ กูไม่เคยทำอะไรให้มึงเลย แค่เพราะพี่สาวกูไปรักไร้พ่าย แค่เพราะเมียมึงไม่ชอบพี่กู มึงถึงต้องทำสารเลวใส่ พวกกูผิดอะไร...ผิดอะไรนักหนา!”
ผมบังคับให้มือตัวเองไม่สั่น แต่มันก็สั่นไม่หยุด ผมไม่เคยเข้าใจว่าทำไมต้องมาทนทุกข์ทรมานแบบนี้ ผมควรจะมีความรักที่ดี มีชีวิตที่ปกติเหมือนๆ กับคนทั่วไป แต่เพราะมัน...เพราะมัน!
“อย่าเข้ามา!”
“เพี้ยน ตั้งสติ อย่าทำอะไรบ้าๆ”
พี่พ่ายไม่มีวันเข้าใจในสิ่งที่ผมรู้สึก ไม่มีวันเข้าใจในเรื่องที่ผมเจอ ...คุณภัทรโดนซ้อมจะเป็นจะตายตอนนี้ยังไม่รู้ พี่กิ๊ฟถูกทำร้ายและจากไปต่อหน้าต่อตา ...ในขณะที่เขา ไม่ได้อยู่ตรงนี้...ครอบครัวของเขาคือคนสำคัญที่สุดนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาเลือกจะทิ้งผม แต่พี่กิ๊ฟเลือกผม...เลือกปกป้องผมจนตัวเองต้องตาย แล้วผมควรจะฟังเขาอีกเหรอ...ผมไม่มีอะไรจะฟังเขาอีกแล้ว อีกทั้ง...เรื่องทั้งหมดมันก็เพราะคนในครอบครัวของเขา...และตัวเขาทั้งนั้น!
เพราะพวกเขาผมจึงสูญเสีย...
“แม้แต่ในตอนที่พี่สาวผมตาย...พี่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย! ตอนนี้พี่กิ๊ฟก็ไม่อยู่แล้ว พี่มาตอนนี้มันมีประโยชน์รึไง! ไร้พ่ายบ้าบออะไร พี่มันไอ้ขี้แพ้! โง่เง่าไม่รู้เหี้ยอะไรสักอย่าง!”
“กูขอโทษ...แต่ตอนนี้...มึงตั้งสติก่อนได้ไหม! ถ้ามึงฆ่าคนตาย มึงจะติดคุก!”
“ผมไม่กลัว!” พี่พ่ายเดินเข้ามาราวกับไม่เห็นว่าผมถือปืนอยู่ เขาคงคิดว่าผมแค่ขู่ เขาคงคิดว่าผมคงไม่กล้ายิงเขา
ปัง!
“ไอ้พ่าย!” เสียงของพี่เอดังไล่เลี่ยกับเสียงของปืน
“ผมบอกว่าอย่าเข้ามา พี่ไม่เชื่อผมเอง พ่อของพี่...กับพี่น้องปลอมๆ ของพี่ ต้องตามไปขอโทษพี่สาวผม แต่จนกว่าพวกมันจะชดใช้บาปในนรกหมด ก็คงอีกนานกว่าจะได้ขึ้นสวรรค์ไปเจอพี่ดรีม หรือชาตินี้ทั้งชาติก็อาจจะไม่ได้ไปผุดไปเกิดเลย ฮ่าๆๆๆๆ”
ผมทำลงไปแล้ว...ผมยิงพี่พ่าย และจะยิงพ่อของเขาและไอ้มาวินให้ตายตกตามกันไปด้วย ให้พวกมันไปใช้ชีวิตรักในนรกกันต่อ
“มึง!” ไอ้มาวินตะโกนลั่น มันกรีดเสียงราวกับสัตว์กำลังบาดเจ็บเมื่อผมยกปืนขึ้นตบไปที่ขมับของไอ้แก่ที่กำลังแสดงบทยินยอมทุกการกระทำอยู่
“นายครับ! พวกผมจับตัวไอ้สามตัวที่เข้าป่าไปเมื่อครู่ได้แล้วนะครับ ตอนนี้มัดรวมกันไว้ข้างล่าง ส่วนผู้ชายอีกคนกำลังปฐมพยาบาล เราเรียกรถพยาบาลมาแล้ว...อีกเดี๋ยวคง... นายครับ!” ลูกน้องของพี่พ่ายโผล่พรวดพราดเข้ามาและกำลังรายงานฉอดๆ พอเห็นเจ้านายมีแผลที่ท้องก็ลนลานเข้ามา พี่เอที่กำลังกดปากแผลให้พี่พ่ายมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
ในจังหวะที่ผมเผลอให้ความสนใจกับพี่พ่าย รู้ตัวอีกทีไอ้มาวินก็ยกปืนเล็งมาที่ผม แต่เพราะผมเอาตัวพ่อของพี่พ่ายบังไว้ ลูกกระสุนจึงโดนเข้าที่ตัวของไอ้แก่นี่เต็มๆ คราวนี้ไอ้มาวินกรีดร้องสุดเสียง ในขณะที่ผมผลักร่างของพ่อพี่พ่ายออก มีลูกน้องของพี่พ่ายมารับไว้ ก่อนจะก้าวเข้าไปปล่อยหมัดใส่คนที่กำลังขาดสติอย่างมัน
หมัดแล้วหมัดเล่าที่ผมระดมซัดไปบนใบหน้าของมัน สุดแรงที่ผมมี สุดแรงที่ความรู้สึกเจ็บของผมจะมีได้ มันต่อยสวนผมมาแค่ไม่กี่หมัด ก่อนจะหมอบลงไปกับพื้น แต่ผมก็ตามเข้าไปซัดมันต่อ คราวนี้ต่อให้ใครมาห้าม...ผมก็จะไม่ยอมหยุด ให้มือของผมหักไปข้างผมก็ยอม
“เพี้ยน! พอ! กูบอกให้พอไง!” พี่เอเข้ามาจับแขนผมไว้ “ไอ้วินมันสลบไปแล้ว”
“ไม่! ผมจะฆ่ามัน! ผมจะฆ่ามันพี่ได้ยินไหม!”
“มือมึงจะหักเอาน่ะสิไอ้เด็กโง่!”
แต่เพราะไอ้มาวินมันไม่ได้สลบอย่างที่พี่เอคิด มันถึงได้มีแรงยกปืนขึ้นมาเล็งผม แต่เพราะผมพร้อมอยู่แล้ว...ผมพร้อมมานานแล้วกับการจะสะสางกับมัน
ปัง!
แต่กระสุนที่ผมยิงกลับพลาดเพราะฝีมือของผู้ชายที่คิดว่าคงจะลุกขึ้นมายืนไม่ไหวอีก พี่พ่ายเบี่ยงปากกระบอกปืน ในขณะที่พี่เอเตะข้อมือของไอ้มาวินจนปืนกระเด็นหลุดออกจากมือของมัน
“รีบๆ เอาปืนมาให้กู!”
ผมยืนนิ่ง แต่พี่พ่ายก็แย่งปืนไปถือไว้ “ไม่ต้องพูดอะไร...มึงอยู่เงียบๆ ก็พอ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในห้องประมาณสี่ห้าคน อาวุธครบมือและแยกย้ายกันเข้าถึงตัวของคนในห้อง ไอ้มาวินถูกจับกุมใส่กุญแจมือเป็นที่เรียบร้อย ในขณะที่ผมยืนหลบอยู่ข้างหลังพี่พ่าย แผ่นหลังกว้างของเขามีพื้นที่ให้ผมพิงได้เสมอ
“พี่จะมาปกป้องผมทำไม ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วพี่พ่าย ผมไม่เหลืออะไรแล้ว บอกตำรวจไปสิว่าผมเป็นคนยิงพี่ เกมมันจบแล้วพี่พ่าย...ผมแพ้ ผมหลอกพี่ทุกอย่าง หลอกพี่มาตลอด ผมอยากฆ่าพ่อของพี่ อยากฆ่าพี่น้องบุญธรรมของพี่ และเป็นผมเองที่ขับรถชนเมียของพี่จนทำให้ครอบครัวของพี่ไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้า เป็นฝีมือผมทั้งหมด! เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาปกป้องคนอย่างผม”
มีแต่ความนิ่งเงียบเท่านั้นที่ผมได้รับ พี่พ่ายหันหน้ามาเผชิญกับผม เลือดยังคงไหลไม่หยุดจากแผลที่ผมเป็นคนทำ
“กูรู้...รู้มาตลอด แต่ที่กูยังปกป้องมึง มันเพราะอะไร” เขาหยุดพูดไปเพียงครู่ เลือดที่ไหลไม่ยอมหยุดกำลังทำให้เขาหมดแรง “...ตอนนี้มึงบอกว่ามึงไม่เหลืออะไรอีกแล้ว...แต่กู...กูไม่เคยมีมาตั้งแต่แรก...ไม่มีแม้กระทั่ง...มึง”
“...”
“คนที่แพ้ไม่ใช่มึง...แต่เป็นกู”
เขาล้มลงไปต่อหน้าต่อตาผม...ล้มลงไปเพราะบาดแผลที่ผมทำไว้ ...พระเจ้าไม่เคยมีจริง...แล้วผมจะภาวนากับใคร ผมอยากให้เขาปลอดภัย ผมรักเขา...นั่นไม่ใช่เรื่องโกหก แต่มันเทียบไม่ได้เลย...กับสิ่งที่ผมเสียไปในตอนนี้
ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากภาวนาให้เขามีความสุขในทุกๆ วันต่อจากนี้ไป เพราะผมไม่สามารถ...อยู่เคียงข้างและรักเขาต่อไปได้อีกแล้ว ในเมื่อผมเลือก...คนที่ปกป้องผมจนถึงวินาทีสุดท้าย แม้ว่าตอนนี้เธอจะไม่อยู่แล้วก็ตาม...
.....................................................TBC...................................................
มันคงดี...ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ อยากให้เราเดินสวนกันบนทางเท้า...จ้องมองและเกิดความสะดุดใจยามสบตา อยากให้เป็นความรักที่ดียิ่งกว่านี้...แต่เท่าที่มี...ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี ถ้าตัดเรื่องโกหกออกไป...ความรักก็มีอยู่จริงๆ
รักพี่กิ๊ฟ
