!!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: !!!!!!!!! DADDY BE LOVER รักนะครับคุณพ่อลูกสอง [ตอนพิเศษ 4] (25-4-61) !!!!!!!!!!  (อ่าน 419146 ครั้ง)

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ้าวเฮียตุลย์... เมียกลับหาแน่ะ... เฮ้ยยยย น้องเอสเรากำลังหวั่นไหว เฮียตุลย์กำลังมองเห็นความดีเอส ก้างมาทำไม มาทำม๊ายยยย :serius2:

ออฟไลน์ thenista

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
    • NISTA
ตอนที่ 15




               “ยังไม่นอนอีกหรอ?”

               “ถ้าเห็นฉันหลับก็แปลว่านอนแล้ว”


               มีตุลย์ก็ต้องมีกวน


               “ขอยืนโน้ตบุ๊คหน่อยดิ” ผมว่าพลางเดินเข้ามาทรุดตัวลงนั่งกับเบาะข้างเตียงที่เป็นที่นอนใหม่ของผม พี่ตุลย์ปรายตามองผมนิดหน่อย

               “ทำงานอยู่”

               “ก็หลังทำงานเสร็จก็ได้ไง ผมตอนไหนก็ได้”

               “เอาไปทำไร?”

               “...” ผมเงียบ ไม่อยากจะบอกคุณพ่อลูกสองนี่เท่าไหร่ว่า เอามาเข้าเน็ตศึกษาคณิตศาสตร์ป. สามเนี่ยแหละ!


               เมื่อวานได้ยินว่ามะรืนที่หนึ่งมีสอบคณิตแล้วให้ผมติวให้ วันนี้หลังจากผมเลิกงานสี่ทุ่ม ก็เลยกลับมาตั้งใจจะทำตามหน้าที่ แต่ไอ้เด็กที่หนึ่งกลับบอกว่าครูเลื่อนไปสอบอาทิตย์หน้าซะงั้น ผมก็ เออ ก็ดี ขอดูหนังสือมันนิดหน่อย กะจะดูคร่าวๆ ว่าต้องสอนเรื่องอะไรจะได้เตรียมตัวถูกอะไรประมาณนั้น


               แต่พอเปิดปุ๊บ!...ผมนี่ถึงกับค้าง


               นี่สาบาน คณิต ป.สาม!?  WTF!! ผมเรียนเรื่องพวกนั้นตอนขึ้นมัธยมได้แล้วมั้งน่ะ!


               และเพราะมันไม่ใช่แค่บวกลบคูณหารธรรมดาเนี่ยแหละครับ ผมถึงต้องรอไอ้เด็กที่หนึ่งหลับก่อน แล้วตั้งใจว่าจะมาเสิชเน็ตหาข้อมูลในการติวให้เนี่ย


               “ฉันใช้เสร็จละ” สิ้นคำพูดของคนที่อยู่บนเตียง ผมก็รีบยื่นมือไปข้างหน้ารอรับโน๊ตบุ้คอย่างนอบน้อมทันที “ห้ามเอาไปเข้าเว็บโป๊นะ”

               “ตอนแรกก็ไม่ได้นึกถึงมันหรอก พอพี่พูดผมก็เริ่มอยากเข้าเลย”

               “งั้นไม่ต้องใช้”

               “ล้อเล่นคร๊าบบบบบ ไม่เข้าๆๆ แน่นอน พี่รอเช็คประวัติการเข้าชมได้เลย โหย หน้าตาดีขนาดนี้ หุ่นดีแบบนี้ทำไมผมต้องพึ่ง 2D ด้วยละครับ” ผมหัวเราะเสียงใสไปอีกหนึ่งลูกคอ แต่พอเห็นสายตาที่จ้องมองมาก็ต้องหุบปากลงอย่างเซ็งๆ “ผมจะเข้าเว็บที่มีประโยชน์ครับ เว็บการศึกษา ศาสนา และพระมหากษัตริย์ จะเข้าแต่เว็บที่มีคุณค่าแก่การชื่นชม”

               “ถ้าฉันเข้าเช็คประวัติการเข้าชมแล้วไม่เจอเว็บพวกนั้นนะ โดนแน่” พี่ตุลย์ว่าเสียงเหี้ยมแถมหัวเราะหึหึให้ผมอีกสามครั้งติด พอพี่แกนอนหันหลังนอนให้ผมเท่านั้นแหละ ปากผมนี่ขยับบ่นอัตโนมัติเลยทีเดียวเชียว


               ผมจดคำอธิบาย วิธีคิด ข้อมูลต่างๆ ลงในสมุดที่ผมใช้จดอะไรหลายๆ อย่าง เสียงแกรกๆ ของดินสอสลับกับเสียงพิมพ์แป้นของโน้ตบุ๊ค ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่ผมอยู่อพาร์ทเม้นท์ก็คงเปิดเพลงสักเพลงไว้อยู่เป็นเพื่อนผมแล้ว แต่ตอนนี้ผมอยู่ร่วมกับคนสองคนกับหมูอีกหนึ่งตัวเพราะงั้นคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้าผมจะเปิดเพลงตอนนี้


               อะ ตอนนี้คิดแล้วใช่เปล่า ว่าทำไมผมต้องโคตรทุ่มเทแบบนี้! จริงๆ แล้วเปล่าครับ บรรยายให้ดูดีไปงั้นแหละ ลองมาดูที่หน้าจอดิ จะเห็นว่าตอนนี้ผม เปิด เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ และอีกสารพัดเว็บที่ไม่ใช่เว็บการศึกษา ศาสนา และพระมหากษัตริย์สักกะติ๊ด


               มันก็ต้องมีบ้างใช่ปะ ก็ผมวัยรุ่นอะ~


               ตื้อดึง!


               ผมเหลือบมองแท็กบาร์ที่ตอนนี้มีไอคอนรูป line กำลังกระพริบสีส้มๆ บ่งบอกว่ามีใครบางคนส่งไลน์เข้ามาหาในแอคเคาท์ที่ลงชื่อไว้ตอนนี้ ซึ่งแน่นอนไม่ใช่ผม มือถือผม 1,990 บาท บางเครื่องในปัจจุบันอาจเล่นไลน์ได้แล้ว แต่ใช้เครื่องนี้มาสามปี สมัยที่ไลน์ยังไม่เข้าเครื่อง 1,990 บาท เพราะงั้นแน่นอนว่าไลน์ที่เด้งนี้เป็นของเจ้าของโน้ตบุ๊คแน่นอน


               ว่าแล้วก็เหลือบมองคุณเจ้าของห้องที่นอนหลับสนิทไม่ได้ยินเสียงไลน์ที่เด้งเข้ามา อยู่ดีๆ นามสกุล ‘โรจนรัตติกร’ ของผมก็เปลี่ยนเป็นนามสกุล ‘อยู่เสือก’ ขึ้นมาทันที


               ผมเลื่อนเม้าผ่านหน้าต่างที่กระพริบๆ สีส้ม ไปที่ไอคอน line ที่อยู่มุมขวาสุด กดไปที่สัญลักษณ์รูปคำพูดก่อนที่ปรากฎแชทต่างๆ แต่ความสนใจของผมพุ่งตรงไปที่แชทบนสุด รูปโปรไฟล์เป็นรูปผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่ง การถ่ายรูปบ่งบอกเลยว่าเธออายุประมาณ 30 แน่นอน ส่วนถัดจากรูปคือ line ที่เธอส่งมา


               'ตุลย์ โทษทีที่ไม่ค่อยได้ติดต่อมาเลยนะ ฉันกำลังจะบอกนายว่า ฉันกำลังกลับมาทำงานที่ไทยแล้วนะ~'

               ใครวะ? แฟน เมีย แม่ เพื่อน


               ผมจ้องข้อความนั้นอย่างพิจารณา แต่สักพักข้อความนั้นก็เปลี่ยนเป็นข้อความใหม่


               ‘ประมาณอาทิตย์หน้าละมั้ง ถ้าว่างมารับฉันที่สนามบินหน่อยสิ~’


               ตัด แม่ ออกไป จริงๆ ควรตัดตั้งแต่แรกเลยนะ สมองผมนี่คิดขึ้นมาได้ไงวะ ช้อย แม่เนี่ย


               ‘นายคงหลับแล้วสินะ โทษทีลืมไปว่าเวลาไม่ตรงกัน พอฉันรู้ว่าได้ย้ายกลับมาก็เลยดีใจลืมตัวรีบบอกนายไปหน่อย’


               แล้วข้อความก็หยุดอยู่แค่นั้นผมจ้องต่อไปเกือบสิบนาทีจนตาแห้ง ข้อความ line ก็ไม่มีอะไรเพิ่มมา ผมเลื่อนเม้าส์กดล็อคเอ้าท์ออกจากคอมเพื่อไม่ให้ตัวเองผันนามสกุลมาอยู่เสือกอีก สะบัดหัวสองสามทีไล่ความสงสัยที่ติดแน่นอยู่ในสมองออก ก่อนจะกลับมาให้ความสนใจกับวิชาคณิตศาสตร์ ป. สามตามเดิม


               ...


               เอ๋ หรือจะเป็นเมีย?










               โอ้ทะเลแสนงาม ฟ้าสีครามสดใส มองเห็นเรือใบ แล่นอยู่ในทะเล~


               ผมยืนมองปราสาทสีสดใสด้านหน้าของสวนสยามทะเลกรุงเทพฯ โดยมีไอ้เด็กที่หนึ่งอยู่ทางขวาและพี่ตุลย์ที่กำลังอุ้มเด็กอ้วนตอนต้นอยู่ทางซ้ายมือ


               ตอนนี้พวกเราอยู่สวนสนุกครับ! สถานที่ที่เด็กทุกคนอายุไม่เกินสิบสองปีโดยประมาณอยากจะมา! ผมนี่ตั้งแต่พ่อเสียก็ไม่ได้มาสวนสนุกอีกเลย หกเจ็ดปีโดยประมาณแล้วมั้ง เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ผมตื่นเต้นกับสถานที่ตรงหน้ามากกว่าไอ้เด็กที่หนึ่งที่เป็นคนร้องจะมาเสียอีก!


               ในระหว่างที่ซื้อตั๋วเข้าสวนสยามทะเลกรุงเทพผมขอย้อนความเล็กน้อย


               เมื่อประมาณสามวันก่อน ผมกับพี่ตุลย์แล้วก็หมูตอนต้นนั่งอยู่บนโซฟา โดยมีที่หนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าถือข้อสอบที่ครูแจกคืนเพื่อประกาศผลคะแนน อย่างที่รู้กันครับ ว่าคุณพ่อตุลย์เนี่ย นางไปตกลงกับลูกเอาไว้ว่า ถ้าได้แปดคะแนนขึ้นไปจะพาไปเที่ยวตอนสุดสัปดาห์แล้วให้ที่หนึ่งเป็นคนเลือกสถานที่เอง


               ผลออกมาที่หนึ่งได้แปดจุดห้า! ไม่รู้จุดห้าแม่งมาได้ยังไง แต่ก็ถือว่าผ่าน! สถานที่แรกที่ไอ้เด็กนั่นพูดออกมาหลังจากประกาศคะแนนคือภูเก็ต ไม่ใช่แค่พี่ตุลย์นะครับที่เงิบ ผมก็เงิบ


               คือภูเก็ตไม่ได้อยู่ใกล้ไง แล้วมันก็ไม่ใช่ทริปที่แบบมีตังสองพันแล้วไปได้เลยอะไรอย่างงี้ ผมเดาว่าเรื่องเวลาด้วยละมั้ง ขับรถไปเช้าเย็นกลับมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว หรือจะขับรถไปเสาร์แล้วกลับอาทิตย์ก็ไม่ได้อยู่ดี เลยต้องเดือดร้อนโอ๋ที่หนึ่งให้เปลี่ยนสถานที่กันใหญ่


               แต่ปลอบอยู่สิบนาทีก็แล้ว ยี่สิบนาทีก็แล้ว สามสิบนาทีก็แล้ว ไม่เงียบสักทีงอแงจะไปทะเลให้ได้ ผมก็เลยเสนอสวนสยามทะเลกรุงเทพฯ ไป แค่นั้นแหละเงียบกริบ ตาเป็นประกาย เลยเป็นอันสรุปว่าไปสวนสยามทะเลกรุงเทพ


               แต่ตอนแรกผมนึกว่าเขาจะไปกันแบบคนสองคนหมูหนึ่งตัว ผมก็เลยไม่อะไรเท่าไหร่ แต่พอพี่ตุลย์บอกว่าจะให้ผมไปด้วยเท่านั้นแหละ! คนที่มีตาเป็นประกายต่อมาคือผมเลย!


แต่ผมไม่ง่ายนะครับ


               ‘ไปเถอะหน่า นายช่วยติวให้ที่หนึ่งตั้งหลายวันนี่หน่า ฉันเลี้ยง ถือเป็นค่าตอบแทนแล้วกัน’


               นั่นแหละครับ คำพูดเดียว ไม่มีเล่นตัวเพิ่ม ผมก็เลยมาปรากฎตัวอยู่ ณ ที่นี่


               ผมไม่ง่าย แต่ได้ไม่ยากครับ อิอิ












               สถานที่ที่แรกหลังจากเดินเข้ามาคือม้าหมุนสองชั้น ซึ่งแน่นอนผม ที่หนึ่ง พี่ตุลย์ น่าจะตอนต้นด้วยคิดเป็นอย่างเดียวกันว่าเก็บไว้ที่หลังเถอะ เราก็เลยเลี้ยวขวาครับเจอเข้ากับเครื่องเล่นหวาดเสียวที่เหมือนเป็นไอคอนของสวนสนุกไปแล้ว…รถไฟเหาะตีลังกาถอยหลัง!


               แน่นอนผมโคตรอยากเล่น แต่อย่างว่าครับ ผมมากับครอบครัวใครก็ต้องแล้วแต่ลูกชายของครอบครัวนั้น ผมก้มลงมองเด็กที่หนึ่ง


               “เล่นไหมไอ้หนู?”

               “มันเป็นยังไงอะ?”

               “เอ้า ไม่รู้จักหรอ” ผมเลิกคิ้วถาม พอเห็นว่าที่หนึ่งส่ายหัวก็เลื่อนสายตาไปหาคุณพ่อตุลย์

               “ไม่เคยพามา” คนที่อายุเยอะกว่าตอบให้อย่างรู้งาน ผมกลับไปมองไอ้เด็กที่หนึ่งอีกครั้ง


               ท่าทางแบบนี้...นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาที่อื่นนอกจากโรงเรียนเลยปะเถอะ


               “งั้นไปเล่นกันไหมละ? มันเป็นเครื่องเล่นวิถีผู้ชาย ผู้ชายคนไหนไม่เล่นนี่โตขึ้นเป็นตุ๊ดแน่นอน พอเป็นตุ๊ดใช่ปะ สังคมก็รังเกียจ พ่อแม่ก็เสียใจ”

               “งั้นที่หนึ่งจะเล่น!”


               เสร็จโจร อิอิ


               ผมร้องโอเคเบาๆ ก่อนจะรีบคว้าข้อมือที่หนึ่งพุ่งพรวดไปต่อแถวทันที อาจเพราะว่าพวกเรามาค่อนข้างเร็ว เลยมีคนไม่เยอะมากนัก รอไม่ถึงสองนาทีพี่พนักงานก็พาที่หนึ่งไปวัดส่วนสูงพอเห็นว่าเกิน 130 เซนฯ จึงค่อยปล่อยมานั่งเล่นเครื่องเล่นข้างๆ ผม


               “โบกมือให้พ่อตุลย์หน่อยเร็ว” ผมกระซิบบอกกับที่หนึ่ง ก่อนที่เราทั้งคู่จะโบกมือให้กับผู้ใหญ่ใจดีวันนี้ที่ต้องมาทำหน้าที่คุณแม่เข็นรถลูกคนเล็กไปมา อดร่วมสนุกไปกับวัยรุ่นวันซนอย่างผม


               ตึง!


               ที่หนึ่งร้องลั่นสะดุ้งด้วยความตกใจกับเสียงเป็นสัญญาณว่าเครื่องเล่นกำลังถูกดึงขึ้นสูง ผมหัวเราะชอบอกชอบใจ จับเซฟตี้เอาไว้มั่น แต่มือข้างหนึ่งกับโดนเด็กที่หนึ่งคว้าจับเอาไว้แน่น


               ผมกับที่หนึ่งค่อยถูกดึงสูงขึ้นไปจนวิวที่เห็นกลายเป็นเพียงท้องฟ้าสีสดสว่างจนแสบตา และวินาทีที่เราขึ้นอยู่บนจุดที่สูง ทั้งมือของผมและมือของที่หนึ่งที่จับกันเอาไว้ก็กำแน่นทันที ก่อนที่เครื่องจะทิ้งตัวดิ่งลงมา!!


               “อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!”


               สนุกละเว๊ยยยย~


               หลังจากลงมาจากรถไฟเหาะตีลังกาถอยหลัง ที่หนึ่งก็ดูเหมือนจะยังอึนๆ งงๆ ผมนี่ตั้งโด่เด่จนพี่ตุลย์ต้องลูบแล้วลูบอีกให้คืนทรง (วันนี้ผมใส่เจลแบบอยู่ทรงเป็นพิเศษ รับประกันว่าผมไม่ร่วงคืนทรงบางระจัน) ผมก็กังวลนะ ไม่รู้ว่ากลัวจนจะร้องกลับเลยหรือเปล่า แต่สักพักกกกก....ประมาณสิบห้านาทีได้ ที่หนึ่งก็ฟื้นคืนสติ ตั้งท่าจะลากผมเป็นเล่นรถไฟนั้นอีกสักรอบ


               “ที่นี่ไม่ได้มีแต่เครื่องนี้นะรู้ยัง? ปะๆ เดี๋ยวพี่เอสจะพาไปเล่นหมดนี่เนี่ยแหละ แล้วน้องจะได้พบเจอกับวิถีความเป็นชาย!” ผมหัวเราะลั่นด้วยความสะใจ พาดมือไว้ที่ไหล่ของไอ้เด็กที่หนึ่งที่เตี้ยกว่าผมประมาณห้าสิบเซนฯ ก่อนที่จะเราทั้งมุ่งหน้าไปสู่เครื่องเล่นอันใหม่


               อันที่ผมเลือกต่อมาเป็นไวกิ้ง ผมชอบเรื่องเครื่องเล่นเสียวนะ แต่ผมไม่ชอบไวกิ้งเท่าไหร่ เลยพาที่หนึ่งมานั่งอยู่แถวๆ กลางๆ ไม่สูงมากจนมองเห็นเครื่องที่กำลังปั่นอยู่ด้านล่าง แล้วก็ไม่ต่ำไปจนไม่รู้สึกอะไร แต่ไอ้เด็กที่หนึ่งครับ! เล่นเสร็จแม่งชอบเว๊ย จะเล่นอีก แล้วมันบอกว่าคนที่นั่งอยู่บนสุดน่าจะสนุก เลยชวนผมไปนั่งแถวบนซะงั้น ผมทำไงอะครับ...


               ก็ต้องตามไปอะดิ อะโธ่ เดินตามพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบหน้าประมาณนั้นเลย


               หลังจากที่เล่นไวกิ้งแถวบนสุดไปประมาณสองรอบ ผมก็ต้องมานั่งพักเพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย โดยมีพี่ตุลย์พาที่หนึ่งไปซื้อนน้ำมาให้ ทิ้งเด็กอ้วนไว้กลางทางกับผม เด็กนั่นก็ก็ส่งเสียงแอร๊ยๆ ยื่นมือเหมือนจะให้ผมอุ้มตลอด แต่ด้วยความรักเด็กอันล้นเหลือครับ ก็เลยหมุนรถเข็นให้มันหันหลังให้ผมแทน


               หลังจากที่พลังชีวิตเต็มเปี่ยมผมกับที่หนึ่งก็กลับมาเป็นคู่หูชั่วคราวผจญภัยต่อ

 
               มีเครื่องเล่นหลายชิ้นที่ก็...สนุกดีครับ แต่สำหรับวิถีชายยังถือว่าเบๆ แต่มีเครื่องเล่นนึงฝังใจผมมาก ลงมานี่ขาสั่น ผมขาสั่น ที่หนึ่งก็ขาสั่น หงึกๆๆ กันอยู่หน้าเครื่องเล่น


               ตอนแรกไม่อายหรอก แต่พอไอ้พี่ตุลย์มายืนขำเป็นวรรคเป็นเวรนั่นแหละ ที่ผมโคตรเสียเชิง อยากจะบอกให้พี่แกลองไปเล่นดู เดี๋ยวจะเสียสละดูแลตอนต้นให้ แต่นั่นแหละ ขามันสั่นเลยไม่มีแม้แต่แรงที่จะก้าวไปหาด้วยซ้ำ


               มันคือ ยักษ์ตกตึกครับ!


               เครื่องเล่นที่นั่งเรียงกันหันหลังให้เสาหนึ่งต้น ก่อนที่มันจะเลื่อนตัวขึ้นไปแล้วทิ้งดิ่งพสุธาลงมานั่นแหละ ตอนผมกับที่หนึ่งเงยหน้าดูก็เบๆ นะ จิ๊บๆ ก็เลยกระโดดพรวดขึ้นไปเล่นด้วย ตอนขึ้นก็ช้าๆ ดูวิวิทิวทัศน์กันไป แต่ตอนลงเนี่ยสิ!


               มันจะรู้สึกวูบอยู่ประมาณสามวินาทีได้ เป็นชั่วอึดใจที่เหี้ยที่สุดตั้งแต่เล่นเครื่องเล่นในสวนสยามนี่มาเลยครับ อารมณ์เดียวกับกระโดดตึกเลย ต้องไปลองดูครับ


               ...


               หมายถึง ลองไปเล่นนะ ไม่ใช่ลองไปกระโดดตึก


               ช่วงเวลาประมาณบ่ายสองผมกับที่หนึ่งก็ไปเล่นสวนน้ำ ก่อนมาที่นี่ผมบอกไปแล้วว่าจะไม่เล่นสวนน้ำ เพราะผมไม่มีชุดว่ายน้ำอะไรเลย แต่คุณพ่อตุลย์ครับเดินฉับๆ เข้าห้องนอนไปหยิบกางเกงว่ายน้ำมาให้ซะงั้น ก็เลยกลายเป็นว่าตอนนี้มีผมกับที่หนึ่งลงเล่นสวนน้ำ ส่วนผู้ใหญ่ใจดีของทริปกับตอนต้นนั่งใต้ร่มพักผ่อนชิลๆ กันไป


               “อันธพาล จะยืนอยู่ตรงนั้นทำไม ไปเล่นสไลเดอร์กัน!” ที่หนึ่งที่อยู่น้ำห่างผมออกไปตะโกนขึ้น ผมไม่ตอบแต่เลื่อนสายตาลงมองเกงเกงว่ายน้ำของไอ้พี่ตุลย์ที่ให้ผมยืม


               มันไม่ได้ขาดครับ แล้วมันก็ไม่ได้ทุเรศอะไรเลย แต่...


               เอื้อมมือไปจับตรงเป้ากลางเกงที่เหลือพื้นที่เล็กน้อย...


               ชุดว่ายน้ำนี่มันไม่ได้แนบไปกับรูปร่างหรอวะ? ทำไมตรงนี้ที่มันเหลือ


               “อันธพาล!!”

               “เอออ ไปแล้วๆ” ผมเลิกสนใจรีบพุ่งลงน้ำไปหาเด็กที่หนึ่ง


               เกือบสองชั่วโมงที่เล่นอยู่ในโซนของสวนน้ำ เด็กที่หนึ่งมีพลังงานเหลือเฟือ แต่ผมกลับร่อแร่เต็มที เลยขอโบกมือเซย์บายแล้วขึ้นฝั่งมาก่อน ทรุดตัวลงนอนไปกับเก้าอี้ชายหาดข้างๆ พี่ตุลย์ที่กำลังป้อนวาฟเฟิลให้ตอนต้นกินอยู่


               “ไม่ไหวแล้วไง?”

               “ไม่ไหวแล้ว ผมมาถึงจุดนี้ได้ไง จุดที่เล่นสวนสนุกเหนื่อยกว่าทำงานจนถึงสี่ทุ่ม”


               พี่ตุลย์หัวเราะขำเล็กน้อยเรียกให้ผมเหลือบมอง พอเห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างดูท่าทางอารมณ์ดี ก็พลอยรู้สึกอารมณ์ดีไปด้วย


               “ที่ฉันตั้งใจซื้อรถก็เพราะจะพาลูกมาเที่ยวเนี่ยแหละ”

               “อ่านเจอในหนังสือที่ซื้อมาคราวก่อนหรอ?”
               
               “ประมาณนั้น เขาบอกว่าเราควรจะให้ของขวัญลูกบ้าง ควรจะพาไปเที่ยวบ้าง เขาเรียนรู้จากข้างนอกได้ดีกว่าในหนังสืออะไรประมาณเนี่ย ก็เลยตัดสินใจซื้อรถแล้วก็พามาเที่ยว สองสามเดือนมานี่ฉันใช้เงินเยอะกว่าปีที่แล้วซะอีก”

               ผมขำ “แล้วผลลัพธิ์มันดีไหม?”

               “ดี ฉันไม่เคยเห็นที่หนึ่งสนุกอย่างนี้มาก่อน อย่างที่เคยบอกที่หนึ่งไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่ ฉันเองก็มัวแต่ทำงานไม่มีเวลาเล่นด้วย ซื้อของเล่นให้เยอะแค่ไหนก็ดูเหมือนที่หนึ่งจะไม่ตื่นเต้นแล้ว”

               “ก็ดีแล้ว” ผมตอบเสียงเบาก่อนจะหลับตาลงพักผ่อนร่างกาย เผื่อว่าถ้ามีแรงจะได้ไปเล่นสไลเดอร์อีกสักรอบสองรอบ แต่เมื่อหลับตาลง ผมกลับรู้สึกเหมือนมีเงาอะไรบางอย่างมาทาบทับบนใบหน้า และทันทีที่ลืมตาขึ้นมาก็ต้องเผลอผงะเมื่อเห็นใบหน้าที่สมกับเป็นผู้ใหญ่ของพี่ตุลย์อยู่ห่างเพียงฝ่ามือเท่านั้น “อะ...อะไร?”

               “นายน่ะพูดมาก น่ารำคาญ แล้วก็ไร้สาระ”

               “หา!”


               อะไรวะ? อยู่ดีๆ ก็มาด่า


               เส้นเลือดผมนี่ขึ้นปูดเลย ตั้งท่าจะผลักไอ้พี่ตุลย์ออกแล้วเตะให้กลิ้งลงไปในน้ำ แต่มือของผมกลับต้องชะงักเสียก่อน ไม่สิ ไม่ใช่แค่มือ ผมเนี่ยแหละที่ชะงัก...เมื่อได้ยินคำพูดต่อมาของคนตรงหน้า


               “แต่ฉันก็เผลอคิดหลายครั้งแล้วแหละ ว่า...ดีจัง ที่มีนายอยู่ด้วย










               งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา ห้าโมงเย็นเป็นช่วงเวลาที่ผม กับครอบครัวของพี่ตุลย์ตัดสินใจที่จะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ทันทีที่ขึ้นมาอยู่บนรถ ที่หนึ่งที่นั่งประจำอยู่ด้านหน้าก็หลับปุ๋ยทันทีเช่นเดียวกับตอนต้นที่ไม่ได้ทำอะไรมากมายแต่ก็สะลึมสะลือไปเสียอย่างนั้น


               “เด็กหนอเด็ก” เสียงทุ้มพูดขึ้นเบาๆ ขณะปรายตามองลูกชายคนโตของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นผมที่นั่งเยื้องอยู่ด้านหลังก็สังเกตเห็นรอยยิ้มที่ผุดพรายอยู่บนใบหน้า

               “...”


               ผมซึมซับบรรยากาศที่อบอุ่นนี่อย่างเงียบๆ พลางนึกถึงคำพูดของพี่ตุลย์ก่อนหน้า


               ถ้าไม่นับครอบครัวของตัวเอง นี่เป็นคำพูดแรกที่ทำให้ผมดีใจมากที่สุด เป็นคำพูดที่ผมอยากได้ยินมากที่สุด คำพูดที่บอกว่ามีใครบางคนที่ยอมรับผม แม้ผมจะไม่ใช่ครอบครัวของเขา และเพราะคำพูดนั้นอีกที่ทำให้ผมคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ผมมีความสุขมากแค่ไหน


               ผมมีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่กับป้า มีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่กับเพื่อน มีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่ตัวคนเดียว


               ไม่อยากจะยอมรับเลยว่า..การอยู่กับครอบครัวนี่มันทำให้ผมกำลังมีความสุขมากจริงๆ...


               “เป็นอะไรยิ้มน้อยยิ้มใหญ่?” ผมเหลือบมองกระจกส่องหลัง สบตากับคนที่กำลังขับรถอยู่

               “เห็นผู้หญิงเมื่อกี้ หน้าตาโคตรน่ารัก”

               “กระเทยเปล่าเถอะ”

               “ตัวเองไม่เห็นก็อย่ามาอิจฉาได้ปะ กระเทยหรือเปล่าไม่รู้ แต่เมื่อกี้น่ะนางฟ้าแน่ๆ”

               “เดี๋ยววนรถให้ลงไปขอเบอร์เอาไหมละ?”

               “ถ้าพี่จะกรุณา ผมก็จะขอน้อบรับไว้ครับ”

               “กวน”

               “ก็มีบ้าง~”











               ติ้ง...


               เสียงลิฟท์ดังขึ้นก่อนที่ประตูจะเปิดออกยังชั้นที่ต้องการ แม้จะเป็นช่วงเวลาหัวค่ำแต่ทางเดินก็เงียบสงัด ผมดึงมีที่หนึ่งที่สะลึมสะลือจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ให้รีบเดินตามพี่ตุลย์ที่อุ้มตอนต้นไปตามควายแล้ว


               ถ้าจะเดินเร็วขนาดนั้นคืออะไร ปวดหนัก? 


               “คือพี่รีบไปปะ” ผมพูดเสียงดังไล่หลังไป


               “ตอนต้นอึใส่แพมเพิสจะรีบไปเปลี่ยน”


               มิหน่าละ! ตอนขึ้นลิฟท์ได้กลิ่นแปลกๆ นึกว่าคุณลุงที่ขึ้นชั้นหกเป็นคนแอบตดไว้!


               “งั้นรีบไปเลย” สิ้นคำของผม คุณพ่อตุลย์กับลูกหมูตอนต้นก็วิ่งกระเตงๆ พุ่งตรงไปยังห้องพักที่อยู่อีกไม่ไกล ส่วนผมกับที่หนึ่งก็เดินเอ่อระเหยลอยชายแบบไม่รีบร้อนเดินตามอยู่ข้างหลัง


               และทันทีที่ผมกำลังจะเปิดเดินเข้าไปในห้องของพี่ตุลย์ต่อจากเด็กที่หนึ่ง ห้องข้างๆ ของป้าสร้อยก็เปิดผัวะออกมาพร้อมกับเสียงของใครบางคนที่ผมไม่คุ้นหู


               “ตุลา ดูสิว่าใครมา~”


               และจังหวะนั้นก็มีเพียงแค่ผมหันไปพร้อมกับตกตะลึง!









TBC
ดื่มเรดบู้ด กำลังมีคนปลุกความแสบในตัวเอส /หื้มมม

#daddybelover

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เพื่อนสาว อดีตเมีย เพื่อนชาย เด็จแม่

หมดช้อยส์ยังว้าาา

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ชะนีมาาาาา ฮ่าาาาา

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ป่านนี้เอสไขปริศนาออกหรือยังคะเนี่ย..ว่าทำไมกางเกงว่ายน้ำถึงหลวม~ :laugh:

ฮาา~ :m20: เห็นด้วยกับพี่ตุลย์เหมือนกันจ้าว่ามีเอสอยู่ด้วยแบบนี้นี่ดีจังน้าา ครอบครัวของพี่ตุลย์ครึกครื้นขึ้นตั้งเยอะเลยเน้อ ^^

รอตอนต่อไปนะค้าา..เฝ้าจอรอชมความแสบของเอส VS บุคคลปริศนา จ้าา >.<

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ ทิวสนที

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
ไอ้เอสเกรียนไม่ออกเลย

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ครอบครัวเขากำลังสุขสันต์



ยัยคนนั้น จะมาทำไม



เขากำลังปรับตัวเข้าหากัน



ยัยคนนั้นจะมาทำให้เด็กๆ เกิดปัญหาหรือเปล่า :ling1: :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :ling1:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ใครอ่ะ? ใครรรรรรรรร  :katai1:

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
เห้ย ใครมาฟร่ะ!!!

ออฟไลน์ ่KEI_jry

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
กะเทย ไม่ใช่กระเทยน้าาาาาา

อย่าบอกนะว่าผู้หญิงที่ไลน์หา มาน่ะ

เป็นแม่ของเด็กๆหรอ

มาทำไม ต้องการอะไร

สงสัย?? :ling1:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
มันเป็นเครื่องเล่นวิถีผู้ชาย ผู้ชายคนไหนไม่เล่นนี่โตขึ้นเป็นตุ๊ดแน่นอน พอเป็นตุ๊ดใช่ปะ สังคมก็รังเกียจ พ่อแม่ก็เสียใจ

ขำหนักมากค่ะ   :laugh:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ชะนีแม่มาแล้วเหรอ ม่ายยยยยยยยย

ปล.ที่พื้นที่ตรงเป้าเหลือเยอะ เพราะไอนั้น ><// ของพ่อตุลย์มันใหญ่กว่าของแกไงหล่ะไอ้เอส 5555555

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ตอนนี้จัดแบบเบาๆ ใสๆ งิ้งค์ๆ

ออฟไลน์ pe-ar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ใครมาล่ะนั่น
เมียรึ????

ออฟไลน์ hpimmc

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เมียเก่ามาอะสิ 5555555555555555555555555555555555
 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
เดาว่าชะนีในไลน์ แต่หวังว่าคงไม่ใช่เมียเก่าหรอกน่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kukkikkooka

  • insomnia~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
ขำตอนเอสใส่กางเกงว่ายน้ำของพี่ตุลย์อ่ะ 55555

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ใครมาล่ะเนี่ยยยยยยย
แต่ขอให้มาดีนะคะ(ดีในที่นี้คือไม่มาบุ่งกับพี่ตุลย์แระเด็กๆ) ไม่งั้นโดนริดน้องเอส แร้วจะหนาววว 555

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
ครายยยยมาขัดจังหวะ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
นางมาทำไมมมม

ออฟไลน์ Cc-kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
 อย่าทำแบบนี้!!!มะนค้างรุ้ม้ายยยTwT

ออฟไลน์ Cc-kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
อย่าทำแบบนี้ มันค้างนะรุ้ม้ายยยยยย!ToT

ออฟไลน์ thenista

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
    • NISTA
ตอนที่16







               เหยดดดดด สวยกว่าในรูปโปรไฟล์ใน line อีกครับ! โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้ แลตะลึง~


               “ขอโทษนะคะ พอดีเข้าใจผิดน่ะค่ะ”

               “ตุลานี่หมายถึง ตุลย์ใช่ไหมครับ?” ผมยิ้มหวานพลางใช้สายตากะขนาด รองเท้านี่น่าจะประมาณ 5 นิ้ว ส่วนสูงเดิมก็สัก 160 อกนี่น่าจะ 36 แต่ตัวนิดเดียวน่าจะเสริมฟองน้ำมากกว่าตีไปสัก 32 เอวประมาณ 25 สะโพกประมาณ 34

               “ใช่ค่ะ คือรู้จักหรอคะ?”

               “ก็เจ้าของห้องนี้แหละครับ ถ้ามาหาพี่ตุลย์ก็เข้ามาก่อนสิครับ”

               “ดีจัง นึกว่าย้ายห้องไปซะแล้ว” พี่สาวคนสวยพูดเสียงโล่งอกก่อนจะยกกระเป๋าลากใบเขื่องออกมา ผมด้วยความเป็นสุภาพบุรุษก็เลยอาสาช่วยถือกระเป๋าใบอีกสองสามใบเดินตามหลังเข้าห้องของพี่ตุลย์

               “พี่ตุลย์มีคนมาหาา”

               “ใคร?...อ้าว ลิน!” พี่ตุลย์ที่โผล่หัวออกมาจากห้องครัว เดินตรงมาหาพี่สาวคนสวยที่อยู่หน้าผม รอยยิ้มที่มีให้ผมแทบนับครั้งได้ถูกวางไว้บนใบหน้าของผู้เป็นเจ้าของบ้าน


               อื้ม...ช้อยที่ผมตั้งไว้มีอะไรบ้างวะ แฟน เมีย แม่ เพื่อน


               “ก็ตุลย์บอกว่าไม่ว่างไปรับ แต่อยากมาหาไวๆ ก็เลยบึ่งมารอที่คอนโดฯ เลย”

               “มาตั้งแต่กี่โมงละเนี่ย นานไหม?”

               “ไม่ค่อยนะ ก็มาถึงนี่ประมาณบ่ายสอง ยืนรอแป๊บเดียวป้าข้างห้องที่ชื่อป้าสร้อยก็บอกว่าตุลย์ไม่อยู่ แล้วก็ให้ไปรอที่ห้องป้าเขาน่ะ”

               “อ๋อ ไม่น่าลำบากเลยนะ ค่อยเจอกันที่ทำงานพรุ่งนี้ก็ได้”

               “ก็บอกแล้วไงว่าอยากเจอเร็วๆ แล้ว...ที่หนึ่งละ?”

               “อาบน้ำอยู่ ถ้าที่หนึ่งรู้ว่าไพลินมาน่ะ คงดีใจตายเลย”

               “นี่ก็อยากเจอทั้งตุลย์ทั้งที่หนึ่งมากๆ เหมือนกัน”


               เค้าลางๆ นี่ น่าจะเมียแล้วไหม?


               ผมกรอกตาไปมา รู้สึกตัวเองเป็นก้างขวางคอพิลึก เลยเลี่ยงเอากระเป๋าของพี่สาวคนสวยไปวางไว้ข้างโซฟาแถวๆ กล่องของเล่นของที่หนึ่ง แอบเหลือบมองหน้าของพี่สาวคนสวยทีนึงเพื่อซึมซับความงามที่ใช่ว่าผมจะได้เห็นบ่อยๆ


               ฮึก ถึงพี่สาวจะมีผัวแล้ว แต่พี่สาวก็จะเป็นนางฟ้าคนสวยของไอ้เอสผู้นี่ครับ TT


               ว่าแล้วก็ปาดน้ำตาในใจ เดินคอตกเข้าไปหาเด็กตอนต้นที่เมื่อกี้ผมเห็นมันโดนล็อคตัวนั่งอยู่กับเก้าอี้มองผมตาแป๋วอยู่ในครัว พอเห็นผมเข้าไปหา ก็ส่งเสียงอ้อแอ้ แถมยังกระพือแขนประหนึ่งว่าจะบินมาหาผมให้ได้ ถ้าเป็นคนอื่นก็คงอุ้มมันมาโอ๋เอ๋ๆ แล้ว แต่ผม..โนว! ก็เลยเมินแล้วก็ทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัวแทน


               “แอร๊ย!”

               “อะไร?”

               “อา! อ๊าา!” ผมเลิกคิ้วมองเด็กอ้วนที่มีความพยายามสูงส่งในการที่จะคุยด้วย

               “พูดอะไร ไม่รู้เรื่องเลย เอาเป็นคำๆ ดิ หวัดดีงี้นะ พูดดิ้”

               “ไอ อาา!”

               “อา อะไรละ! บอกว่า หวัดดีๆ”

               “ตุลย์...นี่ก็ลูกตุลย์หรอ?” ผมเงยหน้าจากไอ้อ้วน มองพี่สาวคนสวยที่ไม่รู้ว่าเข้ามาในครัวตั้งแต่เมื่อไหร่ ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความตกใจ งงงวย แล้วก็อะไรอีกอย่างหนึ่งที่ผมไม่แน่ใจขณะที่มองไปที่ตอนต้น


               แต่เดี๋ยวนะ... ‘นี่ก็ลูกตุลย์’ งั้นหรอ? เอ้า แล้วพี่สาวไม่ได้เป็นแม่เด็กหรอไง ถึงไม่รู้ว่าตอนต้นนี่ก็ลูกพี่ตลุย์ เวรเอ๊ย นามสกุลผมเปลี่ยนเป็นอยู่เสือกอีกแล้วอะ


               “อื้ม นี่ก็ลูกผม” พี่ตุลย์ที่เดินตามมาตอบก่อนจะเดินต่อไปที่เตาที่เขากำลังทำอะไรสักอย่างคาไว้

               “กับ...ผู้หญิงคนนั้นหรอ?”

               “อ่า ใช่”


               ผมมองคนสองคนสลับกันไปมา พยายามที่ตัวให้ลีบเล็กที่สุดก่อนจะเดินเลี่ยงไปนั่งดูทีวีแทน เรื่องครอบครัวเราไม่ยุ่งครับงานนี้


               “พ่อ เสียงใครอะครับ?...ป้าลิน!” ผมได้ยินเสียงที่หนึ่งที่คงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ท้ายประโยคเต็มไปด้วยความดีใจถึงผมไม่เห็นกับตาเพราะโซฟาที่ผมกำลังนั่งกับครัวมันอยู่เยื้องกันก็คงเดาได้ว่าเด็กนั่นคงกระโดดกอดป้าลินเป็นลูกลิงไปแล้ว

               “ที่หนึ่ง~ คิดถึงจังเลย แต่ไปแต่งตัวก่อนนะครับ แล้วเราค่อยมาเล่นกัน”

               “ป้าลินจะอยู่นานไหมครับ?”

               “วันนี้หรอ? ขึ้นอยู่กับคุณพ่อที่หนึ่งนะว่าจะให้อยู่นานแค่ไหน”

               “พ่อออ วันนี้ให้ป้าลินนอนค้างด้วยได้ไหม นะๆ นอนที่ห้องที่หนึ่ง”

               “ถ้าป้าลินเขาไม่มีปัญหาก็แล้วแต่ที่หนึ่ง”

               “ไม่มีปัญหาหรอกน่ะ เสื้อผ้าข้าวของก็อยู่ในกระเป๋า วันนี้นอนค้างกับที่หนึ่งได้สบาย”

               “เย้! งั้นเดี๋ยวที่หนึ่งไปแต่งตัวก่อนนะ ป้าลินรอแป๊บ”


               ผมเห็นเด็กที่หนึ่งวิ่งปรู๊ดเข้าไปในห้องของตัวเอง แต่อีกสองคนกับอีกหนึ่งหมูตอนต้นผมไม่เห็นนะ แต่ได้ยินเสียงอยู่ ถ้าให้เดาก็ประมาณว่า ครอบครัวสุขสันต์พ่อแม่ลูกมั้ง


               พ่อแม่ลูก...เดี๋ยวนะ ผมเพิ่งสังเกต เมื่อกี้ที่หนึ่งเรียก ‘ป้าลิน’ ถูกไหม?


               งั้นก็แปลว่าไม่ใช่แม่ของที่หนึ่งอะดิ! คืองี้ครับ ตอนแรกผมคิดว่า แบบเป็นแม่ของที่หนึ่ง ส่วนตอนต้นนี่ประมาณว่าลูกของผู้หญิงอีกคนที่อาจจะ เอ่อ ระหว่างที่พวกเขาเลิกกันอะไรบลาๆ กันไป แต่ปรากฎว่า ไม่ใช่เว๊ย! ไม่ใช่ทั้งแม่ของที่หนึ่ง ไม่ใช่ทั้งแม่ของตอนต้น


               ..แล้วยังเป็นเมียของพี่ตุลย์อยู่ไหมวะ? อาจจะแบบ ไม่ใช่แม่ของลูก แต่เมียของกูไรงี้


               ซับซ้อนฉิบหาย ไปหยิบสมุดมาร่างความสัมพันธ์แป๊บ


               “ฮึก แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง” ผมที่กำลังเปิดประตูเข้าไปหยิบสมุดในห้องนอนหันขวับตามเสียงก่อนจะเห็นตอนต้นกำลังร้องไห้จ๊า โดยพี่สาวคนสวยที่อยู่ใกล้ๆกำลังมีท่าทีลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด จนพี่ตุลย์ต้องรีบวางมือจากเตาเข้าไปอุ้มเด็กอ้วน

               “ตุลย์ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”

               “อื้มๆ ไม่ต้องคิดมาก ที่หนึ่งบอกว่าตอนต้นไม่ค่อยถูกกับผู้หญิงน่ะ” พี่ตุลย์ยิ้มให้อีกฝ่ายเป็นการบอกให้เบาใจได้ก่อนที่ตัวเองจะเดินไปมาในครัวปลอบตอนต้นที่ยังร้องไห้งอแงไม่หยุด “นี่ถ้าลูกไม่หยุดร้อง แล้วพ่อจะทำกับข้าวให้ลูกกินได้ยังไง หื้ม?”

               “เอ่อ งั้นเดี๋ยวฉันทำให้เอาไหม?”

               “ไม่เป็นไรๆ ตอนต้นเป็นเด็กกินยาก รสชาติผิดนิด ผิดหน่อยก็ไม่กินเลย”


               เด็กอะไรเรื่องมากขนาดนี้ ไม่ถูกกับผู้หญิงไม่พอ นี่ยังเลือกแดกอีก

               
               “เอส มาช่วยปลอบตอนต้นทีสิ”

               “ไม่เอาอะ พี่ก็รู้ว่าผมไม่อุ้มเด็ก”

               “เดี๋ยวฉันอุ้มให้ก็ได้ ทำความคุ้นเคยไว้ เดี๋ยวตอนต้นก็ไม่ร้องแล้ว” พี่สาวคนสวยตั้งท่าจะเอาตอนต้นมาอุ้มเอง แต่เพียงแค่นิ้วโดนเข้านิดหน่อย เด็กนั่นก็แผดเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก

               “อย่าดีกว่าลิน ขนาดป้าที่ช่วยเลี้ยงมาตั้งหลายเดือน ยังแตะตัวไม่ได้เลย” พี่ตุลย์ว่าพลางกลั้วหัวเราะ ขายาวก้าวฉับๆ มาทางผม คว้าข้อมือฉุดไปที่โซฟา กดไหล่ผมให้นั่งลง ก่อนจะวางลูกชายคนเล็กของตัวเองลงข้างๆ


               แย๊ก เด็ก!


               พี่ตุลย์ขมวดคิ้วใส่ผมที่เขยิบตัวออกห่าง มือแกร่งผลักหัวผมเล็กน้อยด้วยความหมั่นไส้ และจากแรงแล้วก็คงหมั่นไส้สุดตีนด้วยอะไรด้วย “เล่นกับตอนต้นหน่อย เห็นนายเล่นด้วยทีไร ลูกฉันก็หยุดร้องทุกที”


               “แต่...”

               “ฉันจะไปทำข้าวให้ตอนต้น”


               ละ..แล้วพี่ตุลย์ก็หันหลังเดินกลับไปที่ครัวเลย!


               ผมถอนหายใจเล็กน้อย โน้มตัวเข้าไปหาเด็กอ้วน ตาจ้องตา หน้าผากแทบจะชนกัน


               “พี่ปลอบเด็กไม่เป็นหรอกนะไอ้น้อง แต่ถ้าไม่หยุดร้อง พี่จะจับยัดใส่ถุงบิ๊กซีแล้วไปแขวนไว้หน้าประตูหน้าโรงเรียนหญิงล้วน หึ ตอนต้นเอ๋ยยย แกได้ร้องไห้เพราะโดนผู้หญิงแตะตัวจนตายแน่!”

               “...” เด็กอ้วนตอนต้นมองผมตาแป๋ว ผมไม่รู้หรอกนะว่าเด็กหนึ่งขวบมันรู้เรื่องมากน้อยแค่ไหนแล้ว แต่ที่แน่ๆ เพราะผมหล่อมากแน่นอน พอเอาหน้าไปใลก้ก็แบบ ตะลึงไง ว๊าว พี่เอสหล่อจังไรงี้ ก็เลยเงียบไปเลยครับ อิอิ


               หมับ!


               “อ๊ากกกกกกก! พี่ตุลย์!!”


               ผมร้องลั่นเมื่อไอ้เด็กอ้วนตอนต้นมันเอามืออ้วนๆ ของมันมาดึงผมของผมครับบบบบบ


               “ไม่ว่างง เล่นด้วยกันไปก่อน”


               เล่นบ้าเล่นบออะไร มันดึงหัวผมลงไม่พอ ยังกัดผมของผมอีก ไอ้นี่! ถ้ากลืนลงไปนะโว๊ย ข้าอาจจะหัวล้านแต่เอ็งตายแน่เพราะวันนี้ใส่เจลผมอย่างดี ขนาดเล่นรถไฟเหาะยังไม่ออกมาสักเส้น!


               “พี่ตุลย์!!” ผมร้องเสียงสูง


               “ทำไรกันอะ!” แต่แทนที่จะเป็นไอ้พี่ตุลย์ที่เข้ามาช่วยแงะตอนต้นออกให้ กลับเป็นเด็กที่หนึ่งยืนจังก้าอยู่หน้าทีวีแทน แต่ตอนนี้จะเป็นใครไม่สนแล้วครับ กวักมือยิกๆ เป็นสัณญาณบอกให้พาตอนต้นออกไปจากหัวกูเน! “เล่นด้วย”


               เล่นอะไร อยากเล่นมากไปสนามเด็กเล่นไป๊ เห็นมีชิงช้าอยู่น่ะ สองตัวพี่น้องเนี่ยพากันไปเลยไปเล่นชิงช้าด้วยกันเลยไป๊


               แต่การกรีดร้องในใจของผมไม่ช่วยอะไรครับ เด็กที่หนึ่งกระโดดขึ้นมาโซฟาแล้วเรียบร้อยพร้อมกับดาบของเล่นในมือที่ไม่รู้เอามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ฟันแขนผมบ้าง ขาผมบ้าง คอผมบ้างโดยมีน้องชายคอยกระชากหัวบ้าง ปีนตัวบ้าง ร้องแอร๊ยๆ บนตัวผมบ้าง


               เต็มทีเลย เต็มที!


               ในระหว่างที่ผมกำลังนอนแผ่ถวายตัวให้กับสองพี่น้องปู้ยี้ปู้ยำให้เต็มที่ สายตาก็เหลือบไปเห็นพี่สาวคนสวยที่กำลังมองตรงมาที่ผมอยู่


               ว๊าย! มองผมงี้ชอบผมเปล่าพี่ ถ้าจะจีบ จีบตอนนี้ก่อนที่จะเข้ามหา’ลัย แล้วจะมีสาวๆ มารุมเป็นคู่แข่งนะครับ~


               ผมส่งยิ้มให้พี่สาวคนสวย ตั้งท่าลุกไปหา ยังไม่แน่ใจว่าใช่เมียพี่ตุลย์หรือเปล่าแต่ขอตีแต้มไว้ก่อนเถอะ เผื่อไม่ใช่จะได้รุกเลยอะไรเลย แต่พอจะลุก ไอ้สองพี่น้องกลับนอนแผ่ราบไปบนตัวผมซะงั้น โอ๊ย ถ้าง่วงไปนอนเตียงนู่นไป ผมแงะไอ้สองตัวออกจากร่าง แต่พวกนั้นก็เกาะเหนียวแน่นจนผมต้องยอมปล่อยเลยตามเลย


               ช่างแม่ง ตอนนี้ทำไรมากไม่ได้ ยิ้มแล้วกัน เขาว่ากันว่า ยิ้มคืดจุดเริ่มต้นของทุกความสัมพันธ์ครับผม อิอิ


               ว่าแล้วก็หันไปส่งยิ้มให้พี่สาวคนสวยอีกรอบ


               “...”


               ยิ้มหวานของผมเริ่มหุบลงแบบเก้อๆ เมื่ออีกฝ่ายกลับไม่ยิ้มตอบให้ผมเลยสักนิด หนำซ้ำยังจ้องตรงมาที่ผมไม่วางตาจนรู้สึกแปลกๆ ผมแยกออกนะครับ มันไม่ใช่สายตาพิศวาสอะไรหรอก มันเป็นสายตาแบบ...อื้ม ผมอาจจะรู้สึกไปเองก็ได้ ว่าสายตาที่เขามองมาที่ผม มันเป็นสายตาแบบ...


               ไม่อยากเห็นผมอยู่ตรงนี้?


               “เอ่อ...ตุลย์”

               “หื้ม?”

               “นี่มันก็สามทุ่มแล้วนะ ดึกมากแล้ว น้องคนนั้นเขาไม่กลับบ้านกลับช่องหรอ?”  ผู้หญิงคนนั้นพูดทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาจากผม ผมเองก็จ้องมองเขา บรรยากาศแปลกๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างเรา แน่นอนมันไม่ใช่บรรยากาศสีชมพู

               “หมายถึง เอสหรอ?”
               
               “ผม ‘หลับนอน’ ที่นี่ครับ” ผมพูดแทรกตอบให้ จงใจใช้คำกำกวมพร้อมกับส่งยิ้มให้อีกฝ่าย


               ถึงผมจะยังไม่ยี่สิบแต่อย่าลืมว่าผมมีประสบการณ์เรื่องที่อยู่เป็นยังไง กับไอ้แค่คนๆ หนึ่งอยากไล่ผมออกไปจากที่นี่ มันดูไม่ยากหรอกครับ แล้วที่สำคัญเลยนะ ถ้าเป็นเจ้าของบ้านพูด ผมไม่อะไรเลย ผมพร้อมจะเก็บของออกไปได้ตลอดเวลา แต่คนที่พูดเขาไม่ใช่ไง เขาเป็นใครถึงมีสิทธิมาทำสายตาแบบนี้กับผม พูดแบบนี้กับผม


               “หมายถึงนอนค้างใช่ไหมจ๊ะ? แล้วพ่อแม่ไม่ห่วงแย่หรอมาค้างที่นี่น่ะ” เธอยิ้มให้ผม ที่จริงรอยยิ้มนั้นสวยนะ แต่พอผมเผลอรู้สึกแย่กับเธอไปแค่จุดเล็กๆ ก็กลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นมันไม่สวยเอาซะเลย


               แต่ผมผู้ชายไงครับ ถึงเมื่อกี้จะเผลอปากดีไปหน่อย แต่ก็อย่าลืมว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง และอายุมากกว่าผม มันไม่เท่เท่าไหร่หรอกที่จะเอาชนะอะไรไม่รู้กับเธอ


               “เอสอยู่ที่นี่น่ะ อยู่มาอาทิตย์กว่าๆ แล้ว พอดีพ่อแม่ของเอสเขาอยู่ไกลน่ะ” ผมนึกขอบคุณไอ้คนที่เดินถือถ้วยสีสดตรงมาหาลูกชายคนเล็กที่ยังนอนแผ่อยู่บนตัวผม

               “นี่พี่ตุลย์” ผมละสายตาจากผู้หญิงคนนั้น ช่วยคุณพ่อตุลย์แงะลูกคนเล็กออกจากตัวผม

               “หื้ม?”

               “พี่ไม่คิดจะแนะนำพี่สาวคนสวยให้ผมรู้จักหน่อยหรอ?”

               “เขาชื่อ ‘พลอยไพลิน’ เคยเป็นเพื่อนร่วมงานที่สำนักพิมพ์เดียวกัน แต่เขาเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์”

               “เป็นเมียพี่ปะ?” ผมป้องปากกระซิบให้ได้ยินกันสองคน พี่ตุลย์ขมวดคิ้วใส่ผมเล็กน้อย

               “ไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นเพื่อนกันเฉยๆ เนี่ยแหละ”


               แหม ผมอุตสาห์ถามเสียงเบา พี่แกเล่นตอบซะเสียงดังเลย


               ขณะที่ผมกำลังจะถามต่อ สายตาเหลือบไปเห็นพี่ ‘พลอยไพลิน’ เม้มปากมองพี่ตุลย์อยู่ด้านหลัง สายตาทอดมองมาอย่างผิดหวัง เสียใจ หรืออะไรสักอย่าง ทำให้ผมต้องร้องอ๋อในใจ


               เพื่อน...แต่อีกฝ่ายคิดไม่ซื่อสินะ


               ผมก้มหน้ากระซิบเบาๆ ต่อ “แล้วทำไมเขาดูสนิทกับที่หนึ่งจัง ตอนแรกนึกว่าแม่ที่หนึ่งซะอีก”

               “ก่อนที่ลินเขาจะย้ายไปที่สาขาต่างประเทศ เขาก็กลับบ้านพร้อมฉัน มาเล่นกับที่หนึ่งบ่อยๆ เนี่ยแหละเรียกว่าทุกวันเลยก็ได้มั้ง”

               “อ๋อ”

               “แล้วทำไมต้องถามกระซิบด้วยเนี่ย?”

               “เอ้า แล้วผมจะถามเสียงดังเรื่องของเพื่อนพี่ ให้เพื่อนพี่ได้ยินหรือไงเล่า” ผมพูดเสียงห้วนเบาๆ ก่อนจะผึงตัวเองขึ้นมาพิงหลังไปกับผนักโซฟา โดยยังมีไอ้เด็กที่หนึ่งเกาะเอวอยู่ ซึ่งดูอาการแล้วน่าจะหลับไปแล้วเรียบร้อย “ผมพาที่หนึ่งไปนอนก่อนนะ”

               “ฉันไปด้วยๆ”


               ผมหันมองพี่สาวคนสวย ที่กุลีกุจอตามผมที่กึ่งพาเดินกึ่งลากที่หนึ่งไปนอนในห้อง ทันทีที่เข้าห้องได้ ที่หนึ่งก็เดินโซซัดโซลงไปนอนที่เตียงเอง ผมเห็นพี่สาวที่ชื่อ ‘พลอยไพลิน’ เดินไปที่เตียงนั่นด้วย คิดว่าคงจะเข้านอนแล้วเหมือนกันมั้ง เห็นก่อนหน้านี้บอกว่าจะนอนที่ห้องที่หนึ่ง เลยตั้งท่าจะเดินออกจากห้องมา แต่ผมกลับโดนคนที่อายุมากกว่าเรียกเอาไว้เสียก่อน


               “มีอะไรครับ?”

               “เรามีเรื่องต้องคุยกัน”








TBC
มาเฉยแล้ว ว่าสรุปนางเป็นใคร
มีความรู้สึกว่าตอนหน้าน่าจะมันส์ เพราะงั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันเลยตอนหน้า 55555555555
#daddybelover

เรื่องนี้เปิดทาง DEK-D แล้วนะคะ เผื่อใครสะดวกตามทางนู้นมากกว่า
[YAOI] Daddy be Lover...รักนะครับคุณพ่อลูกสอง


สปอย

" บอกไว้ก่อน ว่าฉันชอบตุลย์ "
" งั้น... ให้ผมช่วยเอาปะคร๊าบบ~ "


/ถ้านี่เป็นพลอยไพลินจะไม่ให้ช่วย 55555555555

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อุ้ยแหม่ น้องเอสช่างน่ารัก จะเป็นกองหนุนให้คนแอบรักอย่างลินเหรอคะเนี่ย


:D

เด็กอ้วนตอนแรกนึกว่าเอสกอดแล้วจะอารมณ์ดี แต่นึกไม่ถึงว่าจะงับผมเล่น

เจ็บนะนั่น

เจอกันพรุ่งนี้นะค้าาาาาา (เค้าจะนั่งรอออ)

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ค้างมากๆ

 ปล. รู้สึกถึงพลังร้ายจากพลอยไพลิน ไม่ถูกชะตาเลยแฮะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
พลอยไพลินเล่นกับใครไม่เล่นมาเล่นกับเอสนะคะ จุ๊ๆๆๆ รอชมชะตากรรมของพลอยไพลินตอนหน้าดีกว่าค่ะ คงจะแซ่บน่าดูเลยเน้อออ :haun5: เอสสู้ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด