ตอนที่ 31.5
*เรื่องที่ถูกวางไว้แต่แรกแล้วว่าต้องมีฉากอัศจรรย์แน่นอน แต่พอเขียนๆ ไป เอ้า ใสกว่าที่คิด ก็เลยอาจจะมีคนอ่านที่อาจรู้สึกแปลกๆ หากพี่ตุลย์กับไอ้เอสจะเล่นบทอัศจรรย์กัน สามารถข้ามได้นะครัช รออ่านตอนใหม่วันพฤหัสนี้ ~ คือตอนเย็นๆ มันเป็นฟิลลิ่งคนเพิ่งดีกันไง คือเก็ทปะครับ ปกติผมนอนบนเตียงพี่ตุลย์ที่ไหนกัน แต่เพราะว่าผมเป็นคนผิด ยังไงดีละ คือถ้าเราเป็นฝ่ายผิดต่อให้คืนดีกันแล้วมันก็ยังไม่รู้สึกวางใจเต็มร้อยเลยอาจมีอ้อนๆ ง้อๆ อยู่ พอพี่ตุลย์ชวนให้วันนี้มานอนด้วยกัน หลังจากที่ถึงเวลาเข้านอนผมก็กระโดดขึ้นเตียงยอมให้พี่ตุลย์กอดแต่โดยดี ไม่มีดื้อ ฟิลลิ่งแฮปปี้โลกเป็นสีชมพูอมม่วงหลังจากผ่านวิกฤตการกระทบกระทั้ง
แต่ตอนนี้...
คือ...กูว่ามันไม่ใช่แล้ว
“นี่พี่ แกล้งหลับนี่มันชั่วมากนะ” ผมพูดเสียงเรียบขณะที่มือของพี่ตุลย์ยังสะเปะสะปะอยู่บนตัวผม เดี๋ยวก็เลื่อนไปที่ท้องบ้าง ขึ้นมาที่อกบ้าง เกือบไถลลงไปข้างล่างใต้สะดื้อเลยก็มี
ถ้าเป็นแรกๆ นี่ผมโวยวายพุ่งออกจากห้องไปนอนบนโซฟาแล้วครับ แต่อย่างที่เคยบอก พอหลังจากคืนแรกของเรา (?) คนที่สนใจเรื่องอย่างว่าก็กลายเป็นไอ้พี่ตุลย์แทน แต่เขาไม่ได้สนใจแบบเสิร์ชเน็ตแบบผมไง แต่สนใจแบบปฏิบัติ
“โทษที มันชินมือไปหน่อย”
“ชินมาจากไหน ปกติผมนอนพื้นตลอด พี่จะไปนอนกอดแบบนี้กับใครได้?”
“หมอนข้างไง”
“พี่โรคจิตหรอ นอนลูบไล้หมอนข้างเนี่ย” ผมพลิกตัวกลับไปเผชิญหน้ากับคนที่นอนกอดอยู่ทางด้านหลัง แต่ไอ้พี่ตุลย์ไม่ตอบคำถาม ทำเพียงแค่นอนมองหน้าให้ผมงงเล่น จนกระทั้งมีความคิดบางอย่างแว๊บเข้ามาในหัว ผมถึงค่อยยกยิ้มกริ่ม เอามือจิ้มแก้มอีกฝ่ายแล้วส่งเสียงแซวยาวๆ “รู้ละ~ ทำแบบนี้กับคนเก่าอะดิ ก็เลยต้องนอนกอดหมอนข้างตลอดใช่ปู่ววว~”
“อืม ก็...ประมาณนั้น” พี่ตุลย์ตอบโดยที่สายตาก็ยังวางอยู่บนใบหน้าผม
ตอนแรกก็ไม่อะไรหรอกครับ ผมเริ่มรู้แล้วละว่าพี่ตุลย์มันพวกเสือซ่อนเล็บ ถ้าหงิมๆ ทื่อๆ เป็นหุ่นยนต์คงยังไม่มีลูกโผล่มาสองคน แถมคนโตจะสิบขวบแล้วทั้งๆ ที่คนเป็นพ่ออายุยังไม่สามสิบแบบนี้ แต่พอเผลอคิดว่าเคยมีคนอื่นมาได้รับในสิ่งที่ผมได้รับก็รู้สึกตะหงิดขึ้นมาแปลกๆ
แม่ง ถึงตอนนี้จะมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่ไม่ได้หมายความว่ามึงต้องมีความคิดตุ๊ดแบบนี้ดิเอส!
ว่าแล้วก็เลิกคิด ขึ้นคร่อมพี่ตุลย์แม่ง!
“เรามาเป็นครอบครัวทางพฤตินัยด้วยดีไหม”
“รู้ตัวอยู่ใช่ไหมว่าที่พูดอยู่นี่แปลว่าอะไร?”
“รู้ดิ นี่โตแล้วจะยี่สิบอยู่แล้ว หรือพี่ไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร? ถ้างั้นผมจะอธิบายแบบภาษาชาวบ้านให้ก็ได้ พี่จะเอาเลเวลคำชัดสักเท่าไหนละครับ ผมพูดได้ตั้งแต่คำไทยรากหญ้า จนถึงราชาศัพท์อะ”
“ฉันรู้หน่า แค่สงสัยว่านายมาอารมณ์ไหน ปกติไม่เห็นจะเอาด้วย”
“ก็ตอนนี้จะ ‘เอา’ ด้วย”
“...” พี่ตุลย์มองผมด้วยสายตาระคนสงสัยปนไม่ไว้ใจ แต่มือสองข้างกลับคว้าหมับเข้าที่เอวของผมแล้ว
“จริงๆ ผมก็สนใจเรื่องพวกนี้อยู่ ถ้าไม่สนก็คงไม่เสิร์ชเน็ตแบบนั้นหรอก แล้วช่วงนี้พี่ก็อยากลองอยู่เหมือนกันใช่ไหมละ
‘อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด’ ก็แค่ขี้เกียจจะฝืนแล้ว” ผมยกยิ้มกริ่ม
“งั้นนายรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าตัวเองอยู่ตำแหน่งไหน?”
ถึงจะพอรู้ตัวอยู่คร่าวๆ ก็เถอะว่าตัวเองจะอยู่ตำแหน่งไหน แต่อะไรก็ไม่แน่นอน เดี๋ยวค่อยเข้าชาร์ตตอนทีเผลอ แล้วรู้เลยว่าใครจะได้เป็นเมียใคร~
ตุ๊บ!
“เหวอออ” ผมร้องเสียงหลง มึนงงไปชั่วครู่ก่อนจะรู้สึกตัวว่าตอนนี้ผมโดนพลิกให้มาอยู่ข้างล่างแล้วพี่ตุลย์เป็นฝ่ายคร่อมอยู่ข้างบนแทนแล้ว แถมยังเอาขามาทับขาผมเอาไว้บ่งบอกชัดเจนว่ามึงหมดสิทธิหนี
“เตรียมใจแล้วใช่ไหม?”
“หึ พี่อาจจะเป็นเมียผมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ระวังไว้ดีไหม~”
พี่ตุลย์หัวเราะในลำคอ “คิดว่าทำได้ก็ก็ทำ”
พรึ่บ!
สิ้นคำพูดของพี่ตุลย์ เสื้อนอนของผมก็ถูกถลกขึ้นเผยหน้าอกที่เปล่าเปลือย ผมยักคิ้วเล่นหูเล่นตาจงใจกวนตีนอีกฝ่ายไร้ซึ่งความเขินอายใดๆ บนใบหน้า
โธ่ มันไม่ได้ต่างจากตอนเล่นวรรณคดีในงานโรงเรียนหรอกครับ ถอดเสื้อโชว์คนทั้งโรงเรียนก็ทำมาแล้ว กับไอ้แค่ถลกให้ไอ้พี่ตุลย์ดู มันจะไปเขินอะไรจริงปะครับ?
“อยากจับนมผม อยากทำอะไร ทำเลยครับ ผมไม่ใช่ผู้หญิง ไม่รู้สึกหรอก บอกเลย”
มือใหญ่ของอีกฝ่ายวางลงบนหน้าอกของผม “เขาคงไม่สร้างเอาไว้ให้เปล่าประโยชน์หรอก ในเมื่อผู้ชายให้นมลูกไม่ได้ นายคิดว่าเขาจะสร้างอันนี้ไว้ทำไมละ?” ไม่พูดเปล่าพี่ตุลย์ใช้นิ้วคีบยอดอกของผมราวกับมันเป็นเพียงแค่เม็ดถั่ว
“จะไปรู้หรอ เป็นอวัยวะประดับ ให้พี่ถาม...อุ๊บ!” ไม่ทันจบประโยคดี คนที่คร่อมอยู่บนร่างก็เลื่อนใบหน้าเข้ามาประกบจูบปิดปากเป็นสัญญาณบอกถึงการเริ่มต้นของ ‘เซ็กซ์’ อารมณ์ บรรยากาศที่เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน ทำให้ผมรู้หน้าที่ของตัวเองมากพอที่จะหลับตา อ้าปากรอรับลิ้นนุ่มที่กำลังสอดเข้ามา ตวัดแขนหารอบคอตักตวงรสจูบที่โปรดปรานอย่างเต็มที่!
“อือ...” เสียงครางฮึ่มอย่างพอใจดังซ้อนทับกันไปกับเสียงจูบปาก เราผละออกจากกันพอให้ได้ต่อลมหายใจแต่ก็ประกบเข้าหากันใหม่อย่างรวดเร็ว คนที่เริ่มก็ให้อย่างไม่มีกั๊ก คนที่รับก็ตอบแทนอย่างไม่มีหยุดเช่นเดียวกัน
ผมขอพูดอีกที ว่าผมโคตรชอบจูบกับพี่ตุลย์เลย รู้สึกดีฉิบหาย ก่อนหน้านี้แอบกังวลอยู่ว่าต่อให้คบกับผู้ชายแล้วผมจะมีอารมณ์กับผู้ชายหรอกวะ แต่ตอนนี้เคลียแล้ว ยังไม่ต้องทำอะไรมาก แค่จูบกับจินตนาการถึงตอนอย่างว่าแค่นี้ผมก็เริ่มมีอารมณ์จนปวดหน่วงๆ ที่กลางลำตัวแล้ว
“ฮ๊าา...” ทันทีที่ปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เสียงครางหายไปมีเสียงหอบหายใจเข้ามาแทนที่ คนที่เป็นฝ่ายคุมเกมอยู่ก่อนหน้านี้ ก็ค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากระดมจูบ กัด ไล่ลงมาตั้งแต่แนวสันกราม สำคอ ไหปลาร้า เรื่อยลงมาจนถึงหน้าอก “อื้อ...”
“แล้วมาดูว่านายจะรู้สึกหรือเปล่า?”
“พยายามเข้าละ แล้วไม่ต้องไปแอบร้องไห้นะ ถ้าผมไม่รู้สึกอะไร” ผมส่งสาส์นท้าดวลด้วยสายตา แนบรอยยิ้มกวนประสาทอย่างจงใจ
“นายมากกว่ามั้งเอส อย่ามาอ้อนวอนขอทีหลังก็แล้วกัน” สิ้นเสียงของพี่ตุลย์ คนที่อายุมากกว่าก็ขบฟันลงมาเป็นการลงโทษความกวนตีนของผม ก่อนที่สัมผัสนั่นจะแปรเปลี่ยนเป็นเพียงจุมพิศที่ประทับลงบนที่หน้าอกอย่างแผ่วเบาสลับกับการเล่นลิ้นไล่เลีย ไล่จูบไปทั่วแผงอก
“อึก! จั๊ก...จั๊กจี้หน้าอกอะ” ผมพูดพลางพยายามกั้นเสียงหัวเราะ
“เดี๋ยวก็รู้สึกดีเอง”
“ไม่มีทาง ฮ่าๆ ปะ ไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน อื้อ! จั๊กจี้อะ” ผมพูดพลางกลั้วขำ พยายามใช้มือดันหัวอีกฝ่ายออกจากอกของตัวเอง แต่พี่ตุลย์กลับยึดข้อมือของผมทั้งสองข้างไว้เหนือหัว
“อย่าดื้อสิ”
“ก็มัน...พอ ฮ่าๆ พอแล้ว พี่ตุลย์! มัน..ฮ่าๆ พอเถอะนะ พอ...อ๊ะ!...อืออ” เสียงหัวเราะเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเสียงครางฮึ่มขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ อยู่ดีๆ อาการจั๊กจี้หายไปเปลี่ยนเป็นความรู้สึกใหม่เข้ามาแทนที่! “อึก!...ดะ เดี๋ยว...เดี๋ยว! มันรู้สึกแปลกๆ...”
“รู้สึกยังไง?” ริมฝีปากผละออกมาเอ่ยถามก่อนจะกลับไปละเลงปลุกอารมณ์ที่หน้าอกและตุ่มเม็ดสีคล้ำอีกครั้ง
“มัน...อะ! อืม...มมม”
บ้าเอ๊ย! มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เป็นความหวาบหวิวที่ปนความเสียวนิดๆ เป็นความรู้สึกผสมผสานที่ไม่มีอะไรสุดเลยสักอย่าง เป็นความรู้สึกประหลาดๆ ที่เต็มไปด้วยความไม่เพียงพอ
และมันก็ทำให้ยิ่งอยากได้!
“ตรงไหนที่ทำให้นายรู้สึกดีหรอ? ใช่ตรงนี้หรือเปล่า?” ผมผวาเฮือก ผงกหัวขึ้นมาดูพี่ตุลย์ที่กำลังใช้ปากครอบครองตุ่มเม็ดไตของผม ทั้งดูดทั้งดุนจนเกิดเสียงลามกเคล้าไปกับเสียงครางฮึ่มระบายความซ่านของตนเอง บิดเร้าอย่างสับสน อยากจะหนีออกจากสัมผัสที่ไม่ชินนั่นแต่ในเวลาเดียวกันก็แทบจะอยากกดหัวไอ้พี่ตุลย์ให้ทำแรงขึ้น!
“อะ โอ๊ย! ยะ...อย่ากัดแล้วก็เลียดิ” ผมซี๊ดปาก แม้รู้สึกเจ็บๆ แสบๆ แต่กลับปฏิเสธไม่ได้ว่าผมชอบอะไรแบบนี้มากกว่าสัมผัสที่แผ่วเบาราวกับตัวเองเป็นแก้วกระเบื้อง
ยังไงซะผมก็ไม่ใช่ผู้หญิง
ผมไม่ต้องการหรอกความเอาใจ แต่ผมต้องการอะไรที่ถึงใจต่างหาก!! “นายพูดว่า ‘อย่า’ ไม่ใช่หรอเอส แล้วทำไม...”
หมับ!
“อื้อ!...” ผมสะดุ้งเฮือก เผลอครางลั่นเมื่อมือใหญ่ของพี่ตุลย์ตะปบเข้าที่ส่วนกลางลำตัวเข้าอย่างจัง ซ้ำยังลูบไปมาเหมือนกับต้องการตรวจสอบว่าผมตื่นตัวไปมากแค่ไหนแล้ว “อย่าแหย่...อะ อย่าแหย่ผมสิ!”
“ใครแหย่กัน” เสียงทุ้มก้มลงกระซิบข้างหูพร้อมกับลมอุ่นๆ ที่ถูกเป่าใส่อย่างจงใจ ผมนิ่วหน้าติดหงุดหงิดเล็กน้อย ตวัดแขนไปที่สะโพกของคนที่คร่อมอยู่ด้านบน ใช้ปลายนิ้วสอดเข้าไปด้านหลังกางเกงชั้นใน
“ของจริงได้แล้วมั้ง ถ้ายังลีลาเป็นหมาหยอกไก่อยู่แบบนี้ ก็มานอนนิ่งอยู่ข้างล่างเป็นเมียผมดีกว่า”
“...ฉันก็อุตส่าห์ให้เวลานายได้เตรียมตัวเตรียมใจ แต่ในเมื่ออยากได้ ฉันก็จะทำให้”
“รออยู่เลย~”
เสียงครางฮึ่มในลำคอต่ำๆ ดังขึ้น รู้สึกอับอายกับการที่ต้องเป็นฝ่ายอ้าขาให้พี่ตุลย์เห็นส่วนที่ลับที่สุด แต่ตอนนี้ความกลัว และกังวลกลับมีมากกว่า มีมากจนมือทั้งสองข้างเย็นเฉียบ ทั้งๆ ที่คิดและทำใจมาก่อนหน้านี้แล้วแท้ๆ แต่ก็ไม่สามารถผ่อนคลายได้เลย ใจนึงก็อยากจะถอยหนี แต่...ถอยตอนนี้ก็ตุ๊ดไปปะวะ สุดท้ายผมก็ต้องเดินหน้าต่อ ทำอย่างที่ไอ้ปันบอก ‘อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด’
“เจ็บไหม?”
“ไม่อะ ไม่เท่าไหร่ แต่ว่ารู้สึกอัดอัด” ผมพูดเสียงเบา หลับตารู้สึกถึงแต่นิ้วแปลกปลอมสองนิ้วที่เข้ามาอยู่ในร่างกาย
ผมก็อ่านจากเน็ตมาเยอะนะ แต่พอเจอของจริงแม่งยิ่งกว่าอะ นี่สินะ ที่เขาเรียกว่าเรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย รู้สึกแปลกๆ ฉิบหาย ไหนใครบอกรู้สึกดีไง!
“ฉันจะใส่นิ้วที่สามแล้วนะ”
“โอ...อะ! โอ๊ย เจ็บ” ผมแหกปากลั่น จะดิ้นหนีให้นิ้วทั้งสามหลุดออกจากตัวก็ไม่ได้เพราะโดนไอ้พี่ตุลย์กันไว้ สุดท้ายผมก็ทำได้เพียงแค่รัวมีตีไหล่ไอ้พี่ตุลย์ระบายความเจ็บปวด “เจ็บๆๆๆ!”
“ผ่อนคลายหน่อยสิ”
“ผ่อนคลายอะไรเล่า! พี่กำลังแหกตูดผมอยู่นะ!”
“อย่าพูดอะไรน่าเกลียดๆ สิ”
“อือ...นี่ถ้าไม่ติดว่าอายุมากกว่า จะด่าว่าไอ้สัสแล้ว ฮืออ” ผมนิ่วหน้า รู้สึกขอบคุณที่พี่ตุลย์ไม่ฝืนทะลุทะลวงเข้ามาแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เอาออกไป คาเอาไว้อย่างนั้นให้ผมทรมานเล่น “มันเจ็บอะ...”
“...เฮ้อ ช่วยไม่ได้” สิ้นคำพูดพึมพำของพี่ตุลย์ ตัวผมที่อยู่ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนเมื่อกี้ก็กลายเป็นนอนหงายไปกับเตียง สะโพกลอยขึ้นสูงเล็กน้อย แต่ไม่มีอะไรน่าตกใจเท่ากับ อะ ไอ้พี่ตุลย์มันก้มลงไปที่หว่างขาผมแล้ววว ชะ ใช้ปากแล้วด้วย!
“เดี๋ยว! เดี๋ยวทำอะไรเนี่ย!?”
“อย่าไปสนใจเรื่องอื่น สนใจที่นิ้วฉันสิ”
“เดี๋ยวๆ พี่ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้! พี่อายุเยอะกว่าผมตั้งเยอะอะ ทำแบบนี้ไม่ดีหรอก ออกไปได้แล้ว!”
“ฟังที่ฉันพูดสิเอส” เสียงทุ้มนั้นพูดดุผมเบาๆ ก่อนที่จะกลับไปครอบส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวของผมอีกครั้ง
“อะ อื้ออ!...” เสียงครางหลุดออกมากอย่างพึงพอใจ ส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของผู้ชายก็คงไม่พ้นอวัยวะที่อยู่ในปากของพี่ตุลย์ตอนนี้ แค่โลมเลียมันเพียงนิดเดียวอารมณ์กามที่เกือบหดหายไปเพราะความเจ็บก่อนหน้านี้ก็กลับฟื้นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วจนน่าอัศจรรย์ “อือ...อาา...อืม..มม”
“ตอนนี้ ยังเจ็บอยู่ไหม?”
“อื้อ?” ผมยันตัวเองขึ้นมาเล็กน้อย เพ่งความสนใจไปทั่วร่างกายหาจุดหมายที่พี่ตุลย์กำลังหมายถึง ก่อนจะรู้สึกถึงนิ้วทั้งสามที่เข้ามาอยู่ข้างในทั้งหมดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้กำลังหมุนวน ค้นหาอะไรบางอย่างอยู่ภายใน
พี่ตุลย์กำลังทำอะไร...
“อ๊าา!! อุ๊บ!” ผมตะครุบปากตัวเองแทบไม่ทันเมื่อเสียงครางดังลั่นเผลอหลุดออกไปอย่างไม่ตั้งใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือความตกใจของผมกับพี่ตุลย์ที่มีต่อปฏิกิริยาเมื่อกี้
มะ เมื่อกี้มันคืออะไร...
“...ตรงนี้สินะ”
“!!...เดี๋ยว!” ผมรีบร้องห้ามอย่างไวเมื่อเห็นรอยยิ้มถูกใจของพี่ตุลย์ ไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งตัว ก็ถูกร่างที่ใหญ่กว่านั้นโถมลงมาพร้อมกับที่นิ้วทั้งสามกดย้ำลงจุดที่เดิมที่ผมเผลอร้องลั่น ความเสียวซ่านแผ่ขึ้นมาอย่างรวดเร็วทุกครั้งที่ปลายนิ้วทั้งสามนั่นกระทุ้งโดน เสียงครางดังออกมาไม่หยุดหย่อนจนผมต้องยกมือที่เย็นเฉียบปิดปาก เพื่อไม่ให้ห้องข้างๆ ที่หนึ่ง หรือแม้กระทั้งตอนต้นได้ยินจนกระทั้งตื่นขึ้นมา “อะ! อ๊า! ยะ หยุดก่อน!”
เวรเอ๊ย! เวรเอ๊ย! นะ นี่มันอะไรกัน นี่มันอะไร! ความรู้สึกที่แตกต่างจากที่เคยรู้จักมาทั้งหมดนี่คืออะไร!?
ปึง!
ผมทุบไหล่ของพี่ตุลย์เท่าที่แรงยังพอมี รู้สึกถึงร่างที่สั่นสะท้านไปทั่วทั้งตัวราวกับคนหมดแรง รู้สึกกลัวความรู้สึกประหลาดที่ไม่รู้จัก แต่ในขณะเดียวกันกลับรู้สึกดีมากๆ จนแทบจะควบคุมเสียงครางของตัวเองไว้ไม่ได้ รู้ตัวอีกที ผมก็อ้าขาให้อีกฝ่ายกว้างที่สุดเท่าที่ผมจะอ้ากว้างได้!
“จะเสร็จเลยก็ได้นะ”
“อือ!...อื้มม อือ...อืออ!”
“ไม่ต้องฝีนเอาไว้ จะปล่อยก็ปล่อยมาเลย บีบนิ้วฉันขนาดนี้แปลว่าตรงนั้นคงจะรู้สึกดีมากๆ สินะ”
“อื้ออ...อือ!”
ผมตวัดสายตามองคนที่ยังเอาแต่ย้ำจุดกระสันในร่างผมอยู่ภายใน เหลือบมองส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายที่โป่งพองขึ้นมาเหมือนกันก่อนตัดสินใจเอื้อมมือข้างหนึ่งจับส่วนนั้นเอาไว้แน่น!
“เฮ้ย!”
ถ้าวันนี้มันจะมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ต้องเอาให้สุด! ผมไม่ได้อ่อนด๋อยขนาดนี้ใช้นิ้วก็เสร็จหรอก!
“เข้ามา...”
“หะ?”
“ผมบอกว่าให้ใส่เข้ามา!”
“จะบ้าหรอ เดี๋ยวนายก็เจ็บน่ะสิ!”
“แล้วไงเล่า! เข้ามาเถอะหน่า!” ผมพูดเสียงเด็ดเดี่ย พร้อมกับบีบตุลย์น้อยของพี่ตุลย์เป็นการบังคับกลายๆ ว่าถ้าไม่ทำตามที่ผมพูด ก็เละเป็นข้าวหลามคามือผมแน่ พอรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นว่าผมนอนราบอยู่กับเตียง ขาถูกยกและมีสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วทั้งสามถูกดันบางส่วนเข้ามาอยู่ภายในร่างกายแล้ว!
“อือ! เจ็บ!!”
“นืออ...แน่น หายใจเข้าลึกๆ”
“รู้หน่า อึก! อ่านมาเยอะกว่าพี่อีก แต่ว่า...อือ! อืม...มม”
เจ็บฉิบหาย...แล้วทำไมในเน็ตมันถึง...
“มองหน้าฉัน เอส มองหน้าฉัน”
“อืมม!...อือออ!” ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นพยายามจะมองหน้าพี่ตุลย์ตามที่สั่ง ในขณะเดียวกันก็พยายามหายใจเข้าออกลึกๆ ผ่อนคลายร่างกายไม่ให้เกร็ง
“ดีแล้ว หายใจแบบนั้นแหละ เปิดปากเอาไว้ แล้วก็หายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ”
ผมทำตามเสียงของพี่ตุลย์ สบเข้ากับตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงของคนที่อยู่เหนือร่าง ปรับร่างกายตัวเองให้ผ่อนคลาย รู้ตัวอีกทีส่วนนั้นของพี่ตุลย์ก็เข้ามาอยู่ในร่างผมทั้งหมด และมือใหญ่ของเขาก็กำลังประคองใบหน้าของผม
“พี่...ตุลย์” ผมเรียกเสียงเบาเคล้าเสียงหอบหายใจ เอนหน้าอิงแอบไปกับฝ่ามือใหญ่ ก่อนที่พี่ตุลย์จะยกประคองใบหน้าของผมขึ้นแล้วก้มลงประทับจูบ
“โทษทีนะ ฉันว่า ฉันทนไม่ไหวแล้วละ”
“อะ...อ๊าาา!!” ทันทีที่พี่ตุลย์กระแทกกระทั้นเข้ามาภายใน ผมก็ร้องลั่นเสียงดังทันทีด้วยความเจ็บ น้ำตาไหลออกมาเองอย่างห้ามไม่อยู่ เช่นเดียวกับเสียงจนต้องยกมือตะครุบปากตัวเองเอาไว้อีกหน “เจ็บ! เจ็บ! อืมมมม!”
“ทนหน่อย...ฉันจำได้ว่าแถวๆ นี้”
ตึง!
“อื้อออ!!” เสียงหัวเตียงกระแทกกับผนังเป็นจังหวะเดียวกับที่ส่วนกลางลำตัวของพี่ตุลย์กระแทกเข้ากับอะไรบางอย่างภายในร่างกายผม ความเสียวแปล๊บแล่นไปทั่วทั้งร่างรวมกันที่เอสน้อยที่ชูชันสั่นระริกทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เอื้อมมือไปแตะ “ตรงนั้น...”
“หาเจอแล้ว”
เพียงเท่านั้น รอยยิ้มถูกอกถูกใจก็ฉายขึ้นบนใบหน้าของพี่ตุลย์ เขาย้ำจุดเดิมในร่างกายของผมอีกครั้งด้วยส่วนที่แข็งขืดอยู่ภายในร่างกาย เสียงครางพึงพอใจในรสเซ็กซ์ดังน่าอาย แต่เสียงหัวเตียงกระแทกกับผนังตามจังหวะการกระแทกกระทั้นนั้นเป็นอะไรที่ไม่แพ้กัน
“อื้อออ! อือ...! ยะ หยุด! เบาหน่อย อื้ออ…หรือไม่ก็อย่าทำตรงหัวเตียง มันกระแทกกับผนังอะ”
“กลัวเขารู้ว่าพวกเราทำอะไรกันอยู่หรอไง?”
“...อื้อ!”
“แต่นายดูเหมือนจะตื่นเต้นนะ” เสียงทุ้มพูดกระซิบพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “หน้าลามกเชียว” ...แล้วเราก็จูบกัน
และที่สำคัญนะ คำพูดนั่นมันควรเป็นคำพูดของผมมากกว่าอีกครับพี่ตุลย์
TBCมาเกินเวลา 3 ชม. ฮือออออออ
#daddybelover