แรง.ร้าย.รัก...คุณเมียภาคบังคับ ตอนที่ 11 Tru.......Tru........Tru
"ฮัลโหล...." ใครโทรมาแต่เช้าอย่างนี้ว๊ะเนี่ย! ผมเพิ่งจะได้นอนเมื่อตอนตีห้านี่เอง แต่พวกคุณอย่าคิดกันไปไหนไกลนะ ที่ผมพึ่ง
จะได้นอนก็เพราะว่าหลังจากที่ไอ้คุณลากไอ้ธาราขึ้นห้องมันไปแล้ว คงไม่ต้องเดากันให้ยากหรอกมั้งครับว่ามันลากไอ้ธาราไป
ทำอะไร เพราะว่าไอ้คุณก็เป็นคนที่หวงห้องนอนหวงพื้นที่ส่วนตัวพอๆกับผม อ่า..เข้าเรื่องต่อดีกว่า หลังจากที่ไอ้คุณขึ้นห้องไป
ก็มีวัยรุ่นกลุ่มใหญ่เข้ามาป่วนในร้านผมจนเละเทะไปหมด ลูกคงลูกค้ากระจากหายไปหมด กว่าจะช่วยลูกน้องไล่จับไอ้พวก
เด็กเวรนั่นได้ก็แทบบ้า แล้วสุดท้ายก็ต้องไปจบที่สถานีตำรวจอยู่ดี ช่วงนี้นี่ผมไม่พ้นคุกพ้นตารางเลยนะพวกคุณคิดเหมือน
กันมั้ย? ถึงจะได้ค่าเสียหายมาบ้าง แต่งานนี้ผมพูดได้เลยว่าทุนหายกำไรหดเสียหายหลายตังค์แน่ๆเลยครับ ยิ่งพอกลับมาเห็น
สภาพร้านตัวเองนี่ผมลมแทบจับเลย เพราะที่นี่เหมือนบ้านของผมไงหล่ะครับก่อนที่ผมจะแต่งงานกับหนูพัสผมทำงานที่นี่
กินนอนที่มากกว่าที่บ้านพ่อซะด้วยซ้ำ แต่หลังจากวันนี้สาขานี้คงจะต้องปิดปรับปรุงสักอาทิตย์สองอาทิต์เป็นอย่างต่ำหน่ะ
แหละครับ เรื่องเมียก็ยังไม่เคลียร์ เรื่องพนักงานบัญชีรวมหัวกันลาออกก็ยังไม่รู้เรื่อง มาเรื่องนี้อีกแล้ว เฮ้อ!!! เหนื่อย!!!
"สวัสดีค่ะคุณภาส นี่ป้าชื่นเองนะคะ คือป้าจะโทรมาบอกว่าคุณพัสเธอไม่สบายไข้ขึ้นสูงมากเลยหน่ะค่ะตอนนี้"
พอได้ยินสิ่งที่ป้าชื่นแม่บ้านคนเก่านแก่ของพ่อผมบอกออกมา มันทำให้ผมตาสว่างหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเลยครับ
"แล้วตอนนี้หนูพัสอยู่ไหนครับป้า มีใครพาไปโรงพยาบาลรึยัง??" ผมถามด้วยความร้อนลน
"ยังเลยค่ะ ป้ากับเจ้าสนจะช่วยกันพาไปหาหมอ แต่คุณพัสเธอไม่ยอมนะค่ะ ป้าพูดจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้วค่ะ ก็เลยโทรมาแจ้ง
ให้คุณภาสรู้ก่อนนี่แหละค่ะ" ป้าชื่นบอกออกมาเสียงอ่อย
"ครับๆ เดี๋ยวผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละครับ ป้าช่วยอยู่ดูหนูพัสให้ผมก่อนนะครับ" ผมตัดสายทิ้งทันที่ที่พูดจบ และไม่รอฟัง
คำตอบใดๆจากป้าชื่นอีกเลย คว้าเสื้อคลุมมาใส่เสร็จ ผมก็ออกมาทั้งชุดนอนอย่างนั้นแหละ ก่อนที่จะขึ้นขับรถคู่ใจ เหยียบจน
มิดไมล์ โดยไม่สนใจว่าจะเกินที่กฎหมายกำหนดหรือเปล่า ป่านนี้คนที่ขับตามหลังผมมาคงด่าไปถึงต้นตระกูลผมแล้วหล่ะ
.
.
.
.
.
."หนูพัสเป็นไงบ้างป้าชื่น!!" พอมาถึงบ้านผมก็รีบสาวเท้าขึ้นห้องทันที พอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นป้าชื่นนั่งเฝ้าหนูพัสอยู่ที่
พื้นห้องข้างๆเตียงที่มีหนูพัสนอนอยู่
"ก่อนหน้านี้ป้าเช็ดตัวให้คุณพัสไปแล้วค่ะ แต่ไข้ก็ยังไม่ลดเลย พอจะพาไปหาหมอเธอก็ไม่ยอม บอกว่าไม่ไปท่าเดียวเลยค่ะ"
ป้าชื่นก้มหน้าก้มตาตอบ สงสัยกลัวว่าผมจะต่อว่ามั้งครับ
"ป้าไปทำงานของป้าเถอะ เดียวทางนี้ผมจัดการเอง ยังไงก็ขอบคุณที่ป้าช่วยดูแลหนูพัสในตอนที่ผมไม่อยู่ด้วยนะครับ"
ผมพูดบอกขอบคุณออกจากใจจริง ถ้าไม่มีป้าชื่นไม่รู้ว่าป่านนี้หนูพัสจะเป็นยังไงบ้าง เพราะว่าตอนนี้ผมไม่สามารถที่จะดูแล
หนูพัสอย่างใกล้ชิดเหมือนที่ผ่านมาได้เลย จนกว่าผมจะพิสูจน์ตัวเองให้หนูพัสได้เห็นว่าผมก็เป็นสามีที่ดีได้เหมือนกัน
"หืออ....ตัวร้อนจี๋เลย" ผมนั่งลงตรงที่ว่างบนที่นอนข้างๆหนูพัส ก่อนที่จะทาบมือสัมพัสหน้าผากมนของหนูพัสเพื่อที่จะ
วัดอุณหภูมิให้แน่ชัด ผลก็คือตัวร้อนจัดเลยครับ เหมือนกับที่ป้าชื่นบอกก่อนหน้านี้เลย
"เฮ้อ!!...เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้อีกรอบก่อนแล้วกัน แล้วเราค่อยไปโรงพยาบาลกันนะครับ" ผมบอกกับหนูพัสที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง
รู้ราวเพราะพิษไข้อยู่ตอนนี้ ก่อนที่ปิดแอร์และไปเตรียมอุปกรณ์เช็ดตัวมาเช็ดตัวให้หนูพัสได้สบายตัวขึ้นกว่านี้อีกนิด
"ฮื่ออออ..........หนูพัสหนาวฮะคุณย่า....." ผมจัดการจับหนูพัสถอดเสื้อจนหมดเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่าเลยครับ แต่อย่าพึ่งคิด
กันไปไกลนะครับ เวลาอย่างนี้ไม่มีอารมณ์จะไปคิดถึงเรื่องอย่างว่าหรอกครับ ถึงผมจะหื่นผมก็หื่นเป็นเวร่ำเวลานะครับ
หน้าหนูพัสตอนนี้ก็เต็มไปด้วยเหงื่อ ผิวที่เคยขาวๆเห่อแดงเพราะพิษไข้ไปหมดทั้งตัวเลย และทันทีที่ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด
ของผมสัมผัสถูกผิว หนูพัสก็ครางออกมาเหมือนคนละเมอเลยครับว่าหนาว ทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่
"ทนเช็ดตัวให้เสร็จก่อนนะครับ เดียวพี่พาไปหาหมอ จะได้หาย" ผมพูดเองเออเองแล้วก็พยายามเช็ดตัวหนูพัส โดยเช็ดย้อน
รูขุมขนแรงๆ โดยที่ไม่ลืมที่จะใช้ผ้าอีกหลายๆผืนชุบนำ้บิดหมาดเหน็บไว้ตามจุดชีพจร รักแร้ ขาหนีบ คอ เพื่อระบายความร้อน
ออกจากตัวหนูพัสให้ได้มากที่สุดหน่ะครับ ที่ผมทำได้คล่องขนาดนี้ก็เพราะว่าคุณแม่เคยทำให้ผมอย่างนี้เช่นกันตอนที่ผมป่วย
เมื่อสมัยเด็กๆ
"ไม่ไปนะฮะคุณปู่ หนูพัสไม่ไปนะฮะคุณย่า คุณหมอฉีดยาหนูพัสเจ็บ ฮึก!" อ้าว!! แล้วกันเมียผม ร้องไห้ซะแล้ว สงสัยจะมี
ความหลังกับเข็มฉีดยา ทั้งๆที่ผมพูดแค่ว่าจะพาไปหาหมอเท่านั้นเอง เท่านั้นยังไม่พอผมเช็ดตัวไปก็ต้องสู้กับคนป่วยจอมดื้อ
ไปด้วย ทั้งที่ยังไม่ยอมลืมตา ปากก็เพ้อเรียกหาแต่คุณปู่คุณย่า แต่มือนี่ปัดโดนทุกที่ที่ผมเช็ดเลยหล่ะ
"โอเคๆ เสร็จแล้วครับๆ ไม่ไปก็ไม่ไป ชู่ว์!! อย่าร้องนะครับอย่าร้อง" ผมจัดการใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ให้หนูพัสทันทีที่เช็ดตัวเสร็จ
ไข้ก็เริ่มลดลงบ้างแล้วแต่ตัวหนูพัสก็ยังร้อนอยู่ดี เอาไว้เดี๋ยวผมคอยเช็ดตัวให้อีกซักพักถ้ายังไม่ดีขึ้นไปมากกว่านี้ก็คงต้อง
พาไปหาหมอจริงๆแล้วหล่ะครับ ผมจะไม่ยอมใจอ่อนอย่างนี้อีกแล้ว
.
.
.
"มีใครอยู่แถวนี้บ้าง!!!" ผมตะโกนเรียกหาเด็กในบ้านที่ลงมาถึงชั้นล่าง
"คุณภาสจะเรียกป้า มีอะไรคะ" เป็นป้าชื่นเหมือนเดิมครับที่เดินมาถาม แล้วคนอื่นมันไปไหนกันหมดเนี่ยปล่อยให้คนแก่
วิ่งวุ่นทำงานอยู่คนเดียว
"ผมอยากได้แผ่นเจลลดไข้ กับยาให้หนูพัสหน่ะครับป้า แล้วนี่คนอื่นไปไหนกันหมดครับ? ตั้งแต่ผมเข้าบ้านมาผมก็เห็นแค่
ป้าวิ่งวุ่นทำงานอยู่คนเดียว" ผมบอกในสิ่งที่ต้องการ ก่อนที่จะถามถึงเด็กในบ้านที่เหลือ
"เอ่อ....พวกนั้นก็แยกย้ายไปทำงานของตัวเองกันหน่ะค่ะ คุณภาสรอสักครู่นะคะเดี๋ยวป้าจะไปจัดยามาให้ค่ะ" ป้าชื่นอ้ำๆอึ้งๆ
ตอบ ก่อนที่จะเลี่ยงไปหยิบยามาให้ผม ผมหวังว่ามันจะไม่เป็นอย่าที่ผมกับไอ้คุณคิดหรอกนะ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆผม
จะไม่ปราณีเลยคอยดู
.
.
.
"คุณย่ากอดหนูพัสหน่อยฮะ หนูพัสหนาววว....." หลังจากที่ผมแปะแผ่นเจลลดไข้และป้อนยาด้วยความอยากลำบากเพราะ
คนป่วยดิ้นไปดิ้นมาไม่ยอมอยู่เฉยๆเสร็จแล้ว พอผมก้มลงห่มผ้าให้เจ้าตัวก็กอดรั้งคอผมไว้เน่นซะงั้น สงสัยจะฝันถึงคุณปู่
คุณย่าอยู่ มั้งครับถึงได้อ้อนขนาดนี้
"หนูพัสปล่อยพี่ก่อนครับ พี่ไม่อยากให้เราคิดว่าพี่ฉวยโอกาสนะ" ผมบอกและพยายามที่จะแกะมือของหนูพัสออกจากคอตัวเอง
ดูเหมือนผมเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษเลยใช่มะ แต่ความจริงมันไม่ใช่อย่างที่พวกคุณคิดหรอกครับ ตอนนี้ผมหน่ะอยากจะกอดเมีย
ตัวเองจนแทบบ้า แต่ก็ติดที่กลัวว่าเจ้าตัวเค้าถ้าตื่นมาแล้วจะหาว่าผมฉวยโอกาสทั้งๆที่เรายังไม่ได้เคลียร์กันเลยนะสิครับ เดี๋ยวจะ
พาลโกรธผมหนักมากกว่าเดิมซะเปล่าๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมยอมอดตอนี้ดีกว่า ก็คนมันไม่อยากห่างเมียนานๆนี่ครับ
"งื้อออออ.....คุณย่าไม่รักพัส ฮึก!!" เอาๆเข้าไป เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาเลยเชียว ผมว่าตอนหนูพัสปกตินี่ดื้อแล้วนะครับ แต่พอ
มาเจอตอนป่วยๆแบบนี้นี่ดื้อสุดๆไปเลย แต่ก็น่าร๊ากกกกก
"ก็ได้ครับๆก็ได้ ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วอย่ามาพาลโกรธพี่ก็แล้วกันนะในเมื่อพัสเป็นคนกอดพี่ไว้เองอย่างนี้หน่ะ" ผมบอกก่อนที่จะ
แทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันกับหนูพัส พอผมนอนลงแล้วหนูพัสก็ขยับเข้ามากอดผมไว้ทันทีเลย
"เฮ้อ!! หวังว่าตื่นมาเจอพี่แล้วจะไม่อาลาวาดนะ พี่รักหนูพัสนะครับ"
ฟอดดดดด...........
ผมหอดแก้มหนูพัสสูดกลิ่นหอมเฉพาะตัวของหนูพัสให้เต็มปอด ก่อนที่จะกระชับอ้อมแขนกอดหนูพัสให้แน่นขึ้นอีกนิด
ไหนๆก็ไหนๆแล้วผมขอใช้โอกาสช่วงนี้ให้คุ้มก็แล้วกันครับ ฮ้าว!!.....เริ่มง่วงแล้วซิครับ ลองนับเวลาดูแล้วเมื่อเช้าผมเพิ่งจะ
นอนไปได้ไม่ถึงสองชั่วโมงดีเลย ก็รีบบึ่งมานี่ซะแล้ว ผมขอตัวก่อนหล่ะครับ
.
.
.
.
.
.
"อื้อออ...ปวดหัวชะมัด (เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมดเลย แล้วนี่แขนใครหล่ะเนี่ย) เฮ้ย!! ไอ..ไอ้..พี่ภาส" พัสกรรู้สึกตัวตื่นขึ้น
เพราะอาการปวดเมื้อยตามตัวหลังจากที่โดนวัตถุประหลาด(?)นอนทับมาเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่หลังจากที่สำรวจ(?)แล้ว
ว่าวัตถุประหลาด(?)นั้นคืออะไร พัสกรก็นับหนึ่งถึงสิบรวบรวมกำลังยกขาถีบเข้าอย่างจังจนวัตถุประหลาด(?)นั้นตกเตียงไป
ปึก/ตึ้ง
"โอ้ยยยยย!!! หนูพัสถีบพี่ทำไมเนี่ย!!" ณัฐภาสโอดโอยเสียงดังทันทีที่ความเจ็บมาเยือน ความจริงแล้วณัฐภาสตื่นก่อนพัสกร
ซักพักนึงแล้วแต่เป็นเพราะว่ามัวแต่นอนมองคนในอ้อมกอดที่สุดรักสุดหวงและคิดหาทางคืนดี เพราะตอนนี้คนๆนี้เข้าใจเค้า
ผิดไปไกลแล้ว แถมยังดื้อเงียบอีกต่างหาก แต่ในขณะที่ติดอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองคนในอ้อมกอดของเค้าก็เริ่มขยับและ
เหมือนกับว่าจะรู้สึกตัวตื่น ณัฐภาสก็เลยทำเนียนแกล้งทำเป็นหลับเพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าพัสกรตื่นขึ้นมาแล้วจะพูด
หรือจะทำอย่างไรเมื่อเห็นเค้ามานอนกอดอยู่อย่างนี้ บางทีพัสกรอาจจะหลุดพูดอะไรที่ทำให้เค้าดีใจออกมาบ้างก็ได้ แต่ไหนได้
ความคิดก็คือความคิด เพราะความจริงในชีวิตจริงนั้นเมียคนสวยของเค้าคนนี้ปลุกสามีด้วยลูกถีบแบบเต็มแรงเลยนะสิ (T_T)
"คุณ...คุณมานอนที่นี่ได้ยังไง ผมบอกให้คุณไปอยู่ที่อื่นไม่ใช่หรอ?" พัสกรถามอย่างตั้งแง่
"ก็หนูพัสไข้ขึ้นตัวร้อนจัดเลย พี่ก็เลยมาดูแลอยู่นี่ไง ไหงถึงตอบแทนกันด้วยฝ่าเท้าอย่างนี้หล่ะ" ณัฐพูดด้วยเสียงกระเง้ากระงอด
หน้างอแต๋วแตก ซึ่งมันเป็นอะไรที่หน้าหมั่นไส้มากสำหรับคนที่นั่งมองอยู่บนเตียง ที่อยู่ดีๆผู้ชายตัวถึกๆอย่างกับตึกที่ขึ้นชื่อว่า
เป็นสามีของตนมาทำท่าทางอย่างนี้ พัสกรรับม่ายด้ายยยยย......
"ผมไม่ได้ขอ"
"ห้ะ!!!"
"หยุด!! หยุด คุณอย่าไปทำท่าทางอย่างนี้ที่ไหนอีกนะ" รีบยกมือห้ามก่อนที่คนตรงหน้าจะเป็นไปมากกว่านี้
"ทำไมอ่ะ?" ถามอย่างไม่เข้าใจ
"มันทุเรศ และหน้ารังเกลียดมาก!!!" พัสกรบอกและมองด้วยสายตาเอือมๆ
"..........." แต่อีกคนกลับหน้าเหวอช็อคอ้าปากค้างไปแล้ว อะ...อะไรว๊ะ!! ผู้ชายปากร้ายคนนี่เป็นใคร ใครเอาเมียเค้าไปซ่อนไว้
ที่ไหนรึเปล่าว่ะเนี่ย หนูพัสตอนนี้ไม่เหมือนกับหนูพัสตอนนั้นเลย คนที่เงียบๆหวานๆแบ๊วๆหายไปหนายยยยยย.......เหลือแต่
หนูพัสปากจัดคนนี้เนี่ยยยยยยย...........โอ้วววววว.....ม่ายยยยยยยยย
"อ่าวๆ ว่าแล้วยังจะทำหน้าบ้าๆอย่างนั้นอีก ออกไปเลยนะออกไปเลย คุณมาจากทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลย ผมยังไม่อนุญาติ
ให้คุณกลับมาอยู่ที่นี่นะ!!" ยังไม่ทันที่ณัฐภาสจะตั้งสติดีเลยหลังจากที่อึ้งจากการเป็นไปของคนที่ขึ้นชื่อว่าเมีย อีกคนก็แว๊ดไล่
เค้าเสียงดังขึ้นมาอีก
"ก็....ก็....หนูพัสไม่สบายนี่ พี่ก็เลยมาดูแล พี่ยังไม่ลืมข้อตกลงของเราหรอก อย่าน้าา...อย่าโกรธพี่เลย แค่ที่พัสเป็นอยู่นี่พี่ก็จะ
บ้าตายห่าอยู่แล้ว" ณัฐภาสก็ยังแกล้งทำท่าทางตุ้งติ้งในแบบที่อีกคนไม่ชอบอยู่ดี
"อี๋....ยังๆ คุณยังไม่เลิกทำท่าท่างน่ารังเกลียดนี่เสียทีอีก ฮึ๋ย!!" พัสกรแสดงออกมาว่ารับไม่ได้อย่างชัดเจนที่ต้องทนเห็นผู้ชาย
ตัวโตๆกล้ามบึกๆซิกแพคแน่นๆทำท่างทางบ้องแบ๊วอย่างนี้
"อะไรคะ? เมียขา ทำไมมองสามีด้วยหน้าอย่างนั้นหล่ะค่ะ สามีทำอย่างนี้แล้วไม่หน้ารักหรอคะ?" คราวนี้จีบปากจีบคอดัดเสียง
หนักขึ้นมากกว่าเดิมอีก แถมยังแกล้งคลานขึ้นเตียงเข้าหาอีกคนทำเหมือนกับตัวเองเป็นแมว(?)น้อยๆเสียอย่างนั้น
(อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิหนูพัสยิ่งพี่เห็นเห็นเมียจ๋าทำหน้าเหวี่ยงอย่างนี้ผัวจ๋ายิ่งชอบ คึ คึ)
ณัฐภาสค่อยๆคลานเข้าหาพัสกรช้าๆอย่างยั่วยวน(?) ส่วนพัสกรก็ยังคงตกตระลึงกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของอีกคน จนเผลอ
ขยับถอยหลังจนหลังชนหัวเตียงนั่นหมายถึงว่าเค้าไม่สามารถหนีได้อีกแล้ว ยิ่งเห็นอีกคนทำหน้าเหวอๆท่าทางหวาดๆก็ยิ่ง
อยากแกล้ง อยากแหย่ เพียงห่างกันแค่คืนเดียวก็ทำเค้าแทบคลั่งจนแทบบ้า งานนี้คงต้องอาศัยความหน้าด้านหน้ามึนของ
ตัวเองเข้าสู้อย่างเดียวแล้วหล่ะ ณัฐภาสคลานเข้าหาอีกคนจนตอนนี้หน้าทั้งสองห่างกันแค่ไม่ถึงคืบ มองสำรวจใบหน้าสวยที่
สุดรักแสนหวง ตากลมโตที่เหมือนลูกวางน้อยคู่นี้ที่ทำให้เค้าหลงตั้งแต่แรกเห็น จมูกรั้นๆที่บ่งบอกถึงนิสัยความไม่ยอมใคร
ของเจ้าตัว ถึงแม้ว่าภายนอกใครๆอาจจะมองเห็นว่าน่ารัก อ่อนหวาน เหมือนจะไม่สู้คนก็ตาม แต่แท้ที่จริงแล้วนิสัยของ
แม่กวางน้อยตัวนี้นั้นอ่อนนอกแข็งใน ใจดีอ่อนโยนแต่ก็แน่วแน่เด็ดเดี่ยวในความคิดความตัดสินใจของตัวเองอยู่มาก
ปากกระจับหน้าจูบนั่นอีกที่ชอบพูดๆบ่นๆโดยเฉพาะเวลาที่เค้าทำอะไรให้เจ้าตัวไม่ถูกใจ คิดถึง คิดถึงมากจริงๆเพียงแค่
ไม่ได้เจอไม่ได้คุยกันดีๆแค่คืนเดียวเท่านั้นหนูพัสก็ทำให้เค้าเป็นได้ถึงขนาดนี้
ฟอดดดดด.......
"สามิ๊ไปก่อนก็ได้ค่ะเมียขาาาา....แล้วสามีจะรีบกลับมาใหม่ รักนะคะคนดี" พูดจบก็รีบวิ่งออกจากห้องทันที แต่ยังไม่วาย
ย้อนกลับมาหอมแก้มคนที่กำลังนั่งตกตะลึงอยู่บนที่นอน ใจจริงนั้นเค้ายังไม่อยากรีบกลับหรอกแต่ถ้าจะอยู่ก็จะพาให้อีกคน
เกลียดขี้หน้าพาลโกรธเค้าเข้าหนักกว่าเดิมไปอีก สู้ทนคิดถึงซักหน่อยแล้วแวะมาหยอดบ่อยๆคอยตอดเล็กตอดน้อยเอาอย่างนี้
ดีกว่า แล้วเอาเวลาที่เหลือไปสืบหาและจัดการคนที่เป็นต้นเรื่องคอยชักใยลอบกัดเค้าทั้งเรื่องงานและเรื่องในตอนนี้เสียก่อน
และเมื่อทุกๆเรื่อง ทุกๆปัญหาเคลียร์หมดแล้วเค้าจะได้เริ่มใช้ชีวิตแบบครอบครัวอย่างจริงๆจังๆซักที
"ไอ.....ไอ้.....พี่ภาส!!! ไอ้คนบ้า ไอ้คนฉวยโอกาส ไปแล้วไปลับอย่ากลับมาอีกนะ" กว่าจะรู้ตัวและตั้งสติได้ ไอ้คนที่เค้าด่าไล่
หลังก็ออกไปไกลแล้ว ฮึ๋ย!!! ไม่น่าไปคล้อยตามไอ้คนบ้าอย่างนั้นจริงๆเล๊ย!! พัสกรนะพัสกรอุตส่าห์ทำขรึมมาได้ตั้งนาน
ห้าม!! ห้าม!!! ต่อไปนี้ห้ามไปเคลิ้มตามไอ้สายตาคู่นั้นอีกนะ มันไม่มีอะไรดึงดูดหน้าหลงไหลถึงขนาดนั้นหรอก ก็อีแค่สายตา
หื่นๆหวานๆเชื่อมๆก็แค่นั้นเอ๊ง!!! ไอ้เราก็นึกว่าจะจูบ ที่แท้ก็แค่หอมแก้ม เหอะ!! อ่อนอ่ะ อุ๊ปส์ (TxT) เปล่า เปล่านะ ผมไม่ได้
พูดอะไรออกไปเลย จูบเจิบ อะไร ไม่มี๊ ไม่มี (- - )( - -)(- - )( - -) จริง จริ๊งงงงง..... ไม่นะ อย่า อย่าใจอ่อนนะพัสกร อย่าใจอ่อน
คนเจ้าชู้ หูดำอย่างนั้นต้องดัดนิสัยให้เข็ด กล้าดียังไงมาทำให้คนอย่างพัสกรร้องให้เสียใจ อีกทั้งยังเสียความรู้สึกอีก งานนี้
ต้องมีสั่งสอนกันบ้าง ห้ามใจอ่อนนะพัสกร ห้ามใจอ่อน ท่องไว้ๆ
.
.
.
.
.
.
[อ่านต่อด้านล่างนะคะ]