ตอน 4
0 8 7 8 5 2 5 2 X X
0 8 7 8 5 2 5 2 X X
โอ้ยยยยยยย
ผมทิ้งมือถือลงข้างตัวก่อนจะเอาหัวขยี้กับพี่ลูกเหม็นไปมา ผมท่องเบอร์น้องปอนด์วันนี้มาร้อยรอบแล้ว จำได้ขึ้นใจยิ่งกว่าอะไรดี แต่มันเสียอย่างเดียวตรงที่พี่ไม่กล้าโทร โหหหหห
บทจะป๊อดก็ป๊อดชิบหายเลยกู TT’
ไม่ต้องถามนะครับ ว่าเรื่องราวหลังจากวันนั้นเป็นยังไง รูปปั้นคือรูปปั้นครับ ไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น สติเหมือนล่องลอยไปไหนแล้วไม่รู้ รู้ตัวอีกทีคือปันพามาส่งที่ห้อง กำชับอะไรนิดหน่อยแต่ไม่ทันได้ฟังเลยอะ กว่าจะคืนสติและประมวลผลทุกอย่างได้อย่างเต็มครบถ้วนสมประกอบ ก็สิริเวลารวมไป 1 วันเต็มๆ
และพอรู้สึกตัวแล้วนั้น เสียงน้องปอนด์ก็ลอยอยู่ในหัวเต็มไปหมด
‘หรืออีกความหมายก็คือ จะจีบก็จีบให้มันเนียนๆหน่อย เข้าใจป่ะ ไอ้พี่ซื่อบื้อ’
‘หรืออีกความหมายก็คือ จะจีบก็จีบให้มันเนียนๆหน่อย เข้าใจป่ะ ไอ้พี่ซื่อบื้อ’
‘หรืออีกความหมายก็คือ จะจีบก็จีบให้มันเนียนๆหน่อย เข้าใจป่ะ ไอ้พี่ซื่อบื้อ’
และก็รับรู้ได้เลยว่า
กูเขินมากกกกกกกกกกก ฮ่อววววววววววว
ทำอะไรลงไป ทำอะไรลงไป คิดขึ้นมาได้อีกก็เอาหัวกระแทกพี่ลูกเหม็นรัวๆ ถ้าพี่ลูกเหม็นมีชีวิตป่านนี้คงแอบด่าผมอยู่ในใจแน่ๆ
ผมรู้สึกตัวเองเขินจนตัวบิดเป็นเกลียวคล้ายโปเต้ ใบหน้าพร้อมรอยยิ้มของน้องปอนด์ก่อนที่จะสลักผมเป็นหินไปนั้น ติดอยู่ในหัว ผมเอามันออกไปไม่ล๊ายยย คิดขึ้นมาทีไรผมอดจะวิงเวียนศีรษะ คล้ายกับจะเป็นลมให้ได้
พี่อยากจะถามน้องปอนด์จริงๆว่าพี่ไม่เนียนตรงไหน ผิดพลาดตรงไหนน้องถึงได้รู้ทันพี่ตลอด ลองโทรไปถามปัน เล่าให้ปันฟัง ปันก็ไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นอะไร ออกจะเงียบๆผิดวิสัย พูดแต่ว่า ก็ดีแล้วนิ ก็ดีแล้ว ผมคิดว่าปันอาจจะยังเมาค้างเลยไม่ได้เซ้าซี้อะไร สุดท้ายก็เลยได้แต่คุยกับตัวเอง ฮืออ
ถ้าน้องปอนด์รู้ว่าผมจะจีบแล้วแบบนี้ แต่ไม่ว่าสักคำ งั้นแปลว่าอะไร
พี่ขอเข้าข้างตัวเองว่าน้องปอนด์ sayyes ได้ไหมม พี่จะหวังสูงไปหรือเปล่า?
“เฮ้ออออ” คิดไปคิดมาจนหัวระเบิด แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบ เปิดเฟสบุ๊คดูรูปน้องปอนด์ไปพลางๆก่อนดีกว่า
Pun punnapat
ถ้าเรารักใครสักคนจริงๆ เมื่อเค้ามีความสุขผมควรต้องดีใจไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมผมไม่มีความสุขเอาซะเลย...
ผมเลื่อนหน้าฟีดไปมา ก็เจอสถานะของปันขึ้นมา ปกติปันไม่ค่อยจะโพสอะไรลงเฟสบุ๊คหรอกครับ พอเห็นเลยรู้สึกแปลกใจ แล้วไอ้ข้อความอย่างกับอกหักของมันนั้นคืออะไรวะ ไอ้ปันแอบมีหญิง? แล้วทำไมผมไม่รู้อ่า ปิดบังเพื่อนหรอปันแม่ง อย่าให้เจอนะ แบบนี้ต้องคอมเม้น
Gutto เป็นอะไร มีอะไรปิดบังกูหรอแม่งงอนยาวๆอะ
นี่แน่ะ พิมแม่ง พร้อมส่งสติกเกอร์หน้าโกรธใส่ไปยาวๆให้มันรู้ว่างอนจริง (หลังมาๆปันชอบไม่เชื่อ)
ตึ่ง !
รอไม่นานเสียงเตือนในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ลูกโลกกลมๆขึ้นหมายเลขแจ้งเตือนขึ้นมา เดาไม่ยากหรอกครับว่าใคร
Pun punnapat บางเรื่องก็ไม่ต้องรู้บ้างก็ได้ ไอ้เพื่อนเบื๊อก
เออ เอากับมันสิ ไอ้คนพี่ด่าว่าเบื้อก ไอ้คนน้องด่าว่าซื่อบื้อ ไอ้กัสเคยมีข้อดีกับเค้าบ้างไหม อยากจะร้องไห้จริงๆแต่ร้องไม่ออก น้ำตาแม่งแห้ง
Gutto เออออ จำคำพูดไว้เลย ไม่รักกูแล้วดิ งอนจริงๆนะปันแม่ง
กดโพสต์ไปด้วย พร้อมใส่เอฟเฟกต์ในชีวิตจริงไปด้วย กูจะทำแก้มป่องทำไมวะ ไอ้ปันก็ไม่เห็น พองอนไอ้ปันขึ้นมาท่านี้มันก็ขึ้นมาโดยอัตโนมัติอะ เค้าเรียกฟีลลิ่ง อะ ฟีลลิ่ง
ตึ่ง !
ไอห่านี้ก็ตอบไวเหลือเกิน ว่างงานมากสินะ จะตอบกันยาวขนาดนี้ไม่โทรมาหากูเลยละ
Pun punnapat กูไม่เคยไม่รักมึงหรอกนะกัส
..........
ทำไมคำพูดมันชวนดราม่าจังวะ ผมขมวดคิ้วแน่นเป็นปม จะพิมพ์ตอบปันแล้วก็ลบ แล้วก็พิมพ์ใหม่แล้วก็ลบอยู่แบบนั้น สามสี่รอบ ไม่รู้จะตอบปันว่ายังไงอะ ปันคิดว่าผมงอนจริงหรอ ผมก็กวนตีนไปเรื่อยปันน่าจะรู้นี่นา
ตึ่ง !
ยังไม่ทันจะคิดอะไรออก เสียงเตือนก็ดังขึ้นมาอีก จนต้องกดลงไปดูอีกครั้ง
Pondpond คู่นี้อะไร จีบกันหรือไง แล้วเนี่ย @Gutto มีเบอร์ให้โทรก็ไม่โทรมานะ เก็บเบอร์ไว้ซื้อหวยหรือไงไอ้พี่ซื่อบื้อตุบ
.
.
สตั๊นแดก...
อ่านจบปุ๊ปผมถึงกับมือถือล่วงหล่นจากมือ คว้าพี่ลูกเหม็นมากอดไว้แน่น ประมวลผลในสิ่งที่น้องปอนด์พูดอย่างช้าๆ
อย่างแรก มีเบอร์ให้โทรก็ไม่โทรมานะ = โทรมาหาผมหน่อยสิคร้าบพี่กัสคนดีของน้องปอนด์
อย่างที่สอง เก็บเบอร์ไว้ซื้อหวยหรือไง = น้องปอนด์รอโทรศัพท์จากพี่กัสคนดีของน้องปอนด์อยู่นะครับ
อย่างที่สาม ไอ้พี่ซื่อบื้อ = เอ่อ....ช่างมันเถอะ
แค่สองประโยคแรกพี่ก็ฟินจนตัวแตกแล้วววว
โอ้ยๆๆๆๆๆ แล้วพี่ลูกเหม็นก็เป็นเหยื่อทางการทารุณกรรมของผมเช่นเคย น้องปอนด์หนูแม่งร้ายอะ
“พี่ลูกเหม็น นี่ผมกำลังหลงน้องปอนด์มากไปไหม”
พี่ลูกเหม็นพยักหน้าลงช้าๆ
“ใช่ๆ ฉันว่านายหลงน้องปอนด์มากเกินไป” ผมบีบเสียงให้เป็นเสียงพี่ลูกเหม็น
“แล้วแบบนี้จะทำยังไงต่อไปดีละพี่ลูกเหม็น”
“ก็หลงขนาดนี้แล้วก็ลุยไปเลยแล้วกัน นายไม่มีอะไรจะเสียแล้วนะไอ้กัสเอ่ย เชื่อพี่แล้วจะดีเอง โฮ๊ะๆๆ”
“จริงหรอ ผมเชื่อพี่ลูกเหม็นน้า มาจุ๊บๆทีนะพี่นะ”
แล้ววันนั้นก็จบลงด้วยผมฟัดขอบคุณพี่ลูกเหม็นอยู่ทั้งวัน จนน้ำลายยืดติดพี่ลูกเหม็นไปอีกหลาย
....คราวหน้าจะพาลงไปซักนะครับ พี่ลูกเหม็น....
“ปันตรงนี้ทำยังไงอะ”“แทนค่าสสารตรงนี้ด้วย X ก่อน แล้วค่อยวัดหาค่ามวลของสสารโดยใช้สูตรนี้...อ่ะ”
ตอนนี้เราสองคนนั่งอยู่ที่ใต้ตึกคณะ ผมนั่งท้าวคางมองปันที่กำลังจดสูตรการบ้านแล๊ปล่าสุดมาให้ ปันเป็นคนฉลาดอย่างที่เคยบอกไป เรียนเก่งสุดๆ ผิดกับผม ที่ทำอะไรก็ไม่ค่อยจะเอาอ่าว ต้องพึ่งปันเสมอๆ
“ปันเก่งเน้อ” ผมยิ้มรับเมื่อปันจดให้เสร็จ ปันส่งยิ้มมุมปากกลับมาให้ก่อนจะผลักหัวเบาๆ
“ไม่ต้องมาทำเป็นชม จดให้แล้วก็ลองทำดู รอลอกกูแล้วตอนสอบจะทำยังไง”
“โธ่ ตอนสอบก็ให้ปันสอนอีกรอบไง”
ผมฉีกยิ้มกว้าง พอกับปันจะส่งมะเหงกกลับมาให้เมื่อผมพูดจบ ดีนะหลบทัน ปันแม่งชอบเล่นแรง
“ตลกล่ะ โตซะบ้างเหอะมึงอะ ไม่มีกูอยู่เดี๋ยวก็เป็นง่อยหรอก”
“ทำไม ปันจะไปไหน หรือ จะหนีไปมีแฟนหรือไง ใช่ๆๆ ลืมไปเลย ยังไม่ได้เคลียร์เลยนะ เรื่องสเตตัสเฟสบุ๊ควันนั้น ไปชอบใครมา ทำไมไม่เล่าให้กูฟัง”
ผมพูดไปเรื่องปัน แต่ หน้ากับร้อนขึ้นมาเพราะคอมเม้นของน้องปอนด์ซะงั้น คิดขึ้นมาได้มันก็หน้าร้อนฉ่าทุกที
“เปล่า ไม่มีอะไร กูก็พูดไปเรื่อย”
“แน่ะๆ ปันคิดจะโกหกพี่กัสหรออออ อย่าพยายามซะให้ยาก” ผมเอาปากกาชี้หน้าปันอย่างรู้ทัน
ปันส่ายหน้าปนระอา เอามือผลักปากกาที่ชี้หน้ามันออกไป “เลิกไร้สาระแล้วทำการบ้านต่อได้แล้ว”
ปันก้มหน้าลงไปทำการบ้านต่อ พอๆกับผมคิดอะไรนิดหน่อยก่อนจะเอ่ยออกไป
“ปัน..” ผมขมวดคิ้วแน่นเรียกปันพร้อมทำสีหน้าจริงจังใส่
“ว่า” ปันตอบ แต่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากการบ้านตรงหน้า ฮ่วยย คนจะพูดอะไรจริงจังๆก็ไม่สนใจเลยวุ้ย
“ปันเงยหน้ามาก่อน” ผมพูดพร้อมเอามือไปแนบหน้าอีกฝ่ายให้เงยหน้าขึ้นมา ปันสะดุ้งนิดๆ
“....”
“จริงจังแล้วนะ ที่ผ่านมาเล่นมากเกินไป ปันมีอะไรไม่สบายใจก็เล่าให้ฟังได้นะ ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาก็ดูแลกูฝ่ายเดียวมาตลอด ปันชอบเก็บความรู้สึกอยู่เรื่อย เป็นห่วงเข้าใจไหม..” ผมตีสีหน้าจริงจังที่สุดในชีวิตใส่ปัน ปันดูเหมือนจะอึ้งๆ ไม่เคยเจอกูโหมดนี้ละสิ ซึ้งละสิปัน
ปันจ้องหน้าผมสักพัก ก่อนจะเสหน้าหลบไปทางอื่น แล้วปัดมือผมออกไป “เออๆ รู้แล้ว ไม่มีอะไรมึงไม่ต้องเป็นห่วงหรอก กูเอาตัวรอดได้ มีแต่มึงนั้นแหละ น่าเป็นห่วงยิ่งกว่า”
ปันพูดจบแล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำการบ้านต่อ จะซักไซ้ต่อยังไงปันก็ไม่ยอมเล่าให้ฟัง บางทีคนเราก็ต้องมีเรื่องส่วนตัวใช่ไหมครับ แต่มันไม่ชินอะ มีอะไรก็บอกปันหมดนี่นา ก็อยากให้ปันบอกกันบ้าง
ปันบังคับให้ผมทำการบ้านจนเสร็จ และก็ไม่ยอมให้ลอกจริงๆ (แม่งงก เก๋าเจ้ง) แต่ก็อยู่สอนให้จนเข้าใจ ดูเวลาอีกทีก็ 6 โมงแล้ว ฟ้ายังสว่างอยู่เลย คงเป็นเพราะหน้าร้อนด้วยละมั้ง ถึงไม่มืดเร็วเหมือนอย่างเคย
“ให้ขับไปส่งที่หอไหม”
“ไม่เป็นไร กลับเองได้ปันกลับไปได้แล้ว ชิ่วๆ” ผมทำมือไล่ปันอยู่หน้าวีออสสีขาวของมัน
“ตามใจ กลับบ้านดีๆแล้วกัน ไลน์มาด้วย” ผมพยักหน้ารับคำของปัน ก่อนจะมองวีออสสีขาวแล่นออกไปพ้นสายตา ถึงจะหันตัว
เดินกลับอีกทาง
ตะดึ่ง!
เสียงโปรแกรมแชทเขียวดังขึ้น จนต้องล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบขึ้นมาดู
POND : ผมหิว ซื้ออะไรมาให้กินหน่อยสิ อยู่โถงคณะนะ (ยิ้ม)POND’ partหงุดหงิด
ทำไมมันหงุดหงิดแบบนี้วะ
“โว้ะ เซงวะ”
“เอ้า ไอ้ห่า เป็นเหี้ยอะไรอีกละ เมนส์มาไง” ผมนั่งแกะงานอยู่ที่โถงคณะกับไอ้ตูน ไอ้ต้าร์
“เสือก”
“เอ้า กูถามนี่เพราะกูเป็นห่วงนะครับ คุณชายปอนด์ ” ไอ้ตูนทำหน้าทะเล้นใส่จนน่าถีบ บางทีก็หมั่นไส้แม่งคนอะไรอารมณ์ดีได้ตลอดเวลา
“สงสัยขาดหญิง” ไอ้ต้าร์พูดขึ้นมา ผมเหล่ตาไปมองมัน ก่อนจะส่ายหน้า ผมรู้ตัวเองดีว่ามันไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ หญิงมีเข้ามาให้เลือกเป็นเบือ แต่ทำไมมันถึงได้เบื่อและหงุดหงิดแบบนี้วะ
มือล้วงเข้าไปในกระเป๋า หยิบโทรศัพท์มือถือออกมามองไลน์เด้งมาเต็มหน้าจอล๊อค แต่พอเลื่อนๆดูกลับไม่มีข้อความจากใครคนหนึ่งเลย
เออ นั้นแหละ สาเหตุที่หงุดหงิดแน่ๆ..
“มึงทำเหมือนกับรอโทรศัพท์ใครอย่างงั้นแหละ กูเห็นมึงจ้องหลายรอบละ”
“เปล่า กูก็แค่กดดูความเคลื่อนไหว”
“หรออออออ”
“เออไอ้สัส ลากเสียงยาวหาพร่อหรอ” ผมใช้เท้าเขี่ยๆไอ้ตูนไปไกล ไอ้เหี้ยนี่มันต่อมรับรู้แรงครับ รู้แม่งไปหมดซะทุกเรื่อง
“ว่าแต่...พี่กัสเค้าน่ารักเนาะ”
ผมหันขวับไปมองมันทันทีเมื่อได้ยินมันพูดถึงต้นเหตุความหงุดหงิด เอ่อ..ผมยอมรับแล้วใช่ไหมเนี่ย เฮ้อ ยอมรับก็ได้ ว่าเป็นเพราะไอพี่ซื่อบื้อนั้นจริงๆนั้นแหละ มีอย่างที่ไหนให้เบอร์ให้ไลน์ไปพร้อม แต่ไม่มีโทรมา หรือ ทักมาซักแอะ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น คงโทรมาจนผมไม่ได้นอน แต่ไอ้พี่ซื่อบื้อที่แสดงเจตนาว่าชอบผมขนาดนั้นแล้ว กับไม่มีสัญญาณอะไรกลับมาเลย เงียบกรึบเป็นป่าช้า
ไอ้ตูนมันยังยิ้มมุมปากและว่าต่อไม่ได้สนใจสายตาที่ผมจ้องมันอยู่เลย “กูล่ะก็คิดว่าถ้าเค้ายังไม่มีคนที่ชอบกูว่าจะลองเต๊าะดู”
“มึงเป็นเกย์หรือไง” ผมแกล้งถามมันเสียงเข้ม
“โธ่ ไอ้ปอนด์โลกไปถึงยุคไหนแล้ว เค้าเลิกโฟกัสกันที่เรื่องเพศไปนานแล้ว” มันก็ตอบมาอย่างสบายๆ
“เค้ามีคนที่ชอบแล้วโว้ย” ผมรีบตอบมันไปทันที เห็นรอยยิ้มอย่างเป็นต่อของมันที่ส่งมาให้แล้วก็รู้สึกตัวเองพลาดอย่างแรง คนอย่างไอ้ตูนถ้าเผยไต๋อะไรให้มันรู้ คุณจะได้เป็นของเล่นมันอีกนาน
มันเขยิบมาใกล้ๆวอนตีนอีกแหละ “ใครวะ..” ผมอยากจะใช้ตีนถีบมันจริงๆ มึงจะต้อนกูไปถึงไหนวะ ไม่ใช่ผมรู้ไม่ทันมันนะ มันจะแกล้งผม ไอ้เพื่อนชั่ว
“ไม่ต้องเสือกสักเรื่องมึงไม่ตายหรอก”
“เปล๊า...กูก็แค่อยากรู้ ถ้าแบบคู่แข่งมันมัวชักช้า ทำเป็นเต๊ะท่าเยอะๆ กูว่าจะลองจีบพี่เค้าดู หน้าตากูก็หล่อเหลาพ่วงด้วยดีกรี รองเดือนคณะแบบนี้ ไม่น่ายากกกกกส์ เน้ออไอ้ปอนด์มึงว่าไหม”
ผมนับ1-10ในใจ ไอ้ตูนหัวเราะเสียงดังอย่างเป็นต่อ แม่งคงมีความสุขมากที่ได้เห็นผมหน้าถอดสี
“โอ้ยย เชี้ยปอนด์!”
ผมลุกขึ้นและถีบมันที่สะโพกไปทีนึง มันมัวแต่หัวเราะเลยหลบไม่ทันเหมือนทุกที แดกตีนกูไปเต็มๆสมน้ำหน้า
หัวเราะไม่ออกอีกนานแน่ๆ
“กูจะไปเอาไม้มาเพิ่ม และเลิกไร้สาระได้แล้ว รีบๆตัดไม้ กูจะได้กลับบ้านซักที”
ผมหันไปบอกมัน ไอ้เชี้ยตูนมันเอามือกำสะโพก แต่ไม่วายทำปากล้อเลียน กูแม่งเป็นเพื่อนกับมันไปได้ยังไงวะ
ความคิดที่ผมได้แต่ส่ายหัว
มือกำลังจะล้วงเข้าไปเอามือถือในกระเป๋ากางเกงมาเช็คดูอีกรอบ เช็คข่าวทั่วไปนะครับอย่าเข้าใจผิด...
จับข้างซ้าย...อ้าวโล่ง
ข้างขวา... โล่งเหมือนกัน
“เชี้ย ลืมไว้ที่โถงคณะอีก” ผมพึมพำ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย รีบไปเอาไม้ที่ห้องคณะอีกฟากนึง จะได้รีบๆทำให้เสร็จๆ
“ไม้แม่งเหลือนิดเดียวเองวะ ใครเอาไปหมดไม่รู้ แล้วตอนนี้งานไปถะ...ถึงไหน” ผมที่หอบไม้กลับเข้ามาในห้องโถงปากก็พูดไปไม่ได้มองทาง จนเมื่อวางไม้ลงเสร็จ
ตาก็ประสานกับคนที่ทำให้ว้าวุ่นมาตลอดทั้งวันหยุด
“นะ น้องปอนด์”
พี่กัสตัวกระเปี๊ยก นั่งอยู่ในข้างๆไอตูน ข้างหน้าเต็มไปด้วยถุงของร้านสะดวกซื้อ ผลุบตาขึ้นมามองผม
แล้วก็เบนหน้าหนี แก้มขาวๆขึ้นสีแดงระเรื่อจนน่าหยิก
น่าแปลก...เหมือนความหงุดหงิดที่มีอยู่ค่อยจางๆลงไป
“ไอ้ปอนด์ พี่กัสเค้าซื้อขนมมาฝากเราเต็มเลยอ่ะ มาแดกดิมึง”
ไอ้ตูนพูดไป ปากก็ดูดน้ำอัดลมกระป๋องไปด้วย สีหน้ายิ้มกรุ่มกริ่มจนน่าหมั่นไส้ แถมยังนั่งอยู่ใกล้ไอ้พี่ซื่อบื้อจนเกินไปด้วยอีก
“มานั่งนี่” ผมเรียก พี่กัสสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะค่อยๆเขยิบเข้ามาหา
“ยิ้มออกแล้วโว้ย เมื่อกี้ทำหน้ายังกับตูด” แต่ยังไม่วายมีมารโหยหวนส่งเสียงมาผจญ
“เสือก” ไอ้ตูนทำหน้าล้อเลียน ไม่แคร์ในคำด่า ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจมัน เท่ากับสนใจคนตัวเล็กที่แทนตัวเองว่าพี่อยู่ข้างๆนี่
“รู้ได้ไงผมอยู่นี่”
ผมก้มหน้าลงไปถาม พี่กัสก้มหน้างุดๆทุกทีเวลาจะคุยกับผม ผมไม่รู้ว่าพี่เค้าเขินอะไรหนักหนา ที่ผ่านๆมาเจอแต่คนเจนโลก แต่คนที่แค่พูดด้วยก็หน้าแดงแล้วไม่เคยเจอจริงๆ
“กะ ก็น้องปอนด์ไลน์มา”
ผมขมวดคิ้วให้กับคำตอบนั้น ผมไลน์ไปตอนไหน สงสัยอยู่ได้ไม่นาน มองผ่านหลังของไอ้พี่ซื่อบื้อไป ก็เจอไอ้ตูนชูมือถือผมหราอยู่ในมือ ใบหน้าฉีกยิ้มจนน่าถีบ เกือบอยากจะลุกไปถีบมัน ถ้าไม่เห็นใบหน้าขาวๆตรงหน้าค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามอง ตาโตๆผลุบมองอย่างกล้าๆกลัว
....เออ ยกผลประโยชน์ให้ผู้กระทำก็ได้วะ....
“อืม ไหนซื้ออะไรมาให้อะ”
ผมแทบจะกลั้นยิ้มไม่อยู่ แต่ก็ยังไม่อยากหลุดมาด บอกตรงๆเวลาแกล้งพี่กัสนี่มันโครตของโครตสนุก เวลาเห็นคนตัวเล็ก เดี๋ยวก็ยิ้ม เดี๋ยวก็หลบตา เดี๋ยวก็แก้มแดงระเรื่อ แล้วมันทำให้อารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก
พี่กัส รีบควานๆในถุงแล้วเจื้อยแจ้วไปด้วย “พี่ไม่รู้ปอนด์ชอบกินอะไร ก็เลยซื้อมาเยอะแยะเลย ปอนด์หิวข้าวหรอ หรืออยากกินขนมก่อน หรือ หิวน้ำ พี่จะได้...เอ่อ ” พี่กัสหยุดชะงักไป เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมที่จ้องอยู่
“พี่พูดมากไปหรือเปล่า”
“เปล่า..พูดเลย...ผมชอบ.....ฟัง” ผมแกล้งเว้นวรรคเยอะๆให้คนตัวเล็กหน้าแดงเล่น แล้วก็ได้ผล พี่กัสเปลื่ยนสีหน้าได้เร็วทันใจ จากมองๆอยู่ หลบตาผมไปอีกแล้ว โอ้ยยย คนอะไรน่ารักขนาดนี้วะ
“เอ่อ....งั้นกินน้ำก่อนไหม” มือเล็กยื่นน้ำส้มขวดมาให้ ผมพยักหน้ารับ รับมาเปิดฝาแล้วยกซดตามสไตล์ผู้ชายแมนๆ
เหลือบหางตาไปมองพี่กัสสายตาจ้องอยู่ที่ลูกกระเดือกผมซ้ำยังกลืนน้ำลายอีก ในหัวพี่ต้องคิดอะไรประหลาดๆอยู่แน่ๆเลยใช่ไหม
“กินไหม”
ผมยื่นให้ พี่กัสเหมือนจะคิดแว่บนึง ก่อนจะพยักหน้ารับรัวๆ แล้วรับไปกินต่อ ริมฝีปากบางค่อยจรดที่ขอบขวด แล้วค่อยๆดื่มเข้าไป ผมเองก็เหมือนพี่กัสที่ไม่สามารถละสายตาตอนเค้าดื่มได้เลย ผมเคยนั่งมองผู้หญิงสวยๆดื่มไวน์ และ ทำสายตาหวานเชื่อมใส่ ยังรู้สึกได้ไม่เท่า ตอนมองพี่กัสดื่มน้ำส้มจากขวดด้วยท่าทีที่ไร้เดียงสาสุดๆ มุมปากมีคราบน้ำสมไหลออกมานิดนึง
“อย่ากินหมด ผมหิว” ผมรีบแย่งขวดน้ำส้มจากพี่กัสมาก่อนที่พี่แกจะยกซดจนหมด มาดื่มต่อ ได้ยินเสียงคนตัวเล็กพึมพำเบาๆ
“เหมือนจูบทางอ้อมเลย..” แล้วแก้มขาวๆนั้นก็แดงมากขึ้นไปอีก ผมคิดว่าอีกนิดนึงถ้ามันมีจุดเดือดสูงสุดสักพักมันต้องระเบิดออกมาแน่ๆ
“อยากกินอะไรอีกน้องปอนด์’’ พอรู้ว่าผมมองก็เสตาหลบตลอด ทำเป็นควานหาของในถุงอีกแล้ว ซึ่งมันมีไม่กี่อย่างหรอก แต่พี่กัสก็ทำเหมือนมันมีเป็น10ถุงซะอย่างงั้น
“ลูกอมมีไหม”
“มีๆ เอาอะไรดีอะ หมากฝรั่งก็มีนะ” พี่กัสชูลูกอม กับ หมากฝรั่งอันนู้นอันนี่ให้ผมเลือก ผมยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะขยับหน้าเข้าไปใกล้คนตัวเล็ก และ พูดด้วยเสียงที่แทบจะเป็นเสียงกระซิบ
“อยากกิน...ซู....กัส อะมีไหม” และปฏิกิริยาตอบรับก็ไม่ได้ต่างไปจากที่คิดซักนิด ผมหัวเราะออกมาก่อนจะไปทำงานของตัวเองต่อ
วันนี้ไม่มีไอ้ปันมาลากรูปปั้นกลับห้องแล้วนะ สงสัยต้องยกประโยชน์ให้เป็นหน้าที่ตัวเอง...
// TBC.
มาต่อแล้ว เร็วมว๊ากๆ คราวนี้ เพราะตั้งปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่า ถ้าครบ 5000 วิวจะมาต่อให้ได้
พอเรามีเป้าหมายเราก็เลยพุ่งชนนนน
55555555
ตอนนี้มีมุมมองของน้องปอนด์ด้วย ดูสิว่าไอ้คนขี้แกล้งมันคิดอะไรอยู่ในหัว
เหล่าแม่ยกควรจะประเคนของให้น้องตูนนะค่ะ ฮีคือป๋าดันตัวจริงในเรื่องนี้เลย
เรื่องตอบคอมเม้นนิดนึง มีคนติงมาว่าให้ตอบคำเม้นบ้าง เราอยากตอบทุกคนเลย
แต่กลัวจะเป็นการฟัดจ์กระทู้มากไปหรือเปล่าอะคะ เราไม่ค่อยแน่ใจ เห็นหลายคนเค้าตอบหลายๆคนในเม้นเดียวได้
อยากทำเหมือนกันแต่ทำไม่เป็นอะ แงงงงง
อยากทำสารบัญด้วย แต่ก็ทำไม่เป็นอีก ใครมีวิธีช่วยแนะนำทีนะคะ TT'
วันนี้ทอล์คแค่นี้ 5555 //ก็เยอะแล้วนะดวกกก ขอบพระคุณที่ติดตามนะคะ
ติดตามกันเยอะๆน้า เก๊าสัญญาจะมาต่อบ่อยๆ

ปล. ตอนนี้แก้เรื่องไอ กับ ไอ้แล้วนะคะ เดี๋ยวตอนก่อนๆจะไปไล่แก้
สามารถติชม ท้วงติงได้เสมอ ฝากเม้นให้กำลังใจเก๊าด้วยน้า

edit >> ชื่อตอน
