Miracle of LOVE ผมเรียกมันว่าปาฏิหาริย์แห่งรัก
-18-
งานปาร์ตี้ปิ้งย่างบาร์บีคิวเลี้ยงส่งแม่จัดขึ้นก่อนวันเดินทางหนึ่งวัน นอกจากครอบครัวไอ้ดีนก็มีแค่คุณน้าศักดิ์กับคุณน้าจันทร์สองสามีภรรยาเพื่อนสนิทของพ่อเจ้าเก่าเจ้าเดิมเท่านั้น ทุกคนมารวมตัวกันที่บ้านตั้งแต่บ่าย จัดเตรียมของกันคึกคัก น้องเปี๊ยกขวัญใจมหาชนก็เริงร่าเป็นพิเศษ จะขาดก็แต่พี่ดินที่จะตามมาสมทบตอนค่ำเพราะติดงานที่โรงพยาบาล ส่วนว่าที่ลูกเขยของบ้านนี้ไม่ต้องพูดถึงหรอกครับ แค่โผล่มางานทำบุญของว่าที่พ่อตาได้ก็สุดยอดมากแล้วครับ
เสี่ยเด่นตั้งวงกับคุณน้าศักดิ์ตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน ไอ้ดีนกับผมก็ไปแจมนิดๆ หน่อยๆ ให้พอหอมปากหอมคอ แม่กับป้าพิมพ์ทำอาหารประเภทกับแกล้มยำและต้มโคล้งรสเด็ดมาเพิ่ม แม่บ้านสามสาวจากบ้านเสี่ยเด่นมาทำหน้าที่ปิ้งย่างบริการคุณๆ ท่านๆ ให้กินกันอย่างสบาย และกว่าคุณหมอดินสุดหล่อจะมาถึงก็ตอนเกือบจะสองทุ่ม
ผมเดินไปเปิดประตูให้พี่ดิน แล้วก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นกับพาหนะสุดคลาสสิคที่พี่ดินขับเข้ามาจอดในโรงรถ พี่ดินเดินลงมาจากรถอย่างเท่ห์ ระบายรอยยิ้มหล่อ พร้อมกับโยนกุญแจรถมินิ คันทรีแมน คูเปอร์ สีเขียวหัวเป็ดให้ผม ทำเอาผมรีบคว้าไว้สุดชีวิต แล้วก็ได้แต่มองกุญแจในมือไม่วางตา
“ชอบมั๊ยจ๊ะ?” ผมเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของคำถาม ผู้หญิงที่ให้กำเนิดและให้ชีวิตผม
พ่อของผมชอบรถมินิมาก หรือจะเรียกว่าเป็นเซียนรถมินิเลยก็ได้ ไม่ว่าจะรุ่นไหนปีอะไรแค่มองปราดเดียวพ่อก็รู้หมดไปถึงแบตเตอรี่ แต่ด้วยสถานะของครอบครัวที่ไม่สามารถซื้อรถราคาหลายล้านแบบนั้นได้ พ่อจึงทำเพียงแค่ชื่นชมมันเท่านั้น หลายครั้งที่ผมเคยได้ยินพ่อพูดกับแม่ด้วยรอยยิ้มว่า ‘ทำงานเก็บเงินไว้ซื้อให้น้องไอขับตอนโตดีกว่า’ และผมก็เกือบจะลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ
“แม่” ผมเดินเข้าไปกอดแม่ไว้ ซบหน้าลงบนบ่าเล็กแต่ทว่าแข็งแกร่ง
“พ่อเค้าตั้งใจเก็บเงินไว้ซื้อรถมินิให้น้องไอมานานแล้ว ตอนนี้ก็ได้ใช้แล้ว พ่อเค้ามองน้องไออยู่ตลอดเวลาเลยน๊า น้องไอชอบมั๊ยจ๊ะ?” มือแสนอบอุ่นลูบแผ่นหลังของผมอ่อนโยน
“ชอบมากครับแม่ น้องไอชอบมากที่สุด ขอบคุณมากนะครับ” ขอบคุณพ่อและแม่มากครับที่มอบความสุขที่ล้ำค่าที่สุดให้กับผม
ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดว่าตัวเองกำพร้าพ่อ หรือขาดแม่ เพราะผมรู้เสมอว่าพวกท่านไม่เคยทิ้งผมไปไหน ต่อให้พ่ออยู่ไกลบนฟ้า หรือแม่จะมีครอบครัวใหม่และต้องอยู่ห่างกันคนละซีกโลก แต่ความรักที่พวกท่านมอบให้ผมไม่เคยเปลี่ยนแปลงหรือจืดจางแม้แต่น้อย ผมได้รับความรักความอบอุ่นจากพ่อและแม่มากซะจนไม่เคยคิดจะอิจฉาครอบครัวของคนอื่นสักนิด
“คุณเปรมเลือกรุ่นนี้ให้ลูกเองเลยน๊า” แม่ยกมือขึ้นประกบสองข้างแก้มของผม แล้วส่งยิ้มล้อมาให้ ทำเอาบรรยากาศซึ้งใจของผมเมื่อครู่หายวับไปแล้วกลบด้วยความเขินอายแทบจะทันที
“อ้าว เขินๆ เขินแบบนั้นไม่ต้องแดกอะไรแล้วมั้ง อิ่มทิพย์แล้วเพื่อนกู” ปากหมาขั้นเทพแบบนี้มีแค่ไอ้ดีนเท่านั้นแหละครับ
ด้วยผู้หลักผู้ใหญ่นั่งกันอยู่เยอะ ผมจึงทำได้แค่ขมุบขมิบปากด่ามันไปว่า
‘สัส!’ ผมก็เลยถูกแม่หยิกที่พูดคำหยาบต่อหน้าผู้ใหญ่ อยากจะเถียงกลับว่าไม่ได้พูดสักหน่อยเมื่อกี้ผมแค่ขมุบขมิบปากเองแต่ก็ไม่ทันซะแล้วเนื้อต้นแขนของผมเขียวช้ำไปซะแล้วล่ะครับ ไอ้ดีนกับพี่ดินก็หัวเราะเยาะขำผมกันตัวงอเลยทีเดียว
ผมกับแม่เดินกลับไปร่วมวง พี่ดินตบหลังของผมดังอั่กแล้วส่งแก้วเครื่องดื่มที่ผสมแบบอ่อนๆ มาให้ เห็นผมตัวเล็กแบบนี้แต่ดื่มเก่งเหมือนกันนะครับ ยิ่งถ้ามีงานคณะหรืองานประเพณีของมหาลัยอะไรแล้วละก็ผมไม่พลาดที่จะนั่งล้อมวงชนแก้ว งานไหนงานนั้นเมายันเช้าก็ยังมี
“หงิงงง” น้องเปี๊ยกร้องเสียงอ่อนขณะที่ผมกำลังซดแอลกอฮอล์เพลินๆ พอก้มลงไปมองน้องชายตัวน้อยของผมก็ทำตาปรือ ผมส่งยิ้มให้แล้วก็อุ้มเด็กน้อยด้วยมือข้างเดียว ได้เวลาพาเด็กไปนอนแล้วครับ
.
.
.
.
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังคงคึกคักเหมือนทุกครั้งที่มาเยือน วันนี้มีเพียงผมกับน้องเปี๊ยกที่มาส่งแม่ เพราะคนอื่นๆ เลี้ยงส่งเมื่อวานแล้ว ผมอุ้มน้องเปี๊ยกยืนมองแม่เช็คอินจนเสร็จเรียบร้อยแล้วแม่ก็เดินกลับมาที่ผมด้วยรอยยิ้ม แม่รู้ว่าผมกำลังพยายามอย่างหนักที่จะไม่ร้องไห้ แม่รู้ว่าผมกำลังพยายามทำตัวเข้มแข็ง เหมือนเมื่อแปดปีก่อนที่ผมตัดสินใจไม่ยอมตามไปอยู่กับแม่ และแม่ก็รู้ว่าแค่แม่หันหลังเดินเข้าไปด้านในผมจะต้องร้องไห้ออกมาแน่นอน แต่มีสิ่งหนึ่งที่แม่ยังไม่รู้ก็คือน้องไอลูกชายของแม่คนนี้แข็งแร่งกว่าเมื่อก่อนมากแค่ไหน
“บ๊อกๆ” เด็กน้อยบอกลาแม่
“น้องเปียกเป็นเด็กดีน๊าจ๊ะ แม่ฝากดูแลพี่ไอด้วยน๊าคนเก่ง” แม่จุ๊บกระหม่อมน้องเปียกแฉะเปียกชื้นไปฟอดใหญ่
“บ๊อกๆ” น้องเปี๊ยกรับปากแม่เสียงดังเลยครับว่าจะเป็นเด็กดีและจะดูแลผมอย่างดี จนผมต้องหรี่ตามองเด็กน้อยอย่างนึกขำ
“แม่ไปก่อนน๊าน้องไอจัง ดูแลตัวเองดีๆ รักตัวเองให้มากๆ ไว้แม่จะหาเวลามาเยี่ยมใหม่ หรือไม่น้องไอจังก็บินไปเยี่ยมแม่ตอนปิดเทอมได้น๊า” แม่จุ๊บหน้าผากของผม และผมก็หอมแก้มแม่กลับ
“น้องไอของแม่จะไม่ทำอะไรให้แม่ต้องเป็นห่วงและเป็นกังวลอีกแล้วล่ะครับ แม่อยู่ทางโน้นก็ดูแลตัวเองด้วยนะครับ น้องไอรักแม่นะ” ผมหอมแก้มแม่อีกหลายฟอด
ผมยืนรอส่งแม่กระทั่งแม่ผ่านเข้า ตม. ไปและแม่ก็โทรกลับมาบอกให้ผมขับรถกลับบ้านดีๆ ไว้ตอนเครื่องใกล้จะออกแม่จะโทรหาผมอีกครั้ง พอวางสายแม่ปุ๊ปและตรงหน้าไม่มีแม่ยืนอยู่ในสายตาน้ำตาของผมก็ไหลออกมา มันไม่ใช่น้ำตาที่เกิดจากความอ่อนแอเหมือนเมื่อก่อน แต่เป็นน้ำตาที่เกิดจากความห่วงหาและอาทร อีกนานกว่าผมจะได้เจอกับแม่อีก แต่ทุกเวลาและนาทีนับจากนี้ผมใช้ชีวิตให้คุ้มค่าสมกับที่พ่อกับแม่ให้กำเนิดผมมาด้วยความรัก
เพราะพ่อกับแม่ตั้งชื่อผมว่า
พบรักและยังให้ชื่อเล่นผมว่า
ไอ ที่แปลว่า
รักพลังความรักอันยิ่งใหญ่ถูกบรรจุอยู่ในหัวใจของผม นั่นหมายความว่าพวกท่านหวังจะให้ผมได้เจอความรักที่ดีและมีความสุขกับมันเหมือนอย่างที่พ่อกับแม่มอบความรักให้แก่กัน
.
.
.
.
นับจากวันที่แม่กลับสวิสเซอร์แลนด์จนถึงวันนี้ก็สิบเจ็ดวันพอดีครับ และก็เป็นสิบเจ็ดวันที่ผมไม่ได้เจอพี่เปรมเลย ครั้งล่าสุดก็ตั้งแต่วันทำบุญพ่อ ผมว่ามันนานเกินไปนะสำหรับคนที่เรียกว่า
‘แฟน’ แม้ว่าจะคุยโทรศัพท์หรือวีดีโอคอลคุยกันทุกวันแต่มันก็ไม่เหมือนได้เจอหน้ากันจริงๆ ทั้งๆ ที่อยู่ในประเทศเดียวกัน ชลบุรีก็ไม่ได้ไกลถึงขนาดต้องเดินทางเป็นวัน และบ้านพี่เปรมก็อยู่ในกรุงเทพฯ แต่ทำไมมันดูเหมือนว่าผมกับพี่เปรมห่างไกลกันเหลือเกิน
คร่อก..อืม... ผมเหล่มองเพื่อนรักที่หลับคออ่อนคอพับอยู่ข้างๆ แม้แต่น้องเปี๊ยกที่อยู่ในถุงย่ามก็ยังโผล่หัวขึ้นมามอง ผมเคยนึกสงสัยหลายครั้งว่าไอ้ดีนมันทำได้ยังไงกับการนั่งรถเมล์แบบโอเพ่นแอร์โดนลมร้อนๆ ตีจนหัวฟูขนาดนี้แต่มันก็ยังหลับได้ ดีที่เสียงกรนไม่ดังมากยังอยู่ในระดับที่รับได้และความหล่อของไอ้ดีนก็ช่วยกลบความน่ารังเกียจลงไปได้เยอะ
ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับว่าทำไมผมกับไอ้ดีนที่ตอนนี้มีรถด้วยกันทั้งคู่แต่ก็ยังใช้บริการขนส่งมวลชน เพราะมหาลัยของพวกเรามีที่จอดรถน้อยมากถึงมากที่สุด ทุกวันนี้สนามบาสเก็ตบอลก็ถูกเปลี่ยนเป็นลานจอดรถไปแบบถาวร การจราจรก็แน่นขนัดอีกต่างหาก ถ้าหากไม่จำเป็นจริงๆ ก็จอดลูกรักไว้ที่บ้านนั่นแหละครับ แล้วปกติผมกับไอ้ดีนก็ไม่คิดจะนั่งหรอกนะรถเมล์แบบลมร้อนโกรกจนหน้าไหม้หัวฟูเนี่ย แต่เพราะเป็นขนส่งมวลชนเพียงอย่างเดียวที่อนุญาตให้น้องเปี๊ยกของผมใช้บริการได้ แล้วถ้าถามว่าทำไมไม่นั่งรถแท็กซี่ ขอตอบว่าผมกับไอ้ดีนเอือมระอากับประเภทตัวอักษรสีแดงโชว์หราว่าว่างแต่ไม่ไปสักที่ เพราะฉะนั้นนั่นจึงเป็นการเดินทางที่ผมกับไอ้ดีนขอเลือกไว้ลำดับท้ายสุด
ลูบหัวน้องเปี๊ยกที่ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ออกมาเปิดโลกกว้าง หัวเล็กๆ กับดวงตาโตๆ เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่จากย่ามที่วางอยู่บนตักของผมเพื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ผมมองปลอกคอแบรนด์หรูของน้องเปี๊ยกแล้วก็ยิ่งทำให้คิดถึงพี่เปรม นี่ถ้าความคิดถึงมันฆ่าคนได้จริงๆ ให้ทายว่าในหนึ่งวันผมจะต้องตายกี่ครั้ง แล้วผมก็ยังไม่อยากตาย ถ้าอย่างนั้นผมจะทำยังไงดีนะที่จะใกล้พี่เปรมให้มากกว่านี้ ทำให้พี่เปรมรู้สึกว่าคิดถึงแทบตายเช่นเดียวกับที่ผมเป็น
ด้วยการจราจรของกรุงเทพมหานครในช่วงบ่ายที่แสนแออัด และผมก็ไม่สามารถนอนหลับแบบไอ้ดีนได้ ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดโน่นอ่านนี่แก้เซ็งไปเรื่อย ผมเลื่อนไทม์ไลน์ในทวิตเตอร์ติดตามข่าวสารและเรื่องสัพเพเหระมากมาย จนเจอกับข้อความที่พาดหัวไว้อย่างน่าสนใจว่า
‘ลีลาเด็ดพิชิตกายและใจพี่เมะสุดหล่อให้อยู่หมัด’ ตามด้วยที่อยู่เว็บไซด์ และติดแฮชแท็กเรื่องวายวายกับวายดีแบบนี้ต้องบอกต่อ มีคนรีทวิตและกดเป็นรายการโปรดหลักหมื่น ด้วยความสงสัยใคร่รู้ว่า
‘เมะสุดหล่อ’ คือใคร ผมจึงลองกดเว็บไซด์เข้าไปดู มันเป็นไดอารี่บล็อกของคนที่ใช้ชื่อว่า
‘ไอแอมเคะ’ คิ้วของผมขมวดแทบจะทันทีเพราะคนๆ นี้ใช้ฉายาเดียวกับที่สาวๆ แฟนคลับในโลกออนไลน์ตั้งให้ผม ทำให้ผมเพิ่งรู้ว่าฉายาของผมมันช่างโหลเสียจริง แต่ก็ช่างมันเถอะจะเอาอะไรมากกับโซเชียล ผมกวาดสายตาอ่านแบบคร่าวๆ ผ่านๆ แต่ก็ทำเอาหัวใจเต้นอย่างแรง ผมเหล่มองไอ้ดีนอีกครั้งแล้วรีบกดเรื่องนี้ไว้เป็นรายการโปรด เอาไว้คืนนี้จะกลับไปอ่านศึกษาอย่างตั้งใจเงียบๆ คนเดียวดีกว่า
“ตื่นๆ ไอ้สัส” ผมปลุกไอ้ดีนเมื่อใกล้จะถึงป้ายหน้าหมู่บ้าน
ไอ้ดีนสะลึมสะลือขยี้ตาปาดน้ำลายลวกๆ แล้วก็กระเด้งตัวหันมายักคิ้วประหนึ่งว่าตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาการเดินทาง ไอ้ดีนลุกขึ้นกดกริ่ง ป้ายรถเมล์อยู่ตรงหน้าหมู่บ้านเลยครับ เดินเข้ามาในตัวหมู่บ้านผมก็ปล่อยให้น้องเปี๊ยกวิ่งเล่นบนทางฟุตบาท และเสียงโทรศัพท์ของไอ้ดีนก็ดัง มันดูหน้าจอแล้วหันมายักคิ้วให้ผมก่อนจะกดรับสาย
“ว่าไงครับปิ่น”
“ดีนเพิ่งลงรถเมล์เมื่อกี๊ครับ ตอนนี้กำลังเดินอยู่กับไอ้เตี้ยและน้องเปี๊ยก” ดูไอ้เพื่อนชั่วสิครับ เรียกผมซะอยากตะจับมาจูบปากด้วยฝ่าตีนซะจริง
เดี๋ยวนี้ไอ้ดีนกับปิ่นพัฒนาการความสัมพันธ์กันถึงขั้นเรียกว่าแฟนมาได้พักใหญ่แล้วครับ เข้าออกคฤหาสน์อัศววิรุณฉายเป็นว่าเล่น ดังนั้นไอ้ดีนก็มีสถานะเป็นน้องเขยของผม แต่จะว่าไปผมก็เป็นแค่พี่สะใภ้แค่ในมโนจิตเท่านั้น อย่าว่าแค่หัวบันไดบ้านเลย แค่จะควงผมออกงานแล้วแนะนำผมให้เพื่อนพ้องน้องพี่ของพี่เปรมรู้จักยังไม่มีวี่แววเลย คงมีแต่ทางบ้านผมนี่แหละที่รับรู้กันหมดว่าพี่เปรมเป็นอะไรกับผม แต่ฝ่ายพี่เปรมไม่มีใครรู้สักคน
ไอ้ดีนยังคงคุยโทรศัพท์มุ้งมิ้งกับปิ่นจนถึงบ้าน เราก็แยกย้ายเข้าบ้านใครบ้านมัน แต่ไอ้ดีนก็หันมาตะโกนว่าอย่าลืมมากินข้าว แล้วเดี๋ยวคืนนี้จะมานอนด้วยโดยที่โทรศัพท์ก็ยังแนบหูอยู่ ให้ฟีลลิ่งเหมือนผมเป็นเมียหลวงแล้วปิ่นเป็นเมียน้อยยังไงก็ไม่รู้
ผ่านไปแป๊ปเดียวก็ค่ำแล้วครับ ผมกลับมาจากบ้านไอ้ดีนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็สองทุ่มครึ่ง ส่วนไอ้ดีนก็ช่วยคุณลุงเด่นดูแคตตาล็อคงานก่อนเดี๋ยวค่อยตามมาทีหลัง บางทีผมก็ไปนอนบ้านโน้น บางทีไอ้ดีนก็มานอนบ้านผม เรามีกุญแจบ้าน กุญแจห้องของกันและกัน เป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้วครับเป็นมากเกินกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่คนรัก นั่นคือเป็นเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน
“บ๊อกๆ” น้องเปี๊ยกงับตุ๊กตาน้องเน่าเข้าไปนอนในตะกร้าแสนคิกขุน่ารัก
“ฝันดีน้องเปี๊ยก” สงสัยวันนี้คงจะวิ่งเล่นที่มหาลัยของผมเยอะไปหน่อย เลยง่วงตั้งแต่หัวค่ำ
“หงิงงง” บอกฝันดีผมเสียงน่ารักเชียว
ผมเดินไปจุ๊บกระหม่อมหนึ่งทีแล้วเดินกลับมานั่งหน้าโต๊ะคอมพ์ กว่าไอ้ดีนจะมาก็คงสามสี่ทุ่ม ผมจึงใช้ช่วงเวลานี้เปิดอ่านกรณีศึกษาจากคุณไอแอมเคะสักหน่อย ว่าแล้วก็หันซ้ายหันขวาสำรวจอีกรอบว่าไอ้ดีนจะไม่โผล่พรวดพราดมาทำให้การเรียนรู้ของผมต้องชะงักลง เมื่อแน่ใจก็เริ่มเลยครับ
คุณไอแอมเคะเค้าแนะนำตัวเองว่าเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ใช่เกย์ ไม่ใช่ตุ๊ดหรือกระเทยใดๆ ทั้งนั้น แต่สาววายก็มักจะเรียกเค้าว่าเคะ จนปัจจุบันแทบจะลืมชื่อเล่นของตัวเองไปแล้ว ส่วนพี่เมะใช้เรียกแทนผู้ชายหล่อคนหนึ่ง ที่ไม่รู้ว่าอะไรชักนำให้คุณไอแอมเคะไปตกหลุมรักพี่เมะคนนั้นได้ อ่านๆ ไปก็แอบคิดในใจว่าคุณไอแอมเคะมีอะไรหลายๆ อย่างที่คล้ายกับผมมาก โดยเฉพาะที่บอกว่าไม่ใช่เกย์ ไม่ใช่ตุ๊ดหรือกระเทย เพราะผมเองก็ไม่ใช่อย่างหนึ่งอย่างใดตามที่กล่าวมาทั้งหมดเช่นเดียวกัน
เจ้าของบล็อคเล่าเรื่องความเป็นไปเป็นมาแบบคร่าวๆ เอาเป็นว่าตอนนี้คุณไอแอมเคะและพี่เมะสุดหล่อเค้าเป็นแฟนกันมาสิบกว่าปีแล้วครับ ดังนั้นคุณไอแอมเคะจึงได้เขียนบล็อคนี้ขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเคล็ดลับลีลาเด็ดพิชิตกายและใจพี่เมะสุดหล่อให้อยู่หมัดให้เป็นวิทยาทานแก่พวกที่ด้อยประสบการณ์อย่างผม
ผมอ่านทุกข้อความ ทุกบรรทัด และทุกตัวอักษรอย่างตั้งใจ เริ่มแรกก็แค่ใจสั่นน้อยๆ แต่ไปๆ มาๆ ผมรู้สึกว่าร่างกายมันร้อนวูบร้อนวาบยังไงแปลกๆ การอ่านมันต้องใช้จิตมโนเป็นหลัก แล้วคุณไอแอมเคะก็บรรยายซะจนผมเห็นภาพตัวเองกับพี่เปรมเต็มสมองไปหมด ตอนนี้เลยให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังเอวีอย่างไรอย่างนั้น อ่านจบไปหลายบท ก็มาเจอกับคลิปตัวอย่างที่คุณไอแอมเคะบอกว่าตัวเองก็ศึกษาจากคลิปนี้เหมือนกัน ผมลองกดไปดูก็ได้แต่อ้าปากค้าง
เปิดตัวผู้ชายร่างผอมบางผิวขาวจัดนั่งอยู่บนเตียงด้วยชั้นในสีขาว แล้วก็มีพี่ยักษ์กล้ามปูหน้าตาหื่นเดินเข้าฉากมานั่งซ้อนหลัง จากนั้นทุกอย่างก็ดำเนินไปตามครรลองของอารมณ์ที่ผมไม่สามารถบรรยายออกมาได้ จะมีก็แค่สงสัยจริงจังว่ารูปร่างต่างกันขนาดนั้นมันจะไหวเหรอ??
“โอ้วแม่จ้าว!” ร้องออกมาเสียงดังเมื่อทุกอย่างมันโล่งโจ้งโล่งเตียน ด้วยภาพเคลื่อนไหวแบบเฮชดีมันละเอียดยิบ เห็นทุกซอก ทุกมุม ทุกขั้นตอน ชัดมาก แจ่มมาก เขินมาก และไอจังน้อยก็ค่อยๆ ผงาดด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน
ระหว่างที่กำลังอยู่ในช่วงเข้าได้เข้าเข็ม ผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอน แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะต้องมาอายหรือปิดบังอะไรทั้งนั้น ไอ้ดีนมันชอบเผือกจะตายสักวันมันก็ต้องรู้ ผมเลยไม่ได้สนใจ แค่เหล่มองน้องเปี๊ยกที่ผงกหัวขึ้นมาจากตะกร้าเท่านั้น คงจะแค่ตื่นมาทักทายไอ้ดีนเฉยๆ แล้วก็หมุนตัวหันหลังซุกตุ๊กตาน้องเน่านอนหลับต่อ
“อื้อหือ” เสียงมาจากด้านหลังของผม ไอ้ดีนคงมายืนดู แต่ขอโทษนะเพื่อน กำลังมันส์ได้ที่จนกูไม่อาจจะละสายตาหันไปมองมึงได้
“ที่แท้มึงก็ชอบแบบนี้นี่เอง”
“กูจะเอาไปจัดการพี่เปรม”
“มึงเนี่ยนะ?”
“ก็กูนี่แหละ แมร่มจะเอาให้พี่เปรมอยู่หมัดเลย” ผมยกกำปั้นขึ้นต่อยกับฝ่ามืออีกข้าง ศึกนี้ผมต้องชนะให้ได้
“จริงดิ”
‘ก็เออดิว่ะ’ ผมตอบอยู่ในใจ อีกฝ่ายก็เงียบไปแต่ผมก็รู้ว่ามันยังยืนซ้อนหลังเก้าอี้ผมอยู่ ถ้าให้เดามันคงกำลังตาค้างอยู่เหมือนผมแน่ๆ
ปกติผมกับไอ้ดีนดูแต่หนังเอวี เน้นนางเอกหน้าตาแบ๊วๆ อกตู้มๆ พอมาเจอหนังจีวีเข้าจึงถือว่าเป็นของแปลกใหม่ในชีวิต มันช่างร้อนแรงจริงๆ ครับ ผมแอบมโนไปด้วยว่าเป็นตัวผมกับพี่เปรม ดังนั้นผมคิดว่าถ้าหากดูจบผมคงได้ลุกขึ้นเดินไปจัดการตัวเองในห้องน้ำแน่ๆ
“พี่เปรมแมร่มชักช้า ไม่ทันใจกูเลย” ผมบ่นถึงคนที่อยู่ในจินตนาการ ที่ไม่ว่าจะพูดคำว่ารัก จะบอกว่าชอบ หรือแค่จะมาหาแต่ละที ผมก็ต้องรอจนเหี่ยวแล้วเหี่ยวอีก
“รู้ได้ไงว่ากูชัก-ช้า”
“เอ๋??” ผมกำลังพูดถึงพี่เปรมไม่ได้พูดถึงไอ้ดีนสักหน่อย ทำไมมันต้องทำเสียงเข้มด้วยฟร๊ะ!
ผมหันมองด้านหลังอย่างไว และต้องตกใจจนไอจังน้อยที่ผงาดกล้ากลับหดกลัวอย่างน่าสมเพช ผมเบิกตากว้างอ้าปากค้างเงิบแดกจุดไปต่อไม่ถูกเลยครับ แม้แต่คำอุทานว่า
‘เหี้ย!’ ก็ยังทำได้แค่ตะโกนอยู่ในใจ
ร่างสูงใหญ่กระตุกยิ้มมุมปาก ดวงตาคู่คมหรี่ลง โคตรพ่อหล่อเหี้ยๆ โคตรแม่หล่อสัส บาดจิตบาดใจจนผมแทบจะก้มลงกราบแทบอกเพื่อร้องขอชีวิต แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันจะสายไปเสียแล้ว ใบหน้าคมคายโน้มเข้ามาใกล้ชิดริมหู ขบเบาๆ จนผมสะท้านไปทั้งตัว
“มึงมาลองเอากับกูมั๊ยว่ากูชัก-ช้า อย่างที่มึงว่าจริงรึเปล่า?”
.
.
.
.
.
.
TBC
กำลังใจของคนเขียน ขึ้นอยู่กับคนอ่านจริงๆ นะคะ
แค่ไม่กี่ข้อความของคนอ่านสามารถสะท้อนถึงหัวใจของคนเขียนนิยายได้โดยตรง
รินเขียนนิยายด้วยเพราะรักที่จะเขียน และนิยายของรินจะสำเร็จได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับคนอ่าน
ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ 