(◕‿◕✿Miracle of ⓛⓞⓥⓔ❀•ผมเรียกมันว่าปาฏิหาริย์แห่งรัก•❀-แจ้งข่าวPre-Order- P.81
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (◕‿◕✿Miracle of ⓛⓞⓥⓔ❀•ผมเรียกมันว่าปาฏิหาริย์แห่งรัก•❀-แจ้งข่าวPre-Order- P.81  (อ่าน 538839 ครั้ง)

ออฟไลน์ simpleyaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แรงกดดันทางฝั่งพี่เปรมคือหนักพอควร แต่ดูแล้วพี่เปรมน่าจะเอาอยู่นะ พี่เปรมนี่คือสุดยอดแห่งเคะจริงๆ อยากได้พี่เปรม แต่กลัวน้องไอกินหัวซะก่อน  :laugh:

ส่วนยัยปุ๋ยน้อย ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี อะไรนั่น แหม่ นะตอแหลได้เรื่องจริงๆ ท่าทางจะไม่จบง่ายๆ เดี๋ยวๆๆ ป้าด  :beat:

อาการปวดหัวของน้องไอคงไม่เป็นอะไรหรอกนะ เป็นห่วงจริงๆ  :katai1:

ออฟไลน์ Unnie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เห็นนักเขียนหลังไวๆ  :katai5: มาได้แล้วค่าาา

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
Miracle of LOVE ผมเรียกมันว่าปาฏิหาริย์แห่งรัก


-27-





ผมเคยผ่านการตรวจร่างกายโดยการเข้าอุโมงค์หรือที่เรียกว่าเอ็มอาร์ไอมาแล้วครั้งหนึ่งก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล ซึ่งในครั้งนั้นผลตรวจเป็นปกติดีทุกอย่าง และตอนนี้ผมก็ยังคงคิดว่าผมไม่ได้เป็นอะไร แค่ปวดหัวไมเกรนธรรมดาแต่พี่เปรมก็ยังเป็นห่วงและเป็นกังวลยิ่งกว่าผมเสียอีก ผมถูกพี่เปรมสั่งงดอาหารและน้ำหลังห้าทุ่มเป็นต้นไป และโชคดีเป็นที่สุดก็คือเมื่อคืนผมไม่ได้ปวดหัว ดังนั้นผมจึงหลับยาวจนถึงเช้า

พวกเรามาถึงโรงพยาบาลก่อนเวลานัดครึ่งชั่วโมง พี่เปรมพาน้องเปี๊ยกไปฝากไว้กับคุณแม่ในห้องทำงาน แล้วก็ตามมาดูแลผมทุกขั้นตอน ตั้งแต่เรื่องเอกสารไปจนถึงควบคุมการเปลี่ยนเสื้อผ้า แม้กระทั่งบอกให้ผมไปขี้เยี่ยวให้เรียบร้อยก่อนเข้าตรวจ

“มึงทำใจให้สงบ นอนให้สบาย ไม่ต้องกลัว”

ผมพยักหน้ารับ

   “ตอนเครื่องทำงานจะมีเสียงดัง มึงไม่ต้องตกใจ นอนนิ่งๆ”

   พยักหน้าอีกรอบ

   “เจ้าหน้าที่จะดูแลมึงตลอดเวลา และกูก็รอมึงอยู่ตรงนี้”

   พยักหน้าพร้อมฉีกยิ้ม ให้กับพี่หมอส่วนตัวของผมที่ย้ำประโยคเดิมๆ แบบนี้มาเป็นรอบที่สิบแล้วครับ

   “รับทราบครับพี่หมอ!” ตะเบ๊ะใส่แบบลูกเสือดาวคะนอง

   ตอนนี้ผมกับพี่เปรมยืนอยู่หน้าห้องตรวจครับ ซึ่งเดี๋ยวผมจะต้องเข้าไปนอนในเครื่องที่มีลักษณะคล้ายอุโมงค์ แล้วก็จะมีอุปกรณ์รับสัญญาณภาพครอบอยู่บริเวณหัว ซึ่งผมจะต้องนอนนิ่งๆ อยู่ในอุโมงค์นั่นเกือบชั่วโมง ผมจำได้ว่าเมื่อครั้งก่อนหลังจากออกมากจากอุโมงค์ ทำเอาผมก็หลับยาวไปเลยครับตื่นมาก็ค่อยฟังผลจากคุณหมอ และครั้งนี้ก็ไม่ได้ต่างกัน

   เกือบสองชั่วโมงที่ผมหลับไปหลังจากตรวจเอ็มอาร์ไอเสร็จ อยู่ในอุโมงค์นานไปหน่อยเลยมึนๆ เบลอๆ ตื่นขึ้นมาก็อยู่ในห้องพักฟื้นแล้วล่ะครับ หลับสบายเหมือนนอนอยู่ที่บ้าน ทั้งที่เพิ่งตื่นกระเพาะของผมก็ประท้วงว่าหิวทันที ผมจึงส่งยิ้มให้กับผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างเตียง แล้วจับน้องชายตัวเล็กที่นอนเอาหัวมาเกยกับสีข้างของผมขึ้นมาวางบนอก

“ปวดหัวมั๊ย?” มือใหญ่วางลงบนหัวของผมแล้วลูบเบาๆ อ่อนโยน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมคลายความหิวลงไปได้ ผมส่ายหัวปฏิเสธเรื่องปวดหัว แล้วยกมือลูบท้องแทน น้ำย่อยกัดกระเพาะจนจะทะลุแล้วครับ

“หิวจังเลยพี่เปรม” ตั้งแต่เช้ามาจนถึงตอนนี้เที่ยงกว่ายังไม่มีอะไรตกลงไปในกระเพาะสักนิด

“ไออยากกินเสต็กหมูพริกไทยดำ อยากกินกุ้งแม่น้ำเผา อยากกินส้มตำยกครก โอ๊ยยย หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้วเนี่ย”

พี่เปรมกระตุกยิ้ม ก่อนจะจับน้องเปี๊ยกขึ้นอุ้มด้วยมือข้างเดียว แล้วใช้มืออีกข้างมาจับต้นแขนของผมไว้เพื่อช่วยประคองตอนที่ผมลงจากเตียง รอผมเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ถึงสิบนาที เราก็พร้อมเดินทางฝ่ารถติดกว่าครึ่งชั่วโมงไปถึงห้างที่ใกล้ที่สุด

   มื้อเที่ยงของเราจบลงที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่ต์ชื่อดังในห้างหรูครับ ผมใช้วิธีแอบซ่อนน้องเปี๊ยกไว้ในถุงผ้าแบบเดิม จากนั้นก็กินแบบคุ้มเกินคุ้ม แตกต่างจากพี่เปรม รายนั้นแตะแค่ไม่กี่คำเพราะเอาแต่นั่งดูผมยัดสารพัดสิ่งลงท้องอย่างเดียว

“พี่เปรมไม่หิวเหรอ? หรือไม่ชอบ?” ผมถามขณะกำลังจัดการกับซาซิมิจานใหญ่

“แค่เห็นมึงแดกได้เยอะ กูก็อิ่มแล้ว”  คีบแซลมอนมาจ่อตรงปากของผม สายตาของเราสบกัน

ผมงับแซลมอนแล้วค่อยๆ เคี้ยวด้วยความเขิน วาซาบิที่ว่าจี๊ดถึงก้านสมอง ตอนนี้ผมกลับรู้สึกหวานละมุนจนต้องแล่บลิ้นเลียริมฝีปาก โดยที่สายตายังไม่ละออกจากดวงตาคู่คม

“รีบๆ แดก” เสียงทุ้มเข้มมาเชียวครับ

หมดกันครับ อารมณ์วาบหวามที่ส่งผ่านทางสายตาเมื่อครู่หายไปอย่างสิ้นเชิง และผมก็ทำอะไรมากไม่ได้นอกจากแดกต่อไปตามคำสั่ง สำหรับพี่เปรมไม่ต้องใช้ถ้อยคำหวานซึ้งมุ้งมิ้งหรอกครับ มาเถื่อนๆ ขวานผ่าฟืนทั้งดุ้นมาแบบนี้นี่แหละที่ทำเอาผมไปไหนไม่เคยรอด กินไปกินมาทั้งผมและน้องเปี๊ยกก็อิ่มจนพุงกางลุกแทบไม่ไหว

   “เอิ๊กกก” เพราะอิ่มมากผมจึงเรอเสียงดังตอนออกมาจากร้าน ทำให้คุณผู้หญิงสองสามคนที่เดินสวนกันไปทำหน้าเต้าหู้ยี้ใส่ผม แต่กลับปรายสายตาหวานให้พี่เปรม ผมจะแกล้งทำเป็นไม่เห็นนะครับ

ขึ้นมานั่งบนรถผมก็ปล่อยให้น้องเปี๊ยกไปวิ่งเล่นย่อยอาหารตรงเบาะหลัง ส่วนผมก็นั่งลูบพุงป่องๆ ของตัวเอง

“พี่เปรม.. สงสัยไอจะท้องแล้วล่ะ”

“เดี๋ยวมึงเข้าส้วมก็คลอดแล้ว”


เยียดเปียดดดด..


ผมนี่อ้าปากพะงาบๆ ง่อยแดกไปเลยครับ พี่หมอสุดที่รักของผมพูดได้หน้านิ่งมาก นี่ถ้าไม่เห็นว่าหล่อนะ ผมได้ถีบยันหน้าไปสักโครม ไม่รับมุกไม่พอ ยังไม่สานต่อความรู้สึกมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกันสักนิด ใจร้ายมาก ผมจึงขมุบขมิบปากด่าไปสองสามประโยค แล้วจึงค่อยชวนคุยใหม่อีกรอบ

“เรากำลังจะไปไหนเหรอพี่เปรม?”

พี่เปรมบอกว่าจะพาไปแนะนำตัวกับที่บ้านตอนหกโมงเย็น แล้วนี่เพิ่งจะบ่ายกว่าๆ เองครับ พี่เปรมจะไปไหนก่อนรึเปล่า? รออยู่ครู่หนึ่งพี่เปรมก็ยังเงียบ เอากับเค้าสิครับ ผมบอกว่าท้องก็ไม่ยอมรับ ถามว่าจะไปไหนก็ไม่บอก ผมเลยหันไปถามน้องเปี๊ยกที่นอนผึ่งพุงตากแอร์ฉ่ำอยู่ตรงเบาะหลังแทน

   “น้องเปี๊ยก เรากำลังจะไปไหนกันเหรอ?” พ่อไม่ตอบ ถามลูกก็ได้

“บ๊อกๆ” อ้าว น้องเปี๊ยกก็ไม่รู้เหรอ?? 

เออ งั้นไม่อยากรู้แล้วก็ได้ ผมหุบปากเงียบไปเลยครับ

สี่ล้อคันหรูขับออกจากเมืองหลวงไปยังเขตชานเมือง ผมก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก พี่เปรมจะพาผมไปปู้ยี่ปู้ยำที่ไหนผมก็คงจะไม่ขัดขืน เพราะมันคงจะไม่มีอะไรที่ต้องยอมไปมากกว่าการเป็นเกย์ฝ่ายรับและถูกสาวๆ มองเมินอีกแล้วล่ะครับ

เมื่อรถจอดลงจุดหมาย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี ผมลงจากรถ มองไปรอบๆ ท้องฟ้าสดใส ลมโกรกเย็นสบาย เงาไม้ร่มรื่น ทำให้ผมต้องสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด หันไปมองพี่เปรมที่จับน้องเปี๊ยกมาอุ้มไว้ และผมก็แอบเห็นพี่เปรมหยิบถุงพลาสติกยี่ห้อเซเว่นออกมากเบาะหลัง

“บ๊อกๆ” พี่เปรมปล่อยให้น้องเปี๊ยกลงบนพื้น เจ้าตัวน้อยก็ดีใจวิ่งดุ๊กดิ๊กทันที แต่ก็ไม่ไปไหนไกล วิ่งอยู่รอบๆ ผมกับพี่เปรมนี่แหละครับ

มือใหญ่ยกขึ้นลูบหัวของผม เราสบตากัน อาการหงุดหงิดก่อนหน้าหายไปอย่างสิ้นเชิง ผมยิ้ม พี่เปรมยิ้ม และมือของเราก็จับกุมกันโดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ จากนั้นเราก็เดินอ้อมไปทางด้านหลังของวัด ซึ่งพ่อของผมกำลังรออยู่ที่นั่น

“พ่อ..” ผมย่อตัวลงนั่งหน้าหน้าโกศ ยกมือไหว้และเรียกพ่อเบาๆ

“บ๊อกๆ” เจ้าตัวน้อยของผมก็มารยาทงามเช่นกันครับ

ผมหันไปมองพี่เปรม ที่กำลังปัดกวาดเศษไม้ใบหญ้าบริเวณหน้าโกศ เสร็จแล้วก็หยิบของออกมาจากถุงพลาสติก  มีธูปเทียน ขวดน้ำดื่ม แก้วน้ำ และพวงมาลัย แบบเตรียมมาพร้อมครบเซ็ท พี่เปรมจุดเทียนและธูปหนึ่งดอก เปิดขวดน้ำแล้วรินใส่แก้ว ยกมือพนมพร้อมพวงมาลัย ดวงตาคู่คมมองตรงไปยังรูปภาพของพ่อ นิ่ง และเงียบอยู่อย่างนั้นนานหลายนาที ก่อนจะปักธูปลงบนกระถางทราย แล้วหันมามองหน้าผม

“พี่เปรมคุยอะไรกับพ่อเหรอ?”

“ขอเป็นลูกชายคุณพ่ออีกคน”

“เฮ้ย! ได้ไง ไอไม่อยากมีพี่ชายสัก อืมม” ยังพูดไม่ทันจบ ผมก็โดนพี่เปรมปิดปากด้วยปากซะก่อน ตกใจตาเหลือกอยู่สองวินาที หลังจากนั้นก็ปล่อยเลยตามเลยครับ ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าแค่แตะสัมผัสริมฝีปากกันเท่านั้น แต่เพราะมันเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นต่อหน้าพ่อ ดังนั้นเมื่อพี่เปรมถอนริมฝีปากออกไปแล้วหันไปมองเห็นรูปพ่อกำลังส่งยิ้มเต็มหน้าก็ทำเอาผมเขินจนแทบจะระเบิดตัวเองให้ได้ซะเดี๋ยวนั้น

มัวแต่เขินอายจึงไม่ทันรู้ตัวว่ามีดวงตาคู่คมจ้องมองอยู่ จนกระทั่งน้องเปี๊ยกมาเขี่ยยิกๆ นั่นแหละครับถึงได้หันไปมองสบตากับพี่เปรม แล้วทุกอย่างก็เหมือนถูกกดหยุดเอาไว้แค่ตรงนั้น

“กูไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง และกูก็ไม่มีคำสัญญาอะไรที่สวยหรู กูมีก็เพียงแต่ความจริงจากใจที่จะดูแลมึงให้ดีที่สุดเท่าที่ลูกผู้ชายอย่างกูจะทำได้” พี่เปรมบีบมือของผมเบาๆ

สายลมอ่อนๆ พัดพาเสียงกระดิ่งที่ห้อยเรียงรายอยู่ชายหลังคาศาลาวัดราวกับเสียงดนตรีกล่อมให้จิตใจสงบลง ผมไม่ได้พูดอะไรตอบออกไปจะทำก็แค่ตอบรับแรงบีบที่มือกลับไปด้วยรอยยิ้ม แล้วหันกลับไปคุยกับพ่อด้วยเรื่องทั่วไปอีกเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นกลับ ผมรู้ว่าพ่ออยู่กับผมตลอดเวลา พ่อรู้และเห็นทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตของผม ดังนั้นผมจึงมั่นใจว่าพ่อจะต้องมองเห็นความจริงใจที่พี่เปรมมีให้ผมอย่างแน่นอน


.
.
.
.


กลับเข้ามาในกรุงเทพฯ เป็นช่วงเวลาที่สภาพการจราจรเป็นอัมพาต และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกดีกับการติดแหง็กอยู่บนท้องถนนนานๆ เพราะอะไรน่ะเหรอครับ ก็เพราะว่าพี่เปรมกำลังจะพาผมไปเปิดตัวที่บ้านเป็นครั้งแรก

ความรักในแบบของเราไม่ได้เป็นที่ยอมรับในสังคมและวัฒนธรรมมากนัก แต่ปัจจุบันก็ถือว่าเปิดโอกาสและเข้าใจกันมากขึ้น อย่างครอบครัวของผมที่ยึดหลักเหตุผลเพียงแค่ว่าขอให้ลูกมีความสุขโดยไม่เบียดเบียนใครพวกท่านก็จะมีความสุขไปด้วย ส่วนครอบครัวของพี่เปรม ผมได้ยินเพียงแค่คำบอกเล่าจากไอ้ดีน พี่ดิน และคำขู่จากพี่ปลื้มเท่านั้น แม้จะเคยเจอคุณแม่ของพี่เปรมมาแล้วหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่เจอก็เป็นในฐานะคุณหมอกับผู้ป่วย เราไม่เคยคุยเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากการรักษาเลยสักนิด ผมเองก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าท่านจะยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างผมและพี่เปรมสักแค่ไหน แต่เท่าที่ดูพี่เปรมก็ไม่ได้ปิดบังอะไรคุณแม่ ค่อนข้างจะเปิดเผยออกนอกหน้าด้วยซ้ำ

“วันนี้พี่ไอดูดีใช่ป่ะ?” ถามแผ่วๆ กับน้องเปี๊ยกเพื่อเรียกความมั่นใจครับ

ปกติผมเป็นคนมั่นใจในการแต่งตัวของตัวเองมาก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกประหม่ายังไงชอบกล

 “บ๊อกๆๆ” เด็กน้อยชมผมว่า ‘พี่ไอหล่อที่สุด’ เสียงดังฟังชัดเลยล่ะครับ

ปลื้มใจจริงๆ ที่ในสายตาของน้องเปี๊ยกผมหล่อกว่าพ่อเปรม ว่าแล้วก็แอบเหลือบไปมองพ่อน้องเปี๊ยกนิดนึง แต่บังเอิญสายตาชนกันกลางอากาศก่อให้เกิดประจุไฟฟ้าแล่นแปลบปลาบ ผมจึงรีบหลบตากลับมาเล่นจ้องตากับน้องเปี๊ยกแทน

“กูอยู่กับมึง ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น” พี่เปรมมีองค์อับดุลประทับร่างครับ สามารถล่วงรู้ได้ว่าตอนนี้ความตื่นเต้นและประหม่าของผมอยู่ในระดับไหน และจะเพิ่มสูงขึ้นอีกเท่าไหร่ในอีกไม่กี่สิบนาทีข้างหน้า

มือใหญ่เอื้อมมากุมมือของผมเอาไว้ จากนั้นก็แนบริมฝีปากลงบนหลังมือ


อุ๊ต๊ะ!

บทจะหวานขึ้นมา ก็เล่นเอาเบาหวานขึ้นตาจนต้องเบิกตาค้างเลยครับ พอพี่เปรมผละจูบออก ผมก็ค่อยๆ ดึงมือกลับมา แล้วพยายามเม้มปากกลั้นยิ้มเต็มที่ เมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนสี รถเริ่มขยับเคลื่อน พี่เปรมหันกลับไปมองถนนด้านหน้า ผมจึงยกมือข้างนั้นขึ้นมาจูบทับรอยของพี่เปรม

กำลังใจผมดีขนาดนี้แล้วผมจะต้องกลัวอะไรอีกล่ะครับ เข้าเกียร์เดินหน้าพุ่งชนอย่างเดียว ผมมองสันญาณไฟจราจร แยกข้างหน้าก็จะเลี้ยวเข้าซอยคฤหาสน์หลังงามของตระกูล ‘ชนะวิรุณพล’ แล้วล่ะครับ เป็นตระกูลเศรษฐีผู้ดีเก่าทางฝั่งคุณแม่ของพี่เปรม ซึ่งก็คือคุณตาคุณยายนั่นแหละครับ

ในที่สุดรถคู่ใจของพี่เปรมก็เข้ามาจอดภายในรั้วคฤหาสน์หลังงาม จะว่าไปผมก็รู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้างนะครับโดยเฉพาะตรงศาลพระภูมิ ผมลงมาจากรถก็ยกมือไหว้ก่อนเป็นอันดับแรก เอาฤกษ์เอาชัยครับ

“ฝากพี่ชมพู่ดูแลไอ้เปี๊ยกให้ผมด้วย อย่าปล่อยให้วิ่งเล่นอยู่ตัวเดียวเด็ดขาดนะครับ” คุณพ่อฝากฝังลูกชายไว้กับพี่สาวใช้ที่ชื่อชมพู่ ให้ช่วยดูแลในระหว่างที่ผมกับพี่เปรมขึ้นไปบนตึกใหญ่

พี่เปรมให้เหตุผลว่าตอนนี้เป็นช่วงอาหารเย็น ทุกคนอยู่ในห้องอาหาร มันจึงไม่ค่อยเหมาะที่พาน้องเปี๊ยกเข้าไปด้วย และที่สำคัญก็คือคุณพ่อของพี่เปรมไม่ค่อยชะถูกชะตากับบรรดาสัตว์เลี้ยงซักเท่าไหร่ ผมเลยต้องจำยอมครับ น้องเปี๊ยกเองก็เข้าใจไม่มีดื้อดึง แถมให้กำลังใจผมเต็มที่ ผมจึงจุ๊บกระหม่อมเล็กๆ นั่นไปหนึ่งที ก่อนจะยื่นมือให้พี่เปรมกุมไว้แล้วเดินเข้าประตูหลังใหญ่ด้วยกัน
ทุกคนเคยดูละครหลังข่าวใช่มั๊ยครับ? ประเภทที่บ้านรวย ไฮโซหรู บ้านที่เปรมก็ไม่ต่างจากในละครสักนิด โดยเฉพาะห้องทานข้าวที่มีโต๊ะยาวเฟื้อยประมาณยี่สิบที่นั่ง แต่นั่งกินกันจริงๆ แค่สี่ห้าคนตรงหัวโต๊ะด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น และการปรากฏตัวของผมและพี่เปรมก็ทำให้สมาชิกทั้งหมดหันมามองเป็นตาเดียวโดยไม่ได้นัดหมาย ผมจึงรีบปล่อยมือใหญ่แล้วยกขึ้นไหว้ผู้อาวุโสทั้งหลายทันที ซึ่งมีแค่เพียงคุณแม่กับคุณพ่อของพี่เปรมส่งยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารับไหว้

“พบรัก?” น้องปิ่นทักผมเป็นคนแรกด้วยสีหน้าเหวอยังกับเห็นผมเป็นแคสเปอร์ผีน้อยผู้น่ารัก

“มานั่งทานข้าวด้วยกันสิลูก” ผู้ชายซึ่งเป็นต้นฉบับของพี่เปรมทั้งหน้าตาและรูปร่างชักชวนด้วยรอยยิ้ม

“ป้าน้อย รบกวนด้วยค่ะ” คุณแม่หันไปสั่งให้คุณป้าร่างอวบท่าทางใจดีตักข้าวให้ผมและพี่เปรม

พี่เปรมนั่งลงข้างๆ คุณพ่อ ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ คุณผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูดีมีสง่า น้องปิ่นแสนสวย และเด็กผู้ชายวัยรุ่นอีกคนที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู เพียงแต่กิริยาการใช้สายตามองผมสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจได้ว่าเด็กคนนี้จะต้องเป็น ‘เขื่อน’ อย่างแน่นอน

“น้องปิ่นรู้จักเพื่อนคุณเปรมด้วยเหรอคะ?” คุณผู้หญิงที่นั่งอันดับแรกของฝั่งตรงข้ามเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับเหลือบมองผมสลับกับพี่เปรม

“พบรักเป็นเพื่อนสนิทของดีนค่ะคุณยาย”

เฮ้ย! นี่คุณยายเหรอครับ ทำไมยังสาวขนาดนี้ ถ้าบอกผมว่าเป็นพี่สาวของคุณแม่ผมก็เชื่อนะเนี่ย แต่นอกจากจะยังสาวและสวยแล้วท่าทางยังดูระเบียบจัดอีกด้วย แค่เห็นคิ้วขมวดแล้วมองสำรวจผมด้วยใบหน้านิ่งๆ ผมก็เกร็งไปทั้งตัวแล้วครับ

“เพื่อนของดีน แล้วไปมายังไงถึงได้มากับคุณเปรมได้ล่ะคะ?”

“พบรักเป็นคนรักของผมครับ” พี่เปรมตอบชนิดที่ว่าไม่ต้องมีเกริ่นนำหรืออารัมภบทใดๆ แถมยังดูสบายๆ มีตักกับข้าวมาใส่จานให้ผมด้วย เคยถามกันสักคำมั๊ยว่าตอนนี้ยังมีความรู้สึกหิวอยู่บ้างรึเปล่า? 

ไม่ต้องถามถึงปฏิริยาของทุกคนในตอนนี้นะครับว่ามันเป็นยังไงกันบ้าง เงียบสนิทไม่มีใครนั่งยิ้มระรื่นหัวเราะยินดีกับสถานะของผมกับพี่เปรมเลยสักคน อาจจะมีแค่คุณพ่อกับคุณแม่เท่านั้นที่ส่งยิ้มบางๆ เป็นกำลังใจมาให้ ส่วนน้องปิ่นนี่อ้าปากเหวอไปเลยครับ ในขณะที่คุณตาและคุณยายของพี่เปรมหน้าตึงคิ้วขมวดจ้องผมกับพี่เปรมตาแทบไม่กระพริบ

อ้อ แต่มีอยู่หนึ่งคนครับที่กำลังมองและยิ้มให้ผมแต่เป็นสายตาและรอยยิ้มคล้ายว่ากำลังมองเรื่องตลก และกระแสจิตของผมได้ยินเสียงหัวเราะ ‘หึ’ ในลำคอของฝ่ายนั้น ผมจึงจ้องตากลับ กระตุกยิ้มมุมปาก แล้วหัวเราะ ‘หึ’ ในลำคอเลียนแบบกิริยาของอีกฝ่ายทุกอย่าง ทำเอาใบหน้าน่ารักนั่นตึงขึ้นมาทันที

“หมายความว่ายังไง?” คำถามจากบุคคลอาวุโสซึ่งนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจ จนผมยังรู้สึกเสียวสันหลัง

“ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานหมายถึง ผู้เป็นที่ชอบพอรักใคร่ คู่รัก สามีหรือภรรยาครับ ไม่ได้เป็นคำแสลงแต่อย่างใด” คำตอบของพี่เปรมทำผมอ้าปากค้างอึ้งรับประทานไปเลยครับ


ปัง!!! คุณตาตบโต๊ะฉาดใหญ่


“คุณเปรม!!”


ไม่แปลกหรอกครับที่คุณตาจะโกรธ แล้วตวาดใส่พี่เปรมแบบนั้น ส่วนพี่เปรมนี่ก็นิ่งได้อีก ตอบกลับไปนิ่งมาก ไม่ดูสถานการณ์และคนรอบข้างบ้างเลยว่าตอนนี้ทุกคนยกเว้นคุณยายครับ คนอื่นๆ กำลังแข่งกันหดตัวให้เล็กลงโดยมีกติกาว่าใครสามารถหดตัวได้เล็กที่สุดถือว่าเป็นผู้ชนะ ซึ่งผมเกือบจะคว้าแชมป์ไว้ได้ถ้าไม่ติดตรงที่ไอ้เด็กเขื่อนนั่นมันตัวเล็กกว่าผม และตอนนี้หน้ามันก็ซีดมาก ที่สำคัญก็คือผมสังเกตเห็นว่ามือที่กำช้อนและส้อมไว้แน่นนั่นกำลังสั่น จนผมสงสัยว่าไอ้เด็กกวนบาทาเมื่อครู่หายไปไหนซะแล้ว

“คุณเปรมทำแบบนี้ต้องการอะไรคะ? ประชดเรื่องหนูปุ๋ยน้อยอย่างนั้นเหรอ?” คุณยายถามพี่เปรมด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่เรียบนิ่ง แม้จะเอ่ยถามหลานชายตัวเอง แต่สายตาที่ตำหนิและไม่พอใจนั่นส่งมาทิ่มแทงผมโดยตรงจนแทบจะพรุนไปทั้งร่าง

“เรื่องปุ๋ยน้อยไม่เคยอยู่ในสมองของผมสักนิดครับ และผมก็ไม่ได้ประชดอะไรทั้งนั้น ผมแค่อยากจะพาคนรักของผมมาให้ทุกคนรู้จักครับ” พี่เปรมเสียงอ่อนลง มือใหญ่ยื่นมากุมมือของผมที่วางอยู่บนหน้าขาไว้แล้วใช้นิ้วโป้งเกลี่ยบนหลังมือเพื่อปลอบโยน
ความกดอากาศต่ำปกคลุมทุกพื้นที่ คุณตาคุณยายและคุณหลานชายเล่นจ้องตาฟาดฟันกันกลางโต๊ะอาหาร ท่าทางเรื่องนี้จะยาวและหนักพอดู ผมเบนสายตาไปทางน้องปิ่นนิดหนึ่ง ดูเหมือนว่าน้องปิ่นจะฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้วครับ เธอส่งยิ้มแล้วแอบชูสองนิ้วให้ผม

“รู้ใช่มั๊ยว่าทำแบบนี้แล้วผลมันจะเป็นยังไง?” คุณตาเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปเกือบนาที

“ครับ”

คำตัดสินอะไรครับ ผมไม่เข้าใจ ใครก็ได้อธิบายผมหน่อย

“คุณพ่อคะ ลูกคิดว่าคุณเปรมโตแล้วนะคะ เราน่าจะ..” คุณแม่ที่เงียบมานานพูดแทรกแสดงความคิดเห็นบ้างแต่ก็ถูกคุณตาสวนกลับก่อนจะจบประโยค

“เพราะให้ท้ายลูกแบบนี้ยังไง คุณเปรมและคุณปลื้มถึงได้สิ้นคิดและวิปริตกันไปหมด!”

   อะไรคือ ‘สิ้นคิด’ และ ‘วิปริต’ เหรอครับ?

ผมมองท่านศาสตราจารย์ด๊อกเตอร์นายแพทย์ด้านศัลยประสาทอันดับต้นๆ ของเมืองไทยอย่างไม่เชื่อหูตัวเองว่าคนที่เป็นถึงนายแพทย์เป็นคุณหมอที่ผู้คนยกย่องนับถือทำไมถึงได้พูดอะไรแบบนี้ออกมา และมันก็ทำให้ผมนึกถึงสีหน้าและแววตาของพี่ปลื้มตอนที่เคยบอกผมว่า ‘คุณตาคุณยายรังเกียจและเกลียดเกย์ยิ่งกว่าอะไร’ ซึ่งทำให้ผมพอจะเข้าใจอะไรได้ลางๆ แล้วล่ะครับว่าทำไมพี่ปลื้มถึงไม่สนิทกับคุณตาคุณยาย และค่อยมาที่บ้านหลังนี้ รวมถึงที่โรงพยาบาลด้วย

“คุณเปรมต้องกลับชลบุรีวันนี้ไม่ใช่รึไง?” คุณพ่อหันมาทางพี่เปรมและผม

“นั่นสิคะพี่เปรม นี่ก็ค่ำแล้วนะคะ” พอคุณพ่อเปิดทางน้องปิ่นก็รีบสนับสนุนเลยครับ

พี่เปรมลุกขึ้น ผมจึงลุกขึ้นตาม พี่เปรมยกมือไหว้ลา ผมเองก็เช่นกัน

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

ก่อนจะเดินออกจากห้องอาหารอันแสนอึมครึมและมืดหม่นนั่น เสียงอันเย็นยะเยือกแต่มีพลังดังขึ้นส่งท้าย

“ออกไปแล้วก็ไม่ต้องกลับมาจนกว่าจะคิดได้”

พี่เปรมหยุดฟังแค่แว่บเดียวแต่ก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ มือใหญ่เอื้อมมือมากุมมือผมไว้ จากนั้นก็พาเดินขึ้นไปชั้นสองบนห้องนอน พี่เปรมไม่พูดไม่จาหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมาแล้วจัดการเอาเสื้อผ้า หนังสือ ของใช้ที่จำเป็นอีกหลายอย่างใส่ลงในกระเป๋า จากนั้นก็ลากกระเป๋าเดินออกมาจนถึงรถที่มีพี่ชมพู่และน้องเปี๊ยกยืนรออยู่แล้ว

หลังจากขับรถออกมาผมกับพี่เปรมคุยกันก็แทบจะนับคำได้ เพราะไอ้ดีนโทรหาผมเรื่องงานโปรเจคที่จะต้องนำเสนอในวันพุธที่จะถึงนี้ ผมเลยต้องคุยกับไอ้ดีนยาวเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าจะรู้ตัวอีกทีว่าสองข้างทางไม่คุ้นเคยก็ตอนที่วางสายจากไอ้ดีน

“จะไปไหนเหรอพี่เปรม?”

“ชลบุรี”

เอ๋------------???

ลากยาวด้วยน้ำเสียงเดียวกับโอก้าซังของผมเลยครับ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังหนีตามกันเลยครับ

“พรุ่งนี้มึงโดดเรียนได้ใช่มั๊ย?”

“ได้จนถึงวันอังคาร” ตอบพร้อมผมมองเสี้ยวใบหน้าคมของพี่เปรมแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม

“รักนะ” และขอบคุณสำหรับความจริงใจที่มีให้ผม

“อืม” พี่เปรมตอบโดยไม่ได้หันมามอง แต่ริ้วสีแดงจางๆ บนใบหน้าคม ทำให้ผมต้องฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิม


.
.
.
.
   

   ถึงบ้านพักในโรงพยาบาลตอนห้าทุ่มกว่า โรงพยาบาลที่พี่เปรมเอ็กเทอร์นเป็นโรงพยาบาลเล็กๆ ในอำเภอที่ห่างออกจากตัวเมืองชลบุรี อาคารโรงพยาบาลมีแค่อาคารเดียว ชั้นเดียว ส่วนที่พักของพี่เปรมก็เป็นบ้านไม้สองชั้นที่ค่อนข้างจะผ่านร้อนผ่านฝนมาหลายสิบปี แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในสภาพที่ดี ไม่ห่างไปนักมีบ้านพักแบบเดียวกันอีกสามหลัง ซึ่งพี่เปรมบอกว่าเป็นบ้านพักของนายแพทย์ประจำโรงพยาบาล บรรยากาศโดยรวมคือเงียบมาก มองไปทางโรงพยาบาลที่เปิดไฟสว่างอยู่ไกลๆ ก็แทบจะหาความเคลื่อนไหวไม่เจอ

   ภายในบ้านพักแทบจะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ใดๆ เลย ยังดีที่ห้องรับแขกมีทีวีและเก้าอี้โซฟาเก่าๆ วางไว้ให้ พี่เปรมพาผมเดินขึ้นชั้นสองซึ่งเป็นห้องนอน ห้องนี้ดูดีสักหน่อยเพราะมีสมบัติของพี่เปรมวางไว้ให้เห็นบ้าง เข้ามาปุ๊ปผมก็รีบขอผ้าเช็ดตัวจากพี่เปรมแล้วเดินเข้าห้องน้ำทันที เพราะผมรู้สึกเหนื่อยมากครับ อยากอาบน้ำและล้มตัวลงนอนเต็มแก่แล้ว ซึ่งคิดว่าพี่เปรมก็คงคิดไม่ต่างกัน
ผมใช้เวลาอาบน้ำเกือบครึ่งชั่วโมง เดินออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวพันรอบเอว ส่งยิ้มให้น้องเปี๊ยกที่นอนแหมะสบายอารมณ์อยู่บนหมอนฟูกใบใหญ่ ส่วนเจ้าของห้องในชุดนอนเรียบร้อย เส้นผมดำขลับเปียกชื้นน้ำ นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโต๊ะข้างหน้าต่าง ใบหน้าคมหันมามองผมจึงรีบยกมือขึ้นปิดหัวนมไว้

“ไอใส่เสื้อผ้าพี่เปรมนะ” ผมมาแต่ตัวและหัวใจจริงๆ ครับ

“จะแก้ผ้านอนก็ได้” ดวงตาคมจ้องมองทั่วร่างของผม ริมฝีปากบางจุดรอยยิ้มกรุบ

ถ้าหากไม่ติดว่าเหนื่อยและง่วงผมคงได้สลัดผ้าเช็ดตัวเขวี้ยงทิ้งไปไกลๆ ในทันที แต่ตอนนี้มันเหนื่อยจริงๆ ครับ ผมจึงทำได้แค่ส่งยิ้มปรายตาเท่านั้น ผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่มีอยู่แค่ไม่กี่ชุด แต่ผมก็ได้เสื้อกล้ามมาหนึ่งตัว ลองใส่ดูก็กลายเป็นเดรสสั้นไปเลยครับ ยาวลงมาปิดสะโพกให้พอดูวับๆ แวมๆ  ใส่คู่กับกางเกงบ๊อกเซอร์ที่เกือบจะต้องเอายางรัดถุงแกงมามัดเอวไว้ เพราะขนาดไซด์ของพี่เปรมนั้นต่างจากผมเยอะพอสมควร

   ได้ชุดนอนสุดเซ็กซี่แล้วก็กระโดดขึ้นเตียงที่มีพี่เปรมนอนรออยู่แล้วครับ ส่วนน้องเปี๊ยกชิงหลับไปก่อนผมซะอีก    “ฝันดีนะพี่เปรม” แค่หัวแตะหมอน และได้อ้อมกอดอุ่นๆ ผมก็แทบจะลืมตาไม่ขึ้นแล้วครับ บอกฝันดีเสร็จผมก็หลับสนิทคาอกแน่นๆ ไปเลยครับ
   ผมคิดว่าคืนนี้ผมจะได้นอนยาวฝันดีเหมือนคืนก่อน แต่เปล่าเลยครับ หลับไปได้ไม่เท่าไหร่ผมก็ต้องลืมตาตื่นตอนตีสองเพราะทนต่ออาการปวดหัวไม่ไหว พี่เปรมยังคงหลับอยู่ข้างๆ และผมก็ไม่อยากจะรบกวนทำให้พี่เปรมต้องตื่น วันนี้พี่เปรมเหนื่อยมาทั้งวันแล้วยังต้องมารับแรงกดดันจากที่บ้าน พรุ่งนี้ก็ต้องไปรับเวรตอนหกโมงเช้าอีก ผมจึงค่อยๆ ขยับตัวลุกขึ้นท่ามกลางความมืด แม้จะมีเซเกือบจะล้มหลายครั้งจนต้องประคองตัวไว้กับฝาผนังห้อง ปวดหัวหนักๆ ทีไรแขนขาของผมก็จะสั่นไปหมด แม้แต่การมองเห็นบางครั้งก็พร่ามัว

   จู่ๆ ไฟในห้องก็สว่างพรึ่บขึ้นจนผมตกใจ คนที่คิดว่าหลับสนิทอยู่บนเตียงไม่ได้หันมามองผมด้วยซ้ำ พี่เปรมเดินไปเปิดกระเป๋าเป้ แล้วหยิบขวดยาออกมา จากนั้นก็เดินไปรินน้ำสะอาดใส่แก้ววางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง ก่อนจะเดินมาหาผมแล้วประคองให้กลับไปนั่งบนเตียง ส่งยาและน้ำให้ผม รอจนผมกินเสร็จก็เดินกลับไปปิดไฟแล้วนอนกอดผมไว้แน่น

   “ฮึก” ทุกครั้งผมจะทนได้ แต่ครั้งนี้ทำนบน้ำตามันไหลออกมาเหมือนเด็กขี้แย

   อาการปวดหัวรุมเร้ามากขึ้น ผมเกร็งมือจิกต้นแขนอย่างแรงเพื่อต่อสู้กับความทรมาน กว่ายาจะออกฤทธิ์ก็เป็นเวลาที่พี่เปรมต้องออกไปทำงานพอดี 




.
.
.
.
.
.
.


TBC  :oni1:




ตอนนี้รินมาลงแบบด่วนๆ นะคะ
ถ้าหากคนอ่านท่านใดเจอคำผิด กรุณาคอมเม้นต์บอกไว้ได้เลยนะคะ เดี๋ยวรินจะมาอีดิทค่ะ
:m5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-09-2015 20:38:08 โดย RIRIN »

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
ป๋ยคอกยังดีไป มีประโยชน์ เอาแบบปุ๋ยขี้ควายสดเลยม่ะ แหม่...ทำตัวตอลงตอแหล ต่อหน้าผู้ใหญ่นี่ก็ดีนะ แต่พออยู่กับผู้ชายล่ะระริ้กระรี้ โพดโพ!!!นี่บอกเลย ขอให้พี่ปลื้มได้ไอ้เถื่อน อุ้ยเขื่อน คนแก่ก็บังคับกันแบบเกินเหตุ ขอให้น้องไอกับพี่เปรมสู้ๆนะคะ  :oni1:

จัดว่าเด็ด  o13

โพดโพ!!  :laugh:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
น้องไอเป็นอะไรกันแน่ พี่เปรมถึงได้เตรียมยาไว้พร้อม

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่เปรมเท่ที่สุด ไม่เถียงไม่โวยวาย แต่ ไม่ทำตาม



คุณยายกับคุณตานี่ อคติครอบงำจนจิตใจจน เหยียบได้แม้จิตใจของหลานๆ ทั้งเปรมและปลื้ม(อาจแถมเขื่อนน้อยด้วย)



น้องไอ หนูป่วเป็นอะไรเนี่ยห๊ะ อาการท่าจะหนักแล้วนะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
น้องไอป่วยเป็นอะไรกันนะ หวังว่าจะไม่ร้ายแรงมากจนเป็นอันตรายต่อชีวิตนะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :z3:   ปวดหัวอีกแย้วววว

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เจ็บเล็กป่วยน้อยแค่ไหนก็ต้องบอกพี่เปรมนะคะน้องไอ ดีกว่าปล่อยเอาไว้ให้หนักแล้วไม่มีโอกาสได้รบกวนพี่เปรมอีกเลยน้า :กอด1:

ปล. คำผิดจ้า ^^ ผ่ารถติด = ฝ่ารถติด

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ตอนนี้มโนไกลไปดาวพฤหัสแล้ว อาการป่วยของน้องไอ คงเกี่ยวกับระบบประสาทสินะ เห็นอาการน้องแล้วทรมานแทน
แล้วคุณตาพี่เปรมก็เป็นหมอศัลย์ด้านนี้ที่เก่งมากๆ ซึ่งคุณตาต่อต้านการที่พี่เปรมจะมีแฟนเป็นผู้ชายมากๆ
โอ้ว เห็นแววมาม่ามาแต่ไกลลิบ องค์ประกอบครบองค์เหมือนมีหม้อ น้ำ เส้นมาม่า เครื่องปรุงพร้อม รอปรุงเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้นข้างบนนี้เกิดจากการมโนล้วนๆ อาจไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้
เราค่อนข้างกลัวดราม่าอยู่เป็นทุน เลยชอบคิดนู่นคิดนี่ไว้ก่อน เกิดจริงขึ้นมาจะได้ไม่ช็อค ฮ่าาาา

เรื่องผู้ใหญ่ที่อยากจับพี่เปรมแต่งงานหรือต่อต้านชายรักชายนี่ จริงๆไม่รู้ว่าเกิดจากความเป็นห่วง หวังดี หรือเห็นแต่ตัวเองกันแน่
ช่วยไม่ได้ละน้า พวกเค้าเกิดมาในยุคก่อนๆที่ความคิดเรื่องสิทธิเสรีภาพในเรื่องเพศอาจไม่ได้เปิดกว้าง ด้วยกรอบของขนบต่างๆ
เชื่อว่าซักวันนึงคงยอมรับได้ น้องไอออกจะน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ แต่ไม่รู้กว่าวันนั้นจะมาถึงจะสะบักสะบอมกันขนาดไหนเนอะ
สู้ๆนะน้องไอ พี่เปรม
 :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ตายายนี่ก็บังคับหลานแบบเกินขนาด ก็อายุมากแล้วนะคะ เตือนด้วยความหวังดีเดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้วเป็นภาระของลูกหลาน คุณตาค่ะเกลียดอะไรได้อย่างนั้นเคยได้ยินไหมคะคำโบราณ ออกโทนสั่งสอนคนอายุเยอะกว่า หลานชายน่ะจะหวงไว้ทำแป๊ะอะไร แล้วดูด้วยชะนีปุ๋ยขี้ควายน่ะ ตรวจภายในมันซะ อย่าดูแค่ภายนอก
โพดโพนี่ติดมาใช้จากเพื่อนอีกที งานหยิบยืมก็มา
เป็นห่วงน้องไอแบบเกินเหตุ ขอให้ปลอดภัยนะลูกนะ  :hao5:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ทั้งปลื้มใ๗ทั้งกังวลใจกับอาการของไอ

ออฟไลน์ Cream A

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เป็นห่วงอาการของน้องไอมากกว่าดราม่าคุณตาคุณยาย เห็นปวดหัวรุนแรงมาสักพักแระ

ไม่รู้มีนัยอะไรอีกไม๊ หนูต้องแข็งแรงทั้งกายและใจเพื่อไฟท์ไปกับพี่เปรมนะลูก

ออฟไลน์ gasia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-5
สรุปน้องไอเป็นอะไรกันแน่ ;3;
พอคุณตาดุเขื่อนดูเป็นเด็กน้อยไปเลยย
พี่เปรมแข็งแกร่งมาก ยืนหยัดสุดยอดเป็นยอดวีรบุรุษ  น้องไอต้องเป็นหนักรึเปล่าพี่เปรมถึงเตรียมพร้อมขนาดนี้

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
น้องไอจะเป็นอะไรมากไหมเนี่ย  :z3:

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
น้องไอออออออออออออออ
อย่าเป็นอะไรนะ
พี่เปปรมสู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
เป็นห่วงน้องไอ ปวดหัวรุนแรงขึ้นนะ

ส่วนเรื่องความรัก ส่งใจเป็นแรงเชียร์พี่เปรม น้องไอ

ออฟไลน์ แป้งข้าวหมาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
น้องไอเวลาเป็นอะไรต้องบอกพี่เปรมสิลูก
ขอให้น้องไอไม่เป็นอะไรมาก  :กอด1:

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
กำลังจะเตรียมเครื่องปรุงใช่มั้ยยยยย

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
สู้ๆนะพี่เปรมกับน้องไอ :กอด1:

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
อิจฉาน้องไอจางงงงงงงงงงงงงง ทำบุญด้วยอะไรหนอถึงได้ปั๋วดีอย่างพี่เปรม  :ling1: ดูแลน้องไอดีมากๆเลย ไม่ใช่แบบพะเน้าพะนอแต่มีความฟรุ้งฟริ้งในแบบตัวเอง พาน้องไอไปกราบพ่อด้วย อีน้องไอก็เน๊าะคนเขาโรแมนติก อีน้องก็คิดได้ว่าพี่เปรมขอเป็นลูกพ่อเพราะอยากเป็นพี่ แหม พี่ที่ไหนจะแนบแน่นหนูยันลำไส้ขนาดนั้นคะน้องไอพูดไม่คิดเดี๋ยวพี่เปรมจัดหนักจัดเต็มหนูก็ชอบใจอีก  :laugh: แต่พี่เปรมนี่สุดยอด นิ่งๆ เข้มๆ แต่เน้นย้ำทุกจุด ทำเอาอึ้งกันเป็นแถบ กระชับได้ใจ คุณตาคุณยายก็น่าจะเข้าใจหลานบ้างนะ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป ทำใจยอมรับบ้างเถอะ พ่อแม่เขายังยอมรับได้เลย ปล่อยวางซะบ้าง หรือว่า คุณตาเคยอกหักรักคุดกับเกย์ตุ๊ดมาก่อนได้คุณยายเลยจำฝังใจแค้นฝังหุ่น  :katai2-1: แต่น้องไอเป็นอะไรนี่สิ ต้องเกี่ยวกับอุบัติเหตุแน่ๆ พี่เปรมคงรู้แต่ยังไม่บอกกลัวน้องไอกังวล คงต้องหาทางรักษากันแน่ อย่าเป็นไรนะน้องไอ ไม่งั้นคนรอเสียบพี่เปรมอีกเพียบ อย่างน้อยก็อีนังปุ๋ยคอก ถึงพี่เปรมไม่เอาแต่มันจ้องจะเอานะ น้องไอสู้สู้ พี่เปรมสู้สู้  :mew1:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
สู้ๆนะคะ ทั้งคู่เลย จับมือกันแน่นๆนะคะ :กอด1:
เป็นห่วงไอจัง เป็นอะไรมากลูก หายไวๆนะ
รอตอนต่อไปเน้อออ

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
น้องไอเป็นอะไรรรร เป็นห่วงแรง พี่เปรมดูแลน้องนะ

ตายายนี่เป็นไรมากมั้ย บังคับจิตใจหลานมากมาย ไร้สาระ คู่ชชมันไม่วิปริตหรอกนะ คนที่คิดน่าจะวิปริตมากกว่า

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ Wrwrwr

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่เปรมเป็นสุภาพบุรุษตัวจริง หลงรักพี่เปรมมาก แต่ห่วงน้องไอด้วยอะ จะเป็นอะไรมั๊ย พี่เปรมต้องรู้แน่ๆ พี่เปรมต้องช่วยน้องไอนะ  :katai1:

ออฟไลน์ Wrwrwr

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อิจฉาน้องไอจางงงงงงงงงงงงงง ทำบุญด้วยอะไรหนอถึงได้ปั๋วดีอย่างพี่เปรม  :ling1: ดูแลน้องไอดีมากๆเลย ไม่ใช่แบบพะเน้าพะนอแต่มีความฟรุ้งฟริ้งในแบบตัวเอง พาน้องไอไปกราบพ่อด้วย อีน้องไอก็เน๊าะคนเขาโรแมนติก อีน้องก็คิดได้ว่าพี่เปรมขอเป็นลูกพ่อเพราะอยากเป็นพี่ แหม พี่ที่ไหนจะแนบแน่นหนูยันลำไส้ขนาดนั้นคะน้องไอพูดไม่คิดเดี๋ยวพี่เปรมจัดหนักจัดเต็มหนูก็ชอบใจอีก  :laugh: แต่พี่เปรมนี่สุดยอด นิ่งๆ เข้มๆ แต่เน้นย้ำทุกจุด ทำเอาอึ้งกันเป็นแถบ กระชับได้ใจ คุณตาคุณยายก็น่าจะเข้าใจหลานบ้างนะ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป ทำใจยอมรับบ้างเถอะ พ่อแม่เขายังยอมรับได้เลย ปล่อยวางซะบ้าง หรือว่า คุณตาเคยอกหักรักคุดกับเกย์ตุ๊ดมาก่อนได้คุณยายเลยจำฝังใจแค้นฝังหุ่น  :katai2-1: แต่น้องไอเป็นอะไรนี่สิ ต้องเกี่ยวกับอุบัติเหตุแน่ๆ พี่เปรมคงรู้แต่ยังไม่บอกกลัวน้องไอกังวล คงต้องหาทางรักษากันแน่ อย่าเป็นไรนะน้องไอ ไม่งั้นคนรอเสียบพี่เปรมอีกเพียบ อย่างน้อยก็อีนังปุ๋ยคอก ถึงพี่เปรมไม่เอาแต่มันจ้องจะเอานะ น้องไอสู้สู้ พี่เปรมสู้สู้  :mew1:


ใช่ทุกอย่าง

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เป็นธรรมดาของผู้ใหญ่ แถมหัวโบราณ ถึงยังไงก็เป็นผู้มีพระคุณเนอะ พี่เปรมเองก็เป็นผู้ใหญ่มาก ไม่มีตอบโต้เลย พี่เปรมกับน้องไอต้องผ่านมันไปด้วยกันได้แน่ๆ  :กอด1:
แต่อาการปวดหัวของน้องไอ กลัวมากว่าจะไม่ใช่แค่ไมเกรนธรรมดาอ่ะดิ น้องไอห้ามเป็นอะไรนะ  :hao5:

ออฟไลน์ RIRIN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +492/-2
เจ็บเล็กป่วยน้อยแค่ไหนก็ต้องบอกพี่เปรมนะคะน้องไอ ดีกว่าปล่อยเอาไว้ให้หนักแล้วไม่มีโอกาสได้รบกวนพี่เปรมอีกเลยน้า :กอด1:

ปล. คำผิดจ้า ^^ ผ่ารถติด = ฝ่ารถติด


แก้ไขเรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณมากๆๆ นะคะ  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด