Night knight อัศวินรัติกาลตอนพิเศษ รอทxโยนาห์ แจ้งข่าวตีพิมพ์ค่ะP13 13/09/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

อยากให้มีการรวมเล่มหรือไม่ สำหรับเรื่อง Night Knight

อยากให้รวมเพื่อจะได้สะสม
ไม่อยากให้รวม

ผู้เขียน หัวข้อ: Night knight อัศวินรัติกาลตอนพิเศษ รอทxโยนาห์ แจ้งข่าวตีพิมพ์ค่ะP13 13/09/59  (อ่าน 137873 ครั้ง)

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ยังคิดอยู่ว่าอัลสะไวเดอร์เป็นพ่อของโยนาห์ ไม่ใช่อาร์วาร์ค
ขำพี่รอท ตามไปอยู่บ้านเมียให้เหตุผลเสี่ยวมากพี่รอท ๕๕๕
รอ รอ รออ่านตอนใหม่ มาเร็วๆนะคับ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
รันทดแท้ๆเลยโย
ยิงยาวเลยดีกว่ากำลังเข้มข้นเลย
 :mew1:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ตอนแรกคิดว่าแฝดของพ่อมาฆ่าแม่ แต่ที่ไหนได้เป็นพ่อเป็นคนฆ่าแม่

แล้วอาดันเป็นคนช่วยเหลือโยกับแม่ไปได้ อ๊ากกกกก


ลุ้นจริง ๆ เรื่องราวชักจะดราม่า+บู้ล้างกระจ่ายแน่ งานนี้ต้องรออ่านตอนต่อไปอย่างเดียวสินะ  :sad4:

ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ว้าววว เรื่องซับซ้อนมาก รออ่านต่อค่าาา

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 26 ลองกินุส
[/b]

Yonah Say


      ชีวิตปีหนึ่งผ่านไปจนหมดเทอม เรื่องอาร์วาร์คและซาโตนี่เหมือนสายลมที่พัดผ่านไปเช่นกัน เพียงแต่สายลมนี้อาจก่อตัวเป็นพายุร้ายรอเวลาจะพัดกระหน่ำอีกหน ผมมองสำรวจรอยแดงนับไม่ถ้วนบนตัวที่เกิดจากการฝึกซ้อม รอยฟกช้ำ ขีดข่วน เหล่านี้คงหายสนิทไม่เกินวัน แต่อาการปวดเมื่อยกับบอบช้ำภายในนี่สิ น่ารำคาญเกินทน จนต้องดื่มเลือดบ่อยขึ้นเพราะอาหารของมนุษย์ให้พลังงานไม่เพียงพอ แต่ทั้งหมดใช่ว่าจะเสียเปล่า คล่องเคล่วจนหลบกระสุนได้เฉียดฉิว รวมไปถึงการต่อสู้ระยะประชิดที่ถ้าไม่ใช่มือดีของพ่อผมก็ล้มได้สบาย และที่สำคัญผมเป็นนักแม่นปืนตัวยงอาจเพราะบ้าเกม fps เป็นทุนเดิมเลยสนใจเรื่องลั่นไกเป็นพิเศษ


      “ข้าววว กูอยากกินยำมาม่าใส่กุ้งเยอะๆ” ผมออดอ้อนไอ้เตี้ยที่นั่งดูทีวีสบายใจโดยยึดตักมันเป็นหมอน


      “ทำไมกูต้องทำ เลือดในตู้ก็ไปเอามากินดิวะ” ด่าเสร็จตบหัวกูด้วยเพื่อนเวร


      “แม่งมีรสชาติเดียวน่าเบื่อจะตาย” ยังอ้อนวอนงอแง จนมันเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ “หรือมึงไม่หิว นี่จะค่ำแล้วนะเว้ย”


      “เออก็ได้” มันผลักหัวผมออกจากตักก่อนเดินลงส้นเข้าครัวไป


      ข้าวมันย้ายมาอยู่กับผมที่บ้านนี้ไม่ต้องถามเนอะว่าหมอตามมามั้ย ทำให้บ้านหลังใหญ่นี้ดูคึกครื้นขึ้นมาเลย อบอุ่นดีครับสะท้อนให้เห็นเลยว่าลึกๆ ผมอยากจะมีครอบครัวอย่างคนทั่วไปขนาดไหนถึงปากจะบอกไม่เป็นไรก็เถอะ บ้านหลังที่ผมอยู่เรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์ย่อมๆ บริเวณกว้างขวางกินพื้นที่กว่าสิบไร่ มีบ้านหลังย่อยๆ ให้คนของพ่อพักอยู่ด้วย พลังเงินนี่น่ากลัวจริงเพราะท่านเพิ่งย้ายมาไม่นาน อีกทั้งยังซ่อนเร้นจากสภากลางได้อย่างน่าอัศจรรย์หรืออาจเป็นเพราะรอทที่กันไม่ให้ใครเข้ามายุ่งเสียมากกว่า


      มองดูบนโต๊ะแล้วช่างขัดแย้งกับอาการไม่อยากทำของไอ้ข้าวเสียจริง ยำมาม่าของผม แกงจืด ซี่โครงหมูทอด ไก่ผัดเม็ดมะม่วง ข้าวสวยอีกหม้อ อื้ม...มึงคงไม่ได้ประชดกูใช่เปล่า กินกันแค่สามคน พ่อกับรอทก็ได้เลือดสีแดงขั้นไปกันคนละแก้วรวมถึงผมด้วย แต่อยากกินข้าวมากกว่า คิดซะว่ากินน้ำแดงไรงี้


      “ปิดเทอมกันแล้วใช่ไหม” พ่อถามขึ้นเมื่อเราทุกคนอยู่บนโต๊ะอาหารอย่างพร้อมหน้า


      “ครับ ปิดเทอมใหญ่ 2 เดือน” ผมตอบพลางยกแก้มน้ำแดง? ขึ้นจิบ “ทีนี้ผมก็มีเวลาตามหาอาร์วาร์คจริงจังซักทีสินะ”


      “ลูกคิดว่าตัวเองพร้อมแล้วหรอ”


      “พ่อเป็นคนบอกเองว่าไอ้สารเลวนั่นยังนิ่งเพราะต้องรวบรวมคนแล้วก็ฟื้นฟูตัวเองที่ถูกขังมานาน พ่อคิดจะปล่อยให้มันแข็งแกร่งกว่านี้หรอครับ” ผมแย้ง


      “แต่ลูกจะฆ่ามันได้หรอกำลังเราก็ยังเท่านี้” ดวงตาสีเทาจ้องผมจริงจัง


      “ผมไม่ได้บอกว่าจะด้วยตัวเอง ผมรู้ตัวดีว่ายังไงก็เทียบเลือดบริสุทธิ์แท้ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นเราทุกคนช่วยกัน ต้องฆ่าไอ้สารเลวนั่นได้แน่” ผมมองหน้าพ่อ พี่หมอ แล้วก็รอท “ขอแค่มันตาย ผมไม่เลือกวิธีการ”


      ทุกคนบนโต๊ะต่างเงียบจนรู้สึกผิดที่ทำมื้ออาหารกร่อยไป เอาจริงๆ เรื่องอาร์วาร์คมันทำให้ผมฮึดขึ้นมาทำอะไรหลายๆ อย่างลึกๆ แล้วแม้แต่วันเดียวผมก็รอไม่ได้


      “ผ...ผม ขอโทษ”


      “ไม่เป็นไร ที่ลูกพูดมามันก็ถูก ยิ่งรอนานก็ยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้น” พ่อวางแก้วเปล่าๆ ลงบนโต๊ะก่อนจะเรียกลูกน้องมาแล้วสั่งบางอย่าง “การหาตัวอาร์วาร์คนะไม่ยากแต่การเข้าถึงนั้นยากกว่า”


      “แล้วตอนนี้มันอยู่ไหนครับ” รอทถามขึ้น


      “ปราสาทหลังเก่าของอาร์เคน ในป่าดำตอนใต้ของเยอรมัน ป่าดำ” พ่อว่าพลางรับม้วนกระดาษแผ่นใหญ่จากลูกน้องก่อนจะกางลงบนโต๊ะอาหารเป็นแผนที่วาดด้วยหมึกดูเก่ามากๆ แต่สวยดี


      “ทำไมถึงแน่ใจละว่าเป็นที่นี่” รอมถามตาก็มองแผนที่บนโต๊ะเก็บรายละเอียด


      “การทำพิธีถ่ายวิญญาณต้องใช้ประตูนรก พวกเธออาจจะเคยเห็นมาแล้ว งานศิลปะของโรแดง นั่นเป็นแบบจำลอง แต่ของจริงมี 2 อัน อันแรกโดนทำลายทิ้งไปแล้วตอนบุกไปช่วยโยที่คฤหาสก์อาร์เคนในรัสเซีย ส่วนอีกอันอยู่ในปราสาทหลังเก่านี่แหละ” พ่อว่าพลางวางรูปถ่ายงานประติมากรรมนูนต่ำเป็นฉากนรกภูมิของโรแดงลงบนโต๊ะ ที่ตอนนี้ถูกเก็บเรียบร้อยแล้ว “นี่เป็นแผนที่ดั้งเดิมของปราสาท ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาล้อมด้วยกำแพงเหล็ก ต้องเดินเท้าเข้าไป แต่ประตูมีแค่ผู้นำตระกูลในแต่ละรุ่นเท่านั้นที่เปิดได้ ซึ่งรุ่นนี้ก็คืออาร์วาร์ค” 


      “เราก็เข้าจากบนฟ้าก็ได้นิ” ผมเสนอ...โรยตัวลงมาแบบสายลับในหนังอะไรประมาณนั้น


      “เขตอาคมที่กั้นไว้ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคทุกประเภทไม่ทำงาน ช่วยอำพรางสายตาคนภายนอก ทำให้ลอดจากตาวเทียม ดังนั้นจะเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์บินเข้าเขตจะตกทันที” คนอาวุโสที่สุดอธิบาย “จะเข้าไปได้คือเดินเท้าเท่านั้น...ช่วยไปหยิบพิมพ์เขียวของปราสาทที่โต๊ะทำงานให้ที” พ่อหันไปสั่ง


      “แต่ถ้าเราเข้าไปตรงๆ กว่าจะถึงตัวอาร์วาร์คคงจะเสียกำลังคนไปเยอะ มั่นใจว่าเจ้านั่นคงเกณฑ์คนของซาโตนี่มาคุ้มกันแน่นอน” ที่พี่หมอพูดมันก็มีเหตุผล “พอจะมีทางอื่นหรือเปล่า”


      “ก็มีนะ ขอบคุณ!” พ่อรับพิมพ์เขียวมาวางลงบนโต๊ะ “ในชั้นใต้ดินของปราสาทจะเชื่อมต่อด้วยถ้ำาจากภายนอกตรงจุดนี้” ว่าแล้วก็ก็มาคลงบนแผนที่ป่าซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของปราสาท “จะเชื่อมมาที่คุกใต้ดินซึ่งมีกำแพงหินเป็นกลไกลบังไว้ตรงห้องนี้” แล้วพ่อก็มาคลงบนพิมพ์เขียวอีกที


      “ไม่คิดว่าจะมีคนเฝ้าอยู่หรอ”


      “ไม่แน่ใจ แต่ทางนี้คนอื่นไม่มีใครรู้ ฉันไปเจอโดยบังเอิญเมื่อตอนหนุ่มๆ ที่เข้าไปหาของในนั้น” เขายักไหล่ ดูมั่นใจพอตัว “จากจุดนี้ขึ้นไปแค่สามชั้นก็จะถึงห้องพิธีซึ่งประตูนรกอยู่ที่นั่น ต่อให้ไม่เจออาร์วาร์ค ทำลายศิลานั่นทิ้งก็หยุดเรื่องนี้ได้เหมือนกันต่อให้อาร์วาร์คไม่ตาย เพราะศิลปะประตูนรกชิ้นนี้ต้องเข้าพิธีและใช้เวลาสร้างหลายร้อยปี คงไม่สามารถเริ่มพิธีได้อีกจนกว่าจะสร้างอันใหม่”


      “แล้วไอ้สารเลวนั่นละ จะฆ่ามันยังไง” ผมถาม...ในใจไม่ได้สนเรื่องตำนานห่าเหวนั่นอยู่แล้ว แค่อยากให้มันตายก็เท่านั้น


      “เราอาจต้องหาตัวช่วย เพราะอาร์วาร์คผ่านพิธี vigorous มาแล้ว รวมกับการเป็นเลือดบริสุทธิ์ทำให้แข้งแกร่งพอตัว” ผมจำได้...ไอ้พิธีที่ผมเกือบเอาชีวิตไปทิ้งในฐานะเครื่องสังเวยของกรกฎ “หอกลองกินุส อ่า...ฉันหมายถึงหอกศักดิ์สิทธ์ เธอคงเคยจะได้ยินมาบ้าง ว่าใช้ปลิดชีพพระเยซูตอนตรึงกางเขน ว่ากันว่าอณุภาพของมันฆ่าได้แม้แต่บุตรของพระเจ้า ถ้าใช้สิ่งนี้คงช่วยให้ฆ่าเจ้านั่นได้ง่ายขึ้น”


      “หอกลองกินุส ตอนนี้น่าจะถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงเวียนนาออสเตรีย” หมอบอก “ไอ้ที่โชวเป็นของปลอม ส่วนของจริงอยู่ชั้นใต้ดิน ภายใต้การรักษาความปลอดภัยที่คุมเข้มด้วยเทคโนโลยีทางทหารของมนุษย์ที่อมมนุษย์เองก็ไม่ควรประมาท”


      “แต่เราต้องได้มันมาก่อนที่จะบุกไปปราสาทอาร์เคน” ผมบอก พี่หมอหันไปปรึกษาเมียที่นั่งเงียบมาตลอดก็ขานอาสา


      “เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้เอง

      
      “เอาแบบนี้แล้วกัน ฉันจะรวมพลกันที่รัฐบาเดิน–เวิอร์ทเทมแบร์ก ตอนใต้ของเยอรมัน จะอยู่ที่นั้นซัก2-3 วันเพื่อเตรียมการต่างๆ แล้วคุณเดอลาครัวซ์ก็มาสมทบอีกทีแล้วเข้าไปป่าดำพร้อมๆกัน”


      “แล้วเราจะไปกันวันไหน” รอทถาม


      “มะรืนนี้เลยแล้วกัน”ทุกคนพยักหน้ารับทราบ พ่อจึงเก็บเอกสารบนโต๊ะทุกอย่างแล้วขอตัว ท่านบอกต้องรีบจัดการเรื่องพาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบินและที่พักของเราทั้งหมด ...แต่แปลกใจที่รอทก็เดินตามออกไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม มีอะไรกันหรือเปล่านะ




      ห้องอาหารกลับมาเงียบสงบหลังจากบรรยากาศตึงเครียด ต่างคนต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ไอ้ข้าวมองผมสลับกับพี่หมอ ผมรู้ว่ามันจะพูดอะไร


      “กูไม่ให้มึงไป” ผมบอกมัน...ครั้งนี้ มันอันตรายเกินไป


      “กูรู้...กูคงทำอะไรไม่ได้” มันว่าเสียงหงอย


      “พี่ก็ไปแทนเราไง ช่วยโยแทนส่วนที่เราอยากช่วย” พี่หมอว่าพลางขยี้หัวเด็กน้อยอย่างเอ็นดู “ส่งกำลังใจให้พี่แค่นั้นก็พอแล้ว”


      “ใช่ แค่กำลังใจ แค่รู้ว่ามึงปลอดภัยนั่นคือสิ่งที่กูต้องการ” ผมย้ำ “แล้วพี่หมอจะไปวันไหนครับ”


      “พรุ่งนี้เลยแล้วกัน” หมอริคว่าพลางดึงมือข้าวหอมลุกขึ้น “ไปกลับ พี่ต้องไปเตรียมของ” ทั้งคู่หันมาลาผมก่อนจากไป




      ตอนนี้เรามารวมตัวกันที่สนามบินรวมคนของพ่อด้วยก็เกือบยี่สิบ พ่อบอกคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่โซนยุโรปจะตามไปสมทบที่บาเดิน–เวิอร์ทเทมบิร์ก พวกอาวุธยุทโธปกรเหมือนส่งไปกับเครื่องบินสินค้าก่อนหน้าแล้ว ไอ้ข้าวมาส่งผมที่สนามบินด้วยครับ ไม่ได้ไปกับผัวมันเพราะคงไม่รู้จะบอกกับที่บ้านยังไง ตอนนี้มันเกาะผมแจเลยเหมือนเด็กน้อยที่กลัวโดนพ่อแม่ทิ้ง เราเดินเรื่อยๆจนถึงที่เช็คอิน ผมหันไปมองหน้ามันที่ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ก่อนดึงมันมากอดไว้แน่น


      “สัส ทำอย่างกับกูจะไปสงครามอีรัก” ผมพูดกลั้วหัวเราะ “กูไม่ได้ไปตาย”


      “แม่งเหี้ยกว่าสงครามอีรัก” มันตอบเสียงอู้อี้พลางซุกไหล่ผมแน่น


      “โยนาห์ไม่มีคำว่าพลาดมึงก็รู้”


      “เออ...กูรู้ กลับมาหากูนะ มึงต้องกลับมาเป็นๆ นะ” อ่าว...ร้องอีกละ ขี้แยจริงไอ้เตี้ย


      “กูต้องไปแล้ว” มันพยักหน้ารับ ผมผละออกมาก่อนจะคว้ากระเป๋าลากไปที่ทางเดินกับทุกคน ไม่วายหันกลับไปมองมันที่โบกมือให้ ไม่รู้สิ...ทำไมรู้สึกใจหายชอบกล เหมือนกับว่าถ้าผมหันหลังไปแล้วจะไม่ได้เจอมันอีกเลย ไม่หรอก อาจเพราะผมกลัว หยุดเดินแบบไม่รู้ตัว รอทคว้าจับมือของผมดึงสายตาให้มองมัน ที่บอกเบาๆ ว่า...ยังมีมันอยู่ข้างผม...ผมรู้ว่าตัวเองต้องเจออะไรที่ยากที่สุดในชีวิตแน่ต่อจากนี้  แต่ไม่พร้อมตอนนี้แล้วจะพร้อมตอนไหนละจริงไหม


Talk Talk
[/b]

-เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้น บางทีข้อมูลอาจเยอะเกินไป ไม่เข้าใจจุดไหน หรืออยากให้เราอธิบายเพิ่มเกี่ยวกับอะไรบอกได้นะค่ะ :z13:

-ต้องขอโทษจริงๆ ที่อัพช้าเนื่องจากวันหยุดยาวที่ผ่านมาเราไปต่างจังหวัดอีกทั้งยังวุ่นวายเรื่องงานแสดงที่หอศิลป์ อาจทำให้ท่านผู้อ่านรอนานและรู้สึกขาดช่วย อย่าโกรธกันเลย :mew2:

-ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ เราก็ไม่คิดเหมือนกันว่านิยายแนวเราจะอยู่ในบอร์ดนี้และมีคนชอบ ด้วยไสตลืที่ไม่ได้โรแมนติกจ๋า แต่ก็ชื่นใจทุกครั้งที่อ่านเม้น และรู้ว่ามีคนสนใจในสิ่งที่เราทำมันช่างมีความสุข :pig4:



      

      
   
      
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2015 13:31:24 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เอ่อ ขอโทษนะแต่ลงผิดตอนหรือเปล่า
งงว่าทำไมอยู่ดีๆผ่านไปปีนึงรอทคุยกับพ่อปกตืแถมมีบ้านใหม่ซะด้วย งงจุง.  :ling1:   

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
เอ่อ ขอโทษนะแต่ลงผิดตอนหรือเปล่า
งงว่าทำไมอยู่ดีๆผ่านไปปีนึงรอทคุยกับพ่อปกตืแถมมีบ้านใหม่ซะด้วย งงจุง.  :ling1:

ชีวิตปีหนึ่ง หมายถึงโย ทนเรียนจบเทอมอะค่ะ จบปีหนึ่งจะขึ้นปีสอง ส่วนบ้าน ก็กล่าวไว้ว่าซื้อในตอนที่แล้วค่ะ เราอาจเขียนไม่เคลียเองเนอะ ขอโทษๆ ขอแก้แปป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-08-2015 13:30:49 โดย l3loodl2o5e »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
เตรียมเสบียงไว้เชียร์น้องโย #งานยากต้องมา

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 27 ข่าวร้าย
[/b]

   Yonah Say

      ตอนนี้เรามาถึงเยอรมันแล้วครับ พักกันอยู่ที่เมือง ทิทิเซ นอยสตัท(Titisee-Neustadt) หนึ่งในเมืองเล็กๆ ที่กระจายตัวอยู่ในป่าดำรอบนอก ในเขตรัฐบาเดิน–เวิอร์ทเทมบิร์ก ริมทะเลสาบทิทิเซที่แสนสงบ ท่ามกลางป่าสนและอากาศในช่วงซัมเมอร์ที่ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ที่นี่เจริญไม่น้อยจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุสาหกรรมป่าไม้สน สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้คงเป็นไร่องุ่น คงจะดีหากได้ลองชิมไวน์ที่นี่ อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของนาฬิกานกกาเหว่าอีกด้วย แต่นี่ไม่ใช่เวลามาท่องเที่ยว หากผมสะสางเรื่องนี้เสร็จตั้งใจจะมาพักผ่อนที่นี่อีกซักครั้งในชีวิต


      “ชอบที่นี่ไหม” แขนแกร่งกอดรัดผมที่กำลังทอดมองทะเลสาบตรงหน้า


      “ชอบสิ สงบดี อื้อ” ผมตอบพลางหลบจมูกรอทที่ไล่ฟัดแก้มนิ่มอย่างหมั่นเขี้ยว “รอท...มีอะไรจะถาม”


      “อะไรครับ”


      “วันนั้นคุยอะไรกับพ่อ” ดวงตาสีฟ้าเสมองไปทางอื่น บอกชัดเจนว่ามีอะไรปิดบัง “บอกมาเถอะ เป็นแฟนกันไม่ใช่หรอ” ออดอ้อนเสียงแผ่ว และมันก็ใจอ่อน


      “เรื่องหอกลองกินุส” รอทตอบพร้อมถอนหายใจหนักๆ “มันไม่ได้เอาไว้ฆ่าอาร์วาร์คหรอก ถึงหมอนั่นจะแกร่งแต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธทรงอณุภาพขนาดนั้น”


      “แล้วมันเอาไว้ทำอะไรละ”


      “ฆ่าร่างทรงในกรณีที่ลูซิเฟอร์ถูกเชิญขึ้นมาจริงๆ” มือสากลูบใบหน้าผมแผ่วเบา “พ่อนายอยากเผื่อไว้ ถ้าทุกอย่างผิดพลาด เขาจะได้หยุดเรื่องนี้ได้ ด้วยการฆ่า...บ้าเอ้ย มันไม่มีทางเกิดขึ้นหรอกน่า” ใบหน้าคมดูหงุดหงิด ริมฝีปากบางเม้มแน่น ลึกๆ แล้วผมก็กลัวเรื่องนี้ไม่แพ้กัน


      “ถ้าสมมุติ มันเกิดขึ้นจริงๆ” เสียงผมสั่น “นายจะฆ่าลูซิเฟอร์ได้หรือเปล่า”


      “โย!! มันจะไม่...”


      “ผมไม่อยากให้ร่างกายนี้ต้องไปทำอะไรที่เลวร้าย สัญญาได้ไหม หากถึงเวลานั้น นายจะหยุดมัน” ดวงตาสีฟ้าไหวระริก “ผมเชื่อว่ารอทที่ผมรู้จักแข็งแกร่งพอ ได้โปรด...”


      เราสบตากันอยู่นาน อารมณ์มากมายส่งผ่านทางแววตา รักมากก็กลัวมาก ห่วงมาก กังวลมาก หากเราทั้งคู่เป็นแค่คนธรรมดาคงจะดี ไม่ต้องแบกรับสิ่งใด แต่ถ้าผมไม่ใช่โยนาห์คนนี้ไม่ได้หลงมาในทางแห่งรัตติกาลนี้ ก็คงไม่เจอรอท ถึงทุกคนจะย้ำว่ามันต้องสำเร็จแต่ก็ไม่อาจมั่นใจในโชคชะตา รอทกอดเอวผมแน่นขึ้นเรื่อยๆ ราวกลับกลัวว่าผมจะหายไป


      “รอท...”


      “มันจะไม่มีวันเป็นแบบนั้น แต่ ผม...สัญญา...” เสียงทุ้มตอบพร้อมกดริมฝีปากลงบนหน้าผากผม ทำให้ใจอบอุ่นขึ้นมาทันใด ถึงบางครั้งคุณผัวจะดูเงียบและนิ่งเฉย แต่ผมรู้ว่ามันรักผมมาก ผมเองก็เช่นกัน


      “ขอบคุณนะ” ผมจูบปากมันเบาๆ พร้อมยิ้มให้


      “แค่เนี๊ยะ!?” คนสูงกว่าจิ๊ปากขัดใจ “มันพอที่ไหนละ ปวดใจขนาดไหนที่ต้องสัญญาแบบนั้น มาๆ ตอบแทนให้คุ้มซะดีๆ” มันว่าเสร็จก็จู่โจมผมแบบไม่ให้ตั้งตัวเลยครับ...เมื่อกี้ยังซึ้งมาโหมดหื่นได้ไงวะ...


รสจูบร้อนแรงเอาแต่ใจทำเอาผมได้แต่ครางรับ จูบตอบ โดนสูบเรี่ยวสูบแรงจนเข่าอ่อนจำต้องคว้าไหล่หนาเป็นหลักยึด ไอ้คุณผัวทำเนียนอาศัยจังหวะผมเคลิ้มต้อนผมเข้าห้องจนขามาชนกับปลายเตียง...เอาละไม่ต้องเดาว่บอกนะว่าเราจะทำอะไรต่อ ผมว่าคุณเองก็รู้ดี

.....................................................


      เราประชุมแผนกันนิดหน่อยที่ห้องพักของพ่อ หมอริคไปถึงเวียนนาแล้ว เห็นบอกจะตามมาสมทบในวันพรุ่งนี้ วันว่างๆ เลยพากันเดินเที่ยวถ่ายรูปโน่นนี่นั่นไปเรื่อย ผมชอบบ้านเรือนที่นี่มากครับทุกอย่างมันดูลงตัวในแบบชนบทของตะวันตก บ้านส่วนใหญ่สร้างด้วยอิฐหรือปูนไม่สูงมาก มีหน้าต่างค่อนข้างเยอะดูปลอดโปร่ง รับกันดีกับหลังคาอิฐทรงจั่วที่เน้นโทนแดงเสียส่วนใหญ่  บรรยากาศชวนผ่อนคลายเดินจูงมือกันไปกับคนที่เรารัก ผมว่ามันสงบเกินไป ทำไมคนของซาโตนี่ถึงไม่มายุ่มย่ามกับเราเลย ทั้งที่เข้าใกล้พวกมันขนาดนี้


      ยามบ่ายแดดเริ่มจ้าทำเอาแวมไพร์เลือดแท้ของผมเริ่มไม่สบายตัวเลยหาที่นั่งพัก ปักหลักกันที่ Restaurant Jostalstueble ซึ่งที่นี่ขายอาหารพื้นเมืองและอาหารตะวันตกขึ้นชื่อไม่เบาในหมู่นักท่องเที่ยว สั่งอาหารกันไป3-4 อย่าง หมั่นไส้คุณผัวพูดเยอรมันซะคล่องป๋อ บางทีการมีชีวิตอยู่นานๆ ก็ทำให้ได้เรียนรู้อะไรเยอะดี ระหว่างรอผมจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เดินสวนกับอมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลยทำเอาใจกระตุกวูบ...คิดมากไปหรือเปล่าเรา...อมนุษย์ก็ใช้ชีวิตแบบคนปกติแฝงอยู่ทั่วทุกที่ไม่ใช่หรอ


      ตืด....ตืด....เสียงโทรศัพท์ดังมาจากห้องน้ำห้องหนึ่ง ทั้งที่ไม่มีใครอยู่นอกจากผม บางทีอาจมีคนลืมไว้ก็ได้ เดินตามเสียงไปก็พบกับถุงกระดาษสีน้ำตาลบนฝากชักโครก เสียงโทรศัพท์ดังมาจากในนั้น แต่สิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจคงจะเป็นลายมือหวัดๆ บนถุงว่า…To Yonah… มั่นใจว่าหมายถึงผมจึงคว้าถุงใบนั้นมาเปิดอย่างร้อนรน แล้วดึงโทรศัพท์เจ้ากรรมออกมารับ


      “ฮัลโล”


      /ไง ลูกรัก/ เสียงปลายสายเล่นเอาผมนิ่งงัน ขยะแขยงเต็มทนกับคำว่าลูกที่ไอ้สารเลวนั้นมอบให้


      “แก...ต้องการอะไร” ผมพยายามข่มเสียงให้นิ่งที่สุด


      /ดูรูปในถุงก่อนสิ/ มันว่าอย่างอารมณ์ดี ผมดึงออกมาดูอย่างสงสัย...ไอ้ข้าว! ภาพเพื่อนรักที่ถูกมัดมือมัดเท้าหลับไม่ได้สติบนเตียงอันใหญ่ทำผมเดือดดาลได้ทันที...ผมน่าจะเอามันมาด้วย พี่หมอก็ไม่อยู่ ไม่มีใครปกป้องมันได้ ผมไม่น่าชะล่าใจเลย


      “แก...ต้องการอะไร” ผมถามเสียงขุ่น


      /ลูกก็รู้ดีนี่ ตัวลูกไง/  หากมันได้ตัวผมไป จะมั่นใจได้ไงว่าคนอื่นจะมาช่วยทัน แล้วถ้าหากไม่...ข้าวหอมคงตาย ขนาดแม่ผมเป็นเมียมันแท้ๆ ยังถูกฆ่าเลย


      “จะมั่นใจได้ไงว่าข้าวจะปลอดภัย” ผมถามเสียงเย็น


      /รับปากด้วยเกียรติของอาร์เคนเลย ถึงพ่อจะเลวแต่ก็รักษาคำพูดนะ/ มันตอบเสียงจริงจัง แสลงหูกับคำว่าพ่อของมัน /โย...ลูกคงไม่อยากให้เพื่อนคนนี้ ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ใช่ไหม/


      “ที่ไหน เมื่อไหร่” ผมถามออกไปในที่สุด นึกถึงวันที่เสียไอธีรกับแม่ไปแล้วมันทำใจไม่ได้ จะให้ใครมาตายเพื่อผมคงไม่เอาแล้ว


      /ที่โบสถ์ Neuapostolische ตะวันออกเฉียงเหนือจากโรงแรมที่ลูกอยู่ มีแผนที่อยู่ในซอง/ หยิบแผนที่ขึ้นดูตามมันบอก /เที่ยง! พรุ่งนี้ คนเดียว/


      “ตกลง” เอาวะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดให้ข้าวมันรอด ต่อจากนี้ค่อยคิด


      /อย่าสายละ เดี๋ยวข้าวหอมจะกลายเป็นศพเสียก่อน ฮ่าๆ/ มันว่าทิ้งท้ายพร้อมหัวเราะร่า แล้วตัดสายไป ทิ้งผมให้โมโหจนแทบคลั่งบีบโทรศัพท์จนแหลกคามือ


      ผมทิ้งของทุกอย่างลงในถังเก็บเพียงแผนที่ไว้กับตัว ออกมารอทก็ถามว่าทำไมไปนาน แถไม่ออกเลยได้แต่ยิ้มตอบ แต่มันไม่ได้ซักไซ้ไล่เรียงเพาะอาหารมาเสริฟก่อน มันเป็นมื้ออาหารที่อึมครึมเอามากๆ คนตัวสูงเองก็ไม่ช่างพูด ส่วนผมก็มัวแต่คิดเรื่องไอ้ข้าวจนจบมื้อ เราเดินเล่นรอบๆ ทะเลสาบทิทิเซจนพระอาทิตย์ตกจึงพากันกลับ


...................................................

      สายน้ำอุ่นจากฝักบัวไหลผ่านร่างแต่ก็ไม่อาจชำระล้างความคิดที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายในหัวผมได้ ไอ้เรื่องไปตามนัดผมไปแน่ ไม่ปล่อยให้ข้าวหอมมันเป็นอะไรไปหรอก แต่ถ้ามันเล่นตุกติกแล้วได้ตัวผมไป แล้วไม่ยอมปล่อยข้าวหอมจะทำยังไง หรือผมควรบอกคนอื่นๆ ถ้าบอกพ่อ...พ่อยอมเสียคนของท่านมากมายเพื่อให้ผมมีชีวิตและคงจะไม่ลังเลหากท่าจะทิ้งชีวิตไอ้ข้าวไปอีกคน ถ้าบอกรอทเจ้าตัวต้องค้านหัวชนฝาหรือไม่ก็ตามไปด้วยซึ่งนั่นผิดข้อตกลง เพื่อนผมไม่รอดแน่มั่นใจ...แต่ถ้าให้ตามไปหลังข้าวปลอดภัยในทันทีละ นั่นยังพอมีโอกาสอยู่ ผมวางแผนทุกอย่างไว้ในใจก่อนล้างเนื้อล้างตัว คว้าผ้าขนหนูมานุ่งแล้วเดินออกจากห้องน้ำมา


      “พรุ่งนี้ไปไหนหรือเปล่า” ผมถามรอทที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงเพราะอาบน้ำไปก่อนแล้ว ไม่อาบพร้อมมันหรอกครับเดี๋ยวยาว


      “ไปรับไอ้ริคตอน 11 โมง” มันตอบสายตาเลือบมองผมที่แต่งตัวอยู่แล้วยิ้มร้าย พร้อมตบที่ว่างข้างตัวเรียกผม “ทำไมหรอ”


      “ว่าจะออกไปถ่ายรูปเล่นนะ แต่เดี๋ยวไปคนเดียวก็ได้แถวนี้เอง” ผมโกหก ล้มลงนอนข้างมันอย่างว่าง่าย


      “ระวังตัวไว้บ้างก็ดีนะ”


      “อืม...รอท”


      “ครับ”


      “สมมุติเกิดผมโดนจับตัวไป นายจะมาช่วยไหม” มันขมวดคิ้วมุ่นกับคำถาม บิดหนังสือที่อ่านดังฉับ! แล้ววางบนโต๊ะข้างเตียง ก่อนหันมาจ้องหน้าผมจริงจังอย่างจับผิด เลยต้องซุกหน้าหลบสายตาลงกับอกมันแทน


      “ทำไมถึงถามละ...หืม!?”


      “ก็แค่สมมุติไง...จะมาไหมละ” ผมเร่งเร้าแต่ไม่จริงจัง พยายามทำเสียงให้ดูล้อเล่นมากที่สุด


      “ก็ต้องไปสิ ไปให้เร็วที่สุดเลยด้วย ถ้าวาปไปหาได้ก็จะทำ” มันตอบ แขนแกร่งกอดผมแน่น พร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ชอบถามอะไรแบบนี้ คิดมากไปนะเรา นอนซะ! จะได้ไม่ฟุ้งซ่าน”


      “อืม...”


      “ฝันดีครับ” มันจูบหน้าผากผมไปที


      “ฝันดี...”


      “รักโยนะ” เสียงทุ้มกระซิบแผ่ว รู้สึกดีเสมอที่ได้ยิน


      “รู้แล้วน่า...” คงจะดีถ้าได้อยู่ในอ้อมกอดหมอนี่ไปนานๆ

:katai5:Talk Talk
[/b]

-ใกล้แล้วสินะ หึๆ จบแบบไหนดีน้าา แกล้งคนอ่านดีไหม o18
-อัพช้ามากเราขอโทษนะ หาข้อมูลประกอบการเขียนมานิดหน่อย หาไปหามาหลงรัก บาร์เดิน-เวิทเทอเบิร์ก ไปซะงั้น อยากไปเที่ยวซักครั้งจัง :katai2-1:
-ขอบคุณทุกท่านที่มาให้กำลัง วางแผนไว้ว่าจะมีตอนพิเศษให้ด้วยส่งท้าย หรืออาจมี โน่นนี่นั่นเพิ่มมานิดหน่อยหากเรื่องจบแล้ว
-สำหรับข้อมูลบางอย่าง อย่างพวก ตำนานนอธ ป่าดำ เมืองต่างๆ ที่เกียวในเรื่อง ถามเพิ่มเติมจากเราได้นะ ถ้าสนใจ บางทีเราก็เป็นคนละเอียดเกินจำเป้น แหะๆ :hao7:

      

      

      
      

      

      



      

      

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-08-2015 21:43:36 โดย l3loodl2o5e »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :serius2:   ไม่นะข้าว. พี่หมอทำไมไม่เอาน้องไปด้วย แง้

อย่าแกล้งคนอ่านตาดำๆเลยค่ะ.
รอททำไงดีอ่า
ขอบคุณเช่นเคย

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :ling1: น้องข้าววววว

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ใกล้จบละหราา

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
ใกล้จบละหราา

ก็ไม่เชิงอะค่ะ เนื้อเรื่องหลักคงไม่เกิน 5 บทหรอก แต่ตั้งใจจะเขียน side story อยู่ค่ะ อาจจะอธิบายเพิ่ม ส่วนของ หมอและข้าว ชีวิตของตัวละครต่างๆ หลังจากนั้น ไม่ก็ส่วนของพ่อโย ประมาณนั้นละค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
โอ๊ยโยทำไมไม่บอกรอทฟร่ะ อย่างน้อย ๆ ก็ให้ไปช่วยได้ทันนนนนนนนนนนนไม่ยอมมมมมมมมมมม

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะเป็นอะไรมากไหมข้าว  :ling3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 28 สิ่งที่ต้องแลก
[/b]

      Yonah Say


      รอทออกไปรับพี่หมอในตอนเช้า เมื่อดูให้แน่ใจว่าไปแล้วจึงออกไปบ้าง โดยไม่ลืมทิ้งจดหมายอธิบายเรื่องทั้งหมดเอาไว้ ผมรู้ว่ามันคงโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงแน่ถ้าอ่านจบ แต่ก็นะ ผมไม่มีทางเลือกมากนัก และผมก็มั่นใจว่ามันต้องตามมาช่วยผมทันแน่นอน ผมโกหกคนของพ่อว่าจะออกไปถ่ายรูปเล่นรอบๆ โรงแรม โชคดีที่ไม่มีใครเอะใจและไม่ได้ตามมา ผมถามคนแถวนั้นไปเรื่อยๆ จนถึงที่หมาย ลำบากมากครับเพราะคนส่วนใหญ่พูดอังกฤษไม่ค่อยได้ แหงละที่นี่เยอรมันนะ ส่วนผมก็ไม่ได้เก่งอะไร มาถึงจุดหมายปลายทางแบบเที่ยงพอดี


      ที่นี่เป็นโบสถ์ไม่ใหญ่ไม่เล็กมีทุกอย่างครบครัน สถาปัตยกรรมแบบตะวันตกสไตล์อาร์ตนูโวหากมีเวลาผมคงหลงไหลไปกับสุนทรียของที่แห่งนี้แน่ แต่ตอนนี้ผมมีสิ่งสำคัญที่ต้องทำ ก้าวยาวๆ เข้าไปในโบสถ์ เงียบสงัดจนพาใจให้สั่นไหว คนที่นัดผมนั่งฉีกยิ้มอยู่โต๊ะไม้ตัวยาวแถวหน้ากับบรรดาสมุนสวะของมันอีกหลายตนที่นั่งบ้างยืนบ้างประปราย เหมือนคนธรรมดาจะถูกกันออกไปจากที่นี่เสียแล้ว...แบบนี้คงยากที่จะเล่นบทชิงตัวประกัน ทำได้เพียงแลกตัวกับข้าวหอมตามที่มันขอเท่านั้น ผมนั่งลงข้างๆ ไอ้สารเลวอาร์วาร์คเว้นระยะห่างเป็นช่วงตัว ส่วนหนึ่งคือระแวงอีกส่วนคือขยะแขยงมัน


      “ข้าวหอมอยู่ไหน” ผมเข้าประเด็น


      “ใจคอจะไม่ทักทายพ่อหน่อยหรอ” ...ยังกล้าเรียกตัวเองว่าพ่ออีกนะ


      “ไม่จำเป็น ข้าวหอมอยู่ไหน” ผมย้ำพร้อมดึงปืนมาจ่อใต้คางตัวเอง ในเมื่อสิ่งที่มันต้องการคือร่างนี้ถ้าตายก่อนพิธีทุกอย่างก็จบ อยู่ในวงล้อมแบบนี้อดหวั่นใจไม่ได้เลย ถ้ามันเล่นตุกติกไม่ปล่อยเราทั้งคู่...ผมยิงตัวเองทิ้งแน่...ทั้งที่ตั้งใจแบบนั้นแต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะคุมมือตัวเองไม่ให้สั่น “ว่าไง...ปืนลั่นไม่รู้ด้วยนะ”


      “หึ...ฉลาดต่อรองเสียจริง” มันพยักเพยิดให้ลูกน้องพาเพื่อนผมออกมา ข้าวดูตกใจระคนดีใจที่เห็นผม พวกมันดันร่างเล็กๆ นั่งลงข้างกาย ผมถอนหายใจอยากโล่งอกที่ตัวมันไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนเว้นแต่ขอบตาแดงๆ ที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวร้องไห้อย่างหนักมาก่อนหน้า


      “มึงโอเคมั้ยวะ” ผมถามพร้อมลุกไปดึงมันเข้ามากอดไว้แน่น ข้าวพยักหน้าตอบพลางสะอื้นตัวสั่นผมว่ามันคงกลัวจริงๆ “ไอ้ธีรคงไม่อยากให้มึงตามไปตอนนี้หรอก...เลิกร้องได้แล้ว”


      “มึงมาทำไม...มึงก็รู้ว่ามันจะเอามึงไปทำอะไร” คนตัวเล็กบอกเสียงเครือ


      “กูไม่มามึงก็ตายสิ”


       “มึง...กู...ฮึก ขอโทษ กูทำมึงเดือดร้อนอีกแล้ว” ทีนี้มันร้องไห้หนักเลยครับ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษ ถ้ามันไม่ใช่เพื่อนผม คงไม่โดนลักพาตัวข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงนี่หรอก ที่บ้านมันคงวุ่นที่จู่ๆ มันหายไป


      “เออ กูรู้มึงไม่ได้ตั้งใจ”


      “ไป...หนีกัน” ผมหลุดขำที่มันพูดตาตื่น...ข้าวก็คือข้าวละว้า...มันไม่ได้ดูเลยหรือไงว่ามีอมนุษย์ล้อมเราอยู่กี่ตีน


      “ไม่ได้หรอก....มึงดูรอบตัวหน่อยสิวะ” มันมองรอบแล้วทำสีหน้าปลงตก


      “กูจะให้พวกมันเอามึงไปส่งโรงแรมที่กูพัก”

      
      “กูไม่ไป กูจะอยู่กับมึง ตายกับมึง” ซึ้งใจครับที่มันพูดแบบนี้ แต่ไม่มีทาง มันเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวของผมในตอนนี้ ผมเคยสัญญาแล้วว่าจะทำเพื่อมันและก็กำลังทำอยู่


      “นี่ไอ้เตี้ย อย่าทำให้ความพยายามกูเสียเปล่า กูยอมมาให้มันจับเพื่อให้มึงปอดภัย” จ้องตามันจริงจัง “เดี๋ยวไอ้รอทก็ตามมาช่วย” ผมบอก คิดว่าตอนนี้คงกลับมาเจอจดหมายผมแล้วละ ผมเชื่อในตัวมัน “มึงไปเถอะไม่ต้องห่วง...กูเก่งเอาตัวรอดได้”


      “มึงนี่มัน...แต่ขอบใจนะ สัญญานะเว้ย ว่ามึงจะกลับมาหากู” ผมพยักหน้ารับ พร้อมดึงมันลุกขึ้นส่งให้ไอ้ฝรั่งตัวใหญ่ที่ยืนรอ พร้อมยื่นนามบัตรโรงแรมที่เขียนเบอร์โทรห้องของรอทไว้


       “ช่วยเอามันไปส่งที่นี่...อย่าตุกติก กูจะไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าจะแน่ใจว่ามันปลอดภัย” ผมยื่นคำขาด แล้วเอาปืนจ่อตัวเองไว้ดังเดิม อาร์วาร์คยักไหล่...มันคงจนใจกับผมเหมือนกัน


      “แล้วทำไมต้องทำตาม หึๆ” ไม่วายกวนตีน ไอ้เวรนี่


      “ถ้านี่เป็นการขอร้องละ” อาร์วาร์คเลิกคิ้วน้อยๆ คล้ายรอฟัง “ขอร้องในฐานะลูกคนหนึ่งที่ไม่เคยได้อะไรจากพ่อเลยนอกจากความเจ็บปวด ขอแค่ชีวิตเพื่อนคนนี้ ให้ได้หรือเปล่า” ผมพูดเสียงอ่อน  ยอมลดศักดิ์ศรีขอร้องให้เพื่อนที่เหลือคนเดียวของผมพ้นภัย อาร์วาร์คสบตาผมด้วยสีหน้าอ่านยาก ไม่รู้ว่าคำขอร้องนี้จะซึมถึงจิตใจมันไหม ได้ภาวนากับคำว่าพ่อลูกที่มันชอบพูดย้ำยังมีคุณค่าอยู่


      “หากลูกต้องการแบบนั้นพ่อก็ยินดี”


      ข้าวหอมงอแงพอตัวกว่าจะยอมไปกับไอ้ร่างยักษ์นั่น ผมนั่งรออยู่นั่นเนิ่นนานปราศจากบทสนทนาใดๆ จนคนของซาโตนี่วิดีโอคอลมาให้เห็นว่าส่งไอ้ข้าวถึงที่จริงๆ จึงวางใจ เผลอลดปืนลงจึงโดนอาร์วาร์คแย่งไปจากมือ...คงไม่ยอมให้มึงพาตัวไปง่ายๆ หรอกนะ... ตอนนี้มีแค่ผมไม่ต้องกลัวใครโดนลูกหลงจึงทุ่มสุดแรงจู่โจมใส่อาร์วาร์ค...คิดเพียงสิ่งเดียวคือ ฆ่ามัน!


      โครม!!!! โต๊ะไม้ตัวยาวล้มระเนระนาดไปตามแรงปะทะเมื่อผมกระโจนใส่คนที่ทำให้ผมเกิดพร้อมมีดเงินในมือ ร่างของเราล้มกลิ้งไปกับพื้นจบลงด้วยการที่ผมคร่อมร่างของมันไว้ พยายามจนสุดแรงที่จะกดมีดลงบนอกมัน แต่มือที่รั้งข้อมือผมไว้กลับไม่ขยับ


      “แก...” ผมกัดฟันกรอดหายใจแรงอย่างเดือดดาลเมื่อมันเพียงแค่ยิ้มเยาะ คนของซาโตนี่รอบๆ ทำแค่ยืนมองคล้ายมั่นใจว่าผมไม่มีทางทำอะไรนายของมันได้


      “แววตาแน่วแน่ดี แต่แรงแค่นี้พอหรอที่จะแก้แค้น” เสียงทุ้มเอ่ยล้อดูสนุกเต็มทน


      “อ๊ะ!” เคร้ง! มือทั้งสองของผมโดนบิดจนเจ็บก่อนมีดจะหลุดออกไปอย่างง่ายดาย อาร์วาร์คพลิกร่างผมลงกับพื้นพร้อมกดไหล่แรงจนหินอ่อนเริ่มร้าว พลังกดดันมหาศาลแทบจะฝังร่างผมลงตรงนั้น ความขุ่นแค้นถูกกลบด้วยความอึดอัดและหวาดกลัว ผมจ้องเข้าไปในดวงตาสีเทาที่เหมือนของผม ทั้งที่ดูว่างเปล่าแต่เหมือนมันเจือความเศร้าอยู่ภายใน ผมตระหนักดีว่าพลังของผมกับมันช่างห่างไกล สวรรค์ไม่ได้เข้าข้างเราเสมอ นึกสมเพชตัวเองเต็มทน ช่วงเวลาที่ทุ่มเทฝึกฝนนั้นเพื่ออะไร ยังไงผมก็แค่เลือดผสมส่วนไอ้สารเลวนี่เป็นถึงเลือดบริสุทธิ์ แถมพลังของผมที่มีก็ได้จากสายเลือดของหมอนี่ที่ไหลเวียนอยู่ในตัว...หมดหวังแล้วจริงหรือ!?


      “เอาละคงไม่มีเวลามาเล่นสนุกนัก คงต้องไปกันแล้ว” อาร์วาร์คบอก ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกเข็มปักลงหัวไหล่ รับรู้ถึงตัวยาที่ไหลผ่านเส้นเลือดเข้าสมองจนเริ่มชา รอทเคยบอกว่ายาสลบขนานแรงก็มีผลกับอมนุษย์เช่นกัน ตอนนี้พิสูจน์มันด้วยตัวเองเสียแล้ว ภาพตรงหน้าเริ่มเบลอเรี่ยวแรงเริ่มหดหาย รับรู้เลือนรางว่าร่างกำลังถูกช้อนอุ้ม...มันกำลังจะพาผมไปไหน!? ในสภาวะที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในใจกลับร่ำร้องชื่อใครคนหนึ่งอย่างแจ่มชัด จดหมาย...ไอ้ข้าว...รอท...ตอนนี้นายคงรู้แล้วว่าผมหายไป...รอท ได้โปรด ผม...รอนายอยู่

..............................................................................
      

      Kawhom Say


      วันที่ไปส่งไอ้โยที่สุวรรณภูมิ ล่ำลากับมันอยู่นาน ห่วงมากครับแต่มนุษย์อย่างผมก็ทำอะไรไม่ได้ จึงเลือกที่จะอยู่เฉยๆ เพื่อไม่ให้เป็นภาระใคร เข็ดแล้วครับกับความดื้อดึงที่ทำเพื่อนเดือดร้อนแบบในครั้งก่อน สงครามขนาดย่อมๆ ของพวกเหนือธรรมชาติ ตำนานเก่าแก่ และพิธีอัญเชิญซาตานที่ผมไม่เคยคิดเลยว่ามันจะมีอยู่จริง แต่ในเมื่ออมนุษย์ยังมีอยู่บนโลก ผมว่าตำนานหลายๆ อย่างที่เราเคยได้ยินอาจเป็นจริงเช่นกัน พี่หมอขึ้นเครื่องไปเวียนนาตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ ผมอยากตามไปนะ แต่จะตอบคำถามที่บ้านยังไงละ นั่นคือประเด็น อีกอย่างพี่เขายังต้องตามไปสมทบกับโยอีกที ซึ่งไอ้โยมันก็ไม่ต้องการให้ผมไปเสี่ยงเช่นกัน



      ส่งเพื่อนเสร็จเดินออกมายังไม่ทันถึงคิวแท็กซี่ก็โดนใครไม่รู้เอาถุงดำคุมหัวลากขึ้นรถ ตอนนั้นผมตกใจมากทั้งดิ้นตั้งเตะทั้งถีบแต่ไร้ผลกลับโดนแม่งต่อยท้องจนตัวงอ นอนสิ้นฤทธิ์ให้มันพาตัวไป มารู้ตัวอีกทีตอนมันพาขึ้นเครื่องบินส่วนตัว ดึงผ้าคลุมหัวออก ใบหน้าแรกที่เจอคืออาร์วาร์คที่แสยะยิ้มมาให้ ไหนว่าแม่งอยู่เยอรมันวะ ผมจำท่าทางร้ายกาจมันได้ วันนั้นที่บ้านโยวันที่แม่มันตายผมก็อยู่ ทั้งกลัวทั้งกังวลผมมั่นใจว่ามันจับผมมาต้องมีเอี่ยวกับโยแน่ และมั่นใจว่าในบรรดาคนของอัลสไวเดอร์ต้องมีสายของพวกเชี่ยนี่แฝงตัวอยู่ ถึงได้รู้เวลาที่ผมอยู่ตัวคนเดียวได้เป๊ะขนาดนี้

      ยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจแต่ต้องมานั่งเครื่องบินเป็นสิบชั่วโมง จึงเลี่ยงไม่ได้กับอาการเจ็ทแลคที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ผมทั้งอ๊วกทั้งเวียนหัวแม่งเอ้ย! นี่กูคงไม่ตายก่อนถึงที่หมายหรอกนะ...ผมหมดสติไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้หลับยาวเลยครับทีนี้ ตื่นมาอีกทีก็อยู่บนเตียง ถามไอ้หน้าโหดที่ยืนเฝ้าได้ใจความว่าผมถูกพามาเยอรมัน เมืองเดียวกับที่ไอ้โยมา


      แล้วสิ่งที่ทำให้ผมกลัวก็เป็นจริงเมื่ออาร์วาร์คมันต่อรองชีวิตของผมกับตัวโย ได้ยินแบบนั้นมันก็เศร้านี่เป็นอีกครั้งที่ผมนำโชคร้ายมาสู่เพื่อน และที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือผมรู้ดีว่ามันต้องมาแบบไม่ลังเล คิดได้แบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้กับความไร้ประโยชน์ของตัวเอง ยิ่งเห็นมันมายืนตรงหน้ายิ่งปล่อยโฮออกมาแบบไม่อายใคร ผมกอดมันแน่น อีกแล้วมันช่วยผมอีกแล้ว ตั้งแต่มัธยมจนถึงตอนนี้มันก็มาช่วยผมตลอด ผมจำใจต้องทำตามมันบอกเพราะไม่อยากให้ความพยายามมันเสียเปล่า


      “ข้าว!” พี่หมอวิ่งลงมารับผมหลังจากโทรขึ้นไปที่ห้องพักพี่รอทตามเบอร์โทรโยที่ทิ้งไว้ “เป็นอะไรหรือเปล่า”


      “ผมไม่เป็นไร...แต่ไอ้โย...”


      “รอทรู้แล้วละ โยเค้าทิ้งจดหมายไว้ ไปคุยกันที่ห้อง” เขาจูงมือผมเดินนำไปห้องพัก ได้ยินเสียงพี่รอทเถียงกับอัลสไวเดอร์จนดังออกมาข้างนอก พี่แกคงอยู่ในสภาวะเดือดจัดจนแอบรู้สึกหวั่นเพราะผมดันเป็นตัวต้นเหตุเสียด้วย


      ผมเล่าให้พี่หมอฟังว่ามาที่ได้ยังไง เขาขอโทษผมยกใหญ่ที่ทิ้งผมไว้ทั้งที่ไม่จำเป็นเลย ใครมันจะคิดว่าอาร์วาร์คจะเล่นแผนสกปรกแบบนี้


      “พี่...ผมอยากไปช่วยไอ้โย” ผมบอกไปอย่างจนใจ


      “แต่เราจะไปยังไง เราเป็นมนุษย์นะ” พี่หมอว่าพลางดึงผมเข้าไปกอดลูบหัวเบาๆ อย่างปลอบใจ       


      “งั้นพี่หมอเปลี่ยนผมสิ”


      “มันไม่ง่ายเลยนะ คิดดีแล้วหรือไง” ดวงตาสีน้ำตาลจ้องผมจริงจัง ขนาดไอ้โยมันยังไม่ลังเลที่จะช่วยผม ผมก็คงไม่ลังเลเช่นกัน


      “ใช่ ผมคิดดีแล้ว ขอแค่ได้ช่วยมัน ผมไม่อยากต้องทนดูอยู่เฉยๆ แบบนี้ ทั้งที่เป็นต้นเหตุให้เพื่อนเสี่ยงตาย” พี่หมอพยักหน้าเข้าใจ “งั้นพี่จะช่วยเปลี่ยนผมใช่ไหม”


      “เฮ้อ!....ให้ช่วยเปลี่ยนนะได้ แต่ตอนนี้คงทำให้ไม่ได้” เสียงทุ้มกล่าวอย่างอ่อนใจ


      “ทำไมละพี่”


      “พี่ธีถ่ายพลัง ผู้ให้จะสูญเสียพลังไประยะหนึ่ง สำหรับอมนุษย์ธรรมาดาคงเป็นเดือน ส่วนพวกตระกูลใหญ่อย่างพี่คงเป็นอาทิตย์ แต่รอทคงจะบุกเข้าไปช่วยโยในคืนนี้ ไม่มีทางที่พี่จะฟื้นพลังทัน ขอโทษด้วยนะข้าวหอม พี่เข้าใจนะว่าเราอยากช่วยเพื่อนจริงๆ”


      “ผม...เข้าใจครับ” คงได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตก ถึงผมกลายเป็นอมนุษย์ไปจริงๆ แต่ถ้าแลกกับการเสียกำลังของคนที่ผมรักในตอนนี้ถือว่าไม่คุ้ม...ยังไงสายเลือดตระกูลใหญ่คงทำอะไรได้มากกว่าอยู่ดี


      “พี่จะพยายามเต็มที่เลย พยายามแทนส่วนของเราด้วย ตัวเล็กเป็นแฟนพี่หมอทำให้แทนให้ได้อยู่แล้ว” พี่หมอลูบหัวพร้อมกอดผมโยกตัวน้อยๆ อย่างปลอบใจ...เชี่ยกูไม่ใช่เด็ก แต่ก็อดยิ้มไม่ได้


      “ต้องจ้างปะ”


      “จ้างดิ...จ่ายแพงด้วย” พี่หมอยิ้มผมก็ยิ้ม...รู้สึกเบาใจไปเยอะ



      ไม่นานพี่รอทก็มาตามหมอไปเตรียมตัว เห็นหน้าเครียดๆ ของพี่แก ก็อดหวั่นใจไม่ได้ เจ้าตัวเลยเอ่ยปลอบว่าไม่ได้คิดโทษผม...แต่ก็รู้สึกผิดอยู่ดีเปล่า ผัวไอ้โยดึงคนของสภามาช่วย ทั้งอาวุธทั้งจำนวนบอกให้รู้ว่าพี่แกเอาจริง ส่วนเรื่องพ่อโยกับสภาเห็นว่าไว้เคลียทีหลังตอนนี้จำต้องร่วมมือกันไปก่อน ผมลงไปส่งพี่หมอขึ้นรถหน้าโรงแรม คนรอบข้างเริ่มแตกตื่นที่เห็นคนของสภาพร้อมอาวุธครบมือ แต่มันไม่ใช่เวลาที่ต้องมาเสนใจ เดี๋ยวเรื่องก็คงเงียบหายอย่างเคย


      “พี่ไปแล้วนะ” พี่หมอว่าก่อนหันมาจุ๊บปากผมไปที


      “ดูแลตัวเองดีๆ ให้คุ้มกับที่โยมันยอมเสี่ยงละ” พี่รอทว่าก่อนเดินนำขึ้นรถไป โดยทิ้งคนคุ้มกันผมได้ด้วย


      “พาเพื่อนผมกลับมาไวๆ นะพี่” หมอยิ้มรับก่อนขึ้นรถตามไป เฝ้ามองพวกนั้นจากไปจนลับตา เฮ้อ!...เหนื่อยใจที่ได้แต่นั่งรอ ห่วงแต่ทำอะไรก็ไม่ได้  ในขนาดที่กำลังทดท้อกับความไร้น้ำยาของตัวเอง ผมต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อใครบางคนตบไหล่ผมแรงๆ


      “ได้ข่าวว่ามีเด็กน้อย อยากเปลี่ยนเป็นอมนุษย์เอาพลังไปช่วยเพื่อน” เสียงหวานคุ้นหูดึงผมให้หันไปมอง “คงไม่รังเกียจใช่ไหม ถึงไม่ใช่สามตระกูลใหญ่ แต่ในบรรดาซักคิวบัสนะ สายเลือดฉันแกร่งสุดนะ”


      “พี่ยูจีน!!!!!”


....................................................................

Talk Talk
[/b]

-อืม...บู๊กันเนอะ บทหน้า เป็นพาทของรอทแล้วละ ถึงรอทจะดูเป็นพระเอกที่เเข็งทือเป็นท่อนไม้คนหนึ่งก็ตาม 555 :jul3:

-ขอโทษที่อัพช้านะ ยิงบทหลังยิ่งต้องระวังกลัวเขียนแล้วมันจะแย่กว่าของเก่า ไม่รู้สิแค่รู้สึกไม่มันใจในบางครั้ง เหมือนยังไงก็ไม่พอใจกับงานตัวเอง ฟุ้งซ่านเนอะ :hao5:

-ขอบคุณที่ติดตามอ่าน ถ้าจบแล้วใจจริงอยากทำเป็นหนังสือนะ อาจเป็นหนังสือทำมือเก็บไว้เป็นที่ระทึกแก่ตัวเอง หรือตีพิมพ์หรือรีไรท์ไหม่ก็สุดแท้แต่อนาคต  แต่ฝันของเราคืออยากวาดภาพหน้าปกให้ตัวเองซักครั้ง :heaven
      
      

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
พลังซัคคิวบัสเหมาะกับข้าวหอมดีโดยแท้.........
ตัวเล็กๆ น่ารักๆๆ แถมยั่วยวนได้อีกด้วย
พี่หมอหลงตกหลุมจนไม่อยากขึ้นแน่ๆๆๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อ้าวตอนนี้พระเอกของเรื่องโดนแย่งซีนหมดเลย
น้องโยอย่าชิงตายไปก่อนเน้อ
ลุ้นน้องข้าวได้แปลงร่าง

 :mew1:  ลองทวนคำผิดอีกทีค่ะเจอหลายจุด ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
 :hao5: แจ้งข่าว เนื่องจากคอมเราพังค่ะ อยู่ศูนย์ กำลังซ่อม ตัว พาวเวอซัพพลายมันเสีย อาจหายไปซักพัก ซ่อมเสร็จแล้วจะรีบมาอัพนะค่ะ ขอโทษทุกคนด้วย อันนี้แวบมาเล่นร้านเนต เศ้ราจริง ที่พิมไว้ก็หายหมด :ling3:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
โอ่ะโอ่ววว!! ข้าวหอมจะต้องเฟี้ยว

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
บทที่ 29 ตาม
[/b]

    อาร์วาร์คทอดมองร่างที่หลับไหลอยูบนเตียงใหญ่ด้วยฤทธิ์ยา มือหนาลูบกลุ่มผมนุ่มแผวเบาดังเช่นอดีตเมื่อเจ้าของร่างนี้ยังเล็ก รักเหลือเกิน เจ็บปวดเหลือเกินที่ต้องทำเช่นนี้ ทั้งที่หวังมาตลอดว่าอยากมีครอบครัวที่แสนสงบ หากแต่ไม่เคยสำผัสมันเลยนับตั้งแต่ลูกชายคนนี้เกิดมาเป็นเลือดผสม พยายามจะหนีไปให้ไกลแต่ก็ไม่เคยพ้น จนหมดแรงจำต้องกลับมาคุกเข่าอ้อนวอน ท่านพ่อของเขาให้ปล่อยมือ หากแต่ต้องแลกกับการเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป ซึ่
เขาก็ยินดี หากนั่นทำให้ครอบครัวของเขามีความสุข


    แต่มันไม่ใช่อย่างที่คิด ตำแหน่งผู้นำมาพร้อมภาระที่หนักอึ้ง เรื่องอัญเชิญลูซิเฟอร์ ไม่ใช่แค่หน้าที่ของอาร์เคน หากแต่คำสาปส่งผลทั้งเผ่าพันธุ์  ผู้นำทุกรุ่นเก็บงำความลับนี้ไว้เพื่อความมั่นคงของโลก หากเหล่าอมนุษย์รู้ว่าตัวเองต้องสูญสิ้นในซักวัน คงคลุ้มคลั่ง
ฆ่าล้างมนุษย์จนหมด หลายปีมานี้อมนุษย์โดยกำเนิด เกิดมาน้อยจนนับหัวได้ จะมีก็แต่พวกที่ถูกเปลี่ยนซึ่งส่วนใหญ่คุมตัวเองไม่ได้จนกลายเป็นบีส บ่งบอกว่าเราอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์เต็มที 
จำต้องล้างคำสาปก่อนที่จะส่ายไป


    ท้ายที่สุดอาร์วาร์คจึงตัดสินใจแลกชีวิตของโยนาห์กับเผ่าพันธุ์ เขาบอกอุษาและแน่นอนว่าเธอไม่มีทางเห็นด้วย ครอบครัวในฝันของเขาพังลงในวันนั้น อัลไสวเดอร์พาเธอกับลูกหนีไป น้องชายของเขาไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และมองว่าคำสาปต้องปล่อยมันไปตามโชคชะตา อีกทั้งเขารู้ดีว่าคนเป็นน้องรักภรรยาของเขามากเพียงใด ถึงขนาดยอมเสียสละให้เขาเเละเธอได้สมหวังกัน เขาลักพาตัวโยนาห์ออกมาได้ แต่พิธีกลับล่มสลายไปเพราะอัลไสวเดอร์พาคนมาขัดขวาง รวมทั้งโยนาห์ที่ยังเด็กระบิดพลังออกมาเพราะความกลัวจนทำทุกอย่างผิดพลาด ครั้งนี้จึงต้องวางยานอนหลับขนานแรงให้โยนาห์จนเจ้าตัวอยูในอาการกึ่งโคม่า หลับไหลไร้ทางสู้


     "แม่..." เสียงละเมอแผ่วจากคนหลับกลับพาลให้ดวงตาคนเป็นพ่อวูบไหว ล้มตัวลงนอนข้างๆ พร้อมดึงร่างนั้นเข้ามากอดไว้แน่น ทั้งที่ไม่มีวันทำได้ยามที่เจ้าตัวตื่น นานแค่ไหนแล้วนะ... ที่ไม่ได้กอดแบบนี้

     
      "แม่ของลูกตายไปแล้วหละ" ...เพราะเขาฆ่าเธอด้วยสองมีนี้ อาร์วาร์คสะอื้นไห้เงียบๆ อย่างเจ็บปวด
หยาดน้ำตาใสๆ ค่อยไหลอาบแก้มของโยนาห์เช่นกัน ภาพนั้นดั่งคมมีดกรีดกลางใจ บ่งบอกว่าเจ้าตัวคงอยู่ในห้วงของฝันร้ายซึ่งคงไม่พ้นการมีพ่อเลวๆ ของเขาอยู่ในนั้น ร่างกายอุ่นๆ ซุกตัวเข้าหาอย่างต้องการที่พึ่งโดยที่ไม่รู้ว่าอ้อมอกนี้เป็นของคนที่เจ้าตัวเกลีบดชังที่สุด


      ถ้าถามว่าทำไมต้องฆ่า?...เพราะอุษาเจ็บปวดกับเรื่องนี้มามากแล้วไง ภาพนั้นยังคงชัด ในวันที่กลับมาเจอกันอีกครั้งหลังจากโดนขังมาหลายปี เธอจำได้ทันทีว่าเป็นเขา แววตาที่มองนั้นบอกชัดเจนว่ายังรัก แต่ก็เศร้าหมองในคราเดียวกัน ผู้หญิงที่เขารักคุกเข่าอ้อนวอน ขอชีวิตลูกกับเขา ขอให้เขาหยุดทุกอย่าง น้ำเสียงหวานเจือสะอื้นที่บอกเขาในวันนั้น


 ......      "ที่รักฉันขอร้องทิ้งมันไปเถอะหน้าที่บ้าๆนั่น ฉันจะลืมทุกอย่าง แล้วเรากลับมาอยูด้วยกันเป็นครอบครัว ฉันไม่เคยโกรธคุณเลย ฉันเข้าใจ แต่ฉันยอมให้ลูกตายไม่ได้"  ......

      คำพูดเหล่านั้นทำให้อาร์วาร์คตัดสินใจฆ่าเธอ เพราะเขาคงไม่หยุดและอุษาคงเจ็บปวดทรมานที่ต้องมารรับรู้ เรื่องเลวร้ายที่กำลังจะเกิด ทางที่ดีที่สุดคงเป็นความตายเพราะเธอจะได้ไม่ต้องรับรู้และร้องไห้อีกต่อไป


          เสียงอึกกระทึกจากปราการด้านนอกบ่งบอกว่าพวกของอัลไสวเดอร์มาถึงแล้ว ซึ่งมันดูจะไวกว่าที่คิดไปมาก ฟ้าเริ่มมืด แต่คงไม่อาจยื้อเวลาจนถึงเที่ยงคืนอย่างที่พิธีควรเป็น ทั้งที่อยากจะกอดไว้นานกว่านี้แต่เวลากับหมดแล้ว อาร์วาร์คลุกขึ้นจากเตียงช้อนอุ้มร่างบางแนบอก ที่หมายคือโถงพิธี


         ....ลูกจะได้ไปเจอแม่แล้วนะ....และเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น  พ่อจะตามไป....


         เจ้าของเรือนผมสีเงินกดจูบลงบนหน้าผากของลูกชายอย่างแสนรัก..ภาวนาเหลือเกิน ว่าท้ายที่สุดครอบครัวของเขาจะได้อยู่กันพร้อมหน้าและมีความสุข  แม้จะเป็นสวรรค์ โลกหน้า หรือ ชาติหน้า เขาก็ยินดี

............



      Rote Say

     ....อาร์วาร์คจับตัวไอ้ข้าวไป มันต้องการแลกกับตัวกู ขอโทษที่ไม่ได้บอก เพราะถ้ามึงรู้คงไม่ยอมให้กูไปแน่  ถ้าเห็นจดหมายนี้ กูคงอยูในมือไอ้สารเลวนั่นแล้ว กูเชื่อว่ามึงต้องมาช่วย แล้วจะรอ ขอโทษจริงๆ ถ้ามึงโกรธก็ตามมาเอากูไปลงโทษไวๆ...รักมึงนะ....โย...

ปล. ถ้ามาไม่ทันอย่าลืมที่สัญญากันไว้ละ


     ผมขย้ำกระดาษในมือก่อนปาอัดกำแพงอย่างหงุดหงิด อีกแล้วที่โยทำอะไรไม่ปรึกษา มักจะเก็บปัญหาเอาไว้แล้วจัดการด้วยตัวเองเสมอแม้ว่ามันจะเกินตัวก็ตาม จริงอยู่ที่เราทั่งสองเริ่มรักกันแบบงงๆ ไม่ได้จีบ ไม้ได้แทคแคร์ ไม่มีอะไรหวือหวาน่าประทับใจแบบคู่อื่น เพราะมันเริ่มจากเซ็กที่ผมเป็นคนอยากรู้อยากลอง แต่การใช้ชีวิตด้วยกันทุกวัน นอนด้วนกัน กินด้วนกัน ทำอะไรร่วมกัน รู้ตัวอีกทีไอ้เด็กนั่นก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่รู้สึกรักมากๆ ไปเสียแล้ว คิดแล้วมันน่าน้อยใจ...เรื่องคอขาดบาดตายขนาดนี้กลับไม่บอกกัน คำว่าแฟนหรือคนรักคงไม่สำคัญกับมันเลยใช่ไหม


     ผมเองก็พลาดทั้ง่อีกฝ่ายชอบพูดอะไรแปลกๆ บังคับให้สัญญาในเรื่องเลวร้ายแต่กลับไม่ได้เอะใจ กลับคิดไปเองว่าโยคงเครียดมากเกินไป เพราะตลอดเวลาหลายเดือนมานี้เจ้าตัวประสบพบเจอมรสุมมากเกินกว่าชีวิตวัยรุ่นจะรับได้ แม้จะพยายามยิ้มทำเหมือนเข้มแข็งว่าไม่เป็นนไร แต่  หลายครั้งที่ดวงตาสีเทานั้นหม่นหมองเหม่อลอยจนพาให้ใจผมหม่นลงไปด้วย มองไปยังหอกลองกินุสบนโต๊ะข้างเตียว ที่ไอ้ริคเอามาให้เมื่อเช้าแล้วถอนใจ หวังว่าคงไม่ต้องใช้มันหรอกนะ...มึงได้แฟนมึงคืน ส่วนแฟนกูตกอยู่ในมือมัจุราชแทน...รู้สึกหมั่นไส้ไอ้เพื่อนรักอย่างบอกไม่ถูก


     "โธ่เว้ย!" ผมสบทลั่น ต้องรีบไปช่วยโย ว่าแล้วก็ก้าวยาวๆ ไปที่ห้องของอัลสไวเดอร์ก่อนจะเปิดพรวดเข้าไปอย่างไร้มารยาท


      "โยไปหาอาร์วาร์คแล้ว"


      "ว่าไงนะ" พ่อตาผมร้องรลั่นอย่างตกใจ ผมยื่นจดใหมายให้เขาอ่าน เมื่ออ่านจบ เจ้าตัวถึงกับกุมขมับ


      "เราต้องไปช่วยโย ตอนนี้เดี๋ยวนี้" ผมบอกเสียงกร้าว


     "แต่คนของเรามีน้อยกว่าจะประทะตรงๆ คงยาก ยังไงก็ต้องลอบเข้าไปอยูดี เราควรจะมีแผน

     "กว่าคุณจะมีแผนโยไม่โดนสังเวยก่อนหรือไง" ผมตะโกนลั่น เผลอปล่อยไอพลังจนลูกน้องของ อัลไสวเดอร์ก้าวถอยอส่าวหวาดหวั่น


     "แต่กว่าเราจะฝ่ากำแพงเข้าไปได้ คนของเราคงตายหมด"


    "จำนวนคนใช่ไหมที่คุณต้องการ"


    "ใช่!!!!!"


    "ผมจะเรียกใช้คนของสภา" ผมบอกถึงเวลาที่ต้องใช้อำนาจของซานซิโอ ในมือเสียแล้ว


    "แต่สภาอาจจะ..." อัลไสวเดอร์ มีท่าทีลำบากใจ


    "เรื่องคดีของคุณกับอาร์วาร์คผมสั่งระงับก่อนได้ หลังจบงานนี้ค่อยว่ากัน ผมปล่อยตามแผนของคุณมานานแล้วเพราะโยเชื่อมั่นในตัวคุณ แต่ตอนนี้ผมจะใช้วิธีการของผม" ผมเอ่ยเสียงเย็นบ่งบอกว่าเอาจริง  "คุณคงไม่ได้กลัวคุกนิฟเฮมมากกว่าการที่เด็กที่รักเหมือนลูกกำลังจะตายหรอกนะ"


    "ไม่...ฉันไม่ได้กลัวโดนสภาจับ...ถ้ามันได้ฉันก็ยินดีร่วมมือ"


    "งั้นก็ตกลงตามนั้น"


      ว่าแล้วก็เดินออกไปโทรศัพท์ขอกำลังจากสภาโดยให้ซอนเน่ช่วยอนุมัติ พี่สาวผมด่ายับเลยครับที่ปิดบังเรื่องตระกูลอาร์เคนแต่เธอก็ยินดีช่วยส่งคนของสภาในภูมิภาคยุโรปมาให้กว่าร้อยนายแต่ก็ไม่วายคาดโทดคิดบัญชีผมแน่หลังจบเรื่อง สั่งงานคนใต้บังคับบัญชาเสร็จสรรพก็เดินไปหาไอ้หมอ ได้ยินมันคุยกับน้องข้าวฟังดูจริงจังจึงหยุดฟังอยู่หน้าประตู  ได้ยินน้องมันคร่ำครวญเรื่องเพื่อน อ้อนไอ้หมอเปลี่ยนมันให้กลายเป็นอมนุษย์บอกเลยว่าโกรธไม่ลง ไอ้ข่าวมันคงห่วงโยไม่ต่างจากผมหรอก แต่ก็ไม่มีเวลาให้พวกมันโอ๋กันมากหรอกครับจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป...ขัดจังหวะเเม่ง ทำกุอิจฉา


    "มาคุยกันหน่อยริค" ผมเอ่ยเรียนไอ้เพื่อนรัก


    "พะ...พี่รอท เรื่องโย..." น้องข้าวมีท่าทีลนลานที่เห็นผม สีหน้ามันอย่างกับหมาหงอย คงรูสึกผิดจริงจัง


    "มันไม่ใช่ความผิดเราหรอกพี่เข้าใจ ไม่ได้โกรธ อย่าคิดมาก" ว่าพร้อมตบบ่ามันเบาๆ ย้ำคำพูดตัวเอง ก่อนจะพยักเพยิดเรียกเพื่อนให้ตามออกมาพร้อมเดินนำไปยังห้องของอาร์วาร์คที่ต้อนนี้ตัวแทนของสภามาถึงแล้ว สะดุดตากับสาวผมแดงตาสีมรกตที่เดินนวยนาถมากอดคอพวกผม


     "ไง ยูจีน" ไอ้หมอเอ่ยทัก


     "มีเรื่องสนุกไม่บอกกันเลยนะที่รัก มันน่าน้อยใจไหมเนี่ย" เสียงหวานตัดพ้อหน้างอ


      "แล้วทำไมมาได้ละ" ผมถาม


     "บังเอิญรับงานอยุในเยอรมันช่วงนี้ พี่ซอนเน่เลยโทรมาขอแรง ฉันรู้เรื่องแล้วละ คุณอัล...เล่าให้ฟังหมดแล้ว" เธอว่าพลางดึงพวกผมนั่ง "ถึงว่าเวลาใกล้โยมันดึงดูดแปลกๆ แถมนี่ยังมีผลกระทบกับพวกเราทั้งหมด จะให้อยู่เฉยๆ คงไม่ได้อีกอย่างฉันก็เอ็นดูน้งมันเกมือนน้องชายคนหนึ่งด้วย"


     "แผนก็ง่ายๆ ไอ้ริคนำคนประทะเข้าทางกำแพงจากเหนือและใต้ต้องขอเเรงมือดีของคุณเพื่อดึงความสนใจ ส่วนคุณนำผมลอบเข้าไปในทางลับที่คุณเคยบอกไว้ในตอนแรก แต่ถ้ากำแพงถล่มไวเราก็จะเข้ทางประตูหลักแทน ส่วนพวกที่บินได้ให้เข้าไปป่วนหลังกำแพงและพยายามเปิดประตูจากด้านในอาจต้องรบกวนซัคคิวบัสอย่ายูจีน งานนี้อาวุธครบมือ จับตายสถานเดียว"


     "เรามีเวลาเท่าไหร่ก่อนจะเริ่มพิธี" ไอ้หมอถาม


     "ก่อนเที่ยงคืน พิธีส่วนใหญ่อาศัยพลังของดวงจันทร์ ต้องทำเที่ยงคืนเพราะเป็นช่วงที่ดวงจันทร์มีพลังมากที่สุด
ยิ่งกับพิธีใหญ่ๆ อย่างอัญเชิญซาตานยิ่งต้องทำ เพราะเวลาอื่นมีโอกาสที่พิธีไม่สมบูรณ์สูงมาก อาร์วาร์คทุ่มเทกับเรื่องนี้มานานคงไม่อยากเสี่ยง" ทายาทอาร์เคนอธิบาย


    "ผมก็หวังให้มันเป็นแบบนั้น"


     หลังจากจัดการนัดแนะทุกคนจึงรีบพากันลงมาด้านล่างที่มีรถจอดเตรียมไว้ ไอ้คุณเพื่อนไม่วายไปร่ำลาเมียรักอยู่หน้าประตูโรงแรม ข้าวหอมยังคงสีหน่าไปสู้ดี ถอนใจเฮือกๆ อย่างร้อนรนแบบคนที่ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้คงอยากเปลี่ยนเป็นอมนุษย์มากเลยสินะ ไอ้หมอทำไม่ได้เพราะต้องเก็บแรงไปรับศึกใหญ่ สาวนผมนี่ไม่ต้องพูดถึง ยังไงก็อยากไปลากเมียกลับมาด้วยตัวเอง หันมามองยูจีนข้างกาย สาวสวยระบายยิ้มอ่อนก่อนมองหน้าผมเหมือนตัดสินใจอะไรได้


     "ถ้าไม่มีฉัน สู้ไหวไหมที่รัก"


     "ก็พอไหว...หืมทำไมถามละ" ผมมองเธออย่างฉงน


      "มีธุระต้องทำ"


     "อะไร?"

   
      "สงเคราะห์เด็กตาดำๆ" ผมมองตามสายตาเธอไปหยุดที่น้องข้าวก็เข้าใจว่าเธอจะทำอะไร


      "งั้นฝากด้วยนะ"  บอกก่อนจะเรียกไอ้เพื่อนริคขึ้นรถ


       หวังว่าคงไปทัน ต่อให้ต้องฆ่าพวกมันทิ้งห่อเผาปราสาทนั้นจนสิ้นซากผมก็ต้องเอาเมียผมกลับมาให้ได้ สำหรับความดื้อรั้นจนเกิดเรื่อง แถมยังไม่ไว้ใจกัน จับตัวได้พ่อ จะลงโทษให้หนัก จะเอาให้เตียงพัง ครางลั่น ขาเดี้ยงจนหนีไปไหนไม่ได้อีกเลยคอยดู


Talk Talk
[/b]

-เราหายไปนานมาก อย่าโกรธกันเลยเราขอโทษ คอมเรายังอยูศูนย์ มันเก่ามาหาอะไหล่ไม่ได้เพราะเป็นโน๊ตบุค จึงตัดสินใจพิมในไอแพด  อาจมีคำผิดเยอะมาก :katai1:

-ตอนนี้สอดแทรกมุมมองของอาร์วาร์คเล็กน้อย เผื่อใครจะเข้าใจฮีบ้าง :mew4:

-สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณทุกท่านท่ติดนาม วาดรูปปรากิบจริงจังอยุไว้เดี๋ยวเอามาโชว :katai2-1:


ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
รีบมาอีกน้า รออยู่ตลอดดด

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ตัวเองทำให้เลือดผสมเกิดมาเองแท้ๆ ยังมีหน้ามาชิงชังอีก

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :ling1:    แง้.  ลุ้นง่า
พี่รอทมาให้ว่องแต่วางแผนให้ดีๆก่อนนะ
ขอบคุณคนเขียนจ้า. รอเสมอ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด