:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 800200 ครั้ง)

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #270 เมื่อ28-08-2015 10:50:46 »

ONLY YOU :: EPISODE 8 [75%]




ตอนแรกผมว่าผมก็ปกติ ไม่ได้ตื่นเต้น หรือนึกหวาดหวั่น หวาดกลัวอะไรกับการที่วิคเตอร์จะเข้ามาพบพ่อกับแม่ เพราะผมคิดว่าก็แค่เข้ามาพูดคุยทั่วไป ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นกังวล แต่พอรถเบนซ์สีดำจอดหน้าบ้านผมที่เป็นตึกพาณิชย์สามชั้นสองตึกติดกัน ผมก็เริ่มใจสั่น เพราะความจริงผมรู้ว่าวิคเตอร์มาในฐานะอะไร เขาไม่ได้มาในฐานะเจ้านายที่จะมาบอกพ่อกับแม่ว่าผมได้งานแล้ว จะขอตัวไปทำงานด้วยอะไรแบบนั้น คือผมว่าพ่อกับแม่ก็ไม่ใช่คนโง่ เขาเลี้ยงผมมา ทำไมเขาจะไม่ระแคะระคายล่ะว่า เจ้านายอะไรทำไมมาขอลูกชายไปทำงานด้วยถึงที่บ้าน
   

“วิคเตอร์ ไม่ต้องเจอพ่อกับแม่แล้วก็ได้ เดี๋ยวผมพูดกับพวกเขาเองดีกว่า” สีหน้าผมแสดงความประหวั่นพรั่นพรึงที่เริ่มก่อตัวหนาแน่นขึ้นในอก ผมกัดริมฝีปากล่างแน่น มองวิคเตอร์ที่มองกลับมางงๆ ด้วยอาการไม่สบายใจ
   

“ทำไมล่ะ ก็ตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ” เขาปลดเข็มขัดออกจากตัว เอื้อมมาปลดให้ผมออกด้วย ผมมองไปทางตัวบ้านอย่างพะว้าพะวง เห็นพ่อกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์โดยมีลูกค้าอยู่ในร้านสองสามคน
   

“ผมว่ายังไงเขาก็ต้องรู้ว่าเราเป็นมากกว่าเจ้านายลูกน้อง” วิคเตอร์ยิ้มเอือม ยกมือซ้ายขึ้นมาโยกหัวผมเบาๆ
   

“เขาจะรู้ก็เพราะนายทำท่าลุกลี้ลุกลนแบบนี้เนี่ยแหละ”
   

“คุณไม่ต้องเข้าไปก็ได้ แค่เรื่องงานผมบอกเขาเองก็ได้นะจริงๆ” ผมมองไปทางบ้านตัวเอง พ่อลุกขึ้นยืนคิดเงินหน้าเค้าน์เตอร์ ตอนนั้นเองที่พ่อเพ่งมองมาทางรถของวิคเตอร์ที่จอดอยู่
   

“ได้ไงล่ะ ฉันจะเอาลูกเขาไปอยู่ด้วย ก็ต้องมาขอเขาสิ ไอ้อันเดรบอกฉันว่าที่ไทยค่อนข้างจริงจังกับเรื่องนี้มาก” ผมหันหน้าเอ๋อของตัวเองไปมองเขาที่ยิ้มละมุนกลับมา พอตั้งสติได้ผมก็สั่นหัว
   

“เอ่อ… อันนั้นน่าจะหมายถึงการแต่งงานรึเปล่า”
   

“ถ้างั้นก็ขอแต่งไปเลยก็ได้ แต่มัดจำเรื่องแหวนไว้ก่อนนะ” ผมยิ้มเบ้ปาก ยกมือขึ้นมาเกาหัวแกรกๆ หันไปมองพ่อที่ยืนขายของอยู่หน้าบ้านก็เกิดอาการปอดเป็นรูขึ้นมา คือนี่ผมกำลังจะพาผู้ชายเข้าบ้านนะ แล้วผู้ชายก็หน้าตาดีไง
   

“นั่นพ่อนายใช่รึเปล่า” เขาชี้ไปทางพ่อที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ ผมหันไปพยักหน้ากับเขาเร็วๆ
   

“ผมว่าพ่อกับแม่ต้องรู้แน่ๆ คุณไม่ต้องเข้าไปหรอก เดี๋ยวผมเข้าไปเก็บของแล้วบอกพวกเขาว่าไปทำงานให้ทางมหาวิทยาลัย” ผมเริ่มรู้สึกลนลานไปหมด พยักหน้าให้วิคเตอร์รัวๆ เพื่อให้เขาเห็นด้วยกับความคิดนี้ ไอ้ยักษ์ย่นคิ้วมองหน้าผม ยกยิ้มขำที่มุมปาก
   

“ถ้าฉันเป็นพ่อนาย ฉันจับได้ละว่านายพาแฟนเข้าบ้าน” ผมยิ้มแห้ง หน้าตาไม่สู้ดีนัก นี่ขนาดยังไม่อยู่ต่อหน้าพ่อกับแม่ ใจผมยังเต้นตุบๆ มันเต้นเหมือนจะหลุดออกจากอก เต้นแรงยิ่งกว่าเวลาตื่นเต้นตอนอยู่กับวิคเตอร์ซะอีก
   

“ถ้านายหยุดคิดมาก ทำตัวสบายๆ เหมือนว่าเราเป็นเจ้านายลูกน้องกันจริงๆ ก็ไม่มีใครจับได้หรอก” ผมเม้มปาก คิ้วขมวดมุ่น กำลังพยายามบอกให้ตัวเองใจเย็น หันไปมองวิคเตอร์ก็เห็นว่าเขากำลังมองอย่างให้กำลังใจ ผมพยักหน้าด้วยสีหน้าที่มั่นใจขึ้นมาเพียงนิด พ่อตัวโตยิ้มหล่อมาให้ หันไปเปิดประตูฝั่งตัวเอง ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเปิดประตูฝั่งตัวเองบ้าง
   

วิคเตอร์เดินตามหลังผมมาโดยไม่ได้แสดงท่าทีอาการผิดแปลกแต่อย่างใด เห็นแบบนั้นผมเลยพยายามทำตัวให้นิ่งบ้าง ทั้งที่ใจนี่เต้นเป็นแทงโก้ อาจจะจริงอย่างที่เขาว่าถ้าพ่อกับแม่จะจับได้ ก็น่าจะเป็นเพราะผมนี่แหละ เราเดินเข้าไปใกล้พ่อที่กำลังก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์ สักพักพ่อคงรู้ตัวว่ามีคนยืนอยู่เลยเงยหน้าขึ้นมามอง สีหน้าพ่อไม่ได้แสดงอาการใดๆ ชัดเจนตามแบบฉบับของพ่อ
   

“วันนี้กลับซะมืดค่ำ แม่เขาโทรหาตั้งหลายรอบทำไมไม่รับสาย” พ่อถามเสียงเรียบ แล้วสายตาของพ่อก็เลื่อนไปมองฝรั่งตัวใหญ่คนหนึ่งที่ยืนยิ้มหล่อกลับไปให้ ตอนนั้นเองที่พ่อแสดงอาการตื่นตัวด้วยการลุกขึ้นยืนช้าๆ
   

“แล้วนั่นฝรั่งที่ไหน” ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไร พ่อยักษ์หน้าหนวดก็ยกมือไหว้อย่างเก้ๆ กังๆ
   

“Hello, father-in-law. (สวัสดีครับคุณพ่อตา)” ผมที่กำลังยิ้มแย้มถึงกับยิ้มหายวืดและตาโตฉับพลัน หันไปมองไอ้ยักษ์ที่ยิ้มทะเล้นกลับมาให้
   

นั่นไง ไอ้ยักษ์ ประโยคพาพินาศลอยมาแล้วหนึ่งประโยค ผมฝืนยิ้ม ถลึงตามองเขานิดๆ อีกฝ่ายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้กลับมา
   

“เขาทักทายพ่อใช่มั้ย แต่ไอ้ที่ต่อท้ายคำว่าฟาเตอร์นั่นมันคืออะไร” ถึงพ่อจะไม่เก่งภาษาอังกฤษ แต่พ่อผมก็ดูหนังซาวด์แทร็กบ่อยนะ
   

“ใช่ๆ เขาทักพ่อ ไอ้ที่ต่อท้ายก็คล้ายๆ คำว่าครับไง” น่าจะเป็นคำโกหกที่ไม่เว่อร์จนดูเกินจริงไปนะ พ่อทำหน้าเข้าใจ พยักหน้าหน่อยๆ
   

“ซา วั๊ด ดี คั๊บ” ผมหันไปมองพ่อฝรั่งตัวใหญ่ด้วยสีหน้าเอ๋อที่ได้ยินเขาพูดภาษาไทย โอย น่ารักแท้ไอ้ยักษ์ ฮ่าๆๆ พยายามพูดภาษาไทยด้วยสำเหนียงแปลกๆ ผมอดยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นเขาผงกหัวขึ้นลงซ้ำๆ จนพ่อต้องรีบยกมือรับไหว้ แล้วยิ้มกลับไปให้อย่างเงอะงะเช่นกัน
   

“หวัดดีครับๆ เอ่อ ฮะ… ไฮ” พ่อผมผู้ซึ่งไม่ถนัดวิชาภาษาอังกฤษเอ่ยทักด้วยสำเนียงเสียงคนไทย แต่ก็ทำเอาผมยิ้มขำพ่อเช่นกัน พ่อชอบดูหนังต่างประเทศ ก็อาศัยการอ่านคำแปลบนหน้าจอเอา พ่อบอกว่าพากย์ไทยฟังแล้วเสียอารมณ์ ด้วยจุดนี้เลยอาจทำให้พ่อคุ้นเคยบางคำศัพท์อยู่บ้าง
   

“พ๊ม ฉื่อ วิคเตอร์ คั๊บ!” วิคเตอร์ยิ้มแฉ่ง ยื่นมือมาเพื่อจะจับมือกับพ่อ แต่ด้วยความที่พ่อเองก็คงกำลังงงๆ อยู่เลยยืนไหว้ค้างไว้ วิคเตอร์เห็นแบบนั้นเลยดึงมือกลับไปไหว้ต่อ แต่พ่อดันยื่นมือออกมาในจังหวะที่วิคเตอร์ชักมือกลับไปพนมมือไหว้ไว้แล้ว วิคเตอร์ก็หน้าตื่นรีบยื่นมือออกมา แต่พ่อดันชักมือกลับไป ผมหัวเราะที่เห็นผู้ชายสองคนที่ผมคิดเสมอว่าคล้ายคลึงกันทั้งหน้าตาและนิสัย เล่นชักคะเย่อมือกันไม่หยุด
   

“อ้าวๆ ใจเย็นพ่อ ยื่นมือออกมา อย่างนั้นแหละ” สองหนุ่มยิ้มเผล่ให้กัน เชคแฮนด์กันเบาๆ กันอยู่พักหนึ่งถึงดึงมือออก ผมยิ้มให้วิคเตอร์ที่ยิ้มตอบกลับมาเหมือนกำลังตื่นเต้นที่ได้แสดงการทักทายในแบบวัฒนธรรมใหม่
   

“เพื่อนแมทเหรอ” พ่อถามโดยที่ยังมีรอยยิ้มติดอยู่บนใบหน้า
   

“คนนี้เจ้านายแมทที่นิวยอร์ก พอดีเขามาทำงานที่ไทย แมทเลยมาช่วยงานเขา ที่กลับมาช้าก็เพราะไปทำงานกับเขามานี่แหละ” งานประเภทไหนก็ไม่รู้ ทำกันบนเตียงและในอ่างอาบน้ำ งานไม่หนักนะ แต่เหนื่อยมาก
   

“อ๋อ แล้วทำไมไม่โทรบอกก่อน แม่เขาก็เป็นห่วง”
   

“ลืมเอาโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย ไม่เก้าก็แบมเก็บไว้ให้แล้วแหละ” พ่อพยักหน้าหงึกหงัก หันไปยิ้มให้กับวิคเตอร์อีกที ดูท่าพ่อเองก็จะแอบประหม่าและตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้เจอฝรั่งตัวเป็นๆ แต่หากถามว่าทำไมพ่อดูไม่ตื่นเต้นที่ได้เจอวิคเตอร์ เรย์มอนด์ ก็ต้องบอกว่าพ่อกับแม่ผมไม่ใช่คนติดตามข่าวสารวงการบันเทิงเท่าข่าวการเมืองหรือเศรษฐกิจ อีกอย่างวิคเตอร์เป็นดาราต่างประเทศและอยู่ในสายซีรีส์กับนายแบบซะเยอะ ซึ่งพ่อไม่ติดตามหรอก ถ้าดูหนัง ก็ดูหนังบู๊ๆ ซะส่วนใหญ่ ส่วนแม่ก็ไม่ค่อยติดตามวงการบันเทิงเช่นกัน ดาราไทยแม่ก็พอจะจำได้บ้างว่าใครเป็นใคร แต่ไม่ได้ตามติดชีวิตดารา ฉะนั้นกับดาราต่างประเทศก็อย่าคาดหวังเลยว่าแม่จะรู้จัก
   

“แล้วเขามาบ้านเราทำไมล่ะ”
   

“เขาอยากมาเจอพ่อกับแม่ อยากมาขออนุญาตให้แมทไปช่วยงานเขาสองอาทิตย์ แล้วเขาก็มีเรื่องจะคุยกับพ่อกับแม่ด้วย” พ่อเบิกตากว้างมองผมด้วยสายตาตื่น สีหน้าลุกลี้ลุกลน นานๆ ทีจะเห็นพ่อหลุดมาเข้ม มาดขรึมนะ
   

“คุยอะไร แล้วจะคุยกันรู้เรื่องได้ยังไง”
   

“ก็เดี๋ยวแมทเป็นล่ามให้ไง” พ่อทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก หันไปมองพ่อฝรั่งตัวโตที่ยิ้มแฉ่งโชว์ฟันขาวด้วยใบหน้าใสซื่อ ที่ไม่รู้ว่าปั้นขึ้นมาหรือใสซื่อจริงๆ
   

ผมต้องเรียกสติพ่อให้กลับมาอีกครั้ง เมื่อพ่อดูเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก พ่อส่งเสียงเออๆ ออๆ ไปเรื่อย ก่อนจะหันไปเรียกแม่ที่น่าจะอยู่ในครัวให้ออกมา ตอนแรกแม่ออกมาทำท่าจะบ่นผม แต่พอเห็นวิคเตอร์แม่ก็อ้าปากหวอ ไม่รู้ว่าใจละลายไปกับรอยยิ้มหล่อๆ ของไอ้ยักษ์หรืออึ้งที่เห็นฝรั่งยืนอยู่ในบ้าน
   

“Your mother?” วิคเตอร์ถามด้วยรอยยิ้มอ่อน ผมพยักหน้าให้เขา วิคเตอร์พนมมือไหว้อีกรอบ
   

“Hello, mother-in-law. (สวัสดีครับคุณแม่ยาย)” ผมได้แต่ยิ้มเฝื่อนแม้ใจจะกระตุกวูบๆ แต่ก็ต้องแสดงออกว่านั่นคือคำทักทายทั่วๆ ไป ไม่ได้มีอะไรน่ากังวล แม่ผมยิ้มเก้กัง ยกมือรับไหว้วิคเตอร์
   

“สะ… สวัสดีค่ะ เอ่อ… เพื่อนแมท เฟรนด์แมท (Friend Matt) เหรอคะ” แม้แม่จะพอรู้ภาษาอังกฤษอยู่บ้าง แต่พอไม่ได้ใช้นานๆ มันก็จะลืมเลือนไปตามกาลเวลา คงเหลือไว้แต่คำศัพท์ง่ายๆ เบสิคๆ ทั่วไป ผมกำลังจะอ้าปากตอบ แต่ไอ้ยักษ์ตัวแสบก็โพล่งขึ้นมาก่อน
   

“Not quit. I am actually his boyfriend, and he is my boyfriend. (ก็ไม่เชิงครับ จริงๆ แล้วผมเป็นแฟนเขา แล้วเขาเองก็เป็นแฟนผม)” พ่อกับแม่หันไปมองหน้ากันอย่างตื่นตระหนกเมื่อเจอประโยคสนทนาที่เริ่มยาวขึ้น แต่ท่านทั้งสองก็ยิ้มเพราะเห็นว่าไอ้ฝรั่งมันยิ้ม แต่ใครจะรู้บ้างว่ารอยยิ้มนั้นมันเป็นรอยยิ้มของไอ้ยักษ์เจ้าเล่ห์
   

ไอ้ยักษ์ ไอ้หนวด ไอ้ห่า ถ้าเกิดพ่อกับแม่แปลได้ขึ้นมาจะทำยังไง ผมได้แต่ถลึงตามองมองทั้งที่ปากยังฉีกยิ้มอยู่ด้วย จะทำหน้าดุทีเดียวก็ไม่ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวพ่อกับแม่สงสัย
   

“คือ… จริงๆ แล้วเขาเป็นเจ้านายแมทที่นิวยอร์กอะแม่ แล้วเขามาทำงานที่ไทยประมาณสองอาทิตย์ เขาก็เลยขอให้แมทไปช่วยงาน” แม่ทำหน้าว่า อ๋อ ส่งยิ้มให้วิคเตอร์ที่ยิ้มหล่อตอบกลับมา ผมว่าต้องรีบตัดบทแล้วล่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวแม่ต้องไปเรียกใครสักคนแถวนี้ที่เก่งภาษอังกฤษมาแปลให้แน่ๆ
   

“แล้วก็ วันนี้ที่เขามา เขาจะมาขออนุญาตพ่อกับแม่ให้แมทไปช่วยงานเขา คือ แมทอาจจะไม่ได้กลับบ้านนะ เพราะงานเขาจะเยอะมาก ไม่มีค่าจ้างนะแม่ แต่เขาออกค่าใช้จ่ายให้แมทหมดทุกอย่างเลย…” ผมหันไปหาวิคเตอร์ที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่คนเดียว
   

“…I said that you do not pay the wage for me, but you will be pay for another things, instead.”
   

“Ah! Yeah. Don’t worry about that—mom, dad. I aim to take care of him as good as I fuck him. (อ้า! ครับ ไม่ต้องเป็นห่วงตรงนั้นเลยครับคุณแม่ คุณพ่อ ผมตั้งใจจะดูแลเขาอย่างดีเหมือนตอนที่ผมตั้งใจอึ๊บเขาเลยครับ)” วิคเตอร์ยิ้มกว้างพร้อมเสียงหัวเราะ ผมเลยแกล้งหัวเราะกลบเกลื่อนไปด้วย ทั้งที่ใจจริงอยากจะหยิกเขาให้เนื้อเขียวคามือเลยทีเดียว พ่อกับแม่ก็ได้แต่ยิ้มตามแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวไปด้วย ผมพยักหน้าให้พ่อกับแม่ด้วยสีหน้าว่า ตามนั้นเลยพ่อ แบบนั้นเลยแม่ แม้ใจจะเสียววูบเสียววาบ แต่ก็ต้องทำเฉยเมยราวกับเป็นประโยคธรรมดาอีกเช่นเคย
   

“เขาบอกว่าไม่ต้องกังวล เขาจะจ่ายให้หมดทุกอย่างเลย” พ่อกับแม่ยิ้มใจดี หันไปโค้งให้วิคเตอร์เล็กน้อย ไอ้ฝรั่งโค้งกลับมา หันมายิ้มยักคิ้วกวนเท้าให้ผม หน็อย… พอรู้ว่าผมตอบโต้อะไรไม่ได้ ฮึกเหิมใหญ่เชียวนะ เดี๋ยวก๊อน!
   

“แพ้ฝุ่นหรือโดนอะไรกัดมาน่ะแมท ทำไมคอแดงขนาดนั้น” เฮือก! ลืมเลยว่าคอตัวเองมีรอยอยู่ ผมกลืนน้ำลายลงคอ พยายามดึงสติไว้กับตัวไม่ให้หลุดไปไหน
   

“โดนบุ้งอะ นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ที่ตึกคณะแล้วมันตกใส่” ผมแถไปเนียนๆ ผมเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว เวลาโดนฝุ่นมากๆ จะจามไม่หยุดและจะผื่นขึ้น ไม่ก็ตัวแดง แต่สภาพผมดูสะอาดเกินกว่าจะไปโดนฝุ่นที่ไหนมา เลยเอาน้องบุ้งมาเป็นบุ้งรับบาปไปก่อนก็แล้วกัน
   

“ไปกินยาไป เดี๋ยวก็ผื่นขึ้นเต็มตัวอีก” ผมพยักหน้าไปเรื่อย ก่อนจะรีบเข้าประเด็น อยู่นานกว่านี้อาจเสียวหัวใจจนจะวายตายได้
   

“แล้วสรุปพ่อกับแม่อนุญาตมั้ย”
   

“อันนี้งานส่วนตัวหรืองานของมหาลัย” พ่อเอ่ยถาม สายตาที่มองวิคเตอร์เริ่มเปลี่ยนจากมองด้วยอาการตื่น เป็นมองอย่างระแวดระวังมากขึ้น นี่ไง ยิ่งอยู่นานยิ่งเพิ่มความน่าวิตกกังวลให้กับชีวิต
   

“ก็อาจารย์ที่ปรึกษาเขามาขอให้แมททำด้วยแหละ คือประเทศไทยเชิญเขามาทำงานด้วย ประมาณนั้น” พ่อหันมามองที่ผมสลับกลับไปมองวิคเตอร์ แต่จริงๆ แล้วสายตาพ่อไม่ได้มองหน้าผมเลย ผมว่าพ่อกำลังมองรอยแดงที่คอผมอยู่มากกว่า
   

“แล้วไปนอนที่ไหน” พ่อถาม สายตาที่มองมานั้น แม้จะดูนิ่งสงบ แต่ผมรู้ว่าพ่อกำลังเริ่มสงสัยอะไรบางอย่างอยู่ในใจแน่ๆ
   

“นอนที่โรงแรมที่เขาอยู่นั่นแหละ แต่ว่านอนคนล่ะตึกนะ” เมื่อเจอพ่อที่กำลังเริ่มทำท่าจับผิด สิ่งที่ผมต้องทำคือ ต้องตีเนียนให้ตลอดรอดฝั่ง
   

“แมททำคนเดียวเหรอ” ผมสั่นหัว ตอบเสียงเรื่อยเปื่อยเหมือนพูดจาธรรมดาปกติ
   

“ไอ้แชมป์ ไอ้เก้า ก็ทำ ลองโทรถามพวกมันดูสิ” ที่ผมพูดไปแบบนั้น เพราะรู้ว่าพ่อไม่โทรหรอก ถึงพ่อจะสงสัยแต่ไม่ใช่นิสัยพ่อที่จะจุ้นจ้านหรือจู้จี้เกินเหตุ
   

“เอาล่ะๆ เดี๋ยวค่อยคุย แมทเข้าไปเก็บของไป ถ้ามันเป็นงานมหาลัยก็รีบไป อย่าให้เจ้านายเขารอนาน” แม่เป็นคนตัดบทสนทนานี้ แม้แม่จะจุกจิกกว่าพ่อ แต่เรื่องความขี้เกรงใจนั้นคือนิสัยของแม่ เวลาเพื่อนจะมารับผมออกไปไหน แม่จะชอบบอกว่าให้รอเขา ดีกว่าให้เขามารอเราเสมอ
   

“เอ่อ… ฝากดูแล เจ้านายแมทแปบนึงนะ” พ่อที่กำลังทำหน้าขรึม มองวิคเตอร์ที่ยิ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวถึงกับหน้าเสียทรงทันทีที่ผมบอกให้ดูแลไอ้ฝรั่งตัวใหญ่นี่
   

“เฮ้ย ดูแลอะไรล่ะ พ่อกับแม่พูดด้วยไม่รู้เรื่องหรอก”
   

“หาน้ำ หาขนมให้เขากินไปพลางๆ ก่อน เดี๋ยวแมทรีบลงมา” ผมหันไปหาวิคเตอร์ พูดกับเขาว่าให้รออยู่ด้านล่างในช่วงที่ผมขึ้นไปเก็บของ เขาพยักหน้ารับกระตือรือร้น ผมพาทุกคนเดินเข้าไปด้านในบ้าน ตัดสินใจพาวิคเตอร์ไปนั่งรอในครัว
   

“เขากินข้าวมารึยังแมท เดี๋ยวแม่ทำกับข้าวให้”
   

“ยังเลย งั้นแมทฝากแม่ทำไข่เจียวกุ้งให้เขาหน่อยนะ ใส่นมผสมลงไปด้วย เขาชอบกิน”
   

“แล้วแมทเอาด้วยรึเปล่า” ผมพยักหน้า แม่หันไปจัดการเตรียมอาหารให้เราสองคน ส่วนพ่อนั่งอยู่หน้าร้าน แต่ผมก็แอบเห็นว่าเขาชะเง้อมองอยู่เรื่อย
   

“I said don’t say any pervert word as your habit. (ผมบอกว่าอย่าพูดจาลามกเหมือนนิสัยคุณไง)” ผมว่าเสียงต่ำ ทำหน้าเข่นเขี้ยวใส่ไอ้ยักษ์ที่ยักคิ้วกวนพระบาทกลับมาให้พร้อมรอยยิ้มร้ายกาจ ผมแอบเหลือบไปมองแม่ที่กำลังง่วนกับการเขียวไข่ และหันไปมองพ่อที่กำลังขายของให้กับลูกค้าหน้าร้าน ก่อนจะหันกลับมาหยิกหัวนมซ้ายของเขา
   

“Ouch!” วิคเตอร์หน้าแหย เอามือมาจับมือซ้ายผมไว้แน่น เขาขมวดคิ้วใส่หน้าผม ส่วนผมถลึงตาใส่เขา พอจะดึงมือออก เขาก็ดึงไปจูบ ผมหน้าตื่นตกใจ มองแม่ที่กำลังเทไข่ลงกระทะเสียงดัง รีบชักมือออกอย่างรวดเร็ว
   

“Giant! (ไอ้ยักษ์!)” ผมเรียกเสียงขู่ เจ้าของฉายายิ้มเผล่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกลับมาให้ ผมแยกเขี้ยวใส่เขา หมุนตัวจะเดินขึ้นข้างบน แต่ไอ้ยักษ์สัปดลก็ยังมิวายเอื้อมมือมาบีบก้นผมท้าทายอำนาจพ่อกับแม่มาก ผมรีบปัดออก วิ่งขึ้นไปบนบ้าน



TBC.  :katai5:


ยักษ์ป่วนบ้านเอเลี่ยน มาถึงก็เริ่มแผลงฤทธิ์เนาะ 5555555 เล่นเอาแมทใจหายใจคว่ำ เชื่อว่าอ่านแล้วคงรู้สึกได้ว่าพ่อแมทต้องสงสัยอะไรอยู่แน่ๆ ฮี่ๆ แม่แมทอาจจะไม่สังเกตอะไรมากนัก แต่พ่อแมทไม่ใช่ค่ะ พ่อไม่ค่อยพูดก็จริง แต่พ่อรู้ พ่อเห็น แล้วพ่อนี่ล่ะ ศัตรูตัวเป้งของวิคเตอร์ 555555 อย่างที่แมทบอกค่ะ แมทคิดมาเสมอว่าผู้ชายสองคนนี้เหมือนกัน วันนี้เขาได้เจอกันแล้ว แต่ยังคงไม่มีโมเม้นต์พ่อตาลูกเขยแน่ชัดหรอกนะคะ คริๆ ยังไม่เริ่มสงครามค่ะ ฮี่ๆ    :hao6:




ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยนะคะ คนอ่านตอมอาจจะไม่ได้มากอะไร แต่ขอบคุณค่ะที่ยังมีคนรออ่านอยู่เสมอ ขอบคุณมากค่ะที่คอยคอมเม้นให้กำลังใจกัน ตอมกดบวกหนึ่งให้ตลอดเลย 55555 อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะคะ ความรักของสองคนนี้ยังต้องเดินทางอีกไกลค่ะ  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2015 16:05:02 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #271 เมื่อ28-08-2015 11:06:05 »

แหมมมมวิคเตอร์นี่ก็ช่างกล้าดีจริงๆ   5555555   ท่าทางพ่อตาเองก็ใช่ย่อยนะ  มีสงสัยซะด้วยย :katai2-1:


สนุกมากค่ะ  รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #272 เมื่อ28-08-2015 11:15:35 »

เสียดายคุณพ่อคุณแม่ฟังไม่ออก ไม่งั้นคงได้รู้แล้วว่าลูกเขยมาฝากตัว

ออฟไลน์ starhihi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #273 เมื่อ28-08-2015 12:05:42 »

โอย แค่เพิ่งเจอหน้ากันก็ก่อเรื่องแล้วเรอะพ่อคู้ตื่นเต้นด้วยกับแมท เจ้ายักษ์ตัวนี้ร้ายนัก รอดูท่านพ่อแผลงฤทธิ์

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #274 เมื่อ28-08-2015 12:09:04 »

พ่อแมททททท


ขังขวางให้ถึงที่สุดเลยค่ะ ลูกชายคุณพ่อน่ารักขนาดนี้  :hao7:

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #275 เมื่อ28-08-2015 13:51:38 »

แหมพี่ยักษ์ก็พูดซะตรงเลย
ดีน่ะที่พ่อแม่เค้าฟังไม่รู้เรื่อง
ไม่งั้นคงไม่ได้เอเลี่ยนไปคอยดูแลแน่ๆ
 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #276 เมื่อ28-08-2015 15:48:23 »

แมทเอ้ย โดนวิคเตอร์หลอกแล้ว เอาแต่ใจขั้นเทพมีเหรอจะเนียนให้ ถ้าพูดไทยได้โดนสู่ขอไปแล้ว

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #277 เมื่อ28-08-2015 16:27:26 »

อ้างถึง
“Ah! Yeah. Don’t worry about that—mom, dad. I aim to take care of him as good as I fuck him.
  :laugh: :laugh: :laugh:  โอ๊ยยยยย  คุณพ่อคุณแม่น่าจะฟังออกนะคะ 55555555555555555555


ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #278 เมื่อ29-08-2015 09:15:38 »

แม้พี่วิค แค่ประโยคมีคำว่า boyfriend,fuck แถมรอยที่คอ พ่อแม่ก็เดาได้แล้วมั้ง

ออฟไลน์ love AJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #279 เมื่อ29-08-2015 13:11:06 »

 :m20: :jul3: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
« ตอบ #279 เมื่อ: 29-08-2015 13:11:06 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #280 เมื่อ29-08-2015 17:24:55 »

โอ้ยๆ  หวานกันน่ารักมากๆ ยิ้มตามเลยอ่ะ

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #281 เมื่อ30-08-2015 17:34:27 »

ชอบบบบบบบบบบบ บ.ล้านล้านตัวววว สนุกมากๆ ไม่มีคำอื่นที่บรรยายได้ดีกว่านี้แล้ววว ติดตามยาวๆๆๆๆๆๆๆฝ
ปล.เสียดายที่เพิ่งรู้ว่าเปิดจอง ss1 แล้วจะปิดวันนี้แล้ว โอนตังค์ไม่ทันนนนนนนนนนน #ถ้ารู้วันศุกร์นี่บึ่งไปธนาคารเช้าเสาร์ละ เดี๋ยวรอ ss2 กะ 3 ละกันเผื่อเปิดจองแบบ box set

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 75%} 28.08.58::
«ตอบ #282 เมื่อ30-08-2015 22:25:35 »

 :haun4: :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 100%} 01.09.58::
«ตอบ #283 เมื่อ01-09-2015 00:05:11 »



EPISODE 8 [100%]



พอเข้ามาในห้องนอนได้ ผมก็ประมวลของที่จะเอาติดตัวไว้ใช้ในระหว่างที่อยู่กับวิคเตอร์ที่ไทย ผมหยิบเป้สำหรับใส่เสื้อผ้าออกมา เลือกชุดนิสิตนักศึกษาไปสองชุด เผื่อไว้ว่าอาจต้องเข้าไปที่มหาวิทยาลัยอีก ซึ่งก็น่าจะต้องเข้าไปอยู่แล้วล่ะ ส่วนเสื้อผ้าใส่เล่นเอาไปสักห้าหกชุดก็แล้วกัน ไม่พอก็ค่อยซักตาก หรือไม่ก็ค่อยขึ้นรถกลับมาเอาเพิ่ม ส่วนข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ก็ไม่ต้องคิดไรมาก เคยใช้อะไรอยู่ทุกวันก็หยิบอันนั้นยัดใส่ถุงซิปล็อคแล้วยัดลงเป้อีกที ผมกำลังจะเดินออกไปจากห้อง แต่ก็วกกลับมาหยิบสติชตัวขนาดกลางตัวหนึ่ง และโทนี่ ช้อปเปอร์สีชมพูตัวหนึ่งติดตัวไปด้วย
   

ผมเดินลงมาข้างล่างที่เดิม ก็เห็นวิคเตอร์ที่ถอดหมวกออกแล้วกำลังยกนิ้วโป้งให้แม่สองมือ ในปากก็อัดแน่นไปด้วยข้าวไข่เจียว แม่ยิ้มกว้างกลับไปให้เขา ไม่รู้ว่าเข้าใจมากน้อยแค่ไหน แต่คิดว่าแม่น่าจะเข้าใจสิ่งที่เขากำลังสื่อได้ว่าเขากำลังชมฝีมือแม่แน่นอน
   

“อาหร่อยมั่ก ผมชอบข่ายเจี๊ยวที่สุด!” แม่หัวเราะเสียงดังกับคำเพี้ยนๆ ของวิคเตอร์ ไอ้คนพูดยิ้มจนแก้มอูม ไม่รู้อูมเพราะยิ้มหรือเพราะข้าวเต็มปากกันแน่ ผมยิ้มขำในขณะที่กำลังวางข้าวของไว้บนโต๊ะไม้ตรงมุมห้อง
   

“เขาเรียกไข่เจียวจ้ะพ่อหนุ่ม ไหนลองพูดซิ ไข่-เจียว” วิคเตอร์ดูกระตือรือร้นขึ้นมาทันที เขาค่อยๆ กลืนข้าวคำโตในปากลงคอ อ้าปากเตรียมพูดตามที่แม่ผมสอน
   

“ข่าย…”
   

“โน โน ไม่ใช่ๆ ไข่”
   

“ขั่ย”
   

“เอ้อ นั่นแหละ ใช้ได้ อีกคำนะ เจียว”
   

“เจียว”
   

“ไหนพูดพร้อมกันซิ ไข่-เจียว!”
   

“ขั่ย เจียว!” แม่ส่งเสียงหัวเราะพร้อมปรบมือให้เขา วิคเตอร์ยิ้มกว้างดีใจที่เห็นแม่ผมทำท่าถูกอกถูกใจเขา
   

“ขั่ย เจียว ขั่ย เจียว ขั่ย เจียว!” อ้าว พอพูดได้ พูดใหญ่เลย สงสัยเห็นแม่หัวเราะชอบใจ เลยกะพูดเอาใจแม่ชัวร์
   

“ยูอาร์เวรี่กู๊ด!” แม่ยกนิ้วโป้งให้สองนิ้ว ยิ้มอย่างเป็นมิตร วิคเตอร์พยักหน้าเร็วๆ ส่งยิ้มกว้างกลับไป
   

“เจ้านายแมทตลกดีนะ” ผมก็เพิ่งรู้ว่าวิคเตอร์มีมุมตลกแบบนี้ด้วย ผมยิ้มให้แม่ เดินไปนั่งกินข้าวไข่เจียวอีกจานที่แม่ทำไว้ให้ ระหว่างทานข้าว แม่ก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดแอพดิคชันนารีเพื่อพูดคุยกับวิคเตอร์ แต่ก็ไม่ใช่ประโยคยาวๆ อะไรหรอก เป็นประโยคสั้นๆ ที่เข้าใจไม่ยาก เหมือนเขาสองคนเปิดครอสสอนภาษาให้กันมากกว่า แม่สอนภาษาไทยให้วิคเตอร์ อีกฝ่ายก็พูดภาษาอังกฤษตอบกลับมา คล้ายกับว่าสอนแม่ไปในตัว แต่เอาจริงๆ ผมว่าสองคนนี้คุยกันผ่านคำศัพท์ทีล่ะคำมากกว่า
   

“New York.”
   

“หือ นิวยอร์ก” แม่เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง ผมแอบชำเลืองมองสีหน้างุนงงของแม่ แล้วเบนสายตากลับไปมองวิคเตอร์ที่มีสีหน้าจริงจังขึ้นมา
   

“Allow me to take him to New York with me please? (อนุญาตให้เขาไปนิวยอร์กกับผมได้มั้ยครับ)” ปากที่กำลังเคี้ยวข้าวค่อยๆ ช้าลงๆ แม่หันมามองผมด้วยสายตางงๆ
   

“เขาว่าอะไรเหรอแมท” ผมกลืนข้าวไข่เจียวลงคอ เม้มปาก อ้าปากตอบคำถามของแม่อย่างปกติ
   

“ก็เรื่องที่เขาจะมาคุยกับพ่อกับแม่ด้วยเนี่ยแหละ” แม่ชะเง้อมองที่หน้าบ้าน พอเห็นว่าพ่อกำลังคุยกับลูกค้าอยู่หน้าร้านแม่เลยตัดสินใจไม่เรียก หันกลับมามองผมสองคน
   

“เขาว่าไงล่ะ” ผมมองไปทางวิคเตอร์ที่ยักคิ้วกลับมาให้เป็นเชิงว่าพูดเลย หันกลับมามองแม่อีกที พยายามปั้นน้ำเสียงให้ดูเป็นทางการขึ้นมาหน่อย
   

“คือคุณวิคเตอร์ เขาอยากให้แมทไปทำงานกับเขาที่นิวยอร์ก” ผมต้องหันไปแปลเป็นภาษาอังกฤษให้วิคเตอร์ฟัง เขาเคี้ยวข้าวเต็มปาก แต่ก็ส่งยิ้มให้แม่ผมอย่างน่ารัก น่าเอ็นดู
   

“ทำตอนไหน ช่วงสองอาทิตย์นี้อะหรอ”
   

“เปล่าๆ สองอาทิตย์นี้เขาอยู่ที่ไทย ก็ช่วยเขาทำที่ไทย แต่คือหลังจากแมทเรียนจบอะ เขาอยากให้แมทกลับไปทำงานกับเขาต่อ ที่เขามาวันนี้ เขาจะมาขออนุญาต” สีหน้าแม่เหมือนคนเอ๋อไปนิดหน่อย คงกำลังอึ้งและงงในเวลาเดียวกัน ผมหันไปแปลเป็นภาษาอังกฤษให้เขารับรู้ว่าตอนนี้กำลังบอกแม่เรื่องที่เขาขอให้ผมกลับไปนิวยอร์กด้วย เขาพยักหน้าหงึกๆ หันไปพูดกับแม่ด้วยภาษาไทยสำเนียงแปร่งๆ อีกครั้ง
   

“แม๊ทอาวเก่ง…” ผมเบิกตากว้างมองเขาอย่างตกใจ แม่ที่เหมือนเพิ่งได้สติหันไปมองวิคเตอร์แบบงงๆ กับประโยคที่เขาพูด
   

“เอ่อ… พ๊ม หมาย ว่า แม๊ท อาว กาน อาว งาน คั๊บ” รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องยังไงไม่รู้ แม่ทำหน้าว่าเข้าใจ วิคเตอร์ยิ้มเหมือนเด็กน้อยผู้ใสซื่อ ทั้งที่จริงแล้วหน้าซื่อใจคด
   

“แล้วแมทต้องไปอยู่นานแค่ไหน จะได้กลับบ้านบ้างมั้ย” แม่หันมาถาม คำถามนี้ผมคิดว่าผมสามารถตอบเองได้โดยไม่ต้องหันไปถามความเห็นวิคเตอร์
   

“ก็คงทำไปเรื่อยๆ แหละ ส่วนเรื่องกลับบ้าน ถ้างานคุณวิคเตอร์เขาไม่ยุ่งมาก ยังไงแมทก็ต้องกลับมาอยู่แล้ว” แม่นิ่งคิดไปนิดหนึ่ง แอบหันไปมองวิคเตอร์ที่ยิ้มให้ทั้งที่ข้าวเต็มปาก แม่ยิ้มอ่อนโยนกลับไปให้เขา
   


“แม่ว่ามันก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับแมท แต่แม่ก็คงคิดถึงแมทมาก” ใจผมกระตุกกับน้ำเสียงและหน้าตาของแม่ แต่ด้วยความที่เราไม่ใช่ครอบครัวหวานแหววนัก ผมเลยไม่ได้เดินเข้าไปกอดปลอบโยนหรือทำซึ้งตรึงใจอะไร
   

“แมทก็กลับมาไง ไม่ได้ไปทั้งชีวิต วันนึงถ้าแมทเก็บเงินได้เยอะแล้ว แมทก็คงกลับมา” บ้านผมไม่ได้ขัดสน แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี มีกินมีใช้ แต่ก็ต้องหาเงินไว้เรื่อยๆ ถ้าผมจะเป็นอีกหนึ่งคนที่ช่วยหาเงินให้ที่บ้านได้บ้าง ก็น่าจะเป็นอะไรที่ดี
   

“แล้วเขาให้เงินเดือนแมทเท่าไหร่” ผมหันไปถามวิคเตอร์เป็นภาษาอังกฤษ เขาทำสีหน้าว่าเก็ทกับจุดประสงค์กับแม่ ก่อนจะชี้มาที่ผม
   

“Depend on him. (แล้วแต่เขาเลยครับ)” ผมหันไปบอกแม่ตามที่เขาบอก แม่มีสีหน้าทึ่งนิดหน่อย
   

“นี่ไปทำงานอะไรเนี่ย เขาถึงให้แมทเรียกเงินเดือนได้เอง”
   

“ก็คล้ายๆ ผู้จัดการเขาแหละ ดูแลเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวในบางเรื่อง” แม่พยักหน้ากับคำอธิบายที่ผมตอบไป วิคเตอร์มองหน้าแม่ลุ้นๆ
   

“ขอแม่คุยกับพ่อก่อน” ผมแอบใจแป้วเล็กๆ ที่แม่ไม่ได้ตอบตกลงทันที แต่ก็อย่างว่า ท่านเป็นพ่อกับแม่เรา แล้วเราจะไปอยู่ไกลบ้านเกิด อยู่ห่างจากครอบครัว มันก็ต้องคิดอะไรหลายๆ อย่าง
   

“She has to talk with my father before deciding. (แม่ต้องคุยกับพ่อก่อนจะตัดสินใจได้ครับ)” วิคเตอร์ขวมดคิ้ว เขาคงกำลังนึกว่าจะได้คำตอบตามที่ต้องการเลย
   

“พ๊ม ฉอบ แมท นะคั๊บ” ใจผมหายวาบไปจากอกเมื่อตอนที่เขาพูดประโยคนั้นออกมา เขามองแม่ด้วยสายตาจริงจัง ส่วนผมนี่มองแม่ด้วยสายตาหวั่นใจ ได้แต่ภาวนาว่าให้แม่เข้าใจว่าเขาชอบที่ผมทำงานดี
   

“ชอบลูกแม่เหรอคะ” แม่เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง หันมามองผมด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ไอ้ยักษ์ยิ้มเบ้ปาก ยักไหล่กวนๆ กลับมา ผมยังคงยิ้มแต่ตานี่ถลึงมองเขาจนแทบจะเด้งออกจากเบ้าตา
   

“เขาคงหมายถึงว่า เขาชอบแมทเพราะแมททำงานดี” ผมหันไปบอกแม่ แม่ยิ้มกลับมาให้ผม พยักหน้ารับเบาๆ
   

“รีบกินเข้าเถอะ เผื่อเจ้านายเขามีงานต้องไปทำต่อ” ผมหันไปบอกวิคเตอร์ว่าให้รีบกิน แต่จริงๆ เหลืออีกไม่กี่คำเขาก็จะกินหมดแล้ว มีแต่ผมนี่แหละที่ควรจะรีบกิน
   

แม่ปล่อยให้ผมกับวิคเตอร์นั่งกินข้าวกันสองคน ส่วนตัวเองเดินไปช่วยพ่อเก็บร้าน พอแม่ลุกออกไป วิคเตอร์ก็ลุกมาหาผม มายืนคร่อมตัวผมไว้ ก้มหน้าลงมาใกล้กับหน้าผมจนผมตกใจ รีบหันไปมองพ่อกับแม่ที่ด้านหน้า
   

“ฉันอยากขึ้นไปบนห้องนอนนาย” เขาว่าเสียงกระซิบใกล้ๆ หูซ้าย ผมดันหน้าเขาออก กลัวพ่อกับแม่เข้ามาเห็น แค่ท่ายืนคร่อมหลังผมไว้นี่ก็ส่อมากเกินพอแล้ว
   

“ขึ้นไปทำไมครับ เดี๋ยวรีบกลับโรงแรมกันดีกว่า” ผมรีบยัดข้าวไข่เจียวคำสุดท้ายเข้าปาก ยังมิวายหันไปมองหน้าบ้านที่พ่อกับแม่กำลังช่วยกันเก็บร้านอยู่
   

“อยากเห็นห้องนอนของเอเลี่ยนน้อยว่าเป็นยังไง” ผมหันไปมองเขาด้วยสายตาแปลกใจ แต่เขากลับยิ้มและพยักหน้ายืนยันกับพูดนั้นจริงๆ
   

“ขึ้นไปบนห้อง เดี๋ยวพ่อกับแม่ผมก็สงสัยน่ะสิ”
   

“แปบเดียวเอง” ผมทำสีหน้าลำบากใจ ส่วนวิคเตอร์ทำสีหน้าว่าอยากขึ้นไปตามที่บอกจริงๆ
   

“แมท…” ผมหน้าตื่น รีบดันหน้าวิคเตอร์ออก ลุกขึ้นยืนอย่างเร็ว แม่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่ดีนัก
   

“เดี๋ยวแม่กับพ่อจะพาคนงานแถวบ้านไปหาหมอนะ ออกไปแล้วก็ล็อคประตูบ้านด้วย” ผมทำหน้านิ่วใส่แม่ทันที
   

“อีกแล้วหรอ พ่อกับแม่ให้เขารบกวนอีกแล้วนะ”
   

“เอาน่ะ ช่วยได้ ก็ช่วยๆ กันไป”
   

“แม่ก็พูดอย่างนี้ทุกที พวกนั้นถึงไม่เกรงใจแม่” แม่โบกไม้โบกมือว่าไม่อยากฟัง หมุนตัวเดินออกไปสมทบกับพ่อ ผมได้แต่ขมวดคิ้วมองตามหลังแม่ไปกับความมีน้ำใจของพ่อและแม่ที่ช่วยคนอื่นจนบางครั้งตัวเองโดนริดรอนความเป็นส่วนตัวไปหมด ใช้ว่าผมแล้งน้ำใจ เรื่องช่วยเหลือคน ถ้าช่วยได้ก็ช่วย แต่ถ้าช่วยแล้วมันเริ่มเกินขอบเขต ผมว่าก็ควรพอ
   

“What’s going on? (มีอะไรเหรอ)” ผมหันหน้าเซ็งๆ ไปหาวิคเตอร์
   

“พ่อกับแม่พาคนเจ็บไปโรงพยาบาลครับ เขาฝากปิดบ้าน ก่อนเราออกไป” วิคเตอร์พยักหน้าหงึกหงัก
   

“แล้วทำไมนายทำหน้าแบบนี้ล่ะ” เขายกนิ้วโป้งสองมือขึ้นมาคลึงคิ้วผมที่ขมวดอยู่
   

“ผมแค่เบื่อคนที่พ่อกับแม่ช่วยน่ะ คือบางครั้งพวกเขาก็ไม่ค่อยมีความเกรงใจกับพ่อและแม่เท่าไหร่ บางทีนอนๆ อยู่ก็มาเรียกพ่อกับแม่ให้พาไปโรงพยาบาล เพราะว่ากินเหล้าเมาแล้วทะเลาะกันจนเลือดออก” วิคเตอร์ทำหน้าว่า อ้อ ปล่อยมือออกจากคิ้วผม เขาโน้มหน้าลงหอมที่หว่างคิ้วผมหนึ่งที
   

“พ่อกับแม่นายเขาคงมีความสุขที่ได้ช่วย” ผมพยักหน้า ที่เขาพูดนั่นก็ไม่ผิดหรอก ผมเข้าใจนะว่าการได้ช่วยเหลือคนมันเป็นอะไรที่อิ่มใจ อย่างตอนที่ผมช่วยซื้ออาหารให้โฮมเลสที่นิวยอร์กกิน น้ำตาผมก็ไหลด้วยความตื้นตันใจกับความดีของตัวเอง (นานๆ ทีจะทำ)
   

“จะกลับเลยมั้ยครับ หรือจะขึ้นไปดูห้องนอนผมก่อน” วิคเตอร์ยิ้มแฉ่ง พยักหน้าเร็วๆ ทันที
   

“ฉันอยากเห็นว่าเอเลี่ยนน้อยแต่งห้องนอนยังไง” ผมแอบแลบลิ้นเขินๆ กับรอยยิ้มหล่อๆ ของเขา พาเขาเดินออกจากห้องครัว เดินขึ้นบันไดบ้านไปชั้นสองที่มีห้องนอนของผมอยู่ แม่กับพ่อก็นอนชั้นสอง แต่ว่าอยู่คนล่ะฝั่งกับผม ส่วนชั้นสามเป็นห้องนั่งเล่นของครอบครัว มีห้องพระ ห้องทำงานของพ่อ ห้องน้ำสำหรับชั้นสามหนึ่งห้อง
   

ผมพาเขาเดินขึ้นมาถึงหน้าห้องนอนตัวเอง เปิดประตูเข้าไป เปิดไฟให้ห้องสว่าง วิคเตอร์กวาดตามองไปรอบๆ พร้อมรอยยิ้ม เขามองไปรอบห้องคล้ายว่ากำลังตื่นเต้น
   

“ห้องผมไม่มีอะไรมากหรอกครับ” เขาไม่ได้ตอบอะไร เดินไปนั่งลงบนปลายเตียงของผมที่มีสติชสีฟ้าและโทนี่ ช้อปเปอร์สีชมพูวางอยู่ครึ่งของเตียง วิคเตอร์หันไปมองบนเตียง เอื้อมตัวไปหยิบหมวกของโทนี้ ช้อปเปอร์ใบใหญ่ที่ผมวางไว้บนหัวเตียงมาจับๆ สักพัก แล้วก็เอาใส่หัวตัวเอง หันมามองผมแล้วยิ้มแป้นมาให้ ผมยิ้มกว้างเมื่อเห็นเขาทำแบบนั้น เพราะเขาช่างดูน่ารักน่าชัง คือหนังหน้าคนหล่อๆ นี่จะทำอะไร จะใส่อะไรมันก็ดูดีไปหมดเลยเนอะ
   

“มองนานๆ ฉันคิดค่ามองนะ” เขายิ้มทะเล้น ผมยิ้มเบ้ปากกลับไป ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงสแลคสีดำ แล้วยื่นมือที่กำออกไปตรงหน้าเขา ไอ้ยักษ์หน้าหนวดที่ใส่หมวกสีชมพู่น่ารัก มองมือผมตาแป๋ว
   

“อะ ให้ค่ามอง หนึ่งดอลล่าร์” ผมฉีกยิ้ม วิคเตอร์ทำหน้าเข้าใจมุกที่ผมเล่น เขายิ้มมุมปาก ยื่นมือมาฉุดแขนผมให้ล้มลงไปทับตัวเขาที่นอนลงไปบนเตียงอีกที ผมหัวเราะเสียงดังเมื่อตอนที่เขาพลิกให้ร่างผมลงไปอยู่ด้านล่าง แล้วเขาก็ขึ้นไปคร่อมอยู่ด้านบนแทน ผมยิ้มจนแก้มป่อง มองคนหน้าหนวดใส่หมวกแสนแบ๊ว มันไม่ค่อยเข้ากันหรอก แต่ก็น่ามองอยู่ดี
   

“ไม่พอหรอกนะ นายก็รู้ว่าฉันเป็นคนโลภมาก” เขาส่งยิ้มกรุ้มกริ่ม มองผมด้วยสายตาระยิบระยับ ผมอ้าปากค้าง รับรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังสื่ออะไรอยู่
   

“นี่มันบ้านผมนะ” ผมบอกเขาเสียงตื่น ทำท่าจะลุกขึ้น แต่ไม่ทันแล้ว ไอ้ยักษ์จับผมกดข้อมือลงกับเตียงนอนเนื้อนุ่มสบาย เข่าสองข้าง ล็อคเอวผมไว้ไม่ให้ดิ้นหนี
   

“พ่อกับแม่นายออกไปแล้ว เหลือแต่เราสองคนจะกลัวอะไรล่ะ” เขายิ้มทะเล้นกลับมาให้ ผมดีดขาสู้ทันที ทั้งที่รู้ว่าดีดไปก็เท่านั้น เพราะวิคเตอร์นิ่งแบบไม่สะเทือนเลยเหอะ ผมไม่ได้ตื่นกลัวที่จะมีอะไรกับเขา แต่เพราะสถานที่ที่จะมีอะไรกันต่างหากที่ทำให้ผมตื่นกลัว
   

“คุณบอกว่าจะแค่ขึ้นมาดูห้องนอนผมเฉยๆ ไม่ใช่เหรอ” ผมเบิกเปลือกตากว้างขึ้น  วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้นทำหน้ามึนใส่ ก่อนค่อยๆ แสร้งยิ้มใสซื่อกลับมาให้
   

“ใครเขาจะแค่ขึ้นมาดูห้องนอนแฟนตัวเองกันล่ะ ฉันได้มาบ้านนายบ่อยๆ ซะที่ไหน มาแล้วก็ต้องใช้เตียงนายให้คุ้มสิ” นั่นไง! ยิ้มแพรวพราวพริ้งเพริดแพร้วมาก แววตานี่ระยับเชียวนะ
   

“วะ… วิคเตอร์ ไม่ดีมั้ง…”
   

“ตอนอยู่นิวยอร์ก เราก็ใช้แต่เตียงฉัน พอมาไทย บ้านเกิดนาย เราก็ควรใช้เตียงนายด้วย เราจะได้เท่าเทียมกันไง” อะไรคือการเท่าเทียมของไอ้ยักษ์ ฉันรู้ไม่เท่าทันแกน่ะสิ!


วิคเตอร์กรีดยิ้มร้ายกาจที่มุมปากซ้าย  เขาดันข้อมือผมขึ้นไปเหนือหัวทั้งสองข้าง ใช้มือซ้ายจับไว้แน่น มือขวาเอื้อมไปดึงหมวกทรงสูงของโทนี่ ช้อปเปอร์ออกจากหัวแล้ววางลงบนเตียง เอื้อมมือมาปลดกระดุมเสื้อตัวเองทีล่ะเม็ด ทีล่ะเม็ด จนมันหลุดออกจากรังกระดุมทุกเม็ด เผยให้เห็นกล้ามท้องและอกกว้างอันแน่นหนาของเขา
   

“นายเป็นเจ้าของห้อง ต้องต้อนรับแขกให้ดีนะรู้มั้ย โดยเฉพาะถ้าแขกคนนั้นเป็นแฟนนาย” แล้วเขาก็ก้มลงมาประกบจูบปากผม ตอนแรกตกใจนิดหน่อยเพราะเขาบุกแบบไม่ทันตั้งตัว แต่พอตั้งตัวได้ ผมก็ต้อนรับแขกคนสำคัญของผมอย่างดีตามที่เขาปรารถนา
   
   
TBC.  :hao7:


ปล่อยให้เขาไปต้อนรับขับสู้กันเองเนาะ 55555 ใครอยากแอบดู ปีนบ้านแมทสิ อยู่ชั้นสองแน่ะ -.,-
มันจะเอื่อยๆ เฉื่อยๆ หน่อยเนาะ ยังไงเข้าไปอ่านคำอธิบายได้ที่เพจค่ะ ตรงโน้ต หัวข้อว่า เม้าท์ฯ นอกรอบกับความเอื่อยเฉื่อยของพาร์ท OnlY You คนที่กดไลค์เพจน่าจะได้อ่านไปบางส่วนแล้ว

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกันนะคะ  :mew3:




ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 100%} 01.09.58::
«ตอบ #284 เมื่อ01-09-2015 00:20:30 »

พี่วิคเตอร์เจ้าเล่ห์น่ะ งี้เขาเรียกว่าหลอกแอ้ม แล้วพี่

ออฟไลน์ starhihi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 100%} 01.09.58::
«ตอบ #285 เมื่อ01-09-2015 00:23:14 »

เย้ มาสักที เอ๊ะรู้สึกเหมือนมีคนบอกจะเอามาลงเมื่อวานนะ ไหงมาลงวันนี้หละ อิอิ

โอย สองคนนี้หนิ ทำอะไรไม่ดูสถานที่เล้ย ถามหน่อยพวกนายล็อคบ้าน ล็อคห้องยังคะ ระวังนะ... ตอนนี้ก็เอาใจแม่ยายกันไป ฮิ้ววว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 100%} 01.09.58::
«ตอบ #286 เมื่อ01-09-2015 00:58:14 »

หููรูดแมทไม่แย่เอาหรือ เห็นลากเห็นคร่อมกันตลอดเลย

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 100%} 01.09.58::
«ตอบ #287 เมื่อ01-09-2015 01:12:30 »

ตอนที่แม่บอกแมทว่าคงคิดถึงแย่เลยถ้าไปny เรางี้สะอึกเลยค่ะ  ดูเศร้าจัง :mew6: ยังไงก็ลูกอะนะถึงแม้ไม่หวานแหววแต่ความผูกพันและความรักก้อไม่ได้น้อยเลย  สงสารรรรรร

ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 100%} 01.09.58::
«ตอบ #288 เมื่อ02-09-2015 21:57:31 »

วิคเตอร์น่ารักนะตอนนี้ เหมือนได้เห็นอีกด้านนึงของวิเตอร์เลย เจ้าเล่ห์ แล้วก็ทะเล้น ลุ้นๆ ขอให้พ่อแม่ของแมทน้อยอนุญาติด้วยเถอะ แต่ก็นึกถึงหัวอกคนเป็นแม่ มีลูกคนเดียว แล้วไปทำงานอยู่ต่างประเทศ ต้องคิดถึงและเป็นห่วงลูกมากแน่ๆ

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 100%} 01.09.58::
«ตอบ #289 เมื่อ03-09-2015 15:50:34 »

ยักษ์อย่างวิคเตอร์เนี่ย หื่นได้ทุกที่จริง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 100%} 01.09.58::
« ตอบ #289 เมื่อ: 03-09-2015 15:50:34 »





ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.8 100%} 01.09.58::
«ตอบ #290 เมื่อ03-09-2015 15:58:15 »

วิคโด๊ปอะไรมาเนี่ย หื่นเกือบ 24 ชั่วโมง  :jul3:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.9 50%} 03.09.58::
«ตอบ #291 เมื่อ03-09-2015 16:39:05 »

ONLY YOU : EPISODE 9 : ONLY ME. [100%]
SPECIAL VIEWPOINT BY VICTOR RAYMOND



หลังจากต้อนรับขับสู่กันบนเตียงของเอเลี่ยนน้อยไปหนึ่งยกตามความอยากของผมที่อยากอึ๊บแฟนตัวเองบนเตียงนอนของเขา ผมก็พาแมทในสภาพสะลึมสะลือกลับมาที่โรงแรม มันเป็นความรู้สึกชื่นใจเล็กๆ ในอกที่ได้จับแมทกินบนเตียงที่เขาใช้นอน เขาเรียกว่าอะไรนะ ฟินใช่มั้ย? ถ้าใช่ล่ะก็ ผมฟินมาก เพราะผมเชื่อว่าแมทไม่เคยพาผู้ชายคนไหนเข้าบ้านและไม่เคยมีผู้ชายคนไหนเคยได้นอนบนเตียงเขามาก่อน แต่ผมคือคนแรกนี่ไง !


เรากลับมาถึงโรงแรมเกือบเที่ยงคืน ตอนออกมารถเราสวนกับรถของพ่อกับแม่แมทพอดี แต่ไม่รู้ว่าพ่อตาแม่ยายผมจะเห็นรึเปล่า ผมจอดรถได้ก็หอบผ้านวมของแมทที่เลอะน้ำรักของเราสองคนไว้ในอ้อมแขน แมทกลัวพ่อกับแม่เห็นเลยหอบมาซักที่โรงแรมด้วย ผมใช้อีกมือเดินจูงมือแมทเข้าไปในโรงแรม เอเลี่ยนน้อยตาปรือคล้ายจะหลับอยู่ตลอดเวลา สงสัยเพราะรับศึกหนักจากผมตั้งแต่วันแรกที่กลับมาคุยกันหลังจากที่ห่างหายกันไปนานสองเดือน
   

“พวกอันเดรมันตื๊อชวนไปเที่ยวด้วยกันอยู่ อยากไปมั้ย” ผมถามเขาตอนที่เรากำลังรอให้ลิฟต์ขึ้นไปบนชั้นที่ผมพัก แมทหันมาอ้าปากหาวใส่ผมพลางส่ายหัวปฏิเสธไปมา หน้าตาเขางัวเงียๆ ดูแล้วช่างน่าฟัดซะจริง
   

“ถ้าคุณอยากไป จะไปก็ได้นะ แต่ผมขอนอนดีกว่า ไม่ไหวแล้ว ง่วง” เด็กน้อยพูดไปตาปรือไป ผมยิ้มเอ็นดู เดินจูงมือเขาออกจากลิฟต์ตอนที่มันมาถึงชั้นที่ผมพัก พาเขาเดินไปที่ห้อง พอเปิดประตูได้แมทก็เดินตัวลอยเข้าไปในห้อง วางกระเป๋าเป้แต่กอดตุ๊กตาตัวโปรดสองตัวเข้าไปในห้องนอน ล้มตัวลงนอนบนเตียงคิงไซส์ทันที
   

“ให้ฉันไปจริงเหรอ” ผมถามพลางวางผ้านวมเขาลงบนโซฟา เดินเข้าไปในห้องนอน นั่งลงข้างร่างเล็กๆ ที่นอนตะแคงกอดตุ๊กตาไว้แน่น
   

“ให้ไปสิ ทำไมจะไม่ให้ไปล่ะ…” เขาพูดเสียงงึมงำ ตาปิดอยู่แต่ปากก็ขยับตอบผม
   

“ไม่กลัวฉันไปจีบสาวอื่นรึไง” ผมแกล้งถามเขา แมทหันหน้าง่วงๆ มามองโดยที่คิ้วเขาขมวดมุ่นอยู่ เปลือกตาคล้ายจะปิดแต่ปิดไม่มิด
   

“อยากจีบก็จีบไปเลย” ว่าเสียงงอนๆ เสร็จก็พลิกตัวกลับไปนอนท่าเดิม ผมหัวเราะเบาๆ ถอดหมวกออกจากหัว ล้มตัวลงนอนซ้อนหลังเขา มือขวาลูบแขนเนียนๆ ของเขาไปมา มือซ้ายก็ลูบหัวเขาอย่างเบามือ
   

“ใจร้ายจัง ไม่หวงฉันเลย” ผมมองเสี้ยวหน้างอนตุ๊บป่องของเขาเลยอดจะก้มลงไปหอมแก้มเขาไม่ได้
   

ฟอด~
   

แมทลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วหันมามองผมพร้อมแบะปากนิดๆ ผมยิ้มกริ่มก้มมองหน้าเขา ก้มหน้ากดจูบลงบนหน้าผากเหม่งๆ ของเขาหนึ่งครั้ง
   

“หวงสิ แต่จะทำอะไรได้ถ้าคุณจะมี แต่คือ…” แมททำสีหน้าลำบากใจ แต่ในที่สุดก็พูดออกมา
   

“…ถ้ามีอะไรกับใคร ป้องกันด้วยนะ” เขาว่าเสียงหงอยๆ พร้อมหน้าตาซึมๆ ผมยิ้มค้าง รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เขาพูดออกมา แมทมองผมด้วยสายตาหงอยเหงาปนความเศร้าหน่อยๆ
   

“พูดอะไรออกมาน่ะ รู้ตัวรึเปล่า” ผมถามเสียงเครียดหลังจากตั้งสติได้ ไม่ได้รู้สึกดีใจเลยสักนิดที่เขาคิดแบบนี้
   

“ผมแค่กลัวว่าคุณอาจจะคิดถึงของผู้หญิงน่ะ” ผมถอนหายใจด้วยใบหน้าตึงๆ ในใจนึกหงุดหงิดที่เขาเอาแต่คิดอะไรทำนองนี้อยู่เรื่อย แต่ก็ไม่อยากแสดงท่าทีไม่ดีใส่เขามาก วันนี้เพิ่งเป็นวันแรกที่เรากลับมาคุยกัน และเพิ่งเริ่มคบกันอย่างจริงจัง อีกอย่างแมทก็อยู่กับผมมานานพอสมควร เขาก็เห็นอะไรมาเยอะแยะ จะคิดกลัวก็คงไม่แปลก อาจจะต้องให้เวลาเขาหน่อย
   

เพราะขนาดผมเองก็ยังไม่ค่อยจะไว้ใจตัวเอง แต่ผมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด และที่สุดที่ผมต้องการคืออยากให้แมทมั่นคงในตัวผมมากๆ
   

“ที่ไม่เปลี่ยนแปลงหรือลดลงเลยคือการที่นายชอบคิดมากเนี่ยแหละ” ผมลูบหัวเขาอย่างเลื่อนลอย มือขวาเอื้อมไปดึงมือเขามากุมไว้หลวมๆ
   

“คุณคิดน้อยต่างหาก” แน่ะ! หลอกด่าผมอีกละ
   

ผมยิ้มหึๆ แกล้งทำตาโตคาดโทษเขา แมทยิ้มยิงฟันตาหยี เห็นแล้วอยากขยี้ให้สลบไปสักสามวัน
   

“คิดเยอะแบบนาย คงปวดหัวทั้งวัน” แมทยิ้มกร่อยๆ แล้วถอนหายใจเบาๆ หมุนตัวหันเข้าหาผม เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมด้วยสายตาอ่อนโยน
   

“แรกๆ อะไรมันก็ดีไปหมดแหละครับ” เป็นฝ่ายผมบ้างที่ถอนหายใจ ผมหยิบตุ๊กตาที่เขาพกติดตัวมาด้วยออกจากวงแขนเขาแล้วเอาไปวางไว้บนเตียงที่ว่างๆ ก่อนจะยกตัวเขาขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวผม แมทล้มตัวลงมานอนบนอกผม ใช้มือซ้ายรองคางเอาไว้ ตากลมแป๋วของเขาสบตาผมอย่างใสซื่อ
   

“ฉันรู้ว่ามันยาก แต่เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ตกลงมั้ย” ผมจับมือขวาของเขาขึ้นมาจูบหลังมือ แมทยกยิ้มมุมปากทั้งสองข้าง ทำหน้ายึกยักไปมาราวกับพยักหน้าตอบรับ ผมยิ้มขำกับท่าทีของเขา
   

“ใครสอนภาษาไทยให้คุณเหรอ” แมทเอียงคอถามด้วยความสงสัย ผมยิ้มเขินกับคำถามเขา
   

“หนังสือกับดีวีดีสอนภาษาไทย” แมทตาโตขึ้น กระพริบตาปริ๊บๆ มองผมคล้ายว่าจะทึ่งอยู่ไม่น้อย
   

“คุณเรียนด้วยตัวเองเลยเหรอ” น้ำเสียงเขาก็ทึ่งไม่แพ้สีหน้าเช่นกัน ผมยิ้มหล่อๆ และยักคิ้วให้เขาสองที แมทอ้าปากหวอ
   

“โห… หล่อแล้วยังเก่งอีก” ผมยิ้มกว้างและหัวเราะ ชอบจริงๆ เวลาโดนเขาชมว่าหล่อเนี่ย มีคนชมผมเยอะแยะ เพราะผมถ่ายแบบมามาก พวกช่างกล้อง สไตล์ลิสต์ ช่างทำผม หรือคนในแวดวงบันเทิง ก็เอ่ยชมผมอย่างนี้บ่อยๆ จนกลายเป็นคำปกติไปแล้ว แต่เวลาแมทชมทีไร คำธรรมดาๆ ที่ผมได้ยินบ่อยๆ จะฟังดูพิเศษขึ้นมาทันทีเมื่อออกมาจากปากสีชมพูซีดๆ นั่น
   

“นั่งท่องเป็นอาทิตย์เลยนะ เพราะฉันตั้งใจจะมาหาพ่อกับแม่นายด้วย กะว่าจะเอาภาษาไทยมามัดใจพวกเขา จะได้เป็นเขยฝรั่งเร็วๆ” แมททำตาโตคล้ายนกฮูกแล้วพูดด้วยเสียงประหลาดใจ
   

“รู้จักคำนี้ด้วย?!” ผมยิ้มขำกับสีหน้าท่าทางของแมทที่ดูตะลึงงึงงัน
   

“ฉันก็รู้อยู่ไม่กี่คำหรอก ภาษาไทยนี่ไม่ง่ายเลยนะ” ผมทำหน้าแหยงๆ นึกถึงวันที่ตัวเองนั่งเปิดดีวีดีและหนังสืออ่านเองเพื่อเตรียมตัวมาเจอพ่อแม่แมทแล้วอยากจะอ้วกออกมาตอนนี้ พูดโคตรยาก ขยับปากแต่ละครั้งผมนึกว่าตัวเองป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เล่นเอาผมมึนไปหลายวัน ผมพูดไม่ได้ทุกคำหรอก เอาแค่คำที่ผมคิดว่าควรพูด หรือพูดแล้วน่าจะได้ใจพ่อกับแม่แมท ตอนพูดกับพ่อกับแม่เขาผมก็แอบตื่นเต้นนะ กลัวขยับปากไม่ชัด
   

“แต่ก็ถือว่าคุณทำได้ดีมากแล้วนะ เรียนเองแล้วได้ขนาดนี้ก็เก่งแล้ว” แมทยิ้มแฉ่งเป็นการชื่นชมผม ผมดึงมือขวาเขามาจูบไปทั่วหลังมือ
   

“แต่ฉันอยากเก่งภาษาไทยกว่านี้นะ จะได้พูดกับนาย กับพ่อแม่และคนรอบตัวนายได้ง่ายๆ” แมทยิ้มอ่อนโยน แววตาเปล่งประกายด้วยความดีใจ
   

“ไว้ผมจะสอนให้นะครับ”
   

“ไอ้ห่ามาก” แมทที่กำลังยิ้มดีใจถึงกับยิ้มเงิบเมื่อผมเอ่ยชมตามที่เขาสอน ผมแอบยิ้มขำที่เห็นเขาทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ผมรู้แล้วละว่าจริงๆ คำนี้แปลว่าอะไร ก็ในหนังสือกับดีวีดีสอนภาษาไทยบอกไว้น่ะสิ แต่ผมกลับชอบความหมายที่แมทแกล้งสอนผมนะ มันเป็นภาษาไทยคำแรกที่เขาสอนผม ฉะนั้นผมเลยขอจำความหมายนี้ไว้ดีกว่า
   

“ถอดเสื้อผ้าออกหน่อยสิ ฉันอยากให้นายโป๊” แมทชะงักกับคำขอของผม แล้วแก้มใสๆ ป่องน้อยๆ ของเขาก็แดงระเรื่อ ผมยิ้มหื่นไปให้และพยักหน้ายืนยัน
   

เอเลี่ยนน้อยมีท่าทีเขินอายแต่ก็ลุกขึ้นนั่งแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เขาถอดเสื้อยืดออก ส่งมาให้ผมรับไว้ ผมโยนไปบนพื้นห้องอย่างไม่สนใจ แมทปลดกระดุมกางเกงขาสั้นออก ดึงลงพร้อมกางเกงชั้นใน แมทน้อยที่กำลังหลับอยู่ ห้อยหัวทักทายผม ผมโยนกางเกงแมทลงไปบนพื้นเช่นกัน แล้วค่อยๆ ดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงไว้ ดึงให้แมทลงมานั่งคร่อมตัก สุดที่รักผมนั่งแบะขาคร่อมตักผมไว้ สองมือยกมาโอบล้อมรอบคอผม ผมยิ้มเยิ้ม มองเขาอย่างมัวเมา แมททำหน้าทำตาเหมือนไปไม่ถูก
   

“ตามใจฉันตลอดไปเลยนะ อย่าดื้อกับฉันนะรู้มั้ย” ผมบอกเสียงนุ่มพลางก้มลงไปจูบซอกคอเขาแรงๆ ดูดเม้มหนักๆ จนมันขึ้นรอย แมทแหงนหน้าขึ้นเพื่อให้ผมกดจูบได้สะดวก
   

“คุณก็อย่าเอาแต่ใจมากนักนะ… อา…” แมทครางเบาๆ ตอนที่ผมใช้ลิ้นเลียจากซอกคอเป็นทางยาวไปถึงติ่งหูซ้ายและไล้วนในรูหูเขาเบาๆ
   

“ไม่ได้หรอก ฉันอยากให้นายเอาใจฉัน อยากให้นายรักฉันคนเดียว…” ผมพร่ำกระซิบบอกชิดใบหูของเขา ค่อยๆ ดึงหน้าออกมามองสีหน้าอันอ่อนระทวยของเอเลี่ยนน้อย ก่อนจะพูดด้วยเสียงอ่อนโยนแต่งแฝงความหมายไว้เต็มเปี่ยม
   

“I must be the one to you. Only me—understood? (ฉันต้องสำคัญสำหรับนายที่สุด แค่ฉันคนเดียว รู้มั้ย)” สายตาของแมทสั่นน้อยๆ แต่ก็พยักหน้ารับ ผมมองอย่างสงบนิ่ง
   

“Yes, only you. (ครับ แค่คุณคนเดียว)” ผมยิ้มปลื้มใจที่ได้ยินคำนั้นจากปากเขา ผมเชื่อว่าแมทจะทำอย่างที่เขาบอก เพราะผมเชื่อว่าเขารักผมอย่างที่เขาบอกจริงๆ
   

“ยั๊ก หรั่ก เอเลี่ยน น๊อย” ผมพยายามขยับปากช้าๆ ชัดๆ ตามที่ฝึกพูดมา แทบจะขาดใจกว่าจะพูดประโยคนี้ได้ แมทค่อยๆ คลี่ยิ้มจนกลายเป็นรอยยิ้มกว้างอย่างสดใสแบบที่เป็นตัวเขา แมทกอดคอผมแน่น ซุกหน้าเข้ากับซอกคอผม เอาใจผมด้วยการหอมแก้มและแช่ค้างไว้สักพัก ก่อนจะเอาแก้มแนบแกมผมไว้ ผมกดจูบลงบนขมับเขาหนึ่งที สองมือเลื่อนลงไปบีบขย้ำก้นกลมกลึงของเขาแรงๆ
   

“แฟนใครทำไมน่ารักจัง” เสียงหัวเราะคิกคักแบบที่ผมชอบฟังดังขึ้นข้างหู ผมยิ้มกริ่ม ลูบไล้สองมือไปทั่วแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเขา
   

“แฟนเด็กน้อยแถวนี้” แมทหัวเราะเสียงสดใส ดึงหน้าตัวเองออก สองแขนคล้องคอผมไว้แน่น ใบหน้าเราอยู่ห่างจากกันเพียงปลายจมูกกั้น เราคลี่ยิ้มประชันกันยกใหญ่
   

“ยังอยากไปเที่ยวอยู่มั้ย” เขาถามพลางเอาปลายจมูกถูไถกับปลายจมูกผมเบาๆ สองมือผมเลื่อนลงไปกอบกุมก้นเขาไว้อีกรอบ


“ไม่ไป ถ้าไปเดี๋ยวมีคนนอนร้องไห้แน่ๆ” ผมแกล้งหยอก แมททำปากเป็ด ย่นคิ้วหน่อยๆ ให้ดูกระเง้ากระงอดพอประมาณ


“ผมไม่ร้องสักหน่อย” เขาว่าเสียงอู้อี้ ผมยิ้มหึๆ ยื่นหน้าไปจุ๊บริมฝีปากเขาเบาๆ


“ไม่ร้องแต่เดี๋ยวก็ซึมทั้งคืน” แมทย่นจมูกใส่ผม แล้วสักพักสีหน้าเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นลำบากใจอีกครั้ง


“แต่ถ้าคุณอยากไป ไปได้จริงๆ นะ อย่ากังวลกับผมเลยครับ เดี๋ยวจะหมดสนุกเปล่าๆ” เขาคิดถึงผมเสมอเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ผมยิ้มบางๆ ยกมือขวาลูบหัวเขา สีหน้าแมทเลยดีขึ้นมาหน่อย


“ไม่ล่ะ นายไม่ไป ฉันก็ไม่อยากไป นอนกอดนายสนุกกว่าอีก” เอเลี่ยนตัวจ้อยขมวดคิ้วแล้วเอียงคอมองหน้าผม


“นอนกอดผมสนุกตรงไหน” ทำหน้าทำตา มันน่าขย้ำนักเชียว


“ก็สนุกตรงที่กอดนายไง” แมทขมวดคิ้วเป็นปมแน่นขึ้น ริมฝีปากอ้าเผยอน้อยๆ


“โวะ พูดวกไปวนมา” ผมได้แต่ยิ้ม สองมือมือลูบๆ คลำๆ บีบๆ ก้นเขาอย่างเพลินมือ ก้นเอเลี่ยนน้อยนี่นิ่มดีจัง


“ผมชอบคุณยิ้ม” เขาบอกเสียงใส ยิ้มแฉ่งมาให้ ผมเลยยิ่งยิ้มกว้างตอบเขากลับไป


“เห็นแล้วมีอารมณ์เหรอ”


“ม่ายช่าย ยิ้มแล้วหล่อไง” ผมหัวเราะหึๆ โน้มหน้าจุ๊บปากเขา หลายๆ ที จนแมทส่งเสียงหัวเราะคิกคัก


“ไปอาบน้ำเถอะครับ จะได้มานอน เดี๋ยวผมนอนรอนะ”


“ถอดเสื้อผ้าให้หน่อยสิ” แมทยู่หน้าใส่ผมทันที


“เดี๋ยวก็ไม่ได้อาบน้ำหรอก” ผมหัวเราะดังพอประมาณกับอาการรู้ทันของเขา


“น่านะ แค่ถอดเสื้อผ้าอย่างเดียว แข็งยังไงฉันก็จะทน” แมททำหน้าอึกอัก แต่ก็เลื่อนแขนออกจากคอผมลงไปปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด ผมขยับตัวเพื่อให้เขาดึงเสื้อออกจากแขนผมได้ถนัด ผมแอบก้มลงมองแมทน้อยที่เริ่มจะตื่นตัวขึ้นมา นึกขำในใจว่าเขาเอาแต่ว่าผมหื่น เขาเองก็ไม่แพ้ผมหรอก แต่แค่ไม่ตื่นง่ายเท่านั้นเอง แต่ถ้าผมปลุกเขาก็พร้อมคล้อยตาม


ถ้าจะบอกว่าเราสองคนเหมือนน้ำมันกับไฟที่ใกล้กันทีไร ไฟ (รัก) ก็ลุกโชน ก็คงจะไม่ผิดนักหรอก แต่ในขณะเดียวกันแมทก็เหมือนน้ำเย็นธรรมดาที่คอยดับไฟ (ร้อน) ในใจและในกายของผมเช่นกัน


แมทลุกนั่งเอาเท้ายันพื้นนั่งยองๆ เหนือผมไว้ สองมือของเขาแกะกระดุมและรูดซิปกางเกงลง ผมยกก้นขึ้นเพื่อให้เขาดึงกางเกงออกจากขาผมได้สะดวก แมทลุกขึ้นเดินถอยหลังไปนั่งตรงปลายเท้าผม ยกเท้าผมขึ้นทีละข้างและค่อยๆ ดึงกางเกงยีนออกจากข้อเท้าผมจนหลุดออกไปทั้งหมด ผมดึงขาตัวเองไปไขว้กันไว้ ตบลงบนหน้าตักทั้งสองข้างเบาๆ เป็นสัญญาณให้แมทมานั่งลง แมทคลานเข่าเข้ามาหาผมช้าๆ ผมใจร้อนยืดมือขวาไปคว้ากลางลำตัวของเขาที่เริ่มแข็งตัว


“ฮา…” แมทผ่อนลมหายใจอ่อนๆ ออกมา ตอนที่ผมแกล้งดึงกระตุกของเขา เร่งให้เขาคลานเข่าเข้ามาหา ผมจับตรงนั้นของเขาไว้จนกระทั่งเขามานั่งคร่อมบนตักอีกรอบ ผมถึงปล่อยแล้วเอาแขนโอบรอบเอวเขาไว้แทน เอเลี่ยนน้อยมองหน้าผมอย่างเคอะเขิน หน้าเขาแดงก่ำจนผมต้องโน้มหน้าไปหอมแก้มป่องๆ นั่น


“นายแข็งก่อนฉันอีกนะ”


“ก็คุณดึงมันทำไมล่ะ” เขาว่าเสียงงุ๊งงิ๊ง


“ก็มันกล้าชี้หน้าฉัน” ผมหัวเราะขำกับมุกกากๆ ของตัวเอง แมทได้แต่ทำปากยู่ ผมเลยโน้มหน้าไปจูบเขาซะ ผมครอบครองริมฝีปากเขา ดูดดึงริมฝีปากล่างบนอย่างหวงแหน ลิ้นอุ่นๆ ก็เข้าไปคลอเคลียกับลิ้นเล็กๆ ของเขา เราจูบแลกลิ้นอยู่สักพัก ผมก็ผละหน้าออก


“อาบน้ำกับฉันมั้ย”


“คุณอาบเถอะ ผมอาบแล้ว”


“แต่ฉันอยากให้นายอาบด้วย ไปอาบกัน” เขาทำท่าจะปฏิเสธ แต่ผมลุกขึ้นนั่งชันเข่า เอามืออุ้มก้นสองข้างเขาไว้ ค่อยๆ ยืนขึ้นบนเตียง แมทเลยต้องเอาขาเกี่ยวเอวผมไว้เพราะกันตัวเองตก ผมค่อยๆ พาเขาเดินลงจากเตียง ก้มลงไปหอมแก้มเขาระหว่างเดินช้าๆ ตรงไปที่ห้องน้ำ ไอ้ลูกชายผมชี้ตรงแหน่ว ไอ้อยากมันก็อยาก แต่ไม่รู้แมทจะยอมมั้ย เพราะวันนี้ก็โดนผมซัดไปหลายรอบแล้ว กลัวเขาจะหมดแรงทำอย่างอื่น แต่มันก็ไม่ได้ติดๆ กันอย่างที่ผมเคยทำกับเขา เรายังมีช่วงเวลาพักเบรกทำอย่างอื่นบ้าง ไม่ได้คอนตินิวท์แบบที่เคยทำ เพราะครั้งนี้ผมไม่ต้องรีบตักตวงอะไร แต่ที่ทำหลายรอบเพราะคิดถึงล้วนๆ คงเพราะเพิ่งกลับมาเจอกันผมเลยยังคันเขี้ยวอยู่ นี่ก็คันอีกละ (คันอะไร?) ไม่รู้เขาจะว่าไงบ้าง น่าจะยอมอยู่ละมั้ง เดี๋ยวต้องลองตะล่อมก่อน ถ้าไม่สำเร็จค่อยขืนใจเขาแล้วกัน หึๆ


ผมกับเขาอาบน้ำในห้องอาบน้ำที่แยกออกมาโดยมีประตูกระจกกั้น แมทใช้โฟมล้างหน้าถูหน้าและนวดหน้าให้ผมไปพร้อมกัน พอเสร็จผมก็ยื่นหน้าเข้าไปใต้ฝักบัวให้น้ำชำระล้างโฟมออกไป แมทช่วยลูบหน้าลูบตาให้ผมเพื่อล้างโฟมให้สะอาดหมดจด เขาหันไปกดครีมอาบน้ำมาถูตัวให้ผม ส่วนผมก็กดมาถูตัวให้เขาบ้าง เราช่วยกันถูไปตามอก ตามท้อง แผ่นหลัง ลำแขน แมทสูงถึงใต้คางผมเท่านั้น ผมเลยก้มลงไปจูบกลางกระหม่อมเขาบ่อยๆ ระหว่างที่เราช่วยกันชำระล้างร่างกายให้กัน เจ้าตัวจ้อยเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มเขินให้ผม


“อะไรกัน มันตั้งโด่ขนาดนี้ ไม่ทำความสะอาดให้มันหน่อยเหรอ มองข้ามมันไปได้ไงเนี่ย” ผมแกล้งว่าเมื่อเขาไม่ยอมจับไอ้ยักษ์น้อยของผมเลย ข้ามไปจุดอื่นทันที ไม่รู้ว่าเขาจะเขินอะไรนักหนา โดนมันเสียบมาไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง


 “เร็วสิ มันน้อยใจแย่แล้ว” แมททำหน้างอหน่อยๆ แต่ก็ยอมเลื่อนมือมาจับของผมในที่สุด เขารูดเข้ารูดออก จนเกิดฟองเกาะเต็มไปหมด พอทำความสะอาดของผมเสร็จ มือเขาก็เลื่อนลงไปนวดคลึงที่ฐานกลมกลึงของผมแผ่วเบา มันสบายจนผมหลับตาพริ้ม ปล่อยให้เขาเล่นกับยักษ์น้อยต่อไป


“อ้าว หยุดทำไมอะ” ผมลืมตาถามเมื่อตอนที่เขาถอนมือออกไป กำลังเสียววูบวาบได้ที่เลย


“แค่นี้มันก็สะอาดหอมฟุ้งแล้ว” เขาว่าเสียงงึมงำ ดึงแขนผมให้เข้าไปใต้ฝักบัว ปล่อยให้น้ำรดตัวเพื่อเอาฟองออก แมทเอามือถูไปตามตัวผมเพื่อไล่ฟองครีมอาบน้ำออกจากตัว ผมเลยช่วยเขาถูตัวบ้าง พอเห็นว่าของเขาเองก็ตั้งโด่เหมือนกันเลยยื่นมือไปรูดเข้ารูดออกช้าๆ แมทแอบผวาเล็กน้อย แต่ก็ปล่อยให้ผมจัดการเล่นกับของเขาจนฟองหายไปหมด


“ไปหยิบผ้าเช็ดตัวสิวิคเตอร์” ใบหน้าเขาแดงจัด ผมยิ้มเมาๆ มือซ้ายก็ยังไม่หยุดหยอกล้อเขา ตอนนี้ส่วนอ่อนไหวของแมท แข็งเต็มไม้เต็มมือผม ส่วนของผมไม่ต้องจับหรอก มันตั้งไม่ยอมลงตั้งแต่พาเขาเดินเข้าห้องน้ำมาแล้ว


“สักรอบมั้ย แข็งขนาดนี้ ปล่อยไว้นานๆ ไม่ดีนะ” ผมก้มลงไปกระซิบท่ามกลางเสียงน้ำจากฝักบัวที่ยังไหลลงมาไม่หยุด แมทเงยหน้ามองผมอย่างตกใจ


“วะ… วันนี้เราทำกันเยอะแล้วนะ พักบ้างเถอะครับ”


“อีกรอบก่อนนอนไง นะ…” แมทกัดปากล่างแน่น ผมยังไม่หยุดรูดของเขา ไม่รู้ละ ยังไงต้องเอาให้ได้อีกรอบ มาขนาดนี้แล้ว มันอดใจยากละ


“…ตามใจฉันหน่อยสิ” ผมว่าเสียงอ้อนๆ


“ตั้งแต่เจอกันยันตอนนี้ ผมยังตามใจไม่พออีกเหรอ”


“ตามใจอีกรอบไง ยักษ์น้อยมันทรมานอยู่ นายทนดูได้หรอ”


“ได้” โหย! ตอบอย่างว่องไว ผมเลยทำหน้าขัดใจ


“อยากโดนฉันข่มขืนเหรอแมท” ผมว่าเสียงเข้ม รู้สึกฉุนเฉียวจนคิ้วขมวดแน่น หัวใจกระแทกผนังอกตุบตับเพราะความไม่ได้ดังใจ มือผมบีบลงบนกลางลำตัวเขาจนแมทหน้าเหยเก


“พอแล้วๆ อีกรอบก็ได้” นั่นละ ผมถึงยิ้มออกมาได้ อาการขุ่นๆ ในใจหายวับไปทันที แมทกลืนน้ำลายลงคอ สีหน้าเขาเสียนิดหน่อย ผมจับเขาหันเข้าหากำแพงหินอ่อนในห้องอาบน้ำ เอื้อมมือไปปิดฝักบัว แมทเอามือค้ำร่างกับผนังหินอ่อนเอาไว้ ผมย่อตัวลง จับลูกชายไว้ด้วยมือขวา ก่อนจะค่อยๆ ดันส่วนหัวเข้าไปด้านในของแมทช้าๆ จนกระทั่งมันเข้าไปทั้งหมด


“อือ…” แมทครางออกมา ผมซี๊ดปากเบาๆ ยื่นมือตัวเองไปจับมือเขาไว้ เลื่อนนิ้วตัวเองไปเกี่ยวร่องนิ้วเขาจากหลังมือ ก้มกดจูบแผ่วเบาที่ไหล่ซ้ายเขา ค่อยๆ ลามขึ้นไปตรงซอกคอ


“เป็นเด็กดีของฉันอย่างนี้ตลอดไปนะ…” ผมว่าเสียงกระซิบ แล้วเริ่มออกแรงกระแทกที่ด้านหลัง ผมทิ้งตัวลงแนบไปกับแผ่นหลังของแมท เอาแก้มขวาไปแนบแก้มซ้ายเขาไว้ ลมหายใจเราสองคนคละเคล้าไปด้วยกัน แมทหันมามองผมตาปรือ เส้นผมเปียกน้ำปรกหน้าเขาไว้ยิ่งทำให้ดูน่ามอง  ผมใช้ลิ้นเลียไปทั่วบริเวณแก้มเขา


“อา… อา…” ผมส่งเสียงครางในลำคอ แมทหลับตาพริ้มปล่อยให้ผมเลียไปเรื่อย รสชาติของเนื้ออุ่นๆ และน้ำเย็นๆ ติดอยู่ที่ปลายลิ้น


ผมจัดการโหมกระหน่ำใส่แมทอยู่ในท่านั้นท่าเดียวจนเสร็จ แมทแทบร่วงลงไปกองกับพื้น ดีที่ผมคว้าเอวเขาไว้ แล้วจับให้ยืนตรงๆ ผมถอนตัวเองออกจากข้างหลังเขา น้ำสีขาวไหลเยิ้มมาตามแก่นกายผม บางส่วนไหลลงไปตามขาเนียนๆ ที่มีขนน้อยนิดของแมท


แมทยืนพิงอกผมไว้ด้วยความอ่อนแรง ผมกอดเอวเขาไว้หลวมๆ ส่งมือขวาไปช่วยชักของเขา เพื่อให้เขาถึงแบบผมบ้าง ลำตัวของแมทบิดไปมายามที่ผมรูดเข้ารูดออกเร็วๆ สองมือเขาเลื่อนขึ้นมาจับต้นแขนผมไว้ ริมฝีปากเผยออ้า พร้อมส่งเสียงอืออาออกมา ผมเร่งมือช่วยเขาจนในที่สุดแมทน้อยก็สำลักน้ำข้นๆ แต่น้อยกว่าของผมออกมาเลอะพื้นห้องน้ำ แมทหายใจหอบ สองมือเกาะแขนผมไว้ไม่ปล่อย ผมละมือออกจากกลางลำตัวเขา ยกขึ้นมาปัดผมออกจากหน้าผากของเขาออกไปแล้วก้มลงกดจูบหนึ่งที


“Good boy.”


เราจัดการอาบน้ำทำความสะอาดให้ตัวเองกันอีกรอบ แมทที่ง่วงนอนอยู่แล้ว พอโดนผมกระทำชำเราไปอีกรอบก็แทบจะเดินไม่ไหว ผมเลยต้องจัดการเช็ดตัวให้เขาด้วย พอเช็ดตัวเป่าผมจนแห้ง ผมก็อุ้มร่างเปลือยเปล่าของเขาออกมาวางไว้บนเตียง ตัวผมเองก็เปลือย เวลาอยู่กับเขาเสื้อผ้าไม่จำเป็นหรอก เพราะเดี๋ยวผมก็ถอดออกอยู่ดี แมทหันไปคว้าตุ๊กตาตัวโปรดทั้งสองตัวมากอดไว้ ผมเดินไปปิดไฟห้องน้ำแล้วเดินกลับมาสอดตัวเข้าไปในผ้านวม


“ไม่ต้องกอดเลยนะ ตุ๊กตาน่ะ ลืมแล้วเหรอว่านายต้องกอดอะไร” ผมว่าเสียงดุๆ หันไปปิดโคมไฟหัวเตียงฝั่งตัวเอง ปล่อยให้ฝั่งของแมทสว่างไว้


“ไม่ได้หรอก ช่วงที่คุณหายไป ผมก็นอนกอดพวกมันทุกคืน” นี่หลอกด่าผมอีกแล้วรึเปล่าเนี่ย ปากเอเลี่ยนพูดอะไรแต่ละทีต้องคิดให้ดีเพราะชอบแฝงการจิกกัดไว้เพียบ


“ก็ตอนนี้ฉันอยู่นี่แล้วไง เอาตุ๊กตาพวกนั้นออกไปได้แล้ว” ผมว่าเสียงเข้มและจ้องเขาตาดุ แมทแบะปาก ส่ายหัวว่าไม่ยอม


“แมท…” ผมว่าเสียงกดต่ำ จ้องหน้าเขาอย่างไม่ยอมเช่นกัน


“ไม่เอา ผมชินที่นอนกอดพวกมันแล้ว คุณจะโกรธผมเรื่องแค่นี้ก็เรื่องของคุณเถอะ” ว่าเสียงงอนแล้วก็หันหลังหนี แถมมีการเขยิบไปนอนหมอนฝั่งตัวเองด้วย


ผมขมวดคิ้วมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเขาด้วยความหงุดหงิด นี่ไอ้ตุ๊กตาพวกนั้นมันน่ากอดมากกว่าผมงั้นเหรอ หายไปแค่สองเดือน ปันใจให้แม้กระทั่งตุ๊กตาเนี่ยนะ


“เอเลี่ยน หันมานี่”


“…” เขาไม่ตอบ ไม่โต้เถียงอะไร เอาแต่นอนกอดตุ๊กตาสองตัวไว้นิ่ง ผมขบกรามแน่น ทิ้งตัวลงนอนหงายอย่างไม่ใส่ใจบ้าง


นี่เรากำลังทะเลาะกันเพราะตุ๊กตาเป็นต้นเหตุรึเปล่า?


ความเงียบแผ่ปกคลุมไปรอบเตียง แมทไม่กระดุกกระดิกเลยสักนิด ส่วนผมก็หลับตาลงไปแล้ว แต่ดันหงุดหงิดงุ่นง่านในใจไม่หยุด นึกโมโหที่เขาไม่สนใจจะง้อผมเลยสักนิด


สุดท้ายผมเลยพลิกตัวไปดึงร่างเล็กๆ เนื้อแน่นๆ เข้ามาชิดด้านหน้าตัวเอง แต่แมทคงเพลียจนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวไปแล้ว ผมเลยถือโอกาสดึงตุ๊กตาออกจากอ้อมแขนเขา โยนมันไปไว้บนเก้าอี้โซฟาในห้องนอน ไอ้สติชท์กลิ้งคว่ำตกลงบนพื้นแต่ผมไม่สนใจ ผมกระชับอ้อมแขนกอดแมทไว้แน่น เอาขาขวาก่ายสะโพกเขาอีกที ยกหัวเขาให้นอนหนุนต้นแขนซ้าย ใช้มือขวาดึงผ้านวมมาคลุมร่างเราสองคน ก่อนที่ผมจะทิ้งหัวลงนอนบนหมอนใบเดียวกับแมท แขนขวาก็กอดร่างเขาไว้แน่น


ตอนเช้าผมจะเอาตุ๊กตาเขาไปเผาทิ้งให้หมดเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-01-2016 14:16:38 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.9 50%} 03.09.58::
«ตอบ #292 เมื่อ03-09-2015 16:59:03 »

 :z1: :z1: :z1: :z1: ขออนุญาติเรียกรถพยาบาลค่ะ ตอนนี้กำลังมีคนโดนแทง อุ้ย  :oo1:

ออฟไลน์ Kamidere

  • บรรยายมันออกมา ทุกสิ่งที่อยู่ในใจ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.9 50%} 03.09.58::
«ตอบ #293 เมื่อ03-09-2015 17:10:22 »

กรี๊ดกร๊าดสองคนนี้อีกแล้วล่ะค่ะพี่ตอม >//<

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.9 50%} 03.09.58::
«ตอบ #294 เมื่อ03-09-2015 17:48:30 »

อังเดรนายเนี่ยก็ขยันเป็นมันถามวิคเตอร์อยู่ได้ 5555+

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.9 50%} 03.09.58::
«ตอบ #295 เมื่อ03-09-2015 17:58:08 »

ตายค่ะ เลือดกำเดาไหลตาย

 :jul1:

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.9 50%} 03.09.58::
«ตอบ #296 เมื่อ03-09-2015 18:22:53 »

กรี๊ดดดดด ฟินเลยค่าา

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.9 50%} 03.09.58::
«ตอบ #297 เมื่อ03-09-2015 19:21:07 »

พี่ยักษ์มันเจ้าเล่ห์กำลังจะหลอกกินเอเลี่ยนน้อยตลอดๆ

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.9 50%} 03.09.58::
«ตอบ #298 เมื่อ03-09-2015 20:17:20 »

 :pighaun: :pighaun: :jul1: :jul1:

ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.9 50%} 03.09.58::
«ตอบ #299 เมื่อ03-09-2015 21:14:49 »

 :hao6: :hao6: :katai5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด