:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 800662 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.12 100%} 29.09.58::
«ตอบ #390 เมื่อ29-09-2015 10:50:42 »

ยักษ์หึงโหดทำแมทกลัวจนร้องไห้

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.12 100%} 29.09.58::
«ตอบ #391 เมื่อ29-09-2015 11:12:08 »

ถึงจะหึงโหด แต่พี่ยักษ์ก็น่ารักนะ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.12 100%} 29.09.58::
«ตอบ #392 เมื่อ29-09-2015 13:21:36 »

อ่านตอน 11 แล้วคิดเหมือนกันว่า คนที่ทำท่าเหยียดเนี่ย มักหนังหน้าไม่ผ่านเกณฑ์มาตราฐาน

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.12 100%} 29.09.58::
«ตอบ #393 เมื่อ29-09-2015 15:05:02 »

ดีน่ะ พี่ท่านยังเป็นห่วงแมท ไม่งั้นแมทรับศึกหนักแน่

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.12 100%} 29.09.58::
«ตอบ #394 เมื่อ29-09-2015 15:25:22 »

เป็นการทายาที่ฟินมาก

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.12 100%} 29.09.58::
«ตอบ #395 เมื่อ29-09-2015 15:28:57 »

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ acidic_crazy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.12 100%} 29.09.58::
«ตอบ #396 เมื่อ29-09-2015 15:43:13 »

ชอบเรื่องนี้มาก มาเป็นกำลังใจให้ขุ่นเจ้ค่า :mew1:

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.12 100%} 29.09.58::
«ตอบ #397 เมื่อ29-09-2015 17:58:33 »

ต่างคนต่างดูแลกัน ฟินจร้า
 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.12 100%} 29.09.58::
«ตอบ #398 เมื่อ29-09-2015 22:01:20 »

อูยยย เป็นการทายาที่ :haun4:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.12 100%} 29.09.58::
«ตอบ #399 เมื่อ30-09-2015 03:25:47 »

วิคเตอร์กะเราลิ้นไปกันได้ค่ะ ส้มตำปลาร้าเราทานแล้วไม่ชอบเหมือนกัน5555

รสมันเค็มปะแล่มมาก แต่เราชอบน้ำตกนะ555


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.12 100%} 29.09.58::
« ตอบ #399 เมื่อ: 30-09-2015 03:25:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 45%} 02.10.58::
«ตอบ #400 เมื่อ02-10-2015 00:18:13 »



Only You EP.13 :: Victor Crazy in Matt. [45%]




ผมกับบาสตัดสินใจพาสามฝรั่งขึ้นรถไฟฟ้า เพราะช่วงเวลานี้เมืองหลวงของประเทศไทยรถนั้นรถติดมากเหลือเกิน แค่เดินออกมาจากโรงแรมเพื่อมาขึ้นบีทีเอส รถแถวนั้นก็ยังเนืองแน่นแทบไม่ขยับอย่างกับว่าเจ้าหญิงเอลซ่ามาปล่อยน้ำเกล็ดหิมะแช่แข็งการจราจรไว้ไม่มีผิด ผมไม่อยากให้พวกเขา (ซึ่งแน่นอนว่าไม่คุ้นชินกับการจราจรบนถนนของกรุงเทพฯ) ไปนั่งทรมานหรือนั่งเซ็งกันบนรถ เลยเลือกจะพาพวกเขาไปเบียดกับฝูงชนบนรถไฟฟ้าดีกว่า เขาอาจจะเคยเจอรถติดนะ แต่ผมเชื่อว่าคงไม่เคยเจอสภาพรถติดที่ไหนบรรลัยได้เท่าที่เมืองกรุงอีกแล้วล่ะ



ผมกับบาสช่วยกันจัดการแลกเงินและกดตั๋วทั้งขาไปขากลับให้พวกเขา พอกดเสร็จผมก็พาเขาสอดบัตรเพื่อเดินผ่านประตูกั้น แล้วพาขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อไปรอรถไฟฟ้าขบวนถัดไป แม้จะเป็นเวลาค่ำแล้ว แต่ผู้คนที่มาใช้บริการรถไฟฟ้านั้นก็ยังล้นหลามราวกับว่าที่สถานีบีทีเอสมีสินค้าลดราคา



“What’s wrong? (เป็นอะไร)” ผมหันหน้าอึนๆ ลอยๆ ของตัวเองไปมองหน้าหนวดครึ้มของวิคเตอร์ที่วันนี้ไม่ได้ใส่หมวกปกปิดมา เขากำลังมองผมหน้านิ่วคิ้วย่น โดยไม่สนใจสาวๆ กลุ่มหนึ่งที่กำลังมองมาทางเขาด้วยสายตาพึงใจเลยสักนิด




“Thinking something. (คิดอะไรบางอย่างอยู่)”




“Tell me, what are you thinking about? (บอกฉันซิว่าคิดเรื่องอะไรอยู่)” ผมมองหน้าเขาที่มองกลับมาอย่างต้องการคำตอบ ก็จะคิดเรื่องอะไร ก็เรื่องฟ้องร้องนักเลงคีย์บอร์ดนั่นไง ผมอยากรู้ว่าเขาทำจริงๆ หรือเปล่า ทั้งๆ ที่ความจริงผมเชื่อว่าวิคเตอร์ทำได้ เพราะนอกจากเขาจะมีเงินแล้ว เขายังมีชื่อเสียง และมีแรงซัพพอร์ท (เส้นสาย) อีกมากมาย ไหนจะทีมงานเขาที่อเมริกาอีก แค่คุณเอมิลี่ที่มีเส้นสายและคนรู้จักมากมายก็ช่วยเขาได้แล้วละ



“Talk later. (เดี๋ยวค่อยคุยครับ)”



“No, I need to know now. (ไม่ ฉันต้องการรู้เดี๋ยวนี้)” สีหน้าเขาเริ่มดุขึ้น ผมถอนใจแผ่วเบา สายตาเหลือบไปเห็นขบวนรถไฟกำลังแล่นมา ผมเดินเข้าไปใกล้เขาแล้วกอดเอวเขาไว้ เอาคางวางบนแผงอกผ่านเสื้อเชิ้ตเนื้อนุ่ม เขายกแขนสองข้างโอบเอวผมไว้ ก้มหน้าลงมองผมด้วยสายตาหงุดหงิดเล็กๆ



“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ยังไงผมก็ต้องบอกคุณอยู่แล้ว อย่าดุผมสิ” ต้องใช้วิธีนี้เท่านั้นแหละ เขาถึงจะใจเย็นลงบ้าง แม้จะแค่แปบเดียวก็ตาม แต่ก็ดีกว่าเขาอาละวาดกลางสถานีบีทีเอสละนะ



“เฮ้! หยุดสวีทกันสักพักเถอะ รถไฟมาแล้ว” อันเดรบ่นไม่จริงจังนัก ผมดึงหน้าออกจากอกวิคเตอร์ หันไปมองอันเดรแล้วยิ้มกว้างให้ ก่อนจะแกล้งเขาด้วยการเอาจมูกไปถูไถกับแผงอกวิคเตอร์ พอหันไปมองเขาอีกรอบ เขาก็ทำท่าอ้วกใส่ผม จนวิคเตอร์ขำออกมา ผมรู้สึกได้ถึงสายตาหลายคู่กำลังมองมาทางเราทั้งคู่ ผมเลยแกล้งหันไปมองเร็วๆ ก็เห็นเหล่าสาวๆ มองมาและเบะปากทำหน้าร้องไห้ ผมแอบยิ้มขำๆ คนเดียว ถ้าให้เดาคงกำลังกรีดร้องในใจใช่มั้ยว่าชะนีไทยไร้ที่ยืน



ผมพาวิคเตอร์และคนอื่นๆ เดินเข้าหัวขบวนแรก คนเยอะมาก ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่หรอก แต่ผมแค่เบื่อ ผมไม่เคยชอบชีวิตในเมืองหลวงเลยสักนิด โชคดีที่บ้านผมไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง ไม่งั้นผมประสาทแน่ๆ ที่ต้องเจอสภาพจราจรและสภาพผู้คนอย่างนี้ทุกวัน หันไปทางไหนก็เจอแต่ผู้คนยืนแออัดกันไปหมด ที่ให้พวกผมยืนแทบจะไม่มี โชคยังดีที่วิคเตอร์ตัวสูงเลยคว้าที่จับด้านบนไว้ได้และให้ผมยืนพิงเขาไว้ โดยมีแขนซ้ายของเขาโอบร่างผมไว้อีกทีเพื่อไม่ให้ผมล้มเวลารถไฟจอด ส่วนคนอื่นๆ นั้นไม่มีปัญหา เพราะพวกเขาตัวสูงหมดเลย



“แมท ยืนขึ้นสิ อย่านั่ง” บาสที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กันหันมาแซวยิ้มๆ ผมแสร้งมองตาขวางกลับไป



“แหม บาส” บาสหัวเราะ เบนเนดิคท์กับอันเดรมองงงๆ บาสเลยต้องหันไปอธิบายให้เข้าใจ พอสองฝรั่งนั่นเข้าใจก็หัวเราะเบาๆ ผมทำหน้ามุ่ยใส่สองคนนั้น พอเงยหน้ามองวิคเตอร์ก็เห็นว่าเขากำลังมองออกไปนอกกระจกประตูบีทีเอส ผมพยายามเช็กสีหน้าว่าเขามีอาการอึดอัดหรือไม่



“คุณโอเคมั้ย” ผมกระซิบถาม วิคเตอร์ก้มลงมามองงงๆ



“คนเยอะ อึดอัดรึเปล่าครับ” สีหน้าวิคเตอร์เปลี่ยนเป็นเข้าใจในสิ่งที่ผมถาม เขาพยักหน้ารับสีหน้าอึนๆ ผมยกสองมือกุมมือซ้ายเขาไว้และบีบเบาๆ



“ผมขอโทษนะที่พาคุณมาอึดอัด” เขายิ้มอ่อนๆ กลับมาให้ ก้มลงหอมกลางกระหม่อมผมไปที ก่อนจะเงยหน้าไปมองวิวแวบๆ ด้านนอกเวลารถไฟวิ่งผ่าน ผมก้มหน้าและเล่นบีบมือ ตีมือเขาเบาๆ ไปเรื่อยจนมาถึงสถานีสยามที่เราต้องลงเพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟอีกสาย ช่วงวินาทีนั้นอย่างกับนรกถูกยกมาไว้บนดิน ผู้คนหลั่งไหลกันอย่างเนืองแน่น เพราะรถไฟอีกฝั่งก็มาพอดี ผมรีบฉุดมือวิคเตอร์ให้เดินไปขึ้นรถไฟอย่างรวดเร็ว พวกบาสตามมาติดๆ ผมรู้สึกดีใจมากที่ขึ้นทัน แม้จะต้องเบียดมากหน่อยก็ตาม แต่ก็ดีกว่ายืนรอท่ามกลางผู้คนล้นหลามละนะ



เรายืนแออัดกับผู้คนอยู่กันพักใหญ่ วิคเตอร์พยายามกอดผมไว้ไม่ให้โดนคนเบียดจนล้มหายตายจาก เขายืนพิงผนังกระจกที่ใกล้กับประตู โดยที่ผมยืนหันเอาแก้มซ้ายแนบไปกับอกเขา สายตามองวิวด้านนอกผ่านกระจกประตู



“ผมคิดถึงตอนที่เราขึ้นรถไฟด้วยกันครั้งแรกที่นิวยอร์กเลย” ผมแหงนหน้าไปพึมพำกับเขาสองคนเบาๆ มีเสียงของผู้โดยสารคนอื่นดังงึมงำไปทั่วรถไฟ คาดว่าคงไม่มีใครมาแอบฟังเราสองคนหรอก



วิคเตอร์ก้มลงมามองผมแล้วเลิกคิ้วขึ้น ราวกับเขากำลังนึกถึงเหตุการณ์ที่ผมบอกเขาไป



“อ้า ฉันนึกออก” เขายิ้มละมุนมาให้ ผมหัวเราะคิกคักด้วยความเขินเล็กน้อย ก่อนจะว่าต่อ



“ตอนนั้นผมใจเต้นมากเลยนะ” วิคเตอร์มีสีหน้าประหลาดใจ



“จริงเหรอ” ผมอมยิ้มเขินแล้วพยักหน้าดุ๊กดิ๊ก วิคเตอร์ยิ้มกว้าง ก้มลงมาหอมหน้าผากผมหนึ่งที



“แสดงว่าตอนนั้นนายก็ชอบฉันแล้วสิ” ผมย่นจมูกใส่เขา ส่ายหน้าไปมานิดหน่อย



“ยังไม่ได้ชอบสักหน่อย แค่ใจสั่นนิดนึงเอง” วิคเตอร์หัวเราะเสียงทุ้ม ผมส่งยิ้มให้เขา กำลังจะก้มหน้าซุกอกเขาเหมือนเดิม สายตาก็เผอิญหันไปเห็นเด็กผู้หญิงกลุ่มนึงในชุดนักเรียนมอปลายกำลังยืนทำหน้าฟิน พอผมหันไปมองก็หลบตาผมเขินๆ และหันไปหัวเราะเสียงกิ๊กกั๊กกันเบาๆ ผมส่งยิ้มให้หนึ่งในกลุ่มนั้น น้องยิ้มเขินตอบกลับมาแล้วรีบหลบหน้าหนี ผมเลยเอาแก้มซ้ายแนบอกวิคเตอร์ไว้ตามเดิม



เรามาถึงสถานีสะพานตากสินซึ่งเป็นสถานีปลายทางของพวกเราในเวลาสองทุ่มกว่า บาสพาพวกเราเดินไปตามทางที่นำไปสู่ท่าเรือ ที่นี่จะมีเรือบริการรับส่งคนไปเอเชียทีคฟรี เริ่มบริการตั้งแต่สี่หรือห้าโมงเย็นนี่ละ บางคนก็มาเนียนขึ้นกลับบ้านก็มี แถวค่อนข้างยาวเหยียด ในระหว่างรอ พ่อสามฝรั่งก็ถ่ายรูปกันยกใหญ่ ด้วยหน้า ด้วยหุ่น ของทั้งสามที่ดูดีมาก เลยทำให้พวกเขาโดดเด่นสะดุดตาในหมู่คนไทย มีชาวต่างชาติกรุ๊ปอื่นด้วยก็จริง แต่ต้องยอมรับว่า รัศมีของพ่อสามนายแบบนี่ค่อนข้างจะกลบเกลื่อนกลุ่มอื่นเหลือเกิน แค่วิคเตอร์คนเดียวที่มีออร่าความเป็นดารานักแสดงก็เป็นที่โดดเด่นมากพออยู่แล้ว แต่พอผนึกกำลังกับเบนเนดิคท์และอันเดรที่เป็นนายแบบ มันเลยยิ่งทำให้ทั้งสามนั้นดูมีความวิบวับน่าจับตามอง



“Hey, come on.” เบนเนดิคท์หันมาเรียกผมกับบาสให้เข้าไปในเฟรมและกดถ่ายเซลฟ์ฟี่กล้องหน้าไปหนึ่งช็อต สองช็อต และเริ่มลามปามไปหลายช็อต ผมเสนอว่าให้ถ่ายสามคนด้วยกัน เดี๋ยวผมเป็นตากล้องให้ พ่อสามหนุ่มก็จับกลุ่มกัน ฉีกยิ้มหล่อๆ ล่อสายตาสาวๆ และหนุ่มๆ บางคน แถวท่าเรือซะเหลือเกิน



“There it is. (เรือมาแล้ว)” บาสชี้ไปทางท่าเรือที่มีเรือสีชมพูเข้ามาจอดเทียบท่า ผู้คนเริ่มทยอยเดินลงเรือไป จนมาถึงคิวพวกเรา ผมล่ะโคตรกลัวว่าเรือจะจมรึเปล่า เพราะคนแน่นแฟ้นมากๆ นี่เขาได้วัดน้ำหนักมั้ย หรือแค่คนแน่นๆ ก็ออกได้เลย นี่ถ้าไปจมกลางเจ้าพระยาจะทำไง ว่ายน้ำกันสนุกเลยสิ



ผมนั่งติดริมกาบเรือ นั่งชมวิวยามค่ำคืนของเมืองกรุง แสงสีจากเอเชียทีคนั้นสว่างจ้าที่สุดแล้ว นอกนั้นก็เป็นแสงไฟจากตามตึกมากกว่า ผมเคยสงสัยและยังสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่า เจ้าของตึกพวกนี้ไม่กลัวตึกถล่มบ้างหรอ เพราะน้ำมันก็แซะตลิ่งทุกวันๆ ยิ่งพวกคอนโดที่สร้างริมน้ำนี่คิดอะไรอยู่ ไม่กลัวคอนโดจมน้ำเหรอ (คิดไปโน่น)




ใช้เวลาไม่นาน เรือน้อยสีชมพูก็จอดเทียบท่ากับเอเชียทีค เสียงเพลงดังแว่วมาแต่ไกล เป็นเสียงเพลงแบบรีมิกซ์ ทั้งมาจากร้านเหล้า ทั้งจากทางชิงช้า และเสียงดนตรีจากการแสดงกลางแจ้ง เราพากันเดินเข้าไปด้านในของเอเชียทีค แสงสียามค่ำคืนนั้นแสนจะตระกาลตา ผมเคยมาช่วงเวลากลางวัน แล้วก็ไม่ได้มาเที่ยวด้วย มาทำธุระแล้วก็รีบกลับ ไม่เคยมาตอนกลางคืนสักที มีแต่คนบอกว่าสวย บรรยากาศเหมาะแก่การนั่งชิล ซึ่งผมว่ามันก็เป็นจริงอย่างนั้นแหละ ไม่รู้ว่าที่เย็นๆ นี่เพราะลมหรือเพราะแม่น้ำเจ้าพระยากันแน่ แต่จะเพราะอะไรก็ช่าง บรรยากาศนั้นดีจริงจัง ถ้าเครียดๆ แล้วมานั่งคงปลดปล่อยความคิดไปได้เยอะ




“ผมอยากขึ้นชิงช้า” ผมกระตุกมือวิคเตอร์ เขาหันมามอง ผมเลยชี้ไปที่ชิงช้าอันเบ้อเริ่มที่มีไฟสีขาวม่วงประดับไว้เพื่อเพิ่มความสว่างไสวให้กับชิงช้ายักษ์



“Where are you going? (พวกแกจะไปไหนกัน)” วิคเตอร์หันไปถามเพื่อนตัวเองอีกสองคนที่กำลังยืนคุยอยู่กับบาส



“He’s gonna takes us to the bar—Happy fish, right? (เขาจะพากพวกเรานั่งดื่มที่บาร์ ชื่ออะไรนะ แฮปปี้ฟิชใช่มั้ย)” เบนเนดิคท์หันไปถามบาส อีกฝ่ายพยักหน้ารับกลับมา



“Okay, you go there. Matt wants to take the Ferris wheel. (งั้นพวกแกไปก่อน แมทอยากขึ้นชิงช้าสวรรค์)” ทุกคนพยักหน้ารับรู้ ผมแอบเขินนิดๆ ที่ทำตัวเหมือนลูกอ้อนพ่อไม่มีผิด



“แมทรู้จักร้านนั้นมั้ย” ผมส่ายหัวกลับไปให้บาสรัวๆ



“งั้นโทรหาบาสแล้วกัน เดี๋ยวจะได้บอกทางให้” ผมพยักหน้ารัวๆ กลับไปอีกครั้ง คุณเบนกับอันเดรหัวเราะ ผมทำหน้างงๆ กลับไปว่าพวกเขาหัวเราะอะไรกัน พอเงยหน้ามองวิคเตอร์เขาก็กำลังยิ้มน้อยๆ อยู่



“Have fun, Matt! (ขอให้สนุกนะแมท)” คุณเบนบอกพลางโบกมือมาให้ ผมเลยยกมือโบกกลับไปรัวๆ วิคเตอร์กระตุกมือมือให้เดินตามเขาไป ผมหยุดยิ้ม หยุดโบกมือให้คุณเบน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะโบกมือราวกับจะจากลากลับบ้านทำไม ยังไงเดี๋ยวก็เจอกันอีก



วิคเตอร์เดินจูงมือผมไปอย่างช้าๆ ผมชี้นั่นชี้นี่ ชี้ไปเรื่อย เพราะผมเองก็ไม่เคยมาตอนกลางคืนเหมือนกัน บรรยากาศคึกคักมากเลยอ่ะ เสียงเพลงเปิดดังไปทั่วบริเวณ ไม่รู้ว่าแหล่งเพลงมาจากไหนกันแน่ เสื้อผ้าที่เปิดขายแถวนี้ก็ดูดีอยู่เหมือนกันนะ ผู้คนมาเดินเล่นกันเยอะมาก ผมว่าไม่น่าแปลก เพราะบรรยากาศมันติดริมแม่น้ำ บวกกับลมเย็นๆ และความคึกคัก เลยทำให้ที่นี่เป็นอีกสถานที่ที่น่ามาพักผ่อนหย่อนก้นนั่ง



“I’m hungry. (หิว)” ผมแหงนหน้าไปบอกวิคเตอร์ที่ก้มลงมองผมอยู่ก่อนแล้ว เขายิ้มแต่ก็มีสีหน้าทึ่งๆ เล็กน้อย



“You just ate. (เพิ่งกินไปเองนะ)”



“I want some meat ball. (ผมอยากกินลูกชิ้น)” ผมชี้ไปที่ร้านลูกชิ้นร้านใหญ่ร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมของตรอกเล็กๆ ก่อนจะถึงชิงช้าสวรรค์ วิคเตอร์ยิ้มขำน้อยๆ พาผมเดินไปซื้อลูกชิ้น ผมยิ้มร่า เลือกหยิบลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลา ปูอัด ฮ็อทดอกไก่ ส่งให้แม่ค้าไปอุ่นอีกรอบ ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบเงินขึ้นมาจะจ่าย



“Don’t. (ไม่ต้อง)” วิคเตอร์ยื่นแบงค์ร้อยไทยให้แม่ค้าไป เขาทอนกลับมาประมาณยี่สิบห้าบาท แต่วิคเตอร์ส่ายหัวและส่งรอยยิ้มให้เป็นเชิงบอกว่าเก็บไว้เถอะ



“โอ๊ย ไม่เป็นไรจ้า เงินทอนตั้งเยอะ รับไปเถอะ” แม่ค้าบอกด้วยรอยยิ้ม วิคเตอร์ทำหน้างง ผมเลยต้องแปลให้เขาฟัง เขาทำหน้าว่าเข้าใจและบอกว่าเขาให้เป็นทิป ผมต้องบอกเขาว่าไม่จำเป็นต้องให้ทิปกับร้านแบบนี้ ถ้าจะให้ไปให้ร้านอาหารหรือร้านเหล้าจะดีกว่า เขาพยักหน้าเข้าใจอย่างเงอะงะ ยื่นมือไปรับเงินทอนจากแม่ค้ามา เข้าใจได้ว่าวิคเตอร์ให้โดยไม่คิดอะไร เพราะสังคมอเมริกันการให้ทิปนั้นเป็นเรื่องปกติ



“You wanna try? (ลองมั้ย)” ผมยื่นฮ็อทดอกไก่ให้เขา วิคเตอร์ก้มลงมางับเข้าปาก เคี้ยวสักพักเขาก็พยักหน้าและทำหน้าประมาณว่าใช้ได้ ผมเลยจิ้มให้เขากินอีกชิ้น จิ้มให้ตัวเองกินด้วย



กว่าจะเดินถึงชิงช้า ผมก็ซัดลูกชิ้นเกือบสิบไม้ที่ซื้อมาจนหมด แน่นอนว่าพอกินหมด ผมก็หิวน้ำเลยต้องเดินไปซื้อน้ำเปล่ามาดื่ม วิคเตอร์ใช้นิ้วเช็ดน้ำจิ้มที่เลอะปากผมอยู่ออก แล้วก็เอามือที่ป้ายน้ำจิ้มออกมาเช็ดเสื้อผมนั่นแหละ ผมเลยแว้ดใส่ไปหนึ่งที เขาก็เอาแต่หัวเราะอย่างเดียว



“Giant-beard! (ไอ้ยักษ์หนวด!)” ผมมุ่ยหน้า ก้มหน้าลงไปซุกกับกล้ามท้องเขาแล้วถูหน้าไปมาเพื่อเช็ดน้ำจิ้มที่ยังตกค้างอยู่เปื้อนเสื้อเขาบ้าง วิคเตอร์พยายามดึงหน้าผมออกทั้งที่หัวเราะอยู่ แต่ผมก็ฝืนหน้าตัวเองไว้ เขาเลยจับล็อคหน้าผมไว้แน่น นิ้วโป้งทั้งสองนิ้วของเขาดึงหางตาทั้งสองข้างของผมไว้ จนทำให้หางตาผมชี้เหมือนคนจีน



“อะ ฮะๆๆ ฮ่าๆๆๆ” วิคเตอร์หัวเราะเสียงดังแข่งกับเสียงเพลง  เขายิ้มเริงร่าที่เห็นว่าหน้าผมนั้นดูตลกโปกฮา ผมพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้ เลยกลายเป็นว่าเหมือนผมหายใจติดขัด



“เหมือนเอเลี่ยนจริงๆ เลย” เขาว่าแล้วก็หัวเราะถูกอกถูกใจคนเดียว ทั้งที่จับหน้าผมไว้ ใช้ฝ่ามือบีบแก้มผมจนหน้าผมดูเหมือนบวมตุ่ย นิ้วโป้งก็ดึงหางตาผมซะชี้



“แอ!!” ผมร้องออกมาเสียงยาน พยายามสะบัดหน้าหนีออกจากมือเขา แต่วิคเตอร์ก็ไม่ยอมปล่อย จนผมต้องแบะปากเหมือนจะร้องไห้นั่นแหละ เขาถึงยอมปล่อยทั้งที่ยังหัวเราะไม่เลิก ผมเลยแกล้งทำหน้างอใส่เขา



“โอ๋ๆ ป่ะๆ ไปขึ้นชิงช้ากันเอเลี่ยนหน้าบูด” ผมเปลี่ยนเป็นยิ้มแฉ่งยิงฟัน วิคเตอร์ยิ้มกว้างตอบกลับมา ดึงขวดน้ำไปถือไว้ในมือแล้วจูงมือผมตรงไปยังชิงช้า ผมหันไปมองรอบข้างตัวเองบ้าง มีหลายคนส่งยิ้มมาให้ ผมยิ้มเขินกลับไปและรีบหลบตาพวกเขาเหล่านั้น



อย่างน้อยได้รอยยิ้มก็ยังดีกว่าได้สีหน้ารังเกียจกลับมา ผมเชื่อว่ามีหลายคนที่ใจกว้างมากพอที่จะยอมรับความรักในอีกหลายรูปแบบที่ไม่ใช่แค่ชายหญิงตามปกติทั่วไป ไม่ว่าจะด้วยเพราะอะไรก็ตาม แต่มันทำให้ผมรู้สึกดีที่อย่างน้อยยังมีคนที่เขามองถึงความรักของคนสองคนจริงๆ ไม่ใช่มองที่เรื่องเพศ แล้วเอาเรื่องเพศมากำหนดในเรื่องความรัก



“พี่ครับ วนกี่รอบอะ”



“ประมาณสามรอบจ้ะ” พี่คนขายตั๋วตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ผมหันไปบอกวิคเตอร์เรื่องจำนวนรอบด้วยสีหน้าหงอยเล็กน้อย แค่สามรอบเองอ่ะ ยังไม่จุใจเลย ที่งานวัดเขาให้ตั้งเกือบสิบรอบเลยนะ



“ซื้อแบบวีไอพีมั้ยคะ จะได้นั่งนานเป็นสองเท่าของราคาปกติ” ผมทำหน้าว่าสนใจ ที่สนใจไม่ได้ว่าอยากจะขึ้นแบบวีไอพีนะ แต่สนใจตรงที่มีแบบวีไอพีด้วยเหรอ



“แล้ววีไอพีนี่มันต่างจากปกติยังไงอ่ะพี่”



“ในนั้นจะมีหนังให้ดู มีเครื่องดื่มให้ด้วย แล้วก็พื้นด้านล่างจะเป็นกระจกมองเห็นวิวได้เยอะขึ้น…” พี่คนขายนำเสนอเต็มที่ และพอบอกราคามาผมก็รู้สึกว่าหน้าแห้งไปทันที คือแค่บอกว่ามีหนังให้ดูผมก็ไม่เอาแล้วล่ะ เพราะตั้งใจจะขึ้นไปดูวิว ไม่ได้ไปดูหนัง ผมยิ้มแห้งพอๆ กับหน้า รู้สึกเกรงใจเงินในกระเป๋าขึ้นมา



“…หรือถ้าอยากซึมซับแต่วิว ซื้อตั๋วเบิ้ลมั้ย จะได้นั่งนานขึ้น” พี่แกพรีเซ้นต์สุด ส่วนผมก็คำนวณแล้วว่าถ้าซื้อแบบหลังยังไงก็ถูกกว่าวีไอพี และก็ได้นั่งนานขึ้น ผมยืนชั่งใจอยู่สักพัก วิคเตอร์คงเห็นว่าผมเงียบไปเลยถามขึ้น



“What? (อะไรเหรอ)”



“She advise me buy double ticket. (พี่เขาแนะนำให้ผมซื้อตั๋วสองใบ)” วิคเตอร์ทำหน้าประหลาดใจ



“You mean for you and me? (หมายถึงว่าให้ฉันกับนายน่ะเหรอ)”



“No, you two, me two. (เปล่าครับ คุณสอง ผมสอง)” วิคเตอร์ย่นคิ้วมองหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ



“Why do we have to get double? (ทำไมเราต้องซื้อเบิ้ลด้วย)”



“Because I wanna play two round. (เพราะผมอย่างเล่นสองรอบน่ะสิ)” วิคเตอร์ทำสีหน้าว่าเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการ



“Then take it. (ก็ซื้อสิ)” ผมยิ้มแหยๆ ให้เขา และทำปากยื่นหน่อยๆ



“It’s expensive. (มันแพงนะ)” วิคเตอร์กลอกตาใส่ผม ล้วงหยิบกระเป๋าเงินออกมาจากกางเกง หยิบแบงค์พันมาให้ผมห้าใบ ผมเบิกตากว้าง ส่ายหัวให้เขา วิคเตอร์มองกลับมาตาดุ



“Take it. What I said? I will take care of you. (เอาไป ฉันบอกว่าไร ฉันจะดูแลนายไง)”



“But you don’t need to take care of me about  this. (แต่ไม่ต้องดูแลเรื่องแบบนี้ก็ได้ครับ)” ผมบอกเสียงอ่อย รู้สึกเกรงใจเขาที่จะมาเสียเงินไปกับความไร้สาระแบบเด็กๆ ของผม



“Matt.” แต่ผมก็ต้องรับไว้เพราะเสียงเขาเริ่มกดต่ำลงและแสดงสีหน้าว่าไม่พอใจ ผมหยิบแบงค์พันมาหนึ่งใบ



“Just one. (แค่ใบเดียวพอ)” ผมยิ้มเหงือกแห้งให้เขา หันกลับไปหาพี่คนขายตั๋วที่กำลังนั่งยิ้มขำ ผมยิ้มไปให้พี่เขาและยื่นเงินให้ พี่เขารับไปแล้วคืนตังค์ทอนมาพร้อมกับตั๋ว ก่อนบอกว่าให้แจ้งทางคนฉีกตั๋วตรงชิงช้าด้วยว่าเบิ้ลสองรอบ



“เรื่องของนายไม่ว่าจะเล็กใหญ่แค่ไหน มันคือเรื่องของฉันด้วย เข้าใจมั้ย” วิคเตอร์ก้มลงมากระซิบตอนที่เรากำลังก้าวเดินตรงไปยังพื้นยืนรอเพื่อขึ้นชิงช้าที่มีคนต่อคิวอยู่ประมาณหนึ่ง ผมหันไปยิ้มให้เขา ยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาหนึ่งที



“ผมแค่เกรงใจคุณ” วิคเตอร์มีสีหน้าดีขึ้นจากที่เมื่อกี้หน้ามุ่ยเพราะผมไปขัดใจเขา เออ ขัดใจไม่ให้เสียเงินก็จะงอนโว้ย บักฝรั่ง



“แฟนคนเดียวฉันเลี้ยงได้น่า” ที่สงสัยมากๆ เกี่ยวกับตัวเขาคือ ทำไมเขาถึงได้พูดประโยคชวนเขินพวกนี้ได้อย่างหน้าตาเฉย ราวกับมันเป็นเรื่องธรรมดา บางทีผมก็อยากให้เขาพูดไปเขินไปบ้างนะ มีแต่ผมเนี่ยเขินอยู่ฝ่ายเดียว



“ผมเล่นสองรอบนะครับ เอ่อ หมายถึงว่า ผมซื้อตั๋วมาคนล่ะสองใบ” พี่พนักงานฉีกตั๋ว พยักหน้าว่าเข้าใจในสิ่งที่ผมบอก



เรายืนรอชิงช้ารอบที่กำลังหมุนอยู่ให้จบลง ระหว่างนั้นก็มองวิวไปเรื่อยเปื่อย ผมแหงนหน้าไปมองวิคเตอร์ที่ยืนมองชิงช้าหมุนวนช้าๆ เหมือนเด็กแล้วก็ยิ้มออกมา เขาดูไม่มีพิษภัยเหมือนช่วงเวลาปกติ ฮ่าๆๆ หมายถึงว่า ตอนนี้เขาดูเหมือนเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่กำลังสนใจของเล่นในสวนสนุกอยู่




“ครั้งสุดท้ายที่คุณขึ้นชิงช้าสวรรค์คือเมื่อไหร่เหรอ” วิคเตอร์ละสายตาเหม่อเหมือนเด็กจากชิงช้าฯ มามองที่ผมด้วยสายตางงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะมีสีหน้าเข้าใจ และเปลี่ยนเป็นสีหน้าครุ่นคิด



“ขึ้นที่ลอนดอนอายกับแม่ตอนประมาณอายุเท่านาย…” เขาบอกเสียงนุ่มพร้อมรอยยิ้ม แววตาเขาอ่อนโยนเมื่อพูดถึงความทรงจำกับแม่ แต่สักพักเขาก็มีสีหน้าหม่นลง



“…หลังจากนั้นห้าเดือน แม่ฉันก็ตาย” ผมใจกระตุกวูบกับสิ่งที่ได้ยิน แม้จะรู้อยู่แล้วว่าแม่เขาเสียไปนานแล้ว แต่ก็อดใจหายแทนเขาไม่ได้ ผมเลื่อนสองมือกุมมือเขาไว้ วิคเตอร์มองมาอย่างว่างเปล่า ผมรู้ว่าเขาอ่อนไหวกับเรื่องแม่และย่ามาก



“ตอนนี้คุณมีผมนะ”



“ฉันรู้” วิคเตอร์คลี่ยิ้มออกมา กุมมือซ้ายผมตอบ บางครั้งผมก็อยากรู้นะว่าแม่เขาจากไปเพราะอะไร แต่คิดว่ามันเป็นสิ่งละเอียดอ่อนกับวิคเตอร์มาก บางทีเขาอาจจะไม่อยากพูด ถ้าเขาอยากพูด อยากเล่าผมว่าเขาคงจะบอกผมเองโดยที่ไม่ต้องร้องขอ




................................................TBC.


เบาๆ เนาะ ไปเที่ยวริมน้ำเจ้าพระยา คนเขียนก็ไม่เคยไปตอนกลางคืนเหมือนกัน เคยไปแค่ช่วงบ่าย อยู่ถึงห้าโมงเย็นแล้วก็กลับ พอได้เห็นแสงสีวับๆ แวมๆ ข้อมูลอื่นๆ พึ่งเพื่อนที่หออยู่แถวนั้นค่ะ ส่วนเรื่องชิงช้า อาศัย เทยเที่ยวไทย เทปที่ไปเที่ยวเอเชียทีคเอา ห้าๆๆๆ

ก็ไปเรื่อยๆ เนาะ สวีต เบาๆ ไม่ได้หนักหน่วง ตื่นเต้นใดๆ นิยายเรื่องนี้ไม่หวือไม่ตื่นเต้นเร้าใจใดๆ นักนะคะ ที่มีก็ไม่รู้จะตื่นเต้นรึเปล่า 55555555

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยค่ะที่อยู่เป็นเพื่อนกันจนมาถึงทุกวันนี้ จนถึงตอนนี้ ขอบคุณมากๆ นะคะ  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2015 14:43:11 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 45%} 02.10.58::
«ตอบ #401 เมื่อ02-10-2015 00:57:39 »

น่ารักอ่าาาาาาา อิจฉาแมท กรี๊ดๆๆๆๆ ><  :-[ :-[ :mew2:

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 45%} 02.10.58::
«ตอบ #402 เมื่อ02-10-2015 00:59:41 »

ขึ้นชิงช้าสวรรค์ที่เอเชียทีคนี่เราว่าเพิ่มความโรแมนติกให้กลับคู่รักได้สบายเลยนะ วิวสวยยยยยยย


ออฟไลน์ starhihi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 45%} 02.10.58::
«ตอบ #403 เมื่อ02-10-2015 01:00:51 »

มาดึกจัง แต่ก็ยังอยู่อ่านได้นะ ฮ่าๆ

รอบนี่มาติ๊ดนึง แต่ฟินดี อิอิ นุ้งแมทมีความสุขน่าดู

ไปเอเชียทีคไม่เคยได้นั่งเลยชิงช้า คือมันแพงไง ฮา เพิ่งรู้ว่ามีแบบวีไอพีด้วย แฮร่

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 45%} 02.10.58::
«ตอบ #404 เมื่อ02-10-2015 01:40:25 »

เคยไปเอเชียทีคแต่ไม่เคยไปนั่งชิงช้าค่ะ รู็สึกว่าแพง T__T

//จริง ๆ ชีวิตนี้ยังไม่เคยนั่งเลยด้วยค่ะ...

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 45%} 02.10.58::
«ตอบ #405 เมื่อ02-10-2015 08:11:16 »

อิจฉาคนมีคู่ ฮือออออออออ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 45%} 02.10.58::
«ตอบ #406 เมื่อ02-10-2015 20:47:17 »

วิคเตอร์นี่ป๋าจริงๆ5555

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 45%} 02.10.58::
«ตอบ #407 เมื่อ02-10-2015 22:07:07 »

อ๊าย พ่อหน้าหนวดน่ายัก

รอซื้อรีปริ้นภาค 1 พร้อม ภาค 2 น่ะ อิอิ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
«ตอบ #408 เมื่อ05-10-2015 23:36:59 »



Only You EP.13 [100%]




ชิงช้าหยุดหมุน และมีคนออกมา พี่พนักงานหันมาเรียกเราสองคนให้ขึ้นไปนั่งต่อคนที่เพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้ ผมยิ้มตื่นตาตื่นใจ กระเช้าเป็นโครงเหล็กกว้างขวาง มีกระจกหนาสีทึบติดรอบด้าน มีที่นั่งสองฝั่ง สามารถนั่งได้สี่หรือห้าคน แต่กระเช้าผมมีเพียงผมกับวิคเตอร์ อาจเป็นเพราะเราซื้อตั๋วเท่ากับสี่คน ด้านในนั้นติดแอร์ และมีแสงไฟอ่อนๆ เพื่อให้แสงสว่าง แต่ก็ไม่สว่างจนเกินไปเพราะเดี๋ยวจะทำให้มองวิวด้านนอกไม่ชัด


“มานั่งนี่มา” เขาพูดพลางตบตักเขาเบาๆ ผมหันไปยิ้มแห้งนิดหน่อย พูดกับเขาเสียงอ้อมแอ้ม


“นั่งตรงนี้ได้มั้ย ผมอยากมองวิวรอบๆ” วิคเตอร์หน้าตึง จ้องหน้าผมนิ่ง จนผมต้องลุกขึ้นช้าๆ ก้าวเดินไปนั่งบนตักเขาตามที่เขาต้องการ เขาโอบสองแขนไว้รอบเอวผม


“อยู่ตรงนี้ก็มองวิวได้” ผมถอนหายใจเล็กน้อย เอาหน้าผากไปโขกกับหน้าผากเขาเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้


“เดี๋ยวมันไม่บลาลานซ์ไง”


“แค่นายนั่งตักฉัน ชิงช้ามันก็ไม่เอียงหรอกน่า” เขาบอกอย่างดื้อดึง บางทีก็ปล่อยให้ตูนั่งเองบ้างก็ได้ ห่างกันแค่นิดเดียวเอง


“เจ็บข้างในก้นอยู่มั้ย” เขาถามหลังจากที่ชิงช้าเริ่มเคลื่อนตัวเกือบถึงจุดสูงสุด ผมละสายตาจากวิวยอดตึกฝั่งตรงข้ามกับเอเชียทีคมามองเขา


“ก็มีเสียดๆ บ้าง…” เขาพยักหน้ารับนิดหน่อย


“…คุณหื่นมานานแค่ไหนแล้ว” วิคเตอร์อ้าปากค้างเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเสียงดังลั่นกระเช้า เล่นเอาผมหน้าเหวอว่ามีอะไรน่าขำ ทำไมอ่ะ ถามว่าหื่นมานานรึยังมันตลกเหรอ


“Seriously?” ผมย่นคิ้วงงๆ แต่ก็พยักหน้าเร็วๆ


“Yes, I wanna know.” วิคเตอร์ยังส่งเสียงหัวเราะมาจางๆ แต่ก็พยายามกลั้นยิ้มเอาไว้ เขาบุ้ยปากไปมา พร้อมสายตาเป็นประกายอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ตอบคำถามผม



“ไม่รู้เหมือนกันนะ รู้แค่ว่าฉันชอบมีเซ็กส์ เวลามีเซ็กส์ ฉันเหมือนได้ปลดปล่อยความคิดทุกอย่าง รู้สึกโล่ง สบายตัว ไม่ปวดหัว ไม่คิดอะไรวุ่นวาย…” เขาร่ายยาวออกมาราวกับพูดแนะนำตัวเองว่าชอบกินอะไร หนังที่ชอบเป็นแนวไหน เพลงที่ฟังนั้นเป็นแนวร็อคหรือป๊อบ


“…เคยมีแม็กกาซีนถามฉันว่ายามว่างฉันทำอะไร ตอนนั้นฉันตอบว่าเข้าฟิตเนส แต่จริงๆ ฉันอยากตอบว่ามีเซ็กส์มากเลย” ผมยิ้มขำ แล้วสักพักก็อดอดหัวเราะไม่ได้ วิคเตอร์เห็นแบบนั้นก็หัวเราะตามผมไปด้วย ผมมองใบหน้าเขาที่ย่นเพราะรอยยิ้ม แล้วก็รู้สึกอิ่มใจ


“คุณช่วยตัวเองบ่อยมั้ย” วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง


“ไม่บ่อยหรอก ส่วนมากมีสาวๆ มาให้ฉันอึ๊บบ่อย…” ผมแบะปาก วิคเตอร์เบิกตามองดุๆ แบบไม่จริงจังใส่ผม


“…อย่าหาเรื่องกันนะ อดีตก็คืออดีต ปัจจุบันฉันอึ๊บนายคนเดียว”


“แค่อึ๊บอย่างเดียวสินะ” ผมแกล้งมองจิกตาใส่เขา วิคเตอร์ยิ้มกว้างและหัวเราะเสียงเบา


“แต่เป็นการอึ๊บที่มีความสุขที่สุดโลก ฉันไม่เคยอึ๊บใครแล้วมีความสุขเท่าได้อึ๊บนายเลยนะ” อันนี้ผมควรยิ้มดีใจมั้ย หรือว่ายังไง คือผมทำตัวไม่ถูก มันคล้ายกับการที่พี่ปุ๋ย พรทิพย์ได้รางวัลนางงามจักรวาลคนที่สองของไทยรึเปล่า


“อันนี้คือผมต้องรู้สึกดีใช่มั้ย” ผมทำหน้าว่าสงสัยจริงๆ วิคเตอร์หัวเราะชอบอกชอบใจใหญ่ที่เห็นสีหน้าเหลอหลาของผม


“แค่รู้สึกว่าสารเอ็นโดฟินมันหลั่งออกมาเยอะมากเลยเวลาที่มีอะไรกับนาย เหมือนจะคลั่งตายให้ได้…” ผมแกล้งทำตาโตกลบเกลื่อนอาการเขินอาย วิคเตอร์ยิ้มหล่อน่ามองมาให้ แต่ผมก็แกล้งหลบสายตานั้นหันไปมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยายามค่ำคืนแทน


“Maybe you can say ‘Victor crazy in Matt’. (เรียกได้ว่าวิคเตอร์คลั่งรักแมทได้เลยล่ะ)” โอเค ผมโดนจู่โจมจากคนที่อันตรายต่อหัวใจผมที่สุดในโลกอยู่


ใจเต้นจนหัวนมบวมหมดแล้วมั้ง


“Like a—crazy in love?”


“I second that. (อย่างนั้นละ)” ผมอมยิ้มขวยเขิน วิคเตอร์ยิ้มหล่อละมุนมาให้ใจเต้นเพิ่มขึ้น


“You falling in love with me, aren’t you? (ตกหลุมรักผมแล้วล่ะซี้)” ผมว่าเสียงแซว ทั้งที่จริงทำกลบเกลื่อนอาการเขินอายของตัวเองไปอย่างนั้นแหละ วิคเตอร์ยิ้มแฉ่ง ยื่นหน้ามาหอมแก้มผม


“Of course, baby. (แน่นอนสิครับที่รัก)” ก็ใจมันหายละลาย ละลาย ละลาย ละไหลไปกับเธอ~


เอาเข้าไปหน้าร้อน หน้าแดง ยิ้มจนแก้มจะแตก เสียงนุ่มๆ รอยยิ้มหล่อๆ คือมันเข้ากันมากเลยพ่อเอ๊ย แม่เห็นแล้วแม่มีอารมณ์ (ฮะ?!)


“ถ่ายรูปกันเถอะ” ไม่รู้จะพูดอะไรละ เนียนถ่ายรูปกลบเกลื่อนก็แล้วกัน วิคเตอร์ยิ้มขำเหมือนรู้ทัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ล้วงหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงและยื่นให้ผมเป็นคนจัดการ ผมกดปุ่มโฮมให้หน้าจอสว่างขึ้นมาและสไลด์หน้าจอเลือกโปรแกรมกล้อง ผมกดถ่ายรูปคู่กันเป็นอันดับแรก ฉีกยิ้มหลายแอค หลายท่า ก่อนที่ผมจะขอเขาไปนั่งฝั่งตรงข้ามเพื่อถ่ายรูปให้เขา ตอนแรกเหมือนจะไม่ยอมให้ไป แต่พอเขานึกได้ว่าแค่ไปถ่ายรูป เลยยอมปล่อยให้ผมลุกเดินไปนั่งฝรั่งตรงข้ามช้าๆ


“เก๊กหล่อหน่อยสิ” เขาทำตามที่บอก ยิ้มมุมปากเล็กน้อย แววตาสีน้ำผึ้งข้นทรงเสน่ห์มองมาทางกล้องอย่างชวนมอง ใจผมเต้นวูบวาบ เพราะเขาดูมีพลังมาก นี่ขนาดแค่ถ่ายรูปปกตินะเนี่ยยังเล่นซะใจสั่นรุนแรงเลย


“ฉันถ่ายให้มั่งมั้ย” เขาเสนอ ผมเลยยื่นมือถือให้เขา จัดโพสท่าเท่าที่จะทำได้ ฉีกยิ้มไปตามเรื่องตามราว วิวสวยไม่สวยกดถ่ายไว้ก่อน ค่อยไปเลือก


“อัพรูปลงอินสตาแกรมมั้ยครับ แฟนคลับคุณเขาจะได้ชื่นใจบ้าง”


“นายจัดการเถอะ” เขายื่นมือถือคืนมาให้ และตบตักเขาเบาๆ เป็นสัญญาณให้ผมกลับไปนั่ง ผมค่อยๆ ลุกขึ้น เดินไปนั่งตักเขาช้าๆ สองแขนเขายกขึ้นมาโอบเอวผมไว้ตามเดิม ผมนั่งก้มหน้าเลือกรูปเดี่ยวของเขา มีหลายช็อตที่ดูดี แต่ช็อตที่ผมเลือกคือตอนที่เขาหันไปมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาพอดี รู้สึกว่าองค์ประกอบมันลงตัว ผมหันรูปให้เขาดูว่าเลือกรูปนี้นะ เขาพยักหน้าไปเรื่อยเปื่อยประมาณว่าอยากทำอะไรก็ทำ


“เออ จริงสิ คุณไม่เห็นฟอโล่วอินสตาแกรมผมเลย” ผมบอกสีหน้างอง้ำ แต่มือก็ยังไม่หยุดแต่งรูปให้ดูสว่างขึ้นอีกนิด


“ฉันฟอโล่วไปแล้ว แต่ใช้อีกอัน” ผมย่นคิ้วแล้วหันไปมองเขาอย่างมึนงง


“อันไหน คุณมีสองแอคเค้าท์หรอ” ผมกระพริบตาปริบๆ มองพ่อหน้าหนวดที่แอบขบกรามแน่นครู่หนึ่ง


“อีกอันฉันเอาไว้แอบดูพฤติกรรมนาย” โอ้โห นี่คุณครูฝ่ายปกครองรึเปล่าเนี่ย มีการเฝ้าระวังพฤติกรรมกันด้วย


“จริงอ้ะ มีจริงเหรอ?!” เขายืนยันว่ามีแล้วบอกชื่อแอคเค้าท์ไอจีอีกอัน ผมรีบหยิบมือถือตัวเองออกมาเช็กดูทันที กดเข้าไปดูที่ Follower ก็เห็นชื่อแอคเค้าท์นั้นตามที่เขาบอกจริงๆ ด้วย


นี่ก็หมายความว่า เขาเองก็ไม่ได้ว่าหายไปจากผมซะทีเดียว เพียงแต่ซุ่มดูผมเงียบๆ เงี้ยอ่ะเหรอ


“นี่คุณเองหรอเนี่ย…” ผมบอกพลางเข้าไปดูแอคเค้าท์นั้น เขาตั้งเป็นไพรเวท รูปโปรไฟล์ก็ใช้เป็นรูปหมากับแมว ผมเพิ่งสังเกตว่ามันคือไมเคิลกับฟอกซ์ คือตอนที่เขาฟอโล่วผมมา ผมไม่ได้คลิกเข้าไปดูเลย เห็นเป็นหน้าหมาแมวก็คิดว่าพวกไอจีสัตว์โลกน่ารักละมั้ง เลยไม่ได้สนใจ แต่จำได้ว่าเวลาผมอัพรูปอะไร เขาจะกดไลค์เสมอ และยังตามไปกดไลค์รูปเก่าๆ ของผมด้วย ซึ่งอันที่จริงรูปใหม่ๆ ผมก็ไม่ค่อยได้อัพรูปตัวเองนักหรอก เพราะสภาพตอนนั้นไม่กล้าออกสื่อโซเชียลอย่างยิ่ง เลยได้แต่อัพรูปต้นไม้ ดอกไม้ วิวสวยๆ และคำคมดีๆ ซะมากกว่า


“…คนฟอโล่วยี่สิบเก้าคน ใครเนี่ย” ผมไม่ได้ถามแบบเมียหลวงจับผิดผัวนะ แค่นึกสงสัยเฉยๆ ว่าไอ้ยี่สิบเก้าคนนี่มันใครกัน คือยังจะมีคนตามฟอโล่วเขาอีกเหรอ ถือว่ายี่สิบเก้าคนนี้นี่คัดสรรมาแล้วใช่มั้ย


“พวกไอ้เบน ทีมงานซีรีส์ ทีมภาพยนตร์ ทีมเบื้องหลังอื่นๆ ที่สนิทกันจริงๆ มีออสตินด้วย และตอนนี้ก็จะเพิ่มนายเป็นคนที่สามสิบ” เขาจิ้มกดติดตามเองเสร็จสรรพ


“ว้าย เท่าอายุคุณเลย ตาแก่ คิกๆ” ผมยิ้มล้อเลียนเขา คนโดนว่าแก่ยิ้มกัดปากไว้ หน้าตาเขาบอกชัดเจนว่ากำลังมันเขี้ยวผม ถึงขั้นอาจอยากจับผมขย้ำบนชิงช้าเลยก็ได้


“แก่แต่ทำให้เด็กแถวนี้สลบคาเตียงบ่อยๆ ก็แล้วกัน” ผมทำตาปรือและทำจมูกบานใส่เขา วิคเตอร์ยิ้มกว้างจนเห็นร่องแก้มแบบที่ผมชอบ ผมเห็นละก็อดมันเขี้ยวไม่ได้เลยยกสองมือขยุ้มเส้นผมเขาเล่นจนมันยุ่งเหยิง ผมแกล้งกระตุกผมเขา อีกฝ่ายก็ส่งแอคติ้งมาดีมาก แสร้งทำสีหน้าว่าเจ็บมาก


“โอ๊ย เจ็บ…” เขาเบะปาก ร้องโอดครวญ เสแสร้งแกล้งทำทั้งนั้น ชิชะ! สมกับเป็นดารานักแสดง


“นี่นะ ถ้ามีชู้นะ ผมจะเอาเครื่องตัดหญ้ามาไถหัวคุณ” ผมแสร้งทำหน้าโหด ขยุ้มเส้นผมเขาไว้เต็มมือ วิคเตอร์เบิกตากว้าง ริมฝีปากบิดเป็นรอยยิ้มขำ แล้วสักพักเขาก็หัวเราะเบาๆ


“เอาเครื่องตัดหญ้าเลยเหรอ ทำไมเอเลี่ยนโหดจัง” ผมยังคงแกล้งทำหน้าโหดใส่เขา อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ ยื่นหน้ามาหอมแก้มผมหนึ่งฟอด


“ส่วนของฉันนะ ถ้านายมีชู้ ฉันจะจับนายล่ามโซ่แล้วขังไว้ในกรงหมา”


“อันนี้พูดจริงใช่มั้ย” ผมถึงกับหน้าเหวอไป ไอ้ยักษ์ไม่ตอบ ได้แต่หัวเราะหึๆ และยิ้มมุมปากอย่างมีนัยยะสำคัญ ผมเชื่อว่าอีตานี่ทำได้จริงนะ เพราะอุปกรณ์ก็เพียบพร้อมขนาดนั้น โซ่ในห้องเซ็กส์ทอยก็มีตั้งเยอะ หยิบมาล่ามผมไว้สักเส้นก็คงได้


“Sweet-giant. (ยักษ์จ๋า)” ผมเอ่ยเสียงหวาน ปล่อยมืออกจากเส้นผมเขา เอาหัวไปถูไถกับซอกคอเขาอย่างออกอ้อน ต้องออเซาะไว้ก่อน จะได้สลัดความคิดนั้นทิ้ง เขาไม่ตอบอะไรแต่ก้มลงมาหอมกลางกระหม่อมผมแบบที่เขาชอบทำ


“อัพรูปเสร็จรึยัง” เขาถามเสียงนุ่ม ผมเลยดึงหัวตัวเองขึ้นจากซอกคอเขา ก้มลงมองบนหน้าจอมือถือ ผมกำลังค้างเขียนแคปชั่นอยู่ เลยรีบเขียนให้เสร็จ ก่อนจะกดอัพโหลดให้เขา วิคเตอร์ดึงมือถือคืนไป กดล็อกเอ้าท์ออกจากไอจีที่มีแฟนคลับตามหลายล้านคน เข้าล็อกอินอีกไอจีหนึ่งที่มีคนตามไม่ถึงครึ่งร้อย พอเข้าไปได้เขาก็กดรับผมเป็นผู้ติดตามทันที ในแอคเค้าท์นั้นมีรูปอัพโหลดไว้เพียงสองรูป รูปแรกเป็นรูปเขาที่ถ่ายกับย่าและแม่สมัยวัยรุ่น มีแคปชั่นใต้ภาพว่า Always


“รูปนี้คุ้นๆ อ๊ะ! สมุดโน้ตที่ผมจดบันทึกเรื่องคุณนี่นา” ผมตาโตทันทีที่เห็นสมุดโน้ตไร้เส้นสีน้ำตาลอันคุ้นเคย มันเป็นสมุดที่ผมใช้จดเรื่องราวของวิคเตอร์ไว้โดยเฉพาะ ตั้งแต่ประวัติส่วนตัว นิสัยส่วนตัว ของชอบ ไม่ชอบ และรายละเอียดยิบย่อยอีกมากมาย ใต้รูปมีแคปชั่นเขียนไว้ว่า


Little-Alien’s Thing


ผมหันไปมองเขาแล้วยิ้มออกมา รู้สึกปลื้มในใจเล็กๆ ที่เขาเก็บไว้ ผมลืมเอาไว้ที่บ้านเขา ไม่ได้หยิบออกมาด้วย อันที่จริงเรียกว่าตอนที่ย้ายเข้าไปอยู่กับเขา ผมไม่เห็นสมุดเล่มนี้อีกเลยดีกว่า สงสัยเขาแอบยึดไปเก็บไว้แน่ๆ


“ฉันเปิดอ่านทุกวันเลยนะ อ่านแล้วเหมือนมีนายมาบ่นให้ฟัง” ผมหัวเราะเบาๆ เพราะในนั้นผมแอบเขียนจิกกัดและบ่นนิสัยแย่ๆ ของเขาเอาไว้เพียบ


“ขอบคุณนะครับที่ยังเก็บไว้” เขายิ้มกลับมาอย่างอบอุ่น มองผมอย่างครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วเหมือนเขาจะนึกขึ้นได้ว่าจะพูดอะไรต่อ


“แล้วนายมีเรื่องอะไรคิด ตอนที่กำลังรอรถไฟฟ้าอยู่” ผมทำหน้าว่า อ้อ แล้วก็กะว่าจะเขยิบลงไปนั่งข้างๆ เขา แต่วิคเตอร์บีบเอวผมไว้แน่น และมองผมอย่างไม่ชอบใจ ผมได้แต่ถอนหายใจอ่อนแรง


“ผมแค่จะลงไปนั่งข้างๆ คุณ”


“ไม่ต้อง ฉันไม่เมื่อย” บ๊ะ! คนเขาจะอยากนั่งด้วยก้นตัวเองบ้างไม่ได้เลย แต่ผมไม่อยากทะเลาะกับเขาด้วยเรื่องเท่านี้เลยยอมนั่งไปแบบอึนๆ


“บอกฉันสิ ว่าคิดเรื่องอะไร” เขาถามย้ำถึงประเด็นที่กำลังสงสัย


“บาสบอกผมว่าคุณจะฟ้องร้องคนในโซเชียลเหรอ” เขานิ่งไปนิด เหมือนกำลังมึนกับสิ่งที่ผมถาม แล้วสักพักเขาก็พยักหน้าหนึ่งที ผมเผยอปากขึ้นเล็กน้อย


“การโดนถ่ายรูปโดยไม่ยินยอม ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ส่วนบุคคลมากพอแล้ว เรื่องนั้นฉันไม่ว่า เพราะฉันเลือกปรากฏตัวต่อสาธารณะเอง แต่ที่ฉันยอมไม่ได้ คือคนที่เข้ามาด่านายแบบไร้มารยาท…” เขาพูดสีหน้าจริงจัง ผมยิ้มอ่อนๆ รู้สึกดีในหัวใจ


“…การฟ้องร้องเรื่องแบบนี้ที่ต่างประเทศถือว่าเป็นเรื่องปกติ เรื่องถ่ายรูปฉันไม่ได้ห้ามด้วยแหละ มัวแต่คิดว่าจะรีบพานายไปกับฉันให้เร็วที่สุด แต่นี่มันมีหลายคนนะแมทที่แสดงความคิดเห็นต่ำๆ ออกมา” ถือว่าคำว่าต่ำเป็นคำที่รุนแรงมากนับตั้งแต่เคยได้ยินคนพูดมา วิคเตอร์พูดสีหน้านิ่ง น้ำเสียงราบเรียบ แต่สิ่งที่แฝงมาในน้ำเสียงนั้น เขาสื่อออกมาว่ามันต่ำจริงๆ


“แต่คุณต้องทำใจนะครับ ในโลกโซเชียล คนธรรมดาก็กลายเป็นผู้พิพากษาได้ เพราะเขาจะคอมเม้นต์และตัดสินอะไรก็ได้โดยผ่านแค่ปลายนิ้ว ทำไมคุณไม่มองคนที่เขาชื่นชมเราล่ะ มีอีกมากมายเลยนะครับที่เขาให้กำลังใจเรา” ผมบอกเสียงนุ่ม ยกมือขวาลูบแก้มสากเพราะหนวดของเขาเบาๆ


“ทำไมกับเรื่องนี้ทำไมนายถึงไม่คิดมาก”


“ไม่ใช่ผมไม่คิดครับ ถ้าเป็นเรื่องคุณผมคิดเสมอ…” วิคเตอร์คลี่ยิ้มบางๆ ออกมา เขายกมือขวามาจับมือขวาผมที่กำลังลูบไล้แก้มเขาอยู่ไปหอมหลังมือหนักๆ


“…แต่ผมก็แค่คิดอีกว่า มันหาประโยชน์ได้น้อยมากที่จะเสียเวลาไปเอาเรื่องกับพวกที่อาศัยอยู่ในกะลาไปวันๆ” วิคเตอร์หรี่ตามองพร้อมยิ้มขำน้อยๆ


“อันนี้คือนายไม่ได้โกรธคนพวกนั้นเลยใช่มั้ย” ผมยิ้มกว้าง ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ


“ผมยังไม่ได้เข้าไปอ่านหรอก แต่ผมก็พอจะนึกออกว่าเขาจะคอมเม้นต์กันประมาณไหน ถ้าเลือกได้ ผมก็เลือกไม่อ่านแล้วกัน…” แน่สิ ไม่นึกออกได้ไง ก็วันนี้เจอมากับตัวเป็นๆ ไม่ต้องไปไล่อ่านคอมเม้นต์ที่ไหน มันแสดงความเห็นต่อหน้าแถมสาดน้ำให้อีกนี่ไง แต่ผมไม่บอกวิคเตอร์หรอก เพราะถ้าบอกไป ผมกล้ารับรองเลยว่า ไอ้พวกผิวกร้านหน้าดำสามคนนั้นโดนบอดี้การ์ดวิคเตอร์ไล่ล่าแน่นอน



“…ผมก็ไม่ชอบใจเหมือนกัน แต่คุณปล่อยไปได้มั้ย ผมไม่ได้มีเมตตากับคนโลกแคบพวกนั้นนะ แต่ผมว่าเอาเวลานั้นมา เอ่อ…” พ่อจะพูดขึ้นมาจริงๆ ก็รู้สึกอายจนหน้าร้อน ผมกะแค่พูดหยอกเท่านั้นนะ แต่พอจะถึงประโยคจริงๆ ก็ดันเขินขึ้นมา


“มาอะไร?” วิคเตอร์ถามด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น ผมเลยยื่นหน้าไปกระซิบใกล้ๆ หูเขาแทน


“Fuck me.” ผมรีบดึงหน้าตัวเองออก หน้าร้อนแทบระเบิดระเบ้อ วิคเตอร์เบิกตากว้าง แววตาเขาวาววับ ทอประกายวิบวับ รอยยิ้มกรุ้มกริ่มผุดขึ้นบนใบหน้า


“ยังไม่หายดี อยากมีเรื่องกับฉันบนเตียงใช่มั้ย” แล้วผมก็อดยิ้มเขินไม่ได้ ผมห่อไหล่ ฉีกยิ้มยิงฟังเพราะความอาย ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะพูดจาลามกได้แบบนี้ สงสัยวิคเตอร์ต้องเริ่มแพร่เชื้อมาให้ผมแล้วแน่เลย วิคเตอร์หัวเราะเมื่อเห็นผมยิ้มเขินและยกมือปิดหน้า แต่ก็แหวกนิ้วให้เห็นลูกตาที่กำลังมองหน้าเขาอยู่ เขายิ้มกว้างด้วยความตลกกับท่าทีของผม


“พูดแล้วอย่าคืนคำนะ ฉันจำแม่นนะเรื่องแบบเนี้ย หายดีเมื่อไหร่ ฉันจะใส่ไม่ยั้งเลย” ผมเอามือออกแล้วแลบลิ้นใส่เขา วิคเตอร์ยื่นหน้ามาทำท่าจะกัด ผมดันหน้าตัวเองออกแล้วผลักหน้าเขาหนี เราสองคนหัวเราะเริงร่า ยื่นหน้าหลอกล่อกันไปมา จนกระทั่งผมหน้างอเพราะหัวเราะจนเหนื่อยแล้ว เลยซุกหัวลงไปที่ซอกคอเขาตามเดิม


“ผมไม่ได้อยากถามบ่อยๆ หรอกนะ แต่ตอนนี้เรื่องของคุณกับผม คงเริ่มเป็นข่าว แล้วมันก็จะเริ่มเป็นประเด็น คุณจะถูกมองไม่เหมือนเดิม หน้าที่การงานของคุณอาจได้รับผลกระทบ…” ผมทอดสายตามองวิวแสงไฟดวงเล็กดวงน้อยจากยอดตึกที่ทอแสงคล้ายดวงดาวบนท้องฟ้า


“…คุณอาจใช้ชีวิตลำบากขึ้น…” ผมพ่นลมหายใจออกมาแผ่วเบา


“…คุณกลัวบ้างมั้ย” เรื่องแบบนี้มันมีปัจจัยมากมาย ไม่ใช่แค่ว่าเรารักกันเท่านั้นจบ ผมรักเขา และเขาบอกว่ารักผม นั่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดีมากในชีวิตผม แต่ก็ต้องยอมรับว่า เมื่อมีคนที่รับได้ ใจกว้างมากพอที่จะเปิดใจให้กับความรักของเราสองคน แต่ก็ยังมีคนที่พร้อมต่อต้านอยู่เช่นกัน แล้วเขาเป็นบุคคลสาธารณะแบบนี้ อยู่ในที่โล่งแจ้ง คนมองเห็นเขาชัดเจนมาก ย่อมต้องมีทั้งคนที่รักตัวตนเขาจริงๆ กับคนที่รักเขาเพราะเปลือกนอกที่ห่อหุ้มเขาไว้ พอเนื้อในไม่ใช่อย่างที่คิด คนประเภทนี้จะหันหลังใส่เขาทันที


อย่าว่าแต่เขาเลย ผมเองก็ยังมีพ่อและแม่ที่ยังยอมรับไม่ได้แม้กระทั่งตัวตนของผม ตอนนี้พ่อกับแม่อาจจะยังไม่รู้ข่าว เพราะเขาทั้งสองคนไม่ใช่คนที่ตามข่าวบันเทิง แต่ผมเชื่อว่ายังไงวันนึงพ่อกับแม่ก็ต้องรู้ และผมยังไม่รู้เลยว่าพอถึงวันนั้น บทสรุปจะออกมาเป็นยังไง


“เหมือนที่นายบอก ว่าฉันยังมีนาย…” ผมคลี่ยิ้ม ยังคงนอนซุกไหล่และคอเขาไว้เหมือนเดิม


“…ฉันเคยผ่านความกลัวในชีวิตมาถึงสองครั้งคือตอนที่ฉันเสียแม่กับย่าไป ฉันไม่เคยสลัดความกลัวออกจากใจได้ และฉันคิดว่ายังไงความกลัวก็จะยังอยู่ไปแบบนี้อีกนาน…” เขาก้มลงสูดมเส้นผมของผมอย่างแผ่วเบา ดีนะที่เมื่อเช้าสระผม


“…จริงๆ แล้วฉันไม่ใช่คนเข้มแข็ง ฉันเป็นคนขี้กลัว ฉันอาจจะอ่อนแอง่ายกว่าที่นายเห็น แต่ฉันเชื่อว่าถ้ายังมีนายอยู่ด้วย ฉันก็จะผ่านทุกอย่างไปได้” ผมยิ้มบางๆ แต่แก้มแทบแตกอยู่ใต้คางเขา สำหรับวิคเตอร์แล้ว นี่เป็นประโยคที่หวานมากๆ แล้วละ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนที่ชอบตะคอกและเสียงดังใส่ผม (แต่ ณ ตอนนี้ก็อย่าให้เขาโกรธแล้วกัน)


“Sentimental. (แหวะ)” แล้วผมก็หัวเราะคลอไปกับเสียงหัวเราะทุ้มๆ ของวิคเตอร์ ผมยกหัวขึ้นจากซอกคอเขา มองหน้าเขาด้วยรอยยิ้มและบอกเสียงเจื้อยแจ้ว


“ผมจะอยู่เคียงข้างคุณเหมือนแบล็ควิโดวเคียงข้างกัปตันอเมริกาเอง”  วิคเตอร์ยิ้มขำแล้วสักพักเขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อย


“แน่ใจนะว่าจะเป็นแบล็ควิโดว ชื่อของเธอคือนาตาชานะ” ผมยิ้มค้างทันที ก่อนจะเปลี่ยนมาทำหน้าบู้ใส่เขา วิคเตอร์หัวเราะอ้าปากกว้าง ผมย่นจมูกกับปาก ลืมไปซะสนิทว่าเจ๊แมงมุมแม่หม้ายชื่ออะไร


“ไม่เป็นแล่ว” ผมบอกงอนๆ เบะปากเหมือนเป็ด หน้าตางอง้ำเล็กน้อย วิคเตอร์ยิ่งหัวเราะชอบใจ ผมหันไปจิ๊ปากใส่เขา ยกมือตีกล้ามแขนแน่นๆ ของเขาอย่างแรงจนเขาสะดุ้ง


“เฮ้ย! โห เจ็บนะเนี่ย” ผมกัดริมฝีปากล่าง ถลึงตามองเขา ไม่ได้โกรธอะไรจริงจังหรอก แค่รู้สึกหน้าร้าวเล็กน้อยที่ดันไปอยากเหมือนแฟนเก่าอีกคนของเขา ถึงยัยหน้าเหลี่ยมนั่นจะไม่ใช่แฟนที่เขาคิดคบจริงจังก็เถอะ


ผมทำหน้างอใส่เขา วิคเตอร์โอ๋ผมยกใหญ่ แต่ก็ยังไม่หยุดยิ้มขำ มีการทำมาเป็นชี้นิ้วไปข้างนอกเหมือนหลอกเด็กให้หันไปสนใจอย่างอื่นเวลางอแง ผมก็บ้าจี้หันไปมองตามนะ แล้วเราก็นั่งมองวิวพร้อมกับเปลี่ยนเรื่องคุย นั้งคุยงุ้งงิ้งกันสองคนจนกระทั่งครบรอบของพวกเรา


วิคเตอร์กับผมเดินออกมานอกกระเช้าชิงช้า ผมหยิบมือถือมาโทรหาบาสเพื่อถามทางไปร้าน บาสบอกให้เดินตรงไปเรื่อยๆ จากชิงช้าก็จะเจอร้านเอง ผมกดวางสาย เดินจับมือไปกับวิคเตอร์ ระหว่างทางมีผู้หญิงเหลือบมองเขาบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ ตั้งหน้าตาเดินของเขาไปเรื่อย ผมไม่ได้คิดหึงอะไรหรอก แค่รู้สึกว่าช่วงนี้วิคเตอร์เขาก็น่ามองจริงๆ นั่นแหละ อาจเพราะเขายิ้มเก่งขึ้น ไม่หน้านิ่งเหมือนก่อน สีหน้าเขาดูสดใส ไม่เย็นชาเหมือนเก่า ยิ้มทีก็เรียกสายตาสาวๆ และเก้ง กวาง ได้มากโขเลยล่ะ


“แมท หยุดยิ้ม”ผมที่กำลังยิ้มเรื่องเขาเพลินๆ ถึงกับยิ้มสะดุด แหงนหน้าไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ยิ่งไม่เข้าใจไปอีกเมื่อเห็นว่าหน้าเขาตึงขึง ผมกระพริบตาปริบมองเขาแล้วเอ่ยปากถามเสียงหลง


“ทำไมอ่ะ” วิคเตอร์ดูหงุดหงิด เขาสะบัดสายตาไปมองทางริมระบียงแม่น้ำ ผมเอียงคอมอง ก็เห็นผู้ชายกล้ามโตประมาณสามสี่คนกำลังมองมาอยู่ คิ้ววิคเตอร์ขมวดแน่น รีบเร่งฝีเท้าจูงมือผมให้ก้าวตามเขาไป โดยที่ผมยังงงอยู่เลยว่าเขาเป็นอะไร แต่ต้นเหตุน่าจะมาจากผู้ชายกลุ่มนั้น


คือเขาไม่ชอบใจเหรอที่โดนผู้ชายด้วยกันมองด้วยสายตากรุ้มกริ่ม แหม เขาก็ต้องทำใจบ้างนี่นา เพราะเขาเองก็สเป็คเกย์ เก้ง กวางไม่น้อย


“ร้านนี้ใช่มั้ย” ผมเร่งก้าวเท้าเดินตามเขามาจนถึงจุดหมายปลายทาง ผมพยักหน้ารับเร็วๆ มองสีหน้าเขาที่ยังตึงๆ อยู่บ้างเล็กน้อย


“พวกมันอยู่นั่น” วิคเตอร์เบี่ยงคางไปทางพวกคุณเบนที่โบกไม้โบกมือเรียกอยู่ตรงมุมด้านนอกของร้าน พวกเขาเลือกนั่งตรงมุมรั้วร้านด้านนอกพอดี คงกะมานั่งรับลมเย็นๆ


“สนุกมั้ยแมท” อันเดรถามพลางกระดกเบียร์เข้าปาก ผมฉีกยิ้มกว้างก่อนตอบ


“สนุกมากครับ วิวสวยดี” อันเดรยิ้มตอบกลับมา วิคเตอร์ดึงผมให้เข้าไปนั่งด้านในที่เป็นมุมเหลี่ยมของร้านพอดี


“อ้าว แล้วแกไม่สนุกรึไง ทำไมหน้าตายับขนาดนี้” เบนเนดิคท์เอ่ยถามวิคเตอร์ที่ยังหน้ามุ่ยไม่เลิก แต่ก็ไม่ตึงเครียดเหมือนก่อนตอนมาถึงร้านแล้ว


“มีคนมองแมท” ทุกคนเลิกคิ้วขึ้น รวมถึงผมด้วย วิคเตอร์พ่นลมหายใจเซ็งๆ


“ฉันไม่ชอบ มองอยู่ได้” เขาว่าหน้าตาขมุกขมัว แล้วหันมาทางผมที่ทำหน้าเอ๋อใส่เขาอยู่ สักพักเขาก็ก้มหอมแก้มผมแรงๆ ต่อหน้าพวกเพื่อนเขานั่นแหละ เล่นเอาผมอ้าปากค้าง หันไปมองทุกคน บาสอ้าปากค้าง กระพริบตามองปริบ แต่เบนเนดิคท์กับอันเดรยิ้มเอือมกลับมาให้ราวกับเข้าใจว่าวิคเตอร์เป็นอะไร


“ไอ้ขี้หึง!” อันเดรว่าเสียงตึง ส่ายหัวคล้ายว่าอ่อนใจเหลือเกิน


“เขาก็แค่มอง ไม่ได้จะมาพรากเอเลี่ยนน้อยไปจากแกสักหน่อย วู้!” เบนเนดิคท์ส่ายหัวเอือมๆ อีกคน วิคเตอร์ยังหน้าตึงอยู่นิดหน่อย ส่วนผมนี่หน้ายังเอ๋ออยู่มาก


คือสรุปที่เขาเป็นงี้ ไม่ใช่เพราะไม่พอใจที่หนุ่มกล้ามโตเหล่านั้นมองเขาหรอกเหรอ ไม่พอใจเพราะคนพวกนั้นมองผมเงี้ยเหรอ แล้วเขารู้ได้ไงว่าพวกนั้นมองผม เขาอาจจะมองวิคเตอร์ก็ได้นะ


“ฉันหวงของฉัน” วิคเตอร์ว่าหน้าตาย เอาแขนขวาโอบรอบเอวผมไว้แน่น ผมนี่ไม่รู้จะเขินหรือว่าจะยังไงดี เขาชอบทำให้ผมทำตัวไม่ถูกอยู่เรื่อย


“เออๆ สั่งอะไรมาแก้หึง แก้หวงก็แล้วกัน” อันเดรตัดบท คงอาจรู้ว่าถ้ายิ่งพูดจะยิ่งเป็นการต่อความยาวสาวความยืดกับไอ้ยักษ์ขี้หวงตนนี้ วิคเตอร์ก้มลงมองผมทั้งที่ยังหน้านิ่วคิ้วขมวด ผมฉีกยิ้มเจื่อนๆ ไปให้ กำลังคิดว่าเขาพาลมาโกรธผมด้วยหรือเปล่า


“ไอ้วิคเตอร์ จะเอาอะไร สั่งเขาเร็ว…” วิคเตอร์ละสายตาจากผมหันไปหาเด็กเสิร์ฟ รับเมนูมาดู เขาไม่อนุญาตให้ผมดื่มแอลกอฮอล์ เลยสั่งน้ำโค้กมาให้ ซึ่งผมก็ไม่ใช่คอแอลกอฮอล์อยู่แล้วเลยไม่ได้ทักท้วงอะไร


“แฟนแมทนี่ขี้หึงกว่าไอ้เอิร์ทอีกนะ” บาสก้มลงมากระซิบ ผมขยับเปลือกตาขึ้นกว้าง หันไปมองบาสตาโต รีบยกนิ้วชี้ขวามาจุ๊ที่ปาก


“อย่าพูดชื่อเอิร์ท” ผมกระซิบกับบาสให้ได้ยินสองคน อันเดรหันมามองแต่ก็ไม่ได้ซักถามอะไร บาสพยักหน้ารับหน้าตื่น เป็นจังหวะที่วิคเตอร์หันกลับมาจากเด็กเสิร์ฟพอดี ผมรีบฉีกยิ้มให้เขาทันที


“อะไร” เขาถามเสียงห้วน มองผมสลับกับบาสที่หันกลับไปคุยกับเบนเนดิคท์อย่างเนียนๆ แล้ว


“เปล่าครับ นี่ อย่าทำหน้าแบบนี้สิ…” ผมยกสองมือขึ้นไปดึงแก้มเขา ใช้นิ้วโป้งยกมุมปากสองข้างบนหน้าเขาให้มีรอยยิ้ม


“…ขอเล่นมือถือหน่อยสิ” สีหน้าเขาผ่อนคลายขึ้น มือซ้ายล้วงหยิบมือถือจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตมาให้ผม ผมยิ้มให้เขาเพื่อให้เขายิ้มบ้าง แต่กล้ามเนื้อตรงปากเขาแทบไม่กระตุกเลยสักนิด


“เอามือถือนายมา เดี๋ยวเล่นแต่เกมส์ไม่สนใจฉันอีก” ผมยู่ปากเล็กน้อย แต่ก็ยอมหยิบมือถือให้เขาเอาไปเก็บไว้ วิคเตอร์มองหน้าผมทั้งที่ยังตีหน้ายักษ์สมฉายาอยู่ ผมเอียงคอ กระพริบตาใส่เขา มองเขาตาแป๋ว วิคเตอร์มองผมด้วยสายตานิ่งแต่ก็มีแววครุ่นคิด สักพักเขาก็ก้มลงหอมหน้าผากผมหนึ่งที แล้วค่อยเริ่มหันกลับไปเข้าสังคมกับเพื่อนเขา


ผมแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ท่าทางจะไม่ขุ่นข้องหมองใจอะไรแล้วมั้ง งั้นผมนั่งเล่นมือถือดีกว่า ถึงเครื่องเขาไม่มีเกมส์ แต่เขาลืมไปรึเปล่าว่าเครื่องเขาก็โหลดเกมส์ได้ ฮิๆ



....................................................TBC.

เลี่ยนเนอะ 55555+ ให้ได้หวีต ให้ได้หวานบ้างเนาะ

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยนะคะที่อยู่เป็นเพื่อนกันเสมอ  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2015 12:45:34 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
«ตอบ #409 เมื่อ05-10-2015 23:56:19 »

เอาอีกกกกกกกกกกกกกก

รักกันหวานชื่น  :hao7:


เด๋ยววิคเช็คเครื่องตัวเอง คงมีเกมโผล่มาเพียบเลย 55555+

จริงๆนะ -..- หนุ่มๆกลุ่มนั้นคงเหล่วิคมากกว่าแมทอ่ะ กล้ามแน่นซะขนาดนั้น ......อา.....น้ำลายหก  :z1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
« ตอบ #409 เมื่อ: 05-10-2015 23:56:19 »





ออฟไลน์ starhihi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
«ตอบ #410 เมื่อ06-10-2015 00:16:24 »

มดพาเหรดมาแล้วนั่น โอ๊ย เขินอ่ะ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
«ตอบ #411 เมื่อ06-10-2015 01:12:40 »

พ่อยักษ์ขี้หึง งานนี้เกมเต็มเครื่องแน่ๆ 5555+

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
«ตอบ #412 เมื่อ06-10-2015 01:32:26 »

อยู่ตรงไหนก็หวานได้ แหมอิจฉาเว้ยเฮ้ย

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
«ตอบ #413 เมื่อ06-10-2015 03:03:58 »

หวานกันแบบนี้นานๆนะ อย่าได้มีเรื่องมาดราม่าเลยยย  :3123:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
«ตอบ #414 เมื่อ06-10-2015 09:08:18 »

หวานอ่ะ  :-[
ภาวนาให้พ่อแม่แมทรับได้ทีเถอะ
เรื่องงานพ่อยักษ์ขี้หึงถ้ามีข่าวเรื่องแมทหลุดออกไปก็กลัวมาม่า
แต่วิคคงแก้ปัญหาได้

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
«ตอบ #415 เมื่อ06-10-2015 09:36:18 »

สวีทหวานเว่อร์



ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
«ตอบ #416 เมื่อ06-10-2015 10:38:20 »

หมั่นไส้มาก5555555555

เจอคำผิดด้วยค่ะ

ผมแล้งมองจิกตาใส่เขา ->แกล้ง

หน้าตาเขาบอกชัดเจนว่ากำลังมันเคี้ยวผม  ->หมั่นเขี้ยว

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
«ตอบ #417 เมื่อ06-10-2015 11:13:42 »

 :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
«ตอบ #418 เมื่อ06-10-2015 11:19:38 »

พี่ยักษ์ทำตัวน่ารักมากอะ อ่านแล้วอิจฉาเอเลี่ยนน้อยสุดๆๆ ฟินเว่อร์  :m3: :m3:

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.13 100%} 05.10.58::
«ตอบ #419 เมื่อ06-10-2015 15:43:45 »

หวานเว่อร์ อิจฉาเอเลี่ยนเลยทีเดียว
 :katai5: :katai5: :katai5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด