:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 800318 ครั้ง)

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.14 100%} 13.10.58::
«ตอบ #450 เมื่อ14-10-2015 09:47:48 »

โอ้ยยยย....แอบหมั่นไส้พ่อกอลั่มยักษ์ 55555

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.14 100%} 13.10.58::
«ตอบ #451 เมื่อ14-10-2015 16:59:03 »

เด็กน้อยจะโหลดเกมใส่เครื่องวิคเตอร์แล้ว  o18
ขอหวานแบบนี้ไปเรื่อยๆเลยค่ะ เราชอบหวานๆ  :mew3:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.14 100%} 13.10.58::
«ตอบ #452 เมื่อ16-10-2015 22:35:57 »

แปะ :mew1:

ออฟไลน์ kangkaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.14 100%} 13.10.58::
«ตอบ #453 เมื่อ17-10-2015 08:52:42 »

แป๊ะคร้าจะมาอ่าน

ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.14 100%} 13.10.58::
«ตอบ #454 เมื่อ17-10-2015 17:51:03 »

 :o8:ยังแซ่บเหมือนเดิมเลยพี่วิค ขอบคุณมากจ้า ติดตามน๊า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2015 18:13:13 โดย mochimanja2 »

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #455 เมื่อ17-10-2015 21:15:22 »



Only You EP.15 :: The second wish from The Gift of God. [50%]




   ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย ร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรงจากเหตุการณ์เมื่อคืนเหลือเกิน วิคเตอร์เล่นไม่หยุดพัก ทำต่อเนื่องจนผมจะหมดแรง ผมแทบจะร้องขอชีวิตจากเขา แต่ไอ้ยักษ์ผู้ทรงพลังนั้นฟังที่ไหน มีเท่าไหร่ใส่เข้ามาไม่ยั้ง ผมนี่เมื่อยไปหมด ร้องจนแทบใจจะขาด แต่ก็ไม่ได้รับความปราณีจากเขาเลยสักนิด
   

เขาพาผมเล่นโยคะเมื่อคืนนี้
   

ไม่รู้ไปคึกอะไรมา เขาบอกว่าช่วงที่ไม่ได้ติดต่อผม โยคะเป็นอีกหนึ่งอย่างที่เขาต้องทำเพื่อช่วยให้หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้นสำหรับการถ่ายทำหนัง นักแสดงผู้ชายในเรื่องทางค่ายหนังส่งไปเรียนหมด เพื่อที่ร่างกายจะได้มีความยืดหยุ่นสำหรับการถ่ายทำ เพราะหนังแอคชั่นไซไฟแนวโลกอนาคต ต้องใช้ลีลาการบู๊เยอะพอสมควร อันนั้นผมเข้าใจได้ว่ามันเป็นงานของเขา แต่ทำไมต้องมาลากผมไปเล่นด้วยก็ไม่รู้ คือตูจะตายห่าคาเสื่อโยคะอยู่แล้ว
   

ลีลาการเล่นโยคะของเขานั้นหลายท่าหลายทางเหลือเกิน แถมยังมีน้ำใจช่วยยกตัวผมในบางท่า บางทีก็มีน้ำจิตอันดีงามในการช่วยดัดตัวผมให้อ่อนโค้งไปตามองศา ซึ่งผมก็ร้องบอกแล้วว่าช่วยให้เกียรติคนที่ไม่เคยเล่นด้วย จู่ๆ ถูกมาจับเล่นครั้งแรกวันแรกและจัดหนักจัดเต็มขนาดนี้ สภาพร่างกายผมแทบพัง พออาบน้ำเสร็จ หัวถึงหมอนปุ๊บผมก็สลบทันที รู้สึกตัวลางๆ ว่าโดนวิคเตอร์จับมือให้ไปจับลูกชายเขาก่อนนอนอย่างที่เขาชอบ
   

ผมแหงนหน้าไปดูพ่อยักษ์นักโยคะระดับโลกที่ตอนนี้กำลังหลับสบาย ลมหายใจเข้าออกอย่างแผ่วเบา แหม สบายตัวเชียวนะ ผมนี่ตัวร้าวรานไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นพอได้มองหน้าเขายามหลับผมก็ยิ้มออกมา ผมขยับหัวจากต้นแขนเขามาซบลงบนอก วิคเตอร์ขยับตัวเล็กน้อย แล้วแขนซ้ายเขาก็ตามมาโอบไหล่ผมไว้ แต่เขาก็ไม่ได้ตื่นลืมตาขึ้นมา ยังคงหลับตาพริ้มต่อไป
   

ผมขยับมือซ้ายที่กอบกุมความเป็นชายของเขาไว้ทั้งคืน ตอนนี้มันแข็งตัวแบบอ่อนๆ ไม่ได้แข็งตัวเต็มที่ ผมลูบลำใหญ่โตของเขาด้วยปลายนิ้วแผ่วเบา สัมผัสความนุ่มลื่นและผสานด้วยความกระด้างเล็กน้อย ผมเคยนึกสงสัยว่ายักษ์น้อยของเขานี่จะมีวันหมดฤทธิ์บ้างมั้ย ทำไมถึงได้ทรงพลังและมีอานุภาพร้ายแรงเหลือเกิน ยามปกติก็ว่าเร่าร้อนแล้ว ยามเมายิ่งร้อนเข้าไปใหญ่ แต่อย่าให้ได้อยู่ในช่วงเวลายามโกรธ เพราะยักษ์น้อยจะพิโรธรุนแรงมาก แทบจะทำลายถ้ำผมพินาศ
   

“อืม…” เสียงครางเบาๆ ดังมาจากผู้ชายหน้าหนวดสุดหล่อที่ยังหลับสนิทอย่างสบายตัว ผมยกยิ้มบางเบา มือซ้ายกอบกุมลำแข็งแรงของเขาไว้ จับๆ บีบๆ อย่างเพลินมือ เจ้ายักษ์ส่วนย่อก็ขยายตัวสู้มือเป็นอย่างดี ผมบีบเล่นอย่างนั้นสักพักแล้วผล็อยหลับไปอีกรอบ เพราะยังรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวอยู่
   


รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่โดนก่อกวนแถวๆ ซอกคอกับแก้มจากหนวดสากๆ ของคนตัวโต ผมปรือตาขึ้นมามอง ก็เห็นพ่อยักษ์รูปหล่อกำลังคร่อมร่างผมอยู่ ก้มลงมาสูดดมที่ซอกคอผมทีละจุด ผมยิ้มเล็กน้อย แหงนหน้าขึ้นนิดหน่อยเพื่อให้เขาไซ้ได้สะดวก วิคเตอร์คงรู้ว่าผมตื่นแล้วเลยเงยหน้าขึ้นมามองผมที่มองเขาด้วยใบหน้าง่วงแต่ก็ยังมีรอยยิ้มติดที่ปาก
   

“Hi” ผมเอ่ยทักเขา วิคเตอร์คลี่ยิ้มกว้าง ยิ้มแบบที่ผมชื่นชอบ ยิ้มจริงใจ ยิ้มจนหล่อกระชากใจออกไปจากอก
   

“Good morning, baby. (อรุณสวัสดิ์ที่รัก)” ผมยิ้มเยิ้ม ยกสองแขนขึ้นโอบรอบคอเขา สองมือเลื่อนขึ้นไปขยุ้มเรือนผมนุ่มๆ ของเขาแถวท้ายทอย
   

“My baby-giant. (ยักษ์ที่รักของผม)” ผมบอกเสียงอ้อน วิคเตอร์ยังคงยิ้มกว้าง เขาก้มลงมาหอมหน้าผาก ไล่ไปที่พวงแก้มสองข้าง แล้วไล่ลงไปที่ปลายคางที่มีไรหนวดขึ้นจางๆ ของผม ก่อนจะปิดท้ายด้วยการจูบปากแผ่วเบา แต่สักพักก็เริ่มส่งลิ้นมารุกล้ำพื้นที่ด้านใน ผมเองก็อ้าปากตอบรับลิ้นอุ่นของเขาอย่างคุ้นเคย วิคเตอร์เกลี่ยลิ้นอย่างช้าๆ แต่วาบหวิว เขาดูดดึงจนเกิดเสียงน้ำลายกระทบกัน ผมดูดดึงให้เขาบ้าง
   

“อืม…” เขาส่งเสียงพอใจมาจากในลำคอ แล้วก้มลงมาประกบปากผมแนบสนิท ส่งลิ้นมาหยอกล้อกับผมอย่างอ่อนโยน เขายกตัวขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่ยอมถอนจูบออก เขาเลื่อนสองแขนลงไปสอดไว้ใต้ขาพับทั้งสองข้างของผมแล้วดันให้ก้นผมกระดกขึ้นมา เขาเอาส่วนปลายแก่นกายของเขาที่แข็งตัวแล้วมาจ่อตรงปากทางเข้าผม เตรียมพร้อมจะเข้ามา แต่ผมค่อยๆ ดันหน้าเขาออกจนน้ำลายยืดติดปากเราสองคน
   

“พักได้มั้ย เมื่อคืนผมปวดตัวจากโยคะของคุณมาก นะครับ น้า…” ผมยกสองมือจับกรอบหน้าเขาไว้ ถูไถแผ่วเบา วิเตอร์มองผมนิ่งๆ สักพัก ผมก็ทำหน้าอ้อน ส่งสายตาร้องขอไปให้ แล้วเขาก็ถอนหายใจทำหน้ายอมแพ้
   

“ไม่น่าพานายเล่นโยคะเลย เสียกำไรการค้าหมด” เขาว่าเสียงเซ็ง หน้าเซ็งพอๆ กับเสียง ผมยิ้มอย่างเอ็นดู ดึงท้ายทอยให้เขาลงมานอนบนอกผม วิคเตอร์เอาแก้มขวาแนบลงกับเนื้ออกของผม สองแขนเขาเลื่อนมาสอดไว้ใต้ร่างผมแทน ผมยกสองมือขึ้นขยุ้มเส้นผมของเขาอย่างเพลินมือ
   

“ผมก็อยากนะ แมทน้อยก็ตื่นแล้ว แต่ผมเมื่อยจริงๆ” ผมรู้สึกได้ว่าเขายิ้ม ผมเลยยิ้มตาม ก้มลงจูบกลางกระหม่อมเขาอย่างมันเขี้ยว
   

“แต่นายเล่นไว้ก็ดีนะ จะได้กล้ามเนื้อแข็งแรง จะได้มีแรงเล่นท่ายากๆ กับฉันเวลาอยู่ในห้องเซ็กส์ทอย” อ้อ นี่คือจุดประสงค์อันแท้จริงสินะไอ้ยักษ์เจ้าเล่ห์ กะให้ผมฝึกวิทยายุทธ์ไว้เพื่อตัวเองอยู่ดีนี่เอง
   

“ไม่ต้องเล่นโยคะ ผมก็เล่นท่ายากกับคุณไม่ได้เหรอครับ” ผมถามอย่างซื่อ ไม่ได้แอ๊บแบ๊วถามนะ วิคเตอร์ยกหัวขึ้นจากอกผมส่งยิ้มกริ่มมาให้
   

“ก็ได้ แต่ฉันเป็นห่วงนาย กลัวว่าถ้าเล่นยาก เล่นแรงไป กล้ามเนื้อนายจะเกร็งหรืออักเสบ แต่การออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อนายแข็งแรงขึ้นนะ” ถ้าฟังเผินๆ จะดูเป็นเรื่องเป็นราว เป็นการเป็นงานมาก ดูมีสาระ แต่ถ้าจับใจความจริงจัง ก็จะรู้ว่านี่มันเรื่องสาระทางเพศล้วนๆ
   

“คุณก็อย่าเล่นแรงนักสิ สงสารผมบ้างก็ได้ ช้ำหมดแล้ว” ผมว่าหน้าบูดน้อยๆ วิคเตอร์ยิ้มเริงร่ากลับมา
   

“นายไม่ชอบเหรอ” น่ะ ชอบถามจี้จุด แล้วดันถูกจุดด้วย ผมเลยได้แต่รู้สึกร้อนผ่าวที่หน้า ก่อนจะตอบเสียงกระท่อนกระแท่น
   

“กะ… ก็ชอบ ตะ… แต่ไม่ชอบเวลาคุณทำแรงตอนคุณโกรธ” เวลาเขาโกรธ ความโหดจะมีเพิ่มขึ้น ถึงผมเพิ่งจะพิสูจน์ไปครั้งเดียวก็เถอะ แต่ผมไม่อยากเจอแบบนั้นอีกแล้ว เขาน่ากลัวมากเลยนะ เวลาทำแรงๆ ยามโกรธ ถ้าให้เลือก ขอเขาทำแรงๆ ตอนเมาหรือตอนปกติดีกว่า
   

“ฉันก็ไม่ได้โกรธบ่อยสักหน่อย นายก็แค่อย่าขัดใจฉันแค่นั้นแหละ” แหม่ ไอ้ความเอาแต่ใจ ความหน้ามึนของเขานี่คงรักษาไม่หายแล้วสินะ
   

“คุณก็ชอบเอาแต่ใจกับผมอ่ะ ยักษ์ขี้ดื้อ” วิคเตอร์ยิ้มไม่รู้สึกรู้สาอะไร เขายื่นหน้ามาหอมแก้มผมไปหนึ่งฟอด
   

“เอเลี่ยนน้อยก็ต้องปราบยักษ์ให้ได้สิครับ” ผมเชิดปากขึ้น คงทำได้หรอก ดื้อยิ่งกว่าเด็กสิบคนรวมกัน แล้วชอบว่าผมดื้อ เขาก็ดื้อเหมือนกันนั่นแหละ ผู้ใหญ่อะไร เลเวลความเอาแต่ใจสูงกว่าตัวผมอีก แต่ผมพูดมากไม่ได้หรอกนะ เดี๋ยวก็งอนอีก
   

“วันนี้ไปไหนกันดี” เขาเอ่ยถามพลางขยับขึ้นมาแทะเล็มซอกคอผมทีละเล็กทีละน้อย ผมเอียงคอให้เขาทำตามสะดวก แล้วก็ครุ่นคิดไปด้วยว่าวันนี้จะพาสามฝรั่งไปไหนดี ไม่รู้ว่าบาสมีโปรแกรมอะไรเตรียมไว้บ้างรึเปล่า
   

“ผมอยากพาคุณไปวัดนะ” ผมบอกพลางหลับตาพริ้มยามที่โดนเขาลากลิ้นขึ้นลงบริเวณซอกคอ
   

“หือ วัดเหรอ” วิคเตอร์ถามเสียงกรึ่มแต่ก็ไม่ยอมออกจากซอกคอผม ยังสูดดมซุกไซ้ไปเรื่อย
   

“ครับ วัดไทย สวยมากเลยนะ อะ… อืม… พอเถอะครับ…” ผมยกมือจับหน้าเขาไว้แล้วดึงออกจากซอกคอตัวเอง วิคเตอร์หายใจหอบกระเส่า แววตาที่มองมานั้นราวกับจะแผดเผาผมให้มอดไหม้ ผมกลืนน้ำลายลงคอ มองสำรวจใบหน้าเขาที่ตอนนี้หนวดดกดำเหลือเกิน
   

“วันนี้โกนหนวดกันนะ ว่าจะโกนนานแล้วยังไม่ได้โกนสักทีเลย” ผ่านมาสามวันแล้วหลังจากที่บอกว่ากลับมาจากซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ผมแล้วจะโกน อีกสี่วันวิคเตอร์ก็ต้องบินกลับอเมริกาแล้ว นึกแล้วแอบหวิวในหัวใจ
   

“ไม่อยากโกนเลย” เขาไม่ชอบโกนหนวด เขาไม่ชอบหน้าตัวเองตอนไม่มีหนวด คือถ้าโกนให้เขา ต้องโกนแบบบางๆ เอาออกนิดเดียว คือแทบดูไม่ออกเลยว่าโกนมาแล้วแน่เหรอ
   

“ต้องโกนสิ จะถึงวันเดินพรมแดงแล้ว เดี๋ยวแฟนผมไม่หล่อนะ”
   

“แค่นี้ยังไม่หล่อพออีกเหรอ” จ้าพ่อรูปหล่อ รู้แล้วละว่าหน้าตาดีจริง
   

“ก็หล่อ คุณหล่อสำหรับผมตลอดแหละ แต่แค่ต้องเอาหนวดออกบ้าง จะได้ใส่ชุดสูทออกมาหล่อๆ ไง ไม่ชอบเหรอ สาวจะได้มองเยอะๆ” ผมใช้นิ้วโป้งเกลี่ยแก้มเขาเล่นไปมา
   

“สาวมองแล้วหนุ่มคนนี้จะมองด้วยรึเปล่า” วิคเตอร์จะมีมุมนี้ มุมอ้อน อ้อนแบบว่า สนใจเขาอยู่แน่ๆ ใช่มั้ย สนใจเขาคนเดียวหรือเปล่า เขาคือคนที่ผมสนใจเสมอแน่นะ เหมือนเด็กเวลาถามแม่ไม่มีผิดว่า มัมมี่รักผมมั้ย มัมมี่กอดผมหน่อยอะไรแบบนี้ ถ้าให้เดา ผมว่าเขาคงอ้อนแม่กับย่าบ่อยแน่ๆ ไม่งั้นจะได้มรดกเยอะแยะขนาดนั้นเรอะ
   

“มองอยู่แล้ว นี่ที่รักของผมนะ ที่รักผมน่ามองเสมอ” ต้องพูดเอาอกเอาใจเขาไว้ เพราะพ่อยักษ์หน้าหล่อเขาจะชอบมาก แล้วผมก็ชอบมากเช่นกันเวลาที่เขายิ้มดีใจจนหน้าตาดูผ่องใส
   

“I do love you.” เขาก้มลงมาจุ๊บปากผมหนึ่งที
   

“So do I.” ผมยื่นหน้าไปจุ๊บปากเขากลับหนึ่งทีเช่นกัน
   

แล้วเราก็ยิ้มกว้างให้กัน ผมยกมือลูบหัวเขาเล่น วิคเตอร์เอาแก้มขวาแนบนอนลงบนอกผมตามเดิม ผมก้มลงหอมหัวเขาอีกที สองมือก็ลูบหัวเขาอย่างเพลิดเพลิน
   

“ฉันชอบสัมผัสแบบนี้ ชอบความรู้สึกนี้ รู้สึกดีที่มีนายอยู่แบบนี้…” ผมยิ้มอ่อนโยน กระชับอ้อมแขนที่โอบรอบท้ายทอยเขาไว้อีกนิด วิคเตอร์ขยับแขนโอบรัดร่างผมไว้แน่นขึ้น
   

“…เพราะมันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับตอนที่ฉันมีแม่และย่าอยู่ด้วย” เขาพูดเสียงทุ้ม ผมชะงักมือที่กำลังขยุ้มเส้นผมเขาไปนิดหนึ่ง
   

น้ำเสียงเขามีแววโหยหาแฝงเอาไว้อยู่ ผมรู้ได้ทันทีว่าเขารู้สึกยังไง ผมรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ใจเขาสั่นไหวแค่ไหน แม้ผมจะยังไม่รู้รายะเอียดเรื่องราวทั้งหมด แต่ผมรู้ว่าเขารักท่านทั้งสองมาก
   

“I’m here. Always here, baby. (ผมอยู่นี่ อยู่นี่เสมอนะที่รัก)” ผมบอกเขา ก้มลงกดจูบลงบนกลางกระหม่อมเขา จูบแช่ไว้ วิคเตอร์กอดผมแน่นขึ้น
   

“Matt…” เขาเรียกผมเสียงเบา
   

“Yes.” ผมตอบรับเสียงเบาเช่นกัน เรากอดกันเนื้อแนบเนื้อ ส่งไออุ่นถึงกันและกัน ส่งความปลอดภัย ส่งความอุ่นใจให้ถึงใจของอีกฝ่าย
   

“You are my gift of god, and you have been given a first wish to me… (นายเป็นของขวัญจากพระเจ้าของฉัน แล้วนายก็ให้พรข้อแรกฉันไปแล้ว)” ผมนิ่ง รอฟังสิ่งที่เขาจะพูดต่อไป
   

“…Give me a second wish—give me your life, and I will protect it as my life. (ให้พรข้อที่สองกับฉันนะ ยกชีวิตนายให้ฉัน แล้วฉันจะปกป้องมันเหมือนเป็นชีวิตของฉันเอง)” หัวใจผมพองโตกับคำพูดของเขา ใจผมเต้นตึกตักเบาๆ และผมก็รับรู้ด้วยว่าใจเขาเองก็เต้นในจังหวะอ่อนโยนเช่นกัน ผมยิ้มบางเบาแล้วพูดออกมาเสียงนุ่ม
   

“Yes, my guardian-giant. (ครับ พ่อยักษ์องครักษ์ของผม)” ผมไม่รู้ว่าวิคเตอร์ทำหน้ายังไง แต่ผมคิดว่าเขาต้องกำลังยิ้มอยู่แน่นอน เพราะตอนนี้หัวใจเขาเต้นแรงมาก แรงกว่าผมด้วยซ้ำไป
   

วิคเตอร์ถูแก้มไปกับอกผมอย่างออดอ้อน ราวกับเป็นคำขอบคุณจากเขาที่ผมตอบรับพรข้อที่สองที่เขาขอ ผมยิ้มด้วยความเอ็นดู เวลาเขาใจดีเขาก็น่ารักแบบนี้ละ แต่อย่าให้เขาร้าย เพราะผู้ชายคนนี้จะอาละวาดได้รุนแรงยิ่งกว่าพายุลูกไหนในโลก ไม่ใช่ว่าผมเพิ่งมารู้ แต่ช่วงที่อยู่ด้วยกันในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง ผมเห็นเขาเกือบทุกมุม ทุกนิสัย แม้จะไม่หมด แต่ผมก็ยังยืนว่าผมรู้มากกว่าข้อมูลในวิกิพีเดียซะอีก
   

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ต้องเรียนรู้ตัวตนของผู้ชายคนนี้ต่อไปอยู่ดี เพราะยักษ์ตนนี้มีอะไรให้น่าค้นหาอีกมากมาย ยังมีอีกหลายมุมที่ผมยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวตนเขา
   

เรานอนกอดกันอยู่อย่างนั้นไปเรื่อยเปื่อย สองมือผมขยุ้มกลุ่มผมนุ่มของเขาอย่างล่องลอย วิคเตอร์ก็นอนเอาแก้มแนบอกผมไม่ไปไหน สองแขนเขากอดผมไว้แน่น แม้จะรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง แต่ความรู้สึกดีก็มีมากกว่า ผมเองก็ไม่เคยมีแฟน ไม่เคยนอนกอดกับแฟนแบบนี้ ไม่เคยมีโมเม้นต์แบบนี้ พอได้รับมา ก็อดที่จะรู้สึกอิ่มใจไม่ได้ ไม่ใช่ว่าอ้อมกอดพ่อกับแม่ที่ผมมักได้รับเสมอนั้นไม่ดี เพียงแต่อ้อมกอดผู้ชายคนนี้พิเศษและแตกต่างด้วยสถานะทางใจ และสถานะของชีวิตเท่านั้นเอง ซึ่งจริงๆ แล้ว ความรักของหนุ่มสาว ของหนุ่มหนุ่ม ของหญิงหญิง มันเอาไปเปรียบเทียบกับความรักของพ่อกับแม่ไม่ได้หรอก เพราะความรักจากบุพพการีนั้นยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว
   

ความรักแบบนี้ก็ยิ่งใหญ่เช่นกัน ถ้าให้เปรียบ พ่อผมเหมือนพระราชาที่มีแม่เป็นราชินีเคียงข้าง ส่วนวิคเตอร์เป็นเหมือนเจ้าชายที่มาตกหลุมรักเจ้าหญิง (?) อย่างผม
   

อุ๊ยตาย เป็นเจ้าหญิงด้วยอ้า แบ๊วเฟ่อ
   

“นายจะกลับไปนิวยอร์กกับฉันแน่ใช่มั้ย” เขาเอ่ยถามขึ้นหลังจากเราเงียบกันมาสักพัก
   

“แน่สิครับ ถ้าผมเรียนจบ ผมจะกลับไป”
   

“ก่อนนายเรียนจบ ฉันจะพยายามมาบ่อยๆ นะ” เขาบอกเสียงทุ้ม ผมคลี่ยิ้ม นึกไม่ถึงจริงๆ นะ ว่าวิคเตอร์กับผมจะได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันแบบนี้ จากที่แต่ก่อนวิคเตอร์จะมีป้อมปราการกันคนอื่นออกจากตัวเอง แต่วันนี้ผมได้เดินเข้าไปในป้อมนั้น และจะพยายามค้นหาบางสิ่งบางอย่างที่เขายังคงไม่เผยออกมา
   

ด้านมืดของชีวิตเขา ถึงวันนี้เขาจะเปิดรับผม แต่เขายังมีด้านมืดจากอดีตที่ยังซุกซ่อนเอาไว้ ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ผมอยากทำลายความมืดมนนั้นออกไปจากใจเขาให้หมด
   

“ถ้าไม่สะดวกก็ไม่ต้องมาก็ได้นะครับ อีกไม่กี่เดือน ผมก็บินตามคุณไปแล้ว” เขายกหน้าขึ้นจากอกผมและเอาคางวางไว้บนกลางอก จ้องมองผมด้วยสายตาที่ผมไม่อาจคาดเดา สีหน้าเขาก็ราบเรียบ
   

“ไม่ได้หรอก เดี๋ยวนายมีคนอื่น” ผมย่นคิ้วใส่เขาแต่ริมฝีปากก็ยิ้มเล็กน้อย ยังคงไม่เข้าใจว่าเขาไปเอาแนวคิดนี้มาจากไหน ทำไมถึงระแวงนักว่าคนอย่างผมจะมีกิ๊กได้
   

“ถ้าจะระแวงผมว่าระแวงตัวคุณเองเถอะ” เขาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ หน็อยแน่ ที่กับผมล่ะจ้องระแวง ที่กับตัวเองทำไก๋นะ ช่างไม่ยุติธรรมเลยจริงเชียว
   

“I am a good man. (ฉันเป็นผู้ชายที่ดีนะ)” ผมย่นจมูกใส่เขาราวกับได้กลิ่นขยะเปียก วิคเตอร์เผยอปากกว้างเล็กน้อย มุมปากขยายออกเป็นรอยยิ้ม ส่งลิ้นออกมาเลียริมฝีปากล่างอย่างเซ็กซี่ ไอ้ท่าทีแบบนี้แหละที่ล่อผู้หญิงเข้าหาได้เยอะนัก นึกแล้วก็แอบหวั่นใจ ช่วงที่ห่างกันก่อนผมเรียนจบนี่เขาจะแอบไปมีชู้รึเปล่า
   

“วิคเตอร์ ถ้าคุณอยากมีคนใหม่ บอกผมนะ ผมจะไม่บอกเลิกคุณ แต่ผมพร้อมจะไปจากชีวิตคุณ  ผม… อ๊ะ! อ๊า!” เสียงผมสะดุดหายไป ลมหายใจแทบขาดหายเมื่อตอนที่เข้าใช้สองนิ้วยัดเข้าไปช่องทางนุ่มยุ่นของผม ผมตอดรัดรับเขาตามสัญชาตญาณ วิคเตอร์ออกแรงกดนิ้วลงเนื้อด้านในอย่างแรง ผมร้องเฮือก สองมือผวาจับไหล่เขา
   

“อย่าพูดว่าจะไปจากฉันอีก!” เสียงห้วนสะบัดแฝงไปด้วยอำนาจและความไม่พอใจดังไปลั่นห้อง ผมมองเขาตาปรือ ริมฝีปากเผยออ้าขึ้น ลมหายใจหอบกระเส่า วิคเตอร์ขบกรามแน่นด้วยความโกรธจนสันกรามขึ้นชัดเจน แววตาเขาหยาบกระด้างจนผมกลัว สองมือผมบีบไหล่เขาไว้แน่นยามที่เขาใช้สองนิ้วแหวกด้านหลังของผมและบิดเป็นเกลียวเน้นๆ ไปรอบๆ
   

“วะ… วิคเตอร์ ได้โปรด…” ผมครางอ้อนวอนรู้สึกว่าตัวเองตัวสั่นเล็กน้อยด้วยความกลัว สายตาเขาบอกชัดเจนว่าพิโรธมาก สีหน้าเขาฉายชัดว่าไม่พอใจ
   

“มะ… ไม่ไป ผมไม่ไปจากคุณ…” ผมบอกเสียงสั่น รวบรวมแรงยกสองมือขึ้นไปจับกรอบหน้าเขาไว้ รีบดึงเขาเข้ามาจูบ วิคเตอร์อ้าปากรับลิ้นผมทันที เขาเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นผมด้วยอารมณ์ที่รุนแรง สองนิ้วที่อยู่ด้านในตัวผมเริ่มดันเข้าดันออกช้าลง จนในที่สุดเขาก็ค่อยๆ ถอนนิ้วออกไป กล้ามเนื้อผมผ่อนคลายทันทีที่เขาเอานิ้วออกไป ริมฝีปากเราสองคนยังคงบดเบียดกันอย่างรุนแรง ลิ้นเราเกี่ยวรัดฟัดกันหนักหน่วง แน่นอนว่าผมสู้เขาไม่ไหวหรอก ปกติวิคเตอร์จูบเก่งอยู่แล้ว แต่เวลาเขาโกรธเขาจะยิ่งหนักหน่วงกว่าเดิม
   

“อือ…” ผมครางประท้วงตอนที่เริ่มหายใจไม่ทัน วิคเตอร์ถอนจูบออกอย่างแรงและเร็ว ทิ้งให้ผมหายใจหอบ รีบหอบเอาอากาศเข้าปอด ผมกลืนน้ำลายลงคอ มองเขาตาฉ่ำปรือ รู้สึกว่ามีน้ำตาคลอเต็มหน่วย วิคเตอร์ยังมองผมอย่างโมโหอยู่
   

“อย่าพูดอย่างนั้นอีก” เขาว่าเสียงกดต่ำ ผมพยักหน้ารับทั้งที่น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ มันไหลออกมาเพราะมันคลออยู่ก่อนแล้ว แต่จริงๆ ก็ผสมกับความกลัวเขาด้วยแหละ
   

วิคเตอร์สีหน้าผ่อนคลายขึ้น เขายกมือขวาขึ้นมา ชูสองนิ้วที่ยัดเข้าไปในก้นผมเมื่อกี้ ผมมองตาม หอบหายใจเล็กน้อย วิคเตอร์ส่งสองนิ้วนั้นเข้าไปในปากเขา รูดนิ้วเข้าออกช้าๆ สายตามองมาที่ผมไม่ละไปไหน เห็นภาพนั้นแล้วผมก็เกิดอาการร้อนวูบวาบไปทั้งตัว เขาดูดราวกับนิ้วเขาเป็นอมยิ้ม รูดเข้ารูดออกสักพักเขาก็ส่งสองนิ้วนั้นมาจ่อตรงริมฝีปากผม และมองด้วยสายตาวิบวับ ผมอ้าปากรับสองนิ้วนั้น วิคเตอร์ยิ้มพอใจ ดันนิ้วเข้าออกช้าๆ ผมอมนิ้วไว้ในปาก สายตาก็มองเขาไม่หนีไปไหนเช่นกัน
   

“I love everything about you. Understood? (ฉันรักทุกอย่างที่เป็นนาย เข้าใจมั้ย)” เขาถามตอนที่ดึงนิ้วออกจากปากผมช้าๆ ผมพยักหน้ารับแข็งขันว่าเข้าใจ วิคเตอร์ยิ้ม สีหน้าเขาผ่อนคลายขึ้น ยื่นหน้ามาจูบหน้าผากผมแผ่วเบา ใช้สองมือปาดน้ำตาออกจากขมับทั้งสองข้างให้ผมอย่างอ่อนโยน ซึ่งผิดกับความดิบเถื่อนเมื่อกี้เหลือเกิน
   

“ผมขอโทษ ผมก็แค่กลัวว่าคุณจะไปมีคนอื่น” ผมบอกเสียงแผ่ว วิคเตอร์ยกมือขวาลูบหัวผมช้าๆ ส่งรอยยิ้มอ่อนโยนมาให้
   

“อย่ากลัวไปเลยน่า อย่าคิดมากสิ”
   

“ไม่ให้คิดมากได้ไง คุณเป็นยังไง ใช่ว่าผมไม่รู้หรือไม่เคยเห็น” วิคเตอร์ยิ้มขำ ผมหน้าบึ้งเล็กน้อย ยังรับรู้ถึงอาการใจสั่นอยู่ในอก
   

“ดูฉันไปแล้วกัน” เออ ดูไปดูมา เดี๋ยวได้ดูฉากเด็ดเห็นผัวตัวเองนอนกับคนอื่นน่ะสิ
   

ผมไม่อยากจุดประเด็นนี้ให้เขาโกรธขึ้นมาอีกเลยเลือกจะปล่อยผ่าน และปล่อยให้เขาแทะเล็มผมไปเรื่อย ยังดีที่เขามีความเมตตาอยู่บ้างที่ไม่ได้สอดใส่เข้ามา แต่ว่าเขาเล่นจับผมอ้าขาให้กว้าง กดแบะขาผมไว้แน่นและใช้ปากทำให้ผม ผมร้องครางเสียงหลง บิดตัวไปมา สองมือจิกลงบนหัวเส้นผมเขาแน่น
   

“อ๊ะ!” ผมร้องเสียงสั่นเครือ ยามที่ริมฝีปากอุ่นร้อนครอบครองน้องชายผม วิคเตอร์ผงกหัวขึ้นลงเร็วๆ สองมือบีบเนื้อด้านในขาผมไว้แน่น หน้าท้องผมเกร็งไปหมด ปลายเท้าเริ่มสั่นยามที่ความเสียวแล่นไปทั่วส่วนกลางลำตัว สองมือผมจิกผมเขาไว้แน่น ผมแหงนหน้าขึ้น แอ่นอกขึ้นสูง กระดกช่วงกลางตัวให้เขาใช้ปากได้ถนัด
   

“อู้ว…” ผมครางเสียงหอบตอนที่วิคเตอร์ตวัดลิ้นใส่ส่วนปลายสีสดของผมรัวๆ ผมเริ่มแบกรับอาการจะขาดใจไม่ไหว สุดท้ายก็ปลดปล่อยออกมา วิคเตอร์เอาปากครอบของผมไว้ทันทีในตอนที่น้ำสีขาวขุ่นของผมพุ่งเยิ้ม ผมหายใจหอบแฮก กดหน้าลงไปมองวิคเตอร์ที่ช้อนสายตาขึ้นมามองอย่างเร่าร้อน เขาดูดกลืนของเหลวที่ไหลออกมาโดยไม่มีท่าทีรังเกียจ ลิ้นร้อนของเขากวาดเลียหยดเล็กหยดน้อยบนแก่นกายผมจนหมดเกลี้ยง และยังไล้เลียลิ้นทำความสะอาดให้ผมจนหมดจด
   

ผมยิ้มอ่อนแรงให้เขา วิคเตอร์กรีดยิ้มร้ายกาจ ค่อยๆ คลานขึ้นคร่อมรางผมไว้ ก้มลงมาจูบอย่างอ่อยโยน เขาส่งลิ้นที่ยังมีกลิ่นคาวของน้ำผมมาคลอเคลีย ผมดูดดุนช้าๆ รับรู้ถึงรสชาติปะแล่มเล็กๆ ปนหวานหน่อยๆ จากปลายลิ้นเขา วิคเตอร์หยุดเล่นลิ้น กดริมฝีปากแช่ไว้ครู่หนึ่งแล้วดึงหน้าออก จ้องผมด้วยสายตาที่ทำเอาผมใจเต้นแรง
   

ถ้าไม่คิดหลงตัวเองมากไป สายที่เขาส่งมานั้นเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยรักเหลือเกิน
   

“You are my happiness. Remember that. (นายคือความสุขของฉัน จำไว้นะ)” ผมพยักหน้า วิคเตอร์ใช้สองมืออุ้มผมขึ้นจากเตียง ผมรีบเอาแขนคล้องคอเขาไว้ สองขาเกี่ยวรอบเอวคอดแบบผู้ชายเขาไว้แน่น ยักษ์น้อยตั้งตระหง่านเสียดสีที่ด้านหลังของผม วิคเตอร์อุ้มผมคลานเข่าลงจากเตียงแล้วไปยืนเต็มความสูงบนพื้น
   

“ไปโกนหนวดกัน” เขาว่าแล้วยิ้มหล่อ ผมยิ้มกว้างกลับไป ยื่นหน้าไปจูบเขา วิคเตอร์จูบตอบกลับมา ในขณะที่เท้าก็ก้าวเดินไปทางห้องน้ำช้าๆ โดยที่ปากเราสองคนยังคงบดเบียดกันไม่หยุด
   

จุ๊บ~ จุ๊บ~ จุ๊บ~
   

แขนผมเกี่ยวรอบคอเขาไว้แน่น ขาสองข้างก็เกี่ยวเอวเขาแน่นเช่นกัน สองมือวิคเตอร์เลื่อนมาจับช่วงต้นขาผมไว้เพื่อกันผมตก เท้าเขาก้าวเดินเข้าไปในห้องน้ำช้าๆ ริมฝีปากเราเชื่อกันไม่ยอมหลุด จนกระทั่งเขาค่อยๆ วางผมลงบนอ่างล่างหน้าหินอ่อนอันเย็นเฉียบ แต่ผมก็ยังไม่ยอมปล่อยจูบจากเขา กลับใช้สองมือดึงหน้าเขาเข้ามาเพื่อให้เราจูบกันแนบแน่นมากขึ้น วิคเตอร์เอนตัวไปตามแรงดึงของผม สองมือเขาเลื่อนขึ้นมาลูบไล้ตัวผมไปทั่ว สองมือผมขยุ้มเส้นผมเขาแน่น ริมฝีปากเราจูบกันจนเกิดเสียงจุ๊บจั๊บ สองขาผมเกี่ยวเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ลูกชายเขาทิ่มตรงปากถ้ำของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันคงอยากจะเข้ามาใจจะขาดแต่พ่อมันก็ไม่ดันเข้ามาสักที
   

“อืม… แมท… อืม… ถ้าไม่หยุด ฉันจะทำนายหมดแรงนะ นายยิ่งปวดเมื่อยอยู่ด้วย” เขาจับไหล่ผมแล้วดันตัวผมออก ผมเผยอริมฝีปากขึ้น มองเขาด้วยความร้อนรุ่ม วิคเตอร์ขบกรามแน่น เดาว่าคงกำลังพยายามหักห้ามใจอยู่ ผมค่อยๆ คลายสองขาที่เกี่ยวรอบเอวเขาไว้ออก สองมือลูบหน้าเขาไปมา คนตัวโตก้มลงมาหอมหน้าผากผมหนักๆ หนึ่งที
   

“เดี๋ยวนี้ร้อนขึ้นเยอะนะ ฉันจะไม่มีวันให้ใครได้เห็นภาพนี้นอกจากตัวเอง” เขาว่าเสียงเข้ม ผมกัดริมฝีปากล่างแล้วยิ้มยั่ว วิคเตอร์ยิ้มหื่นกลับมา เขาผละออกไปจากตัวผมไปยืนค้นของในกระเป๋าใส่ครีม ใส่เครื่องโกนหนวด ผมลุกขึ้นนั่งตัวตรง มองเขาคุ้ยหาอะไรสักอย่างในกระเป๋า แล้วสักพักเขาก็หยิบโฟมโกนหนวดกระป๋องใหญ่ยาวออกมา
   

“เอาเครื่องโกนหนวดมามั้ยครับ” เขาหันมาพยักหน้าและหยิบเครื่องที่ผมถามถึงออกมา เขาเดินกลับมาหาผม วางเครื่องโกนหนวดเอาไว้ เขานิ่งไปนิดหนึ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ แล้วเขาก็เดินถอยหลังห่างผมไปนิดหน่อย ผมมองงงๆ วิคเตอร์คลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ เขย่าขวดโฟมโกนหนวดแรงๆ เปิดฝาแล้วโยนมาไว้ในอ่างล้างหน้า เขาบีบโฟมออกมาจำนวนมาก ส่องกระจกแล้วเอามือป้ายโฟมจนปิดหนวดเคราเขามิด
   

ผมคิดว่าเดี๋ยวเขาคงเดินกลับเข้ามา แต่เปล่าเลย เขาจ่อขวดโฟมลงไปตรงกลางลำตัวของเขาที่ยักษ์น้อยขยายตัวตื่นเต็มที่และกำลังชี้หน้าผมอยู่ เขาส่งยิ้มซุกซนมาให้ บีบโฟมสีขาวไปตามความยาวของลูกชายเขา ผมอ้าปากหวอ มองภาพอันยั่วยวนตรงหน้าที่โฟมสีขาวทะลักออกมาอาบแก่นกายเขาจนล้นไปหมด  แถมยังมีการบีบไปทั่วหย่อมขนดกดำที่บางเวลาผมชอบใช้นิ้วสางเล่นแผ่วเบายามที่จับแก่นกายเขาก่อนนอน
   

“จะ… จะโกนตรงนั้นด้วยเหรอ” ผมถามตะกุกตะกัก จ้องเขาตาโต รู้สึกร้อนที่แก้ม อันที่จริงรู้สึกร้อนไปทั้งตัวเลยต่างหาก ยิ่งเห็นหน้าหื่นกามของเขาก็ยิ่งรู้สึกวูบวาบ ไอ้ยักษ์ไม่ตอบแต่ยิ้มยั่ว เดินเข้ามาหาผม วางขวดโฟมลงบนอ่างล่างหน้า เอาแขนสองข้างยันขอบอ่างไว้
   

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #456 เมื่อ17-10-2015 21:16:33 »



V
v
v

“โกนหนวดให้หน่อยครับเอเลี่ยนที่รัก” ผมยิ้มเขิน ห่อไหล่ขึ้นแก้เขินเล็กน้อย หันไปหยิบที่โกนหนวดขึ้นมา กดปุ่มเปิด เสียงเครื่องโกนหนวดดังหึ่งๆ
   

“ไม่ต้องเอาออกหมดนะ เอาออกนิดเดียวแบบที่นายเคยทำ” ผมพยักหน้ากระตือรือร้น และเริ่มเอาเครื่องโกนหนวดถูไถไปบนหน้าเขาเบาๆ วิคเตอร์มองผมตาไม่กระพริบ ไม่ได้มองเพราะว่าหลงใหลอะไรหรอกนะ ผมว่าเขาคงกำลังลุ้นมากกว่าว่าผมจะเผลอไถหนวดเขาออกจนหมดเลยรึเปล่า ผมเองก็ใช่ว่าไม่ลุ้น กลัวไปไถหนวดเขาแหว่งจนเสียทรง เขายิ่งรักหนวดเขาอยู่ นี่ถ้าทำพลาดโดนเขาจับฟาดก้นด้วยแส้ตีม้าแน่ๆ
   

“สรุปข้างล่างโกนมั้ย” ผมถามพลางค่อยๆ เอาเครื่องโกนหนวดไถแผ่วๆ ตรงสันกรามด้านซ้าย
   

“นายอยากเอาออกรึเปล่าล่ะ” เขายิ้มกรุ้มกริ่ม ผมยิ้มเขินอายแล้วตอบเสียงเล็ก
   

“ไม่ ผมชอบขยุ้มเล่น” วิคเตอร์ยิ้มกว้างเป็นรอยยิ้มขำ ผมหัวเราะคิกคักเพราะความเขิน รู้สึกอายเหมือนกันที่พูดไปแบบนั้น แต่มันเพลินมือจริงๆ นะเวลาที่ได้สางขนตรงนั้นของเขา
   

นี่ผมมีพฤติกรรมกามกำเริบแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กำลังสงสัยว่ามันมีอยู่ในตัวผมแล้ว พอได้มาเจอวิคเตอร์มันเลยได้ทีผุดขึ้นมา หรือมันไม่เคยมีมาก่อน แต่พอมาเจอวิคเตอร์ ก็เลยโดนแพร่เชื้อมา
   

“ฮะๆๆ อั๊ยย…” ผมหัวเราะหวาดเสียว เพราะลุ้นตอนโกนหนวดใต้คางเขา วิคเตอร์หัวเราะตาม ไม่รู้ว่าตลกหน้าผม หรือเขาเองก็ลุ้นมากเช่นกัน ผมก้มลงไปมองกลางลำตัวเขาที่เริ่มอ่อนตัวลง สงสัยเพราะมัวแต่ลุ้นกับการโกนหนวดมาก ผมเอื้อมมือซ้ายลงไปรูดเข้ารูดออกสักพักจนมันกลับมาแข็งตัว โฟมโกนหนวดบางเบาลงเพราะมือผมสาวเข้าสาวออก แต่ตรงหย่อมขนของเขานั้นยังขาวโพลนอยู่
   

ผมเงยหน้ากลับขึ้นไปมองวิคเตอร์ เขายิ้มหื่นกามมาให้ ก้มลงมาหอมแก้มผมทั้งที่โฟมยังเต็มหน้าเขาไปหมด ผมหัวเราะเสียงใส เอนหน้าหนีเพราะไม่อยากเลอะโฟม วิคเตอร์ตามมาหอมแก้มผมจนโฟมเลอะแก้มซ้ายผมไปหมด ผมทำหน้างอแต่ก็หัวเราะไม่หยุด วิคเตอร์หัวเราะในลำคอและยื่นคางให้ผมโกนต่อ
   

“เอียงหน้าหน่อย…” ผมบอกเขาพลางจับจ้องหนวดเคราซีกขวา ผมถูเครื่องโกนหนวดไปมาอย่างระมัดระวัง พยายามไม่ลงน้ำหนักที่มือมากไปเดี๋ยวจะทำหนวดเขาแหว่งหรือบางไม่เท่ากัน
   

“เสร็จแล้ว” ผมยิ้มแฉ่ง รู้สึกโล่งใจที่ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี วิคเตอร์เอียงหน้าซ้ายขวาสำรวจดูผลงานผม เขาพยักหน้านิดหน่อย
   

“นายโกนมั้ย” ที่จริงผมไม่ค่อยมีหนวดหรอก มันขึ้นเป็นไรขนอ่อนๆ มากกว่า แอบโชคดีที่ไม่ใช่คนขนดกเท่าไหร่ ผมโกนหนวดเดือนละสองสามครั้งเองมั้ง นี่ก็เพิ่งโกนไปก่อนวิคเตอร์จะมาไทย แต่ตอนนี้มันก็เริ่มขึ้นมาบ้างละ
   

“ก็ดีครับ” ผมหันไปล้างเครื่องโกนหนวดในอ่าง พอสะอาดแล้วก็หันข้างไปมองกระจก เอาเครื่องมาถูไปมาแถวคาง ส่วนวิคเตอร์ขยับไปทางอ่างน้ำ ก้มลงล้างโฟมที่ยังเหลือติดค้างอยู่บนแก้มเขา ผมถูไถแปบเดียว หนวดก็เกลี้ยงเกลา ผมเอาเครื่องโกนหนวดจ่อไปที่น้ำที่ยังเปิดอยู่ ใช้มือช่วยปัดๆ มันก็กลับมาสะอาด ผมวางเครื่องไว้บนผ้าขนหนูผืนเล็ก วิคเตอร์ส่งผ้าขนหนูผืนเล็กอีกผืนมาให้ ผมรองน้ำด้วยมือซ้ายแล้วเอามาลูบรอบปาก ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูซับจนแห้ง พอหันไปมองวิคเตอร์หน้าเขายังชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ ผมเลยยื่นผ้าไปซับหน้าให้เขา ยักษ์ใหญ่ยืนยิ้มเท่ให้ผมซับหน้าให้จนแห้ง ผมคลี่ยิ้มเมื่อตอนได้เห็นว่าหน้าเขาดูเกลี้ยงขึ้นเยอะ ดูหล่ออบอุ่นมากเลย
   

“อาบน้ำกัน” เขาว่ายิ้มๆ ผมยิ้มตอบกลับไป วางผ้าขนหนูไว้บนอ่าง เลื่อนตัวเองลงจากอ่างล่างหน้า เดินตามวิคเตอร์เข้าไปในห้องอาบน้ำที่มีประตูกระจกกั้น
   

“จะชวนพวกคุณเบนไปมั้ย” ผมถามตอนที่เขาเปิดน้ำจากฝักบัวให้รดตัวเราสองคน
   

“อาบน้ำเสร็จค่อยชวนพวกมันแล้วกัน” ผมพยักหน้า ใช้มือช่วยล้างโฟมที่ยังเกาะติดลูกชายเขาอยู่ออก ยักษ์น้อยอ่อนตัวลงบ้างแล้ว แต่พอผมเช็ดล้างถูให้ ก็กลับมาแข็งสู้มืออีก ช่างตื่นตัวง่ายเสียจริง
   

ผมช่วยสางโฟมออกจากกลุ่มขนสากของเขาจนสะอาด วิคเตอร์เองก็ช่วยผมถูตัวจนเกิดฟองสบู่ ผมหยิบครีมอาบน้ำกลิ่นของผู้ชายมาบีบลงบนฝ่ามือและถูไปทั่วตัวเขา ยามที่มือผมสัมผัสกับกล้ามท้องเขานั้นมันช่างลื่นมือดีเสียจริง ผมก็อยากมีกล้ามท้องบ้างนะ แต่ก็ไม่อยากมีเป็นหกลูกชัดเจนแบบนี้ ผมแค่อยากให้พุงน้อยๆ ของผมนั้นยุบลงบ้าง ท่าทางคงต้องเล่นโยคะตามที่วิคเตอร์แนะนำแล้วละ อาจทำให้หุ่นดีขึ้นบ้าง
   

“เรายังไม่ได้แปรงฟันเลย” ตื่นมาก็จูบ ก็ใช้ปากกันไปแล้ว แต่ฟันยังไม่ได้แปรงเลยด้วยซ้ำ พอเราอาบน้ำเสร็จก็ไปยืนแปรงฟันคู่กันหน้ากระจก เหมือนพ่อลูกเลยเถอะ ผมสูงเพียงไหล่เขาเอง
   

“ไหนดมซิ” เขาก้มลงมาหาผมจนจมูกชนกัน ผมอ้าปากพ่นลมออกมา วิคเตอร์ยิ้มกริ่ม เลื่อนหน้าขึ้นมาหอมหน้าผากผมหนึ่งที เขายืดตัวกลับไป เดินไปหยิบครีมทาหน้าทั้งของเขาและของผม เราใช้กันคนละแบบ วิคเตอร์ใช้ตัวเดียวแต่โคตรแพง ส่วนผมใช้สามตัวแต่ราคาแสนถูก แต่คุณภาพดีเยี่ยมเลยนะ วิคเตอร์ทาของตัวเองเสร็จเขาก็ยืนรอให้ผมทาเสร็จบ้าง มีการเอามือมาช่วยโบกลมให้ผมเพื่อให้หน้าแห้งไวๆ อีกด้วย พอผมทาครีมทั้งสามตัวเสร็จ เราก็พากันเดินออกจากห้องน้ำไปทั้งที่เปลือยเปล่าอย่างนั้นนั่นแหละ
   

“พวกแกตื่นกันรึยัง… แมทจะพาไปเที่ยววัดไทย… ก็รีบอาบน้ำแต่งตัวสิ ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ… ได้… เจอกัน” เขาโยนมือถือไว้บนเตียง และนั่งรอผมเลือกชุดให้ วันที่เขาพาผมไปซื้อเสื้อผ้านั้นเขาซื้อมาเยอะมาก พวกออสตินนี่เดินถือกันเต็มสองมือ ผมไม่คิดว่าเขาจะช้อปเก่งขนาดนี้ ผมเดินจนปวดเท้าเขาก็ยังสนุกกับการจับผมลองชุดนั้นนี่ แต่ถ้าชุดไหนที่ไม่มีไซส์เขา วิคเตอร์จะไม่ซื้อให้ เพราะเขาต้องการให้เราสองคนมีเสื้อผ้าเหมือนๆ กัน ตอนแรกผมคิดว่าเขาจะซื้อให้แค่ชุดสองชุด ผมเลยตอบรับเขา แต่พอเอาเข้าจริงผมว่ามันเริ่มเยอะเกินไป พอปฏิเสธ เขาก็ทำท่าจะโกรธ เลยต้องปล่อยเลยตามเลยให้เขาซื้อสมใจ ทั้งที่ผมคิดแล้วว่าผมคงใส่ไม่หมดหรอก ซื้อประหนึ่งว่ามันลดราคา ที่ซื้อๆ มานี่ราคาปกติทั้งนั้น ผมเห็นราคาแล้วลมจับ เข้าใจว่าเขารวย เขามีเงิน แต่กับคนฐานะปานกลางอย่างผม เจอคนใช้เงินอย่างเขาเข้าไปก็ตั้งรับไม่ทันเหมือนกัน
   

“สีขาวแล้วกัน เข้าวัดจะได้ดูบริสุทธิ์” ผมบอกเขาและยื่นเชิ้ตขาวของแบรนด์ดังให้ เขารับไปใส่ทั้งที่ท่อนล่างยังล่อนจ้อน ผมส่งกางเกงชั้นในสีขาวพร้อมกางเกงยีนส์สีดำให้เขา หันไปหยิบชุดแบบเดียวกันแต่ไซส์เล็กลงมามากโขให้ตัวเอง ห้ามใส่ไม่เหมือนเขาเด็ดขาด ไม่งั้นยักษ์จะงอน และจะไม่ยอมออกไปไหน แม้กระทั่งเรื่องแบบนี้เขาก็ยังเอาแต่ใจได้ ยอมใจพี่แกจริงๆ
   

“แมท ฉีดน้ำหอมให้หน่อย” ผมหันไปมองเด็กโข่งเอาแต่ใจที่ยังไม่ได้ติดกระดุมเสื้อแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำไปหยิบน้ำหอมกลิ่นผู้ชายมาฉีดให้เขา ผมฉีดตรงอกซ้าย กับช่วงใต้รักแร้ สองจุดนี้เป็นชุดที่จะทำให้น้ำหอมออกกลิ่นได้ฟุ้งเป็นอย่างดี อันที่จริงยังมีจุดอื่นๆ อีก แต่ถ้าฉีดทุกจุดก็เกรงว่าคนรอบข้างจะนึกว่ารถน้ำหอมมาพลิกคว่ำบนตัวผู้ชายคนนี้รึเปล่า
   

เราสองคนช่วยกันแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อย ท้องผมร้องนิดหน่อย วิคเตอร์บอกว่าเดี๋ยวค่อยแวะหาอะไรกินด้านนอกทีเดียว ตอนนี้เราเลยมานอนรอพวกคุณเบนอยู่บนเตียง ผมนอนเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย สักพักหน้าจอก็เด้งแชทเฟซบุ๊คจากอดัมขึ้นมา ผมตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าแม้กระทั่งเหลือบตาไปมองวิคเตอร์ เลยพยายามทำเนียนดึงแชทลงให้พ้นหน้าจอ แต่พ่อเทพบุตรอดัมดันส่งข้อความมาต่อเนื่อง เขาไม่ได้ทักผมมาเองหรอก แต่เขาคงมาตอบคำถามที่ค้างไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อน บางทีเขาก็คงงานยุ่งจนไม่ได้เล่นโซเชียลตลอด พอมีจังหวะคงตอบนั่นแหละ แต่เผอิญจังหวะนี้ไม่ค่อยดีต่อผมไง ผมแทบจะหยุดหายใจแล้ว นี่ถ้าไอ้ยักษ์เห็น ไม่ได้ไปเที่ยววัดเฉยๆ แน่ แต่จะพาศพผมไปฝากเผาน่ะสิ
   

“แมท”
   

“หะ… ฮะ?!” ด้วยความที่ผมกลัวอยู่แล้ว พอเขาเรียกเลยสะดุ้งโหยง ผมหันไปมองเขาที่สายตากำลังจับจ้องบนหน้าจอมือถืออยู่ รู้สึกดีที่เขาไม่เห็นอาการเมื่อครู่นี้
   

“อะไรครับ” เขายื่นมือถือมาให้ผมดู ซึ่งบนหน้าจอคือเกมส์ที่ผมแอบโหลดมาเล่นบนเครื่องเขา
   

“ด่านนี้ผ่านยังไง” ผมแทบจะร้องไชโย รีบกดปิดเสียงโทรศัพท์ไม่ให้มีการแจ้งเตือนใดๆ ดังขึ้นมา ผมเลิกเล่นละโทรศัพท์ จับยัดกระเป๋ากางเกงยีนส์ไว้แล้วกัน
   

“ไหน” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขา วิคเตอร์หอมแก้มผมไปทีนึง และก้มลงไปมองจอต่อ ผมช่วยเล่นให้เขาผ่านด่านที่เขาติดอยู่จนได้ รีบทำเนียนนอนซุกอกเขาไว้ วิคเตอร์โอบแขนซ้ายรอบตัวผม แต่สองมือก็ยังกดเล่นเกมส์ไปเรื่อย ผมนั่งมองเขากดเกมส์มือเป็นระวิง ท่าทางจะติดเหมือนผมแล้วละ
   

“พวกคุณเบนจะเสร็จยัง” ผมแหงนหน้าไปถามเขาที่สายตายังจ้องจอมือถืออยู่ แต่เหมือนเขาจะรับรู้ว่าผมถามเขาเลยหยุดเล่นเกมส์ กดออกจากหน้าจอไปทั้งที่ด่านนั้นยังไม่ผ่านเลย พอออกมาหน้าจอหลักเขาก็ว้อทสแอพไปถามคุณเบน รอสักพักอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาว่าพร้อมแล้ว
   

“ไปกันเถอะ” ผมเด้งตัวออกจากอกเขา เราสองคนเคลื่อนตัวลงจากเตียง เดินออกไปนอกห้องนอนพรอมกัน วิคเตอร์หยิบแว่นกันแดดแบรนด์ดังสีดำมาด้วย ผมหยิบกระเป๋าเป้มาสะพายด้านหลัง เอาไปด้วยเผื่อมีใครจะฝากอะไรและผมไม่ชอบยัดกระเป๋าเงินไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ มันตุงเทอะทะไป
   

“ใส่หมวกสิ แดดร้อนเดี๋ยวไม่สบาย” เขาหยิบหมวกแก็ปของเขามาสวมลงบนหัวผม อันที่จริงอากาศประเทศไทยในช่วงนี้นั้น ช่างเดาใจยากเสียจริง บางวันแดดแผดเผา บางวันก็ส่งสายฝนโปรยปรายลงมา แทบจะปรับตัวตามกันไม่ทันเลยทีเดียว


TBC. :katai5:

เป็นช่วงผัวเมียเขาจู๋จี๋อี๋อ๋อกันจริงๆ เนาะ หุๆ ช่วงนี้เป็นช่วงตักตวงความสุข ความหวานของเขาสองคนค่ะ ฮิๆ มันอาจจะเรื่อยๆ เอื่อยๆ ไปแบบนี้ละค่ะ ยังไงดีล่ะ เขาคบกันแล้วอะเนอะ ซึ่งตอมจะบอกย้ำมากกว่า นิยายเรื่องนี้มันคือนิยายความรัก เป็นการเล่าเรื่องความรักและความสัมพันธ์ของสองคนนี้ ฉะนั้นไอ้ที่เล่าๆ อยู่ทุกวันนี้มันคือความสัมพันธ์ของเขาค่ะ ตอมอยากให้คนอ่านซึมซับความรักของเขาสองคนไปด้วยกัน ซึ่งตอมเคยอธิบายตีมเรื่องพาร์ท Only You ไปในเพจแล้ว ลองไปหาอ่านดูนะคะ สำหรับใครที่ยังไม่ทราบ อยู่ในโน้ตของเพจจ้า

น้องเอเลี่ยนทำพี่ยักษ์อารมณ์ขึ้นเนาะ แต่อีพี่ยักษ์มันก็ยังน่าระแวงอยู่ดี เป็นตอมก็ระแวง เราเคยเห็นเขาใช้ชีวิตมาอะ เรารู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ชีวิตเขาเป็นแบบไหนมาก่อน การจะเชื่อมั่นและมั่นใจคนๆ หนึ่งที่เราเห็นวิถีชีวิตเรื่องผู้หญิงเขามาตลอดนั้น มันก็ยากนะคะ ให้เวลาน้องหน่อย น้องคงต้องการเวลา คือตอนนี้แมทก็เชื่อใจแหละค่ะ เพียงแต่มีคิดๆ มโนๆ ตามสไตล์ของนางบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นจับผิดผัวหรอก 555555

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ยังอยู่กับตอมมาจนถึงตอนนี้จริงๆ นะคะ คุณแกร่งมากเลยที่ทนนิยายเอื่อยๆ เรื่อยๆ สบายๆ เรื่องนี้ได้ นิยายเรื่องนี้ไร้ความแซ่บ ไร้ความระทึกมากจริงๆ มันอาจจะมีแต่คงไม่แซ่บถึงขั้วจิตใจเท่าเรื่องอื่น ขอบคุณจริงๆ ค่ะที่รักนิยายเรื่องนี้ในแบบที่เป็น  :mew1:

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #457 เมื่อ17-10-2015 22:19:37 »

ไอ้ยักษ์จะจับได้มั้ยเนี่ยยย
เรื่องอดัมอะ
ไม่งั้นศพไม่สวยแน่แมทเอ๊ยยย  :hao4:

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #458 เมื่อ17-10-2015 23:31:08 »

อดัมจะมาป่วนด้วยหรอ 55555
มโนหน้าอดัมมารูนไฟว์แปป  :-[ :-[

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #459 เมื่อ18-10-2015 00:38:49 »

อดัมเอ๊ย โผล่มาเป็นตัวป่วนไหมเนี่ย เด๋วยักษ์ก็หึงขึ้นมาอีกหรอก งานนี้แมทจะงานเข้าน่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
« ตอบ #459 เมื่อ: 18-10-2015 00:38:49 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #460 เมื่อ18-10-2015 01:31:48 »

 :-[ น้องขี้อ้อนมากขึ้นนะเนี่ย อ่านเพลินเลยสนุกมากจ้า

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #461 เมื่อ18-10-2015 02:15:35 »

ต่างคนต่างอ้อนใส่กันคิดภาพตามแล้วน่ารักดี กลัวอยู่อย่างเรื่องอารมณ์ของเจ้ายักษ์ช่างแปรปรวนเหลือเกิน

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #462 เมื่อ18-10-2015 05:23:42 »

พี่ยักษ์แกก็โหดแลัหื่นมากตามประสา แต่แกน่ารักน่ะพอเมียบอกไม่แกก็ไม่รั้นเท่าำหร่อิอิ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #463 เมื่อ18-10-2015 09:00:19 »

พี่ยักษ์ขี้หึงขี้หวงมาก ดีนะน้องแมทขี้อ้อน   :katai2-1:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #464 เมื่อ18-10-2015 09:16:16 »

งานนี้พี่ยักษ์มีหึงโหดกับน้องเอเลี่ยนน้อยแหงๆ อดัมจะมาป่วนแล้วว
คู่นี้หื่นมากกกกกกกกกกกกกกกกกก พี่ยักษ์รักเมียมากเว่อร์ แต่เวลาโมโหนี่น่ากลัวสุดๆ
 o13 o13 o13 :กอด1:

ออฟไลน์ nutipkra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #465 เมื่อ18-10-2015 10:06:59 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: o18

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #466 เมื่อ18-10-2015 15:36:31 »

จู๋จี๋อี๋อ๋อกันไม่เกรงใจคนโสดเลย
อิจฉาาาาาาา
 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ rutchi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 122
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #467 เมื่อ20-10-2015 11:47:23 »

ชอบเรื่องนี้มาก จริงๆ ทุกทีจะไม่ค่อยคอมเม้นท์ แต่มันดี ซึ้ง อบอุ่น แซ่บ มาเต็ม

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #468 เมื่อ21-10-2015 13:15:01 »

ยักษ์โคตรขี้หวง

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
«ตอบ #469 เมื่อ21-10-2015 21:28:07 »

สนุกมากๆๆเลย :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 50%} 17.10.58::
« ตอบ #469 เมื่อ: 21-10-2015 21:28:07 »





ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 100%} 21.10.58::
«ตอบ #470 เมื่อ21-10-2015 22:58:16 »

Only You EP.15 :: [100%]



เราเดินมาหน้าห้องคุณเบน เคาะเรียกพวกเขา ไม่นานประตูก็เปิดออก แล้วสามหนุ่มก็เดินออกมาในชุดหล่อ หรืออาจเป็นเพราะหน้าหล่ออยู่แล้ว เลยทำให้ชุดหล่อ เอ๊ะ สรุปหล่อเพราะอะไร แต่ในบรรดาห้าคนเนี่ย ผมเตี้ยสุด หน้าตาธรรมดาสุด รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นจุดบอดอย่างไรอย่างนั้น ให้ฟีลว่า กล้องจับมุมสูงไปสี่ช็อตแต่พอช็อตที่ห้ากล้องต้องกดลงมุมต่ำ
   

“จะไปวัดไหนอ่ะแมท” บาสถามตอนที่เราเดินไปรอลิฟต์พร้อมกัน
   

“วัดพระแก้ว วัดฮิตของฝรั่ง” บาสพยักหน้าเข้าใจ ผมยังไม่เคยเข้าไปด้านในเลย เคยไปแต่รอบนอกวัด เห็นแต่กำแพงสีขาวสะอาดตาล้อมวัดไว้ เวลาไปแถวนั้นผมก็มักไปทำอย่างอื่น ไม่เคยคิดแวะเข้าไปด้านใน อาจมีพลังงานบางอย่างต้านทานผมอยู่ก็เป็นได้
   

“เราจะไปยังไงกัน” บาสถามอีกครั้งตอนที่เราเดินออกจากลิฟต์หลังจากถึงชั้นหนึ่งแล้ว
   

“กำลังคิดว่าพาขึ้นตุ๊กตุ๊กดีมั้ย เวลาแมทไปแถวนั้น แมทชอบนั่งตุ๊กตุ๊กนะ เพลินดี”
   

“ก็ดีนะ จะได้เห็นวิวเมืองกรุงด้วย แต่เดี๋ยวลองถามราคาก่อน” ผมพยักหน้า ปล่อยให้วิคเตอร์เดินจูงมือผมไปเรื่อยจนออกมาถึงหน้าโรงแรม ผมบอกสามฝรั่งหนุ่มว่าให้รอบาสไปถามตุ๊กตุ๊กที่จอดอยู่แถวๆ หน้าโรงแรมก่อน ทุกคนดูตื่นเต้นกันใหญ่ที่ผมจะพาเขานั่งตุ๊กตุ๊ก
   

“เขาคิดเป็นราคาเหมา พาไปถึงวัด และจะพาเที่ยวรอบๆ แล้วก็พากลับมาส่งโรงแรมด้วย”
   

“เหรอ ดีจัง เขาคิดเท่าไหร่อ่ะ” บาสบอกราคามา และบอกว่าลองคำนวณแล้วก็คิดว่าคุ้มอยู่เหมือนกัน ผมหันไปบอกวิคเตอร์และทุกคน สามหนุ่มดูพึงพอใจกับราคาที่บอกไป วิคเตอร์ตอบตกลง เขาไม่มีปัญหาเรื่องราคาแต่ขอคนขับดีๆ หน่อย ซึ่งบาสก็การันตีว่าที่หามานั้นไม่น่ามีปัญหาอะไร
   

พอตกลงกันเรียบร้อย บาสก็ให้พนักงานโรงแรมเรียกตุ๊กต๊กให้เข้ามารับด้านหน้า วินาทีที่รถตุ๊กตุ๊กคันกะทัดรัดแล่นเข้ามาจอดตรงตีนบัน สามฝรั่งก็ยิ้มร่าและส่งเสียงฮือฮาชอบอกชอบใจ ส่งเสียงเย้วๆ กันใหญ่ว่า น่าตื่นเต้น คันเล็กมากเลย แต่ดูท่าจะซิ่งนะ เหมือนพาเด็กมาทัศนศึกษาไม่มีผิด ก่อนขึ้นรถพ่อสามหน่อขอถ่ายรูปกับตุ๊กตุ๊กและคนขับก่อน พอได้รูปหนำใจก็พากันขึ้นรถ แบ่งฝั่งกันนั่ง แอบเบียดกันนิดหน่อยด้วยความที่พ่อสามหรั่งนั้นตัวบึ้กกันทั้งนั้น วิคเตอร์เลยจับผมนั่งตักเพื่อให้มีที่ว่างเพิ่มอีกที่
   

“Are you ready? (พร้อมมั้ยค้าบ)” พี่คนขับเอ่ยถามสำเนียงไทยแต่มาพร้อมรอยยิ้มจริงใจ อันเดรกับเบนเนดิคท์ส่งเสียงเฮชอบใจใหญ่ที่ได้ยินพี่โชเฟอร์พูดอังกฤษ
   

“Let’s go! (ไปเลยครับ!)” อันเดรตะโกนตอบเสียงคึก พี่คนขับพุ่งตัวออกไปจากหน้าโรงแรมท่ามกลางเสียงเฮฮาด้วยความตื่นเต้นของสามฝรั่ง สร้างรอยยิ้มให้พนักงานโรงแรมที่ยืนมองอยู่
   

ผมถอดหมวกวางไว้บนตัก นั่งพิงอกวิคเตอร์ เลือกรูปที่จะอัพลงอินสตาแกรมให้เขา วิคเตอร์ชี้ว่าเอารูปที่ถ่ายกับเพื่อนเขาลง ผมก็ไม่ขัดเพราะภาพนั้นพวกเขายิ้มเริงร่ามาก แถมรอยยิ้มพี่โชเฟอร์ก็เป็นมิตรสุดๆ ได้ทีก็ถือโอกาสโปรโมตประเทศไทยผ่านผัว เอ้ย ผ่านสามีผู้มีชื่อเสียงระดับโลกหน่อยก็แล้วกัน
   

Tuk-Tuk of Thailand. Say cheese! 
   

ผมใส่แคปชั่นก่อนจะอัพรูปลงไอจีของเขา อันเดรกับเบนเนดิคท์กำลังนั่งกดมือถือพร้อมรอยยิ้มร่า สงสัยคงกำลังเลือกรูปลงโซเชียลอยู่เหมือนกัน ส่วนบาสเอากล้องโปรมาด้วย เลยกดถ่ายรูปตามวิวข้างทางที่เราผ่าน ซึ่งก็ไม่มีไรมากหรอก มีสะพานข้ามคลอง เสาไฟฟ้า ตึกสูง รถรา มีอยู่ไม่กี่อย่าง ก็มีตามสภาพการณ์ของกรุงเทพฯ นั่นแหละ
   

ผมหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปคู่กับวิคเตอร์ กดถ่ายหลายมุมหลายช็อต วิคเตอร์ไม่ได้มองกล้อง เขาหันข้างมองออกไปทางวิว แต่กดจมูกลงบนขมับผมไม่ขยับไปไหน เลยมีผมทำหน้าผีบ้าผีบออยู่คนเดียว พอได้รูปจนหนำใจผมก็เลิกถ่ายและมานั่งเลือกรูปเพื่ออัพลงอินสตาแกรม ผมเลือกรูปที่เห็นหน้าผมเกือบเต็มจอ มีหน้าวิคเตอร์ครึ่งล่างบริเวณปากติดมาด้วย ผมว่ามันดูเท่ดี
   

“ลงรูปนี้ได้มั้ย” ต้องขออนุญาตเขาก่อน เดี๋ยวจะทำให้เขาเสียหายรึเปล่า ลงในไอจีเขาไม่เท่าไหร่ แต่จะลงไอจีตัวเองต้องมีการบอกกล่าวเขากันบ้าง
   

“ทำไมไม่เอารูปที่เห็นหน้าฉันเต็มๆ ลง” เขาไม่ได้แสดงสีหน้าไม่พอใจหรือเคือง แต่เขาแค่ถามตามปกติ
   

“ผมว่ารูปนี้เท่ดี” เขายิ้มนิดหน่อย และพยักหน้าอนุญาต ผมยิ้มตอบกลับไป นอนพิงอกเขา เอาหัวซุกกับซอกคอเขาไว้ วิคเตอร์นั่งกอดผมไว้แน่น จมูกคลอเคลียที่หัวผมไม่ยอมห่าง ผมนั่งปรับแสงให้รูปอีกนิด แล้วครุ่นคิดแคปชั่น
   

Big-bro
   

อันนี้น่าจะดี จะได้คล้องจองกับรูปคู่เราสองคนที่เขาลงไอจีไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ผมกดอัพรูป และแวบไปดูข้อความของอดัมในเฟซ นึกด่าตัวเองในใจว่าช่างกล้า นี่ทำใต้จมูกเขาเลยนะเนี่ย แต่อย่างว่าที่ที่อันตรายที่สุดมักเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด เล่นเนียนๆ เนี่ยแหละ ผมรีบเลื่อนอ่านข้อความที่เขาส่งมา ก็ไม่มีอะไรมากเขาแค่มาตอบเรื่องที่เราคุยค้างไว้จริงๆ แต่ประโยคสุดท้ายคือเขาถามประเด็นใหม่คือเรื่องระหว่างผมกับวิคเตอร์ ผมไม่สะดวกพิมพ์ยาวๆ เลยได้แต่ส่งอีโมติคอนรูปยิ้มไปให้ กดปิดหน้าต่างแชทนั้น และเปิดอย่างอื่นดูแทน
   
   



เรามาถึงวัดกันตอนบ่าย แดดเปรี้ยงสว่างไสวอันตรายไปทุกที่จริงๆ ดีนะที่วิคเตอร์ให้หมวกผมมากันแดด พี่โชเฟอร์จอดรถแถวศาลหลักเมืองที่อยู่ใกล้กับวัด และบอกว่าจะนั่งรออยู่แถวนี้  ระหว่างทางที่เดินเท้าไปทางวัดที่มีกำแพงสีขาวล้อมรอบ ผมก็พาสามฝรั่งยกมือไหว้ศาลหลักเมืองด้วย บอกพวกเขาว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามหนุ่มก็ทำหน้าตื่นเต้นและยกมือไหว้ตามผมเงอะๆ งะๆ กันยกใหญ่ เล่นเอาผมกับบาสยิ้มขำ เพราะพวกเขาทำน่าเอ็นดูมาก วิคเตอร์ดูจะไหว้สวยสุดเพราะเคยผ่านการไหว้พ่อกับแม่ผมมาแล้ว


ผมไม่ได้พาเขาไหว้เป็นจริงเป็นจังแค่ยกมือไหว้รอบนอกเท่านั้น เพราะกะพาไปไหว้พระแก้วมรกตทีเดียว เราหยุดถ่ายรูประหว่างทางบ้าง เอาวิวมุมกว้างของวัดพระแก้วด้านนอกที่มีกำแพงขาวเป็นแบ็คกราวด์และมียอดเจดีย์ ยอดมณฑป ยอพระปรางค์โผล่มาให้ลิบๆ ผมเคยอ่านเจอตอนสมัยเรียนมัธยมปลายว่าประตูทุกบานของวัดนั้นมีชื่อคล้องจองกันทั้งหมด แต่ผมไม่รู้หรอกว่าประตูมีทั้งหมดกี่บาน และชื่อประตูแต่ละบานนั้นชื่อว่าอะไรบ้าง เพราะผมเพิ่งเคยเข้ามาครั้งแรก และที่สำคัญผมคืนอาจารย์ไปหมดแล้ว
   

ผมพาพวกวิคเตอร์ไปซื้อตั๋ว เพราะคนต่างชาติต้องเสียค่าเข้า ส่วนคนไทยนั้นเข้าฟรี พอได้ตั๋วเสร็จเราก็พากันเดินเข้าไปด้านใน คนเยอะมากมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติและยังมีน้องๆ วัยมัธยมอีกด้วย ผมเคยได้ยินคนบอกว่าวัดพระแก้วนั้นสวยมาก สถาปัตยกรรมของทางวัดนั้นแสนล้ำค่า วันนี้พอมาได้เห็นได้ตาตัวเองก็ต้องบอกว่าสมคำล่ำลือ ทุกอย่างดูงามวิจิตร เบนเนดิคท์กับอันเดรสนุกสนานกับการถ่ายรูป ทั้งถ่ายวิววัดและถ่ายตัวเอง โดยจะมีบาสเป็นตากล้องให้ในยามที่ทั้งสองคนต้องการถ่ายคู่กัน บางครั้งก็เรียกวิคเตอร์กับผมเข้าไปถ่ายด้วย หากต้องการจะถ่ายรูปหมู่พร้อมกันหมด บาสก็เตรียมพร้อมด้วยไม้เซลฟ์ฟี่ที่ฝากไว้ในกระเป๋าเป้ของผม
   

เราตกลงกันว่าจะพาไปไหว้พระแก้วก่อน เสร็จแล้วจะได้เดินชมวัดรวดเดียว ผมจูงมือวิคเตอร์ไปตามทางเดินของวัด โดยไม่ต้องกลัวว่าจะหลงทาง เพราะในวัดมีป้ายบอกหมดว่าอะไรอยู่จุดไหน และเอาเข้าจริงแล้ว เหล่าสถาปัตยกรรมต่างๆ ของวัดนั้นก็ตังเรียงติดๆ กันหมด 
   

“เดี๋ยวแมทยืนเป็นเพื่อนพวกนี้แหละ บาสไปเอาดอกไม้ธูปเทียนให้เอง” ผมยืนคุมฝรั่งสามหน่อรูปหล่อทั้งสามคนให้อยู่ใกล้ๆ เข้าไว้จะได้ไม่ไปซนที่ไหน พ่อสามหนุ่มนั้นตกเป็นเป้าสายตาจากผู้คนมาก คงด้วยเพราะรูปร่างสูงใหญ่บวกกับความหน้าตาดี ไม่รู้จะมีใครจำวิคเตอร์ได้มั้ย ผมเคยเห็นข่าวว่าดาราฮอลลีวูดมาไทยหลายคน แต่น้อยคนนักจะสังเกตว่าเป็นคนดัง แต่ถึงจะไม่รู้ว่าเขาเป็นดาราดัง แต่หนังหน้าเขาก็เป็นที่สังเกตอยู่ดี
   

“เก็บดอกบัวไว้นะ ป้าเขาบอกว่าให้เอาไปจุ่มน้ำมนตร์ตรงหน้าโบสถ์อ่ะ จุ่มแล้วเอามาพรมหัวตัวเอง เขาบอกว่าเป็นน้ำที่ใช้สรงพระแก้วมรกต” ผมพยักหน้ารับหงึกหงัก พาพ่อยักษ์สุดที่รักกับผองเพื่อนเคลื่อนขบวนขึ้นบันไดไปบนโบสถ์ที่มีพระแก้วมรกตประทับอยู่ที่นั่น พวกเราทุกคนต้องเก็บกล้องลงกระเป๋าเพราะทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าห้ามถ่ายรูป แต่จริงๆ ผมก็ไม่ได้คิดจะถ่ายรูปพระแก้วอยู่แล้วละ กะแค่มาไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตเท่านั้น ผมหันไปสะกิดวิคเตอร์ว่าให้ถอดแว่นออก เขาถอดออกแล้วเอาไปเหน็บไว้ตรงปกเสื้อ ผมเองก็ต้องถอดหมวกเก็บไว้กระเป๋าเป้เช่นกัน
   

“Make a wish with him like you ask a wish from God in your religion. (อธิษฐานขอพรจากท่านเหมือนที่คุณขอจากพระเจ้าในศาสนาคุณนั่นแหละครับ)” ผมบอกวิคเตอร์ที่นั่งมองผมด้วยสายตาเหมือนเด็กน้อยที่คอยให้ผู้ปกครองบอกว่าต้องทำอะไร เขานั่งคุกเข่าตามผม พนมมือไหว้ตามที่ผมทำให้ดู แล้วก้มลงกราบพระสามครั้ง วิคเตอร์ยกมือขึ้นจรดหัวราวกับกำลังถวายบังโคม ผมต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้เพราะกลัวจะไม่สุภาพ กระซิบบอกเขาว่าไม่ต้องทำถึงขนาดนั้น และทำตัวอย่างให้เขาดูใหม่ เขาพยายามลองทำตาม แม้จะยังไม่เหมือนเวลาคนไทยทำเป๊ะๆ แต่ก็ถือว่าเขาทำได้ค่อนข้างดี ยิ่งพอหันไปมองเบนเนดิคท์กับอันเดร ผมยิ่งคิดว่าวิคเตอร์นั้นทำได้ดีทีเดียว
   

“ฮู่ว! ยากจัง” คุณเบนบ่นออกมาเสียงเบา บาสต้องพยายามสอนใหม่ ไหนจะต้องคอยสอนอันเดรอีกคน ผมหันกลับมามองวิคเตอร์ที่ยังคงพนมมืออยู่ที่อก
   

“ครบสามครั้งรึยังครับ” เขาพยักหน้าหงึกๆ ผมยิ้มให้เขาและบอกว่าให้มองไปทางพระ พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานอะไรก็ได้ตามที่ใจอยากขอ เน้นย้ำกับเขาอีกครั้งว่ามันไม่ได้ต่างจากการอ้อนวอนต่อพระเจ้าในศาสนาคริสต์มากนัก
   

ผมเองก็ยกมือไหว้ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองบ้าง นึกแต่เรื่องราวดีๆ เข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องสุขภาพของตัวเองและพ่อกับแม่ แล้วแน่นอนว่าต้องเรื่องความรักด้วย แต่โดยส่วนตัวผม ผมไม่ค่อยชอบขอพรความรักจากพระนะ เพราะผมคิดว่าพวกท่านตัดทางโลกไปแล้ว ไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องอะไรแบบนี้ ฉะนั้นสิ่งที่ผมขอในเรื่องความรักคือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขอให้ผมมีสติมากๆ เข้าไว้ อันที่จริงผมขอให้ตัวเองมีสติกับทุกๆ เรื่องนั่นแหละ
   

“ทำไมนายขอนานจัง” วิคเตอร์เอี้ยวตัวมากระซิบในขณะที่ยังไม่เอามือที่พนมไว้ลงจากอก ผมยกมือขึ้นจรดที่ระหว่างคิ้วพร้อมกับพูดสาธุเบาๆ ก่อนจะหันไปมองวิคเตอร์ที่นั่งมองผมตาแป๋ว ผมส่งยิ้มอ่อนๆ ไปให้
   

“แล้วทำไมคุณขอเร็วจัง”
   

“ฉันขอแค่ให้นายมีความสุข ยิ้มให้ฉันทุกวันและวันละหลายครั้ง ที่สำคัญคืออย่าทิ้งฉันไปไหน” เขาพูดหน้าตาใสซื่อบริสุทธิ์ หัวใจผมพองโต ริมฝีปากบิดเป็นรอยยิ้มขำน้อยๆ พอเห็นผมยิ้ม วิคเตอร์เลยยิ้มกลับมา รอยยิ้มเขาเหมือนเด็กไม่มีผิด ยิ้มเหมือนกับว่าเห็นผู้ใหญ่ยิ้มให้เลยยิ้มตาม
   

“Thank you.” ผมบอกเสียงเบา ถ้าอยู่ข้างนอกวัดจะหอมแก้มเขาแรงๆ สักที แต่ที่นี่คงไม่เหมาะแน่นอน เลยทำได้แค่เอื้อมมือไปจับมือเขาไว้แน่น ส่งรอยยิ้มอิ่มใจให้กันและกัน
   

“ไปพรมน้ำมนต์ข้างนอกดีกว่าครับ” เขาไม่รู้หรอกว่าน้ำมนต์คืออะไร แต่ก็พยักหน้ารับคำผมแล้วลุกขึ้นยืน พวกคุณเบนก็ไหว้เสร็จพอดี เราเลยพากันเดินออกมาพร้อมกัน มีผู้คนกำลังยืนรุมอ่างใส่น้ำมนต์คล้ายบาตรพระขนาดใหญ่ เราไปยืนต่อคิวเพื่อที่เราทั้งหมดจะได้เข้าไปพร้อมๆ กัน รออยู่ไม่นานบริเวณนั้นก็โล่ง มีเพียงคุณป้ากับคุณลุงคู่หนึ่งกำลังยืนพรมน้ำมันให้กัน และพูดพึมพำเหมือนท่องคาถาให้กัน เป็นภาพที่น่ารักจนอดยิ้มไม่ได้
   

เราห้าคนไปยืนใกล้ๆ อ่างน้ำมนต์ ยื่นดอกบัวในมือลงไปจุ่มในนั้น พอดึงออกมาก็เอาแตะๆ ที่หัวเบาๆ วิคเตอร์มองแล้วทำตามที่ผมทำ ผมอมยิ้มกับภาพที่เห็น ช่วงเวลานี้เขาเหมือนเด็กจริงๆ นั่นแหละ ใครทำยังไงก็ทำตามเขาไปหมด แม้กระทั่งทำตามคุณลุงกับคุณป้าเมื่อกี้ เขาเอาดอกบัวมาเคาะหัวผมเบาๆ แล้วงึมงำเหมือนท่องคาถา
   

“Body is mine, heart is mine, your love is mine, and you’re only mine. (ตัวเป็นของฉัน ใจเป็นของฉัน รักนายเป็นของฉัน และนายเป็นของฉันคนเดียว)” ผมอยากจะหัวเราะก๊ากออกมากับรอยยิ้มใสซื่อและเสียงที่พูดเจื้อยแจ้วคล้ายเด็ก (โข่ง) แต่ที่ทำได้คือยกมือปิดปากกลั้นขำเอาไว้ พอหันไปมองคนที่รอเข้ามาจุ่มน้ำมนต์ หลายคนมองวิคเตอร์แล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ส่วนเจ้าตัวนั้นยังคงยิ้มหล่อมาให้ ดอกบัวก็แตะหัวผมแปะๆ ไม่หยุด ผมพยายามกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ และยืดแขนยื่นดอกบัวไปเคาะหัวเข้าเบาๆ บ้าง แต่ไม่ได้ท่องคาถาอะไรแบบเขาหรอก ได้แต่ส่งรอยยิ้มกว้างขำขันกลับไปให้ รู้สึกเอ็นดูยักษ์ตัวโตนี่เสียจริง
   

“Why don’t you say anything to me? (ไม่เห็นนายพูดอะไรกับฉันบ้างเลยล่ะ)” เขาถามสีหน้าสงสัยอย่างใสซื่อ ผมหันไปมองคนรอบข้างที่มองมาที่เราแล้วยิ้มเล็กยิ้มน้อยมาให้ พวกคุณเบนก็กำลังสนุกกับการเอาดอกบัวเคาะหัวกันเองอยู่ข้างๆ กัน นึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะพูดอะไร อีกอย่างเกรงใจคนที่เขารอต่อคิวอยู่ด้วย
   

“The happiness will be with you all the time. (ความสุขจะอยู่กับคุณทุกเวลา)” ผมพูดแค่นั้น แต่ใช้ความหมายที่เรารู้กันสองคน เขายิ้มกว้างเหมือนเด็กดีใจ ผมยิ้มตอบกลับไป ดึงดอกบัวออกจากมือเขาและเอาไปวางไว้ข้างอ่างน้ำมนต์ หันไปเรียกพวกบาสให้เดินออกจากอ่างน้ำมนต์เพื่อจะได้ให้คนอื่นเข้ามา
   

เราพากันเดินดูสถาปัตยกรรมอื่นๆ ของวัดอย่างเชื่องช้า ไม่ได้รีบร้อนอะไร แม้แดดจะร้อนมากก็ตาม วิคเตอร์เหงื่อไหลจนเสื้อเปียกชุ่ม เขาคอยจับปกเสื้อเขย่าตลอดเวลา ผมต้องคอยใช้ทิชชูซับเหงื่อบนหน้าให้เขาตลอด
   

“What’s that? (นั่นอะไรน่ะ)” เสียงคุณเบนถาม พวกเราเลยหันไปมอง ก็เห็นว่าคุณเบนกำลังชี้รูปปั้นยักษ์สองตนที่ยืนเฝ้าประตูในวัดอยู่ ผมหันไปมองวิคเตอร์ ส่งยิ้มกว้างไปให้เขา คนตัวโตทำหน้างง
   

“That’s your old brother! (นั่นพี่ชายคุณไง)” เขาทำหน้าว่า ฉันเหรอ ผมพยักหน้าหงึกๆ พาเขาเดินไปตรงรูปปั้นยักษ์สีเขียวกับน้ำเงิน บอกเขาว่านี่คือยักษ์ในวรรณคดีไทย พอรู้ว่าสองสิ่งนี้เรียกว่าอะไร วิคเตอร์ก็ยิ้มหัวเราะน้อยๆ
   

“When you call me Giant—you think about them, eh? (เวลาที่เรียกฉันว่ายักษ์ นายคิดถึงพวกนี้สินะ)” เขาถามยิ้มๆ แหงนหน้าไปมองยักษ์ใหญ่สองตนที่ถือกระบองไว้ในมืออยู่
   

“Especially when you are angry. (โดยเฉพาะเวลาคุณโกรธ)” เขาก้มลงมายิ้มให้ผม ยกมือซ้ายมาโยกหัวผมเบาๆ ผมเสนอให้เขาถ่ายรูปกับพี่น้องตัวเอง เขาตอบรับอย่างกระตือรือร้น ท่าทางจะถูกใจอยู่เหมือนกัน เรารอให้คุณเบนกับอันเดรถ่ายรูปกับยักษ์ทวารบาลจนเสร็จ ก็เป็นคิวของวิคเตอร์ ผมยกมือถือเขาขึ้นมากดถ่ายแนวนอนเพื่อจะได้ให้ยักษ์สามตนนั้นอยู่ในเฟรมเดียวกัน
   

“แมท ไปถ่ายกับวิคเตอร์ดิ เดี๋ยวบาสถ่ายให้” ผมหันไปมองเหลอหลาแวบหนึ่ง แล้วพยักหน้ารับหงึกๆ บาสดันให้ผมเข้าไปหาวิคเตอร์ เราต้องรีบถ่ายกัน เพราะบริเวณนี้ผู้คนเดินเข้าออกกันเยอะ ถ่ายนานๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นยืนขวางทาง เราเลยต้องรีบถ่ายหลายช็อตติดต่อกัน วิคเตอร์โอบเอวผมไว้บ้าง โอบไหล่บ้าง ดันผมไปยืนข้างหน้าแล้วกอดเอาไว้บ้าง ถ่ายได้ประมาณสี่ห้าภาพเราก็รีบเดินออกจากจุดกึ่งกลางของยักษ์สองตน เพราะมีคนรอเดินผ่านอยู่
   

“ออกไปเลยมั้ย จะได้พาพวกนี้ไปเที่ยวที่อื่นด้วย” บาสเสนอ ผมเองก็เห็นด้วยเลยพาสามหนุ่มฝรั่ง เดินตรงไปที่ทางออก วิคเตอร์กำลังกดดูภาพในกล้องบาสอยู่ ส่วนคุณเบนกับอันเดรเดินไปคุยไปอย่างออกอรรถรส ได้ยินแว่วๆ ว่าคุยเรื่องฟุตบอล
   

“Basketball. Can I get all pictures of me and Matt? (บาสเก็ตบอล ถ้าฉันจะขอรูปของฉันกับแมททั้งหมดได้มั้ย)” บาสตอบว่าไม่มีปัญหาและเดี๋ยวจะส่งรูปให้ผมในเฟซบุ๊คก็แล้วกัน
   

“I love this pic. (ฉันชอบรูปนี้)” เขาเลื่อนกล้องลงมาให้ผมดู ผมยื่นหน้าไปดูก็เห็นว่าภาพที่เขาชอบนั้นเป็นภาพบนรถตุ๊กตุ๊กที่ผมนั่งเอาหัวซุกซอกคอเขาไว้ สองแขนเขากอดร่างผมแน่น จมูกเขากำลังสูดดมกลุ่มเส้นผมสีดำของผม ดวงตาผมจ้องมองมือถือ ส่วนเขามองวิวด้านข้างที่ตุ๊กตุ๊กแล่นผ่าน
   

“Lovely. (น่ารักเนอะ)” ผมยิ้มยิงฟัน ห่อไหล่ด้วยความเขิน วิคเตอร์ยิ้มละมุนมาให้และยื่นกล้องคืนให้บาส ฝีมือการถ่ายภาพของบาสถือว่าใช้ได้เลย แม้อาจไม่ได้เป็นมืออาชีพมาก แต่มุมที่บาสถ่ายออกมาก็ถือว่าใช้ได้
   

ตอนที่เรากำลังจะเดินออกจากประตูวัดไป ก็มีน้องผู้หญิงมอปลายกลุ่มหนึ่งเข้ามาขอถ่ายรูป ตอนแรกผมคิดว่าคงมาขอถ่ายกับวิคเตอร์ตามปกติ แต่พวกน้องบอกว่าขอถ่ายผมด้วย ผมหน้าเอ๋อไปนิด น้องเลยต้องบอกว่าอยากได้รูปคู่ผมกับวิคเตอร์มากกว่า เพราะพวกเขาเป็นแฟนคลับของผมกับวิคเตอร์ นั่นยิ่งทำให้ผมเอ๋อเข้าไปอีก ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีแฟนคลับ น้องๆ เลยอธิบายว่าเห็นที่เขาแชร์ในเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ ก็เลยเริ่มติดตามผมกับวิคเตอร์ ไม่คิดว่าจะเจอที่นี่ พอได้เจอน้องๆ บอกว่าดีใจมาก
   

“พวกหนูไฟท์กับพวกที่มาด่าพี่แล้วนะคะ ไม่ต้องห่วงค่ะ” ผมยิ้มเอ๋ออ๋า กล่าวขอบคุณงงๆ น้องเลยเล่าเพิ่มว่ามีบางคน (ทั้งเพศหญิงเพศชาย) รับไม่ได้ที่วิคเตอร์รักกับผู้ชายเลยด่าเขาเสียหายมาก แถมยังลามมาด่าผมด้วย พวกน้องเลยช่วยกันปกป้องเท่าที่ทำได้ น้องบอกว่าอันที่จริงข่าวนี้ก็ยังไม่มีการคอนเฟิร์มที่แน่ชัด เพราะวิคเตอร์ยังไม่ได้ออกมาพูดเอง มีแต่ทีมงานส่วนตัวเขาที่ต่างประเทศพูดแทนอยู่ตลอด แต่คนในโซเชียลก็ฟันธงแล้วว่าผมกับวิคเตอร์นั้นคบกันแน่นๆ ยิ่งมาเจอวันนี้ น้องๆ ก็ยิ่งมั่นใจ
   

“มีเพจของพี่สองคนด้วยนะ พวกหนูไม่ได้ทำหรอก มีคนทำให้ค่ะ ตอนนี้ยอดกดไลค์ขึ้นเอาๆ”
   

“อะ… เอ่อ ขอบคุณนะครับ” ผมยังรู้สึกงงๆ อยู่เล็กน้อย คือผมใช้ชีวิตตามปกติมาตลอด พอมีคนมาบอกแบบนี้ก็เลยรู้สึกงงอยู่เหมือนกัน
   

ผมกับวิคเตอร์ยืนฉีกยิ้มถ่ายรูปกับน้องๆ หลายสิบคน ยิ้มจนเหงือกจะแห้ง ผมแหงนมองวิคเตอร์ เขายังคงยิ้มตามปกติ ก็ไม่ได้ยิ้มกว้างหรือยิ้มใหญ่เท่าเวลาอยู่ด้วยกันสองคนหรอก แต่ก็ดีกว่าเขาทำหน้านิ่งถ่ายรูปก็แล้วกัน น้องๆ บางคนที่ถ่ายรูปกับผมและวิคเตอร์ไปแล้ว พอหันไปเห็นสามหนุ่มที่เหลือก็ส่งสัญญาณขออนุญาตถ่ายรูปด้วย สามหนุ่มนั้นงงไม่ต่างจากผมในตอนแรก แต่ก็ยอมให้สาวๆ ถ่ายรูปด้วยแต่โดยดี
   

“ขอบคุณมากนะคะ วันที่พี่วิคเตอร์กลับ พวกหนูจะขอไปส่งได้มั้ยป้ะคะ” ผมหันไปบอกวิคเตอร์ตามที่น้องขอ เขาทำหน้านิ่งแต่ก็มีแววครุ่นคิด สักพักเขาก็พยักหน้าเล็กน้อย ผมหันไปบอกพวกน้องๆ ว่าเขาอนุญาต ทุกคนก็ส่งเสียงเฮดีใจเบาๆ แล้วก็ขอแยกตัวออกไป
   

“ขอสัมภาษณ์ความรู้สึกคนดังหน่อยได้มั้ยครับ” บาสหันมาแซวพร้อมเสียงหัวเราะ ผมยิ้มเขิน ณ ตอนนี้ผมยังทำตัวไม่ถูกอยู่เลย เมื่อกี้เผลอทำหน้าเหลอหลาไปมากแค่ไหนก็ไม่รู้
   

เราพากันเดินออกมาข้างนอก และพากันเดินกลับไปหาพี่โชเฟอร์ตุ๊กตุ๊กที่นอนรออยู่บนรถ พอพี่แกเห็นพวกเราก็เด้งตัวขึ้นมาอย่างฉับพลันและเข้าประจำที่ พวกเราเองก็กลับขึ้นไปนั่งที่เดิม ผมนั่งพิงอกวิคเตอร์ เปิดรูปในมือถือเขาดู พอเห็นรูปที่เขาถ่ายกับยักษ์หน้าประตูวัด ก็อดยิ้มขำไม่ได้ ให้ฟีลเหมือนน้องเจอพี่เลย
   

“ผมอัพรูปนี้อีกรอบนะ”
   

“ตามใจสิ” แฟนคลับเขาคงแปลกใจว่าทำไมพ่อพระเอกที่ไม่ค่อยจะติดโซเชียล ทำไมเดี๋ยวนี้อัพรูปบ่อยจัง ผมกดเลือกรูปที่เขายิ้มแยกเขี้ยวเหมือนยักษ์อัพลงอินสตาแกรม ใส่แคปชั่นเก๋ๆ ที่ว่า
   

I met my family.
   

วิคเตอร์เห็นแคปชั่นก็ขำ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมกดอัพรูปลงในไอจีเขาและเข้าไปดูรูปก่อนหน้านี้ที่เขาถ่ายคู่รถตุ๊กตุ๊กกับเบนเนดิคท์และอันเดร ยอดกดไลค์เป็นแสน ช่างแตกต่างจากของผมนัก มีคอมเม้นต์ของคนไทยมาแสดงการยินดีต้อนรับกันยกใหญ่ ผมเห็นมีคนคอมเม้นต์คุยกันประมาณว่าโรงแรมไหน โรงแรมอะไร พวกนี้ทำท่าจะตามมาแน่ๆ ผมรีบตรวจสอบดูรูปว่ามีจุดไหนที่บ่งบอกว่าเราอยู่โรงแรมอะไรหรือเปล่า แต่ก็ไม่พบ หวังว่าพวกนั้นคงไม่ไปใช้เอฟบีไอสืบโรงแรมที่วิคเตอร์พักหรอกนะ
   

“นี่ รู้รึเปล่าว่ายักษ์ที่คุณถ่ายรูปด้วยเขามีหน้าที่อะไร” ผมละสายตาจากหน้าจอ แหงนหน้าขึ้นไปมองเขา วิคเตอร์ก้มหน้าลงมองผมนิดหนึ่ง เขาส่ายหัวช้าๆ กลับมา หน้าตาบอกว่าไม่รู้จริงๆ
   

“ผมจำได้ว่าเคยเรียนสมัยมัธยม อาจารย์บอกว่ายักษ์ในวัดมีหน้าที่ปกป้องสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาในวัด” จำได้ว่าอาจารย์สอนภาษาไทยเคยบอกตอนเรียนเรื่องเกี่ยวกับวัดไทย ยักษ์ในวัดนั้นรู้จะมีสิบสองตนมั้งถ้าจำไม่ผิด
   

“หน้าที่ยักษ์พวกนั้นคือปกป้องวัดว่างั้น” เขาถามเสียงทุ้ม ผมพยักหน้า
   

“ตามความเชื่อไทย เขาเชื่อกันแบบนี้” วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง เขามองหน้าผมด้วยสายคาครุ่นคิดเล็กๆ
   

“งั้นก็เหมือนฉันที่มีหน้าที่ปกป้องเอเลี่ยนตัวนี้” เขายิ้มละมุน ผมคลี่ยิ้มกว้างไปให้ รู้สึกร้อนวูบที่สองแก้ม ผมขยี้หัวลงบนอกเขา รู้สึกเขินเวลาเขาพูดอะไรแนวนี้จริงๆ
   

“ปากหวานอีกแล้ว” ผมแหงนหน้าบอก วิคเตอร์ยิ้มอ่อน ก้มลงมาจูบปากผมแผ่วเบา
   

“เฮ้ๆ นี่บนรถนะไม่ใช่เตียง” เสียงขัดของอันเดรดังแข่งกับเสียงรถตุ๊กตุ๊ก วิคเตอร์ผละออกไปแล้วยักคิ้วกวนๆ ไปให้เพื่อนตัวเอง อันเดรทำท่าพะอืดพะอมใส่เราสองคน ผมยิ้มเขิน ก้มหน้าก้มตาหลบสายตาของคนอื่น โดยมีเสียงอันเดรกับเบนดิคท์คอยจิกกัดเราสองคน ส่วนบาสก็เอาแต่นั่งหัวเราะอารมณ์ดี
   

ยักษ์ในวัดมีกี่ตนไม่รู้ แต่ที่รู้คือยักษ์ตนนี้ที่ผมนั่งตักอยู่นั้นมีตนเดียวบนโลก


TBC.  :katai5:

เข้าวัดเข้าวากันบ้างละกันเนาะ -..- เรื่องดอกบัวพรมน้ำมนต์นี่ ต้องขอบคุณบล็อกท่องเที่ยวบล็อกหนึ่ง (ซึ่งจำไม่ได้แล้ว T_T) พอดีเคยเดินผ่าน เคยไปเที่ยวแถวนั้น แต่ไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับวัดมากนักเลยลองเสิร์จข้อมูลดู ก็เจอดีเทลตรงนี้เลยนำมาเขียน ตอมว่าน่ารักดีอะค่ะ ฮิๆ คาถานั่นยืมมากจากเจ้พลอยเฌมาลย์ในละคร บ่วงบาป นะ 555555

ใครอยากได้หนังสือรอบรีปริ้น เข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่โพสปักหมุดของเพจนะคะ (ยังไม่คอนเฟิร์มว่าจะรีน้าา อ่านรายละเอียดก่อนน้อ)

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ เลยนะคะที่อยู่เป็นเพื่อนกันเสมอ  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2015 10:33:25 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 100%} 21.10.58::
«ตอบ #471 เมื่อ21-10-2015 23:15:05 »

ก็ว่าคาถาคุ้นๆนะ 55555
น่ารักจริงๆเลยยยย

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 100%} 21.10.58::
«ตอบ #472 เมื่อ21-10-2015 23:37:58 »

น่ารักกกกมากกกกก ยิ้มแก้มปริ  ยักษ์น่ารัก เอเลี่ยนน้อนก็น่าฟัด โอ้ยยยย รักสองคนนี้จังเลยยยย  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ nutipkra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 100%} 21.10.58::
«ตอบ #473 เมื่อ21-10-2015 23:53:22 »

 :o8:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 100%} 21.10.58::
«ตอบ #474 เมื่อ22-10-2015 00:20:53 »

เป็นคาถาที่น่าท่องตามมากที่สุดในสามโลก และพี่ยักษ์ก็น่ารักมากกกกกก

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 100%} 21.10.58::
«ตอบ #475 เมื่อ22-10-2015 03:11:32 »

คาถาอีแพงเปล่าเนี่ย พี่ยักษ์ดูท่าทางแล้วเสพติดละครไทย 55555+ ตอนนี้หวานกันเบาๆ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 100%} 21.10.58::
«ตอบ #476 เมื่อ22-10-2015 06:53:41 »

เพลินอ่ะ  ไปเที่ยวกะยักษ์และเอเลี่ยนเพลิน

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 100%} 21.10.58::
«ตอบ #477 เมื่อ22-10-2015 07:13:05 »

 :-[ :-[ :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 100%} 21.10.58::
«ตอบ #478 เมื่อ22-10-2015 11:22:46 »

พี่ยักษ์ถึงกับให้แมทเล่นโยคะเพื่อที่กล้ามเนื้อจะได้แข็งแรง

จะได้มีแรงเล่นท่ายากๆ เวลาอยู่ในห้องเซ็กส์ทอยเนี่ยนะ

พี่ยักษ์หื่นมากกกกก เดี๋ยวจะได้แยกจากแมทแล้ว

อย่าไปหื่นใส่คนอื่นนะ ไม่งั้นเราจะยุให้แมทงอนหนีไปให้ไกลเลยคอยดู

แมทระวังเรื่องอดัมไว้บ้างก็ดีนะ ถ้าพี่ยักษ์รู้แล้วเกิดหึงขึ้นมานี่

การฝึกโยคะคงไม่ช่วยอะไรเลย :oo1: :oo1: :oo1:

ตะหงิดๆ กับการขอพรในเรื่องความรักของแมทยังไงไม่รู้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ corn_rain

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.15 100%} 21.10.58::
«ตอบ #479 เมื่อ22-10-2015 11:23:53 »

ผมนี่รีบไปวัดพระแก้วเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด