:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 800314 ครั้ง)

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #510 เมื่อ30-10-2015 19:17:14 »




Only You  EP.16 [100%]


ฉาก NC ไม่ใช่ฉาก NC หวานแหวว ฟินฟุ๊งฟิ๊ง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน




“เงียบทำไม บอกฉันสิ” เขาถามเสียงห้วน เริ่มมีความขุ่นเคืองชัดเจนยิ่งขึ้น ผมกลืนน้ำลายลงคอ พยายามสบตากับเขา ทั้งที่แค่มองหน้าเขาในยามนี้ก็ยากพอแล้ว


“คือ… ผม… คิดว่า…” ผมผ่อนลมออกทางปากแผ่วเบา หน้าตาเริ่มอึกอักหาทางไปไม่ถูก วิคเตอร์ขมวดคิ้วหนักขึ้น แววตาก็คาดคั้นกว่าเดิม ผมก็ยิ่งร้อนขึ้น คือเขาไม่รู้ตัวเลยว่า เขาแต่งตัวหล่อมาก ทุกอย่างดูลงตัว แล้วพอเขาทำหน้านิ่วคิ้วขมวด มันยิ่งทำให้เขาดูร้อนเร่าในแบบคนมีอายุ ไม่ใช่ว่าเขาแก่ แต่เขาดู เอิ่ม… โชกโชนน่ะ


“อะไร?! พูดออกมาเร็วๆ อย่าให้ฉันโมโหนะ” คุณก็โมโหแล้วนี่ไงไอ้ยักษ์


ผมพยายามตั้งสติ มองหน้าเขาตรงๆ แต่สายตาก็อดสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าไม่ได้ ช่างลงตัวเหลือเกิน ทุกอย่างดูเข้ากันไปหมด


“ผมแค่รู้สึกว่าคุณหล่อเกินไป ฮ็อตเกินไป และคุณกำลังทำให้ผมรู้สึก…” ผมกลืนน้ำลายลงคออีกครั้ง ริมฝีปากเริ่มแห้งผาก ตอนแรกวิคเตอร์มีสีหน้าไม่เข้าใจ แต่พอเขาเห็นอาการที่ผมแสดงออกเขาก็กรีดยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที


“You look so smart. (คุณดูดีมากเลย)” วิคเตอร์ก้าวเท้าเข้ามาหาผมสองก้าวถึง ปลายจมูกเราสองคนเกลี่ยไล้ไปมา ลมหายใจร้อนๆ ของผมกระทบกับผิวหน้าของเขา


“ที่จริงคุณควรไปทำงาน แต่ผมก็แค่คิดว่าถ้าเราจะไปช้าสักหน่อย…” ผมว่าเสียงกระซิบ วิคเตอร์แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากล่างช้าๆ


“Shhh~” วิคเตอร์ขยุ้มริมฝีปากคล้ายจะผิวปาก หรี่ตาลงเล็กน้อย พลางส่ายหัวช้าๆ อย่างมีลีลา


“นายบอกว่าเราไม่ควรไปสายไม่ใช่เหรอ” มือเขายื่นมาค่อยๆ แกะสายที่รัดผ้าคลุมอาบน้ำที่ผมคลุมอยู่ออกอย่างเชื่องช้าแต่ว่าช่างน่าตื่นเต้น หัวใจผมเต้นระรัวอยู่ในอก อุณหภูมิในร่างกายเริ่มสูงขึ้นทีละนิด


“…นายกำลังผิดคำพูดตัวเองนะ” เขาดึงชุดคลุมออกจากตัวผม ปล่อยให้มันลงไปกองบนพื้นห้อง สายตาเขาโลมเลียผมไปทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้า


“งะ… งั้นเราไปทำงาน…” ผมพูดติดขัด แถมพูดไม่จบอีกต่างหาก อุณหภูมิในร่างแทบถึงจุดเดือด รู้สึกร้อนไปหมดแล้ว วิคเตอร์กัดริมฝีปากล่างไว้ ยิ้มแบบมีเลศนัยออกมา


“เจ้าเด็กเลี้ยงแกะ โกหกแบบนี้ต้องอบรมบ่มนิสัยกันหน่อย” เขาจับต้นแขนผมแน่นแล้วหมุนตัวเหวี่ยงร่างผมลงไปนอนหงายบนเตียง ผมชันศอกขึ้นมาเพื่อจะมองเขา วิคเตอร์เดินย่างสามขุมเข้ามา หน้าตาเขาเต็มไปด้วยความดิบเถื่อน สายตาเขาวาวโรจน์ ไม่ใช่เพราะความโกรธ แต่เพราะความกำหนัดทางเพศ ลมหายใจผมเริ่มแรงขึ้น


“อะ!” ผมครางสั้นๆ ตอนที่โดนเขาจับบิดร่างให้พลิกคว่ำลงบนเตียง เขารั้งเอวผมให้ก้นโด่งขึ้น ผมใช้มือจะดันตัวขึ้นมา แต่เขากลับใช้มือกดหัวผมให้ลงไปนอนแนบเตียงอย่างแรง ผมหายใจหอบ หัวใจเต้นรัวยิ่งกว่ามือกลองรัวกลองชุด


บรรยากาศคล้ายกับวันที่เรามีอะไรกันในห้อง sex toy ครั้งแรกเลย เขาทั้งโหด เถื่อน ดิบ แต่ก็… เร่าร้อนและเซ็กซี่


“อยากได้อะไรต้องบอกตรงๆ รู้มั้ย เจ้าเด็กโง่ อย่าโกหกอีก” เขาว่าเสียงแหบดิบพร่า สองมือบีบก้นผมแน่น ผมเผยอริมฝีปากบนขึ้น ผ่อนลมอุ่นๆ ออกจากปากแผ่วเบา


ป้าบ!!!


“อ้า!” เขาฟาดมือลงบนแก้มก้นขวาของผมอย่างแรงจนผมแอบสะดุ้ง ความเจ็บ ความแสบแล่นพล่านไปทั่วบริเวณนั้น ก่อนที่จะรู้สึกหายชาเขาก็ฟาดมือลงมาที่เดิมอีกครั้ง


ป้าบ!!!


“โอ้ว…” ผมส่ายก้นน้อยๆ หลับตาพริ้ม สองมือจิกลงบนผ้านวมแน่น ใบหน้าไถลเชิดขึ้นไปกับเตียง ลมหายใจหอบกระเส่าหนักหน่วง แล้ววิคเตอร์ก็สลับไปตีแก้มก้นซ้ายอย่างแรงเช่นเดียวกัน


ปับ!!!


“อือ!” ปับ!!


ยังไม่ทันได้หายเจ็บแสบจากการฟาดรอบแรก เขาก็ฟาดมือลงมือซ้ำอีกรอบ เล่นเอาผมใจกระตุกแรงหนึ่งที จากนั้นเขาก็สลับฟาดก้นผมทั้งสองข้างโดยไม่มีการออมแรง


ป้าบ!!! ป้าบ!!! ปับ!!! ปับ!!! ป้าบ!!!


“Oh, please.” ผมร้องครางออกมาเสียงสั่น ยกมือซ้ายไปจับข้อมือซ้ายเขาไว้ ขาผมสั่นเบาๆ ความเจ็บแสบสาดไปทั่วแก้มก้นทั้งสองข้าง เสียงหอบหายใจของวิคเตอร์หนักหน่วงพอๆ กับผม ผมเลื่อนสายตาไปมองใบหน้าดิบเถื่อนและแววตาอันตรายของเขา วิคเตอร์นั่งคุกเข่าบนพื้น สองมือบีบก้นแดงๆ ของผมแน่น เขาใช้สองมือแบะก้นผมออก ก้มหน้าซุกลงมา ส่งลิ้นร้อนมาไล้เลียกลีบเนื้อนุ่มย่นสีชมพูของผมเร็วๆ


“อ๊ะ อ๊า!” ผมครางไม่เป็นภาษา เปลือกตาปิดแน่น รับรู้ถึงความเสียวซ่านตรงบริเวณนั้น เอวผมแทบบิดเพราะความรู้สึกเสียวที่แล่นจากง่ามก้นขึ้นไปบนแผ่นหลัง เขาเลียจนชุ่มก็ผละออกไป ลุกขึ้นยืนแล้วเอื้อมมือมากระชากหัวผมให้แหงนหน้าไปมองเขา ผมอ้าปากหายใจหอบ แหงนหน้ามองเขาตามแรงดึงเส้นผม


ช่างร้อนแรง…


“Tell me the truth. What do you want? (บอกความจริงมา นายต้องการอะไร)” เขาถามเสียงแหบห้วน หน้าตาดุดัน แววตามีแววเหี้ยมโหด ผมกำลังจะอ้าปากตอบแต่เขาก็ก้มลงมากัดไหล่ผมไว้


“โอว…” ผมปิดตาแน่น ครางออกมาด้วยความเจ็บ ใช้สติที่พอมีอยู่รีบเอื้อมมือซ้ายไปตะปบเป้าตุงๆ ของเขาไว้เต็มมือ ออกแรงบีบจนเขายอมปล่อยฟันที่กัดไหล่ผมไว้


“Your cock. I want it. I want you to fuck me. (ของคุณ ผมต้องการมัน ผมอยากให้คุณอึ๊บผม)” ผมบอกเสียงรัวแต่สั่นไปทั้งประโยค เขาแสยะยิ้มร้ายกาจ ปล่อยมืออกจากเส้นผมที่จิกเอาไว้ เขาทำท่าจะแกะกระดุมเสื้อสูทออก แต่ผมรีบคว้ามือเขาเอาไว้


“No. Don’t take it off. (ไม่ ใส่ไว้)” เขาชะงักมือ สีหน้าเขาเข้มขรึมพอๆ กับสีชุด ผมยังคงหายใจหอบเบาๆ


“Why?” ผมเลื่อนสายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่าง (พยายาม) ยั่วยวนและเชิญชวน วิคเตอร์แววตาลุกวาว รอยยิ้มพึงใจปรากฏที่มุมปากน้อยๆ


“Because you look fucking handsome. (เพราะคุณโคตรหล่อเลย)” เขากรีดยิ้มกว้าง แต่เป็นยิ้มที่ร้ายกาจเหลือเกิน เขาส่งนิ้วชี้กับนิ้วกลางด้านขวาเข้าไปในปาก อมมันจนชุ่มแล้วเอาออกมายัดเข้ามาในก้นผม ผมบิดลำตัวไปมายามที่นิ้วเขาหมุนวนหนักๆ อยู่ด้านใน


“อืม…” ผมหลับตาลง ลมหายใจหอบกระเส่าแผ่วเบา


“Get up. We gonna see how much I handsome in your eyes. (ลุกขึ้น เราจะไปดูกันว่าฉันหล่อมากแค่ไหนในสายตานาย)” ผมลืมตาขึ้น บิดหน้าไปสบตาคมวาวของเขาอย่างเชื่องช้า ค่อยๆ ใช้มือดันตัวขึ้นนั่งคุกเข่า โดยยังมีนิ้วของวิคเตอร์คาอยู่ด้านใน ผมหรี่ตาปรือเล็กน้อย รู้สึกอึดอัดข้างในไปหมด เมื่อเห็นว่าผมช้า วิคเตอร์ก็กระทุ้งนิ้วกระตุ้นให้ผมรีบก้าวลงจากเตียง


“ฮ่ะ!!” ผมอ้าปากผ่อนลมหายใจยามที่สองนิ้วของเขาบดขยี้ด้านในของผม


“Lead me to the restroom. (เดินนำฉันไปที่ห้องน้ำ)” เขากระซิบที่ข้างหูตอนที่ผมยืนบนพื้นห้อง เขาดันนิ้วเข้าไปลึกๆ เป็นสัญญาณให้ผมก้าวเท้าเดินไป ผมนิ่วหน้าเสียวหน่อยๆ เพราะปลายนิ้วเขาโดนจุดกระตุ้นอารมณ์ด้านใน แมทน้อยตั้งชูชันขึ้นมาทันที ผมค่อยๆ ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า เพราะกลัวจะทำนิ้วเขาหลุดออกจากตัวเอง และถ้าเป็นแบบนั้นเขาต้องมีมาตรการลงโทษผมเพิ่มแน่นอน


พอเข้ามาถึงในห้องน้ำ เขาก็กดหัวผมลงไปให้แก้มแนบกับพื้นเย็นๆ ของหินอ่อนตรงอ่างล้างหน้า เสียงพื้นรองเท้าหนังของเขากระทบกับพื้นหินอ่อนดังกรุบกรับไปทั่วห้องน้ำทำเอาผมใจเต้นตุบตับ เขาถอนนิ้วออกไป ผมมองเห็นเขาสะท้อนอยู่ในกระจก เขาใช้สองมือดึงหูกระต่ายจนหลุดลุ่ย แต่ก็เอาสายคล้องคอไว้ เขาเอื้อมไปหยิบครีมทาผิวสูตรสำหรับเด็กของผมมาเปิดฝาออก บีบครีมออกมาประมาณหนึ่งแล้วเอามาป้ายตรงกลีบเนื้อนุ่มด้านหลัง ผมหอบหายใจแรงขึ้น หัวใจเต้นปะทะกับผนังอกรุนแรง


“อึ๊!” ผมนิ่วหน้าหนักตอนที่เขายัดความใหญ่ยาวเข้ามาจนมิดด้ามรวดเดียว เขาทาบทับตัวเขาลงมาบนแผ่นหลังผม ก้มลงมากระซิบที่ข้างหู


“เงยหน้าขึ้นมามองฉันสิ” เขายืดตัวกลับไป ผมดันศอกขึ้นมาค้ำร่างตัวเองไว้ สายตาจับจ้องเขาที่สะท้อนผ่านกระจกเงาในห้องน้ำ วิคเตอร์ยิ้มราวกับโรคจิตที่ได้เหยื่อถูกใจ สองมือเขาจับเอวผมไว้แน่น


ปึก!! “อ๊า!!” ผมกรีดร้องออกมา เปลือกตาปิดแน่นยามที่โดนเขากระแทกเน้นๆ ด้านในผมตอดรัดเขารุนแรง เนื้อเอ็นอุ่นของเขาเสียดสีกับผนังหนานุ่มด้านในของผมจนอุ่นร้อนไปหมด


ปึก!! “อ้า!!”


“ลืมตาขึ้นมา!” เขาสั่งเสียงกระชาก ผมอ้าปากหอบหายใจ ค่อยๆ พยายามลืมตาขึ้นมามองเขา แววตากับรอยยิ้มอันพึงใจของพ่อยักษ์คมเข้มสะท้อนอยู่ในกระจกชัดเจน


ปึก!! “โอ้ว!!” ความเสียวและความจุกถาโถมเข้าหาผม หน้าท้องผมหดเกร็งเข้าออกแรงๆ ลมหายใจของเราสองคนเริ่มดังแข่งกัน วิคเตอร์นิ่งไปสักพักเหมือนผ่อนแรง แต่เปล่าเลย เขาแค่ผ่อนตั้งหลักเท่านั้น เขาจับเอวผมไว้แน่นกว่าเดิม ก่อนจะเพิ่มแรงกระแทกรัวเร็ว


ปึกๆๆๆๆ


“อ๊ะๆๆๆๆ” แม้จะอยากหลับตาเพราะทนกับความเสียวไม่ไหวแค่ไหน แต่เมื่อเห็นสีหน้าของวิคเตอร์ผมก็ไม่กล้าปิดเปลือกตาลง พยายามลืมตามองเงาเขาในกระจกเอาไว้ และแม้ไม่มีหน้าตามาดเหี้ยมนั่น ผมก็ไม่อยากหลับอยู่ดีเพราะภาพที่สะท้อนให้ผมเห็นนั้นมันช่างน่ามองเหลือเกิน


ผู้ชายหน้าเข้มด้วยหนวดเคราจางๆ รูปหน้ามีสันกรามชัดเจน จมูกโด่งชัด คิ้วเข้ม ริมฝีปากอิ่มสีแดงหม่นที่ชอบจูบผม ผสมกับดวงตาสีน้ำผึ้งข้นอันเร่าร้อน แค่ใบหน้าเขาก็สะกดสายตาได้แล้ว แต่วันนี้เขาอยู่ในชุดทักซิโด้โก้หรู ทรงผมเว็ทลุคส์สุดเนี้ยบ มันทำให้เขาดูลึกลับและดูข่มขวัญเหลือเกิน ยิ่งการกระทำอันดิบเถื่อนของเขาตอนนี้ที่กระแทกกระทั้นผมอย่างรุนแรง มันยิ่งทำให้เขาร้อนฉ่ายิ่งขึ้น


ตับ!!! ตับ!!! ตับ!!! ตับ!!! ตับ!!! ตับ!!!


“Yes! Yes! Yes! Yes!” เสียงเนื้อกระทบกันรุนแรงพอๆ กับเสียงร้องจะขาดใจของผม แม้จะเจ็บอยู่บ้าง แต่มีครีมช่วยหล่อลื่น เลยทำให้บรรเทาได้เยอะ แถมความจุก ความเสียวและความสนุกนั้นมีมากจนลืมความเจ็บไปเลย ยิ่งได้เห็นสีหน้าวิคเตอร์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ทางเพศที่เกิดขึ้นเพราะผม ผมยิ่งรู้สึกร้อนตามไปด้วยจนไม่ได้สนใจเรื่องเจ็บปวดแต่อย่างใด


ป้าบ!!


เขาฟาดมือลงบนแก้มก้นขวาของผมแรงๆ หนึ่งที ผมแอบสะดุ้งนิดหน่อย แต่แล้วก็ยิ้มออกมา วิคเตอร์กรีดยิ้มร้ายกาจ ยังคงไม่หยุดกระแทกผม ผมค่อยๆ ดันตัวเองยืนขึ้น แต่ก็แอ่นก้นให้เขาเต็มที่ ไอ้ยักษ์กระแทกไม่หยุด ไม่ออมแรงเลยแม้แต่นิด ผมยกมือขวาไปคล้องคอเขาไว้ ซบศีรษะลงบนไหล่ซ้ายเขา


“Am I handsome, baby? (ผมหล่อมั้ยครับที่รัก)”


“Very much, baby. (ที่สุดเลยครับที่รัก)” เรายิ้มให้กัน วิคเตอร์ก้มลงมาจูบนัวเนีย แลกลิ้นกับผมอย่างตะกละตะกลาม ช่วงล่างก็กระแทกใส่ผมรัวๆ จนผมตัวสั่น น้ำลายเลอะไปรอบปากผม แต่เราไม่สนใจ ยังคงเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นกันอย่างเมามันส์


“อา… อา…” ผมครางเสียงแทบแหบ ปล่อยให้เขาดูดดึงลิ้นผมฝ่ายเดียว เขาดูดลิ้นหนักๆ อีกครู่หนึ่งก็ถอนจูบออกไป มือเลื่อนมาจับหน้าผมให้มองไปที่กระจก ผมเลื่อนสองมือลงมาค้ำขอบอ่างล่างหน้าไว้ วิคเตอร์เอาคางมาเกยไว้ที่ไหล่ขวาของผม แววตาดิบเถื่อนของเขาจ้องมองดวงตาฉ่ำน้ำของผมในกระจก


“That’s right. Look at my eyes. (อย่างนั้นแหละ มองตาฉันไว้)” ผมพยายามปรือตามองตาเขาในกระจกให้ได้มากที่สุด ตาผมแทบจะปิดเพราะแรงอารมณ์ที่เขาส่งมา เขาลากลิ้นจากไหล่ขึ้นไปตามซอกคอแล้วไปละเลงลิ้นที่ในหูผมส่งผลให้ผมร้องเสียงหลง หน้าตาบิดเบี้ยวเพราะความเสียวในรูหู และไหนจะความเสียวที่รู… ด้านหลังนั่นอีก


เขาหยุดกระแทกรุนแรงฉับพลัน เล่นเอาผมหอบตัวโยน เขาถอนตัวเองออกไป จับตัวผมให้หันหน้าไปหาเขาแล้วยกผมขึ้นไปนั่งบนขอบอ่างล้างหน้า จับขาผมแยกออกแล้วก็ดันแก่นกายกลับเข้ามาในตัวผมอีกครั้ง ซึ่งแรงกระแทกยังคงรุนแรงต่อเนื่อง


ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!


“อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊ะ!” ผมยกสองมือไปคล้องคอเขาไว้ เพราะตัวผมโยกไถลไปเรื่อยด้วยเรื่องขับเคลื่อนที่แรงดีไม่มีตกจากแฟนรูปหล่อของผม ขาผมโยกไหวอย่างอ่อนแรง แต่ผมก็พยายามตั้งฉากเอาไว้ แมทน้อยก็ชูชันไม่ยอมอ่อนลง คงเพราะพายุอารมณ์ที่โหมใส่ไม่หยุด


“ผูกหูกระต่ายให้ฉันสิแมท” วิคตอร์บอกเสียงแตกพร่า หน้าตาเขาสุขสมเหลือเกิน แม้ตัวจะโยกไหว ผมก็พยายามใช้สองมือผูกหูกระต่ายให้เขาด้วยสติอันเลอะเลือน และยิ่งเลือนรางเข้าไปอีก เมื่อจู่ๆ แมทน้อยก็พ่นน้ำออกมาเต็มหน้าท้องผม


“อ๊า” วิคเตอร์ยิ้มชอบใจแต่ยังไม่หยุดขยับสะโพกเข้าออกแรงๆ


“Super. (สุดยอด)” เขาบอกเสียงพร่าและทำท่าส่งจูบมาให้ ผมพยายามรวบรวมสติทั้งที่มันจะหลุดออกจากหัวไปตามแรงกระแทกอยู่แล้ว สองมือผมพยายามอย่างยิ่งที่จะผูกหูกระต่ายให้เขา มันเป็นไปด้วยความทุลักทุเล เสียวก็เสียว จุกก็จุก แต่หน้าที่ผูกหูกระต่ายก็ต้องทำ และเหมือนเขาจะแกล้งผมด้วยการงัดแก่นกายขึ้นหนักๆ ในตัวผม เล่นเอาผมหายใจเฮือก


“เร็วสิแมท…” เขายกแขนขวาขึ้นมา ใช้แขนซ้ายดึงแขนเสื้อสูทและแขนเสื้อเชิ้ตออกเพื่อดูเวลาตรงนาฬิกาข้อมือ แต่แรงซอยนั้นยังคงถี่กระชั้นไม่ลดลง เสียงพื้นรองเท้าหนังสีดำกระทบกับพื้นหินอ่อนตามจังหวะกระแทกดัง กรับๆ


“…เราเหลือเวลาอีกไม่มากนะ” เขาเลื่อนสายตาจากนาฬิกากลับมามองผม ส่งยิ้มลามกมาให้ เลื่อนสองมือกลับไปจับสะโพกผมไว้ ส่วนสะโพกเขาก็ยังคงทำหน้าที่กระแทกใส่ผมได้ดีเช่นเดิม ผมใช้สติที่ยังพอมีเหลือจัดการผูกหูกระต่ายให้เขาจนเสร็จ เบี้ยวนิดหน่อยแต่เดี๋ยวค่อยจัดอีกที


“Looking good? (ดูดีรึยัง)” เขาถามพลางสำรวจตัวเองในกระจก สองมือเลื่อนมาจับเอวผมไว้แน่น แรงกระแทกเริ่มหนักขึ้นกว่าเดิม


“Yes, sir. (ครับท่าน)” เขายิ้มยิงฟันก่อนจะซี๊ดปากดังๆ และยาวๆ แรงกระแทกรุนแรงขึ้น จนผมต้องกรีดร้องออกมาแข่งกับเสียงสูดปากสยิวของเขา และในที่สุดเขาก็ตัวกระตุกเกร็งรุนแรง ของเหลวมากมายทะลักเข้าไปในตัวผม ความร้อนเอ่อล้นแน่นจนวิคเตอร์ต้องดึงลูกชายเขาออก น้ำสีขาวทะลักตามออกมา พุ่งกระเด็นเต็มพื้นห้องน้ำ วิคเตอร์ยิ้มหน้าตาสบายใจ มองน้ำขุ่นข้นไหลออกจากก้นผมเพลินตา


“I love it.” เขาก้มลงมาจูบหน้าผากผมหนักๆ หนึ่งที ส่วนผมไม่สลบนี่ก็บุญแล้ว เลยยิ้มอ่อนแรงไปให้เขา ยั่วเขาเอง จะตายเองแล้วมั้ยล่ะ ผมดันตัวเองลุกขึ้นนั่งช้าๆ ใช้สายตามองสำรวจวิคเตอร์ไปทั่วตัว


เขายังคงอยู่ในชุดสูททักสิโด้ที่เสริมความหล่อเหลาของเขาจนผมต้องร้องขอให้เขาเอาผมในชุดนี้ ที่เร้าใจที่สุดคงเป็นลำแข็งสีโกโก้และลูกกลมกลึงสีโกโก้เข้มของเขาที่โผล่พ้นตั้งโด่และนูนออกมาจากซิบกางเกง ผมอดใจไม่ไหวเอื้อมมือไปรูดรั้งเบาๆ วิคเตอร์มองด้วยสายตาวิบวับ ผมย่อตัวลงแล้วจับยักษ์น้อยเข้าไปในปาก


“จะเอาอีกรอบงั้นเหรอแมท” วิคเตอร์ถามยิ้มๆ แต่ก็ไม่ว่าอะไร ยืนนิ่งให้ผมใช้ปากให้เขา รสชาติเนื้อร้อนๆ แผ่ไปทั่วโพรงปาก กลิ่นคาวข้นจากน้ำรักของเขาติดอยู่ที่ลิ้น ผมถอนปากออกจากแก่นกายเขา จับมันตั้งฉากพุ่งขึ้นและใช้ลิ้นเลียตั้งแต่โคนยันถึงยอดปลายสีชมพูอ่อนช้าๆ


“Oh. Yeah.” วิคเตอร์คำรามน้อยๆ ผมยิ้มทั้งที่ลิ้นยังเลียขึ้นลงไปตามความยาวของเขา เล็มเลียขจัดคราบคราวน้ำข้นที่ไหลอาบลูกชายเขาจนมันค่อยๆ หายไป ตรงไหนยังมีตกค้างผมก็ใช้ลิ้นตวัดเข้าปาก


“อ่า แมท นายกำลังจะทำให้ฉันเริ่มรอบสองนะ” เขาปิดตาลง แหงนหน้าขึ้น สองมือเท้าเอวไว้หลวมๆ ปล่อยให้ผมใช้ลิ้นเลียเนื้อเอ็นร้อนของเขา


“แฮ่ะ…” ผมกรีดยิ้มกริ่ม ส่งลิ้นออกมาเลียรอบปาก วิคเตอร์ก้มลงมามอง เขายิ้มเหี้ยม สีหน้ามีแววคุกคามแฝงอยู่ผมใช้มือขวาชักขึ้นลงให้เขาแล้วเอาปากครอบครองอีกครั้ง ดูดอมราวกับเป็นไอติมแท่งโปรด ผมไล้เลียกลืนของเหลวที่ตกค้างอยู่บนแก่นกายเขาจนหมดแล้วดันหน้าออก


“สะอาดแล้วครับ” ผมยิ้มยั่วไปให้ ดูดส่วนปลายสีชมพูอ่อนของเขาดังจ๊วบเป็นการส่งท้าย วิคเตอร์ยิ้มหล่อ สายตาเขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก ผมแกะกระดุมกางเกงออก จัดการเก็บลูกชายเขาเข้าไปในกางเกงชั้นใน มันยังคงแข็งขันดันกางเกงชั้นในโป่งพองออกมา ผมยื่นหน้าไปจูบมันผ่านเนื้อผ้านุ่มของกางเกงชั้นในแผ่วเบา ช้อนสายตามองวิคเตอร์ที่มองกลับมาตาลุกวาว ผมติดกระดุมกางเกงตามเดิม รูดซิบขึ้นให้เรียบร้อย ใช้มือลูบไล้ตามความยาวที่ยังคงนูนอยู่


“อย่าแข็งไปโชว์ใครข้างนอกนะครับ” ผมลุกขึ้นยืน หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดน้ำสีขาวบนท้องตัวเอง วิคเตอร์รั้งเอวผมเข้าไปหา ก้มลงมาจูบผมดูดดื่ม ผมยกมือคล้องคอเขาไว้ ตอบรับจูบของเขาแผ่วเบา


“หมั่ว…” เขาถอนจูบออกไป สายตาเป็นประกายของเขาสำรวจไปทั่วใบหน้าผม ผมส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้ วิคเตอร์ยิ้มเหมือนกับภูมิใจอะไรสักอย่าง


“…ไมเคิลออกลูกเป็นฟอกซ์นั่นแหละฉันถึงจะเบื่อนาย” เขาบอกเสียงนุ่มทุ้มน่าฟัง จูบหน้าผากผมหนึ่งที ผมยิ้มขำเหนื่อยอ่อนกลับไปให้เขา รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงมาก แต่ก็รู้สึกดีเหลือเกินกับเซ็กส์อันหนักหน่วงรอบนี้


เหนื่อยยิ่งกว่าโยคะที่เขาพาเล่น แต่รู้สึกดีกว่าเล่นโยคะนะ


“เรามีเวลาอีก…” เขายกข้อมือขึ้นมาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ “…มีเวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมง รีบแต่งตัวเถอะ” เขาลดมือลงไปบีบก้นผม แล้วตบลงมาแรงๆ ผมนิ่วหน้านิดหน่อย แต่ก็ยิ้มยิงฟันน้อยๆ ให้เขา


เขาช่วยผมเช็ดตัวทำความสะอาดร่างกายจนสิ่งที่เลอะอยู่ตามตัวหายไปหมด ผมให้เขาออกไปก่อนเพื่อที่จะได้ทำความสะอาดล้วงสิ่งที่อยู่ด้านในก้นออกมา เขาอาสาจะทำให้ แต่ผมเบรกเขาไว้ ตอนแรกเขาทำท่าจะไม่ยอม แถมทำท่าจะดุอีก ผมเลยต้องรีบอธิบายว่าผมไม่อยากให้ชุดเขาโดนน้ำกระเด็นใส่ เขาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก็ยอมปล่อยให้ผมจัดการล้างสิ่งตกค้างข้างในด้วยตัวเอง


 พอจัดการตัวเองเสร็จ ผมก็เดินพันผ้าขนหนูออกมาแต่งตัวในห้องนอน วิคเตอร์นอนพิงหัวเตียงผิวปากอารมณ์ดี หน้าตาผ่องใสโดยไม่ต้องพึ่งครีมรองพื้นใดๆ เขายิ้มทะเล้นมาให้ ผมกลั้นยิ้มเขิน หันไปหยิบชุดออกมาจากในตู้โดยยังมีเสียงผิวปากอันไพเราะเสนาะหูของแฟนรูปหล่อจอมหื่นดังคลอไปเรื่อย


 ผมไม่ได้แต่งอะไรมาก แค่เสื้อเชิ้ตยีนส์ของแบรนด์ดังกับกางเกงยีนส์สีน้ำเงินผสมสีสนิมที่เขาซื้อให้นั่นแหละ บวกกับรองเท้าคอนเวิร์สสีขาวหนึ่งคู่ แค่นี้ก็พอสำหรับผมแล้ว ผมหยิบกระเป๋าผ้ากระสอบแบบนุ่มสะพายข้างใบใหม่ที่ผม (แอบ) ซื้อมาเองจนทะเลาะกับวิคเตอร์เพราะเขาโกรธที่ไม่ยอมให้เขาซื้อให้ ผมก็ได้แต่ทำหน้ายุ่งเหยิง รู้สึกซับซ้อนกับเขาเหลือเกิน คือบางทีผมก็อยากซื้อของเองบ้าง ไม่อยากรบกวนเขา แต่กลายเป็นว่าเขาอยากให้รบกวน นี่ดีนะที่ไม่ทะเลาะกันใหญ่โต ก็แค่เขาโมโหเสียงดังลั่นห้องจนผมต้องรีบเข้าไปอ้อนจูบไปทั่วหน้าเขาถึงยอมสงบลง คืนนั้นต้องนอนกล่อมเด็กโข่งให้หลับอยู่นาน


“เอามือถือไว้กับคุณก็แล้วกันนะครับ เผื่อเราหากันไม่เจอ จะได้โทรหาผมได้”


“ไม่ เอาไว้กับนาย แล้วนายก็คอยอยู่ใกล้ๆ ฉันไว้สิ” น่ะ อาการดื้อแบบเด็กๆ ในเรื่องเล็กน้อยของเขาเริ่มออกฤทธิ์อีกเรื่องละ แต่เราเพิ่งจะอารมณ์ดีกันไป ผมเลยไม่อยากชวนทะเลาะให้บรรยากาศแปรปรวน


“ครับๆ” เขายิ้มอารมณ์ดี ยื่นมือถือมาให้ผมเก็บไว้ แถมยังรวมถึงกระเป๋าเงินด้วย


เขาเดินจูงมือผมออกจากห้องไป ออสตินยืนรออยู่ที่ลิฟต์พร้อมบอดี้การ์ดคนไทยอีกสามคนในชุดสูทสีดำสุดเท่ ผมส่งยิ้มให้บอดี้การ์ดไทยอีกสามคน พี่ๆ สามคนนั้นโค้งหัวให้ผมเล็กน้อยแล้วก็ตีหน้านิ่งต่อจนผมหุบยิ้มวืด


นี่ออสตินคัดคนประเภทเดียวกับเขามาใช่มั้ย รายนั้นน่ะ เหลือบมองผมแปบเดียว แล้วก็ทำว่าไม่สนใจอะไรอีกเลย คนพวกนี้นี่นะ ยิ้มหน่อยก็ไม่ได้ เป็นบอดี้การ์ดมันต้องทำหน้าแบบนี้ตลอดเลยรึไงกัน


เราลงลิฟต์ที่ชั้นสองเพราะออสตินบอกว่าเอารถมารอไว้ที่นั่นแล้ว เนื่องจากไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายถ้าเดินไปขึ้นรถหน้าโรงแรม ก่อนจะไปถึงที่รถ ผมให้วิคเตอร์หยุดถ่ายรูปเพื่ออัพลงโซเชียลก่อน ตั้งแต่อาจารย์ณัฐวัฒน์บอกผมว่านี่คือหน้าที่สำคัญระดับประเทศ ก็เพิ่งจะมีช่วงเวลานี้แหละที่ผมรู้สึกว่า เออ นี่เรากำลังมาทำงานจริงๆ นะไม่ได้มาเอ้อระเหยลอยชาย หรือให้ชายยกตัวลอย คือรู้สึกถึงการทำงานจริงจังบ้าง หากถามว่าก่อนหน้านี้มันคืออะไร ถ้าตอบแบบหยาบๆ ก็ต้องบอกตรงๆ ว่าคงเป็นการมานอนกกสามีและให้สามีนอนกกมากกว่า


คิดแล้วก็ละอายใจเล็กๆ (ไม่อยากละอายใจใหญ่ เดี๋ยวจะหาว่าแอคติ้ง) ทางภาควิชาออกหนังสือรับรองให้ผมเป็นเรื่องเป็นราว เป็นการเป็นงาน แต่สิ่งที่ผมทำแต่ละอย่างเป็นการเป็นกามแทบทั้งนั้น



TBC.

ตอนหน้าไปดูยักษ์เดินพรมแดงกันค้า ฮิๆ สำหรับตอนนี้ต้องบอกกับแมทว่า ดูท่าไม่เบานะเลาอะ // เสียงตุ๊กกี้ใน วงศ์คำเหลา

เขียนตอนนี้ด้วยความรู้สึกเกลียดนางเล็กๆ ในอก 55555 นางแรดอ้ะ แรดขึ้นทุกวัน ฮิๆ ผสมผสานระว่างแรดแอน์ดร่านนะ เด็กคนนี้ กรี๊ดดด ยั่วผัวสุดดด  :hao7:

แต่แบบนี้ วิคเตอร์ต้องไปไหนไม่รอดแน่ 55555 มัดใจปั๋วไว้เนาะ ในฉากมีความเร่าร้อนแล้ว ยังแอบมีแทรกเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาไว้ด้วย แต่อาจจะน้อยนิดไปหน่อยจนสัมผัสยาก แต่มีจริงๆ นะ 5555 ยังสัมผัสไม่ได้ก็ค่อยๆ ทำความเข้าใจในความสัมพันธ์ของพวกเขาไปน้อออ

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ ค่ะที่อยู่เป็นเพื่อนกันเสมอ  :mew1:

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #511 เมื่อ30-10-2015 19:54:05 »

นี่อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกดี คือเราติดใจเช่นเดียวกะวิคที่แมคใช้ปากให้คนอื่น 555 แจ่พออ่านตอนนี้แล้วแบบดีจัง โล่งออก เสมอภาค และรู้สึกวินๆฟินๆ 5555

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #512 เมื่อ30-10-2015 20:03:05 »

แมทนับวันยิ่งยั่วเก่งนะ ยั่วให้ยักษ์รักยักษ์หลงไม่แม้แต่จะนอกใจนอกกายยิ่งดี

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MinorMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #513 เมื่อ30-10-2015 20:20:11 »

นางแมทแรดมากอ่ะะ ยั่วขนาดนี้ไม่ต้องทำงานแล้ว55555

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #514 เมื่อ30-10-2015 20:58:34 »

 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #515 เมื่อ30-10-2015 21:22:51 »

ร้อนแรงทั้งคู่  :hao6:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #516 เมื่อ30-10-2015 21:28:15 »

ความหื่นเนี่ยมันออสโมซิสได้ใช่ไหม แมทถึงได้เป็นได้ขนาดนี้

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #517 เมื่อ30-10-2015 22:11:49 »

ตายแล้วววว
ลูกสาววววว(?) ทำไมแอ่นแด๊ะ(?)ขนาดนี้  :katai1:

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #518 เมื่อ30-10-2015 22:35:20 »

วิคเตอร์ไปไหนไม่รอดค่ะพูดเลยยย 55555

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #519 เมื่อ30-10-2015 22:44:47 »

หนูแมทททท เป็นไปตามสามีซะแล้ววว หื่นมากกกกกกกก  :hao6: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
« ตอบ #519 เมื่อ: 30-10-2015 22:44:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #520 เมื่อ30-10-2015 23:04:24 »

 :hao6:

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #521 เมื่อ30-10-2015 23:06:21 »

ให้ตายสิ  :jul1: :jul1:  ตายจมกองเลือดอย่าสงบ  :impress2: :impress2: ช่างร้อนแรงอะไรอย่างงี้  :m25: :m25:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #522 เมื่อ30-10-2015 23:09:43 »

 :pig4:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #523 เมื่อ31-10-2015 00:23:41 »

คุณสามีไม่ไหวๆๆ แมทก็ขยันยั่วเป็นไงล่ะ พี่แกจัดหนักเลย5555+

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #524 เมื่อ31-10-2015 11:27:26 »

หื่นพอกันทั้งคู่ :pighaun:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #525 เมื่อ01-11-2015 13:14:05 »

อ่านทันแล้ว เย้~~~ ลุ้นกับแมทน้อยมาตลอดตั้งแต่ไปเป็นทาสเขาที่เมกา โถ โดนไปสารพัดอ่ะ
แต่ความดีของแมททำให้เราเชื่อว่าวันหนึ่งวิคเตอร์ต้องตกหลุมรักแมทแบบโงหัวไม่ขึ้นแน่ๆ
ร้องไห้กับแมทหลายรอบแล้ววันนี้ก็มาถึงผัวรวย ผัวหล่อ ผัวหื่น ผัวเด็ก ผัวหวง ผัวขี้หึง รวมอยู่ในคนเดียวนี่ล่ะค่ะ
ชอบอ่านมุมของวิคเตอร์ตอนเป็นแฟนกันแล้ว คือโคตรรักแฟนมาก อยากอวดมากด้วย ซึ่งดีงาม
ส่วนแมทน้อยนี่ก็น่ารักไม่หยุดอ้ะ ยั่วเก่งด้วย ผัวรักผัวหลงจ้า

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #526 เมื่อ01-11-2015 23:45:28 »

หุหุ ความหื่นไม่เข้าใครออกใครจร้า
 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #527 เมื่อ02-11-2015 04:40:18 »

โอย ชอบเรืองนี้อ่ะ เพิ่งได้อ่านคืนนี้ครั้งแรกก็ตกหลุมรักแล้ว  :กอด1:

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #528 เมื่อ02-11-2015 15:58:54 »

เอเลี่ยนโคตรขี้ยั่ว
ยักษ์ก็ขี้เอา
หื่นพอกัน 5555555555555

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #529 เมื่อ02-11-2015 19:36:55 »

โอ๊ยสองคนนี้ เล่นเอาลุ้นเลยว่าจะเลยเวลาทำงานไหม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
« ตอบ #529 เมื่อ: 02-11-2015 19:36:55 »





ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #530 เมื่อ03-11-2015 11:45:31 »

 :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ mochimanja2

  • มึน
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.16 100%} 30.10.58::
«ตอบ #531 เมื่อ04-11-2015 15:49:01 »

ร้อรแรงกันเจงๆ  :jul1:สนุกจ้าอ่านกี่รอบก็ยังสนุก

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.17 50%} 04.11.58::
«ตอบ #532 เมื่อ04-11-2015 19:45:30 »




Only You EP.17 :: Giant Moody. [50%]



เรามาถึงสถานที่จัดงานเลทไปสิบห้านาที แม้จะช้าไปนิดแต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดเท่าไหร่ (ละมั้ง) บอดี้การ์ดคนไทยขับรถเข้าไปจอดตามเส้นทางที่เขาโคกับทางทีมงานเอาไว้ หลีกเลี่ยงเส้นทางปกติที่ผู้คนยืนอออยู่กันแน่นขนัด รถจอดในที่จอดรถที่ทางทีมงานเตรียมไว้ให้ ผมได้คำตอบข้อข้องใจเรื่องรถแล้วว่าเขาไปหามาจากไหนในช่วงเวลาที่พักอยู่ที่ไทย รู้สึกโล่งใจมากเมื่อได้รับคำตอบว่าเขาไม่ได้ซื้อ แต่เป็นทีมงานที่ไทยจัดการหารถมาให้เท่านั้น
   

“เดินมารอที่ห้องรับรองก่อนค่ะ เดี๋ยวจะมีเวลาปล่อยตัวไปเดินพรมแดง…” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังออกมาจากวอล์ของบอดี้การ์ดคนไทย ฝั่งเราตอบกลับว่ารับทราบและพี่ๆ คนไทยก็เดินนำคุ้มกันวิคเตอร์ไปตามทาง โดยที่เขาเดินจูงมือผมไปด้วยอีกที ผมกวาดตามองเหล่าบอดี้การ์ดทั้งสี่ที่ยืนอยู่รอบตัว รู้สึกไม่ชินแปลกๆ ชีวิตปกติอยากจะเดินไปไหนก็เดินตัวปลิว แม้ก่อนหน้านี้จะเคยได้รับการคุ้มกันจากพวกเขาแล้ว แต่ตอนนั้นเป็นการไปช้อปปิ้ง ไม่เหมือนกับตอนนี้ที่ทุกอย่างเป็นทางการมาก
   

รู้สึกขนลุก (ไม่ได้ปวดขี้นะ) ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นเชื้อพระวงศ์จากประเทศสมมุติก็ไม่ปาน
   

พวกเราเดินมาถึงห้องรับรองที่มีงานเตรียมไว้ให้โดยปราศจากความวุ่นวาย แต่ผมก็ต้องตกใจเมื่อเห็นทีมงานนับสิบคนยืนรอต้อนรับวิคเตอร์อยู่ตรงประตูทางเข้า ทุกคนยิ้มแย้มและเก็บอาการตื่นเต้นได้ดีมาก เคยได้ยินมาว่าทีมงานเบื้องหลังพวกนี้ห้ามแสดงอาการตื่นเต้นกับดาราหรือคนมีชื่อเสียงจนออกนอกหน้า ดูท่าทางว่าจะจริง
   

“น้องแมทใช่มั้ยคะ” พี่ผู้หญิงมัดผมหางม้าหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม ผมยิ้มตอบกลับไป
   

“ครับ” เขายื่นป้ายคล้องคออันหนึ่งมาให้ผม
   

“ใส่ไว้นะคะ จะได้สะดวกในการทำงานมากขึ้น” ผมรับป้ายจากพี่เขามาดู บนป้ายนั้นไม่ได้เขียนอะไรเป็นพิเศษ แค่เขียนตัวอักษรหนาสีขาวบนพื้นสีดำมีลวดลายของตีมงานว่า V.I.P.
   

อุ๊ยตาย ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะมีตำแหน่ง Very Important Person มาประดับอยู่บนตัว
   

“Take a seat in side. We are going to explain all details to you. (เชิญนั่งด้านในก่อนนะครับ เดี๋ยวเราจะอธิบายรายละเอียดให้คุณได้ทราบ)” พี่สตาฟ์ผู้ชายผมตั้งคนหนึ่งเดินมาบอกกับวิคเตอร์ แล้วก็พาพวกเราเดินเข้าไปด้านใน แต่พวกพี่ๆ บอดี้การ์ดคนไทยนั้นยืนรอด้านนอก ส่วนออสตินเดินตามพวกเราเข้าไปด้านในด้วย
   

“Okay. First…” พอนั่งบนเก้าอี้พร้อมเพรียง พี่ผู้ชายคนเดิมก็เริ่มอธิบายรายละเอียดงานวันนี้ พร้อมกับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น บอกว่าวิคเตอร์ต้องทำอะไรบ้าง ด้วยความเคยชินตอนเป็นเด็กฝึกงานในตำแหน่งผู้ดูแลเขามาก่อน ผมก็หยิบสมุดโน้ตที่เตรียมมาจดรายละเอียดงานต่างๆ เอาไว้ตามที่พี่เขาบอก วิคเตอร์นั่งฟังนิ่ง ไม่วอกแวก มีเหลือบมองผมที่กำลังจดยิกบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร หันกลับไปฟังพี่สตาฟ์ต่อ
   

“After all finish. We have THANK YOU party for agency, all actors, and some celebrities. (หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เราจะมีปาร์ตี้ขอบคุณผู้สนับสนุน นักแสดงทุกคนและเซเลบบางคนด้วยครับ)” วิคเตอร์พยักหน้ารับนิ่งสนิทตามสไตล์นิสัยเขาเวลาที่ไม่ได้อยู่กันสองคน
   

“น้องแมทครับ อย่าเพิ่งให้เขากลับนะครับ อยู่ร่วมงานกันก่อน” พี่เขาหันมาบอกผม ไม่รู้ว่าที่พูดแบบนี้เพราะรู้นิสัยวิคเตอร์หรือเพราะเห็นสีหน้าไร้อารมณ์ของเขากันแน่ ถ้าเป็นอย่างหลังอยากจะบอกพี่เหลือเกินว่า ก่อนจะมาที่นี่ พ่อยักษ์หน้าหนวดรูปหล่อตนนี้ สีหน้าเขานั้นแน่นไปด้วยอารมณ์ (กาม) สุดๆ เลยพี่
   

“ครับ เดี๋ยวผมบอกให้ แต่คิดว่าเขาคงอยู่ไม่นานนะครับ เพราะเขามีนัดกับเพื่อนต่อ” นัดเขาก็นัดผมด้วยแหละ ผมอยากเล่นน้ำ ฮี่ๆ
   

“ขอบคุณครับ อีกประมาณยี่สิบนาทีพี่จะมาตามนะครับ ตอนนี้ก็รบกวนรอหน่อย” ผมยิ้มอ่อนให้เขา สตาฟ์ทุกคนพร้อมใจกันเดินออกไปด้านนอก ออสตินเองก็เดินตามหลังพวกนั้นออกไปแล้วปิดประตู ทิ้งให้เราสองคนนั่งอยู่ด้วยกันในห้อง ผมนั่งก้มหน้ามาร์คดอกจันทร์ไว้ตรงช่วงสำคัญที่วิคเตอร์ต้องทำ
   

“ฉันไม่รู้จะพูดอะไรตอนรับรางวัล” ผมเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้านิ่วคิ้วขมวดครุ่นคิดของเขา พ่อยักษ์ใหญ่ดูวิตกกังวลเล็กๆ ที่จะต้องขึ้นไปรับรางวัลนักแสดงชายที่ได้รับการโหวตสูงสุดจากคนไทยว่าอยากให้มาร่วมงานนี้ รับรางวัลไม่เท่าไหร่ แต่ต้องกล่าวอะไรเล็กน้อยเนี่ยสิคือปัญหาของเขา
   

“ก็พูดขอบคุณนั่นแหละครับ ขอบคุณแฟนคลับ ขอบคุณทีมงานอะไรก็ว่าไป พูดให้ยาวๆ หน่อยละกันนะ ไม่ใช่พูดสามสิบวิจบ” ดักทางไว้ก่อน นึกออกเลยว่าเขาจะต้องพูดแค่ว่า Thank you แล้วเดินลงจากเวที อาจจะมากกว่านี้อีกสองสามคำ แต่ไม่เกินนี้แน่ อย่าสบประมาทผู้ชายคนนี้เชียว
   

“ฉันช่างพูดที่ไหน นายก็รู้ ถ้าไม่ใช่กับนายฉันก็ไม่ชอบพูดอะไรเยอะๆ ยาวๆ ด้วยหรอก” ผมกลั้นยิ้มเขิน จนปวดที่มุมปากสองข้างนิดหนึ่ง พูดประโยคหวานด้วยหน้าตาเฉยอีกแล้ว เหมือนเป็นเอกลักษณ์ของเขาไปเลย แต่ผมชอบนะเวลาที่เขาพูดประโยคหวานเลี่ยน ประโยคชวนเขินด้วยสีหน้าและน้ำเสียงธรรมดาราวกับพูดประโยคทั่วไป มันดูออกมาจากใจดี
   

“งั้นก็ลองนึกว่าพูดอยู่กับผมก็แล้วกัน แต่อย่าบอกรักผมบนเวทีนะ” นี่ก็ต้องดักไว้ก่อน เกิดคึกคะนองบอกรักโชว์ซีนหวานเลี่ยนขึ้นมานี่ผมมุดดินหนีไม่ทันนะ ผมไม่อยากโดดเด่น ไม่อยากโดนจับจ้อง ไอ้ที่เขารู้กันในโซเชียลนั่นก็ปล่อยไป แต่ให้มารับมือกับสายตาหรือเสียงฮือฮาต่อหน้าต่อตัวแบบนี้ ขอบายดีกว่า (แค่ที่มหา’ลัยตอนที่เขาไปหาก็พอแล้ว)
   

“ทำไมล่ะ พูดไม่ได้หรอ ฉันจะได้พูดเยอะๆ ไง” เขายิ้มตาใส รอยยิ้มใสซื่อ ผมแยกเขี้ยวย่นจมูกพร้อมส่ายหัวดุ๊กดิ๊ก
   

“บอกรักกันสองคนพอแล้ว ไม่ต้องประกาศออกไมค์ก็ได้ ผมไม่ใช่คนดังอย่างคุณนะ”
   

“ตอนนี้นายก็ดังแล้วนี่ ข่าวนายมีตั้งเยอะ” ผมส่ายหัวหน้าแข็ง
   

“มันก็แค่ช่วงนี้แหละ ปล่อยผมอยู่เงียบๆ เถอะ ผมไม่ชินกับการอยู่ท่ามกลางแสงแฟลช” ใครว่าเป็นคนดังจะดีเสมอไป แรกๆ อาจจะภูมิใจ ดีใจที่เป็นจุดเด่น แต่สิ่งที่ตามมาคือความวุ่นวายอีกมากมาย ไหนจะต้องปวดหัวจากความคิดคนในสังคมอีก ผมยิ่งคิดมาก คิดเยอะอยู่ด้วย กลัวจะป่วยตายเพราะความดังนี่แหละ บางทีผมก็เข้าใจวิคเตอร์อยู่นะว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบการเป็นบุคคลสาธารณะ
   

“แต่ถ้าฉันยังอยู่ตรงนี้ นายก็ต้องเจอแบบนี้แหละ”
   

“ผมเข้าใจครับ ผมเจอได้ แต่ก็ไม่อยากเจอบ่อยๆ ผมเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่ดารา เคยเห็นวงการบันเทิงตามสื่อ เคยเห็นนักข่าว ปาปาราซซี่ แต่ถ้าตัวเองต้องมีอะไรแบบนั้นมาล้อมหน้าล้อมหลัง ผมว่าผมไม่น่าจะชิน”
   

“งั้นฉันเลิกเป็นดาราดีกว่า” เขาพูดง่ายๆ ใบหน้าไม่สะทกสะท้าน
   

“ฮึ ได้ไงครับ ออกไม่ได้ คุณกำลังรุ่งเลย อย่าเพิ่งออกตอนนี้สิ อย่างน้อยเล่นหนังให้ครบห้าภาค่อน” วิคเตอร์ทำหน้าเซ็ง แลบลิ้นเหมือนอมดีหมูเข้าไปเต็มปาก
   

“ถ่ายทำตั้งห้าปี ฉันอยากจะบ้า นี่ถ้านายไม่บอกว่าชอบนิยายเรื่องนี้นะ ฉันยกเลิกสัญญาไปแล้ว”
   

“งั้นก็ถือว่าเล่นให้ผมดูละกันนะ ตอนหนังเข้าโรงผมจะไปดูทุกวันจนกว่าจะออกโรงเลย” ผมหัวเราะคิกชอบใจ วิคเตอร์ยิ้มหล่ออ่อนๆ
   

“เพื่อนายเลยนะ”
   

“ประทับใจมากครับคุณยักษ์รูปหล่อ” เขายิ้มเขิน ยิ้มจนร่องแก้มขึ้น หน้าเขาแดงนิดหน่อย นานๆ ทีจะเห็นเขาเขินหน้าแดงนะเนี่ย
   

เรานั่งคุยกันเพื่อฆ่าเวลา เรื่องที่คุยก็เรื่องสัพเพเหระในโลกโซเชียล วิคเตอร์เอาคลิปวีดีโอของไมเคิลจากคนรับฝากเลี้ยงมาเปิดให้ดู มันคึกคักมาก เพราะบ้านคนฝากเลี้ยงที่ผมเคยไปรับมันมานั้นมีสนามหญ้ากว้างขวาง ผิดกับบ้านวิคเตอร์ที่มีเพียงสนามหญ้าเล็กๆ หลังบ้าน
   

“คงจะดีถ้ามีสนามกว้างๆ ให้มันได้วิ่งเล่นแบบนี้ทุกวัน” วิคเตอร์ยิ้มอบอุ่น สายตาตอนมองไมเคิลในวีดีโอมีแววแห่งความรักปนอยู่
   

“คุณรักไมเคิลมากเลยเหรอ” ผมถามยิ้มๆ วิคเตอร์ยิ้มก่อนตอบแต่สายตายังคงมองไมเคิลกระโดดรับจานบินอย่างคล่องแคล่ว
   

“เวลาฉันอยู่คนเดียว ฉันก็มีมันนี่แหละที่อยู่เป็นเพื่อน มันช่วยทำให้ฉันเหงาน้อยลง…” เขายิ้มละมุนออกมา แต่ก็แอบมีร่องรอยของความเศร้าติดมาด้วย คงเป็นช่วงเวลาหลังจากเขาเสียแม่กับย่าไปละมั้ง
   

“…จนมามีฟอกซ์อีกตัว บ้านฉันก็มีสีสันขึ้นมาบ้าง” เขากดปิดวีดีโอบนมือถือ ยื่นมาให้ผมเก็บไว้ ผมรับมาและหัวเราะนิดหน่อย
   

“ชีวิตคุณมีแต่สัตว์เนอะ” ผมว่าพลางเก็บมือถือเขาไว้ในกระเป๋าสะพายข้าง วิคเตอร์ไหวไหล่หนึ่งครั้ง
   

“หลังจากฟอกซ์ก็มีเข้ามาอีกตัวนะ” ผมเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่ง หน้าตาสงสัยใคร่รู้ นอกจากเจ้าสองตัวนั้นเขายังมีสัตว์เลี้ยงอย่างอื่นอีกตอนไหน ทำไมไม่เคยเห็น
   

“เหรอ? คุณเลี้ยงอย่างอื่นด้วยเหรอครับ ไม่เห็นเห็นเลย” เขายิ้มขำ แล้วชี้นิ้วมาที่ผม
   

“นายไง” ผมทำหน้าว่าอ๋อ ก่อนจะได้สติ มองเขาที่หัวเราะก๊ากด้วยใบหน้าเหมือนหมาโง่อยู่พักหนึ่ง
   

“อะไร ผมไม่ใช่สัตว์นะ”
   

“สัตว์ประหลาดจากนอกโลก” เออ อารมณ์ดี หัวเราะสนุกสนานเบิกบานสำราญใจ ผมเอาสมุดโน้ตขึ้นตีไหล่เขาไปหนึ่งที แต่เขาก็ไม่สะทกสะท้านหรอก แขนหนายิ่งกว่าหน้าผมอีก
   

“น้องแมทคะ งานเริ่มแล้วค่ะ” พี่ทีมงานคนที่ให้ป้ายคล้องคอผมเดินเข้ามาตาม เราหยุดตบตีกัน ลุกขึ้นเดินตามพี่ๆ ทีมงานคนไทยออกไปจากห้องรับรอง ผมหันไปเห็นขนมที่เขาเตรียมไว้ให้ก็เสียดาย เลยหยิบติดไม้ติดมือมาสองสามอย่าง
   

“ที่ฉันซื้อไว้ให้ที่ห้องนั่นยังไม่พออีกเหรอ ไปอดอยากปากแห้งมาจากไหน” ไอ้ยักษ์หันมาจิกหน้ากวนเท้า ผมกัดปากล่างแล้วถลึงตามองพ่อรูปหล่อที่ทำหน้าเอือมกับความตะกละ เอ้ย ไม่ใช่ กับการรู้คุณค่าของอาหารต่างหาก
   

“ก็คุณไม่ซื้อแบบนี้นี่ ที่ห้องกินจนเบื่อแล้ว” เขาย่นคิ้วไม่เข้าใจกลับมา
   

“ไหน เอามาดูซิว่ามันเป็นขนมยังไง” ว่าแล้วก็ดึงไปจากมือที่กำลังยัดใส่กระเป๋า เขาจ้องมองขนมเคี้ยวกรุบกรอบกับขนมปลาเส้นธรรมดาทั่วไป แล้วเขาก็หันไปหาออสติน
   

“หลังจบงานไปหาซื้อขนมแบบนี้มา มีเท่าไหร่เอามาให้หมด…” เขายื่นขนมไปให้ออสตินจดจำรายละเอียดถุงขนม ออสตินพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงว่าจำได้แล้ว คนตัวโตหน้าหนวดหันมามองผมสายตาเหมือนพ่อกำลังดุลูก
   

“…ถ้าเด็กแถวนี้กินไม่หมดล่ะก็ ฉันจะทำโทษทั้งคืนเลย” เขาเอาถุงขนมปลาเส้นตีหัวผมแล้วยื่นคืนให้ ผมขมวดคิ้วแน่นมองเขาอย่างเอาเรื่อง กำลังจะอ้าปากด่าก็พลันสะดุดเพราะได้ยินเสียงหัวเราะจากพวกพี่สตาฟ์ไทยที่เดินนำเราสองคนอยู่ ผมรู้สึกร้อนฉ่า รีบดึงถุงขนมกลับมายัดใส่กระเป๋าตัวเอง เดินตีหน้าด้านหน้าทนต่อไป
   

วิคเตอร์ไปกับพวกทีมงานคนไทยโดยมีออสตินตามไปด้วย ส่วนผม เขาให้พี่บอดี้การ์ดคนไทยมาคุม อย่าเรียกว่าคุ้มครองเลย ดูดีไป เรียกว่ามาคุมดีกว่า ยืนเป็นพีระมิดจนผมแทบจมมิด เตี้ยพออยู่แล้ว ยังมาโดนพวกพี่หน้านิ่งนี่ยืนบังอีก ผมบอกว่าไม่ต้อง ก็รั้นไม่ยอม เราทำท่าจะเถียงกันหนักขึ้น ผมเลยตัดปัญหาให้พวกพี่สามสงบนี่ตามมา ตอนนี้เรามายืนรอวิคเตอร์ขึ้นลิฟต์มา พอลิฟต์เปิดเขาจะโผล่ที่ต้นทางพรมแดงของงานพอดี ช่างภาพและสื่อไทยยืนออกันเต็มสองฝั่ง เหล่าบรรดาประชาชนทั่วไปก็ยืนมองกันแน่น ใช่ว่าพวกนี้มาเพื่อวิคเตอร์คนเดียวนะ เขาก็มาตามดาราไทยและนักแสดงจากฝั่งเอเชียคนอื่นๆ ด้วย
   

“จะไปไหนครับ” หนึ่งในพี่สามสงบถามขึ้นตอนที่ผมจะแหวกออกจากวงพีระมิดของพวกเขา
   

“จะไปหาอะไรกินครับ พี่เอาด้วยมั้ย”
   

“ไม่ครับ คุณแมทก็อย่าเดินเถลไถลไปไหนนักเลยครับ” ฮะ?! เถลไถล การใช้คำของพี่นั่นทำให้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กหรือที่ร้ายที่สุดเหมือนเจ้านายสั่งหมาเลยว่าให้อยู่นิ่งๆ นะ
   

“เอ่อ… แต่โต๊ะอาหารอยู่แค่นี้เองนะพี่ ห้าก้าวก็ถึงแล้ว” ผมบุ้ยปากไปทางโต๊ะตัวยาวที่มีอาหารตั้งเรียงรายไว้ให้ทานมากมาย บริกรชายหญิงเดินถือถาดเสิร์ฟน้ำให้กับแขกผู้มาร่วมงานที่อยู่ในโซนของคนที่มีบัตรเท่านั้น ส่วนด้านนอกเส้นหนังสีแดงคือโซนของประชาชนปกติที่แวะเวียนเดินมาดูงาน บรรยากาศตอนนี้กำลังคึกคัก นักดนตรีอคูสติคกำลังบรรเลงเปียโน สีเชลโล สีไวโอลินและเป่าฟรุ๊ตโดยมีเสียงเพราะๆ ของนักร้องหญิงคอยขับกล่อม
   

“รีบกินก่อนที่คุณวิคเตอร์จะขึ้นมาก็แล้วกันครับ เพราะถ้าเขามองมาแล้วไม่เจอคุณแมท คงไม่ใช่เรื่องดีแน่” ผมยิ้มเฝื่อน พยักหน้าอ่อนๆ พวกพี่เขาหลีกทางให้ผมเดินไปหาอะไรกินตามประสาเด็กกำลังโต ผมแอบนึกโมโหนิดหน่อยที่วิคเตอร์ไม่ยอมปล่อยให้ผมยืนอย่างเป็นอิสระ ก็คิดว่าคุยกันรู้เรื่องแล้วนะว่าผมรับปากจะยืนอยู่ใกล้ๆ เขา ไม่ต้องให้ใครมาดูแล แต่สุดท้ายก็โดนพ่อสามพีระมิดบังมิดนี่ไง
   

หงับๆ
   

ผมจิ้มป่อเปี๊ยยัดไส้หมูสับเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย หลังจากเปิดศึกกับวิคเตอร์ที่อ่างล่างหน้าไป ผมก็ยังไม่ได้เติมพลังงานให้ตัวเองเลย เวลาปกติที่มีอะไรกัน มันก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว แต่ถ้าความดาร์คเหมือนผนังห้อง sex toy ของเขาเข้าครอบงำเมื่อไหร่ เมื่อนั้นผมจะสูญเสียพลังงานในร่างมากขึ้นเป็นสองหรืออาจจะสามเท่า คือเอาแรงมาก งานท่ายากหรือลีลาซับซ้อนบางทีก็ต้องมา
   

“น้ำมั้ยครับ” บริการรูปหล่อ หน้าใสเหล็กดัดฟัน ท่าทางจะเป็นเด็กทำงานพาร์ทไทม์ยกถาดน้ำดื่มมาเสิร์ฟ ผมยิ้มทั้งที่อาหารยังเต็มปากเลยพยายามกลืนลงคอให้หมด
   

“ขอน้ำมะนาวแล้วกันครับ” น้องบริกรหน้าตาน่าส่งเสียเลี้ยงดูหยิบแก้วน้ำมะนาวมาให้ ผมยื่นมือไปรับมาดื่ม ส่งยิ้มให้น้องเขาอีกที
   

“อันนี้พี่เป็นใครเหรอครับ ทำไมถึงมีบัตรวีไอพีด้วย” ผมดึงแก้วออกจากปาก ก้มลงมองป้ายที่ห้อยอยู่ตรงพุง เงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้น้องเขา
   

“พี่ขโมยเขามาอ่ะ” ผมแกล้งบอกเสียงกระซิบ แสร้งทำสีหน้าว่าขโมยมาจริงๆ ไอ้น้องเหล็กดัดฟันก็มองหน้าผมเหมือนว่าจะเชื่ออยู่ไม่น้อย
   

“จริงอ่อพี่” เออ เชื่อด้วย ผมหัวเราะเสียงใส ฝ่ายพ่อบริกรหนุ่มน้อยก็ยิ้มตามงุนงง
   

“ขโมยมาจริง พี่คงไม่ได้เข้ามาถึงด้านในนี้หรอก” น้องทำหน้าเข้าใจมากขึ้น พยักหน้าลอยๆ สองสามที
   

“แล้วพี่ทำหน้าที่อะไรอ่ะ ทำไมถึงได้บัตรวีไอพี” ถ้าตอบว่ามาดูแลสามีนี่จะเป็นไรมั้ย
   

“เป็นล่ามอ่ะ คอยดูแลนักแสดงต่างประเทศ” น้องทำตาโตเล็กน้อย ผมคลี่ยิ้มให้ น้องทำท่าจะคุยต่อแต่ก็โดนเรียกให้ไปเสิร์ฟน้ำต่อ ผมเลยยกน้ำมะนาวมาดื่มแก้คอแห้งต่อไป
   

“Mr.Raymond does not allow you talk to any man, doesn’t he? (คุณเรย์มอนด์ไม่อนุญาตให้คุยกับผู้ชายคนอื่นไม่ใช่เหรอครับ)”


 พุก!!
   

น้ำที่กำลังไหลลื่นลงคอถึงกับไหลย้อนกระเด็นออกมาเมื่อเสียงสำเนียงฝรั่งแสนคุ้นหูของออสตินดังขึ้นอย่างเรียบง่าย ผมยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำมะนาวที่เลอะปากกับคาง ก่อนหันไปแหงนหน้ามองออสตินที่ยืนยิ้มเหี้ยมอ่อนโยน (?) อยู่
   

“I just ask him for some water. (ผมแค่ขอน้ำจากเขาเท่านั้นเอง)” ผมเหล่ตามอง ย่นคิ้วใส่เขา ออสตินเลิกคิ้วขึ้น ทำหน้าประมาณว่า แน่ใจเหรอ?
   

“ผมคิดว่าคุณเรย์มอนด์เคยบอกคุณแล้วนี่ครับว่าห้ามยิ้มให้ผู้ชายคนอื่น” ผมอ้าปากค้าง รู้สึกทึ่งกับตาบอดี้การ์ดหัวเกรียนนี่มาก มันจะรับคำสั่งดีไปละมั้ง แล้วตาวิคเตอร์นี่ยังไงกัน ไปบอกบอดี้การ์ดว่าอะไร ให้จับตาดูผมไว้ ถ้าเห็นผมยิ้มให้ผู้ชายคนอื่นต้องตักเตือนเงี้ยอ่ะเหรอ
   

“คุณจะให้ผมทำหน้าเหวี่ยงใส่เขางั้นเหรอ เขายิ้มมาให้ ผมก็ต้องยิ้มตอบสิ ผมไม่ปัญญาอ่อนทำตามคำสั่งเขาหรอก” ผมว่าแล้ววางแก้วน้ำมะนาวลงบนโต๊ะ แอบชักสีหน้าใส่พ่อบอดี้การ์ดที่ยิ้มกวนติงอยู่
   

“คุณเรย์มอนด์คงไม่ชอบใจแน่ถ้ารู้ว่าคุณบอกว่าคำสั่งเขาปัญญาอ่อน” โอ้โหย อึ้งเลย งานนี้อึ้ง ผมอ้าพะงาบๆ รู้สึกเหมือนอัมพาตรับประทานไปชั่วคราว ขี้ฟ้องอ่ะ
   

“เรื่องแค่นี้คุณก็จะบอกเขาเนี่ยนะ” ออสตินยักไหล่กลับมาให้หนึ่งที
   

“ผมเป็นลูกน้อง ผมถูกฝึกมาว่ามีอะไรก็ต้องรายงานเจ้านาย” ที่ไหนฝึกคุณมาเนี่ย เดี๋ยวจะตามเอากรรไกรไปเสียบหูครูฝึก
   

“คุณออสตินครับ เรื่องเล็กน้อยบางเรื่องก็ไม่ต้องบอกให้เปลืองพื้นที่สมองของเขาหรอก” ผมหน้าง้ำนิดหน่อย รู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่ในอก
   

“ผมคิดว่าถ้าเป็นเรื่องของแฟนเขา คุณเรย์มอนด์ต้องอยากรู้ทุกเรื่องแน่นอน” โอเค วิคเตอร์ คุณเลือกบอดี้การ์ดได้ดีมาก พลังความมึน ความกวนตีนทำลายล้างประสาทเหมือนสมัยที่ผมฝึกงานกับคุณช่วงแรกเลยจริงๆ
   

“บางทีคุณก็เชื่อฟังคำสั่งเขามากไปนะ” ผมทำหน้ายุ่งเหยิง ยกมือเกาหัวแกรกๆ ออสตินไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ตอบกลับมาทำแค่ยืนมองผมนิ่ง
   

“แล้วนี่คุณไม่อยู่ดูแลเขารึไง”
   

“ก็คุณมัวแต่กินและยืนคุยกับผู้ชายคนอื่นด้วยรอยยิ้ม จนไม่ได้มองว่าแฟนตัวเองมาแล้ว” เดี๋ยวก่อน! นี่มีอาชีพเสริมเป็นนักจับชู้ด้วยใช่มั้ย เจ้านายกับบอดี้การ์ดนี่ปากจัดไม่แพ้กัน
   

“อ้าว แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหน” ผมขี้เกียจจะหาเรื่องถกเถียงกับเขาต่อเลยเปลี่ยนประเด็น ออสตินผายมือไปทางแบ็คดรอปสีดำของงานที่มีผู้คนยืนอออยู่ ผมพยายามเขย่งเท้าชะเง้อมอง ก็เห็นว่าตอนนี้วิคเตอร์กำลังโดนสื่อรุมสัมภาษณ์อยู่ เขายังคงยิ้มแย้มอยู่ในตอนนี้ ผมเลื่อนสายตากลับมามองหน้านิ่งของออสตินแล้วเดินไปยืนรอเขาตรงริมทางเดินพรมแดงที่จะพาเข้าไปสู่โรงภาพยนตร์ที่จัดงาน
   

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.17 50%} 04.11.58::
«ตอบ #533 เมื่อ04-11-2015 19:46:05 »



V
v
v


ผมและเหล่าบอดี้การ์ดยืนรอวิคเตอร์ให้สัมภาษณ์กับสื่อไทยอยู่ไม่ไกลจากเขามาก แต่ก็ไม่ได้ยินหรอกว่าเขาคุยเรื่องอะไรกันบ้างเพราะมีเสียงดนตรีและเสียงนักร้องดังกลบ ผู้คนมากมายยืนออมองเขากลุ่มใหญ่ แสงแฟลชจากช่างภาพสาดเข้าหาเขาไม่หยุด มือถือจากเหล่าผู้คนที่แวะมาชมงานถูกยกขึ้นมากดถ่ายรูปพี่พระอกเขารัวๆ สาวๆ นี่กรี๊ดกร๊าดกันเป็นระยะ
   

“เขากำลังเดินมาครับ” ออสตินก้มลงมาบอก ผมพยักหน้ารับรู้ วงล้อมที่โอบล้อมเขาไว้แตกฮือตอนที่สตาฟ์แหวกทางให้เขาเดิน ออสตินกับพวกพี่บอดี้การ์ดคนไทยตั้งท่าเตรียมพร้อมเข้าประกบเขาแล้ว พอเขาเดินมาเกือบถึงพวกเรา ออสตินก็นำทีมเข้าล้อมวิคเตอร์รับช่วงต่อจากสตาฟ์คนไทยทันที วิคเตอร์ยื่นมือมาดึงมือผมให้เข้าไปในวงล้อมของบอดี้การ์ด มีช่างภาพบางสำนักและเหล่าแฟนคลับ (หรือเปล่า ไม่แน่ใจ) เดินตามถ่ายรูปเขานอกพรมแดง ผมพยายามก้มหน้าไว้ รู้สึกแสบตามากกว่าอึดอัด วิคเตอร์ทนแสงพวกนี้เข้าไปได้ไงกัน
   

“เอ่อ เดี๋ยวผมรีบวิ่งตามไป” ผมหยุดเดินกะทันหันตอนที่เราเกือบจะก้าวขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นไปยังโรงละคร ที่จริงอย่าเรียกว่าหยุดเองเลย ผมเดินสะดุดเชือกรองเท้าต่างหาก ผมกำลังจะเฟดตัวไปทางด้านหลังที่มีสตาฟ์คนไทยเดินตามมา แต่ก็ถูกวิคเตอร์จับแขนไว้ พอเขาหยุดเดิน บอดี้การ์ดก็หยุดตามอัตโนมัติ พวกสตาฟ์คนไทยที่ตามมาด้านหลังและเดินนำทางบางส่วนตรงด้านหน้าหยุดเดินกันกะทันหันเช่นกัน
   

“มีอะไร” เขาถามหน้านิ่ง แสงแฟลชยังสาดไม่หยุด กลุ่มคนมากมายยังคงยกมือถือถ่ายรูปเขา
   

“ผมขอมัดเชือกรองเท้าแปบนึง” ผมรีบพูด กำลังจะก้มลงมัดเชือกรองเท้า แต่วิคเตอร์ไวกว่า เขาก้มลงไปมัดเชือกรองเท้าให้ผมท่ามกลางเสียงกรีดร้องแผ่วเบาจากสาวๆ แสงแฟลชและเสียงรัวชัตเตอร์ สว่างและดังกระหน่ำกว่าเดิม ผมรู้สึกทำตัวไม่ถูก ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับใคร เลยได้แต่ก้มมองวิคเตอร์ที่ก้มหน้าผูกเชือกรองเท้าให้ผมจนเสร็จ
   

“ไปได้แล้ว” เขาดึงมือผมขึ้นบันไดเลื่อนตามสตาฟ์คนไทยที่หันมาอมยิ้มให้ผมกันเต็ม พวกช่างภาพและเหล่าแฟนคลับถูกกันไว้ด้านล่างโดยสตาฟ์คนไทยบางส่วนที่รับหน้าที่ยืนเฝ้าตรงนี้


 วิคเตอร์ยังมีสีหน้าปกติ มือขวากุมมือซ้ายผมไว้ไม่ปล่อย ผมรู้สึกร้อนไปทั่วใบหน้า พยายามกลั้นยิ้ม ไม่ให้ยิ้มกว้างเหมือนคนบ้า กลัวว่าถ้าได้ยิ้มแล้วจะยิ้มไม่หยุด เลยต้องเก๊กหน้าเอาไว้


“น้องแมทพาเขาไปนั่งโซนหน้าเวที ฝั่งขวามือตอนเดินเข้าไปนะครับ เลือกนั่งแถวไหนก็ได้” ผมรับคำพี่สตาฟ์และเป็นคนพาเขาเดินเข้าไปด้านในที่จัดงาน ส่วนพวกสตาฟ์หมุนตัวกลับไปที่บันไดเลื่อน ท่าทางคงจะต้องไปรับดารานักแสดงคนอื่นๆ อีก


“นั่งแถวนี้แล้วกันนะครับ” ผมเลือกแถวกลางๆ และนั่งแถวกลาง ไม่อยากให้เขาต้องคอยหลบให้คนที่มาทีหลัง เดี๋ยวจะอารมณ์เสียอีก พวกออสตินเดินแยกตัวไปนั่งอยู่โซนเกือบบนสุดของที่นั่งในโรงละคร


“หิวมั้ยครับ” เขาส่ายหัวแทนคำตอบแล้วหันไปมองการแสดงบนเวที ผมเองก็เลื่อนสายตาไปมองด้วย เรานั่งชมการแสดงกันเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไรกัน เนื่องด้วยเสียงบนเวทีก็ดังมากพออยู่แล้ว ไม่อยากจะตะโกนคุยกันสักเท่าไหร่ ผู้คนเริ่มทยอยเดินเข้ามาจนใกล้จะเต็มโรงละคร การแสดงบนเวทียังคงดำเนินไปเรื่อย คิดว่าคงมาคั่นเวลาก่อนเริ่มงาน คงไม่นานเท่าไหร่


“Ah! I know that. Muay Thai? (อ้า ฉันรู้จักนะ มวยไทยใช่มั้ย)” เขาก้มลงมากระซิบถามเสียงดังพอประมาณมือก็ชี้ไปที่การแสดงมวยไทยประกอบเพลง


“ใช่แล้ว...” เขายิ้มน้อยๆ ผมมองไปที่การแสดงมวยไทยแล้วก็นึกอะไรขึ้นได้


“…คุณน่าจะเรียนไว้นะ” ผมยื่นหน้าไปพูดกับเขาแข่งกับเสียงเพลง เขาหันมามองงุนงง


“ทำไมล่ะ”


“พ่อผมต่อยมวยเก่งนะ เรียนไว้เผื่อพ่อท้าต่อยคุณไง” ผมยิ้มทะเล้นเริงร่า วิคเตอร์เลิกคิ้วขึ้น ยิ้มแบะปากเล็กน้อยแล้วถามหน้าซื่อ


“แล้วทำไมพ่อนายจะต้องมาท้าฉันต่อยด้วย”


“ก็คุณกระทำชำเราลูกชายเขานะ ถ้าพ่อผมรู้ พ่อต้องไม่พอใจแน่ๆ” ผมยักคิ้วสองที วิคเตอร์ยกยิ้มมุมปากขวา


“ฉันจะบอกพ่อนายว่า ลูกชายเขาเองก็ชอบยั่วให้ฉันคxxแข็ง” ผมอ้าปากกว้าง รู้สึกอยากจะร้องเสียงเพี้ยนดังๆ กับคำพูดคำจาของเขา คือคำนั้นเข้าหน้าผมเต็มๆ วิคเตอร์ยักคิ้วกลับมาให้ผมสองที


“พ่อไม่เชื่อคุณหรอก” เขาหัวเราะเสียงทุ้ม ยกมือขวาขึ้นมาโยกหัวผมไปมาแล้วปล่อยออก ก่อนจะหันกลับไปมองบนเวทีที่ตอนนี้พิธีกรเริ่มกล่าวสวัสดีเป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทยแล้ว


เมื่อแขกที่ถูกเชิญมากันพร้อมเพรียง ทุกอย่างก็เริ่มขึ้นตามกำหนดการของงาน มีการฉายหนังจากหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วย ส่วนมากเป็นหนังอินดี้ที่เข้าใจยาก แต่ถ้าเข้าใจก็จะดีมาก เพราะแกนหลักของหนังแต่ละเรื่องนั้นพยายามนำเสนอเรื่องราวที่หนังตลาดทั่วไปไม่ค่อยนำเสนอ โดยเฉพาะหนังจิกกัดการเมืองนี่ดีมาก จิกกัดแบบเนียนๆ ไม่โจ่งแจ้งเกินไป ที่ผมชอบอีกประเภทคือ หนังที่จิกกัดสังคมโลก อะไรที่เป็นมุมมืด อะไรที่ถูกซ่อนไว้ หนังอินดี้พวกนี้แหกมาให้ชมหมด


แต่ที่ผมดูแล้วยิ้มที่สุดคงเป็นหนังรัก ที่ตัวหนังพยายามสื่อว่าความรักไม่ใช่เรื่องตรรกะเหตุผล หรือเรื่องธรรมชาติอย่างที่พวกมนุษย์จิตใจแคบ แล้งน้ำใจพยายามกล่าวอ้างและอ้างถึงอยู่เสมอ ว่าความรักที่ไม่ใช่ชายหญิงนั้นผิดธรรมชาติ หรือมันไม่ถูกต้องตามบริบทของสังคม แถมในเรื่องยังหลอกด่าคนพวกปากว่าตาขยิบ หรือด่าพวกใจหยาบกับความรักได้อย่างถึงใจ พอหนังจบผมนี่ปรบมือแรงมาก อยากจะฉายให้พวกคนโลกแคบได้ดู แต่คิดว่าฉายไปก็เปลืองฟิล์มเปล่าๆ เพราะสมองคงไม่สามารถตีความหมายเรื่องราวดีๆ อย่างนี้ได้หรอก


“พักเบรกกันสักครู่นะคะ เดี๋ยวเราจะมาประกาศรางวัลกันสักหน่อย วันนี้เรามีรางวัลมามอบให้กับนักแสดงด้วย…” พิธีกรชายชื่อดังของเมืองไทยแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงเสียงอีสาน เอ่อ ไม่ใช่ ด้วยสำเนียงยูเค (UK) ราวกับเป็นเจ้าของภาษาเอง รางวัลแรกถูกประกาศแล้วนักแสดงชายคนนั้นก็ขึ้นไปรับรางวัล รับเสร็จก็กล่าวประโยคขอบคุณเก๋ๆ กับรางวัลที่ได้มา พอเขาเดินลงจากเวทีไป พิธีกรก็ประกาศรางวัลต่อไป และนักแสดงหญิงของเมืองไทยก็ขึ้นไปรับรางวัล แล้วเธอก็กล่าวขอบคุณตามสเต็ป


“รางวัลต่อไป เป็นรางวัลป๊อบปูล่าห์โหวต ที่เราทำการสำรวจมาเพื่อมางานนี้โดยเฉพาะ…” ผมขยับตัวเล็กน้อย เพราะนี่เป็นช่วงของวิคเตอร์ที่เขาจะต้องขึ้นไปรับรางวัล พิธีกรชายแปลงเป็นภาษาอังกฤษร่ายยาว


“รางวัลนักแสดงชายต่างประเทศที่ได้รับการโหวตสูงสุด… คุณวิคเตอร์ เรย์มอนด์ ค่ะ!” เสียงปรบมือ เสียงกรีดร้องดังลั่นไปทั่วโรงละคร เสียงกลองบรรเลงลั่นสร้างความอึกทึกได้ดีเยี่ยม แสงไฟสีขาวสาดไปทั่วให้ความตื่นตาตื่นใจ เสียงพิธีกรชายกับพิธีกรหญิงสลับกันพูดถึงวิคเตอร์ บนหน้าจอฉายทีเซอร์สั้นๆ ของตัวอย่างหนังที่เขาเล่นเป็นพระเอก วิคเตอร์ลุกเดินออกไปตามทางที่สตาฟ์บอก เสียงปรบมือกับเสียงเชียร์ยังคงดังต่อเนื่องยาวไปถึงตอนที่เขาขึ้นไปยืนบนเวที จนรับรางวัลเป็นแก้วคริสตัลสีใส พอเขามายืนที่หน้าไมค์ เสียงปรบมือ เสียงกรีดร้องจากเหล่าหญิงสาวก็สงบลง


“Thank you for this amazing thing from amazing country. It’s unexpected to me. Thank you my fans who always support me. Thank you my all staff—every position. Especially—thank you, Matt.” เขายิ้มหล่อหลังจากกล่าวจบ เสียงปรบมือและเสียงคล้ายเสียงโห่แซวดังขึ้น ผมใจกระตุกไปวูบหนึ่ง ไม่ได้รู้สึกอึ้งหรืออะไร มันมีความโล่งใจแฝงอยู่ด้วย คือขอบคุณมากที่ไม่พูดอะไรหวานเลี่ยนบนเวที แต่ทีนี้มันก็มีชื่อผมอยู่ดี ถ้าคนไม่ติดตามข่าว ก็คงงงว่าอีแมทนี่มันคือใคร ส่วนคนที่ติดตามข่าวก็คงหมั่นไส้กันระเนระนาดแล้วมั้ง


“Sorry. Who is Matt?” พิธีกรชายถามพ่อนักแสดงหนุ่ม คนถูกถามไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มละมุนคนเดียว แต่แค่นั้นก็สร้างเสียงหัวเราะได้แล้ว เขายิ้มทิ้งท้ายแล้วเดินลงจากเวที พิธีกรหญิงแซวว่า ท่าทางคนชื่อแมทจะต้องเป็นกำลังใจชั้นเยี่ยมแน่ๆ เจ้าของชื่ออย่างผมก็ได้แต่นั่งยิ้มขวยเขินอยู่คนเดียว


วิคเตอร์ก้าวเท้าเดินกลับมาท่ามกลางหลายสายตาที่จับจ้องมองเขาจนกระทั่งเขาเดินกลับเข้ามานั่งที่เดิม ผมไม่รู้ว่าสายตาที่มองมานั้นแสดงออกกันอย่างไรบ้าง เพราะไม่กล้าหันไปมอง


“ฉันแค่พูดชื่อนายนะ ไม่ได้พูดหวานเลี่ยนเลยสักนิด” เขาพูดดัก ยื่นถ้วยรางวัลคริสตัลสงสูงมาให้ ผมรับมายัดใส่กระเป๋าไว้ เงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วแสร้งปั้นยิ้มหวานไปให้ แล้วก็หันไปดูกิจกรรมบนเวทีต่อด้วยใบหน้าเกร็งๆ กับหลายสายตาที่ผมรับรู้ได้ว่ามองมาทางผมเป็นระยะๆ


วิคเตอร์อยากกลับใจจะขาดหลังจากผ่านไปราวๆ เกือบสองชั่วโมง แต่ในโรงละครก็ยังคงดำเนินกิจกรรมต่อไป ผมบอกให้เขาอดทนอีกหน่อย เพราะทางทีมงานอยากให้อยู่ถึงงานเลี้ยงขอบคุณ เขาส่ายหัวว่าไม่เอาอย่างเดียว เหมือนเด็กกำลังดื้อกับคำสั่งผู้ปกครองไม่มีผิด


“กินไวน์สักแก้วแล้วค่อยกลับนะครับ”


“ไม่ ฉันจะกลับเลย นายไม่อยากเล่นน้ำรึไง”


“ก็อยาก แต่คุณอยู่ให้เขาเห็นหน้าสักห้านาทีก็ยังดีนะครับ” เขาส่ายหัวหน้าตาย เขาดื้อยิ่งกว่าเด็กอีกมั้ง ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไงเลยได้แต่ยกมือเกาหัวจนผมยุ่ง กะว่าจบงานค่อยกล่อมเขาอีกทีแล้วกัน


ผ่านไปนานมากเท่าไหร่แล้วไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือวิคเตอร์หลับพิงไหล่ผมเหมือนเด็กน้อยไปแล้ว ผมนี่อยากจะหลั่งน้ำตามันตรงนี้ เพราะเขาช่างไม่ให้เกียรติผู้กำกับหรือนักแสดงของหนังช่วงหลังที่กำลังฉายอยู่เลย คนที่โซนใกล้ๆ เรามองมาที่วิคเตอร์แล้วยิ้มขำกันมากมาย แต่ก็มีบางคนมองอย่างไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรทำไมถึงมานั่งหลับแลไร้มารยาทแบบนี้ อยากจะบอกคนพวกนั้นว่า ต่อให้คุณเดินเข้ามาด่าเขาว่าเสียมารยาทหรือพ่อไม่สั่งสอนเขาก็ไม่แคร์หรอก แต่อย่าได้ด่าว่าแม่ไม่สั่งสอนนะ อันนั้นคุณได้เทคแคร์ตัวเองในโรงพยาบาลแน่นอน เพราะเขาคงจะกระทืบคุณจนกระอักเลือด


แม่ข้าใครอย่าแตะกันเลยทีเดียว


“วิคเตอร์…” ผมลองก้มลงกระซิบเรียกเขา แต่เจ้ายักษ์หน้าหนวดก็นอนผ่อนลมหายใจอย่างสม่ำเสมอ นอนเกยไหล่ผมเป็นพะยูนเกยตื้น ผมค่อยๆ ยกหน้าขึ้น เลื่อนสายตามองไปรอบข้างแบบรวดเร็ว ทุกคนจับจ้องอยู่บนจอภาพยนตร์ แต่บางคนก็ยังคงมีหันมามองวิคเตอร์บ้าง โชคดีที่ช่วงเวลานี้เป็นช่วงฉายหนัง ไม่ใช่ช่วงรับรางวัลที่จะมีกล้องจับภาพบรรยากาศด้านใน


“และสุดท้ายนะคะ…” ราวกับได้ยินเสียงประกาศชัย เมื่อกิจกรรมดำเนินมาถึงช่วงท้ายของงาน ผมเอื้อมมือขวาไปสะกิดไหล่วิคเตอร์และเรียกชื่อเขา ยักษ์ใหญ่ลืมตางัวเงียขึ้นมามองหน้าผมแบบอึนมึน


“อีกแปบเดียวก็จะจบงานแล้วครับ เดี๋ยวคุณต้องขึ้นไปร่วมถ่ายรูปบนเวทีด้วยนะ” เขาอ้าปากหาวกว้างมาก ไม่รู้ว่านั่นคือการตอบรับหรือส่งสัญญาณว่าเข้าใจแล้วหรือเปล่า แต่เขาก็หันหน้าเพิ่งตื่นไปมองบนเวที ดูกิจกรรมที่กำลังดำเนินไปเรื่อยจนเสร็จ แล้วพิธีกรก็เรียกเหล่าดารานักแสดง หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับงานฟิล์มขึ้นไปถ่ายรูปร่วมกัน


“เดี๋ยวผมยืนรอตรงทางเดินกลงกลางนะ” เขาพยักหน้าไปเรื่อย ยื่นมือมารับรางวัลเพื่อเอาไปถือเป็นพร็อพประกอบฉาก ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเป๋เหลออกไปจากแถว ผมลุกขึ้นยืนเดินตามหลังเขาออกไป แต่ไม่ได้เดินไปบริเวณเวทีกับเขา เลือกยืนอยู่ตรงทางลงไปประตูทางออก พวกออสตินเดินมายืนอยู่ฝั่งตรงข้าม ผู้คนบางส่วนทยอยเดินลงบันไดเพื่อเดินไปที่ประตูทางออก ผมพยายามยืนชิดติดริมกำแพงไว้เพื่อจะได้ไม่ขวางทางคนอื่น ช่วงรอเขาถ่ายรูปก็หยิบมือถือเขาขึ้นมาเช็กกระแสรูปที่ลงไป คอมเม้นต์รูปในไอจีเขาเยอะมาก ไหนจะที่แชร์ไปในเฟซบุ๊คอีก เชื่อว่าคนอย่างวิคเตอร์ไม่มานั่งอ่านหรอก อัพรูปยังไม่ค่อยจะอัพเลย ถ้าไม่มีผมนี่อัพรูปล่ะฤดูแล้วมั้ง


 “เขามาแล้วครับ” ออสตินเดินเข้ามาบอก ผมเก็บมือเข้าไปในกระเป๋าตามเดิม ก้าวเท้าเดินออกจากบริเวณที่ยืนอยู่ วิคเตอร์เดินคุยมากับผู้ชายมีอายุคนหนึ่งซึ่งผมไม่รู้ว่าใคร แต่คงเป็นคนในวงการหนังสักคนนั่นแหละ ไม่งั้นเขาคงไม่สละเวลารีบกลับไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ มาคุยด้วยหรอก


“I hope we will have a chance to work together. (หวังว่าเราคงมีโอกาสร่วมงานกันนะ)” ผู้ชายมีอายุคนนั้นตบไหล่วิคเตอร์สองสามทีแล้วแยกตัวเดินออกไป วิคเตอร์ยิ้มให้แล้วเดินแยกออกมาเช่นกัน มีหลายคนทำท่าจะเข้ามาถ่ายรูปกับเขา แต่ก็ไม่ทันพวกออสตินที่เข้าประกบอย่างใกล้ชิด


“ไป กลับกัน” เขายื่นถ้วยรางวัลมาให้แล้วดันไหล่ผมให้เดินนำหน้าเบาๆ ผู้คนมากมายพยายามขอเข้ามาถ่ายรูปกับเขา เราเดินออกมาถึงด้านนอก ผมสะกิดให้เขาถ่ายรูปกับบางคน วิคเตอร์ยื่นหน้าไปเข้าเฟรมเร็วๆ เลื่อนหน้าเข้าเฟรมต่อๆ ไป ประหนึ่งว่ารีบทำเวลาเพราะมีธุระสำคัญต้องไปต่อ แต่แท้จริงแล้วนั้นคือการไปว่ายน้ำเฉยๆ
   

 “Okay. Thank you.” วิคเตอร์ยิ้มหล่อละมุนให้กับผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง ที่น่าจะเป็นคนมาร่วมงาน แล้วก็ขอตัวเดินออกมาหลังจากที่เขาถ่ายรูปจนครบแล้ว อยากจะบอกว่าเขายื่นหน้าเข้าแต่ละเฟรมเร็วมาก ไม่รู้คนที่มาขอถ่ายรูปกับเขากดถ่ายกันทันหรือเปล่า


“เดี๋ยวพาเขาไปทางนั้นเลยนะครับน้องแมท เราจัดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่นั่น” พี่สตาฟ์คนหนึ่งเดินเข้ามาบอก วิคเตอร์คงได้ยินคำว่าปาร์ตี้ เขาเลยเบือนหน้าหนีเหมือนไม่อยากฟัง แถมยังทำท่ากวนด้วยการยักไหล่ไปมา ทำคอยึกยักใส่ผมอีก เห็นแบบนั้นก็ไม่ต้องเสียเวลาขอเขาแล้วละ ไม่งั้นมีทะเลาะตบตีโชว์สื่อกันแน่นอน


“ขอโทษครับพี่ แต่เขาจะไม่เข้าร่วมงานปาร์ตี้ พอดีเขามีธุระต้องไปทำต่อ” พี่สตาฟ์ทำหน้าอึกอัก


“เดี๋ยวผมโทรมาคุยกับหัวหน้าพี่เองครับ ผมเชื่อว่าในสัญญาระบุชัดเจนแล้วว่าไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมงานนี้ก็ได้” พี่สตาฟ์พยักหน้าจำยอม ผมหันไปพยักหน้าให้วิคเตอร์ เขายิ้มร่าเมื่อรู้ว่าจะได้กลับแล้ว ผมหันไปขอโทษพี่สตาฟ์อีกครั้งและสัญญาว่าจะไม่ให้เขาเดือดร้อน


เราพากันเดินไปทางลิฟต์เพื่อลงไปยังชั้นที่รถจอดอยู่ วิคเตอร์ดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที ส่วนผมมองเขาเอือมระอาเล็กน้อย ถอนหายใจหน่อยๆ แต่มีรึที่พ่อคนหน้ามึนแสนเอาแต่ใจจะสนใจ ตอนนี้จิตใจเขาคงลอยอยู่ในสระว่ายน้ำแล้วมั้ง ว่าเขามากไม่ได้อีก เพราะตัวผมก็อยากเล่น



TBC.  :katai5:

สรุปแมทนางก็อยากเล่นน้ำ เลยไม่อ้อนสามีให้อยู่ต่อ 555555 ถ้านางอ้อนจริง ทำไมยักษ์จะไม่อยู่ ชิแมะ

เปิดรีปริ้นพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยนพาร์ท You and I แล้วนะคะ รายละเอียดตามไปอ่านได้ที่โพสปักหมุดหน้าเพจค่ะ

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ ค่ะที่อยู่เป็นเพื่อนกันเสมอ  :mew1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.17 50%} 04.11.58::
«ตอบ #534 เมื่อ04-11-2015 20:03:32 »

อยากเห็นวิคมู้ดดี้สุดๆเลยค่า~


ชอบฮิมตอนโกรธ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.17 50%} 04.11.58::
«ตอบ #535 เมื่อ04-11-2015 20:12:39 »

งานนี้เอาจริงคือใจอยู่สระทั้งคู่จ้า งานอะไรนางไม่สนแระนางอยากเล่นน้ำ 555 นิสัยเด็กพอกันผัวเทียคู่นี้

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.17 50%} 04.11.58::
«ตอบ #536 เมื่อ04-11-2015 21:01:01 »

นั่งอ่านเรื่องสองคนนี้แล้วมีความสุข แต่พอย้อนกลับไปอ่านตัวอย่างภาคสองแล้วทำไมดูจะดราม่า
ไม่นะ เราไม่อยากให้ใครทำร้ายแมท  :sad4:

ออฟไลน์ mypink801

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1580
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.17 50%} 04.11.58::
«ตอบ #537 เมื่อ04-11-2015 21:10:23 »

แมทก็ดูจะเป็นการเป็นงานนะ แต่จริงๆนางก็อยากว่ายน้ำสินะเลยไม่บอกให้สามีอยู่ สามีก็ตามใจซะ
หมั่นไส้คนหลงเมียย แอบกรี๊ดตอนฉากผูกเชือกรองเท้า อร๊ายย  :impress2: :-[

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.17 50%} 04.11.58::
«ตอบ #538 เมื่อ04-11-2015 21:18:29 »

หึหึ จะกลับไปหนุกหนานกันที่สระซิน่ะ
 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ empty102153

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.17 50%} 04.11.58::
«ตอบ #539 เมื่อ04-11-2015 21:33:02 »

วิคเตอร์ยังคงคอนเซปดื้อและเอาแต่ใจแบบมึนๆ
ส่วนเอเลี่ยนน้อยก็ดื้อแบบลึกๆ หุหุ  :katai2-1:
รอตอนต่อไปนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด