Only You EP.18 :: Evil Wish. [ปีศาจปรารถนา]ฉาก NC ต่อไปนี้ ค่อนข้างหยาบคายและหยาบโลน กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ “ฮ่ะ ฮึ ฮ่ะ อ้า… ฮ้า” เสียงแมทกระเส่าเร้าใจไปทั่วห้องนอน สีหน้าของเขาตอนนี้ทำให้อารมณ์หื่นของผมยากที่จะสงบลง เปลือกตาหลับพริ้ม ริมฝีปากบนสีชมพูซีดๆ เผยอขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าบิดเบี้ยวไปตามแรงอารมณ์ที่ผมส่งไปให้
“อูว… รัดแน่นดีจัง” ผมบอกเสียงแหบแล้วซี๊ดปากยาวๆ ตอนที่โดนกลีบเนื้อนุ่มย่นและช่องทางด้านในของเขาตอดรัดรุนแรงราวกับเขาแกล้ง เสียงลมหายใจหอบกระเส่าของเราสองคนดังสลับกัน สองมือแมทจิกหมอนแน่น สองมือผมค้ำตัวเองอยู่เหนือร่างเขา ช่วงเอวก็ดันขึ้นลงเน้นๆ อย่างต่อเนื่อง
“วิคเตอร์… วิคเตอร์….” เขาเรียกชื่อผมเสียงแหบ ปรือตาขึ้นมามองผม ดวงตาเขาฉ่ำน้ำไปหมด เขายกมือขึ้นมาดันอกผมไว้ราวกับจะดันออก ผมยกสองมือขึ้นมาจับมือทั้งสองข้างเขาไว้ แล้วกดข้อมือเขาลงบนเตียง เพิ่มแรงดันแรงอัดเข้าหาเขามากขึ้น
“อื้อ! อื้อ!” ได้ยินเสียงร้องกับเห็นสีหน้าเขาแล้วผมจะขาดใจตาย เลยก้มลงไปไซ้คอเขาหนักหน่วง สลับกับดูดดึงเนื้อหอมๆ ที่ซอกคอเขา
“Do you want me to stop, baby? (อยากให้ฉันหยุดเหรอ ที่รัก)…” ผมถามเสียงแตกพร่าทั้งที่ไซ้และเลียคอเขาไม่หยุด แมทเชิดหน้าขึ้นเพื่อเปิดทางให้ผมสูดดมซุกไซ้เขาได้สะดวก
“รอบสุดท้ายแล้วได้รึเปล่า” ผมคำราม ไม่อยากตอบรับอะไรเขาตอนนี้ ผมดูดคอเขาแรงๆ สะโพกก็กระแทกอัดใส่เขาไม่ยั้ง ผมไปช้าๆ แต่อัดเน้นๆ ให้แมทเสียวทรมานเล่นๆ
“ไม่สัญญาได้มั้ย พรุ่งนี้ฉันก็กลับแล้วนะ” ผมว่าทั้งที่ยังรู้สึกไม่พอกับการไซ้เนื้อคอแน่นๆ ของเอเลี่ยนน้อย ยิ่งสูดดม ยิ่งซุกไซ้ก็ยิ่งเหมือนสูดดมสารเสพติด ยิ่งขยับ ยิ่งกระแทกยักษ์น้อยเข้าไปข้างใน ก็ยิ่งรู้สึกติดใจไม่อยากหยุด ด้านในเขายังคงร้อนฉ่าและแน่นนุ่ม
“ฮื่อ…” แมทคงหมดแรงจะพูดแล้ว เพราะว่านี่ก็รอบสามของวันนี้ ผมฟัดเขามาตั้งแต่บ่าย มีช่วงพักเบรกบ้างให้ผมได้ผลิตน้ำต่อ และก็เป็นช่วงเวลาที่แมทจะได้พักผ่อน วันนี้ผมไม่ได้อยากอะไรมาก ก็อยากนั่นแหละ แต่การนอนคุยกันเฉยๆ มันก็โอเคนะ แต่ไม่เกินสามชั่วโมง ไอ้ยักษ์น้อยมันก็ชอบแข็งอยู่เรื่อย ก็เลยจัดหน่อย ผมไม่ได้เล่นท่าเยอะหรอก ท่าทั่วไปนี่แหละ วันนี้ผมไม่เปิดโอกาสให้แมทขึ้นข้างบนเลย ผมเล่นจัดการเขาใต้ร่างผมอย่างเดียว ยิ่งนึกว่าพรุ่งนี้ต้องกลับไปอยู่ห่างจากแฟนตัวเองแล้วก็ยิ่งไม่อยากหยุด ผมรู้ว่าเขาเหนื่อย แต่ในความเหนื่อยเขาเองก็ตอบรับผมอย่างดี
“อ๊า อ๊า อ๊า…”
“เสียงดีมาก เดี๋ยวขออัดเสียงไว้ฟังเวลาว่างๆ หน่อยนะ” ผมแกล้งแซวยิ้มๆ แมทกัดริมฝีปากล่างแน่น พยามห้ามเสียงร้องของตัวเอง แต่พอเห็นแบบนั้น ผมก็ออกแรงงัดจนเขาแอ่นตัวขึ้นและส่งเสียงร้องปานจะขาดใจ ผมขบกรามแน่น พยายามห้ามใจไม่ให้ทำเขารุนแรงมากนัก เพราะเดี๋ยวเด็กน้อยของผมจะไม่สบาย
“อีกนิดนะ” ผมกระซิบข้างแก้มเขา ยังคงกดข้อมือเขาไว้ไม่ยอมปล่อย แมทยกสองขามาเกี่ยวเอวผมไว้ ผมยิ้มแฉ่ง ก้มลงไปหอมแก้มเขา แล้วเอียงแก้มตัวเองให้เขาหอมบ้าง แมทหอมผมทั้งที่ลมหายใจกระเส่า ผมส่งแรงดันเคลื่อนตัวเองขึ้นลงช้าๆ แต่ว่าเน้นๆ ไปเรื่อยๆ จ้องหน้าแมทตาไม่กระพริบ หูฟังเสียงร้องของเขาอย่างตั้งใจ
“ooh… ooh… Ah!” ครางดีจริงๆ ขนาดบอกไม่ไหวๆ ไม่สู้ แต่เสียงยังใสอยู่เลย
“อยากจะลักพาตัวนายกลับนิวยอร์กไปพร้อมกันจริงๆ” ผมกัดฟันพูด รู้สึกเสียวท้องน้อยไปหมด ความเสียวเริ่มตีตื้นขึ้นมา แต่ผมก็ยังคงดันลูกชายผมเข้าออกในตัวแมทจังหวะเดิม จนกระทั่งเหล่าลูกๆ ผมก็พากันพวยพุ่งออกมาอย่างแรง ผมซี๊ดปาก หน้าเหยเก รีบดึงความใหญ่ยาวของตัวเองออกมาปลดปล่อยด้านนอก เพราะด้านในแมทรัดแน่นมาก ไหนจะลูกชายผมที่กระตุกรุนแรง พอพ่นน้ำจนเลอะปากทางเข้าด้านหลังแมทไปหมด ผมก็ใช้ยอดปลายสีชมพูอ่อนตัวเองเกลี่ยไล้น้ำสีขาวข้นให้มารวมกันที่กลีบเนื้อของแมทที่ขมิบตุบๆ แล้วก็ดันยักษ์น้อยเข้าไปใหม่อีกรอบ แมทผวาเฮือก ยกสองมือมาดันกล้ามท้องผมไว้ แขนขาเขาสั่นไปหมด เขาอ้าปากหอบหายใจระทวย
“พะ… พอก่อน เหนื่อยแล้ว ไม่ไหวแล้ว…” เขากลืนน้ำลายลงคอ เปลือกตาขยับขึ้นลงเชื่องช้า ผมยิ้มเสียดาย แต่ก็ยอมดึงตัวเองออกมาจากตัวเขา นอนทาบทับลงด้านบนตัวของแมท เอเลี่ยนน้อยมีเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้า แม้เขาจะเหนื่อยเหมือนขาดใจ แต่สองแขนก็ยกขึ้นมาโอบรอบคอผมไว้ ผมยื่นหน้าไปหอมหน้าผาก หอมแก้มทั้งสองข้าง และปิดท้ายด้วยการจุ๊บปากเขาหนึ่งที
“หายงอนฉันหรือยัง” ผมลูบผมที่ปรกหน้าผากเขาขึ้น แมทสบตาผมนิ่ง เขาเลื่อนมือขวาลงไปแถวกลางลำตัวของตัวเอง แล้วก็ดึงมือที่มีน้ำข้นขุ่นสีขาวของผมติดอยู่ที่ปลายนิ้วทั้งสี่มาด้วย ผมมองตาเป็นประกาย แมทอ้าปากแล้วแลบลิ้นออกมาเลียน้ำรักของผมที่ปลายนิ้วทีละนิ้วจนหมด ผมมองอย่างมึนเมา แมทเลียนิ้วไปก็มองผมด้วยสายตายั่วไปด้วย เห็นแล้วแทบอยากจะปลุกลูกชายตัวเองขึ้นมาทันที แต่ตอนนี้มันกำลังพักเอาแรงอยู่
“อืม… อือ… ฮ่ะ…” เขาดูดเลียจนน้ำรักผมที่ติดอยู่ปลายนิ้วหมดไป ผมแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากล่าง มองเขาด้วยความเสียววูบตรงช่วงท้องน้อย แมทกรีดยิ้มร้ายกาจมาให้
“แบบนี้ยังงอนอยู่มั้ย” ผมคลี่ยิ้มกว้าง ส่ายหัวไปมาอย่างเชื่องช้า
“เซ็กซี่มากเลยเอเลี่ยนที่รัก” ผมก้มลงไปจูบแลกลิ้นนัวเนียกับเขา แมทยกสองแขนคล้องคอผมไว้ สองขายกมาเกี่ยวเอวผมไว้หลวมๆ อืม… นี่ขนาดเขาบอกว่าเหนื่อยไม่ไหวแล้วนะ ยังมีแรงเหลือมายั่วผมอีก
“แต่ว่า…” เขาผละออกกระทันหัน ผมที่กำลังไล้ลิ้นเลียเขาถึงกับค้าง เลยก้มลงจูบไปทั่วแก้มและซอกคอเขาไม่หยุด
“…คุณทำผมแขนผมช้ำไปหมดเลย”
“หืม…” ผมที่กำลังสูดดมกลิ่นน้ำนมอ่อนๆ บนตัวแมทหยุดตัวเองไว้ แล้วยกหน้าขึ้นมามองเขา ที่รักของผมแบะปากทำหน้าว่างอน เลื่อนสองแขนออกจากคอผม แล้วโชว์ให้เห็นรอยช้ำที่มาจากการบีบอันรุนแรงจากน้ำมือผมเอง เห็นแล้วก็รู้สึกแย่อยู่เหมือนกัน
“There—I am sorry. Forgive me, baby. (โอ๋… ฉันขอโทษ ยกโทษให้ฉันเถอะนะที่รัก)” ผมว่าเสียงอ้อน ก้มหน้าลงเอาจมูกเกลี่ยแก้มเขาแผ่วเบา แมทยังทำหน้าบึ้ง ผมเลยเอาคางถูคอเขาไปมาจนแมทหัวเราะคิกคัก ผมแกล้งเอาริมฝีปากงับหูเขา แมทเลยเอี้ยวหน้ามางับหูผมอีกฝั่งบ้าง ผมแกล้งเอาลิ้นแหย่เข้าไปในหูเขา แมทถดหน้าหนี ผมก็ตามไปหอมแก้มเขาจนเขาเริ่มงอแง ส่วนผมก็หัวเราะอารมณ์ดี
“หนวดยาวเร็วจัง” เขามองหนวดเคราบนหน้าผมอย่างสนใจ เหมือนเด็กตัวเล็กๆ ที่กำลังสงสัยใคร่รู้ ปลายนิ้วมือขวาของเขาดึงหนวดที่คางผมเล่น ผมเอาศอกสองข้างค้ำร่างตัวเองไว้ ปล่อยให้เขาจับหนวดไปเรื่อย แมทเลื่อนสายตาแป๋วๆ ของเขามาสบตากับผมแล้วก็คลี่ยิ้มน่ารักออกมาเมื่อตอนที่เขาเอามือลูบใต้คางผมสนุกมือ
“ถ้ายาวกว่านี้ก็จะเป็นซานต้าครอสแล้ว” ผมยิ้มกว้าง มองเอเลี่ยนตัวจ้อยเจื้อยแจ้ว เขาช่างเจรจาเหมือนนกแก้วเหมือนกันนะ แต่ยิ้มเก่งกว่านกแก้วเยอะ แล้วก็น่ารักกว่านกแก้วมากด้วย
“เด็กน้อยคนนี้อยากได้อะไรจากซานต้าครอสรึเปล่าครับ” แมทหยุดลูบหนวดเคราผมเล่น เขาเอาสองแขนขึ้นมาคล้องคอผมตามเดิมแล้วทำหน้านึก ก่อนจะเอียงคอมองผมตาใส
“ขอให้แฟนผมที่ชื่อวิคเตอร์อย่าเบื่อที่จะอึ๊บผม” เขาหัวเราะเสียงเล็กเสียงน้อย ย่นคอ ย่นไหล่อย่างน่ารัก ผมยิ้มกว้าง เลื่อนมือขวาตัวเองลงไปลูบคลำส่วนกลางตัวของแมท เจ้าตัวอมยิ้มเขินๆ
“แล้วเด็กคนนี้ล่ะ เบื่อที่โดนเขาอึ๊บรึเปล่า” แมทเผยอริมฝีปากบนขึ้นตอนที่ผมเอานิ้วโป้งลูบไล้ส่วนปลายสีชมพูของเขาอย่างแผ่วเบา
“ไม่เบื่อ แต่เหนื่อย เพราะแฟนผมเขาอึดมากเลย” ผมคลี่ยิ้ม รู้สึกหัวใจเบิกบาน ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเขายังคิดและกังวลว่าผมจะเบื่อเขา แต่เขาไม่รู้หรอกว่าตัวเองทำให้ผมรู้สึกดีแค่ไหน
“เอาบ่อยๆ ไม่เบื่อจริงๆ เหรอ ของผมไม่เหมือนผู้หญิงนะ” เขาถามสีหน้าสงสัยหน้าตาใสซื่อ ผมคิดว่าผมเข้าใจความหมายที่เขาจะสื่อนะ ผมยิ้มอ่อนโยน ไม่รู้จะพูด จะปลอบเขายังไงดีกับเรื่องนี้ ให้พูดมากๆ ผมก็กลัวว่าเขาจะหามันจะเป็นแค่คำพูดที่ใครก็พูดได้
“เพลินยิ่งกว่าอะไรในโลกอีก” ไว้สักวันเขาคงจะเข้าใจว่าผมรู้สึกยังไง อธิบายไปตอนนี้เขาก็รับฟัง แต่เดี๋ยวก็มาคิดมากทีหลังอีกอยู่ดี
“ปากหวานอีกแล้ว” เขายิ้มทั้งที่เปลือกตาปรือเพราะโดนนิ้วผมหยอกล้อไม่หยุด สองมือเขาเริ่มขยุ้มเส้นผมบนหัวผมหนักขึ้น แต่สักพักเขาก็เลื่อนมือซ้ายลงมาจับยักษ์น้อยที่เริ่มแข็งแบบอ่อนโค้งบ้างแล้ว
“ทำแบบนี้จะเบื่อได้ไงกัน” รู้จักหยอก รู้จักยั่วตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะเด็กคนนี้ แล้วทำได้ดีซะด้วยนะ
“อืม…” แมทครางเสียงสั่น ลำตัวแอ่นขึ้นมาตอนโดนผมกดนิ้วแช่ไว้ที่ร่องกลางของส่วนปลาย สองขาเขารัดบั้นท้ายผมไว้แน่น ผมจับแก่นกายเขาไว้เต็มมือแล้วเริ่มชักขึ้นลงเร็วๆ แมทหอบกายใจหนักหน่วง เขาเลื่อนขาทั้งสองข้างออกจากเอวผม เอาเท้าวางให้ขาตั้งฉากไว้บนเตียงแล้วจิกเท้าลงพื้นเตียงแน่น สองมือเลื่อนขึ้นไปจิกหมอนไว้แน่น
“Ah… yes… baby-giant.” เขาแหงนหน้าขึ้น เปลือกตาปิดสนิท ผมก้มลงใช้ลิ้นเลียตั้งแต่แอ่งไหปลาร้า ลากลิ้นขึ้นไปตามแนวคอแล้วใช้ฟันขบคางเขาเบาๆ สักพัก ก่อนจะผละตัวออกไปนั่งคุกเข่าโดยที่มือยังไม่หยุดทรมานแมท
“Ah… Ummm… Oh—my.” แมทแอ่นตัวสูงขึ้นตอนที่ผมเร่งจังหวะมือเร็วกว่าเดิม ขาสองข้างเขาเลื่อนขึ้นลงไปมาบนเตียงด้วยความทรมาน
“You are mine. Aren’t you? (นายเป็นของฉันใช่รึเปล่า)” ผมถามเสียงแหบพร่า ค่อยๆ ลดจังหวะมือลง
“อื้ม...” แมทไม่ยอมตอบ เขาส่งมือมาจะชักด้วยตัวเองเพราะผมผ่อนแรงลง แต่ผมใช้มือซ้ายปัดมือทั้งสองข้างเขาออกไปอย่างแรง
“Open your eyes, and answer me. (ลืมตาขึ้นแล้วตอบฉัน)” ผมพูดเสียงห้วน แมทหายใจหอบ ค่อยๆ เปิดเปลือกตา ผมจ้องตาเขาอย่างดิบเถื่อน
“Please, let me cum. (ขอเถอะ ให้ผมเสร็จเถอะนะ)” เขาทำท่าจะเอื้อมมือมาช่วยตัวเอง ผมปล่อยมือออกจากแก่นกายเขา จับสองมือเขาไว้แน่นแล้วดึงให้เขาลุกขึ้นมานั่ง ผมหันไปยิบเสื้อคลุมอาบน้ำของแมทที่ถูกผมกระชากออกทิ้งไว้บนพื้นเมื่อคืนขึ้นมา ดึงเชือกที่ไว้สำหรับมัดรอบเอวออกอย่างเร็ว จับสองมือแมทไพล่หลังไว้ โน้มตัวไปผูกเชือกเป็นปมจนแน่น แมทกัดไหล่ผม ไล่ขึ้นมาที่ลำคอ ผมครางตอบรับกับความคมของเขี้ยวเขา
“ไม่ตอบแบบนี้ต้องโดนง้างปาก” ผมกรีดยิ้ม ลุกขึ้นยืนทันทีหลังจากมัดมือเขาเสร็จ ผมใช้มือซ้ายบีบคางเขาให้อ้าปาก แล้วใช้มือขวาจับลูกชายตัวเองยัดเข้าไปในปากเขา แมทสำลักนิดหนึ่ง แต่ก็เริ่มผงกหัวสู้กลับมา ผมยิ้มถูกใจที่เห็นเขาตอบโต้ ผมใช้สองมือจับหัวเขาไว้แน่นเพื่อให้เขาหยุดนิ่ง จากนั้นก็ซอยสะโพกเข้าไปในปากเขา
“อึก…อั่ก…อ้า…อ้า…” เสียงแมทดังอึกอัก เขาสำลักน้ำลายจนเลอะลูกผมและรอบปากเขาไปหมด
“มองตาฉัน” แมทเหลือบตาขึ้นมาสบตากับผม ผมส่งจูบให้เขา แต่แมทก็ยังคงมองนิ่งๆ กลับมาเพราะว่าเขาทำอะไรมากไม่ได้เนื่องจากของผมคับปากของเขาอยู่ น้ำลายมากมายฟูมฟายทะลักออกมาแต่ผมก็ยังไม่หยุดยัดลูกชายผมเข้าไปในปากแมท
“อื้อ… อื้อ… คั่ก…” ผมกระแทกเอวเข้าออกช้าๆ แต่ว่าเน้นๆ แมทสบตาผมนิ่ง น้ำตาของเขาไหลออกมาเงียบๆ คงเพราะส่วนปลายดันเข้าไปลึกถึงคอหอยของเขา
“แค่กๆ ฮื่อ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก” แมทหายใจหอบทันทีหลังจากผมดึงของตัวเองออกจากปากเขา เขากลืนน้ำลายลงคอ แววตาสุกใสของเขาฉ่ำไปด้วยน้ำตา
“อยากกินน้ำสดๆ จากกระบอกของฉันมั้ย” ผมถามเสียงแหบ มือซ้ายลูบหัวเขาไปมาช้าๆ มือขวาจับเอ็นแข็งของตัวถูไถไปกับแก้มเขาที่เลอะน้ำลายเต็มไปหมด
“Yes, sir. (ครับท่าน)” ผมฉีกยิ้ม แล้วอ้าปากเป็นเชิงบอกเขา แมทอ้าปากตาม ผมจับของตัวเองยัดเข้าไปในปากเขาอีกครั้ง จับหัวเขาไว้ให้นิ่งแล้วเริ่มกระแทกเอวเข้าออกรัวๆ แมทมองผมด้วยสายตาฉ่ำน้ำตา ผมใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มเขาให้ทั้งที่ยังไม่หยุดยัดกลางลำตัวเข้าๆ ออกๆ จากปากของเขา
“อุก… อุก…” น้ำลายมากมายทะลักออกมาเลอะหน้าแมท ผมสูดปากเสียวยาวๆ ก่อนที่จะตัวกระตุก ปลดปล่อยน้ำมากมายเข้าไปในปากแมท เขาพยายามฝืนตัวเองออกแต่ผมจับหัวเขากดเข้ามาไม่ให้หนีไปไหน แมทสำลักจนน้ำสีขาวทะลักออกมาจากปากเขา ไหลเยิ้มเต็มแก้ม เต็มคางและแก่นกายผมไปหมด
“Ah… yeah, baby.” ผมครวญครางอย่างสุขใจ ค่อยๆ ดึงอาวุธของตัวเองออกจากปากแมท น้ำสีขาวขุ่นข้น ไหลเยิ้มตามออกมา แมทกลืนบางส่วนลงไปในคอ แล้วใช้ลิ้นเลียริมฝีปากไปทั่ว ผมนั่งลงตรงหน้าเขา สองมือจับกรอบหน้าเขาไว้แน่น ประกบปากจูบเขาอย่างนัวเนีย ผมวนลิ้นไปทั่วโพรงปากของเขาสักพักแล้วผละออก
“Can you answer me, now? (ทีนี้ตอบฉันได้รึยัง)” แมทครางฮือ ตรงแก้ม ตรงคางเขาเลอะเทอะไปด้วยน้ำผมผสมน้ำลายเขาเองด้วย มองแล้วก็ยิ่งรู้สึกร่างกายเร่าร้อนไปหมด ผมเอื้อมมือขวาไปจับส่วนน่ารักของเขาไว้ แล้วเริ่มรูดขึ้นรูดลงอีกครั้งเร็วๆ สีหน้าแมทเสียวซ่าน ส่งเสียงครางสั่น
“Well? (ว่าไง)” ผมเลียน้ำสีขาวที่ติดค้างอยู่บนแก้มซ้ายเขา แล้วยื่นลิ้นให้เขาดูด แมทดูดลิ้นผมหนึ่งทีก่อนจะตอบเสียงกระเส่า
“I’m yours. I’m only yours. (ของคุณ ผมเป็นแค่ของคุณ)” ผมกรีดยิ้ม เร่งมือเร็วขึ้นจนแมทเริ่มร้องเสียงหลง ลำตัวบิดไปมาอย่างควบคุมไม่ได้
“Ah! Yeah! I’m yours! I’m yours! (อ๊ะ! ของคุณ ของคุณ)” แล้วในที่สุดแมทก็ปลดปล่อยออกมา แต่ผมก็ยังไม่หยุดแกล้งเขา จนแมทต้องเอื้อมหน้ามากัดไหล่ผม
“อ้า กัดอีกแล้วนะ!” ผมแกล้งว่าเสียงเข้ม ดึงมือออกจากแก่นกายเขา แมทหยุดกัดไหล่ผม เขานอนซุกซอกคอผมไว้ หายใจหอบรวยริน ผมก้มลงจูบลงบนกลางกระหม่อมของเขา ยกมือขวาลูบหัวเขาแผ่วเบา มองสองมือของเขาที่ถูกผูกไว้ด้วยเชือกอย่างแน่นหนาบนบั้นท้ายงอนๆ ผมเอื้อมมือซ้ายไปจับเชือกนั้นไว้ ยกยิ้มขึ้นที่มุมปากนิ่งๆ แล้วกระซิบที่ข้างหูเขา
“You are my gift of god—only mine. (นายเป็นของขวัญจากพระเจ้าของฉัน แค่ฉันคนเดียว)” ผมจูบขมับเขาหนึ่งที ฟังเสียงหอบหายใจของเขาสักพักแล้วก็ปลดเชือกให้เขา มือไม้แมทอ่อนแรงไปหมด ผมเอื้อมไปหยิบผ้าคลุมอาบน้ำขึ้นมาอีกครั้ง ประคองแมทให้นั่งตรงๆ แล้วใช้เสื้อคลุมเช็ดรอบปาก เช็ดแก้มให้เขาจนสะอาดหมดจด
“เก่งมาก” ผมเอ่ยชมเขา ก้มลงจูบริมฝีปากเขาหนึ่งที แมทยิ้มอ่อนแรงมาให้ ดูท่าทางจะหมดพลังไปเยอะ
“ยักษ์น้อยใหญ่มากเลย” ผมหัวเราะ ก้มลงจูบหน้าผากเหม่งๆ ของเขา
“ชอบมั้ย” ผมถามพลางค่อยๆ ประคองหัวเขาลงนอนบนหมอน แมทยิ้มเหนื่อยๆ ก่อนจะตอบ
“ชอบมากครับ” เขาว่าเสียงงัวเงีย สีหน้าอ่อนแรง แล้วสักพักเอเลี่ยนตัวจ้อยก็ผล็อยหลับไปเลย ผมหัวเราะขบขันคนเดียว นึกอยากหลับก็หลับกันง่ายๆ นี่แหละ คุยกันอยู่ดีๆ หลับหนีซะงั้น ผมจุ๊บหน้าผากเขาอีกรอบ ดึงมือเขาที่จับแขนผมไว้อยู่ออก ดันตัวลุกขึ้นนั่ง หันไปมองหาผ้าขนหนูที่พาดอยู่ปลายเตียงมาเช็ดทำความสะอาดร่างกายให้แมท ตัวเขาเปรอะเปื้อนไปทั้งน้ำรักของผมและน้ำรักของเขา
พอทำความสะอาดให้แมทเสร็จ ผมก็เขยิบร่างเขาให้มานอนริมฝั่งผมเพื่อจะได้ไม่นอนทับตรงพื้นที่มันเปียกชื้นน้ำข้นๆ ของเราสองคน ผมห่มผ้านวมให้เขา ยกมือลูบหัวเขาแผ่วเบา มองใบหน้าใสเหมือนเด็กแล้วก็ยิ้มเอ็นดูออกมา ก้มลงหอมแก้มเขาอีกที แล้วเดินเข้าไปชำระล้างร่างกายตัวเอง
อาบน้ำเสร็จผมก็ออกมาแต่งตัว พอแมทหลับผมก็ไม่รู้จะทำอะไร เลยเดินออกไปข้างนอก ปิดประตูห้องนอนเพื่อเปิดทีวีดู แต่ดูไปสักพักก็เจอแต่ช่องน่าเบื่อ ผมเลยตัดสินใจจะลงไปหาอะไรดื่มที่บาร์ของโรงแรม ตั้งแต่มาพักที่นี่ยังไม่เคยไปนั่งดื่มที่บาร์ของโรงแรมเลย
ผมกดปิดทีวี หยิบกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์และคีย์การ์ดติดตัวออกไปด้วย ไม่ได้ชวนพวกไอ้เบนเพราะกะจะไปนั่งดื่มคนเดียวชิลๆ ดื่มสักห้าหกแล้วแล้วค่อยกลับขึ้นมานอน เพราะตอนนี้ก็ดึกพอสมควรแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นเตรียมตัวไปสนามบินอีก ดีนะเลือกจองเวลากลับเป็นไฟล์ทดึก เลยไม่ต้องกังวลเรื่องตื่นเช้ามาก
ติ๊ง!
ผมเดินออกมาจากลิฟต์ เดินตรงไปตามทางเดินที่ตรงไปยังบาร์ของโรงแรม มีคนนั่งดริ๊งอยู่ไม่มาก ถือว่าดีไป เพราะถ้าคนเยอะมากๆ ผมคงวกกลับขึ้นห้องแล้วสั่งมานั่งดื่มเอง แต่แบบนั้นก็ไม่ได้บรรยากาศบาร์ อยู่ใกล้บาร์อยากดื่มอะไรก็ชี้ได้เลย
“ขอบรั่นดี” ผมบอกบาร์เทนเดอร์สั้นๆ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวสูงที่วางเรียงรายหน้าบาร์ พอบาร์เทนเดอร์ยื่นแก้วมาให้ ผมก็หยิบขึ้นมาจิบสบายๆ พลางนั่งนึกเรื่องแมท
เมื่อคืนเราทะเลาะกันถือว่าแรงพอสมควร ผมยอมรับว่าสติแทบหลุดตอนเห็นข้อความที่แมทคุยกับไอ้อดัม แมทบอกว่าคุยกันปกติ ธรรมดาก็จริง แต่ผมอ่านแล้วแม่งมันไม่ธรรมดา ผมย้อนขึ้นไปอ่านตั้งแต่ต้น มีคำหวานทั้งคิดถึง บอกฝันดี มีบอกสวัสดียามเช้าอีกต่างหาก ไหนจะชมว่าแมทน่ารัก แมทเองก็ชมไอ้อดัมว่าหล่อโดนใจ ผมไม่ชอบให้แมทชมใครนอกจากผม ผมไม่เสี่ยงด้วยหรอก ไอ้อดัมมัน
หนุ่มในฝันแมท ผมรู้ว่าเขาชอบไอ้นี่มาก นี่ถ้าไปฝึกงานกับมันแทนผม ป่านนี้คงเสร็จมันไปแล้ว
เขาร้องไห้ แต่ตอนนั้นบอกตรงๆ ว่าใจผม และอารมณ์ผมมันไม่รับรู้อะไรเลย รู้ว่าหึง หวงและโกรธอย่างเดียว คิดอย่างเดียวว่าต้องทำทุกอย่างให้แมทหยุดติดต่อไอ้อดัม ถ้าเกิดถลำลึกไปแบบไอ้จูบแรกนั่นล่ะ ผมเลยลามปามให้เขาลบไอ้จูบแรกนั่นด้วย แต่ไอ้นั่นน่ะ ผมหาโอกาสจะให้เขาลบอยู่แล้ว ถ้าลบมันออกจากชีวิตแมทได้ ผมจะทำ เก็บมันไว้ทำไม ท่าทางมันยิ่งคิดไม่ซื่ออยู่ เราทะเลาะตบตีกัน (ตบตีกันจริง) ผมเผลอบีบแขนเขาซะช้ำ แถมยังทำเขาน้ำตาร่วงอีก พออารมณ์สงบลง ผมก็ต้องอ้อนเขาใหญ่ ตื่นเช้ามาก็รีบอ้อนต่อเนื่อง ขอโทษขอโพยเสียงอ่อนเสียงหวาน ซึ่งผมไม่เคยทำอย่างนี้ นอกจากแม่กับย่าผมไม่ชอบอ้อนใคร ไม่ชอบแสดงมุมนี้ให้ใครเห็น กับแฟนคนไหนๆ ผมยังไม่ทำเลย อย่างดีก็แค่สวีตไปตามความสัมพันธ์ของคนเป็นแฟนกัน (ซึ่งอันที่จริงผมมีแฟนน้อยมาก นับได้ที่เรียกว่าแฟนนี่แค่สามคน ส่วนนาตาชาอย่าไปนับเธอรวมเลย)
แมทโกรธยาก แล้วก็หายเร็ว ออเซาะมากๆ เขาก็ใจอ่อนแล้ว พอได้จังหวะเหมาะๆ ผมก็จับฟัดซะ อยากตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่อารมณ์นั้นคงไม่พาไปเท่าไหร่ ตื่นมาตอนเที่ยงๆ งอนง้อขอโทษสักพักแล้วก็จัดหนัก แถมยาวมาถึงมืดค่ำนี่ไง ผมว่าผมลดเรื่องอย่างว่ากับเขาลงมากแล้วนะ อาจเป็นเพราะกลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว ไม่จำเป็นต้องกระหน่ำอะไรมาก แต่พอดีพรุ่งนี้เป็นวันที่ผมต้องบินกลับ ซึ่งนั่นหมายถึงผมจะอยู่ห่างแมท และจะไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวเขาอีก เลยกะว่าวันนี้กับพรุ่งนี้ก่อนกลับจะขอตักตวงไว้เยอะๆ หน่อย เผื่อเวลาไว้ในช่วงที่ไม่เจอกัน เพราะไม่รู้ผมจะเคลียร์ตารางงานมาหาเขาได้อีกทีช่วงไหน คิดแล้วก็อยากให้เขาเรียนจบซะวันนี้ ที่มาหาวิทยาลัยแมทมีเรียนแบบวีดีโอทางไกลมั้ยนะ ผมจะได้พาเขากลับไปด้วยเลย
“Hey. I know you. You are Victor? (เฮ้ ฉันรู้จักคุณ วิคเตอร์ใช่มั้ยคะ)” ขณะที่ผมกำลังดื่มเพลินๆ คิดเรื่องเอเลี่ยนน้อยเรื่อยเปื่อย ก็มีเสียงสำเนียงของชาติๆ หนึ่งจากผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาแทรกความคิด ผมหันไปมองก็พบว่าเธอไม่ได้มาคนเดียว เธอยืนอยู่กับเพื่อนผมทองอีกคน ผมเลยไม่รู้ว่าคนไหนเป็นคนทัก แต่ที่รู้คือหน้าตาพวกเธอนั้นเปรี้ยวเข็ดฟันทั้งคู่ แถมหน้าอกหน้าใจก็ไม่ใช่น้อยๆ ด้วย หุ่นเธอสูงชะลูดอย่างกับนางแบบ จากประสบการณ์ที่อยู่ในวงการนายแบบมา เธอก็น่าจะเป็นนางแบบนี่แหละ
“Yes.” ผมยิ้มให้พวกเธอ แมทบอกเสมอว่าอยากให้ผมยิ้มบ่อยๆ เมื่อก่อนผมไม่ยิ้มบ่อยหรอก ไม่รู้จะยิ้มมากทำไม แต่พอมีเขาผมก็ยิ้มได้บ่อยขึ้นและชอบที่จะยิ้มมากขึ้นด้วย เห็นหน้าเขาก็ยิ้มแล้ว
“Wow. I don’t think we will meet you here. (ว้าว ไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเราจะเจอคุณที่นี่)” สาวผมทองพูด ซึ่งเป็นคนละเสียงกับสาวผมดำ ฉะนั้นคนที่ทักผมคนแรกคงเป็นสาวผมดำ หน้าตาหมวยอินเตอร์สินะ ผมไม่รู้จะตอบอะไร เลยได้แต่ยิ้มกลับไปให้
“Can we sit here? (นั่งด้วยได้มั้ยคะ)” ผมยกแก้วเหล้าเป็นเชิงบอกให้พวกเธอตามสบาย สาวผมทองหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์
“Do you have a trip in Thailand? (มาเที่ยวในไทยงั้นเหรอคะ)” สาวหมวยผมดำพูดพลางใช้หลังมือดันเส้นผมสีดำดกหนาไปด้านหลัง เผยให้เห็นหน้าอกชัดเจนยิ่งขึ้น ผมแอบยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“Yes.” ผมกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก เธอยิ้มบางเบากลับมาให้ หันไปรับแก้วเครื่องดื่มจากเพื่อนเธอ
แล้วเธอก็ชวนผมคุยอย่างเป็นมิตร เธอบอกว่าเธอเป็นลูกครึ่งอเมริกันกับประเทศที่มีซูชิเป็นอาหารขึ้นชื่อ มีอาชีพเป็นนางแบบ (อย่างที่ผมคิดไว้เลย) มาสักพักแล้ว เอเจนซี่แม่ที่ดูแลเธอก็อยู่ในนิวยอร์กนั่นแหละ ผมไม่รู้จักหรอก แต่คิดว่าถ้าถามเอมิลี่เธอก็คงตอบได้ สาวลูกครึ่งคนนี้บอกผมว่าเธอบินมาทำงานที่ประเทศไทยสามวัน เพิ่งมาถึงเมื่อวานนี้เอง ส่วนสาวผมทองนั้นก็เป็นเพื่อนนางแบบเช่นกัน เธอบอกว่าเรื่องรู้จักผมผ่านสื่อนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่เธอเองก็เคยได้ยินเรื่องผมจากเหล่านางแบบบางคนที่ผมเคยควงบ้าง ซึ่งตอนที่เธอเอ่ยชื่อมานั้นผมจำไม่ได้แล้ว นางแบบล่าสุดที่ผมควงได้ก็อันเดรียนานั่นแหละ นอกนั้นคงนานมากแล้วจริงๆ
“I heard something about you that very interesting. (ฉันได้ยินบางที่น่าสนใจเกี่ยวกับคุณมากมาค่ะ)” เธอยิ้มตาเยิ้มนิดๆ ใบหน้าแดงก่ำ น้ำเสียงเริ่มติดจะยานคาง อาจเพราะดื่มไปเป็นแก้วที่หกแล้ว และตอนนี้ในมือเธอก็คือเหล้าปั่นแก้วใหญ่ที่เจ็ด
“Hey. I’m gonna go to smoking. (นี่ ฉันไปสูบบุหรี่ก่อนนะ)” สาวผมทองว่าแล้วแยกตัวออกไป ทิ้งให้ผมกับเพื่อนเธอที่ผมไม่ได้สนใจจำชื่อนั่งคุยกันต่อ ผมยิ้มให้เธอแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกหนึ่งจิบ เธอมองผมด้วยสายตามีความหมายที่ชัดเจนมากขึ้น
“I heard you’re so hot—about sex. (ฉันได้ยินมาว่าคุณฮ็อตมาก กับเซ็กส์น่ะค่ะ)” ผมเกือบชะงักมือที่กำลังกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก แต่ก็กระดกต่อจนหมดแล้วยื่นแก้วให้บาร์เทนเดอร์เอาไปเติม หันไปมองเธอที่มองกลับมาอย่างที่ไม่ต้องเสียเวลาเดาแล้วว่าเธอคิดอะไรอยู่ ความคิดชั่วร้ายแผ่กระจายไปทั่วร่างผมวูบหนึ่ง ผมยกยิ้มมุมปาก ยื่นมือไปรับแก้วเหล้าที่ถูกเติมเรียบร้อยแล้ว
“I want to know that is real or not. (ฉันอยากรู้ว่านั่นจริงหรือเปล่า)” ผมยิ้มนุ่ม มองเธอที่อ้าปากอมหลอดเข้าไปอย่างมีลีลาและดูดเหล้าปั่นช้าๆ ช้อนสายตาหวานฉ่ำมาให้ผม
“I do not know what to say. (ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน)” ผมยักคิ้ว ยักไหล่หนึ่งที แม่สาวหมวยอินเตอร์แสนเปรี้ยวอกใหญ่ หัวเราะอย่างมีจริตผู้หญิงน้อยๆ เธอดึงหลอดออกจากปาก ยกนิ้วกลางป้ายไปรอบปากแล้วยัดนิ้วเข้าไปด้านใน ดูดกลืนเสียงจุ๊บจั๊บ ผมยิ้มที่มุมปาก เธอดึงมือออก คลี่ยิ้มเย้ายวนเชิญชวนมาให้
“ถ้าฉันอยากจะพิสูจน์ว่าเรื่องนี้จริงไม่จริง…” เธอขยับลงจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ เดินเข้ามาใกล้ผม โน้มหน้ามากระซิบที่ข้างหู
“…ได้มั้ยคะ” เธอดึงหน้าตัวเองออกไป มองผมสายตาแพรวพราว รอยยิ้มที่ส่งมานั้นมีความหมาย โดยไม่ต้องเสียเวลาเปิดดิคชั่นนารีหรือกูเกิ้ลทรานสเลทแปลงเลยสักนิด ผมยกแก้วเหล้าเข้าปาก เหลือบมองเธอแล้วสำรวจร่างเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตานิ่งสงบ ความรู้สึกด้านมืดเข้าผลักดัน
สัญชาตญาณเดิมของผมขึ้นมาทันที
“ถ้าคุณอยากร่วมพิสูจน์ ฉันอยู่ห้อง 1520…” เธอล้วงคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋าถือสีดำที่วางอยู่บนเค้าน์เตอร์ออกมา จัดการหย่อนลงในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตยีนส์ให้ผม
“…ฉันจะรอคุณถึงเที่ยงคืนนะคะ” เธอยิ้มโปรยเสน่ห์ให้ ยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มซ้ายผมหนึ่งที ยิ้มสวยๆ ทิ้งท้ายไว้อีกครั้ง แล้วเดินจากไปอย่างสง่า ผมรู้สึกตัวร้อนหน่อยๆ ยามมองสะโพกอวบอิ่มบิดไปบิดมา ผมหันกลับมานั่งคิด ความคิดมากมายตีกันวุ่นวายอยู่ในหัว ความรู้สึกเดิม (สันดานเดิมๆ) เริ่มกระเตื้องขึ้นมาที่ใจ ผมว้าวุ่นไปหมด หน้าแมทลอยไปลอยมา แล้วสุดท้ายผมก็ปัดหน้าเขาออกไปจากความคิด กระดกเหล้าจนหมดแก้ว ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามเธอไป
TBC.
ชื่อตอนเหมาะกับเหตุการณ์มากจริงๆ ชื่อเหมือนนิยายอีกเรื่องเลย ส่วนเหตุการณืที่เกิดขึ้นนั้น TT___TT สติมาเถอะนะวิคเตอร์
เจอกันส่วนต่อไปค่ะ