Only You : EP.18 [100%]#Morning
“Giant! Giant! Giant!” เสียงเล็กๆ ดังกระซิบที่ข้างหู พร้อมกับความรู้สึกหนักตัว พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นแฟนตัวจ้อยของผมลืมตามองตาแป๋ว พร้อมรอยยิ้มแป้นแล้น ผมยกยิ้มทั้งที่เปลือกตายังหนักอึ้ง สายตายังพร่าเบลอ แต่ก็พยายามลืมตาขึ้นมาคนหน้าเด็ก ที่ช่วงนี้รู้สึกจะหน้าเด็กกว่าเดิม และหน้าใสขึ้นเยอะมาก ผมว่าเหมือนเอเลี่ยนน้อยมันน่ารักขึ้นเลย
“Good morning, sweety.” ผมว่าเสียงแหบยานคาง ส่งยิ้มง่วงนอนให้เขา แมทหัวเราะคิกคักแต่เช้า เขากระเถิบตัวขึ้นมาใกล้หน้าผมมากขึ้น
“ไปอาบน้ำเร็วครับ จะได้ไปหาอะไรกิน กลับขึ้นมาจะได้เก็บของ” ได้ยินแล้วใจแป้วเลย ไม่อยากกลับเลยสักนิด ทำไมมนุษย์เราต้องทำการทำงานด้วยวะครับ ขอใช้เวลาอยู่กับคนที่เรารักมากๆ หน่อยไม่ได้รึไง ผมไม่ได้เจอเขาตั้งสองเดือน (เพราะตัวเองทั้งนั้น) แล้วนี่ได้อยู่ด้วยกันสองอาทิตย์เอง
“วันนี้ฉันกลับแล้ว ขอหลายยกหน่อยนะ” ผมว่าแล้วส่งสองมือไปบีบก้นเขา แมทหน้าแดง ผมยิ้มกริ่มดีใจที่เขาตอบรับสัญญาณของผม
“อื้อ…” เขาเสมองไปทางอื่น แก้มสองข้างแดงระเรื่อ สักพักแมทน้อยก็ตื่นตัวดุนดันหน้าท้องผม แมทหน้าแดงกว่าเดิม หันกลับมามองผมอย่างอายๆ คงเขินที่คุมน้องชายตัวเองไม่อยู่
“ใจเย็นก่อนนะที่รัก” ผมหัวเราะหึๆ ในลำคอ สองมือบีบก้นเขาแรงๆ กลางลำตัวของแมทแข็งแนบไปกับหน้าท้องผม ใบหน้าของเขาแดงก่ำ เจ้าตัวจ้อยกระพริบตาปริบๆ แต่ริมฝีปากก็มีรอยยิ้มเขินนิดๆ ผมเลื่อนมือขวาไปควักลูกชายตัวเองที่เริ่มแข็งอ่อนๆ ออกมาเกลี่ยแก้มก้นซ้ายของเขา
“คุณกินอะไรเข้าไปเนี่ย จะฟิตแข่งกับกัปตันอเมริกาเหรอ” ผมยิ้มหัวเราะ ยิ้มหน้าง่วงไปให้เขา แมทก้มลงหอมกลางอกผม แล้วเอาจมูกขยี้ไปมาเหมือนมันเขี้ยว
“กลไกร่างกายของคนเราไม่เหมือนกันนะเอเลี่ยนน้อย” นี่คือเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องหลอกเด็ก (ของผม) นะ เทรนเนอร์ที่ดูแลผมเขาให้ข้อมูลมาแบบนี้ คนที่ฟิตจริงๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารที่ให้ประโยชน์กับร่างกาย แล้วยิ่งมีเซ็กส์บ่อยๆ แบบผมเนี่ย มันยิ่งลงยาก แล้วถ้าได้ยิ่งคู่ถูกใจแบบแมทแล้วละก็ หึๆ
เรานอนจุ๊บปาก จุ๊บหน้า สลับกับคุยเล่นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตกันสักพักก็พากันลงไปทานข้าว กะว่าค่อยกลับขึ้นมาอาบน้ำทีเดียว แมทพาผมแปรงฟันก่อนลงไปทานอาหารเช้า พอเสร็จ เราก็แต่งตัวและลงไปหาอะไรทานพร้อมกัน ผมตักให้เขากิน แมทจะกินอยู่ไม่กี่อย่าง เขาเหมือนจะชอบกินอะไรมากๆ อยู่ช่วงนึง แล้วพอเบื่อก็จะเปลี่ยนเอง อย่างช่วงนี้ชอบกินเบคอนกับไข่ดาว และไข่กระทะ ผมก็หยิบมาเผื่อเขาจนล้น เขาบ่นว่ากินไม่หมดแน่ๆ แต่ผมก็เห็นซัดเรียบทุกมื้อ
พอทานอาหารเช้ากันเสร็จ เราก็กลับขึ้นมาบนห้อง เขาช่วยผมเก็บของ แพ็คของลงกระเป๋าอย่างเป็นระเบียบ แต่ไม่ได้เอาอะไรกลับไปเยอะนักหรอก เอากลับไปแค่กระเป๋าเดียว แล้วก็มีกระเป๋าเป้ของแมทที่เขาให้ยืมเอาใส่ของใช้ส่วนตัวเล็กๆ น้อยกลับไป ไว้สำหรับเอาขึ้นเครื่องไปด้วย ตอนขามาผมยัดทุกอย่างลงกระเป๋าใหญ่หมด ขี้เกียจมานั่งแยก
“แล้วเสื้อผ้าที่เหลือนี่เอายังไงครับ” เขามองไปที่กองเสื้อผ้ากองใหญ่ที่ผมซื้อเพิ่มตอนอยู่เมืองไทย ผมยิ้มนิดหน่อย เดินไปหยิบอะไรบางอย่างจากโต๊ะหัวเตียงมาให้เขา
“กุญแจอะไรครับ” เขามองกุญแจที่ผมยื่นให้ด้วยสายตางุนงง ผมยังไม่ได้บอกเขาเรื่องนี้ เพราถ้าบอก เขาต้องไม่ยอม แล้วผมก็จะไม่ยอม และเราก็จะทะเลาะกัน ฉะนั้นที่ดีที่สุดคือต้องมัดมือชกเขา
“ฉันซื้ออพาร์ทเม้นต์* ไว้ที่นี่” แมทอ้าปากค้าง หน้าตาเขาเหมือนโดนชกให้มึนไปครู่หนึ่ง มีอยู่วันหนึ่งแมทถูกตามตัวให้เข้าไปพบกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ผมเลยอาศัยจังหวะนั้นออกไปหาดูกับออสติน โดยมีบาส แฟนไอ้เบนไปเป็นเพื่อน เพราะผมเองก็ไม่ได้รู้จักประเทศไทยทุกซอกทุกมุม
(*อพาร์ทเม้นต์ = คอนโดฯ ฝรั่งจะนิยมเรียกคอนโดฯ ว่าแมนชั่นหรือไม่ก็อพาร์ทเม้นต์)
“ซื้อไว้ทำไมครับ”
“ซื้อไว้ให้นาย…” แมทสีหน้าตื่นตะลึง เขาอ้าปากเตรียมจะบ่นผม แต่ผมรีบยกมือห้ามเขาไว้ก่อน
“…แล้วก็ไว้ให้ฉัน เวลาฉันมาที่นี่ จะได้ไม่ต้องมาหาเช่าโรงแรม สรุปก็คือฉันซื้อไว้ให้เราสองคน” เขาหุบปากลง เปลี่ยนเป็นเม้มปาก มองหน้าผมเหมือนกำลังไตร่ตรองอยู่
“ไม่เห็นจำเป็นต้องซื้อเลย คุณจะได้มาบ่อยแค่ไหนกัน ปล่อยไว้ก็โล่งไปวันๆ”
“ถึงมาไม่บ่อย แต่มาทีนึง รับรองว่าฉันไม่อยู่แค่สองหรือสามวันแน่” แมททำหน้าลำบากใจ ผมรู้ว่าเขาไม่ได้อยากได้ เขาไม่ใช่คนประหยัดถึงขั้นตระหนี่ เพียงแต่เขาไม่เคยใช้เงินไปกับอะไรแบบมหาศาล เขาบอกว่าที่แพงที่สุดที่เขาเสียเงินซื้อก็คือแม็คบุ๊คของเขานั่นแหละ
“หรือเวลาฉันมา นายจะให้ฉันไปนอนบ้านนายล่ะ” ผมแกล้งแซว แวบแรกเหมือนเขาจะยินดีตอบตกลง แต่เขาคงนึกขึ้นได้ว่าบ้านเขาก็คือบ้านพ่อกับแม่เขาด้วย เขาเลยทำหน้าเสียดาย
“และนายก็คงไม่อยากให้ฉันเปลืองเงินมาเช่าโรงแรมสองชั้นอย่างนี้บ่อยๆ หรอกใช่มั้ยล่ะ” เขาสั่นหัวทันที แมทไม่เห็นด้วยที่ผมจะเช่าห้องแบบระเนระนาดแบบนี้ เขาบอกว่าเช่าห้องเดียวก็อยู่ได้แล้ว แน่นอนว่าผมไม่มีทางทำตามที่เขาบอกแน่ ให้ผมอยู่ใกล้กับใครก็ไม่รู้ แล้วเวลาเอากัน เสียงดังขึ้นมาก็มีประเด็นอีก อย่างที่ผมเช่าอยู่ก็มีแค่ออสตินห้องตรงข้าม กับพวกไอ้เบนห้องข้างๆ ซึ่งผมไม่ต้องกังวลว่าพวกนั้นจะเอาไปพูดต่อ จะครางดังแค่ไหนก็ทำไปเถอะ
“ซื้อมาแล้วนี่ครับ” เมื่อไม่รู้จะเถียงอะไร หรือยอมที่จะไม่เถียงก็ไม่รู้ เขาก็หยุดประเด็นนี้ไว้
“อีกอย่างเผื่อนายอยากไปนอนนอกบ้านบ้าง อ้อ ถ้าจะไปบอกออสตินก่อน ฉันจะได้ให้เขาออกไปหาที่อื่นนอน เพราะฉันไม่อนุญาตให้นายนอนด้วยกัน ถึงจะคนละห้องก็เถอะ” ถึงผมจะไว้ใจออสติน แต่ผมก็ไม่อยากให้ใครใกล้ชิดแมทมากจนเกินไป ผมไม่ชอบ ออสตินอาจจะไม่ได้คิดอะไร เพราะเขาเป็นผู้ชาย แต่ผมก็เป็นผู้ชาย ผมยังชอบเขาเลย
“อ้าว ออสตินไม่ได้กลับนิวยอร์กไปพร้อมคุณเหรอ” นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมยังไม่ได้บอกเขา ผมบอกออสตินเรียบร้อยแล้ว และผมคิดว่าแมทจะต้องไม่พอใจ แต่ถ้าผมพอใจ เท่านั้นมันก็จบ
“เปล่า ออสตินจะอยู่ที่นี่จนกว่านายจะเรียนจบแล้วบินกลับไปนิวยอร์ก อ๊ะๆ อย่าพูดว่าไม่ต้องนะ ฉันตัดสินใจแล้ว และออสตินก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และพวกบอดี้การ์ดคนไทยก็จะคอยช่วยออสตินดูแลนายด้วย” แมทอ้าปากค้าง สีหน้าเขาดูเหลือเชื่อกับสิ่งที่ผมเพิ่งบอกไป
“นี่! คุณเพี้ยนไปแล้วเหรอ นี่ผมนะ ผมไง แมท แค่ผู้ชายธรรมดาๆ คนนึง ไม่ใช่รัชทายาทที่ไหน ไม่ต้องมีบอดี้การ์ดก็ได้ ไม่จำเป็นเลย” เขาว่าลิ้นรัว เรียบเรียงคำศัพท์ผิดๆ ถูกๆ ผมทำหน้านิ่ง ส่ายหัวว่าไม่รับฟังเขา แมทเม้มปากแน่น ท่าทีเขามีความไม่ชอบใจอยู่ แต่เขาคงไม่อยากทะเลาะด้วย
“ฉันบอกออสตินไปแล้ว และถ้าถามหาเหตุผลก็คือ ฉันหวง ห่วง และหึง ออสตินจะเป็นคนรายงานฉันหมดไม่ว่านายจะทำอะไร อย่าคิดนอกใจฉันนะ แล้วอย่าคิดให้ใครมาทำให้นายเปลี่ยนใจไปจากฉันด้วย” ผมพูดน้ำเสียงจริงจัง หน้าตาสื่ออกไปตามความหมายที่พูด แมทขมวดคิ้ว กระพริบตาปริบๆ กับประโยคยาวเฟื้อย เมื่อก่อนผมไม่ใช่คนพูดเยอะๆ ยาวๆ หรอกนะ แต่ถ้าจะให้พูดกับคนอื่นที่ไม่ใช่แมท ผมก็ไม่พูดขนาดนี้หรอก
“งั้นผมส่งบอดี้การ์ดไปคอยดูคุณบ้างมั้ย คุณน่ะ น่าจะนอกใจผมง่ายกว่าอีก” สีหน้าและน้ำเสียงเขาหมั่นไส้ผมซะเต็มประดา ผมยิ้มมุมปาก ยักคิ้วให้เขาหนึ่งที
“นายไม่ต้องจ้าง พวกไอ้เบนก็เป็นบอดี้การ์ดให้อยู่แล้วนี่ เชื่อฉันสิว่าถ้าฉันคิดจะมีชู้ มันต้องแจ้นมารายงานแน่นอน ไหนจะเอมิลี่อีก นายมีบอดี้การ์ดที่หูตาไวยิ่งกว่าของฉันอีกนะ” สายตาที่เขามองมามีแววเอือมอย่างเห็นได้ชัด ผมไม่ได้สนใจหรอก และเขาก็รู้ด้วยว่าขัดผมไม่ได้
ถ้าผมต้องการ ผมก็จะเอาให้ได้ตามที่ต้องการ ถ้าผมไม่รัก ผมไม่ทำหรอก
“ก็ตามนั้นแล้วกันครับ เถียงคุณไป คุณก็ไม่ยอมอยู่ดี” เขาว่าปลงๆ ผมยิ้มถูกใจ เดินเข้าไปหอมแก้มเขาทั้งสองข้าง แมทยิ้มน้อยๆ กลับมาให้ และรับกุญแจอพาร์ทเม้นต์ไปไว้ในมือ
“ที่กองอยู่ เดี๋ยวให้พวกออสตินขนไปขึ้นรถ แล้วเอาไปเก็บไว้ที่อาพร์ทเม้นต์ก็แล้วกัน” เขาพยักหน้ารับ ผมหันไปมองข้าวของที่ถูกเก็บเข้ากระเป๋าหมดแล้ว เหลือแต่ของที่จำเป็นต้องใช้ก่อนปิดกระเป๋า และของที่จะเอาไปเก็บไว้อาพาร์ทเม้นต์ใหม่
“อาบน้ำกันเถอะ” เราถอดเสื้อผ้าจนร่างเปลือยเปล่า ผมไม่เคยตื่นเต้นกับร่างกายแมท เพราะมันก็คือร่างกายผู้ชาย ไม่ได้เรียกความเร่าร้อนให้ผมนักหรอก แต่ที่ผมอยากเอาเขาตลอดนั้นมันไม่ใช่เพราะร่างกาย มันเพราะอย่างอื่น ถ้าให้บอกตรงๆ ยังไงรูปร่างผู้หญิงก็ยังน่ามองกว่า ผมผ่านการสัมผัสรูปร่างผู้หญิงมาเยอะ มันมีลูกเล่นเยอะกว่าร่างกายผู้ชายด้วยกันอยู่แล้ว แต่ถ้าให้ผมเลือกมอง ผมก็เลือกมองแมทแฟนผม แมทไม่ได้ให้ความสุขผมแค่ร่างกาย แมทให้ความสุขกบผมมากกว่านั้น
“หลับตาไว้ครับ” ผมหลับตาตามที่เขาบอก สองมือโอบบั้นท้ายเขาไว้หลวมๆ ผ่อนลมหายใจแผ่วๆ ออกมา เพราะร่องก้นของเขานั่งทับยักษ์น้อยไว้พอดิบพอดี แมทใช้โฟมล้างหน้าลูบไล้ไปทั่วหน้าผมอย่างอ่อนโยน นวดคลึงแผ่วเบาสักพัก เขาก็เอื้อมไปหยิบฝักบัวข้างอ่างอาบน้ำมาล้างหน้าให้ผม มือผมเลื่อนลงไปบีบบั้นท้ายแสนงอนของเขาไว้ รู้สึกว่ามันจะเด้งดีขึ้นเยอะ แถมยังแน่นน่าสัมผัสตลอดเวลา ถ้าผู้หญิงมีนมให้บีบ แมทก็มีบั้นท้ายสองลูกนี้แหละที่ผมชอบบีบ ชอบจับ จริงๆ ผมชอบจับชอบบีบเขาทั้งตัวแหละ ได้ลวนลามเขานี่เป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิต
“กลับไปใครจะอาบน้ำให้ฉันกันนะ” พูดแล้วก็รู้สึกเหงาล่วงหน้า กลับไปอยู่บ้านคนเดียวเปลี่ยวใจ ไม่มีเสียงใสๆ แว้ดๆ คอยรังควานประสาทหูผมอีกนานเลย ไหนจะรอยยิ้มร่าเริงแจ่มใสนี่อีก
“เปิดคลิปที่คุณอัดดูสิ มีตั้งหลายคลิปนี่” เขาว่าพลางถูตัวให้ผมด้วยครีมอาบน้ำกลิ่นน้ำนมของเขา ผมชอบดมตัวเขาบ่อย เขาเลยแบ่งมาให้ผมใช้ด้วยซะเลย แต่ถึงจะแบ่งมาแล้ว ผมก็ชอบไปเล็มเลียที่ตัวเขาอยู่ดี
“ยังไม่มีคลิปตอนเราเอากันสักหน่อย” แมททุบกำปั้นลงบนอกผมดัก ปึก! ผมร้องอั่กออกมา ทำท่าเหมือนจะตาย แมทแบะปากใส่อย่างไร้ความปราณี ผมหัวเราะยกมือขึ้นลูบหัวเขา ดึงเขาลงมาจูบหน้าผากหนึ่งที
“อย่าได้ให้รูปที่ผมโป๊หลุดไปเชียวนะ ผมยังไม่อยากถูกค่ายหนังโป๊ติดต่อไปร่วมงาน” ผมหัวเราะต่อเนื่องกับมุกตลกของเขา แมทยู่ปากใส่ หันไปหยิบฝักบัวมาล้างตัวให้ผม
“พระเอกก็มีฉันได้คนเดียวเท่านั้นแหละ” ผมตีก้นเขาดังเพี๊ย แมทย่นคิ้วนิดหน่อย ยกฝักบัวขึ้นฉีดใส่หน้าผม เล่นเอาน้ำพุ่งใส่หน้าอย่างแรง ผมหัวเราะเสียดัง ปัดฝักบัวออกไป ยกมือลูบน้ำออกจากหน้า ชี้หน้าคาดโทษเอเลี่ยนตัวดี เขาแลบลิ้นกลับมาและใช้ฝักบัวราดน้ำบนตัวผมต่อ
ผมถ่ายรูปเขาไว้เยอะมาก ทั้งรูปปกติ รูปเปลือย ทั้งแบบที่เขารู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่รูปเปลือยแบบรู้ตัวไม่มีหรอกนะ มีแต่ผมแอบถ่ายเขาเวลาหลับหรือยืนเปลือยก่อนเข้านอนทั้งนั้น แล้วยังมีคลิปเขาอีกเพียบ แต่ไม่ใช่คลิปโป๊ หรือคลิประหว่างผมกับเขาหรอก อันนั้นไม่มีทางถ่าย ผมจะเก็บภาพนั้นไว้ในหัวคนเดียว ส่วนใหญ่เป็นคลิปเวลาผมก่อกวนเขา แกล้งเขาให้เขาโวยวาย ส่งเสียงแว้ดใส่ผมเล่นๆ ไม่ก็เป็นคลิปตลกๆ เวลาเขาทำอะไรป้ำๆ เป๋อๆ แบบไม่ทันรู้ตัว
ผมถ่ายเก็บเอาไว้จนเมมจะเต็มเครื่องแล้วมั้ง ผมกะเก็บเอาไว้ดูเวลาคิดถึงเขา เวลาไม่ได้คุยกัน อย่างน้อยยังได้เห็นเขาผ่านภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวพวกนี้
“คุณสไกป์มาคุยกับผมก็ได้นี่นา แต่ผมช่วยคุณอาบน้ำผ่านสไกป์ไม่ได้นะ” เขาถือฝักบัวราดน้ำไปทั่วตัวผม มือนุ่มๆ ก็ช่วยขัดถูตัวผมไปเรื่อย อย่าคิดว่าผมนอนนิ่งให้เขาทำนะ ลูกชายผมมันไม่นิ่งตั้งแต่เขาเอามือมาถูสบู่แล้ว เล่นลูบขึ้นลูบลงจนมันแข็งตัวอ่อนๆ นอนราบอยู่บนหน้าท้องผมนี่ไง
“อันนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว” คิดว่าผมจะทนดูหน้าเขาได้แต่ในโทรศัพท์งั้นเหรอ ผมให้เขาสมัครสไกป์ให้ผมเรียบร้อยแล้วละ ผมทำไม่เป็นหรอก ไม่ค่อยได้สนใจโลกโซเชียลเท่าไหร่ รูปในอินสตาแกรม ถ้าไม่มีแมท ก็คงร้างไปหลายเดือนกว่าจะได้อัพรูปครั้งนึง นี่ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยที่แมทคอยจัดการให้ผม
“ถูตัวนายสิ” เขาหันไปกดครีมอาบน้ำใส่มือ แล้วเอามาชโลมไปทั่วร่างกายเขา น้ำนมข้นไหลไปตามเนื้อแน่นของแมท เขากวาดครีมไปทั่วตัว ก้มหน้าก้มตาถูตัวไปเรื่อยทั้งที่ยังนั่งคร่อมตักผมไว้อยู่ ผมนอนพิงอ่างอาบน้ำ นั่งมองเขาถูสบู่เหลวไปทั่วตัวอย่างเพลิดเพลิน สักพักผมก็เลื่อนมือไปจับลูกชายตัวเอง ชักขึ้นลงช้าๆ สายตาก็มองแมทไม่วางตา เอเลี่ยนน้อยชะงัก มองผมที่ยิ้มเมาๆ ให้เขา
แมทไม่ได้มีร่างกายที่น่าตื่นเต้นก็จริง แต่ไอ้ท่วงท่าลีลาที่เขารู้จักเล่นกับร่างกายเขาต่างหากที่ทำให้ผมแข็งบ่อยๆ
“I don’t deny that I’m horny, now. (ฉันไม่ปฏิเสธเลยว่าตอนนี้ฉันอยากมาก)” ว่าไปก็ชักขึ้นชักลงอาวุธตัวเองจนมันตั้งตระหง่านขึ้นมาพร้อมรบ ผมจับตรงโคนของตัวเองไว้ จับยักษ์น้อยตีกับท้องน้อยแมทแรงๆ
แปบ แปบ แปบ~
แมทไม่ได้ตอบอะไร แต่การที่น้องชายเขาตื่นตัวมาท้าทายไอ้ยักษ์น้อยผมนั้นก็เป็นการตอบรับที่ไม่ต้องเอ่ยเสียงใดออกมา ผมยิ้มมัวเมา ยื่นมือไปจับเอวเขาไว้ ยกตัวเขาขึ้น ดันตัวเองลุกขึ้นนั่ง แมทเอามือคล้องคอผมไว้ ผมค่อยๆ พาร่างเขานอนไปกับพื้นอ่างอาบน้ำ เขายกขาไปพาดกับขอบอ่างทั้งสองฝั่งอย่างรู้งาน ผมยิ้มเมา แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากล่างไปมาตามนิสัยเวลาอยากอึ๊บเขา
“อีกไม่กี่ชั่วโมงฉันก็ต้องกลับแล้ว ตามใจฉันหน่อยนะ” ผมเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางข้างขวาป้ายครีมน้ำนมบนตัวเขามาจนชุ่มแล้วเอามาไล้วนตรงกลีบเนื้อนุ่มของเขา
“ผมเคยขัดใจคุณได้ด้วยเหรอ” เขาขยุ้มเส้นผมของผม สลับกับลูบหัวผมไปด้วย ผมยิ้มตาเยิ้ม ยัดนิ้วเข้าไปด้านในช่องทางของเขา แมทเผยอปาก เชิดหน้าขึ้น ลมหายใจหอบแผ่วเบาแต่ก็มีน้ำหนักที่ดี ผมกดกระตุ้นจุดเสียวภายในเขา แมทน้อยแข็งเต่งตึงตอบรับ กลีบเนื้อสีอ่อนของเขารัดนิ้วผมเช่นเคย
“ไม่เคย และก็จะไม่มีวันขัดใจได้ใช่มั้ยที่รัก” ผมกระซิบถามเสียงแหบ แมทเลื่อนมือมาจับต้นแขนผมแน่นในตอนที่ผมกดค้างไว้ตรงจุดเดียวในช่องทางอ่อนนุ่มของเขา
“โอ้ว… อ้า…”
“ฉันถามว่าใช่มั้ย” ผมถามย้ำเสียงเข้มอีกครั้ง ออกแรงกดปลายนิ้วเข้าไปที่จุดเดิม แมทผวาเฮือกและพยายามอ้าปากตอบเสียแห้ง
“Yes.”
“Yes what?”
“Yes, baby.” ผมกรีดยิ้มมุมปาก ดึงนิ้วออกจากด้านในตัวเขา ก้มลงมองก็เห็นว่าจีบเนื้อตรงนั้นของเขาแหวกอ้าต้อนรับผมแล้ว แมทนอนหายใจหอบหนัก ผมดันความเป็นชายของตัวเองเข้าไปด้านในตัวแมท เขาผวาเล็กน้อย ผมรีบก้มลงไปจูบปลอบโยนเขา ลิ้นเราสองคนคลอเคลียกันนุ่มนิ่ม ผมเริ่มขยับสะโพกเข้าหาอีกฝ่าย พอแมทเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ผมก็ถอนจูบออก ใช้มือดันร่างตัวเองไว้
“ถูตัวต่อสิที่รัก นายยังไม่สะอาดเลยนะ” พูดไปก็ดันลูกชายเข้าหาเขาเรื่อยๆ แมทใช้สองมือลูบไล้ไปทั่วตัวเอง ผมตาลุกวาวกับภาพที่เห็น เขาใช้มือสัมผัสไปทั่วตัวเองอย่างเชื่องช้าพร้อมกับสีหน้าที่บอกว่าเสียวซ่านจะขาดใจ
“อึ๊ อ๊ะ อ๊ะ อือ… โอ้ว เยส…” นี่เพิ่งเริ่มจังหวะไปได้ไม่กี่นาทีผมก็จะเสร็จแล้ว ไม่ใช่เพราะผมเสื่อมหรอก แต่แมทครางแบบนี้ สีหน้าหน้าแบบนี้ ลีลาแบบนี้ เห็นแล้วลูกชายผมแน่นตึงเปรี๊ยะพร้อมปลดปล่อย แต่ผมก็ยังอึดมากพอที่จะซอยสะโพกเข้าหาเขาต่อ พอใกล้จะถึงจุดปลอดปล่อย ผมก็ค่อยๆ เบรกตัวเองลง ทำอย่างช้าๆ มองสบตากับแมท แล้วก้มลงไปจูบกับเขา พอลูกชายผมคลายตัวเกร็ง ผมก็เริ่มขยับเอวต่อ แมทยกสองมือคล้องคอผมไว้ ส่งเสียงร้องดังก้องห้องน้ำ
“โอว… โอว… โอ้… เร็ว… เร็วอีก… ฮ่ะ ฮ่ะ” เขาขอร้องเสียงหอบพลางเด้งตัวก้นขึ้นมาสู้ ผมคลี่ยิ้มกว้าง แล้วแกล้งเขาด้วยการดันตัวเองเข้าไปข้างใน แช่ค้างไว้ ไม่ยอมขยับ
“อา… อา! อื้อ! ขยับ โอ๊ย ขยับหน่อย…” เขากัดริมฝีปากล่างแน่น เปลือกตาหลับสนิท สีหน้าทรมานใจจะขาด
“Who is your boyfriend, huh? (ใครเป็นแฟนนาย ฮึ)” ผมซี๊ดปากเบาๆ ใช่แต่เขาที่อึดอัด ผมโดนเขาบีบรัดซะแน่นเลย
“Giant-beard!!! (ไอ้ยักษ์หนวด!!!)” เอเลี่ยนน้อยลืมตาขึ้นมามองเคืองๆ แล้วแหวใส่ ผมหัวเราะเสียงทุ้ม ก่อนจะซอยสะโพกเข้าหาเขาต่อ แมทร้องระงมไปหมด พอๆ กับผมที่เริ่มส่งเสียงครางในลำคอ ก่อนที่ผมจะรีบดึงลูกชายออกมาปลดปล่อยบนตัวแมท เพราะข้างในแมทแน่นไป แล้วไหนจะของผมที่กระตุกแรงอีก มันเสียวไปหมด น้ำรักสีขาวข้นขุ่นของผมฉีดพ่นลงบนเรือนร่างแมทผสมกับครีมน้ำนมของเขา แมทใช้สองมือเกลี่ยไล้น้ำรักผมและครีมน้ำนมเข้าด้วยกัน ลากสองมือถูไปทั่วตัว
“อ้า… ฮู่ว… ฮ่า…” ผมจับแก่นกายตัวเองสะบัดเศษน้ำออก มองแมทที่ใช้น้ำรักผมแทนครีมอาบน้ำนมถูชโลมไปทั่วตัวอย่างเนิบนาบแต่ว่าน่ามองพร้อมกับส่งเสียงหอบน้อยๆ ไปด้วย เหล่าลูกๆ ผมไหลไปทั่วตัวแมท สองมือน้อยๆ เนียนนุ่มของเอเลี่ยนลากผ่านหน้าอก ไล่ลงมาที่แก่นกาย เขาใช้มือขวาลูบแมทน้อย มือซ้ายปาดเอาน้ำข้นขุ่นของผมเทลงไปบนเอ็นเนื้อแข็งของเขาราวกับเติมน้ำมันหล่อลื่น
“เมื่อยขาอ้ะ” เขาทำปากยื่นน่ารัก ผมยิ้มกริ่ม แล้วจัดการดึงขาสองข้างเขาลงมาจากขอบอ่าง ผมนั่งลงแยกขาน้อยๆ เอื้อมมือดึงแขนแมทขึ้นมา แต่ไม่ได้พาเขาขึ้นมานั่ง ผมแค่จะเอาขาตัวเองรองตัวเขาไว้ แมททิ้งตัวลงนอนบนขาผม หัวอยู่ที่ปลายเท้า
“นายถือหรือเปล่า ย่าฉันเคยบอกว่าคนไทยถือเรื่องเท้ากับหัว” แมททำหน้าคิดนิดหนึ่ง แล้วก็ส่ายหัวปฏิเสธ
“ย่าคุณรู้เรื่องเมืองไทยด้วยเหรอครับ…” ผมใช้สองมือบีบๆ นวดๆ ตรงบริเวณหน้าขาของเขา
“…ย่าเคยมาไทยน่ะ ฉันก็เคยมากับย่าด้วยนะ” แมททำตาโตประหลาดใจ ผมยิ้มน้อยๆ กลับไป บีบด้านในโคนขาของแมทหนักๆ แก่นกายของแมท ตั้งตรงชี้หน้าผม
“จริงเหรอ คุณเคยมาไทยด้วย?!” ดูท่าทางจะสนใจมากทีเดียว อย่างกับเด็กที่เพิ่งได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไม่มีผิด
“ย่ามีเพื่อนอยู่ที่นี่ ที่ตอนเหนือของไทย เชียงร้าย…” ผมพยายามออกเสียงสำเนียงไทยให้ถูกต้อง แต่มันคงตลกอยู่ดี เพราะแมทหัวเราะกว้างเชียว ผมยิ้มตามรอยยิ้มของเขา
“…ฉันปิดเทอมพอดี ก็เลยมาน่ะ” ผมบอกแค่นั้น ไม่ได้บอกว่ามีเหตุจากพ่อที่ทำให้ต้องมาไทยกับย่าด้วย ช่วงเวลาในตอนนั้นผมกับพ่อเราควรต้องห่างกันสักพัก
“ไม่เห็นคุณบอกผมเลย” เขาทำหน้างอหน่อยๆ คงงอนที่ผมไม่เล่าเรื่องตัวเองให้ฟัง
“ก็นายไม่ถาม แล้วฉันก็ไม่รู้ว่าจะบอกตอนไหน อีกอย่าง ฉันก็มาแค่สิบวันเอง” ตอนที่แมทพาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็เหมือนได้นึกภาพในตอนนั้นอยู่เหมือนกัน แต่มันก็ไม่ได้ชัดเจนอะไรนักหรอก ตอนนั้นผมก็ใช่ว่าจะตื่นตาตื่นใจกับการมาเมืองไทยครั้งแรก ผมมาเพราะมีปัญหา ไม่ได้มาเที่ยว ฟีลมันเลยไม่ค่อยจะมีมั้ง
“แล้วคุณเคยไปวัดที่ผมพาไปรึเปล่า” ผมส่ายหัวแทนคำตอบ สองมือรูดหน้าทั้งสองข้างของเขาขึ้นลงเรื่อยๆ
“ไม่หรอก ตอนลงมากรุงเทพ ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนคนไทยที่รู้จักกันตอนอยู่เหนือ” แมทหรี่ตามองอย่างจับผิดกลับมาจนผมยิ้มขำ
“เพื่อนผู้หญิงผู้ชาย” เขาทำปากเป็ด ไม่ได้งอนอะไรจริงจังหรอก เหมือนเขาแซวมากกว่า
“เพื่อนผู้ชาย แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้ติดต่อแล้ว จะว่าไปหลังจากฉันกลับไปอังกฤษ ก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลยต่างหาก” ผมเลื่อนมือขวาไปรูดรั้งแมทน้อย ไม่ยอมให้มันอ่อนตัวลง
“หน้าตาดีมั้ย” หึๆ ท้าทายอำนาจมืดเหรอไอ้เอเลี่ยน ผมไม่ได้ตอบอะไร ทำแค่บีบกลางลำตัวเขาไว้แรงๆ จนเขานิ่วหน้าหน่อย
“ล้อเล่นนนน” ผมไม่รู้ว่าเพื่อนคนนั้นโตมาแล้วหน้าตาดีขนาดไหน แต่ตอนที่ผมกับเขารู้จักกัน ถือว่าหมอนั่นหน้าตาดีละมั้ง ผมก็ไม่รู้ว่าในสายตาคนไทยกับสายตาฝรั่งอย่างผม เขามองหน้าแบบนั้นเป็นไง ใช่ว่าเขาเป็นเพื่อนรักผมแบบไอ้เบน ไอ้อันเดรซะเมื่อไหร่ เหมือนเป็นเพื่อนในวัยเด็กคนหนึ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปมากกว่า อารมณ์เหมือนเพื่อนตอนอนุบาล พอแยกย้ายกันก็ลืมไปแล้ว ป่านนี้คงแต่งงานมีครอบครัวแล้วมั้ง ซึ่งผมไม่ได้สนใจนักหรอก ถ้าผมสนใจจริง ผมเล่าให้แมทฟังไปนานแล้ว
“แอ๊ ฮือ… วิคเตอร์อะ” เขาว่าเสียงงอแง เมื่อผมไม่ยอมให้เขาถึง หน้าตาเขาบูดบึ้ง ผมปล่อยมือออกจากตรงนั้น แล้วไปจับมือเขาดึงขึ้นมานั่งตัวตรงๆ ผมทิ้งตัวเอนหลังไปพิงขอบหัวอ่างล่างหน้าไว้ ดึงแมทให้เข้ามาหาตัวเอง พอเขาเขยิบเข้ามาใกล้ ผมก็หอมแก้มซ้ายเขาไปหลายๆ ที แมทก็หอมแก้มอีกฝั่งของผมตอบกลับมา ผมเลื่อนมือไปจับๆ รูดๆ อาวุธตัวเองให้พร้อมตั้งสู้ พอมันแข็งตัวผมก็เอาตีก้นแมทเป็นสัญญาณ เขายกก้นขึ้นเล็กน้อย ผมจับของผมไว้ให้ตั้งตรง เพื่อรองรับก้นเขา แมทหย่อนก้นลงมานั่งจนมิด เขาครางเสียงสั่น เพราะมันคงลึกมากในท่านี้ ใบหน้าเขาบิดเบี้ยวไปตามแรงอารมณ์ ท่าทางเหมือนคุมตัวเองไม่อยู่
“Your turn.” ผมเลื่อนมือขวาไปรูดรั้งน้องชายเขา ให้มันแข็งตัวเองไว้ แมทต้องตั้งสติสักพัก เพราะท่านั่งมันทำให้ลูกชายผมดันเข้าไปด้านในตัวเขาลึกสุดแล้วก็เสียวสุดสำหรับแมท พอเขาตั้งตัวได้เขาก็เริ่มขยับขึ้นลงเชื่องช้าแต่ทว่าจังหวะนั้นมั่นคง
อีกหลายชั่วโมงกว่าผมจะต้องไปสนามบิน ก่อนไปขอกินเขาให้หนำใจก่อน เพราะคงอีกนานกว่าจะได้เจอหน้ากัน ช่วงเวลาที่ห่างกันผมคงโคตรทรมานกว่าเดิมที่เคยเป็นตอนที่เขากลับมาไทยรอบแรก รอบนั้นความรู้สึกผมยังไม่ลึกซึ้งกับเขาเท่าตอนนี้ ผมยังแห้ง แทบเหี่ยว แล้วครั้งนี้ผมกับเขาเราเป็นแฟนกันแล้ว ผมไม่อับเฉาเน่าตายเลยเหรอเนี่ย
“อ๊ะ อ๊า อ๊า…”
“ซี๊ดดด… ฮืม! ดี… ดีมาก…”
TBC.
ก่อนกลับขอจัดหนักกับเมียรักเนาะพี่ยักษ์เนาะ เดี๋ยวจะไม่ได้เจอเอเลี่ยนน้อยอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เป็นพระเอกฮ็อตคิวแน่น งานเยอะ แต่เรื่องเมียไม่ต้องห่วง ส่งคนมาเฝ้าแทนละ สบายใจ 555555 ไหนจะติดตั้ง GPS บนตัวเมียเรียบร้อยแล้ว พี่ยักษ์สบายใจครับผม
อยู่ห่างกันคนละช่วงเวลา กันคนละประเทศละอ่ะ จะใช้ชีวิตลำบากมั้ยน้อ เพื่อนสนิทตอมคนหนึ่งเคยคบกับหนุ่มบราซิลที่ไปเจอกันที่ฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา ตอนอยู่อเมริกา สวีตหวาน แต่พอเพื่อนตอมบินกลับมาไทย โอ๊ย ขมปร่าค่ะ ช่วงเวลามันเป็นอะไรที่เป็นอุปสรรคเหมือนกันนะ แต่มันก็เป็นอุปสรรคเฉพาะกับคนที่ไม่คิดจริงจังเท่านั้นแหละ คนที่เขารักกันจริง ระยะทางเป็นเรื่องจิ๊บๆ มาก เชื่อว่าความจริงจังของไอ้ยักษ์ทุกคนคงเห็นแล้วเนาะ ก็ซื้ออพาร์ทมเม้นต์ทิ้งไว้ให้เมียที่ไทยแล้วอ่ะ ทุ่มป้ะล่ะ 555555
แต่ทีนี้เอเลี่ยนน้อยยังไม่รู้เรื่องคืนก่อนไง ถ้ารู้นี่ระแวงไอ้ยักษ์ไปสิบตลบ ไอ้ยักษ์มันเลยอุบเงียบ ไม่บอก เพราะถ้าบอก แมทวื่อวึงแน่ๆ แหม๊ จะบอกได้ไง ก็มันคิดจะทำผิดต่อแมทอ่ะะะ เลวววว เชอะะะ ต้องคอยดูไอ้ยักษ์ไว้ละ ว่าจะแผลงฤทธิ์เจ้าชู้ที่ไหนรึเปล่า
เออ ตอมเคยอ่านเจอในกระทู้พันทิป มีบางคนคิดว่าฝรั่งไม่เจ้าชู้ ฝรั่งเขาชัดเจนกว่าคนไทย เขาไม่หลายใจหรอก อู้ววว ไม่รู้นะ แต่ละคนเจอมาไม่เหมือนกันมั้ง แค่จะบอกว่า ฝรั่ง ก็คนนะ แค่ต่างเชื้อชาติกันเท่านั้น แต่นิสัยและสันดานไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่าเป็นคนไทยหรือฝรั่งป้ะ ตอมก็ไม่ได้มีประสบการณ์ตรงกับฝรั่งขนาดนั้น แต่เพื่อนสนิทตอมนางคุยกับหนุ่มฝรั่งเยอะมากกก ตอมก็ได้คุย ได้รู้จักจากการเขามาจีบเพื่อนเราด้วยส่วนหนึ่งนี่แหละ
ตอนหน้าส่งยักษ์กลับอมริกาแล้ว ฮือออ น้องแมทต้องเหงาอีกละ เพิ่งอยู่กับผัวได้แค่สองอาทิตย์เอง
รายละเอียดรีปริ้นอ่านได้ที่เพจเฟซบุีคนะคะ บอกไว้เผื่อมีบางคนสนใจค่ะ