:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 800405 ครั้ง)

ออฟไลน์ bookie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
    • facebook
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 50%}:24.04.59:
«ตอบ #1260 เมื่อ27-04-2016 17:29:44 »

โอ๊ยยยยย ตามอ่านทันแล้ววว ยาวมากค่าาาาาาา


สนุกดีชอบๆๆ อ่านไม่หยุด ล้าตามากๆ รอตอนต่อไปและเป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1261 เมื่อ01-05-2016 01:21:33 »



Only You EP.36 [100%]



“อ๊า… เย๊! อืออออๆๆๆ อ๊ะๆๆๆ วิคเตอร์ อ๊ะ! อ๊ะ!” ตัวผมโยกไหวไปตามแรงกระแทกที่วิคเตอร์ส่งมาจากทางด้านหลัง เสียงเนื้อกระทบกันดังปับๆ อย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน เสียงหอบกระเส่าของวิคเตอร์ดังไปทั่วห้องเซ็กส์ทอยสีดำ แก้มซ้ายของผมแนบไปกับเบาะหนังของเตียงโครงเหล็ก แขนขาผมขยับไม่ได้เพราะถูกวิคเตอร์จับล็อคไว้กับบาร์แยกขาสีเงิน ที่ขยับได้ตอนนี้ก็คือลำตัวและที่มันขยับได้ก็เพราะแรงกระแทกของวิคเตอร์


“Ah! Yeah!” วิคเตอร์คำรามเสียงดัง สองมือจับเอวผมแน่น กระแทกใส่ผมแรงดีไม่มีตก ผมเมื่อยก้นที่โด่งรับสะโพกวิคเตอร์มาก อยากจะหุบขาแล้วล้มลงนอนก็ทำไม่ได้ เนื่องจากโดนบาร์แยกขาจับอ้าอยู่ แขนก็เมื่อยล้าไปหมดเพราะโดนจับลอดใต้หว่างขาตัวเองแล้วล็อคในช่องกลางสองช่องสำหรับล็อคแขน


“ไอ้เด็กดื้อ” วิคเตอร์คำรามเสียงแหบแล้วหยุดกระแทกสะโพกเข้าหาผม ทิ้งให้ผมนอนครางเสียงสั่น ขยับก้นโด่งของตัวเองไปมาน้อยๆ อยากจะทิ้งตัวลงนอนแต่ไม่สามารถทำได้อย่างที่อยาก ทำได้แค่ซบแก้มกับเตียง แอ่นก้นโด่งชี้เพดานห้องแล้วนอนครางฮือเท่านั้น


เพี๊ย! “อ้า!”


เพี๊ย! “อ้า!”


 เพี๊ย! “อ้า!”


 เพี๊ย! “อือ…”


วิคเตอร์ฟาดมือลงบนแก้มก้นด้านขวาของผมสี่ทีแรงๆ เล่นเอาผมร้องเสียงหลง อยากจะขยับตัวหนีก็ไม่สามารถ เพราะโดนล็อคแขนขาอยู่แบบนี้


“ชอบมันมากนักรึไง ฮะ?!” เขาถามเสียงกรรโชกแทบจะเป็นตะคอก มือขวาเลื่อนลงบีบแมทน้อยแรงๆ จนผมนิ่วหน้า


“ผมเปล่า… แฮก… เปล่านะ…” วิคเตอร์บีบๆ จับๆ จนชายน้อยของผมตื่นอีกรอบหลังจากพ่นน้ำไปแล้วครั้งหนึ่งเพราะความเสียววาบสุดขีด พอมันแข็งตัวเต็มมือเขา วิคเตอร์ก็ใช้นิ้วโป้งขยี้ส่วนปลายอ่อนไหวของผม


“อ้าๆๆๆ วิคเตอร์! ไม่! ไม่เอา โอ๊ย… โอ๊ย ซี๊ดดด…” ผมแอ่นก้นขึ้นลง พยายามบิดเอวหนีมือเขาแต่ก็ทำไม่สำเร็จ มันเสียวจี๊ดตรงนั้นกับท้องน้อยไปหมด สติจะหลุดอยู่แล้ว มันวูบไหวเกินไป


“วิคเตอร์จ๋า… วิคเตอร์…” ผมครางอ้อนวอนเขา วิคเตอร์ปล่อยมือออกจากแมทน้อย ทิ้งให้ผมนอนหอบหายใจรุนแรง ร่างกายเหนื่อยล้า อยากจะนอนแผ่หลาแต่ว่าทำไม่ได้ เปลือกตาขยับขึ้นลงเชื่องช้า แทบหมดแรงที่โดนเขาทรมานแบบนี้ สักพักเขาก็ดันยักษ์น้อยเข้ามาในตัวผมอีก แล้วก็กระแทกจนเสียงเนื้อจากแก้มก้นทั้งสองข้างกับช่วงง่ามขาและหน้าท้องของเขากระทบกันดังสนั่น


ป้าบๆๆๆๆ


“อือๆๆๆๆ วิค…วิคเตอร์…” ผมหลับตาแน่น ร้องจนสุดเสียงแล้ว ในที่สุดผมก็ได้ยินเสียงวิคเตอร์คำรามดังลั่น สองมือบีบเอวผมอย่างแรง ของเหลวพวยพุ่งเข้าไปด้านใน ก่อนที่วิคเตอร์จะดึงของตัวเองออกมาปลดปล่อยด้านนอกบ้างบางส่วนจนผมรู้สึกถึงความชุ่มเหนอะหนะไปทั่วก้น


“ฮือ… ฮือ… ฮือ…” ผมไม่ได้ร้องไห้ เป็นเสียงหายใจอันรวยริน รู้สึกหมดแรงทั้งที่ไม่ได้เป็นคนขยับอะไรเลย ก็โดนล็อคแบบนี้ตั้งแต่เริ่มยันจบรอบสอง รอบแรกผมไม่โดนจับล็อคแขนขา แต่ห้ามสัมผัสตัวเขา ซึ่งผมก็ทำไม่ได้ ใครจะไปอดใจไหว เขาก็รู้อยู่ว่าผมชอบหุ่นเขา เวลาเขาเคลื่อนไหวอยู่บนตัวผมน่ามองจะตาย พอผมฝืนคำสั่งเลยโดนจับล็อคหมดเลย


คือวันนี้เราเข้าไปหาคุณเอมิลี่ที่สำนักงานเรื่องงานถ่ายแบบของวิคเตอร์กับนิตยสารผู้ชายชื่อดังหัวหนึ่ง แล้วบังเอิญผมได้เจอกับอดัม เราก็คุยกันตามปกติ แต่ผมลืมไปว่าระดับความขี้หึงขี้หวงของไอ้ยักษ์ไม่ปกติ แล้วยิ่งเป็นอดัมด้วย เลเวลเลยยิ่งเพิ่มมากกว่าที่เป็น พอกลับมาผมเลยโดนลงโทษ โดยก่อนจะโดนแบบนี้ผมโดนบรรยากาศกดดัน บรรยากาศตึงเครียดจากไอ้ยักษ์โอบอุ้มร่างกายเอาไว้จนรู้สึกแย่เหมือนโดนลงโทษขั้นแรกไปก่อนแล้ว


“วะ… วิคเตอร์ ปล่อยผมได้ยัง ผมเมื่อย” ผมถามเสียงอู้อี้ พยายามเอี้ยวหน้าไปมองเขา เห็นเขายืนหายใจหอบน้อยๆ เหงื่ออาบเต็มตัว ตั้งแต่ใบหน้า ลำคอ หน้าอก กล้ามท้อง เม็ดเหงื่อไหลย้อยไปตามผิวกายของเขา แม้จะเหนื่อยจนหมดแรง แต่ภาพที่เห็นก็เซ็กซี่จริงๆ แหละ…


 วิคเตอร์มองหน้าผมด้วยความหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ก็ยอมหยิบกุญแจมาปลดล็อคให้ วินาทีที่เหล็กล็อกทั้งสี่หลุดออกจากข้อมือข้อเท้า ผมก็ทรุดก้นลงบนเตียงทันที ระบมไปหมดเพราะมันโก่งโค้งอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง แถมยังโดนพลังทำลายล้างจากวิคเตอร์กระหน่ำใส่ถ้ำจนแทบพัง ผมพลิกตัวนอนแผ่หลา ขาตั้งฉากอย่างอ่อนแรงเอาไว้ รับรู้ได้ว่าน้ำรักของวิคเตอร์ไหลเยิ้มออกมาจากด้านใน ผมนอนตาปรือมองเพดานห้องที่มีตะแกรงเหล็กเป็นเสมือนฝ้าเพดาน มีเชือกกับโซ่ห้อยต่องแต่งอยู่หลายอัน


วิคเตอร์ไม่เข้ามากอดให้ผมรู้สึกอบอุ่นใจเลยสักนิด ปล่อยผมนอนหมดสภาพอยู่แบบนี้ อดน้อยใจอยู่ในอกลึกๆ ไม่ได้ ผมรู้สึกว่าเตียงยุบลงพร้อมกับได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดของเหล็กเลยพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งด้วยตัวเอง วิคเตอร์นั่งพิงหัวเตียง กำลังหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดเพื่อจะสูบ


“ไม่เอา อย่าสูบ” ผมบอกเสียงเบาหวิว ไอ้ยักษ์หันมามองผมด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ เห็นชัดเจนว่ายังคงหงุดหงิดและไม่พอใจอย่างมาก เขาหันกลับไปจะจุดบุหรี่ต่อ ไม่สนใจที่ผมพูดเลยสักนิด ผมดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งจนสำเร็จ แล้วคลานเข่าเข้าไปนั่งคร่อมเขาไว้ รีบดึงบุหรี่ออกจากมือเขาแล้วโยนทิ้งลงบนพื้นห้อง ไอ้ยักษ์จ้องหน้าผมเขม็ง ผมก็จ้องกลับว่าไม่ยอม ก่อนที่จะเอาแขนคล้องคอเขาไว้แล้วก้มจูบเขา ส่งลิ้นเข้าไปในปากเขา วิคเตอร์ขัดขืน พยายามหลบหน้าหนี ผมเลื่อนสองมือมาจับกรอบหน้าเขาไว้ จับให้หันมามองผมตรงๆ แล้วก้มลงประกบปากเขาอีกรอบ ส่งลิ้นตัวเองเข้าไปรุกล้ำเขา ครู่หนึ่งที่เขาทำท่าจะไม่ยอม แต่สุดท้ายเขาก็ตอบรับผม และตอบรับอย่างรุนแรงด้วย


“อะ… อือ… ตร๊อก… จุ๊บ…สวบ…” ผมแทบหายใจไม่ทันเพราะเขาเร่งจังหวะจูบได้รุนแรงมาก ทั้งดูดแล้วดึงลิ้นผมแรงๆ สลับกับกวาดไปรอบโพรงปาก อยากจะหลบหน้าหนี แต่เขาก็กดท้ายทอยผมไว้แน่นจนขยับไม่ได้ ผมหายใจหอบเพราะหายใจไม่ทัน โดนเขาประกบปากแน่นแล้วรัวลิ้นในปากผมไม่หยุด จนผมต้องยกมือทุบอกเขานั่นแหละ วิคเตอร์เลยยอมดึงหน้าตัวเองออกไป


“ฮื่อ… ฮื่อ…” ผมหายใจหอบ พยายามเอาอากาศเข้าปอดเยอะๆ น้ำลายยืดติดปากเราสองคน ผมยกมือเช็ดลวกๆ แล้วรีบหายใจแรงๆ วิคเตอร์เองก็หายใจหอบแต่ไม่แรงเท่าผม เขาจ้องผมด้วยสายตาแผดเผา แต่น่าจะเพราะโกรธมากกว่า มือขวาที่กดท้ายทอยผมไว้ เลื่อนขึ้นไปกระชากเส้นผมอย่างแรงจนผมหน้าหงาย


“อ๊ะ!” คิ้วผมขมวดฉับเพราะรู้สึกเจ็บ แล้วก็ต้องร้องอีกหนเมื่อโดนเขาไซ้คอรุนแรง ก่อนจะกัดเข้าซอกคอผมแรงๆ


“วิคเตอร์ เจ็บ…” ผมครางขอร้องเขา แต่วิคเตอร์ไม่หยุด กัดจนผมรู้สึกแสบแล้วเขาก็ใช้ลิ้นเลียๆ ตรงนั้นจนน้ำลายชุ่มไปหมด เขาปล่อยมือที่จิกหัวไว้ เลื่อนลงไปบีบก้นผมแรงๆ แทน ก่อนจะซุกหน้าเข้ากับอกผม แล้วระดมดูดไปทั่ว


“อื้อ เบาๆ หน่อย เป็นรอยช้ำ… อ๊า!” ผมกรีดร้องเสียงเพี้ยนเมื่อเขากัดที่หัวนมซ้ายแรงๆ ผมตัวกระตุกจนแอ่นอกเข้าหาปากเขา วิคเตอร์เลยทั้งดูดทั้งกัดใหญ่เลย


“พอแล้วๆ ยักษ์ของผม พอแล้ว นะ นะ” ผมอ้อนวอนเสียงอ่อนเสียงหวาน พยายามดึงเขาออกจากอกตัวเอง วิคเตอร์ยอมปล่อยแต่โดยดี เขาเอนหลังไปพิงหัวเตียง สองมือจับเอวผมไว้แน่น ดวงตาสีน้ำผึ้งข้นจ้องผมจนรู้สึกเกร็ง


“นายเป็นของฉันคนเดียว” ผมกระตุกยิ้มนิดหนึ่ง เลื่อนมือขวาไปลูบตรงรอยสักบนอกซ้ายเขาเบาๆ


“แน่นอนสิครับ” ผมก้มลงจูบรอยสักชื่อตัวเองเพื่อเอาใจเขาให้เขาใจเย็นลง เพราะถ้ายังร้อนอยู่ ผมไม่ได้ออกจากห้องเซ็กส์ทอยง่ายๆ แน่ ผมกลัวเขาใช้แส้เดี่ยวฟาดผมมาก แส้พู่ไม่เท่าไหร่ยังพอทน


“แล้วไปทำท่านี้…” เขาชูสามนิ้วขึ้นมาอันเป็นสัญลักษณ์ที่ผมชอบทำกับอดัมเวลาเจอกัน “...กับมันทำไม”


“ผมทำเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย” ผมบอกเสียงอ่อย รู้สึกกลัวๆ สายตาของเขา


“แมท นายไม่รู้ตัวหรอกว่านายมองมันด้วยสายตาแบบไหน” ผมขมวดคิ้วนิดๆ มองเขาอย่างไม่เข้าใจ กะจะเอ่ยปากถาม แต่พอเห็นสายตากระด้างกระเดื่องของเขาแล้ว เลยเงียบแล้วเนียนด้วยการซบลงบนอกเขาแทน


“ผมไม่คิดอะไรจริงๆ แล้วคุณไม่ต้องห่วงเลย อดัมไม่มีทางคิดอะไรกับผมเช่นกัน อย่าโกรธผมนะ” ผมใช้ปลายนิ้วมือขวาลูบรอยสักของเขาเบาๆ วิคเตอร์ถอนหายใจหนักๆ หนึ่งทีแล้วก้มลงจูบหัวผม มือขวาของเขาเลื่อนขึ้นลูบแผ่นหลังผมเบาๆ ส่วนมือซ้ายลูบไล้ร่องก้นของผมไปมา รู้สึกเสียววาบอีกแล้ว ไอ้ยักษ์นี่ไม่ยอมให้ผมรู้สึกสงบจริงๆ


“ถ้ามีอีก คราวหน้าฉันจะล่ามโซ่นายไม่ให้ออกไปไหน” ผมแอบกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ แอบช้อนสายตาไปมองโซ่ที่ห้อยอยู่ด้านบนเพดานห้องแล้วใจหายวาบ


“ผมไม่ใช่สัตว์ซักหน่อย” ผมบอกเสียงงึมงำอยู่ตรงอกเขา วิคเตอร์กรีดนิ้วผ่านร่องก้นผมขึ้นมาตามกระดูดสันหลังช้าๆ เบาๆ แต่ก็ทำเอาขนลุกซู่


“ฉันหวงนายมาก ฉันไม่เคยเป็นขนาดนี้เลยจริงๆ นายทำอะไรกับฉันแมท” ผมยิ้มกริ่ม รู้สึกใจเต้นตุบๆ แผ่วเบา รู้สึกถึงความภูมิใจ ดีใจเล็กๆ ในอก ผมยกหน้าตัวเองขึ้นจากอกเขา มองหน้าเขาแล้วยิ้ม มือขวาลูบแก้มซ้ายของเขาเบาๆ ยื่นหน้าไปจุ๊บริมฝีปากเขาหนึ่งที


“ผมเป็นของขวัญจากพระเจ้าไง คึๆ” วิคเตอร์ยิ้มมุมปากน้อยๆ ยกมือซ้ายขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ


“ฉันจะดูแลของขวัญชิ้นดีให้ดีที่สุดเลย ฉันไม่เหลือใครแล้วนะแมท ฉันเหลือแค่นาย” ผมขมวดคิ้ว ทำหน้ามุ่ยแล้วส่ายหัวไปมาช้าๆ


“ม่ายยย คุณยังมีไวโอล่า มีคุณเอมิลี่ คุณเบน อันเดร ชาร์ลี เอริค โจนาธาน มีออสตินด้วย ถึงคุณจะไม่อยากนับรวมพ่อคุณ แต่ยังไงก็มีพ่อคุณอีกคนด้วยนะ แล้วยังมีคุณลิซ่าอีก คุณอาจไม่ชอบเธอ แต่เธอรักคุณเหมือนลูกคนนึงเลยนะ” วิคเตอร์ที่กำลังยิ้มมุมปากน้อยๆ ชะงักไปนิดหนึ่งแล้วถอนหายใจเบาๆ เขาหลับตาลงแวบเดียวแล้วลืมตามองผมตามเดิม สายตาครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เหมือนกำลังตัดสินใจ แต่แล้วเขาก็ส่ายหัวเบาๆ เหมือนคิดว่าไม่เอาไม่พูดดีกว่า


“คนพวกนั้นไม่เหมือนนายหรอก” ผมมองหน้าเขาแล้วนึกถึงคำพูดของคุณหมอที่เมืองไทย รู้สึกหนักใจไม่น้อยกับสิ่งที่เขาเป็น ผมได้แต่หวังว่ามันจะไม่เพิ่มอาการไปมากกว่านี้


“วิคเตอร์ บนโลกนี้ไม่ได้มีแค่เราสองคนนะ คุณต้องเปิดใจบ้าง…” เขามองผมนิ่ง แต่ผมรู้ได้จากแววตาเขาเลยว่าเขากำลังต่อต้าน และผมก็คิดว่าช่วงเวลานี้ไม่ควรต้านเขากลับ


“…แต่อย่าเปิดใจมากไป ผมไม่อยากรับมือกับชู้คุณหรอกนะ” ไอ้ยักษ์ยิ้มขำกับคำจิกกัดของผม เขามองผมด้วยความมันเขี้ยว ก่อนจะดึงผมเข้าไปฟัดแก้มแรงๆ ผมหัวเราะกิ๊กกั๊ก หยอกล้อกับเขาไปมา รู้สึกดีใจที่สยบอารมณ์โกรธของเขาได้แล้ว


“ไปอาบน้ำกันเถอะ พรุ่งนี้ต้องไปกองแต่เช้า” พรุ่งนี้ผมกะว่าจะกลับมาบ้านก่อน ไปกองสักครึ่งวัน แล้วบ่ายๆ ก็กลับมาทำเค้กวันวาเลนไทน์ รู้สึกตื่นเต้นมากเลยที่จะได้ทำเค้กวาเลนไทน์ครั้งแรกในชีวิต จริงๆ มันก็คงไม่ได้แปลกหรือพิเศษอะไรหรอก แต่สำหรับคนที่เพิ่งมีแฟนคนแรกอย่างผม มันก็เป็นอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน แล้วผมก็อยากทำให้วิคเตอร์กินด้วย ซึ่งอันที่จริงเขาก็ไม่ได้ชอบกินเค้กหรือของหวานเท่าไหร่นัก ก็กินได้แต่ถ้าให้เลือก เขาก็เลือกไม่กินเพราะมันทำให้หุ่นเผละ


“อมให้รอบนึงก่อนสิ ช่วยตัวเองให้ดูด้วยนะ” ผมยิ้มเพลียกับความลากมกของเขา แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรหรอก ก็จัดการดูดเลียไอติมแท่งโปรดของตัวเอง ท่ามกลางเสียงครางเซ็กซี่ของแฟนยักษ์รูปหล่อ เขาขยับเอวช่วยผมน้อยๆ สองมือลูบหัวผมไปมา บางทีก็เด้งสะโพกเขาหาผมเองบ้าง ผมดูดเลียจนยักษ์น้อยพ่นลาวาออกมาเต็มปาก จัดการดูดกลืนลงไปจนเกลี้ยง ก่อนจะนั่งช่วยตัวเองให้เขาดู วิคเตอร์มองผมด้วยสายตาวิบวับ สองมือลูบไปทั่วตัวผม ช่วยผมสร้างอารมณ์ด้วยการจูบ การหอมเป็นระยะจนผมเสร็จ


“น่ารักมากเอเลี่ยนน้อย” เขาก้มลงจูบกลางกระหม่อมแล้วช้อนตัวผมขึ้น ผมยกแขนซ้ายไปคล้องคอเขาไว้ ปล่อยให้เขาอุ้มออกจากห้องของเล่นมหาสนุก หมดแรงไปเยอะมาก กินเกลือแร่สักโหลนึงไม่รู้จะเรียกแรงคืนมาได้หรือเปล่า วิคเตอร์เดินลงบนไดไปชั้นสอง ตรงไปยังห้องนอน แล้วพากันเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย นี่ถ้าไม่ใช่เพราะเพิ่งเสร็จกิจกรรมทางเพศมาล่ะก็ ผมไม่อาบหรอก หนาวจะตาย เข้าใจความรู้สึกพวกฝรั่งมองเราด้วยสายตาฉงนที่เห็นคนไทยอาบน้ำสองสามเวลาแล้ว


พออาบน้ำ เช็ดตัวจนแห้งสนิท ผมก็ขี่หลังวิคเตอร์มาที่เตียง ผมใส่แค่กกน.สีขาวตัวเดียว ส่วนวิคเตอร์เปลือยเปล่า เขาก็ชอบนอนชีเปลือยอย่างนี้แหละ ส่วนผมขอห่อหุ้มนิดหน่อยก็ยังดี ไม่ให้ใส่อะไรเลยบางทีก็รู้สึกแปลกๆ คงเพราะผมชินใส่ชุดนอนมาแต่เด็กมั้ง พอมาคบกับวิคเตอร์เสื้อผ้าก็เริ่มหายไปทีละชิ้น จนบางทีไม่เหลือเลย เขาให้เหตุผลว่า ใส่ไปเขาก็ถอดออกอยู่ดี


“Good night, baby” วิคเตอร์หอมหน้าผากผมหนึ่งที แขนขวาโอบไหล่ผมไว้ ผมก้มลงจูบแผ่นอกของเขา แล้วซบหน้าลงบนอกแกร่ง วิคเตอร์ดึงผ้านวมขึ้นคลุมร่างเราสองคนเพื่อกันความหนาว แม้จะมีฮีตเตอร์ให้ความอบอุ่น แต่ก็ต้องระลึกเสมอว่าที่นี่ไม่ใช่ฤดูหนาวเมืองไทย


วิคเตอร์เอื้อมมือไปปิดโคมไฟบนหัวเตียง ผมเลื่อนมือขวาเข้าไปกอบกุมลูกชายเขาไว้เต็มมือ ลูบๆ คลำๆ ไปเรื่อยจนมันแข็งตัวแบบอ่อนๆ วิคเตอร์ครางอืออา ผมยิ้มนิดหน่อยทั้งที่ตาปิด ก่อนจะค่อยๆ หลับสนิทเพราะเพลียจากการออกกำลังกายกับผู้ชายขี้หึงในห้องเซ็กส์ทอย




#Valentine’s day


“ห้ามไปเถลไถลที่ไหนนะ ซื้อของเสร็จแล้วให้ออสตินพากลับบ้านเลย”


“Aye! (ครับพ้ม!)” ผมยกมือขวาขึ้นตะเบ๊ะ วิคเตอร์ยิ้มขำแล้วดึงผมเข้าไปหอมแก้มดังฟอด ผมกอดตอบเขา ได้ไออุ่นจากไอ้ยักษ์ยังอุ่นกว่าใส่เสื้อโค้ตตัวหนาๆ ซะอีก


“ถึงบ้านแล้วรายงานฉันด้วยนะออสติน”


“แน่นอนครับคุณเรย์มอนด์” เขาดันตัวผมออกแล้วดึงหมวกฮู้ดขึ้นมาสวมหัวให้ผม


“อาวุธพร้อมแล้วใช่มั้ย” ผมยิ้มแฉ่ง ชูบัตรเครดิตสีดำให้เขาดู


“นี่!” วิคเตอร์ยิ้มกว้างหล่อเหลาแล้วยกนิ้วโป้งซ้ายขึ้นเป็นเชิงชมผมว่าเยี่ยมมาก ผมก็ไม่รู้ว่าเยี่ยมตรงไหนกับการถือบัตรเครดิตของสามีไปช้อปปิ้งตามใจชอบ มันก็คงดีตรงที่ไม่ต้องเหนื่อยทำงาน (แต่เหนื่อยทำอย่างอื่นแทน) แล้วก็มีเงินใช้เลยนี่แหละ แถมยังเยอะมากด้วย แต่ตามความตั้งใจของผมคืออยากมีเงินเป็นของตัวเอง ก็อีกไม่นานแล้วละ ได้เข้ามาเรียนรู้งานถึงขนาดนี้แล้ว ผมเชื่อว่าอีกหน่อยคุณเดวิดต้องให้ผมเริ่มงานจริงจังแน่ๆ


“ไปได้แล้ว จะได้ไม่กลับบ้านดึก” ดึกของเขาก็คือตะวันตกดิน หน้าหนาวก็แบบนี้ บางวันสี่โมงเย็นอย่างกับทุ่มนึงก็มี


“จุ๊บผมหน่อย” อ้อนสักนิด ไหนๆ วันนี้ก็เป็นวันวาเลนไทน์แล้ว แสดงความรักเพิ่มอีกนิดหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอก วิคเตอร์เองก็ชอบ เขายิ้มหล่อแล้วก้มลงจุ๊บปากผมไม่มีอิดออด ตบท้ายด้วยยิ้มมีเสน่ห์แบบที่ผมชอบให้ด้วย ผมยิ้มยิงฟันเขินๆ แล้วเขย่งตัวหอมแก้มเขาไปหนึ่งที


“วันนี้เป็นอะไรเนี่ย ทำไมอยากให้ฉันลวนลามจัง เมื่อวานไม่สะใจเหรอ” ผมยู่หน้าทันที วิคเตอร์เห็นแบบนั้นก็หัวร่ออารมณ์ดี


“คุณนี่ยังไงกัน วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์เลยนะ” เขาขมวดคิ้วนิดหน่อย


“แล้ววันอื่นฉันไม่รักนายรึไง”


“ก็รัก ผมเพิ่งเคยมีแฟนนี่นา เลยอยากลองทำให้มันพิเศษดูบ้างอะ” ผมทำปากยู่ เอียงคอมองหน้าเขา วิคเตอร์ยิ้มกริ่ม ยกมือขวามาโยกหัวผมเบาๆ


“เดี๋ยวซื้อของเล่นมาเพิ่มในห้องเซ็กส์ทอยแล้วกัน” ผมทำตาปรือ สีหน้าเอือมระอา เบ้ปากแรง วิคเตอร์หัวเราะชอบใจเสียงดังลั่นกอง ทำให้คนอื่นหันมามอง รวมทั้งไอ้ชอนหมาเน่าด้วย แน่ละว่ามันมองมาด้วยสายตารังเกียจ ผมเลยเบ้ปากใส่มันไปหนึ่งที เลยได้รับอาการทำท่าจะเข้ามาเอาเรื่องตอบแทน แต่มันไม่กล้าเข้ามาจริงๆ หรอก ออสตินกับวิคเตอร์อยู่ครบแบบนี้ บอกเลยแบ็คฉันดีจ้ะไอ้ณอณ


กว่าจะล่ำลากันเสร็จ ผมกับวิคเตอร์ก็ยืนไร้สาระกันครึ่งชั่วโมง บอกจะไปๆ ก็ไม่ได้ไปสักที เดี๋ยวนึกประเด็นนั้นได้ ประเด็นนี้ได้ก็เอามาพูดกันไปเรื่อยเปื่อย ดีนะคุณเดวิดเรียกเข้าฉากพอดี เราเลยได้แยกย้ายกันจริงจัง ผมค่อนข้างกังวลว่าวิคเตอร์กับฌอณจะมีเรื่องกัน เพราะนอกฉากทั้งสองคนอึมครึมใส่กันมาก โดยเฉพาะวิคเตอร์ที่มีความสามารถพิเศษในการส่งรัศมีกดดันใส่ผู้อื่นได้ดีเยี่ยม ทำเอาคนรอบข้างเกรงๆ ที่จะเข้าหาเขาอยู่เหมือนกัน ผมต้องคอยเป็นตัวชาร์ทพลังยิ้มให้เขาอยู่บ่อยๆ นั่นเป็นสาเหตุทำให้ทีมงานหลายฝ่ายชอบเข้ามาลากผมไปด้วยเวลาจะเข้าไปคุยงานกับวิคเตอร์ นึกแล้วก็ขำอยู่เหมือนกัน ไอ้ยักษ์ก็ชัดเจนมากว่าถ้าไม่ใช่ผมก็จะไม่ค่อยยิ้มหรือดูมีชีวิตชีวามากนัก แต่ผมก็คิดนะว่าวิคเตอร์มืออาชีพมากพอที่จะแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ ส่วนไอ้ชอนไชน่ะเหรอ เอาแค่แยกขี้หมากับขี้แมวดีกว่า มันแยกแยะได้มั้ยสมองอย่างมันน่ะ เชอะ!


“คุณแมทจะซื้ออะไรบ้างครับ” ผมหันไปหาออสตินในขณะที่เรากำลังเดินไปขึ้นรถเมล์เพื่อไปย่านโซโห อันเป็นแหล่งวัตถุดิบชั้นเยี่ยม มีของให้เลือกเยอะแล้วยังราคาถูก อีกอย่างนอกจากไปซื้อของทำเค้กแล้ว ผมยังไปหาซื้อวัตถุดิบสำหรับมาทำกับข้าวในแต่ละมื้อด้วย


 ผมทำหน้านึกถึงสิ่งของที่ต้องการ ผมไม่ได้จดโพยออกมาด้วย เพราะเมมไว้ในหัวคร่าวๆ ว่าต้องการอะไรไปทำเค้กในวันวาเลนไทน์บ้าง กะว่าไปถึงแหล่งซื้อก็คงจะนึกภาพชัดเจนยิ่งขึ้น “ก็แป้ง ช็อคโกแล็ต สตอรว์เบอร์รี่ แล้วก็น่าจะวิปครีม”


“แน่ใจนะครับว่าต้องการแค่นั้น” ผมสั่นหัวรัวๆ แล้วตอบ


“ไม่อะ ผมกะว่าไปถึงในสโตร์ (Store) แล้วค่อยนึกอีกที” ออสตินทำหน้านิ่ง แต่ผมเห็นนะว่าตาสีน้ำตาลของเขามีแววเอือมอยู่


“ช่างเป็นคนที่พร้อมมาก” ผมย่นคิ้วแล้วมองเขาเคืองๆ อย่างไม่จริงจังนัก


“รถมาแล้วครับ” รถบัสสีขาวสะอาดตาจอดตรงป้ายรถเมล์ที่เรายืนรออยู่ เหตุผลที่ต้องระเห็จมานั่งรถเมล์ก็เพราะวิคเตอร์ยังไม่มีเวลาพาไปหาซื้อรถคันใหม่ เขาจะให้ผมใช้แลมเบอร์กินีของเขาแล้วเดี๋ยวตอนเย็นให้เดวิดไปส่ง แต่ผมคิดว่ามันจะสะดวกกว่าถ้าเอารถไว้ให้เขาใช้ เขาจะได้ไม่ต้องรอใคร อยากกลับเมื่อไหร่ก็กลับ (แผนแอบสูง กลัวผัวกลับบ้านช้า)


ผมนั่งมองวิวข้างทางของนิวยอร์ก กิ่งไม้โล่งเตียนมีสายไฟประดับแทนใบไม้เพราะเพิ่งพ้นช่วงฤดูใบไม้ร่วงเมื่อปลายปี แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีต้นไม้ที่มีใบเลยนะ ยังมีอยู่ ยิ่งในเซ็นทรัลปาร์คอะเยอะเลย แต่สีอาจจะไม่ได้เขียวชอุ่มไปซะหมด ในนั้นมีลานสเก็ตน้ำแข็งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติด้วย ไม่รู้ละลายไปหรือยัง ผมโชคดีมากที่มาทันได้เล่น ช่วงที่วิคเตอร์ไปถ่ายหนังในป่าแคนาดา ผมก็ชอบพาไมเคิลไปวิ่งเล่นบนน้ำแข็งมา สนุกมาก ผมล้มหัวจะฟาดหลายรอบจนออสตินดุ แต่ผมก็หน้าด้านพอจะเล่นต่อ ก็ลานสเก็ตจะเกิดขึ้นปีละครั้งแค่ช่วงปลายปีถึงต้นปีนิดๆ เองนี่นา


เสื้อโค้ตหลากสีสันละลานเต็มท้องถนน แต่เดี๋ยวพ้นมีนาคมไปก็จะไม่ได้เห็นแฟชั่นเสื้อโค้ตแล้วละ โดยส่วนตัวผมชอบหน้าหนาวนะ เอ่อ ไม่ใช่แบบหน้าหนาวไทยน่ะ อย่างนั้นอย่าเรียกว่าหนาวเลย หน้าหนาวของจริงต้องแบบนี้ ใส่เสื้อสามชั้นก็ยังสั่น ติดลบเยอะๆ จนจมูกแดงบ่อยๆ น้ำมูกไหลแล้วไหลอีก


“ถึงแล้วครับคุณแมท” ผมหันไปมองออสตินงงๆ แต่ก็รับรู้ได้ว่าถึงที่หมายของเราแล้ว มัวแต่เพลิดเพลินกับวิวนิวยอร์กช่วงหน้าหนาวจนลืมคิดเรื่องระยะทางไปเลย


เราเดินลงรถเมล์แล้วเดินต่อไปอีกนิดก็ถึงเป้าหมาย ที่นี่มีไชน่าทาวน์ด้วย คนไทยส่วนมากถ้ามาอยู่นิวยอร์กนานๆ แล้วคิดถึงอาหารไทยก็จะมากันโซนนี้แหละ แรกๆ ผมนึกถึงภาพไชน่าทาวน์ว่ามันคงไม่ค่อยสะอาดสักเท่าไหร่ พอมาเจอของจริงก็จริงนั่นแหละ ฮ่าๆๆ แต่ก็ไม่ได้สกปรกถึงขั้นเห็นหนูวิ่งผ่านหน้าหรือเห็นแล้วทำหน้าอี๋ ก็ยังคงจับจ่ายซื้อของได้ตามปกติ จะให้มันสะอาดเอี่ยมอ่องเลยก็ไม่ได้ ก็นี่มันแหล่งขายอาหาร 


“เป็นอะไรรึเปล่าออสติน” ผมเห็นเขามองไปรอบๆ กับเหลียวหลังไปมองอะไรก็ไม่รู้บ่อยๆ จนอดถามไม่ได้


“ไม่มีอะไรครับ ผมก็มองไปเรื่อย” เขาตอบกลับนิ่งๆ ตามแบบฉบับของเขา ผมพยักหน้าหงึกๆ แล้วหันกลับไปเลือกผักบนชั้นวางต่อ พลางก้มลงมองของในถุงในมือออสตินไปด้วยว่ายังขาดอะไรอีก มีบอดี้การ์ดแข็งแรงก็ดีเหมือนกันนะ ถือของได้ไม่บ่นเลย รับน้ำหนักของในมือได้สบายๆ


“ได้ของครบรึยังครับ” ผมอ่านโน้ตในโทรศัพท์มือถือทวนสิ่งของกับมองของในมือออสตินและในมือตัวเองบางส่วนอีกรอบหลังจากเดินซื้อของมาเกือบสองชั่วโมง


“เอ่อ เหลือสตรอว์เบอร์รี่” พ่อหัวเกรียนพยักหน้าเป็นอันว่ารับรู้ เราเลยเดินหาร้านผลไม้ในย่านไชน่าทาวน์อีกรอบ ซึ่งก็ไม่ได้หายากเย็น เพราะเห็นสีสันแห่งผลไม้เด่นมาแต่ไกล ผมเดินเข้าไปเลือกซื้อสตรอว์เบอร์รี่แบบที่เขาแพ็คใส่กล่องมาแล้วสี่กล่อง เอาไว้ประดับบนเค้กส่วนหนึ่ง ที่เหลือคือเอาไว้กินเวลาว่าง


“ครบแล้ว กลับ…”


“…คุณแมทใช่รึเปล่าครับ” ผมชะงักคำพูดตัวเองแล้วมองหน้าชายแก่คนหนึ่งในชุดสูทสีเทาเข้มภูมิฐาน หน้าตาเขาก็ดูไม่มีพิษภัยอะไร แต่ผมก็ขอเขยิบเข้าไปใกล้ออสตินเอาไว้ก่อน


“คุณตามเรามาตั้งแต่ออกจากกองถ่าย ต้องการอะไร” หา?! ผมอ้าปากหวอแหงนหน้ามองออสตินที่ถามชายมีอายุคนนั้นด้วยใบหน้านิ่ง ผู้ชายมีอายุคนนั้นยิ้มอ่อนโยนน้อยๆ ก่อนจะตอบ


“ขอโทษที่เสียมารยาท ผมเป็นเลขาของคุณลุคส์ พ่อของคุณวิคเตอร์ครับ” ผมอ้าปากหวอกว่าเดิม มองชายที่เพิ่งบอกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับวิคเตอร์แบบผิวเผินด้วยความอึ้งบวกกับความงง


“มีอะไรรึเปล่าถึงได้ตามเรามาจนถึงที่นี่” ออสตินยังคงถามด้วยความสงบนิ่งเช่นเคย


“แน่นอนว่าต้องมี นี่คือคำสั่งของคุณลุคส์ ผมรอจังหวะที่จะเข้ามาบอกอยู่พอดีว่า คุณท่านต้องการพบคุณแมทเป็นการส่วนตัว” ใจผมเต้นตึกตักขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินว่าพ่อของวิคเตอร์ต้องการพบ ผมคิดตั้งแต่วันที่คุณลิซ่ากลับออกไปจากบ้านวันนั้นแล้วละว่าวันนี้ต้องมาถึง วันที่พ่อของวิคเตอร์ต้องการพบกับผมเพื่อคุยเรื่องที่ผมคบกับลูกชายเขา


“ถ้าคุณแมทพร้อม เราจะไปกันตอนนี้ คุณท่านรออยู่ที่เซ้นส์รีจิส (St.Regest) ครับ” ผมกระพริบตาปริบๆ เม้มปากเบาๆ แล้วเงยหน้ามองออสตินอีกที เขาก้มลงมองผมนิ่งๆ ก่อนจะหันไปพูดกับเลขาพ่อวิคเตอร์อีกรอบ


“ผมคงปล่อยให้คุณแมทไปกับคุณเป็นการส่วนตัวไม่ได้ ผมต้องไปกับเขา” แวบหนึ่งคุณลุงเลขามีท่าทีอึกอัก แล้วสักพักเขาก็พยักหน้าตอบรับน้อยๆ


“ไม่มีปัญหาครับ”


“ผมไม่เชื่อหรอกว่าไม่มี ถ้าคิดจะเล่นตุกติกอะไร ทำให้เนียนๆ นะครับ” คุณลุงเลขากระตุกยิ้มนิดหนึ่ง แววตาสีเทามัวๆ ของเขามีแววความไม่ชอบใจปรากฏออกมาแวบหนึ่ง ผมเลยได้รู้ว่าจริงๆ แล้วเขาตอบรับง่ายดายไปแบบนั้น แต่คงมีการรับมือรอไว้สินะ


“เชิญครับ รถอยู่ด้านนี้” ชายสูงวัยผายมือไปตรงปากทางเข้าของไชน่าทาวน์ ออสตินพยักหน้าขึ้นหนึ่งทีเป็นการบอกว่าให้เดินนำ คุณลุงคนนั้นหมุนตัวแล้วเดินนำพวกเราไป


“เขาจะทำอะไรเหรอ” ผมกระซิบถามออสตินระหว่างที่เรากำลังเดินไปที่รถ


“ยังตอบไม่ได้ แต่คุณคงเคยเจอพ่อคุณเรย์มอนด์แล้ว คุณแมทคิดว่ายังไงล่ะครับ” ผมเลื่อนสายตาไปมองแผ่นหลังของลุงเลขาแล้วครุ่นคิด ถึงจะเคยเจอกันครั้งเดียว แต่ผมก็รู้สึกกลัวผู้ชายคนนั้น อันที่จริงผมยังไม่รู้ประวัติพ่อวิคเตอร์แบบเต็มๆ หรอก เพราะเขาบอกสั้นๆ ว่าไม่ได้สนิทกับพ่อ ไม่อยากพูดถึง คือแค่นี้ก็น่าจะบอกได้แล้ว ขนาดลูกตัวเองยังไม่ชอบเลย แถมไวโอล่าเองก็ใช่ว่าจะชื่นชมพ่อตัวเองมากนัก เพียงแต่ไม่ได้แสดงการต่อต้านเท่าวิคเตอร์เท่า ผมยังจำที่คุณลิซ่าบอกผมได้ว่า ให้เธอมาเตือนยังดีกว่าให้พ่อของวิคเตอร์เตือนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับลูกชายเขา


ผมกลัวเขาและผมก็ไม่ชอบเขาด้วยเช่นกัน ยอมรับว่าผมไม่ชอบใจเรื่องที่เขาอยากให้วิคเตอร์แต่งงานกับยัยไฮโซเกาะอังกฤษนั่นเพื่อธุรกิจตัวเอง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเขาแทบไม่เคยให้ความรักกับลูกชายตัวเอง ถึงวิคเตอร์จะไม่พูด แต่การที่เขารักแค่แม่กับย่าออกนอกหน้าขนาดนั้น แถมยังไปมีลูกกับโสเภณีได้อีกและยังไม่คิดสนใจไวโอล่าเลยด้วยตอนเธอเกิด แม้จะยังไม่รู้ประวัติทั้งหมด แต่เท่านี้ก็น่าจะบอกได้ว่า ลุคส์ เรย์มอนด์ ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีมีคุณธรรมนัก ไม่งั้นเขาจะเป็นนักธุรกิจผู้ทรงอำนาจขนาดนั้นเหรอ


 :hao3:

พ่อตาก็มาาา เรียกเข้าพบแล้วเนาะ หนูเอเลี่ยนจะปล่อยแสงสู้ได้แค่ไหนกัน เป็นกำลังใจให้นางหน่อย 55555 ไหนจะเรื่องเค้กอีก อยากทำเค้กให้สามีกิน จะสำเร็จมั้ยคะ พูดดด ครั้งแรกกับการมีสามีในวันวาเลนไทน์สำหรับนาง คริๆ

แรงหึงขอพี่ยักษ์ยังคงรุนแรงเช่นเคย =_= เมียตัวนิดเดียว แกเล่นใหญ่ตลอดนะ

ยังคงเจอกันตามปกตินะคะ ลงนิยายตามปกติ แม้ว่าจะเปิดพรีออเดอร์อยู่ก็ตาม คาดว่าคงลงจบพร้อมๆ กับหนังสือเสร็จเลยแหละ

ใครเจอคำผิดแจ้งได้เลยนะค้า ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ ค่า  :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1262 เมื่อ01-05-2016 01:58:31 »

 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1263 เมื่อ01-05-2016 03:00:13 »

จะกินเค้กไหมวันนี้

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1264 เมื่อ01-05-2016 06:25:59 »

 :mew1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1265 เมื่อ01-05-2016 06:59:43 »

พ่อพี่ยักษ์จะทำอะไรเอเลี่ยนไหมหนอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1266 เมื่อ01-05-2016 07:10:56 »

แมทควรโทรบอกวิคเตอร์ด้วย

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1267 เมื่อ01-05-2016 07:40:49 »

ถ้ายักษ์รู้นี่หวิดบ้านพังอะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1268 เมื่อ01-05-2016 10:51:56 »

จะเจออะไรบ้างเนี่ยพี่ยักษ์รีบตามมาเป็นกองหนุนด่วนๆๆ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1269 เมื่อ01-05-2016 11:55:50 »

ไอ้หยา

ออสตินจะปล่อยให้น้องแมทโดนพ่อตาข่มขู่งั้นเหรอ ตามวิคมาช่วยด่วนนนนนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
« ตอบ #1269 เมื่อ: 01-05-2016 11:55:50 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ กุหลาบเดียวดาย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 812
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1270 เมื่อ01-05-2016 20:35:01 »

หนูแมท ต้องคุยกับยักษ์วิค อีกที นะว่าคนรักกันเขาไม่ทำร้ายกันหรอก

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1271 เมื่อ01-05-2016 22:38:42 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1272 เมื่อ02-05-2016 00:51:29 »

คนสวยเจอศึกอีกล้าว

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.36 100%}:01.05.59:
«ตอบ #1273 เมื่อ02-05-2016 02:33:38 »

อ้าว วิคเตอร์ไปหาเมียเร็ว!

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1274 เมื่อ05-05-2016 01:41:01 »




Only You EP.37 :: It's been a long day. [50%]



ผมกับออสตินลงจากรถเบ็นซ์คันหรูออกมาสู่บรรยากาศยามค่ำของมหานครนิวยอร์กในช่วงเวลาห้าโมงเย็นแต่แสงอาทิตย์หายไปอย่างลาลับไม่กลับมา (มาพรุ่งนี้) มีเพียงแสงไฟตามตึก ตามเสาไฟ หลอดไฟตามท้องถนนและไฟรถสาดส่องไปพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์ขับเคลื่อนบนถนนลาดยาง อากาศเย็นจับจิตจับใจ ลุงเลขาบอกให้ทิ้งของที่ซื้อมาไว้บนรถ แต่ออสตินปฏิเสธว่าขากลับจะกลับเอง โรงแรมเซ้นส์รีจิสอยู่ไม่ไกลจากบ้านวิคเตอร์เท่าไหร่นัก แต่ถ้าจะบอกว่าไกลมันก็ไกลแหละ แต่เดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับเอาก็ได้ เราเดินแบกถุงสีขาวขุ่นกับถุงกระดาษสีน้ำตาลเข้าไปในโรงแรมอันหรูหรา ซึ่งมันคอนทราสกันมาก ผมแอบกลืนน้ำลายลงคอเมื่อมีสายตาของบางแหม่มท่าทางหัวสูงบางคนมองถุงในมือของผมกับออสตินสลับกับมองหน้าเราสองคน ออสตินไม่สนใจใครสักนิด ผมไม่ได้อายแค่รู้สึกเหมือนพจมานถือชลอมเข้าเมืองกรุง
   

“คุณท่านรออยู่ห้องพักชั้นบน” คุณลุงแกหันมาบอกในขณะที่เท้าก็ก้าวนำไปตรงลิฟต์สีทองมันเลื่อม กดเลขชั้นแล้วยืนรอลิฟต์เลื่อนลงมาอยู่ครู่หนึ่ง พอลิฟต์เปิดออกเราก็ก้าวเข้าไปด้านในพร้อมกัน ระหว่างรอลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นยี่สิบห้า ผมก็รู้สึกว่ามือเย็นกว่าปกติ จากที่เย็นเพราะอากาศอยู่แล้วคราวนี้มันเย็นเพราะรู้สึกเต้นเต้นบวกกดดันหน่อยๆ ริมฝีปากแห้งผาก ลำคอก็แห้งฝืดแม้จะพยายามกลืนน้ำลายลงคอแล้วแต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น
   

หัวสมองผมแทบจะประมวลคำพูดของพ่อวิคเตอร์ได้ล่วงหน้าเลยว่าเขาจะพูดอะไรบ้าง มันก็มีไม่กี่ประโยคกับประเด็นความรักของผู้ชายกับผู้ชายหรอก เห็นได้ออกจะบ่อยตามละครทีวีหรือภาพยนตร์ ในนิยายที่ผมอ่านก็มีเยอะแยะ ทีนี้ก็อยู่ที่ผมแล้วว่าจะทำให้คำพูดเหล่านั้นมันซ้ำซากจำเจมั้ย ถ้าผมเลือกบทนางเอกก็คือยอมทำตามที่เขาบอก แต่ถ้าผมเล่นบทนางร้าย คำพูดพวกนั้นก็จะไร้ค่าไปโดยปริยาย
   

ติ๊ง!
   

เสียงลิฟต์ดังใสกิ๊งตอนถึงชั้นเป้าหมายของเราสามคน ลุงเลขาก้าวนำออกไปก่อน ผมเดินออกไปเป็นคนที่สองแล้วปิดท้ายด้วยออสติน ผมก้มมองพรมสีแดงผืนหนา สลับกับเงยขึ้นมองเพดานลายฉลุหรูหราสีขาวทอง มีโคมไฟระย้าประดับเว้นช่องไฟอย่างสวยงาม ของประดับตามทางเดินไม่ได้มีอะไรมาก ก็แค่แจกันใส่ดอกไม้จริงที่มีอยู่ไม่เกินห้าอันตามทางเดิน เหมือนเข้าเน้นโชว์ตัวโรงแรมมากว่าของประดับประดาทั้งหลาย
   

“Here we are. (ถึงแล้วครับ)” คุณลุงเลขาเอ่ยบอกเมื่อตอนที่เรามาถึงประตูบานใหญ่สีขาวแบบสองบานติดกันหน้าประตูไม่ได้บอกเลขห้อง แต่ติดคำว่า Suit room ชัดเจน ลุงแกหันมามองออสตินด้วยท่าทีไม่สบายใจนัก ผมหันไปมองหน้าออสตินแล้วหันกลับไปมองลุงเขาอีกที


“I will go alone. (เดี๋ยวผมเข้าไปคนเดียว)” ผมหันกลับไปหาออสตินอีกที


“You don’t need to go with me. (ผมเข้าไปคนเดียวได้ครับออสติน)”


เขาทำท่าจะขัด แต่ผมพยักหน้ายืนยันตามนั้น เขานิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้ารับหนึ่งที คุณลุงเลขาถึงกับมีสีหน้าโล่งอก แหงล่ะ เกิดออสตินเข้าไปข้างในด้วย เจ้านายเขาก็ข่มผมได้ไม่เต็มที่สิ


“Scream and shout if something went wrong. (ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นส่งเสียงดังๆ แล้วกันนะครับ)” ผมยิ้มขำนิดหน่อยแล้วเดินตามลุงเลขาเข้าไปด้านใน แอบตะลึงกับความหรูของโรงแรมชื่อดังซึ่งอยู่อันดับต้นๆ ของโลก ห้องนี้เป็นห้องสวีตไม่ผิดเพี้ยน กว้างใหญ่ สะอาดตา และโคตรจะหรูหรา บอกได้เลยว่าผมไม่เหมาะกับที่นี่ เอ่อ ไม่เหมาะในที่นี้หมายถึงเงินผมนะ แต่ถ้าเงินสามีผมอะเหมาะแน่นอน และถ้าให้ผมมาพัก ผมก็พักได้อยู่แล้ว ผมก็ไม่ได้มีร่างกายสกปรกซกมกป้ะ จะมานอนในที่แบบนี้มันจะเป็นอะไรไป ถึงหน้าไม่ให้แต่เงินสามีให้นะ


“He’s here, sir. (เขามาแล้วครับคุณท่าน)” ลุงเลขาเอ่ยเพียงเท่านั้นแล้วก็เดินหายเข้าไปในห้องหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง ผมยืนมองแผ่นหลังของคนตัวใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงริมกระจกบานกว้างสำหรับไว้มองวิวสวยๆ ด้านนอกของนิวยอร์ก เห็นวิวเป็นยอดตึกสีดำมีแสงไฟดวงเล็กๆ ส่องกระพริบเหมือนต้นคริสต์มาส ส่วนคนตัวใหญ่ในที่นี้คือใหญ่จริงๆ เนื่องจากพ่อวิคเตอร์เป็นคนร่างหนา ไม่ได้อ้วน หนาเพราะกล้ามเนื้อเนี่ยแหละ คิดว่าสมัยหนุ่มๆ คงเฟิร์มกว่านี้ แต่ผมว่าแค่นี้ก็เรียกอีหนูได้หลายคนแล้ว ถ้าไปเมืองไทย ผมกล้ารับประกันว่าจะมีพวกเด็กเสี่ยรอต่อคิวเข้าฮาเร็มเยอะแน่ๆ


ลุคส์ เรย์มอนด์หันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับผม เราสบตากัน ดวงตาของเขาเหมือนวิคเตอร์ราวกับก้อปปี้แล้ววางลงบนหน้าวิคเตอร์ แต่ความรู้สึกทางแววตานั้นต่างกันเยอะ เขาไล่สายตามองผมจากหัวจรดเท้า ถึงจะไม่ได้มองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม แต่นั่นก็ไม่ใช่สายตาที่ผมปรารถนาและคิดว่าคนมีมารยาที่ดีเขาไม่น่าจะทำกัน


“I don’t think you will become my son’s boyfriend. (ไม่คิดเลยนะว่าจู่ๆ วันนึงเธอจะกลายมาเป็นแฟนลูกชายฉัน)” เขาเปิดบทสนทนาก่อน เขาคงจำผมได้แม้ว่าจะเจอผมเพียงครั้งเดียว หรือไม่เขาก็คงให้คนไปสืบเรื่องผมมาแล้ว อีกอย่างคุณลิซ่าก็รู้จักผม เธอคงเล่าอะไรให้สามีเธอฟังบ้างอยู่แล้ว ผมกระตุกยิ้มมุมปากซ้ายเล็กน้อย ถึงผมจะรู้สึกตื่นเต้นและเกร็งอยู่บ้าง แต่คิดว่าจากการเผชิญหน้ากับลิซ่าและเซล่าในคราวเดียวกันเมื่อสี่วันก่อน มันทำให้ผมคุมสติได้ดีขึ้นพอสมควร


“Me neither. (ผมก็ไม่คิดเหมือนกันครับ)” พ่อของวิคเตอร์ยิ้มเพียงนิด


 “But I want a girlfriend for him, not a boyfriend. (แต่ฉันอยากให้เขามีแฟนสาวไม่ใช่แฟนหนุ่ม)”


“Unfortunately, he got a boyfriend. (โชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะครับ แต่พอดีเขาได้แฟนหนุ่ม)” เขาหรี่ตามอง แววตากำลังมองผมอย่างประเมิน


“It’s impossible between you and him. You know that? (รู้ใช่มั้ยว่าความรักของเธอกับวิคเตอร์มันเป็นไปไม่ได้)” ผมย่นคิ้วนิดหนึ่ง


“Why do you asked me You know that when it’s possible between him and me already. (ทำไมคุณถึงถามผมว่า รู้ใช่มั้ย ในตอนที่ความรักของผมกับวิคเตอร์เป็นไปได้แล้วล่ะครับ)” คนตรงข้ามผมจ้องผมตาไม่กะพริบ ผมก็เลยจ้องกลับ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการก้าวร้าวใส่เขาแต่อย่างใด ก็แค่มองมาก็มองกลับเท่านั้นเอง


“You can’t lie to yourself that your love it’s gonna be forever. (เธอหลอกตัวเองได้ไม่นานหรอกว่าความรักเธอทั้งสองคนจะไปรอด)” ผมคลี่ยิ้มแวบหนึ่งแล้วหุบยิ้มหน้านิ่งตามเดิม


“I’m not. And I don’t know what are going to happen with our love in the future. But at this moment we have a good time in every day. (ผมไม่ได้หลอกตัวเองครับ แล้วผมก็ไม่รู้ด้วยว่าความรักของเราสองคนจะไปรอดมั้ย รู้แต่ว่าทุกวันนี้เราสองคนมีความสุขกันดี)” คุณลุคส์ยิ้มหึ แววตาฉายความเคืองวาบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะก้าวเท้าเดินมาตรงโต๊ะยาวแบบนั่งได้ประมาณสิบคน คงเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร เขาเลื่อนเก้าอี้ตรงหัวโต๊ะแล้วนั่งลง ก่อนจะผายมือมาทางเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ซึ่งผมยืนอยู่ใกล้ๆ ผมเขยิบเท้าเข้าไปสามก้าว เลื่อนเก้าอี้ออกห่างจากตัวโต๊ะเล็กน้อยแล้วหย่อนก้นนั่งลงตรงข้ามกับพ่อวิคเตอร์ เราอยู่ห่างกันพอสมควรและผมคิดว่าเขากำลังบอกอะไรบางอย่างกับผมผ่านตำแหน่งการนั่งครั้งนี้


“ฉันสั่งอาหารไว้ด้วย ทานไปคุยไปก็แล้วกัน อ้อ เธอคงจะไม่ว่าอะไรถ้าหากฉันจะมีแขกพิเศษมาร่วมโต๊ะด้วยหนึ่งคน” ผมไหวไหล่ทั้งสองข้างนิดหนึ่งแล้วยิ้มน้อยๆ


“ห้องคุณนี่ครับ” ชายสูงวัยมาดภูมิฐานกระตุกยิ้มมุมปากหนึ่งที ก่อนจะดีดนิ้วเป็นสัญญาณ สักพักลุงเลขาก็เดินนำเหล่าพนักงานเสิร์ฟสี่คนออกมา สองคนแรกถือจานอาหาร ถัดไปอีกสองคนถือเครื่องดื่มกับแก้วหนึ่งใบ ทั้งสี่คนแบ่งกันไปเสิร์ฟฝั่งพ่อวิคเตอร์สองคนและมาเสิร์ฟฝั่งผมอีกสองคน อาหารที่ได้รับคือสเต็ก ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจว่ามันเป็นสเต็กเนื้อแน่ๆ


“ผมไม่กินเนื้อครับ” คุณลุคส์ที่กำลังเริ่มหั่นเนื้อสเต็กอยู่เลิกคิ้วขึ้นมองผมอย่างประหลาดใจ


“งั้นเหรอ ฉันเปลี่ยนให้ก็แล้วกัน…”


“…ไม่ต้องหรอกครับ เพราะจริงๆ ผมก็ยังไม่หิว แล้วอีกอย่างผมมีนัดทานข้าวกับวิคเตอร์แล้ว” เขามองผมด้วยสายตาไร้อารมณ์ แต่สีหน้าก็แสดงออกว่าไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่ ผมดันจานอาหารออกห่างจากตัวนิดหนึ่งแล้วไม่สนใจหยิบไวน์ขาวที่พนักงานเทให้มาดื่มเลยสักนิด


“คุณมีอะไรก็พูดมาเลยเถอะครับ บอกตามตรงว่าผมรีบ” นี่ก็จะหกโมงแล้ว เสียเวลาทำเค้ก ทำอาหารไปเยอะเลย วิคเตอร์เลิกกองประมาณหนึ่งทุ่ม กลับไปทำอาหารไม่ทันก่อนเขากลับมาแล้วละ


“เลิกกับเขาซะ…”


“…ผมไม่เลิก” คิดอยู่แล้วว่าต้องเล่นประเด็นนี้ ประเด็นยอดฮิตของความรักชายรักชายที่มาจากคนในครอบครัว


คุณลุคส์ไม่ได้มีท่าทีโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่ก็มองผมนิ่งแบบกดดันเต็มที่ “เธอกำลังจะทำให้ชีวิตเขาพัง”


“ผมรู้ว่าคุณไม่ยอมรับกับความรักแบบนี้ แต่ผมคิดว่าความรักที่ผมมีให้กับเขามันคงไม่ถึงขั้นทำลายเขามั้งครับ”


“อย่าน้ำเน่า ความรักอย่างเดียวมันไม่พอหรอก เธอต้องดูคนรอบข้างด้วย โลกนี้ไม่ได้มีแค่เธอสองคน” ผมรู้สึกจุกตรงคอหอยแปลกๆ เพราะประโยคนี้ผมเพิ่งพูดกับวิคเตอร์ไปเมื่อวานหลังจากเรามีอะไรกัน เพียงแต่ประเด็นที่ต้องการจะสื่อนั้นต่างกัน แต่มันก็แอบสะกิดใจผมอยู่เหมือนกัน


“ถึงฉันกับวิคเตอร์จะไม่ใช่พ่อลูกผูกพันอะไรกันมาก แต่อย่างน้อยที่สุดคือฉันกับเขาเรามีสายเลือดเดียวกัน แล้วฉันก็ไม่ได้ทิ้งขว้างเขา ฉันก็ส่งเสียเลี้ยงดูเขาในฐานะพ่อคนหนึ่งมาตลอด…” ผมเม้มริมฝีปากที่แห้งผากเข้าหากัน แววตาเริ่มสั่นไหวเล็กๆ แต่ก็พยายามไม่ให้ตัวเองสติหลุดไปไหน


“…ฉันไม่เถียงหรอกนะว่าเขารักแม่ฉันแล้วก็แม่เขามากกว่า และฉันก็จะไม่โกหกเธอหรอกว่า วิคเตอร์ไม่เคยให้อภัยกับความผิดพลาดของฉัน แต่เราก็ยังไม่ตัดขาดกัน เธอก็น่าจะเห็น”


“ใช่ครับ ผมเห็น เห็นว่าคุณพยายามมาตักตวงผลประโยชน์จากลูกชายตัวเอง” คุณลุคส์ยิ้มมุมปากขวานิดเดียว ดวงตาคมกริบของเขามองผมอย่างวิบวับ ท่าทีของเขายังดูสบายๆ แถมยังยกไวน์ขึ้นจิบอีกต่างหาก


“มันเป็นสิ่งที่คนเป็นลูกควรทำ” คราวนี้ผมยิ้มอ่อนบ้าง


“แล้วคุณแน่ใจได้ยังครับว่าเขาจะทำตามที่คุณบอก” ผมคลี่ยิ้มมากขึ้นอีกนิดเมื่อเห็นว่าใบหน้าคนตรงข้ามนั้นขึงตึงขึ้นมา


“เขาจะทำ ถ้าไม่มีเธอ ฉันถึงบอกให้เลิกกับเขาซะ” ผมถอนหายใจแผ่วเบา


“ผมเลิกให้ได้นะครับ แต่เขาจะยอมเลิกกับผมรึเปล่า” นี่ เอาสิ ขอหลงตัวเองหน่อยเถอะ ผัวฉันก็รักหลงฉันมากพอตัวนะ


“เขาคงรักเธอมากสินะตอนนี้…” คุณลุคส์ยิ้มเยาะหน่อยๆ “…ใช่ ฉันเคยเห็นมาแล้วละ” ผมย่นคิ้วนิดหนึ่ง และคิดว่าที่เขาบอกว่าเคยเห็นคงไม่ใช่ระหว่างผมกับวิคเตอร์แน่ๆ คงเป็นแฟนเก่าของเขาสักคน


“กับแฟน…” เขาย่นคิ้ว ชะงักคำพูดตัวเองไป ก่อนจะยกยิ้มกริ่มแล้วพูดต่อ


“…ไม่สิ กับเมียคนแรกของเขาน่ะ” ใจผมหล่นวูบ รู้สึกอุณหภูมิในร่างกายเย็นลงไปอีก สีหน้าผมค้างเติ่งกับสิ่งที่ได้ยิน เมียในที่นี้คืออะไร วิคเตอร์เคยแต่งงานมาแล้วงั้นเหรอ ทำไมไวโอล่าไม่เห็นเล่าให้ฟังล่ะ เขาหมายถึงแค่แฟนรึเปล่า อาจจะใช้คำศัพท์ผิดหรือจงใจทำให้ผมคิดมาก ไม่ ผมต้องไม่เชื่อคนอื่นมากกว่าวิคเตอร์


“ลูกชายฉันรักหล่อนมาก รักถึงขนาดยอมทำผิดมหันต์” หัวสมองผมตื้อไปชั่วขณะ ยังนึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรช่วงระหว่างคิ้วทั้งสองข้างของผมตึง มองหน้าของพ่อวิคเตอร์อย่างไว้ท่าที ผมยังปักใจเชื่อเขาทั้งหมดไม่ได้ ต้องรอฟังจากปากของวิคเตอร์ว่ามันคืออะไร หวังอย่างเดียวว่าวิคเตอร์คงไม่ได้มีลูกติดกับใครสักคนมาก่อน


“ความรักช่วงปีแรกๆ มันก็เหมือนพระอาทิตย์ตกดินเหนือทะเลสาปนั่นแหละ สวยงามจับจิต ประทับใจ แต่พอดวงอาทิตย์ลับไปก็มีแต่ความมืดมน” คุณลุคส์หั่นเนื้อสเต็กขนาดพอดีคำแล้วจิ้มเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ก่อนจะจิบไวน์ตามลงไป


“ถ้าความรักของผมกับวิคเตอร์มันเริ่มจากความรู้สึกรักตั้งแต่แรก มันก็อาจจะเป็นแบบที่คุณว่าก็ได้ครับ” ในที่สุดผมก็ดึงสติตัวเองกลับมาใส่หัวจนได้ และคราวนี้เป็นฝ่ายพ่อวิคเตอร์ที่ขมวดคิ้วบ้าง ผมยิ้มบางๆ ก่อนจะนึกถึงคำพูดของแม่ คำพูดที่ทำให้ผมกลับมาไว้ใจวิคเตอร์อีกครั้ง คำพูดที่ทำให้ผมละทิ้งความผิดที่เขาทำออกไปจากใจ แล้วบินมาหาเขาที่นิวยอร์กพร้อมกับความไว้ใจในตัวเขาอีกรอบ


“ความรักที่ค่อยๆ เติบโตเหมือนต้นไม้ แม่ว่ามันจะแข็งแรงมากๆ มันดีกว่ารักที่คนหนึ่งเริ่มจากร้อย อีกคนเริ่มจากศูนย์ หรือเริ่มจากการจีบกันซะอีก แม่ว่าความรักที่ค่อยๆ โตขึ้นในใจของคนทั้งคู่ มันเป็นรักที่หาได้ยากนะ”


“ไม่ว่าความรักของพวกเธอจะเริ่มจากไหน เริ่มต้นยังไง แต่จงรู้ไว้ว่ามันไม่ถูกต้อง” ผมยิ้มเพลียหน่ายใจ


“แล้วความถูกต้องคืออะไรครับ ผู้ชายกับผู้หญิงงั้นเหรอ” ผมเลิกคิ้วขึ้น มองเขาอย่างแสร้งสงสัยทั้งที่รู้คำตอบของเขาอยู่แล้ว


“มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นน่ะสิ” ผมยิ้มสมเพชเล็กน้อยแล้วส่ายหัวไปมาช้าๆ พ่อของวิคเตอร์จ้องผมอย่างแข็งกร้าว


“ผมไม่คิดเลยว่าคนที่ก้าวหน้าในธุรกิจระดับสูงอย่างคุณ จะมีวิสัยทัศน์ในเรื่องละเอียดอ่อนอย่างความรักต่ำมาก” เขาขบกรามแน่น จ้องผมอย่างกับจะเข้ามาบีบคอให้ได้


“ถ้าเธอรู้อดีตของเขา เธอรับไม่ได้หรอก เหมือนแฟนคนแรกเขายังไงล่ะ…” เขาเลิกคิ้วขึ้นแวบหนึ่ง แล้วพูดต่อ


“…ฉันหมายถึงแฟนเขานะ ไม่ใช่เมียเขา” ผมย่นคิ้ว อะไรกัน มีตัวละครสองคนเหรอ เมียที่เขาเอ่ยแต่แรกนั่นไม่ใช่แฟนเขารึไง จะบอกว่าไม่หวั่นไหวหรือใจไม่เต้นด้วยความกังวลก็เป็นไปไม่ได้หรอก มันเริ่มจะว้าวุ่นในอกขึ้นมาแล้ว แต่ผมไม่คิดถามพ่อวิคเตอร์เด็ดขาด ผมจะรอถามจากวิคเตอร์เอง เพราะถ้าถามจากพ่อเขา รับรองได้เลยว่าเขาจะต้องเสริมเติมแต่งจนทำให้ผมสติเตลิดแน่ๆ ตอนนี้ต้องแกร่งไว้ก่อน


“อดีตเขาเป็นยังไงผมไม่รู้หรอกครับ และผมไม่ต้องการฟัง เพราะปัจจุบันเขามีความสุขดี คุณควรได้เห็นรอยยิ้มของลูกชายคุณเวลาอยู่กับผมนะ” ผมยิ้มบางๆ รู้สึกหมั่นไส้ตัวเองอยู่ในใจกับความมั่นระดับจักรวาลของตัวเอง พ่อวิคเตอร์ยิ้มมุมปาก


“ไปเอาความมั่นใจขนาดนั้นมาจากไหนกันล่ะ” อุ๊ย ด่าเลยดีกว่าถ้าจะพูดแบบนี้ แต่ไหนๆ ก็มั่นใจไปแล้ว ก็ต้องไปต่อ


“จากลูกชายคุณนั่นแหละครับ” ไม่อยากบรรยายให้คุณพ่อฟังนะว่า ลูกชายตัวเองน่ะชอบทำให้ผมรู้สึกอย่างกับตัวผมเป็นนางงามจักรวาลก็ไม่ปาน


คุณเรย์มอนด์ตัวพ่อตีหน้านิ่ง เขาหยุดกินสเต๊กไปได้สักพักแล้วหลังจากกินมันไปได้เพียงครึ่งเดียว ตอนนี้กำลังมองผมนิ่งสนิท ดวงตาที่เหมือนวิคเตอร์นิ่งจนผมอ่านไม่ออก แต่ก็เดาได้ว่าคงกำลังคิดอะไรสักอย่างอยู่ที่เกี่ยวกับผมและวิคเตอร์ ผมเองก็ไม่หลบตาแต่ก็มีอาการสั่นไหวน้อยๆ เหมือนกัน


“เธอกำลังจะทำให้ตระกูลเรย์มอนด์หายไป” ดวงตาเขาเศร้าลงนิดหนึ่ง เห็นแบบนั้นผมก็แอบใจกระตุกเบาๆ เพราะผมพอจะเข้าใจความรู้สึกในประเด็นนี้ เนื่องจากแม่ผมก็ชอบพูดอยู่บ่อยๆ ถึงเรื่องการสืบสกุล


“ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าคุณดูแลเขาในฐานะพ่อดีมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา เขาไม่เคยเทิดทูนคุณเท่าแม่และย่าเลย…” มันอาจจะใจร้ายและคงดูก้าวร้าวหน่อยๆ แต่คุณลุคส์เองก็ใช่ว่าจะรักษาน้ำใจผม ฉะนั้นเมื่อเขาทำหน้าสลดลง ผมจึงแสร้งเมินผ่านไป


“…ผมเลยไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่กับการที่คุณจะมาห่วงวงศ์ตระกูล คุณมีภรรยาใหม่คือคุณลิซ่า มีชู้เป็นโสเภณีจนมีไวโอล่า ซึ่งนั่นคุณจะบอกว่าเป็นการสืบสกุลของคุณรึเปล่าครับ” และอาจจะมีใครคนอื่นที่ผมไม่รู้อีกก็เป็นได้


ผมคงพูดมากและสะกิดใจเขามากไป ใบหน้าของคุณลุคส์จึงเริ่มดุขึ้น แววตาของเขาที่มองมานั้นหยาบกระด้างและหยาบคายอย่างชัดเจน


“นั่นไม่ใช่เรื่องของเธอ อย่าคิดว่ารู้เรื่องภายในครอบครัวฉันแล้ว เธอจะมีสิทธิ์มาพูดจากับฉันแบบนี้ และอย่าคิดว่าฉันจะรับเธอมาเป็นครอบครัวเดียวกัน” น้ำเสียงที่เขาใช้พูดนั้นไม่ใช่น้ำเสียงตะคอกหรือกราดเกรี้ยว แต่เป็นน้ำเสียงนิ่งๆ อันหนักแน่นเน้นย้ำในทุกคำศัพท์ที่เปล่งออกจากปากเขา และมันก็ค่อนข้างได้ผลเพราะท่อนท้ายของประโยคกระแทกใจผมอยู่ไม่น้อย


“จำไว้ให้ดี โลกนี้ไม่ได้มีเธอกับวิคเตอร์แค่สองคน ความรักโง่ๆ ที่พวกเธอมีให้กันน่ะ มันพาพวกเธอไปไม่รอดหรอก” เมื่อเห็นว่าผมโดนตอกจนนิ่งไป เขาจึงตอกซ้ำเติมอีกระลอก คงกะเอาให้ผมหงายเงิบ


ก๊อกๆ


เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ผมนึกถึงออสตินว่าอาจจะเป็นเขาเนื่องจากผมหายเข้ามาในนี้นานหลายนาทีแล้ว คุณลุงเลขาเดินผ่านโต๊ะทานอาหารไปทางประตูห้อง ผมได้ยินเสียงเปิดประตูแล้วได้ยินเสียงทักทายกัน ผมย่นคิ้วเมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นออสติน แล้วสักพักลุงเลขาก็เดินมาพร้อมกับหญิงสาวใบหน้าสวยมากคนหนึ่ง ผมลอนสีโค้กแสกกลางของเธอเด้งเป็นจังหวะยามเดิน จังหวะการเดินของเธอนั้นสตรองมาก ขนาดแค่ว่าเดินมาที่โต๊ะอาหารซึ่งเป็นระยะทางสั้นๆ เธอยังเดินได้สับๆ พอคลี่ยิ้มเท่านั้นแหละ น่ารักอย่างกับตุ๊กตา ดวงตาสีเทาอ่อนของเธอสวยมากเลย


“สวัสดีค่ะคุณเรย์มอนด์” เธอเดินผ่านผมไปหาพ่อวิคเตอร์ ฝ่ายชายลุกขึ้นพร้อมยิ้มกว้าง ทั้งสองเอาแก้มชนกันมาเบาๆ


“เชิญนั่งเลยไดอาน่า” ผมมองตามกิริยาของเธอคนนั้น เธอดูสง่ามาก ดูมีชีวิตชีวาอยู่ตลอดเลย แล้วคือเธอไม่ล้น ไม่เยอะ แต่กำลังพอดี


“ว้าว หนุ่มน้อยน่ารักคนนี้ใครเหรอคะ” เธอหันมามองผมแล้วยิ้มอย่างเป็นมิตร ผมเห็นรอยยิ้มเธอแล้วก็ต้องยิ้มตาม เพราะเธอยิ้มได้น่ามองมาก


“แฟนของวิคเตอร์ที่เคยบอกน่ะ…” เธอเบิกตากว้างขึ้นแล้วอ้าปากกว้างเป็นรอยยิ้ม ดูเธอจะทึ่งมากที่ได้เจอผม


“…แต่หนูไม่ต้องกังวลหรอกนะ” เธอสั่นหัวรัวๆ ทันที


“ไม่เลยค่ะ คือฉันหมายความว่า เขาน่ารักมากเลยนะคะ” เธอยิ้มน่ารัก บรรยากาศในห้องที่ตอนแรกอึมครึมๆ ดูสว่างขึ้นมาเพราะเธอเลย พ่อของวิคเตอร์ยิ้มขำน้อยๆ


“แต่ถึงยังไงฉันก็ยืนยันตามความต้องการที่เคยบอกไป” เธอทำปากยื่น ย่นคิ้วแล้วส่ายหัวไปมาน้อยๆ


“อย่าดีกว่าค่ะ ฉันว่าการทำอะไรแบบนั้นมันล้าสมัยมากๆ แล้วฉันกับลูกชายคุณก็เคยพบกันแค่ครั้งเดียว”


“ฉันถึงต้องการให้หนูมาพบกับเขาบ่อยๆ ยังไงล่ะ…” ผู้หญิงที่ชื่อไดอาน่าทำหน้าไม่ค่อยจะโอเคสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แสดงออกชัดเจนมากนัก อาจเพราะเกรงใจพ่อวิคเตอร์อยู่


“…ขอแนะนำให้เธอได้รู้จักกับไดอาน่า คู่หมั้นของวิคเตอร์” ผมอ้าปากค้างขึ้นนิดหนึ่ง มองไปทางไดอาน่าอย่างตกตะลึง คงเป็นเธอคนนี้สินะที่ไวโอล่าเล่าให้ผมฟัง


“ไม่ใช่ล่ะ อย่าไปฟังคุณเรย์มอนด์เขาพูดมากเลยนะ ฉันมีเพื่อนเป็นเกย์เยอะมาก ฉันรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร” เธอย่นหน้าพร้อมกับไหวไหล่ ผมเกือบจะยิ้มแต่ก็ทำได้แค่เงอะงะ ไม่แน่ใจในท่าทีของเธอว่าไม่คิดอะไรจริงๆ หรือกลบเกลื่อนกันแน่ เมื่อกี้เธอบอกว่าเคยพบกับวิคเตอร์เพียงครั้งเดียวด้วย เขาไปพบกันตอนไหนนะ


“อย่าคิดมากนะ เอ่อ เธอชื่อแมทใช่มั้ย ลิซ่าเล่าให้คุณเรย์มอนด์ฟังและเขาก็เล่าให้ฉันฟังอีกทีน่ะ” เธอหัวเราะร่าเริง เอาจริงๆ ผมจะไม่กลัวเธอเลยถ้าเธอมาแบบผู้หญิงประเภทบิชชี่ (bitchy) เพราะแบบนั้นน่ะวิคเตอร์ไม่ชอบแน่ๆ แต่มาแบบนี้ บอกตรงๆ ผมกลัว ขนาดผมยังรู้สึกชอบเธอเลย เธอดูสดใส ร่าเริง ถ้าอันเดรียนาว่าน่ากลัวแล้ว ไดอาน่าน่ากลัวแบบเหนือเมฆมาก


แล้วทำไมผัวผมถึงมีเสน่ห์กับผู้หญิงสระอานักนะ แฟนคนแรก เมียคนแรกที่พ่อเขาบอกนี่ลงท้ายด้วยสระอาหรือเปล่า


“ฉันว่าเขาก็เหมาะกับวิคเตอร์ดีออกค่ะ” เธอมองผมแล้วยิ้มอย่างจริงใจ พ่อวิคเตอร์ยิ้มน้อยๆ แล้วส่ายหัว


“ไม่ เธอเหมาะกับเขามากกว่า” ผมเม้มปากเบาๆ แล้วถอนหายใจแผ่วๆ มองหน้าพ่อวิคเตอร์อย่างเอือมระอา ไดอาน่าย่นคิ้วแล้วทำหน้าเคืองๆ


“คุณนี่ใจร้ายจริงๆ แค่เขาไม่ใช่ผู้หญิงก็ว่าเขาไม่เหมาะแล้ว” ผมได้แต่หวังว่านี่คือความรู้สึกจากใจของเธอจริงๆ เพราะผมจะขอบคุณเธอมาก ยอมรับว่าผมยังครึ่งๆ กลางๆ กับเธออยู่ จะให้ผมชอบเธอเต็มร้อย ชื่นชมเธอเต็มที่ได้ไง เธอถูกหมายมั่นปั้นมือจะให้มาเป็นภรรยาของวิคเตอร์นะ


แกรก!


เสียงบิดประตูดังขึ้น แล้วไม่นานร่างของออสตินก็ปรากฏขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไดอาน่าหันไปยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ออสตินผงกหัวให้นิดหน่อย


“คุณเรย์มอนด์ตามให้กลับบ้านแล้วครับ ตอนนี้เขาทราบแล้วว่าคุณแมทมาพบพ่อตัวเอง…” ออสตินเลื่อนสายตาเรียบนิ่งไปพ่อวิคเตอร์ ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา


“…และเขาไม่พอใจมาก” คุณลุคส์มองออสตินอย่างไม่ชอบใจ ใบหน้าของเขาตึงเครียด ผมลุกขึ้นยืนแล้วหันไปยิ้มให้คุณไดอาน่านิดหน่อย เธอยิ้มกว้างตอบกลับมา ผมกระตุกยิ้มอีกที รู้สึกใจเต้นตึกตัก บอกตรงๆ ว่าถ้าวิคเตอร์ได้ใช้เวลาอยู่กับผู้หญิงคนนี้ เขาคงชอบเธอแน่ๆ และทั้งสองก็เหมาะกันมากด้วย เหมาะกว่าชารอน เหมาะกว่าอันเดรียนาที่ผมเคยคิดกลัวซะอีก


“If there’s nothing. I have to excuse myself. (ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะครับ)” ผมบอกเสียงเรียบ คุณลุคส์ไม่ได้ทักท้วงอะไร ส่วนไดอาน่าก็ยังคงยิ้มกว้างน่ารักตามเดิม ผมหมุนตัวเดินนำออสตินออกจากห้องไป โดยที่นำความสำเร็จของพ่อวิคเตอร์ติดตัวไปด้วย นั่นคือความกลัว ความไม่สบายใจ การพบกันครั้งนี้มันเหมือนการขับรถแข่ง บางครั้งผมขึ้นนำ พ่อวิคเตอร์ตาม แล้วบางครั้งพ่อวิคเตอร์นำ ผมเป็นผู้ตาม แต่สุดท้ายเขาก็น็อคเอ้าท์ผมด้วยการพาตัวเสริมอย่าไดอาน่าเข้ามาฮุคผมเต็มๆ

V
v
v

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1275 เมื่อ05-05-2016 01:42:11 »

V
v
v

ผมกับออสตินขึ้นแท็กซี่กลับมาถึงบ้านในเวลาเกือบสองทุ่ม หิมะกำลังโปรยปรายเบาๆ เราเดินขึ้นบันไดหน้าบ้านอย่างช้าๆ เพราะกลัวลื่นหิมะหัวแตก หยุดเคาะเศษหิมะออกจากรองเท้าแปบหนึ่ง ตอนที่กำลังจะไขประตูบ้านเข้าไป ผมได้ยินเสียงแว่วๆ เหมือนคนกำลังทะเลาะกัน ผมหันไปมองหน้าออสติน สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้น


“รีบเปิดประตูเถอะครับ” หัวใจเพิ่งจะสงบนิ่งไประหว่างนั่งแท็กซี่กลับมาบ้าน ตอนนี้มันเต้นตึกๆ ขึ้นมาอีกแล้ว ยิ่งเห็นออสตินดึงปืนออกมาจากด้านในเสื้อกันหนาวผมยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่ วินาทีที่ผมดันประตูบ้านเข้าไป เสียงทะเลาะก็ดังชัดเจนยิ่งขึ้น


“ออกไป! รู้จักอายบ้าง อย่าให้มันมากเกิน!” เสียงตะคอกของวิคเตอร์ดังออกมาจากห้องโถงของบ้าน ผมกับออสตินรีบเดินเอาของไปวางไว้บนโต๊ะหินอ่อนในห้องครัว


“มองฉันสิวิคเตอร์! มองฉัน ไม่คิดถึงฉันแล้วจริงๆ เหรอ เธอเคยเสพติดมันนะ!” ผมขมวดคิ้วเมื่อเสียงผู้หญิงอีกคนที่อยู่กับวิคเตอร์มันช่างคุ้นหู ผมหันไปมองหน้าออสติน เขาเองก็ขมวดคิ้วเช่นกัน แล้วสักพักเขาก็เบิกตากว้างขึ้น ทำเอาผมตกใจ


“อะไรเหรอ?!” ผมถามเสียงกระซิบ ออสตินเก็บปืนเข้าไปในเสื้อกันหนาว แล้วยืนนิ่งฟังบทสนทนาต่อ


“เธอก็รู้นี่ว่าเคย! ตอนนี้ฉันไม่สนใจมันแล้ว ฉันลืมไปหมดแล้ว!”


“ฉันไม่เชื่อ! เรื่องราวระหว่างเรามีตั้งมากมาย เธอจะลืมมันง่ายๆ ได้ยังไง!”


“ใช่! ฉันไม่ได้ลืมมันง่ายๆ แต่ฉันก็ลืมไปแล้ว ปัจจุบันฉันมีความสุขกับแมทดี” วิคเตอร์ตะคอกกลับ ผมเริ่มขมวดคิ้วหนักขึ้นเมื่อเสียงผู้หญิงคนนั้นมันคุ้นหูขึ้นเรื่อยๆ แต่เพราะมันปนกับเสียงสะอื้นไห้ผมเลยนึกไม่ออกทันที บวกกับสมองผมกำลังมึนจากเหตุการณ์ก่อนหน้าอยู่


“ไม่จริง! ฉันไม่เชื่อ นายจะมีความสุขกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงได้ยังไง?!”


“ฉันก็ไม่ได้ขอให้เธอมาเชื่อ ฉันรู้ตัวฉันเองก็พอ!”


“วิคเตอร์ มองหน้าฉัน…” ผู้หญิงคนนั้นพูดปนเสียงสะอื้น ในน้ำเสียงมีทั้งความอ้อนวอนและขอร้องในคราเดียวกัน


“…นึกถึงวันเก่าๆ ที่เราอยู่ด้วยกันสิ ดึงสติกลับมา นายชอบผู้หญิงวิคเตอร์ นายคู่ควรกับผู้หญิง”


“มันไม่เกี่ยวกับว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย เธอไม่เข้าใจหรอก!” ริมฝีปากผมแห้ง ลำคอแห้งผาก หัวใจเต้นตุบๆ ตุบๆ มือทั้งสองข้างเย็นเฉียบ พอหันไปมองออสติน เขาก็ทำหน้าเครียดน้อยๆ อยู่


“แล้วไอ้วันเก่าๆ ทั้งหลายน่ะ ฉันก็โยนทิ้งไปพร้อมกับคนเก่าๆ แก่ๆ อย่างเธอแล้วไง!” จู่ๆ หัวใจผมก็กระหน่ำเต้นแรงขึ้นเมื่อความรู้สึกเริ่มจะจับได้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่ก็ยังไม่ถึงกับมั่นใจฟันธงกับตัวเอง ขาทั้งสองก้าวออกจากห้องครัวไปอย่างช้าๆ ค่อยๆ เดินไปห้องโถงพร้อมกับหัวใจที่เต้นโครมคราม


“อย่าหลอกตัวเองเลยวิคเตอร์ ถ้าเธอลืมฉันจริง แล้วครั้งล่าสุดที่เรามีอะไรกันล่ะ?!”


“โอ๊ย นั่นมันนานแล้วแม่คุณ ฉันเมานิดหน่อย เธอก็มาเสนอให้ ขนาดฉันมึนๆ ฉันยังจำได้เลยว่าเธอขย่มฉันเองทั้งนั้น ฉันไม่ได้แตะต้องเธอเลยสักนิด!” เท้าผมก้าวมาหยุดตรงทางเข้าห้องโถง หัวใจกระหน่ำชนผนังอกแรงเข้าไปอีก แรงจนกลัวว่ามันจะกระเด็นพุ่งออกมาจากอก ผู้หญิงผมทองสว่างคนหนึ่งยืนเปลือยทั้งตัวต่อหน้าวิคเตอร์ที่อยู่ในชุดลำลอง


“เฮ้ย! ตั้งสติหน่อยได้มั้ย!!” ผมยืนตัวแข็งทื่อกับภาพที่เห็น ความรู้สึกชาแล่นตั้งแต่หนังหัวลงไปทั้งตัวแล้วลามไปถึงปลายเท้า


ผู้หญิงเปลือยคนนั้นพุ่งตัวเข้าไปกอดวิคเตอร์เอาไว้ บดเบียดหน้าอกหน้าใจของเธอเข้ากับอกแกร่งวิคเตอร์ ยื่นหน้าไประดมจูบวิคเตอร์รัวๆ ไอ้ยักษ์หน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วเบี่ยงหน้าหนี แต่ก็โดนจูบปาก จูบแก้มไปหลายที สองมือของเขาจับร่างอวบอิ่มเอวคอดกิ่วนั้นไว้ก่อนจะออกแรงดันจนผู้หญิงคนนั้นเซถอยหลังเกือบล้มลง แต่วิคเตอร์ไม่ได้เข้าไปช่วยประคอง เขายืนหอบเล็กน้อย มองเธอด้วยสายตาโกรธจัด ตั้งท่าอ้าปากจะพูดอะไรต่อ แต่พอหันมาเห็นผมเขาก็เบิกตากว้าง


“แมท…” เขาเรียกผมเสียงแผ่ว ผมยังคงยืนหัวตื้อ หน้ามึนอยู่กับที่ มีออสตินยืนอยู่ด้านหลัง ร่างกายผมชาไปทุกส่วน มันรู้สึกตะลึง ทึ่ง แล้วก็อึ้งที่ได้เห็นภาพผู้หญิงคนหนึ่งพยายามจะปลุกปล้ำผู้ชายอีกคน เคยได้ยินมาบ้างว่ามีผู้หญิงแบบนี้อยู่ แต่ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมาเห็นด้วยตาตัวเอง ผมเลื่อนสายตาไปมองผู้หญิงคนนั้น กำลังจะได้สติกลับคืนมา แต่พอเธอหันหน้ามาเท่านั้นแหละ สติผมก็ลดฮวบ ริมฝีปากอ้ากว้างกว่าเดิม ดวงตาเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ


“คุณลิซ่า…” คราวนี้ตัวผมชาวาบเหมือนวิญญาณออกจากร่าง มันเย็นจนไร้ความรู้สึก หัวใจหล่นหายไปไหนไม่รู้ เหมือนว่ามันไม่เต้นอีกแล้ว มันหยุดเต้นไปแล้ว ผมยืนมองหน้าคุณลิซ่าที่กำลังร้องไห้ตาแดงก่ำ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงทำหน้าเชิดทระนงอยู่ดี



 :katai1:

มีเรื่องแล้วค่ะหมวดดด อยากจะทำเค้กให้สามีทาน แต่ต้องเจอกับเรื่องราวของสามีที่ทำให้ใจเต้นระส่ำแล้วระส่ำอีก โถ ลูกแม่ เอาแป้งทำเค้กปาหน้านังลิซ่าเลยค่ะ !

จริงๆ ปมนี้ก็ไม่ได้ซ่อนลึกลับซับซ้อนอะไรนะ 55555 ถ้าใครอ่านแบบจับผิดหน่อยน่าจะจับได้ว่าน้ำเสียงตะคอกๆ แบบนี้ จะชอบใช้กับลิซ่าซะส่วนมาก

หลายๆ คนคงเดาถูก มันไม่ใช่ปมพลิกล็อกหรือยากอะไรเนอะ 55555

เคลียร์ให้น้องด้วยนะคะอียักษ์ ยังไงคะ ยังไง ซุกซ่อนเมียเก่าแก่ไว้ใกล้ตัวกันแบบนี้เลยนะ ต้องมาดูว่าแมทจะสตรองได้อีกมั้ย เพราะเจอพ่อวิคเตอร์ไปยกนึงนางก็อึนละ สู้ค่ะลูกสาว 

ยังเจอกันตามปกตินะคะ ยังคงลงเนื้อหานิยายจนจบ ลงตามปกติ เปิดพรีหนังสือแล้วก็จริง แต่ยังคงลงตามปกติไม่มีหยุด ลงจนจบตอนหลักของพาร์ทนี้ จำนวนตอนของตอนหลักก็ใกล้จะจบแล้ววว

ขอบคุณคนอ่าน ณ เล้าเป็ดมากๆ ค่า  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2016 22:50:55 โดย ขุ่นเจ้ »

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1276 เมื่อ05-05-2016 01:57:27 »

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ wawa_piya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1277 เมื่อ05-05-2016 02:01:44 »

อุ้ยๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1278 เมื่อ05-05-2016 02:08:24 »

ว่าแล้วว่าตัวละครปริศนาจะต้องเป็นนังนี่ - -

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1279 เมื่อ05-05-2016 02:09:27 »

  :katai1: :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
« ตอบ #1279 เมื่อ: 05-05-2016 02:09:27 »





ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1280 เมื่อ05-05-2016 06:26:25 »

ผัวมีเสน่ห์ขนาดนี้ เอามีดกรีดหน้าซะหลายๆทีดีมั้ย ให้หมดหล่อเลย

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1281 เมื่อ05-05-2016 07:14:40 »

กระทั่งลิซ่าเลยอ่อ เสน่ห์วิคแรงไปไหมเนี่ย หรือชะนีร่านเองล่ะเหวย

ลุคส์รู้เรื่องนี้ด้วยสินะ

แต่สงสารแมท งานนี้ศึกหนักอีกแล้ว T T

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1282 เมื่อ05-05-2016 07:38:19 »

สงสารแมทอีกล่ะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1283 เมื่อ05-05-2016 08:39:48 »

โอะโอ

ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1284 เมื่อ05-05-2016 09:09:22 »

ลำไยมาทั้งสวน ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก  :z6: ลิซ่าเป็นเธอเองสินะ รำคาญคนในตระกูลวิคเตอร์มาก แล้วพ่อไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ ใช้ผู้หญิงคนเดียวกันกับลูก จะอ้วก แล้วยังมาทำเรื่องทุเรศๆกับแมทโดยการพาคู่หมั้นลูกตัวเองมาหยามอีก คนแบบนี้ต้องสั่งสอนให้หนัก เอาเลยแมท สู้เขา!!! :katai4:

ออฟไลน์ Glitterycandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1285 เมื่อ05-05-2016 10:44:05 »

คนใกล้ตัวทุกคนเลยยย แมทยังจะเชื่อใจใครได้อีก

 #สงสารแมท ดูสิอิยักษ์จะทำไง

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1286 เมื่อ05-05-2016 11:08:27 »

ถ้าแค่ยัยลิซ่าแมทคงแค่ช็อค แต่จากเหตุการณ์ที่พี่วิคปฎิเสธยัยนี่แมทคงพอตั้งสติได้ แต่กับไดอาน่า ถ้ามาแบบนางเอกขนาดนี้ แมทจะสู้ไหวมั้ย

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1287 เมื่อ05-05-2016 11:10:00 »

ปวดหัวแทนจริงๆเลนค่ะแมท ผัวหนูนี่เป็นที่ต้องการของตลาดเายจีง

งานนี้ยอกคำเดียวเลยว่าต้องโคตรสตรองค่ะลูก

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1288 เมื่อ05-05-2016 11:42:25 »

โอยยย
มีความวุ่นวายในชีวิต
ถ้าเราเป็นแมทคงสตรองไม่ออกอะบอกเลย

ขอบคุณคนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Only You|| {EP.37 50%}:05.05.59:
«ตอบ #1289 เมื่อ05-05-2016 13:42:48 »

เราแม่ง ๆ ตั้งแต่แรกแล้วว่าเจ้คนนี้ต้องมีซัมทิงบางอย่างแน่ ๆ เพราะวิคเตอร์ดูจะเกลียดเธอมากกว่าแม่เลี้ยงทั่วไป เราเดาเอาว่าเจ้คงหลอกกินเด็กน่ะ แต่กำลังลุ้นว่ามีก่อนแต่งกับพ่อหรือว่ามีหลังน่ะ แล้วแฟนที่รู้ก้อรับไม่ได้เลยเลิกกับวิค 555 ตอนนี้แมทจะสตรองไหม ลุ้นต่อไปมาอัพเร็ว ๆ น่ะ แต่ชอบการโต้ตอบของแมทกับพ่อมาก  o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด