✥ Jurassic Heart ✥ดวงใจ กลายพันธุ์รัก ≯กลายรักพิเศษ❧ อานโน่≮ P.37 29/05/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ถ้าเรื่องนี้มีภาคต่อ(แต่คู่อื่น)...นักอ่านมีความคิดเห็นว่ายังไงคะ?

ดีๆ...อยากอ่านอีก
353 (88%)
เฉยๆ...แต่งมาก็อ่านนะ
12 (3%)
ไม่ดีๆ...จบแค่นี้ดีกว่า
9 (2.2%)
อื่นๆ...แล้วแต่นักเขียนว่าจะแต่งหรือไม่
27 (6.7%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 401

ผู้เขียน หัวข้อ: ✥ Jurassic Heart ✥ดวงใจ กลายพันธุ์รัก ≯กลายรักพิเศษ❧ อานโน่≮ P.37 29/05/59  (อ่าน 350138 ครั้ง)

ออฟไลน์ neno.jann

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
เรารออยู่น้าคนแต่งงงงง

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
แนวเรื่องแบบนี้ น่าสนใจนะ ไม่นึกเลยว่าจะเอามาเล่น เหอๆๆ ท่าจะดราม่าแห๊ะ เขียนออกมาให้ไม่ดราม่ามากนักได้ไหมอ่าาา

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
กลายรักครั้งที่❧2




ตลอดเวลาตั้งแต่เกิดมาถ้ามีคนถามว่าประสบการณ์ไหนที่คุณรู้สึกตกใจหรือประหลายใจกับมันมากที่สุด ไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่ กล้าบอกเลยว่าเป็นตอนนี้ ตอนที่ผมเห็นไดโนเสาร์ที่มีความสูงกว่า7เมตรกลายเป็นมนุษย์ไปต่อหน้าต่อตา


ภาพเหตุการณ์ยังคงติดตาผมอยู่เลยทั้งที่ตอนนี้ไดโนเสาร์ตรงหน้าถูกแทนที่ด้วยผู้ชายผิวสีแทนที่มีร่างกายสมส่วนออกบึกบึนไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับมนุษย์ปกติ เส้นผมสีเทาที่มีบางเส้นเป็นสีส้มแซมสลับไปมา สีเดียวกับลายพาดที่หลังเมื่อตอนเป็นไดโนเสาร์...


ผู้ชายตรงหน้านอนล้มลงไปกับพื้นทำให้ไม่สามารถเห็นหน้าตาได้


“พ่อทำอะไรลงไปน่ะ?!!!”ผมหันไปตะโกนใส่พ่อเสียงดังจนใกล้เคียงกับคำว่าตวาด


“ก็แค่ผสมพันธุ์”


“ไม่ต้องมาตอบเสียงอ่อยเลย...ถ้าเป็นการผสมสายพันธุ์ของไดโนเสาร์ผมจะไม่ว่าเลยแต่นี่มันเป็นการผสมคนกับไดโนเสาร์...พ่อต้องการอะไรถึงได้ทำแบบนี้น่ะ?...ไดโนเสาร์กินเนื้อเป็นสัตว์ที่ดุร้ายจนไม่มีใครควบคุมมันได้และการที่พ่อผสมโทรโอดอนเข้าไปทำให้มันฉลาด...สุดท้ายพ่อใส่ยีนส์ของมนุษย์ลงไปเพื่อให้มันคิดเป็น!!! พ่อกำลังสร้างอะไรอยู่กันแน่?!!”ผมตะโกนออกไปอย่างเหลืออด


ไม่เข้าใจในสิ่งที่พ่อทำเลยจริงๆ


“นั่นแหละคือสิ่งที่พ่อต้องการ”พ่อตอบกลับมาก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจัง


“ห๊ะ?”


“พ่ออยากให้ไดโนเสาร์คิดเป็นและคิดมากกว่าที่ไดโนเสาร์ปกติคิด”พ่อยังคงอธิบายต่อ


“หมายความว่า...”


“ก่อนอื่นพ่อขอถามว่าลูกรู้ข่าวที่ไดโนเสาร์หลุดออกจากกรงบ่อยแค่ไหน?”พ่อหันมาถามด้วยสีหน้าที่จริงจัง


“...ประมาณเดือนละ2-3ครั้ง”


“แล้วจำนวนมนุษย์ที่ต้องตายเพราะเข้าไปจับไดโนเสาร์ล่ะ?”


“...หลายสิบคน...บางทีก็เป็นร้อย”ผมตอบไปตามที่ได้ยินข่าวมา


“พ่อรู้และคิดมาตลอดว่าไม่สมควรสร้างไดโนเสาร์ขึ้นมา...ไม่ควรทำให้มันมีชีวิตเพราะพวกมันจะล่าทุกอย่างที่มีชีวิตบนโลก ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็ได้ทำให้พ่อทิ้งจิตสำนึกทุกอย่างไปจนไดโนเสาร์จำนวนมากถือกำเนิดขึ้น...”


“...”ผมยืนฟังสิ่งที่พ่อกำลังบอกอย่างเงียบๆแล้วเริ่มคิดตาม


“พอมารู้ตัวอีกทีไดโนเสาร์ก็ฆ่าชีวิตไปมากมายทั้งคนที่ให้อาหารคนที่ดูแล...ทั้งที่พวกเรารักแต่ไดโนเสาร์กลับไม่รับรู้ถึงเรื่องนี้ ในทุกๆเดือนมีแต่ข่าวไดโนเสาร์หลุดและมีคนมากมายต้องตายลงและพ่อเป็นคนทำให้พวกเขาต้องตายเพราะสร้างไดโนเสาร์ขึ้นมา...”


“พ่อ...”


“พ่อรู้ว่าผิดแต่จะให้พ่อฆ่าไดโนเสาร์พวกนี้พ่อก็ทำไม่ได้...จนในที่สุดพ่อก็นึกขึ้นมาได้ว่าไดโนเสาร์แต่ละสายพันธุ์ต่างก็มีจ่าฝูงและหัวหน้า อาจมีบางสายพันธุ์ที่อยู่เดี่ยวๆแต่ก็มีศรัตรูที่ไม่กล้าเข้าใกล้...”


“หรือว่า...”ผมเริ่มรู้แล้วว่าสิ่งที่พ่อต้องการคืออะไร


“ใช่...พ่อคิดว่าถ้าไดโนเสาร์หลุดออกมาสิ่งเดียวที่จะหยุดได้ก็คือไดโนเสาร์ด้วยกันเองแต่เพราะความดุร้ายที่พอๆกันทำให้พ่อคิดว่าควรใส่ยีนส์ของโทรโอดอนที่มีสมองมากที่สุดกับมนุษย์ลงไปเพื่อให้คิดเป็น...เพื่อจะได้มีไดโนเสาร์ที่สารมารถสื่อสารทั้งมนุษย์และไดโนเสาร์ได้ รวมทั้งยังเป็นราชาของเหล่าไดโนเสาร์ในยุคนี้ ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงการรตายอย่างเปล่าประโยชน์ของมนุษย์คงลดลง”พ่ออธิบายทุกอย่างพร้อมกับมองเข้าไปในกระจก ร่างของลูกผสมระหว่างไดโนเสาร์กับมนุษย์ค่อยลุกขึ้นยืนด้วยสองขา...
ด้วยร่างกายที่ไม่คุ้นชินกับน้ำหนักทำให้ร่างนั้นต้องทรุดตัวลงกับพื้นอีกครั้งเส้นผมสีเทายาวรกรุงรังปิดใบหน้าไว้จนแทบมองไม่เห็น


ตอนนี้ผมเข้าใจความหมายที่พ่อสร้างเขาขึ้นมาแล้วล่ะ...จริงอยู่ว่าการทำแบบนั้นจะช่วยลดการสูญเสียได้อย่างมากมายเพราะสายพันธุ์ไดโนเสาร์ที่ผสมลงไปเป็นสายพันธุ์ที่เรียกว่าเป็นสุดยอดของเหล่านักล่า ไดโนเสาร์ที่หลุดออกจากกรงคงรีบวิ่งกลับเข้ากรงทันทีเมื่อเห็นแน่


แต่นั่นหมายถึงเราสามารถสื่อสารกับเขารู้เรื่องละก็นะ


“ผมเข้าใจล่ะ...แล้วพ่อสื่อสารกับเขาได้ไหมล่ะ?”ผมถามสิ่งที่อยากรู้ที่สุดออกไป


“...”พ่อหันมามองผมด้วยสายตาเศร้าๆก่อนจะส่ายหัวไปมา


นั่นไง...


ไม่ได้จริงๆด้วย...ถึงจะมียีนส์ของมนุษย์แต่ก็มียีนส์ของไดโดเสาร์กินเนื้ออยู่ถึง4ชนิดภายในร่างไม่มีทางที่จะสื่อสารกันได้ง่ายๆแน่...


“ทำไมพ่อไม่เอายีนส์ของไดโนเสาร์กินพืชที่เป็นมิตรลงไปแทนไดโนเสาร์กินเนื้อเล่าอย่างน้อยๆก็จะได้ไม่อันตราย”ผมพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นมาได้ นี่ถือเป็นการทดลองแรกเพราะงั้นก็น่าจะลองอะไรที่มีความเสี่ยงน้อยๆก่อนไม่ใช่มาทีแรกก็เสี่ยงตายขนาดนี้


“...จริงด้วย”พ่อเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดผม...


แปลว่าพ่อไม่ได้นึกถึงเลยสินะ!


ในหัวพ่อคงคิดว่าไดโนเสาร์ที่ต้องเป็นราชาของไดโนเสาร์ในยุคนี้ต้องเป็นพวกกินเนื้อเท่านั้นทั้งที่พวกกินพืชก็มีมากมายที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีเกาะป้องกันที่มากกว่าสายพันธุ์กินเนื้ออีก ดีไม่ดีถ้าสื่อสารกันเข้าใจก็สามารถให้มนุษย์เข้าไปช่วยเสริมได้


“พ่อ!!”


“ขอโทษ...พ่อลืมนึกเรื่องนี้ไปสนิทเลย”


“แล้วพ่อจะทำยังไงต่อล่ะ?...เขาอยู่ในนี้มาสองปีแล้วใช่ไหม?”ผมรัวคำถามใส่พ่อ


“พ่อไม่รู้กะว่าจะมาขอความเห็นลูก...ส่วนอีกคำถามใช่เขาอยู่ในนี้มาสองปีแล้ว”พ่อตอบคำถามผมเสียงอ่อย


“เขาได้ออกไปข้างนอกบ้างไหม?”ผมยังคงถามต่อ


“ได้ออกไปช่วง2เดือนแรกแต่หลังจากนั้นก็พาออกไปไม่ไหว...คนที่พาออกไปตอนนี้นิ้วขาดเพราะโดนเขาจัดการไปแล้ว”คำพูดของพ่อทำให้ผมอยากเป็นลมจริงๆ


“พ่อเลี้ยงเขาโดยให้อยู่แต่ในที่แคบๆแบบนี้ไม่ได้นะ!...แล้วทำไมถึงเลี้ยงตัวเดียวล่ะก็รู้นี่ว่าไดโนเสาร์ถ้าถูกเลี้ยงเดี่ยวจะเข้าสังคมไม่เป็นนี่เป็นพื้นฐานของพื้นฐานเลยนะ!!”ผมบ่นออกไปอย่างเหลืออด


“ก็พ่อคิดว่าถ้าเลี้ยงดูเหมือนเป็นมนุษย์และให้อยู่กับมนุษย์มากๆจะดีกว่า...ใครจะคิดว่ามันไม่ได้ผลล่ะ”เป็นอีกครั้งที่พ่อพูดเสียงเศร้า


“ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากเลี้ยงเขาเหมือนไดโนเสาร์ตัวนึงแล้วก็ปิดข่าวเรื่องการทดลองนี้ซะไม่งั้นเกิดเรื่องแน่”ตอนนี้ผมคิดหนทางอื่นไม่ออกเลยจริง


“ลูกไม่ลองไปคุยกับเขาดูหน่อยเหรอ?”


“พ่อจะให้ผมไปเป็นอาหารเขารึไงครับ!”ผมสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว


“ไม่ใช่นะ...แค่คิดว่าลูกอาจสื่อสารกับเขาได้ขนาดไทเซอราท๊อปยังเชื่องกับลูกเลย”


“นั่นมันไดโนเสาร์กินพืช...ถ้าเข้าหาดีๆใครก็ทำได้”ผมบอกออกไปก่อนจะถอนหายใจอย่างปลงๆ...เมื่อ4ปีก่อนที่มาที่เกาะนี้ผมได้มีโอกาสเข้าไปช่วยรักษาฝูงไทเซอราท๊อปที่ป่วยเพราะโรคระบาดทำให้หลายคนที่นี่คิดว่าผมเป็นสัตวแพทย์


ถึงจะเรียนด้านการเพาะเนื้อเยื่อเป็นวิชาเอกแต่วิชาโทผมก็การแพทย์ไดโนเสาร์นะครับ


“งั้นนี่ก็ต้องทำได้เหมือนกันแหละ”


“เหมือนที่ไหนกัน”


“แล้วลูกคิดว่าพ่อในยีนส์ของมนุษย์คนไหนลงไปกันล่ะ?”คำถามของพ่อทำให้ตัวผมชะงักพร้อมกับประมวลความคิดในสมอง...
ก็ใช่ที่ยีนส์ของมนุษย์นั้นมากมายจนนับไม่ถ่วยและของแต่ละคนก็แตกต่างกันไปตามพันธุกรรม...แต่ถ้าจะเป็นยีนส์ที่ใส่ลงไปผสมกับไดโนเสาร์ก็ต้องเป็นคนที่มีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจพูดง่ายๆก็ต้องเป็นยีนส์ที่มีความพิเศษ


เดี๋ยวนะ...ถ้าพ่อถามว่ามนุษย์คนไหนแปลว่าต้องเป็นคนใกล้ตัวที่สามารถหาดีเอ็นเอมาได้ง่ายๆโดยไม่ถูกจับถ้าขืนวิ่งไปเจาะเลือดใครมาแล้วเอามาใส่ลงในไดโนเสาร์ถ้าเจ้าของรู้เรื่องต้องกลายเป็นเรื่องระดับประเทศแน่


คนใกล้ตัวพ่อ...


อย่าบอกนะว่า...


“...พ่อ...คงไม่ใช่ว่าเป็นยีนส์ของ...”ผมเว้นคำพูดไว้ก่อนจะชี้นิ้วเข้าหาตัวเองโดยในใจก็ภวนาขอให้ผู้ชายตรงหน้าส่ายหัวด้วยเถอะ


“...ตามที่ลูกคิดเลย”พ่อบอกพร้อมกับพยักหน้าขึ้นลง


พระเจ้า...อยากจะบ้าตายจริงๆ


มีพ่อแม่ที่ไหนเอายีนส์ลูกตัวเองไปผสมใส่ในไดโนเสาร์บ้างเล่า!!!


“พ่อจะบ้าเหรอ!...ผมฟ้องพ่อได้เลยนะ!!”


“พ่อรู้ว่าลูกไม่ทำหรอก”พ่อบอกเสียงอ้อน


“ทำไมไม่เอายีนส์ของตัวเองหรือของแม่เล่าทำไมต้องเป็นผม?”


“ก็เพราะยีนส์ลูกมีความสมบูรณ์และพร้อมที่สุดไงล่ะ”


“คำตอบสิ้นคิด!”ผมสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว


“โหยลูกรักช่วยพ่อหน่อยเถอะ”พ่อพูดพร้อมกับวิ่งเข้ามากอดผมไว้


“ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะสื่อสารกับเขาได้นี่”


แค่ใช้ยีนส์ผมไม่ได้หมายความว่าเขาต้องฟังผมหรือจะสื่อสารกันได้ ถ้าจะเอาตรงๆยีนส์ผมก็มาจากพ่อแม่นั่นแหละถ้าพ่อยังทำไม่ได้แล้วผมจะทำได้ยังไง!


“ลองดูก็ไม่เสียหายนี่ลูก...นะเซโคร”


ผมยังคงส่ายหัวเพื่อยืนยันคำตอบ


“น่านะเซโคร”


ผมยังคงยืนกรานคำตอบ


“นะนะนะนะครับ...นะลูกรัก”


“...ครั้งเดียวนะ”สุดท้ายผมก็ยอมจนได้


“เยี่ยม...งั้นเข้าไปเลยได้เวลาให้อาหารพอดี...เอ้ย...ได้เอาอาหารไปให้...เอ๊ะ...ทำไมคำพูดมันเหมือนจะส่งลูกไปเป็นอาหารเลยล่ะ”


“ได้เวลาไปหยิบอาหารให้เขาแล้วใช่ไหม?”ผมส่ายหัวกับความบ๊องของพ่อตัวเอง


“ใช่ๆ...ตามพ่อมาเลย”ผมตามพ่อเข้าไปที่ห้องด้านข้างภายในห้องสีขาวเต็มไปด้วยตู้เย็นขนาดใหญ่และโถวขวดแก้วที่ใส่อาหารเม็ดเรียงเอาไว้เป็นแถว


ผมมองพ่อที่เดินไปเปิดตู้เย็นยักษ์แล้วลากเนื้อวัวสีแดงฉานที่ถูกเลาะหนังและกระดูกออกมาวางไว้บนโต๊ะยาวกลางห้องก่อนจะไปหยิบมีดมาแล่มันออกเป็นชิ้นขนาดrvประมาณก่อนจะโยนใส่ถังที่เตรียมไว้ด้านข้าง


“ทำไมพ่อไม่ให้คนอื่นแล่ไว้ให้ล่ะ?”ผมถามออกไปด้วยความสงสัย ระดับหัวหน้าองค์กรทำไมต้องมานั่งแล่เนื้อเองด้วย


“คนที่ทำหน้าที่แล่เนื้อและให้อาหารพึ่งลาออกไปเมื่อวาน”


“ทำไมล่ะ?”


“เพราะมือเกือบขาดตอนที่โยนอาหารไปให้”คำตอบที่ได้รับทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายดังเอื้อก


นี่ผมจะมีชีวิตรอดไปถึงวันพรุ่งนี้ไหมนะ


เซโครเดินหิวทั้งใส่เนื้อและอาหารเม็ดเต็มสองมือเข้าไปในห้องอีกด้านหนึ่งที่มีลักษณะเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กที่พอให้คนอยู่สัก5คน ตรงหน้าเป็นกรงซี่หนาที่ถูกทำเป็นตารางถี่ๆเพื่อป้องกันอันตรายจากสิ่งมีชีวิตที่อยู่ด้านใน


(...เซโครได้ยินพ่อไหม?)เสียงของพ่อดังขึ้นมาจากบูทูธที่ติดอยู่ที่หูซ้ายของผม


“ครับ...ได้ยินชัดเลย”


(ลูกต้องระวังให้มากถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลก็รีบหนีออกมาซะ)


“ได้ครับ”


(พ่อจะเปิดช่องกรงด้านซ้ายให้...เห็นไหม?)


“เห็นครับ”ผมตอบพ่อในขณะที่ขยับไปยังช่องกรงด้ายซ้ายที่ถูกเปิดออกเป็นช่องขนาดกลางที่เพียงพอจะส่งอาหารเข้าไปข้างในได้


(ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้รายงานได้เลยนะ)


“ครับพ่อ”


พอตอบกลับเสร็จผมก็หยิบเนื้อขึ้นมาชิ้นนึงแล้วใส่เข้าไปในช่องจนเนื้อตกลงไปที่พิ้นหญ้าด้างล่าง...ช่องส่งอาหารอยู่ระดับสายตาพอดีเมื่อผมนั่งลงทำให้ผมมีเวลามองสิ่งที่อยู่ภายในได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ถึงซี่กรงจะถูกทำเป็นตารางถี่ๆแต่ก็ยังสามารถมองเห็นด้านในได้แค่ไม่ชัดเท่านั้นเอง


“...”ผมเริ่มเกร็งตัวเมื่อสัมผัสได้ว่ามีเสียงอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวตรงมาทางนี้ พอจ้องมองดีๆก็พบกับร่างมนุษย์ที่ค่อยๆคลานหมอบเข้ามายังเนื้อที่ผมหย่อนลงไป ทั้งที่สายพันธุ์ที่ผสมลงไปเป็นสัตว์ที่ใช้สองขาเดินแต่กลับคลานมาแปลว่ายังไม่ชินกับร่างกายที่เบาไม่ถึง100กิโลสินะ


กรร


ตึง


เสียงครางในลำคอดังขึ้นพร้อมกับสิ่งมีชีวิตอีกฝากหนึ่งของกรงกระแทกเข้าใส่เต็มแรงจนเกิดเสียงดังลั่น เส้นผมยาวสีเทาที่ปิดใบหน้ากับเปิดออกจนสามารถมองเห็นผิวสีแทนกับดวงตาสีอำพันได้อย่างชัดเจน ใบหน้าที่ดูไม่ออกว่าหล่อหรือขี้เหล่จากการที่มีดินติดอยู่เต็มไปหมด ริมฝีปากซีดของมนุษย์กำลังคาบเนื้อวัวสีแดงก่อนจะกลืนลงท้องไปทั้งสดๆแบบนั้น


พอเนื้อชิ้นแรกหมดผมก็ค่อยๆหย่อนเนื้อชิ้นที่สองลงไปแต่ยังไม่ทันได้ปล่อยก็ถูกปากนั่นงับเนื้อทั้งชิ้นแล้วดึงจนหลุดมือไป...เมื่อกี๊เกือบจะงับมือผมไปด้วยแล้ว


ตึก ตัก ตึก ตัก


หัวใจผมมันเต้นรัวด้วยความกลัวและตกใจโยที่ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของตัวเองยังคงมองไปยังสิ่งมีชีวิตอีกฝากนึงของกระจกที่กลืนเนื้อลงไปอีกชิ้น...กว่าจะให้เนื้อหมดมือผมก็หวิดโดนงับไปไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแถมยังเสียงขู่คำรามและกระแทกกรงนั่นอีก


ดวงตาสีอำพันที่จ้องมาราวกับกำลังโกรธ โมโห หงุดหงิดและเคียดแค้นทำให้ผมจ้องดวงตาคู่นั้นกลับไปอย่างต้องการคำตอบว่าอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายเป็นแบบนั้น...มันคงไม่ใช่แค่สัญชาตญาณดิบที่ต้องการจะล่าเหยื่อเพียงเท่านั้นแต่ต้องมีอย่างอื่นด้วยสิ...


อะไรสักอย่างที่ผมก็บอกไม่ถูก


“นายโกรธอะไรน่ะ?”ผมลองถามอีกฝ่ายกลับไปแต่ก็ไม่ได้หวังว่าจะได้คำตอบหรอกนะ


กรร!


ตึง!


เป็นอีกครั้งที่เสียงครางต่ำดังขึ้นพร้อมกับแรงกระแทกที่กรงเหล็กหนา...อยากจะทำความเข้าใจแต่อีกฝ่ายคงไม่ให้ความร่วมมือ...ไม่สิ ผมยังไม่ทำแม้จะพยายามเข้าใจเลยนี่นา


ถ้าอยากได้ใจก็ต้องให้ใจ


คำพูดนี้ผุดขึ้นมาในหัวทำให้ผมทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าบ้าบิ่นถึงขนาดยื่นมือเข้าไปในกรงไดโนเสาร์พันธ์ผสมนั่น...


“โอ๊ย!!...”ผมร้องขึ้นแล้วดึงมือตัวเองกลับมาเมื่อสัมผัสได้ว่ามือตัวเองถูกกัดและกระชากอย่างแรงจนทั้งเจ็บทั้งชาไปทั้งมือ พอก้มลงมองก็เห็นมือที่โชกไปด้วยเลือดสีแดงฉานและบาดแผลบนมือ


ผมหันไปมองอีกฝากของกรงที่ไดโนเสาร์ลูกผสมยังคงจ้องมาพร้อมกับเลียเลือดผมที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากอย่างเชื่องช้าราวกับกำลังชิมรสชาติคาวๆของเลือดผมงั้นแหละ


(เซโครเกิดอะไรขึ้น?...ลูกร้องนี่)เสียงของพ่อดังขึ้นอย่างร้อนรน


“...ผมถูกกัดนิดหน่อยครับ”ผมบอกความจริงไป


(ว่าไงนะ?...แล้วเป็นไงบ้าง...ไม่สิ...เดี๋ยวพ่อปิดกรงแล้วจะไปหานะ)พ่อบอกด้วยน้ำเสียงร้อนรนก่อนที่ช่องให้อาหารจะถูกปิดลง


ดวงตาสีอำพันจ้องมาที่ผมเหมือนกำลังจะสื่ออะไรสักอย่างก่อนที่ร่างนั้นจะทรุดลงไปกองที่พื้นหญ้าแล้วบิดเร้าตัวอย่างรุนแรง แขนและขาค่อยขยายออกแล้วเปลี่ยนเป็นสีเทาเข้มเล็บอันแหลมคมค่อยๆจิกบนพื้นหญ้าเพื่อพยุงตัวเช่นเดียวกับส่วนหัวที่ขยายออกจาเส้นผมสีเทายาวนั่นหายไปแทนที่ด้วยเขาสองอันบนหัว ปลายของหนามค่อยๆแทงขึ้นมาตามแนวสันหลังไปจนถึงปลายหางที่ค่อยๆยาวขึ้น


ร่างมนุษย์ได้กลับกลายเป็นไดโนเสาร์เหมือนเดิมแล้ว


กรร!!!


ตึง!!


เสียงขู่คำรามดังลั่นห้องก่อนที่ส่วนหัวที่มีเขาสองอันจะกระแทกเข้ามาที่กรงเหล็กที่ผมนั่งอยู่...เขี้ยวอันแหลมคมทั้งบนล่างทำให้ผมต้องถอยหลังจนชิดกำแพง...ทั้งที่ในใจกลัวแทบตายแต่สิ่งที่ผมบอกออกไปเหมือนเป็นคำกวนไดโนเสาร์ตรงหน้า...


“...ครั้งหน้าฉันจะกัดนายคืน!!”


หลังจากที่พ่อเข้ามาช่วยแล้วลากไปห้องพยายาบาลที่อยู่ชั้น1ผมก็ต้องนอนนิ่งๆให้ทั้งนายแพทย์ใหญ่ที่ประจำการอยู่ทั้ง3คนตรวจอย่างละเอียด หนำซ้ำยังต้องถูกพ่อแท้ๆของตัวเองสแกนไปทั้งตัวเพื่อดูว่ามีตรงไหนได้รับบาดเจ็บอีกกว่าจะเสร็จทุกอย่างก็ปาไปช่วงดึกแล้วพ่อเลยมาส่งผมที่ห้องพักส่วนตัวแล้วขอไปทำงานต่อ


เซโครทิ้งตัวลงบนเตียงกลางห้องแล้วยกมือข้างซ้ายที่ถูกพันผ้าไว้ขึ้นมาดู...ถือว่ายังโชคดีที่อยู่ในร่างมนุษย์เพราะถ้าอยู่ในร่างไดโนเสาร์มือข้างนี้คงถูกกลืนลงไปอยู่ในท้องแล้วย่อยสลายกลายเป็นอุนจิแล้วล่ะ


ถึงจะกลัวแต่ในใจลึกๆของผมบอกว่าน่าจะสื่อสารกับไดโนเสาร์ลูกผสมนั่นได้เพียงแค่คงต้องพยายามอย่างหนักจนถึงหนักมากที่สุด สัตว์ทุกชนิดย่อยมีสังคมและการสื่อสารที่แตกต่างกันถ้าผมพอจะจับจุดและสื่อสารได้มันจะช่วยให้ผมเข้าใจมากขึ้นว่าไดโนเสาร์ตัวนั้นกำลังคิดอะไรอยู่


การกลายร่างที่ยังไม่สเถียรเหมือนกับว่ายังควบคุมตัวเองไม่ได้ทำให้ผมคิดว่าต้องหาทางช่วยก่อนที่จะเกิดอาการคลุ้มคลั่งเพราะไม่เข้าใจในตัวเองซึ่งมันคงแย่มากถ้าอาการเป็นแบบนั้นแล้ว


เซโครนอนคิดทั้งคืนว่าควรจะทำยังไงเพื่อจะสื่อสารกันได้แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีความคิดอะไรดีๆเลยสักอย่างเดียว...ผมเลยต้องจำใจออกจากห้องทั้งที่ไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลยนั่นแหละ


แต่ถึงจะคิดอะไรไม่ออกแต่ผมก็ไม่มีทางยอมแพ้อย่างแน่นอน


มันคงเป็นเรื่องตลกถ้ามีใครบอกว่ามนุษย์สามารถสื่อสารกับไดโนเสาร์ได้และผมคงเป็นคนแรกที่จะหัวเราะก๊ากขึ้นมาอย่างไม่อายใครแต่ตอนนี้มันมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริง...


ความเป็นไปได้ที่มนุษย์สามารถสื่อสารกับไดโนเสาร์ได้และถ้าผมทำสำเร็จ...ไดโนเสาร์ตัวนั้นคงจะได้ออกมาเดินข้างนอกเหมือนกับมนุษย์คนนึง


“พ่อครับผมอยากเข้าไปในกรงให้อาหารเมื่อวานอีก”ผมเดินเข้าไปหาพ่อในห้องแล็บทดลองชั้น2


“เซโคร?...เข้าไป?...ลูกจะเข้าไปอีกเหรอทั้งที่มือลูก...”พ่อละมือออกจากเครื่องมือตรงหน้าแล้วมองลงไปยังมือข้างซ้ายที่พันผ้าพันแผลไว้


“ผมไม่เป็นไร...ผมอยากลองดูอีกครั้ง...ผมรู้สึกว่าสามารถสื่อสารกับเขาได้”ผมบอกพ่อออกไปด้วยน้ำเสียงแน่วแน่น


ดวงตาสีอำพันที่จ้องมาเหมือนจะสื่อความหมายอะไรสักอย่างก่อนที่จะกลายเป็นไดโนเสาร์...ความรู้สึกในตอนนั้นเหมือนอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง


“นี่ลูกเอาจริงเหรอ?...พ่อคิดว่าควรถอดใจกับงานวิจัยนี่เพราะมีคนเจ็บตัวมากเกินไปแต่ลูกบอกว่าอยากลองอีกครั้งเหรอ?”สีหน้าของพ่อเต็มไปด้วยความกังวลแต่ประกายในแววตานั้นเหมือนกำลังคาดหวังในสิ่งที่ผมพูดออกไป


“ครับ...ผมอยากลองอีกครั้ง”


“งั้นตามมา...พ่อจะเอาลายนิ้วมือลูกไปลงทะเบียนและอนุญาติให้เข้าห้องใต้ดินชั้น2ได้ตามใจรวมถึงอุปกรณ์ทุกอย่างที่อยู่ที่นั่นด้วย”พ่อบอกแล้วลากผมออกไปจากห้องทดลอง


“ขอบคุณครับพ่อ”


“แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นลูกต้องกดสัณญาณฉุกเฉินทันทีสัญญานะ”พ่อกันมาบอกด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง


“สัญญาครับ”


กว่าจะลงทะเบียนลายนิ้วมือกับจัดการเรื่องต่างๆเสร็จก็กินเวลาไปหลายชั่วโมงและแล้วผมก็เข้ามาหยุดอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่ไว้สำหรับให้อาหารอีกครั้งนึง…


ครั้งนี้ผมเตรียมพร้อมเพราะใช้ที่คีบเนื้อแทนมือตัวเองเพื่อความปลอดภัย...แม้จะไม่ใช่เวลาอาหารแต่ในเมื่อผมอยากเจอตัวก็คงต้องล่อด้วยอาหารเท่านั้น ห้องกระจกมือพื้นที่ประมาณ30x30เมตรซึ่งถือว่ากว้างสำหรับมนุษย์แต่ก็ถือว่าแคบสำหรับไดโนเสาร์


ผมคีบเนื้อแล้วโยนลงไปบนพื้นหญ้าให้ไกลพอสมควรแล้วรอว่าเมื่อไหร่อีกฝ่ายจะโผล่ออกมา...เมื่อรอได้สักพักต้นไม้ใหญ่ด้านหลังก็เริ่มขยับพร้อมกับเสียงเดินของสิ่งมีชีวิตเพียงตัวเดียวที่อาศัยอยู่ ส่วนแรกที่ปรากฏออกมาให้เห็นคือหัวกระโหลกอันใหญ่โตตามมาด้วยร่างกายสีเทาเข้มที่มีลายพาดสีส้มที่เดินออกมา


ดวงตาสีอำพันจ้องมองมาอย่างไม่ไว้ใจก่อนจะค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้และจัดการเนื้อที่ตกอยู่บนพื้นหญ้าผทเลยอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายกำลังกินหย่อนเนื้อลงไปเพิ่มโดยให้ระยะหางระหว่างเราแคบลงทีละนิดๆจนในที่สุดส่วนหัวขนาดใหญ่ก็เข้ามาใกล้จนห่างกันไม่ถึงเมตร


“นี่...เมื่อวานนายกัดมือผมเป็นแผลรู้ไหม?”ผมเปิดการสนทนาพร้อมกับชูมือซ้ายที่พันแผลไว้ขึ้นไปให้ดู


อีกฝ่ายที่มองมาก็ทำเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางรูจมูกขนาดใหญ่แล้วจัดการเนื้อชิ้นต่อไปที่อยู่บนพื้น


“ไม่คิดจะขอโทษหรือสำนึกหน่อยเหรอ?”ผมยังคงหาเรื่องพูดไปเรื่อยเพื่อดูว่าปฏิกิริยาจะเป็นยังไงแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็ยังคงเป็นความเงียบและนิ่งเฉยเหมือนเดิม


“ผมชื่อเซโครนะ...ยินดีที่ได้รู้จักคุณโทรโอ ทาร์แรพ โซนอร์ ซอรัส”ผมพูดแนะนำตัวออกไปก่อนจะคลียิ้มให้ไดโนเสาร์ตรงหน้าบางๆ


“รู้ไหมว่าพอผมพูดชื่อสายพันธุ์นายที่ไรรู้สึกปวดหัวทุกทีเลย...ทั้งยาวทั้งไม่เพราะ...”


“จริงสิ...งั้นผมตั้งชื่อให้นายดีกว่า”ผมยังคงพูดกับตัวเองต่อไปโดยที่ไดโนเสาร์ลูกผสมพอกินเสร็จก็ทำท่าจะเดินกลับเข้าไปภายในป่าขนาดเล็ก


“เดี๋ยวๆ....จะไม่อยู่รอผมตั้งชื่อก่อนเหรอ?”ผมรีบบอกห้ามแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ฟัง


“งั้นผมตั้งชื่อเห่ยๆให้เลยละกน...เป็นไดโนเสาร์ก็ชื่อเสาร์เป็นไง?...ฮะฮะฮะ”


กรร!!!


ตึง!!


ทันทีที่ผมพูดจบร่างกายอันใหญ่โตก็กระแทกเข้าที่กรงหนาพร้อมกับเสียงคำรามดังกึกก้อง...เสียงที่บ่งบอกถึงความโกรธและหงุดหงิดจนผมต้องผายยิ้มออกมาเมื่อได้รับการตอบสนอง


แปลว่าสามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่ผมพูดเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อตัวเองก็เลยโกรธ...หรืออาจแค่รำคาญที่ผมพล่ามมากก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่าขอคิดในแง่ดีไว้ละกัน


“ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนั้นเลย...ไม่เอาชื่อเสาร์ก็ได้...อืม...นายอยากชื่ออะไรล่ะ?”ผมลองถามไดโนเสาร์ที่กำลังสะบัดหัวตัวเองเพราะมึนที่จากแรงกระแทกเมื่อครู่


“ยากเหมือนกันแฮะการตั้งชื่อน่ะ...อืมๆ...ไดโน...ซอรัส...สไป...”ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่รู้ว่าจะเอาชื่อไหนดีนะ


ยังไงก็เป็นไดโนเสาร์แถมพ่อยังตั้งชื่อสายพันธุ์ไปแล้วก็ควรเป็นชื่อที่เอามาจากสายพันธุ์สินะ...โทรโอดอน แรพเตอร์ สไปโน โซนอร์


“...ยูทาร์...ยูทาร์ดีไหม?...มาจากยูทาห์แรพเตอร์ไง?”ผมถามอย่างกระตือรือร้นที่คิดออกว่าจะเรียกชื่ออีกฝ่ายว่ายังไง


“ต่อจากนี้ผมจะเรียกนายว่ายูทาร์นะ!!”ผมประกาศก้องพร้อมรอยยิ้ม

...................................................................................

มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์



โทรโอดอน (Troodon หรือ Troödon) เป็น ไดโนเสาร์ กินเนื้อที่จัดว่าเป็นไดโนเสาร์ทีมีความฉลาดมากที่สุด ไดโนเสาร์โทรโอดอนเป็นไดโนเสาร์ที่มีชีวิตอยู่ใน ช่วงครีเตเชียสตอนปลาย พบได้ ในประเทศอเมริกาและคานาดา ไดโนเสาร์โทรโอดอนจัดว่าเป็นไดโนเสาร์ที่มีขนาดเล็กกว่า ไดโนเสาร์พันธุ์อื่น ๆ เพราะโครงสร้างที่บอบบาง ลำตัวมีความยาวประมาณ 1.8 เมตร ข้างกะโหลกศีรษะของมัน ค่อนข้างแตกต่างจากไดโนเสาร์พันธุ์อื่น ๆ เพราะบริเวณด้านหลังและด้านข้างของจมูก จะมีโครงกระดูกแหลมโผล่ออกมา ฟันมีลักษณะแหลมและเป็นซี่เล็ก ๆ ตาโต ทำให้สามารถ มองเห็นวัตถุต่าง ๆ ได้ดี มีนิ้วมือสำหรับตะครุบ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : http://www.trueplookpanya.com/true/blog_diary_detail.php?diary_id=12890

................................................................................

สวัสดีคะ

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ที่มากมายทั้งที่พึ่งลงเพียงตอนแรก

ดีใจมากที่มีคนสนใจแนวแปลกๆแบบนี้กันมากขนาดนี้

ปลื้มมากคะ :hao5:

ตอนนี้พอจะมีความคืบหน้านิดหน่อยเนอะ...ค่อยๆเป็นค่อยๆไปละกันคะ

สำหรับการอัพจะมาอัพอาทิตย์ละครั้งนะคะหรือถ้าอาทิตย์ไหนว่างอาจมาอาทิตย์ละ2ครั้งแล้วแต่ภาระกิจที่มีคะ

ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นท์และกำลังใจนะคะ

จะพยายามพัฒนาฝีมือในการแต่งให้มีมากขึ้นอีกคะ

ปล.มีใครอยากได้ฉากไหนเป็นพิเศษไหมคะ?(ยกเว้นncนะเพราะคงมีแน่นอนแต่ไม่ใช่เร็วๆนี้คะ)

ปล.2เรื่องนี้ปราศจากดราม่านะคะใครที่เป็นกังวลว่าจะมีฉากพระเอกตาย นายเอกถูกกิน รับรองว่าไม่มีหรอกคะ
       
       คนแต่งชอบแนวหวานๆที่ออกแนวรักโรแมนติกค่า...อาจมีดราม่าบ้างแต่ไม่มากจนเกินไปคะ

ไว้เจอกันในตอนนหน้านะคะ :mew1:

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2015 20:23:47 โดย nicedog »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
โฮๆๆๆๆ ขอหวานๆเลยไม่ได้เหรอคะ ถ้าเรื่องนี้ไม่ได้ขอเรื่องถัดไปก็ได้ ><

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ชอบบบบ
น่ารักอ่ะะ ยูทาร์ๆๆๆๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ ice.sp0211

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อยากให้ยูทาร์กินเซโครทั้งตัว....

 :z1: :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
ไดโนเสาร์ตัวนี้น่ารักมากกกก

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เอาใจช่วยเซโครนะค้าา ^^ ยูทาร์ตัวร้ายต้องสยบให้กับเซโครแน่นอน~

รอตอนต่อไปนะค้าา.. :impress:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ allegiant1994

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ไดโนเสาร์น่ารัก5555555 :hao7:

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
คุณพ่อเล่นคัดเลือกว่าที่ลูกเขยลูกกับมือเลย

ยูทาร์ ถ้าสื่อสารได้แล้วจะเป็นคนยังไงนะ

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ออกมา2ตอนเซโครของเราก็เจ็บตัวซะแล้ว แต่ไม่เป็นไร เพื่ออนาคตอันสดใสของทั้ง2คน
แอบคิดว่าคุณพ่อของเซโครน่ารักอ่ะ ยิ่งตอนอ้อนให้ลูกชายช่วยยิ่งน่ารัก อั้ยย๊ะ >< เป็น2พ่อลูกที่เข้ากันได้จริงๆ
อยากรู้แล้วสิว่าเซโครกัยพี่ไดโนเสาร์จะสานสัมพันธ์ยังไง ช่วงแรกๆคงยากน่าดูเลย เอาใจช่วยน้าาาาา
มีนสพ.ติดต่อมาแล้ว ว๊าวๆๆๆๆๆ เรื่องนี้ก็มีแววจะได้ตีพิมพ์สิเนี่ย รอนะคะ เรื่องแนวนี้เราช๊อบชอบ อิอิอิ
มาต่ออีกเร็วๆน้าาาา อยากอ่านต่อแล้ว

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
คุณพ่อออ ผสมตัวอะไรออกมาคะเนี่ยยย มั่วซั่วมากมาย 555555
เซโครรีบสื่อสารกับยูทาร์ให้ได้ไวๆ น้า
เป็นกำลังใจให้จ้า >_<

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
รอให้คุยกันรู้เรื่องแทบไม่ไหวแล้ววววว
พยายามเข้านะเซโคร!!!!!

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
นี่แทบรอเค้าคุยกันรู้เรื่องไม่ไหวแล้ว คงจะมุ้งมิ้งน่าดู

ออฟไลน์ mimasopu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ขอให้อาทิตย์นี้ว่างนะจะได้มาอัพ2ครั้ง
ดูท่าพ่อไดโนเสาร์หนุ่มจะข้หงุดหงิดนะ สงสัยสื่อสารกับคนส่วนใหญ่ไม่รู้รเรื่อง
ต้องมีแต่้องเซโครวนี่แหละที่จะพอรู้เรื่องบ้าง สุดท้ายก็ได้ชื่อสั้นๆซะทีนะยูทาร์นะ
ดูจากลักษณะแล้วยูน่าจะโกรธที่มาขังเขาไว้แน่ๆ
ให้รีเควสฉากพิเศษใช่มะ เรารออ่านตอนน้องยูทาร์ฮีทอะ สัตว์มันจะมีช่วงฮีทใช่มะ จินตนาการไดโนเสาร์ตอนฮีทไม่ออก555

จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ พลอตแบบนี้ชอบสนุกลุ้นดี

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ได้ชื่อพระเอกแร้วววววว ยูทาร์~~~!!
ตอนต่อไปเซโครก้อสู้ๆนะ สานสัมพันธ์(?) กันเร็วๆนะจ๊ะ ^0^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
จะคุยกันรู้เรื่องหรือเปล่า  :katai5:

ออฟไลน์ kukkikkooka

  • insomnia~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
ทำไมรู้สึกว่าไดโนเสาร์น่ารักจัง 55555555

รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ April❤

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
โอ้ยยยชอบๆๆๆ
อยากให้ว่างมาลง2ครั้งทุกอาทิตย์เลย

ออฟไลน์ neno.jann

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
มาแล้วววว เรามารอทุกวันเลยยย ชอบมากๆๆ พ่อยูทาร์เราไปกัดเข้านาย?? แบบนั้นไม่ได้นะรู้มั้ยยย ยิ่งอ่านยิ่งน่าติดตามค่า  :z3:

ปล.ยินดีด้วยกับทางสำนึกพิมพ์ค่า

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
มาจิ้มมม
เรารอของนายทั้งสองเรื่องเลยนะ
ยูธาร์ เซโคร
ชื่อเเปลกดี 555

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
แอร๊ยยย น้องเสาร์ เอ้ย! ยูทาร์นายมีชื่อใหม่แล้วน้า~ดีใจไหม?(ผมนี้ดีใจมาก ฮ่าๆๆ)

เลือดน้องเซโครหวานอ่ะดิ แต่กินบ่อยๆไม่ได้นะ ต้องรอให้ถึงเวลา(?)ก่อนค่อยกินนะ..กินทั้งตัวเบย กร้ากกก :hao7:

บวกๆให้กำลังใจจ้า :mew1: #give me moreeee!

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
พล็อตแปลกดีค่ะ ติดตาม

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
กลายรักครั้งที่❧3




เวลาได้ผ่านเลยไปเป็นวันเป็นอาทิตย์จนถึงเดือน...ในทุกๆวันเซโครจะมานั่งให้อาหารยูทาร์วันละ2ครั้งและจะนั่งเล่าสิ่งต่างๆให้ฟังเป็นประจำเพื่อดูว่าจะมีปฏิกริยาอะไรกับมาบ้างไหมแต่นอกจากจะไม่มีท่าทีอะไรแล้วพอกินเสร็จก็รีบเดินหนีกลับเข้าไปด้านในทันทีราวกับรำคาญผม...


แต่ผมก็ไม่หยุดที่จะพล่ามให้ยูทาร์ฟังเพราะผมคิดว่าการพูดคุยและบอกหลายๆสิ่งจะทำให้อีกฝ่ายรับรู้เรื่องราวของโลกใบนี้มากขึ้นและยังสร้างความเชื่อใจ อย่างน้อยๆยูทาร์ก็ต้องจำกลิ่นและเสียงของผมได้บ้างแหละ


วันนี้ถือเป็นวันครบรอบสองเดือนตั้งแต่ที่ผมตั้งชื่อและเรียกชื่อยูทาร์มา...ผมเลยฉลองเลยการให้อาหารที่หลากหลายมากขึ้นโดยปกติผมจะให้แค่เนื้อวัวกับปลาแต่ครั้งนี้ผมให้เนื้อหมู เนื้อไก่และเนื้อแกะเพิ่มเข้าไป


“ยูทาร์...ได้เวลามื้อเที่ยงแล้วนะ”ผมตะโกนขึ้นพร้อมๆกับก้าวขาเข้าไปในห้องสำหรับให้อาหาร...ตั้งแต่วันที่ผมขอพ่อว่าจะลองสื่อสารกับไดโนเสาร์ลูกผสมตัวนี้ผมก็ได้ครอบครองห้องนี้เหมือนเป็นห้องของตัวเอง


ดูเหมือนนักวิทยศาสตร์คนอื่นๆจะไม่สนใจยูทาร์นักเพราะนิสัยที่ดุร้ายและก้าวร้าวกว่าไดโนเสาร์พันธุ์อื่นๆ...ผมก็ว่ายูทาร์ดุมากแต่ถึงจะอย่างนั้นเขาก็ต่างจากไดโนเสาร์ตัวอื่นเพราะสามารถรับรู้ได้ สักวันนึงผมต้องสื่อสารกับยูทาร์ได้แน่


ไม่สิ! ผมจะทำให้ยูทาร์พูดให้ได้!!


“นี่เราตังความหวังมากไปรึเปล่านะ...”ผมพึมพำระหว่างหย่อนเนื้อลงไปทางช่องให้อาหาร เสียงของใบไม้ที่เสียดสีกันทำให้ผมรู้ว่ายูทาร์กำลังจะมาแล้ว


ร่างของไดโนเสาร์ขนาดใหญ่กว่า8เมตรเดินตรงเข้ามาแล้วใช้ปากที่มีขากรรไกรอันใหญ่จัดการเนื้ออย่างรวดเร็วเหมือนอย่างทุกวัน...


ตอนนี้อยู่ในร่างไดโนเสาร์งั้นเหรอ


จากการที่เฝ้าสังเกตมาเป็นเวลานานกว่า2เดือนผมได้รู้มาว่าใน1วันยูทาร์จะเปลี่ยนร่างได้ไม่แน่นอนบางวันเป็นร่างมนุษย์2ครั้งและคงร่างอยู่ราว2ชั่วโมงแต่เวลาในการกลายร่างจะไม่แน่นอนบางวันในช่วงเวลาให้อาหารก็จะอยู่ในร่างมนุษย์บางทีก็จะอยู่ในร่างไดโนเสาร์


“ยูทาร์...รู้ไหมว่าข้างนอกมีท้องฟ้าที่มีทั้งเมฆและลมพัดทำให้รู้สึกสบายมากเลยนะ...ถ้ายูทาร์ได้ออกไปต้องชอบแน่ๆ...”ผมเริ่มพูดคุยระหว่างให้อาหารเหมือนปกติในทุกๆวัน


“ถึงในนี้จะเป็นห้องแอร์แต่อยู่มากๆก็ไม่ดีต่อสุขภาพนะ...ผมหวังว่าสักวันจะจะพายูทาร์ออกไปข้างนอกนั่น”


“ผมกำลังให้พ่อสร้างที่อยู่ให้ยูทาร์นะ...ความจริงก็เตรียมสร้างตั้งแต่วันแรกที่ยูทาร์เกิดแล้วแต่ตอนนี้ต้องทำการปร้บปรุงเพื่อให้อยู่ง่ายมากขึ้น...อีกไม่กี่อาทิตย์ก็คงเสร็จเรียบร้อยแล้ว”ผมยังคงเล่าเรื่องราวของโลกภายนอกให้ยูทาร์ฟังต่อไปเรื่อยๆจนอาหารที่มีในถังหมดแล้ว


เมื่ออาหารหมดผมเลยขยับแล้วถอยหลังไปนิดหน่อยจนพิงหลังเข้ากับกำแพงแล้วมองไปยังยูทาร์ที่หยิบเนื้อชิ้นสุดท้ายขึ้นมากิน...หลังจากที่กินยูทาร์ก็คงกลับไปด้านในเหมือนในทุกๆวันผมเลยหยุดพูดคุยแล้วเปลี่ยนมานั่งมองอีกฝ่ายเงียบๆแทน ความจริงผมก็รู้สึกเหนื่อยแล้วล่ะเมื่อคืนต้องอยู่ช่วยพ่อทำการวิเคาร์เนื้อเยื่อของทาไนสโตรพีอัสเลยได้นอนน้อยกว่าปกติ...


ทาไนสโตรพีอัสเป็นไดโนเสาร์มีขนาดยาวประมาณ 6 เมตร จุดเด่นคือมันมีคอยาวเฟื้อยเหมือนงูที่วัดได้ประมาณ 3-6 เมตรและมีน้ำหนักประมาณ1ตันกว่า มีขาที่ค่อนข้างสั้นทำให้มันตะเกียกตะกายเดินบนพื้นดินได้ไม่ดีนัก ดังนั้นมันจึงมีชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ในน้ำซึ่งมันสามารถที่จะวิ่งหรือเดินไปใต้น้ำได้อย่างรวดเร็วคอที่ยาวของมันนั้นสันนิษฐานว่าคงเอาไว้สำหรับการหายใจคือมันจะชูคอขึ้นมาหายใจ หรือมองอะไรๆได้ในขณะที่ตัวยังอยู่ใต้น้ำแม้มันจะมีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์แต่มันก็ไม่ใช่ไดโนเสาร์ นักวิทยาศาสตร์เพียงแค่จัดมันให้อยู่ในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานโบราณเท่านั้น...แต่พ่อของผมก็อยากคืนชีพมันขึ้นมาเพื่อให้คนรุ่นใหม่รู้จักกับทาไนสโครพีอัสมากขึ้น


เซโครนั่งเหม่อมองไปยังไดโนเสาร์ตัวใหญ่ที่หันดวงตาสีอำพันมาให้เห็นทั้งสองข้างก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับสติของผมที่ค่อยๆหายไปอย่างเชื่องช้า


เสียงลมหายใจดังขึ้นในระยะใกล้ทำให้ดวงตาสีเขียวอมฟ้มของเซโครลืมขึ้นมาอย่างงงงวยก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นภาพตรงหน้าชัดๆ...


ผมกระพริบตาปริบๆหลายต่อหลายเพื่อมองภาพตรงหน้าว่าเป็นความจริงไม่ใช่ความฝัน...ถึงมันจะเหมือนอยู่ในความฝันมากก็ตามที


ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ยูทาร์มานอนหลับสนิทอยู่ตรงหน้าผมข้างหน้ากรงเหล็ก...ร่างของไดโนเสาร์พันธุ์ผสมที่นอนลงกับพื้นหญ้า ดวงตาสีอำพันที่ปิดลงพร้อมกับเสียงหายใจที่ดังขึ้นทำให้ผมยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่อยู่...


ในที่สุดความพยายามตลอด2เดือนก็สัมฤทธิ์ผลแล้ว!!


ถ้าร้องไห้ออกมาได้ผมก็คงทำไปแล้วแต่ตอนนี้ผมต้องตั้งสติแล้วไม่ให้ความพยายามทั้งหมดนี่ต้องสูญเปล่า...ในเมื่อยูทาร์มาหลับต่อหน้าผม ผมก็ควรจะแสดงความจริงใจโดยการขยับเข้าไปใกล้กรงตรงหน้าอีกนิดจนระยะห่างของพวกเราแคบลงมีเพียงแค่ซี่กรงเหล็กที่กันพวกเราไว้เท่านั้น


“ฝันดีนะยูทาร์”ผมกระซิบบอกพร้อมกับหลับตาลงอีกครั้งแล้วปล่อยสติให้หายไปอย่างช้าๆโดยภวนาในใจไม่ให้ตื่นขึ้นมาแล้วมีเลือดอาบร่าง


ฝืด


เสียงหอบหายใจแรงๆทำให้สติผมค่อยๆกลับเข้าร่างก่อนจะลืมตาสีเขียวอมฟ้าขึ้นอย่างมึนงง...สิ่งแรกที่เห็นคือดวงตาสีเหลืออำพันอันแสนคุ้นเคย...


หื้อ?


สติผมกลับเข้าร่างอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคืออะไร...ผมจ้องไปที่ดวงตาสีอำพันนั่นอย่างตื่นตกใจเช่นเดียวกับเจ้าของดวงตาขนาดใหญ่ที่จ้องมาทางผม เสียงสูดหายใจเข้าออกที่ดังขึ้นข้างๆเหมือนกำลังถูกดมกลิ่นอย่างใกล้ชิด


ไม่มีเสียงขู่คำราม!


ไม่มีการเดินหนี!!


สองมือของเซโครค่อยๆยกขึ้นแล้วดึงแก้มตัวเองราวกับจะเช็กให้แน่ใจว่านี่ไม่ใช่ความฝันหรือจินตนาการที่เกิดขึ้นภายในหัวตัวเองและเมื่อความเจ็บแปร๊บแล่นเข้าร่างรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างรวดเร็ว...


ไม่ใช่ความฝัน!


นี่เป็นความจริง!!


“ยูทาร์...”ผมเรียกชื่อของไดโนเสาร์ตรงหน้าเบาๆด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข


ดวงตาเรียวคมสีอำพันยังคงจ้องมาที่ดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมราวกับจะสื่อความนัยบางอย่างที่ไม่อาจบอกได้แน่ชัดแต่สิ่งที่รู้คือเขาเริ่มเชื่อใจผมและรู้ว่าผมไม่ได้คิดร้าย


ผมค่อยๆยกมือขึ้นแล้วทาบลงไปตามซี่กรงเหล็กช้าๆบริเวณจมูกที่กำลังหายใจเข้าออกอยู่ พอผมวางมือทาบลงไปลมหายใจร้อนๆก็เป่ารดมือผมพร้อมกับเสียงหายใจที่ดังขึ้นกว่าเดิม


“นายกำลังทำให้ผมดีใจรู้ไหม?”ผมบอกออกไปด้วยรอยยิ้ม


“นี่เป็นครั้งแรกที่นายไม่ขู่ไม่คำรามและไม่เดินหนี...ขอบคุณที่เข้าใจ...ผมไม่ได้คิดร้ายผมอยากเป็นเพื่อนกับยูทาร์นะ”ผมพูดต่อแล้วขยับมือข้างที่วางทาบกับซี่กรงไปมาราวกับได้ลูบผิวของอีกฝ่ายจริงๆ


“ยูทาร์...”


แกร็ก!


“เซโครคุณฟรานเรียกน่ะ”เสียงเปิดประตูพร้อมกับเสียงเรียกทำให้ยูทาร์ที่สงบนิงลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วก่อนจะ...


กรรรรร!!!


ตึง!


เสียงคำรามดังกึกก้องพร้อมกับส่วนหัวที่กระแทกกรงเข้ามาอย่างบ้าคลั่งโดยที่สายตาจ้องไปยังผู้มาใหม่อย่างไม่เป็นมิตร ปากขนาดใหญ่ที่อ้าออกกว้างจนเห็นเขียวอันแหลมคมกับลิ้นขนาดใหญ่ที่ขบกัดซี่กรงแล้วใช้ขาหน้าข่วนกรงเหล็กจนเกิดเสียงดังลั่น


“พี่ครูช?”ผมเรียกชื่อแขกผู้มาใหม่ด้วยความตกใจแต่ดูเหมือนพี่เขาจะตกใจมากกว่าเมื่อเห็นยูทาร์ขู่คำรามใส่และข่วนกรงเหล็กอย่างแรงจนพี่เขาหงายหลังออกไปด้านอกทั้งที่ประตูยังเปิดอยู่


“ใจเย็นๆยูทาร์...ใจเย็นก่อนนะ”ผมพยายามบอกกับไดโนเสาร์พันธุ์ผสมที่ตอนนี้กำลังคลุ้มคลั่งขึ้นมาจนแทบไม่ยอมฟังอะไรถึงปกติจะไม่ฟังอยู่แล้วก็เถอะ


กรร!!


ตึง!


เมื่อเห็นท่าไม่ดีผมเลยรีบออกไปจากห้องให้อาหารแล้วปิดประตูที่เปิดอยู่เผื่อจะทำให้ยูทาร์สงบลงได้บ้าง...อาจเป็นไปได้ว่ายูทาร์ไม่ไว้ใจคนอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเข้ามาหาผมในขณะที่อยู่ในห้องให้อาหารแบบนี้...ผมได้รู้ข้อมูลอะไรหลายอย่างเพิ่มขึ้นเยอะพอดู


ถ้ายูทาร์ไม่ไว้ใจหรือไม่ชอบหน้าผมคงโดนเหมือนที่พี่ครูชโดนแล้วล่ะแปลว่าอย่างน้อยๆผมก็ได้รับความเชื่อใจที่ค่อนข้างสูงเลยสินะ...หรืออาจไม่ใช่แบบนั้นแต่เป็นเพราะพี่ครูชเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัวทำให้ยูทาร์ตกใจก็ได้


“พี่ครูชมีอะไรเหรอครับ?”ผมถามคนที่ยังนั่งอยู่บนพื้นห้องราวกับสติยังไม่กลับเข้าร่าง


“อ่อ...คือ...”


“ใจเย็นๆครับยูทาร์ไม่ทำอะไรคุณหรอก”ผมพูดปลอบพี่เขา คงจะตื่นกลัวเอามากแน่ก็เล่นโดนทั้งขู่ทั้งคำรามและยังมีการข่วนกรงอีก


“ไม่ทำอะไรเล่า!...ถ้าไม่มีกรงป่านนี้คงกลายเป็นอาหารไปแล้ว!!”พี่ครูชหันมาตวาดใส่ผมด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว


“ก็ใช่”ถ้าไม่มีกรงคงไม่ใช่พี่ครูชแต่ผมก็คงกลายเป็นอาหารไปแล้วเหมือนกัน


“สัตว์ประหลาดชัดๆเลย...เซโครไม่กลัวบ้างเหรอ?”พี่ครูชหันมาถามผมทั้งที่ตัวยังสั่นอยู่


“ตอนแรกก็กลัวแต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้วครับ...ผมว่าน่าจะเป็นเพื่อนกับเขาได้”ผมตอบยิ้มๆโดยที่หันไปมองยังประตูให้อาหารอีกครั้ง


“เราบ้าไปแล้ว...มนุษย์เป็นเพื่อนกับไดโนเสาร์ไม่ได้หรอก”


“ผมอยากลองดู”


“ทั้งที่รู้ว่าแทบเป็นไปไม่ได้น่ะเหรอ?”พี่ครูชถามกลับมา


“ครับ”


“แต่พี่ว่า...เฮ้ย!!...”ยังไม่ทันพูดจบพี่ครูชก็ถอยกรูดไปด้านหลังพร้อมกับชี้นิ้วไปยังด้านหลังผม


พอหันไปตามนิ้วมือที่ชี้ไปก็พบกับส่วนของกระจกใสที่ปรากฏภาพของไดโนเสาร์พันธุ์ผสมหรือยูทาร์กำลังมองมาพร้อมกับแยกเขี้ยวอันแหลมคม...เสียงคำรามยังคงรอดผ่านมาให้ได้ยินอย่างต่อเนื่องพร้อมกับส่วนหัวที่พยายามกระแทกกระจกออกมา


“ยูทาร์”ผมขมวดคิ้วพร้อมกับมองการกระทำของสิ่งมีชีวิตหลังกระจก


พอผมปิดประตูเพื่อไม่ให้มองเห็นแต่ยูทาร์กลับเดินมาตรงกระจกเพื่อจะมองเข้ามาภายใน...


ฉลาดมาก!


นั่นเป็นเพียงแค่คำเดียวที่ผมอยากมอบให้ยูทาร์


“พี่ออกไปรอข้างนอกก่อนเดี๋ยวผมตามออกไป”ผมบอกก่อนจะเตรียมเข้าไปในห้องสำหรับให้อาหารโดยมีดวงตาสีอำพันคู่ใหญ่จับจ้องมาที่ผมอยู่


“จะเข้าไปอีกเหรอเซโคร?”พี่ครูชเอ่ยด้วยน้ำเสียงตกใจ


“ครับ...ผมยังไม่ได้บอกลาเขาเลยนี่”ผมบอกพร้อมกับคลียิ้มแล้วหันไปมองยูทาร์ผ่านกระจกก่อนจะชี้นิ้วเป็นสัณญาณว่าผมจะเข้าไปในนี้ถ้าฉลาดจริงก็คงเดินตามมาแน่


เมื่อเข้าไปด้านในผมก็ต้องหลุดยิ้มออกมาเมื่อส่วนหัวอันใหญ่โตกับดวงตาสีอำพันนั้นยื่นออกมาจากทางด้านข้างซึ่งเป็นห้องกระจกที่ผมอยู่เมื่อครู่...


“นายฉลาดจริงๆด้วย”ผมบอกแล้วก้าวเท้าเข้าไปใกล้กรงมากขึ้นเหมือนกับที่ยูทาร์ก็เดินเข้ามาหาผมเหมือนกัน...เสียงคำรามที่ดังจนถึงเมื่อครู่เงียบหายไปอาจเป็นเพราะพี่ครูชออกไปจากห้องแล้วก็ได้


“ยูทาร์ไม่ชอบพี่ครูชเหรอ?...หรือแค่ตกใจที่พี่เขาเข้ามากัน?”ผมลองเอ่ยถามไปตามความเคยชินสิ่งที่ได้รับกลับมาคือเสียงพ่นลมหายใจแรงๆที่ออกมาทางจมูกขนาดใหญ่เท่านั้น


“ผมขอตีความเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่านายไม่เชื่อใจพี่ครูชแต่เชื่อใจผมน่ะ”ผมพูดขึ้นรอยๆพร้อมกับยิ้มกว้างออกมา


ยูทาร์ที่ยืนเต็มความสูงเกือบ8เมตรค่อยๆก้มหน้าลงมาจนดวงตาสีอำพันนั่นสบกับดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผม เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกว่ายูทาร์กำลังสื่อสารอะไรบางอย่างแต่ผมก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าคืออะไร เสียงครางในลำคอดังขึ้นสองสามครั้งก่อนจะเงียบลงแล้วยูทาร์ก็อ้าปากขนาดใหญ่ออกมาจนเห็นฟันแทบครบทุกซี่...


ทั้งที่ควรจะกลัวแต่ผมกับหลุดขำออกมาเพราะถึงจะอ้าปากโชวฟันแต่ยูทาร์ก็ไม่ได้ขู่หรือคำรามมีเพียงแค่เสียงครางที่ดังขึ้นในลำคอเท่านั้น


“อะไร?...นายอยากบอกอะไรเหรอ?...ผมต้องไปแล้วล่ะเห็นว่าพ่อเรียกผมอยู่...ไว้เสร็จงานแล้วจะมาหาใหม่นะยูทาร์”ผมพูดขึ้นพร้อมกับก้มลงไปเก็บถังใส่อาหารที่ยังไม่ได้เก็บแล้วเดินออกจากห้องไป


เซโครเดินออกมาด้านหน้าห้องแล็บทดลองก่อนจะหันซ้ายขวามองหาพี่ครูชแต่ก็ไม่พบในขณะที่กำลังจะเดินออกไปก็เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งแปะไว้ที่หน้าห้องทดลองผมเลยหยิบมันขึ้นมาแล้วอ่านเนื้อหาภายใน...


(มีต่อด้านล่างคะ)

ออฟไลน์ nicedog

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 588
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +366/-0
‘คุณฟรานให้ไปหาที่เขตA2...ขอโทษที่ไม่ได้อยู่บอกพอดีถูกเรียกตัว

                                                                  พี่ครูช’


พออ่านข้อความจบผมก็เดินไปที่ลิฟท์แล้วขึ้นไปชั้น1...เขตA2ที่ว่านี่คือเขตภายในกำแพงชั้นนอกสุดหรือส่วนของกำแพงชั้นแรกโดยแต่ละฐานที่ตั้งจะแบ่งเป็น3เขตคือ1-Aไว้สำหรับเพาะเลี้ยงไดโนเสาร์ตามอายุเช่นA1เป็นที่สำหรับอนุบาลไดโนเสาร์ตั้งแต่เกิดจนถึง12เดือนโดยจะแยกไว้เป็นโซนระหว่าพวกกินเนื้อกับพวกกินพืช


ส่วนA2ที่ผมกำลังไปคือพื้นที่สำหรับไดโนเสาร์ที่อายุ1ปีถึง3ปี...ที่พ่อเรียกไปก็พอรู้อยู่แล้วละว่าเรื่องอะไร เซโครเดินออกจากฐานที่ใช้สำหรับทดลองไปขึ้นรถที่จัดเตรียมที่ด้านข้างก่อนจะขับตรงไปที่เขตA2...บนเกาะนี้เส้นทางส่วนมากจะเต็มไปด้วยต้นไม้และพื้นหญ้าทำให้ขับรถไม่ค่อยสะดวกนักแต่พึ่งมีการถางหญ้าออกทำให้สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น


ผมใช้เวลาเดินทางประมาณ15นาทีก็มาถึงฐานหลักในเขตA2 ฐานที่ถูกทำจากเหล็กเนื้อดีถูกสร้างขึ้นเป็นตึกกลมเพื่อป้องกันการชนของไดโนเสาร์และคอยสอดส่องไดโนเสาร์ได้รอบทิศทาง


เมื่อจอดรถเสร็จผมก็สแกนมือแล้วเข้ามาภายในตัวตึกที่เป็นห้องกว้างสามารถมองขึ้นไปเห็นตั้งแต่ชั้น2จนถึงดาดฟ้าทำให้ตึกนี่ค่อนข้างโปร่งแต่แข็งแรงมาก


“เซโคร”เสียงอันคุ้นเคยทำให้ผมหันไปมองตามเสียงเรียกก่อนจะพบผู้ชายวัยกลางคนวิ่งเข้ามาโผลกอดผมไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก


“ผมอึดอัดนะพ่อ”


“ขอโทษๆ”พ่อเอ่ยพร้อมกับปล่อยผมออกจากอ้อมกอด


“แล้วเรียกมามีเรื่องอะไรเหรอ?”ผมถามทั้งๆที่พอเดาออก


“ก็เรื่องที่อยู่ของโทรโอ ทาร์แรพ โซนอร์ ซอรัสไง...ตอนนี้ใกล้เสร็จแล้วพ่อเลยอยากให้เราไปดูว่าโอเคไหมหรือต้องการจะปรับอะไรเพิ่มพ่อจะได้จัดการให้”และก็เป็นอย่างที่คิดเรื่องกรงของยูทาร์จริงๆด้วย


“แล้วกรงอยู่ทางไหนครับ?”


“ตามพ่อมาเลย”พ่อพูดก่อนจะเดินนำออกไปด้านนอกกรงขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นในระยะที่ห่างกันพอสมควรไดโนเสาร์อายุปีกว่าถูกเอาไว้ในนั้นแต่ถึงจะเรียกว่ากรงแต่ก็ดูจากด้านนอกไปก็ไม่เห็นด้านในเพราะถูกทำให้เป็นพื้นที่ปิดสำหรับพวกกินเนื้อแต่จะมีประตูปิดเปิดขนาดใหญ่ไว้สำหรับตอนขนย้ายไปไว้ที่อื่น


กรงของยูทาร์ที่พ่อนำมาตอนนี้สร้างเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้วความสูงที่กะคร่าวๆก็น่าจะ15เมตร...พ่อเดินนำเข้าไปฝั่งประตูบานใหญ่ที่กว้างประมาณ10เมตรก่อนจะเห็นภายในกรงที่เต็มไปด้วยพืชนานาพันธุ์ทั้งต้นเล็กต้นใหญ่


“ความกว้างของกรงนี้เท่าไหร่ครับ?”ผมถามขึ้นระหว่างที่นั่งลงเช็กสภาพดินที่ด้านล่าง...


ความชุ่มชื่นโอเคหน้าดินไม่อ่อนจนเกินไป


“กรงนี้มีเส้นผ่าศูนย์กลาง100เมตร...ส่วนความสูงก็15เมตร”


“พ่อควรเพิ่มความสูงไปอีกนะอย่าลืมว่ายูทาร์มีสายพันธุ์ของสไปโนซอรัสที่ได้ชื่อว่าตัวใหญ่ที่สุดถึงจะมียีนส์ของไดโนเสาร์อื่นผสมอยู่แต่ถ้ากระโดดอาจถึงขอบกำแพงก็ได้...ผมว่าน่าจะเพิ่มไปอีกสัก5เมตรเป็นอย่างต่ำ”ผมบอกพ่อที่ยืนสำรวจอยู่ข้างๆ


“จริงอยู่ที่สไปโนซอรัสตัวใหญ่แต่นี่เนพันธุ์ผสมนะ..สายพันธุ์อื่นที่ผสมไปก็ขนาดกลางทั้งนั้น”


“ถึงจะอย่างนั้นพ่อก็ควรจะเผื่อเอาไว้ถ้าเขากระโดดหนีไปเกาะนี้จะได้กลายเป็นเกาะไดโนเสาร์จริงๆน่ะสิ”ผมพูดต่อแล้วเริ่มเดินเข้าไปสำรวจภายในให้ลึกขึ้น


“ก็ได้ พ่อจะไปบอกช่างให้เพิ่มความสูงขึ้นอีก...แล้วมีอย่างอื่นที่ต้องปรับปรุงไหม?”พ่อหันมาถามแล้วหยิบสมุดขึ้นมาจดสิ่งที่ผมบอกไป


“มีครับ...น่าจะหลายอย่างด้วย...ผมไม่เห็นมีสระน้ำหรือบ่อน้ำในนี้เลย”ผมพูดขึ้นพร้อมกับเดินหาบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่ควรจะมีแต่กลับไม่มี


“มีนะแต่ขนาดความลึกกว้างแค่3เมตร”


“3เมตร?...แค่เอาหัวจุ่มไปก็ติดแล้ว...สไปโนซอรัสเป็นสัตว์ที่ใช้เวลาเกือบวันไปกับการหาอาหารในน้ำเลยนะ....ในชั้นใต้ดินทำสระน้ำไม่ได้นั้นผมเข้าใจแต่ที่นี่ยังไงก็ต้องมีสระน้ำแล้วความกว้างยาวลึกต้องมากกว่า20เมตร”ผมยื่นคำขาดแล้วหันไปมองหน้าพ่ออย่างเคืองๆ


“...แต่เขาสร้างจะเสร็จแล้วนะ”พ่อพูดเสียงอ่อย


“แล้วทำไมพ่อไม่บอกช่างตั้งแต่แรกเล่า?”


“ก็พ่อเห็นว่าไม่ต้องอยู่ในน้ำก็อยู่ได้เลยคิดว่าไม่ต้อง...”


“ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อยเลยพ่อ...เอางี้ละกันตรงประตูใหญ่นี่สร้างกรงอีกอันไว้สำหรับขุดสระสร้างให้ให้ประตูเปิดปิดอันนี้คู่กันไปเลย”ผมเสนอความเห็น


“ได้ๆถ้าแบบนั้นโอเค”พ่อตอบพลางจดข้อมูลลงสมุด


“อ้อ...ผมอยากได้ห้องเหมือนกับที่ให้อาหารยูทาร์ที่ห้องใต้ดินด้วย”ผมบอกออกไปเมื่อนึกออก


“ห้องให้อาหาร?...ลูกก็ให้จากด้านบนแทนไม่ได้เหรอทางช่างเขาจะสร้างสะพานไว้ด้านบนสำหรับเดินดูรอบๆกับให้อาหารด้วย”พ่ออธิบาย


“ไม่เอาครับ...แบบนั้นก็เห็นได้แต่ด้านบน...ผมอยากอยู่ในระนาบเดียวกันหรือที่ต่ำกว่านั้นถ้าจะให้ดีทำเป็นเหมือนกรงเหล็กขนาดเล็กที่คล้ายๆลิฟท์สำหรับเลื่อนขึ้นลงตามที่ต้องการแบบนั้นก็ดีนะ...พ่อให้พวกเขาทำให้ได้ไหม?”


“มันอันตรายนะถ้าเกิดกรงที่เป็นลิฟทนั่นเกิดถูกทำให้ตกไปลูกก็กลายเป็นอาหารน่ะสิ”


“ไม่ต้องห่วงครับ...ผมจะพยายามเป็นเพื่อนกับยูทาร์ให้ได้ก่อนแล้วค่อยใช้ลิฟท์ตามนี้นะครับ”


“ลูกจะเป็นเพื่อน?”พ่อพึมพำอย่างไม่แน่ใจในประโยคที่ผมเอ่ยออกไป


“ใช่ครับ...ตอนนี้เขาเริ่มไว้ใจผมแล้วเพราะงั้นผมมั่นใจว่าเขาจะเข้าใจได้ในไม่ช้าแน่นอน”ผมพยักหน้าพร้อมกับบอกพ่อด้วยความภูมิใจ


“จริงเหรอ?...สุดยอดเลยเซโคร...ขนาดคนที่ให้อาหารทุกวันยังไม่มีใครทำได้...ลูกมีพรสวรรค์ด้านนี้จริงๆ”พ่อพูดชมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มทำให้ผมยิ้มตอบกลับไปด้วย


“ผมจะพยายาม...อ้อ...พวกต้นไม้ใหญ่ๆน่ะเอาไปไว้หลังๆหน่อยดีกว่าถ้าไว้ตรงกลางแบบนี้อาจถูกวิ่งชนได้หรือถ้าอยากจะไว้ก็ใช้ปลูกรมกันสัก5ต้นตรงมุมนี้กับมุมนั้น...”ผมเริ่มอธิบายสิ่งที่คิดพร้อมกับพ่อที่เสนอความเห็นแทรกเข้ามาบ้างกว่าที่ทุกอย่างจะเสร็จก็ได้เวลามื้อเย็นข้อยูทาร์พอดี


เซโครเดินเข้ามาในห้องทดลองชั้นใต้ดินอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่คิดว่าการลงพื้นที่จริงจะเหนื่อยขนาดนี้ขนาดแค่เดินวนไปมาในกรงที่มีพื้นที่100เมตรงเองนะเนี่ยถ้าอีกกรงถูกสร้างเสร็จคงเหนื่อยกว่านี้แน่แต่ผมคิดว่ายูทาร์ต้องชอบแน่ๆก็เขาไม่เคยทั้งว่ายน้ำและดำน้ำนี่...


อยากรู้จังว่าจะเป็นยังไง


“ยูทาร์...”ผมเรียกชื่อไดโนเสาร์พันธุ์ผสมตรงหน้าด้วยความตื่นเต้น วันนี้ช่างเป็นวันที่มีวิวัฒนาการอย่างก้าวกระโดดอะไรจะขนาดนี้


ตอนเช้าได้นอนข้างๆโดยไม่มีเสียงขู่แถมยังทำท่าเหมือนจะสื่ออะไรบางอย่างออกมา...ตกเย็นก็มายืนมองอยู่ที่ตู้กระจกทั้งที่วันอื่นไม่เคยทำแบบนี้แท้ๆ


“ยูทาร์”ผมเดินเข้าไปใกล้ตู้กระจกพร้อมรอยยิ้มโดยที่สองมือถือถังใส่อาหารไว้อยู่ ส่วนหัวขนาดใหญ่ย่อลงมาเล็กน้อยจนจมูกมาอยู่ที่หน้าผมเสียงหายใจที่ดังขึ้นพร้อมกับกระจกที่เกิดฝ้าแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังดมกลิ่นผมอยู่...หรืออาจแค่หายใจก็ได้
แต่ถ้าแค่หายใจคงไม่ต้องก้มลงมาหรอกใช่ไหม?


“ผมจะเข้าไปให้อาหารนะที่ห้องนั้น”ผมพูดเสียงดังแล้ววางถังลงก่อนจะชี้ไปที่ห้องด้านข้าง ยูทาร์ที่มองตามนิ้วก็ค่อยๆเคลื่อนกายไปด้านนั้นอย่างช้าๆ


“เยส!!!”นั่นทำให้ผมชูกำปั้นของตัวเองขึ้นฟ้าพร้อมกับตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจ


ยูทาร์เข้าใจผมแล้ว!!


เซโครไม่รอช้าที่จะเข้าไปในห้องด้านข้างแล้วหันไปยิ้มให้กับไดโนเสาร์พันธุ์ผสมที่มีความสูงกว่า8เมตรด้วยความดีใจ...ผมค่อยๆใช้ที่คีบหย่อนนื้อไปให้ยูทาร์ที่อ้าปากรอรับอยู่ชิ้นแล้วชิ้นเล่า


“วันนี้ผมไปดูบ้านใหม่ของยูทาร์มาด้วยนะ....รู้ไหมว่าในนั้นมีต้นไม้เต็มไปหมดเลยแถมยังกว้างมากๆยูทาร์สามารถวิ่งเล่นได้เลยนะ...”ผมเริ่มเล่าสิ่งไปเจอมาวันนี้ให้ฟังระหว่างที่ให้อาหาร


“แถมยังมีต้อง2ห้องแนะ...อีกห้องผมเป็นคนคิดให้เลยยูทาร์จะได้มีที่ว่ายน้ำใหญ่ๆไง...รู้จักไหมว่ายน้ำน่ะ...เขาทำกันแบบนี้ไง”ผมบอกพร้อมกับยกแขนขึ้นแล้วทำท่าว่ายน้ำให้ดู


“ถ้าวันนึงผมสามารถเข้าไปว่ายน้ำเล่นด้วยได้ก็คงดีเนอะ...ยูทาร์อยู่ตัวเดียวก็คงจะเหงาใช่ไหมแต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วเพราะผมจะอยู่กับยูทาร์เอง...พวกเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”


“น่าแปลกเนอะที่ผมรู้สึกผูกพันธ์กับยูทาร์มากทั้งที่เราเจอกันแค่2เดือนเอง...มันเหมือนกับได้เจอเพื่อนสนิทที่จากกันนานงั้นแหละ...”


เซโครยังคงพูดคุยต่อไปเรื่อยๆด้วยรอยยิ้ม...ไม่รู้ว่าความมั่นใจนั่นมาจากไหนแต่มันค่อยๆมีมากขึ้นจนผมเชื่อว่าสักวันต้องเป็นเพื่อนกับอีกฝ่ายได้แน่...ร่างของมนุษย์ที่ปรากฏออกมาเป็นบางครั้งถ้าสอนให้ยูทาร์ควบคุมการกลายร่างได้ยูทาร์ก็จะกลายเป็นมนุษย์ปกติ


“ถ้ายูทาร์กลายร่างเป็นมนุษย์แล้วพูดได้นะผมจะพายูทาร์ไปเที่ยวที่บ้านเกิดผมและมหาวิทยาลัยที่ผมจบมา...จะพาไปทุกๆที่ที่ยูทาร์อยากไปเลยนะ...ผมจะตั้งมันไว้เป็นความฝันและต้องทำให้ได้...”


“เรามาพยายามด้วยกันนะ...ผมจะพยายามเข้าใจยูทาร์เพราะงั้นยูทาร์ก็ต้องพยายามเข้าใจผมด้วยนะ”ผมเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตาสีอำพันนั่นก่อนจะยิ้มกว้างออกมา ยูทาร์ฟังสิ่งที่ผมบอกเงียบๆพร้อมกับกินอาหารที่ผมคีบส่งไปให้


ความจริงผมก็อยากจะป้อนด้วยมืออยู่หรอกแต่ก็อันตรายไปถึงยูทาร์จะไม่มีเจตนาที่จะกัดแต่เขาคงจะกะแรงไม่ถูกว่าแค่ไหนถึงจะไม่ทำให้มือผมขาดไปพร้อมกับชิ้นเนื้อ


พออาหารหมดผมก็นั่งเอาหลังพิงกับซี่กรงเหล็กที่มีเสียงลมหายใจดังขึ้นจากทางด้านหลัง...ยูทาร์ไม่ได้เดินกลับไปเหมือนเมื่อวานแต่กลับอยู่ข้างๆผมเหมือนเมื่อเช้า


“...ยูทาร์อยากอยู่ข้างๆผมเหรอ?”ผมเอียงคอไปถามผ่านซี่กรงเหล็ก


ยูทาร์ไม่ได้ตอบกลับมาแต่ก็ไม่ได้ลุกหนีสิ่งที่ทำมีเพียงดมกลิ่นผมผ่านทางซี่กรงเท่านั้น...บางทีก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องดมหลายครั้งหรือว่ากลิ่นตัวผมจะเปลี่ยน?


“ผมก็อยากอยู่ข้างๆยูทาร์นะ”ผมบอกออกไปตามความจริง...ตั้งแต่มาทำงานที่นี่อย่างจริงจังคนที่ผมคุยด้วยมากที่สุดก็คือยูทาร์นี่แหละ


ถึงผมจะมีคนที่รู้จักอยู่บ้างแต่พวกเขาก็เอาแต่ทำงานกันตั้งแต่เช้าถึงเย็นไม่ค่อยมีเวลามาพูดคุยกับผมนักหรอกเรียกได้ว่าตอนนี้ผมรู้สึกสนิทกับยยูทาร์มากกว่าคนอื่นที่อยู่ที่นี่ซะอีก


“จริงด้วยยูทาร์มาถ่ายรูปกันดีกว่า”ผมพูดขึ้นอย่างนึกสนุกแล้วควักเอามือถืออกมาจากกระเป๋าเสื้อ


กล้องหน้าถูกเปิดขึ้นพร้อมกับมือผมที่ยกมือถือขึ้นแล้วเอียงองค์ศาให้เห็นทั้งและยูทาร์ที่อยู่ที่ฝั่งนึง ทันทีที่ผมกดถ่ายแสงแฟร็ชที่ลืมปิดก็ทำให้เสียงขู่คำรามที่หายไปกลับมาอีกครั้งนึง


กรร!!


ตึง!


ยูทาร์ขู่คำรามเสียงดังพร้อมกับอ้าปากแยกเขี้ยวออกมาแล้วพ่งเข้าชนซี่กรงเหล็กอย่างแรงงจนเกิดเสียงดังตึงติดกันหลายต่อหลายครั้ง


“ยูทาร์...ใจเย็นๆ...ผมขอโทษไม่ต้องตกใจนะ...ผมขอโทษ”ผมรีบพร่ำบอกขอโทษและหวังว่าจะได้รับการอภัย...
ผมมันบ้าที่ลืมปิดแฟร็ช!


การถ่ายรูปครั้งนี้อาจทำลายความเชื่อใจที่สะสมมาตลอด2เดือนให้หายไปในพริบตา...ทำไมผมึงไม่คิดอะไรให้รอบคอบกว่านี้นะ!!


“ผมขอโทษยูทาร์...ใจเย็นๆ...สงบลงซะนะเด็กดี”ผมพยายามส่งเสียงบอกยูทาร์ที่วิ่งเข้าชนกรงเหล็กนับครั้งไม่ถ้วนจนส่วนหัวเริ่มมีเลือดไหลออกมา


“ยูทาร์หยุดนะ...เลือดนายไหลใหญ่แล้วเห็นไหม?”ผมตะโกนลั่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว...เพียงแค่เห็นเลือดที่ไหลลงมาจากส่วนหัวนั่นความเจ็บปวดของยูทาร์ก็เหมือนจะสื่อมาถึงผมด้วย...


คนที่ทำให้ยูทาร์เลือดออกก็คือผมเอง


“หยุดเถอะ...นายเจ็บมากแล้วนะ”ผมบอกเสียงอ่อนแล้วขยับไปยืนด้านหน้าของยูทาร์ น้ำตาที่ไหลลงมาผมปล่อยให้มันไหลต่อไปโดยไม่เช็ดมันสักนิดตอนนี้ผมต้องหยุดยูทาร์ก่อน


กรร!!!


ยูทาร์ที่คลุ้มคลั่งเริ่มสงบลงอย่างช้าๆดวงตาสีอำพันก้มลงมาจนอยู่ในระดับสายตาผม...ภาพสะท้อนของผมที่ยืนน้ำตาไหลอยู่ตรงหน้ายูทาร์ปรากฏอยู่บนดวงตาคู่ใหญ่เหมือนกำลังสงสัยว่าน้ำที่ไหลออกมานั่นคืออะไร


“ยูทาร์...ดีมาก...เด็กดี”ผมพูดขึ้นพร้อมกับขยับเข้าไปใกล้กรงมากขึ้นแล้วทาบมือลงบนกรงเหล็กอย่างเชื่องช้า...เสียงหอบหายใจที่ดังถี่แสดงให้เห็นว่ายูทาร์ใช้แรงไปเยอะพอดู


“ผมขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ”ผมบอกออกไปด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดและหวังว่ายูทาร์จะให้อภัย


เสียงพ่นลมหายใจดังขึ้นแรงๆจนน้ำมูกของยูทาร์เปรอะตัวผมเต็มไปหมดถึงจะถูกกันด้วยกรงแต่ก็ยังเลอะมากอยู่ดี


“นี่เอาคืนผมเหรอ?”ผมหันควับไปถามเสียงแข็งแล้วอมยิ้มเมื่อได้รับการยกโทษแล้ว


ฝืด!!


เสียงพ่นลมหายในดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับของเหลวจำนวณมากที่ปะทะเข้าร่างผมอย่างต่อเนื่องจนผมต้องนั่งลงกับพื้นแล้วขดตัวเป็นก้อนกลมๆเพื่อหลีกหนีน้ำมูกพวกนั้น


พอยูทาร์เหมือนจะพอใจก็หยุดการกระทำแล้วเดินหันหลังไปที่อื่นท่ามกลางเสียงตะโกนตามหลังที่ผมส่งออกไปด้วยความขุ่นเคืองปนดีใจ...


“ฝากไว้ก่อนเถอะ!!”

...........................................................................................

มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์



ทาไนสโตรพีอัส(Tanystropheus) มีขนาดยาวประมาณ 6 เมตร จุดเด่นคือมันมีคอยาวเฟื้อยเหมือนงูที่วัดได้ถึง 3 เมตร(10 ฟุต) สามารถยืดออกได้ไกลอีกด้วย แต่มีขาที่ค่อนข้างสั้น ทำให้มันตะเกียกตะกายเดินบนพื้นดินได้ไม่ดีนัก ดังนั้นมันจึงมีชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ในน้ำ ซึ่งมันสามารถที่จะวิ่ง หรือเดินไปใต้น้ำได้อย่างรวดเร็ว คอที่ยาวของมันนั้น สันนิษฐานว่าคงเอาไว้สำหรับการหายใจ คือมันจะชูคอขึ้นมาหายใจ หรือมองอะไรๆได้ในขณะที่ตัวยังอยู่ใต้น้ำ และจับปลากินด้วยคอที่แสนจะอภิมหายาวของมัน และหากหาปลาไม่ได้มันก็จะหาสัตว์น้ำชนิดอื่นกินแทน แม้มันจะมีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์แต่มันก็ไม่ใช่ไดโนเ สาร์ นักวิทยาศาสตร์เพียงแค่จัดมันให้อยู่ในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานโบราณ ฟอสซิลของมันถูกพบที่ยุโรปและตะวันออกกลาง

แหล่งที่มา: http://www.online-station.net/entertainment/story/106

...............................................................................

สวัสดีคะ

มาอัพตอนต่อไปแล้วนะคะ

ตอนนี้เห็นคือความคืบหน้าของทั้งคู่เลยเนอะ

จะพยายามแต่งให้มีไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ๆเข้ามาในแต่ละตอนนะคะ...หวังว่าจะถูกใจทุกคนกัน

สำหรับตอนหน้าเราอยากแต่งในมุมของยูทาร์บ้างแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเข้าถึงอารมณ์ของไดโนเสาร์มากแค่ไหน(ก็เราเป็นมนุษย์นี่เนอะ555)

ขอขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจและคอมเม้นท์นะคะ

เรื่องนี้มีคนคอมเม้นท์เยอะรู้สึกมีกำลังใจในการแต่งและจะมาต่อให้เร็วๆนะคะ

ไว้เจอกันใหม่ในตอนหน้านะ :mew1:

nicedog

♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ยูธาร์ น่ารักจัง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด