กลายรักครั้งที่❧10(ครึ่งหลัง)
พอจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยพวกเราก็ค่อยๆเข้ามาภายในกรงยักษ์โดยมียูทาร์เป็นผู้นำ...ถ้าพูดกันรู้เรื่องคงไม่ต้องกลัวว่าจะถูกโจมตี...ผมยืนมองยูทาร์ที่ครางต่ำในลำคอพร้อมกับเหล่าเทอราโนดอนกับไดมอร์โฟดอนที่บินลงมาแล้วส่งเสียงดังแข่งกันไปหมด
“คุณยูทาร์คุยกับไดโนเสาร์ได้เหรอคะ?”หญิงสาวด้านหลังสะกิดแล้วถามอย่างสงสัย
“ครับ...คุณน่าจะพอรู้เรื่องการทดลองที่ตัดต่อยีนส์ไดโนเสาร์รวมกับมนุษย์แล้วใช่ไหม?”ผมลองถามดู
“คะ”
“ยูทาร์นี่แหละไดโนเสาร์ที่มียีนส์ของมนุษย์”พอผมบอกออกไปอีกฝ่ายก็เบิกตากว้างแล้วเอามือปิดปากตัวเองเพื่อไม่ให้ส่งเสียงกรี๊ดออกมา
“ไม่ต้องห่วงเขาไม่ทำร้ายใคร...ถ้าคุณไม่ทำร้ายเขาก่อนนะ”
“นะ...แน่นอนคะ”
เซโครมองดูยูทาร์ครางเสียงต่ำบ้างสูงบ้างเหมือนกำลังสนทนากับเหล่าฝูงไดโนเสาร์มีปีกที่ล้อมหน้าล้อมหลังอยู่...พวกไดโนเสาร์รู้สึกจะสนใจยูทาร์มากจนไม่สนใจผมหรือคุณซาล่าเลยสักนิด
“เซโคร...พวกเธอบอกว่าอยากได้ผมไปเป็นสามีล่ะ”ยูทาร์เดินมาบอกผมแล้วทำท่างงว่าคืออะไร
“สามี?...ไม่ๆๆ...ไม่ได้นะ...ปฏิเสธพวกเธอไปซะ!”ผมรีบบอกยูทาร์กลับไปอย่างรวดเร็ว...
นี่ยูทาร์โดนไดโนเสาร์จีบ?
แถมยังจีบทั้งที่อยู่ในร่างมนุษย์ด้วย?
“ปฏิเสธไปแล้วล่ะ...เพราะเธอบอกว่าถ้าเป็นสามีแปลว่าต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดแต่คนที่ผมอยากอยู่ด้วยตลอดคือเซโคร...งั้นให้ผมเป็นสามีเซโครแทนได้ไหม?”
ห๊ะ?
เดี๋ยวนะ...ทำไมคุยไปคุยมาถึงมาจบด้วยประโยคนี้ได้ล่ะ?
“อ่อ...ไม่ดีมัง”ไม่ดีมากด้วยล่ะ
“ไม่ได้เหรอ?...งั้นผมก็อกหักแล้วสิ”
“ห๊ะ?...ว่าอะไรนะ?”เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ยินคำว่าอกหักจากปากยูทาร์...ก็ผมไม่เคยสอนแล้วจะรู้ได้ยังไงล่ะพวกศัพท์ขั้นสูงแบบนั้นน่ะ
“อกหักไง...เธอบอกว่าถ้าถูกปฏิเสธแปลว่าอกหักแล้วก็ต้องไปหาคนอื่นแทน”
“เดี๋ยวก่อนๆ...เรื่องมันชักไปกันใหญ่แล้ว...กลับมาก่อนยูทาร์”ผมบอกอีกฝ่ายแล้วกุมหัวตัวเองเพื่อคิดอย่างหนัก
ไดโนเสาร์รู้เรื่องอกหักกับหาคนใหม่ได้ยังไงกัน...หรือว่าไดโนเสาร์เองก็เป็นเหมือนมนุษย์ที่มีความรักหรืออกหัก?
ไม่ใช่ว่าผสมพันธ์เพราะถึงฤดูงั้นเหรอ?...เดี๋ยวนะ...รู้สึกว่าจะมีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่มีการแย่งคู่กันแปลว่านั่นคือการแย่งคนรักสินะ...ผมรู้สึกเหมือาจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจแฮะ
“เซโคร...รักเซโครนะ”
ตึก ตัก ตึก ตัก
หัวใจที่สงบนิ่งเต้นถี่รัวราวกับมีกลองมาตีงั้นแหละ...ไอ้คำสารภาพนั้นมันคืออะไรรร~
ใครสั่งใครสอนให้ทำหน้าหล่อแล้วบอกรักแบบนั้น...อย่างงี้หัวใจมันก็เต้นแรงน่ะสิ
“พะ...พูดบ้าอะไร?!”หยุดสั่นสิ...บอกให้หยุดสั่นไงเสียงผม
“เธอบอกว่าก่อนจะเป็นสามีต้องสารภาพรักก่อน...ผมเลยลองทำตาม”สิ้นคำตอบของยูทาร์ผมก็มองไปยังเหล่าฝูงเทอราโนดอนด้านหลังเขม็งราวกับจะบอกพวกเธอว่าเลิกสอนอะไรแปลกๆให้ยูทาร์สักที!
กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยผมก็แทบลมจับ...ดูเหมือนเหล่ดูเหมือนเหล่าเทอราโนดอนจะชอบยูทาร์จริงเพราะไม่ว่ายูทาร์จะเดินไปไหนก็กระโดดตามอยู่ตลอด มีแค่ไดมอร์โฟดอนที่เกาะดูอยู่ตามกิ่งไม้ไกลๆ
จำนวนของเทอราโนดอนที่ต้องย้ายไปมี12ตัวกับไดมอร์โฟดอนอีก8ตัว...ผมมอบงานเลือกตัวที่จะไปให้ยูทาร์ทั้งหมด ก็เล่นสนิทกันขนาดนั้นก็น่าจะเลือกได้ดีสุดล่ะ
“เฮ่อ...”พอทุกอย่างเสร็จผมก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน...ทำไมรู้สึกเหนื่อยได้ขนาดนี้นะ
“เซโครเป็นอะไร?”ยูทาร์เดินเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง
“แค่เหนื่อยนิดหน่อยน่ะ...”
“เซโครรรร~”ยังไม่ทันพูดจบเสียงของผู้ชายคนนึงก็ตะโกนแทรกก่อนจะคว้าตัวผมไปกอดไว้แน่น...กลิ่นเปรี้ยวที่สำผัสทำให้รู้ได้ในทันทีว่าคนที่กอดผมอยู่คือ ฟรานซิส เบนซ์ ฟงเซ่หรือพ่อของผมนั่นเอง
“พ่อ...อึดอัดนะ”ผมบอกพยายามดิ้นให้พ่อปล่อยแต่พ่อก็ไม่ยอมแถมยังส่งยิ้มกว้างจนตาปิดมาให้ก่อนจะ...
จุ๊บ
“พ่อ!”ผมตะโกนเสียงดังทันทีที่ถูกจุ๊บที่หน้าผากเบาๆ
“ฮะฮะฮะ...ลูกหน้าแดงเป็นมะเขือเทศเลย...ยูทาร์ๆ...ก่อนนอนลองทำแบบที่พ่อทำเมื่อกี๊ดูนะแล้วเซโครจะนอนหลับสนิทเลย”พ่อเปลี่ยนเป้าหมายจากผมไปยังเซโครที่ยืนมองอยู่ข้างๆแทน
“เซโครชอบเหรอครับ?”
“แน่นอน...ตอนเด็กๆอ้อนพ่อทุกวันว่าจูบหน้าหน่อยไม่งั้นผมไม่นอน...ตอนนั้นน่ารักสุดๆเลย”
เซโครมองพ่อคุยกับยูทาร์อย่างสนุกสนานด้วยใบหน้าเซ็งๆ มือข้างนึงถูกยกขึ้นมาแล้วถูกบริเวณที่โดนจุ๊บแรงๆพลางบ่นพ่อตัวเองในใจ...ก็จริงที่ตอนเด็กๆชอบให้พ่อจูบหน้าผากก่อนนอนแต่นั่นเป็นเรื่องตอนอายุ6ขวบพอโตมาอีกหน่อยก็ไม่ได้อ้อนพ่อแล้วแต่ถึงอยากจะอ้อนพ่อก็ไม่อยู่ให้อ้อนอยู่ดี
“ผมจะลองทำดูครับคุณฟราน”
“เรียกพ่อเหมือนเซโครก็ได้...เราก็เป็นเหมือนลูกชายคนนึงของพ่อนะ”พ่อตอบกลับแล้วตบหลังยูทาร์เบาๆ
“ครับพ่อ”
เอาเข้าไป...เข้าขากันเข้าไป
ใช่สิ...ตอนนี้ผมมันหมาหัวเน่าแล้วนี่
“ยืนงอนอะไรอยู่ล่ะเซโคร...อ๋อ...กลัวพ่อไม่รักใช่ไหมล่ะ?...พ่อรักลูกชายคนนี้ที่สุดเลย”พ่อหันมาบอกแล้วหมายจะวิ่งเข้ามากอดผมอีกรอบแต่ผมจับทางได้เลยหลบทัน
“เลิกเล่นน่าพ่อ...มีเรื่องอะไรใช่ไหม?”ผมถามเข้าประเด็น...ไม่มีทางที่คนระดับพ่อจะมาเดินเล่นที่นี่ถ้าไม่มีเรื่องอะไรหรอก
“สมแล้วที่เป็นลูกพ่อ...คือเมื่อเช้าพ่อได้โทรศัพท์จากแม่น่ะ”
“แม่เหรอ?...เป็นไงบ้างครับ?”ผมถามกลับด้วยความตื่นเต้น...ครั้งล่าสุดที่เจอกันก็เมื่อ5ปีก่อนได้
“แม่โทรมาขอความช่วยเหลือน่ะ”พ่อบอกเสียงเศร้า
“อะไร...เกิดอะไร?...”คำพูดนั่นทำให้ความกลัวเริ่มก่อตัวขึ้นภายในจิตใจ...เกิดอะไรขึ้นกับแม่ถึงขนาดต้องติดต่อมาขอความช่วยเหลือกันแถมพ่อยังทำหน้าเศร้าแบบนั้นอีก
“แม่บอกว่าอยากให้ลูกไปหาหน่อยที่เกาะหน่อยน่ะ”พ่อเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้มอย่างรวดเร็วแล้วตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม...ราวกับว่าใบหน้าเศร้าๆเมื่อครู่เป็นแค่การแสดงละครงั้นแหละ...
แสดงละคร?
“นี่พ่อหลอกผมเหรอ?!!”ผมตะโกนขึ้นอย่างเหลืออด
“ฮะฮะฮะ...คลายเคียดไง....คลายเครียด”
เครียดมากขึ้นน่ะสิ...
พ่อบ้า!!
“เซโคร...”ยูทาร์เรียกแล้วเดินมาหา...ใบหน้าของยูทาร์ดูจะเป็นห่วงผมมาก
“ไม่เป็นไรแค่หงุดหงิดพ่อเท่านั้นเอง...ห้ามเล่นแบบนี้อีกนะผมตกใจจริงๆนะรู้ไหม”ผมบอกยูทาร์แล้วหันไปบอกพ่อหุบยิ้มอย่างกระทันหัน
“ขอโทษ...”พ่อพูดเสียงอ่อยจนรู้สึกสงสาร
“ผมไม่โกรธก็ได้...แล้วมีอะไรล่ะ?”
“ก็อย่างที่บอกไปแม่อยากให้ลูกไปหาหน่อย”
“ไปหา?...มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
“เห็นว่ามีพืชหลายพันธุ์ที่ไม่ทราบชนิดแน่ชัดเลยอยากให้ลูกไปช่วยดูหน่อย...วิชาโทลูกชีวะเรื่องสายพันธุ์พืชนี่”พอได้ยินที่บอกผมก็เริ่มคิดว่าจะเอายังไงดี...
ก็จริงที่วิชาโทนอกจากการแพทย์แล้วยังมีชีวะสาขาพันธุ์พืช...แต่พืชที่ขนาดนักชีวะระดับโลกยังไม่รู้แล้วผมจะรู้ไหมล่ะครับแถมช่วงนี้ก็ไม่ได้อ่านตำราอะไรเพิ่มเต็มอะไรเลยสักอย่าง...
ความรู้ที่เคยมีก็เริ่มหายไปแทนที่ด้วยเรื่องไดโนเสาร์แล้ว
“ผมไปก็ช่วยแม่ไม่ได้หรอกพ่อ”ผมบอกออกไปหลังจากที่คิดแล้ว
“ได้สิ...แม่ก็อยากเจอลูก...นะนะนะ...ไปเจอแม่หน่อย”พอเจอลูกอ้อนผมก็ต้องถอนหายแล้วพยักหน้าตกลงอย่างปลงๆ
“เดี๋ยวนะพ่อ...ถ้าผมไปแล้วยูทาร์ล่ะ?”ผมหันไปถามทันที...
ลืมเรื่องสำคัญที่สุดไปได้ยังไงกัน?
“ผมจะไปกับเซโคร”ยูทาร์พูดแทรกขึ้นมาแล้วใช้มือข้านึงจับแขนผมไว้แน่น ดวงตาสีเหลืองอำพันที่จ้องมาอย่างแน่วแน่แกมขอร้องทำให้ผมอยากตกลงแต่ก็ไม่ได้จริงๆ
“ไม่ได้หรอกยูทาร์...ผมพานายออกไปไม่ได้ถ้ามีคนรู้จะเป็นเรื่องใหญ่”ผมบอกเสียงเศร้า...ระหว่างที่ผมไม่อยู่คงต้องหาใครสักคนมาดูแลยูทาร์
“ไหนสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไง?”อีกฝ่ายถามเสียงเศร้า
“ก็ใช่...แต่แค่เรื่องออกจากเกาะเท่านั้นที่ไม่ได้จริงๆ...ผมไปแค่ไม่กี่วันเพราะงั้น...”
“ไม่ให้ไป!”ยูทาร์ตะโกนเสียงดังพร้อมกับดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้แน่น
“ไม่ให้ไป...อย่าไปเลย...นะครับ”
“ยูทาร์”เล่นพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นแล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ?
“เอางี้ไหมล่ะ...ก็แอบไปเป็นไง?”พ่อที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่เสนอความคิดขึ้น
“ไม่มีทาง...ตอนนี้มีคนเห็นผมกับยูทาร์แล้วถ้าจู่ๆหายไปต้องมีคนสงสัยแน่”ผมรีบค้านทันที...ไม่มีทางจะให้ยูทาร์แอบไปกับผมได้แน่นอน มันเสี่ยงเกินไป
“งั้นก็ทำทีเป็นป่วยแล้วบอกทุกคนว่าขอลาพักที่ห้องที่เคยอยู่...แบบนี้ล่ะ?”พ่อดูจะพยายามหาทางช่วยอย่างสุดความสามารถแต่แบบนี้ก็ไม่ได้
“ถ้าบอกไปแบบนั้นแล้วมีคนไปเยี่ยมความก็แตกพอดี”
“...ก็ใช่...งั้นจะทำยังไง...”
“คงต้องใหห้ยูทาร์อยู่นี่แล้วหาคนดู...”
“ผมไม่ต้องการคนอื่นนอกจากเซโคร!”ยูทาร์ตะโกนแทรกอีกครั้งนึงแล้วจ้องมาที่ผมเขม็ง
ดวงตาสีเหลืองอำพันที่สบกับดวงตาสีเขียวอมฟ้าของผมทำให้รู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมแน่ถ้าผมจะไปหาแม่โดยไม่ให้อีกฝ่ายไปด้วย ถ้าผมแอบไปยูทาร์ต้องหาทางตามผมมาแน่...ดีไม่ดีอาจว่ายน้ำตามไปก็ได้
โอ๊ย!...เอาไงดีเนี่ย?
“ยูทาร์...ขอแค่2วันได้ไหม?...ไม่เจอกันแค่2วันเอง”ผมลองต่อลองดู
“ไม่ได้...แค่2ชั่วโมงก็ไม่ให้”
“ทำไมถึงดื้อล่ะยูทาร์”ผมเริ่มหหงุดหงิดแล้วนะ...ทำไมต้องดื้อแบบนี้ด้วย
“ก็ผมอยากอยู่ข้างๆเซโครตลอดเวลา...ถ้าไม่ได้เห็นอย่างน้อยก็ขอได้กลิ่นให้รู้ว่าเซโครไม่ได้หนีไปไหนแต่ถ้าไกลมากก็คงไม่ได้กลิ่น...อยากกอดเซโครเหมือนเมื่อคืน...อยากกินข้าวด้วยกัน...อยากให้เซโครเช็ดผมให้...อยาก...ให้เซโครพาผมไปด้วย”คำพูดของยูทาร์ทำให้ผมถึงกับไปไม่เป็น...ทั้งที่ไม่ได้เศร้าแต่ผมรู้สึกเหมือนมีน้ำใสๆคลออยู่ที่หางตา
“ยูทาร์...”
“นะครับ...ให้ผมไปด้วยนะ”น้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเป็นหมัดน๊อคที่ทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะหันไปหาพ่อที่ยืนอยู่เงียบๆ
“พ่อพอจะออกคำสั่งให้ยูทาร์กลับเข้าไปในห้องทดลองชั้นB2ได้ไหม?”
“หื้อ?...ได้สิ...ที่นั่นลูกคุมอยู่นี่...อ้อ...เข้าใจล่ะเดี๋ยวพ่อจัดการให้...จะเข้าไปวันละ2ครั้งไม่ให้ใครผิดสังเกตเลย”ดูเหมือนพ่อจะเข้าใจแล้วว่าผมต้องการจะทำอะไร
เรื่องง่ายๆ...แค่ให้คนอื่นคิดว่ายูทาร์อยู่ในห้องทดลองที่ชั้นใต้ดินB2ก็จะไม่ใครเข้าไปยุ่งได้เพราะคนที่สามารถสแกนมือเข้าไปได้มีแค่ผมและพ่อ...อ้อ...ถ้าเรื่องกล้องวงจรปิดก็ง่ายๆแค่หาหุ่นสักคนแล้วคลุมผ้าไว้จากนั้นก็แบกไปไว้ที่ห้องใต้ดินก็ไม่มีใครสักเกตแล้ว...จำได้ว่าห้องทดลองชั้นB2พึ่งถูกถอดกล้องวงจรไปเพราะงั้นหมดห่วงว่าจะมีใครรู้ว่าที่อยู่ในนั้นเป็นแค่หุ่น
“เซโคร...”ยูทาร์เรียกชื่อผมเหมือนไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
“อยากไปกับผมไหม?”ผมหันไปถามด้วยรอยยิ้ม
“แน่นอน”ยูทาร์ตอบกลับมาทันที
“งั้นก็ไปด้วยกันเถอะยูทาร์”
..............................................................................
สวัสดีคะ
ก่อนอื่นขอแจ้งก่อนนะคะว่าคอมของเราเสียอยู่ที่มาอัพได้เพราะใช้แท๊บเล็ตแทนคะแต่บอกตรงๆว่าไม่ค่อนถนัดใช่แท๊บแล็ตพิมพ์ ก๊อบข้อมูล หรือทำอะไรแบบนี้เลยค่อนข้างลำบาก
ดังนั้นเราจึงขออัพเฉพาะในเว็บ Thaiboyslove จนกว่าจะได้คอมใหม่นะคะเพื่อความสะดวกของตัวเราเองคะ
ถ้าได้คอมแล้วจะไล่อัพอีกสองเว็บที่เหลือนะคะ
พักเรื่องเครียดๆไปก่อนมาเข้าเรื่องนิยายกันดีกว่า...ครึ่งหลังนี่อาจจะน้อยไปหน่อยแต่ก็ไม่รู้จะแต่งอะไรแล้วคะ
จากที่วางไว้ตอนนี้จะจบแค่ยี้ส่วนตอนหน้าเตรียมพบกับเนื้อหาที่เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ...
ทั้งการเจอกันของแม่ลูกที่ไม่ได้เจอกันมานาน
ทั้งการผจญภัยนอกเกาะครั้งแรกของยูทาร์
รวมทั้งเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งคู่ต้องแยกกัน?
วางเรื่องไว้หมดแล้วเหลือแค่เขียนเท่านั้นคะ
ตอนหน้าจะมาแบบยาวๆให้อ่านเต็มๆตอนเลยเพราะงั้นรอกันนานนิดนึงนะคะ...ตอนหน้าถ้ามาอัพทีละครึ่งคงจะทำให้ค้างคาได้คะ(555)
ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจและทุกๆคอมเม้นท์นะคะ
ปล.ขอบคุณทุกท่านที่อวยพรวันเกิดด้วยนะคะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า...ในเดือนกันยายนคะ

nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪