เหตุเกิดบนเตียงของห้องข้างเคียงวิศวะ ตอนพิเศษ 14.11.62 อัปจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุเกิดบนเตียงของห้องข้างเคียงวิศวะ ตอนพิเศษ 14.11.62 อัปจ้า  (อ่าน 248467 ครั้ง)

ออฟไลน์ Rhythm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เรื่องพลิกไปพลิกมาดีจัง ไม่ได้หมายถึงแค่ท็อปสอง สองท็อปนะ  :hao3: แต่ตัวละครทุกตัวมันดูมีเงื่อนงำไปหมด
ยิมนี่ออกมาทีไร ก็ชวนให้คิดตลอดว่า...จะเป็นยิมสองหรือเปล่าน้า  o18 แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบพี่ท็อปนะ ดูมีเสน่ห์ดี แมนแต่ก็ยั่วๆ  :hao6:
ยิ่งตอนท็อปเรียกตัวเองว่าพี่ ตอนสองเป็นเมียท็อปอีกรอบ... "เดี๋ยวพี่ทำแผลให้นะ" หึๆ น่ารักอ่ะ :hao7:

ออฟไลน์ thanchnt

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เป็นอะไรที่ปมเยอะแยะไปหมดเลย ชอบความสัมพันธ์ของท็อปสองมากอ่ะ 55555555
แต่จริงๆแอบเชียร์ยิมสอง แพ้หนุ่มแว่นสายเถื่อนมาก  :haun4:

ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เครียตนะครับ  แบบนี้

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
มิ้นอาจจะเป็นน้องเฮียแกน แล้วมาเป็นแฟนท๊อปอีกที
แต่โดนสองสอยไปก่อน แล้วเขี่ยวทิ้ง ทำให้ทั้งสองคนตามมาล้างแค้นหรือเปล่า
เพราะท๊อปก็เหมือนมีความลับอะไรซ่อนอยู่เหมือนกัน

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
มีเรื่องเดียวที่ สอง จะมีเรื่องกันเฮียแกนได้ คือ เรื่อง น้องสาวเฮียแกน จัใข่ คนที่เคยมีไรกับสองป่าว แต่ยังไปเกี่ยวกับพี่ท๊อปอีก แสดงแว้ เอ๊ย แสดงว่า สองกับพี่ท๊อป ได้ผู้หญิงคนเกียวกัน งงเนอะ

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ท๊อปน่าสงสัยสุดละ

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
โอ่ย สงสารน้องมิน

ออฟไลน์ sodawan1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
รอตอนต่อไปอยู่น๊าาา

ออฟไลน์ รินดาwดาริน

  • OnTop&N'Song
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +243/-2
ตอนที่ 8 เสี่ยงตัวและหัวใจ

ผมกับพี่ท็อปเดินทางโดยขึ้นแท็กซี่แทนที่จะใช้รถมอเตอร์ไซด์เพราะว่าฟ้ามืดแล้ว ถึงแถวบ้านพี่ท็อปจะอยู่ใกล้แหล่งเศรษฐกิจ ย่านหรูแต่ตามซอยก็เคยมีการดักจี้ ปล้นทรัพย์มาแล้ว พี่ท็อปก็เลยไม่อยากเสี่ยง
เมื่อรถแท็กซี่ขับมาจอดถึงหน้าบ้านพี่ท็อป ผมกับพี่ท็อปลงจากรถ มองเข้าไปในรั้วบ้าน เห็นว่ามีไฟเปิดสว่างจ้าทั้งในตัวบ้านและนอกบ้าน

“รอแป๊บนะ”พี่ท็อปหันมาบอกผม แล้วหยิบกุญแจมาไขโซ่กุญแจที่คล้องไว้ที่ประตูเล็กๆอีกด้านนึง ผมเห็นเงาตะคุ่มพร้อมเสียงหอบแฮกดังมาใกล้ จากนั้นก็มีเสียงเห่าดังอยู่ริมรั้ว ไอ้เจ้าตัวสีขาวออกน้ำตาลพยายามตะกายปีนรั้วบ้านอย่างเสียมารยาท

“ไงไอ้ทู คิดถึงกูล่ะสิ”พี่ท็อปเรียกชื่อมันที่ตอนนี้สายหางดิ๊กๆแทบหลุด

“นี่เหรอพี่ ไอ้ทู”ผมกำลังมองหมาหน้าตามึน ๆ ที่กำลังเลียมือพี่ท็อปอยู่ ผมเดินตามพี่ท็อปเข้าไปในบ้าน ไอ้ทูมันหันมาสนใจผม มันเดินมาดมๆฟุดฟิดๆ หางกระดิกไปมา มันหันมาสนใจผมบ้าง ดมฟุดฟิดท่าทางขี้เล่น ระหว่างนั้นพี่ท็อปก็ไขกุญแจเสร็จเรียบร้อยแล้วเปิดรั้วบ้านอันเล็กเข้าไป ผมเดินตามเข้าไปด้วย ก่อนจะล็อครั้วคล้องโซ่ให้

ไอ้ทูมันเดินมาขัดแข้งขัดขาพี่ท็อปดีอกดีใจ

“เฮ้ย พอๆ นี่เพื่อนมึง เอ้ย หรือน้องมึงดี มันชื่อไอ้สอง นู่น”พี่ท็อปก็บ้า คุยกับหมาอีก เจ้าตัวจับหน้าไอ้ทูให้หันมองมาทางผม

“ฮ่าๆ เพื่อนก็พอครับ ไงไอ้ทู หวัดดีๆ”ผมรับมุก เอ่ยเรียกชื่อมัน เจ้าหมาวิ่งมาหาผม พยายามจะกระโจนใส่ ผมลูบหัวไอ้ทูอย่างหมั่นเขี้ยว ปกติไม่ค่อยชอบหมาเท่าไหร่ ยกเว้นตัวนี้ก็ได้

“ป่ะ ไปหาแม่ผัวเถอะ อย่าให้ท่านรอนาน”พี่ท็อปคว้าคอผมลากเข้าไปในบ้าน ผมเหลือบมองอีกฝ่าย อยู่ๆก็ได้ตำแหน่งเมียมาจากพี่ท็อปซะแล้ว มีไอ้ทูวิ่งหูตั้งตามมา “อ่ะๆ แม่ผัวก็แม่ผัว หึ”ผมยอมแล้วกัน พี่ท็อปทำหน้าระรื่น ก่อนจะเลื่อนประตูกระจกออก

“แม่ครับ ท็อปมาแล้วครับ”พี่ท็อปตะโกนเสียงดังลั่น ยังไม่ปล่อยให้ผมเป็นอิสระจากแขนที่ล็อคคอไว้ซะเกือบหายใจลำบาก แม่พี่ท็อปเดินออกมาจากครัว ใบหน้าอ่อนโยนท่าทางใจดีตั้งแต่แรกเห็น

 “สวัสดีครับ”ผมหลุดจากการเกาะกุมของพี่ท็อปมาจนได้ แล้วยกมือสวัสดีทักทายคุณแม่พี่ท็อป ก่อนหน้านั้นพี่ท็อปบอกว่าแม่ชื่อ พร ผมกระดากปากหากจะเอ่ยเรียกแม่ครั้งแรก

“สวัสดีจ๊ะ นี่ยังไม่ได้ทานข้าวกันมาใช่ไหม แม่เตรียมไว้ให้แล้ว”แม่ยิ้มอย่างใจดี ผมหันมองหน้าพี่ท็อปที่หลิ่วตาให้ ผมวางกระเป๋าผ้าลงกับโซฟา จากนั้นพี่ท็อปดันหลังผมให้เดินไปยังห้องครัว

“ไม่ต้องห่วงนะ แม่กูใจดีมาก รับรองต้อนรับสะใภ้อย่างดี”พี่ท็อปสำทับอีกรอบ ผมกรอกตาทำหน้าเซ็ง เฮ้อ เอาเข้าไป ได้ใจไปใหญ่เลยพี่ท็อป ผมเดินเข้าไปยังครัวเล็กๆของบ้าน ตรงกลางมีโต๊ะอาหารสำหรับสี่ห้าคนได้ บนโต๊ะมีผักทอด น้ำพริกปลาทู น้ำพริกอ่อง ของโปรดผมทั้งนั้น

“น่าทานจังครับคุณแม่”ผมเสนอหน้าเรียกคุณแม่ซะเต็มปาก

“ก็ท็อป มันบอกแม่ว่าให้ทำของโปรดของเราไว้เผื่อด้วย ...แล้วสองรู้จักท็อปมันได้ยังไงล่ะหืม เห็นท็อปพูดถึงสองให้แม่ฟังบ่อยๆน่ะ”ขณะที่ผมนั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามกับแม่พี่ท็อป ส่วนพี่ท็อปนั่งข้างๆผม

“อ๋อ พอดีว่าพี่ท็อปอยู่หอเดียวกับผม แล้วก็อยู่ห้องข้างๆกันนะครับ”ผมยิ้มตอบ พี่ท็อปตักข้าวในจานให้ทุกคน  คุณแม่พี่ท็อปมองหน้าลูกชายตัวเองสลับกับมองผมแล้วยิ้มกว้าง ผมเหลือบมองพี่ท็อปที่แอบยักคิ้วให้ผม

“งั้นเหรอจ๊ะ อยู่ใกล้ๆกันก็ดีเลยลูก แบบนี้แม่จะได้ให้สองช่วยดูไอ้ท็อปมัน ไม่รู้ทำตัวเหลวไหลอีกหรือเปล่า”แม่พี่ท็อปมองลูกชายตัวเองอย่างตำหนิเล็กน้อย พี่ท็อปหัวเราะ

“โธ่แม่ ท็อปเป็นเด็กดีแล้วนะแม่”

“เหรอจ๊ะ คราวก่อนก็เล่นบัตรแม่เกือบเต็มวงเงินเลยนะพ่อคุณ”แม่พี่ท็อปส่ายหน้า ผมมองพี่ท็อปยิ้มๆ

“น่า หยวนๆนะแม่ ท็อปก็คืนไปบางส่วนแล้วนี่ เลิกพูด ทานข้าวดีกว่า มาบ่นผมต่อหน้าสองได้ไงเนี่ย”พี่ท็อปหัวเราะเบาๆ ก่อนจะตักแกงจืดสาหร่ายหมูสับให้แม่ตัวเอง

“สองทานเยอะๆนะลูก เนี่ยเจ้าท็อปมันขยั้นขยอให้แม่ทำตั้งเยอะแยะ ถ้าไม่หมดก็ให้มันเก็บกินจนเกลี้ยงคนเดียวเลย”แม่พี่ท็อปยิ้มให้ผม ผมเอื้อมจะไปตักผักทอด แต่พี่ท็อปมือไวกว่าแย่งไม้แย่งมือ จนผมต้องหดมือกลับมาที่เดิม พี่ท็อปตักผักทอดมาให้ผมถึงที่

“อ่ะ บริการเต็มที่”พี่ท็อปกระซิบเบาๆ ไม่เกรงใจสายตาของคุณแม่เลย ผมยิ้มแห้งๆไปให้ แต่มาคิดดูอีกทีท่านน่าจะรู้ว่าพี่ท็อปเป็นยังไง คบแต่ผู้ชาย

“สองคบกับท็อปมานานแล้วหรอลูก”คำถามของแม่พี่ท็อปทำเอาผมแทบสำลัก ไม่รู้ว่าพี่ท็อปเล่าเรื่องของผมให้คุณแม่เขาฟังไปแค่ไหนยังไง อีกอย่างผมกับพี่ท็อปก็ไม่เชิงว่าคบกันอยู่ ผมมองพี่ท็อป อีกฝ่ายส่งยิ้มให้ผม

“เอ่อ ก็เพิ่งคบกันครับแม่ เพิ่งรู้จักกันสองสามเดือนเอง”พี่ท็อปตอบคำถามแทนอย่างแยบยล ผมผงกหัวตาม สะกิดขาพี่ท็อปอยู่ใต้โต๊ะไปเบาๆ 

“งั้นเหรอเนี่ย นึกว่าท็อปมันจะพาแฟนมาหาแม่ซะอีก”แม่พูด มองหน้าลูกชายอย่างสงสัย ผมยิ้มแห้ง เจ้าตัวแค่ยิ้มบางๆ แม่พูดต่อเรื่อยๆ “แม่ก็ไม่ห้ามหรอกนะลูก จะคบกันยังไงแบบไหนแต่ขอให้ส่งเสริมพากันไปในด้านดีๆ คนจะได้ไม่นินทาว่าร้ายเอาได้”ผมกับพี่ท็อปรับคำ ว่าแต่แม่เขาจะรู้ไหมะว่าลูกชายก็สร้างเรื่องไว้เยอะเหมือนกัน

 “ครับ จะจำคำของแม่ให้ขึ้นใจเลย”พี่ท็อปยิ้มประจบแม่ตัวเอง ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานข้าว ระหว่างนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก หลังจากที่ทานมื้อเย็นอิ่มหนำสำราญกันเป็นที่เรียบร้อย ผมก็อยู่คุยกับแม่พี่ท็อป ช่วยท่านล้างจานเก็บกวาดโต๊ะอาหาร ท่านก็ถามไถ่เรื่องเรียน เรื่องของผมบ้างพอผิวเผิน

“รู้ไหม ว่าเราเป็นคนแรกเลยนะที่ท็อปมันพามาบ้านน่ะ คนก่อนๆก็พอจะพูดถึงบ้าง แต่ไม่เคยพามาเจอตัวสักที”คุณแม่พี่ท็อปยิ้มกับผม เจอแบบนี้ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเปล่า แต่อย่างน้อยผมก็สำคัญกับพี่ท็อป ขนาดไอ้บอมอีกฝ่ายยังไม่พาเข้าบ้าน แต่ก็พอจะนึกภาพออก แม่คงตกใจน่าดูเลย

“จริงหรอครับ...ขอบคุณนะครับแม่ สำหรับข้าวมื้อนี้ กับข้าวอร่อยด้วย”ผมชวนคุยเรื่องอื่น ถึงท่านจะใจดีแต่ผมก็อึดอัดนิดหน่อย

“ไม่เป็นไรจ๊ะ ว่างๆก็ให้ท็อปพามาที่บ้านบ่อยๆก็ได้ วันไหนอยากทานอะไรก็บอกแม่ แม่จะได้ทำเตรียมไว้ให้”

“ขอบคุณมากครับ”จากนั้นแม่พี่ท็อปขอตัวไปทำงานที่ชั้นบน พี่ท็อปเห็นว่าอากาศดีเย็นสบายเลยชวนผมออกไปขี่รถเล่น เป็นรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสีเหลืองดำคันเตี้ยกว่ารถมอเตอร์ไซค์แบบปกติ ลักษณะดูแปลกตากว่ามอเตอร์ไซค์

“กอดเอวได้นะ”พี่ท็อปหันมายิ้มขณะที่บิดกุญแจสตาร์ทรถเบาๆ

“แหม ซิ่งให้ได้ก่อนเถอะพี่”ผมหัวเราะแต่ก็ยอมขึ้นไปซ้อนที่เบาะหลังที่เตี้ยกว่าเบาะคนขับขี่ แปลกๆ แบบนี้กอดไม่ถนัดเลยสิเนี่ย

“เอาน่า นี่เซอร์วิสมึงเต็มที่เลยนะจะบอกให้”พี่ท็อปพูดอารมณ์ดีๆ แล้วคว้ามือผมไปโอบที่เอวของตัวเอง ขนาดนี้แล้วจะขัดขืนไปทำไม แค่กอดเอว สบายมาก

“ซิ่งเลยพี่”ผมบอก ขณะที่พี่ท็อปค่อยๆออกตัวจากรั้วบ้านเลี้ยวไปทางด้านในซอยบ้านจัดสรร ระหว่างทางมีแสงนวลสว่างของไฟข้างทางอยู่ ถึงจะอยู่ในย่านเศรษฐกิจแต่ซอยบ้านจัดสรรแห่งนี้เงียบสงบดี

“เดี๋ยวแวะไปนั่งเล่นที่เดอะปาร์คกัน บรรยากาศกำลังดี”พี่ท็อปหันมามองผมแวบนึง ผมขานรับในลำคอ ก่อนจะแนบหน้าลงกับแผ่นหลังพี่ท็อป ไม่สนสายตาของคนที่ผ่านไปผ่านมา ก็นะผมไม่ใช่คนแถวนี้ พี่ท็อปเลี้ยวเข้าไปยังเดอะปาร์ค สวนสาธารณะมีระดับบรรยากาศยามค่ำคืนเลยทำให้ดูโรแมนติกนิดๆ พี่ท็อปขี่รถไปตามเส้นถนนเรียบๆที่ปูไว้สำหรับให้รถขับผ่าน ผมกวาดสายตาไปรอบๆ ส่วนมากจะมากันเป็นคู่ๆหรือไม่ก็มานั่งเล่น เดินเล่นกับครอบครัว รถค่อยๆชะลอลงช้าๆเมื่อมาถึงบริเวณสระน้ำกว้าง มีสวน แนวต้นไม้เป็นระเบียบ และแสงไฟส่องสว่างทำให้ไม่เป็นมุมอับลับตาคน ผมลงจากรถ พี่ท็อปเก็บกุญแจล็อครถ

“เดินไปก่อนเลยเดี๋ยวกูไปซื้อน้ำมาให้”พี่ท็อปชี้มือไปบริเวณตลิ่งขอบสระน้ำที่มีพื้นที่ว่างใกล้ร่มไม้มีดวงไฟเล็กๆประดับประดาอยู่ตามแนวกิ่งก้าน โรแมนซ์ดีจริงๆ

“ซื้อบุหรี่กับเบียร์มาให้ผมด้วยนะพี่”ผมยิ้มบอก บรรยากาศแบบนี้เปรี้ยวปากขึ้นมาเชียว ถ้าติดหรูหน่อยได้เบียร์นอกชั้นดีมาก็คงดีไม่น้อย ผมเดินไปนั่งบนพื้นหญ้านุ่มๆ ผมมองใจลอยไปเพลินๆ

ไม่นานพี่ท็อปกลับมา วางถุงบรรจุเบียร์มาสามกระป๋องกับบุหรี่หนึ่งซอง ผมยิ้ม จังหวะที่เงยหน้าหันไปมอง ผมก็เจอเข้ากับช่อดอกกุหลาบสีชมพู 3 ดอกอยู่ตรงหน้า ผมกระพริบตางงๆ ชั่วขณะหนึ่ง ผมอึ้งไปก่อนจะเปลี่ยนมายิ้มกว้างดีใจ ยกมือรับช่อดอกกุหลาบกระดาษสีน้ำตาลมาถือไว้

“ขอบคุณครับ”ผมยิ้มหน้าบาน “ให้ในโอกาสอะไรเนี่ย”ผมพึมพำ ในอกยินดีปรีดา

“ชอบไหมวะ”พี่ท็อปขยับมาใกล้ ยีหัวผมไปด้วย ทำเหมือนผมเป็นเด็กไปได้นะ พี่ทอปไม่ได้ตอบคำถามผม ดอกกุหลาบสีชมพูสีสวยดอกใหญ่อีกด้วย ...พี่ท็อปหมายความตามจำนวนดอกไหมนะ

“ชอบ แต่ชอบคนให้มากกว่าหลายเท่า”ผมหันไปยิ้มให้พี่ท็อปที่มองผมอยู่

“มึงนี่ได้ทีก็หยอดตลอดนะ แต่ก็นั่นแหละ แฟนทั้งคน มากกว่านี้กูก็ให้ได้น่า”พี่ท็อปยิ้ม ผมหันไปมองอีกฝ่ายอีกครั้ง คิ้วขมวดแน่น เมื่อกี้นี้ ผมหูฟาดไปเองหรือเปล่า พี่ท็อปพูดว่าแฟนไม่ใช่เหรอไง อีกฝ่ายทำหน้าขบขัน “แฟนเหรอ”ผมถามช้าๆ

“...เป็นแฟนกันดีไหมนะ”พี่ท็อปพึมพำด้วยรอยยิ้ม ผมยังคงใจเต้นรัว แต่ก็ยังคงตื่นเต้นไม่ได้ เหมือนเจ้าตัววางแผนมาเพื่อนการนี้

“พี่ถามจริงหรือเปล่าล่ะ”ผมถาม พี่ทอปขยับมาใกล้ มองผมอย่างค้นหา

“จริงสิ...เป็นแฟนกันดีไหม ลองคบกันดู เผื่อว่าเราจะไปกันได้”พี่ท็อปพูด ผมฟังจบประโยคแล้วก็ได้ยิ้มกว้างอย่างห้ามไม่ได้ ผมหัวเราะออกมาอย่างสุขใจ เวลานี้ ผมเหมือนเด็กน้อยที่กำลังมีความรัก หน้ามืดตามัวเพราะคำว่ารักและหลง

“ผมมีคำตอบอยู่แล้ว และคิดว่าพี่ก็น่าจะรู้... ผมอยากคบพี่ มาลองคบกันก็ไม่เสียหายครับ”ผมบอก ก้มมองดอกกุหลาบในมือไปด้วย พี่ท็อปหัวเราะเสียงเบา “งั้นตอนนี้เราก็เป็นแฟนกันแล้วสิ...”พี่ท็อปพูดออกมาง่ายดาย ผมมองคนข้างๆอย่างไม่เชื่อสายตานัก ทุกอย่างดูรวดเร็วจนน่ากลัว แต่ผมก็เผลอใจไปแล้ว

 “แล้วเอาไปแอบไว้ตรงไหนเนี่ย”ผมถามแล้วชี้มาที่ช่อกุหลาบ พี่ท็อปยิ้ม “อยู่ใต้เบาะรถน่ะ กลัวแทบแย่ว่าจะช้ำ ไม่สวยเอา... ”

“ไม่สนหรอกว่าจะช้ำหรือเปล่า แค่ใจคนให้จริงใจก็พอ”ผมพูด แล้วหัวเราะออกมา เหลียวมองพี่ท็อป ก่อนจะหยิบเบียร์มาสองกระป๋องยื่นให้พี่ท็อป ก่อนจะเปิดให้ตัวเอง อีกฝ่ายมองผม

“ทำไมวะ กูกลัวไม่จริงใจหรือไง เห็นย้ำจัง ถึงขั้นรับมึงเป็นแฟนแบบนี้แล้ว ยังไม่มั่นใจอีกหรือไง”พี่ท็อปมองหน้า ผมไหวไหล่

“ผมก็อยากให้แน่ใจไงครับ”

“กังวลเป็นเจ้าสาวกลัวฝนไปได้นะมึง”

“เปรียบผมซะ หมดความแมน”ผมแกล้งทำหน้าเง้างอน เข้าไปซบไหล่พี่ท็อปทีเล่นทีจริง “ทำเป็นเล่นไป”

ผมหันไปมองพี่ท็อป หัวใจเต้นตึกตัก ผมไม่รู้ว่าทุกอย่างถูกวางแผนไว้หรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้น ก็โกยคะแนนใจจากผมไปได้เยอะเลยล่ะ  “....ตามใจพี่แล้วกัน”ผมยิ้ม ก่อนจะละสายตาจากหน้าพี่ท็อป มองลงไปที่สระน้ำนิ่ง ๆ หลังจากที่นั่งเล่น ดื่มเบียร์จนหมดกระป๋องแล้ว ร่างกายพออบอุ่น ผมกับพี่ท็อปก็กลับ

พี่ท็อปหันมายิ้มให้แล้วเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แล้วสตาร์ทเครื่อง ผมขึ้นไปซ้อนหลัง พี่ท็อปขี่รถออกไปตามทางตรงกลับไปยังบ้าน

พอจอดรถได้ปุ๊บ ไอ้ทูก็วิ่งกระดิกหางเข้ามาหาผมกับพี่ท็อปด้วยท่าทีดีอกดีใจ มันเลียมือผมก่อนจะกระโจนใส่พี่ท็อป “จุ๊ๆ ไปนอนได้แล้วไป”พี่ท็อปใช้ขาดันตัวอ้วนปุ๊กของมันออกห่าง มันแค่นั่งลิ้นห้อยมองผมกับพี่ท็อปเดินเข้าไปในบ้าน

“ทำไมไม่เอารถคันนั้นไปใช้ล่ะ”ผมถาม คิดว่าก็เท่ดี ไม่ค่อยมีคนใช้รถแบบนี้ พี่ท็อปทำหน้าคิด “อืม ขี้เกียจชาร์ตไฟอ่ะ อีกอย่างมันไม่ซิ่ง ไม่ทันใจวัยโจ๋เลยไง ฮ่าๆ”พี่ท็อปหัวเราะแล้วเดินกอดคอผมขึ้นไปยังชั้นสอง แม่พี่ท็อปคงนั่งทำงานอยู่ในห้อง เพราะเห็นว่าไปยังเปิดอยู่เลย

“อาบน้ำก่อนนะ ค่อยให้ของขวัญ”พี่ท็อปยิ้มเหมือนมีแผนการร้ายกาจ “ครับผม ว่าแต่จะให้ผมอาบให้เลยดีไหมพี่”

“อืม...มาสิ”พี่ท็อปยิ้ม ที่ยอมให้อาบน้ำด้วยเจ้าตัวคิดอะไรหรือเปล่าเนี่ย ผมเดินหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปสองผืน ให้พี่ท็อปด้วยผืนหนึง

“อาบน้ำให้พี่สะอาดๆล่ะ”พี่ท็อปยิ้มมุมปาก สังเกตว่าเปลี่ยนมาพูดจาสุภาพกับผมอีกแล้ว “ครับ จะถูให้หมดทุกซอกทุกมุมเลยพี่”ผมหัวเราะในลำคอแล้วถอดเสื้อผ้าออก สายตาแอบเหลือบมองอีกฝ่ายที่กำลังถอดกางเกงอยู่ เจ้าหันมาสบตาผมพอดี เลยส่งยิ้มมาให้ผม

ผมว่าวันนี้ พี่ท็อปยิ้มบ่อยกว่าปกตินะ ระหว่างนั้นเจ้าตัวเดินไปรูดม่านสีขุ่นออก เผยให้เห็นอ่างจากุซซี่ลักษณะสามเหลี่ยมมนๆติดกับมุมผนังห้องน้ำพอดิบพอดี แถมยังติดกระจกไว้ตรงมุมผนังทั้งสองด้าน แบบนี้เวลาลงอ่างก็เห็นภาพสะท้อนได้ครบทุกองศา ผมทึ่งอยู่บ้าง

“อยากเล่นดูไหม”พี่ท็อปพูด แล้วเอื้อมไปเปิดน้ำไว้ ผมมองหน้าพี่ท็อปแล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย “อืม ก็น่าสนนะพี่”ผมบอก พี่ท็อปเปิดตะกร้าที่มีขวดครีมอาบน้ำออก “สนใจนวดไหม ดูนี่ มีน้ำมันนวดด้วยนะ”อีกฝ่ายหยิบขวดน้ำมันสีใสออกมาอ่านสรรพคุณด้วยแววตาสนใจ

“เอ่อ...ในอ่างเนี่ยนะพี่”ผมคิดว่าตัวเองพลาดท่าให้พี่ท็อปแล้วล่ะ วันนี้ผมตามอีกฝ่ายไม่ทันเลยจริงๆ สงสัยคงคิดแผนเผด็จศึกผมแน่นอน

“อืม ใช่สิ ทำไมคิดอะไรอยู่เหรอหืม...รู้อะไรไหม การนวดในอ่างเนี่ย ผ่อนคลายนะ ยิ่งได้น้ำอุ่นๆนวดเบาๆนะยิ่งดี จะว่าไปมึงเคยบอกว่านอนไม่ค่อยหลับไม่ใช่หรือไง นวดในอ่างนี่ก็ช่วยให้หลับสบายนะ”พี่ท็อปเอ่ยอย่างมีความหมายแล้วหัวเราะเบาๆ อีกฝ่ายเดินมาบีบไหล่ผมเบา ๆ แววตามีประกายสดใส ผมถอนหายใจพลางเกาจมูกไปเก้อๆ

“ตามใจพี่เถอะ”ผมบอก พี่ท็อปดึงมือให้ผมเดินเข้าไปนั่งในอ่างจากุซซี่ ซึ่งขณะนี้น้ำกำลังเพิ่มระดับความสูงมาจนครึ่งค่อนอ่างแล้ว พอผมก้าวขาหย่อนเท้าลงไปแล้ว ก็ค่อยๆทิ้งตัวลงนั่งพิงขอบอ่าง จ้องมองพี่ท็อปที่ปรับระดับน้ำให้เบาลง น้ำอุ่นๆไหลปะทะร่างกาย รู้สึกได้ว่าน้ำในอ่างจะวนๆหน่อยคงเพราะพี่ท็อปตั้งระบบน้ำวนไว้ด้วย 

ผมมองพี่ท็อปที่กำลังเทน้ำยาลงในน้ำกลิ่นหอมอ่อน ๆ ฟุ้งกระจายอบอวล มองหุ่นพี่ท็อปผ่านน้ำแบบนี้ก็แปลกตาดีเหมือนกันนะ

“มองใหญ่เลยนะ ทำเหมือนไม่เคยเห็นซะงั้นวะ”พี่ท็อปยื่นเท้ามาแตะหน้าท้องของผมเบาๆ ผมเลยต้องตระครุบไว้ก่อนเพราะท่าทางจะไม่อยู่เฉยๆ ร้ายจริงพี่ท็อป

“ไหนจะให้นวดไงครับ”ผมถามทันทีเพื่อเบี่ยงประเด็น

“รีบร้อนจริงนะไอ้สอง อยากนวดพี่แล้วหรือไง”อีกฝ่ายพูดเหมือนมีเลศนัยมาให้ผมอีกแล้ว พี่ท็อปคว้าขวดครีมอาบน้ำมาถือไว้ แล้วเคลื่อยตังขยับมาใกล้ผมมากขึ้น ตอนนี้กลายเป็นว่าพี่ท็อปเข้ามานั่งทับผมซะแล้ว ท่าทางล่อแหลมเหลือเกิน

“ทาให้พี่หน่อยดิ แล้วก็นวดด้วยนะ”พี่ท็อปยื่นขวดครีมมาให้ ผมรับมาอ่าน เป็นครีมนวดตัวที่ทำจากสมุนไพร “อยู่ท่านี้น่ะเหรอ”ผมถาม

“เอาท่าที่ถนัดสิ”พี่ท็อปยักคิ้วให้ แม้ว่าน้ำจะอุ่นแต่ผมก็หนาวขึ้นมาซะอย่างนั้น เสียวสันหลังจริงๆ ผมเลยจับพี่ท็อปหันหลังแทน ได้ยินพี่ท็อปหัวเราะเบาๆ ร่างกายเปลือยเปล่าที่สัมผัสกันใต้น้ำไม่ได้ทำให้ผมเตลิด แต่ไอ้การนวดให้พี่ท็อปนี่แหละ จะทำให้ผมเตลิดไปไกลซะมากกว่า นี่สินะ เป้าหมายของพี่ท็อป

“พี่นี่เจ้าเล่ห์จริงๆ”ผมบ่นพึมพำแล้วเทน้ำยาสีใส กลิ่นหอมอ่อนของดอกไม้บางชนิด ลงบนแผ่นหลัง และบริเวณบ่ากว้างของเจ้าตัวแล้วลงมือลูบไล้ให้ทั่ว

“บีบตรงไหล่หน่อย พี่เมื่อย”พี่ท็อปบอกเหลียวมามอง ระหว่างที่ผมลงน้ำหนักมือบีบนวดที่แนวไหล่ทั้งสองข้างของเจ้าตัว ทว่ามือสองข้างของอีกฝ่ายอยู่ไม่สุขเอาเสียเลย สองมือที่ใต้น้ำเอื้อมมาจับที่ต้นขาผมเบาๆ ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไร หากพี่ท็อปไม่เอนตัวมาชิดผมซะขนาดนี้  ผมเลยได้โอกาสกอดพี่ท็อปซะเลย อยากอ่อยดีนัก ผมโน้มหน้าไปหอมแก้มพี่ท็อปฟอดใหญ่ 

“พี่ยั่วผมเหรอ”ผมแกล้งยื่นหน้าเข้าไปไซร้ที่ต้นคอพี่ท็อป เห็นขนอ่อนของเจ้าตัวขนลุกซู่ทีเดียว

“เออสิ ทำขนาดนี้แล้วนี่”พี่ท็อปหัวเราะพอใจ ผมเลื่อนมือไปสัมผัสส่วนอ่อนไหวของคนในอ้อมกอดที่กำลังตื่นตัวพอๆกับของผม พี่ท็อปพลิกตัวออกแล้วหันมาเผชิญหน้ากับผม โดยที่พี่ท็อปนั่งคร่อมผมอยู่

พี่ท็อปไม่พูดอะไร แค่ยื่นหน้ามาชิดจนหน้าผากแตะสัมผัสกัน ผมมองตาพี่ท็อป แปลกที่อีกฝ่ายไม่มีสายตาตามแรงปรารถนาอย่างเดียว มีความอ่อนโยนเล็กๆที่ผมสัมผัสได้ แต่กว่าที่ผมจะได้โอกาสเปิดปากพูด อีกฝ่ายก็รั้งผมเข้ามาจูบ

ผมกำลังสับสน ในหัวตีกันให้วุ่นวาย วันนี้พี่ท็อปทำให้ผมประทับใจหลายๆอย่าง ถ้าแค่เซ็กส์ผมก็ไม่เกี่ยงหรอก แต่กลัวว่าผมจะเผลอให้ใจเจ้าตัวมากเกินไปจนฉุดไม่อยู่ ยิ่งไอ้เรื่องของความรู้สึกมันก็ห้ามกันไม่ได้ง่ายๆ จะให้ผมทำใจแข็งไม่สะทกสะท้านอะไรก็ใช่เรื่อง

“อือ...พี่ท็อปครับ”ผมเรียก หลังจากที่ดึงสติตัวเองกลับมาได้ “ว่าไงครับ....”พี่ท็อปเงยหน้ามาสบตาผมนิ่งๆ ผมยิ้ม ในเมื่อเรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว

“...เฮ้อ ทำยังไงได้ ผมชอบพี่ขนาดหนักเลยว่ะ เอาเป็นว่าผมจะยอมเป็นของพี่ก็แล้วกัน”ผมกลั้นใจพูดออกไป อย่างน้อยก็เลี่ยงคำตรงๆไป พี่ท็อปทำหน้าประหลาดใจระคนอึ้งนิดหน่อยก่อนจะหัวเราะออกมา

“นี่พูดจริงเหรอวะไอ้สอง แน่ใจเหรอไง”พี่ท็อปยิ้มบางๆ ลูบแก้มผมไปด้วย ผมไหวไหล่ ก็ไม่เสียหายอะไรนี่นะ

“แต่ถ้าผมอยากสลับ พี่อย่าปฏิเสธล่ะ...ผมยอมพี่ขนาดนี้แล้วเนี่ย ยังไงก็เอ็นดูผมเยอะๆล่ะ เดี๋ยวมันจะช้ำใจเอา”ผมบอก นึกขำกับคำพูดของตัวเอง แม่ง น่าอายเหมือนกันนะ

“โอเค ๆ ในเมื่อสองพูดเองแบบนี้ พี่ก็ไม่ขัดหรอกนะ กำไรชัดๆเลยว่ะงานนี้”พี่ท็อปยิ้มพอใจ

“อ่ะๆ พูดซะ ผมอยากเปลี่ยนใจเลยนะ”ที่ผมยอม ไม่ใช่เพราะผมหลงอีกฝ่ายถึงขนาดนั้น แต่เพราะผมรู้ตัวอีกดีว่าไม่มีทางผลัดอีกฝ่ายไปทุกครั้งแน่ๆ ผมคงต้องพ่ายเจ้าตัวเข้าสักวัน ผมรู้ตัวดี

“ครับ รับรองพี่ไม่ทำให้สองช้ำหรอกนะ”พี่ท็อปยิ้ม ผมเลยหลับตาสักพัก “อยากทำอะไรก็ทำ ให้ไวเลยพี่ ชักช้าเดี๋ยวอดโปรโมชั่นนะ”ผมรีบบอก พี่ท็อปไม่ได้ตอบอะไร แค่ขยับตัวจับขาเปลี่ยนท่าทางให้ผมซะเสร็จสรรพ ให้ตาย รู้สึกเหมือนหมูที่รอโดนเชือด

พี่ท็อปสอดนิ้วเข้ามาก่อนเพื่อให้ผมเคยชิน จากนั้นร่างกายแข็งแรงของเจ้าตัวก็เบียดแทรกเข้ามาทีละนิด ความรู้สึกแปลกใหม่จากการที่สอดรับกันใต้น้ำอุ่นๆ ทำเอาผมใจเต้นตุบตับ พี่ท็อปดันตัวเข้ามาจนสุด จนผมเกร็งแน่นตามไปด้วย

“อะ โอ้ย แสบว่ะพี่”ผมนิ่วหน้า คงเพราะครั้งนี้แทบไม่ได้เล้าโลมกันมาก พี่ท็อปครางรับ โน้มหน้ามาจูบผมอยู่สักพักจนผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

“เจ็บอยู่ไหม”พี่ท็อปถาม ผมส่ายหน้า เจ้าตัวโน้มตัวลงมาแนบแน่นก่อนจะขยับสะโพกเบาๆจนผมเริ่มชิน จากที่เจ็บกลับกลายเป็นความหรรษาขึ้นมาแทน พี่ท็อปเร่งจังหวะกดสะโพกเข้าออกหนักๆจนผมสะท้านไปด้วย ผมครางผ่านลำคอ หลับตา ปล่อยไปตามอารมณ์

อีกฝ่ายจับสะโพกผมไว้ก่อนจะเร่งจังหวะกระแทกเอวลงมาถี่ๆ มืออีกข้างลูบเค้นคลึงก้นผมไปด้วย ปากก็ลามเลียไปทั่วลำคอ หน้าอก ลิ้นร้อนแตะสัมผัสดูดเม้มลงที่กกหู “อะ พี่ท็อป”ทำเอาผมอ่อนวูบ

“ดีไหมวะสอง”พี่ท็อปถามเสียงแหบพร่า สายตาจ้องมองผมไปด้วย ผมเม้มปาก ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะถามไปเพื่ออะไร

“ดีพี่... ผมจะเสร็จ โอะ..”พูดไม่ทันจบเจ้าตัวก็กระแทกลงมาเต็มเหนี่ยวไม่ยั้งเลย พี่ท็อปที่ตั้งหน้าตั้งตาเดินเครื่องไม่หยุดนั้น ผ่อนแรงลง ก่อนจะจับผมลุกยืนขึ้น ผมโก่งตัวให้อีกฝ่ายจัดการ หันไปมองก็เห็น กระจกสะท้อนภาพตัวเองกับพี่ท็อปเข้าทำเอาผมเตลิดไปด้วย เจ้าตัวรั้งสะโพกผมไว้ ก่อนจะจ่อแท่งร้อนเข้ามาพรวดเดียว จนผมสะดุ้งเกร็งเผลอครางออกไป

พี่ท็อปกระแทกลงมาเน้นๆ ไม่วายตีมือลงที่แก้มก้นผมอีกเพลี๊ยะ เล่นเอาแสบไปเลยทีเดียว ทำไมซาดิสต์จังล่ะนะ ผมสูดปากไปด้วย อีกฝ่ายเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนผมแทบยืนไม่อยู่ ผมยกขาเหยียบขอบอ่างไว้แทน เหมือนเป็นการเปิดทางให้อีกฝ่ายมากขึ้นไปอีก

“อืม อะ อะ อา...”เจ้าตัวเลยได้ทีกระแทกกระทั้นกายเข้าใส่ผมไม่ยั้ง ผมเกร็งแน่น เอื้อมมาจัดการของตนเองไปด้วย ความหรรษาพุ่งปรี๊ดก่อนจะปลดปล่อยออกมา พี่ท็อปครางออกมา ก่อนจะกดสะโพกจนมิดใส่หลายครั้งก่อนจะกดพรวดเดียวแช่ไว้ บ่งบอกว่าเจ้าตัวปลดเปลื้องไปแล้ว ผมหอบหายใจแรง พี่ท็อปถอนกายออกจากผมได้ก็คว้าผมไปจูบ

“พี่ชอบสองนะ...”พี่ท็อปกระซิบเบาๆ ก่อนจะจูบผมอีกครั้ง ผมครางรับ

“ป่ะ เดี๋ยวพี่อาบน้ำให้”พี่ท็อปดึงผมให้ออกจากอ่าง  พอก้าวขาลงเหยียบพื้น รู้สึกเหมือนไปวิ่งรอบสนาม มา ขาอ่อนขาสั่นไปหมด  พี่ท็อปอาบน้ำให้ผมตามที่พูด ผมเดินพันผ้าเช็ดตัวออกมานั่งลงที่ปลายเตียง เหลือบตามองพี่ท็อปไปพลางแล้วถอนหายใจ

“เดี๋ยวหาเสื้อให้ใส่ รอเดี๋ยวนะ”พี่ท็อปหันมายิ้มแล้วเปิดตู้เสื้อผ้าควานหาเสื้อผ้ามาให้ผม ผมกับพี่ท็อปก็ไซน์ใกล้เคียงกัน ใส่ด้วยกันได้

 “กูจะทำงานก่อนน่ะ มึงนอนก่อนเลยก็ได้”พี่ท็อปลูบหัวผมไปด้วย เอาเข้าไปเห็นผมเป็นเด็กน้อยหรือลูกหมากันนะ

“ก็ได้ งั้นผมนอนก่อนนะ ไม่ไหวอ่ะ ง่วงแล้ว”ผมบอก หลังจากที่สวมเสื้อผ้าเสร็จ ผมก็ลงนอนทันที รู้สึกว่าหนังตาเริ่มหนักขึ้นมา คว้าหมอนข้างมานอนกอด พี่ท็อปเดินมาดึงผ้าห่มผืนบางมาห่มให้ผม บริการดีอีกแล้ว พี่ท็อปขำเบาๆ

“เอาใจเมียหน่อยไง”ผมได้ยินแล้วเบ้หน้า “ได้ที ซ้ำเลยหรอพี่”พี่ท็อปหัวเราะแล้วเข้ามานั่งข้างๆ

“น่า...นอนนะ...เดี๋ยวจะมานอนกอด หึๆ”ไม่วายจะมาลูบหัวผมอีก เฮ้อ ผมนอนมองพี่ท็อปที่เดินไปนั่งหน้าโต๊ะคอม นั่งออกแบบงานอะไรสักอย่างที่เกี่ยวกับเครื่องจักร ผมก็เคลิ้มหลับไปจนได้ ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2018 04:42:35 โดย RindadaRin »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ รินดาwดาริน

  • OnTop&N'Song
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +243/-2
...


จนกระทั่งผมสะดุ้งตื่นมาอีกที พี่ท็อปก็กลับมานอนอยู่ข้างๆซะแล้ว ผมหรี่ตามองไปรอบห้อง แสงสว่างยามเช้าส่องทะลุม่านบางๆเข้ามาในห้อง ผมนอนเหยียดยาวบิดขี้เกียจแล้วขยับไปก่ายพี่ท็อป ผมนอนมองพี่ท็อปตอนหลับนี่ก็น่ารักดีนะ ผมจ้องใบหน้าที่สงบผ่อนคลายของพี่ท็อป ปากอ้าเล็กน้อย มีเสียงหายใจเบาๆ

ผมผุดลุกออกจากเตียง โอย แม่งเอ้ย ก็ไม่ใช่ครั้งแรกเสียหน่อย ยังจะมาปวดเมื่อยเนื้อตัวอีกเหรอเนี่ย ผมหาวนอนเดินไปเข้าห้องน้ำ สายตาเหลือบไปเห็นโทรศัพท์พี่ท็อปวางอยู่บนโต๊ะ..ชั่วขณะนึง ความคิดชั่วร้ายก็ผุดออกมา ถ้าเพียงแค่ผมลองเช็คโทรศัพท์พี่ท็อปดูสักหน่อย คงไม่เสียหายอะไร

ผมมองพี่ท็อปที่นอนตะแคงหันหลังให้ผมอยู่ ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้โต๊ะคอมฯ ในใจเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้น ผมคว้าโทรศัพท์พี่ท็อปมาถือไว้ในมือ ปลดล็อกหน้าจอ โชคดีที่ไม่ได้ใส่รหัสล็อกไว้เริ่มต้นจากอะไรดีนะ... ผมกดหารายชื่อที่โทรออกของพี่ท็อป สายตาไปสะดุดกับชื่อนึง

...พี่ตั้ม...พี่ท็อปรู้จักพี่ตั้มเป็นการส่วนตัวด้วยหรือไง... อ้าว ทำไมพี่ตั้มต้องทำเหมือนว่าไม่รู้จักมักคุ้นกับพี่ท็อปด้วยวะ ผมหันไปมองพี่ท็อปอีกรอบ ร่างนั้นยังคงหลับอยู่ ผมปัดความคิดแย่ๆออกไปก่อนจะ เปิดไปดูรายชื่อโทรเข้าแทน แน่นอนว่ามี พี่ตั้ม มีไอ้บอม แล้วก็มีผมซะส่วนมาก ผมไล่ลงมาที่ประวัติเก่าๆ

เฮียแกน...ผมไม่สงสัยมากนัก เฮียจะโทรหาพี่ท็อปเพื่อเคลียร์เรื่องเก่าๆก็ได้ ผมไหวไหล่ไม่สนใจเท่าไหร่ ผมมั่นใจว่าสองคนนี้ไม่ถูกกันแต่มีเบอร์กันก็คงไม่แปลกหรอกมั้ง ประวัติที่เก่ากว่าท้ายสุดคือ ...เบอร์แปลกที่ไม่ได้เมมชื่อไว้ รู้สึกว่าโทรมาหลายครั้งเหมือนกัน ผมกดไปดูที่ข้อความเข้า มีข้อความจากเฮียแกนด้วย ผมใจสั่น มือเย็นเฉียบ ก่อนจะกดอ่าน

‘ถ้าอยากเคลียร์กับกูให้มันจบๆ มึงควรทำตามที่กูบอกไปตั้งแต่แรกมันก็สิ้นเรื่องแล้ว’

หมายความว่ายังไงกัน ผมเปิดหาข้อความตอบกลับของพี่ท็อป แต่ไม่มี ดูเหมือนว่าพี่ท็อปไม่ได้ตอบกลับไป ไม่ก็ตอบแต่ลบไป ย้อนไปถึง คราวก่อนที่พี่ท็อปโทรศัพท์คุยกับใครสักคน ประมาณว่า อย่าดึงพี่ท็อปเข้าไปเกี่ยวเรื่องอะไรนี่แหละ มันจะใช่เรื่องเดียวกันไหมนะ

ผมวางโทรศัพท์พี่ท็อปลง การไม่รู้อะไรเลย มันน่าจะดีกว่า ผมควรจะมีความสุข ไม่ต้องมาคิดเรื่องน่าปวดหัวพวกนี้อีก ทำไมยังไงดีวะ

“สอง”

ผมสะดุ้งเฮือกทันที่ได้ยินเสียงเรียกของพี่ท็อป ผมหันกลับไปมองเห็นว่าเจ้าตัวนั่งอยู่ที่ขอบเตียง ผมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตื่นนานแล้วหรือยัง เมื่อกี้ก็มัวแต่สนใจโทรศัพท์อย่างเดียว ผมถอนหายใจเดินเข้าไปหา “ครับ”ผมยืนหยุดตรงหน้าพี่ท็อป จ้องมองนิ่งๆ ผมอยากรู้ว่าใครจะเปิดปากพูดก่อนกัน พี่ท็อปมองผมนิ่งๆอยู่นาน

“...สงสัยเรื่องอะไรล่ะ...ถามกูมาสิ กูจะได้ตอบให้”พี่ท็อปเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน น้ำเสียงเรียบเฉยจนผมไม่รู้ว่าพี่ท็อปโกรธหรือเปล่า ผมถอนหายใจไหวไหล่เหมือนไม่แคร์

“ไม่หรอกพี่ ตอนนี้ผมไม่อยากรู้อะไรแล้ว”ผมพูดตามตรง อันที่จริงขอผมเป็นคนตาบอด หูหนวกไปเลยน่าจะดีกว่า

“พี่รู้ว่าสองยังคงระแวงพี่อยู่ พี่ก็โกรธหรอก แต่ถ้าสงสัยข้องใจอะไรก็ควรถาม ...อย่าทำแบบนี้”พี่ท็อปมองหน้าผม น้ำเสียงที่ใช้อ่อนลงมาก สรรพนามก็เปลี่ยนมาสุภาพอีกแล้ว ใบหน้านั้นหมองลง พี่ท็อปลุกขึ้นยืนเดินไปหยิบโทรศัพท์มาเปิดดู

“รู้จักพี่ตั้มด้วยเหรอ”ในที่สุดผมก็ถามออกไป เรื่องนี้ผมคาใจที่สุดแล้ว “ก็เหมือนที่มึงรู้จักไอ้ตั้มไงวะ กูแค่ใช้ให้มันหาข่าวให้เฉยๆ  ก็เรื่องไอ้แกน ไอ้ยิมแล้วก็เรื่อง....ของมึงด้วย”พี่ท็อปพูดเสียงเบา ผมขมวดคิ้วแน่น

 “งั้นเหรอ หมายความว่าพี่ให้พี่ตั้มสืบเรื่องของผมหรอครับ...เรื่องของผม”ผมเน้นย้ำอีกครั้ง หมายความว่าพี่ท็อปจะรู้ลึกถึงแค่ไหนกัน...เรื่องของมินท์ด้วยหรือเปล่า แล้วทำไมเมื่อคืนก่อนต้องทำเหมือนไม่รู้เรื่องในอดีตของผมด้วย

 “อืม ขอโทษนะ ที่ทำเหมือนไม่รู้อะไร แต่จะให้ทำยังไงวะ จะให้บอกมึงว่ากูรู้เรื่องของมึงแล้วงั้นเหรอ”พี่ท็อปถอนหายใจ เดินเข้ามาใกล้ผม ผมไม่เคยเห็นพี่ท็อปมีท่าทางกังวลแบบนี้มาก่อน คงกลัวผมเข้าใจผิด

“เหมือนผมโดนหลอกกลายๆยังไงก็ไม่รู้ว่ะพี่...แต่เอาเถอะ ผมไม่คิดมากหรอก....แต่ผมแค่...บางครั้งนะพี่ ผมแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับพี่...”ผมมองหน้าพี่ท็อป ผมอาจจะไม่พอใจที่พี่ท็อปทำท่าเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวเรื่องของผม ถามผมเหมือนอยากรู้เสียเต็มประดา แต่ที่จริงแล้วเขาก็รู้อยู่เต็มอกแท้ๆ

“...อยากรู้เรื่องของกูไหมล่ะสอง กูบอกมึงได้นะ”พี่ท็อปพูดด้วยสีหน้าแววตาจริงจัง ผมชั่งใจ...ผมอยากรู้เรื่องอะไรของพี่ท็อปนะ

“ผมขอถามคำถามเดียว....พี่มีอะไรปิดบังผมหรือเปล่าครับ”ผมถามออกไป... พี่ท็อปนิ่ง ม่คิดว่าผมจะถามออกมาแบบนี้ ผมรอฟังคำตอบอย่างจดจ่อ

“...มี...”

“บอกได้ไหมล่ะครับ”

“...ได้...มึงจะได้เลิกระแวงกูเสียทีไง...ไม่ใช่ว่ากูไม่รู้สึกอะไรที่เห็นว่ามึงไม่ไว้ใจ...กูก็เสียใจนะเว้ย...”พี่ท็อปถอนหายใจ ผมก็ไม่อยากให้เป็นแบบนี้หรอก... เสียบรรยากาศหมดเลย

“ขอโทษนะพี่ที่ผมยุ่งกับโทรศัพท์ของพี่”ผมรีบพูดเพื่อกู้สถานการณ์ พี่ท็อปยิ้มบางๆส่ายหน้า

“ไม่หรอก อย่าขอโทษเลยว่ะ....แปบนึงนะ”พี่ท็อปบอกแล้วเดินไปเปิดลิ้นชักด้านล่างสุดตรงโต๊ะเขียนหนังสือข้างๆโต๊ะคอมฯ ผมเห็นว่าพี่ท็อปถือกล่องสี่ไม้เหลี่ยมออกมา แล้วยื่นให้ผม

“อะไรครับ”

“เปิดดู”พี่ท็อปยื่นให้ผม ผมรับมาถือไว้ น้ำหนักของกล่องไม้เบา ไม่หนักมาก คาดว่าน่าจะเป็นรูปอยู่ในนั้น ผมมองพี่ท็อปก่อนจะเปิดฝากล่องออก ผมมองรูปถ่ายที่อยู่ที่อยู่ในกล่องด้วยความตกใจ แปลกใจ งุนงง

“มิ้นท์ ทำไมพี่ถึงได้....”ผมชะงักไป ก่อนจะนึกถึงคำพูดของพี่ท็อปว่ามีเรื่องกับเฮียแกนเพราะน้องสาวเฮียแกน หมายความว่า...

“...มิ้นท์ น้องสาวไอ้แกน แฟนเก่ากูเอง”ผมนิ่งงัน คิดอะไรไม่ออก มองรูปถ่ายยิ้มแย้มของมิ้นท์ที่อยู่ในชุดนักเรียนเก่าโรงเรียนที่ผมเคยอยู่... น่าตกใจกว่าคือ มิ้นท์เป็นน้องสาวของเฮียแกน นี่สินะ เหตุผลที่เฮียเกลียดขี้หน้าผม

ภาพซ้อนทับขึ้นมาเป็นฉากๆ เรื่องที่เฮียแกนคอยเตือนผม ที่แท้ก็หาแนวร่วมอย่างไอ้ยิม เพื่อจัดการกับผมงั้นเหรอ ผมพอจะรู้ว่าทำไมเฮียแกนถึงได้โกรธแค้นผมนัก....เหมือนๆที่ยิมมันโกรธผมแต่คงน้อยกว่าเฮียหลายเท่า....แล้วยังไงล่ะ ผมต้องชดใช้ให้พวกนี้ยังไงกัน?

ส่วนพี่ท็อป “แฟนเก่า....พี่...คบกับมิ้นท์ตอนไหน”ขณะที่ถามออกไป ผมหวั่นใจ ถึงแม้ว่าผมจะรู้คำตอบนั้นอยู่แล้ว...พี่ท็อปถอนหายใจเฮือกใหญ่

“....กูก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากมายหรอกเรื่องของมิ้นท์น่ะ...สมัยนั้นกูอยู่ม.6 คนละโรงเรียน คนละจังหวัดกับมิ้นท์เลย แต่ที่เจอกันได้ก็เพราะงานกีฬาของเขตไง ตอนนั้นกูยังชอบผู้หญิงอยู่บ้าง ก็แค่คุยกันถูกคอ...ก็เลยขอคบ...ตอนนั้นมิ้นท์ก็ไม่มีแฟน...เค้าบอกกูว่างั้นนะ”

ก็ถูก มิ้นท์ไม่ได้มีแฟนนี่ กับผม....ผมไม่ยอมคบกับมิ้นท์ “งั้นเหรอ...แล้วพี่...ก็รู้สิว่า เกิดเรื่องกับมิ้นท์ ที่ผม...”ผมอึกอัก มองหน้าพี่ท็อปที่มีสีหน้าแปลกประหลาด

“อืม...ก็พอได้ยินข่าว”ผมเหมือนหมดแรงยืน รู้สึกปวดหัวขึ้นมาจี๊ดๆ ผมไม่ได้มองพี่ท็อป.... “เรื่องเฮียแกนล่ะ ทำไมเขาถึงเอาเรื่องพี่ล่ะ”

“...กูเคยทำผิดพลาดเหมือนกัน...อันที่จริงก่อนเกิดเรื่องของมึงน่ะ...กูก็เคยนอนกับมินท์มาก่อน”พี่ท็อปเงียบไป ที่จริงแล้วมิ้นท์โกหกผมว่ายังซิงอยู่น่ะสิ ผ่านพี่ท็อปมาก่อนอีก เฮ้อ...เรื่องอะไรวะ

“แล้วไง มันก็เลยโกรธพี่มาเป็นปีเนี่ยนะ”

“มันก็ส่วนนึง แต่กับไอ้แกน กูก็เหม็นขี้หน้ากันมานานแล้ว ถ้าไม่มีเรื่องของมิ้นท์ กูก็ไม่ถูกกับมันอยู่ดี”

“อืม หมายความว่าพี่ฟันแล้วทิ้งใช่ไหม”ผมถามออกไป

“ประมาณนั้นแหละ”พี่ท็อปยิ้มเยาะให้ตัวเอง “ ทีนี้มึงเข้าใจหรือยังว่าเพราะอะไรกูถึงขึ้นชกในวันนั้น ทั้งๆที่รู้ว่าต้องแพ้”พี่ท็อปเดินมาหาผม จับไหล่ทั้งสองข้าง สบตาผมเงียบๆ พยักหน้าเข้าใจ ใช่ ทุกอย่างแจ่มแจ้งหมดแล้ว

ถ้าเป็นลูกผู้ชายพอก็ควรยืดอกยอมรับคำท้าของเฮียแกนเพื่อไถ่โทษเรื่องน้องสาวสินะ “ที่ผมไปขัดวันนั้น....”ผมมันจอมสะเหล่อ ทำเสียเรื่องหมด

“ช่างเถอะ...กูกับมันยังมีเวลาเหลือเฟือ แต่ตอนนี้ กูแค่อยากให้มึงรู้ว่ากูได้มีเจตนาร้ายกับมึง...กูได้ไม่โกหกเวลาที่กูบอกว่าชอบมึง”อีกฝ่ายพูดเสียงหนักแน่น ผมพยักหน้า จิตใจอันหนักอึ้งผ่อนคลายลงมาบ้าง พี่ท็อปดึงผมเข้าไปกอดแน่นๆ

“...ผมไม่น่าทำเรื่องให้แย่ลงแบบนี้เลย”ผมยิ้มก่อนจะซบหน้าลงไปไหล่พี่ท็อปแล้วกอดโอบเจ้าตัวแน่นๆ ความสัมพันธ์กับพี่ท็อปจะไปได้ดีไหมนะ....ทั้งๆที่ผมกับพี่ท็อปก็ผ่านเรื่องแย่ๆที่ตัวเองทำผิดมา

“อืม กูรู้ ...แต่เรื่องเก่าๆก็ปล่อยให้เวลามันสะสางกันเอาเอง...ถึงเวลานั้นมึงก็ต้องยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเอง...มึงเข้าใจไหมวะสอง”พี่ท็อปบอกก่อนจะผละออกจากผม ก็ดี ผมจะได้ไม่หนีไปไหนเสียที ให้มันสิ้นๆเรื่องไปเลย กับเรื่องของเฮียแกน....ยิมและโย...

“ครับ ผมเข้าใจดี”ผมตอบ


งานนี้ผมก็ยังคงต้องเสี่ยงอยู่ดี เสี่ยงเอาหัวใจผมไปแลกรักของพี่ท็อป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2018 04:44:51 โดย RindadaRin »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :pig4:    กำลังคิดถึงท็อปสองอยู่พอดีเลยค่ะ.  อ่อ. แบบนี้นี่เอง
 ดีแล้วที่เคลียร์กันบนเตียง. 555 เวลาหวานๆมัวระแวงกันอยู่นี่มันแย่จริงน้อ
พี่ท็อปน่ารักอะ. สองก็คล้อยตามตลอดจะไม่เทใจยังไงไหวก็รักเขาไปนานแล้ว
ต่อไปก็รอเคลียร์เรื่องพวกนั้นไปพร้อมๆกันเนอะ #น้องสองเมียรัก

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ โซดาหวาน

  • ชอบเกาหลี , คลั่ง วาย ~ , ♥ รักประเทศไทย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-1
น้องสองเมียพี่ท๊อปปปป แน่นอนแล้วสินะ!!!
คงไม่เปลี่ยนตำแหน่งอีกแล้วววเนอะ รึเปล่าา?
แต่ถ้าเปลี่ยนกันรับเปลี่ยนกันรุก เค้าก็โอน๊า 55

ออฟไลน์ New_Tai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
อ่าา มิ้นนีน้องเฮียแกนนจิงด้วยอ่ะ ความลับเปิดเผยซะแล้ววว 555 ที่ี้สองก็โล่งใจได้แล้วววช่ะ? หรือยังไง
แต่เค้าว่ามันดูง่ายไปไหม เหมือนอิพี่ท๊อปยังมีไรปิดบังสองอยุ่อีกไงไม่รุ้ จิงง
คงไม่ใช่ว่าจะหลอกให้สองรักมากก แล้วทิ้งเพื่อแก้แค้นแทนมิ้นหรอกนะ เอะ หรือว่าเค้าจะคิดมากกกไป 555
ยังไงรอติดตามตอนต่อไปอยุ่นะ  o18

ออฟไลน์ sodawan1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
สองยอมรับสถานะ"เมียพี่ท๊อป"แล้วใช่มั้ยยยย  :ling1:

55555

มิ้นเป็นน้องสาวเฮียแกนจิงๆๆ เฮ้ออ เรื่องมันชักวุ่ยวายยย ความจิงเปิดเผยแล้ว
แต่เค้ายังสงสัยว่ามันต้องมีไรมากกว่านั้นอีกแน่ 555 เหมือนอิพี่ท๊อปจะบอกไม่สุดดด
แล้วววไหนจะเรื่องอิน้องโยนั้นอีกกก

ปล.ยังแอบหวังว่าสองจะกลับลำหันมากดพี่ทท๊อปเป้นเมียอยู่น๊าา  55

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ก็ยังอยู่กะบความหวดระแวงหน่อยๆต่อไป คดีมันต้องมีพลิกบ้างแหละนะ

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
เปลี่ยนกันรุกเปลี่ยนกันรับไม่เป็นไรหรอก แต่อย่าเปลี่ยนสามีให้สองเป็นพอ
ชอบพี่ท้อปอ่ะ :ling1:

ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เรื่องจะเป็นไงต่อไปหว่า ....????   เดาม่ายถูก

ออฟไลน์ kukkikkooka

  • insomnia~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
เหมือนยังไม่เคลียร์ ยังค้างๆคาๆอยู่เลย

ไม่สนิทใจกันทั้งคู่ซะที  เฮ้อออออ

แต่เราก็เชียร์น้าาา อย่าาเปลี่ยนคู่น้าาา

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
โอเค...จะพยายามเลิกสงสัยพี่ท็อปนะคะ 5555555555555
เฮียแกนกับพี่ยิมแกก็ไม่ผิดจริงๆนั่นแหละ...
มีแต่พวกเอ็งสองคนไปทำกับน้องสาวเขาก่อนทั้งนั้น พวกเลว 555555555555555555
แต่ก็หวังว่าจะเคลียร์เรื่องในอดีตได้หมดซักทีน้า...
แล้วก็พี่ท็อปไม่มีอะไรแอบแฝงแล้วใช่มั้ย 55555555555555
ปล.สองจะยอมเสียเอกราชให้พี่ท็อปตลอดไปเหรอ!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
มิ้นเป็นน้องเฮียแกนจริง ๆ ด้วยแต่เรื่องพี่ท๊อป ดูมันเร็วไปไหม
เหมือนพี่ท๊อปเตรียมทุกอย่างเพื่อให้สองรัก และหลงในเวลาอันสั้นยังไงไม่รู้
ยังติดใจคำพูดยิมอยู่เล็ก ๆ

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
โห้....อดีต เคยมีเมียคนเดียวกัน ปัจจุบัน ได้กันเอง อิอิ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
เรื่องมันง่ายไปนะ

ออฟไลน์ รินดาwดาริน

  • OnTop&N'Song
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +243/-2
ตอนที่ 9 ความจริงใจจากคนตรงข้าม

ผมกับพี่ท็อปนั่งแท็กซี่กลับหอพักตอนเที่ยง หลังจากที่ทานมื้อเที่ยงและล่ำลาแม่พี่ท็อปเป็นที่เรียบร้อย ผมเข้ามาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปคณะตอนบ่ายโมงเพราะมีเรียนปั้นทั้งบ่ายเลย ส่วนพี่ท็อปคาดว่าน่าจะกลับมานอนต่อที่ห้อง ผมหยิบกระเป๋าสะพายกับถุงดำ ผ้ากันเปื้อน และตะกร้าไปด้วย วันนี้ต้องไปนวดดินอีก เมื่อเดินลงมาถึงที่โรงจอดรถเจอไอ้ยิมนั่งคุยโทรศัพท์บนรถพอดี

“...แฟนไม่ไปส่งที่คณะหรือไง”ยิมเอ่ยทักส่งยิ้มกวนๆมาให้ วันนี้มันไม่ได้ใส่แว่น จะว่าไปอีกฝ่ายตัดผมใหม่ ดูสั้นขึ้น และหน้าตาดูเด็กลงเยอะเลย

“ไม่ได้เป็นง่อยนี่หว่า ไปเองได้ครับ”ผมไม่สนใจยิม วางข้าวของสัมภาระลงก่อนจะหยิบหมวกกันน็อคมาสวม ยิมเก็บโทรศัพท์หยิบกระเป๋ามาสะพาย

“เดี๋ยวไปส่ง....”ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ยิมมันยืมแกว่งพวงกุญแจในมือไปมา ผมมองหน้าอีกฝ่ายงงๆ จะมาไม้ไหนกัน

“พูดเล่นพูดจริง”ผมขมวดคิ้วถาม ยิมแค่ไหวไหล่ทำหน้าเรียบเฉยตามแบบฉบับของมัน

“ถ้าอยากให้ไปส่ง ก็ไปให้ได้”แหม ดูต่อปากต่อคำ งั้นแสดงว่าผมต้องอยากให้มันไปส่งแล้วล่ะ กะว่าจะตะล่อมถามมันเรื่องเมื่อวานซะหน่อย ที่มันทำท่าทางและพูดจาแปลกๆกับผม

“...อืม...ถ้าฟรีไม่เสียค่าวิน ก็ไปอยู่แล้ว ไม่เกี่ยงหรอก”ผมหยิบข้าวของมาถือไว้เหลือบมองหน้ายิมที่มีรอยยิ้มผุดขึ้นมาน้อยๆ มันถอยรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองออกมาก่อนจะสตาร์ทเครื่อง

“รีบไหม”อีกฝ่ายถาม ขณะที่ซ้อนท้ายมันแล้ว  ผมสงสัย ยิมมันจะถามทำไมนะ มาแปลกมากวันนี้ “ทำไมครับ พี่จะเลี้ยงข้าวเหรอ ผมกินมาแล้ว”ผมถาม ยิมไม่ตอบอะไรแค่ออกรถไปช้าๆ “ว่าไง พี่ถามทำไม”ผมต้องถามซ้ำอีกครั้ง เป็นคนที่น่าหงุดหงิดจริงๆ ผมล่ะไม่ชอบเวลาถามแล้วไม่ตอบ กวนประสาท

“ก็จะได้แวะกินกาแฟก่อนไง”ยิมหันมาพูด ก่อนจะขี่รถไปจอดที่ร้านกาแฟข้างๆประตู5ของมหา’ลัย ผมถอดหมวกกันน็อคออกแล้ววางของบนเบาะรถก่อนจะเดินตามหลังยิมไป เพราะข้างนอกอากาศร้อน ร้านหรูเสียด้วยมีแววว่าจะได้กินของฟรีอีกแล้วสิเรา

“กินอะไรมึง”ยิมหันมาถามผม ขณะหยุดที่หน้าเคาร์เตอร์ ผมกรอกตามองป้ายเมนูอย่างใคร่ครวญ ยิมสั่งเอซเปสโซ่เข้ม ๆ หนึ่งแก้ว มันเคาะนิ้วรอผมสั่งอย่างอดทน สายตานิ่งๆของมันทำให้ผมนึกอยากจะแกล้ง แต่มองสีหน้าพนักงานแล้วก็ต้องพับความคิดเก็บไว้

 “...เอาชาเขียวกับบราวนี่ย์แล้วกันครับ”ผมสั่ง ก่อนจะเหลือบมองยิมที่เดินไปเลือกโต๊ะ เห็นเดินไปนั่งโต๊ะริมติดกระจก ไอ้ยิมอยู่ๆก็มาทำใจดีด้วย เป็นบ้าบออะไรของมันกัน ผมได้แต่คิดในใจก่อจะตามมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับมัน

“...คิดยังไงมาทำดีด้วยครับเนี่ย เป็นบ้า ผีเข้าผีออกหรือไง”ผมเปิดปากพูดก่อน ยิมแค่หัวเราะเบาๆแล้วเอนหลังกอดอกมองผมแทน มันอมยิ้มท่าทางกวนประสาท

“...ทำไมวะ มึงก็ไม่ได้ปฏิเสธความดีของกูนี่”ยิมพูด ท่าทางของเจ้าตัวดูเอื่อยๆเรื่อยๆดูสบายอารมณ์ หรือว่ามันสนุกที่ได้แกล้งปั่นประสาทผมแบบนี้ ผมมองหน้าอีกฝ่ายเขม็ง

“ของฟรี ผมชอบครับ”

“...ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอก”ยิมโน้มตัวมาข้างหน้า ยื่นหน้ามาใกล้กับผม สายตาอีกฝ่ายดูเจ้าเล่ห์พิกล หรือว่าผมตาฟาดไป ยิมแย้มยิ้มช้า ๆ แล้วหัวเราออกมาเหมือนสนุกสนานทำให้ผมหงุดหงิด

“หมายความว่าไงเนี่ย”ผมทำเสียงไม่พอใจ

“ก็แค่พูดให้มึงคิด... ดูสิ แค่นี้มึงยังหลวมตัวตามกูมาต้อยๆ หลอกง่ายนะมึง”ยิมหัวเราะ ผมนิ่งอึ้ง อีกฝ่ายคิดจะทำอะไรกันแน่ ผมเริ่มเครียดขึ้นมาจ้องหน้ายิมนิ่งๆข่มอารมณ์หงุดหงิดไว้ ระหว่างนั้นพนักงานก็มาเสิร์ฟออเดอร์ที่โต๊ะ ยิมเปิดกระเป๋าเงินจ่ายค่าชาเขียวกับบราวนี่ย์ของผม ผมเลิกสนใจมัน แล้วหันมาตักบราวนี่ย์เข้าปาก รู้สึกอร่อยเป็นพิเศษ ของฟรีก็แบบนี้แหละ

“...ชอบกินเหรอไง”อีกฝ่ายยื่นหน้ามาถาม มันมองผมทุกอาริยาบถ ทำเอากระเดือกไม่ลง ผมเลยก้มหน้าก้มตากิน

“อืม”ผมรับคำเงียบๆ “หึ... นึกว่าชอบกินอะไรที่มันง่ายๆถูกๆดาดๆซะอีก”เจ้าตัวยิ้มเยาะ กอดอกมองผมนิ่ง ผมวางช้อนลง

“....พี่มีอะไรจะพูด ก็พูดออกมาตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม”ผมกระชากเสียงใส่ เตรียมลุกออกจากโต๊ะแต่ยิมมันเข้ามาจับแขนผมไว้แน่น ทำตาแข็งๆใส่ผมอีก

“...อย่าเพิ่งไปสิ”ยิมรีบพูด ก่อนจะขยับเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ ผมแทน ผมมองอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้ใจ

“พี่อย่ามากวนประสาทผม มีอะไรก็พูดมาตรงๆเถอะ”ผมได้ยินอีกฝ่ายถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะหันมามองหน้าผมยิ้มๆ อะไรของมันกัน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ผมเดาอารมณ์ยิมไม่ถูกจริงๆ

“...เปล่า...กูก็พูดไปแบบนั้นเองนั่นแหละ...”อีกฝ่ายพูดเบาๆ มันเม้มปากแน่น คิ้วขมวดมุ่น ทำท่าเหมือนมีอะไรอยากจะพูดแต่ยังปิดปากเงียบ

"เอ้า พี่นี่..."ผมยังคงจ้องยิมไม่หลบสายตา แต่เป็นเจ้าตัวซะอีกที่เสมองไปทางอื่น

"ก็แค่ อยากชวนมาด้วยเฉยๆ"อีกฝ่ายหันมาพูดน้ำเสียงนิ่งๆ คำพูดของเจ้าตัวทำเอาผมอึกอัก ดูจากสีหน้าท่าทางของยิมแล้วคงพูดจริง...ผมเงียบไป ก่อนจะหัวเราะออกมา

"ฮั่นแน่ๆ แอบคิดซัมติงอะไรกับผมหรือเปล่าครับ"ผมหันไปล้อเลียนคนข้างตัว ยิมส่ายศีรษะ ทำหน้าเหมือนจะหลุดขำ

"ถุย เข้าข้างตัวเองฉิบ"จากนั้นก็เอื้อมไปหยิบแก้วเอซเปสโซ่ของตัวเองมาดื่ม

“ก็เห็นๆอยู่ ลากเค้าไปนู่นทีไปนั่นที แอบชอบผมเหรอครับพี่ยิม ผมมีแฟนแล้วนะ จีบไม่ติดหรอก”ผมแกล้งพูดไปแบบนั้น ยิมแทบสำลักใส่หน้าผม อีกฝ่ายวางแก้วลงเสียงดังก่อนจะตบหัวผมซะเต็มแรง ผมทำหน้าเหวอ ไม่คิดว่ายิมจะกล้าทำแบบนี้

“เพื่อนเล่นเหรอวะ”แอบเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าแดงด้วย

“อะไรครับ พูดเล่นนิดหน่อยไม่ได้หรือไง ทำเป็นเฉไฉ อันที่จริงผมพูดถูกใช่ไหมล่ะ”ผมยื่นหน้าไปมองยิม อยากรู้ว่าเจ้าตัวมีสีหน้ายังไง อีกฝ่ายเอนตัวออกแล้วผลักผมจนเก้าอี้ขยับ

“ยังอีก มึงนี่ กูใจดีด้วยหน่อย แม่งเอาใหญ่เลยนะ เดี๋ยวตบคว่ำ”ยิมทำตาดุ พร้อมกับทำท่าเหมือนจะตบผมจริงๆ ไม่รู้ว่าเล่นๆหรือว่าจริงจัง แต่ผมไม่กลัวแค่ส่งยิ้มไปให้

“โอเคๆ เลิกแล้วต่อกันนะ เออ เข้ามอได้แล้ว ผมมีเรียนครับ”ผมสะกิดไหล่อีกฝ่าย ยิมถอนหายใจก่อนจะลุกเดินนำหน้าไป ผมหยิบแก้วชาเขียวติดมือมาด้วย ...แปลกแฮะ ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่เคยคุยกับเจ้าตัวมากนัก แต่ผมก็รู้สึกสนิทกับมันขึ้นมาหน่อย เลยกล้าเล่นมากขึ้น อีกอย่างยิมมันก็ไม่ได้ทำท่าโกรธผมอะไรมากมาย

นั่นล่ะ...ทำให้ผมคิดมาก ว่ายิมมันต้องการอะไรกันแน่...แต่ในเมื่อมันมีท่าทาเป็นมิตร ผมก็พร้อมจะเป็นมิตรญาติดีกับมันได้ เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ wave สีขาวเข้ามาจอดที่หน้าตึกคณะใหญ่ ผมลงจากรถมันแล้วถือตะกร้าไว้ ถอดหมวกกันน็อคมาถือไว้อีกข้าง

"เย็นนี้ว่างไหม"ยิมถาม ผมเงยหน้าจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่เคยพบเคยเห็น เฮ้ย ยิมมันผีเข้าจริงๆว่ะ ทำไมถึงทำแต่เรื่องเหนือความคาดหมายแบบนี้นะ

"ไม่รู้สิ ต้องดูก่อน คนมีแฟนก็แบบนี้แหละ คิวเต็ม"ผมหัวเราะบอกอีกฝ่ายไปอย่างนั้น ไม่รู้ว่าพี่ท็อปจะชวนไปไหนหรือเปล่า ไม่แน่พี่ท็อปอาจจะไปทำงานกับกลุ่มพี่ธามก็ได้ ยิมเบ้หน้าก่อนจะไหวไหล่เหมือนไม่สนใจ

"เออ งั้นกูอยู่หอสมุดนะ"อีกฝ่ายบอกแล้วมองหน้าผมอยู่นาน ผมชะงักกึก หมายความว่าจะอยู่รอรับเหรอไง อืม น่าคิดนะเนี่ย ช่างกลายเป็นจิตใจดีมีเมตตาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

"...บอกทำไม"ผมแกล้งกวนประสาทยิมเล่น ๆ

ยิมด่าผม ชูนิ้วกลางให้ ก่อนจะขับมอเตอร์ไซด์ไปตามเส้นทางไปยังหอสมุด ผมไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าเล่นอะไรแบบนี้ ตั้งแต่ในร้านกาแฟเหมือนกัน ผมหัวเราะไล่หลัง ก่อนจะเดินถือข้าวของไปยังห้องปั้นที่อยู่ในตึกของสาขาประติมากรรมฯ ไม่เชิงเป็นห้องเพราะอยู่ชั้นล่างใต้ถุนอาคาร มีบอร์ดใหญ่กั้นเป็นฉากบังตา ผมเดินมาจนถึงโต๊ะยามเอ่ยทักทายนิดหน่อย
แล้วเดินอ้อมไปหลังบอร์ด เผยให้เห็นเพจปั้นไม้ที่วางเรียงตามจำนวนนิสิต ที่ด้านข้างมีโต๊ะเก้าอี้ยาวติดผนังมีเหล่าชาวศิลป์เพื่อนร่วมชั้นนั่งอยู่สามสี่คน

"ไงมึง นึกว่าตายห่าไปแล้ว"ไอ้ผิงหัวเราะโบกมือทักทาย ไอ้โก๋มองหน้าผมแล้วยิ้มกว้าง ผมวางของที่เพจปั้นของตนเอง วันนี้มีเรียนทั้งบ่ายเลย

“เออ กูตายยากเว้ย”ผมเดินไปสบทบกับพวกมัน ไอ้โก๋หัวเราะ “ขาดมึงไป ไม่มีใครหารค่าเหล้าเลยว่ะ”ไอ้โก๋พูด พวกนั้นก็ส่ายหน้า

“เฮ้อ กลายเป็นคนติดแฟนไปแล้ว เพื่อนกู”ไอ้ผิงทำหน้าเซ็งๆ แต่ผมแค่เงียบไม่อยากพูดอะไรมาก หลังจากที่อาจารย์มาก็เริ่มสอนงานให้ และให้แบ่งดินกันให้พอ ผมได้มาครึ่งถุงดำ ผมใส่ผ้ากันเปื้อนไว้แล้วมานั่งนวดดิน ก็ใช้เวลาไปเกือบๆยี่สิบนาที ก่อนจะลงมือปั้นดินขึ้นบล็อกสี่เหลี่ยมที่กระดานปั้น อย่างน้อยวันนี้ต้องทำนูนสูงให้เสร็จ  ผมใช้เวลาเกือบเต็มวันกว่าที่งานจะออกมาถูกสัดส่วน อาจารย์ก็มาตรวจงานแถวผมทันที ได้เกรดเป็นที่พอใจ ผมเก็บข้าวของเดินไปล้างมือให้สะอาดแล้วเดินไปนั่งเล่นที่โต๊ะหินอ่อนหลังคณะใกล้กับพุ่มไม้เก็บซากของเหลือใช้ ตั้งแต่สนิทกับพี่ท็อปจนกระทั่งคบเป็นแฟน ผมสูบบุหรี่น้อยลง บางวันก็แทบไม่ได้แตะเลย

“เป็นอะไรวะ ทำหน้าเซ็ง”ไอ้ผิงที่คงตรวจงานเสร็จแล้วเดินมาตบไหล่ผมแล้วนั่งลงข้างๆ

“เปล่า”ผมบอกเสียงเนือยๆ

“แบบนี้แหละ มีแฟนเป็นเด็กวิดวะ ต้องทำใจมีเวลาให้น้อย”ไอ้ผิงบอก ผมถอนหายใจ จริงๆก็ไม่ได้เซ็งเรื่องที่พี่ท็อปไม่ว่าง แต่อารมณ์ตอนนี้ผมรู้สึกเบื่อ เซ็งมากกว่า ไม่รู้ว่าเบื่ออะไร 

“เออ”ผมรับคำมันสั้นๆ ไอ้ผิงมองหน้าผมแบบจับผิด

“ทำไมมึงเป็นเอามากขนาดนี้วะเพื่อน”ไอ้ผิงส่ายหน้าหัวเราะเบาๆ ผมเหลือบมองหน้ามัน มันคงคิดว่าผมเซ็งพี่ท็อปมั้ง ถึงผมบอกความจริงไปมันก็คงไม่เชื่อ

“เออ กูรักของกู”ผมแกล้งพูดแล้วหัวเราะไปด้วย

“วิ้ว รัก ด้วยว่ะ มึงนี่หนักนะ เขี้ยวเล็บมึงกุดไปหมดแล้ว”ไอเผิงขำ มองผมด้วยสายตาไม่อย่างเชื่อ “ระวังเหอะ โดนทิ้งแล้วจะหนาว”มันพูดต่อด้วยประโยคที่น่าตบปากเป็นอย่างมาก

“ไม่ทิ้งเว้ย”ผมผลักหน้ามันไปไกลๆ ปากหมาอีก เพิ่งคบกันได้ไม่กี่วันเองจะให้เลิก แม่งเสียเซลฟ์หมด  “เออ แล้วนี่เย็นนี้ไปด้วยกันเปล่า”มันเปลี่ยนเรื่องคุย

“ไปไหน”ผมถาม “แดกเหล้า”ไม่พ้นเรื่องนี้จริงๆเลยนะพวกมึง ไปกันได้ทุกวันมันไม่เบื่อบ้างหรือไงกัน

“วันยังค่ำนะพวกมึง”ผมส่ายหน้าระอากับพวกเพื่อนๆผม “โห พ่อคนดี”ไอ้ผิงทำเสียงประชด

“เออ กำลังกลับตัวอยู่เนี่ย”ผมยิ้มมุมปาก แล้วถอนหายใจ ไอ้ผิงมันคงคิดว่าเป็นมุกแต่ผมเอาจริงนะ ทำตัวให้ดีขึ้นกว่าเดิม มันก็ไม่เสียหายตายชักอะไร ผมมองไอ้ผิงอย่างชั่งใจ ผมสนิทกับมันที่สุด เป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่ประถม เรื่องของมิ้นท์กับเฮียแกนยังรบกวนจิตใจผมทุกวัน อย่างน้อยๆผมต้องฉุกคิดเรื่องสองคนนี้สักนาทีหรือนานกว่านั้น

“มึงรู้ไหม มิ้นท์เป็นน้องเฮียแกน...”ผมเอ่ยเบาๆทำลายความเงียบ ไอ้ผิงได้ยินดังนั้นรีบผุดลุกคอตั้งมองหน้าผมด้วยความตกใจ

“ว่าไงนะมึง”ไอ้ผิงตาเหลือก มันตบหน้าผากตัวเองดังแปะแล้วนิ่งอึ้งไปสักพัก “เออ ตามที่ได้ยินนั่นแหละ”

“เวรแล้วมึง ไม่น่าเชื่อเลย มิ้นท์เนี่ยนะ...”ไอ้ผิงครางเบาๆ มันมองหน้าผมด้วยความกังวล ผมเล่าเรื่องทะเบียนบ้านของเฮียแกน มิ้นท์เป็นน้องสาวต่างแม่ และกำลังรวมมือกับไอ้ยิมเพื่อจัดการกับผมอีกต่อ เรียกได้ว่าถ้าพวกนี้เอาเรื่องผมจริงๆล่ะก็..ผมไม่รอดแน่ๆ

“กูควรทำไงดีวะ”

“...ไปคุยกับเฮียไหม”ไอ้ผิงบอก แบบนี้เท่ากับผมยื่นคอไปให้มันสับน่ะสิ ไม่มีทางหรอก เฮียแกนมันไม่ต้องการเจรจาหรอก

“บ้าเหรอวะ”

“อ้าว แล้วมึงจะทำยังไง”ไอ้ผิงถอนหายใจ มันเครียดตามผม ผมส่งยิ้มบางๆให้มัน “กูก็…แค่รอเวลาเท่านั้นแหละ”ผมบอกสั้นๆ ไอ้ผิงเม้มปากมันตบไหล่ผมอย่างเข้าใจ “เออ...กูเข้าใจ” แต่ผมแค่คิดขึ้นมาวูบนึงว่าผมจะติดต่อมิ้นท์ อีกฝ่าย อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ เป็นยังไงบ้าง มาตอนนี้ ผมนึกถึงคำของไอ้ยิม...รอยแผลที่ผมสร้างไว้กับมิ้นท์ มันหนักหนาแค่ไหนกันนะ ผมลูบหน้าซบลงกับฝ่ามือ...ทำไมผมต้องเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ มาแค้นผมอะไรตอนนี้ว่ะเฮีย ทำไมไม่จัดการผมไปตั้งแต่แรก ตั้งแต่ที่ผมเข้าเรียนปี1 เลยล่ะ




ผมนั่งอึนจมกับความคิดของตัวเองจนเป็นที่พอใจแล้วผมก็ลุกไปเก็บงานออก เพราะคาบหน้าต้องเปลี่ยนแบบอีกแล้ว พอได้เวลาเลิกเรียน 17:00 น. ผมก็เห็นเบอร์แปลกโทรเข้ามา ผมขมวดคิ้ว ในใจสงสัยอาจเป็นเบอร์ศัตรู...แต่คิดไปคิดมาคงไม่ใช่หรอกมั้ง

"สวัสดี"ผมกดรับ

[นี่กูเอง...ยิม...เย็นนี้ว่างไหม] ผมแปลกใจ อีกฝ่ายมีเบอร์ผมได้ยังไง แล้วมันจะมาไม้ไหนเนี่ย

“เออ ว่างแล้ว"ผมคว้ากระเป๋ามาสะพายแล้วเดินไปนั่งที่ระเบียงใต้ตึกภาควิชาของผม

[เออ ทำไมวะ ไอ้ท็อปไปไหน] ยิมถามน้ำเสียงเหมือนดีใจ อยากตอบมันว่าเสือก แต่ก็ไม่ดีกว่า รักษามารยาทหน่อย

"เคลียร์งานอยู่…แล้วพี่ถามทำไมเนี่ย"

[อ๋อ กลุ่มพวกมันลงเรียนคนละตัวกับกู เย็นนี้ไปเป็นเพื่อนกูหน่อย] เสียงนิ่งๆของอีกฝ่ายตามเดิม ผมย่นหน้าอีกครั้ง เฮ้ย ยิมมันบ้าไปแล้วแน่ๆ

"มาไม้ไหนเนี่ย ผมเดาอารมณ์พี่ไม่ถูกเลยว่ะ"ผมทำเป็นหัวเราะ

[เออ เดี๋ยวไปรับ แค่นี้]

“เฮ้ย! เดี๋ยว!”ผมเห็นว่ายิมตัดสายไปแล้ว อะไรกันยังพูดไม่จบเลย แล้วผมบอกตอนไหนว่าจะไปกับอีกฝ่าย แต่ถึงอย่างนั้น ผมจำใจนั่งรอยิม ผ่านไปไม่นานเห็นรถมอเตอร์ไซด์ของยิมมาจอดอยู่ด้านหน้า อีกฝ่ายเปิดหมวกกันน็อคแล้วกวักมือเรียก ผมถอนหายใจเดินไปหาก่อนจะเอ่ยปากถามทันที

“ตกลงพี่จะเอายังไงกับผมกันแน่”ผมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

"...อย่าเพิ่งพูดตอนนี้ ไปเพื่อนกูซื้อของก่อน"ไอ้ยิมพูดอย่างใจเย็น มันจ้องหน้าผมนิ่งๆ "เหอะ"

"แล้วกูจะบอกมึงทุกอย่าง”ยิมตอบเสียงเบาๆ ทำหน้าเหมือนเหนื่อยล้าส่งยิ้มจืดๆมาให้ผม เจ้าตัวทำท่าโบกมือให้ผมไปซ้อนท้ายได้แล้ว ผมเม้มปากถอนหายใจก่อนจะเดินไปซ้อนเบาะหลัง

“ถ้าพูดไม่เคลียร์ ผมต่อยพี่แน่”ผมขู่ ยิมแค่เหลือบมามองก่อนจะหัวเราะ เจ้าตัวพาผมไปยังถนนเส้นหลังมหา’ลัย ก่อนจะข้ามสะพานคลองชลฯไปยังตลาดเย็นในหมู่บ้าน อีกฝ่ายจะมาซื้ออะไรกินหรือไงกัน

“กูว่าจะทำสุกี้เลี้ยงมึง”ยิมพูดหลังจากที่จอดรถแล้ว ผมมองหน้าอีกฝ่ายงงๆ

“เนื่องในโอกาสอะไรครับ พี่ไม่ชอบผมไม่ใช่เหรอ แล้วดูทำสิ...หวังผลอะไรล่ะสิ ของฟรีไม่มีในโลกนี่หว่า”ผมจ้องหน้ามันอย่างเอาเป็นเอาตาย ยิมส่ายหน้ายิ้มๆมาให้

“...ใช่ ของฟรีไม่มีในโลก ยกเว้นตอนนี้กับกูไง มันอยู่ที่เจตนาต่างหาก... มึงหุบปากแล้วตามมาเถอะ ถ้ายังอยากจะรู้เรื่องที่มึงสงสัยอยู่”ยิมทำหน้าตาย เดินนำผมไป

“ไอ้เชี่ยนี่”ผมไม่รู้สรรหาถ้อยคำใดมาให้มันเลย เอาเถอะ อย่างน้อยๆก็ไม่เสียเวลาไปเปล่า ๆ  ผมเดินตามหลังอีกฝ่ายไป ตลาดเย็นคือชาวบ้านแถวมอนำอาหาร ข้าวของมาขายบริเวณสองข้างถนน เป็นซอยเล็ก ๆ ไม่กว้างเท่าไหร่ เดินซื้อของทีก็ต้องระวัง เพราะมีรถสวนไปมา ส่วนใหญ่ก็เหมือนตลาดชุมชนทั่วไป

“กินผักได้ใช่ไหม”ยิมถาม ขณะที่หยุดอยู่หน้าร้านผักสด ผมพยักหน้าส่งเสียงอืมเบาๆ สายตามองพวงกุญแจไม้แกะสลักเป็นรูปต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นชื่อ ไอ้ยิมมองตามสายตาผมไป “แปบนะ”ผมบอกมัน ไอ้พยักหน้าเงียบๆ ผมเดินไปเลือกพวงกุญแจ

“ลุงครับ ผมขอซื้ออันที่ยังไม่ได้แกะได้ไหมครับ พอดีผมอยากแกะเองน่ะ ฮ่าๆ”ผมบอกคนขาย แกก็ใจดีเอาเนื้อไม้รูปทรงต่างๆมาให้ผมเลือก ผมว่าจะเอาไปแกะเป็นชื่อเอง

“เลือกเอาเลยพ่อหนุ่ม แกะเป็นด้วยเรอะ แกะมือหรือว่าเลเซอร์”ลุงแกถาม

“แกะเองเลยครับ ผมไม่มีเครื่องเลเซอร์ งานแฮนด์เมคก็ต้องใช้มือตัวเองทำแหละลุง ยิ่งเดี๋ยวนี้ฮิตไปใช้ยิงเลเซอร์กันหมดแล้วอ่ะลุง”ผมชวนลุงคุยไปด้วย แกก็เออออเห็นด้วย ของแกแกะสลักมือนี่แหละ เหมือนเป็นงานอดิเรก แถมยังทำขายส่งด้วย ผมเลือกเนื้อไม้สีเหลี่ยมลบมุมมาสองอันกับพวงกุญแจไม้แกะสลักรูปหมาร็อตไวเรอร์กับพิตบลูอันกลมๆมาด้วย เดี๋ยวค่อยไปใส่ชื่อทีหลัง ผมจ่ายเงินเป็นที่เรียบร้อย หันไปมองไอ้ยิมที่เดินหายไปที่ร้านเนื้อหมูอีกฝั่งถนนนึง ผมข้ามถนนไปหามัน

“ไม่เห็นรอ นึกว่าหายไปไหน”ผมคุยกับยิม อีกฝ่ายมองหน้าผมนิ่ง ๆ ก่อนจะหันไปเลือกเนื้อหมูชิ้นกลางๆ กับเนื้ออีกชิ้นหนึ่งไปให้แม่ค้า

“ตลาดแค่นี้ไม่หลงไปไหนหรอก”มันพูดทำหน้าบึ้งใส่

“อะไร งอนเหรอ ผมเลือกของนานไป เอ๊ะ หรือว่าผมไม่ซื้อให้พี่ด้วย”ผมแกล้งพูด เห็นอีกฝายชะงัก หันมามองผมหลังจากที่รับเนื้อหมูมาแล้ว “ปัญญาอ่อน”

“อะไรเนี่ย ถ้าผมซื้อให้พี่ ก็จะเหมือนของพี่ท็อปน่ะสิ ผมต้องรอดูพฤติกรรมของพี่ก่อน ถ้ามาดี ผมอาจจะหาอะไรตอบแทนน้ำใจบ้าง”ผมพูดขณะที่เดินตามหลังยิมไป หลังจากที่มาถึงหอพักอย่างรอดปลอดภัยแล้ว หกโมงเป๊ะแล้วด้วยพี่ท็อปยังไม่กลับมา ผมนั่งรอยิมเตรียมของ เห็นมันยกหม้อสุกี้ลงมา แล้วหันผัก มันส่งสายตาเฉือดเฉือนมาให้

“ช่วยหั่นหมูบ้างสิ”อีกฝ่ายทำเสียงนิ่งๆ ผมหัวเราะนิดหน่อย มันบ้าหรือเปล่าเนี่ย ผมดึงเขียงไม้มาหั่นหมูกับเนื้อเป็นชิ้นบางพอดีคำ หลังจากที่หม้อเดือดได้ที่ก็ใส่ไข่ผักใส่หมูลงไปทีเดียวเลย วุ้นเส้นก็ตามมาทีหลัง

"เออ แล้วตกลงว่าไง...จะบอกได้หรือยัง"ผมเอ่ย

“มึงรู้แล้วสินะ ว่ามิ้นท์เป็นน้องเฮียแกน”ยิมพูด ผมพยักหน้า นั่งมองหมูสไลด์บนกระทะกำลังสุกอย่างใจลอย “อืม แล้วพี่เคยเจอมิ้นท์ไหมครับ”ผมถามต่อ

“หึ ไม่เคย แค่ได้ยินไอ้แกนพูดถึงอย่างเดียว”ไอ้ยิมมองหน้าผม

“แล้วพี่รู้เรื่องของผมได้ยังไง”เรื่องที่ผมเคยทำสมัยม.ปลายน่ะ แสดงว่ามันต้องรู้จักผมมาก่อนอยู่แล้ว แต่จะรู้จักได้อย่างไงนั้นต้องให้มันอธิบาย

“มึงว่าโลกกลมไหม กูเคยเห็นมึงที่งานกีฬา”ยิมเริ่มเล่าให้ผมฟังว่าตอนงานกีฬาตั้งแต่ระดับเขต จนกระทั่งระดับจังหวัด ระดับภาค มันบอกว่าแค่สะดุดตาเฉยๆ ระหว่างที่มันเล่ามันไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร แค่ทำหน้าตายนิ่งๆแบบที่เจ้าตัวเป็น อาจจะกลบเกลื่อนผมอยู่ก็ได้ ผมคิดว่าพี่ยิมคนนี้ อาจจะชอบผมก็ได้ล่ะมั้ง...

“หลงเสน่ห์ผมเหรอไง”ผมแหย่มันขำๆ  ยิมกลับยิ้ม “หึ แล้วแต่มึงจะตีความแล้วกัน...แต่กูเสียความรู้สึกมากที่รู้ว่ามึงกับโยทำอะไรกัน รู้ว่าไอ้โยทำตัวเหลวไหลแค่ไหนตั้งแต่มันเจอมึง กูโคตรโกรธ เสียใจ ไม่รู้ว่ะ แต่กูอยากให้มึงได้บทเรียนเจ็บๆดูบ้าง...”มันทำหน้าเหมือนสะใจ ผมแค่ยิ้ม

“อืม...”ตามนั้น อยากจะสะใจก็ตามแต่ ผมว่าตอนนี้ยิมมันคงรู้สึกเหม็นขี้หน้าผมมากกว่า ลองาคิดดู ถ้าหากผมเป็นยิม ผมก็คงรู้สึกอย่างเดียวกัน

“กูจะไม่แจ้งความ....”ไอ้ยิมพูดช้า ๆ  ผมเงยหน้ามองเจ้าตัวอย่างตกใจ ก็ไหนอยากให้ผมได้บทเรียนไง อีกฝ่ายทำหน้าเรียบเฉย มองผมอยู่นาน

“..ทำไมครับ”ผมถามเบาๆ รู้สึกแย่ขึ้นมานิดหน่อย ปกติก็ไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อน

“เพราะยังไง ไอ้แกนคงไม่ปล่อยมึงไปง่ายๆ”คำพูดของอีกฝ่าย ไขข้อข้องใจของผมได้ชัดเจนดี ถ้าปล่อยให้ผมเข้าสู่กระบวนการกฎหมายในเรื่องของไอ้โย อย่างน้อย ๆ ผมอาจไม่ติดคุก ศาลอาจนัดไกล่เกลี่ย จ่ายค่าเสียหายให้กันได้ แต่ถ้าใช้วิธีของเฮียแกน ไม่รู้ว่าผมต้องเจอกับอะไร เฮียแกนเป็นคนที่ผมเดาไม่ออก อีกฝ่ายไม่เคยมาทำร้ายผม นอกจากคำเตือนคราวก่อน ที่รู้ๆคือเจ้าตัวกำลังตัดสินผมเอง แทนที่จะใช้กฎหมาย...ลึกๆแล้วผมเองก็ไม่อยากขึ้นศาลหรอก อนาคตผมคงจบสิ้น

“เฮียจะทำอะไรเหรอครับ”ผมลองถามดู เผื่อยิมมันรู้ “หึ กูก็ไม่รู้หรอก ...”อีกฝ่ายทำหน้าเจื่อนลง มันถอนหายใจท่าทางดูเครียดๆ

“ผมผิดจริง ผมยอมรับ”ผมไหวไหล่ ในห้องเงียบเสียงลง ผมกับมันแค่นั่งเงียบๆคิดอะไรอยู่ในใจ 

“ยิม ผมขอโทษ”ผมมองหน้าอีกฝ่ายก่อนจะตัดสินใจเอ่ยออกไป “เรื่องอะไร...”มันทำหน้างง

“ก็...เรื่องโยไง น้องพี่น่ะ”ผมพูด อีกฝ่ายทำหน้าประหลาดใจ มองมาที่ผมราวกับว่าตกใจที่ผมพูดขอโทษ “...แล้วไอ้โยมันเป็นไงบ้าง”ผมถามต่อ เรื่องโยอยากรู้ว่า มันเป็นยังไงบ้าง

“อืม...มันก็อารมณ์เสียใส่กูน่ะสิ...มันก็เคยถามถึงมึงว่าเป็นยังไงบ้าง อยากคุยกับมึง”ยิมหัวเราะส่ายหน้า

“น้องพี่มันร้ายจะตาย”

“เออ กูรู้...แต่กูจะดูมันเอง กูจะไม่ให้มันมาเจอมึงอีกแล้ว...กูต้องทำข้อตกลงกับมันหลายเรื่องเลย”อีกฝ่ายถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่อเอ่ยถึงน้องชายของตัวเอง ผมเม้าปาก

“อืม พี่รู้แล้วใช่ไหม โยบอกว่าสิบแปดเมื่อไหร่ จะกลับมาหาผมตามเดิม”ผมบอก ยิมพยักหน้า

“เออ กูกำลังหาทางจัดการมันอยู่ กูก็ไม่อยากให้เรื่องถึงหูป๊ากับม๊า เดี๋ยวก็เครียดอีก ยิ่งป๊ากับม๊ารักมันมากอยู่ด้วย”อีกฝ่ายพึมพำ ผมมองเจ้าตัวอยู่นาน อีกฝ่ายเหลียวมองผม

“ยังไงก็ขอบคุณนะครับ”ผมบอกจากใจ เห็นยิมคลี่ยิ้มออกมา “อืม”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2018 05:08:46 โดย RindadaRin »

ออฟไลน์ รินดาwดาริน

  • OnTop&N'Song
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +243/-2
ก๊อก ก๊อก

ระหว่างนั้นมีคนมาเคาะประตูห้องยิม เจ้าตัวทำหน้าแปลกใจ “ใคร”ผมถาม ยิมส่ายหน้าแล้วลุกเดินไปเปิดประตู ผมชะเง้อหน้าไปมองบ้าง  “อ้าว...ไอ้ท็อป”ผมผุดลุกขึ้นเดินไปหาทันที เมื่อเห็นพี่ท็อปยืนอยู่หน้าห้อง กำลังโบกมือเรียกผม

“ไงพี่ท็อป เดี๋ยวผมไปหานะ”ผมบอกพี่ท็อป อีกฝ่ายไม่พูดอะไรแค่เดินกลับไปยังห้องตัวเอง ผมเลยเดินมาเก็บกระเป๋า ยิมมองผมนิ่งๆ

“เออ งั้นผมไปก่อนนะ คราวหน้าไว้ผมเลี้ยงพี่เองครับ”ผมบอก ยิมไหวไหล่แล้วเดินไปเก็บถ้วยกับช้อนไปล้าง  “อืม ไว้เจอกัน”อีกฝ่ายบอกทิ้งท้าย ผมเดินออกจากห้องของยิมแล้วเดินตรงไปไม่ถึงสิบเก้า เคาะประตูห้องของพี่ท็อป ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป เห็นว่าเจ้าตัวนั่งแกะถุงกับข้าวอยู่ที่โต๊ะเล็ก ๆ ที่หน้าโทรทัศน์ ผมเห็นว่าอีกฝ่ายซื้อน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋

“อ้าว ซื้อมาด้วยเหรอพี่”ผมเดินไปนั่งลงตรงหน้า พี่ท็อปเงยหน้ามองผม “อิ่มแล้วไม่ใช่เหรอวะ”ว่าแล้วก็หันไปกินข้าวต่อ สงสัยจะโกรธล่ะมั้ง

“...ยังหรอกน่า”ผมบอก แค่สุกี้ไม่อิ่มท้องหรอก ผมเอื้อมไปหยิบถุงน้ำเต้าหู้มาแกะ “อิ่มก็ไม่ต้องกิน ไม่ต้องเอาใจกูหรอก”พี่ท็อปพูด ผมมองหน้าพี่ท็อป 

“ผมก็ลืมโทรบอกพี่เลย”ผมบอก เลยไม่รู้ว่าพี่ท็อปกินข้าวมาหรือยัง “ช่างเถอะ เรื่องเล็กน้อย”พี่ท็อปหันมายิ้มให้ผม

“ช่วงนี้คงไม่มีเวลาให้มึงแล้วนะ ต้องทำโปรเจ็คกับเข้าแลป ปิดเทอมช่วงสั้นๆ ที่จะถึงนี่ กูต้องไปดูงานกับที่บ้านอีก...”พี่ท็อปเอ่ยขึ้นมาเรียบๆ ผมพยักหน้า “ครับ ผมเข้าใจ”

หลังจากที่ผมกับพี่ท็อปทานข้าว จัดการของหวานจนอิ่ม อีกฝ่ายถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่บ็อกเซอร์ ผมกำลังนอนเล่นอยู่บนเตียงของพี่ท็อป มองหุ่นเจ้าตัวที่มีซิกแพคอยู่บ้างอย่างสนใจ

 "มองขนาดนี้อยากกินเหรอ"

"ใช่ หุ่นแซ่บขนาดนี้"ผมหัวเราะออกมา ไม่ทันขาดคำพี่ท็อปเดินมาหาผม แล้วหยุดยืนข้างเตียง ผมเหลียวมอง  “ลูบสิ”พี่ท็อปบอก ผมมองนิ่ง ๆ

“แค่แซ็วเล่นเอง”ผมกลัวว่าจะไม่ใช่แค่ลูบน่ะสิ แต่ก็ไม่วายยื่นมือไปสัมผัสหน้าท้องที่มีกล้าเนื้อแข็งแรง แกล้งลูบลงต่ำเรื่อย ๆ  แต่พี่ท็อปจับมือผมไว้ก่อน

“พอเลยมึง ทะลึ่งตลอด”พี่ท็อปผลักหัวผมออกแล้วหัวเราะ พี่ท็อปเข้าไปอาบน้ำ ผมนอนดูหนังอยู่บนเตียง ก็มีสายเข้าจากพี่ตั้ม ผมผุดลุกขึ้นยืน รับคว้าโทรศัพท์ออกไปคุยที่นอกระเบียง

 “ว่าไงพี่”ผมถามทันที

[น้องสาวไอ้แกนแฟนมึงใช่ไหม] พี่ตั้มถาม

“เปล่า แค่คุยๆ”ผมบอก นึกถึงสมัยนั้น ตอนคุยกับผม มิ้นท์ก็คงคบกับพี่ท็อปด้วยล่ะมั้ง

[เออ เดี๋ยวส่งรูปให้ดูในแชทนะ เปิดดูด้วยล่ะ] อีกฝ่ายบอก ผมพักสายแล้วเปิดแชทขึ้นมา กดดูรูปที่อีกฝ่ายส่งให้ เป็นรูปคู่ของพี่ท็อปกับมิ้นท์ ผมมองแล้วรู้สึกแปลกๆในใจ ไหนจะรูปที่พี่ท็อปถ่ายคู่กับมิ้นท์ในโรงพยาบาล ว่าแต่มิ้นท์เป็นอะไรจากนั้นผมสะดุดกับรูปใบหนึ่ง เป็นรูปที่พี่ท็อปยืนอยู่ข้างมิ้นท์กับเฮียแกนด้วย แต่ยังอยู่ในชุดนักเรียน

ผมสงสัย นึกว่าสองคนนี้ไม่ถูกกันซะอีก ผมเปลี่ยนมาคุยกับพี่ตั้มต่อ

“ทำไมมันถึงถ่ายด้วยกันได้พี่”

 [ก่อนจะมีเรื่องกัน พวกมันก็ยังดีๆกันอยู่...ก็ไม่เชิงว่าสนิท คือประมาณว่าไอ้ท็อปรู้จักกับไอ้แกนก่อน แต่แค่ผิวเผิน... ตอนนั้นท็อปคงไม่รู้ว่ามิ้นท์เป็นน้องไอ้แกนล่ะมั้ง กูรู้มาว่า พอไอ้ท็อปรู้ว่าเป็นน้องไอ้แกนมันก็เลยชิ่งบอกเลิกไปเลย ไอ้แกนก็ทะเลาะกับไอ้ท็อป ...ไอ้ท็อปมันเลยโดดแบนจากกลุ่ม แยกตัวออกมาอยู่คนเดียวไง แล้วพวกมันก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่นั้นมา ]
ผมรู้สึกมึนงง ตื้อๆในหัว เหมือนว่าความรู้สึกบางอย่างมันขาดหายไประหว่างที่ฟังเรื่อง

[กูกลัวมึงหลงมันเกินไป]

“อะไรพี่”ผมถามเสียงแห้ง

[คือ....มึงคิดหรอว่าคนอย่างไอ้ท็อปมันจะจริงจังกับคนที่ทับทางมันน่ะ... คือ กูว่ามันไม่ใช่ ยิ่งไอ้ท็อปมันรักศักดิ์ศรีมันจะตาย มันไม่ยอมให้ใครมาหยามมันได้หรอก ] พี่ตั้มพูด เหมือนสะกดผมไปในตัว ผมถอนหายใจ ผมไม่เคยฉุกคิดเรื่องนี้มาก่อน

“...พี่จะพูดอะไร”

[กูอยากมึงให้ใช้สมองไต่ตรอง ไม่ใช้หัวใจเข้าว่า ... ถึงมึงจะชอบมันมากแค่ไหนแต่มึงอย่าสูญเสียความเป็นตัวเองสิวะ มันไม่ใช่ตัวมึงเลยว่ะ]

 [เฮ้อ สองมึงเผื่อใจหน่อยก็ดี กูรู้ว่าไอ้ท็อปไม่เหมือนใครที่มึงเคยคั่วอยู่ ...มึงอย่าลืมดิ ว่ามันคือไอ้ท็อป...ไอ้ท็อปที่ไม่เคยสุงสิงไปยุ่งเรื่องของใคร ถ้าไม่มีใครมาหาเรื่องมันก่อน ]คำพูดของพี่ตั้มเหมือนมากระแทกหน้าผมจังๆ ตอนแรกผมทำใจได้แล้วว่าพี่ท็อปยังมีเรื่องปิดบังผมอยู่ แต่ผมเลิกที่จะไม่ใส่ใจ ผมก็แค่รักษาความสัมพันธ์ของพี่ท็อปให้ดี

“ครับ ผมรู้พี่ ผมก็พยายามอยู่”พอมาคิดดูอีกที หากว่าผมไม่ไปยุ่งกับโทรศัพท์พี่ท็อป เจ้าตัวจะบอกผมไหมหรือแค่หลอกไปเรื่อยๆ

 “พี่ทำให้ผมเครียดนะรู้ไหม”ผมพูดต่อ เกราะกำบังของผมพังทลายลงไปตั้งแต่พี่ท็อปเข้ามาป้วนเปี้ยนในชีวิตผม ผมกลายเป็นคนที่อ่อนลงกว่าเดิม...นี่มันดีหรือแย่กันนะ

[เออ โทษที...อยากไปคลายเครียดไหมวะสอง ที่กูจะจัดทริปไง ไปหรือเปล่า กูกะจะทดลองไปใกล้ๆก่อน ไปเฉพาะเพื่อนกูเนี่ยแหละ อาทิตย์ที่จะถึงนี่แหละ ]

“...อืม ถ้าไม่ติดอะไรก็อยากไปนะพี่”ผมบอกเนือยๆ อันที่จริงผมไม่อยากทำอะไรมากกว่า

 [เออ ถ้ายังไงก็โทรมาบอกด้วยล่ะ]

ผมกลับเข้าในห้อง พี่ท็อปยังคงไม่ออกจากห้องน้ำ ก็ไหนว่าพี่ท็อปไม่ชอบเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นไง คิดจะมาหลอกผมเหรอ หรือมันมีอะไรมากกว่านั้นกันนะ ถ้าผมรักพี่ท็อปขึ้นมาจริงๆล่ะก็ อยากจะรู้ว่าถึงเวลานั้นแล้วเจ้าตัวจะเลิกกับผมหรือเปล่า แต่ผมไม่ยอมหรอกนะ ตอนนี้ขอแกล้งโง่ ไม่ต่างอะไรจากไอ้ทู ที่มันยอมเจ้าของไปซะทุกอย่าง แถมยังติดหนึบอีกด้วย แต่ถึงเรื่องจะเป็นแบบนี้ ผมก็ยังชอบพี่ท็อปอยู่ ผมควรจะหยุดอยู่แค่นี้หรือไม่นะ  ถ้าถลำตัวลงไปแล้วคงถอนได้ยาก

พี่ท็อปเคยพูดนี่นะ ว่าผมเหมือนไอ้ทู แต่ก็บ่อยครั้งไปที่หมามันหันมาแว้งกัดเจ้าของเอาได้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2018 05:09:11 โดย RindadaRin »

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ท่าจะความสงบก่อนพายุเข้าแน่ๆเลย       ไม่รู้ว่าสองไปทำอะไรไว้กับมินท์   มินท์ถึงกับเข้ารพ   ทั้งหมดอาจจะเป็นแผนหมดเลยก็ได้ แกน ท็อป ยิม ตั้ม )ความระแวงขึ้นสมอง  ยิ่งท็อปบอกสองว่าให้เตรียมรับผลจากสิ่งที่ทำไว้ด้วย    แกนอาจจะบังคับให้ท็อปทำตามแผนก็ได้

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เรานี่เครียดไปกับสองด้วยเลย.  :katai1:
มิตรที่ว่ามีเนี่ยจะพึ่งได้ไหมสุดท้ายแล้วเพราะมีแต่คนจ้องจะจองกฐิน
แล้วทั้งคำท็อปคำยิมจะเชื่อได้สักแค่ไหน. ตอนนี้หวั่นไหวกับสองยิมเล็กน้อย. อิอิ
ตอนแรกไม่นึกว่าเนื้อเรื่องจะมาทางนี้เลยนะ เรื่องของเรื่องมันคือเกิดอะไรขึ้นก่อนจะเกิดเหตุที่ห้องข้างๆตะหาก

ออฟไลน์ sodawan1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
เอะยังไง ๆๆ ล่ะทีนี้!?  จากท๊อปสอง จะกลายเป็นยิมสอง!? รึเปล่าาา
สองคนนี้ดูเคมีเข้ากันอ่ะ เวลาสองอยู่ด้วยแล้ววดูเป็นตัวเองง 555
เอะหรือว่าเราจะแอบเชียร์ยิมดี 555 (ล้อเล่นน) ยังไงก็ยังอยากให้เป็น#ท๊อปสองเหมือนเดิม
แค่เริ่มเอนเอียงงนิดๆ แค่นั้นเองงงง 555  :hao3:

ออฟไลน์ New_Tai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เอาแล้ววว ยิมเริ่มรุกน้องสองเมียรักพี่ท๊อปซะแล้วววว
แล้วสรุปพี่ท๊อปคิดจะทำไรกัรแน่เนี่ยยย!!!! รอ ๆๆ ตอนต่อไปลุ้นมากกก

ปล.หรือว่าทั้งหมดที่พี่ท๊อปทำ มันเป็นแผนของเฮียแกนกับพี่ท๊อปที่ร่วมมือกันหลอกสอง
โอ้ยยยิ่งคิดยิ่งเยอะะ 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด