เหตุเกิดบนเตียงของห้องข้างเคียงวิศวะ ตอนพิเศษ 14.11.62 อัปจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุเกิดบนเตียงของห้องข้างเคียงวิศวะ ตอนพิเศษ 14.11.62 อัปจ้า  (อ่าน 248924 ครั้ง)

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
จะเอาท็อปสอง :ling1:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ไม่มีใครน่าไว้ใจสักคนสินะ

สู้ๆสอง


ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ armize

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สงสารสอง อ่ะ เครียดแทน

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
เครียดตามสอง 55555555555555
พี่ท็อป พี่เนี่ยนะ..จะทำให้เชื่อใจตลอดไม่ได้เชียวหรือ
เดี๋ยวก็ระแวง เดี๋ยวก็เลิกระแวง และกลับมาระแวงอีกครั้ง
ความลับพี่มันเยอะเกินไป 55555555555555
แล้วพี่ยิมนี่ยังไงหว่า อันนี้คือมาจีบรึเปล่า 55555555
หรือจะมีคดีพลิก จากท็อปสองกลายเป็นสองยิม(?)
 :katai1:

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
เรื่องมัน อิรุงตุงนัง เหมืแนจะเคลียร์แต่ก็ไม่เคลียร์
โดยส่วนตัว เราว่าสองค่อนข้างเห็นแก่ตัวมากกว่านะ ในหลายๆครั้ง เลือกตัวเองเป็นที่ตั้ง สำนึกจริงรึป่าวก็ไม่รู้ เหมือนเรื่องมิ้น
หรือต่อให้เป็นเรื่องโย ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม  มันคงดูเป็นเรื่องจริง จนเรารู้สึกว่าน่าเบื่อเบาๆ สำหรับคนแบบนี้อ่ะนะ

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หรือออ พี่ยิมมมเปนพระเอกกกน้าาา
โอ้ยยยย
แต่ก้ชอบพี่ท๊อปน้าาาา
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
เครียดตามสองเลยนะนี่ อย่างนี้จะเชื่อใจใครได้บ้างเนี้ยะ
ทุกคนดูมีเงื่อนงำตลอด เหมือนจะดี แต่ก็ไม่ดี
เหมือนจะเลยว แต่ก็ไม่เชิง คิดแล้วปวดหัว สงสัยคงจะเล่นสงครามประสาทกันซะมากกว่านะนี่

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
ปวดหัวกับเรื่องนี้ เหมือนจะเดาทางได้ เหมือนจะคลี่คลาย แต่อีกตอนกลับพลิกล็อคอีกแล้ว สนุกดี 555+ ชอบสองนะ อะไรก็ยิ้มหัวเราะไว้ก่อน ^^ แล้วก็เป็นคนตรงๆด้วย ชอบคนแบบนี้จังน๊าาา~

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
เครียดดดดด -___-""

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
เรื่องนี้ดูอารมณ์เทาๆหม่นๆไงชอบกล
อ่านไปเสียวอยู่ตลอดเลยว่าจะพลิกไปแบบไหน
เหมือนอารมณ์แบบอะไรก็เกิดขึ้นได้ ในเรื่องนี้
เสียวชีวิตไอ้สองจริงๆ. มีแต่หวิดคุกจนแล้วจนรอด แหม
มิ้นนี่ เป็นน้อง เฮียคนนั้นป่ะ แล้วท๊อปเลิกปู้ยี้ปู้ยำ  บอมรึยัง
สลับกันแบบนี้ ก็เร้าใจดีเหมือนกันนะ
 :impress2:

ออฟไลน์ kukkikkooka

  • insomnia~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
อ่านตอนนี้เริ่มรู้สึกเอ๊ หรือจะยิมสองหว่าา

พี่ท๊อปเหมือนยังกั๊ก กุมความลับเอาไว้หลายเรื่องอ่ะมันดูไม่จริงใจกะสอง

แต่ยังไงก็ยัง ทีมพี่ท๊อปนะ 55555

รอตอนต่อไปค่ะ



ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เอาล่ะซิ พี่ท๊อปนี้ัยังไงเนี่ย
ยิมทำดีเข้าใส่แล้ว
สองจะไปเที่ยวกับยิมด้วย
แต่ก็ยังเชียร์ท๊อปให้สอง ฮ่าๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ รินดาwดาริน

  • OnTop&N'Song
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +243/-2
ตอนที่ 10 เผชิญหน้า

หลังจากที่ผมตั้งสติกับเรื่องนี้ได้ ผมลองชวนพี่ท็อปไปออกทริปกับพวกพี่ตั้ม แว่ว ๆ ว่ามียิมไปด้วย แปลกใจเหมือนกัน ไม่คิดว่ายิมจะรู้จักกับพี่ตั้มด้วย ทริปเขาค้อ ไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่น ก็ไม่ต้องไปเจอกับกองทัพมนุษย์มากนัก ช่วงนี้อากาศไม่ร้อนเกินไป คิดว่าบนเขาอากาศน่าจะเย็นลงหน่อย คงมีทะเลหมอกให้ได้เห็นบ้าง

ระหว่างที่ผมกับพี่ท็อปเข้านอนไปได้สักพัก แต่ผมยังหลับไม่ลง หันมองไปที่คนข้างกาย อีกฝ่ายยังคงไม่หลับสนิท ผมเลยสำรวจใบหน้าของเจ้าตัวไปเรื่อย ๆ

“เป็นอะไร จ้องหน้ากูขนาดนี้”พี่ท็อปลืมตาขึ้นมา  อีกฝ่ายกำลังเล่นละครอยู่หรือเปล่า ผมอาจเข้าข้างตัวเอง แต่เวลาที่พี่ท็อปอยู่กับผม มีหลายมุมที่พี่ท็อปไม่ได้แสดงให้คนอื่น ๆ ได้เห็น มันทำให้ผมรู้สึกพิเศษขึ้นมาล่ะมั้ง

“เปล่า ก็แค่มองเฉยๆ”ผมยิ้มให้ พี่ท็อปทำหน้าแปลกๆ “เฮ้ย เป็นอะไรหรือเปล่า”

“ทำไมพี่ถึงยอมเป็นแฟนผมล่ะ”ผมถามหลังจากที่เงียบไปนาน อีกฝ่ายมีสีหน้าตกใจขึ้นมาก่อนจะเลิกคิ้วมองผมอย่างสงสัย

“...สอง นี่มึงเป็นอะไรหรือเปล่า”

“ตอบผมมาก่อนดิ ก็แค่อยากรู้”ผมย้ำอีกครั้ง จ้องลึกเข้าไปในแววตาของพี่ท็อป นัยน์ตาสีดำมีประกายเล็กน้อยคู่นี้ทำให้ผมหลงใหล เจ้าตัวมองผมกลับนิ่งๆก่อนจะยิ้มมุมปากออกมา

“กูเห็นว่ามึงทุ่มเทดี กูเคยคิดว่าอย่างมึงเนี่ย ไม่ใช่สเป็คของกู ...คงไม่ชอบมึงแน่นอน แล้วกูเองก็อยากจะรู้ว่าคนอย่างมึงจะทนอยู่กับกูไปได้นานแค่ไหน...”แววตาพี่ท็อปดูสั่นไหวเหมือนกังวลอยู่

“แล้วพี่คิดว่าผมจะทนได้หรือเปล่าล่ะ”

“กูไม่รู้จริงๆ มึงมันเอาแน่เอานอนไม่ได้นี่หว่า”พี่ท็อปยิ้มออกมานิดนึง ผมละสายตาออกจากนัยน์ตาสีดำของพี่ท็อป แล้วหันมาสนใจกับนิ้วมือเรียวรับกันดีของพี่ท็อป จับคลึงเล่นไปมาอย่างเพลินใจ

“ขนาดนั้นเลย”

“ถามทำไม กูตกใจเลยนะเว้ยตอนมึงถาม”

“ทำไมล่ะพี่ ผมเป็นคนอ่อนไหวนะเนี่ยเห็นแบบนี้ บอบบางจะตาย”ผมแกล้งทำเสียงเง้างอน จนพี่ท็อปผลักผมออกห่าง

“ถามกูแต่ละอย่าง ไม่มั่นใจในตัวกูว่างั้น”พี่ท็อปดันผมนอนราบลงกับเตียง ก่อนที่พี่ท็อปจะขึ้นมาคร่อมทับผมไว้ ผมแอบหวั่น อย่าบอกนะว่าจะทะลวงถ้ำผมน่ะ

“แล้วพี่ทำให้ผมมั่นใจในตัวพี่ได้ไหมล่ะ ผมคบกับพี่เพราะผมชอบพี่ มันไม่ใช่เกมส์ของใคร... ผมไม่อยากถูกเล่นเหมือนหมากตัวนึง”ผมพูด พี่ท็อปก้มลงใกล้ผมจนจมูกแตะสัมผัสกัน

“กูรู้ มึงไม่ผิดหรอกที่จะสงสัยในตัวกู...กูเองก็มีหลายอย่างที่ยังเคลียร์ไม่ลง...กูเคยบอกมึงแล้วไงว่ากูไม่ชอบเล่นกับความรู้สึกของใคร ที่กูทำ ที่กูพูดหรือที่กูแสดงออกกับมึงมันคือความจริง...”พี่ท็อปเลื่อนมามองหน้าผม มือสองข้างประคองหน้าผมไว้ ผมใจเต้นรัวในขณะที่พี่ท็อปพูด

“ครับ”บอกตามตรงว่าผมเชื่อพี่ท็อปทุกอย่าง ผมเชื่อว่าพี่ท็อปน่ะไม่ได้โกหก แต่ การกระทำของพี่ท็อปยังคลุมเครือ ผมไม่รู้ว่าทั้งหมดที่เจ้าตัวทำมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรหรือไม่ ผมเดาไม่ออก ไม่อยากนึกไปถึงเฮียแกน เพราะลึก ๆ ผมรู้ว่าพี่ท็อปก็แค่อริเก่าเฮีย มันคงไม่มีอะไรมากกว่านั้น

“กูไม่รู้ว่ามึงไปฟังอะไรจากใครมา...มึงรับฟังได้แต่อย่าให้ข้อมูลพวกนั้นชักจูงมึงมากเกินไป จนมองไม่เห็นความจริง”อีกฝ่ายพูดเบาๆ โน้มหน้าลงมาใกล้ จรดริมฝีปากลงบนหว่างคิ้ว ผมหลับตาลง พี่ท็อปยังคงคลอเคลียจูบไปทั่วใบหน้าของผม

“อืม ผมจะเก็บเอาไปคิดครับ”ผมพึมพำบอกแล้วลืมตาเห็นพี่ท็อปส่งยิ้มให้ผม แล้วพลิกตัวลงมานอนหันหน้าเข้าหาผม ก่อนจะโอบแขนกอดรัดผมไว้ คำพูดของคน มันสามารถทำลายคนได้เหมือนกันนะ ต่างคนต่างพูด 

ผมหันหน้าไปมองพี่ท็อป “ครับผม รักพี่นะครับ”ผมบอกออกไป  พี่ท็อปยิ้ม “แน่ใจแล้วเหรอว่ารัก ทำไมพูดง่ายจัง”

“อืม รักก็คือรักแหละ ไม่รู้ว่ามันมากแค่ไหน แต่สำหรับพี่ก็มากกว่าใครทั้งนั้นแหละ เพราะฉะนั้นช่วยรักผมให้มากๆด้วยล่ะ”ผมหัวเราะแล้วเข้าไปกอดพี่ท็อป “ครับ”พี่ท็อปเงียบเสียงลง ผมรอคำพูดที่เหลือ ไม่ได้คาดหวังว่าพี่ท็อปจะรักเท่าที่ผมรักหรอก ผมรู้ว่าพี่ท็อปไม่รักใครง่ายๆ โดยเฉพาะคนอย่างผม ถึงผมจะพิเศษกว่าใครคนอื่นก็เถอะ

“เอาเป็นว่ากูชอบมึง มาตอนนี้ก็ชอบมากขึ้นกว่าเดิม ...กูเป็นคนใจแข็งนะสอง อาจเป็นเพราะมึงเป็นประเภทที่รักสนุกมาก่อน มันเลยทำให้กูยังไม่เทใจไปให้มึงตั้งแต่แรก”พี่ท็อปพูดเบาๆ ผมพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็ผิดหวังขึ้นมานิดหน่อย

“ครับ พอทำใจได้ ฮ่าๆ”ผมแกล้งหัวเราะแล้วเงียบ “ว่าแต่พี่ยังติดต่อกับมิ้นท์อยู่หรือเปล่า...”ผมถามออกไป พี่ท็อปมองหน้าผมอย่างแปลกใจก่อนจะส่ายหน้า

“ไม่ได้ติดต่อไปแล้ว ตอนนี้น่ะ แต่เมื่อก่อนเคยติดต่อไปช่วงที่เกิดเรื่องมึงกับมิ้นท์น่ะ หลังจากนั้นไอ้แกนก็ไม่ยอมให้กูเฉียดไปใกล้น้องมันอีก จริง ๆ กูก็ไม่ได้ชอบมิ้นท์แล้ว เลยตัดสินใจไม่เข้าไปยุ่งด้วย”พี่ท็อปถอนหายใจ ผมนึกถึงรูปที่มิ้นท์ที่อยู่โรงพยาบาล ผมอยากถามแต่คิดว่าในเวลานี้ผมควรพอกับเรื่องพวกนี้ได้แล้ว คุยเรื่องนี้มากๆมันจะบั่นทอนความรู้สึกกันไปเปล่าๆ

“งั้นเหรอพี่ โอเค จบคำถามแล้ว”ผมหนักใจ ไม่รู้ว่าควรกังวลเรื่องพี่ท็อปหรือเฮียแกนดี น่าทีนี้คงต้องเฮียแกนซึ่งเหมือนระเบิดเวลา ไม่รู้จะตู้มเมื่อไหร่

ขยับไปนอนพิงไหล่อีกฝ่ายอย่างเคยชิน เจ้าตัวก้มมองยิ้ม ๆ แล้วกดจมูกลงกับลำคอของผม เลยแกล้งล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อพี่ท็อปลูบซิคแพ็คไปพลาง “อือ นอนดีๆ อย่าซนมาก เดี๋ยวก็ไม่ได้นอนหรอก”พี่ท็อปพูดงึมงำ ผมหัวเราะแล้วดึงมือกลับออกมา

“ฝันดีครับ จุ๊บ”ผมขยับหน้าไปกระซิบบอกแล้วยื่นหน้าไปแตะปากพี่ท็อปเบาๆ ผมเห็นว่าพี่ท็อปกำลังอมยิ้มอยู่ ผมนอนมองพี่ท็อปอยู่เงียบๆจนกระทั่งค่อยๆเคลิ้มหลับไปช้าๆ


...


จนมาถึงวันอาทิตย์ของการนัดหมายทริป ksr ซึ่งพี่ตั้มได้รายงานบอกมาว่าไปกันทั้งหมด 6 คน  พี่ตั้มบอกให้เตรียมของใช้จำเป็นมาให้พร้อมเพราะไม่ได้พักรีสอร์ท แต่จะนอนเต้นท์รับบรรยากาศเอาแทน ข้อสำคัญที่สุดคือต้องเช็คด้วยว่ารถ เคเอสอร์ รุ่นปี 2012 ของผมนั้นไม่ได้ตัดแต่งจนผิดกฎหมาย หมวกกันน็อคเต็มใบ ไม่งั้นเจอเรียกแน่ๆ ปกติผมก็ไม่ได้ไปแต่งรถจนกลายเป็นรถเด็กแว้นขนาดนั้น ทุกอย่างปกติ พี่ท็อปเอากล้องไปตัวนึง

พี่ท็อปเป็นฝ่ายซ้อน เพราะยังขับรถไม่แข็งเท่าไหร่ อีกทั้งต้องขึ้นถนนใหญ่สายหลักกลัวว่าจะเกิดอันตราย พอไปถึงจุดนัดพบเวลาประมาณ10:00. บริเวณหน้ามหา’ลัยทางประตูหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ผมห่อเหี่ยวและบรรลัยที่สุดก็คือเฮียแกนมาด้วย ตอนแรกผมนึกว่าเป็นเพื่อนในกลุ่มพี่ตั้มเพราะเฮียแกนตัดผมจากยาวประมาณบ่า เหลือแค่ระดับคางผมหยักศกรับกับใบหน้าคมสไตล์ลูกครึ่ง ยิมที่นั่งอยู่บนรถเคเอสอาร์สีดำแดงเปิดบังโคนด้วย

ผมแทบปาหมวกกันน็อคใส่พี่ตั้ม แต่ก็ทำได้แค่ส่งสายตาตั้งคำถามไปให้ บรรยากาศอึดอัดทันที ตอนนี้มากันครบแล้วมีพี่ตั้ม พี่เบสเพื่อนพี่ตั้ม เฮียแกน ยิม พี่ท็อปแล้วก็ผม อืม คงเป็นทริปที่โคตรสนุก

“เออ มากันครบแล้ว...ไงไอ้ท็อป เป็นสก๊อยให้ไอ้สองมันหรอวะ ฮ่าๆ”พี่ตั้มหัวเราะไม่ดูบรรยากาศเลย เฮียแกนเอาแต่จ้องหน้าผมไม่วางตาเลย ผมกังวลว่าทริปนี้มันต้องถูกวางแผนไว้แล้วแน่ๆ
พี่ท็อปสะกิดผม “โอเคนะเว้ย”นี่ถามจากใจหรือว่าแสร้งถาม

“อืม ไม่โอเคก็ต้องโอเค”ผมบอก

พี่ตั้มบอกบอกลำดับการออกรถให้ผมตามหลังพี่เบสไป ตามด้วยพี่ตั้มเอง ไอ้ยิม เฮียแกน ขณะที่ผมเร่งเครื่องออกตัวเฮียแกนก็แซงหน้าผมไปทันที ผมมองกระจกหลังยิมตามมาเว้นระยะไว้ พี่ท็อปยื่นหน้ามามองก่อนจะซบหน้าลงกับหลังของผม รู้สึกได้ว่าพี่ท็อปเอื้อมแขนกอดเอวผมไว้ข้างนึง เท่านี้ผมก็อุ่นใจ

เคเอสอาร์ 6 คัน มุ่งหน้าสู่ถนนสายหลักมุ่งตรงไปเรื่อย ๆ ก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่อำเภอวิเชียรบุรี อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ระหว่างทางจะพบเนินมหัศจรรย์ถึงสี่แยกรื่นฤดี เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหมายเลข 2196 สู่อำเภอเขาค้อ อากาศไม่ร้อนมาก ผ่านมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว ผมมองรถคันหน้า คือ พี่ตั้มเปิดไฟเลี้ยวไว้ คงจะแวะหาอะไรลองท้องล่ะมั้ง แต่นี่เพิ่งสิบเอ็ดโมงเช้าอยู่เลย ผมตามไปจอดที่ร้านอาหารตามสั่งร้านใหญ่ เป็นร้านสำหรับพวกทัวร์ อาหารก็จะมีให้เลือกไม่มาก

"เมื่อยไหมพี่"ผมถามพี่ท็อป ที่ทำหน้าบูด ขณะที่เจ้าตัวกำลังถอดเสื้อแจ็คเก็ตออก "เออ เมื่อยตูดชิบ แต่กูไม่กล้าขี่เองว่ะ รถเยอะ"พี่ท็อปบิดขี้เกียจไปมา ผมมองยิมที่กำลังถอดหมวกกันน็อคมันส่งยิ้มให้ผมบางๆ

"ไปเหอะ"ผมดึงแขนพี่ท็อปให้เดินเข้าไปข้างในร้าน ผมมองหาโต๊ะนั่ง มีรถทัวร์มาลงก่อนหน้านั้น ทำให้ที่นั่งมีจำกัด พี่ตั้มโบกมือให้ผมจากโต๊ะตัวยาวนั่งริมสุด...ประเด็นคือนั่งร่วมโต๊ะกับเฮียแกน

“เหอะ แดกไม่ลงแน่เลยกู”พี่ท็อปบ่นพึมพำจากด้านหลัง ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เมื่อได้อาหารมา ผมจำใจเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวตรงข้ามกับเฮียแกนพอดิบพอดี ผมถอนหายใจ นึกเซ็งๆกับสายตานิ่งๆที่จับจ้องมาที่ผมของเฮียแกน สายตารู้สึกผิดจากพี่ตั้ม และสายตาของไอ้ยิม บนโต๊ะอึดอัดขึ้นมาทันที พี่ท็อปถอนหายใจหลายครั้งต่อนาที แต่ก็ลงมือทานข้าวไม่สนใครหน้าไหน ผมรู้สึกอิ่มๆ ตรงๆคือกระเดือกไม่ลง แต่ก็ต้องฝืนตักเข้าปาก

เฮียแกนเคาะนิ้วลงกับโต๊ะ ผมเห็นจากหางตาว่าเฮียแกยังคงจ้องผมอยู่ อะไรวะ อึดอัดจริงๆ เหมือนเฮียแกนสนุกกับการเล่นสงครามประสาทกับผม ไม่มีคำพูดออกจากปากสักคำ มีเพียงสายตาเย็นชาเท่านั้น

“...กินมันทอดไหมสอง เดี๋ยวกูไปซื้อให้”พี่ท็อปหันมาพูดกับผม

“เอาดิ ซื้อมาสองถุงเลยพี่”ผมยิ้มบอก พี่ท็อปลุกออกจากโต๊ะไม่วายส่งสายตาไม่พอใจไปให้เฮียแกนกับพี่ตั้ม ผมหยิบน้ำมาดื่ม จังหวะนี้ทำให้ผมสบตากับเฮียแกนเต็มๆ

“...ดีใจหรือปอดแหกที่เจอกูวะไอ้สอง”เฮียแกนเอ่ยเป็นครั้งแรก

“แค่ตกใจมากกว่า”ผมบอก เฮียแกนหัวเราะในลำคอ ไอ้ยิมหยิบยาหยอดตาออกมาวางบนโต๊ะ มันสะกิดแขนผมใต้โต๊ะ

“เหรอวะ แต่กูดีใจนะ มีโอกาสซะที”เฮียแกนแค่นเสียงหึหะ บนโต๊ะเงียบกริบ ผมหันไปมองพี่ท็อปที่กำลังจ่ายเงินอยู่ พยายามข่มผมอยู่สินะ เจอเฮียแกนผมก็รู้ได้ทันทีว่ามันเป็นแผนที่วางเอาไว้อยู่แล้ว ผมได้แต่เดาว่าเฮียแกนจะทำอะไรกับผม คงไม่ผลักผมตกจากเขาหรอกมั้ง

“...ก็...แล้วแต่เฮียเถอะครับ ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้วนี่”ผมไหวไหล่ เฮียแกนทำหน้าเหมือนหงุดหงิด ไม่ทันจะอ้าปากตอกกลับผมได้ ไอ้ยิมก็โพล่งออกมา

“เฮ้ยสอง หยอดตาให้กูหน่อย ไม่ถนัดว่ะ”ยิมยิ้ม ยื่นหลอดน้ำยามาใส่มือผม พี่ท็อปเดินกลับมาที่โต๊ะพอดีสีหน้ามึนงงที่เห็นผมลุกยืนไปหยอดตาให้ยิม ผมยิ้มให้พี่ท็อป ก่อนจะรีบๆหยอดตาให้ไอ้ยิม ไม่รู้ว่ามันทำเล่ห์เหลี่ยมใส่ผมหรือเปล่า มันเอาแต่กระพริบตาบ้าง หลับตาบ้าง ผมเสียเวลาหลายนาทีกับการหยอดตาให้มัน

“เรียบร้อย”ผมแอบกระตุกเส้นผมของอีกฝ่าย ติดมือมาสองสามเส้น มันทำหน้าเจ็บแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา พี่ท็อปจ้องหน้าผมนิ่งๆแล้วถอนหายใจ

“พักกันหายเหนื่อยแล้ว ไปต่อกันเหอะ เดี๋ยวจะไปถึงเขาค้อมืดนะเว้ย”พี่ตั้มบอก อันที่จริงไม่อยากพักนานกับบรรยากาศมาคุที่เพิ่มเข้าไปอีก

“ไอ้ยิมมันคิดจะทำอะไรกันวะ”พี่ท็อปทำหน้านิ่งๆก่อนจะหันมาพูดกับผม เท่าที่นึกออกมันคงรู้ว่าพี่ท็อปไม่ชอบมัน ก็เลยหาเรื่องให้พี่ท็อปอารมณ์เสียเล่นๆล่ะมั้ง

“มันแกล้งพี่ไงครับ อยากเห็นพี่หงุดหงิด”ผมบอก ขณะเดินไปเสียบกุญแจรถแล้วสตาร์ท พี่ท็อปหัวเราะเยาะๆ

“มันหาเรื่องยุ่งกับมึงด้วยนั่นแหละ...ทำไมกูจะไม่รู้...เออสอง ไอ้แกนมันพูดอะไรกับมึง”พี่ท็อปเข้ามากระซิบขณะที่ซ้อนท้ายผมก่อนจะสวมหมอกกันน็อค ผมเหลือบมองพี่ตั้มที่คร่อม ksr ไว้ ส่งสัญญาณให้เตรียมตัวออกรถได้แล้ว

“หาเรื่องกระทืบผมมั้ง”ผมบอกแล้วหัวเราะแห้งๆแบบไร้อารมณ์ ก่อนจะเร่งเครื่องขี่ตามพี่ตั้มไป มียิมตามหลังเหมือนเคย
พวกผมขับขี่ขึ้นมาเรื่อยๆ เส้นทางไม่ชันมากนัก ระหว่างสองข้างทางมีต้นไม้ลายล้อมเขียวขจีดูสวยสด พอทำให้ใจผมผ่อนคลายลง พวกผมเดินทางมาถึงเขาค้อประมาณเกือบ 5 โมงเย็น เป็นครั้งแรกที่ใช้เวลาเดินทางนานมากอาจเป็นเพราะแวะบ่อย พักเข้าห้องน้ำบ้าง อีกอย่างตลอดทางที่เข้าเขตป่าเขารถก็ไม่สันจรเยอะ จึงทำให้ขี่รถเรื่อยๆได้ จนกระทั่งมาถึงจุดชมวิว ผมเห็นหมอกลอยๆอยู่พอประมาณ เลยไปข้างหน้าอีกนิด ตรงทางไปรษณีย์ของเขาค้อมีกลุ่มหมอกลอยมาแน่นๆ อากาศสดชื่นเย็นสบายดี ตอนดึกๆอาจเย็นลงกว่าเดิมแน่นอน

พี่ตั้มบอกว่าจะกางเต้นท์นอนที่ตรงบริเวณไปรษณีย์นี่แหละ ข้างๆกับไปรษณีย์จะมีป่าสนเล็กๆ พอมีลมพัดมาหมอกก็ฟุ้งเป็นระยะ เป็นครั้งแรกของผมกับพี่ท็อปเลยที่ได้เห็นทะเลหมอกตอนเย็น

“เออ เตรียมกางเต้นท์ได้เลย เลือกมุมกันเอง เดี๋ยวพระอาทิตย์จะตกแล้วเนี่ย”พี่ตั้มบอก ท่าทางสบายไม่ตื่นเต้นเหมือนผม เพราะพี่ตั้มมาหลายครั้งมาก ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาเองกับกลุ่มเพื่อนๆของพี่เขา

“มุมนี้สวยดีนะ กางเต้นท์เสร็จแล้วเดี๋ยวไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกกันดีไหม โรแมนติกดี”พี่ท็อปยิ้มกว้างมองผมสายตาเป็นประกาย ขณะที่ช่วยผมกางเต้นท์จนเสร็จแล้วเข้าเอากระเป๋าคนละใบมาเก็บ พี่ท็อปเอากล้องออกมาปรับเลนส์ กว่าจะรู้ตัวก็โดนพี่ท็อปแชะไปหลายภาพแล้ว ผมหยิบกระเป๋าสะพายออกมา

“เออ มึงสองคนจะไปกับพวกกูหรือเปล่า กูจะไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาซ่อนแก้ว”พี่ตั้มเดินมาถามผมในเต้นท์

“ยังจะมาชวนผมอีก พี่แม่ง--”ผมไม่ได้ด่าพี่ตั้ม พี่ท็อปก็ตัดบทซะก่อน

“กูสองคนไม่ไป ไปก็เสียบรรยากาศเปล่าๆ”พี่ท็อปพูดนิ่งๆ พี่ตั้มถอนหายใจ เหลือบมองผมเงียบๆ “โทษทีว่ะสอง...กูไม่คิดว่าไอ้แกนมันจะมาด้วย...อีกอย่าง...”

“ครับๆ ผมไม่โกรธเคืองพี่หรอก”แต่ในใจนี่ไฟสุมจนท่วมหัวแล้ว พี่ตั้มหน้าเจื่อน ก่อนจะถอยออกจากเต้นท์ผมไป ผมได้ยินพวกนั้นคุยกัน เสียงเฮียแกนหัวเราะ ไม่นานนักเสียงฝีเท้าก็เริ่มเบาลง พี่ท็อปสบถ

“รมณ์เสียเลยแม่ง...เดี๋ยวกูไปซื้อเบียร์ที่มินิมาร์ท มึงเอาผ้าไปปูรอกูก่อนเลย”พี่ท็อปเปลี่ยนมายิ้มให้ผมแล้วลอดเต้นท์ออกไป
ผมหยิบผ้าผืนบางยาวพอที่ผมกับพี่ท็อปจะนั่งด้วยกันได้ จากที่คิดว่าทริปนี้คงหาเวลาสวีทกับพี่ท็อปแล้วแท้ๆ กลับกลายเป็นห่อเหี่ยวลงเล็กน้อย ผมคว้าสมุดสเก็ตออกมาด้วย ก่อนจะรูดซิปปิดเต้นท์ไว้ ก่อนจะเดินไปเลือกที่สวยๆที่จะเห็นพระอาทิตย์ตกกระทบกับหมอกได้สวยๆ ผมนั่งรอพี่ท็อป

ตืด ตืด ตืด

มีข้อความจากไอ้ยิม.....ผมมองอย่างแปลกใจก่อนจะเปิดอ่าน

เดี๋ยวจะเอารูปมาฝากนะเว้ย –ยิม

ผมขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจไอ้ยิมเลยสักนิด มันมาทำแบบนี้ทำไม ผมมองอย่างหงุดหงิดก่อนจะลบข้อความมันทิ้ง ลบเบอร์มันออกจากโทรศัพท์ด้วย พี่ท็อปเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ผมยิ้มโบกมือให้พี่ท็อป

“แถวนี้มีสอร์ทสวยๆทั้งนั้นเลยว่ะ”พี่ท็อปยื่นหน้ามาพูดเบาๆ

“อืม เปลี่ยนบรรยากาศดีนะพี่ อยากเปิดห้องหรอไงครับ”ผมหัวเราะ ผมคิดว่าพี่ท็อปพูดเล่นไปแบบนั้นเอง อีกฝ่ายแค่ยิ้มก่อนจะยื่นเบียร์มาให้ผมกระป๋องนึง

“อยู่กันสองคนแบบนี้ก็ดีนะ...”พี่ท็อปพูด เอื้อมมาจับมือผมไว้แล้วยิ้มกว้างให้ผม “ครับ ผมก็ชอบ”ผมยิ้มแก้เก้อไปแบบนั้น

“มึงกับกูไม่ค่อยถ่ายรูปด้วยกันเลยว่ะ”พี่ท็อปพูดขณะที่กำลังถ่ายรูปทะเลหมอกยามเย็น ฟ้าเริ่มลืดสลัวเป็นสีส้มแดง ผมกับพี่ท็อปไม่ชอบถ่ายรูปตัวเองเท่าไหร่ มันเลยทำให้ผมกับพี่ท็อปมีรูปคู่น้อยมาก แต่ผมก็ไม่ซีเรียส มันก็แค่รูป

“อืม ผมไม่บ้ากล้องว่ะ”ผมหัวเราะ พี่ท็อปหันมามองตาปริบๆ

“แต่ในเวลานี้ น่าจะมีรูปของเราเก็บไว้ดูบ้างนะ มาเดี๋ยวเอากล้องกูก็ได้”พี่ท็อปยิ้มพูดเสียงกระตือรือร้น หยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะขยับมาใกล้ๆ แก้มแนบแก้มเลยล่ะ พี่ท็อปก็บ่นๆว่าน่าจะเอาขาตั้งกล้องมาด้วยจะได้มีภาพคู่สวยๆ
การเห็นทะเลหมอกในตอนเย็นพร้อมๆกับพระอาทิตย์ตก ทำให้ผมรู้สึกว่าคุ้มค่าอยู่เหมือนกันที่แลกกับอารมณ์ขุ่นมัวจากเฮียแกน 

ผมกับพี่ท็อปนั่งมองเงาต้นไม้ที่ผลุบๆโผล่ๆอยู่ท่ามกลางสายหมอกกับแสงยามเย็น มันสวยสุดๆครับ แถมโรแมนติกนิดๆ พี่ท็อปเลยหาจังหวะที่ปลอดสายตาคนดึงหน้าผมไปจูบปิดท้ายแสงสุดท้ายของเย็นวันนี้


ตกดึกอากาศเย็นลงจนต้องเอาผ้าห่มผืนบางมาแบ่งกันห่มกับพี่ท็อป หลังจากที่ขี่รถออกไปหามื้อเย็นบริเวณเขาลูกนี้ ผมกับพี่ท็อปก็เลี่ยงที่จะไม่เจอหน้าเฮียแกนไม่ใช่ว่าปอดแหกอะไร แต่ไม่อยากให้เกดบรรยากาศไม่ดีขึ้นมาอีก มันก็พลอยทำให้คนอื่นๆที่เหลือไม่สนุกไปด้วย

“ขอกอดหน่อย”ผมบอกขณะที่หันหน้านอนหนุนแขนพี่ท็อปไว้ พี่ท็อปแค่หัวเราะเบาๆ ผมกอดพี่ท็อปไว้แล้วข่มตาหลับ ผมรู้สึกว่าพี่ท็อปนอนลืมตามองผมอยู่

“ไม่ต้องกลัวน่า กูจะอยู่ข้างๆมึงเอง”พี่ท็อปพูดกับผมเบาๆ ผมกำลังกลัวอยู่หรือไง ลองถามใจตัวเองเรื่องของเฮียแกน...ใช่...ผมอาจกำลังหวาดหวั่นเล็กน้อย ถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆผมก็คงไม่ต่อต้านอะไร ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนที่พี่ท็อปบอก

“พี่จะไม่ทิ้งผมไปแน่นะ”ผมถามเบาๆแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย พี่ท็อปใช้มือเล่นเส้นผมของผมไปมาเบาๆจนผมเคลิ้มๆจะหลับ

“แน่นอนอยู่แล้วครับ”พี่ท็อปตอบหนักแน่น ก่อนจะเข้ามากอดผมไปด้วย


        หลังจากที่หลับไปได้สักพัก ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนตีสองกว่าๆ บรรยากาศในยามนี้เงียบสงบมีเพียงเสียงลม เสียงสัตว์กลางคืนให้ได้ยินเท่านั้นผมลุกไปเข้าห้องน้ำ เมื่อทำธุระจนเสร็จ ระหว่างที่เดินออกมาก็เจอกับเฮียแกนที่ยืนอยู่ในมุมมืดๆ ทำเอาผมชะงักกึก เฮียแกนโยนบุหรี่ทิ้งแล้วใช้เท้าเหยียบช้าๆ ก่อนจะหันมาจ้องผม

ผมไม่ได้หนีไปไหน เดินตรงไปหาเฮียแกน แค่มองนิ่งๆ ระหว่างนั้นผมกับเฮียแกนจ้องหน้ากันอยู่นาน ผมคิดว่าเบาะๆต้องโดนสักสองสามหมัด ในใจเต้นระส่ำ ผมกำลังกลัว...เพราะผมเป็นฝ่ายผิด ถ้าหากผมไม่มีชนักติดหลังผมจะไม่ยอมเฮียแกนต่อยหน้าผมได้ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ผมทำอะไรก็ผิด

“...อยากจะคุยอะไรกับผมหรือเปล่า”ผมเอ่ยออกมาจนได้ เพราะเบื่อที่จะต้องเล่นสงครามแบบนี้

“หึ ยังมีเรื่องต้องคุยอีกหรือไงวะ”อีกฝ่ายส่ายหน้า เดินเข้ามากระชากคอเสื้อผมเต็มแรง จังหวะนั้นเล็บมือของเฮียแกนก็ขยุ้มข่วนเนื้อช่วงอกผมไปได้ รู้สึกเจ็บแสบชาๆนิดหน่อย

“...เฮียจะเอายังไง”ผมพูดต่อ แววตาของเฮียแกนมืดสนิทมีแต่ไม่พอใจ ที่แสดงออกมาให้ผมเห็น “ไอ้ยิมไม่เอาเรื่องมึง กูล่ะเชื่อมันเลย แต่กูไม่อ่อนข้อให้มึงหรอกนะ”เฮียแกนกัดฟันพูด

“ผมขอโทษเรื่องมิ้นท์”ผมพูด ...ไม่ได้โกหกเสแสร้งแต่อย่างใด  “มึงพูดช้าไป ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีเท่าไหร่”เฮียแกนหัวเราะเยาะใส่

“แล้วมิ้นท์เป็นยังไงบ้าง”ผมถาม เฮียแกนขมวดคิ้วแน่น เหมือนผมไปแตะสวิทซ์ความอดทนของเฮียแกนให้เปิดออก

“มึงไม่มีสิทธิ์ถามอะไร ไม่ต้องเข้ามาวุ่นวายกับน้องของกูอีก!”

“แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะเฮีย”ผมเหนื่อยที่จะพูด แต่วินาทีที่ผมพูดจบ ผมก็รู้ว่าจะเจอกับอะไร

ผลั่ก ชั่วพริบตาเฮียแกนก็ชกหน้าผมเต็มแรง จนผมล้มลงไปนอนกับพื้นดินเย็นชื้น อาการชาที่โหนกแก้มพร้อมๆกับความเจ็บที่ค่อยๆซึมทราบเข้ามา เฮียแกนเข้ามาคร่อมผมไว้

“มึงไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ถ้ามึงสำนึกผิดก็ควรจะเจียมกะลาหัวมึงหน่อย”เฮียแกนตะคอกง้างหมัดขึ้นสูงก่อนจะสวนใส่หน้าผมอีกหมัดจนได้เลือดครั้งนี้กระแทกโดนคางผมเต็มๆเลย

“อย่าคิดว่ากูจะอภัยให้มึง”

“เรื่องนี้ต้องถามกับมิ้นท์ว่าจะยอมอภัยให้ผมหรือเปล่า ...ถึงแม้ว่าพี่จะเกลียดผมแค่ไหนก็ตาม พี่ไม่มีสิทธิ์มาตัดสินแทนมิ้นท์”ผมพูด เฮียแกนเหมือนโมโหมากกว่าเดิม

“บอกแล้วไงว่าอย่าพูด มึงคิดว่ามิ้นท์จะยอมยกโทษให้อภัยผู้ชายหน้าตัวเมียอย่างมึงหรือไง ไม่มีทางหรอก”เฮียแกนผลักหน้าผมลงไปกระแทกพื้น ผมลุกขึ้นมานั่ง

“...ถ้ามิ้นท์เลือกอย่างนั้นผมก็ต้องยอมรับ”ผมเงยหน้ามองเฮียแกนนิ่งๆ ผมไม่หนีไปไหน เมื่ออีกฝ่ายโถมแรงเข้ามาถีบลงที่ท้องโดนลิ้นปี่ผมพอดี ผมจุกปวดจี๊ดขึ้นมาทันทีทำได้แค่งอตัวเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด คนที่ยืนค้ำผมอยู่เหมือนอารมณ์ที่กักเก็บมานานถูกปลดปล่อยออก จากปะทะแรงๆค่อยๆผ่อนเบาลงเรื่อยๆ เหมือนตอนนี้แรงเกลียดชังเริ่มลดลง เฮียแกนหายใจแรง ก่อนจะขยุ้มศีรษะตัวเองเหมือนพยายามข่มอารมณ์ไว้

“ทำเป็นพูดดี จนมุมล่ะสิมึง ถ้าไม่มีเรื่องไอ้ยิมเข้ามา คนอย่างมึงก็คงทำตัวมั่วๆแบบเดิมไปเรื่อยๆ กูคิดไม่ถึงว่าไอ้ท็อปมันจะตาต่ำขนาดหนัก ลดตัวมาคบกับมึงเนี่ยนะ  ก็สมกันดีนะ”

“...พี่ท็อปเคยเป็นเพื่อนเฮียมาก่อนสินะ”ผมพยายามถามต่อ คอยถ่วงเวลาเฮียแกนไว้ ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังโกรธคงหลุดเรื่องอะไรออกมาบ้าง

“ใช่ แต่มันไม่ใช่เพื่อน ก็แค่คนรู้จักธรรมดาๆ กูกับมันไม่มีทางญาติดีกันหรอก....”เฮียแกนลุกขึ้นยืนมองผมด้วยสายตาที่เดาไม่ออก

“...ถ้าเฮียจะเล่นงานผม ก็ทำแค่ผม ขอร้องเหอะ อย่าดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”ผมพยายามทรงตัวลุกขึ้นยืน

“ทำไม มึงมีสิทธิ์อะไรมาห้ามกูวะ...ทำไม มึงระแวงไอ้ท็อปล่ะสิ”เฮียแกนหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกวาดสายตามองมาที่ผมอย่างดูหมิ่น

“...”ผมไม่ตอบอะไร

“ก็ดีระแวงมันเข้าไป ไอ้ท็อปมันก็คล้ายๆมึงนะ คบใครไม่ค่อยยืด.....อาจจะรวมถึงมึงด้วยก็ได้...ระวังโดนเขี่ยทิ้งเข้าสักวัน กูจะหัวเราะเยาะมึงให้ลั่น”

“เฮียจะทำอะไรกันแน่”ผมถามเบาๆ ไม่พยายามไม่คิดมากกับคำของเฮียแกน

“....กลัวล่ะสิ มึงไม่เคยโดนทิ้งสินะ...หึๆ เจอกับตัวเข้าสักวันมึงคงจำไปจนวันตาย...”เฮียแกนเข้ามายืนตรงหน้าผม สีหน้าเรียบเฉย “ใช่ไหม...มึงกลัวเรื่องนี้สินะ...”เฮียแกนยกยิ้มอย่างพอใจ

“ไอ้แกน...”ผมแอบสะดุ้ง เมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตามายืนเงียบๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงจึงรู้ว่าเป็นพี่ท็อป เฮียแกนหันไปมองหน้าพี่ท็อปแล้วยิ้มเยาะ พี่ท็อปเร่งฝีเท้าเดินมาหาผมก่อนจะมองมาที่รอยช้ำจากหมัดเฮียแกนอย่างตกใจ ก่อนจะหันไปหาเฮียแกน

“มึงเป็นบ้าอะไรวะ”พี่ท็อปพูดกับเฮียแกน ผลักอกเฮียแกนแรงๆจนเซ

“มึงก็อีกตัว ระวังไว้เหอะ กูกับมึงยังเคลียร์กันไม่จบ...กูพร้อมเสมอที่จะจบเรื่องของมึง อย่ามัวแต่หนีสิวะ”ผมมองเฮียแกนกับพี่ท็อปอยู่เงียบๆ

“เออ กูก็เบื่อเต็มทนกับเรื่องนี้แล้ว”พี่ท็อปตะคอกใส่ เฮียแกนยิ้มยียวนมาให้

“มันอยู่ที่มึงนั่นแหละ—แล้วหวังว่าคราวนี้มึงจะไม่เข้ามายุ่งอีกนะ”เฮียแกนหันมาพูดกับผม “และตราบใดที่มึงยังไม่ได้บทเรียนเจ็บๆล่ะก็...กูไม่เลิกราแน่”เฮียแกนทิ้งท้ายก่อนจะเดินกลับเต้นท์ของตัวเองไป

ผมปล่อยให้ถ้อยคำนั้นฝังซึมลงในสมอง ปล่อยให้เฮียแกนเดินหายลับไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2018 05:24:42 โดย RindadaRin »

ออฟไลน์ รินดาwดาริน

  • OnTop&N'Song
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +243/-2
“มึงเป็นอะไรมากไหม”พี่ท็อปจับหน้าผมหันไปมาเพื่อดูแผลที่หน้าของผม ผมส่ายหน้า พี่ท็อปมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนักดูเป้นกังวล

“ผมโอเคน่า”ผมยิ้มออกมา แล้วปัดเนื้อตัวที่เปื้อนดิน พี่ท็อปถอนหายใจแรงๆก่อนจะพาผมเดินกลับมาที่เต้นท์ ผมไม่รู้ว่าพวกนั้นนอนหลับกันจริงๆหรือเปล่า แต่ผมเห็นเต้นท์ของไอ้ยิมยังมีแสงเล็ดรอดบางๆออกมา ผมลอดตัวเข้าไปในเต้นท์

“มึงจะไม่ตอบโต้มันเลยใช่ไหม”พี่ท็อปถามเสียงขุ่น เอื้อมมือมาแตะผลแตกที่มุมปากของผม

“แล้วจะให้ผมสวนกลับหรอ...ผมผิดนี่ ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว”ผมหลับตาถอนหายใจ ความเจ็บแปลบพุ่งขึ้นมาเมื่อผมเอนตัวนอนลง พี่ท็อปชะงักก่อนจะมองผมนิ่งๆแล้วเข้ามาเลิกชายเสื้อผมขึ้น

 “มันก็ใช่ แต่มึงจะยอมเป็นกระสอบทรายให้มันตลอดไม่ได้ ป้องกันตัวบ้างสิ ไม่งั้นมึงจะเจ็บหนักแน่ๆ มือตีนมันไม่ธรรมดาเลยนะเว้ย”พี่ท็อปทำหน้าเครียด ดูเป็นห่วงผม พี่ท็อปลูบรอยแดงๆเป็นปื้นที่หน้าท้องของผมเบาๆแล้วถอนหายใจ พรุ่งนี้มันคงช้ำแน่ๆ

ผมมองพี่ท็อปแล้วยิ้มกว้างจนเจ็บปาก

“เป็นห่วงผมด้วยเหรอ”

“กูก็ต้องห่วงมึงสิ”พี่ท็อปทำตาโตใส่เหมือนตกใจที่ผมถามแบบนี้ออกไป

“แหม ชื่นใจจัง”ผมหัวเราะ พี่ท็อปมองหน้าผมด้วยสายตาฉงน “น้ำเสียงประชดๆนะ ...กูไม่อยากให้มึงเจ็บตัวแบบนี้เลย...”พี่ท็อปพูดเสียงจริงจัง ผมนิ่งคิด นี่มันแค่เริ่มต้นเอง

“กินยาแก้ปวดกับแก้อักเสบกันไว้เลยนะ ตอนเช้ามึงต้องปวดแผลแน่ๆ”พี่ท็อปค้นหาแผงยาในกระเป๋าสะพายของตัวเองอยู่สักพักก่อนจะแกะเม็ดยาออกมาจากแผงอย่างละเม็ด ก่อนจะยื่นเม็ดยาให้ผมกับขวดน้ำ

“ขอบคุณครับ”ผมยิ้มบางๆแล้วพยุงตัวขึ้นมากรอกยาเข้าปาก อันที่จริงผมเกลียดการกินยาเม็ดมาก มันจะขมคอและอยากจะแหวะออกมาเมื่อรสขมของยาสัมผัสคอ แต่ในเวลานี้ผมกลืนยาลงคอไปง่ายๆ จากนั้นผมล้มตัวนอนลงหันหลังให้พี่ท็อป หน้าตาผมตอนนี้ไม่ชวนมองแม้แต่น้อย อันที่จริงผมไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นว่าผมอ่อนแอ เจ้าตัวดึงผ้าห่มให้ผมแล้วยกแขนมาโอบผมซะแน่น

“อย่าคิดมากสิวะ กูรู้ว่ามึงกังวลเรื่องของกู บอกแล้วไงแววตามึงฟ้องทุกอย่าง นอนเหอะ อย่าเพิ่งคิดอะไรตอนนี้”พี่ท็อปกระชักแขนแน่นขึ้น ผมถอนหายใจเบาๆก่อนจะข่มตาให้หลับ วันพรุ่งนี้ของผมคงไม่สนุกอีกต่อไปแล้วสำหรับทริปครั้งนี้


รุ่งเช้าตรู่อากาศแจ่มใส มีหมอกบางตา เวลาประมาณแปดโมงเช้า ผมกับพี่ท็อปช่วยกันเก็บเต้นท์จนเสร็จ พวกเฮียแกนตื่นก่อนผมเพราะไปที่วัดใกล้ๆเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และเป็นดังคาดผมปวดแผลที่แก้ม มีรอยฟกช้ำเด่นขึ้นสีชัดเจน แผลที่มุมปากเจ็บตึง พี่ท็อปดึงมือผมไปที่ห้องน้ำ

“ไหนดูสิ....”พี่ท็อปมองไปทั่วใบหน้าของผมก่อนจะควานหาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆมาชุบน้ำแล้วเช็ดหน้าให้ผมเบาๆ “ล้างหน้าล้างตาก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปซื้อยาให้”พี่ท็อปจับมือผมก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป ผมล้างหน้าอีกครั้งแล้วแปรงฟัน น้ำก็ยังไม่ได้อาบเลย คงกลับไปอาบที่หอเอาแล้วกัน

ไม่นานนักพี่ท็อปกลับมาพร้อมพลาสเตอร์แปะแผล ลายการ์ตูนสีน้ำตาลอ่อน มาแปะรอยแผลโหนกแก้ม ผมยิ้มมองหน้าพี่ท็อปไม่วางตา

"..กลับถึงหอแล้วเดี๋ยวนอนพักซะนะ "พี่ท็อปมองหน้าผม ก่อนจะรั้งต้นคอผมลงมาจูบ “ครับผม”ถ้ามีคนดูแลแบบนี้ก็โอเคแล้วล่ะ

"กูเป็นห่วงมึงนะ "พี่ท็อปยิ้มแล้วจับมือผมเดินออกจากห้องน้ำ เจอไอ้ยิมยืนพิงผนังห้องน้ำอยู่ข้างๆท้างเข้า ผมมองมันอย่างแปลกใจ ไหนว่าไปวัดบนเขา ทำไมกลับมาเร็วจัง มันหันมามองหน้าผมกับพี่ท็อป

"ขอคุยกับไอ้สองหน่อย"ยิมพูดกับพี่ท็อป ผมเหลือบมองพี่ท็อปที่ทำหน้าไม่พอใจเท่าไหร่

"...อย่านานล่ะ"พี่ท็อปพูดห้วน ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม "อย่าไปเล่นกับมันมากนะ"พี่ท็อปกระซิบ ผมหัวเราะเบาๆ "วางใจได้ เดี๋ยวตามไป"ผมยิ้มบอก พี่ท็อปพยักหน้าแล้วเดินกลับไปที่วางสัมภาระของตัวเอง

ผมเดินไปหายิม “มีเรื่องอะไรครับ”ผมทำหน้าเบื่อหน่าย ชีวิตผมก็วนเวียนอยู่แค่นี้ คนใกล้ชิดกับศัตรูอย่างเฮียแกนทั้งนั้น พี่ตั้ม ยิม...

“...มึงเป็นไงบ้าง”ยิมถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง มันมองไปทั่วใบหน้าและลำตัวของผม ราวกับว่าจะสแกนให้เห็นทั้งนอกทั้งในเสื้อผ้า

“แล้วพี่เห็นผมไม่โอเคหรือไง”ผมยิ้มขำ แล้วละสายตาออกจากหน้ารู้สึกผิดของยิม “กูก็ไม่รู้ว่าไอ้แกนจะมาด้วย”มันรีบพูด ผมส่ายหน้า

“อืม ผมรู้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ได้โทษพี่ซะหน่อย อีกอย่างผมก็ไม่ได้เป็นอะไรมากด้วย”ผมไหวไหล่อย่างไม่สนใจเท่าไหร่

“กูกลัวมึงเข้าใจผิด.... กูไม่ได้ร่วมมือกับมันนะเว้ยสอง”อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ผมจนชิด แต่ผมถอยห่างออกมา

“...ขอบใจนะพี่...แต่ผมไม่อยากโดนหลอกอีก ผมว่าพี่อย่ามายุ่งกับผมอีกเลย...ผมระแวงไปทุกๆอย่างแล้วในตอนนี้”ผมบอกเบาๆ ขณะพูดก็มองหน้าอีกฝ่ายไปด้วย มันมีสีหน้าตกใจกับคำพูดของผม ให้ผมระแวงพี่ท็อปกับเฮียแกนแค่นี้ก็พอ มันน่าจะลดความวุ่นวายลงได้

“เดี๋ยวมึง—”

ผมไม่รอให้ยิมมีโอกาสได้พูดอีก จึงเดินแยกออกมาหาพี่ท็อป ตอนนี้ตื่นกันหมดแล้ว พี่ตั้มมองหน้าผมอย่างสลดเมื่อเห็นแผลบนหน้าผม

“เออ จะกลับตอนไหน”พี่ท็อปถามพี่ตั้ม ขณะที่สะพายกระเป๋าไว้บนหลัง ผมเดินไปหาพี่ท็อปไม่สนสายตาของเพื่อนพี่ตั้มหรือแม้แต่เฮียแกน

“บ่าย ๆ ค่อยกลับ กูว่าจะไปภูทับเบิกต่อ มึงสองคนจะไปหรือเปล่า”พี่ตั้มบอกก่อนจะเหลือบมองผมอีกรอบ “...ไม่ล่ะ พวกพี่ไปกันเหอะ ผมจะอยู่ตามแถวนี้นี่แหละ”ผมบอก แล้วหันไปมองพี่ท็อป อีกฝ่ายพยักหน้าเห็นด้วย

“เออ งั้นเจอกันนะเว้ย”พี่ตั้มบอก แต่ยังหลบสายตาผมอยู่ก่อนจะเดินไปหาเฮียแกน ผมสะพายกระเป๋าขึ้นหลังล้วงหยิบกุญแจรถมาถือไว้ในมือ ก่อนจะเดินไปหาพี่ท็อปที่ละสายตาจากกลุ่มเฮียแกนมามองผมแทน

“สองไปหาอะไรกินกันเถอะ”พี่ท็อปพูด แล้วเข้ามาจับมือผมไปด้วย

“ไปร้านไหนดีพี่ เมื่อเย็นก็ไม่ได้เดินสำรวจ”ผมถาม ขณะเดินมาถึงที่จอดรถ

“ตอนกูไปซื้อยาให้มึง เห็นร้านดีๆอยู่ร้านนึง มา เดี๋ยวกูขี่เอง”พี่ท็อปบอก แล้วดึงกุญแจรถจากมือของผมไป ผมมองไปรอบ ๆ รถไม่เยอะเลยไว้ใจให้พี่ท็อปเป็นคนขับขี่ได้ตามสะดวก อีกฝ่ายพาผมมาที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากไปรษณีย์นัก ประมาณ 5-10 นาทีก็ถึงแล้ว

ดูเหมือนพี่ท็อปจะเคยมาแล้วล่ะมั้งเพราะรู้ที่ทาง พาผมเดินไปที่ร้านอาหารในรีสอร์ทสไตล์โมเดิร์นๆอยู่ที่ชั้นสอง โต๊ะติดระเบียงด้านนอก มีทิวเขาสลับหมู่บ้านให้เห็นให้มองกันจนเพลินตา

“พี่เคยมาเหรอ”ผมถามขณะที่เปิดดูเมนูอาหาร

“เปล่าหรอก พี่เข้าไปดูรีวิวเอาน่ะ เห็นว่ารีสอร์ทนี้สวย อาหารอร่อย”พี่ท็อปส่งยิ้มเงยหน้าขึ้นมองผม

“มีแผนการตลอดนะพี่เนี่ย”ผมขำ ก่อนจะเหลือบมองราคากาแฟหลักร้อยแล้วแทบไม่อยากกินเลย แต่ก็นะ ผมว่ามันคุ้มอยู่แลกกับวิวสวยๆแบบนี้ อาหารชนิดอื่นไม่ต้องพูดถึงเลย

“มื้อนี้พี่เลี้ยงนะ อยากเอาใจ”พี่ท็อปยิ้มกว้าง ผมเหลือบไปมองพนักงานสาวสวยที่เดินมารับออเดอร์ ผมเลยสั่งอาหารง่ายๆจานเดียว กับกาแฟ พี่ท็อปสั่งสเต็กมา เอาวะหรูเชียว

“ให้ผมออกครึ่งนึงเถอะพี่ มันแพงอยู่นะ”ผมบอก เกินพันแน่นอน ให้พี่ท็อปเลี้ยงเหมือนเอาเปรียบยังไงไม่รู้ อีกฝ่ายพยักหน้าไม่ได้แย้งอะไรกลับมา ผมมองออกนอกระเบียงมองสายหมอกบางๆกระจายตัวฟุ้งอยู่ตามทิวเขา

“..วิวสวยเนอะ เราน่าจะมานอนที่นี่”พี่ท็อปหันมาพูดสีหน้ามีความสุข

“นั่นสิ ถ้ามากันสองคนคงโรแมนติกสุดๆ”ผมหัวเราะจนเจ็บปาก คงฟินไปเลยทีเดียว กระเป๋าคงแบนไปไม่น้อยเมื่อเห็นค่าห้องต่อคืนแวบ ๆ

“วันหลังเรามาด้วยกันอีกเนอะ สอง” พี่ท็อปขยับมาจับมือผมบนโต๊ะ

ผมมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา ถ้ามีอีกก็ดีสิ ผมแค่ยิ้มแล้วหยิบสมุดสเก็ตออกมา ร่างภาพพี่ท็อปไปพลางๆ ฆ่าเวลาตอนมือว่าง อีกฝ่ายหันหน้ามามอง “วาดอีกแล้วเหรอ ไหน วาดไปถึงไหนแล้ว”พูดจบ เจ้าตัวยื่นหน้ามามองสมุดสเก็ตของผม

“ก็เกือบๆทุกอิริยาบถ ยกเว้นตอน....”ผมเอ่ยช้า ๆ ยิ้มเจ้าเล่ห์ มองหน้าพี่ท็อปอยู่ตลอด “อะไร ตอนโป๊เหรอ”เจ้าตัวพูดต่อ ผมไหวไหล่

“ผมวาดไปแล้ว ...เหลือแต่ตอนกินตับอ่ะพี่”ผมแกล้งพูด ก่อนจะหัวเราะออกมา พี่ท็อปทำหน้าเหวอ

“ฮ่าๆ ทะลึ่งนะ อุจาดฉิบ”อีกฝ่ายเอื้อมมาตบศีรษะผมเต็มแรง ผมได้แต่ร้องโอดโอยพลางคิดในใจ อะไรกัน คนเจ็บอยู่แท้ๆ ไม่ทะนุถนอมกันเลย

“อะไรพี่ นี่มันงานศิลปะ มันอยู่ที่จิตวิญญาณครับพี่”ผมบอก หลังจากอีกฝ่ายเลิกทำร้ายผมแล้ว เจ้าตัวส่ายหน้า “วาดเก็บไว้ว่าวหรือไง”

“เก็บไว้เป็นความทรงจำไง พอมองรูปคงจำเรื่องทุกๆเรื่องที่เคยทำด้วยกัน...”ผมลองพูดออกไป เพื่อสังเกตปฏิกิริยาของพี่ท็อป แล้วละสายตาไปมองนอกระเบียงแทน

“เฮ้ย ทำไมมึงพูดแบบนี้วะ” อีกฝ่ายหุบยิ้ม แล้วเอื้อมมือมาจับคางผมหันมาทางพี่ท็อปตามเดิม

“แค่พูดเฉย ๆ ยังไงซะก็ต้องมีวันที่ต้องแยกกันอยู่ดี อีกไม่นานพี่ก็จะจบออกไป”ผมบอก ชีวิตวันข้างหน้า ใครจะไปคาดเดาได้ ผมเองยังไม่แน่ใจเลยว่าจะคบกับพี่ท็อปได้นานแค่ไหน

“มึงทำเสียบรรยากาศหมด พอ ๆ เลิก  เป็นคนคิดมากตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”พี่ท็อปคว้าเมนูฟาดลงบนหัวผมเบา ๆ แก้สถานการณ์ ทำเอาผมหลุดขำออกมา เจ้าตัวมองหน้าผมแล้วส่ายหน้า จากนั้นออร์เดอร์ของผมกับพี่ท็อปก็มาเสิร์ฟ เราสองคนลงมือทานอาหารเงียบ ๆ  เมื่อจัดการของคาวจนหมดเรียบร้อย ก็เหลือสั่งของหวานมาเพิ่ม ผมเสมองไปที่นอกระบียง ขนาดนี่ก็เก้าโมงกว่า ๆ แล้วแดดยังไม่ออกเลย อากาศดีมากจริงๆ ยิ่งอยู่กับคนที่เรารักด้วยล่ะก็ ...แทบไม่อยากกลับจริงๆ เพราะเวลานี้ได้อยู่กับพี่ท็อปแบบไม่ขอคิดอะไรมาก

หนำซ้ำอีกฝ่ายชอบทำให้ผมรู้สึกพิเศษขึ้นมาอีกแล้ว มาทำให้ผมหวั่นไหวจนเสียกระบวนไปหมด ไอ้สองคนนี้คงรักพี่ท็อปเข้าไปแล้วจริงๆหรอเนี่ย... แต่ก็เอาเถอะ ในเมื่อรักไปแล้ว ถ้าจะเจ็บกลับมา ก็คงห้ามไม่ได้

 “สอง...”

“...ครับ”ผมหันมาหาพี่ท็อป ในมือเหมือนกำอะไรไว้ในมือ ผมมองอย่างสงสัย

“พี่มีอะไรจะให้ด้วย”อีกฝ่ายพูดเบา ๆ ดวงตาเป็นประกายวูบไหวเหมือนมีอะไรที่น่าสนใจ “ทำอะไรลับๆล่อๆ”ผมทำหน้ามึน ผมมองทุกอิริยาบถของเจ้าตัว

“หลับตาก่อนดิ”พี่ท็อปบอก ผมทำหน้างง แต่ก็ยอมทำตามนั้น ...หลับตาลง หูของผมได้ยินเสียงพี่ท็อปขยับของบนโต๊ะ ทำอะไรสักอย่างบริเวณโต๊ะทางด้านหน้าผม

ในใจผมเต้นรัว ผมมั่นใจว่าไม่ใช่แหวน หรือข้าวของ เพราะพี่ท็อปไม่ชอบใส่เครื่องประดับ ผมก็เช่นกัน ผมไม่เคยอยากได้สิ่งของแทนใจพวกนี้เลย

“ลืมตาได้...”น้ำเสียงพี่ท็อปเจือเสียงตื่นเต้นพร้อมกับเสียงหัวเราะเบา ๆของพี่ท็อป ผมลืมตา เจอกับใบหน้าของพี่ท็อป เลื่อนสายตามองลงบนโต๊ะ

เฮ้ย

“นี่พี่เปิดห้องเหรอ”ผมยิ้มกว้างเมื่อเห็นกุญแจของรีสอร์ทวางอยู่บนผ้าเช็ดปาก ผมหยิบมาดูมีพวงกุญแจไม้แกะสลักเลขห้องไว้ด้วย

“ไม่ดีเหรอไง อยู่เที่ยวต่อกัน แค่มึงกับกูไง”พี่ท็อปเท้าคางมองผมยิ้มๆ สายตามีความสุขดี  “จะให้ผมโดดเรียนหรอไง”

“...กูก็โดด”พี่ท็อปหัวเราะ ไม่รู้ว่าอำ หรือพูดจริง อยากสวีทก็ต้องแลกเวลาเรียน ของผมตั้งครึ่งเช้าแหนะ ดีนะเป็นวิชาของมอ กับวิชาเพ้นท์ซึ่งให้ทำงานเดิมให้เสร็จขาดได้อยู่แล้ว

“โอเค ก็ได้ นี่แสดงว่าวางแผนไว้เรียบร้อย หวังผลอะไรหรือเปล่า”ผมแกล้งบอก หวังฟันผมล่ะสิ

“อืม ถ้าไม่วางแผนไว้มึงจะอยู่กับกูหรอ... เห็นว่าทริปนี้แม่งห่วยแตก ก็เลยอยากต่อเวลาให้มึงอีกไง แล้วรีสอร์ทมีห้องว่างพอดี”อีกฝ่ายพูด ผมมองเจ้าตัวแต่ไม่ได้พูดอะไร

 “กูอยากดูพระอาทิตย์ขึ้นที่วัดตรงเขานู่นน่ะ เห็นรูปในอินเตอร์เน็ตวัดลอยอยู่บนหมอกเลย กูอยากจะไปเห็นเหมือนกัน”พี่ท็อปพูดไปยิ้มไป ผมไหวไหล่ ถึงขนาดจองไว้แล้ว จะล้มเลิกก็เสียเวลาอีก

“ก็ดีเหมือนกัน อยากไปกับแฟน”ผมบอก

“กูโทรบอกไอ้ตั้มก่อนนะ”พี่ท็อปหยิบโทรศัพท์โทรหาพี่ตั้มทันที “เออ ไม่ต้องรอ งั้นแค่นี้นะ”พี่ท็อปวางสายจากพี่ตั้มท่าทางหงุดหงิด “ยังจะมากวนอารมณ์กูอีก”

“ทำไมเหรอพี่”

“เชี่ย แกนน่ะสิ แม่ง ปากหมา”ผมพยักหน้า คงจะพูดแซวอะไรแน่ ๆ แต่พี่ท็อปคงไม่อยากได้ยินจากคู่อริ เมื่อเช็คบิลค่าอาหารแล้วก็ตรงไปยังห้องพักชั้นสาม เปิดประตูเข้าห้องไป ในห้องตกแต่งเรียบง่าย ที่เตียงนอนตกแต่งสวยงามมีหมอนสามสีวางเรียงกัน ห้องน้ำ ระเบียง ทุกอย่างดูสวยลงตัว ห้องน้ำสามารถเปิดเข้าไปเห็นห้องนอนได้ด้วย ดูเหมือนอีกฝ่ายชอบอะไรที่มันแปลกนิดหน่อย

“คิดนานไหมเนี่ย ตอนจองห้องน่ะ”ผมวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ ก่อนจะเดินไปรูดม่านออก “ไม่เลย กูนึกถึงมึงคนแรกเลย อยากให้มึงมีความสุขมากกว่า”พี่ท็อปพูด เดินเข้ามากอดผมจากด้านหลัง

“ขอบคุณมากครับ ที่ชวนผมโดดเรียน”ผมตอบ พี่ท็อปหัวเราะออกมาทันทีแล้วผลักผมออก แค่ล้อกันสนุกๆ ผมกระโดดลงไปนอนบนเตียง นุ่ม สปริงตัวดีมาก แต่ผมก็เจ็บแปลบที่ลิ้นปี่อยู่ดี  ถ้ามานอนคนเดียวคงเหงา ห้องแบบนี้ สวีทรูมชัด ๆ

“งั้นวันนี้ทำอะไรกันดีวะ”พี่ท็อปล้มตัวนอนลงข้างๆผม

“ฮั่นแน่ จะซั่มผมเหรอ”ผมแกล้งเอามือไปลูบหน้าพี่ท็อปที่กำลังงับนิ้วผมไว้แทน “เออ ซั่มเมียผิดตรงไหน”ว่าแล้วก็กัดดังกึก เข้าเนื้อเลย

“เจ็บนะเนี่ย  พูดซะสะเทือนใจเล็กน้อย  เพิ่งอิ่ม ๆ เนี่ยนะ”ผมหัวเราะ ไม่ไหวมั้งแบบนี้ พี่ท็อปชะเง้อหน้าจากหมอนมามองผม

“ใครจะเอาตอนอิ่ม ๆ  บ้าหรือไง รอคืนนี้ก่อน เสร็จกู”ผมทำเสียงอือออตอบรับไป หลวมตัวมาด้วยขนาดนี้ คืนทุนให้หน่อยล่ะกัน 

“ยังไม่เที่ยงเลยพี่ อยากไปไหนป่ะ”ผมพลิกตัวไปหาพี่ท็อป ใจจริงอยากนอนต่อสักงีบหนึ่งเอาแรงซะหน่อย

“ง่วงว่ะ กินเยอะไปหน่อย”พี่ท็อปหัวเราะคลอไปด้วย “เยี่ยมเลย ผมก็ง่วง งั้นนอนแล้วนะ อย่ากวนด้วย”ผมบอก แล้วขยับไปตบหมอนให้ฟูๆ แล้วนอนลงทันที




ผมตื่นมาอีกที ฟ้าก็มืดแล้วเห็นจากหน้าต่างที่เปิดม่านไว้จนสุด ผมมองนาฬิกาที่ผนัง 19:00 น.  หลับเป็นตายเลย ผมเห็นโน้ตแปะไว้ว่า เจ้าตัวออกไปซื้อของด้าล่าง ผมออกมานั่งเล่นที่โซฟา เปิดทีวีดูไม่ห้องเงียบเกินไป ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง อีกฝ่ายก็กลับมา ผมมองถุงหิ้วในมืออีกฝ่ายอย่างสังเกต


“อ่ะ รางวัล”พี่ท็อปโยน Condom แบบธรรมดากับแบบปุ่มมาให้ผม เฮ้ย พี่ท็อป ผมพูดไม่ออก อีกฝ่ายยิ้มกริ่ม

 “เลือกเอาอยากได้แบบไหน”ผมแค่หัวเราะ นี่อีกฝ่ายไม่เห็นผมเป็นคนบาดเจ็บอยู่เลยเหรอ ผมโยนแบบธรรมดาไปให้แบบไม่ต้องคิด “สงสารผมเหอะ”ผมบอกก่อนจะเอาไอ้สัมผัสพิสดารไปเก็บในลิ้นชัก คิดแล้วเสียวแทน ฮึ่ย

“ถ้าไม่พอก็ใช้ของรีสอร์ท ในห้องน้ำเห็นมีสองสามอัน”เจ้าตัวยิ้มเจ้าเล่ห์  ผมฟังแล้วลังเลใจว่าอีกฝ่ายกำลังหยอกผมอยู่หรือเปล่า

“เครื่องพังพอดี ใช้งานเบา ๆ ก็ดีนะพี่”ผมบอกแล้วขึ้นไปนอนพิงหมอนบนเตียง พี่ท็อปหยิบเอาสำลี ยาฆ่าเชื้อออกมาวางบนโต๊ะ ยาแก้อักเสบแผงนึงคนละยี่ห้อกับที่เจ้าตัวให้ผมกินเมื่อคืน

“กูไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก มึงยังเจ็บอยู่”อีกฝ่ายหัวเราะชอบใจ ก่อนจะเดินมานั่งตรงหน้าผม แล้วยื่นมือมาจับหน้าผมหันซ้าย หันขวา “เริ่มช้ำเลือดแล้วไอ้สอง ไม่เจ็บเหรอ”เจ้าตัวทำหน้าเหมือนเจ็บแทน

“อืม ก็พอทนได้ แต่พอคุยๆกับพี่ก็พอให้ลืมความเจ็บไปได้บ้าง”ผมบอก พี่ท็อปผงะก่อนจะเบ้หน้า “เน่าฉิบ”อีกฝ่ายทายาให้ผมเสร็จ  “เออ จะกินข้าวยัง จะได้สั่งมาเลย มึงต้องกินยาอีก”ผมเริ่มห่อเหี่ยว

“ผมไม่เป็นอะไรมากหรอกพี่ ไม่กินไม่ได้หรอ ทายาอย่างเดียวพอ”

“ไม่ได้ จะได้หายเร็ว ๆ”

“ก็ได้ครับ สั่งมาเลยก็ได้”ผมบอก พี่ท็อปก็บริการดีตามเคย โทรไปสั่งรูมเซอร์วิสให้ผม ระหว่างนั้นพี่ท็อปก็เดินไปหยิบกระเป๋ากล้องออกมาเช็ครูป

ตืด ตืด ตืด

ผมมองโทรศัพท์ เป็นเบอร์แปลก แต่ผมสี่ตัวท้ายได้ เป็นเบอร์ยิม ผมลังเลนิดหน่อย อีกฝ่ายจะโทรมาทำไมอีก จนแล้วจนรอด ผมก็เอื้อมไปกดรับสายอยู่ดี

“ฮัลโหล”ผมรับสาย ทว่าปลายสายยังคงเงียบอยู่ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่

[ มึงเป็นยังไงบ้างวะ]

“ก็มีความสุขดีนี่หว่า ทำไมเหรอพี่”ผมตอบ

[...จะกลับเมื่อไหร่] ยิมถามเสียงเรียบเฉย ผมถอนหายใจ

“พรุ่งนี้ แล้วมีอะไรหรือเปล่า”ผมยังสงสัยว่าอีกฝ่ายมันโทรมาทำไม

[งั้นก็ขาดเรียนน่ะสิ...]

“อืม แต่ก็คุ้ม”ผมบอกไปแบบนั้น ถ้าวิเคราะห์กันตรงๆ มันไม่คุ้มกันหรอก

[...มึงโกรธกูเหรอ]

“เปล่าหรอก...แต่ผมไม่อยากยุ่งกับพี่อีก เข้าใจใช่ไหม”ผมอารมณ์เสียขึ้นมาทันที พี่ท็อปเงยหน้ามามอง มีสีหน้าสงสัย ก่อนจะก้มไปสนใจกล้องต่อไป แต่มั่นใจว่าเจ้าตัวต้องแอบฟัง ส่วนยิมเงียบไปนาน จนผมคิดว่ามันวางสายไปแล้ว แต่พอมองหน้าจอ เวลายังขึ้นอยู่ “ยิม...”

[…ทำไมวะ มาปอดแหกอะไรตอนนี้]

“...เพื่อความปลอดภัยของผมเอง ผมควรระวังตัวเองใช่ไหม”

[ไอ้แกนไม่เกี่ยวกับกู]

“แต่เฮียคุมพี่ได้ใช่ไหม”ผมถามมัน บางครั้งก็แปลกใจที่คนอย่างยิมไปยอมฟังเฮียแกนแบบนั้น

[…มันคนละเรื่องกัน กูยังอยากคุยกับมึงนะเว้ย] คนปลายสายเงียบไปอีกรอบ ผมได้แค่เสียงลมหายใจของอีกฝ่าย

“...ผมยังไม่ไว้ใจพี่”

[ทำไมวะ]

“ช่างเถอะ เจอกันแล้วค่อยเคลียร์ โอเคนะครับ ผมเจ็บปาก”ผมบอก อยู่ๆก็เอาลิ้นดุนแผลด้านใน ยิมถอนหายใจ

[อืม...แล้วเจอกัน]

ผมได้แต่ถอนหายใจ รู้สึกว่าผมคงคาดหวังกับยิมเกินไป

หลังจากที่ทานมื้อค่ำอิ่มเป็นที่เรียบร้อย พี่ท็อปก็เข้ามาทายาฆ่าเชื้อตามแผลพกช้ำให้ผม ระหว่างนั้นพี่ท็อปก็ไม่ได้ถามเรื่องโทรศัพท์เมื่อครู่ก่อนนั้น

“...ยิมมันโทรมา...เฮ้อ ผมจะไม่เข้าไปยุ่งกับมันแล้ว”ผมบอกขณะที่เอนตัวนอนลงบนเตียง พี่ท็อปเดินไปปิดไฟในห้องน้ำแล้วปิดในห้องเตรียมนอน ผมเอื้อมไปเปิดสวิทซ์โคมไฟ ผมเป็นโรคอย่างนึงคือถ้าปิดไฟแล้วจะนอนไม่หลับ อาจเพราะผมกลัวแต่ก็ไม่เชิงว่ากลัวความมืด อาจแค่ไม่ชินกับการนอนในห้องสี่เหลี่ยมมืดมิด ถ้าไม่เปิดไฟในห้องน้ำไว้ก็เปิดโคมไฟไว้แทน ผมนอนมอง

อีกฝ่ายที่เดินมานอนที่เตียงข้างกายผม

“ถ้ามึงสบายใจแบบนั้นก็ดีแล้ว แต่มันจะยอมอยู่เฉยๆแน่หรอ ในเมื่อมันชอบมึง”พี่ท็อปหันหน้ามามองผม ถ้าเป็นแบบนั้นจริงผมคงต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องหรือไม่ก็จนกว่าเรื่องของเฮียแกนจะจบลงก่อน

“...มันต้องเข้าใจ”ถ้าหากว่าไอ้ยิมมันชอบผมจริงๆ คืนนั้นผมกับพี่ท็อปนอนหลับสบาย ผมยังอยู่รอดปลอดภัย คอนดอมกล่องนั้นยังไม่ได้แกะ ถึงเจ้าตัวจะทำท่าเสียดายก็เถอะ 

  พี่ท็อปตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนตีห้า เพราะวางแผนจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่วัดบนเขาที่อยู่ไม่ไกลจากตัวรีสอร์ทนัก ผมเองก็อยากเห็นภาพวัดลอยอยู่บนหมอก พี่ท็อปทำหน้าที่แฟนที่ดีเป็นคนอาสาขี่รถเอง ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีก็ถึงแล้ว เมื่อมาถึงวัดตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น แต่น่าผิดหวังนิดหน่อยเช้านี้ไม่มีหมอกเลย พี่ท็อปเลยเกิดอาการเซ็งแล้วก็ตัดสินใจขับรถเข้าไปดูทะเลหมอกในเขาดีกว่า

เมื่อเริ่มเห็นแสงสีทองที่ขอบฟ้า เห็นหมอกลอยต่ำระหว่างทางที่ขี่รถก็จะมีกลุ่มหมอกเป็นช่วง ๆ เมื่อมาถึงวัดที่เลยไปรษณีย์มาหลายกิโลฯ ทะเลหมอกที่วัดเป็นเนินเขาสูงๆต่ำๆสลับกันไป มีหมู่บ้านผลุบๆโพล่ๆอยู่กลางหมอก เห็นท้องฟ้าเป็นสีทองกระจ่างตาเลยทีเดียว อย่างน้อยครั้งนี้ก็มาไม่เสียเที่ยวเท่าไหร่ พี่ท็อปใช้เวลาถ่ายรูปอยู่นานจนเพลินไปเลย จากนั้นก็เดินเล่นที่วัดอยู่ไม่นานก็กลับมารีสอร์ท เตรียมเช็คเอ้าท์ตอนสิบโมงเช้า

พี่ท็อปเป็นคนขี่มอเตอร์ไซด์ในรอบขากลับนี้ เพราะไม่อยากให้ผมเหนื่อย

“รู้ไหมแผนการล่มไปหนึ่งอย่าง”เจ้าตัวพูดให้ฟังหลังจากที่เช็คเอ้าท์ออกมาแล้ว ผมเดาได้เลย ถ้าตามสูตรแล้วทำเซอร์ไพร์ผม จองห้องไว้จะไม่พ้นเรื่องบนเตียงได้ยังไง

“ช่วยไม่ได้ จังหวะไม่ดี”ผมยิ้มขำ  เท่านี้ก็สิ้นสุดทริปของผมกับพี่ท็อป ถ้าไม่มีเรื่องเฮียแกน มันน่าโอเคและเป็นไปได้สวยงามกว่านี้ ผมต้องทำยังไงกันแน่ ถึงจะหมดเรื่องพวกนี้ไปเสียที  แต่เอาเถอะ ผมตัดสินใจจะหาวิธีติดต่อกับมิ้นท์ ผมจะเคลียร์ทุกเรื่องและขอโทษมิ้นท์ซะ

สำหรับพี่ท็อป ในตอนนี้ไม่รู้ว่าจะสามารถเป็นหมาที่แว้งกัดเจ้าของได้หรือเปล่า หรือมันจะมาตายเอาตอนจบ เพราะรักเจ้าของมันมากเกินไป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2018 05:24:59 โดย RindadaRin »

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
อยากบอกว่าคนอ่านก็ระแวงเหมือนกัน เหอๆ ชักประสาทไปด้วยแล้ว เหอๆ

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
จะเขื่อใจใครได้มั้งเนี่ย

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
ระแวง สับสน งง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
สับสนตามสองทุกที 5555555555555555
ทุกครั้งที่พี่ท็อปทำให้ไว้ใจ สองก็ยังคงสงสัยอยู่ตลอด
แล้วนี่เฮียแกนแกยังมาพูดแบบนี้อีก โอ้ย...ขอเถอะ
พี่ท็อปก็แสดงออกว่ารักสองนะ คงไม่มีอะไรแอบแฝงใช่มั้ย TwT
กับพี่ยิมนี่เฮียแกรุกหนักขึ้นทุกที 5555555555555
กลัวจะมาเป็นมือที่สามจริงๆนะ
 :katai1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อ่านแล้วก็ระแวงตาม
ทำไมรู้สึกว่าพี่ท๊อปน่าระแวงสุดก็ไม่รู้
ลุ้นต่อไปๆๆๆ

ออฟไลน์ ziqh.leo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
นี่ระแวงแทนสอง เอาจริง 555555
กลัวใจท๊อปมากเลย เชียร์ท๊อปนะ
แต่ก็กลัวมาแบบแทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ 55

แต่เราว่ายิมไม่น่ามีอะไรแล้วนะ
ส่วนแกนถ้าได้แก้แค้นแล้ว ก็คงไม่อะไรแล้วมั้ง
แต่ไม่ชอบ ตรงที่เหมือนชอบกัดอ่ะ นิสัยผู้หญิงมาก

ออฟไลน์ kukkikkooka

  • insomnia~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
อ่านไปก็ระแวงแทนสองไปเหมือนกันนะ

พี่ท็อปหวานมากตอนนี้

ลุ้นกันต่อไปปปป

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
จะหวานจะสุขก็ไม่สุด  รู้สึกโหวงเหวงในช่องท้องตลอดเวลา  ยังกับเป็นสองที่โดนแกนต่อยที่ท้อง

ใจบอกสำเหนียกรู้ว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นเพียงแต่ไม่รู้ว่าอะไรกับใครจะทำให้เกิด  หรือจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่

คิดว่าสองอาจจะถูกท็อปทิ้งหลังจากที่รักเข้าไปเต็มหน่วย  เหมือนสองเตรียมใจแล้วเรียบร้อยแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เจ็บ

เรื่องโยนี่โทษสองได้ไม่น่าจะเต็มปากเพราะว่าโยเองก็ใช่ย่อย  กรณีโยนี้รู้สึกว่าสองเป็นแพะรับบาปเต็มๆ

อยากรู้ว่าสองทำอะไรมินท์ ทำน้องท้องแล้วทิ้งหรือเปล่า

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
สับสน ใจเริ่มเอียงไหายิม
แต่ก็ยังชอบพี่ท๊อปอยู่เหมือนเดิม
เฮ่ออ ไม่รู้เว้ย แต่ ลงเอยคงเป็น ท๊อปสองแหละ. ไม่น่าเป็นยิมได้
 :hao4:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
เป็นคนอ่านนี่สับสนยิ่งกว่าไอ้สองอีกเนี่ยยย

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :really2:  ระหว่างที่อึนๆหน่วง ระแวงสงสัย เราขอให้พี่ท็อปคืนความสุขให้คนอ่านด้วยการ ON TOP แบบตอนบทนำค่ะ
เรารู้ว่าสองมันก็หวังอยู่ 555   :impress2: 
เอาใจช่วยนะสอง อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดแต่ว่าห้ามประมาทเด็ดขาด
คนเขียนสู้ๆค่ะ มาต่ออีกไวๆนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด