เหตุเกิดบนเตียงของห้องข้างเคียงวิศวะ ตอนพิเศษ 14.11.62 อัปจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุเกิดบนเตียงของห้องข้างเคียงวิศวะ ตอนพิเศษ 14.11.62 อัปจ้า  (อ่าน 248880 ครั้ง)

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ไม่ชอบที่สองต้องเป็นเมียพี่ท๊อปตลอดเลย  คนชอบกันต้องยอมตลอดเลยเหรอ  งง

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ยิ่งอ่านยิ่งเพิ่มความระแวง สองเหมือนจะมีความสุขแต่ไม่สุด
เพราะทุกอย่างต่างมีปมให้ต้องขบคิด การอยู่ในที่สว่างโดยไม่รู้ว่าคนที่อยู่ในที่มืด จะลงมือทำอะไรบ้าง

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ รินดาwดาริน

  • OnTop&N'Song
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +243/-2
ตอนที่ 12 เริ่มนับถอยหลัง

  ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เข้าสู่เช้าวันใหม่แล้ว ผมปวดหัวขึ้นมานิดๆแถมยังร้อนๆหนาวๆอีก ทำเหมือนจะเป็นไข้เลย ขณะที่ลืมตาขึ้นมาผมเห็นพี่ท็อปมองหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว

“หลับเป็นตายเลยนะ”พี่ท็อปยิ้มแล้วยื่นมือมาลูบหน้าลูบตาผม

“โห นี่เที่ยงแล้วหรอเนี่ย”ผมตกใจก่อนจะบิดขี้เกียจแรงๆ “เห็นมึงหลับสบายก็ไม่อยากปลุก ไปอาบน้ำกัน จะได้ไปหาอะไรกินด้วย”พี่ท็อปยิ้มบางๆ แล้วลุกออกจากเตียง แต่ผมนอนต่อดึงผ้าห่มมาคลุมหน้า

“อาบก่อนเลยพี่ ขออีกแปบนึง”ผมบอกงัวเงีย แล้วโบกมือให้พี่ท็อป ผมได้ยินพี่ท็อปหัวเราะแล้วแรงตีที่ก้นผมเบาๆ

“ตามใจ”พี่ท็อปเดินเข้าห้องน้ำไป ผมรอจนกว่าจะได้ยินเสียงน้ำไหล จากนั้นค่อยๆลุกขึ้นนั่งก่อนกวาดสายตามองหาโทรศัพท์พี่ท็อป จนกระทั่งเห็นว่ามันวางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง ผมรีบเดินเข้าไปคว้ามากดหาเบอร์แปลก ไม่รู้ว่าพี่ท็อปจะลบไปหรือยัง

ผมกดดูประวัติการโทร เบอร์ที่โทรออก ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว จนสะดุดกับเบอร์แปลกที่ดูคุ้นตา คงใช่เบอร์เดียวกันนะ หยิบโทรศัพท์ของตัวเองมากดเบอร์นี้ลงไปก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมแล้วเดินไปนอนต่อ พยายามนอนให้ปกติที่สุด

ผมได้ยินเสียงพี่ท็อปเปิดประตูห้องน้ำออกมา

“อาบน้ำได้แล้วสอง”พี่ท็อปเรียกเดินเข้ามาสะบัดเรือนผมที่หมาดน้ำ...หยดน้ำกระเซ็นโดนใบหน้าผม

“พี่ท็อป....”ผมทำเสียงโอดครวญแล้วลุกขึ้นไปกอดรอบเอวพี่ท็อปที่ยืนอยู่ข้างเตียง

“ไปอาบน้ำ....หรือจะให้พี่อาบให้”พี่ท็อปพูดเสียงนุ่ม ลูบไล้ไปตามเรือนผมของผมอย่างเบามือ ผมชะงักทันที ก่อนจะผลักพี่ท็อปออก

“ครับๆ อาบแล้วครับ”ผมหัวเราะแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำ ผมยืนมองกระจกตรงอ่างล้างหน้า มันสะท้อนตัวของผมออกมา ผมดูซีดเซียวลงอย่างที่ไอ้ผิงบอก สุขภาพจิตย่ำแย่ก็แบบนี้...แต่ที่เป็นอยู่ยังไม่สาหัส ต้องให้ถึงเวลาที่รู้ความจริงทุกอย่างนั่นแหละ สภาพของผมจะแย่กว่าที่เป็นกว่านี้ไหม

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ผมได้ยินเสียงเคาะประตูห้องพี่ท็อป เลยเงี่ยหูฟังว่าใครมา ได้ยินเสียงพี่ท็อปเดินไปเปิดประตู

“สองอยู่ไหม”ยิมนั่นเอง ผมขมวดคิ้วสงสัยว่ามันมาหาผมที่ห้องพี่ท็อปมีอะไรด่วนหรือเปล่า

“อยู่ แต่อาบน้ำ มีอะไรหรือเปล่า”พี่ท็อปถามเสียงห้วนๆ

“มีของจะให้มันน่ะ ...ฝากไว้ด้วยแล้วกัน..มันคงรู้ได้เองว่าคืออะไร”ยิมพูดเสียงเรียบๆตามเคย

“อืม เดี๋ยวจะเอาให้มันล่ะกัน”พี่ท็อปพูดน้ำเสียงแปลกๆ ก่อนจะปิดประตูเสียงดัง ยิมคงเอารูปถ่ายทริปนั้นมาให้ผมแน่ๆ เมื่อคืนผมก็ไม่ได้นอนห้องตัวเองด้วยสิ มันได้ไปเคาะห้องผมหรือเปล่า

"ไอ้ยิมเอาของมาให้มึง กูวางไว้บนโต๊ะนะ"พี่ท็อปพูดเสียงดังอยู่หน้าประตูห้องน้ำ

"ครับ..."ผมตอบไปสั้นๆและรีบอาบน้ำแปรงฟันจนเสร็จภารกิจ เมื่อผมเดินออกจากห้องน้ำเห็นพี่ท็อปแต่งตัวเสร็จแล้ว เสื้อนิสิตกับกางเกงยีนส์สีเข้ม ผมเห็นพี่ท็อปมองซองเอกสารสีน้ำตาลที่วางอยู่บนโต๊ะ คิ้วขมวดเล็กน้อย

“มันให้อะไรมึงวะ แอบกิ๊กกับมันหรือไง”ผมหัวเราะออกมานิดนึง ผมย่นหน้าแล้วเดินไปหยิบซองเอกสารมาดู หนักอยู่เหมือนกัน มันให้รูปผมมาซะเยอะเลย

“ก็แค่รูปน่ะพี่ ตอนไปทริปมันถ่ายไว้แล้วเอามาให้ผมดู”ผมเก็บซองใส่กระเป๋าสะพายของผม พี่ท็อปเดาะลิ้นเบาๆเหมือนขบคิดอะไรอยู่ ผมเหลือบมองพี่ท็อป ที่แสดงออกแบบนี้คือหึงหรือไงหรือแค่ไม่ชอบใจไอ้ยิมมันเฉยๆ

“แต่งตัวเถอะ เดี๋ยวไปกินข้าวกัน”พี่ท็อปยิ้มให้ผม

“โอเค เดี๋ยวแวะไปเอาของที่ห้องผมก่อนนะ”ผมบอกขณะที่รีบแต่งตัวจนเสร็จ ก่อนจะเดินไปเอาของที่ห้องของผม ผมเอาซองรูปวางไว้บนโต๊ะ ถ้าเบอร์ที่ผมได้มาเป็นเบอร์ของมิ้นท์จริงๆล่ะก็....ผมคงได้รู้ความจริงในบางเรื่องอย่างแน่นอน แต่อีกใจนึงผมก็กลัว กลัวว่าเรื่องของพี่ท็อปจะทำให้ผมเสียใจ หลังจากที่ผมกับพี่ท็อปแวะทานมื้อเที่ยงที่ร้านข้าวราดแกงใกล้กับหอพัก วันนี้เป็นวันที่ผมเป็นคนขี่รถไปส่งพี่ท็อปที่คณะผมมาถึงคณะ

“ตอนเย็นไม่ต้องมารับพี่ก็ได้ เดี๋ยวพี่กลับกับพวกไอ้ธามเอาต้องอยู่แล็ปฯอีกสักพักก่อน”พี่ท็อปบอก

“โอเคครับ ไว้เจอกันคืนนี้”ผมยิ้มแล้วแล้วรับหมวกกันน็อคมาจากพี่ท็อป ผมมองตามหลังพี่ท็อปไปจนหายลับขึ้นตึกไป....ตอนนี้ผมรู้สึกท้อใจอย่างบอกไม่ถูก ผมขี่รถมอเตอร์ไซด์กับมายังคณะของตัวเอง แล้วรีบเดินไปยังห้องปั้น ผมเห็นไอ้ผิงมาถึงก่อนแล้ว มันโบกมือให้ผม

“วันนี้มาด้วยเว้ย”ไอ้ผิงยิ้ม ขณะที่ไอ้โก๋มองหน้าผม "ก็นะ...ไม่มาก็ไม่ทันส่งอะดิ"มันหัวเราะแล้วหันไปทำงานที่เพจต่อ
ผมรีบขึ้นฐานที่เพจปั้นหลังจากที่ไอ้ผิงช่วยผมใส่โครงแล้ว เรื่องโทรไปเบอร์นั้นคงต้องรอให้งานผมเสร็จไปครึ่งนึงก่อน เผื่อว่าเกิดเรื่องแย่ๆเข้าจะทำให้เสียงานเปล่าๆ ผมก็เป็นพวกพออารมณ์ไม่ดีแล้วจะทำงานออกมาได้ห่วยแตกมาก ผมเกลี่ยดินไปตามแบบที่ร่างไว้ได้ครึ่งนึงเหลือเก็บรายละเอียด เลยนั่งพักอยู่ริมห้อง ไม่นานไอ้โก๋ก็เดินมาหาผมแล้วยื่นซองสีขาวมาให้

“มีคนฝากมาให้มึงว่ะ”ไอ้โก๋บอก ผมรับซองนั้นมางงๆ ก่อนจะมองหน้าไอ้ผิงที่ทำหน้าอยากรู้ ผมเปิดซองออกมา เห็นมีรูปถ่ายอยู่หนึ่งใบ ผมหยิบออกมาดู ไอ้ผิงทำหน้าตกใจ ผมสอดรูปใบนั้นลงซองไปเหมือนเดิม ในใจผมเต้นรัว รู้สึกเหมือนโดนหักหลังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

รูปถ่ายใบนั้นเป็นรูปของมิ้นท์กับพี่ท็อป ถ่ายคู่กันที่น้ำตกแห่งหนึ่ง พี่ท็อปยืนยิ้มมีมิ้นท์คล้องแขนไว้ข้างนึง...และสิ่งที่ทำให้ชัดเจนว่าสองคนนี้ติดต่อกันมานานแล้วคือวันที่ที่ปรากฏอยู่ขอบภาพ เมื่อปีที่แล้วนี่เอง ในรูปตอนนั้นพี่ท็อปคงอยู่ปี 2 และผมยังอยู่ปี 1 พักอยู่หอใน

ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ

“โอเคไหมวะ...ใครส่งมาให้วะ”ไอ้ผิงจับแขนผมแล้วคว้าซองรูปไปหาไอ้โก๋ ได้ยินมันถามว่าใครเป็นคนเอามาฝากไว้ ผมถอนหายใจ รู้สึกร้าวในอก ผมวางกระเป๋าลงที่หน้ากระดานปั้นของตัวเอง แล้วเดินไปนั่งพักที่ลานหญ้าหลังห้องปั้น ผมหยิบบุหรี่ออกมาสูบ ขณะจุดไฟ...ผมนึกถึงหน้าพี่ท็อปและคำพูดบ่นใส่ผมเวลาผมสูบบุหรี่ ผมนิ่งงัน ก่อนจะขว้างบุหรี่ทิ้งเข้าไปในพงหญ้า

ผมหัวเราะเยาะตัวเอง รูปนั่นคนที่ส่งมาให้ผมคงอยากให้ผมทุรนทุรายสินะ...จะเป็นใครไปได้นอกจากเฮียแกน แสดงว่ารู้หรือไงว่าพี่ท็อปติดต่อกับมิ้นท์ ผมลูบหน้าหลับตาลงรวบรวมสติกลับมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมากดหาเบอร์ที่ได้มาแล้วโทรออก ถ้าเป็นเบอร์ของมิ้นท์จริง ผมจะพูดอะไรออกไปดี ใจผมเต้นรัว มือเย็นเยียบ รอสายไม่นานนักระบบก็ตอบรับ คนปลายสายกดรับ

[สวัสดีค่ะ]น้ำเสียงไม่มั่นคงจากปลายสายทำให้ผมแทบหยุดหายใจ มิ้นท์ จริงๆด้วย ชั่วขณะนั้นผมตกใจมาก รู้สึกหวั่นในใจ ผมพูดไม่ออก ที่แท้พี่ท็อปก็ติดต่อมิ้นท์จริงๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา

[ฮัลโหล ใครพูดคะ ]เสียงมิ้นท์ถามย้ำ ดูแคลงใจกับคู่สนทนาที่เงียบ

“...มิ้นท์...นี่สองเองนะ”ผมกลั้นใจพูดออกไปจนได้ จากนั้นปลายสายก็เงียบจนผมได้ยินเสียงหายใจของอีกฝ่ายแรงขึ้น

[...] ผมนิ่วหน้าเมื่อคนปลายสายไม่พูดอะไรออกมา

“มิ้นท์ ได้ยินไหม นี่สองไง...เราเอง”ผมย้ำอีกรอบ แต่ในวินาทีนั้นสายก็ตัดไปทันที ผมถอดใจ มองหน้าจอโทรศัพท์ที่สิ้นสุดการสนทนาไปแล้ว ...มิ้นท์คงเกลียดผมแล้วสินะ ขนาดเสียงยังไม่อยากได้ยินเลย

ผมทำท่าจะลุกกลับเข้าไปห้องปั้นแต่แล้วไม่คาดคิดว่ามิ้นท์จะโทรกลับมา ผมยิ้มดีใจแล้วรีบกดรับ

[โทรมาทำไม] มิ้นท์พูดเสียงห้วน ผมหุบยิ้ม สมองค้นหาถ้อยคำดีๆ

“มิ้นท์.. คือ...เราอยากคุยกับมิ้นท์ อยากคุยทุกเรื่องที่เราเคยทำไม่ดีใส่มิ้นท์”ผมพูดช้าๆ อยากเจอมิ้นท์ อยากพูดคุยกันให้รู้เรื่องแม้ว่ามันจะไม่ง่ายสำหรับตัวมิ้นท์เลยก็ตาม

[...ทำไมเพิ่งมาเอาป่านนี้...มันผ่านมาหลายปีแล้วนะพี่สอง] มิ้นท์พูดเบาๆเสียงสั่นเครือ ผมเม้มปาก รู้สึกอับจนถ้อยคำ ความรู้สึกที่ผมไม่เคยได้สัมผัสรับรู้ ทั้งๆที่ควรจะรู้สึกมานานแล้ว ผมรู้สึกผิดจริงๆ

“เราขอโทษ...มิ้นท์มาเจอเราหน่อยได้ไหม”ผมพูด

[...] ผมใจแป้วเมื่ออีกฝ่ายเงียบอีกครั้ง ผมนึกหาคำพูดใหม่

“...ได้ไหมมิ้นท์ แค่ครั้งเดียว เรามีเรื่องจะคุยกับมิ้นท์นะ สำคัญด้วย”ผมพูดตะกุกตะกักอย่างร้อนรน ผมต้องเจอมิ้นท์ให้ได้ ผมต้องการรู้ความจริงและขอโทษมิ้นท์ด้วยตัวเอง

[...มิ้นท์ไม่แน่ใจ ถ้าเกิดพี่แกนรู้เข้า เดี๋ยวจะซวยกันหมด วันอื่นไม่ได้หรอ]
แต่เราอยากคุยตอนนี้เลย เพราะเราคงไม่มีโอกาสได้ติดต่อมิ้นท์บ่อยๆหรอก”ผมพูดอย่างหมดหนทาง เพราะผมต้องการความจริงให้เร็วที่สุด

[...งั้นก็ได้....มิ้นท์ว่างช่วงบ่ายพอดี ตอนนี้อยู่ที่ฟิสเนตในมอ ...พี่จะมาได้หรือเปล่าล่ะ มาหามิ้นท์เองเลยน่าจะปลอดภัยจากพี่แกนได้] มิ้นท์ตอบกลับมา บ่ายนี้ผมต้องทำงานให้เสร็จด้วยสิ แต่แค่คุยกับมิ้นท์คงไม่นานหรอกมั้ง ผมมองนาฬิกา ตอนนี้บ่ายสามครึ่งแล้ว

“ได้สิ มิ้นท์อยู่ที่ไหนล่ะ”ผมถาม มิ้นท์เรียนอยู่มอเอกชนด้านบริหารธุรกิจ ผมเก็บของสะพายกระเป๋าเตรียมไปที่รถ ไอ้โก๋เดินมาหา

“จะไปไหนอีก ทำงานก่อนดิ เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน”มันบอก ผมรู้ว่ามันหวังดี แต่ผมรอไม่ได้จริงๆ

“ไปไม่นานหรอก เดี๋ยวกูกลับมาทำต่อ”ผมตบไหล่มันแล้วรีบเดินไปที่โรงจอดรถ จากนั้นก็ขี่รถไปหามิ้นท์ มหา’ลัย เอกชนดังกล่าวอยู่ห่างกันคนละโยชน์ มหา’ลัยผมอยู่นอกเมือง ส่วนมหา’ลัยของมิ้นท์อยู่ในตัวเมือง คงใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 20 นาทีแน่ๆ ผมมองท้องฟ้าที่เริ่มมืดครึ้ม เมฆลอยต่ำ ท่าทางเหมือนฝนจะตก สงสัยพายุจะเข้า

หลังจากที่รีบบิดมาจนถึงมหา'ลัยดังกล่าวแล้ว ผมก็ขี่เข้าไปทางหน้ามอเพื่อหาสนามกีฬากลาง มีฟิสเนตอยู่ที่นั่น ผมหาที่จอดรถ แล้วเดินตรงไปหาฟิสเน็ตที่อยู่ใต้ตึกสแตนเชียร์ขนาดใหญ่

ผมเห็นมิ้นท์ยืนรอผมอยู่ตรงทางเข้าฟิสเน็ตในชุดนักศึกษาเข้ารูป มิ้นท์ดูเปลี่ยนไปมาก จากที่เป็นผู้หญิงหวานๆน่ารัก แต่ตอนนี้กลายเป็นสาวมั่นและสวยมากขึ้น ทำสีผมน้ำตาลเข้มเป็นลอน ผมเดินเข้าไปหาอย่างเกร็งๆ มิ้นท์โบกมือให้ทันทีที่เห็นผม

"ไง... มิ้นท์ สวยขึ้นนะไผมเอ่ยทักทายอย่างประหม่า ไม่ได้เจอกันหลายปี แถมยังทำเรื่องแย่ๆใส่อีกฝ่ายไว้ก่อนหนีหน้ามาอยู่ที่นี่ ผมทำตัวไม่ถูก

มิ้นท์ไม่ได้ตอบอะไรแค่มองผมอยู่เงียบๆ ไเราอยากขอโทษเรื่องเก่าๆ ทุกเรื่องเลยนะ ..เราเองก็ไม่ขอให้มิ้นท์ยกโทษให้หรอก เรารู้ว่าเราผิด”ผมพูดช้าๆ

อีกฝ่ายยังคงมองหน้าผมก่อนจะถอนหายใจแล้วเดินนำผมไปหาที่คุย มิ้นท์เดินไปยังทางด้านข้างของสนามกีฬาติดกับคอร์ตเทนนิสเก่าๆเหมือนไม่ได้ใช้แล้ว ตรงนั้นมีม้านั่งอยู่ ผมเดินไปนั่งข้างๆมิ้นท์

“สำนึกได้จริงๆเหรอ”เมื่อเงียบไปสักพักมื้นท์ก็พูดออกมาก่อนจะหันมองหน้าผมด้วยสายตานิ่งๆ

“ใช่ เรารู้อยู่แก่ใจดี”ผมบอก จ้องตากับมิ้นท์ เพื่อให้เห็นว่าผมหมายความตามที่พูด

“รู้ไหมว่ามันไม่ง่ายเลยนะที่จะลืมเรื่องที่เกิดขึ้น”มิ้นท์เม้มปากและละสายตาจากผมไปมองคอร์ตเทนนิสด้วยสายตาหม่นเหม่อ
ผมพยักหน้าเบาๆ ปล่อยให้ความอึดอัดเข้ามาครอบคลุม

“มิ้นท์กลัวแค่ไหน ตอนที่พี่บอกว่าไม่ได้ป้องกันแล้วกลัวว่ามิ้นท์จะท้อง ตอนที่พี่ไปซื้อยาคุมฉุกเฉินให้ มิ้นท์กลัวมาก ถ้าเกิดว่าท้องขึ้นมาจริงๆ พี่จะรับผิดชอบมิ้นท์หรือเปล่า...แล้วมิ้นท์ก็ได้คำตอบ ตอนที่พี่หายเงียบไป ไม่ทันจะรู้ผลว่ายาคุมนั่นช่วยได้ไหม มิ้นท์ก็ติดต่อพี่ไม่ได้เลย ไปหาที่บ้านก็ไม่อยู่ โทรไปก็ไม่รับ...ตอนนั้นมิ้นท์ก็รู้แล้วว่าพี่จะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น...ทิ้งให้มิ้นท์เผชิญเรื่องคนเดียว ถึงจะไม่ท้อง แต่มิ้นท์ก็กลัว จนแม่รู้เรื่องของเรา หึ ถ้าแม่ไม่แจ้งความล่ะก็ พี่คงไม่โผล่หน้ามา”มิ้นท์ระบายออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเป็นบางช่วง

“เราขอโทษ ไม่แก้ตัวอะไรทั้งนั้น...ตอนนั้นเรากลัวมาก...กลัวว่ามิ้นท์จะท้อง...ก็เลย...”

“ทิ้งมิ้นท์ไปซะ จะได้จบๆเรื่องใช่ไหม”มิ้นท์มองหน้าผมอย่างโกรธเคือง ผมเงียบ

“รู้อะไรไหม...ตอนแรกมิ้นท์ขอให้แม่ไม่เอาเรื่องพี่สอง แล้วให้แม่ขอทางพ่อพี่ให้หมั้นกับมิ้นท์แทน...แต่ก็ผิดหวังอีก”

“เรามันเลวเอง แต่ที่เรามาหามิ้นท์วันนี้ เราอยากขอโทษมิ้นท์จริงๆ สำหรับทุกอย่าง เรารู้แค่คำขอโทษของเรามันไม่ได้ช่วยให้มิ้นท์รู้สึกดีขึ้น”ผมบอก รู้สึกปั่นป่วนในใจไม่เคยรู้สึกแย่เท่านี้มาก่อน  ผมไม่อยากฟังเรื่องของมิ้นท์ ผมแค่ไม่อยากรู้สึกแย่ไปกว่านี้ ถึงแม้มันจะเป็นความผิดของผมก็ตาม มาตอนนี้ผมแทบสำลักความรู้สึกผิดจนมองหน้ามิ้นท์ไม่ติด

“ก็ดีแล้ว จะได้รู้ว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ถึงมิ้นท์จะไม่ใช่คนดีอะไร”มิ้นท์พูดเบาๆ

“ห็นมิ้นท์เคยเข้าโรงพยาบาลด้วย....มิ้นท์เป็นอะไร”ผมเปลี่ยนเรื่อง มิ้นท์มองหน้าผมแล้วยิ้มบางๆ

“รู้ด้วยเหรอ...”

“ใช่...มิ้นท์ป่วยเหรอ”

“อืม ป่วยใจ”แล้วมิ้นท์ก็หันมามองหน้าผมนิ่งๆ ผมเงียบปั้นหน้าไม่ถูก

“พอพี่สองย้ายออกไป...เรื่องของมิ้นก็แพร่ไปทั้งโรงเรียนว่าถูกพี่สองฟันแล้วทิ้ง มิ้นท์แทบไม่อยากไปโรงเรียน กลับมาบ้านก็เจอแม่เอาแต่ต่อว่าเรื่องนี้ มิ้นท์เครียดมาก พึ่งใครก็ไม่ได้ ไม่รู้จะทำยังไงเลยจะฆ่าตัวตาย แต่ดีนะที่แม่พาส่งโรงบาลทัน”ทันทีที่มินท์พูด

ผมตกใจมากไม่คิดว่ามิ้นท์จะพยายามฆ่าตัวตายแบบนั้น ไม่แปลกใจว่าทำไมเฮียแกนถึงแค้นผมนัก

“ถามจริงๆเถอะ ถ้าหากว่าพี่แกนไม่เอาคืนสองแบบนี้ สองยังจะทำตัวแบบเดิมไหม”

“คือ เราขอโทษ”ตอนนี้ผมพูดแค่นี้จริงๆ

“คิดว่ามิ้นท์ไม่รู้เหรอว่าหลังจากจบเรื่องของมิ้นท์ไปแล้ว พี่ก็ยังทำตัวเหมือนเดิม แต่แค่ไม่ยุ่งกับผู้หญิง  ไม่เคยนึกถึงหรือสำนึกเรื่องของมิ้นท์เลย ....ลองคิดดูแล้วถ้าไม่เกิดเรื่องพี่แกนแบบนี้ สองก็คงทำตัวมั่วๆ คบกับคนอื่นเหมือนเป็นเรื่องสนุกๆ”มิ้นท์แทงใจผมได้ดี แน่นอนข้อนี้ผมไม่เถียง

“ใช่ เราเป็นแบบนั้นจริง แต่ตอนนี้มันต่างกันไง”ผมบอก

“งั้นต้องขอบคุณพี่แกนนะ ที่ช่วยสั่งสอนพี่ พี่แกนก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มิ้นท์ดีขึ้น”

“แล้วตอนนี้ล่ะ มิ้นท์พอใจหรือยัง”ผมถาม ในใจสั่นไหว

“มิ้นท์เคยคิดอยากให้สองโดนแบบมิ้นท์บ้างหรือคนอื่นๆที่พี่สองเคยทำ อยากให้รู้ถึงรสชาติของคนที่หมดหนทาง  แต่ก็ไม่อยากให้พี่ต้องเจอแบบที่มิ้นท์เคยเจอหรอก แต่พี่แกนเจ้าคิดเจ้าแค้น อยากให้พี่เจอบทเรียนบ้าง”

“อืม”

“พี่ท็อปเองก็ติดต่อกับมิ้นท์เรื่อย ๆ ไม่ใช่ในฐานะแฟน ถึงแม้ว่าช่วงนึงมิ้นท์กับพี่ท็อปจะคบกัน และมีเรื่องแย่ๆเกิดขึ้น มิ้นท์ผิดเองด้วยนั่นแหละ แต่พี่ท็อปก็ไม่ได้หนีไปไหน มิ้นท์อยากเจอพี่ เลยให้พี่ท็อปช่วย เพราะพี่แกนไม่ยอมให้มิ้นท์ติดต่อกับพี่เลย”

“งั้น...พี่ท็อป”ผมพูดไม่ออก พี่ท็อปโกหกเรื่องมิ้นท์ ถ้าหากว่าเจ้าตัวให้ผมได้เจอมิ้นท์ล่ะก็ อะไรๆมันอาจดีขึ้นและเรื่องคงไม่เลยเถิดมาขนาดนี้

“คบกับพี่อยู่ใช่ไหม... ไม่น่าเชื่อเลยเนอะ”มิ้นท์หัวเราะเบาๆ มองหน้าผมแล้วยิ้ม ผมอยากถามบางอย่างกับมิ้นท์เรื่องพี่ท็อป

“มิ้นท์ให้พี่ท็อปมาหลอกเราหรือเปล่า”ผมพูดออกมาจนได้

“แล้วถ้าเป็นเรื่องจริงล่ะ พี่จะทำยังไง”คำพูดของมิ้นท์เหมือนสายฟ้าผ่ากลางใจ “แล้วมันจริงไหมล่ะ...”ผมถามย้ำอีกครั้ง
มิ้นท์ไม่ตอบ แค่ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินกลับเข้าไปในฟิสเนตต่อ ผมนั่งอยู่ที่ม้านั่งตัวนี้อยู่นาน จนฝนเริ่มลงเม็ด ผมยิ้มเยาะกับตัวเอง ในใจผมรู้ดี เรื่องของผมกับพี่ท็อปก็แค่เกมส์ของเจ้าตัว

เหมือนจิตวิญญาณของผมหายไปพร้อมๆกับความจริงจากปากของมิ้นท์...ผมแค่....เสียใจ ที่ทั้งหมดที่พี่ท็อปทำมันไม่ใช่ความจริงจากใจ มันเป็นเรื่องลวงๆ ผมไม่โกรธที่คนพวกนี้พยายามปั่นหัวผม  เพราะผมเองยอมโง่มาหลายครั้งเหลือเกิน เลือกที่จะมองข้ามความแคลงใจสงสัยในตัวอีกฝ่ายไป

ตอนนี้ผมตกลงมาอย่างหนัก ผมเปียกก่อนจะลุกเดินหาที่หลบฝน ผมวิ่งไปที่ลานจอดรถ มองเวลาก็พบว่ามันเย็นมากแล้ว ไม่อยากติดอยู่ที่นี่นานๆ ผมเสียใจ อยากร้องไห้ออกมา แต่น้ำตากลับไม่ไหล ผมหยิบหมวกกันน็อคมาสวม อากาศเย็นลงกว่าเดิม ผมกลับหอพักด้วยวภาพแบบนี้ ฝนตกลงมาตลอดทาง เหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ ผมเห็นยิมกำลังวิ่งเข้าไปในตึกพอดี อีกฝ่ายหันมองผม

“ตากฝนมาเหรอ”

“อือ”ผมตอบเรียบๆ เดินเข้าไปในตึก ยิมเดินตาม มันมองผมอย่างเป็นห่วง “สีหน้าไม่ดีเลย เป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าหรอก”

“ระวังเป็นหวัดนะ”อีกฝ่ายยังคงพูดต่อไป ผมหันไปมอง เจ้าตัวจ้องผม

“ช่างเถอะ”ผมพึมพำ ไม่มีแรงมาต่อล้อต่เถียงกับยิม “หรือว่าอกหัก”มันพูดออกมา ผมชะงักไป อกหักยังดีกว่า มาเจอหลอกแบบนี้ ระหว่างที่เดินขึ้นบันไดมาจนถึงชั้นสาม ผมเดินไปที่ห้องของตัวเอง “...มียาหรือเปล่า กูมียาแก้หวัดนะ”อีกฝ่ายบอก ผมหัวเราะ ไม่คิดว่าตัวเองป่วยหรอกนะ แม้ว่าเมื่อคืนก่อนจะปวดหัวอยู่บ้างก็ตาม

ผมเข้ามาในห้อง ขณะนั้นไอ้ยิมก็แทรกตัวเข้ามาด้วย ผมไม่ได้ว่าอะไร ผมไม่ได้ไล่อีกฝ่ายไป รู้สึกหนาวจนสั่นขึ้นมานิดหน่อย  แค่เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาคลุมตัวไว้ ไอ้ยิมกวาดสายตามองไปรอบห้อง ก่อนจะสะดุดกึกเมื่อเห็นภาพวาดใบหน้าพี่ท็อปตั้งอยู่ริมห้อง

“มึงชอบไอ้ท็อปขนาดนี้เลยเหรอ”มันหันมามองผมด้วยสายตาเรียบเฉย น้ำเสียงฟังดูแข็งๆ

“อืม กูคิดว่ากูรักพี่ท็อปว่ะ”ผมยิ้มเยาะกับตัวเอง ยิมถอนหายใจเสียงดัง ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องโดยการใช้เท้าเขี่ยๆถุงดำและขวดเบียร์ที่ระเกะระกะอยู่ตามพื้น

“นี่ห้องมึงหรอเนี่ย...รกชิบ นอนเข้าไปได้ยังไง”ยิมส่ายหน้า ก่อนจะทำหน้ายับย่นขัดใจ

“หึ ใครว่า...นอนกับพี่ท็อปหรอก”ผมพึมพำ

“เออ...”ยิมกระแทกเสียง ผมมองหน้าอีกฝ่าย

“พี่กลับไปก่อนก็ได้นะ ผมจะอาบน้ำ”ผมบอกแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ยิมแค่ยืนนิ่ง

“รีบอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวไม่สบายเอา”อีกฝ่ายโบกมือไล่ทำเสียงหงุดหงิด ผมเลยไม่สนใจมันแล้วเข้าไปอาบน้ำ ผมจามหลายครั้ง มีแววว่าจะไม่สบายจริงๆด้วย ผมได้ยินเสียงคนเดินไปมาอยู่ในห้อง ยิมนี่มันดื้อจริงๆ

ผมพันผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ ก็ตกใจกับภาพที่เห็น เพราะยิมมันกำลังเก็บห้องให้ผมอยู่ อีกฝ่ายหันมาจ้องก่อนเบือนสายตาหันมาเก็บกวาดขยะใส่ถุงดำตามเดิม

“นี่พี่ ไม่ต้องทำหรอกครับ เดี๋ยวผมทำเอง”ผมรีบห้ามอีกฝ่าย แต่ก็คงไม่ทันเพราะเจ้าตัวทำความสะอาด เก็บกวาดขยะไปเกือบเสร็จแล้ว

“มึงไปแต่งตัวเหอะ เกะกะว่ะ”อีกฝ่ายบอก ใบหน้าเรียบเฉย แล้วดันตัวผมออกไปให้พ้นทาง  ผมมองมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะปล่อยเลยตามเลย ผมเดินไปสวมใส่เสื้อผ้าที่หน้าตู้เสื้อผ้า เลยนึกสนุกอยากแกล้งยิม

“อย่าแอบดูของผมนะพี่”ผมหันไปหาอีกฝ่าย ขณะที่สวมกางเกง ยิมหันหน้ามามองแล้วจ้องผมนิ่งๆ

“อ่อยกูขนาดนี้ ยังจะหาว่ากูแอบมอง”เจ้าตัวส่ายหน้า กอดอกทอดสายตามองผมต่อไป ผมไหวไหล่แล้วหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหยิบเสื้อมาสวม จากนั้นเดินไปหยิบไม้กวาดมาช่วยยิมเก็บของด้วย เห็นว่ามันมองผมไม่ละสายตา มีรอบยิ้มมุมปาก

“พี่นี่โคตรดี ใครได้เป็นแฟนคงโชคดี”ผมพูดไปตามจริง ดูท่าทางของยิมแล้วมันคงเป็นคนรักจริงและจริงใจ

“งั้นเหรอ....แล้วมึงไม่อยากจะโชคดีบ้างเหรอไง”ผมหันขวับมองไปทางคนพูดทันที อะไรดลใจให้อีกฝ่ายพูดแบบนี้นะ ผมหัวเราะ

“ฮ่ะๆ พี่นี่ตลกดี คิดจะจีบผมจริงๆหรือไง"ผมยิ้มแล้วมัดปากถุงดำแล้วหิัวไปวางกองที่มุมห้อง

“...ก็เผื่อฟลุค เผื่อว่าเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาไง”ยิมพูดเบาๆ ผมหันไปมองทางมันอีกครั้ง ผมชอบอีกฝ่ายนะ อาจจะแค่เสี้ยวนึง แต่ไม่มากพอที่ผมจะเลิกรักพี่ท็อปแล้วหันมาชอบมันได้ ยิมแค่ยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินไปหยิบซองเอกสารที่มันให้ผมมาถือไว้

“ยังไม่ได้เปิดดูอีกเหรอ”ยิมถามแล้วเปิดซองรูปก่อนจะเลือกหยิบรูปมาหนึ่งใบแล้วยื่นให้ ผมรับมาถือไว้แล้วก้มดู เป็นรูปของผมเอง ที่ทะเลหมอกจำได้ว่าตอนนั้นผมนั่งรอพี่ท็อปไปซื้อเบียร์มาให้ ผมแปลกใจตอนนั้นยิมน่าจะไปกับพวกเฮียแกนนี่

"ถ่ายตอนไหน"ผมถาม

“กูวกกลับมาดูมึงไง .ตอนกูส่งข้อความหามึง แต่ไม่เห็นมึงตอบกลับมาเลย”ยิมพูด ผมถึงกับถอนหายใจ

“ขอบใจนะยิม...”ผมพูดได้แค่นี้ สำหรับสิ่งที่มันทำให้ผม

“มึงกินยาเลย เดี๋ยวไม่สบาย”ยิมบอก ก่อนจะเดินมาค้นบนโต๊ะเขียนหนังสือของผม พยายามหากระปุกยาที่วางปนกันไปมั่ว “คงหมดแล้วมั้ง...”ผมบอก แล้วเดินมานั่งที่เตียง อีกฝ่ายบ่นผมเรื่องห้องรกอีกรอบ

“เดี๋ยวไปเอามาให้”ยิมพูด สีหน้านิ่งเฉย จากนั้นก็เดินออกจากห้องของผมไป
ผมหยิบโทรศัพท์มากดดู พี่ท็อปไม่ได้โทรหาหรือส่งข้อความอะไรมาเลย ผมถอนหายใจแรง รู้สึกปวดหึวขึ้นมาตุบๆซะแล้ว ไม่นานนักยิมก็กลับเข้ามาพร้อมกระปุกยา แล้วบังคับให้ผมกินไปสองเม็ด ผมมองนาฬิกา ตอนนี้หนึ่งทุ่มเศษๆแล้ว จากนั้นก็ขยับไปนอนพิงหมอนที่รองหลังไว้ อีกฝ่ายยังคงเดินวนไปมา เก็บกวาดของเล็กๆน้อยราวกับทนเห็นความไม่เป็นระเบียบไม่ได้

“พี่ถอดแว่นแล้วดูดีกว่าตอนไม่ใส่อีก"ผมชวนคุย  สังเกตมาหลายคนแล้วว่าใบหน้าของคนที่ถอดแว่นกับตอนสวมแว่นดูต่างกัน และคนตรงหน้าผมนี่คือข้อพิสูจน์ ยิมไหวไหล่

“มันไม่ค่อยชิน”อีกฝ่ายพูด แล้วฉีดสเปรย์ดับกลิ่นพ่นไปทั่วห้อง ผมย่นจมูกเมื่อได้กลิ่นหอมอ่อนๆของลาเวนเดอร์ผมสดชื่นขึ้นมาได้นิดหน่อย

“เดี๋ยวก็ชินไปเอง ใส่แว่นแล้วดูติ๋มๆ ไม่เร้าใจเลย”ผมได้ทีแกล้งพูดออกไปแบบนั้น เหลือบมองเจ้าตัวที่เหมือนจะชะงักไปเหมือนกัน ผมหัวเราะในลำคอ

ยิมยิ้มแล้วเดินมาหาผมที่เตียง“มึงไปเอาความคิดผิดๆ แบบนี้มาจากไหน ใช้กับกูไม่ได้หรอก”อีกฝ่ายเอ่ย แล้วเดินมาหาผม เจ้าตัวยิ้มกริ่มยื่นมือออกมาลูบลำคอผมอย่างท่าทีเล่นทีจริง

“ฮั่นแน่ ปากดีซะด้วย”ผมยิ้มล้อ

“ลองไหมล่ะ”ยิ้มพูด อีกฝ่ายโน้มตัวลง ยื่นหน้ามาใกล้จนเฉียดแก้มผมไป ผมย่นคอหลบ

“พี่ก็ใช่ย่อยเลยนะ”ผมหัวเราะแล้วผลักตัวอีกฝ่ายออกห่าง ยิมยิ้มพอใจแล้วมานั่งลงข้างผมบนเตียง

“ทำไมมึงไม่เรียกกูพี่วะ”ยิมถาม

“ก็เรียกนี่ไง อ๋อ หรืออยากให้เรียกชื่อแบบเพราะๆ” ผมยิ้ม แล้วมองสังเกตปฏิกิริยาของเจ้าตัวไปด้วย

“เปล่า”อีกฝ่ายพึมพำ เลิกคิ้วมองผม

ผมชั่งใจ มองอีกฝ่ายยิ้ม ๆ ก่อนจะลองเรียกตามที่มันต้องการ “พี่ยิม”ถึงจะรู้สึกไม่ชินปากนัก ยิมมันยิ้มก่อนจะหันหน้าไปมองอย่างอื่น “เขินด้วยแหรอ”ผมเลยแกล้งมันยื่นหน้าไปยิ้มล้อเลียน

“ไอ้สอง”ยิมมันทำหน้านิ่งตามเดิมแล้วพ่นสเปร์ดับกลิ่นใส่หน้าผมแทน ผมถึงกับสำลัก

“เชี่ยยิม”รสชาติแปลก ขมปะแล่มๆ ทำเอาผมเบ้หน้าก่อนจะชี้หน้าคาดโทษอีกฝ่าย

“นอนพักเถอะ เดี๋ยวแฟนมึงก็มาดูใจแล้ว”ยิมบอก ก่อนจะลุกเดินเอาขวดสเปรย์วางลงที่โต๊ะ ผมกลับมาคิดเรื่องพี่ท็อปอีกครั้ง ตอนแรกผมลืมไปชั่วขณะเพราะมียิมคุยด้วย ผมพยักหน้าให้อีกฝ่าย แล้วขยับตัวลงนอน 

“ไว้เจอกันนะ”อีกฝ่ายบอก มองผมอยู่นาน จากนั้นเดินออกจากห้องของผมไป

ผมนอนคิดเรื่องพี่ท็อป รู้ตัวอีกทีก็ไอออกมาติดต่อกันหลายครั้ง จนปวดจมูกขึ้นมา ผมถอนหายใจแรง  ท่าทางจะแย่กว่าที่คิด ผมยกมือแตะหน้าผากของตัวเอง ร้อนๆเหมือนกันแฮะ  ผมปวดหัวขึ้นมาอีกระลอก ช่วงสัปดาห์ก่อนก็ยิ่งนอนดึกๆอยู่แถมยังพักผ่อนน้อยแถมยังคอยกังวลเรื่องพี่ท็อปอีก

คืนนั้นพี่ท็อปไม่ได้กลับมานอนที่ห้อง ตอนแรกผมคิดอยู่ว่าจะโทรหา แต่แล้วกลับเผลอหลับไปวูบนึง  ตื่นมาอีกทีก็เกือบเที่ยงคืน ผมเริ่มเจ็บคอและเนื้อตัวร้อนรุ่ม เลยลุกไปอัดยาอีกรอบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2018 05:47:28 โดย RindadaRin »

ออฟไลน์ รินดาwดาริน

  • OnTop&N'Song
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +243/-2
คืนทั้งคืนก็แทบไม่ได้นอนเพราะไอ แถมยังเจ็บคอและปวดหัวแทบระเบิด จนล่วงเลยมาจนเช้าวันใหม่ ผมรู้สึกล้าและอ่อนเพลีย คงไปคณะไม่ไหวแน่ เลยโทรบอกให้ไอ้ผิงฝากลาอาจารย์แทน ใบรับรองแพทย์จะตามไปทีหลัง
ผมกลืนอะไรไม่ลง แมักระทั่งน้ำลายก็ไม่อยากกลืน ...หลับๆตื่นๆเหมือนเห็นพี่ท็อปมานั่งข้างๆ

“สอง เป็นไรวะ ทำไมตัวร้อนแบบนี้เสียงพี่ท็อปนี่ แสดงว่ากลับมาแล้ว ผมฝืนยิ้มให้

“หืม...เอ่อ...ผมปวดหัวอ่ะ เจ็บคอด้วย..."ผมพยายามบอก กลืนน้ำลายลำบาก พี่ท็อปดูร้อนลน

“เดี๋ยวพี่พาไปหาหมอนะ”พี่ท็อปเข้ามาอังหน้าผากผมแล้วรีบลุกไปหยิบเสื้อคลุมของผมมาสวมให้ผมแต่ดูจะเสียเวลา พี่ท็อปวิ่งตึงๆออกไปจากห้อง กลับมาพร้อมโทรศัพท์และกระเป๋าสะพาย ก่อนจะเข้ามาพยุงผมให้ลุกเดิน

"...มึงไม่เป็นไรนะ กูโทรเรียกแท็กซี่แล้วเดี๋ยวไปหาหมอกัน ตัวมึงร้อนจัง"พี่ท็อฟพูด แล้วดึงแขนผมมาพาดไหล่ของตนเองแล้วพยุงผมให้ออกเดิน ผมเหลือบมองพี่ท็อปท่าทางดูเป็นห่วงผมจริงจัง

"เมื่อเย็นตากฝนมั้งครับมั้ง"ผมบอกเสียงแหบ

"ไม่สบายตั้งแต่เมื่อคืนหรอ....พี่ขอโทษนะ พี่นอนที่หอไอ้ธามมัวแต่เคลียร์งาน ...ขอโทษนะ"พี่ท็อปพูดซ้ำๆอยู่แบบนี้
ระหว่างที่พยุงร่างของผมให้ลงบันไดช้าๆแต่ก็เซเล็กน้อย

“ทนหน่อยนะสอง”พี่ท็อปพูดเสียงสั่นเครือ จนกระทั่งเดินมาถึงบันไดชั้นหนึ่งเจอเข้ากับไอ้ยิมพอดี มันมีท่าทีตกใจขึ้นมาวูบนึงก่อนจะเข้ามาหา

“มันเป็นอะไร”ไอ้ยิมถาม

“ป่วย หลีกหน่อย”พี่ท็อปพูดห้วนๆออกแรงพยุงร่างผมเดินต่อไป.ผมมองหน้าไอ้ยิม มันดูเป็นห่วงผมแต่ไม่แสดงออกมาก

“เดี๋ยวกูช่วยมึงแบกมัน...มึงคนเดียวไม่ไหวแน่ๆ”ไอ้ยิมไม่รอคำตอบจากพี่ท็อปเข้ามาดึงแขนผมไปอีกข้างแล้วพากันลากผมไปรอแท็กซี่ที่หน้าหอพัก พี่ท็อปหยิบเสื้อคลุมมาห่มตัวผมไว้

“ยังไหวอยู่ไหม”พี่ท็อปถามก่อนจะดึงมือผมไปจับ

“...อืม”ผมพยายามยิ้มให้พี่ท็อป ไอ้ยิมมองผมนิ่งๆ ผมส่งยิ้มให้มันบ้าง

ไม่นานรถแท็กซี่ก็เลี้ยวมาจอดที่หน้าหอพักตรงหน้าพอดี พี่ท็อปกับไอ้ยิมช่วยพาผมเข้าไปนั่งบนเบาะหลังจนสำเร็จ พี่ท็อปรีบเข้ามานั่งข้างๆผมแล้วเตรียมปิดประตูรถแต่ไอ้ยิมรั้งไว้ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามามองผม

“...ฝากดูมันด้วยนะ”ผมได้ยินเสียงไอ้ยิมพูด "อืม อยู่แล้ว..."พี่ท็อปก็อือเออตอบกลับไป ตลอดทางพี่ท็อปคอยถามอาการของผมอยู่เรื่อยๆแถมยังจับมือผมไม่ปล่อย...จนผมเริ่มสับสนและไขว้เขวอีกครั้ง                      .


  หลังจากที่ไปโรงพยาบาลมาแล้วผมก็โดนฉีดยาไปหนึ่งเข็มและรับยาแก้อักเสบยาพาราแก้ปวดศีรษะมาอย่างละชุด พี่ท็อปอยู่เฝ้าไข้ผมที่หัองพักต่อจากเรื่ีองวันนี้อย่างน้อยผมก็เห็นว่าพี่ท็อปก็ยังเป็นห่วงผมจริงๆ แค่นี้ผมก็ใจชื้นขึ้นมา

“...ไม่มีเรียนหรอพี่.."ผมถามเสียงแหบ พี่ท็อปส่ายหน้าเบาๆมองผม

“ตอนนี้มึงป่วยอยู่ กูอยู่เฝ้ามึงดีกว่า อาการมึงยังน่าห่วงอยู่นะ"พี่ท็อปขยับดึงผ้าห่มให้ผม

“ผมไม่เป็นอะไรหรอกพี่ แค่นอนพักผ่อนก็หายแล้ว พี่ขาดเรียนแบบนี้ไม่ดีเลยนะ..."เพราะใกล้สอบแล้ว แค่ผมป่วยธรรมดาผมก็ไม่อยากให้พี่ท็อปเสียการเรียนหรอก

“กูเป็นห่วงมึงนี่"พี่ท็อปลูบหัวผทเบาๆสายตาดูอ่อนโยนอย่างอห็นได้ชัด ผมยิ้มจับมือพี่ท็อปแน่นๆ

“เอาแบบนี้แล้วกัน งั้นผมโทรตามไอ้ผิงมาอยู่เป็นเพื่อนก็ได้ครับ"ผมยิ้มบอกแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาโชว์พี่ท็อป

“  ...เอางั้นหรอ แค่ถ้ามีอะไรโทรหากูนะ "พี่ท็อปจับมือผมไว้ ผมยิ้มพยักหน้าไปให้

“ครับ จะโทรหาพี่คนแรกเลย"ผมบอก แล้วให้พี่ท็ือปโทรหาไอ้ผิงแทน พี่ท็อปอยู่เช็ดตัวให้ผมประมาณสิบนาทีก็ขอตัวกลับออกไปเรียน ไม่นานนักไอ้ผิงก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาผม

“กูว่าแล้วไง ดูมึงดิ โทรมชิบ"ไอ้ผิงบ่นแล้วเดินมาหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กในถาดมาเช็ดตัวให้ผมอีกรอบ

“...อืม...."ผมส่งเสียงให้มันแล้วย่นหน้าเพราะรำคาญเสียงบ่นของมัน
ผมนอนหลับไปได้สักพักก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะฝันร้ายเรื่องของมิ้นท์กับพี่ท็อปดูสับสนปนเปกันจนมั่วไปหมด ผมนอนไม่หลับอีกต่อไปเพราะกลัวฝันเหมือนเดิม

“เป็นอะไรวะมึง"ไอ้ผิงรีบเดินมาหาผมทันที มันทำหน้าเครียดมองผม แต่ผมส่ายหน้า"แค่ฝันร้าย"

“มีอะไรบอกกูนะเว้ย มึงดูไม่ดีเลยว่ะ"ไอ้ผิงขมวดคิ้ว ผมยิ้มให้มัน

“เออ กูพร้อมแล้วกูจะบอกนะ...กโอเคขึ้นแล้วว่ะ มึงไปทำงานต่อเถอะ"ผมบอกมัน รู้สึกเกรงใจมันขึ้นมาบ้างและไม่อยากรบกวนมันมากไปกว่านี้

“ได้ไงวะ แฟนมึงกำชับกูอยู่"ไอ้ผิงรีบพูด แล้วเลื่อนชามโจ๊กหมูมาให้ผมบนโต๊ะ

“พี่ท็อปนะเหรอ"ผมถาม แล้วหันหน้าไปที่ชามร้อนๆ ผมตักโจ๊กเข้าปากสองสามคำ

“เออดิวะแฟนมึงมีหลายคนหรือไง"ไอ้ผิงทำหน้าขำๆ

“..งั้นเหรอ"

“พี่เค้าก็ดูเป็นห่วงมึงนะ"ไอ้ผิงพูดทำให้ผมยิ้มออกมาได้ ผมกินโจ๊กไปครึ่งชามแล้วตามด้วยยาอย่างละสองเม็ด ฤทธิ์ยาทำให้ผมเริ่มง่วง

...และผมหลับไปอีกครั้ง

แต่เหมือนไอ้ผิงมันพูดอะไรกับผมสักอย่างเห็นมันคุยโทรศัพท์ไปด้วย ผมก็สะลึมสลือจากพิษไข้จนรู้สึกได้ว่ามีน้ำเย็นๆสัมผัสที่ใบหน้าหลายครั้ง ใครเช็ดตัวให้ผมกัน ผมพยายามลืมตา ใช้เวลาไม่นานก็ปรับสภาพไดัผมมองคนตรงหน้าอย่างเต็มตา

“...ยิม...พี่เองหรอ"ผมมองหน้ามันอยู่นาน..ทำไมถึงต้องทำดีกับผมขนาดนี้นะ ไอ้ยิมยิ้มบางๆแล้ววางผ้าเช็ดตัวผืนเล็กลงในถาด

“เพื่อนมึงมีธุระก็เลยมาเคาะห้องกูให้มาเฝ้ามึง ดีนะกูเพิ่งกลับมา"ไอ้ยิมบอก ผมพยักหน้าเบาๆ

“อืมรบกวนด้วยนะ"

“ไม่เป็นไรหรอก...เต็มใจ"ผมต้องหันไปมองหน้ามันอีกครั้ง

“..ขอบใจนะ"ผมยิ้มให้มัน ไอ้ยิมเลยยิ้มกว้างขึ้นมา

“ไข้ลดลงเยอะแล้ว...กูตกใจที่เห็นมึงท่าทางแย่ "

“แล้วนี่เลิกเรียนแล้วสิ"

“ยังหรอก...พอดีแวะมาเอาของน่ะเลยเข้ามาดูมึงหน่อย"

“กูโอเคขึ้นเยอะแล้ว กูอยู่ได้น่า"ผมบอก ไอ้นี่ก็อีกคน จะโดดเรียนมาเฝ้าผมอีก ผมเลยเถียงกับมันอยู่นานจนมันยอมแพ้กลับไปเรียนต่อ

หลังจากยิมกลับไปเรียนต่อแล้ว ผมบิดขี้เกียจ ไม่เพลียเท่าตอนแรก ผมก็เปิดคอมดูตารางเรียนของพี่ทํอป มีเรียนยาวไปจนถึงหกโมงเย็น ผมมองนาฬิกาตอนนี้เพิ่งสี่โมงกว่า ๆ ผมคิดอยากลองเข้าไปในห้องของพี่ท็อป ลงไปชั้นล่างไปยังออฟฟิศของป้าเจ้าของหอพัก ซึ่งผมก็สนิทพอสมควร เลยไปขอกุญแจห้องพี่ท็อปเพราะแกก็รู้ว่าผมกับพี่ท็อปสนิทกัน เมื่อได้กุญแจมาแล้ว ผมเปิดห้องพี่ท็อป

เข้าไปหาของที่ผมไม่รู้ว่ามีอยู่หรือเปล่า...แค่อะไรก็ได้ที่พี่ท็อปทิ้งไว้
ผมเดินไปที่ลิ้นชักชั้นล่างมันถูกใส่กุญแจไว้สองชั้นติดกัน ต้องมีอะไรในนี้แน่ๆ ถึงผมจะมานอนห้องพี่ท็อปบ่อยๆแต่ไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของพี่ท็อปเลย แต่ไม่รู้จะเปิดลิ้นชักยังไง ผมน่าจะมีกุญแจผี ...คิดแล้วก็ได้แต่หงุดหงิดใจ

ผมเดินไปค้นบริเวณอื่นแทน ...ที่ตรงไหนที่ผมไม่เคยหยิบจับ..อืม...อาจจะชั้นหนังสือของพี่ท็อป ผมเดินไปดูลูบคลำ ปกติผมก็ไม่ได้สนใจหนังสือของพี่ท็อปอยู่แล้ว ผมลองเลื่อนหนังสือออกทีละเล่มไล่ตามชั้นจนกระทั่งชั้นล่างสุด ที่มีหนังสือวางเรียงแค่ครึ่งชั้น ส่วนอีกครึ่งที่เหลือเป็นตั้งที่วางซ้อนกันแทน

ขณะที่ผมหยิบหนังสือกองนั้นออกมาแต่เป็นความซุ่มซ่ามของผมที่หนังสือเล่มสุดท้ายหลุดมือตกลงกับพื้นทำให้ผมหยิบขึ้นมามีรูปถ่ายถูกสอดไว้ด้านในผมหยิบมาดู เป็นรูปของผมกับมิ้นท์ในสมัยมัธยมเป็นภาพโพราลอย...ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมถึงมีรูปผมได้เพราะมิ้นท์นั่นเอง ผมเงยหน้ามองที่ว่างด้านในสุดเห็นกล่องแบนๆสี่เหลี่ยมวางชิดผนังเป็นแนวตั้ง ดูลักษณะแล้วเจ้าของห้องคงตั้งใจเอามาซ่อนให้พ้นสายตา  ผมหยิบกล่องใบนั้นออกมามีสติ๊กเกอร์การ์ตูนติดอยู่เป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆของผู้หญิง

ผมเปิดออกดู...

ข้างในบรรจุรูปถ่ายของผมกับมิ้นท์ส่วนมากเป็นรูปของผมทั้งนั้นมันเป็นภาพเล็กๆเหมือนล้างจากโทรศัพท์ ส่วนใหญ่เป็นรูปจากกล้องของมิ้นท์เพราะผมเคยเห็นรูปในมือถือของมิ้นท์ที่มีแต่รูปของผม มาอยู่ที่พี่ท็อปแบบรี้แสดงว่ามิ้นท์ให้มาชัดเจนขนาดนี้แล้ว ผมคงไม่สามารถหาเหตุผลมาหลอกตัวเองได้อีก ผมต้องยอมรับอย่างเต็มอกเต็มปากว่าพี่ท็อปเข้าหาผมและเข้ามาในใจผมได้เพราะเรื่องของมิ้นท์

ผมไม่รู้ว่ามิ้นท์ขอให้พี่ท็อปทำแบบนี้หรือเปล่า...ผมนิ่งงันไปชั่วขณะก่อนจะเรียบเรียงเหตุการณ์ระหว่างผมกับพี่ท็อปและมิ้นท์ ผมเชื่อว่าลึกๆแล้วพี่ีท็อปมีความจริงใจต่อผมไม่มากก็น้อย คนพวกนี้เห็นผมเป็นหมากตัวนึงในเกมส์ของพวกมัน...แต่ผมจะโกรธแค้นไปทำไมในเมื่อสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ก็คือ ผลของการกระทำอันไร้สำนึกของตัวเอง

แล้วไง...ทำผมเจ็บได้พวกนั้นจะสะใจพอใจกันแล้วสินะ....ใช่ไหมนะ...ผมนั่งนิ่งจมไปกับความคิดแย่ๆอยู่นาน...ผมรีบเก็บของให้อยู่ในสภาพเดิมและล็อคห้องพี่ท็อปแล้วนำกุญแจสำรองไปคืนเจ้าของหอที่ออฟฟิส  ผมเดินกลับไปยังห้องตัวเอง รู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน ผมล้มตัวนอนลงบนเตียง ดูเหมือนไข้ผมจะขึ้นอีกครั้ง ผมนอนมองเพดานห้อง... ความรู้สึกของผมที่ให้พี่ท็อปค่อยๆพังทะลายลงทีละน้อย

ทำไมวะ ทำไม ได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเอง จนนึกไปถึงกรณีไอ้บอม แฟนเก่าพี่ท็อป มันยังไม่รอดมือพี่ท็อปเลย คนอย่างพี่ท็อป ศักดิ์ศรีมันหยามกันไม่ได้

เอาสิ....ร้องไห้เลย พอเจอกับตัวแล้ว ผมกลับไม่มีน้ำตาสักหยด แต่ใจเจ้ากรรมดูจะสวนทางกับต่อมน้ำตาของผม
ผมหยิบโทรศัพท์ออกมา....กดเบอร์ของพี่ท็อปแต่แล้วก็เปลี่ยนใจ...ไอ้ผิงมันจะว่างหรือยัง ผมอยากได้เพื่อนสักคนคอยปลอบใจแต่มันคงซ้ำเติมผมแน่ๆ Number one ของผม ทำเอาผมแทบกระอักทีเดียว พี่ท็อปคงรู้ว่าผมเทใจไปให้เยอะแล้ว ในเมื่อผมรักพี่ขนาดนี้แล้วก็รับไปเยอะๆเลยแล้วกัน

ผมกดโทรหาพี่ท็อป รอสายไม่นาน

[ว่าไงครับ]

“ยุ่งหรือเปล่าพี่”

[คุยได้ครับ เป็นอะไรหรือเปล่า]

“เปล่าหรอก แค่อยากรู้ว่าพี่จะกลับตอนไหน ขากลับฝากซื้อโจ๊กให้ผมด้วยนะ”ผมพูด ทำเสียงออดอ้อนแบบปกติ

[..ได้สิ แล้วไข้ลดบ้างหรือยัง]

“ก็โอเคขึ้นแล้ว แต่คงจะดีกว่านี้ถ้ามีคนให้กำลังใจ”ผมหัวเราะเบาๆ

[..ใครว้า ไอ้ยิมหรือไง]พ่ีท็อปหัวเราะ ผมยิ้ม

“แฟนผมที่ชื่อท็อปอ่ะ กลับมาหาผมเร็วๆล่ะครับ คิดถึง”ผมบอกไปแบบนั้น ให้อีกฝ่ายได้ใจไปเอง

[อ้อนจังนะ งั้นพักผ่อนล่ะเดี๋ยวจะรีบกลับซื้อโจ๊กไปให้นะ]

“โอเค ครับ”ผมกดวางสาย

แต่ทำไมผมถึงได้หนักใจได้ขนาดนี้ การเสแสร้งมันไม่ง่ายเลย แต่ทำไมพี่ท็อปทำเหมือนว่าง่ายนักล่ะ คิดไปคิดมาผมก็ได้คำตอบ เพราะผมเสแสร้งกับคนที่รัก มันเลยยาก ส่วนพี่ท็อปการเสแสร้งกับคนที่ไม่รัก มันคงเป็นเรื่องง่าย

ตกลงใครร้ายกว่ากันล่ะอย่างน้อยผมก็ไม่เคยเสแสร้งแสดงละครมารักกับเด็กของผมเลยสักคน หรือแม้แต่มิ้นท์ผมก็ไม่ได้แค่รักสนุกอย่างเดียว ผมชอบมิ้นท์มาก แต่ไม่ใช่ความรัก ผมส่ายหน้า จากนั้นลุกมากินยาพาราอีกสองเม็ดเพราะปวดหัวแทบระเบิด นอนห่มผ้า สายตามองเพดานห้อง

ผมควรจะจบเรื่องนี้ยังไงดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2018 05:47:43 โดย RindadaRin »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
หน่วงแทนสองจริงๆ  อะไรมันจะซับไปซ้อนมาขนาดนี้

สุดท้ายแล้วใครจะชนะเกมนี้กัน คงมีแต่คนที่เสียใจ  เฮ้อ !    :mew2:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
สงสารสองจัง บทเรียนครั้งนี้ได้มาแลกกับความปวดใจ.  :mew5:
อกหักไม่ตายหรอกแต่แค่ไม่อยากให้พี่ท้อปกับแกนเล่นถึงขนาดให้เสียอนาคต
เราว่าสองควรอยู่คนเดียว ยิมเองก็พี่โย พี่น้องตีกันอีก
พี่ท็อปนี่คงลาขาดจะเอาอะไรมาไว้ใจกันได้อีก เห้อรอตอนใหมค่ะ
ขอบคุณ

ออฟไลน์ yuuri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
สอง นายมโนไปเองหรือเปล่า ระแวงไปเองหรือเปล่า
เราว่าพี่ท็อปก็ดูจริงใจดีนะ

ออฟไลน์ โซดาหวาน

  • ชอบเกาหลี , คลั่ง วาย ~ , ♥ รักประเทศไทย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-1
โอ้ยยย อยากอ่าต่อแล้ววววว!!!!
ดูตอนนี้แล้ววว อิพี่ท๊อปก็ดูเป็นห่วงสองนะ เอะหรือยังไงง
แต่เค้าก็แอบหวังว่า ที่พี่ท๊อปแสดงออกวันนี้มันมาจากใจล้วนๆๆนะเออ
ขอเหอะ อย่าให้เป็นแบบที่สองคิดเลยยย มัคงจะเจ็บบบมากกกก :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ New_Tai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
สงสารสองอ่ะะะ เครียดดดดดเกินไปแล้วววว
พี่ท๊อปอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้นะ แต่ที่มีรูปสองและให้คนตามสืบ
อาจจะแอบหลงรักสองมานานเหมือนยิมแล้วก็ได้นะะ 55555
ลุ้นๆๆๆ แจ๊คพรอตที่ว่านี่คืออัลไลล  รอ ๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ sodawan1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อ่านแล้ววรู้สึกเครียดไปสองเลยย คือแบบมันระแวงนู่นนี่นั่นไปหมด ไว้ใจใครไม่ได้เลยไง
เฮ้อออออ หวังว่าพี่ท๊อปจะมีใจให้สองบ้างงงงน๊าาาา

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หน่วงงง เม้นอะไรไม่ฮกเหมือนกัน /โดนตบ >_____ <
เรายังยืนยันคำเดิมนะ เปลี่ยนเป็น #ทีมยิม ดีกว่านะสอง  :hao3:

ออฟไลน์ ►MoNkEy-PrInCe◄

  • อินเตอร์ไลน์
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 726
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
คนอื่นคิดไงไม่รู้ แต่นี่เชียร์ยิมตั้งแต่ครั้งแรกที่เค้าเจอกันละ
 :กอด1:  :กอด1:

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
พี่ยิมนี่สายพระรองหรือพระเอกคะ? 55555555555555
พี่ท็อปทำตัวให้น่าสงสัยขึ้นเรื่อยๆ หลุดแท่นพระเอกเรื่อยๆแล้ว
มองเห็นทีมพี่ยิมเต็มไปหมดเลย(?)
ใจจริงๆยังอยากเชียร์พี่ท็อป แต่ก็ไม่ไว้ใจพี่ท็อปอยู่ดี
เชียร์พี่ท็อปมาตั้งแต่ต้น แต่ก็ยังไม่เคยไว้ใจพี่ท็อปจริงๆซักที 5555555
หวังว่าพี่ท็อปจะรักสองจริงๆนะไม่ใช่แค่แก้แค้น...
ความจริงปล่อยให้สองไม่รู้อะไรยังเจ็บน้อยกว่าเลย..
 :katai1:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
      ตอนนี้เรื่องพี่ท็อปมันจะเป็นความจริง 100% รึป่าวเนี่ยสอง  ความจริงยังไม่ชัดเจนเลยนะ แต่อย่างไรบทนี้ไม่เห็นใจสองนะเพราะเป็นการลงโทษกับสิ่งที่ได้ทำลงไป มิ้นท์เขาต้องการให้สองแก้ไขตัวเองนะ 
      รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ อยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไง จะเป็นแบบที่สองคิดว่า รู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก รึป่าว ๕๕๕

ออฟไลน์ littlepink

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
แวะมาบอกว่า #ทีมยิม ^^ ถ้าท็อปแก้แค้นสองด้วยวิธีนี้จริงๆ คงเจ็บปวดมาก

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ถ้าหากว่าเรื่องเป็นจริงแบบที่สองคิดหรือระแวง  อาจจะเจ็บแต่เราว่าสองก็ทำใจแล้วก็ปลงในระดับหนึ่งเลยทีเดียว   อาจจะเจ็บแต่สองไม่ตายหรอก  สองแกร่งมากๆพอตัว อ่านบทบรรยายที่สองคิดแล้วรู้สึกถึงความแกร่งของสอง  ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บ  สองเองก็ยอมรับแล้วในจุดหนึ่งว่าที่เกิดขึ้นมาจากสิ่งที่ตัวเองทำไว้    แต่เรื่องก็อาจจะไม่ได้เป็นไปแบบที่สองคิดไว้ทั้งหมด

ท็อปนั้นก็คิดว่ามีใจให้สองอยู่ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว  ถ้าหากว่าเรื่องแตกขึ้นมาแล้วสองถอย คนที่ทุรนทุรายก็น่าจะเป็นท็อปเอง

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
เชี่ยยยยย สองจิตสองใจ
อยากได้ยิม
แต่ก็เสียดายพี่ท็อป โอ้ยยยยยยย
ไม่อยากให้ใครผิดหวังทั้งนั้นแหละ
นี่สินะ ความโลภของมนุษย์
ยิมจ๋า ถ้าไอ้สองมันไม่เอา ก็มาหาเรานะ
 :o8:
สับสนพี่ท็อปสุดๆ เหมือนอะไรก็เป็นไปได้
แต่เราจะเชื่อพี่นะ ว่าพี่ไม่ล้อเล่นกับใจคนหรอก
พี่คงไม่ใช่คนแบบนั้นใช่มั้ย พี่ท็อป
 :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ l3loodl2o5e

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-4
อ่านแล้วหน่วงๆ ในใจดีเนอะ สองคงจิดตกแย่เลย อาร์ตอยู่ด้วยคงไม่คิดสั้นนะ :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Rhythm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
:เฮ้อ: ยังไงดีล่ะเนี้ย ขอเชื่อใจพี่ท็อป (พร้อมความหวาดระแวง ที่ยังคาใจอยู่) ต่อไป ได้แต่ลุ้นให้ให้ปมของพี่ท็อปกับมินต์ แล้วก็การที่พี่ท็อปเข้ามาในชีวิตของสองมันคลี่คลายมากกว่านี้ พี่ท็อปต้องมีใจให้สองสิ  การกระทำของพี่ท็อปหลายอย่างมันบอกอย่างนั้นนี้  :katai1:

แต่ก็ยังตัดยิมไม่ขาดเหมือนกัน เวลามีโมเมนต์ที่ยิมสองอยู่ด้วยกันมันดูไหลลื่น น่ารัก อ่านไปยิ้มไป  ยิมคงชอบสองจริงๆ การแสดงออกมันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้สองก็ทำตัวสบายๆ กับยิมได้โดยไม่ต้องคิดมาก? ไม่เหมือนตอนอยู่กับพี่ท็อปที่ต้องคิดหนักตลอด

:m11: ลุ้นกันต่อไป

 

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
อยากให้สองเป็นคนจบ

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
ใจร้ายมากพี่ท๊อป

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
เรายังห้าสิบห้าสิบกับพี่ท็อปว่ะ

แบบว่าที่แสดงออกมาอาจจริงใจแบบว่าชอบสองจริง ๆ

แต่ช่วงแรก ๆ ที่เข้าหาอ่ะอาจจะแค่แก้แค้น แต่หลัง ๆ เนี่ยอาจจะรักไปแล้วจริง ๆ ก็ได้นะเราว่า

แบบว่าจากแค้นเปลี่ยนเป็นรักไรเงี่ย หรืออาจจะหักมุมหลอกให้ตายใจแล้วทิ้งไรเงี่ยไม่รู้สิต้องติดตามต่อไปแล้วกันนะ  :ling1:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ท็อปอาจจะชอบสองจิงๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้สองเจ็บด้วยเหมือนกัน

ยิมดีจิงหรือดีเก๊ แต่แอบเชียร์นะ หุหุ  เฮียแกนไม่ต้องสงสัยรู้ๆกันอยู่

สรุปสองก็ต้องเจ็บไม่ว่าเลือกเดินทางได


ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ขอลุ้นตอนหน้า แอบหวังแจ๊คพอต ว่าพี่ท็อปก็รักจริง ลุ้นๆๆๆๆ
อยากให้สองถามพี่ท็อปตรงๆๆๆเลย จะได้รู้ไปเลย

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
สองรู้ว่ากำลังถูกเอาคืน  ยังจะรักท็อปอีก  น่าจะไปให้ห่างๆคนพวกนี้
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
แกนนี่ไม่ค่อยได้ออกเลย ตัวร้ายมาแต่ชื่อ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
พูดไม่ถูกเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด