เหตุเกิดบนเตียงของห้องข้างเคียงวิศวะ ตอนพิเศษ 14.11.62 อัปจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุเกิดบนเตียงของห้องข้างเคียงวิศวะ ตอนพิเศษ 14.11.62 อัปจ้า  (อ่าน 248907 ครั้ง)

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ยาวสะใจมาก ชีวิตคนเรามันสั้นจริงๆๆนั้นแหละ
ใครหนอจะมาดามใจเฮียยิมของเรา :hao7:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เย้ ในที่สุดพี่ท็อปกับสองก็กลับมาคบกันแล้วก็จริงอย่างที่สองว่าแหละชีวิตมันสั้นเมื่อรักกันแล้วก็รักกันให้มากๆให้มันคุ้ม และพี่ยิมกำลังจะมีคู่แล้วอันนี้ดีใจยิ่งกว่าใช่ผิงหรือเปล่าเนี่ยแบบตอนไปค่ายที่กัดกันเราแอบจิ้นคู่นี้นะ ฮาาา ยะเปาน่ารักอะเราละอยากไปแบบนี้บ้างจังแต่ไม่มีโอกาสเลย รอตอนต่อไปว่าคู่พี่ยิมคือใคร ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ดีใจอ่ะ สองกับท๊อปดีกันแล้ว จีบสองไม่ง่ายน่ะ ฮ่าๆๆๆๆ อยากเห็นฉากหวานไวๆๆๆ ออนท๊อป อิอิ
รออ่านคู่ยิมจะได้แฟนแบบไหนน่ะ อิอิ

ออฟไลน์ bonusbobobo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตอนนี้ยาวสะจิตจริงๆ กลับมาดีกันแล้วพี่ท็อปต้องจีบสองให้ได้นะ555
อยากเห็นคู่ยิมล้าวว

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
คู่เฮียยิมจะเป็นคนใกล้ตัวสองป่าวหว่า  :hao6:

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ยิม ผิงดีไม๊น้าาา
 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:

คืนดีกันแล้วก้ดี สองงอย่ายอมพี่ท๊อปง่ายๆนะ อิอิ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
มองไปทางไหนก็เห็นแต่ฮาเร็มของสอง
ดีกันได้ก็โอเคแล้วค่ะ   สองควรถอนทุนคืนนะ จับกดเลย

ยิม-ผิง  ยิม-โก๋  ยิม-มุ?

ขอดีน - แกนค่ะ    แบบกดหนักๆได้ไหมคะ?

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
//โบกธงหนักมาก พี่ท็อปปปปปปปปปปปปป
จีบสองให้ติดนะพี่ 65555555555555
หรือบางทีอาจจะต้องไปประกาศตัวเป็นเมียเหมือนคราวสอง -////-

ออฟไลน์ บูมพอส

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ย้ายทีม รักยิม เชียร์ยิม ฮ่าาาาา :hao7: :hao7:

สงสารโย TT   :hao5: :hao5:

นี่พี่ท็อปเจ็บได้สักครึ่งของยิมยังวะถามจริง :sad4: :sad4:

สู้ๆค่ะคนเขียน ยาวสะใจมากกก  :katai4:

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ยาวได้ใจมากค่าาา
อยากให้เป็นแบบนี้ทุกตอนจัง 555555
เค้ากลับมาหากันแล้ววววง
ดีใจด้วยนะทั้งสองคนในที่สุด ก็ยอมเข้าใจกัน
 :mew6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ phrase

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ WASAWATTE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ยาวได้ใจจริงๆ สงสารยิมสุดพลัง..
 :hao5:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
อ่านยาวสะใจมากอ่ะ

ออฟไลน์ kukkikkooka

  • insomnia~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
ยาวสะใจมากกก เคลียร์ซะที  :katai2-1:

พี่ท๊อปกลับมาคราวนี้จะออนท๊อปเหรอคะ 5555555555555555555

เดาว่าคู่ของยิม นี่ผิงหรือเปล่า อิอิ

ว่าไปก็อยากรู้เรื่อง พี่ดีน เฮียแกนนะคะเนี่ยยยยย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-08-2015 21:25:20 โดย kukkikkooka »

ออฟไลน์ zhai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 222
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
เซอร์ไพรส์อ่ะ
แต่ชีวิตจริง  คนเรารักแล้วตัดใจยากเนอะ
อย่างสองนี้ ต้องบอกว่ารักมั่นคงมว๊ากกกกก
สงสารคุณเพื่อนยิมจังเลย

ออฟไลน์ littlegirlfriend

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

เพิ่งมาอ่าน. พี่ท็อปดูยังไงๆก็แมน แมนจนไม่คิดว่าจะมารับได้5555555

เราชอบยิม. #ทีมยิม 555 แต่ก็อยากให้คู่พี่ท็อปดีเเล้ว ในชีวิตก็มีคนแบบยิมอยู่เข้าใจดีว่ามันไม่ได้จริงๆ

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
ชื่อเรื่อง ตอนแรก ดูแนวเฮฮา แต่ดราม่าหนักมาก หนักใช้ได้เลย
เข้าใจท๊อปกับสอง แต้ไม่เข้าใจแกนและมินท์เลย โทษคนอื่นแต่ไม่โทษตัวเิง

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
สนุกค่ะ นั่งอ่านรวดเดียวเลย ดีใจมากที่มาอ่านตอนนี้ ไม่งั้นต้องค้างขาดใจตายแน่
ตอนนี้โล่งแล้วค่ะ นั่งอ่านติดต่อกันจนปวดตาเลย  :heaven

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
อ่านยาวเลยค่ะ 17 ตอน ตาแฉะกันเลยทีเดียว

รอติดตามต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
อ๊ายยย ปลาบปลื้มใจมากกกก
ติดเรื่องนี้งอมแงม
อุตะ ชั้นรักท๊อปสองจัง
ขอให้มีความสุข อวยพรล่วงหน้าเลย
ฟ้าหลังฝน เอาให้มันสวีทวี๊ดวิ้วเลยนะ 555

ออฟไลน์ Teaw_HC+MJ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สองคนนี้เคลียร์กันสักที เฮ้อออ โล่ง
คนเขียนเปิดเทอมแล้วก็สู้ๆน้าาา
เรียนหนักกก แต่ห้ามทิ้งเรื่องนี้นะคะ
คนอ่านรออยู่  :mew1:

ออฟไลน์ Rhythm

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :katai2-1: ตอนไปค่ายนี่อ่านเพลินเลย ยะเปาน่ารักดี น่าสงสารน้องด้วย ช่วงระหว่างที่ทำกิจกรรมต่างๆ ก็จิ้น "จิมกับขะนุผิง" ตลอดอ่ะ ลุ้นให้คู่ยิมคือผิงนะ :hao7: 
ส่วนเบื้องหลังของเฮียแกนกับพี่ดีนก็น่าสนใจ...มันยังไงๆ กันอยู่  :hao3:
 :เฮ้อ: พี่ท็อปตรอมใจเรื่องสองจนพ่ายผอม แอบเสียดายซิกแพคพี่ท็อปไปกับสอง :hao5: ดีใจด้วยที่ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด ขอเชียร์พี่ท็อปให้เข้าฟิตเนสบ่อยๆ ซิกแพคจะได้กลับมาไว้ๆ เวลาออนท็อปจะได้เซ็กซี่ๆ ไงพี่  :hao7: แต่เวลาสองเป็นเมียพี่ท็อปก็น่ารักเหมือนกันนะ เพราะสองอ้อนน่าดูเลย

เปิดเทอมแล้ว ก็สู้ๆ นะจ๊ะ จะรอติดตามตอนต่อไป อย่าให้เก้อน้าาา  :L2:

ออฟไลน์ รินดาwดาริน

  • OnTop&N'Song
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +243/-2
- ผิง -

ตอนที่ 1 ข้างห้องคนใหม่

หลังจากที่กลับมาจากค่ายบนดอย ผมก็กลับมาเปล่าเปลี่ยวนอนแฟบอยู่ที่หอพัก ชีวิตที่วนเวียนเป็นวัฏจักรไร้แก่นสารจึงบังเกิดขึ้น นอนกินบ้านกินเมืองแบบข้ามวัน หรือถ้าติสท์แตกขึ้นมาก็ไปนั่งสเก็ตช์รูปเล่นในมหา’ลัยบ้าง         วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมนอนหงอยเหมือนไก่ป่วยอยู่ในห้องมืดๆ ปิดม่าน ปิดไฟ แต่ผ่านไปประมาณสิบนาทีกว่าได้ ไอ้ห้องข้างๆ ได้ข่าวว่าเพิ่งย้ายมาใหม่ คงจะกำลังขนของเข้ามาในห้อง แต่ประเด็นคือ ผมต้องการความเงียบสงบ ผมผุดลุกจากเตียงนอนเมื่อทนไม่ไหวกับเสียงกุกๆ กักๆ น่ารำคาญจากห้องข้างเคียงทางฝั่งขวามือ
ทำอะไรของมันวะ ผมคิดอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินออกจากห้องแล้วเดินไปยังห้องข้างๆ ผมถอนหายใจเซ็งก่อนจะง้างแขนเคาะประตูรัวๆ อีกฝ่ายจะได้รู้ว่าผมอารมณ์ไม่ดีแค่ไหน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจกวนด้วยการเงียบกริบ แต่ผมยังได้ยินเสียงลากอะไรสักอย่างในห้องดังแว่วออกมา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ผมเคาะประตูห้องอีกครั้งอย่างหงุดหงิด ต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ แม่งกวนตีนแบบนี้ รอไม่นานนัก ผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ประตูห้องจากนั้นประตูห้องก็แง้มเปิดออกช้าๆ
“มีอะไร”เสียงคุ้นหูที่แค่พูดมาคำเดียวหลับตาฟังก็รู้ว่าเป็นใคร เมื่อประตูเปิดออกกว้างเผยให้เห็นผู้ชายร่างสูงสวมแว่นกรอบสีฟ้า ไอ้ยิมเจ้าเก่านั่นเอง มันใส่เสื้อแขนกุดสีขาวกับกางเกงบอล ผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย ผมมันยาวมากขึ้นทำให้ดูเซอร์นิดๆ
“อ้าวเฮ้ย ไอ้ยิม นี่มึงย้ายมาหอนี้เหรอวะ” ผมแปลกใจและถามโง่ๆออกไป ก่อนจะชะเง้อหน้ามองผ่านไอ้ยิมเข้าไปในห้องโล่งสะอาดที่มีกล่องพลาสติกวางซ้อนกันสองใบกับกระเป๋าสีดำใบใหญ่
“เห็นๆ อยู่ แล้วมึงมีธุระอะไร น่ารำคาญ”ไอ้นี่มันพูดดีด้วยไม่ได้ ผมนิ่วหน้า ผมพูดดีๆ กับมันนะเฮ้ย แล้วดูมันพูด ปากมันอย่างกับโถส้วมไม่น่าฟังเอาเสียเลย แบบนี้แหละผมถึงไม่นึกอยากจะคิดเรียกมันว่าพี่
“เออ มึงนั่นแหละทำเสียงดัง กูรำคาญ หัดเกรงใจบ้างสิ ปิดเทอมแล้วไม่ได้หมายความว่าไม่มีคนอยู่”ผมมองหน้ามันนิ่งๆ อย่างไม่สบอารมณ์แม้แต่นิดเดียว อยากจะเข้าไปกระชากแว่นโง่ๆ ของมันออกไปให้พ้น
“เหรอว แค่นี้ใช่ไหม”อีกฝ่ายพูดห้วนๆ ใบหน้านิ่งเฉยตามแบบฉบับพิมพ์เดียวของมัน มันตั้งท่าจะปิดประตูแต่ผมยื่นเท้าไปกันไว้ก่อน ยังดีที่มันมีสำนึกไม่โหดร้ายปิดประตูหนีบเท้าผม
“อะไรของมึงวะ มาทำมึนใส่กู”ผมพึมพำ ขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้ว่ามันตั้งใจจะกวนตีนหรือเปล่าแต่ผมไม่พอใจมันมากกว่าเดิม
“นึกว่าไม่มีคนอยู่”ไอ้ยิมพูดห้วนๆ สีหน้าไม่ทุกข์ร้อนอะไร ความสูงของมันกับผมห่างกันไม่มากถึงขั้นเงยหน้ามองกัน ไอ้ยิมสูงกว่าผมไม่กี่เซ็นเอง เสียดายผมน่าจะสูงให้ได้เท่าๆ มันจะได้ไม่เสียเปรียบแม้จะแค่เล็กน้อยก็ตาม
“อืม แล้วย้ายมาถาวรเลยเหรอวะ ท่าทางจะเฮิร์ทหนัก”ผมไม่สนใจแค่พูดจี้จุดตายของมันแล้วหัวเราะเยาะใส่เพื่อความสะใจ
“ยุ่งอะไรด้วย”ไอ้ยิมหน้าบึ้งยิ่งกว่าเดิม มันยืนจ้องผมนิ่ง ตอนรกผมคิดว่ามันจะพุ่งมาต่อยหน้าผม แต่มันแค่ยืนเป็นหุ่นทะมึนตึงแผ่รังสีเหี้ยมๆ
“แค่พูดลอยๆ เฮ้อ มึงนี่ไม่เป็นมิตรเลย”ผมหงุดหงิด
ในเมื่อพยายามปฏิสัมพันธ์ที่ดีใส่แล้วยังจะมาเป็นศัตรูใส่ผมอีก ผมหมดปัญญาจะเสวนาด้วย ผมเดินกลับเข้าห้องของตัวเองเพื่อเป็นการระงับอารมณ์ที่เริ่มกลับมาคุกรุ่น
ผมนึกอยากจะโทรไปหาไอ้สองเรื่องไอ้ยิมย้ายหอ แต่แล้วเปลี่ยนใจเพราะไม่อยากให้ไอ้สองมันอึดอัดใจ มันเองลำบากใจไม่น้อยเหมือนกัน อีกอย่างได้ยินว่ามันจะกลับบ้านไปหาพ่อมันแล้ว ผมเลยหยิบโทรศัพท์มานอนเล่นเกมไปพลางๆ แก้เซ็ง ผมกับไอ้สองคล้ายกันอย่างหนึ่งคือเป็นคนขี้เบื่อ บางครั้งผมเซ็งตัวเองที่เบื่อหน่ายไปกับทุกอย่างจนไม่เป็นทำอะไร
นอนเล่นเกมไปได้สักพัก ก็มีคนมาเคาะประตูห้องผมเบาๆ นึกสงสัยแต่ในใจแอบคิดไปว่าต้องเป็นไอ้ยิมแน่ๆ เพราะคงไม่มีใครหน้าไหนที่ผมรู้จักในหอพักนี้ ผมถอนหายใจแล้วเดินไปเปิดประตู มันจะมากวนตีนอะไรอีก
"รหัสไวไฟอะไรวะ”เป็นไอ้ยิมจริงๆ ด้วย ทันทีที่เปิดประตูออกมันก็ถามขึ้นมาทันที ใบหน้านิ่งเฉยแววตาสีดำจ้องผ่านกรอบแว่นมีความกังวลเล็กๆ อยู่ สงสัยกลัวผมจะกวนประสาทมันกลับ
"แล้วพี่เขาไม่ได้บอกมึงเหรอไง”ผมถามอย่างแปลกใจ ปกติเจ้าของหอจะต้องบอกพาสเวิร์ดไวไฟกับคนที่เข้าพัก
"อืม ลืมถามด้วย" ไอ้ยิมตอบกลับมาสั้นๆ ผมจ้องหน้ามันอยู่พักหนึ่งก่อนจะบอกรหัสมันไป
"######"อีกฝ่ายพยักหน้าแล้วจิ้มโทรศัพท์ไปมา ผมเห็นว่ามันเข้าไวไฟได้แล้วจึงปิดประตูใส่ แต่ทว่าไอ้ยิมมันรั้งประตูไว้เต็มแรง สร้างความประหลาดใจให้ผมอีกครั้ง ผมมองมันงงๆ "มีอะไร"
"ขอคุยอะไรด้วยหน่อย"ไอ้ยิมพูดช้าๆ คิ้วขมวดเข้าหากันแน่นเหมือนมีเรื่องกังวลใจ มันมองผมก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องตัวเอง ผมย่นหน้าแล้วเดินตามไปพลางสงสัยว่ามันอยากจะคุยอะไรกับผมกันนะ
เมื่อเดินเข้ามาในห้องของไอ้ยิม ข้าวของเครื่องใช้ของมันไม่มีอะไรมากมายยกเว้นพวกหนังสือนี่มาเป็นกล่องเชียว แถมผ้าปูที่นอนสีน้ำเงินเข้มล้วน ดูแล้วท่าทางระเบียบจัดเพราะของถูกวางเป็นที่ทางอย่างเรียบร้อย
"อือ มีอะไรก็ว่ามา" ผมเริ่มก่อนจะเดินไปลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามกับเตียงที่มีไอ้ยิมนั่งอยู่ มันเงียบก่อนจะถอนหายใจถอนแว่นตาออกมาเช็ด
"...มึงรู้เรื่องไอ้สองกับไอ้ท็อปไหม" ในที่สุดมันก็กล้าพูดออกมาจนได้ ทันทีที่มันพูดจบผมมองหน้ามันนิ่งๆ อย่างใคร่ครวญ ไม่คิดว่ามันจะถามเรื่องนี้แต่ผมก็ไม่ได้ประหลาดใจ
"อืม รู้สิ ทำไมวะ” ผมรู้ดีว่ามันถามผมทำไม แต่ผมแค่อยากรู้ว่ามันจะตอบผมแบบไหน
"...มันสองคนจะกลับมาคบกันใช่ไหมวะ" ไอ้ยิมพูด มันเงยหน้ามองผมแววตาสีดำของมันดูวูบไหวอย่างหมดหวัง ผมถอนหายใจ
"ไม่รู้สิ แต่คงจะรีเทิร์นล่ะมั้ง... นี่มึงยังหวังอยู่อีกหรือไง" ผมส่ายหน้า ลึกๆ ก็เห็นใจมัน ชอบไอ้สองมาตั้งแต่มัธยมแต่ดันแห้วซะอย่างนั้น ถ้าเป็นผมจะไม่รอนานขนาดนี้หรอก คิดจะชอบจะรักมันก็ต้องกล้า ทำปอดแหกโดนคาบไปแดกหมด... ผมเองเจอมาเยอะไอ้กรณีแบบนี้
"กูกำลังทำใจอยู่นี่ไง” ไอ้ยิมกลับมาสวมแว่นตามเดิม มันถอนหายใจก่อนจะเอนตัวลงนอนกับเตียง
"อืม แล้วไงวะ ที่จะคุยกับกูคือถามพวกเรื่องนี้เนี่ยนะ" ผมกอดอกมองมันที่นอนนิ่ง สายตามองไปยังเพดานห้องอย่างเหม่อลอย
"เปล่าหรอก... คือ กูคงไม่ไปเจอมันสักพักแต่กูก็อดอยากรู้เรื่องของมันไม่ได้ มึงช่วย..."
"อยากให้กูคอยรายงานเรื่องของมันว่างั้นเหอะ แล้วทำแบบนี้มึงจะลืมมันได้จริงๆ เหรอ เฝ้าตามเรื่องของมันแบบนี้ ปล่อยวางเหอะ มึงเองนั่นแหละที่จะเหนื่อย" ผมบอก ไม่อยากเห็นใครมาอกหักเพราะไอ้สองโดยเฉพาะไอ้ยิม ยอมรับว่ามันเป็นคนดีคนหนึ่ง
"ทำเป็นพูดดี กูแค่อยากรู้ว่ามันจะมีความสุขไหมก็เท่านั้น ไม่ใช่ว่ากูจะไม่ลืมมัน" ไอ้ยิมตอบกลับมานิ่งๆ มันขยับลุกขึ้นมานั่งตามเดิม มันมองผมด้วยสายตาแปลกๆ
"ตามใจ ที่พูดเพราะหวังดี ป่วยใจมากๆ แล้วมันจะป่วยกายเอา เฮ้อ เพื่อนกูมีอะไรดีวะนั่น" ผมส่ายหน้าแล้วหัวเราะเบาๆ
"เออๆ อย่าพูดมาก แล้วนี่มึงเมื่อไหร่จะพูดดีๆ กับกูวะ" ไอ้ยิมย่นคิ้วมองหน้าผมเหมือนต้องการคำตอบ ผมเบ้ปากไหวไหล่ยึกยัก
"หึ มันไม่ชิน กูกระดากปากว่ะ" ผมพูดตามที่คิด คนไหนถ้าผมขึ้นมึง-กูด้วยแล้วก็ยากที่จะมาพูดเพราะใส่กัน ไอ้ยิมหัวเราะเบาๆ ผมมองมันอยากแปลกใจ ไอ้นี่หัวเราะเป็นนี่หว่าแล้วเสือกทำหน้าเหมือนโลกจะแตก
“แล้วนี่จะย้ายมาถาวรหรือชั่วคราว”
“ยังไม่รู้เลย ต้องดูสถานการณ์ก่อน”อีกฝ่ายตอบ ผมมอง ว่าแต่สถานการณ์อะไรยังไง
"...กูไปได้ยังวะ" ผมถามเพราะรู้สึกอึดอัดขึ้นมานิดหน่อย ไอ้ยิมมองหน้าผมเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ไม่กล้า
"ยัง... อยู่เป็นเพื่อนกูหน่อย..." มันพูดเบาๆ ไม่ได้มองหน้าผมแต่สนใจโทรศัพท์ในมือที่ฟอร์มกดนั่นนี่ไปพลางๆ ผมนึกขำอยากแซวมันขึ้นมา
"วิ้ว เหงาเหรอ ไปเที่ยวกับกูไหม ดีกว่านั่งหม่นหมองเศร้าสร้อยนะเว้ย” ผมหัวเราะยื่นมือไปตบแขนมันไปการแกล้ง ไอ้ยิมทำหน้าบูด
"แดกเหล้าเหรอ ไม่เอา ไม่อยากเมา"
"ไหนว่าคอแข็งวะ เออตามใจแล้วกัน" ผมถอนหายใจก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องอย่างหาที่วางสายตาไม่ได้เพราะไอ้ยิมมันไม่ชวนคุย มานั่งซึมกะทือหมดท่าอยู่อย่างนั้น เห็นแล้วรำคาญลูกตา
"มึงไม่กลับบ้านเหรอไงวะ" ในที่สุดมันก็ถามผมด้วยคำถามแปลกๆ เหมือนพยายามหาเรื่องคุยเท่านั้น ผมหัวเราะในใจ
"ไม่อะ เบื่อแล้ว ...แล้วมึงล่ะ" ผมถามกลับไปตามมารยาท
"อือ คงอยู่ห้องอีกวันสองวันแล้วจะไปเยี่ยมญาติ" มันตอบสั้นๆ ตามเคย ทำเอาผมเงียบไปพักนึง
"อ๋อเหรอ แล้วนี่น้องมึงเลิกบ้าไอ้สองยังวะ" ผมวกกลับมาเรื่องไอ้สอง เรื่องไอ้โยจะว่าไปผมเคยเจอมันสองสามครั้ง หน้าตาคล้ายๆ ไอ้ยิมแต่แค่เตี้ยกว่า ขาวกว่า น่ารักกว่า แต่มาหลงไอ้สองซะได้
"ถามทำไม อย่าพูดถึงมันเลย" ไอ้ยิมอารมณ์เสียขึ้นมา ผมหัวเราะ
"พี่น้องแม่งรสนิยมเดียวกันเลย"
"ยังไม่หุบปากอีก" มันจ้องหน้าผมเป็นการขู่
"เออๆ" ผมเงียบขี้เกียจเถียงมัน พอมาคิดๆ ดูแล้ว ชีวิตผมวนเวียนอยู่รอบๆ เกย์หลายคน ไหนจะไอ้สอง เพื่อนในคณะอีกหลายคน รวมถึงไอ้ยิมด้วย ผมเองไม่ได้มีอคติกับคนพวกนี้หรอก
ผ่านไปหลายนาทีเหมือนหลายชั่วโมง ผมนั่งเงียบอยู่บนเก้าอี้ ส่วนไอ้ยิมนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่เงียบๆ ผมถอนหายใจทิ้งแรงหลายครั้ง น่าเบื่อ ทำไมมันเป็นคนพูดน้อยแบบนี้นะ อยู่กับไอ้สองมันเงียบแบบนี้ไหมวะ คงไม่ ถ้าคนที่มันชอบมันคงหาเรื่องคุยจนได้นั่นแหละ แล้วทำไมผมต้องมานั่งทุกข์ทรมานอยู่กับมันด้วยเนี่ย
"เฮ้อ เบื่อออออออ" ผมลากเสียงยาวเพราะมันน่าเบื่อจริงๆ ผมบิดขี้เกียจ ไอ้ยิมเงยหน้ามามองก่อนจะทำหน้าลังเล มันหมุนโทรศัพท์ในมือไปมา
"...ไปหาอะไรกินไหมวะ แถวๆ นี้กูไม่ค่อยได้มา มีร้านอะไรอร่อยๆ ไหม" มันเอ่ยแข็งๆ น้ำเสียงประหม่าๆ ถือว่าเป็นการสานมิตรก็แล้วกัน มันอาจจะยังไม่ชินที่มาทำดีกับผมเหมือนที่ผมทำดีกับมัน
"ร้านข้าวน่ะเหรอ อร่อยทุกร้านนั่นแหละ" ผมบอกมันไป อาหารทุกร้านกินอร่อยหมดเว้นแต่คนเรื่องมากเท่านั้นที่เลือกแดก
"เออ แนะนำสักร้านสิวะ" ไอ้ยิมส่งสายตาตำหนิมาให้
"เอ้า จะชวนกูไปด้วยเหรอไง" ผมหัวเราะไปด้วย
"เออ" มันตอบกลับมาแบบนี้ทำเอาผมนิ่ง มันมาไม้ไหนกันแน่วะเนี่ย เดาไม่ถูก ผมชอบกลบเกลื่อนด้วยการหัวเราะไม่ก็ทำแซวไปแบบนั้น อันที่จริงไปไม่เป็นต่างหาก
"อุ้ย ใจดีเว่อร์ กินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่าวะเนี่ย" ผมพยักหน้าไปด้วยพลางหรี่ตามองหน้ามัน
"พูดมาก กูเห็นว่ามึงเป็นคนใช้ได้อยู่ จะแดกไหมของฟรีน่ะ" ไอ้ยิมบอกก่อนจะลุกออกจากเตียงไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนชุด
"เออ เรื่องแดกฟรีกูไม่พลาดอยู่แล้ว" ผมผุดลุกจากเก้าอี้ยืนมองมันเปลี่ยนเสื้อใหม่เป็นเสื้อบอลสีเดียวกันกับกางเกง ผมไปแค่ตัวเปล่าก็พอในเมื่อมันบอกจะเลี้ยงผมนี่

ระหว่างทางนั้นผมทำหน้าที่คนขี่ ส่วนมันซ้อนผมเพราะไม่รู้จักร้านอาหาร ซึ่งแปลกมาก ไอ้ยิมมันอาศัยอยู่แค่โซนเดียวหรือไงกัน ผมเลือกร้านอาหารตามสั่งราคาย่อมเยาแถมได้เยอะ คุ้มค่าที่สุดแล้ว ไอ้ยิมเดินตามผมมาด้วยท่าทีเงอะงะ ทำเหมือนไม่เคยมานั่งในร้านข้าวธรรมดาๆ แบบนั้นแหละ ผมส่ายหน้า ไอ้ยิมเป็นประเภทไม่ค่อยมั่นใจถ้าไปอยู่ในสถานที่แปลกใหม่และท่ามกลางสายตาคน ผมกับมันนั่งโต๊ะริมสุด
"ร้านนี้ได้เยอะ แต่ช้าหน่อยนะ" ผมบอกมันขณะที่นั่งลงที่โต๊ะ
"อืม" มันพยักหน้าแล้วนั่งลงตรงข้ามกับผม ขณะที่สั่งอาหารไปแล้วก็เกิดความเงียบที่ชวนอึดอัดระหว่างมันกับผม
"เออ กูว่าจะถาม ดาวคณะมึงอะที่ชื่อมิวนี่โสดไหมวะ" ผมหาเรื่องคุย จำได้ว่าเคยส่องดาวคณะมันคนล่าสุด ตัวเล็กๆ น่ารักดี เคยคิดจะจีบอยู่เหมือนกันแต่ไม่มั่นหน้า
"ทำไม จะจีบเหรอ" ไอ้ยิมเลิกคิ้วมองเหมือนจะหลุดขำ
"เออ กูเล็งมาตั้งนานแล้ว" ผมไหวไหล่ไม่สนใจ ก็ได้แต่มองเท่านั้นแหละ
"เขาไม่เอามึงหรอก ต้องหล่อๆ รวยๆ" ไอ้ยิมหัวเราะเยาะ
"กูหล่อนะ ฐานะก็มีอันจะกิน” อย่างน้อยๆ บ้านมีกิจการของตัวเองนะเว้ย
"ขับเบนซ์ด้วย ไม่ใช่เวสป้าเก่าๆ อย่างมึง" ไอ้ยิมได้ทีถือโอกาสทับถมผมอย่างสะใจ มันยิ้มเย้ยหยันในความจนของผม
"เดี๋ยวเหอะมาดูถูกเวสป้ากู หึ กูก็ถามไปแบบนั้นแหละ" ผมไหวไหล่ไม่สนใจ 
"เหอะ กระจอก" มันมองหน้าผมนิ่งๆ แล้วก้มมองโทรศัพท์ตามเดิม
"คงงั้น" ผมถอนหายใจหน่ายๆ
"ขอเบอร์มึงหน่อยดิ" ไอ้ยิมเงยหน้ามองผม มันยื่นโทรศัพท์มาให้จ่อตรงหน้า ผมอึ้งไปสักพัก
"คิดอะไรกับกูเปล่าว้า ฮ่าๆ" จากนั้นก็นึกได้ว่าอย่างมันคงเอาเบอร์ผมเมมไว้เฉยๆ ในฐานะเพื่อนล่ะมั้ง
"กลับไปส่องกระจกเหอะ แค่เอาไว้ติดต่อเผื่อมีอะไร"
"จะไปมีอะไรได้ล่ะวะ อะๆ เหงาๆ ก็โทรมานะ" ผมหัวเราะ ไอ้ยิมทำหน้าบอกบุญไม่รับ มันทำหน้าบึ้ง
"แค่เมมไว้เท่านั้นแหละ" ไอ้ยิมพึมพำ จากนั้นก็ไม่ได้พูดคุยกันต่อเพราะข้าวมาเสิร์ฟพอดี
หลังจากที่ทานข้าวกันจนอิ่ม ผมกับไอ้ยิมก็กลับมาที่หอพักตามเดิม ห้องใครห้องมัน ผมนอนคิดเรื่องไอ้ยิมกับไอ้สองอยู่นาน สำหรับผมไอ้สองมันคงกลับไปคบกับพี่ท็อปสุดที่รักของมันต่อแน่ๆ ฟันธง100% ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้โทรรายงานให้ผมฟังเพราะผมเองรู้จักคนอย่างไอ้สองดี ถ้ามันรักใครแล้วล่ะก็คงเปลี่ยนใจยาก ส่วนไอ้ยิมคงไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้ว ทางที่ดีมันควรหาเด็กคนใหม่มาดามใจคงจะง่ายกว่า... ล่ะมั้ง
ส่วนไอ้ยิมได้ยินว่ามันไปเยี่ยมญาติที่ฮ่องกงหลังจากที่พยายามสร้างความเป็นมิตรระหว่างผมกับมัน อีกฝ่ายมันเริ่มทำตัวเหมือนคนปกติมากขึ้น มนุษยสัมพันธ์ค่อยดีขึ้นมาหน่อย
“ไม่กลับบ้านใช่ไหมวะ ฝากเฝ้าห้องด้วยแล้วกัน” วันเดินทางมันมาเคาะประตูห้องผม เห็นกระเป๋าเดินทางของมันมีใบเดียว แต่งตัวเซอร์สบายๆ กางเกงยีนกับเสื้อยืดสีขาวมีแว่นดำเหน็บอยู่ (ซึ่งผมไม่เข้าใจว่ามันจะเอามาใส่หรือแค่ทำให้ดูเท่เพราะมันเป็นแว่นกันแดด) คนหน้าตาดีใส่อะไรก็ดูดีไปหมดจริงๆ
“อะไร จะมีใครมาปล้นห้องมึงหรือไง” ผมพูดขำๆ ใจจริงมันคงอยากมาบอกลามากกว่า แต่มันไม่กล้าพูดหรือเปล่านะ
“หึๆ ล้อเล่น” ไอ้ยิมโบกมือ
“เออ โชคดี เดินทางปลอดภัย ขอของฝากด้วยนะเว้ย ของกินยิ่งดี” ผมแกล้งบอกไปแบบนั้น ดูสิ ขากลับมันจะมีอะไรมาให้ผมหรือเปล่า แอบหวังของฟรี ไอ้ยิมส่ายหน้าก่อนจะโบกมือให้ผมอีกรอบแล้วเดินลงบันไดไป ผมถอนหายใจมองเจ้าตัวเดินหายไปจากสายตา 
ผมกลับมาใช้ชีวิตไปเหมือนไร้จุดหมาย สองเดือนเศษๆ ในระหว่างปิดเทอมไม่มีอะไรให้หวือหวาหรือทำให้ผมหายเบื่อได้ และในบางวันผมเข้าไปในเมืองเป็นครั้งคราวเพื่อไปดูแลร้านอาหารให้พ่อ ซึ่งผมประจำอยู่สาขาที่สองและมีขนาดเล็กกว่า บางครั้งผมก็รับออเดอร์ บ้างครั้งก็เป็นแคชเชียร์ ไปตามอารมณ์ของผม
"ผิง ไปรับออเดอร์โต๊ะสิบให้ทีได้ไหมพี่ขอเคลียร์บิลให้ลูกค้าก่อน" พี่ฝนลูกพี่ลูกน้องของผมซึ่งเป็นคนดูแลร้านสาขานี้มานานบอกกับผม ซึ่งพี่ฝนสนิทกับพ่อแม่ผมพอสมควร ท่านเลยสั่งให้พี่ฝนดูแลผม ทำอย่างกับว่าเป็นเด็กๆ ไปได้นะ
"โอเคครับ" ผมรับคำแล้วเดินไปที่โซนด้านนอก มีลูกค้านั่งอยู่ประมาณ 4-5 โต๊ะ ผมมองหาโต๊ะใหม่ที่อยู่ใต้ต้นไม้ริมสุด ปรากฏว่าเป็นครอบครัวของไอ้ยิมซึ่งมาพร้อมหน้าพร้อมตากันสี่คนพ่อแม่ ลูกชายทั้งสองคน ไอ้ยิมมองผมอย่างแปลกใจในขณะที่ไอ้โยโบกมือยิ้มแย้มให้ผมที่เดินเข้ามาใกล้พร้อมยื่นแฟ้มเมนูให้สองเล่ม
"อ้าวพี่ผิง หวัดดีครับ มาทำงานที่นี่เหรอ" ไอ้โยเอ่ยทักทายเสียงสดใส
ตอนนี้มันรอเปิดเทอมของม.6 มันเรียนเอกชนหรือเปล่านะ เพราะสีผมสีน้ำตาลเข้มตัดกับผิวขาวๆ ของมันได้ดี ไปอยู่ฮ่องกงมาทำให้มันดูผ่องๆ ขึ้น ผิดกับไอ้ยิม มันเหมือนเดิมแค่ดูผอมมากกว่าเดิม ที่สำคัญมันทำผมใหม่จากที่เป็นทรงปกติตอนนี้มันดูนุ่มนวลขึ้น ผมยาวระต้นคอ
"อ๋อ ไม่ใช่หรอก มาช่วยพ่อทำงานน่ะ นี่ร้านของพ่อพี่เอง" ผมยิ้มตอบ พ่อแม่ของสองพี่น้องมองผมอย่างเป็นมิตรทำให้ผมต้องยกมือไหว้ตามมารยาท
"อ๋อ ดีเลย กินฟรีได้เปล่า" ไอ้โยหัวเราะ
"โย ไปพูดแบบนั้นได้ไง" แม่ของมันตีแขนมันดังเพียะ ไอ้โยทำหน้างอ
“อะไรอะม้า โยแค่พูดเล่นๆ เอง พี่ผิงรู้อยู่แล้วน่า”
"มีเมนูแนะนำไหม" ไอ้ยิมพูดขึ้นมา สายตามันมองเมนูในมือแท้ๆ ซึ่งหน้าแรกมันก็มีเมนูแนะนำอยู่แล้ว ผมมองหน้ามัน มันคงตั้งใจจะกวนตีนผมสินะ
“มีสลัดปูนิ่ม สลัดกุ้งกรอบ ทอดมันปลากราย ปลาทับทิมราดซอสมะขาม ยำตะไคร้อ่อนกุ้งสด สนใจเมนูไหนครับ รับมิกเซอร์อะไรดี น้ำเปล่า เหล้า เบียร์ น้ำอัดลม ไอศกรีม” ผมยิ้มให้มัน ไอ้ยิมเงยหน้ามองผมก่อนจะหันไปมองหน้าพ่อแม่มันบ้าง ไอ้โยหัวเราะ
“พี่ผิงประชดอะ ไหนๆ ดูสิ อืม ป๊ากับม้าอยากกินอะไรอะ น่ากินทั้งนั้นเลย” ไอ้โยยื่นเมนูไปให้พ่อกับแม่ของมันที่ดูนิ่งๆ ยกเว้นคนแม่หน้าตาเป็นมิตรมากกว่าพ่อ
โต๊ะไอ้ยิมสั่งอาหารมาสามสี่อย่าง ไม่มีเมนูที่ผมแนะนำไปสักอย่าง ผมขี้เกียจเจอหน้าไอ้ยิมเลยให้พนักงานคนอื่นไปบริการแทน หลังจากที่ช่วยงานที่ร้านได้ประมาณหนึ่งอาทิตย์ผมก็เบื่อบวกกับขี้เกียจ เงินค่าจ้างก็ไม่ได้เลยกลับไปนอนเล่นที่หอพักจะดีกว่า เพราะอีกสองสัปดาห์มหาลัยจะเปิดแล้ว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2018 14:59:42 โดย รินดาwดาริน »

ออฟไลน์ รินดาwดาริน

  • OnTop&N'Song
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +243/-2


ผมเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองเจอกับไอ้ยิมที่ยืนพิงผนังห้องใกล้กับประตูห้องของมันพร้อมก้มหน้ากดโทรศัพท์ในมือ ไอ้ยิมเงยหน้าเมื่อได้ยินเสียงผมเดินมาใกล้ๆ ผมเลยแกล้งทวงของฝากจากมันซะเลย

“กลับจากฮ่องกงแล้วไหนล่ะของฝากกูน่ะ”
"หน้าด้านขอนะมึง" มันแค่ยิ้มมาให้ ช่วงที่ผ่านมาผมพอจะรู้จักนิสัยของมันอยู่บ้าง มันเป็นประเภทปากร้ายแต่ใจดี
"เออดิ ของฟรีกูช้อบชอบ” ผมพูดขำๆ ซึ่งเป็นเรื่องจริง
“เข้ามาสิ” มันเปิดประตูห้องตัวเอง ผมเลยเดินตามมันเข้าไป ตกลงมันยืนรอผมเหรอ แต่คงไม่ใช่หรอกมั้ง มันอาจจะบังเอิญพอดิบพอดี

“อย่าบอกนะว่าซื้อมาให้ไอ้สองด้วย" ผมนึกขึ้นได้ปากไวพูดออกไปแบบนั้น ไอ้ยิมมันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันมาจ้องหน้าผม สายตามันแข็งๆ ผ่านแว่นอันโปรดของมัน
"ก็กะอยู่... แต่ไอ้โยมันซื้อไปแล้ว" มันทำหน้าตายไหวไหล่แล้วเดินไปหยุดที่เตียงเห็นมีถุงชอปปิ้งใบใหญ่ๆ วางอยู่หลายถุง
"หึๆ งั้นเหรอ น้องตัดหน้าไปซะแล้ว”
"พูดมาก จะเอาไหมของฝากน่ะ" ไอ้ยิมมันหันมาส่งสายตาพิฆาตให้ผมอีกรอบ
"อ้าว ซื้อมาจริงๆ เหรอ" ผมแปลกใจ แค่แซวมันขำๆ เท่านั้นเอง ไม่คิดว่าจะซื้อมาให้จริงๆ แอบเกรงใจขึ้นมานิดๆ "เกรงใจนะเนี่ย ไหนๆ ซื้ออะไรให้กู" ผมยิ้ม ไอ้ยิมทำหน้าบึ้งตึงก่อนจะยื่นถุงกระดาษท่าทางหนักมาให้ผม
"ไม่รู้ว่าจะถูกใจหรือเปล่า แต่น่าจะเหมาะกับมึง" มันบอก ผมเอื้อมมือไปหยิบถุงกระดาษมาดู ข้างในมีกล่องสีน้ำแบรนด์ shinhan art กล่องใหญ่กับหมึกจีนสำเร็จรูป แท่งหมึก พู่กันจีนขนนิ่มขนแข็ง และเห็นชุดแท่งสีจีนด้วย
"เฮ้ย ทำไมมึงซื้อมาเยอะจังวะ" ผมอุทานอย่างตกใจ คือของพวกนี้ได้ยินว่าราคาแพง
"เห็นจนๆ เลยซื้อให้" ไอ้ยิมกอดอกมองผม
"แหม ใจบุญว่างั้นเถอะ ยังไงก็ขอบใจมากนะเว้ย"
"อืม... มึงเองก็ไม่ใช่คนไม่ดี"
"เอ... ตัังใจจะซื้อให้กูหรือว่าจะให้ไอ้สองกัน" ผมถามเพราะยังแปลกใจไม่หาย ของราคาดีเกินไปสำหรับเพื่อนของคนที่มันชอบ มันลงทุนเกินไป เมื่อกี้มันบอกอยู่ว่าไอ้โยตัดหน้า นึกว่าพูดเล่นๆ ซะอีก
"...ก็ ตามนั้นนั่นแหละ เออถ้าไม่เอาก็วางไว้ที่เดิม" ไอ้ยิมทำท่าจะเดินเข้ามาดึงถุงของกลับไป แต่ผมเร็วกว่าเลยถอยหลังหนี
"เรื่องอะไร ของแพงนะเว้ย" ผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้ ผมพอจะเดาได้อยู่แล้วว่ามันต้องซื้อมาฝากไอ้สอง แต่ดีแล้วที่ไอ้ยิมไม่ได้ให้ไอ้สองเพราะมันไม่ใช่คนที่ชอบสไตล์วาดแบบจีน ใช้พู่กัน หรือลายเส้น
"หึ แล้วไม่ไปทำงานหรือไง" มันทำเป็นเปลี่ยนเรื่องคุย ผมเลยต้องตามน้ำไป
"ไม่ไป วันนี้ขี้เกียจ"
"อืม"
"เออ ยังไงก็ขอบใจนะเว้ย" ผมบอกมันแล้วยิ้มให้ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่ประตู
"เฮ้ย เดี๋ยวดิ ได้ของแล้วแม่งหนีกูเลย" ไอ้ยิมดันรั้งไว้ก่อน อะไรของมัน
"มีอะไร"
"ไปด้วยกันไหม"
"หา อะไรนะ" ผมทำหน้างงๆ เพราะไม่เข้าใจที่มันพูดเลย ไปไหนกับมัน ไอ้ยิมมันถอนหายใจทำหน้านิ่ง
"ไปขี่รถเล่นเป็นเพื่อนกูหน่อย ไม่มีเพื่อน" ผมมองหน้าไอ้ยิมทันที มันแอบคิดอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย เพราะมันเป็นเกย์... แต่คงไม่ใช่หรอกมั้ง
"ไปแถวไหน" ผมถามต่อเพราะยังติดค้างเรื่องของฝากที่ราคาแพง
"ในมอนั่นแหละ"
"ในมอมีอะไรวะ... เออๆ ตามใจ ถือว่าตอบแทนค่าสีก็แล้วกัน" ผมตอบ ไอ้ยิมยิ้ัมออกมาบางๆ ก่อนจะหยิบกุญแจรถมาถือแล้วโยนให้ผม
“อะไร จะให้กูขี่?” ผมทำหน้างงๆ ไอ้ยิมยักคิ้วให้เป็นคำตอบ ผมย่นหน้า “เออๆ เอาของไปเก็บก่อนนะ” ผมบอกแล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองพลางคิดเรื่องของมันไปด้วย อยู่ดีๆ มาทำดีด้วยซะงั้น อยากเป็นมิตรกันว่างั้นเหอะ ผมรู้สึกแปลกๆ อยู่ดี ปกติจะแขวะมันแซวมันตามความสุขส่วนตัว จะให้มาพูดจาดีๆ ด้วยแล้วมันขนลุกพิกล ผมหยิบเสื้อคลุมแขนยาวมาด้วยก่อนจะเดินออกจากห้อง ไอ้ยิมมันยืนรอทำหน้ายักษ์อยู่

“มึงจะไปทำอะไรที่มอวะ ถามจริง” ผมถามมัน ไอ้ยิมไม่ตอบ “เอ้า เงียบอีก จะรู้ด้วยไหมเนี่ย”
“กูอยากไปให้อาหารปลาในมอ ไม่เคยไปสักที” มันตอบเรื่อยๆ เหมือนเป็นเรื่องปกติ ผมมองหน้ามันเขม็ง
“อ๋อออออ งั้นเหรอวะ”
“เออ กูไม่มีเพื่อนไปด้วย ชวนมึงไปผิดตรงไหน” มันขมวดคิ้วมองผมนิ่งๆ ผมส่ายหน้า
“ก็เปล่า แค่ถามไง” ผมหัวเราะหึๆ ไม่ได้ต่อปากต่อคำสงสัยอะไรมันอีก เมื่อมาถึงรถมอเตอร์ไซค์ของมัน ก็เป็นผมที่ต้องขี่เหมือนเป็นเบ๊มันกลายๆ เลยว่ะ “นี่คือเหตุผลที่แท้จริงที่มึงชวนกูมาสินะ” ผมบ่นให้มันได้ยิน
ระหว่างทางมันจะขอให้แวะนู่นแวะนี่หลายครั้งจนผมรำคาญ จนกระทั่งผมสามารถพามันมาถึงหอกลางสระน้ำ บริเวณนี้จะมีพวกนักศึกษามาเดินเล่น ให้อาหารปลา แต่อยู่ในช่วงปิดเทอมเลยดูเงียบๆ ไอ้ยิมไปซื้อขนมปังมาสามห่อใหญ่ ปลาที่นี่ตัวใหญ่มากจนผมกลัวว่าถ้ามีใครตกลงไปจะโดนปลามันงับหัวขาดไหม

“อะ” ไอ้ยิมมันยื่นถุงขนมปังมาให้หนึ่งห่อ ผมรับมาก่อนจะฉีกโยนไปท่ามกลางฝูงปลาที่พยายามเข้ามาแย่งขนมปังส่งเสียงตูมตามน้ำกระจาย “ทำไมมึงถึงชอบอยู่คนเดียววะ” อยู่ๆ ไอ้ยิมก็ถามผม
“กูต่างหากต้องถามมึงมากกว่า” ผมขำ ไอ้ยิมถอนหายใจ ดูมันเป็นคนที่เบื่อหน่ายในชีวิตจริงๆ
“ไม่ได้อยากอยู่คนเดียวหรอก แต่บางทีมันก็สบายใจกว่าไง”
“เหรอ เห็นทางสว่างแล้วเหรอไง” ผมหัวเราะ
“เวลามึงมีเรื่องหนักใจ มึงมีวิธีจัดการยังไงวะ” ไอ้ยิมถามออกมา ผมหันไปมองมันก่อนจะคิดตามที่อีกฝ่ายถาม
“เรื่องหนักใจน่ะเหรอ... หึ รู้ไหมกูกับมึงต่างกันตรงไหน กูไม่ชอบเอาอะไรเก็บมาคิดให้วุ่นวาย กูอยากสนุกกับชีวิตให้มากๆ เวลามีปัญหากูก็เผชิญหน้ากับมันตรงๆ แบบให้มันจบๆ ไปเลย ไม่ได้ปล่อยให้มันค้างคาใจนานเกินไป แต่มึงน่ะ... เป็นคนคิดมากนะ ปล่อยวางบ้างก็ได้นะเว้ย มันทุกข์ที่ตัวมึงนั่นแหละ” ผมเทศนามันพอประมาณ ผมเป็นคนไม่คิดมากเป็นทุนเดิมเลยไม่มีปัญหาอะไรมาก่อกวนใจมากมายนัก
“มึงนี่จะละทางโลกแล้วหรือไงวะ” ไอ้ยิมหัวเราะเบาๆ
“ไม่หรอกเว้ย แต่ปัญหาก็อยู่ที่ใจมึงทั้งนั้นแหละ... หรือไม่จริง” ผมหันไปมองหน้าไอ้ยิมก่อนจะยิ้มให้แล้วตบบ่าสองสามที มันมองผมนิ่งๆ คิ้วขมวด คงกำลังประมวลผลอยู่ล่ะมั้ง
“อวดดีนะมึง” มันบ่นพึมพำแต่ก็เถียงไม่ออกนั่นแหละ
“ชีวิตให้มีสีสันดีกว่าว่ะ” ผมหัวเราะ
“มึงบ้าพอตัวเลยนะ”
“หึหึ ถือว่าเป็นคำชมล่ะกัน”
“ไอ้ผิง” ไอ้ยิมเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงซีเรียส
“มีอะไร”ผมหันมองเจ้าตัว ขว้างขนมปังลงน้ำต่อ 
“ไม่คิดจะสุภาพกับกูกว่านี้แล้วเหรอวะ”อีกฝ่ายหันมาพูดกับผมด้วยสีหน้าจริงจัง ผมส่ายหน้า เรื่องแค่นี้เอง ดูมันทำหน้าจริงจัง
“กูไม่รู้สึกอยากจะสุภาพกับมึงเลยว่ะ มึงเหมือนๆ เพื่อนกูคนนึงไง โอเคไหม”ผมบอก ตอนนี้ชินที่จะเรียกมันว่าไอ้นำหน้ามากกว่าการเรียกพี่ไปแล้ว ผมกระดากปากไปหน่อย
“เออ”
“ว่าง่ายเหมือนกันนะ”ผมหัวเราะ
“ตลกเหอะ แค่ไม่อยากขัด อารมณ์กูกำลังดีอยู่อย่าทำให้เสีย”
“อ๋อเหรอ แล้วนี่มึงเมื่อไหร่จะหาแฟนใหม่วะ อย่างมึงหาได้สบายๆ อยู่แล้วถ้าไม่เลือกน่ะ” ผมพูด ต้นทุนดีอยู่แล้วจะเลือกมากทำไม วัยนี้ต้องหาคู่ให้ชีวิตมีสีสันเป็นพอ เรียนจบทำงานแล้วค่อยคิดเรื่องคู่รัก คู่ชีวิต ถึงจะโอเค
“แฟนนะไม่ใช่จับฉลากจะได้จับอันไหนก็ได้อันนั้นแล้วต้องพอใจ” ไอ้ยิมส่ายหน้า
“เอ้า มึงจะคิดอะไรมากมาย รักมันทำให้เกิดทุกข์ก็เพลาๆ มันบ้าง ไม่ต้องรักหรอก แค่สนุกๆ ด้วยกันก็พอ” ผมตบบ่ามันอีกรอบ ไอ้ยิมปัดมือผมออก
“ชีวิตมึงนี่รักสนุกจังนะ” ไอ้ยิมแอบเหน็บผม
“รักสนุกแบบมีสติไง ไม่ใช่เรี่ยราดฟันไม่เลือกนี่ อย่าเข้าใจอะไรผิดๆ ดิ”
“เฮ้อ ไม่คุยกับมึงแล้ว” ไอ้ยิมหันไปสนใจกับการให้อาหารปลาต่อ
“ก็จริง...” ผมไหวไหล่คิดตามกับสิ่งที่พูดก่อนจะขว้างขนมปังก้อนสุดท้ายลงน้ำไป จากนั้นมันก็โดนปลารุมทึ้งจนจมหายไป


ผมกับไอ้ยิมเหมือนเหรียญคนละด้าน มันไม่เข้าใจที่ผมพูดหรือจะสื่อออกมา แต่ยังดีที่มันรับฟังและไม่ต่อต้านเหมือนทิฐิอคติที่มีต่อผมของมันเริ่มลดลง มันมองผมเป็นคนธรรมดาคนนึงได้ แต่มันก็มีหลายสิ่งที่ยังไม่สามารถวางทิ้งไว้ได้ อย่างที่ผมบอกมันไป คนที่หนักก็มีแต่มันนั่นแหละ ไอ้ผมจะช่วยก็ไม่ใช่หน้าที่จะไปก้าวก่ายทำไม ยกเว้นถ้าหากอีกฝ่ายยื่นมือมาขอความช่วยเหลือจากผมล่ะนะ ผมพร้อมจะช่วยมัน... แต่ช่วยอย่างไร ผมเองยังหาคำตอบที่แน่ชัดไม่ได้ ความคิดเรื่องของไอ้ยิมเหมือนจิ๊กซอว์กระดาษที่กระจัดกระจาย ยังหาตัวเชื่อมไม่ได้ มันเลยผิดและวนเวียนอยู่แบบนี้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2018 15:01:05 โดย รินดาwดาริน »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ชอบจัง ผิงยิม แมนๆคุยกันอีกคู่ ถึงตอนนี้จะเป็นเพื่อนแต่ก็โอเคนะ
เราว่ามิตรภาพมันยั่งยืนกว่า คงต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะสนิทใจกันจริงๆและยิมลืมสองในฐานะคนเคยชอบ
ผิงไม่ใช่รางวัลปลอบใจ ผิงน่ารัก.  :mew1:
รอสองท๊อปต่อไปค่ะ ขอบคุณ  :กอด1:

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
สงสัยจะได้คู่ยิมผิงจริงๆ 5555+

ออฟไลน์ New_Tai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เชียรคู่นี้ ยิมผิง เอะ หรือว่าผิงยิมดี 55555

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ผิงก็มีมุมดีอยู่นะ ผิงยิม :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด