[Yละมุน] หนุ่มวายยกกำลังสอง แจ้งข่าว P13 [Up 12/9/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Yละมุน] หนุ่มวายยกกำลังสอง แจ้งข่าว P13 [Up 12/9/60]  (อ่าน 175763 ครั้ง)

ออฟไลน์ Legpptk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Azuryngel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
This story was so fun to read.  :ling1: There were light hearted moments and moments where I wish they would just talk to strangle P'Fey but all in all makes the story complete. Can't wait to read Min's story. They should be a spicy couple. Kukuku 5555+ :hao6: :hao7:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
พรีตั้งแต่วันที่ 1ก.พ.60 - 31มี.ค.60



รายละเอียด
เรื่อง : หนุ่มวายยกกำลังสอง (เล่มเดียวจบ)
คู่ : เฟย์-ปอนด์
แนวเรื่อง : คอมเมดี้
ขนาด : A5
จำนวนหน้า : 300+ หน้า
กระดาษ : ถนอมสายตา 75 แกรม
ราคา : 380 บาท
แถมที่คั่นทุกเล่ม

จิ้มกรอกแบบฟอร์ม
สอบถามรายละเอียดได้ที่เพจ Silver Fish
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-02-2017 22:34:15 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
*ตัวอย่างบทที่1 ในเล่ม ฉบับรีไรท์ แก้คำผิด

วายที่1 พี่ชายในฝัน


   ที่แห่งนี้...คือสถานที่เปิดสงครามอันยิ่งใหญ่ มีผู้คนมากมายมารวมตัวกันด้วยใบหน้าเคร่งขรึมจริงจัง ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมสงคราม มือกำสายสะพายของกระเป๋าเป้สุดที่รัก รุ่นถึกทนเยี่ยงซัมซุงฮีโร่ที่อยู่คู่กับตัวผมมาตั้งแต่สมัยเรียนม.ต้น ยิงยาวจนถึงปัจจุบัน มันไม่เคยงอแงและต่อสู้ไปพร้อมกับผมเสมอมา

   ผมยกอาวุธอีกชิ้นขึ้นมาดู ใบหน้าฉายความจริงจังระดับขั้นปลดปล่อยบังไค มันเป็นวัตถุทรงสี่เหลี่ยม หน้าจอมีตัวเลขเหมือนรหัสอะไรสักอย่าง เช่น C12 Y6

   สู้ตายโว้ย!

   “น้องปอนด์ แม่รอตรงนี้นะ รีบๆ ซื้อแล้วรีบๆ ออกมาล่ะ”

   ผมหันไปมองผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกสำหรับผม หญิงร่างเล็กทำหน้าเอือมมองลูกชายที่กำลังจะไปออกรบ ผมมุ่งมั่น รับรองว่าจะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง

   “แม่ แน่ใจนะว่าไม่เข้าไปด้วย” ขยับเข้าไปหา เลียบๆ เคียงๆ ถามด้วยรอยยิ้มสุดแสนจะใสซื่อน่าร้ากกก จนได้คำตอบเป็นมะเหงกหนึ่งโป๊กเข้ากลางหัว ร้าวไปทั้งสมองเลยท่านผู้ชม

   “คนเยอะ แม่ไม่อยากเข้าไปเบียด จะไปก็รีบไป”

   แถมส่งลูกชายผู้หล่อเหลา เฉดหัวด้วยฝ่ามือ ถ้าผมยังโอ้เอ้อีกฝ่าพระบาทอาจจะตามมาก็ได้ ผมจึงตัดสินใจไม่อ้อนหน่วยซัพพอร์ต สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วมุ่งหน้าเข้าสู่ประตูสวรรค์ ภาพแรกที่เห็นทำให้ผมอุทานออกมาทันที

   “คนเยอะโคตร!!”

   นี่แหละงานหนังสือ ชื่อเต็ม งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ จัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แหล่งรวมหนังสือครั้งยิ่งใหญ่ที่มีทั้งเล่มเก่าเล่มใหม่ โปรโมชั่นลดราคา ของแถมสารพัด เดินทางมาง่ายๆ เพียงแค่นั่ง MRT รถไฟใต้ดินมาถึงหน้างานได้เลยหรือใครจะมาทางไหนก็สุดแล้วแต่จะสามารถ เหินฟ้า ดำดิน วาร์ป จัมพ์เปอร์ ก็ว่ากันไป

   ผมเบ้ปาก เดินเข้าไปด้านใน ผ่านโซนอาหาร ทะลุไปยังสถานที่เปิดสงครามอย่างแท้จริง คนเยอะอย่างกับมดเดินเบียดกันไปมา ที่มือของแต่ละคนมีถุงใส่หนังสืออยู่ บางคนสะพายเป้แบบผม บางคนล่อเป็นรถเข็นมาเลย มีทุกเพศทุกวัย เด็กผู้ใหญ่ หญิงชาย มนุษย์ป้า มนุษย์ลุง

   เห็นแล้วได้แต่ถอนหายใจ มองไล่ไปตามป้ายที่อยู่ประจำแต่ละบูธที่ถูกแบ่งเป็นโซนไว้อย่างเป็นระเบียบ ทุกบูธมีแต่หนังสือวางเรียงราย ลูกค้าที่ยืนออกันหน้าบูธ คนที่เดินผ่านไปหาบูธอื่น ผมไม่สนใจเท่าไรนัก สิ่งที่ผมสนใจคือสำนักพิมพ์ที่ผลิตวรรณกรรมเยาวชนกับแหล่งรวมความวายและหนังสือการ์ตูนเท่านั้น

   ผมเดินไปตามลิสต์รายชื่อที่จดไว้ ไล่ซื้อหนังสือที่ต้องการจนกระเป๋าเป้เริ่มตุง สองมือเต็มไปด้วยถุงใส่หนังสือ ฟาดฟันกับคนอื่น พยายามเสนอหน้าตัวเองซื้อหนังสือสุดชีวิต บางบูธเห็นหนังสือน่าสนใจ ผมต้องกระโดด เขย่งดูแสนลำบาก  ไม่ใช่ว่าผมเตี้ยนะ แต่คนยืนกันเยอะเกินไปต่างหากผมเลยไม่เห็น จริงจริ๊งงง

   ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงในการต่อสู้ครั้งนี้ บูธที่ผมยืนรอคนคิดเงินเป็นที่สุดท้าย หมดนี่จะได้ออกจากสงครามสักที แออัดเหลือเกิน ร้อนมากด้วย เหงื่อแตกพลั่กๆ แล้วเนี่ย

   “สีเหลืองหมายเลข 3 ค่ะ”

   “ผมครับๆ” ผมยกไม้ยกมือบอกพนักงาน พี่สาวหันมายิ้มให้ พอเห็นว่าผมเป็นผู้ชาย รอยยิ้มยิ่งกว้างขึ้นพร้อมส่งถุงหนังสือให้ถึงมือ ที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่อะไรหรอก ผมเป็นผู้ชายกำลังซื้อหนังสือวายครับ ถูกต้อง ผมคือหนุ่มวาย วะฮ่าๆๆ ไม่ติดว่าของหนักจะเท้าเอวเงยหน้าหัวเราะสักที

   “ไม่สนใจอีกภาคเหรอคะ เล่มที่น้องซื้อไปมันเป็นภาคต้นเองนะ เรื่องนี้ก็สนุก พี่อ่านมาแล้วเด็ดมาก แนวโชตะคอน เหมาะกับน้องมากเลย”

   ตุบ!

   ได้ยินเสียงหนังสือร่วง ผมมัวแต่เพ่งนิยายที่พี่พนักงานแนะนำเลยไม่ได้หันไปดู คำนวณเงินในกระเป๋าอยู่ว่าจะพอซื้อแบบครบเซตรึเปล่า

   “ขอโทษครับ”

   เสียงทุ้มนุ่มดังอยู่ไม่ไกล อยากจะหันไปมองอยู่ ยังไงก็หนุ่มวายด้วยกัน ติดแต่ผมสนใจนิยายวายโชตะที่พี่สาวยื่นมาให้มากกว่า กำลังอ่านเนื้อหาด้านหลังพอดี น่าสนใจพอสมควร ผมเลยหยิบเอาเล่มนี้กับไอภาคต่อส่งให้พี่พนักงานคิดเงินอีกรอบ หลังได้รับหนังสือ กำลังจะเดินไป ประจวบเหมาะกับผู้ชายที่อยู่ข้างๆ จ่ายเงินเสร็จพอดี ทีนี้เป็นไงละครับ

   ประสานงากันอะดิ! ต่างคนต่างหันมาชน แต่คนที่ปลิวน่ะมันผมคนเดียว อีกฝ่ายขนาดเซไปซักมิลยังไม่มี ใช่ซี้ ผมถือของหนักรากฐานเลยไม่มั่นคงต่างหาก พอผมเงยหน้ามอง มือที่ถือถุงสารพัด เอิ่ม... เยอะกว่าผมอีกสักสองเท่าได้ เฮอะ เพราะผมยังเด็กหรอก จิ๊ๆ รอผมโตก่อน จะตัวโตคนชนไม่ปลิวเหมือนกันนั้นแหละ

   “น้องครับ.. เป็นอะไรมากมั้ย? ขอโทษทีนะพี่ไม่ทันเห็น”

   เสียงเดียวกับคนที่ทำหนังสือตกหลังได้ยินคำว่าโชตะคอน คราวนี้ผมเงยหน้ามองชัดๆ

   อือหือ โอ้แม่เจ้า แม่! ผมอยากได้แบบเน้ อยากโตไปเป็นแบบนี้ อุทธรณ์หนักหน่วงและรุนแรง ชายตรงหน้าสวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงสแล็คสีดำ รองเท้าหนังเงาวับเหมือนพนักงานบริษัทแอบหนีเที่ยวมาช้อปวาย ด้านหลังสะพายกระเป๋าเป้

   สิ่งดึงดูดจุดโฟกัสจากสายตาผมมากที่สุดคือใบหน้า หล่อมาก หล่อแบบมาดผู้ใหญ่ ดวงตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากได้รูป เสียงนุ่มๆ กับความเป็นห่วงที่แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

   ผมติดสตั๊นไปชั่วขณะ มองลำคอแกร่งกับไหล่กว้าง หุ่นใต้ผ้านั้นต้องดีมากแน่ๆ อยากได้ อยากได้ เค้าอยากหล่อหุ่นดีแบบนี้

   “เจ็บตรงไหนรึเปล่า?”

   สายตาห่วงใยเพิ่มอีกสิบระดับ ชายหนุ่มร่างสูงวัยทำงาน ย่อตัวลงมาช่วยเก็บหนังสือของผมที่กระจายออกจากถุงเพราะล้มก้นจ้ำเบ้า สติเอ๋ยจงกลับมา ผมรีบช่วยเก็บทันที กลัวเหลือเกินว่าจะมีใครเดินมาเหยียบเหล่าหนังสือสุดที่รักที่ผมยังไม่ได้แม้แต่เปิดอ่าน เพราะมัวแต่สนใจคนตรงหน้า

   คิ้วเข้มขมวดมุ่นเมื่อเห็นว่าถุงที่ใส่หนังสือตอนแรกหูหิ้วมันขาดไปซะแล้ว สงสัยคงเป็นเพราะตอนชนตะกี้ มันไปเกี่ยวกับอะไรเข้า ผสมกับความหนักเลยทำให้ขาด

   เขาหยิบถุงผ้าสำรองจากถุงตัวเองมาเปลี่ยนใส่หนังสือให้ผม ก่อนจะช่วยดึงผมขึ้นเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้เจ็บอะไรนัก นอกจากความตกใจ

   “ผมซุ่มซ่ามไม่ดูทางเอง ขอโทษด้วยนะฮะ” ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายถาม เลยตอบกลับไป เงยหน้ายิ้มให้แบบ ผมไม่เจ็บจริงๆ เน้อ เห็นอีกฝ่ายชะงักไปชั่วครู่ พริบตาเดียวกลับเป็นปกติถามผมต่อ

   “หลงทางรึเปล่า ทำไมมาเดินคนเดียวล่ะ แล้วคุณแม่ไปไหน?”

   โอ๊ะ อีกฝ่ายเก่งแฮะที่รู้ว่าผมมากับแม่ ผมเลยตอบไปพลางมองถุงผ้าที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ เฮ้ยนี่มันถุงผ้าที่ต้องซื้อหนังสือครบพันถึงจะได้ แถมมีจำนวนจำกัด ให้กันง่ายๆ แบบนี้จะดีเรอะ

   “แม่ผมรออยู่ข้างนอกครับ พี่ชายให้ถุงผ้าผมจริงอะ”

   คือมันเอาไปขายต่อยังได้เลยนะ มีหลายคนที่อยากได้ถุงผ้านี้แต่มาซื้อไม่ทัน ถูกพวกมาตั้งแต่วันแรกๆ เหมาไปหมด ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

   “อืมมม พี่ให้เอาไปเถอะ ไม่งั้นเราจะถือหนังสือยังไงล่ะ?” พี่ชายสุดหล่อแถมใจดี พยักหน้ารับน้อยๆ ด้วยรอยยิ้มบางๆ แล้วถามผมต่อ เอาใจผมไปเลยพี่ หล่อมาก นี่แหละ ไอดอล!

   “แล้วนี่ซื้อเสร็จรึยัง หาทางออกเจอมั้ย?”

   “ซื้อเสร็จแล้วครับ ผมกำลังจะออกไปหาแม่พอดีเลย” ผมตอบไปตามจริง ของที่อยากได้สอยครบเรียบร้อย ส่วนเรื่องทางออก เหอะๆ เอาน่า เดินมั่วๆ เดี๋ยวคงเจอทางออกเองแหละ ใช้เวลาเท่าไรไม่รู้นะ ว่าแต่...หนังสือพวกนี้หนักชิบ

   “มา... เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่า นัดเอาไว้ตรงไหน หน้าฮอลล์หรือตรงรถไฟใต้ดิน”

   “ผมนัดไว้แถวด้านหน้าก่อนถึงรถไฟใต้ดินฮะ” พี่ชายใจดีเหมือนเห็นผมแบกหนัก เลยช่วยถือจนหมดเหลือแค่เป้ที่ผมสะพายอยู่  ผมทึ่ง มันไม่ใช่จำนวนน้อยเลยนะ แถมไอ้ที่พี่เขามีอยู่แล้วก็เยอะ แบกไปได้แบบสบายๆ เหมือนถือถุงมันฝรั่งทอดกรอบที่ขายแต่ลมยี่ห้อหนึ่ง

   “โอเค” เขารับคำ ใช้มือข้างที่ว่างจูงมือผม ในช่วงนี้เองที่ได้ยินเสียงกรี๊ดเบาๆ ผมหันไปมองรอบตัวถึงกับชะงัก เหล่าสาววายและพนักงานประจำบูธหนังสือนิยายวายมองพวกเราตาเป็นประกาย สายตาทุกคู่จ้องไปยังมือหนาที่กุมมือผมอยู่เหมือนผู้ใหญ่ดูแลเด็กน้อย ผมอึ้งอ้าปากค้าง

   กลายเป็นหนุ่มวายสองคนสร้างความฟิน กระตุ้นต่อมจิ้นสาววายซะแล้ว ยิ่งส่วนสูงห่างกันร่วมยี่สิบเซนและอายุที่แตกต่าง พนักงานขายไซโคนิยายวายโชตะคอนให้เหล่าสาววายรัวๆ บอกคนจูงให้หยุดได้ไหมหนิ รู้สึกอยากเดินกลับไปทวงค่าพรีเซนเตอร์จากบูธนั้นยังไงชอบกล

   แต่ดูอีกคนไม่ได้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลย จูงมือผมเดินลัดเลาะคนไปตามทาง แถมใช้รูปร่างตัวเองเป็นใบเบิกทางเบียดชาวบ้านให้ผมที่เดินตามต้อยๆ ไม่โดนเบียดอีกต่างหาก ผมมองแผ่นหลังกว้างที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยดีจัง ผมเป็นลูกคนเดียว ฝันอยากมีพี่ชายสักคนมานานแล้ว ล่อลวงให้มาเป็นพี่เลยดีไหมนะ อืมๆ เข้าท่า

   ใช้เวลาไม่นาน เราสองคนก็มาถึงประตูทางออก ตรงจุดนี้คนโล่งขึ้น พี่ชายใจดีเลยปล่อยมือผม

   “พี่ชายใจดีจัง ผมชื่อปอนด์ พี่ชายชื่ออะไรเหรอ” ปกติผมไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้านะ ออกจะเกร็งๆ อายๆ ด้วยซ้ำ แต่กับคนนี้ให้รู้สึกต่างไปจากคนอื่น ไม่อยากเจอแล้วก็จากไป อยากทำความรู้จัก ผมเลยแนะนำตัวถามชื่ออีกฝ่ายไว้ด้วยรอยยิ้ม

   “พี่ชื่อเฟย์ ปอนด์อายุเท่าไหร่เหรอ?” พี่ชายใจดี ไม่สิ พี่เฟย์ถามกลับเสียงนุ่ม

   “15 ครับ ผมขอเอ็มพี่ชายได้มั้ย” ผมงัดเอาลูกอ้อนที่ชอบใช้กับแม่มาเลยเอ้า หวังว่าพี่ชายใจดีจะไม่ใช้เท้ายันผมเหมือนแม่นะ

   “หาา!! เด็กม.ต้น? พี่นึกว่าเราอยู่ประถมซะอีก...”

   ผมชะงัก ยิ้มค้าง นึกอยากคว้าเป้ที่สะพายอยู่ฟาดใส่คนตรงหน้าจริงๆ ผมหล่อขนาดนี้ดูยังไงเป็นเด็กประถมฟะ! ระหว่างที่กำลังคิดเถียงอยู่ พี่เฟย์หยิบกระดาษจดใบเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เขียนเมล์มาให้ผม แถมหยิบอีกใบมาให้ผมเขียนด้วย ผมเลยต้องพับโครงการเอาคืนไปก่อน คิดซะว่าพี่ชายใจดีช่วยตั้งเยอะ เรื่องแค่นี้จะหยวนๆ ไปแล้วกัน พร้อมจดอีเมล์ตัวเองยื่นส่งให้
   พอแม่เห็นผมก็เดินเข้ามาหา ผมเลยต้องบอกลาพี่เฟย์

   “ผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณพี่เฟย์มากเลย แล้วก็...ผมอยู่ม.4ต่างหาก”

   ผมรับหนังสือมาถือไว้เอง ก้มหัวให้เพราะไม่มีมือยกโบกลา แล้ววิ่งทั่กๆ ไปหาแม่ที่เดินล่วงหน้าไปตรงทางลงรถไฟใต้ดิน แอบหัวเราะกับอาการอึ้งของคนตัวโตที่ยืนนิ่ง

   พอผมกลับถึงบ้าน รีบกองๆหนังสือตัวเองไว้บนเตียง แล้วเปิดคอมหยิบกระดาษขึ้นมาแอดเอ็มไปหาทันที ตามประสาวัยรุ่นใจร้อนและหล่อมาก ระหว่างนั้นผมเปิดคอมทิ้งไว้ หยิบหนังสือมานอนกลิ้งอ่านเล่นบนเตียงรอ พอได้ยินเสียงแจ้งเตือนมีคนออนที ค่อยเงยหน้าขึ้นไปดูทีหนึ่ง กระทั่งมีคนทักมา เป็นเมล์ที่ผมเพิ่งแอดออนนั้นแหละ ถึงวางหนังสือในมือ พุ่งไปรัวแป้นพิมพ์

   เห็นงี้ผมพิมพ์ไวนะ ตามประสาพวกเล่นเกมออนไลน์ เวลาคุยต้องพิมพ์ไวๆ ไม่งั้นโดนมอนในเกมตบตายก่อน

   fay_ie : สวัสดีครับ... ใครเอ่ย?
   Ponda : ปอนด์เองฮะ นึกว่าพี่จะไม่รับแอดซะแล้ว
   fay_ie : อ่ออ ถึงบ้านแล้วสินะ อ่านหนังสือเพลินเลยสิ ซื้อไปตั้งเยอะนี่นา
   Ponda : 5555+ เพลินจนพี่ออนนี่แหละ


   พวกเราคุยกันยาว ลืมหนังสือไปชั่วคราว แถมคุยกันถูกคอสุดๆ เพราะเป็นหนุ่มวายเหมือนกัน ผมเองไม่มีเพื่อนคุยเรื่องแบบนี้ด้วยเลยชอบมาก

   หลังจากนั้นเปิดคอมออนเอ็มทีไรก็คุยกันตลอด พอผมกลับจากโรงเรียนหรือมีช่วงที่ครูปล่อยตอนเรียนคาบคอม จะต้องคุยกับพี่ชายคนนี้เสมอ พวกเราเริ่มสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแลกเบอร์โทร ที่ไม่ค่อยได้ใช้ ส่วนใหญ่ยังคุยเอ็มกันเหมือนเดิม

   fay_ie : เรื่องนี้สนุกนะ พี่รับรองเลย
   Ponda : จริงเหรอพี่! อยากซื้อนะ แต่ค่าขนมหมดแล้ว กว่าจะได้ซื้อคงต้องเก็บเงินอีกสักระยะ T^T
   fay_ie : ฮ่าๆ เอาแบบนี้มั้ย มายืมของพี่ไปอ่านก่อน ถ้าถูกใจจริงค่อยซื้อเก็บ
   Ponda : ฮูเร่ ได้อ่านหนังสือฟรีแล้ว ว่าแต่จะให้ผมไปเอามาจากพี่ยังไงอะหรือพี่จะส่งไปรษณีย์
   fay_ie : ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนั้นหรอก อยู่กรุงเทพเหมือนกัน ถึงจะไกลกันหน่อย เอางี้ พวกเราไปเจอกันที่ห้าง       คนละครึ่งทางดีมั้ย
   Ponda : ได้ฮะ วันไหนดี เสาร์มะ พรุ่งนี้เลย ผมใจร้อนอย่างอ่านไวๆ
   fay_ie : วันเสาร์ก็ได้ เจอกัน11โมง พี่ไม่คิดว่าเราจะตื่นไวหรอกวันหยุด ขนาดวันธรรมดายังสายเลย
   Ponda : โหยยย ดูถูก ดูถูกแล้วล่ะพี่ ผมไม่ตื่นเช้าหรอก ก๊ากกก ไว้เจอกันวันเสาร์ฮะ
   fay_ie : หึหึ ไว้เจอกัน ถึงแล้วโทรหาพี่ด้วย
   Ponda : คร้าบบบ


   ถึงเวลาออฟไลน์พอดี ต่างคนต่างล่ำลากันแยกย้ายไปนอน ผมเองถูกแม่ดุไปหลายรอบแล้วเหมือนกัน หลังจากเจอกันวันงานหนังสือ พรุ่งนี้จะเป็นครั้งที่สองที่ได้เจอกัน รู้สึกตื่นเต้นชะมัด


   ในมุมของเฟย์...

   บริษัทใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มร่างสูงกำลังง่วนกับการเก็บข้าวของบนโต๊ะทำงานตัวเอง หลังจากเคลียร์งานส่งให้พนักงานในแผนกเสร็จเรียบร้อยแล้ว วันนี้เป็นวันหยุดของเขา แต่ต้องมาทำงานครึ่งวัน เพราะต้องทำงานด่วนที่คั่งค้างจากเมื่อวาน

   คำนวณเอาไว้แล้วว่าช่วงบ่ายจะไปงานหนังสือสักหน่อย มีหนังสือหลายเล่มที่อยากได้ ซื้อเหมารวดที่เดียวงานหนังสือเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องคอยตามเก็บจากร้านหนังสือต่างหาก แถมได้ส่วนลดกับพวกของแถมด้วย

   พอมาถึงงาน ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ วันหยุดคนเยอะอย่างที่คิด จะให้มาวันธรรมดาคงไม่ได้เพราะเขาต้องทำงานตั้งแต่เช้าจรดเย็น บางวันมีประชุมจนถึงค่ำอีก

   เขาเบียดตัวเองฝ่าฝูงชน อาศัยความที่ตัวเองเป็นคนตัวสูง(มาก) เป็นข้อได้เปรียบในการซื้อหนังสือที่ต้องการ ผ่านไปไม่กี่นาที หนังสือเริ่มเต็มมือ โชคดีที่เขาพกพวกถุงผ้ามาจากบ้านด้วย รวมกับของแถมที่ได้มาไม่ต้องห่วงเลยว่าถุงจะขาดก่อนถึงบ้าน

   เฟย์มีรถ แต่ไม่คิดจะขับ ยกเว้นจำเป็นจริงๆ ถึงจะใช้ ปกติจะอาศัยรถขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงานทุกวัน จะได้ไม่ต้องไปทนรถติดบนท้องถนน คิดแล้วก็ขำ ถึงเขาจะหลีกเลี่ยงยังไง ตอนนี้คงต้องทนกับการจราจรติดขัดของคนที่แห่กันมาซื้อหนังสืออยู่ดี

   ตลอดการเดินทั่วงานมีหลายคนมองเขา นั่นเป็นเพราะนอกจากพวกหนังสือต่างประเทศที่ต้องการ ยังมีพวกหนังสือความชอบส่วนตัวอีกต่างหาก ชายหนุ่มวัยทำงาน มาสภาพเหมือนเพิ่งออกจากบริษัท กำลังเลือกหยิบนิยายวายขึ้นมาดูอย่างเพลิดเพลิน

   ใช่แล้ว เขาเป็นหนุ่มวายเต็มตัว หนังสือวายที่ว่าหายากหลายเล่มเขามีหมด พวกเล่มเก่าๆ ของแรร์เขาก็มี พวกใหม่ๆ ดังๆที่ สนุกน่าสนใจก็ครบ และอีกเซตใหญ่ที่กำลังจะซื้อไปถมห้อง ระหว่างที่กำลังเลือกนิยายวายในบูธหนึ่งอยู่ มีเสียงเล็กๆ ขานรับพนักงานดังขึ้นด้านข้าง

   “ผมครับๆ” เขาหันไปมองไม่เห็นตัว ต้องก้มถึงจะเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กหน้าตาน่ารักคนหนึ่งยืนคุยกับพนักงานอยู่ คิ้วเข้มเลิกขึ้นแปลกใจ มุมปากยกยิ้มเอ็นดูหนุ่มวายตัวน้อย

   เฟย์เป็นพี่ชายคนโต มีน้องชายหนึ่งคน เลยทำให้เป็นคนช่างดูแล เอ็นดูพวกเด็กๆ มากเป็นพิเศษ ที่สำคัญนอกเหนือจากความชอบเรื่องวายแล้วเขายังชื่นชอบพวกของน่ารักอีกต่างหาก ไม่ใช่พวกสีชมพู ของกุ๊กกิ๊ก มีระบายอะไรแบบนั้น แต่เป็นพวกตุ๊กตาสัตว์ อะไรที่กลมๆ  หน้าตาบ๊องแบ๊ว ถ้ายิ่งเป็นแมวเขาจะยิ่งชอบมาก ก็เขาเป็นทาสแมวหนิ

   ดวงตาคมก้มมองนิยายวายที่อยู่ในมือ หน้าปกเป็นรูปผู้ชายวัยทำงาน กับเด็กน้อยน่ารัก แนวโชตะคอน.... แอบหลุดหัวเราะเบาๆ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น มีโชตะตัวจริงอยู่ข้างๆ ซะด้วย

   “ไม่สนใจอีกภาคเหรอคะ เล่มที่น้องซื้อไปมันเป็นภาคต้นเองนะ เรื่องนี้ก็สนุก พี่อ่านมาแล้วเด็ดมาก แนวโชตะคอน เหมาะกับน้องมากเลย”

   ตุบ!

   หนังสือในมือร่วงทันที เฟย์ยิ้มบาง เอ่ยขอโทษพนักงานกับลูกค้าคนอื่นที่หันมามอง นึกปลอบตัวเองให้ใจเย็น อย่าเพิ่งร้อนตัว

   “ขอโทษครับ”

   เขายื่นหนังสือที่ทำหลุดมือยื่นให้พนักงานคิดเงินรวมกับเล่มอื่น ยังไงก็สนใจอยู่แล้ว ซื้อไปสักหน่อยแล้วกัน พอได้ของ กำลังจะหมุนตัวเดินออกจากบูธไปดูที่อื่นต่อ รู้สึกเหมือนมีอะไรมาชน พอก้มลงไปมอง เวรละสิ... ทำไมไม่เห็นวะ? อ่อ เด็กคนนี้ตัวเล็กเกิน เลยมองไม่เห็น

   “น้องครับ.. เป็นอะไรมากมั้ย? ขอโทษทีนะพี่ไม่ทันเห็น เจ็บตรงไหนรึเปล่า?”

   เฟย์รีบถามทันทีด้วยความเป็นห่วง เด็กตัวเล็กนิดเดียว เขาตัวใหญ่กว่าเยอะ โดนชนปลิวไปนั่งแปะกับพื้นอย่างนั้นน่าสงสาร เขาก้มลงไป รีบช่วยเก็บหนังสือขึ้นมาใส่ถุง ก่อนขมวดคิ้ว อ่า... บางใบก็ขาดซะด้วย เลยจัดการหยิบถุงผ้าที่พับใส่ในช่องข้างกระเป๋าออกมาใส่หนังสือซะเลย ก่อนจะส่งคืนให้

   “ไม่เจ็บครับ ผมซุ่มซ่ามไม่ดูทางเอง ขอโทษด้วยนะฮะ”

   เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ ใบหน้าน่ารักยังคงความอ่อนเยาว์ เขามองซ้ายมองขวา ไม่เห็นผู้ใหญ่ที่คาดว่าจะเป็นผู้ปกครองได้ ทำไมปล่อยให้มาเดินคนเดียวนะ เดี๋ยวก็โดนใครอุ้มไปหรอก งานหนังสือยิ่งคนมากหน้าหลายตาอยู่ด้วย

   “หลงทางรึเปล่า ทำไมมาเดินคนเดียวล่ะ แล้วคุณแม่ไปไหน?” ผมถามด้วยความเป็นห่วง

   “แม่ผมรออยู่ข้างนอกครับ พี่ชายให้ถุงผ้าผมจริงอะ” เสียงใสตอบรับ

   “อืมมม พี่ให้ เอาไปเถอะ ไม่งั้นเราจะถือหนังสือยังไงล่ะ?” พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มบาง เจ้าตัวเล็กนี่น่ารักวุ้ย เหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ยังไงชอบกล คิดพลางช่วยดึงให้ลุกขึ้นยืนดีๆ ปากเจ้าหนูนี่บอกเหมือนไม่อยากได้ แต่ตากลมโตนั้นไม่ได้ปิดบังความดีใจเอาไว้เล้ย เด็กหนอเด็ก

   “แล้วนี่ซื้อเสร็จรึยัง หาทางออกเจอมั้ย?”

   “ซื้อเสร็จแล้วครับ ผมกำลังจะออกไปหาแม่พอดีเลย” เขานิ่งคิดไปสักแป๊บ ไปส่งหน่อยดีกว่า ตัวเล็กแบบนี้ปล่อยเดินคนเดียวไม่รู้จะหลงไปทางไหนรึเปล่า

   “มา... เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่า นัดเอาไว้ตรงไหน หน้าฮอลล์หรือตรงรถไฟใต้ดิน”

   “ผมนัดไว้แถวด้านหน้าก่อนถึงรถไฟใต้ดินฮะ”

   “โอเค”

   เฟย์ฉวยเอาถุงหนังสือที่อีกฝ่ายถือเอาไว้จนมือแดงน่าสงสารมาถือซะเอง แล้วจูงมือข้างที่ว่างเดินลัดเลาะคนไปตามทาง ใช้รูปร่างตัวเองกันคนจากเจ้าตัวเล็กที่เดินตามหลัง พอถึงหน้าประตู คนบางตาผมถึงปล่อยมือ

   “พี่ชายใจดีจัง ผมชื่อปอนด์ พี่ชายชื่ออะไรเหรอ”

   เสียงเล็กๆ ไม่ทำดาเมจเท่ารอยยิ้ม คนเดินนำเกือบทำหนังสือหลุดมือกับความน่ารัก อูยยยย เด็กนะเด็ก คุกนะมึงไอ้เฟย์ นี่มันเด็กประถม!! เขารีบเตือนสติตัวเอง...

   “พี่ชื่อเฟย์ ปอนด์อายุเท่าไหร่เหรอ?”

   “15 ครับ ผมขอเอ็มพี่ชายได้มั้ย”

   “หาา!! เด็กม.ต้น? พี่นึกว่าเราอยู่ประถมซะอีก”

   แทบสะดุดล้มหัวทิ่ม หันขวับไปมองเจ้าตัวเล็กที่ยิ้มตาใสมาให้แล้วก็ใจอ่อน แลกก็แลก... น่ารักขนาดนี้ยอมให้ก็ได้ ปกติผมไม่ยอมแจกเมล์ให้ใครง่ายๆ นอกจากเรื่องงานนะเนี่ย เขาหยิบกระดาษสำหรับจดเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเองออกมาเขียนเมล์ยื่นให้เด็กน้อยตรงหน้า พร้อมกับให้เจ้าหนูเขียนแลกมาด้วย

   “ผมไปก่อนนะครับ ขอบคุณพี่เฟย์มากเลย แล้วก็...ผมอยู่ม.4ต่างหากฮะ”

   ลับหลังเด็กน้อยที่เดินตามหลังแม่ไป ผมยืนอึ้งอยู่กับที่

   “เด็กม.ปลายเรอะ!? ทำไมหน้ามันเด็กจังวะ” พึมพำส่ายหัวน้อยๆ แล้วกลับบ้านบ้าง เพราะนั่ง MRT ต่อด้วย BTS ใช้เวลาไม่ถึงเท่าไหร่ เขาก็กลับมาถึงบ้านที่เป็นคอนโดห้องชุดติดรถไฟฟ้า

   มือวางข้าวของแล้วจัดเก็บเข้าตู้ ไว้ว่างๆ ค่อยมานั่งไล่อ่าน ก่อนไปล้างไม้ล้างมือให้เรียบร้อย มาเปิดคอมเปิด msn ขึ้นมาคุยกับเพื่อนๆ ที่กำลังออนไลน์อยู่ สายตาสะดุดเข้ากับชื่อไม่คุ้นที่แอดเข้ามา

   “ใครหว่า?? อาจจะเป็นน้องคนเมื่อกลางวันก็ได้ล่ะมั้ง” เขากดรับแล้วทักไป รอจนอีกฝ่ายตอบกลับมา เป็นเด็กที่เจอวันนี้จริงๆ ซะด้วย คุยเล่นสักพัก กลายเป็นว่าพวกเราเลยคุยกันยาวตั้งแต่วันนั้น

   ผ่านไปหลายเดือนก็ยังคุยกันอยู่ ผมเริ่มที่จะทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือการรอให้เด็กน้อยออนมาคุยกันในช่วงเวลาว่างจากงานของผม เราคุยกันสารพัดเรื่อง แลกเปลี่ยนความคิดกันบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะคุยเรื่องหนังสือวายกับนั่งอ่านเด็กน้อยบ่นซะมากกว่า เพลินดีไม่ใช่น้อย

   อย่างกับได้น้องชายเพิ่มอีกคน น่ารัก ขี้อ้อนอีกต่างหาก ไม่เหมือนน้องชายผม มันไม่ใส ไม่น่ารักแบบนี้ เจ้าเล่ห์เหมือนใครก็ไม่รู้

   จนกระทั่งพวกเราได้นัดเจอกันครั้งที่สอง ในตอนนั้นผมยังมองน้องเขาเป็นเพียงน้องชายคนหนึ่ง ส่วนเรื่องราวหลังจากนี้ คงต้องรอดูกันไป…

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
สงกรานต์ #หนุ่มวายยกกำลังสอง #verสลับอายุหูหาง 6

   เป็นฉบับประยุกต์ที่โพสในเพจ 1-5 สามารถตามอ่านได้ที่เพจตามแท๊ก  ในนี้เฟย์ปอนด์จะสลับอายุกัน ทุกคนจะเป็นครึ่งสัตว์แบบมีหูหาง เมื่อไหร่ผ่านประสบการณ์แรกจะสามารถเก็บหรือเอาหูหางออกได้ตามใจชอบ(ประยุกต์มาจาก loveless)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

   สงกรานต์ สงกรานต์ สนุกสนาน ประเพณีไทย เหนือ จรดใต้ ได้พบกันในวันสงกรานต์ น้ำสาดกระเซ็น เป็นละอองเย็นต่อ รักเรื้อแตกกอ แย้ม ช่อ แย้มช่อเบ่งบาน~~

   เพลงสุดแสนจะบ่งบอก ไปที่ไหนก็เจอแต่เพลงสงกรานต์ ถือว่าเป็นประเพณียอดฮิตของเมืองไทยสำหรับคลายร้อนในช่วงนี้ บางคนก็บอกว่าเป็นวันปีใหม่ไทย วันครอบครัว วันผู้สูงอายุ วันปล่อยแก่ วันหลีสาว วันลวนลามสาวแบบไม่ต้องกลัวว่าจะโดนตบกลับ จะวันอะไรก็แล้วแต่ ผมไม่สนอยู่ดี

   สำหรับผม วันนี้มันคือนรกชัดๆ ! ไปทางไหนก็เจอน้ำ ช่างเป็นศัตรูตัวฉกาจของผมเลย ไม่ใช่ว่าเป็นครึ่งแมวแล้วกลัวน้ำอะไรแบบนั้นนะ ผมออกจะเป็นแมวรักษาสะอาด อาบน้ำทุกวันเช้าเย็นไม่มีขาด ยกเว้นงานด่วน งานเร่ง ไม่มีเวลาอาบถึงจะอาบแป้งแทนแสนเศร้าใจ

   จากทั้งหมดทั้งสิ้นที่เกริ่นไป เอาเป็นว่าหยุดสงกรานต์นี้ผมรีบชิงตัดหน้าคนอื่นกลับมากินอาหารฝีมือแม่ รดน้ำดำหัว พาแม่ไปทำบุญ แล้วก็แช่อยู่บ้านอย่างเต็มภาคภูมิ อายุปูนนี้แล้ว ไม่นึกคึกอยากออกไปเล่นน้ำหรอกครับ ไม่ใช่เพราะไม่มีเพื่อนเล่นนะจริงจริ๊งงงง

   “ปอนด์ สงกรานต์ไม่ออกไปเล่นน้ำเหรอลูก” คุณแม่แมวถามลูกชายที่กลับมาก็นอนอืดกระดิกหางกินขนมดูทีวีจนจะกลายเป็นแมวอ้วนลงพุง

   “ไม่ไปอะแม่ ไม่มีเพื่อน แต่ละคนกลับบ้านหาครอบครัว ไม่ก็เที่ยวกับแฟน” เสียงไม่ได้อ่อยนะ ไม่เหงาเลยสักนิด ฮึก...

   “แล้วเด็กที่เราเล่าให้ฟังล่ะ เห็นพักหลังมาติดเราไม่ใช่รึไง หายไปไหนแล้ว ไม่มาชวนเล่นน้ำเหรอ”

   ครับ เพราะผมมีอะไรเล่าให้แม่ฟังทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเครียดจากที่ทำงานนะ เล่าเฉพาะเรื่องดีๆ ชวนขำ หรือชวนหงุดหงิดแบบเบาๆ มากกว่า ไม่อยากให้แม่ผมกังวล ด้วยเหตุนี้แม่จึงรู้จักเฟย์ ทราบวีรกรรมโดยที่ยังไม่เห็นหน้า พร้อมเหมาว่าเป็นเพื่อนต่างวัยผมไปเรียบร้อย สำหรับพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ ไม่ว่าเมื่อไรก็เห็นเราเป็นเด็กเสมอ เรื่องนี้ไม่เกินจริงเลย

   “เฟย์คงไปเล่นกับเพื่อนตามประสา จะมายุ่งกับคนแก่อย่างผมทำไม”

   Nyan nyan nyan nyan~

   เสียงริงโทนเพลง Nyan Cat ที่ผมเปลี่ยนเล่นยังไม่เปลี่ยนกลับดังสนั่นบ้านจนแม่มองแรงใส่ เพราะมันร้องเนียนๆ แม่งทั้งเพลงสร้างความรำคาญให้แก่พระมารดา ผมเลยรีบกดรับโดยไม่ได้ดูว่าใครโทรมา

   “สวัสดีครับ” รับสายอย่างสุภาพ อาจจะเป็นลูกค้าหรือพี่ที่ทำงานก็ได้ เบอร์นี้ผมใช้ครอบจักรวาลเพราะความขี้เกียจสลับเบอร์ให้งงเล่น

   /พี่ปอนด์รึเปล่า ผมเฟย์เองนะ ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน ไปเล่นน้ำกัน/

   น้ำเสียงระรื่นคุ้นหูที่ได้ยินติดต่อมาเกือบสองปี

   “ไม่” ตอบทันทีแบบไม่ต้องคิด

   /โหพี่ ไม่ใช้เวลาคิดหน่อยเหรอ/

   “ยังไงก็ไม่ อยากเล่นก็ไปเล่นกับเพื่อนไป” ส่งเสียงชิ่วๆ ทิ้งท้าย แน่นอนว่าเจ้าหมาป่าที่รอคอยเวลานี้มานานมีหรือจะยอมถอยทัพง่ายๆ

   /ก็ผมอยากเล่นกับพี่นี่/ งัดไม้อ่อนทำเสียงอ้อน

   “ยังไงก็ไม่!” กัดฟันทำใจแข็ง ขณะที่กำลังเตรียมตั้งรับกับลูกอ้อนหมาน้อย อีกฝ่ายกลับล้มเลิกง่ายๆ

   /ไม่ไปก็ไม่ไป แต่ผมขอแวะไปหาพี่ได้มั้ย ตอนนี้ผมอยู่ร้านขายขนมเจ้าโปรดพี่ กินมะ/ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็เอาด้วยขนมนี่แหละ! แมวเห็นแก่กินแบบนี้ โดนหลอกล่อด้วยขนมกับหนังสือ มีหรือจะปฏิเสธน่ะ

   “กิน ฝากซื้อชีสเค้กบลูเบอรี่มาด้วย อยากกินอะไรก็ซื้อมาเดี๋ยวให้เงิน” ตอบรับไวกว่าตอนปฏิเสธเรื่องเล่นน้ำซะอีก แถมยังสั่งเพิ่มเผื่อแม่ตัวเองเสร็จสรรพ

   /งั้นผมขอที่อยู่พี่หน่อยครับ/ น้ำเสียงเรียบเรื่อย สบายๆ แต่ในใจหมาป่าหนุ่มกำลังเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น

   “ถือมาดีๆ อย่าให้โดนน้ำล่ะ เดี๋ยวให้ทิป พี่ส่งที่อยู่ไปทางไลน์นะ” บอกเจือเสียงหัวเราะ พร้อมส่งโลเคชั่นไปให้ ทางไลน์ เมื่อเฟย์เห็นที่อยู่บนมือถือ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนพราวระยับ ถ้าเอาหางออกมาตอนนี้คงส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง ทำท่าแทงศอกร้องเสียงเยสอยู่ในร้านขนมคนเดียว ไม่สนใจคนรอบข้าง

   ในที่สุดก็ได้ที่อยู่พี่ปอนด์มาแล้วเว้ย!!

   จะช้าอยู่ใย รีบสั่งขนมเพิ่มจ่ายเงินแล้วแจ้นไปตามที่อยู่ให้ไว ถึงบ้านปอนด์จะอยู่นอกเมืองจนเกือบข้ามไปอีกจังหวัด แต่การเดินทางด้วยรถนับว่าสะดวกโยธิน เพียงไม่นานเฟย์ก็ถึงที่หมาย บ้านทาวน์เฮ้าส์สองชั้น ปลูกต้นไม้เต็มหน้าบ้าน ที่สำคัญ เท่าที่สังเกตแอบมีต้นแคตนิปแซมๆ อยู่ด้วย เฟย์พยักหน้าหงึกหงัก สมแล้วที่เป็นรังแมว

   เฟย์ยืนกดออดเพียงครั้งเดียวก็มีเสียงขานรับดังมาจากด้านใน สักพัก คนที่อยากเจอก็เปิดประตูออกมาในชุดแสนสบาย เสื้อยืดสีขาว กางเกงเจเจ กับหางที่เอาออกมากวัดแกว่งล่อหน้าล่อตา เฟย์มองอย่างอดกลั้น มันน่าพุ่งเข้าไปขย้ำจริงๆ นะ สัมผัสจากครั้งก่อนยังติดมือไม่คลาย เสียแต่อีกฝ่ายไม่ยอมให้จับอีก นอกเสียจากจะอาศัยที่เผลอ ซึ่งแมวเป็นสัตว์ที่ขี้ระแวง ไอ้ทีเผลอที่ว่าไม่ค่อยมีซะด้วยสิ

   “จ้องไปก็ไม่ให้จับ เข้ามาสิ” อีกฝ่ายเล่นจ้องเป๋งขนาดนี้ มีหรือจะดูไม่ออก ปอนด์ส่ายหัวเอือมระอา เปิดทางให้อีกฝ่ายเดินเข้าบ้าน ส่วนตัวเองเป็นฝ่ายปิดประตูพลางตะโกนบอกแม่ว่าแขกมา

   สาววัยกลางคนแต่ตัวเล็กน่ารักเดินออกมาพร้อมรอยยิ้ม ใบหน้ามีเค้าของปอนด์อยู่หลายส่วน ทำให้เฟย์รู้ทันทีว่านี่แหละคือว่าที่แม่ยาย...

   “สวัสดีครับแม่ ผมชื่อเฟย์ รบกวนหน่อยนะครับ” ยกมือไหว้อย่างมารยาทงาม เนียนเรียกว่าแม่หน้าตาเฉย กะเรียกให้ชินในอนาคตจะได้สะดวกปาก ปอนด์ผู้คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมองการไกลถึงขนาดนี้ เลยไม่นึกเอะใจแค่รับขนมมาจัดใส่จานสนองปาก

   “หล่อเชียว อายุเท่าไหร่แล้ว” ว่าที่ลูกเขยคุยกับแม่ยายหน้าชื่นตาบาน ในขณะที่ตัวต้นเหตุเริ่มตักเค้กกิน

   “18 ปีครับ” เหล่มองแมวรุ่นใหญ่ที่แกว่งหางไปมาอย่างอารมณ์ดี

   “ปีหน้าก็เข้ามหา’ลัยแล้วสิ ถึงปอนด์จะดูพึ่งพาไม่ได้สักเท่าไหร่ แต่มีอะไรสงสัยก็ถามเจ้าตัวได้นะ เรียนจบมาแล้วนี่”

   ในที่สุดคนโดนพาดพิงก็ยอมเงยหน้าจากเค้กสักที ไม่ได้เห็นแก่กินนะ ส่วนของเฟย์กับแม่ก็จัดใส่จานเลื่อนส่งให้เรียบร้อย แต่ทั้งคู่มัวคุยไม่ยอมกินต่างหาก

   “คงไม่ต้องถามอะไรผมหรอก เฟย์เรียนเก่งอยู่แล้ว” แถมยังดูเป็นผู้ใหญ่กว่าตัวเองในบางครั้ง ปอนด์ต่อประโยคในใจเงียบๆ ทางแม่เมินลูกชายอย่างเต็มภาคภูมิ

   “แล้วนี่จะมาชวนพี่เขาไปเล่นน้ำสินะ”

   โดนเปิดเผยเจตนา เฟย์ก็ไม่คิดจะปิดอีกต่อไป “ใช่ครับ แต่พี่เขาปฏิเสธผมทันที” ทำหน้าเสียดายสุดแสน คุณแม่หัวเราะ

   “พาไปเลยแม่อนุญาต จะได้เปิดหูเปิดตาบ้าง วันๆ ทำงานอยู่แต่กับหน้าคอมไม่ก็งมแต่หนังสือ” โดนเผาระยะประชิด เล่นเอาปอนด์สำลักเค้ก ลำบากเฟย์รีบเลื่อนแก้วน้ำส่งให้ ปอนด์ยกมือทุบอก สำลักจนหน้าแดง กระดกน้ำทีเดียวหมดแก้ว

   “แค่กๆ! แม่ก็พูดเกินไป บางทีผมก็ไปเดินเล่นที่ห้างบ้าง...”

   “ไปเพราะซื้อหนังสืออยู่ดีไม่ใช่รึไง” โดนพระมารดาดักคอ ใบหูบิดไปด้านหลัง ปลายหางแกว่งรัวอย่างกระวนกระวายเพราะโดนแทงใจดำเข้าอย่างจัง ถึงเฟย์จะชอบนั่งสังเกตอารมณ์ปอนด์เล่น แต่งานนี้คงต้องออกตัวช่วยสักหน่อย

   “ผมก็เป็นนะครับ ปกติไม่ค่อยทำอะไร มัวแต่อ่านหนังสือนี่แหละ”

   แม่ตบมือแปะ “พอดีเลย งั้นออกไปเที่ยวทั้งคู่ ระวังตัวด้วยนะ” โดนมัดมือชกบอกลาเสร็จสรรพ ผมอ้าปากค้าง เห็นแม่มองด้วยสายตาคาดหวัง สุดท้ายเลยต้องพยักหน้ารับแบบจำยอม แม่คงหวังดีอยากให้ผมไปผ่อนคลายความเครียดจากเรื่องงานที่ผ่านมา

   ก็นะ แม่ก็คือแม่ ต่อให้ลูกไม่พูด แม่ก็มองออกอยู่ดีว่าลูกเป็นเช่นไร พอกินเค้กเสร็จผมเลยลุกขึ้นขยี้หัวเฟย์อย่างหมั่นไส้ ใช่ว่าไม่รู้นะว่าเป็นแผนการเจ้าเด็กนี่ จะยอมให้หน่อยก็แล้วกัน

   “นั่งกินขนมไปนะ ขอไปเปลี่ยนชุดก่อน”

   เฟย์ยิ้มกว้างตาเป็นประกาย ส่วนผมปลีกตัวขึ้นมาข้างบนเลือกใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงสี่ส่วนสำหรับเล่นน้ำ หางคงต้องปล่อยไปเอาเก็บไม่ได้ จะให้ใส่กางเกงขายาวไปก็ใช่ที ส่วนหูผมใช้ผ้าโพกหัวมาปิดไว้ แม้จะกันน้ำไม่ได้ แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้หูโดนน้ำสาดโดยตรง

   เตรียมพร้อมเสร็จก็ลงมาชั้นล่าง เห็นเฟย์นั่งรอก่อนแล้ว ยื่นถุงซิปกันน้ำให้ผมใบหนึ่ง เตรียมการมาดีจนน่าถีบ

   “แม่พี่ล่ะ” ผมถามหาพระมารดา

   “ออกไปข้างนอกแล้วครับ เห็นว่าจะไปคุยเล่นกับเพื่อนบ้าน แล้วยังฝากบอกอีกว่า ให้พี่ปอนด์ล็อคกุญแจได้เลย แม่หยิบกุญแจสำรองไปแล้ว” เฟย์ตอบฉะฉาน ผมพยักหน้ารับหงึกๆ กวาดสายตามองเฟย์ตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าเด็กนี่ไม่รู้ทำยังไง หลบเลี่ยงน้ำมาถึงบ้านผมได้โดยไม่เปียกสักหยด แต่ชุดนี่จัดเต็มไปต่างกัน เสื้อผ้าสีเข้ม ถุงซิปกันน้ำสีทึบแขวนคอ ในนั้นคงจะมีมือถือกับเงิน

   “งั้นเราก็ไปกันเถอะ มีที่เล่นในใจแล้วใช่มั้ย ได้นัดกับเพื่อนรึเปล่า” ผมถามอย่างรู้ทัน

   “นัดไว้ ทีแรกคิดว่าถ้าพี่ไม่ไปก็จะไปคนเดียวเลยนัดไปเจอกันที่ทางเข้าถนนคนเดิน”

   “โอเค งั้นนำเลยน้องชาย” บอกว่าไม่เล่นๆ พอต้องเล่นก็อดรู้สึกตื่นเต้นนิดๆ ไม่ได้ ผมไม่ได้เล่นน้ำสงกรานต์มาหลายปีแล้ว ตั้งแต่เรียนจบมหา’ลัยนั่นแหละ

   เฟย์หัวเราะ รอจนผมเช็คความเรียบร้อย ล็อคประตูบ้านเสร็จพวกเราก็ออกเดินทางไปยังที่หมาย อาศัยนั่งรถโดยสารเอา ช่วงสงกรานต์คนส่วนใหญ่กลับบ้านต่างจังหวัด แถวนี้เลยโล่งมากเป็นพิเศษ ให้อารมณ์เหมือนเหมารถยังไงชอบกล

   เมื่อถึงที่หมาย สิ่งแรกที่สะดุดตาคือซุ้มทางเข้าถนนคนเดินที่มีตำรวจยืนตรวจคนผ่านเข้าออกเพื่อความปลอดภัย อย่างที่สองคือคนจำนวนมากแต่ไม่ถึงขั้นเบียดจนไร้ทางเดิน และอย่างสุดท้าย...กลุ่มวัยรุ่นชายสามสี่คนยืนเด่นอยู่หน้าทางเข้า ท่ามกลางสายตาของคนรอบข้าง ทำไมนะทำไม ผมมีลางเห่าหอนว่านั่นต้องเป็นกลุ่มเพื่อนเฟย์แน่นอน

   “เฟย์!! มึงมาช้าฉิบหาย พวกกูจะเข้าไปก่อนแล้วเนี่ย” เด็กหนุ่มหน้าตาดีแต่ให้ความรู้สึกกวนส้นร้องทักเฟย์ก่อนเป็นคนแรก ดึงสายตาคนอื่นให้มองตาม

   “ก็มาแล้วนี่ไง อย่าโวยวายไอ้อิงค์” เฟย์หันไปตอบกลับแล้วแนะนำตัวผม “นี่พี่ปอนด์ พี่ที่กูเคยเล่าให้ฟัง” พูดถึงตรงนี้ทุกคนพร้อมใจกันมองหูและหางผม ชัดเจนเลยว่าเฟย์ไปพล่ามอะไรไว้ ผมนึกปลงกับสายตาอยากรู้อยากเห็นที่เคยเจอจนชิน อีกเดี๋ยวจะถามทำนองว่า ‘พี่ยังมีหูหางจริงดิ’

   แต่ดูเหมือนว่าผมจะคิดผิด…

   “หวัดดีครับพี่ ตัวจริงน่ารัก...เอ๊ย! หล่อกว่าในรูปนะเนี่ย” อิงค์ทักทายร่าเริง ดูเป็นหนุ่มอารมณ์ดี แต่เดี๋ยวนะ รูปอะไร? ยังไง?? หันขวับไปทางเฟย์ทันที ทางนี้ไหวตัวทันพุ่งเข้าไปใส่เข่าเพื่อนจนตัวงอ แล้วหันมายิ้มหวานให้ผม

   “ไม่มีอะไรพี่ แค่รูปที่พวกเราถ่ายด้วยกันเฉยๆ ผมเอามาตั้งเป็นภาพหน้าจอมือถือ พวกมันเลยเห็น”

   อ่อ แบบนี้นี่เอง ผมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

   “ไม่ใช่ดิ เป็นรูปตอนนอนที่มี...อุ๊บ!” อิงค์ถูกเพื่อนคนหนึ่งล็อคคอปิดปาก โดยมีหนุ่มต่างชาติอีกคนมองอย่างสมน้ำหน้า จังหวะที่กำลังสนใจกับอาการแปลกๆ ของพวกเพื่อนเฟย์ ก็มีชายหนุ่มอีกคนโผล่เข้ามาคุยกับผม คนๆ นี้มีใบหน้าคล้ายเฟย์ แต่ดูซุกซนและดูออกไปทางน่ารักมากกว่าหล่อ

   “ผมชื่อโฟมเป็นพี่ชายของเฟย์ อายุน้อยกว่าพี่สามปี ว่าแต่ พี่นี่น่าเด็กชะมัด ถ้าเฟย์ไม่บอกว่าทำงานแล้ว ผมคงเข้าใจว่าพี่กำลังเรียนมหา’ลัยอยู่” คนชื่อโฟมเข้ามากอดคอ ผมมองตาปริบๆ มีคนอายุใกล้กันก็พาให้อุ่นใจ ไม่ดูเป็นเด็กโข่งในฝูงเด็กหนุ่มเกรดพรีเมี่ยม หน้าตาดียกแก๊งจนน่าหมั่นไส้

   “ฮ่าๆ ใครๆ ก็บอกแบบนั้น ทั้งที่คิดว่าพักหลังตัวเองทำงานหนักจนหน้าแก่ลงแล้วนะ” ว่าพลางลูบคางไปมา อย่าหวังว่าจะมีตอหนวดเลย แค่มีขนหน้าแข้งผมก็ดีใจจนน้ำตาจะไหลแล้ว เกิดเป็นผู้ชายขนน้อยน่าเศร้าไง อยากไว้หนวดแบบแมนๆ ก็ยังทำไม่ได้

   “ไม่นะครับ หน้าพี่ไม่โทรมเลยสักนิด อย่างมากแค่ตาคล้ำเหมือนคนนอนไม่ค่อยพอเท่านั้นเอง” หนุ่มน้อยน่ารักฉายแววสวยเข้ามาร่วมวงสนทนา

   “ชั้นเหนด่วยนะ” ตามมาด้วยเด็กต่างชาติอีกคนที่ผมเห็นตั้งแต่ทีแรก ภาษาไทยแม้จะยังออกเสียงไม่ชัดเจนแต่พอฟังออกว่าพูดอะไร ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าพวกเรายืนทำความรู้จักกันสี่คนซะงั้น คนที่เข้ามาทักว่าผมหน้าไม่แก่ชื่อฝน เป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนเฟย์ สนิทกับกลุ่มนี้เลยมาเล่นน้ำด้วย ส่วนเด็กต่างชาติชื่อบอริส เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนจากโรงเรียนนานาชาติใกล้โรงเรียนเฟย์ที่อิงค์ไปตีสนิทแล้วลากตัวมาเล่นน้ำแบบงงๆ

   ส่วนพวกเพื่อนเฟย์ได้โฟมช่วยชี้บอกให้ ฝนคือผู้ชายที่ล็อคคอปิดปากอิงค์เมื่อครู่ ส่วนอีกคนที่ยืนเงียบมาโดยตลอดแถมตัวยังใหญ่กว่าเพื่อนวัยเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด นั่นชื่อกบเป็นแฟนโฟม เรื่องนี้ทำเอาผมอึ้งไปเลย

   แต่อะไรก็ไม่น่าปวดใจเท่า เด็กพวกนี้ทุกคนไร้หูหางกันหมด บ่งบอกว่าอะไรคงรู้กันดี ยกเว้นน้ำคนเดียวที่ยังมีหูหางอยู่ รู้สึกว่าจะเป็นครึ่งเฟอเรท ก็เหมาะกับเจ้าตัวดี

   ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ ในที่สุดก็ได้เวลาเคลื่อนพลเข้าสู่สนามรบด้านใน หลังเปิดกระเป๋าให้พี่ตำรวจตรวจเรื่องเครื่องดื่มมึนเมากับของมีคมเสร็จ ก้าวเท้ายังไม่ทันพ้นซุ้มประตูดีก็ถูกน้ำจากสารพัดที่สาดโครมให้เปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้า เย็นชุ่มฉ่ำยันกางเกงใน ซึ่งผมไม่เดือดร้อน ความจริงเปียกตั้งแต่เดินออกจากบ้านมาขึ้นรถเมล์แล้วล่ะ

   เฟย์เห็นสภาพเหมือนแมวตกน้ำของผมก็หัวเราะพลางยื่นอาวุธมาให้

   “เย็นชื่นใจมั้ยพี่”

   ยังมีหน้ามาถามอีก ทั้งที่ตัวเองก็มีสภาพไม่ต่างกันแท้ๆ โดยเฉพาะแป้งที่โบ๊ะเต็มหน้า เฮ้น้องชาย ได้ข่าวว่าเพิ่งปลีกตัวไปซื้อปืนฉีดน้ำเมื่อกี้ในระยะไม่เกินสิบก้าว ไหงกลับมาเหมือนหมาชุบแป้งพร้อมทอดได้ล่ะนี่

   “เย็นจนหนาว” ผมตอบแล้วรับกระเป๋าฉีดน้ำมาพิจารณา กระเป๋าฉีดน้ำแบบปรับสายได้สีสันสดใส ยังไม่เท่าไร เพราะเห็นผู้ใหญ่บางคนก็ใช้กัน แต่ทำไมมันต้องเป็นลายหน้าแมววะ พี่ไม่เข้าใจเลยน้องชว้าย...

   “เอ้านี่เงินทอนครับ” เฟย์ทำเป็นไม่เห็นสายตาสื่อความนัยของผม รูดซิป...อะไร คิดอะไร ซิปถุงกันน้ำไม่ใช่ซิปที่ทุกคนคิดกัน แล้วยัดเงินทอนใส่เข้าไป

   “ความจริงเอาไปใช้เลยก็ได้นะ” นานๆ ทีขอเปย์เด็กหน่อย แม้ว่าเด็กคนนี้จะชอบเอาเงินผมไปซื้อของมาให้ผมอีกทีก็ตาม

   “เก็บไว้ที่พี่แหละ มาเดี๋ยวผมช่วยใส่ให้ เติมน้ำมาซะเต็มคงจะหนักใส่ลำบาก สายไม่บาดนะพี่” ถามไถ่ดิบดี ถามจริงเราสลับอายุกันรึเปล่า ผมส่ายหัวบอกปฏิเสธ

   “เดี๋ยวใส่เอง น้ำหนักแค่นี้สบาย” จริงนะไม่ได้โม้ ถึงผมจะทำงานกราฟิกก็ใช่จะนั่งแช่เฉยๆ ซะเมื่อไร เดินขึ้นลงบันไดทุกวัน เวลามีของหนักก็ช่วยคนที่บริษัทยกในฐานะลูกผู้ชาย ขอยืดอกแป๊บ

   “ครับๆ ใส่เองก็ใส่เอง” เฟย์ยกมือสองข้างเป็นเชิงบอกว่าตามสบาย ผมจัดการใส่ปรับสายทดลองยิง ทุกอย่างเรียบร้อย พร้อมลุย!

   TBC.

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
สงกรานต์ #หนุ่มวายยกกำลังสอง #verสลับอายุหูหาง 6 (จบ)

   สวัสดี ผม ‘เฟย์’ หมาป่าสุดหล่อในดวงใจของทุกคน หลังจากนี้ผมจะรับหน้าที่บรรยายนะครับ เพราะพี่ปอนด์คงมัวแต่เล่นน้ำจนไม่สนอะไรแล้ว ทั้งที่ตอนแรกบ่นว่าไม่อยากมาแท้ๆ แต่เอาเถอะ จะยังไงก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ผมได้เห็นแมวน้อยเปียกน้ำก็พอ

   “เฟย์ ทุกคนหายไปไหนกันหมดแล้ว” หนุ่มวัยทำงานที่หน้าละอ่อนจนชวนเข้าใจผิด หันมาเอียงคอถามผมอย่างสงสัย หลังจากเล่นไปสักพักแล้วไม่เห็นใครนอกจากเด็กหนุ่มที่ชวนมา

   ผมลอบถอนหายใจ แต่ยิ้มกว้างให้พี่ปอนด์ “คนอื่นเขาก็ไปเล่นของเขาสิครับ แยกกันไปเป็นคู่ๆ แล้ว อีกอย่าง คนเยอะแบบนี้มัวจับกลุ่มกันก็ไม่สนุกสิ” ตอบแบบมีหลักการ พี่ปอนด์พยักหน้ารับลากเสียงในลำคออย่างเข้าใจ

   “งั้นเราไปเล่นต่อเถอะ ไว้ตอนจะกลับค่อยโทรเรียกรวมตัวก็ได้” เจ้าตัวยิ้ม ลากผมไปเฮโลฉีดน้ำกับคนอื่นต่อ

   ผมเลือกที่จะเดินตามมากกว่านำหรืออยู่ข้างๆ เพื่อระวังความปลอดภัยให้ผู้ใหญ่ที่กำลังปล่อยตัวไปกับความสนุกสนาน ถึงอย่างนั้นก็ไม่พ้นโดนรุมปะแป้งฉีดน้ำใส่อยู่ดี ไอ้ผมโดนมันเรื่องปกติ มีผู้หญิงหลายคนจงใจเดินเบียดเฉียดใกล้ ขอปะแป้ง แต่ผมไม่สน ตอบไปตามมารยาทเท่านั้น เพราะความสนใจทั้งหมดมันรวมอยู่ที่พี่ปอนด์เป็นจุดเดียว

   เจ้าตัวอาจจะไม่รู้ว่าตัวเองมีเสน่ห์ในแบบของเขา ใบหน้ายิ้มแย้มร่าเริง ความเป็นสุภาพบุรุษกับสาวที่เดินผ่านไปมา น้ำเสียงนุ่มๆ ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป ฟังแล้วชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย ที่สำคัญ ใบหน้าอ่อนเยาว์กับหางเปียกชุ่มที่ส่ายไปมาน้อยๆ ทำให้ทุกคนจ้องตาวาว

   อย่างที่รู้กัน ชายหญิงที่ยังไม่ผ่านประสบการณ์แรกจะไม่สามารถเก็บหูหางได้ตามใจชอบ ความหมายคือซิงนั่นแหละ ดังนั้นคนที่จ้องส่วนใหญ่มักเป็นพวกหูหางหายไปเหมือนอย่างผม ใช่ว่าจะไม่มีคนเนียนเป็นสายซิง แต่มันก็หลอกได้เฉพาะพวกไร้ประสบการณ์เท่านั้น ลองเป็นอย่างผมสิ แค่มองแวบเดียวก็รู้ว่าของจริงหรือของปลอม

   ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องยืนคอยระวังหลังให้พี่ปอนด์ การอยู่ตำแหน่งนี้นอกจากจะกันคนเข้ามาด้านหลังซึ่งเป็นจุดอับแล้วยังสามารถสังเกตการณ์รอบตัวพี่ปอนด์ได้อย่างสบาย รวมถึงการทำแบบนี้...

   แขนแกร่งยื่นไปโอบประคองร่างโปร่งที่ถูกชนจนเซ มือหนาวางแนบตรงท้องน้อย เนียนลูบขึ้นสัมผัสหน้าท้องไร้ไขมันส่วนเกิน ขยับกายเข้าหาอย่างมีเทคนิคให้แมวหนุ่มเอนพิงมาทั้งตัว ยิ่งเสือกผ้าเปียกชุ่มแนบสรีระ คงไม่ต้องพูดถึงสัมผัสที่ได้รับ

   “เป็นอะไรรึเปล่าพี่ปอนด์” ถามชิดใบหู แน่นอนว่าต้องหูแมวที่ถูกผ้าปิดอย่างน่าเสียดาย

   “ไม่เป็นไรๆ ขอบใจมาก” คนซุ่มซ่ามผละออกแบบรู้สึกสยิวแปลกๆ

   “ระวังหน่อยนะพี่ คนมันเยอะ” ยิ้มขัดตาทัพ จนแมวละความสนใจ

   “คนเยอะจริงๆ นั่นแหละ เฟย์มายืนใกล้ๆ กันนี่ ไม่งั้นผลัดหลงกันไปจะแย่เอา” พี่ปอนด์แสดงความเป็นพี่ ดึงให้คนอายุน้อยกว่ามายืนข้างตัวราวกับกลัวเด็กหลง หรือระแวงหลังก็ไม่ทราบ แน่นอนว่าผมต้องตามใจพี่ปอนด์ ถือกระบอกฉีดน้ำยิงผู้ชายทุกคนที่คิดเข้าใกล้ด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ พร้อมส่งสายตาเยือกเย็นกลับไป แสดงให้เห็นว่านี่แมวของข้าใครห้ามแตะ

   จังหวะที่กำลังเขม่นผู้ชายเสื้อดำสายพันธุ์หมาบ้านที่คิดเต๊าะแมวชาวบ้าน จู่ๆ ใบหน้าก็สัมผัสถึงแป้งเหนอะหนะ ไม่ใช่แปะแก้มแบบพอเป็นพิธี แต่นี่ปาดทั้งหน้า หมาป่าหน้าขาวถึงกับขมวดคิ้วยุ่ง พอเห็นว่าใครทำ ปมตรงหว่างคิ้วก็คลายลงกลายเป็นรอยยิ้มกับแววตากรุ่มกริ่ม

   “ปะแป้งกันเร่าร้อนขนาดนี้ เชิญชวนเหรอครับ”

   ศอกเน้นๆ ตอบแทนวาจาทะเล้นน่าเตะ ผมแอบจุก ถึงงั้นก็ยังออเซาะเข้าหาคนข้างกาย

   “น้อยๆ หน่อย ทำหน้าโหดแบบนั้นคนหนีหมดแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก โตจนป่านนี้พี่ดูแลตัวเองได้”

   ผมหรี่ตามอง ก็คงจะดูแลตัวเองได้จริงนั่นแหละ ไม่งั้นคงไม่มีหูหางโชว์หราจนถึงตอนนี้ ส่วนเรื่องที่ทำให้ผมยิ้มกว้างคือ พี่ปอนด์ไม่ใช่คนไร้เดียงสาซะทีเดียว บางครั้งเจ้าตัวรู้มากกว่าที่ผมรู้ซะอีก แต่ทำเป็นไม่สนใจ นั่นเท่ากับว่าการที่อีกฝ่ายไม่ปฏิเสธคำแซว กับการใกล้ชิดของผม แสดงว่าแมวหนุ่มคนนี้มีใจให้ผมเช่นกัน จะจริงหรือไม่นั้น ไว้ผมไปพิสูจน์อีกที

   “พี่...” ผมเรียกพี่ปอนด์ ระหว่างอีกฝ่ายเปิดกระเป๋าแมวเทน้ำให้ผมล้างหน้า

   “มีอะไร” พี่ปอนด์เลิกคิ้วถาม

   “ผมไม่อยากเล่นน้ำแล้วอะ”

   “หยั่มมา เอ้า! ล้างเสร็จแล้วก็ไปเล่นต่อ มาทั้งทีต้องเล่นให้คุ้ม” ผมโดนพี่ปอนด์มองแรงใส่แล้วบ่ายเบี่ยงไปเล่นน้ำหน้าตาเฉย อันนี้จริงๆ จากใจเลยนะ ผมไม่อยากเล่นน้ำแล้ว อยากพาแมวไป...

   “เฟย์เก็บแววตาหน่อย ระยิบระยับจนน่าหมั่นไส้” พี่ปอนด์มียกปืนขู่ ผมยกมือสองข้างยอมแพ้แล้วหันมาสนใจสนุกกับบรรยากาศสงกรานต์แทน แบบไม่ยอมห่างจากพี่ปอนด์ในระยะสองก้าว

   พอเล่นน้ำจนหมดก็ไปขอเติมเอากับพวกซุ้มข้างๆ บางซุ้มให้ฟรี บางซุ้มก็ต้องเสียตัง ถือว่าเข้าใจได้ เพราะค่าน้ำก็ต้องจ่าย ไม่ได้สูบมาจากคลอง แต่ส่วนใหญ่ต้องจ่ายด้วยร่างกาย อย่าเพิ่งมองผมแบบนั้นสิ ไม่ใช่แบบที่คิด แค่เสียสละโดนแต๊ะอั๋งเล็กๆ น้อยๆ อย่างทาแป้งธรรมดา หากเป็นนอกเหนือจากนี้ผมไม่ยอมหรอก พี่ปอนด์ก็เช่นกัน ยอมให้ปะแป้งอย่างเดียว

   ระหว่างเดินบนถนนก็มีบ้างที่เจอพวกเพื่อน อย่างฝนที่คอยดูแลน้ำอย่างกับเป็นพ่อไม่ใช่รุ่นพี่ อิงค์กับบอริสที่ทะเลาะกันเบาๆ พอกระชากมิตร ส่วนโฟมกับกบที่น่าสงสาร โดนพี่ชายเพื่อนฉวยโอกาสลวนลามบ่อยๆ ไอ้กบเองก็ใช่จะนิสัยแสนดีอย่างที่มันแสดงออก ลึกๆ มันก็มีความร้ายเหมือนกัน ไม่งั้นคงคบกับพวกผมไม่ได้ ผลคือ โฟมโดนลากเข้าซอกหลบมุมทำอะไรไม่ทราบ เอาเป็นว่าผมจะทำเป็นมองไม่เห็นแล้วกัน

   เสียงเพลงมันๆ สายน้ำเย็นฉ่ำ ผู้คนมากมาย บรรยากาศคึกคัก แต่ไม่อาจกลบความวุ่นวายเล็กๆ ได้ ทางที่พวกเราผ่านมาเหมือนจะเกิดเหตุอะไรบางอย่างขึ้น ผมกับพี่ปอนด์เลยหยุดเดินหันไปมองอย่างสนใจ ไม่ใช่อะไรนะ เผื่อมีอะไรช่วยได้จะได้ช่วย หรือถ้ามีคนตีกันผมจะได้พาพี่ปอนด์หนีไวๆ

   ผมเห็นมีเจ้าหน้าที่วิ่งไปทางนั้นแล้ว ไม่มีอะไรให้สนใจอีก จึงชวนพี่ปอนด์ไปอีกทาง “เจ้าหน้าที่มาแล้ว คงไม่เป็นอะไรมาก พวกเราไปกันเถอะพี่ปอนด์” มือดึงแขนอีกฝ่ายเบาๆ นอกจากพี่ปอนด์จะไม่ขยับตามแล้วยังยืนนิ่งอยู่กับที่

   “พี่ เป็นอะไรรึเปล่า” ถามอย่างเป็นห่วง ตอนที่ผมขยับเข้าไปใกล้เพื่อดูอาการ กลิ่นอะไรบางอย่างที่คุ้นเคยโชยมาจากตัวอีกฝ่าย พี่ปอนด์ใช้สองมือจับแขนผมแน่น ชักจะแปลกๆ ซะแล้วสิ

   “เฟย์...แคทนิป...” เสียงขาดห้วงแถมยังเบาซะจนผมต้องเข้าไปฟังใกล้ๆ สิ่งที่ได้ยินทำให้สมองผมกระจ่างวาบ มองพี่ปอนด์ที่ค่อยๆ กลับร่างอย่างตื่นตะลึง

   เวรเอ๊ย! มีคนเอาแคทนิปละลายน้ำมาเล่นสงกรานต์ คงเป็นทางที่พวกเราผ่านมา จุดที่เจ้าหน้าที่วิ่งไปก็น่าจะเป็นเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน ผมอุ้มประคองพี่ปอนด์ที่กลายเป็นแมวดำเต็มตัวขนเปียกลู่ แล้วคว้าเอาชุดข้าวของมาถือไว้ด้วยมืออีกข้างก่อนเร่งฝีเท้าออกจากจุดนั้นให้ไว สภาพแบบนี้เล่นน้ำต่อไปไม่ได้แล้ว ผมต้องพาพี่ปอนด์กลับ

   “เฮ้ยเฟย์ จะกลับแล้วเหรอวะ” เสียงอิงค์ตะโกนไล่หลัง ผมเลยชะงักฝีเท้ารอ จำได้ว่าคนที่อิงค์พามาก็เป็นแมวนี่หว่า คงต้องเตือนสักหน่อย

   “มีคนเอาแคทนิปมาผสมน้ำเล่น พี่ปอนด์กูเลยกลายเป็นสภาพนี้ไปแล้ว กูคงต้องกลับก่อน มึงเองก็ระวังหน่อย บอริสเป็นแมวเหมือนกันนี่” ผมบุ้ยปากไปทางบอริสที่กำลังเดินมาทางนี้ อิงค์ตาโตมองผมสลับแมวดำในอ้อมแขน ความจริงแค่น้ำผสมแคทนิปมันไม่มีปัญหาอะไรหรอก พวกแมวแกร่งๆ หน่อยอาจจะแค่ทำให้คึกขึ้น แต่บางรายก็แพ้ กรณีของพี่ปอนด์น่าจะเซนซิทีฟเลยทำให้กลับร่างเดิม

   “ใครแม่งเล่นพิเรนทร์วะ” อิงค์บ่นอุบสีหน้าไม่ชอบใจ พอเห็นบอริสไม่มีท่าทีอะไรก็โล่งอก

   “เอาเป็นว่ากูไปก่อนแล้วกัน ฝากบอกไอ้กบด้วย อย่าลืมพาพี่ชายกูไปส่งบ้าน” ผมสั่งกำชับ ไอ้อิงค์หัวเราะ เป็นเรื่องที่รู้กันดีว่า คู่โฟมกับกบเป็นยังไง

   หลังคุยกับเพื่อนเสร็จผมก็ปลีกตัวออกมา อาศัยความสามารถทางสายเลือด เร่งฝีเท้าให้ไว หลบชาวบ้านอย่างคล่องแคล่วจนมาโผล่อยู่หน้าทางเข้าถนนคนเดินแล้วโบกรถมอไซค์กลับ เพราะที่นี่ไม่ห่างจากบ้านผมเท่าไรนัก ผมหยิบเงินในกระเป๋ากันน้ำจ่ายแบบทุลักทะเล พอเข้าบ้านแม่เห็นสภาพถึงกับอึ้ง

   ตอนออกไปแต่งซะหล่อ กลับมานอกจากจะตัวเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำแล้วยังถือของแบบบ้าหอบฟางกลับมาอีก แขนข้างหนึ่งอุ้มแมว อีกข้างถือเสื้อผ้าพี่ปอนด์กับปืนฉีดน้ำสองกระบอก ยังดีหน่อยของพี่ปอนด์สะพายได้

   “ตาเถร! ลูกไปลักพาตัวใครมา!!” แม่อุทานทันทีที่เห็นผม ขนาดพ่อยังเดินมาดูจากหลังบ้าน
   
   “เฟย์ พ่อรู้ว่าลูกชอบแมวและบ้านเราก็เลี้ยงไว้ตั้งสองตัว แต่ลูกก็ไม่ควรไปลักพาตัวใครมาเลี้ยงนะ” น้ำเสียงนิ่งขรึม วาจาชวนขำ ผมหัวเราะส่ายหัวกับพ่อแม่อารมณ์ดี

   “นี่พี่ปอนด์ที่ผมเล่าให้ฟังไง พอดีเกิดเหตุนิดหน่อยตอนเล่นน้ำเลยเป็นแบบนี้”

   พี่ปอนด์ที่แค่มึนแคทนิป ส่งเสียงเหมี้ยวชวนละลาย ผมเกือบจะเก็บอาการไม่อยู่ก้มลงไปฟัดแมว จำต้องท่องขันติในใจ

   “อ่อ แล้วโฟมล่ะ ไม่ได้กลับมาด้วยกันเหรอ” แม่มองหาพี่ชายคนโต ผมยักไหล่ถอดรองเท้าเดินเข้าบ้าน

   “ยังเล่นน้ำอยู่ เดี๋ยวก็คงกลับมาพร้อมกบนั่นแหละ ผมขอพาพี่เขาขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวลงมาถูพื้นให้นะครับแม่”

   “ไปเถอะ แม่จัดการเอง” คุณแม่โบกมือไล่ ผมเลยอุ้มพี่ปอนด์ขึ้นชั้นสอง ระหว่างทาง เจ้าเหมียวสองตัวที่ผมเลี้ยงไว้มาเดินวนเวียนอยู่รอบตัว คงสนใจแขกแปลกหน้าที่เป็นสายพันธุ์เดียวกัน พี่ปอนด์ส่งเสียงทักกลับไป ไม่รู้เขาคุยอะไร ถ้าผมเป็นครึ่งแมวก็ดีสิ

   พอถึงห้อง คว้าผ้าขนหนูมาสองผืนแล้วตรงดิ่งเข้าห้องน้ำทันที จู่ๆ พี่ปอนด์ก็ดิ้นจะลงให้ได้ แต่ผมฝืนไว้จนกระทั่งปิดประตูล็อคค่อยปล่อยลงบนพื้นห้องน้ำ เห็นเจ้าตัวเดินระส่ำระส่ายไปมา เกาประตูแกร่กๆ เหมือนจะออก

   “อาบน้ำก่อนพี่ค่อยออก” ว่าพลางถอดเสื้อผ้าทิ้ง กองรวมกับชุดพี่ปอนด์ ไว้ค่อยซักทีเดียว จังหวะที่หันกลับมาถึงกับหลุดขำพรืด เห็นแมวดำยกอุ้งเท้าสองข้างปิดตา แสดงว่าสร่างเมาแคทนิปแล้วสินะ แต่ที่ยังไม่ยอมกลับร่างเดิมก็เพราะ...มองไปทางเสื้อผ้าที่กองไว้อีกด้าน

   ผมกระตุกยิ้มมุมปาก ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อุ้มพี่ปอนด์มาจับอาบน้ำ ส่วนตัวเองนั่งบนเก้าอี้เล็ก ไม่นำพาเรื่องร่างกายเปลือยเปล่าเลยสักนิด ผมไม่เสียหายนี่ ดีซะอีก เผื่อพี่ปอนด์จะติดใจยอมเป็นของผมสักที อะแฮ่ม เผลอฝันหวานไปหน่อยแฮะ ขนาดตอนนี้พี่ปอนด์ยังหลับตาปี๋ไม่ยอมลืมตาขึ้นมา

   “หลับตาเพราะกลัวแชมพูเข้าตาสินะ ไม่ต้องห่วงพี่ ฝีมือระดับผม เชี่ยวชาญการอาบน้ำแมวแล้ว” ว่าพลางอาบนวด ละเลงแชมพูจนกลายเป็นแมวฟองฟอด ท่องในใจว่ากำลังอาบน้ำแมว ไม่ใช่พี่ปอนด์ที่ผมแอบชอบ ไม่งั้นเกิดอะไรๆ มันตื่นขึ้นมาจะซวยเอา

   ผมกลัวพี่ปอนด์จะหนาว เลยรีบอาบน้ำให้เสร็จ ล้างแชมพูจนสะอาดแล้วเช็ดตัวห่อด้วยผ้าขนหนูค่อยมาจัดการในส่วนของตัวเอง เชื่อมั้ย จนป่านนี้พี่ปอนด์ก็ยังไม่ยอมเปิดตา ขนาดผมอาบน้ำด้วยความไวแสง นุ่งผ้าขนหนูอุ้มอีกฝ่ายเข้าห้องนอนแล้วนะ

   แน่นอนว่าผมต้องดูแลพี่ปอนด์ก่อน นั่งตรงขอบเตียง หยิบเอาไดร์เป่าผมมาเป่าขนแมวให้แห้ง จนกลายเป็นแมวขนฟูฟ่องหอมกรุ่นแล้วยังนุ๊มนุ่มให้ทาสแมวเผลอตัวเผลอใจเอาจมูกโด่งกับหน้าหล่อๆ ไปซุกฟัดเพลิดเพลิน ยิ่งอีกฝ่ายเป็นแมวที่มีความนึกคิดอย่างคน ไม่กางเล็บข่วนแน่นอน ก็ยิ่งฟัดอย่างเมามัน จนโดนโวยใส่เสียงแหลมนั่นแหละ ผมค่อยผละออกอย่างเสียดาย

   “เดี๋ยวผมไปหาเสื้อผ้ามาให้พี่ใส่ พี่กับโฟมน่าจะหุ่นพอๆ กัน คงใส่ด้วยกันได้” ยอมถอยทัพ อดใจไม่พุ่งเข้าใส่แมวที่ขู่พองขนกลมฟูอยู่บนเตียง อยากลองจิ้มเจ้ากลมๆ สองลูกนั่นจัง แต่เดี๋ยวจะอนาจารเกินไป หักห้ามใจไปห้องโฟมเพื่อหาชุด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าโฟมล็อคห้อง เลยต้องวกกลับมากะเอาเสื้อผ้าตัวเองให้ใส่แทน ใครจะไปคิดล่ะว่ามาเจอฉากเด็ด

   แมวดำวัยหนุ่มถูกแทนที่ด้วยผู้ชายครึ่งแมวที่กำลังค้างอยู่ในท่ากลับร่างหมาดๆ เรือนร่างสมส่วนไม่ผอมไม่หนาจนเกินไปอยู่ในท่าคลานสี่ขา แผ่นหลังเนียนกับบั้นท้ายขาว พีคสุดหูแมวที่ลู่มาทางด้านหลังบนกลุ่มผมนุ่มสีดำ กับหางหนาสมขนาดตัวที่กวัดแกว่งไปมาอย่างประหม่า ขนหางสีดำช่างตัดกับก้นกบขาวๆ ซะจริง

   จากที่บรรยายไปข้างต้นคือภาพเพียงเสี้ยววินาทีตอนที่ผมเปิดประตูเข้าห้องมา ซึ่งตอนนี้พี่ปอนด์ไปซุกอยู่ในผ้าห่มเรียบร้อยแล้ว ผมเผยสีหน้าโคตรเสียดายแบบไม่ปิดบัง

   “ไหนบอกไปเอาเสื้อไง!!” คนโดนจ้องเป็นอาหารตาตวาดแง้ว หางพองฟูอย่างกับกระรอก หูตั้งตรงใบหน้าขึ้นสีเรื่อไม่รู้ว่าอายหรือฤทธิ์แคทนิปยังไม่หมดดี แต่ผมว่าน่าจะเป็นอย่างหลังนะ ตะกี้เหมือนเห็นไข่แมว...แฮ่ม! เหมือนจะเห็นบางสิ่งตื่นตัวอยู่

   เนื่องจากผมเป็นทาสแมวที่รักและหลงแมวมาก โดยเฉพาะแมวที่ชื่อว่าปอนด์ ผมไม่อาจปล่อยให้อีกฝ่ายทรมานได้ แย้มรอยยิ้มใจดี ค่อยๆ ขยับเข้าหาช้าๆ แล้วนั่งลงข้างเตียงไม่แสดงท่าทีคุกคาม พยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุด

   “พอดีผมลืมไปว่าโฟมชอบล็อคห้อง พี่คงต้องใส่เสื้อผ้าของผมไปก่อน ไม่มีปัญหาเนอะ”

   “ไม่มี รีบเอามาสิ แล้วไปใส่เสื้อผ้าด้วย จะนุ่งผ้าขนหนูอีกนานแค่ไหน” โบกมือไล่ชิ่วๆ ในสายตาผมเหมือนแมวกำลังขู่ไล่น้องโฮ่ง ผมหัวเราะในคอยอมลุกไปที่ตู้ จังหวะที่พี่ปอนด์ผ่อนการ์ดลงก็หันขวับกระโจนใส่รวดเดียวแล้วคร่อมทับ เท้าแขนไว้กับหัวเตียงกักอีกฝ่ายไว้ตรงกลางกันหนี

   “พี่ปอนด์ พวกการ์ตูนวายมีฉากหนึ่งที่ฮิตสุดๆ พี่คิดว่าฉากอะไรครับ” เอ่ยถามเสียงนุ่ม

   “มันก็ฮิตหมดนั่นแหละ อย่าทับได้มั้ยมันหนัก ลุกออกไปที” ฝ่ายปอนด์ ใครมันจะไปกล้าพูดล่ะว่าฉากไหน ในเมื่อบรรดาโดกับมังงะวายทั้งหลายฉากฮิตที่สุดคงไม่พ้น...

   “ตอบไม่สมเป็นหนุ่มวายเลยนะพี่ เอางี้ผมใจดีจะเฉลยให้แล้วกัน” ยื่นหน้าเข้าไประยะประชิด ลมหายใจเป่ารดจนแมวตัวสั่น แล้วยิ่งตาเบิกกว้างเมื่อเห็นหูหมาป่าของแท้ กับแววตาที่เปลี่ยนไป นัยน์ตาดำควรเป็นวงกลมตอนนี้กลายเป็นเส้นขีดเรียวเล็ก ทุกครั้งที่เด็กหมาป่าพูดจะเห็นเขี้ยวแกร่งสีขาวมุก

   “ฉากที่เคะกับเมะใช้มือช่วยกันปลดปล่อย...ดังนั้น พวกเรามาลองทำกันเถอะ ให้สมกับเป็นหนุ่มวายไงครับพี่ปอนด์” ส่ายหางที่เพิ่งเอาออกมาอย่างอารมณ์ดี มือล้วงเข้าไปใต้ผ้าห่มสัมผัสส่วนตื่นตัวจนแมวสะดุ้ง ผมไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว ใช้มือรวบรูดตามยาวให้คุณแมวดำสะท้านเฮือกๆ เพียงไม่นาน มือที่ยึดแขนผมเพื่อห้ามเปลี่ยนเป็นจับเพื่อดึงสติตัวเอง

   ดวงตาคมวาววับ ลิ้นเลียริมฝีปากเพ่งมองสีหน้าเหมือนจะขาดใจของแมวโดนรังแก ใบหน้าอ่อนเยาว์เหมือนเด็กมหา’ลัยแดงก่ำ หูแมวบิดลู่ไปด้านหลัง ริมฝีปากเผยอหอบหายใจเผยให้เห็นลิ้นสีชมพูอมแดงจนผมชักสงสัยว่า มันจะสากเหมือนกับลิ้นแมวที่ผมเลี้ยงมั้ยนะ
   
   ไวเท่าความคิด ผมสอดนิ้วเข้าไปในโพรงปากนุ่มเขี่ยลิ้นอีกฝ่ายเล่น แม้จะไม่สากเท่าร่างแมว แต่ก็นับว่ามากกว่าลิ้นคนทั่วไป ชวนให้คิดว่า ถ้าหากใช้ลิ้นนี้ช่วยผมแล้วล่ะก็ มันจะ...

   “อึก...ชักเป็นผมที่ทนไม่ไหวเองแล้วสิ พี่ช่วยผมหน่อยนะ” เอ่ยเสียงแหบพร่าซุกหน้ากับลำคอขาว จับมือคนอายุมากกว่าให้มาแตะส่วนกลางที่ปวดจนทรมานของผม พลางหยุดมือกะทันหัน ใช้ปลายนิ้วกดส่วนปลายไม่ให้ปลดปล่อย พี่ปอนด์ถึงกับทำหน้าเหยเกวูบหนึ่ง

   ผมแสดงตัวชัดเจนว่า ถ้าพี่ไม่ช่วยผม ผมก็จะทิ้งค้างไว้แบบนี้ ผลสุดท้าย ด้วยความต้องการผสมกับฤทธิ์แคทนิปจางๆ มืออันสั่นเทาก็ยอมให้ความร่วมมือ ได้คนที่ชอบมาทำให้กับทำเองนี่ อารมณ์โคตรจะแตกต่าง รู้สึกดีจนแทบอดใจไม่ไหว คว้าหางนุ่มมาจูบซ้ำๆ แล้วงับเบาๆ เหมือนหมาแทะ ขณะที่ใช้จมูกสูดกลิ่นอีกฝ่ายเข้าเต็มปอด

   ไม่ไหวแล้ว...จะหน้ามืด

   ผมเร่งจังหวะขยับให้พี่ปอนด์รีบปลดปล่อย มือรีดน้ำออกมาจนหมด ส่วนตัวเองผุดลุกขึ้นเหมือนเจอของร้อน

   “พี่หาชุดในตู้ผมใส่ไปเลยนะ เดี๋ยวผมมา” พุ่งตัวออกจากห้องนอนเข้าห้องน้ำแบบแทบกระโจน ใช้มือปรนเปรอตัวเองโดยด่วน หากเมื่อครู่ช้ากว่านี้เพียงเสี้ยววิ ผมได้ขันแตกทำตามใจชอบแน่

   ไม่รู้ว่าผมใช้เวลาในห้องน้ำไปนานเท่าไร แต่จัดการอาบน้ำอีกรอบแถมถือโอกาสซักผ้าเพื่อสงบสติอารมณ์ พอซักเสร็จก็บิดหมาดใส่กะละมังไว้ค่อยเอาไปตาก ส่วนตัวเองเดินกลับห้องไปใส่เสื้อผ้า กะว่าพี่ปอนด์คงจะเผ่นกลับไปแล้วแหละ

   ที่ไหนได้ นอกจากอีกฝ่ายยังไม่กลับ ยังใส่ชุดผมนั่งกอดอกทำหน้าเคร่งอยู่ข้างเตียง ตอนที่ผมเปิดประตูเข้ามาเห็นอีกฝ่ายแอบสะดุ้งแต่พยายามเก็บอาการ ผมนับหนึ่งสองสามในใจ เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบชุดมาใส่แล้วหันมาประจันหน้ากับแมวหน้าแดง

   “พี่จะด่า จะว่า จะชก หรือกระทืบผมเลยก็ได้” อีกฝ่ายจะเปิดปากพูด ผมชิงพูดดัก “ขอบอกก่อนเลยว่าผมไม่ได้ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ทุกอย่างที่ผมทำเป็นความรู้สึกออกมาจากใจ ผมเชื่อว่าพี่รู้ว่าผมคิดยังไงกับพี่” พูดแบบรวดเดียวจบ ความจริงในใจผมกลัวแทบบ้า คิดไปสารพัดว่าหากอีกฝ่ายโกรธจริงผมจะหาวิธีอะไรมาง้อดี อะไรนะ? นึกว่าผมจะยอมตัดใจ?? ฝันไปเถอะ! คนนี้ของจริง ผมไม่มีทางปล่อยมือหรอก

   พี่ปอนด์ดูอึ้งๆ อ้าปากพะงาบๆ จะพูดก็ไม่พูดสักที ส่วนผมก็ยืนรอแบบใจเย็น(?)

   “เฮ้อ...”

   บอกเลย แค่เสียงถอนหายใจไม่ทำให้ผมหวั่น แค่คิ้วกระตุกใจแป้วไปหน่อยนึง

   “รู้ตัวรึเปล่าว่าความรู้สึกแสดงออกมาทางหูหางหมดแล้ว” พี่ปอนด์พูดเจือขำ ผมชะงัก

   ในสายตาของปอนด์เห็นหมาน้อยหูลู่หางตกซะจนน่าสงสาร พอทักก็สะดุ้งหูตั้งหางชี้เหมือนเวลาหมาทำความผิดแล้วถูกเจ้านายจับได้

   “บอกตามตรงว่าพี่โกรธ” พี่ปอนด์เริ่มเข้าโหมดดุ ผมยอมก้มหน้ารับฟังโดยดี ไม่ฝืนหูหางปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้พี่ปอนด์อ่อนลงมาบ้าง

   “ผมรู้” โดนเด็กอายุห่างกันเกือบสิบปีทำแบบนั้นยังไงก็ต้องเสียหน้า ไม่ใช่แค่เป็นผู้ชาย ยังอายุมากกว่าอีก

   “รู้ว่าต้องโกรธแต่ก็ยังทำ เอาเถอะ แบบนี้ก็สมเป็นวัยรุ่นดี ไม่ใช่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่อย่างทุกที” ท้ายประโยคพี่ปอนด์พูดเสียงเบาหวิว แต่บังเอิญผมหูดีได้ยินชัดแจ๋ว เงยหน้ามองตาเป็นประกายทันที

   “ไม่ต้องมากระดิกหาง! ต่อให้แกว่งจนหลุดก็ไม่ยกโทษให้ง่ายๆ อย่าคิดว่าพี่ยอมแล้วจะทำอะไรก็ได้นะ ตราบใดที่ยังไม่คบกัน ห้ามทำอะไรบ้าๆ อีก”

   “หมายความว่าถ้าคบแล้วผมสามารถทำอะไรที่บ้ายิ่งกว่านี้ได้ใช่มั้ยครับ”

   “มะ...ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นเว้ย!! ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ห้ามทำ ช่วงนี้ห้ามเข้าใกล้ในระยะสามเมตร หากฝ่าฝืนเมื่อไหร่เจอดีแน่”

   โฮ่...ผมอยากจะบอกเหลือเกิน ภาพแมวถลึงตาใส่หางฟูขู่ฟ่อๆ ไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด แต่ก็นะ ผมมีชนักปักหลังอยู่ ไม่อยากให้คะแนนติดลบไปมากกว่านี้ ทั้งที่เพิ่งพัฒนาความสัมพันธ์ไป

   “ครับๆ ระหว่างนั้นผมไปหาพี่ได้มั้ย นัดเจอข้างนอกด้วย” ยอมถอยให้ก่อน เข้าใจว่าอีกฝ่ายเริ่มมีใจให้แต่หน้าบางจัดๆ เลยต้องรักษาฟอร์มความเป็นผู้ใหญ่ ผมจะตามน้ำไปก่อนแล้วกัน

   “ไม่ได้!”

   “อ้าว งั้นหนังสือที่สลับกันอ่าน ร้านขนมที่ลดราคาถ้ากินกันสองคน แล้วยังบัตรส่วนลดร้านการ์ตูนที่อยู่กับผม...”

   “ก็ได้! เจอกันปกติ แต่ห้ามเข้าใกล้เกินไป”

   “รับทราบครับ!” รับคำแข็งขัน ทั้งที่ในใจหัวเราะลั่น ไว้ผมจะรอดูแล้วกันว่าพี่จะรักษามาดได้สักกี่น้ำ เผลอๆ จะเป็นฝ่ายลืมตัวซะก่อน ยิ่งเป็นแมวจอมขี้ลืมอยู่ คิดไปปากก็ชวนคุยเบนความสนใจ “พวกเราลงไปข้างล่างเถอะพี่ เล่นน้ำเหนื่อยๆ ไปหาอะไรกินเพิ่มพลังงานกัน ผมจะได้เอาผ้าไปตากด้วย”

   “ไปสิ” อีกฝ่ายพยักหน้ารับหงึกๆ ผมถอยให้พี่ปอนด์ออกมาก่อน ยอมรักษาระยะห่างตามที่ตกลงกันไว้ แต่ไหงคนที่ควรอยู่ห่างๆ กลับมายืนอ้ำอึ้งหน้าแดงตรงประตูหน่อ

   “เฟย์...เอ่อ...”

   “ครับ?”

   “ผ้าปูกับผ้าห่มมัน...” เสียงเบามากจนผมต้องพยายามกระดิกหูฟัง พอเข้าใจก็ร้องอ่อ

   “เดี๋ยวผมจัดการเองพี่ พี่ลงไปก่อนเลย” ยิ้มให้อีกฝ่ายคลายใจ รอจนกระทั่งพี่ปอนด์ลงไปชั้นล่างแล้วค่อยวกกลับมาดูสภาพผ้าปูกับผ้าห่มของตัวเอง ความจริงมันก็ไม่เปื้อนหรอก เพราะเมื่อครู่ผมใช้มือตัวเองรองรับ แล้วรูดทิ้งท้ายเก็บเรียบหมด หรือต่อให้เลอะก็คงแค่นิดๆ หน่อยๆ ไม่เท่าน้ำลายโฟมที่แอบมานอนอ่านหนังสือวายเล่นห้องผมหรอก

   ดังนั้นปล่อยเอาไว้แบบนี้แหละ ผมไม่อยากรีบซัก เก็บกลิ่นหอมๆ ของแมวตัวโปรดไว้ก่อน เพื่อรอเวลาที่จะได้มาเป็นของตัวเอง...
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

พาร์ทพิเศษสงกรานต์จบแล้วจ้า ตอนต่อๆ ไปจะโพสลงเพจตามเดิม เว้นแต่มีตอนไหนที่ต้องแต่งยาวๆ ถึงจะแต่งลงเว็บเน้อ

ออฟไลน์ kiolkiol

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รู้สึกจะสำลักขนแมวค่ะ แค่กๆ 5555

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
น่ารักมาก เนื้อเรื่องใสๆเบาหัวมาก

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
พี่เฟย์ นายมันตัวร้าาาาาย

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
For You#หนุ่มวายยกกำลังสอง#verสลับอายุหูหาง10

   วันนี้ครับ เป็นวันครบรอบหนึ่งอาทิตย์ของการมีแฟนเด็ก พอมานั่งคิดๆ ถึงอายุเฟย์แล้วก็รู้สึกหนาวเยือกขึ้นมา คลับคล้ายคลับคราว่าจะไม่สบายเกิดอยากไอดัง

   คุก คุก...

   “พี่ปอนด์ เหม่ออะไรครับ เดี๋ยวชาเย็นหมดนะ” เจ้าหมาป่าตัวร้ายที่ล่อลวงผมให้ก้าวเท้าเข้าสู่ห้องกรงกำลังนั่งทำหน้าหมาสงสัยได้อย่างน่าเอ็นดู หูตั้งอย่างกระตือรือร้น หางสายขวับๆ ตั้งแต่ผมเปิดรับเข้าห้องจนตอนนี้ก็ยังไม่หยุด ไม่รู้สึกเมื่อยบ้างหรือไงนะ

   “มองหน้าผมแล้วเอาแต่เงียบแบบนี้ เชิญชวนรึเปล่าครับ”

   แค่ก!!

   ถึงกับสำลักชาอุ่นที่กำลังซดเลยทีเดียว

   “มุกนี้จำจากมังงะเรื่องไหนมา” ถลึงตาใส่เจ้าหมาที่ตีหน้าซื่อตาใส

   “รู้ทันอีก ฮ่าๆ” มีหัวเราะกลบเกลื่อน ผมส่ายหัวกับเจ้าหมาป่าจอมแผนการ ละสายตาจากคนตรงข้ามมองที่จานแทน

   ระหว่างที่ผมกำลังกินเค้กชาเขียว ขอเท้าความกันสักหน่อย อย่างที่บอกไปข้างต้น เนื่องในโอกาสที่เฟย์สอบติดมหา’ลัยได้ และคบกับผมมาได้หนึ่งอาทิตย์ เฟย์เลยฉลองด้วยชาและขนมที่ผมกำลังกินอยู่ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่านี่ฉลองให้เฟย์หรือให้ผมที่สละโสดกันแน่ แล้วผมยังมีเรื่องสงสัยอยู่อีกอย่าง ไอ้ถุงสีทึบท่าทางไม่น่าไว้ใจนั่นมันอะไรกันนะ

   หนุ่มวัยทำงาน มือถือจานเค้กจิ้มกินไม่หยุดปาก ดวงตาจับจ้องไปยังถุงปริศนา หูตั้งตรง ปลายหางตวัดส่ายท่าทางสนใจ เหมือนเวลาแมวเล็งเหยื่อ อดไม่ได้ที่จะนึกภาพตาม แมวดำขนสวยน่ารัก ย่อตัวก้นโด่งส่ายบั้นท้ายเตรียมกระโจนใส่ของเล่น

   เฟย์จำต้องหันหน้าหนี ยกมือปิดปากกดสัญชาตญาณของหมาป่าให้ลึกลงไปเท่าที่จะทำได้ ท่องไว้ ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม สุดท้ายเลยตัดสินใจเบี่ยงประเด็น ลุกเดินไปหยิบถุงดังกล่าวมายื่นส่งให้

   “ของที่ผมบอกว่าจะให้พี่”

   “หมอน?” หยิบออกมาดู เป็นหมอนธรรมดาแต่นุ่มฟูน่านอน ที่สำคัญ กลิ่นนี้...

   “ผมคิดว่าพี่น่าจะชอบ”

   “แคทนิป!!” ผมตาโต เอาหน้าจุ่มหมอนแล้วดมฟุดฟิดซุกซบอย่างเผลอตัว กลิ่นมันอ่อนๆ กำลังดี ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่าทำให้มึนเมา ถ้าระดับนี้ผมโอเคนะ ชอบเลยแหละ ยังไงแมวก็ไม่พ้นแคทนิปอยู่ดี อยากเอาตัวถูๆ ใส่หมอนจังเลย

   คิดอย่างเหม่อๆ พอสายตาเลื่อนไปเห็นเฟย์ที่กำลังยิ้มตาพราวระยับถึงเพิ่งรู้ตัวว่าหลุดมาดไปจังเบอร์!

   “ก็ชอบนะ แต่มันแพงมากเลยไม่ใช่เหรอ” ผมงึมงำถาม แขนกอดหมอนไม่ปล่อย พยายามข่มใจไม่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับแคทนิป

   “ขอแค่พี่ชอบก็พอแล้ว เรื่องราคาไม่มีปัญหา เพราะผมมีคนรู้จักอยู่เลยซื้อได้ในราคาย่อมเยา” ความจริงเฟย์จ่ายเต็มโดยใช้เงินเก็บของตัวเอง แต่เรื่องอะไรจะบอกล่ะ อีกอย่าง แค่หมอนใบเดียว ราคาไม่ถึงเศษเสี้ยวของเตาอบขนมที่เพิ่งถอยมาด้วยซ้ำ

   “งั้นเหรอๆ ขอบใจนะ วันหลังแนะนำบ้างสิเผื่อพี่จะซื้อมาใช้เอง” ของดีราคาถูกหนุ่มแมวย่อมสนใจ ถึงขนาดหูตั้งหางส่ายรัวอย่างตื่นเต้น เฟย์หัวเราะแล้วลุกเดินมายืนอยู่ข้างๆ

   “เขาไม่ลดให้คนอื่นนอกจากผมนี่สิ เอาไว้พี่อยากได้อะไรค่อยบอกผมนะ ตอนนี้ผมว่าพี่เอาหมอนไปเก็บในห้องก่อนดีกว่า เดี๋ยวมันเลอะ”

   คิดตามแล้วก็เป็นอย่างที่อีกฝ่ายบอกจริงๆ ต้องหาปลอกหมอนใส่ด้วย ผมไม่อยากให้มันเลอะจนต้องส่งซัก เพราะหากทำแบบนั้นกลิ่นแคทนิปจะจางลงกลายเป็นหมอนธรรมดาไป

   ขณะเดียวกันใครบางคนเนียนเดินตามหลังเข้าห้องนอนหน้าตาเฉย แถมยังปิดประตูพร้อมล็อคเสียงเงียบกริบ ดวงตาคมจ้องมองแมวหนุ่มที่กำลังอารมณ์ดีกับหมอนใบใหม่ ความจริงสิ่งที่เฟย์จะให้ไม่ใช่หมอน มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ของจริงมันต่อจากนี้

   ระหว่างที่กำลังใส่ปลอกหมอน จู่ๆ ก็ถูกรวบกอดจากทางด้านหลัง พอจะดิ้นหนีตามนิสัยกลับต้องชะงักเพราะกลิ่นบางอย่างที่โชยมาจากตัวอีกฝ่าย มือหนาข้างหนึ่งรวบเอว ส่วนอีกข้างถูไถแถวลำคอจนได้ยินเสียงครางครืดๆ ใบหูแมวบิดลู่ไปด้านหลัง ก่อนโดนงับปลายหูให้สะดุ้งเฮือก

   “พี่ ผมขอรางวัลนะ” เสียงแตกหนุ่มกระซิบพร่า ไม่ยินยอมให้ปฏิเสธ เพราะมือล้วงลงล่างกอบกุมส่วนอ่อนไหวเป็นตัวประกัน กลิ่นแคทนิปที่อบอวนไปทั่ว พาให้สมองมึนเบลอแปลกๆ และยิ่งใกล้ชิดก็ยิ่งได้กลิ่นมากขึ้น

   “เจ้าหมาป่าชั่วร้าย” ปอนด์ได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันแทบจะคงสติไม่อยู่ ถูกต้อนจนมุมไปซะทุกทาง ยิ่งเป็นพวกไวต่อแคทนิปอยู่แล้วแทบไร้ทางรอด ที่สำคัญ เจ้าหมาจอมวางแผนดันกะปริมาณพอเหมาะไม่มากถึงขั้นกลับร่างแมวด้วย

   “ถ้าได้พี่ผมยอมร้ายนะ ขอทั้งตัวและหัวใจเลย”

   “อึก...” มือร้อนเร่งจังหวะขึ้นจนแทบเข่าอ่อน กางเกงเจเจกองอยู่ปลายเท้าเหลือเพียงซับในหมิ่นเหม่ติดสะโพก ชายเสื้อถูกถลกขึ้นจนถึงคอ วาดผ่านเค้นคลึงยอดอกแทบกระตุ้นทุกทาง ใช่ว่าไม่ขัดขืน แต่มืออ่อนแรงไม่สามารถดึงแขนแกร่งออกจากตัวได้ จากยื้อหยุดกลายเป็นยึดจับเพื่อพยุงกายยามถึงจุดสุดยอด

   เฟย์อาศัยช่วงเวลาที่อีกฝ่ายเพิ่งปลดปล่อย จัดการดันลงเตียงในท่าคว่ำหน้าพลางถอดเสื้อผ้าแสนเกะกะออกให้หมด แล้วคร่อมทับจากทางหลัง จงใจให้แมวหนุ่มซุกใบหน้าหมอนใบใหม่ โดนมอมเมาทั้งกลิ่นและสัมผัส แบบนี้จะไปไหนพ้น

   จมูกโด่งสูดกลิ่นปนเหงื่อสุดเร่าใจจากลำคอ ลิ้นแลบเลียบนกายที่สั่นระริก แขนหมาป่าโอบไปด้านหน้ากุมส่วนอ่อนไหวค่อยปลุกเร้าไม่ได้ขาด คนที่โดนแคทนิปมอมเมาจนคุมสติไม่อยู่ เผลอตัวขยับกายถูไถกับกลิ่นหอมจากร่างด้านหลัง สัมผัสไอร้อนของผิวกายผ่านเสื้อผ้าจนบั้นท้ายเสียดสีกับส่วนนูน เฟย์สูดลมหายใจเฮือก ข่มอารมณ์ที่เกือบจะหน้ามืดไปวูบหนึ่ง

   มือรั้งใบหน้าสบดวงตาฉ่ำเยิ้มด้วยแรงอารมณ์ ค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปในโพรงปากหยอกเย้ากับลิ้นสากสมสายพันธุ์ ความคิดที่อยากให้อีกฝ่ายใช้ปากให้ยังไม่หายไป แต่เวลานี้คงไม่เหมาะเท่าไร เลยเบนความสนใจเป็นประกบปากจูบสอดลิ้นเกี่ยวพันดูดดื่มจนน้ำใสไหลมุมปาก แขนอีกข้างล้วงหยิบเจลจากกระเป๋ากางเกงมาบีบชะโลมจนทั่วนิ้วพร้อมป้ายช่องทางด้านหลัง นวดเฟ้นไม่สนร่างที่กระตุกเกร็ง

   “อืมม..ไม่ ไม่...” ปากถูกครอบครองเอ่ยไม่เป็นคำ แถมยังถูกจูบซ้ำๆ แทบไม่เว้นช่วงกลบคำปฏิเสธทั้งหลายให้อีกฝ่ายกลืนลงคอให้หมดขณะที่มือยังปลุกเร้าไม่ขาด พอกับนิ้วยาวสดแทรกเข้าภายในเพื่อเตรียมพร้อม

   “เฟย์ เอาออก...มัน แปลกๆ” คนสูงวัยกว่าแดงก่ำไปทั้งหน้า ถึงขั้นนี้คงไม่ต้องสงสัยแล้วว่าเจ้าหมาป่ามีเจตนาอะไร แม้ก่อนหน้านี้ปอนด์จะเตรียมใจไว้บ้างว่าสักวันมันต้องเกิด แต่ของจริงต่างจากที่คิดลิบลับ ความแน่นจุกไม่ชวนให้รู้สึกดีเลย จนกระทั่ง... “อ๊า...!” ร่างโปร่งถึงกับทรุดฮวบเมื่อปลายนิ้วชี้กดโดนจุดวาบหวานภายใน เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มร้ายโดยที่อีกฝ่ายไม่เห็น

   “พี่ปอนด์รู้รึเปล่า ที่เคะในมังงะวายทั้งหลายสิโรราบให้กับเมะก็เพราะจุดนี้แหละ รู้สึกดีใช่มั้ยครับ จุดกระตุ้นชั้นดีเลยนะ” เอ่ยบอกยามผละจูบออกมางับแทะหางนุ่มที่แหว่งไปมาอย่างไร้ที่ยึด พลางบรรยายออกมาเป็นฉากๆ นิ้วก็กดย้ำจุดเดิมๆ ให้คนด้านล่างระทวยแล้วระทวยอีก

   คนโดนรังแกถึงกับพูดไม่ออก ได้แค่ร้องเสียงสั้นๆ ในคอ ส่วนคนทำยิ่งได้ใจพรมจูบบนแผ่นหลัง ทิ้งรอยจูบกัดไปตามทาง จำนวนนิ้วเริ่มเพิ่มขึ้นตามเวลา พอถึงนิ้วที่สามเฟย์เริ่มทนไม่ไหวขยับเขาออกรวดเร็ว ขบหางนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยวแล้วผละออกลากลิ้นตามสันหลังกระซิบชิดท้ายทอย

   “อย่ากัดลิ้นนะพี่” คำเตือนปนหอบหายใจด้วยความกระหาย นิ้วทั้งสามถูกถอดออกไปกอบกุ่มส่วนอ่อนไหวปลุกเร้าให้ตื่นตัว โดยที่มืออีกข้างทาบหลังมืออีกฝ่ายพร้อมสอดนิ้วยึดกุม เรียวปากอ้ากว้างเผยให้เห็นเขี้ยวหมาป่า ก่อนกัดหลังคอพร้อมสอดกายเข้าไปทีละน้อย

   แมวหนุ่มใบหูบิดลู่ร้องครางไม่ได้ศัพท์ หางเกี่ยวสะโพกสอบตามสัญชาตญาณ ร่างกายสั่นระริกไร้การต่อต้านขัดขืน การถูกกัดหลังคอไม่ต่างจากการผนึกทุกการเคลื่อนไหวแถมยังเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีจนเกือบปลดปล่อย หากไม่ถูกฝ่ามือหนากำรอบหยุดยั้งเอาไว้ก่อน

   หากปล่อยให้อารมณ์สิ้นสุดตอนนี้ การจะปลุกอีกครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย เฟย์ไม่คิดปล่อยแม้จะได้กลิ่นเลือดเจือจาง รอจนสอดใส่จนหมดค่อยคลายออกใช้ลิ้นเลียอย่างปลอบโยน

   “ขอโทษนะพี่ ครั้งแรกผมอยากอ่อนโยนกว่านี้ แต่ผมไม่ไหวแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างน่าสงสารเจือเสียงคำรามอย่างทรมาน ความอุ่นร้อนที่โอบรัดแทบจะกระชากสติให้ขาดสะบั้นเสียหลายๆ รอบ เฟย์พยายามสูดลมหายใจยับยั้งสัญชาตญาณ ใช้ร่างทาบทับทั้งตัวอาศัยหน้าท้องแข็งเบียดโคนหาง มือจับประสานแน่น คอยพรมจูบไม่ได้ขาด ลิ้นเลียใบหูงับเย้าพอกับนิ้วถูวนส่วนปลาย ทำทุกทางเพื่อกระตุ้นลดทอนความเจ็บให้มากที่สุด

   ถึงแบบนั้นแรงกระทำจากเบื้องหลังยังคงเร่าร้อนหนักหน่วง เกิดเป็นเสียงครวญครางประกอบเสียงกระทบเสียดสีของผิวกายเฟย์เริ่มปล่อยตัวเองให้ดื่มด่ำไปกับทุกสัมผัส การได้ทำกับคนที่ชอบนี่มันเหนือคำบรรยาย ยามทอดมองร่างที่สิโรราบด้านใต้ มันชวนให้รู้สึกภาคภูมิในฐานะอัลฟ่า ดวงตาฉ่ำคลอไปด้วยน้ำใส สีหน้าฉายถึงความสุขสมปนทรมาน ถึงอีกฝ่ายจะไม่หล่อหรือสวยกว่าใคร แต่สำหรับเฟย์ตอนนี้ พี่ปอนด์โคตรน่ารักเลย

   ยิ่งช่วงใกล้ถึงปลายทางก็ยิ่งเพิ่มความร้อนแรงจนคนรับตัวโยกคลอน ปิดท้ายด้วยการสอดลึกปลดปล่อยความปรารถนาเข้าไปเต็มรักพร้อมรูดให้อีกฝ่ายมีความสุขแบบเดียวกัน เฟย์จงใจแช่ค้างดื่มด่ำกับความรู้สึกสุขสมสักพัก ค่อยถอนกายออกแล้วทิ้งตัวลงนอนรวบคนรักอายุมากกว่าเข้ามากอดฟัด

   “ผมมีความสุขจัง เอาไว้พี่เริ่มชินค่อยทำหลายรอบเนอะ” หมาป่าซุกซนซุกไซร้สูดกลิ่นตัวเองบนตัวแมวอย่างพึงพอใจ ยิ่งด้านหลังยิ่งมีกลิ่นตัวเองชัดเจน บ่งบอกว่านี่แหละคือคนของเขา ไม่มีความสุขใดเท่าเรื่องนี้อีก รับรองเลยว่าไม่มีใครที่ไหนมาเกาะแกะอีกฝ่ายให้ระแวงแน่ถึงจะน่าเสียดายที่กลิ่นจะอยู่ได้แค่ไม่กี่วัน แต่ไม่เป็นไร ก่อนจะหมดค่อยทิ้งกลิ่นใหม่

   ท่าทางระริกระรี้อย่างกับหมาหวงของทำให้ปอนด์อยากด่า แต่ด่าไม่ออกเพราะหมดแรง เลยได้แค่เอ่ยคำพูดสั้นๆ ด้วยเสียงแหบแห้ง “เด็กบ้า” อยากตัดหางนั่นชะมัด ส่ายจนแทบหลุดอยู่แล้ว ตีเตียงปั่บๆๆ จนเตียงแทบทะลุ

   เฟย์หัวเราะรับคำกล่าวที่ไม่ต่างจากคำบอกรักในความคิด

   “พี่นอนพักเถอะ ไว้ตื่นมาผมจะหาอะไรให้กิน” ว่าพลางจูบปากจูบแก้ม คำพูดของเฟย์ทำให้ปอนด์เพิ่งระลึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีอะไรกับเด็กตอนกลางวันแสกๆ แถมเพิ่งคบมาแค่หนึ่งอาทิตย์แล้วยังอายุไม่ถึงยี่สิบ เฉพาะแค่เรื่องพวกนี้ก็ทำให้ปอนด์ยอมหลับตาหนีความจริง ปล่อยให้ตัวเองในอนาคตหาทางออกแล้วกัน ฮือๆ

   ส่วนเฟย์กระหยิ่มยิ้มย่องลูบกลุ่มผมนุ่มไล้หลังมือกับใบหูของมนุษย์ พี่ปอนด์ผู้น่ารักคงยังไม่รู้สึกตัว ว่าตอนนี้หูหางของตัวเองได้หายไปแล้ว กลายเป็นใบหูมนุษย์ธรรมดาทั่วไป นั่นเท่ากับว่าครั้งแรกของอีกฝ่ายเป็นของเขาเรียบร้อย

   อยากรู้จริงๆ พี่ปอนด์ตื่นมาเห็นเข้าจะทำหน้ายังไงนะ จะตกใจ ตื่นเต้นหรืออับอาย?

   อ่า...สงสัยต้องเตรียมมือถือไว้ถ่ายรูปเก็บเป็นความทรงจำซะแล้ว

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เป็น อีกเวอร์ชั่นของเฟย์ปอนด์ ไม่เกี่ยวกับเรื่องหลัก สามารถตามอ่านตอนอื่นๆ ได้ที่แท็ก #หนุ่มวายยกกำลังสอง #verสลับอายุหูหาง ใจเพจ Silver Fish4 หรือทวิต @rilima1

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
ตอนนี้มีขาย e-book แล้วน้า

- เพิ่มเนื้อหาจากเรื่องหลัก
- แก้ไขคำผิด
- เพิ่มตอนพิเศษ 50 หน้า!
- แถมรูปฟินปิดท้าย

จิ้ม e-book

สอบถามรายละเอียดได้ที่เพจ Silver Fish

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อยากมีพี่ชายบ้าง!!
แต่บทพิเศษนี่ดีมากกก   :-[

ออฟไลน์ duckka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :hao5: :katai2-1: อ่านจบอีกคู่ เฟย์ ปอนด์ รอคู่ต่อไป

ออฟไลน์ AngPao1932

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณนักเขียนเลยจ้าที่เขียนนิยายละมุนๆแบบนี้ให้อ่าน นี่แทบจะเป็นเรื่องแรกที่ชอบพระเอกเลยนะนี่ 555 แต่แอบเคืองตอนลองคุยกะเด็กหลายๆคนนะ แบบสงสารปอนด์ แต่หลังจากนั้นถือว่าทำตัวดี มั่นคง หนักแน่น ดูรักจริง และเปิดเผยจนฟินไปเบยยยยยยยยย  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ AngPao1932

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อยากอ่าน วา เล่ แล้วววววววววววววววว  :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
อยากอ่าน วา เล่ แล้วววววววววววววววว  :mew2: :mew2: :mew2:

วาเล่จะมาหลังจาก ป๋ามิทจบแล้วนะคะ จะไล่เป็นคู่ๆ ของวาเล่นี่อีกนานเลย
Contract มาเฟีย(ป๋า-มิท) - http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54115.0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
เปิด Repint มาพร้อมกับโปรโมชั่นแพ็คคู่!!



รายละเอียด

เรื่อง : หนุ่มวายยกกำลังสอง (เล่มเดียวจบ)
คู่ : เฟย์-ปอนด์
แนวเรื่อง : คอมเมดี้
ขนาด : A5
จำนวนหน้า : 300+ หน้า
กระดาษ : ถนอมสายตา 75 แกรม
ราคา : 380 บาท
แถมที่คั่นทุกเล่ม

โปรโมชั่น


สนใจดูรายละเอียดได้ที่ - https://goo.gl/FhcWg7

ออฟไลน์ Aumy8059yaoi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ van16

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
น่ารักมาก หวานเว่อร์

ออฟไลน์ reborn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-1

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
สนุกมากครับ เป็นคู่ที่น่ารักมาก ๆ หวานมาก ๆ ครับ



ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ RiyaKwon

  • Riya Kwon*Kwon Riya
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ Piiiimsen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านเรื่องนี้มา 2 รอบแล้ว แล้วก็ชอบมากๆ เป็นเรื่องที่น่ารักสดใส เรื่องของมิทก็ชอบ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

ออฟไลน์ q.tr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ารักที่สุดดดด  :t4:

ออฟไลน์ Nobodylove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 :katai2-1: :katai2-1: เนื้อเรื่องน่ารักมาก อ่านแล้วเหมือนพี่เฟย์เลี้ยงแมวจริงๆ มากกว่าคน  :laugh: :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด