เรื่องสั้น [Yaoi] - ดั่งพรานล่อเนื้อ (20 มิ.ย. 2558)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องสั้น [Yaoi] - ดั่งพรานล่อเนื้อ (20 มิ.ย. 2558)  (อ่าน 9379 ครั้ง)

ออฟไลน์ CaiQing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
    • CaiQing Novel
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
สารบัญผลงานของ CaiQing

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2015 16:00:00 โดย CaiQing »

ออฟไลน์ CaiQing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
    • CaiQing Novel
ดั่งพรานล่อเนื้อ



{1}

          ด้วยความอยากเป็นคนป่าของและความปรารถนาที่จะปั่นต้นฉบับให้เสร็จโดยไม่มีใครมากวน ผมจึงเก็บข้าวของขับรถไปถึงโคราช แวะไปบ้านเพื่อนที่อยู่ในตัวเมืองเพื่อฝากของเอาไว้ก่อนจะพาตัวเองพร้อมสัมภาระไม่กี่ชิ้นหนีขึ้นเขาใหญ่ไปเพียงลำพัง ไอ้ตั้มเพื่อนรักไม่ใส่ใจถามอะไรมากนักเพราะมันรู้ดีถึงนิสัยติสต์แตกแบบลมเพลมพัดของผมมันจึงรับฝากรถและมือถือผมไว้โดยไม่ว่าอะไร

          ปกตินานๆ ทีผมจะทำอะไรแบบนี้สักที บางหนก็เบื่อบ้านตัวเองจนเปิดโรงแรมย่านกลางเมือง ขังตัวเองไว้ในห้องพักแล้วเค้นหัวเขียนนิยายหรือเรื่องสั้นแล้วแต่อารมณ์จะพาไป และบางครั้งก็ถึงกับหนีไปต่างจังหวัดใกลๆ เลยก็มี ไม่ว่าจะเป็นครั้งไหนผมก็ไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยและมักจะไม่ได้แจ้งข่าวใครเอาไว้ก่อนแถมยังปิดช่องทางการสื่อสารทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครกวน เข้าทำนองนักเขียนสมองตันหนีไปปลีกวิเวกในป่าเพราะหวังว่าหัวจะแล่นขึ้นมาบ้าง

          แต่หนนี้นอกจากจะยังเขียนไม่ออกสักบรรทัดแล้วยังมาพบว่าเมื่อกลับลงมาข่าวร้ายก็รอผมอยู่

          คุณปู่จากไปแล้ว...

          ตอนที่คุณปู่กำลังจะสิ้นลมทุกคนในครอบครัวต่างก็รายล้อมกันพร้อมหน้า ยกเว้นผม หลานชายที่คุณปู่รักและโปรดที่สุด...
ปู่จากไปอย่างสงบแต่ยังไม่วายพะวงใจเพราะผมไม่ได้อยู่ตรงนั้น แม่เล่าว่ากระทั่งตอนที่คุณปู่อาการหนักจนแทบไม่มีแรงจะลืมตาท่านก็ยังพยายามใช้นิ้วเคาะโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ใกล้มือเป็นสัญญานให้คุณพ่อของผมต่อสายหาผมอีกครั้ง

          แต่ไม่ว่าจะโทรกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ติดต่อไม่ได้

          ผมไม่เคยโกรธตัวเองเท่านี้มาก่อนในชีวิต รู้ทั้งรู้ว่าปู่สุขภาพทรุดลงเรื่อยๆ แต่ผมก็ยังไม่เอะใจ ไม่เคยคิดว่าปู่จะจากไปกระทันหันอย่างนี้ ที่ผ่านมาผมเอาแต่บอกตัวเองว่าเดี๋ยวไว้ค่อยไปเยี่ยมปู่พรุ่งนี้ก็ได้ แต่รู้สึกตัวอีกทีมันก็สายไปแล้ว ผมไปหาปู่ไม่ได้อีก จะคุยกับท่านก็ไม่ได้แล้ว ผมทอดทิ้งท่านยามที่ท่านต้องการผมที่สุดทั้งๆ ที่ท่านเป็นคนเดียวที่เข้าใจผมและอยู่ข้างผมในตอนที่ทั้งครอบครัวหันหลังให้

          ผมติดหนี้ปู่มากมายนักและคิดว่าคงจะไม่มีโอกาสได้ตอบแทนปู่อีก...แต่ผมคิดผิด  ยังมีบางอย่างที่ผมทำเพื่อปู่ได้ ผมพบบางสิ่งบางอย่างที่ว่านั้นตอนที่เข้าไปเก็บกวาดในห้องทำงานของปู่

          คุณปู่ของผมท่านเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ท่านมีห้องทำงานส่วนตัวที่สร้างแยกออกห่างจากตัวบ้านใหญ่ อันที่จริงจะเรียกว่าห้องทำงานก็ดูจะไม่เหมาะนัก อาจเรียกได้ว่าเป็นกระท่อมเล็กๆ ที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพในนั้น มันเป็นโลกส่วนตัวของปู่ 

          ภายในกระท่อมชั้นเดียวที่มีพื้นที่กระทัดรัดนั้นเต็มไปด้วยหนังสือโคลงฉันทร์กาพย์กลอน วรรณคดี ประวัติศาสตร์ ตลอดจนสารคดีหลายหลายประเภท ปู่เป็นนักสะสมหนังสือตัวยงดังนั้นในกระท่อมน้อยหลังนี้นอกจากจะมีหนังสือวางเรียงกันมากมายบนชั้นหนังสือ แล้วยังมีหนังสือวางกองอยู่กับพื้น บนโต๊ะทำงาน หรือแม้กระทั่งโซฟาที่ปู่ใช้งีบหลับเป็นครั้งคราวอีกด้วย

          ด้วยความที่คุณปู่รักความเป็นส่วนตัวมากจึงไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้ามาย่างกรายได้ กระทั่งคุณย่าเองก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปได้ง่ายๆ

          มีอยู่หนหนึ่งที่คุณย่าอาศัยจังหวะที่คุณปู่ออกไปข้างนอกเข้าไปทำความสะอาดและเก็บหนังสือที่วางระเกะระกะให้เป็นระเบียบ เย็นวันนั้นบ้านเราแทบแตกเมื่อปู่กลับมาพบว่าห้องทำงานส่วนตัวที่สุดรักสุดหวงถูกศรีภรรยาเข้าไปปัดกวาดและโยกย้ายของโดยไม่ได้บอกกล่าวกันก่อน คุณปู่ดุคุณย่าอยู่หลายคำก่อนจะหนีไปนอนที่กระท่อมสุดหวงคนเดียว แต่ผมรู้ว่าคืนนั้นปู่แทบไม่ได้หลับ ผมแอบเห็นแสงไฟจากห้องทำงานของท่าน และเห็นเงาร่างของปู่เดินไปมาอยู่ไหวๆ

          คืนนั้นคุณปู่จัดแจงห้องทำงานตัวเองไห้กลับไประเกะระกะเหมือนเก่า ก่อนที่จะหากุญแจมาล็อคหลังจากนั้นไม่กี่วัน
จากเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นต้นมาปู่ได้สั่งห้ามไม่ให้ใครเข้าไปเหยียบห้องของท่านถ้าท่านไม่อนุญาต ส่วนคุณย่าก็งอนปู่อยู่หลายวันกว่าจะกลับมาคืนดีกันได้ ถึงกระนั้นย่าเองก็สาบานว่าจะไม่หวังดีเข้าไปทำความสะอาดให้อีก เชิญคุณปู่เก็บกวาดเองตามสบาย แล้วก็อย่ามาบ่นว่ากองหนังสือหล่นทับก็แล้วกัน!

          แต่ในกระบวนคนในครอบครัวทั้งหมด เห็นจะมีแต่ผมคนนี้ที่คุณปู่ยอมให้เข้าไปในห้องของท่านได้ มีอยู่หนหนึ่งแม่ถึงกับล้อว่าผมอาจจะเป็นลูกหลงที่ความจริงน่าจะมาเกิดเป็นลูกคุณปู่กระมัง เพราะทั้งหน้าตาทั้งนิสัยละม้ายคล้ายกันเหมือนพ่อลูกมากกว่าปู่กับหลาน

          คุณย่าเคยแอบกระซิบบอกผมว่าพ่อของผมเคยน้อยใจปู่จนถึงขั้นเผลอตัดพ้อต่อว่าปู่ว่ารักเอ็นดูหลานชายมากกว่าลูกชาย ซึ่งตรงนี้เห็นจะจริงเพราะแม้ปู่จะเข้มงวดกับทุกคน แต่กับผมท่านกลับตามใจจนถึงขั้นลำเอียงอยู่บ่อยๆ หลายคนบอกว่าคนเป็นปู่เป็นตาก็อย่างนี้รักหลานหลงหลานมากกว่าลูก แต่ผมมีพี่ชายหนึ่งคน พี่สาวและน้องสาวอีกอย่างละหนึ่ง แต่คุณปู่ก็ไม่ได้เอ็นดูพี่ๆ น้องๆ ผมมากเท่าที่ท่านเอ็นดูผม ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแต่ผมคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเข้าออกห้องทำงานปู่ได้โดยไม่โดนว่าสักคำ 



{2}

          หลังจากที่จัดการงานศพของคุณปู่เสร็จ ผมก็กลับมาขอกุญแจห้องทำงานของปู่จากพ่อ ตอนแรกพ่อทำท่าจะไม่ให้ ท่านยังโกรธที่ผมไม่อยู่ตอนที่ปู่จากไป นี่ยังไม่นับว่าช่วงสามสี่ปีให้หลังมานี้ผมกับพ่อก็ห่างกันมากกว่าเดิมเพราะพ่อไม่ชอบใจไลฟ์สไตล์ของผม

          ผิดกับปู่ที่เข้าใจและสนับสนุนผมทุกอย่าง

          ตอนที่ผมเกือบจะมีปากเสียงกับพ่ออีกเพราะพ่อดื้อแพ่งไม่ยอมส่งกุญแจให้ก็โชคดีที่แม่เข้ามาห้ามทัพทัน

          “เอากุญแจให้ลูกซะคุณ” แม่บีบต้นแขนของพ่อเป็นเชิงห้ามปราม ผมกับพ่อคงจะแตกหักกันไปหลายครั้งแล้วถ้าไม่มีใช่เพราะผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาที่ดีและแม่ที่ยอดเยี่ยมคนนี้

          พ่อชายตามองแม่อย่างเคืองๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ท่านแค่โยนกุญแจไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินจากไปเงียบๆ

          แม่ได้แต่ส่ายหัว ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกุญแจมาวางไว้บนมือผม

          “เก็บไว้ซะลูก คุณปู่เขาตั้งใจจะยกห้องนั้นให้เราอยู่แล้วล่ะ เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้” แม่บีบมือผมครั้งหนึ่ง “พ่อเขายังโมโหอยู่ ลูกก็ไปนอนที่ห้องทำงานปู่ก็แล้วกัน เอาไว้พ่อเขาเย็นลงสักหน่อยแล้วค่อยคุยกัน”

          ผมยิ้มเฝื่อนๆ ให้แม่ทีหนึ่งแล้วรับปากว่าจะเก็บกวาดทำความสะอาดห้องทำงานของคุณปู่ให้เอง

          “มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะ ใครก็รู้ว่านอกจากลูกแล้วปู่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปที่นั่นหรอก ขืนคนอื่นแอบเข้าไปคุณปู่อาจจะออกมาหลอกเอาก็ได้!” แม่หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ



          ตอนแรกผมคิดว่าการทำความสะอาดไม่น่าจะยากเย็นอะไรนัก คุณจะหาว่าผมถูกเลี้ยงแบบตามใจเกินไปก็ว่าได้ ผมไม่เคยต้องจัดไม้กวาดเลยสักหน ซักเสื้อผ้าก็ไม่เป็น จานเจินก็ไม่เคยล้าง มาตอนนี้ต้องจัดการทำความสะอาดและจัดระเบียบกระท่อมห้องทำงานหลังกระจิดริดแบบนี้ผมยิ่งทำไม่ได้เข้าไปใหญ่

          สำหรับคนอื่นการทำความสะอาดกระท่อมเล็กๆ หลังหนึ่งอาจใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งวัน แต่ผมใช้เวลามาสี่วันกว่าแล้วก็ยังไม่เสร็จเสียที อุปสรรคไม่ได้มีแค่ว่าผมไม่ถนัดงานบ้านอย่างเดียวหรอกนะ แต่ก็เพราะหนังสือที่รายล้อมผมนี่แหละที่ทำให้ผมวอกแวก

          ทุกครั้งที่จะยกกองหนังสือย้ายไปสักที่ สายตาผมก็จะเหลือบไปเห็นหนังสือที่เตะตาเข้าสักเล่ม หลังจากนั้นวงจรอุบาทว์ก็จะเริ่มขึ้น นั่นก็คือผมจะหยุดทุกอย่างแล้วนอนอ่านหนังสือเล่มนั้นโดยบอกตัวเองว่าขออ่านสักห้านาที

          แล้วก็อีกห้านาที...

          แล้วก็อีกห้านาที...

          หลายต่อหลายห้านาทีสุดท้ายอะไรก็ไม่เสร็จสักอย่าง เหตุการณ์ดำเนินไปแบบนี้จนกระทั่งเข้าวันที่ห้า ในระหว่างที่ผมกำลังเก็บกวาดโต๊ะของปู่อยู่โดยไม่พยายามมองไปทางกองหนังสือที่อยู่ใกล้เท้า จู่ๆ ผมก็พบว่ามีลิ้นชักอยู่อันหนึ่งที่เปิดไม่ออก ผมลองดึงลิ้นชักชั้นอื่นออกเช็คดูก็พบว่าทุกตัวเปิดได้หมดยกเว้นตัวนี้ตัวเดียว

          อะไรบางอย่างกวนใจผมทำให้ผมต้องดิ้นรนหาอะไรมาเปิดมันออก ผมอยากรู้เสียเหลือเกินว่ามีอะไรอยู่ในลิ้นชักตัวนั้น
ใจผมเริ่มเต้นเร็วขึ้นด้วยความตื่นเต้นว่าอาจได้พบอะไรที่น่าสนใจเข้าให้แล้ว ถ้าถามกันจริงๆ ผมก็ไม่อยากจะงัดลิ้นชักออกมาเลยเพราะปู่รักโต๊ะตัวนี้มาก แต่ด้วยความที่ไม่ว่าผมจะพยายามตามหากุญแจมาไข หรือพยายามที่จะสะเดาะกลอนด้วยกิ๊ฟติดผมแบบในทีวีแค่ไหนมันก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายผมก็เลยต้องพังมันออกมาด้วยการใช้ชะแลง

          ผมพึมพำคำขอโทษถึงปู่เบาๆ และค่อยๆ แงะลิ้นชักออกมา ออกแรงนิดหน่อยล็อคก็หลุดออก ทว่าสิ่งที่หล่นลงมากลับเป็นกุญแจทองเหลืองหนึ่งดอกและกล่องเหล็กหนึ่งกล่อง

          แต่โชคร้ายไปหน่อยที่กุญแจดอกนี้ไม่ได้มีไว้ไขกล่องปริศนานี่มันจึงทำให้ผมต้องเสียเวลาปล้ำอยู่กับกล่องปริศนาอยู่เกือบค่อนวันกว่าจะงัดมันเปิดออกมาได้

          ข้างในกล่องมีจดหมายหลายต่อหลายสิบฉบับอัดแน่นกันอยู่ จดหมายเก่าคร่ำคร่าที่จ่าหน้าถึงปู่และมันส่งมาจากคนๆ เดียวกัน ทุกฉบับล้วนแล้วแต่ขึ้นต้นลงท้ายเหมือนกันว่า ‘ถึง พรานล่อเนื้อ’ และ ‘จาก เรียม’

          ผมนิ่งนึกอยู่พักใหญ่เพราะรู้สึกคุ้นๆ อย่างประหลาด ผมหันไปมองรอบๆ ห้องจนเหลือบไปเห็นเครื่องเสียงโบราณของปู่เข้า เครื่องเล่นแผ่นเสียงเครื่องนี้แม้จะมีนักสะสมหลายคนเสนอขอซื้อด้วยราคาแสนแพงแต่ปู่ก็ไม่ยอมขาย คุณปู่รักเครื่องเล่นตัวนี้มาก

          ผมเหม่อมองมันสักพักแล้วก็แทบอยากเขกหัวตัวเองเพราะคำตอบอยู่ตรงหน้าผมแล้วแท้ๆ

          ปู่รักเสียงเพลงและเก็บแผ่นเสียงเกือบร้อยแผ่นแต่ผมจำได้ว่ามีอยู่แผ่นหนึ่งที่ปู่จะต้องเปิดฟังทุกวัน ผมรื้อหาแผ่นที่ว่าจนพบ และเมื่อลองเปิดฟังดูก็เป็นจริงอย่างที่ผมคิด ชื่อในจดหมายนั่นมาจากเพลงนี้แน่ๆ

                    เจ้ายักคิ้วให้พี่เจ้ายิ้มในที                  เหมือนเจ้าจะมีรักอารมณ์
                    ยั่วเรียมให้เหงามิใช่เจ้าชื่นชม            อกเรียมก็ตรมตรมเพราะคมตาเจ้า
                    เรียมพะวักพะวงเรียมคิดทะนง           และเรียมก็คงหลงตายเปล่า
                    ดังพรานล่อเนื้อเงื้อแล้วเล็งเพ่งเอา     ยั่วใจให้เมาเมาแล้วยิงนั่นแล
                    น้าวศรเล็งเพ่งเอาทุกสิ่ง                  หากเจ้าหมายยิง ก็ยิงซิแม่
                    ยิงอกเรียมสักแผล                         เงื้อแล้วแม่อย่าแปรอย่าเปลี่ยนใจ
                    เรียมเจ็บช้ำอุรา เจ้าเงื้อเจ้าง่า            แล้วเจ้าก็ล่าถอยทันใด
                    เจ็บปวดนักหนาเงื้อแล้วลาเลิกไป      เจ็บยิ่งสิ่งใดไยมิยิงพี่เอย

          ผมปล่อยให้เพลงเล่นซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น ความคิดจะเก็บกวาดมลายไปจากหัว มือก็โยนไม้ขนไก่ทิ้งและเขี่ยกองหนังสือให้พ้นทางก่อนที่จะนั่งลงกับพื้นเพื่ออ่านจดหมายพวกนั้นแทน

          เนื้อหาในจดหมายถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาที่เต็มไปด้วยวรรณศิลป์ในเชิงกาพย์กลอน มองเผินๆ ราวกับว่าเป็นจดหมายของนักเลงกวีส่งหากันเพื่อปะทะคารม แต่หากผู้ที่อ่านมันเป็นผู้เจนจัดในด้านภาษาก็จะพบว่าความหมายที่แอบแฝงอยู่ในจดหมายเหล่านั้นส่อให้เห็นถึงจุดประสงค์จริงๆ ของพวกมัน

          จดหมายพวกนี้เป็นจดหมายรัก!

          ผมอ่านจดหมายเหล่านั้นด้วยความฉงนในตอนแรก แล้วค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นความเต็มตื้น และสุดท้ายก็ด้วยความเศร้าใจ ผมได้ตระหนักถึงความจริงสามอย่างจากจดหมายเหล่านี้ หนึ่งก็คือคู่รักของปู่ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม...เขาเป็นผู้ชาย

          ผมหวนคิดไปถึงตอนที่ผมบอกครอบครัวว่าผมเป็นเกย์ ตอนนั้นมีปู่คนเดียวที่ไม่ก่นด่าผมหรือคาดคั้นผม มีแค่ปู่เท่านั้นที่เดินเข้ามาหาผมแล้วบอกผมว่า

          “กวินทร์ไม่ว่าแกจะเลือกอะไร ปู่ก็จะยังรักแก...”

          และก็เป็นปู่อีกนั่นแหละที่ทำให้ครอบครัวของผมยอมรับตัวผมแบบนี้ได้ ตอนนั้นผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีแค่ปู่ที่เข้าใจ แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว

          ปู่เข้าใจผมเพราะปู่ก็เหมือนผม ปู่รู้ดีว่าการที่เราแตกต่างมันสร้างเส้นกั้นบางๆ ระหว่างเรากับคนปกติเขา และคนปกติเหล่านั้นก็ไม่อาจยอมรับความแตกต่างของเราได้ด้วยกฎเกณฑ์ที่พวกเขาตั้งขึ้นมาเอง

          อย่างที่สองที่ผมรู้คือปู่จะไม่มีวันได้ตอบจดหมายของคนรักของปู่อีกแล้ว ผมแทบไม่อยากนึกเลยว่า ‘เรียม’ คนนั้นเขาจะคิดอย่างไรเมื่อพบว่าจดหมายของตัวเองถูกตีกลับ จดหมายที่เขาเฝ้าเขียนอย่างไม่เคยหยุดทุกเดือน เดือนละฉบับมาเป็นเวลากว่าสี่สิบปี แล้วเขาจะรู้ไหมหนอว่า ‘พรานล่อเนื้อ’ของเขาจากไปแล้ว...

          อย่างที่สามที่ผมตระหนักจากการอ่านจดหมายเหล่านั้นคือผมอิจฉาปู่! ผมหลงใหลถ้อยคำที่ ‘เรียม’ ของปู่เขียน ผมหลงรักเนื้อความที่สื่อถึงความรักที่ไม่เคยจางของทั้งคู่ ผมริษยาความรักของทั้งสองเพราะผมไม่เคยรู้จักความรักแบบนี้ ลึกๆ แล้วผมปรารถนาที่จะเจอใครสักคนเหมือนที่ปู่เจอ ใครบางคนที่สามารถเติมเต็มจิตใจของผมได้เหมือนที่ ‘เรียม’ เติมเต็มปู่

          “พรานล่อเนื้องั้นเหรอ...” ผมเอนตัวลงนอน ปล่อยให้เสียงเพลงขับกล่อมไปเรื่อยๆ พลางฮัมเพลงไปมาในหัว แล้วผมก็ต้องรีบผุดลุกขึ้นมานั่งและหยิบจดหมายขึ้นมาอ่านตรงฉายาที่เรียมคนนั้นตั้งให้ปู่ ผมระเบิดหัวเราะออกมาอย่างหยุดไม่อยู่

          “เรียมของปู่นี่สุดยอดเลย! เขียนจดหมายรักให้แต่ดันตั้งฉายาปู่ว่าพรานล่อเนื้อ นี่เขาจะตัดพ้อหรือเหน็บว่าปู่ชอบเล่นตัวกันแน่เนี่ย!”[/font][/size]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-06-2015 14:19:55 โดย CaiQing »

ออฟไลน์ CaiQing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
    • CaiQing Novel
{3}


          เป็นเวลาเกือบอาทิตย์กว่าผมจะค้นทุกอย่างที่อยู่ในห้องออกมาหมด ผมเจอเศษหมากฝรั่งที่ตัวเองแอบแปะไว้ใต้ตู้หนังสือสองสามอัน มันแห้งจนแข็งติดกับผิวไม้ไปแล้วเสียด้วย แล้วก็ยังมีภาพที่ผมวาดเล่นตอนเด็กๆ สองสามใบที่ปู่เก็บไว้อย่างดี มีงานกลอนมากมายที่ปู่ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นนักเลงกลอนตัวยงคนหนึ่งเขียนเล่นยามว่างเก็บอยู่ในแฟ้มอย่างเป็นระเบียบผิดกับของอื่นๆ และหนังสือจำนวนมากที่มีบางเล่มถูกฉีกขาดหรือไม่ก็ขีดเขียนเล่นด้วยเทียนสี พวกนั้นก็ฝีมือผมอีกนั่นแหละ

          แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือภาพเก่าๆ ที่มีผมกับปู่อยู่ในนั้น ปู่กำลังขี่จักรยานโดยที่มีผมซ้อนอยู่ข้างหน้า ตอนนั้นปู่ยังดูหนุ่มและแข็งแรงมาก เส้นผมของปู่ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นสีดำอยู่เลย มาสังเกตดูดีๆ ทั้งผมและปู่ต่างคล้ายกันมาก ผมเทียบใบหน้าตัวเองในกระจกกับภาพของปู่เมื่อยี่สิบปีก่อนด้วยความประหลาดใจ เราเหมือนกับเป็นพ่อลูกกันมากกว่าปู่กับหลาน

          ผมเพ่งมองดูภาพอยู่สองสามนาทีเห็นจะได้ถึงสังเกตเห็นบางอย่างที่ด้านหลังของปู่ เป็นที่ทำการไปรษณีย์ที่อยู่ห่างจากบ้านปู่ไปห้าซอยได้

          แล้วผมก็นึกออกว่าตอนนั้นผม ปู่ แล้วก็พ่อพากันออกมาเดินเล่น ถ้าพูดให้ถูกก็เป็นผมกับปู่ขี่จักรยานส่วนพ่อเขาเดินตามเพราะอยากลองกล้องถ่ายรูปใหม่ที่เพิ่งซื้อมา

          เราถ่ายรูปไว้หลายต่อหลายใบแต่ปู่เก็บแค่รูปนี้ไว้ใบเดียว ที่เหลือพ่อเก็บกลับมาและก็หายไปหมดแล้ว ตอนที่เราถ่ายรูปใบนี้เสร็จปู่ก็พาผมไปที่ไปรษณีย์ด้วยแต่ทิ้งพ่อไว้ข้างนอกให้เล่นกับกล้องใหม่ของตัวเอง

          ตอนนั้นผมยังเด็กและไม่เคยมาไปรษณีย์มาก่อน ผมจึงรบเร้าขอปู่ให้ได้หย่อนจดหมายกับเขาบ้าง ปู่ก็ไม่ว่าอะไรแค่อุ้มผมขึ้นมาจนสูงพอที่ผมจะเอื้อมมือไปหยอดจดหมายที่ช่องได้ ผมจำได้ว่าที่นั่นเป็นหนึ่งในที่ทำการแรกๆ ที่ให้เช่าตู้รับไปรษณีย์ส่วนตัว

          ผมวางรูปลงแล้วหยิบกุญแจที่เจอในลิ้นชักของปู่ขึ้นมาพิจารณาดูอีกรอบ

          เย็นวันนั้นผมรี่ไปที่ไปรษณีย์และเจอตู้ไปรษณีย์ขวามือสุดของแถวที่สามที่มีหมายเลขตรงกับกุญแจในมือผม

          ผมเสียบกุญแจเข้าไปและบิด กลอนเด้งออกอย่างง่ายดาย ข้างในนั้นมีจดหมายอยู่สองสามฉบับและเป็นจดหมายจาก ‘เรียม’ คนนั้น มือผมสั่นตอนหยิบจดหมายพวกนั้นออกมา ด้านหลังของแต่ละซองมีชื่อเขียนไว้ว่า ‘เรียม’ ด้วยปากกาสีดำ

          ผมไล่เรียงดูวันที่บนจดหมาย ฉบับแรกส่งมาเมื่อปลายเดือนที่แล้วตอนที่อาการของปู่ทรุดลง จดหมายคงตกค้างอยู่ในตู้เพราะคนรับไม่อาจมาได้ ฉบับถัดไปส่งมากลางเดือนที่แล้ว ซึ่งก็คือตอนที่ปู่จากไปพอดี และจดหมายฉบับที่สามและเป็นฉบับล่าสุดก็เพิ่งมาถึงเมื่อสองวันที่แล้ว ผมแทบจะอ่านอารมณ์ของคนเขียนจดหมายได้เลยว่าเริ่มร้อนรน เพราะลายมือบนจดหมายฉบับแรกแลดูปรกติดี แต่พอมาฉบับที่สองที่สามลายมือก็เริ่มหวัดขึ้นเหมือนกับรีบร้อนเขียนขึ้นมา

          บางที ‘เรียม’ คงจะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติเมื่อไม่มีจดหมายตอบกลับจาก ‘พรานล่อเนื้อ’ ของเขาก็เป็นได้ เพราะอย่างนั้นลายมือบนจดหมายฉบับหลังๆ จึงมีลายเส้นไม่หนักแน่นเหมือนปกติ

          เมื่อกลับถึงกระท่อมของปู่ผมก็ถือวิสาสะเปิดอ่านจดหมายพวกนั้นทันที ผมดื่มด่ำกับถ้อยคำในนั้นเหมือนคนกระหายหิว อ่านมันซ้ำไปซ้ำมาจนจำข้อความทุกบรรทัดได้ขึ้นใจ และในขณะที่ผมเริ่มนึกเสียใจแทนคู่รักของปู่ว่าเขาคงจะเศร้าแค่ไหนถ้ารู้ว่าปู่ของผมตายไปแล้ว ตอนนั้นเองที่ความคิดอุตริมันผุดขึ้นมาในหัวผม

          ถ้า ‘เรียม’ ไม่ต้องรู้ความจริงที่โหดร้ายว่าปู่ของผมจากไปแล้วน่าจะดีกว่าหรือเปล่า ผมคิดว่าเขาน่าจะอายุพอๆ กับปู่ ถ้าเช่นนั้นเขาก็คงจะมีเวลาเหลืออีกไม่นานเช่นกัน แล้วมันจะเป็นไรไปถ้าผมจะสวมรอยเป็นคุณปู่แล้วเขียนจดหมายตอบเขาล่ะ

          มันเป็นความคิดที่งี่เง่าและเห็นแก่ตัวที่สุดของผมและผมก็ตระหนักดีแต่ไม่ว่าศีลธรรมใดๆ ในตัวผมจะคัดค้านสักเท่าไรความดื้อดึงของผมมันก็ไม่ยอมฟัง ในใจผมปรารถนาจะสัมผัสความรักที่ปู่ได้รับมาตลอดจากชายคนนี้...แม้เพียงสักนิดก็ยังดี

          ผมเขียนจดหมายตอบกลับไปทันทีที่ทำได้และหนึ่งอาทิตย์ให้หลัง ‘เรียม’ ก็เขียนกลับมา...

          เนื้อหาในจดหมายบอกว่าเขากังวลมากที่ไม่เห็นจดหมายของ ‘ผม’ เกือบสามเดือนแล้วแต่เขาเข้าใจดีว่าไม่ว่าใครคงห้ามอาการเจ็บป่วยไม่ได้ และเขาหวังว่าผมคงจะหายดีแล้วในตอนนี้

          เราเขียนจดหมายโต้ตอบกันนานถึงหนึ่งปีโดยที่ ‘เรียม’ ไม่เคยสงสัยเลยว่าผมเป็นตัวปลอมซึ่งสร้างความประหลาดใจและโล่งอกแก่ผมเป็นอย่างมาก ผมยังคงสวมรอยเป็น ‘พรานล่อเนื้อ’ ของเขาและเล่นไปตามบทคู่รักที่ไม่อาจอยู่ด้วยกัน และได้แต่ส่งผ่านความรักและความคิดคำนึงผ่านมาทางจดหมายและตัวอักษรเพียงเท่านั้น

          ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่คำว่ารักและคิดถึงที่ผมเขียนไปหาเขามันเริ่มเป็นจริงขึ้นมา แต่เมื่อจดหมายฉบับที่สิบสองของปีนั้นมาถึงผมก็รู้ตัวว่าผมหลงรักชายที่ไม่เคยเห็นหน้าและแก่พอๆ กับปู่ของผมเข้าให้แล้ว

          นี่ยังไม่เอ่ยถึงเรื่องที่ว่าเขาเป็นคู่รักของปู่และผมกำลังหลอกลวงเขาอยู่โดยการเขียนจดหมายปลอมนะ

          ทุกครั้งที่ผมอ่านเจอคำสารภาพรักนับครั้งไม่ถ้วนของเขาหัวใจของผมก็เริ่มเจ็บแปลบ เมื่อไรที่เขาเขียนว่าคิดถึงและอยากพบผมเหลือเกินมันก็ทำให้ความรู้สึกผิดเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

          ตอนนั้นผมไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าผมหลงรักผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังจดหมายเหล่านั้นหรือว่าผมหลงรักความคิดที่ว่าผมกำลังตกอยู่ในห้วงรักกันแน่ ผมรู้แต่ว่าผมหยุดมันไม่ได้ และก็ไม่อยากหยุดด้วย ทว่ายิ่งนานวันเข้าความรู้สึกผิดมันก็ทับถมมากขึ้นๆ มากเสียจนผมไม่อาจอยู่กับมันได้ ผมกำลังทำผิดต่อเขาและทำผิดต่อปู่  เพราะอย่างนั้นเองผมถึงตัดสินใจจะสารภาพทุกอย่างให้เขารู้

          ผมเขียนจดหมายถึง ‘เรียม’ และนัดเจอเขาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในตอนแรกเขาปฏิเสธแต่พอผมดึงดันจะพบเขาให้ได้เขาก็ตอบตกลง ถึงกระนั้นมันก็ทำให้ผมต้องเขียนจดหมายอ้อนวอนเขาถึงห้าฉบับทีเดียวกว่าเขาจะใจอ่อน

          จริงๆ แล้วผมเหมาเอาว่าเขาน่าจะดีใจที่ ‘พรานล่อเนื้อ’ อยากเจอเขาเพราะจากที่ผมได้อ่านจดหมายฉบับเก่าๆ ที่เขาเคยส่งถึงปู่เนื้อหาข้างในล้วนแต่เป็นการขอร้องให้มาพบกันทั้งนั้น แต่ปู่ของผมคงจะบอกปัดไปด้วยเหตุผลกลใดก็ไม่ทราบได้ ดังนั้นเรื่องที่เขาลังเลจะพบผมตอนนี้มันค่อนข้างจะแปลกอยู่บ้าง แต่ผมคิดว่าบางทีเขาอาจจะกังวลว่าปู่ของผมจะผิดหวังเมื่อเห็นเขาตอนที่แก่ชราไปแล้วก็ได้

บางทีเขาอาจจะอยากให้ปู่จดจำเขาในสมัยหนุ่มๆ มากกว่า

          ...และบางทีนี่ก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้ปู่หลีกเลี่ยงไม่พบกับเขาตลอดเวลาหลายปีมานี้ ปู่คงอยากให้เรียมจดจำท่านที่ยังหนุ่มแน่นหล่อเหลาก็เป็นได้

          ผมไปถึงก่อนเวลานัดเกือบหนึ่งชั่วโมง มือของผมสั่นน้อยๆ เวลาที่พยายามจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม สายตาก็สอดส่องคอยมองหา ‘เรียม’ ที่อาจจะมาได้ทุกเมื่อ

          ผมวางแผนจะสารภาพทุกอย่างกับเขาวันนี้เว้นไว้แต่เรื่องที่ว่าผมหลงรักเขาแล้ว เนื่องจากว่าผมมองไม่เห็นประโยชน์ที่จะพูดออกไปเพราะรังแต่จะเจ็บตัวเปล่าๆ

          อีกอย่างผมยังไม่เคยเห็นหน้าเขาด้วยซ้ำไป บางทีมันอาจจะไม่ใช่ความรักจริงๆ ก็ได้ บางทีผมอาจจะแค่หลงใหลจดหมายรักที่เปรียบได้กับงานประพันธ์ชั้นครู และอาจเป็นเพราะความที่ตัวผมเองก็เป็นนักเขียนจึงได้เผลอไผลหวั่นไหวไปกับบทร้อยกรองหวานๆ แกมหยอกเย้าของเขา

          …นี่ผมกำลังพยายามจะหลอกใครกัน! ผมหลงรักผู้ชายคนนี้จริงๆ นั่นแหละ ผู้ชายที่มั่นคงในรักมากว่าสี่สิบกว่าปี ผู้ชายที่เขียนบทเกี้ยวพาราสีได้เหมือนกับเป็นกวีเอก ผู้ชายที่จับหัวใจผมได้โดยอาศัยแค่ตัวหนังสือเท่านั้น...ผู้ชายที่ผมรู้ดีว่าไม่มีวันได้มาด้วยสาเหตุหลายประการ

          หนึ่งในนั้นคือเขาคงไม่มีวันรักผมผู้ซึ่งสวมรอยเป็นยอดรักของเขาและปิดบังการจากไปของ ‘พรานล่อเนื้อ’ ตัวจริง
ผมสะบัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวพลางยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา ใกล้ถึงเวลานัดเต็มที อีกไม่นานเขาก็จะเดินเข้าประตูนั่นมา...และทำให้หัวใจของผมสลาย

          ทุกครั้งที่ประตูเปิดออกผมก็อดไม่ได้ที่จะชะเง้อมอง แต่คนแล้วคนเล่าที่เดินเข้ามาก็ไม่ใช่เขาทั้งสิ้นเพราะทั้งหมดที่เดินผ่านเข้ามานั้นถ้าไม่ใช่ผู้หญิงก็อายุน้อยเกินไป

          ผมเกือบจะตัดใจเรียกเด็กเสิร์ฟมาเก็บเงินอยู่มะลอมมะล่อตอนที่ใครคนหนึ่งเดินผ่านเข้าประตูมา เขาเป็นผู้ชายบุคลิกดี ใบหน้าคมเข้มที่ไม่ถึงกับหล่อเหลาแต่มีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด ร่างของเขาสูงใหญ่และผิวคล้ำเหมือนคนที่ออกแดดบ่อยๆ อายุอานามไม่น่าจะต่างจากผมมากนัก ถ้าให้คะเนก็คงจะราวสามสิบต้นๆ คิดว่าน่าจะแก่กว่าผมไม่มากนัก

          ด้วยความที่เขาโดดเด่นสะดุดตาทำให้ผมคอยแอบมองตามเขาอยู่เงียบๆ ท่าทางเขาดูลังเลและทำท่าจะเดินกลับออกไปหลายครั้งแต่ก็เปลี่ยนใจหันมากวาดสายตามองรอบๆ แล้วเขาก็หันมาเห็นผม

          วินาทีที่เราสบตากันมันเหมือนมีกระแสไฟฟ้าวิ่งแล่นไปทั่วตัว มันเหมือนมีแรงสั่นสะเทือนบางอย่างที่ทำให้ตัวผมสั่นวูบ ชายคนนั้นมองผมเหมือนกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขายืนนิ่งอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ก่อนที่จะยอมขยับ แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือเขาขยับมาทางผม

          บอกตามตรงว่าผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่มองตามเขาเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาเดินมาอยู่ตรงหน้า เขายกมุมปากขึ้นยิ้มน้อยๆ ในแบบที่ผมต้องยิ้มตอบอย่างช่วยไม่ได้

          “ที่นั่งตรงนี้ว่างไหมครับ?” ก่อนที่ผมจะคิดอะไรผมก็ดันพยักหน้ารับไปเสียแล้ว ผมได้แต่นึกด่าตัวเองในใจที่ปล่อยให้เขานั่งกับผมทั้งที่ผมนัดกับ ‘เรียม’ เอาไว้ แต่อีกใจหนึ่งผมก็ไม่คิดว่าชายลึกลับเจ้าของจดหมายคนนั้นจะมาแล้วล่ะ

          เรานั่งเงียบกันอยู่สักพักใหญ่ บรรยากาศเริ่มอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาล้วงบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อแล้ววางมันบนโต๊ะตรงหน้าผม

          มันคือจดหมายฉบับล่าสุดที่ผมเขียนถึง ‘เรียม’!

          “เฮ๊ย!”  ผมเผลออุทานออกมาดังๆ จนคนทั้งร้านหันมามองเราเป็นตาเดียว ใบหน้าของผมร้อนผ่าวด้วยความอาย ผมรอจนคนอื่นเลิกสนใจแล้วจึงพูดต่อ...ด้วยเสียงที่เบาลงกว่าเดิมมาก

          “คุณ?...ทำไม?...ใคร?...นั่น?...”   

          ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองไหมแต่มันเหมือนกับว่าดวงตาของเขาหัวเราะได้ แต่น่าแปลกที่ผมไม่รู้สึกว่าเขาหัวเราะเยาะคำพูดไม่เป็นภาษาของผมเลยสักนิด

          “ผมว่าก่อนอื่นผมควรจะแนะนำตัวก่อน” ชายหนุ่มที่มีรอยยิ้มเสน่ห์พูดพร้อมยื่นมือมาให้ผมจับ ซึ่งปกติแล้วผมไม่ชอบพวกที่ทักทายโดยการจับมือแบบพวกฝรั่งมังค่านักหรอก แต่ตอนนั้นไม่รู้เพราะอะไรผมจึงยอมให้เขาจับมือแต่โดยดี

          “ผมราเชนทร์ครับ” เขายิ้มพร้อมบีบมือผมเบาๆ ชายหนุ่มตรงหน้าผมยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเห็นว่าผมพูดอะไรไม่ออก ใบหน้าของผมร้อนผ่าวเมื่อรู้สึกตัวว่าเขายังไม่ยอมปล่อยมือ

          “ผมรู้ว่าคุณคงมีคำถามที่อยากถามผมอยู่แน่ๆ ผมเองก็มีอะไรอยากจะสารภาพกับคุณเหมือนกัน”

          บางอย่างแวบเข้ามาในหัวผมทว่าก่อนที่ผมจะปะติดปะต่อเรื่องได้เสียงทุ้มๆ ของคนตรงหน้าก็ฉุดผมออกจากความคิดนั้นเสียก่อน

          “แต่ก่อนที่ผมจะสารภาพความจริงกับคุณ คุณช่วยอะไรผมอย่างหนึ่งได้ไหม?”

          ดวงตาสีเข้มคู่นั้นเหมือนจะสะกดให้ผมอยู่ในภวังค์ถึงตอนนี้ถ้าคนตรงหน้าบอกให้ผมกระโดดเป็นกระต่ายขาเดียวให้ดูผมก็ทำแล้วล่ะ ดังนั้นผมจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากพยักหน้ารับ   

          “ช่วยบอกชื่อคุณให้ผมรู้ทีเถอะ แล้วหลังจากนี้จะไม่มีความลับหรือเรื่องหลอกลวงอีกแล้ว ผมพนันได้เลยว่าเรื่องของคุณกับเรื่องของผมต้องคล้ายกันอย่างเหลือเชื่อแน่ๆ คุณพรานล่อเนื้อ!” 

          ผมสบตาคนตรงหน้าแล้วค่อยๆ ยิ้มให้เขากว้างขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเสียงหัวเราะที่หยุดไม่อยู่ ฝ่ายคุณราเชนทร์ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับมายิ้มกว้างกว่าเก่า ดวงตาของเขาที่มองมายังผมนั้นพราวระยับ และผมเองก็มั่นใจว่าได้มองตอบเขาด้วยสายตาที่ไม่แตกต่างกัน

          “ผมชื่อกวินทร์ครับคุณราเชนทร์ ผมเองก็มีเรื่องจะสารภาพกับคุณเหมือนกัน!”

                                                                              ***

บันทึกนักเขียน อ่านแล้วมีคำแนะนำติชมอะไรทิ้งคอมเม้นท์ไว้ได้นะคะ เรื่องนี้เขียนไว้สามปีได้แล้วล่ะมั้งมีไปโพสต์บางเวบบ้างเหมือนกันแต่นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้โพสต์ที่นี่

จริงๆ เป็นคนชอบเขียนอะไรโบราณๆ แนวร่วมสมัยอิงประวัติศาสตร์ (แต่ไม่ได้หมายความว่าเขียนเก่งนะ ฮ่าๆๆ) นี่ก็เป็นเรื่องสั้นอีกเรื่องนึงที่เขียนขึ้นเพราะได้แรงบันดาลใจจากเพลงดั่งพรานล่อเนื้อค่ะ เราชอบฟังเพลงเก่าของสุนทราภรณ์มากเพราะพ่อชอบเปิดให้ฟังตอนเด็กๆ โตมาเป็นสาววายพอกลับมาฟังเพลงนี้อีกรอบก็รู้สึกว่าเฮ๊ยมันวายว่ะ ฮ่าๆๆ (เลวเนอะ) เลยได้มาเป็นเรื่อง "ดั่งพรานล่อเนื้อ" ด้วยประการฉะนี้เองค่ะ

นอกจากเรื่องสั้นนี้เรายังมีนิยายแนวเหนือธรรมชาติ (พระเอกเป็นมนุษย์หมาป่า) ที่โพสต์ในเล้าเป็ดอีกเรื่องด้วยค่ะ ใครสนใจไปอ่าน Omega In Exile ได้ ตอนนี้ออกมา 4 ตอนแล้ว  :bye2:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ชอบแนวนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดีใจที่ได้เข้ามาอ่าน

ออฟไลน์ CaiQing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
    • CaiQing Novel
ขอบคุณมากค่ะ  :mew1: เรามีเรื่องยาวอีกเรื่องที่กำลังเขียนอยู่ตอนนี้ออกมา 5 ตอนแล้วแต่เป็นแนวแฟนตาซีเหนือธรรมชาติ ถ้าสนใจไปอ่านได้นะคะ ลิ้งค์อยู่ในลายเซ็นค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ whipcream

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ชอบค่ะ  ละมุนมาก

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ชอบพล็อตมากๆๆๆๆ  :z3: :z3:
ชอบคนแก่รักกัน ยืนยาว ยืนยง

ออฟไลน์ CaiQing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
    • CaiQing Novel
ชอบค่ะ  ละมุนมาก

ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ  :mew1:

ชอบพล็อตมากๆๆๆๆ  :z3: :z3:
ชอบคนแก่รักกัน ยืนยาว ยืนยง

ขอบคุณค่า เราชอบแนวคนแก่ด้วย หาคนชอบแนวนี้เหมือนเรายากอยู่นะเนี่ย ฮ่าๆๆ  :impress2:

ออฟไลน์ kaokorn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 903
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
ชอบ ซาบซึ้งมากเลยฮะ อ่านแล้วสงสารคุณปู่และคุณเรียมมากกกกก
ถ้าทั้งสองคนสามารถรู้ว่าความรักจะมาสมหวังเอาในรุ่นหลานคงจะดีใจมากแน่ๆ

ออฟไลน์ meakhakhanum

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ประทับใจอะ อ่านจบแล้วเหมือนกับว่าเราก็ยิ้มตามตัวละครไปด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
ตามมาอ่านแล้วค่ะ

ออฟไลน์ CaiQing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
    • CaiQing Novel
 :mew1: ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยค่า

ออฟไลน์ Raina

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
หวานๆเศร้าๆ ชอบบทบรรยายห้องสมุด อยากได้ห้องแบบนั้นบ้าง

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
เหมือนจะเห็นภาพแบบบรรยากาศเก่าๆ
ราวๆในเมืองกรุงเมื่อสักสิบกว่าปีก่อนเลย (จิ้นเอง)
แต่ดูเหมือนเศร้าๆนะ

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
น่ารักครับอ่านแล้วประทับใจมาก ..... ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
หลงรักเรื่องราว ตัวอักษร และตัวละคร
ชอบคะ ประทับใจมาก +เป็ดคะ

ออฟไลน์ Wtftt

  • โอกาสก็เหมือนไอติมถ้าไม่กินมันก็ละลาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :-[ โอยละมุนละไมหวานืยิ้มแก้มปริอะพออ่านจบ
ตอนแรกที่อ่านก็หน่วงที่ปู่เสียแลพมาหน่วงอีกตอนที่นายเอกของเราหลงรักเรียม แบบตอนนัดเจอน่าสงสารแน่ๆ
แต่พอพระเอกเราคืออ๊่ากกกกก เขินไปอีก คือต่างคนต่างทำในแนวเดียวกัน โอยน่ารักได้อีกฮือๆละมุนสุดๆ

ออฟไลน์ zhanzhao

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เดาทางได้แต่อดเขินไม่ได้อยู่ดีค่ะ :-[

ออฟไลน์ CaiQing

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
    • CaiQing Novel
 :mew1: ขอบคุณทุกๆ คนมากค่ะ

ออฟไลน์ popuri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พึ่งได้อ่าน ชอบมากๆเลยค่ะ อ่านเพลินมากก  :-[
เราชอบเหมือนคนเขียนเลยค่ะ ชอบอ่านนิยายแนวเก่าๆอิงประวัติศาสตร์มากกกก
เพลงสุนทราภรณ์ก็ชอบมากเหมือนกัน พ่อกับแม่เราชอบเปิดฟังในรถ
แรกๆบ่นมากไม่อยากฟัง ตอนนี้ชอบมาก เพลงลูกกรุงเก่าๆ ก็ชอบค่ะ เพลงแนวนี้ฟังแล้วผ่อนคลาย น่ารักดีค่ะ
พรานล่อเนื้อก็เป็นเพลงโปรดเราเลย ฟิน  :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เพลงเพราะ เนื้อเรื่องน่ารัก อ่านไปก็อมยิ้มไปด้วย :pig4:

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ชอบบบบ
ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ cinnsin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ละมุนมากกกกกกก น้ำตาจะไหล สุดยอดดดด TwT///////

ออฟไลน์ tasteurr

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 573
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
ชอบเนื้อเรื่องจัง
สะเทือนใจตรงที่กวินทร์รู้ข่าวของปู่
ตอนช่วงที่กวินทร์เขียนจดหมายตอบ ก็แอบลุ้นว่าจะหลงรักรุ่นปู่จริงเหรอ
อ่านจบแล้วก็เอ็นดูทั้งราเชนทร์ทั้งกวินทร์

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ yunnutjae

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ความรักจากรุ่นสู่รุ่น ฮือ ชอบบบบ ความคลาสสิคนี้ ถึงแม้ว่ารุ่นคุณปู่จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่รุ่นหลานได้ว่ะ โอ้ย มันสมควรมีสเป ฮือออออออออออออออ :katai1:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
คือ...มันดีเลยอ่ะ ชอบมากๆ

ออฟไลน์ Darknesseye

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ตอนอ่านจบอย่างแรกที่รู้สึกคือ ไม่น๊าาาาขอเป็นเรื่องยาวได้ม้ายยยยย :serius2:

ไม่ง่ายนะคะที่จะเจอนักเขียนที่เขียนได้ถูกใจขนาดนี้แล้วเนื้อเรื่องก็น่าติดตามมากกกกก

ขอตอนพิเศษก็ยังดีอ่ะ/อ้อนนน :monkeysad:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด