II (ใจร้าว) II up...ตอนที่ 19-23 The END 3/9/15
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่ 19-23 The END 3/9/15  (อ่าน 47678 ครั้ง)

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
คู่รองกัดกันขนาดนี้ลูกเต็มบ้านแน่นอน

จะได้ไปเป็นคู่หมั้นพายุแทนหมอกร ส่วนหมอกรก็ไปหมั้นกะฟ้าครามแทน หึหึ :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกๆแรกๆเกลียดครามมากๆๆที่ทำกับกรแบบนี้
แต่ก็ปรับความเข้าใจกันแล้วตอนนี้เลยหันมาหาคู่ยุกับฟ่าง
คู่นี้เจอกันทีไรกัดกันทุกทีเดี๋ยวคงจะลงเอยกันแน่ๆ

ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ใจร้าว

ตอนที่ 13

 ปราบเด็กดื้อ

 

 

 

“ไอ้ลุง!!!!” ร่างเล็กทำหน้าทมึงใส่คนร่างสูงอย่างไม่มีใครยอมใคร โต๊ะอาหารเกิดเป็นสงครามเล็กๆขึ้นมาทันที พายุขบฟันแน่นจนแทบอยากจะหักคอเล็กๆนั่นให้แหลกคามือ

 

“ไอ้เด็กเหี้ย!!!” เขาตวาดเสียงกร้าว ฟ้าครามโยนกระทะตะหลิวลงอ่างล้างจาน เขาหมดอารมณ์ทำกับข้าวแล้ว ก่อนจะลากเมียหมาดๆเดินออกจาห้องไปทิ้งให้ผู้ใหญ่ที่ไม่รู้จักโตทะเลาะกัน

 

“อ๊ากก อย่ามาว่าฟ่างว่าเด็กเหี้ยนะ” ร่างเล็กกรีดร้องออกมา นิ้วชี้ไปที่หน้าร่างสูง

 

“ทำไมจะว่าไม่ได้ มึงอายุเท่านี้หัดทำตัวให้มันน่ารักบ้างนี่อะไรเถียงกูฉอดๆ พ่อแม่สั่งสอนบ้างรึไงห๊ะ หรือสมองน้อยๆของมึงมันยังคิดไม่ได้ เสียดายเงินที่พ่อแม่ส่งเสียให้มึงได้เรียนสูงๆ  กูละสงสารคนที่ต้องเลี้ยงมึงมาจริงๆ”พายุจากที่เคยพูดน้อยๆไม่เคยร่ายอะไรออกมายาวเหยียดแบบนี้ คงจะเหลืออดจริงๆ

 

“แว๊กกกกกกกกกกก ไอ้ลุง อย่าอยู่เลย” ร่างเล็กที่ลุกขึ้นยืนแล้วกระโจนใส่ร่างสูงที่ยืนด่าตัวเองฉอดๆทันที  ฟ่างกระโดดเอาขากอดเอวสอบของพายุไว้ส่วนมือก็ถึ้งผมของพายุ แถมยังเหวี่ยงไปมาด้วยความโมโห

 

“ว่าฟ่างได้แต่ห้ามว่าพ่อแม่ฟ่าง แล้วลุงละห๊ะ ทำตัวเองดีแล้วรึไง แหมทีตัวเองยังมาตามตูดเพื่อนผมต้อยๆ รู้ทั้งรู้ว่ามันมีผัวแล้ว ยังจะมาอีก หน้าด้านหน้าทน ไม่มีจิตสำนึก ไอ้แกตัณหากลับ ไอโรคจิต ไอ้บ้าๆๆๆๆ ย๊ากกก”

 

ทั้งคู่ลงไปฟัดกันที่พื้น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวฟ่างมากกว่าที่เป็นฝ่ายทำร้ายอีกคน

 

ตุบ ตับ ป๊าปๆๆๆ

 

“โอ๊ยยฟ่าง หยุดนะ กูเจ็บ” พายุได้แต่ยกมือปัดป้องตัวเอง เพราะคนตัวเล็กนั่งทับเขาไว้

 

“ไม่หยุด ปากดีแบบนี้ ฟ่างจะต้องสั่งสอน” ว่าแล้วก็ยกหัวคนตัวโตกระแทกพื้น

ตุบๆ ร่างสูงแน่นิ่งไปทันที

 

“อ่าวลุง...ลุง ลู้งงงงงงงง” ฟ่างเอามือตบหน้าพายุเบาๆ แต่คนตัวสูงยังนิ่ง

 

“เป็นไรวะ..เห้ยย เลือด” มือของข้าวมีเลือดติดอยู่

 

“ลุง..ลุง พายุ พี่ยุ เป็นไรอะ...กร..ไอ้กร” ร่างเล็กร้องหาเพื่อนรักที่เป็นหมอด้วยความตกใจจนลืมไปว่ามันไม่อยู่ ร่างเล็กลนจนทำอะไรไม่ถูก....

 

“ลุง..ฮึก...ฟื่นสิวะ ตัวตั้งใหญ่ แง....จะตายไหมอ่า”  ข้าวฟ่างนั่งลงข้างพายุที่ยังคงนอนนิ่ง มือเล็กเขย่าร่างหนาไปมาใบหน้าหวานซีดเผือด

 

“หายใจป่าววะ แมร่ง” ร่างเล็กก้มลงไปเงี้ยหูฟังลมหายใจของร่างสูงทันที

 

หมับ!!!!

 

“เห้ยยยยย”

 

“หึหึหึ เสร็จกูละไอ้เด็กแสบ ดื้อด้านนักใช่ไหม กูจะปราบพยศมึงเอง”ทันทีที่ฟ่างก้มลงต่ำ พายุก็ลืมตาแล้วรวบตัวข้าวฟ่างเอาทำให้ร่างบางตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของหมอหมาแถมยังนอนทับอยู่บนตัวชองเขาอีก

 

“ละ..ลุง..ทำอะไร ปล่อย ปล่อยนะ” ฟ่างดิ้นไปมา พายุพลิกตัวค่อมร่างเล็กไว้ มือทั้งสองข้างโดนพายุตรึงไว้กับพื้น

 

“เป็นไง ซ่ามากนักใช่ไหมห๊ะ” พายุตะคอกใส่ร่างเล็กพร้อมกับบีบมือแรง

 

“เจ็บ...ลุง..เบาสิฟ่างเจ็บ”ข้าวฟ่างเริ่มจะมีน้ำตาคลอหน่วย

 

“อย่ามาสำอ่อย มึงทำหัวกูแตกเนี้ยจะรับผิดชอบยังไง”เขาถามเสียงเย็น

 

“ฟ่างง..ฟ่างง  ไม่รู้...”ร่างเล็กส่ายหัวดิก ไม่รู้จะรับผิดชอบยังไง

 

“ฟ่างขอโทษก็ได้ ฮึก..อย่าบีบแรงสิ ฟ่างเจ็บ” ร่างเล็กบอกเสียงสั่น

 

“เจ็บสิจะได้จำ คนดื้อๆแบบมึงต้องทำให้เจ็บถึงจะจำ” พายุก้มหน้าเข้าหาร่างเล็ก

 

“ลุงจะทำอะไร ไม่ ลุง อย่า อุ๊ป” พายุที่กำลังโมโหก้มลงบดจูบกับปากอิ่มด้วยความรุนแรง เขาไม่ปล่อยให้ข้าวฟ่างได้ตอบโต้หรือต่อต้าน

 

“มึงด่ากูโรคจิต ตัณหากลับได้ กูก็ทำแบบนั้นให้มึง”ก่อนจะกดจูบลงมาอีกครั้งลิ้นร้อนพยายามสอดแทรกเข้าไปในโพลงปากแต่ฟ่างกัดฟันไว้แน่น พายุเลยกัดลงที่ริมฝีปากของร่างบาง

 

“โอ้ยยย เจ็บ” พอฟ่างเปิดปากร้องเขาก็สอดลิ้นเข้าไปทันที ลิ้นรน้อนตวัดไปทั่วโพลงปากหื่นกระหาย

 

“อื้ออ ลุง...อื้ออออ อย่า ไม่เอา พี่ยุ..” ยิ่งเรียกชื่อ เขายิ่งจูบรุนแรงยิ่งกว่าเก่า..

 

“อื้มม จะดื้อกับกูอีกมั๊ยห๊ะ ทีหลังจะเถียงกูอีกไหม”เขาละจากริมฝีปากอุ่นลงไปที่ซอกคอพร้อมกับกัดลงไปอย่างแรงจนเป็นรอยแดงและมีเลือดซึม

 

“โอ๊ยยย ลุงมันเจ็บจะกัดทำอะไรวะห๊ะ นี่ปล่อยเลยนะ อื้อออ โอ๊ยยย” พายุกัดลงมาอีกครั้งพร้อมกับตวัดปลายลิ้นไปที่หัวนมแข็งของฟ่าง

 

“หึยังปากดีได้อีกนะมึง”พายุกดเสียงลงต่ำ ก่อนจะรวบมือของข้าวฟ่างไว้ในมือหนึ่งอีกมือบีบปากฟ่างไว้

 

“พูดมา ว่าจะดื้อกับกูอีกมั๊ยห๊ะ”พายุตะคอกใส่

 

“ไม่..ฮึกไม่ดื้อแล้ว ปล่อยฟ่างนะฟ่างเจ็บครับ”ข้าวฟ่างน้ำร่วงทันทีที่โดนตะคอก

 

“แล้วจำไว้นะ ว่าอย่าดื้อกับกู บอกอะไรก็ให้ฟังกันมั่ง เข้าใจไหม” ร่างเล็กพยักหน้าหงึกๆ ก่อนที่พายุจะคลายมืออกแล้ลุกขึ้นยืน ดึงตัวเล็กให้ให้ลุกด้วย

 

“มากินข้าว” พายุสั่งเสียงเข้ม ฟ่างค่อยๆเดินมานั่งที่เก้าอี้ พายุเดินไปตักข้าวใส่จาน

 

“กิน”

 

“ฮึก...ดุกูจัง แมร่ง” ฟ่างบ่นออกมาไม่จริงจังนัก เขายังรู้สึกกระอักกระอ่วนใจกับคนตรงหน้าที่จู่ๆก็มาปล้ำจูบเขา ถึงจะโมโหก็เถอะวิธีลงโทษมีวิธีอื่นตั้งเยอะแยะ ทำไมต้องจูบด้วย ทำไมต้องจูบ แง..... ร่างเล็กสะอื้นเบาๆไม่ยอกตักข้าวเข้าปากสักที

 

“กิน ทำไมไม่กิน เรื่องมากอะไรอีก”เสียงพายุดุร่างเล็กขึ้นมาอีก

 

“ก็มันเจ็บปากนี่..ลุงลองมาเป็นฟ่างมะที่โดนคนแก่ปล้ำจูบนะห๊ะ” ข้าวฟ่างโวยวายออกมาบ้าง ดวงหน้าสวยแดงก่ำ ไม่รู้เพราะโกรธหรืออายกันแน่

 

“หึ..ไม่ดีไงปากแบบนั้น กูลดตัวมาจูบด้วยก็ดีแค่ไหนแล้ว อย่าพูดให้มากกินๆไปข้าวนะก่อนที่จะได้กินอย่างอื่นแทน”  พายุจ้องใบหน้าน่ารักนั่นนิ่งๆข้าวฟ่างจำใจตักข้าวเข้าปากอย่างเสียไม้ได้ ก่อนจะกินคำด่าในใจคำ

 

“คอยดูนะฟ่างหลุดออกไปได้เมื่อไหร่จะจัดการให้หน้าหงายลย”

 

 

 

 

 “ทำปากขมุบขมิบด่าอะไรกูอีกห๊ะ”พายุที่ลอบมองข้าวฟ่างอยู่เอ็ดขึ้นมา เขายกซ้อมขึ้นมาชี้หน้าคนตัวเล็กอย่างคาดโทษ

 

“ปล่าวซักหน่อย...อย่ามาหาเรื่องฟ่างนะ” ข้าวฟ่างเถียงขึ้นมาบ้าง เขาไม่ยอมอยู่ฝ่ายเดียวแน่ๆร่างเล็กทำท่ากระฟัดกระเฟียดใส่

“คนอะไรหูหาเรื่องแต่แล้วยังเสือกหูดีอีก” เขาด่าในใจ

“หึ ให้มันจริง อย่าให้รู้นะมึงว่าแอบด่ากูในใจ” ร่างเล็กสะดุ้งนิดๆเพราะตัวเองพึ่งจะด่าไป

 

“อิ่มแล้ว” กินได้ไม่ถึงครึ่งจาน พายุมองหน้าข้าวฟ่างนิ่งๆ

 

“กินให้หมด สงสารคนทำกับข้าวปลูกข้าวให้กินมั่ง โตจนป่านนี้แล้วยังจะต้องให้สอน” ร่างสูงนั่งกอดอกบอกเสียงนิ่งๆ แววตาที่

เคยอบอุ่นดุสุดๆในตอนนี้

 

“ก็อิ่ม จะมาบังคับฟ่างทำไม ลุงอยากกินก็กินไปคนเดียวสิ”ข้าวฟ่างทำท่าจะลุก

 

“จะไปไหน นั่งลงแล้วกินข้าวในจานให้หมด”

 

“ไม่กิน อย่ามาบังคับนะไม่ใช่พ่อใช่แม่ฟ่างอย่ามา สั่ง!!!” ข้าวฟ่างที่พยายามเก็บอารมณ์ขุ่นมัวของตัวเองอย่างเต็มที่พูดลอดไรฟันออกมา

 

“สั่งเหรอกูไม่ได้สั่ง กูแค่พูดเตือนมึงเฉยๆ อ่อ แล้วถ้ามึงแดกไม่หมด อย่าได้คิดว่าจะออกจากห้องนี้ไปได้ง่ายๆ”พายุใช้น้ำเสียงติดจะยียวนนิดๆ ข้าวฟ่างชักสีหน้าทันที

 

“โหยย ลุงมันจะมากไปปะ ห๊ะ พูดหมาๆแบบนี้ มาต่อยกันซักตั้งมั๊ยวะ” ร่างเล็กท้าตีท้าต่อยทันที

 

“กล้ามากที่ถ้ากู เมื่อกี้ที่โดนไปไม่เข็ดใช่ไหมห๊ะ อยากจะโดนมากว่านี้ใช่ไหม” พายุตะคอก

 

“ดะ..โดนไร ไม่โดนเว้ย ไอ้เรื่องเมื่อกี้ถือซะว่า รถสิบล้อมันชน” ร่างเล็กว่าเสียงตะกุกตะกัก ออกอากรเขินนิดๆ แต่ก็ยังไม่ยอมทิ้งลาย..

 

“รถสิบล้อชน หึ สิบล้อ เดี๋ยวมึงได้เจอใหญ่กว่าสิบล้อแน่” พายุกดเสียงลงต่ำ นึกโมโหที่โดนหาว่าจูบของตัวเป็นเหมือนรถสิบล้อ

พายุย่างสุขุมเข้าหาร่างบางอย่างช้าๆ  ข้าวฟ่างก้าวถอยหลังสั่นหัวไปมา

 

“จะทำอะไร อย่าเข้ามานะเว้ย เข้ามากูเตะจริงด้วย” ร่างเล็กยกหมัดขึ้นมาก่อนจะหันวิ่งไปที่ประตู แต่ด้วยความที่ช่วงตัวมันต่างกันมาก พายุจับข้าวฟ่างได้ก่อนที่จะถึงประตู เขาเหวี่ยงร่างเล็กไปกระแทกประตู ก่อนจะตามไปกักตัวไว้

 

“อ๊ะ..ซี๊ดดดด..แมร่งจะแรงเยอะไปไหน” ข้าวฟ่างจับไหล่ตัวเองด้วยความเจ็บก่อนจะหันมาประจันหน้าร่างสูง

 

“ลุง จะอะไรกันนักกันหนาวะ เป็นอะไรมากปะ จะมามากเรื่องมากความทำไม”

 

“มากเรื่อง...”

 

“เออ  มะ ..อุ๊ป อื้ออออออออ” ริมฝีปากหนาประกบจูบลงมาอีกครั้งมือเล็กทุบเข้าที่ไหล่หนาอย่างบ้าคลั่งจนต้องรวบมือไว้ และครั้งนี้ ร่างสูงจะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆอีก

 

“หยุด ระ อื้ออ” ฟ่างเริ่มจะหมดแรง ต่อสู้ รสจูบเร้าร้อนที่พายุส่งมาเริ่มทำให่ร่างบางเอนอ่อน ก่อนที่จะ จูบตอบร่างสูง

 

“อือ” พายุร้องในรำคออย่างพอใจที่ข้าวฟ่างจูบตอบมือหนาค่อยๆคลายมือเล็กจนปล่อยให้เป็นอิสระ ข้าวฟ่างยกมือขึ้นคล้องคอหนาไว้ก่อนที่จะรั้งเข้าหาตัว

 

“อื้มมม..จุ๊บ” ข้าวฟ่างแอบยกยิ้ม

 

ปัก!!!!!!

 

“อื้ออออออ” ร่างสูงลงไปนอนหน้าเขียวกับพื้นทันที

 

“ขะ...ข้าว....ฟะ ฟ่างง มึง” ร่างเล็กยกเข่าตีอัดเข้ากลางเป้าของพายุเข้าอย่างแรง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า สมน้ำหน้าไอ้แก่ลามก” ข้าวฟ่างหัวเราะเยาะสะใจก่อนจะเดินออกจากห้องของกรไปด้วยรอยยิ้ม ปล่อยให้คนแก่นอน

กลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวด

 

“อึก กูจะสูญพันธ์ไหมวะเนี้ยโอ๊ยย”

 

+++++

++++

++

@ ร้านอาหาร

 

“จะกินอะไร..”ฟ้าครามหันไปถามมังกรที่นั่งทำหน้ามุ่ยใส่

 

“กูจะกินราเม็ง”

 

“แต่มันร้านสเต็กจะมีราเม็งให้มึงกินได้ไง” ฟ้าครามว่าเสียงแข็ง

 

“ก็ใช่ไง กูบอกว่าอยากกินราเม็งมึงเลือกพากูมาร้านสเต็กทำสนตีนอะไรห๊ะ”

 

“ก็กูอยากกินเนื้อ แถมร้านราเม็งมึงก็อยู่ตั้งไกลกูขี้เกียจขับรถ” ฟ้าครามอธิบายแต่นั่นยิ่งทำให้มังกรยิ่งโมโหและงอลหนักยิ่งกว่า

เดิม

 

“งั้นกูไม่กิน”มังกรลุกเดินออกจากโต๊ะ

 

“-------“ ฟ้าครามจึงต้องลุกเดินตามออกไป

 

“อย่าเป็นแบบนี้สิวะ...มีงานบ่ายไม่ใช่ไงเดี๋ยวก็ไปไม่ทัน”ฟ้าครามดึงตัวหมอเอาไว้

 

“กูไม่อยากกินสเต็ก”มังกรว่า ฟ้าครามกรอกตาไปมา

 

“กูไม่ได้ใจดีไปหมดซะทุกเรื่องหรอกไอ้หมอ กินนี้ไปก่อน ตอนเย็นเดี๋ยวจะพาไปกิน” ฟ้าครามบอกเสียงที่อ่อนลงแล้วถอนหายใจ มังกรจำยอมเพราะร่างสูงสัญญาว่าจะพาไป ร่างเล็กยิ้มออกมานิดๆก่อนจะยอมเดินเข้าไปกินอาหารด้วยกัน    หลังจากทานกันเสร็จก็รีบกลับคอนโด ทันที

 

“พี่ยุ?” ฟ้าครามร้องออกมาเมื่อเข้ามาในห้องแล้วเจอสภาพพายุที่นั่งหน้าเขียวอยู่ที่โซฟา

 

“เพื่อนมึงทำกุแสบมาก..อู้ยยย บอกมันระวังตัวไว้ใหดี” พายุนั่งตัวงอ และเล่าว่าตัวเองโดนอะไรมาแต่ไม่ได้บอกว่าโดนตีเข่า

เพราะอะไร....นึกแค้นใจข้าวฟ่างสุดๆ

 

ชายหนุ่มได้แต่มองคู่หมันของคนรักด้วยแววตาสงสาร แต่ก็แอบขำปนสะใจนิดๆ

 

“กลับเองไหวป่าวพี่ยุ”มังกรที่เอายาแก้ปวดกับแก้อักเสบมาให้พายุกินถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

 

“ไหว ยังไงพี่กลับก่อนละกัน ซี๊ดดแมร่งงงรู้สึกเหมือนมันจะบวมๆ” เสียงตอนสุดท้ายที่เขาบ่นอยู่คนเดียวทำเอามังกรขำพรืดออกมา

 

หลังจากส่งพายุมังกรก็เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานโดยมีฟ้าครามเป็นคนไปส่ง

 

“เย็นกูจะมารับไปกินข้าว เวลาพักมึงกี่โมงละ”

 

“ทุ่มหนึ่งอะ”

 

“อืม ไปทำงานได้แล้วปะ” ร่างสูงเอ่ย มังกรหมุนตัวเข้าประตูไปฟ้าครามถึงขับรถออกมาและตรงไปยังร้านของตัวเองทันที

 

 

2CB

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อัพแล้วคร้า o22ขอโทษนะคะที่มาช้า :z6:

ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ :bye2: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ตอนต่อไปนี่พายุจับฟ่างกดแน่เลยดื้อนักหึหึหึ  :hao6: :hao6:


ส่วนมังกรนี่ขยันอ้อนนะเนี่ย ฟ้าครามก็ขยับเอาใจอิอิ  :hao7:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
จับกดเลยพายุดื้อดีนัก

ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่ 14 อัพ 13/07/15
«ตอบ #65 เมื่อ13-07-2015 23:50:08 »

ใจร้าว

 

 

ในผับxxx

 

“โห่เฮีย กว่าจะเสด็จมาได้ ร้านจะเจ้งอยู่ละ โน่นเลยบัญชียาวเป็นหางว่าว” ไม้เด็กหนุ่มที่เป็นคนดุแลบาร์น้ำบ่นทันทีที่เห็นเจ้านายตัวเองเดินเข้าร้านมา ไม้รู็สึกโล่งใจจนแทบจะกระโดดไปมารอบๆ เพราะที่ผ่านมาเขาทำหน้าที่แทนร่างสูงเหนื่อนจนสายตัวแทบขาด แต่จะทำไงได้ ในเมื่อเจ้านายใจดีเพิ่มเงินเดือนให้อยู่หลายบาทคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม

บ้านก็ไม่ต้องเช่ากับข้าวก็ไม่ต้องซื้อ แถมยังมเงินเดือนอีก

 

“อย่ามาบ่นกูไอ้ไม้ กุไม่อยู่แค่ไม่กี่วัน ร้านมันจะเจ้งได้ไง”ฟ้าครามแหวกลับ ไอ้ที่บอกไม่กี่วันนี่มันร่วมๆอาทิตย์ เพราะมัวแต่ไปตามง้อหมอมังกร ไอ้ไม้ที่รู้ดีได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินกลับเข้าไปในหลังร้าน...

 

       เมื่อร่างสูงเข้ามาในห้องทำงานปรกติเขาจะมองเห็นแต่ภาพร่างเล็กของต้าเดินไปเวียนมาแต่มาวันนี้ มันกลับมีแต่ภาพของมังกร เสียงที่คนด่าคอยว่าเขา ร่างสูงยกยิ้มนิดๆก่อนจะไปนั่งเคลียร์บัญชีที่ยาวเป็นหางว่าว

 

          ก็อกๆ   เสียงเคาะประตูดังขึ้น ร่างสูงละสายตาจากตัวเลขมากมายในจอคอมพิวเตอร์ หันไปมองที่ประตู

 

“เฮียๆคุณฟ่างมา”สีหน้าไอ้ไม้วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา ฟ้าครามย่นคิ้วกับท่าทีของไม้

 

“แล้วไงมึงจะตื่นเต้นทำห่าอะไรวะ” ฟ้าครามลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาลูกน้อง

 

“ถ้ามาแบบปรกติผมคงไม่ตื่นแบบนี้หรอก คุณฟ่างอาระวาดแล้วเฮีย” ฟ้าครามเลิกคิ้วสูงหนักกว่าเดิมนี่ร้านยังไม่ทันเปิด ไอ้ฟ่างมันจะอาระวาดใส่ใคร ร่างสูงรีบเดินลงไปยังชั้นล่างทันที

 

เสียงเอะอะโวยวายดังสนั่นร้าน

 

“คราม”เสียงหวานเรียกให้เจ้าตัวยิ้มกว้าง

 

“กรมึงมาทำไมกุบอกว่าจะไปรับไง” ฟ้าครามเดินไปจับคนตัวเล็กกว่าเข้ามาหาตัว

 

“พอดีกูเลิกเวรเร็วอะ” น้ำเสียงเหมือนคนที่ปิดบังอะไรไว้ สายตาคมเหลือบมองคนที่กำลังทะกันเสียยกใหญ่ก่อนจะหันมามองคนที่ยืนยิ้มแห้งๆตรงหน้า

 

“คือ...พ่อกูเค้าให้พี่ยุพามากินข้าว” ในที่สุดร่างเล็กก็พูดออกมาเมื่อเห็นสายตาจับผิดของคนรัก

 

“แล้ว...”เสียงทุ้มแสดงอาการไม่พอใจ

 

“ไอ้ฟ่างมันมาพอดีไง กูบอกว่ามึงจะพาไปกินข้าว พี่ยุเลยบอกว่ามากินร้านมึงก็ได้ก็เลยพากันมา” มังกรบอกเสียงอ่อยๆกลัวครามจะน้อยใจที่พายุไปรับ

 

“อืม..”ฟ้าครามรับคำสั้นๆก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องให้แม่ครัวทำอาหารมาให้สามสี่อย่าง เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงร้านก็จะเปิดแล้ว มังกรมองหน้าฟ้าครามนิ่งๆใจนึกหวั่นๆว่าฟ้าครามจะโกรธ

 

“มึง...โกรธปะ”เสียงหวานหยั่งเชิง

 

“โกรธเรื่อง..”

 

“ที่พี่ยุมารับกูไง ทั้งๆที่มึงต้องเป็นคนไปรับกูอะ” ฟ้าครามส่ายหน้าก่อนจะลากคนตัวเล็กขึ้นไปชั้นบน

 

“มึงน่ารักแบบนี้กูโกระไม่ลงหรอก” เขาดันคนตัวเล็กให้นั่งลงบนโซฟาก่อนจะโน้มหน้าไปประกบจูบด้วยความคิดถึง ร่างเล็กครางอือรับรสจูบของฟ้าคราม

 

“พอแล้ว...กูหิวข้าวแล้ว” มังกรดันอกแกร่งให้ออกห่าง ฟ้าครามถอนจูบอย่างเอื่อย    เฉื่อยไม่อยากจะหยุด ไม่รู้ทำไมเดี๋ยวนี้กับคนตรงหน้าเขาถึงได้โหยหานัก

 

“อืม..”ดวงหน้าหล่อคมผละออกไปทำเหมือนไม่พอใจ ก่อนที่มือเล็กจะคว้าไว้

 

“คืนนี้...ทีห้องนะ” ร่างสูงหันมามองคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าซ่อนความอายเอาไว้ เขายกยิ้มนิดๆ เมื่อแกล้งแล้วเจ้าตัวยินยอมเขาง่ายๆ

 

“อืม..”

 

“ยะ..อย่าโกรธกูนะ” เสียงหวานติดสั่นๆ เขาไม่อยากให้ฟ้าครามรู้สึกไม่ดีและยังมีอีกอย่างที่เขายังไม่ได้บอกร่างสูง....เรื่องกำหนดหมั้น....

 

ด้านล่าง

 

“น่ารำคาญ”คนตัวเตี้ยพูดออกมาพร้อมกับลอยหน้าลอยตาใส่อีกคนที่นั่งกอดอกมองหน้ากันนิ่งๆ

“ถ้ารำคาญก็กลับบ้านไป” พายุพูดออกมา ข้าวฟ้างมองตาค้อนจิ๊ปากใส่

“เกะกะลูกกะตา หนังยานจนจะถึงพื้นอยู่ละ” ข้าวฟ่างพ่นคำร้ายๆออกมาอีก พายุนั่งนับเลขอยู่ในใจ และทำเป็นไม่สนใจ จนเพื่อนๆของคนปากร้ายเดินลงมาจากด้านบน ข้าวฟ่างรีบเดินไปเกาะแขนฟ้องทันที

“ไอ้ครามมึงไล่ตาลุงนั้นกลับไปทีดิ น้า” ฟ่างเอาหน้าถูแขนอย่างออดอ้อน มังกรมองตาดุ

“พี่ยุมากับกูไอ้ฟ่าง แล้วเลิกทำตัวเป็นเด็กสักทีกูเห็นแล้วรำคาญลูกกะตา” มังกรว่าเสียงเขียวนึกไม่พอใจเพื่อนรักตัวเองออกมาซะอย่างนั้น พายุเองก็ขำพรืดที่เห้นคนตัวเตี้ยโดนด่าหน้าแหก

“ขำอะไรไอ้แก่” คำว่าแก่นี่มันคำต้องห้ามสำหรับพายุไปในทันที ร่างสูงใหญ่กำยำสมชายชาตรีของพายุ ลุกขึ้นยืนทันที

“อยากจะโดนกูสั่งสอนอีกรอบใช่ไหมฮะไอ้เด็กสนตีน” ข้าวฟ่างรีบวิ่งมาหลบด้านหลังครามทันที

“ครามตาลุงมันจะฆ่ากูแล้ว” ฟ้าครามไม่สนใจ เขาเดินไปจูงมือร่างบางที่ยืนหน้าบอกบุญไม่รับให้มานั่งที่โต๊ะ เพราะ อาหารเริ่มนำออกมาวางที่ดต๊ะพวกเขาแล้ว

“ตีหน้ายุ่งอีกแล้ว หิวไม่ใช่ไง” ฟ้าครามเอานิ้วจิ้มที่หว่างคิ้วของหมอหนุ่ม

 

           หมอหนุ่มมัวแต่นั่งคิด ถึงเรื่องของตนและเรื่องของฟ้าคราม ว่าต่อจากนี้จะเป้นยังไง ในเมื่อพ่อเขากำหนดเรื่องงานหมั้นมาแล้ว  พ่อของมังกรกับแม่ของพายุมาเรียกเขาเข้าไปพบเมื่อบ่าย  ร่างบางมองภาพของข้าวฟ่างกับพายุด้วยใจที่สับสน หรือจะให้สองคนนี้รักกัน เขาจะได้ไม่ต้องแต่งงาน แต่ว่า...พายุจะทนยอมรับกับความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของข้าวฟ่างได้รึเปล่า รายนั้นนอกจากจะไม่หยุดที่ใครแล้ว ยังมีนิสัยเจ้าแง่ เจ้างอนและเอาแต่ใจ พายุเป็นผู้ชายที่มาดนิ่งและรักสงบ แต่พอมาเจอเพื่อนรักเขามาดนิ่งๆสุขุมดูเป็นผู้ใหญ่ของสัตว์แพทย์หนุ่มนั้นหายวับไปกับตา มีแต่หมอหมาที่ใจร้อนและหยาบคาย

 

    “กร มึงเป็นอะไร มีอะไรปิดบังกูอยู่รึเปล่า” เสียงทุ้มเอ่ยทักทำให้ร่างบางหลุดออกจากภวังค์ หันมาสบตากับร่างสูงผู้เป็นเจ้าของหัวใจ มังกรหันไปสบตากับพายุด้วยสีหน้าที่กล้ำกลืน เหมือนคนน้ำท่วมปาก

    “คราม คือ กูกับพี่ยุ..” ร่างเล็กกัดริมฝีปากตัวเอง

    “อะไร ทำไมพูดออกมาสิวะ” ฟ้าครามเอ่ยเสียงเครียด เขามองหน้าสองคนนั้นสลับกัน

   “งานหมั้นของพวกเรากำหนดออกมาแล้ว พี่กำลังจะบอกนายอยู่พอดี”พายุรีบบอกเพื่อให้สถานการณ์ผ่อนคลาย แต่ดูเหมือนฟ้าครามจะเครียดหนักกว่าเดิม แต่คนที่มีสีหน้าเครียดกว่าคือ ข้าวฟ่าง แม้จะรับรู้เรื่องราวมาบ้าง แต่คนตัวเตี้ยกลับมีความรู้สึกอื่นมาเจือปนนอกจากความตกใจ  ความรู้สึกที่มันอธิบายไม่ได้

 

“หมายความว่าไงไอ้หมอ นี่มึงคิดจะปิดบังกูรึไง มึงจะไม่บอกให้กูรู้ หรือต้องรอให้มึงเข้าห้องหอกับพี่ยุก่อนมึงถึงจะบอกกูนะห๊ะ” ฟ้าครามพูดออกมาเสียงดัง  เขารู้สึกโมโหมากที่ร่างบางคิดจะปิดบัง

 

“หมั้นแล้วแต่งเลย”มังกรเอ่ยออกมาเบาๆ ฟ้าครามรู้สึกเหมือนโดนค้อนอันใหญ่ฟาดลงมาที่หัว เขามึนงงไปหมด ใจมันสั่น จนควบคุมไม่อยู่ มันเร็วไปไหม

 

“เดือนหน้า กูจะต้องแต่งงานแล้ว” ร่างบางยื่นมือไปกุมมือใหญ่ น้ำตาค่อยๆไหลออกมาอาบทั้งสองแก้ม เขาเองก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ เพราะคิดว่ากว่าโครงการจะเสร็จก็น่าจะอีกปีสองปี แต่นี่  ทางพ่อแม่ของทั้งสองอยากจะทำให้มันเสร็จเร็วๆ เลยเซ็นสัญญากันเรียบร้อย เหลือแต่กว้านซื้อที่ดินที่ต้องการเท่านั้น ร่างบางอยากจะบอกให้ครอบครัวได้รู้ว่าตนเองไม่ได้รักและไม่อยากแต่งงาน แต่คำว่า ลูก ละความกตัญญูมันค้ำคอซะจนเขามาอาจจะทำให้พ่อแม่ผิดหวังได้ พายุเองก็รู้เขาพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกเมื่อ และพร้อมที่จะทำตามต้องการของหมอน้อยของเขาเสมอ....

 

“กู...กรมึงยกเลิกงานแต่งบ้าบอนั่นไม่ได้เหรอวะ” ฟ้าครามมองตาเขาหวังอยู่ลึกๆว่ามังกรยังเห็นเขาสำคัญ

 

“กูทำได้กูทำไปนานแล้ว คราม กูรักมึงนะรักมาก” มังกรดึงคนตัวโตกว่าเข้ามากอด ทุกอย่างมันเงียบลงจนได้ยินเสียงสะอื้นของหมอหนุ่ม

 

“กูจะต้องทำยังไง ไหนมึงบอกกูสิกร ว่ากูต้องทำยังไง” ฟ้าครามบอกเสียงสั่น นึกน้อยใจในโชคชะตา ครั้นจะมีรักใหม่กลับต้องมาพลัดพรากจากกันอีก

 

“มึงรอกูได้ไหม ขอให้โครงการบ้าๆของพ่อกูมันเสร็จเสียก่อน แล้วกูจะหย่าทันที ถึงเวลานั้น มึงยังจะรอกูไหม” ร่างเล็กจับเสี้ยวหน้าของฟ้าครามให้หันมาสบตา

 

“รอ  นานแค่ไหนกุก็จะรอ” มือหนายกปาดน้ำตาเม็ดโตที่ร่วงเผาะจากดวงตาคู่สวยของมังกร ข้าวฟ่างแอบไปยืนร้องให้ตรงห้องน้ำสงสารเพื่อนจับใจ พายุเองก็ไม่อยากนั่งให้อึดอัด จึงเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำแทน....

 

++++

 

 

“ฮึก....ไอ้หมอหมามึงทำเพื่อนกูเสีย แง...ถ้าไม่มีมึงสักคนเพื่อนกูคงได้สมหวัง ฮึก” เสียงหวานสะอึกสะอื้นอยู่ในห้องน้ำ โดยไม่รู้ว่ามีใครอีกคนที่เดินเข้ามาได้ยินพอดี

พายุขมวดคิ้วเข้มๆในใจนึกโทษตัวเองอยู่เช่นกัน ถ้าไม่มีเขามังกรคงไม่ต้องมาถูกบังคับให้แต่งงาน

 

“ฮึก...พายุ พายุ ฮือออ ไอ้คนบ้า...ไอ้หน้าไม่อายแง” เสียงหวานยังคงด่าทอใครบางคนที่ยืนฟังอยู่เงียบๆ พายุยืนพิงอ่างล้างหน้าพรางครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ที่จำทำให้คนทั้งหมดหลุดจากวงโคจรของธุรกิจบ้าๆนี่

 

                 ร่างสูงยืนรออีกคนให้ออกมาจากห้องน้ำอย่างเงียบๆแม้เขาแทบจะทนฟังร่างเล็กด่าทอเขาสารพัดไม่ไหวแต่ก็ยังยืนรออย่างใจเย็น และอยากจะอธิบายว่าตนเองก็ไม่อยากจะให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้

 

แกรก เสียงไขประตูเรียกให้สายตาคมจับจ้องไปที่ประตูบานนั้น

 

เฮือกกก

 

แวบแรกที่สบตาคือสายตาวาวโรจน์แห่งความโกรธก่อนจะแปลเปลี่ยนไป

 

“ไง ระบายกับโถส้วมแล้วรู้สึกดีขึ้นมะ” น้ำคำยังคงยียวนเสมอต้นเสมอปลาย ร่างเล็กได้แต่ใช้บวมๆนั้นค้อนขวับกลับไป ไม่ปริปากต่อล้อต่อเถียงสักคำ ก่อนจะเดินกระแทกตัวชนกับร่างสูงใหญ่ออกไปด้านนอก ดวงตาเล็กหวานตอนนี้บวมช้ำจากการร้องให้ ทั้งเสียใจทั้งโมโหคนตรงหน้าที่เป็นสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด...ปากอวบอิ่มกัดเม้มแน่น ใจอยากจะกระชากหัวยุ่งๆนั้นโขกกับอ่างน้ำซะให้รู้แล้วรู้รอด..ไม่รู้ตัวเลยว่าขายาวๆของพายุก้าวตามเขามาอย่างกระชั้นชิดก่อนจะคว้าแขนเล็กแล้วออกแรงกระชากเข้าหาตัว ใบหน้าหวานๆเซไปประทะกับอกแกร่งอย่างแรงจนคนโดนดึงร้องโอย  วงแขนกว้างกระชับกอดคนตัวเล็กที่สูงแค่อกเขาราวกับคำปลอบโยน อ้อกอดอบอุ่นที่ค่อยๆละลายใจเย็นชาอย่างน้ำแข็งของข้าวฟ่างลงที่ละนิด ไม่รู้ทำไมเขาถึงอยากจะกอดคนตัวเล็กนี้ไว้ เวลาเห็นคนที่เอาแต่โวยวายและทำตัวดื้อด้านอย่างข้าวฟ่างร้องให้เสียน้ำตา.....

 

“ขอโทษนะ” เสียงของคนสำนึกผิดและกำลังคิดหนักเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาจนคนที่ก่นด่าร่างสูงอยู่เมื่อครู่ถึงกับเลิกคิ้วสูงและใจเต้นแรง

 

“ขอโทษจริงๆ” มือหนายกขึ้นลูบหัวเล็กอย่างแผ่วเบา เขานึกอะไรไม่ออกจริงๆนอกจากคำว่าขอโทษ

 

 

“ลุง ปล่อยเหอะ ฟางอึกอัด” เสียงหวานบอกเบาๆพร้อมกันดันตัวออก ใบหน้านราวกับเด็กสาววัยแรกรุ่นก้มหน้างุด ไม่หันหน้าขึ้นมาสบตา ใจของคนตัวเล็กเต้นแรงพอๆกับคนตัวโต ต่างคนต่างผละออกจากกันเหมือนคนโดนไปฟ้าช็อต ต่างคนต่างเงียบและไม่ยอมขยับไปไหน พายุตีหน้าขรึม และก็เป็นข้าวฟ่างที่เดินหนีออกไปเป็นคนแรก


2cb

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่ 14 อัพ 13/07/15
«ตอบ #66 เมื่อ14-07-2015 16:03:36 »

ทุกปัญหามีทางออกเสมอ อยู่ที่ว่าคนแต่งจะให้ทางออกมันเป็นแบบไหน

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่ 14 อัพ 13/07/15
«ตอบ #67 เมื่อ14-07-2015 19:26:23 »

เงิบ

ครามกับฟ่างจะต้องรอจริงๆดิ

หลายปีเลยนะนั่น

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่ 14 อัพ 13/07/15
«ตอบ #68 เมื่อ14-07-2015 21:32:10 »

เด๋วก็ผ่านไป

ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่ 15 อัพ 17/07/15
«ตอบ #69 เมื่อ17-07-2015 23:46:08 »


ใจร้าว

 ตอนที่ 15

 

    ใจร้าว

 

 

    เสียงเพลงดังกระหึ่มลงบีทหนักๆตามใจดีเจร่างบางยืนเต้นแร้งเต้นกาเหมือนคนไม่มีสติ มีเพียงชายหนุ่มร่างสูงที่คอยยืนดูอยู่เงียบ มีบ้างที่ไปดึงคนตัวเล็กให้มาอยู่ใกล้ๆ

 

“ลุงจะมายุ่งอะไรกับฟ่างเนี้ยกลับบ้านไปกินรังนกแล้วนอนเถอะวัยรุ่นเค้าจะสนุกกัน” เสียงยานครางนิดๆกับใบหน้าสวยติดออกจะรำคาญว่าใส่ร่างสูงเสียงดัง พายุได้แต่ยืนตีหน้ามึนไม่พุดไม่จา แต่มือกลับรั้งเอวบางไว้ใกล้ตัว สายตกก็จ้องเขม็งไปยังบรรดาหนุ่มน้อยใหญ่ที่จ้องเขมือบคนตัวเล็กนี่

 

“อย่าแรดไอ้เตี้ย เพื่อมึงสั่งกูไว้”คำโกหกเพื่อที่เขาจะได้อยู่ใกล้ทำอาข้าวฟ่างมุ่นคิ้ว

 

“ตอแหลวะลุง ไปๆๆ ฟ่างจะไปเต้นวู้ ขัดใจวัยรุ่นอีกละ” ร่างเล็กขยับตัวออกจากวงแขน แล้วขึ้นไปเต้นบนฟอร์ด้วยความสนุก ไม่สนใครที่พยายามจะล้วงจะควัก หรือ ทำตัวเป็นปลามุกกับตัวเองซักนิด ภาพที่เห็นทำเอาคนแก่อย่างพายุรู้สึกขัดใจแปลกๆ เขานับหนึ่งถึงร้อยเป็นรอบที่สิบ ตั้งแต่มา ตอนนี้ฟ้าครามกับมังกรขึ้นไปทำงานที่คั่งค้างอยู่....

 

“เห้ยย อะไรวะ...อย่ามาจับดิวู้” เสียงหวานตวาดใครบางคนเสียงดังจนพายุต้องหันไปมอง แล้วสิ่งที่ทำให้คนใจเย็นอย่างพายุถึงกับคลุ้มคลั่ง

 

“อื้อออ อ่อย นะ ม่าย” ร่างเล็กของฟ่างกำลังถูกชายหลายคนรุมทึ้ง มีคนหนึ่งกำลังบดจูบร่างเล็ก..

 

“ไอ้ระยำ ....” พายุสะบถเสียงกร้าวก่อนจะพุ่งตัวไปยังคนกลุ่มนั้นที่อาศัยความเมากับความมืดลากข้าวฟ่างไปด้านหลัง

 

                  ข้าวฟ่างดิ้นรนหาหางเอาตัวรอดแต่แรงควายของผู้ชายสามสีคนข้าวฟ่างสู้แรงไม่ไหวแน่นอน..

“ฮือออ ปล่อยกุนะเว้ยยย ...มังกร ฟ้าครามช่วยกูด้วย” ปากบางตะโกนลั่นหาทางเอาตัวรอดทันที

 

“หุบปากเลยนะมึงถ้าไม่อยากเจ็บตัว.”คนหนึ่งขู่เขาเยงเหี้ยม ร่างเล็กสั่นไปทั้งตัว

 

“เห้ยยยย พวกมึงทำอะไร” เสียงเหี้ยมของพายุที่วิ่งมาตะโดกนก้อง ร่างเล็กเบิกตากว้างงง

 

“ลุงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ช่วยฟ่างด้วย” ร่างบางดิ้นเร้าจนคนที่จับซัดหมัดเข้าที่ท้อง

 

“อุก....”  ความจุกเสียดแล่นไปทั่วตัว ข้าวฟ่างหมดเสียงร้องไปในทันที ร่างเล็กตัวงอเป็นกุ้ง ปากเล็กสบถด่าไม่เป็นคำ

 

“อื้ออ ไอ้ ค..ยแมร่ง เลวสัส กุตัวเล็กเป็นมดยังจะต่อยกูอีก” ข้าวฟ่างทรุดลงนั่งกับพื้นด้วยใบหน้าซีดเผือด ก่อนที่จะร่างของใครบางคนลอยละลิ่วตกแหมะตรงหน้าเขา

 

“เห้ยลุง....เป็นไงบ้าง” ร่างเล็กรีบพยุงตัวเองไปดูร่างสูงที่นั่งนิ้วหน้าอยู่

 

“เจ็บสิวะถามได้ นี่มันคนหรือควายแรงแมร่งเยอะชิปหาย” เข้าบ่านแต่ก็ต้องกัดฟันลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงคนตัวเตี้ยให้ไปหลบอยู่ด้านหลัง ข้าวฟ่างกำเสื้อขาวๆของชายหนุ่มไว้แน่นด้วยความกลัว

 

“จะเอาไงวะ ส่งตัวเด็กนั่นมาซะดีๆถ้ามึงไม่อยากตายเป็นผีเฝ้าโรงรถนี่” เสียงของหัวกลุ่มตวาดเขา

 

“เหอะ ฝันไปเถอะ เด็กนี่มันเป็นของกู อยากได้ก็มาแย่งเอา”เสียงท้าทายกับร่างกายที่ตั้งท่าพร้อมรับ มือหนึ่งกดโทรศัพท์โทรออกหาใครอีกคน..ในใจภวนาขอให้รับ อย่ามัวแต่พลอดรักกันจนไม่สนใจพวกเขาเลย

 

วืด

 

ขาข้างหนึ่งลอยผ่านหน้าเขาไปแบเส้นยาแดงผ่าแปด เพราะเจ้าตัวเบี่ยงหลบได้ทันก่อนจะตามาด้วยหมัดเข่าศอกซึ่งเขาทั้งปัดป้องและสวนกลับเช่นเดียวกัน ห่วงก็แต่คนข้างหลัง เพราะกลังจะโดนลูกหลง เพราะเขาเอาตัวบังไว้

 

ผัวะ

 

“โอ๊ยย”ครั้งนี้เป็นเสียงข้าวฟ่างเพราะจังหวะที่ร่างสูงหลบดันลืมดึงคนตัวเล็กหลบด้วย หมัดที่ตั้งใจจะอัดลิ้นปี่เขาจึงโดนแก้มนวลเข้าเต็มๆ

 

“ลุง หลบทำไม โอ๊ยยฟ่างเจ็บแล้วนะ แง” ร่างเล็กกรี๊ดร้องออกมาเสียงแหลมด้วยความโมโห

 

“เห้ยแล้วไมมึงไม่หลบตามเล่า”มือหนารีบดึงคนตัวเล็กเข้าไปดูทันโดยลืมไปว่าตัวเองกำลังโดนรุมสหาบาทาอยู่

 

หมับ

 

ตุบ

 

ผัวะ

 

เสียงส็กันดังอุลตหลุด จนคนที่เขาคอยภาวนาให้รับโทรศัพท์ ก็วิ่งเข้ามา

 

 

“เห้ยย พวกมึงจับมันไว้ให้หมด”เสียงเข้มของฟ้าครามตวาดเสียงดังลั่นสั่งการ์ดตัวเองจับตัวคนร้ายไว้ได้ทันควัน

 

“โห่ กว่าจะมาพี่แทบจมกองตีน” ร่างสูงเอ่ยอย่างตัดพ้อทันทีที่มังกรวิ่งหอบเข้ามาหา เพราะมัวแต่ตามคนมาช่วย

 

“กรขอโทษพี่ยุ แล้วนั่นไอ้ฟ่างเป็นอะไร” มังกรสังเกตเพื่อตัวเองที่ยืนนิ่งเอามือกุมแก้มใสตัวเองไว้ พายุรีบจับใบหน้าหวานขึ้นมาสำรวจ

 

“เจ็บไหมเตี้ย โหดูดิบวมฉึ่ง เลย”มือหยายกปลายคางคนตัวเล็กขึ้นมามอง แล้วแตะเบาๆด้วยความห่วงใย ดวงตากลมมองหน้าคนตัวโตกว่า

 

“ลุงหลบมันทำไม ตัวก็โตยังสู้พวกมันไม่ได้อีก” ข้าวฟ่างบ่นออกมาเสียงดังทำท่าจะร้องให้ออกมา

 

“โห มึงก็ดูตัวมันดิ แถมมากันตั้งสามสี่คนกูจะไปสู้อะไรไหวละ กูเป็นหมอนะมึงไม่ใช่นักมวยถึงจะได้ไปสู้พวกมันได้”พายุว่าออกมา พร้อมกับเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดคราบน้ำตากับฝุ่นใบใบหน้าหวาน ฟ่างเบ้หน้านิดๆเพราะโดนรอยที่โดนต่อย

 

“ซี๊ดเบาสิลุง”

 

“เบาสุดละเนี้ย”

 

“ไอ้ฟ่างคนไหนที่มันต่อยหน้ามึงอะ”จู่ๆฟ้าครามก็ถามขึ้นเสียงเย็น มังกรเองก็จ้องเขม็งไปที่กลุ่มคนที่นอนหมอบเพราะโดนตีนจนน่วม

 

"ไอ้คนที่ระเบิดหูอะ” ฟ่างชี้ มังกรเดินเข้าไปหาคนๆนั้นพร้อมกับจิกหัวมันขึ้นมา

 

“มึงทำเพื่อนกุใช่ไหม” ยังไม่ทันได้ตอบหมัดหนักของมังกรก็อัดเข้าเต็มดั้งและหักทันที

 

“พามันไปที่โรงพยาบาลกู” หลังจากอัดไปหลายหมัดร่างโปร่งก็สะบัดมือออกและสั่งไม้ให้พาเดนนรกพวกนี้ไปที่โรงพยาบาล ไม่อยากจะมันตายในร้านให้เป็นเสนียด

พายุมองร่างโปร่งอย่างอึ้งๆเพราะยังไม่เคยเห็นหมอฟิวขาดและโมโหขนาดนี้ ฟ้าครามยังดูใจเย็นกว่าทั้งๆที่ลักษณะไม่น่าใช่

 

“เจ็บมากไหมมึง”หมอหนุ่มถามเสียงอ่อน

 

“เจ็บสิมึง..ดูดิหน้ากูหมดสวยเลย แล้วแบบนี้กูจะไปแรดใส่ใครได้วะ” ร่างเล็กพูดไปแบบไม่จริงจังสองหนุ่มเพื่อนรักพากันหัวเราะขำกับความทะเล้นของข่าวฟ่าง แต่คนที่ฟังแล้วลมออกหูกลับเป็นพายุ

 

ป๊าปป แรงตบเบาๆปะทะเข้าที่หัวทุย

 

“แรดนักรู้งี้ไม่ไปช่วยก็ดี”

 

“อะไรละลุง มาตบหัวฟ่างทำไม”ร่างเล็กค้อนควับทันที

 

“เรียกสติไง ไม่เข็ดโดนลากไปแบบนั้น” พายุว่าออกมาใบหน้าหล่อเข้มดูจริงจังขึ้นมาทันที  ข้าวฟ่างเงียบ

 

“ไปกลับบ้าน” ร่างสูงของพายุลากคนตัวเล็กออกไปทันที

 

“อ่าวเห้ย..พี่ยุนั่นเพื่อนกรจะเอาไปไหน” มังกรทำท่าจะเดินตามแต่ฟ้าครามรั้งเอาไว้

 

“เออ มึงปล่อยเค้าไปเหอะน่า มาคุยเรื่องของเราดีกว่าจะเอาไง” ร่างสูงพาวกกลับมาเครียดอีกครั้งโดยที่ไม่ตั้งใจ

 

“เอาไง จะให้เอาไงละ ก็อย่างที่บอก” ร่างโปร่งถอนหายใจแรงคิดไม่ตก

 

“ช่างแมร่งเหอะมานี่มา”ฟ้าครามดึงตัวมังกรที่ตีหน้ายุ่งเข้าไปกอด

 

“นานแค่ไหนกูก็จะรอ มึงเหอะ อย่าไปหลงเสน่ห์ไอ้หมอหมานั่นละกันไม่งั้นกูเอาตาย” ฟ้าครามพูดเสียงดุ มังกรหลุด

ขำออกมาเขากอดร่างสูงแน่น เขาหันไปสั่งลูกน้องให้จับพวกนี้ส่งตำรวจข้อหาทำร้ายร่างกายและอนาจาร ส่วนเจ้า

ทุกข์เดี๋ยวจะตามไปแจ้งข้อหาพรุ่งนี้ สั่งเสร็จก็จะจูงมือกันเข้าร้านเคลียร์บัญชีที่คั่งค้างจนหมดกินเวลาไปหลาย

ชั่วโมง ฟ้าครามเหลือบมองร่างบางที่นั่งเรียงเอกสารอยู่เมื่อชั่วโมงก่อนตอนนี้สัปหงกคอพับกับโซฟาไปแล้ว

 

“กร ตื่น กรกลับบ้านกัน”ฟ้าครามปลุก

 

“อืออ “มังกรทำเพียงแค่ครางงึมงำอย่างคนรำคาน ฟ้าครามเลยช้อนตัวคนรักขึ้นแล้วพาลงไปที่รถ

 

“ไม้มึงปิดร้านให้เรียบร้อยนะเว้ย”ฟ้าครามสั่งลูกนองคนสนิทที่มองทั้งคู่ยิ้มๆ

 

“กว่าจะลงเอยกันได้ นานชิปหาย” เด็กหนุ่มบ่นเสียงเบาๆนึกดีใจกับเจ้านายตัวเองไม่น้อย

 

+++++++++++++++++++

 

“ฟ่างตื่น ถึงบ้านมึงแล้ว” ร่างสูงของพายุที่ขับรถมาส่งเด็กดื้อที่บ้าน รถเขาจอดอยู่ริมรั้วนานแล้ว

 

“อือออ บ้านไม่มีคนอยู่ หรอก พ่อแม่อยู่เมกา ฟ่างอยู่บ้านคนเดียว” ร่างเล็กตอยงึมงำอยู่บนเบาะเขาขยับตัวน้อยๆล้วงเอากุญแจบ้านออกมา

 

“นี่ไงกุญแจ”พูดทั้งๆที่หลับตาแล้วยื่กุญแจพวงใหญ่ส่งให้ร่างสูง

 

“เอามาทำไม มึงก็ลงไปสิ”พายุโยนกลับ

 

“ม่ายเอา ขึ้นบ้านไม่ไหว อุ้มหน่อย” พายุอยากจะเอาหัวโขกกำแพงทำไมเข้าต้องมายุ่งยากกับเด็กดื้อด้านแบบนี้ด้วย

 

“อะไรของมึงลงเองสิ”

 

“ม่ายย ลุงนั่นแหละพาฟ่างไปส่งหน่อยนะ ๆๆ น้า ฟ่างเจ็บตูดปวดขาปวดแก้ม เดินไม่ไหวแล้วอะ” ร่างเล็กเอาหน้าถู

แขนของพายุอย่างกับลูกแมวขี้อ้อน ดวงหน้าหวานดวงตาฉ่ำ ดูน่าฟัด จมูกแดงๆ ปากแดง เห็นแล้วอยากจะกัด ...

 

//เหี้ยกูไปคิดลึกกับไอ้เด็กนั่นทำไมวะ// พายุตบหน้าตัวเองเบาๆ ข้าวฟ่างที่ทั้งเมาและง่วงตอนนี้ดูเย้ายวนเขาจนแทบจะบ้า

 

“น้าๆๆพาขึ้นห้องทีฟ่างง่วงไม่ไหวแล้ว คร๊อกกกก”

 

“สัสหลับกลางอากาศเลยนะมึง”

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ต่อ

 

“ลำบากกูอีกไอ้เด็กบ้า” พายุเดินลงจากรถแล้วอ้อมไปยังฝั่งของข้าวฟ่าง เปิดประตูหยิบกุญแจบ้านมาไว้ในมือแล้ว

ช้อนตัวอุ้มเด็กดื้อของตัวเองไว้ในวงแขน ฟ่างตัวเล็กและเบามากผิดกับมังกรที่สูงโปร่งแต่ตัวบางกว่าเขา ฟ่างทำ

เสียงอู้อี้และซุกหน้าลงกับอกแกร่งของร่างสูงเพื่อดูดซับไออุ่น

 

                    ตรงหน้าของพายุคือบ้านหลังขนาดปานกลางแบบอเมริกันสไตล์ หน้าบ้านมีสวนหย่อมเล็กๆมีโต๊ะไม้สี

ขาว มีบ่อปลาคราฟติดริมรั้ว มีต้นไม้ร่มรื่น รัวไม้สีฟ้าสูงแค่เอวของเขา แม้จะไม่มีคนอยู่มาหลายปีแต่ก็ยังดูดี เหมือน

ได้รับการดูแลอยู่ตลอด.. พายุเอื้อมมือไปปลดล็อครั้วจากด้านในแล้วใช้เท้าผลักมันเบาๆ คนตัวเล็กหลับสนิทในอ้อม

กอด มือหนาหยิบกุญแจขึ้นมาไขประตูที่ต้องลอดซุ้มแมกไม้สีเขียว ประตูสีขาวดูซีดลงนิดๆเขาส่องกระจกใสข้าง

ประตูเข้าไปเผื่อมีคนอยู่

 

แกร็ก....

 

ร่างสูงไขประตูเข้าไป ในบ้านมืดสนิท

 

“เตี้ย ไฟมึงเปิดตรงไหน” พายุเขย่าร่างเล็กเบาๆ

 

“อืออ ข้างประตูไง ทางซ้ายอะ” ฟ่างงึมงำยกมือขึ้นกอดคอร่างสุงไว้จนพายุต้องอุ้มช้อนก้นด้วยมือเดียวอีกมือไปกด

สวิสไฟ มันกระพริบๆอยู่หลายทีกว่าจะติด

บ้านสวยสะอาดสะอ้าน ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์แนว วินเทจ ทั้งโต๊ะตู้ และโซฟา

 

“ห้องอยู่ไหน”

 

“ช้านบนห้องริมสุด” พายุแบกข้าวฟ่างมาที่ห้อง พอเปิดไฟ เขามาเขาถึงกับอึ้งเพราะห้องของข้าวฟ่างเหมือนห้องของเจ้าหญิงในเทพนิยาย ที่มีตุ๊กตามินเนี่ยนกับน้องต่ายเต็มไปหมด

 

“นี่มันห้องเด็กหรือผู้ใหญ่กันวะ เอาซะแหวเชียว” พายุวางร่างเล็กบนเตียงสีเสาที่มีมุ้งกระโจมสีขาวผมชมพูสีเดียวกับผ้าปูเตียง

 

“นอนดีๆนะมึงกูไปละ”

 

“ไม่เอา อย่าทิ้งฟ่างนะ...ฟ่างกลัว เมื่อคืนมีใครก็ไม่รู้มาเขย่าประตูบ้านด้วย” ร่างเล็กดีดตัวขึ้นทันทีพร้อมกับคว้าแขนร่างสูงไว้

 

“อะไรอีกละ”น้ำเสียงติดรำคาญหันไปมองร่างเล็กนี่นั่งตารื้นอยู่บนที่นอน

 

“ฟะ...ฟ่างกลัว” เพราะความเมากับความง่วงเข้าโจมตี ไหนจะจะเจอเหตุการณ์ร้ายๆอีก ร่างเล็กเลยรู้สึกว่าตัวเองเองอ่อนแอเป็นพิเศษ อยากมีใครอยู่ใกล้ๆให้อุ่นใจ

 

“กลัวไรอยู่ในบ้านตัวเองแท้ๆ” พายุเบือนหน้าหนีไม่อยากสบตากลัวจะแพ้สายตาที่เหมือนลูกหมาโดนทิ้งนั่น เขาขยับตัว ฟ่างรีบคว้าเอวหนามากอด

 

“อย่าไปเลยนะลุงนะ” เสียงอุ้อี้ร้องขอเขา พายุที่จู่ๆใจก็เต้นแรง เพราะคนตัวเล็กออกแรงกอดรัดและไม่ยอมปล่อย

 

“นะลุง..นะอยู่เป็นเพื่อนฟ่าง ฟ่างสัญญาฟ่างจะไม่ดื้อกับลุงอีกแล้ว” ใบหน้าเล็กเอี้ยวมามองหน้าเขา พายุหันมาสบพอนะ

 

“นะ”

 

“อะ ...เออ เรื่องมากจริง ไปอาบน้ำไป” เขาไล่คนตัวเล็กไปอาบน้ำ ส่วนตัวเองก็นั่งกุมขมับอยู่ปลายเตียง

 

“สัสเอ้ยยแมร่งขี้ยั่วกูจริงวะ”

 

ข้าวฟ่างออกมาจากห้องแต่งตัวใชชุดน้องต่ายแฟนซีสีชมพูน่ารัก พายุมองอย่างอึ้งๆ เพราะข้าวฟ่างดูเหมือนเด็กวัยมัธยมต้น น่าฟัด

 

“ลุงไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวฟ่างไปหาเสื้อของพ่อให้” ว่าเสร็จก็เดินไปหยิบน้องต่ายตัวซี๊ดๆติดมือไปด้วย พายุที่รู้สึกร้อนๆ รีบเดินเข้าห้องน้ำไปชำระล้างร่างกายตัวเอง แต่มันกลับทำให้ยิ่งร้อน เมื่อออกมาจาก้องน้ำเห้นร่างเล็กที่ใบหน้าชื้นเหงื่อจนผมเปียกนิดๆ

(ถ้ามันเหงื่อออกกับเราละ...) หัวใจดวงโตกระตุกทันที

 

“นี่กูคิดเหี้ยอะไรเนี้ย” เขาสบถกับตัวเองเบาๆ

 

“ลุงว่าอะไรนะ” ร่างเล็กเดินเข้ามาประชิด กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่พุ่งเข้าจมูกเขาทันที  เหมือนกลิ่นแห่งเสน่ห์หา กลิ่นที่เหมือนมนต์สะกด ร่างสูงก้มลงช้าๆจนริมฝีปากเกือบจะแตะกับพวกแก้มใส

 

“ลุง!!!!!!!ไอ้ลามก” ร่างเล็กที่ตั้งสติได้ก่อนใครเอามือดันปากร่างสูงไว้ได้ทัน ทั้งที่ตัวเองก็ใจเต้นแรงจนจะพุ่งออกมานอกอก ยามที่ได้กลิ่นลมหายใจจากหนุ่มหล่อตรงหน้า เหมือนจะมีแรงดึงดูด แต่ สติ ต้องมาก่อน ไม่งั้น...คงไม่พ้นเป็นเขาที่จมมิดเตียง

 

“คืออ ...เอออ ไหนละเสื้อ เอามาดิ” ร่างสูงเปลี่ยนเรื่อง ยื่นมือออกไป ข้าวฟ่างยัดเสื้อนอนของพ่อตัวเองที่คิดว่าใหญ่พอให้ร่างสูง เขารับมันไปใส่ มันก็พอใส่สบาย

 

“นอนสิ” ร่างสุงไล่อีกคนไปนอน ฟ่างปีนขึ้นที่นอนแสนรัก รีบดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นคลุ่มตัวเอง

 

“ลุงนอนตรงโซฟานั่นแหละ ฟ่างเอาหมอนกับผ้าห่มให้แล้ว แล้วห้ามแอบมานอนบนที่นอนนะ ห้ามแอบมามองด้วย” ร่างเล็กสั่งเสียงเขียวนึกแล้วก้ใจเต้นแรงกับเหตุการณ์เมื่อครู่

 

“เออ นอนได้ละ กูง่วง”

 

เขาเดินไปปิดไฟ และทุกอย่างก็ตกอยู่ในความมืด มีเพียงแสงไปสลัวๆจากหัวเตียงของข้าวฟ่างที่เปิดไว้เท่านั้น พายุ

นอนไม่ถนัดนักเพราะตัวเขายาวกว่าโซฟาจึงต้องขดขาเขามาผ้าห่มผืนเล็กไม่ได้ช่วยให้เขาได้ไออุ่น แต่ด้วยความ

เพลียจากการเสียแรงออกหมัดเพื่อช่วยเด็กดื้อทำให้เขาหลับได้ไม่ยาก แต่อีกคนนี่สิ ใจเต้นจนนอนไม่หลับคอยแต่แอบมองว่าคนตัวโตทำอะไร นอนยังไง ...

 

 

ตี3

 

Rr Rr Rr Rr

 

เสียงโทรศัพทืดังถี่รัวราวกับมันกำลังจะระเบิด ร่างสูงคลำสะเปะสะปะหาที่มาของเสียง ร่างเล็กเองก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยหน้าตายับยู่เอื้อมมือเปิดไฟหัวเตียงจนสว่างวาบ

 

“ลูงงงงงงง รับโทสับดิ มันเสียงดัง”เสียงยานๆกับตาปิดสนิทของข้าวฟ่างทำเอาร่างสูงแอบขำ

 

“ครับหมอพายุพูดครับ..อะไรนะครับ ได้ครับ ผมจะรีบกลับ เอาโมเสกมาที่คลินิกยุเลย อย่าให้มันอาเจียนนะครับ กรอกนมให้มันกิน ครับๆยุจะรีบไป” พายุรีบคว้ากุญแจรถแล้วเดินออกไปทันที

 

“เห้ยยลุงไปไหน ฟ่างไปด้วย ฟ่างกลัว” ร่างเล็กที่มองรอบๆกับเวลาดึกสงัดแบบนี้ รีบวิ่งลงจากที่นอนตามร่างสูงไปทันที

 

“เมื่อมาถึงรถพายุที่ใบหน้าดูกังวลขึ้นมาจนไม่เหมือนพายุคนเดิม เขาสบถด่าใครบางคนอย่างเคืองแค้น

 

“อย่าให้กุเจอนะมึงกูจะเอายายัดปากแม่ง บังอาจมาทำลูกกู” ฟ่างที่นั่งมาเงียบรู้สึกใจไม่ดีแปลกๆ 

 

“ใจเย็นลุง” เสียงหวานปลอบ

 

“เย็นเหี้ยไรละลูกกูกำลังจะตาย” พายุเผลอตวาดเสียงดังใส่ร่างเล็ก ฟ่างกำชุดนอนตัวเองแน่น

 

“//ลูกเหรอลุงมีลูกแล้วหรอ//”ใจเล็กรู้สึกหวิวๆเหมือนมีคนมาบีบไว้ไม่ยอมปล่อย ดวงตากลมเหลือบมองเสี้ยวหน้าหล่อคมนิดๆก่อนจะก้มหน้าไม่พูดอะไรออกมาอีก

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++..

 

2bc

 

ปล.แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ มีเซอร์ไพร์...55555555555

 



 



 

 



 

ชุดนอนน้องฟ่าง+บ้านฟ่างคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่ 15 อัพ 17/07/15
« ตอบ #69 เมื่อ: 17-07-2015 23:46:08 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ฉันเอง

  • สิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั่นแหละที่เป็นไปไม่ได้
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่ 15 อัพ 17/07/15
«ตอบ #70 เมื่อ18-07-2015 01:29:14 »

ชอบบ

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่ 15 อัพ 17/07/15
«ตอบ #71 เมื่อ18-07-2015 07:29:13 »

ใครทำร้ายลูงลุงนิ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่ 15 อัพ 17/07/15
«ตอบ #72 เมื่อ20-07-2015 21:18:13 »

 :mew1:

ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ใจร้าว

ตอนที่16  ใจเต้นแรง

 

 

 

          ในรถตกอยู่ในความเงียบ พายุเหยียบคันเร่งเต็มที่เพื่อไปให้ถึงคลินิกของตัวเองให้เร็วที่สุด ใบหน้าเขาดูกังวลจนร่างเล็กที่แอบมองรู้สึกหน่วงๆในใจ เมื่อมาถึงร่างสูงรีบพุ่งตรงไปยังประตูเหล็กม้วนที่ปิดอยู่เขาไขกุญแจมันอย่างรีบร้องและดันจนมันเด้งขึ้นด้านบนกระแทกเสียงดัง  ข้าวฟ่างตามลงมาร่างสูงเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนจะมีเสียงรถที่เบรกแรงมาจอดอยู่หน้าร้าน  ชายวันกลางคนอุ้มสุนัขตัวใหญ่สีน้ำตาลที่อาการล่อแร่เข้ามา

 

“คุณชายครับ เร็วครับ ไอ้โมเสกมันจะชักแล้วครับ” พายุรีบอุ้มตัวหมาตัวโตมาวางที่เตียงเหล็ก และทำการล้างท้องมันทันที

 

“ฟ่างช่วย”

 

“อย่ายุ่งออกไป” พายุที่กำลังเครียดตะคอกใส่ข้าวฟ่างด้วยความหงุดหงิด

ร่างสูงดูวุ่นวายละไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ข้าวฟ่างเดินเข้ามาดูและจะเข้าไปช่วยแต่ก็โดนพายุผลักออกจนร่างเล็ก

กระเด็นก้นกระแทกพื้น

 

“โอ๊ย...”  ร่างสูงไม่ได้สนใจ สมาธิเขาอยู่กับโมเสกอย่างเดียวในตอนนี้พายุแทบจะคลั่ง  ปากก็ถามคนที่พาหมามา

ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่าใครเป็นคนวางยา   ร่างเล็กที่ได้แต่เก็บความน้อยใจเอาไว้ค่อยๆลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจาก

คลีนิกของพายุไปอย่างเงียบโดยที่ร่างสูงไม่ทันได้สังเกต

 

“ลุงไม่รู้  ลุงเจอมันนอนน้ำลายฟูมปากอยู่ในสวน คาดว่าน่าจะโดนพวกโจรขโมยโยนยาเบื่อใส่ในไก่ให้กินนะครับคุณชาย”

 

“อย่าให้รู้นะว่ามันเป็นใคร” พายุกำหมัดแน่น มองไปที่หมาตัวโปรดด้วยความแค้นใจ ...

 

..

..

..

 

“คนบ้าไอ้เราก็อุตส่าห์จะช่วยทำไมต้องรุนแรงกับเราด้วยวะ อะไรๆก็เอาแต่ด่า แต่ใช้กำลัง คนเหมือนกันนะเว้ย”

น้ำตาเม็ดโตต่อยๆซุมออกมาจากหางตา เพราะความน้อยใจและตกใจที่พายุตะคอกใส่และผลักเขาล้ม ร่างเล็กเดิน

ออกมาอย่างไม่มีจุดหมายและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเดินไปไหน  ตังติดตัวก็ไม่มี รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ เดินไปร้องซี๊ดไป

ลมเย็นพัดกระทบผิวกายจนต้องยกฮูดเสื้อนอนขึ้น แขนเรียวกอดตัวเองแน่น....แม้สองข้างทางจะไม่มืดแถมยังมีรถขับผ่านอยู่บ้าง ร่างเล็กเดินไปเรื่อยๆตามฟุตบาท จนมาถึงหน้าร้านสะดวกซื้อ ด้วยความที่เจ็บเท้าและเริ่มเหนื่อย

ข้าวฟ่างจึงนั่งตรงบันไดหน้าร้านสะดวกซื้อนั่น ใจอยากจะกลับบ้าน สายตาคอยมองหาแท็กซี่ แต่ทว่าเวลานี้คงหายากสักหน่อยเพราะมันดึกแล้ว...

 

“ฮึก....ฮึก...ใจร้าย ลุงใจร้าย” อายุจะเข้าเลขสามอยู่แล้วแต่ร่างเล็กก็ยังเป็นคนขี้แงอยู่แม้นิสัยในบางครั้งจะดูเด็กไปบ้างแต่ฟ่างมักจะเก็บเรื่องราวต่างๆไว้ในใจคนเดียวเสมอ..

 

 

 

อีกด้าน

 

 

“ลุงเห็นผู้ชายตัวเล็กๆใส่ชุดนอนกระต่ายสีชมพูบ้างไหม ที่มากับผมนะ” ร่างสูงที่มองหาคนตัวเล็กไม่เจอก็รีบถามกับลุงแช่มทันที

 

“เอ้า ตอนมาผมก็ไม่ได้สังเกตมัวแต่ห่วง”ไอ้โมเสกมัน” เมื่อไดคำตอบยิ่งทำให้พายุรู้สึกกังวล นึกทวนเหตุการณ์ทันที

 

“โถ่เว้ยย” เขาพุ่งตัวไปด้านนอกทันที ร่างสูงวิ่งมาตามทางที่คิดว่าข้าวฟ่างจะไป  สายตาคมกวาดมองไปทั่วบริเวณ

เห็นกลุ่มเด็กแว้นขี่รถผ่านไปเป็นกลุ่มก็ยิ่งร้อนใจกลัวเด็กดื้อจะโดนทำร้าย ขายาวก้าวเร็วกว่าเดิม จนเห็นร่างเล็กคุ้น

ตานั่งกอดเข่าอยู่ตรงหน้าร้านสะดวกซื้อ เขาถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก แล้วเดินไปหาทันที

 

“เด็กดื้อมานั่งทำไมตรงนี้” เสียงเขาอ่อนลงเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอทำร้ายร่างเล็กด้วยวาจาและการกระทำ ข้าวฟ่างเงยหน้าขึ้นมาสบตา ดวงตากลมแดงกล่ำ หยอดน้ำใสๆร่วงเผลาะพายุจับที่แขนพร้อมกับดึงตัวเล็กให้ลุกยืน

 

“ฮึก....อย่ามายุ่ง” ข้าวฟ่างสะบัดตัวเดินหนี ขากระเพลก เจ็บไปหมดทั้งฝ่าเท้า พายุที่เห็นว่าคนตัวเล็กไม่ได้ใส่รองเท้ามาก็ขมวดคิ้วยุ่ง

 

“รองเท้าไปไหน” ฟ่างหันมามองตาค้อน

 

“สนใจทำไม จะไปไหนก็ไปเลย” ฟ่างตอบโดยที่ไม่หันมามอง ร่างเล็กเดินกระเพลกอย่างน่าสงสาร

 

“หยุดเดินนะไอ้เตี้ย เห็นไหมว่าเท้ามีแต่แผล” พายุคว้าขอมือเล็กไว้ ฟ่างหันมาสะบัดแขนออก

 

“ก็บอกว่าอย่ายุ่งไง  ไปให้พ้น”ฟ่างผลักอกร่างสูงด้วยความน้อยใจน้ำตาไหลพราก

 

“แก่แล้วยังใจร้ายคนเค้าอุตส่าห์จะช่วงแล้วทำไมต้องไล่ต้องผลักกันด้วย คิดว่าตัวเองสำคัญ...อุ๊ป” ยังไม่ทันจะได้พูด

ต่อร่างสูงกก้มลงฉกชิงริมฝีปากนิ่มเอาไว้มือหนาจับ ล็อคที่ข้างแก้มเอาไว้ไม่ให้หันหนี ฟันคมขบเบาๆที่ริมฝีปากนิ่ม

ด้วยความหมันเขี้ยวก่อนจะรั้งเอวเล็กให้แนบชิด ไม่อายสายตาใครต่อใครที่ขับรถผ่านไปมาสักนิด

 

“อื้อออ อืมมม” พายุใช้ลิ้นไล่เลียริมฝีปากนุ่ม  ข้าวฟ่างอึ้งนิ่งไม่ขยับปล่อยให้ร่างสูงตักตวงคามรสหวานได้ตาม

อำเภอใจ

 

“จะหยุดพล่ามได้รึยัง หึ ถ้ายังไม่หยุดพี่จะแบกฟ่างกลับไปเอาต่อที่คลินิก” เสียงทุ่มพูดดุออกมา ฟ่างหน้าแดงแจ๊ด ความน้อยเมื่อกี้มันหายไปหมด เหลือแต่ความตื่นเต้นและตกใจ

 

“หึ พูดง่ายๆว่าง่ายๆแบบนี้ พี่จะใจดีด้วย แต่ถ้าดื้อดึงดันไม่ฟังและไม่มีเหตุผล รู้นะว่าพี่จะทำยังไง” ร่างเล็กพยักหน้ารัว และไม่ยอมสบตากับคนตัวโต

 

“เดินเองไหวไหม”

 

“(ส่ายหน้า)”

 

พายุย่อตัวนั่งลงชันเข่าหันหลังให้ข้าวฟ่าง

 

“ทำอะไร...” ฟ่างถอยหลังไปนิด มองคนที่หันหลังให้อย่างไม่เข้าใจ

 

“เดินไม่ไหวก็ขึ้นมา หรือจะเดินเอง” พายุพูดขึ้น ฟ่างที่ยังเขินถึงกับทำตัวไม่ถูกที่จู่ๆคนอย่างพายุจะแบกเขากลับไป

ทั้งๆที่พึ่งจะทะเลาะกัน ความรู้สึกอุ่นวาบก่อเกิดขึ้นในจิตใจ ดวงหน้าหวานคลี่ยิ้มออกมาอย่างน่ารักก่อนจะค่อยๆ

เดินไปเกาะหลังร่างสูง แผ่นหลังกว้างค่อยๆยกตัวขึ้นสองแขนแกร่งสอดคล้องขาเรียวเอาไว้ ฟ่างยกมือขึ้นกอดคอ

หนาเอาไว้ ร่างเล็กแอบลอบมองเสี้ยวหน้าของคนแก่ด้วยหัวใจที่เต้นแรง ปากเล็กเม้มแน่น และคอยหลบตากับใครที่

มองเขาทั้งคู่  จนต้องเอาหน้าซุกไว้ที่ซอกคอร่างสูง  พายุแบกคนตัวเล็กไปโดยที่ไม่ได้คุยอะไรกันอีก

 

“ขอโทษนะ” จู่ๆพายุก็พูดมันออกมา

 

“อะ..อืม” ร่างเล็กกระชับอ้อมแขนขึ้นอีก

หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดะไรอีกจนถึงคลินิก    พายุวางข้างฟ่างลงที่ตรงหน้าคลีนิกของเขาก่อนจะเดินจูงมือให้เข้าด้านใน

 

“อ่าวใครละครับนั้น”เสียงลุงคนสวนถามเมื่อเห็นข้าวฟ่างเดินหน้าแดงเข้ามา

 

“เด็กดื้ออะลุง ลุงกลับบ้านไปก่อนก็ได้นะเดี๋ยวทางนี้ยุจัดการเอง โมเสกมันก็อาการดีขึ้นแล้ว” พายุเดินเข้าไปลูบ

หัวมันด้วยความห่วงใย เว้นเสียแต่ข้าวฟ่างที่ดูกลัวๆเจ้าหมาตัวโต เท้าเล็กเปลือยเปล่าย่ำกันไปมาเพราะรู้สึกแสบๆ

คันๆ  เนื้อตัวเหนียวเหนอะเพราะเดินออกไปไกล ใบหน้าหวานเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาช้อนสายตามองร่างสูง

 

“ลุง พาฟ่างกลับบ้านเหอะ” ร่างสูงที่เดินเข้ามาหลังจากออกไปส่งลุงชาญที่หน้าประตูก่อนจะดึงประตูลงปิดล็อคเรียบร้อย

 

“มันดึกแล้วนอนนี่แหละ พี่จะต้องดูโมเสกอีก” ข้าวฟ่างมุ่นคิ้วแปลกใจที่พายุพูดดีด้วย

 

“ตะ..แต่ ฟ่างอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า”

 

“งั้นตามมา” พายุจูงมือข้าวฟ่างขึ้นไปด้านบนชั้นสองทั้งชั้นคือห้องส่วนตัวของพายุ ภายในตกแต่งครบครันเหมือนอยู่คอนโด...

 

“ห้องน้ำอยู่นั้น แล้วนี้ผ้าเช็ดตัว เข้าไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวพี่หาเสื้อให้” ฟ่างพยักหน้าแล้วทำตามที่ร่างสุงบอกอย่างว่า

ง่าย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเวลาคนตัวสูงใจดีด้วยแล้วใจมันเต้นแรง รู้สึกดีจนแอบยิ้ม...

 

หลังจากที่ฟ่างเข้าห้องน้ำ พายุเดินตรงไปยังตู้เสื้อผ้าของตัวเอง หยิบเสื้อแขนยาวสีดำกับชั้นในที่คิดว่าฟ่างจะใส่ได้

ออกมา แล้วนั่งรอคนที่อาบน้ำอยู่ที่เตียง

ไม่นานร่างเล็กก็เดินออกมาโดยมีผ้าเช็ดตัวพันเอวไว้  ร่างเล็กสั่นนิดๆเพราะอาบน้ำตอนดึกมันหนาว ...

 

“เอออ คืออ เสื้อผ้าฟ่างอะ” ร่างเล็กเกิดอาการประหม่าเล็กน้อยเมื่อถูกพายุจ้องอยู่นาน 

 

“มานี่สิ” พายุเรียกให้เข้าไปหา ข้าวฟ่างค่อยก้าวเดินและหยุดอยู่ตรงหน้าพายุมือเล็กยกขึ้นปิดหน้าอกตัวเองพร้อม

กันหันหน้ามองไปทางอื่นเมื่อหันมาเจอสายตาเร้าร้อนของพายุ  ร่างสูงรั้งเอวบางให้เข้าไปอยู่ตรงระหว่างขาแกร่ง

กลิ่นกายหอมเฉพาะตัวของข้าวฟ่างเตะจมูกเขามาก   พายุสวมเสื้อแขนยาวให้ร่างเล็กที่ยืนหน้าแดงนิ่งๆเขาโยนชั้น

ในที่จะเอามาให้ฟ่างใส่ทิ้งไปด้านหลัง //ไม่ต้องใส่ดีกว่า แบบนี้นะดีแล้ว//

 

เสื้อมันยาวเลยมาแค่น่องเล็กๆเหนือหัวเข่านิดเดียว

 

“กะกางเกงในอะลุง”ข้าวฟ่างทวง

 

“ไม่มี...” มือหนารั้งเอวบางให้แนบชิดเข้าไปอีก..ฟ่างทำหน้าตาเลิกลัก ก่อนจะใช้มือเล็กดันอกแร่งเอาไว้

 

“จะทำอะไร..ลุง” เสียงหวานดูสั่นๆ

 

“เปล่า..” แต่ยกคนตรงหน้าให้นอนราบไปกับที่นอน พร้อมกับใช้แขนตัวเองกักตัวเอาไว้ ใบหน้าทั้งสองห่างกันแค่ไม่กี่เซ็น..เสียงหัวใจมันเต้นตึกตักจนฟังได้ยินกันทั้งคู่

 

“อย่าดื้อนะ” สิ้นเสียงทุ้ม ริมฝีกปากหน้าก็ก้มลมนาบกับปากของอีกคน จูบอ่อนโยนต่างจากครั้งแรก มันทำเอาหัวสมองของข้าวฟ่างขาวโพน มือเล็กกำสาบเสื้อของร่างสูงจนยับ ปลายลิ้นร้อนที่พยายามแทรกเข้าไปในโพลงปาก พายุส่งเสียงฮืมฮำในรำคออย่างขัดใจที่ฟ่างไม่ยอมเปิดปากสักที...

 

“บอกว่าอย่าดื้อ”

 

“ลุงจะข่มขืนฟ่างหรอ”ร่างเล็กมองหน้าพายุด้วยความตกใจ “ไม่เอานะ ฟ่างกลัว”

 

“หึ..ถ้าข่มขืนมึงไม่ได้มานอนนิ่งๆแบบนี้หรอก อย่าดื้อละกัน”

 

อุ๊ป

 

“อื้อออ อืม...แฮกๆๆ..ลุง...อืมมม” จูบได้ไม่นานข้าวฟ่างก็ถูกชักนำไปตามอารมณ์ ยอมเปิดปากให้ลิ้นร้อนสอดแทรก

เข้ากวาดความหวานไปจนหมด ก่อนจะถูกลิ้นที่ช่ำชองไล่ต้อนจนต้องจูบตอบกลับ แม้จะดูเงอะเงิ้นเพราะไม่ค่อยได้

จูบกับใคร ร่างสูงค่อยสอนให้คนตัวเล็กทำตามจนรับจังหวะของกันและกันได้

 

 

“จุ๊บ จู๊บ..อืมมม”เสียงคำรามอย่างพอใจในรสจูบของพายุทำให้ข้าวฟ่างตัวแทบจะระเบิดไปด้วยความเขินอาย...ใจ

มันเต้นแรงแทบจะพุ่งชนกำแพงฝั่งตรงข้าม ร่างสูงเองก็เช่นกัน เข้าไม่อาจจะหักห้ามความรู้สึกที่อยากจะฟัดร่างเล็ก

ให้อยู่หมัด อยากจะปราบเด็กดื้อให้กลายเป็นแมวเชื่องๆ อยากจะสัมผัสไปทั่วทุก อณูของร่างกายเล็กๆนั่น

 

 

“อื้ออ แฮกๆ..อื้ม..พอแล้ว.พอ” ร่างเล็กดันหน้าของพายุออก ร่างสูงถอนจูบออกอย่างช้าๆ แววตากลมชุ่มน้ำตา เข้า

ก้มจูบซับมันเบาๆและกดจูบย้ำๆที่ริมฝีปากนุ่มนั้นอีกครั้ง ก่อนจะรั้งตัวให้มานอนหนุนแขนเขาฟ่างเงยหน้าสบตา

แววตากลมนั่นมีคำถามมากมาย แต่ไม่พูดมันออกมา ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรือ.. แต่ก็ยอมหนุนแขนและเอาไหหน้าซุกอกอุ่นเอาไว้

 

“ละ..ลุง..ทำ”

 

“นอนเถอะ ดึกมากแล้ว” เขาตัดบทก่อนที่ฟ่างจะถามจบ เพราะถ้าถามมาเขาก็หาคำตอบให้ไม่ได้อยู่ดี

 

“อะ..อืม..”ฟ่างนอนนิ่งๆให้พายุกระชับอ้อมกอด จนร่างเล็กหลับสนิท พายุค่อยๆลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำและจัดการตัวตนที่มันตื่นตั้งแต่เห็นคนตัวเล็กออกมาจากห้องน้ำ

 

“//นี่กูรู้สึกกับไอ้เด็กนั้นหรอวะ..อื้อออ ซี๊ด อ่า...//

 

 

.......

 

 

//ทั้งๆที่อยากจะทำมากกว่านี้ แต่ก็ต้องยั้งใจเอาไว้....กลัวคนตรงหน้าไม่ได้คิดอะไรด้วยแล้วจะพาลโกรธเอา เลยต้องมานั่งช่วยตัวเอง ...กูนี่ท่าจะบ้า//

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

ปล :mc4:

 

ตอนนี้ยกให้ฟ่างกะลุงไปเนอะตอนหน้ามาฟินกันต่อกับฟ้าครามกับน้องกร o13 :z2: ก่อนจะ   เจอดราม่านะคะ :katai1:

 

เจอคำผิดบอกด้วยนะคะ :mew1: :mew2: :mew3: :impress2:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
น้องฟ่างเตรียมตัวเป็นเมียหมอหมาเลยนะ

ดูท่าพี่พายุมันจะเอาจริงแล้ว 555

น้องฟ่างก็อย่างดื้อนะ เดี๋ยวพี่มันมีข้ออ้างจับปล้ำเอาหึหึ  :hao6:

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
มาต่อซะที

ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ใจร้าว

 

ตอนที่  17  หึง

 

 

 

     “ฟ้าคราม อื้อออ คราม อ๊า...ยะ อื้ออ ไม่ไหว จะออกอออก....อ่าส์” มังกรนอนตัวอ่อนอยู่บนร่างสูง ด้วยอาการหอบกระเส่า เหงื่อชื้นกายไหลย้อยลงมาจากไรผม ฟ้าครามจูบแผ่วเบาที่หน้าผากมนก่อนจะกระทุ้งเอวสวนจนมังกรกรีดร้องด้วยความเสียกระสันปลดปล่อยน้ำรักออกมาพร้อมๆกัน

 

     “อื้ออออออ/อ่า” วงแขนแกร่งกอดรัดคนตัวบางอย่างรักใคร่ มังกรพลิกกายลงไปนอนด้นข้าง แก่นกายที่เสียบอยู่หลุดออกจากช่องทางสีสวยจนเกิดเสียงน่าอาย

 

   

     “เหนื่อย..ครามมึงลดอาการหื่นของมึงลงบ้างนะ มันลำบากกู” มังกรว่าเสียงหอบฟ้าครามได้แต่ยกยิ้มก่อนจะเอ่ยคำที่ทำให้คนฟังน่าแดง

 

“มึงก็เลิกยั่วเลิกทำตัวน่ารักใส่กูสิแล้วกูจะลดความหื่นลงให้ กูได้กลิ่นมึงทีไร กูอยากทุกที”

 

“....-///-...ไอ้บ้า”

 

                หลังจากนอนพักให้พอหายเหนื่อยฟ้าครามก็ลากมังกรเข้าไปอาบน้ำ   วันนี้เป็นวันหยุดของมังกร  เขาตั้งใจจะพาหมอไปกินข้าวดูหนัง...แบบคนรักไม่ใช่แบบเพื่อนเหมือนที่ผ่านมา.. ....

 

 

ในห้างหรูใจกลางกรุงฟ้าครามพามังกรมากินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหารญี่ปุ่นมังกรชอบกินปลาเขารู้ดี

 

“เอาซาซิมิรวม ทาโกะ  จิราชิ(ข้าวหน้าชุชิรวม)ข้าวหน้าเนื้อ เคนไซด้ง ชุปสาหร่าย เทมปุระ อืมมม เอาแค่นี้ก่อนครับ”ร่างสูงนั่งเท้า

คางมองคุณหมอสั่งอาหารด้วยสีหน้ายิ้มๆ พนักงานสาวสวยยิ้มหวานส่งให้คราม เพราะนึกว่าครามส่งยิ้มให้ตัวเองก่อนจะเดินบิด

ด้วยความอายเดินจากไป...มังกรสังเกตเห็นได้ เขารู้สึกไม่พอใจนิดๆ

 

“มองอะไร เดี๋ยวแม่จิ้มตาแตก” มังกรมองค้อนนิดๆ ฟ้าครามหัวเราะขำเบาๆเพราะรู้ว่ามังกรเป็นอะไร

 

“ดุจังนะ...”ฟ้าครามพูดแซว

 

“เออ กูดุ ดุมากด้วย มึงก็ระวังไว้ละกัน ถ้าลายมึงออกนะ” มังกรยกตะเกียบชี้หน้าคนตรงหน้า

 

“ลายกูไม่มีหรอก....กูมีแต่มึง” หมอหนุ่มโดนลูกหยอดของคนรักเข้าไปถึงกับหน้าแดง อมยิ้ม ไม่นานอาหารที่สั่งก็ทยอยออกมา

วางที่โต๊ะ มังกรดันชามข้าวหน้าเนื้อของโปรดฟ้าครามไปให้ก่อนจะหยิบเคนไซด้งกับข้าวหน้าชูชิมาไว้ตรงหน้าตนเอง ทั้งกิน

อาหารไปเรื่อยๆ

 

“ข้าวติดปาก”ฟ้าครามบอกคนตรงหน้าแล้วยื่นมือไปหยิบออก สายตาคมจ้องนิ่งๆทำเอาคนมองใจเต้นตึกตัก ฟ้าครามหยิบเม็กข้าวใส่ปากตัวเอง

 

ฉ่า-////-

 

“ทำบ้าอะไรของมึงวะ...” มังกรก้มหน้าซ่อนรอยแดงระเรื่อบนใบหน้าตัวเอง

 

“หึหึ” ฟ้าครามหัวเราหึเบาๆ

 

 หลังจากกินอะไรเรียบร้อยแล้วทั้งคู่ก็พากันไปซื้อตั๋ว ...

 

“อยากดูเรื่องอะไรอะ”มังกรหันไปถามคนข้างกายที่ยืนดูรายชื่อหนังเข้าฉาย

 

“อืมมมม Barely Lethal”

 

“ห๊ะ”

 

“แล้ะวมึงอะ”

 

“terminator Genisys...”

 

ทั้งคู่มองหน้ากันนิดๆ เพราะต่างคนต่างอยากดูหนังของตัวเอง

 

“เป่ายิ้งฉุบ...มาเป่ายิ้งฉุบกัน ใครชนะได้ดูหนังเรื่องที่ตังเลือกคนแพ้ได้เซอวิสแบบฟลูครอส เอาปะ”ฟ้าครามยื่นหน้ามาใกล้ๆ

 

“ยังไงอะ เซอวิสแบบฟรูครอส”

 

“ก็....สั่งคนชนะได้ทุกอย่าง” ร่างบางตาโตเพราะคิดว่ายังไงก็คุ้ม

และผลก็ออกมา

 

“มึงอะ ออกช้าโกงกู”มังกรบ่นเสียงแหว ฟ้าครามหัวเราะร่วน

 

“เอาน่ายังมึงก็ได้รับบริการจากกูอยู่ดี”ฟ้าครามเดินไปต่อคิวซื้อตั๋ว แล้วมังกรนั่งรอที่โซฟารับรอง

 

คุณหมอนั่งมองคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเรื่อยๆโดยไม่ทันมองว่าใครบางคนเดินลิ้วเข้ามาหา

 

“หมอครับ มาทำอะไรที่นี่”หมอสุภจน์ หรือหมอชิวๆที่ใครๆเรียก  ชิวเป็นคนเจ้าชู้ประตูดินจีบดะไปทั่ว ไม่เว้นชายหญิง รวมไปถึงคนไข้ของมังกร  มังกรไม่ชอบใจเท่าไหร่เพราะชิงมักจะมาเกาะแกะตนเป็นประจำ

 

“ดูหนัง”มังกรตอบเสียงติดห้วนนิดๆ ชิวถือวิสาสะนั่งลงข้างๆมังกร

 

“ผมก็มาดูหนัง เราไปดูด้วยกันไหมครับ เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง” ชิวทำตาประกายวิ้งพร้อมกับดึงมือมังกรไปจับไว้

โดยหารู้ไม่ว่านรกกำลังมาเยือนฟ้าครามย่างสุขขมเขามาหาอย่างเงียบเชียบรามกับพญาเสือโคร่งกำลังจะตะครุบลูกหมาป่าที่บังอาจมาแย่งเนื้อกวางของเขา

 

หมับ!!  แรงจับบนไหล่จากด้านหลังและบีบแรงลงไปบนไหล่ของชิว

 

“อะ..โอ้ยย”

 

“คราม!!!”

 

“ไม่ต้องมาสะเออะกับมัน เมียคนเดียวกูเลี้ยงได้”ฟ้าครามกดเสียลงต่ำจนหน้ากลัว มังกรลอบกลืนน้ำลายดังเอิ๊อก

 

“มะ..หมายความว่าไง”ชิวที่เห็นสายตาของฟ้าครามถึงกับผงะ

 

“ก็หมายความอย่างที่พูดหรือจะต้องให้กูพิสูจน์” ฟ้าครามถามซ้ำ มือหนายกคอเสื้อของหมออินเทรนจนตัวลอย เพราะชิวตัวเล็กกว่าฟ้าครามก่อนจะเหวียงชิวเบาๆจนเซถลาไปยังโซฟาอีกด้าน

 

“อย่ายุ่งกับคนของกู” นิ้วยาวชี้ไปที่หน้าตี๋ของชิว

 

“คราม พอแล้ว ช่างมนเหอะ กูอยากดูหนัง”มังกรตัดความรำคาญจึงลากฟ้าครามออกมา

 

“มันเป็นใครไอ้หมอ” ฟ้าครามถามคนรักเสียงดุ

 

“หลานพ่อกูเอง เป็นหมออินเทรนที่โรงพยาบาลนะ” แรงบีบที่ต้นแขนทำเอามังกรหน้านิ่ว

 

“อย่าให้มันรุ่มร่ามกับมึงให้กูเห็นอีก”ฟ้าครามกระซิบที่ข้างหูอย่างข่มขู่

 

“มึงหึงกูรึไง” มังกรพูดไปงั้น

 

“เออ กูหึง..กูหวง แม้แต่มดมึงก็ห้ามมอง” ฟ้าครามบอกเสียงจริงจัง มังกรเริ่มจะมีอาการเลือดขึ้นหน้าอีกครั้ง

 

“พูดอะไรของมึงเนี้ย..มดก็ไม่กูมองแล้วมึงจะให้กูมองอะไรวะ”

 

“มองกูนี้ไง ทั้งหล่อทั้ง รวย “ ฟ้าครามชี้ที่ตัวเอง

 

“โถ้....”มังกรส่ายหน้าทันทีกับความหลงตัวเองของฟ้าคราม ขายังไม่ทันจะก้าวเดิน

 

“หมอมังกร รอเดี๋ยวสิครับ” เสียงเรียกดงมาจากด้านหลังฟ้าครามกรอกตาขึ้นฟ้า ส่วนหมอหนุ่มถอนหายใจออกมาเอือใหญ่

 

“อะไรอีกครับ ผมรีบ”มังกรหันไปถามเสียงเหวี่ยงๆ

 

“ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะครับ เรื่องหมอนะ” ฟ้าครามสะแยะยิ้มรังสีอำมหิตแผ่กระจาย มังกรจับมือฟ้าครามแน่น

 

“ชิว กูบอกไว้เลยนะ ว่ากู ไม่ชอบมึงวะ อย่ามากวนกู อย่ามาใกล้กูอีก มันน่ารำคาญ !!!”มังกรระเบิดเสียงออกมาอย่างเหลือทนแถมคำพูดก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ ชิวหน้าเหวอรอบสองเพราะไม่เคยเห็นมังกรโกรธมากขนาดนี้

 

“กูรักผัวกูมาก และจะไม่มีวันเลิกรักด้วยเข้าใจนะ อ่อ แล้ว อีกอย่างคนอย่างมึงเทียบอะไรผัวกูไม่ได้สักอย่างเก็บกระบอกอันเล็กๆของมึงไปฝังไว้กับรูเสาไฟเหอะ เพราะของผัวกูมันบั้งไฟล้าน” ว่าเสร็จก็ลากฟ้าครามที่ยืนหัวเราะอย่างผู้ชนะใส่ชิวเข้าโรงหนังไป

 

“กลับบ้านไป กูจะเซอวิสมึงเต็มที่เลยเมียจ๋า”

 



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

“พูดมาก..” ร่างโปร่งเดินนำลิ่วด้วยความเขิน คนอะไรวันๆคิดแต่เรื่องใต้สะดือ  ฟ้าครามเดินหัวเราะขำตามมา ส่วนชิวไม่ต้องพูด

ถึงช็อกกลางอากาศไปเรียบร้อย ตอนนี้ทั้งคู่นั่งประจำที่เรียบร้อยเพื่อรอหนังฉาย ระหว่างดูที่ยืนตรงกับเพลงสรรเสริญพระบารมีมี

หญิงสาวกลุ่มหนึ่งเดินมานั่งข้างๆฟ้าครามหญิงสาวเหลือบมองฟ้าครามแล้วยิ้มหวานตาเยิ้มใส่บิดซ้ายบิดขวา  ชายหนุ่มทำเพียง

ส่งยิ้มน้อยๆไปให้โดยไม่คิดอะไร แต่คนที่มองมันคิด มังกรกระชากตัวฟ้าครามให้มานั่งฝั่งตน ฟ้าครามดูจะงงนิดแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

 

“อย่าให้หูกับหางมึงออกมาละกัน กูจะตัดทิ้งโดยที่กูจะไม่ฉีดยาชาให้มึงฟ้าคราม” เขาบอกเสียงเย็นก่อนจะตวัดสายตาดุๆไปให้หญิงสาวกลุ่มนั้น

 

“มองอะไรยะ” หญิงสาวคนที่ส่งยิ้มให้ฟ้าครามถามเขาเสียงเขียว

 

(มังกร--talk)

      เหอะถามมาได้ว่ามองอะไร...มองหน้ามึงไง มามองผัวกูอยู่ได้ ผมอยากจะบอกมันแบบนี้ ผมจึงแค่ส่งยิ้มที่ทำเอาเธอคนนั้นตลึงตาค้างกันทั้งกลุ่ม  หลังจากดูหนังได้สักพักผมก็รู้สึกถึงแรงสะกิดที่แขน

 

“พี่ค่ะๆ..เอ่อคือว่าคนที่นั่งข้างๆพี่ชื่ออะไรอะคะ” สาวผมบ๊อบหน้าตาเหมือนตุ๊กตาเธอสะกิดผมแล้วพ่นคำถามที่ผมแทบจะเอาเล็บข่วนหน้า

 

“ฟ้าคราม”ผมตอบเสียงห้วน

 

“แล้วพี่เค้ามีแฟนยังอะคะ” ยังไม่ทันที่ผมจะบอกเสียงเข้มๆของฟ้าครามก็พูดแทรกขึ้นมา

 

“มีเมียแล้วครับ”มันว่ายิ้มๆพร้อมกับยกแขนคล้องคอผมแล้วรั้งเข้าไปหอมแก้ม

 

ฟอดดด

 

“0-0”(ผม)

 

“^-^”(คราม)

 

“O-O”(ผู้หญิงข้างๆ)

 

“ทำอะไรของมึงเนี้ย”ผมหันไปตีแขนฟ้าครามก่อนจะเอาแต่ก้มหน้า ก็คนมันอาย ฟ้าครามหัวเราะขำและหันไปดูหนังต่อ ส่วนสาวๆกลุ่มนั้น นั่งเงียบไปโดยปริยาย

 

“เงยหน้าขึ้นมา มาดูหนังไม่ใช้มานั่งดูมือ”ฟ้าครามเชยคางผมขึ้น

 

“อะไรเล่า..”>///<

 

“เขิน”มันถามผมหน้าตาย

 

“อะ...เออ”

 

“เดี๋ยวมึงจะได้เขินกว่านี้อีก” มันจับมือผมขึ้นไปจูบเบาๆ ผมนี้อายจนหน้าระเบิดแอบมองคนข้างๆก็นั่งหายใจเสียงดังฟึดฟัดกัด

มือตัวเองสงสัยจะโมโหผมน่าดู ช่วยไม่ได้ที่ฟ้าครามมันเป็นผัวผม//เสียใจด้วยนะ// ตลอดเวลาที่ดูหนังด้วยกันฟ้าครามจับมือผม

ไว้ตลอด มันทำให้ผมรู้สึกดีไม่น้อย ใจผมมันเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกจากขั้ว ผมเห็นแอบมองผมแล้วยิ้ม ผมมีความสุขจัง 

 

หลังจากดูหนังจบฟ้าคราก็พาผมออกมากินไอศกรีม  มันเลือกที่นั่งด้านในสุดซึ่งเป็นจุดอับสายตา และไม่ค่อยมีคน ฟ้าครามดันตัวผมให้เข้าไปนั่งด้านในโดยที่มันนั่งปิดท้ายผมไว้

 

“ทำไมไม่นั่งฝั่งนู้นอะ”ผมหันไปถามด้วยความสงสัยจะมานั่งเบียดกันทำไมตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ



เงียบเหอะนะ”มันหันมาว่าเสียงดุ ก่อนที่จะมีพนักงานมารับเมนูพอสั่งเสร็จฟ้าครามก็หันมายิ้ม ยิ้มแบบที่ทำเอาผมขนลุก พอพนักงานเอาไอศกรีมที่สั่งมาเสริฟฟ้าครามก็แย่งช้อนผมไปทันที

 

“เอามากูจะกิน”ผมยื้อแย่งช้อนกลับแต่มันไม่ยอม

 

 

“กูป้อน”มันบอก ผมนี่นิ่งเลยไม่เคยเจอโมเม้นแบบนี้ อยู่ๆก็จะมาใจดีใส่...เป็นอะไรของมันวะ

 

ฟ้าครามตักไอศกรีมถ้วยของผมแล้ว

 

ง่ำ

 

“- -* ไหนมึงบอกว่าป้อนกูไงแล้วกินของกูทำไมเนี้ยะ” มันไม่ตอบ แต่มือมันยื่นมาจับคางผมไว้ และสิ่งที่ผมไม่คาดคิดมันก็เกิดขึ้น

 

“อื้อออ อึก อึก” ฟ้าครามก้มลงมาประกบปากผมมันบีบปากผมแล้วใช้ลิ้นดันไอศกรีมเย็นๆเข้ามาจนผมต้องกลืนมันลงไป

>///<

 

 

“แฮกๆ ทำบ้าอะไร”ผมเอ็ดใส่ ใบหน้าผมมันเห่อร้อนไปหมด อายก็อายกลัวใครมาเห็นเข้า

 

“ก็กูป้อน”

 

“ป้อนบ้านมึงสิใครเค้าป้อนกันแบบนี้ ไม่อายรึไงห๊ะ” ฟ้าครามยังคงทำหน้านิ่งๆแต่แววตากับมุมปากมันยกยิ้ม ให้ นี่มึงยั่วกูใช่ไหม

คราม ผมกัดปากตัวเองแน่นไม่กล้าสบตามันแล้วตอนนี้

 

“เอ้า ก็ป้อนแบบฟ้าครามไง ไม่ชอบว่างั้น”มันกอดอกมองผมนิ่งๆ

 

“ก็ปล่าว แต่กูอาย”ผมก้มหน้ามองแต่ไอศกรีมที่เริ่มละลาย

 

“อายทำไมคนเยอะแยะ”มันพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ผมนี่สิอยากจะบ้าตาย

 

“เอามาจะกินเอง”ผมจะแย้งช้อนคืน

 

“ไม่กูจะป้อน”ฟ้าครามตักไอศกรมใส่ปากตัวเองอีกครั้ง

 

“อื้อออ อื้มมม “

 

เป็นการกินไอศกรีมที่ฮาร์ดคอมาก ผมมันทำให้ผมปากบวมเดินออกจากร้านเลยครับ

 

“อร่อยเนอะว่ามะ” ฟ้าครามหันมาพูดกับผมที่เดินมึนๆตามหลังมัน มือหนากำมือผมไว้แน่นเราเดินจูงมือกันออกมาจากห้างโดยไม่แคร์สายตาใครๆ

 

คึคึคึ  คือ แบบว่าชอบอะ ผมอยากจะกระโดดกอดมันจริงเลยตอนนี้

 

“กูรักมึงนะคราม”

 

“อืมม” รอยยิ้มของเสือยิ้มยากมันผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อคมของฟ้าคราม ผมเองก็เดินยิ้มแก้มปริไปจนถึงรถเหมือนกันครับ

 

(จบpart)

 

2cb

 

+++

 

++

 

ฟ้าคราม....มุกเอ็งเสี่ยวมากขอบอก ส่วนนายเอก...ออกตัวแรงไปนะลูกเดี๋ยวเขาจะหาว่าแรดเอาได้....

 

 

ปล

                   ปล1.จะทยอยแก้คำผิดให้นะคร้า ขอบคุณนักอ่านที่ช่วยหาคำผิดให้นะคร้า   
           :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 


ออฟไลน์ Satang_P

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
 :katai2-1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ฟ้าครามเลี่ยนจริง แต่มุขป้อนติมให้ผ่านนะคะ 5555555+

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
โอ้ย หวานมาก

ฮาหมอกรอ่ะ มีผัวแล้ว ของผัวอันเท่าบั้งไฟ 55555+

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่17 หึง อัพ 27/07/15
« ตอบ #79 เมื่อ: 27-07-2015 12:04:22 »





ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
สะใจจริง ๆ ฟ้าครามเล่นซะหมอชิวอึ้งแดกค่ะ

ส่วนนังผู้หญิงนั่งข้าง ๆ นี่ถ้ากรี๊ดได้คงกรี๊ดลั่นโรงไปแล้วค่ะ แหมก็ฟ้าครามเล่นสวีทกะมังกรซะหึหึ

กลับห้องมีสมนาคุณอีกมังกรเอ่ย พรุ่งนี้เตรียามลางานได้เลยคิคิ  :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
 

 

 

ใจร้าว

 

ตอนที่ 18

 

หลอกเด็ก

 

 

 

 

 

 

   ร่างเล็กนอนพลิกไปพลิกมาบนที่นอน ข้างกายมีร่างสูงกำยำของพายุนอนสงบนิ่งอยู่

 

“นอนไม่หลับ” ข้าวฟ่างพึมพำพยายามทุกวิถีทางให้ตัวเองนอนหลับ แต่ทำยังไงมันก็ไม่หลับสักที ยามมองหน้าร่างสูงที่หลับสนิท ใจเขามันเต้นแรง

 

ตึก ตัก ตึก ตัก

 

“ทำไม..มันเป็นแบบนี้” ดวงตากลมจ้องมองคนตัวโตไปเรื่อยๆ เสียงหายใจสม่ำเสมอ

 

ร่างเล็กค่อยๆขยับเข้าหาคนหลับอย่างแผ่วเบาพร้อมกับค่อยๆซุกตัวลงกับแผ่นอกอุ่น

 

แผงอกกว้างที่ให้สัมผัสถึงความปลอดภัย  อุ่นใจ  ข้าวฟ่างค่อยๆหลับตาลงช้าๆและเข้าสู่นิทราในที่สุด

 

“ขาดความอบอุ่นรึไง” ดวงตาคมค่อยๆปรือขึ้นช้าๆ แล้วโอบกอดคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา เขาคลี่ยิ้มออกแล้วหลับตาลงเช่นเดิม

 

 

+++

 

(ข้าวฟ่าง)

 

“ห้าวววววว งืม” ผมลืมตาตื่นในเช้าของวันใหม่ ข้างกายผมตอนนี้ไม่มีพายุอยู่แล้ว หายไปไหนของเขานะ ผมมองไปรอบๆห้อง ห้องพายุสะอาดมากของทุกอย่างถูกจัดอย่างเป็นระเบียบ ทั้งชั้นหนังสือ ชุดโฮมเธียเต้อ  โซฟา ทุกอย่างล้วนเป็นสีดำและขาว ผมค่อยๆเดินออกจากห้อง ลงไปยังชั้นล่างที่เป็นคลินิก

 

“ตื่นแล้วเหรอ”พายุละสายตาจากโมเสกมองมาที่ผม พี่พายุในชุดคุณหมอ กำลังให้ยาไอ้หมาตัวโตนั่นอยู่

 

“อื้อ”ผมตอบในลำคอแล้วเดินเข้าไปใกล้

 

“หิวรึยัง”พายุหันมาหาผม

 

“ก็นิดหน่อยแต่อยากอาบน้ำมากกว่า”

 

“เสื้อผ้าในตู้นะหยิบใส่ได้เลย”พายุพาคนตัวเล็กขึ้นมาด้านบน

 

“ละ แล้ว ก ก น อะ ให้โล่งแจ้งแบบนี้ทั้งวันไม่ได้หรอกนะลุง”ข้าวฟ่างรู้สึกกระอักกระอวนใจ

 

“หึๆ เอาไว้กลับคอนโด แล้วค่อยใส่ก็ได้ หรือถ้าไม่สบายใจ ใส่ของพี่ก็ได้นะ”พายุมองร่างบางแล้วยกยิ้มนิดๆ

 

“แต่มันอาจจะคนละไซ้” ข้าวฟ่างถลึงตาใส่เพราะรู้ดีว่าคนตรงหน้าแกล้งเขา

“ไม่เอาหลอก เป็นสังคังรึเปล่าก็ไม่รู้ ยี้ ”พูดเสร็จก็เดินเข้าห้องน้ำทันที ส่วนคนขี้แกล้งก็เดิน ลงไปที่ห้องครัวรอคนตัวเล็กอาบน้ำแต่งตัวลงมา

 

“ลูงงงงงง” เสียงหวานเรียกแผ่วเบา ร่างสูงหันไปมองทางต้นเสียง

 

อึก -///-  ข้าวฟ่างในชุดเสื้อยืดตัวเก่าของเขาที่คอมันย้วย เสียจนเผยให้เห็นไหล่ลาดสีขาวเนียนสะอาดตา มือเล็กคอยดึงชายเสื้อที่มันสั้นเหนือเข่าให้ลงไปด้านล่างขาเล็กบิดไปมา ข้าวฟ่างกำลังรู้สึกเก้อเขิน

 

“เสื้อในตู้ ฟ่างใส่ไม่ได้สักตัวเลย  ละ แล้ว..กางเกงก็ไม่มี” พายุลอบกลืนน้ำลายเหงื่อกายพาลไหล มือหนาเริ่ม

เปียกชื้น หัวใจมันเต้นไม่เป็นส่ำ หัวใจมันเต้นแรงกับคนตรงหน้า

 

“ นะ..นี่มัน..”

 

“มีเสื้อที่ดีกว่านี้ไหมลุง ฟ่าง รู้สึกว่าลมมันเย็นมากเลยอะ” ร่างเล็กเดินเข้าใกล้พายุเรื่อยๆด้วยใบหน้าที่แดงราวกับลูกตำลึง

 

“หยุด!!”

 

พรึบ..

 

พายุเดินเข้าไปหาแล้วถอดเสื้อคลุมตัวเองให้ร่างบางใส่แทน เขาลอบถอนหายใจถ้าเข้าใกล้มากว่านี้ตะบะได้แตกจับร่างเล็กนั่นกดในห้องครัวแน่นอน คนอะไรทำอะไรก็ดูยั่วยวนเขาไปหมด

 

“กินข้าว เสร็จแล้วจะพาไปส่งคอนโด”

 

“อื้ออ”

 

(พายุ พาร์ท)

 

ผมมองข้าวฟ่างที่ก้มหน้าก้มตากินข้าว ดวงหน้าหวานดูเขินๆจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม เวลามองใจผมมันเต้นแปลกๆ อยากอยู่ใกล้มากกว่านี้ อยากจะสัมผัสให้มันมากกว่านี้ ทั้งๆที่ผมพยายามจะหักห้ามใจแล้ว..แต่เด็กนี่มัน....

 

หลังจากกินข้าวผมบอกให้ข้าวฟ่างไปนั่งรอที่ห้องทำงาน  ขอผมไปนั่งสงบจิตสงบใจสักพัก ...

 

 

“ลุง” ข้าวฟ่างเดินมาตามผมมั้ง

 

“หิวน้ำ ขอน้ำกินหน่อยสิ” ไอ้เด็กบ้านี่คิดจะยั่วกันไปถึงวะ คนเค้าอุตส่ามาอยู่เงียบๆแล้วยังจะตามมาอีก-*-

 

“อยู่ในตู้เย็นหาเอาเอง พี่ไปรอที่รถนะ”

 

 “อื้ออ” ผมเดินออกมาด้านนอกสั่งงานพนักงานไว้ถ้ามีเคสด่วนก็โทรตามได้เลย

 

 

ไม่นานข้าวฟ่างก็ตามมา ร่างเล็กนั่นวิ่งทักๆออกมา อายุก็เยอะแล้วนะแต่ทำไมผมดูมันเหมอนเด็กมากจัง ตัวเล็กหน้าเด็ก นี่ถ้าไม่เป็นเพื่อนกับหมอกรผมนึกว่าเด็กอายุประมาณ17-18 หลังจากฟ่างขึ้นรถผมก็ไม่ยอมมองไปทางคนตัวเล็กอีก กลัวอดใจไม่ไหว

 

“ลุง โกรธฟ่างหรอ ทำไมไม่คุยกับฟ่างเลยอะ”เสียงพยายามถามผมตั้งแต่กลางทาง

 

“ปล่าว”

“แล้วทำไมไม่คุยอะ”

 

“ไม่มีอะไรจะคุย”ผมตอบกลับเสียงห้วน นึกรำคาญจะถามอะไรนักหนาคนยิ่งมีความอดทนต่ำอยู่

 

“ลุงอย่าโกรธฟ่างเลยนะ”ร่างเล็กนั่นเขยิบเข้าใกล้ผมอีก ผมรีบเร่งคันเร่งให้มันไปถึงบ้านมันไวๆก่อนที่ผมจะขับรถเลี้ยวเข้าโรงแรมแถวๆนี้ ยิ่งมันขยับเสื้อที่มันสั้นอยู่แล้วก็ยิ่งถกขึ้นไปจนเห็นต้นขาเนียน

 

“นั่งดีๆสิฟ่าง”ด้วยความที่ผมตื่นเต้นเกินผมเผลอตวาดมันไปเสียงดัง ร่างเล็กนั่นสะดุ้งแรงจนผมเองก็รู้สึกตกใจกับท่าทางมันเช่นกัน ดวงตากลมค่อยรื้นน้ำตา ผมรีบเลี้ยวรถจอดข้างทางทันที

 

“เอ่อ ฟ่างพี่ขอโทษ”ผมรีบดึงมันมากอด

 

“ฮึกลุง..ฮึก ตกใจ”

 

“อืม รู้ขอโทษนะ” ผมช้อนปลายคางมันไว้แล้วใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาออก ใบหน้าหวานๆมันทำให้ผมไม่สามารถละสายตาไปได้เลย หัวสมองผมมันกำลังสั่ง สั่งให้ผมคิดทำอะไรบางอย่าง ที่มัน บ้ามากๆ

 

“ลุงโกรธอะไรฟ่างหรอ”ร่างเล็กช้อนสายตาขึ้นถามผม

 

“ไม่ได้โกรธ”ผมใช้น้ำเสียงที่อ่อนลงแล้วถอนหายใจแรง

 

“โกรธสิลุงต้องโกรธฟ่างแน่ๆ ไม่งั้น ไม่งั้น ลุงคงไม่ตวาดใส่ฟ่าง” ผมยกยิ้มขึ้นนิดเมื่อเห็นเด็กน้อยขี้ดื้อเลิกพยศแล้วกลายเป็นลูกแมวแบบนี้

 

“หึ”ผมไม่ยอมบอกแล้วหันไปขับรถต่อแกล้งทำเป็นไม่สนใจให้ข้าวฟ่างมันออกอาการมากว่านี้

 

(จบ part ‘payu)

 

(ข้าวฟ่าง talk)

   ผมไม่รู้ว่าลุงโกรธผมเรื่องอะไร การที่เขาเมินผมแบบนี้มันรู้สึกไม่ดีเลยผมรู้สึกเจ็บแปลบๆในอก ผมไม่อยากให้เขาโกรธเลย นี่ผมจะทำยังไงดี ....

 

  “ถึงแล้วลงไปสิ เสื้อนั้นค่อยคืนวันหลังก็ได้” ลุงพูดกับผมแบบเย็นชา เขาไม่หันมามองหน้าผมด้วยซ้ำ

 

  “อะ...อื้ออ” ผมเองก็ทำตัวไม่ถูกได้แต่เปิดประตูรถ ค้างไว้อย่างนั้น ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ ผมต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง

 

  “ลุง อยู่เป็นเพื่อนฟ่างหน่อยได้ไหม”ในที่สุดผมก็ตัดสินใจพูดออกไป

 

  “ทำไม?”

 

  “นะ อยู่เป็นเพื่อนฟ่างสักห้านาทีก็ยังดี” ลุงไม่ตอบเขาเดินลงจากรถ ผมยิ้มกว้างออกมาทันทีผมรีบตามลุงไปแล้วเปิดบ้านให้ บ้านผมมีแม่บ้านมาทำความสะอาดวันเว้นวัน บ้านมันเลยสะอาดอยู่เสมอๆ..

 

“มีอะไรก็ว่ามา” สีหน้าลุงยังคงเข้มขึมจนน่ากลัว ผมทำให้เขาหงุดหงิดเหรอ นี่ผมจะต้องทำยังไง ลุงเดินไปนั่งตรงห้องรับแขก ผมตามไปทันที

 

“ลุงเป็นอะไร...บอกฟ่างมา”ผมนั่งลงข้างๆลุงแล้วจับท่อนแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเอาไว้

 

“จะถามทำไม”เขายังใช้นำเสียงห้วนๆใส่ผมอยู่

 

“ก็..ก็..”ผมอึกอัก

 

“ในเมื่อไม่ชอบขี้หน้าพี่อยู่แล้วจะสนใจทำไม” ห๊ะ ผมไม่ได้ไม่ชอบขี้หน้าลุงสักหน่อย ผมแค่ไม่ชอบที่ลุงมายุ่งกับเพื่อนของผม เท่านั้นเอง

 

“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่..ฟ่าง ฟ่างแค่”ผมไม่รู้จะพูดยังไง ไม่เข้าใจความรู้สึกตัวเองในตอนนี้เลยสักนิด เวลาแค่หนึ่งอาทิตย์ แค่อาทิตย์เดียวทำไมผู้ชายตรงหน้าถึงได้มีอิทธิพลกับความรู้สึกของเราได้ถึงขนาดนี้ ใบหน้าของลุงตอนนี้มันเรียบเฉยและเย็นชา มันไม่เหมือนเดิม ไม่มีการพูดจาร้ายๆ ไม่ด่า ไม่แกล้ง มันๆมันทำให้ผมรู้สึก

ไม่ชอบเลย...

“ถ้าไม่มีอะไร พี่กลับก่อนละกัน” ลุง กำลังจะไป เขาเดินออกไปแล้ว ไม่รู้ทำไม ขาผมมันรีบตามไป เห็นแค่แผ่นหลังกว้าง ที่กำลังเดินออกไป มือผมก็

 

หมับ !!!

 

“อย่าไปเลยนะ”

 

(จบpart’ข้าวฟ่าง)

 

      ลูกแมวน้อยที่กำลังหลงเข้าไปในกับดักของเสือร้าย ร่างกายเล็กกอดเอวหนาของพายุไว้แน่น ร่างสูงที่หันหลังให้ยกยิ้มอย่างพอใจ ร่างสูงค่อยๆหันไปหาคนที่กอดเขาแน่น....

 

“จะให้ฟ่างทำยังไง ลุงถึงจะไม่เย็นชาแบบนี้”

 

“จะยอมทำทุกอย่างจริงๆนะเหรอ”คนขี้แกล้งตีหน้าเข้มใส่

 

“อื้อ..ยะ..ยอม”ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมามอง ดวงหน้าหวานแดงซ่านขึ้นมาทันทียามสบตาคมกับร่างสูง แววตาที่เหมือนจะกลืนกินเขาไปทั้งตัว...

 

“เป็นของพี่ได้ไหม...” ร่างสูงเชยคางมนให้สบตา

 

“เป็นแค่ของพี่พายุ คนเดียว” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู เสียงที่เหมือนไฟร้อนแรง

 

“มะ...หมายความว่ายังไง” ร่างเล็กใจเต้นแรงถามเสียงสั่น

 

“ก็หมายความว่า...ฟ่างจะต้องเป็นของพายุ”

 

“ไม่ ..เข้าใจ” ร่างสูงก้มลงมอบจูบรสหวาน ลิ้นร้อนกวาดต้อนให้อีกคนยอมจนมุม ข้าวฟ่างตอนนี้อ่อนระทวยเหมือนเทียนลนไฟ..จูบที่ช่วงชิงเอาลมหายใจเขาไปหมด..

“อื้อมม พายุ..หะ..หายใจไม่ อะ..ออก” พายุค่อยละจากริมฝีปากนุ่ม ดวงตาคมจ้องลึก

 

“หัดเอาไว้..เพราะต้องเจออีกเยอะ” ....เขาอุ้มคนตัวเล็กขึ้นไปบนชั้นสองของบ้าน ที่หมายคือห้องนอนของร่างเล็ก

 

“จะทำอะไร..ลุง ฟ่าง ฟ่าง”

 

ตุบ

 

“โอ๊ย...เจ็บนะลุง” ร่างเล็กถูกโยนลงบนที่นอนกว้าง เสื้อที่ใส่อยู่มันไม่ได้ปกปิดส่วนน้อยของเขาไว้แล้ว พายุมองตรงส่วนนั้น

 

“เห้ย มองอะไร ไอ้ลุงลามก”

 

“คิดจะยั่วกันแบบนี้ คืนนี้ลูกแมวคงไม่รอด” พายุย่างสุขุมขึ้นบนที่นอน ข้าวฟ่างขยับหนีจนชนหัวเตียง

 

 

“ลุง อย่าพึ่งทำฟ่างตอนนี้เลยนะ..”ร่างเล็กกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ..

 

“หึ”

 

“ฟ่างไม่พร้อม ฟ่างกลัว”

 

“ช้าไปแล้วฟ่าง” ร่างสูงคร่อมทับตัวของอีกฝ่ายไว้ มือเล็กรีบยกดันอกแกร่งไว้ทันที

 

“ไม่นะ ไม่เอา..ฮึก..ลุงเป็นอะไร อย่าทำแบบนี้ฟ่างกลัว”ร่างเล็กสั่นจนน่ากลัว

 

“กลัวอะไร..ผ่านมากี่คนแล้ว” คำถามที่เหมือนมีดกรีดลงกลางใจ สายตาที่บอกว่าน้อยใจช้อนมองคนด้านบน ปากเล็กกัดแน่นด้วยความกรุ่นโกรธ

 

“ฟ่างไม่เคยผ่านใครมาทั้งนั้น ไม่เคย ไม่เคย!!!!” ร่างเล็กตะโกนใส่หน้าพายุเสียงดังลั่นน้ำตาหยดเล็กๆค่อยไหลออกมา

 

“อย่ามาดูถูก” ร่างสูงเหมือนโดนตบหน้าด้วยแววตาตัดพ้อนั่น เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะว่า...

 

“ขอโทษ”อารมณ์หื่นกามเมื่อครู่หายไป หมด เขาก้มลงประทับจูบลงหน้าผากมน

 

“ฮึก...ฮือออ”

“ขี้แยเป็นเด็กแบบนี้ไม่เหมือนข้าวฟ่างที่พี่พายุรู้จักเลยนะ”

 

“ฮึก...”

 

“ไว้พร้อมเมื่อไหร่ บอกแล้วกัน..”ร่างสูงล้มตัวลงนอนข้างๆกายของคนตัวเล็ก มือหนึ่งดึงอีกคนเข้ามากอด

 

“นอนกอดแบบนี้ได้ใช่ไหม” เสียงสะอื้นขาดหาย หัวทุยพยักขึ้นลงเป็นเชิงอนุญาต

 

“จูบละ จูบได้ใช่ไหม” ร่างเล็กพยักหน้าอีก

 

“หึแล้วอย่าให้ใครมาลบรอบจูบพี่ละ เพราะไม่อย่างนั้น พี่คงจะ ขย้ำเราให้ตายคาเตียง” ใช่ไม่ต้องรีบร้อน ค่อยๆเป็นค่อยๆไป อย่างนี้นะดีแล้ว ร่างสูงกอดคนตัวเล็กแน่นยิ่งกว่าเดิม....

 

“ชอบ” คือความรู้สึกของคนทั้งคู่ในตรงนี้ รอแค่เวลาที่จะพัฒนา ไปเป็นคำว่า “รัก” เพราะคิดว่าอีกไม่คงจะได้ใช้

 

 



 

 

ปล....ไปเรื่อยๆเนอะคู่นี้ กะอิแก่เต๊าะเด็ก อีกไม่นานเฮียแกก็จะสมหวังของการกินเด็ก..

 

ปล.2 รู้นะว่าลุ้น 5555+

 

ปล.3 รักทุกคนนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2015 00:12:09 โดย minamiaigi »

ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่19 อัพ 2/09/15
«ตอบ #82 เมื่อ02-09-2015 23:55:43 »


 

 

 

 

 

 

ใจร้าว ตอนที่ 19  นับถอยหลัง

 

 

             เหลือเวลา อีกพียงแค่ หนึ่งอาทิตย์  ชีวิตอันสงบสุขของฟ้าครามก็จะหมดลง วันนี้เขาไปส่งมังกรด้วยใจที่หดหู่ที่สุด

 

“ขอโทษนะมึง..กูรู้ว่ามึงรู้สึกไม่ดี แต่มึงก็ต้องตัดชุดไว้ พ่อกับแม่เข้าให้มึงไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว” มังกรจับมือฟ้าครามแน่นดวงตากลมมองคนรักด้วยความรู้สึกผิด

 

“เออ กูเข้าใจ แต่แมร่งทำใจยากวะ ” ฟ้าครามบอกตามความรู้สึกของตัวเอง

 

“มึงก็รู้ว่าพี่ยุเค้าไม่ได้คิดอะไรกับกู” มังกรบอกเสียงอ่อน

 

“เออ รู้ แต่แมร่ง กูอยากแต่งงานกับมึงอะ แต่งกับก่อนคนแรก ไม่ได้เหรอวะ” มังกรอึ้งทันที่ที่ได้ยินฟ้าครามพูดออกมา ดวงหน้า

หวานยิ้มกว้างกับความน่ารักอย่างฟ้าคราม ไม่อ่อนหวาน ไม่มีความโรแมนติก มีแต่ห่ามๆแถมดิบเถื่อนอีก ฟ้าครามเสหน้าไป

มองทางอื่นเหมือนเด็กเอาแต่ใจ  มังกรรู้ว่าประโยคที่พูดออกมาคือการขอแต่งงานของร่างสูง มือหนายื่นกล่องของขวัญอันเล็กๆ

ให้ทั้งๆที่ยังไม่ได้มองหน้าเขาเลยสักนิด มังกรค่อยๆแกะกล่องนั่นออก มือเล็กสั่นน้อยๆ เมื่อเห็นว่ามันเป็น แหวนคู่


“กูจองไว้ไว้ก่อน ไว้ทุกอย่างมันเคลียเมื่อไหร่กูจะมาเอาคืน”

 

“อื้อ อย่าลืมนะมึง” เขาสวมแหวนเข้าที่นิ้วนางข้างขวา

 

“เออ กูไม่ลืมหรอก แต่บอกไว้ก่อนนะว่ากูรีบ กูจะเอามึงคืนให้เร็วที่สุด” น้ำเสียงฟ้าครามดูจริงจังทั้งสีหน้าและแววตา

มังกรแค่ได้ฟังก็รู้สึกดีใจและมีความสุข แค่นี้ขอให้ต้องเจออะไรที่มันเลวร้ายเขาก็จะผ่านมันไปได้แน่นอน

+++++++

 

 

อีกห้าวันก่อนวันแต่งงาน

 

 

                         การใช้ชีวิตด้วยในแต่ละวันที่ผ่านฟ้าครามอ่อนโยนกับมังกรมากขึ้นทุกวัน และรักเขามาขึ้นทุกวัน หนึ่งเดือนที่อยู่ด้วยกัน เขาเข้าใจกันละกันมากขึ้น แหวนที่ใส่คู่กันตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน มังกรโดนสั่งพักงานเพราะจะต้องเตรียมตัวเข้าพิธีในอีกไม่กี่วันข้างน่า ครอสเจ้าสาวพรากเวลาของพวกเขาไปเกือบทั้งวัน  การเตรียมงานทุกอย่างพ่อแม่เป็นคนจัดการทุกอย่าง พายุกับเขาแค่เตรียมตัวและเตรียมใจเท่านั้นเอง วันนี้พายุกับมังกรไปลองชุด โดยมีฟ้าครามกับข้าวฟ่างติดตามไปด้วย....

 

 

“สวยมะ กูรู้ว่ากูสวย”มังกรพยายามจะสร้างบรรยากาศที่มันดูอึมครึมให้มันสดใสขึ้น

 

“อืมสวยสวยซะจนกูอยากจะฉีกชุดเหี้ยๆนี้ให้เป็นชิ้นๆ ชุดสนตรีนอะไรห๊ะ ทำไมมันสั้นโชว์ขาอ่อนโชวหลังแบบนี้!!!”ฟ้าครามแหกปากออกมาดังลั่น เขาไม่อยากให้ใครเห็นมันทั้งนั้น ทั้งแผ่นหลังขาวเนียนกับท่อนขาเรียว เขาหวง หวงที่สุด หวงทุกอย่างที่เป็นของมังกร

 

 

“แล้วนั่นอะไร ไอ้กระโปรงห้อยๆนี่เห็นมึงเป็นตุสรึไง”

 

“ครามพอเหอะ..อายเค้าแม่กูเค้าเป็นคนออกแบบเองนะมึง” มังกรที่พยายามปรามคนรักให้ใจเย็นลง ชุดข้าวฟ่างเองก็ไม่ต่างจากของมังกร เพราะฟ่างต้องเป็นเพื่อนเจ้าสาว พายุได้แต่มองคนที่กำลองเสื้อของตัวเองด้วยแววตานิ่งๆไม่พูดไม่จา

 

“พี่ยุ ดึงซิบให้ฟ่างที” แววตาที่หม่นๆของข้าวฟ่างทำให้พายุใจไหววูบ ข้าวฟ่างยกหางของชุดเดินมาหาพายุแล้วหันหลังให้  เผยให้เห็นรอยแดงๆทั่วแผ่นหลังเนียน..

 

“อะไรที่มันเป็นของๆกู มันก็ต้องเป้นของๆกูคนอื่นมาแทนที่ไม่ได้หรอกนะจำไว กูมีแค่มึง แค่มึงคนเดียวนะฟ่าง” น้ำคำที่ให้คนฟังค่อยๆเผยยิ้มออกมา

 

“เชื่อใจพี่นะ” เขาจูบซับรอยรักที่ฝากไว้เมื่อหลายวันก่อน

 

“ครับ”คนตัวเล็กหันมายิ้มให้

 

                         ถ้าจะถามว่าพายุทำยังไง คงต้องย้อนไปในวันนั้น วันที่เขาไปส่งข้าวฟ่างที่บ้าน

 

 

 

ย้อนไปกลับไปในวันนั้น

 

 

        ร่างสูงนอนมองร่างเล็กที่นอนอยู่ในอ้อมอกเขาด้วยแววตาอ่อนโยน ข้าวฟ่างในตอนนอนแบบนี้ดูน่ารักมาก ไม่ดื้อไม่พยศ แบบนี้ก็ดูเป็นเด็กดี ไม่ก้าวร้าว แถมยังขี้อ้อนเขาอีกต่างหาก

    “น่ารักแบบนี้ให้นานๆนะข้าวฟ่างถ้าอยากให้พี่ใจดีด้วย”เขาจูบซับที่กระหม่อมแล้ว ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ ปล่อยให้คนขี้เซานอนต่อ ร่างสูงมองนาฬิกาที่ข้อมือ ใกล้เที่ยงแล้ว ถ้าคนตัวเล็กตื่นมาคงจะหิว เขาแต่งตัวแล้วออกไปหาซื้อของมาทำอาหารก่อนที่ข้าวฟ่างจะตื่น....

 

 

 (ข้าวฟ่าง’part)

 

 

            นี่ผมนอนไปนานเท่าไหร่แล้วเนี้ย ผมดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งแล้วกวาดสายตามองหาพี่พายุ แต่หาไม่เจอ

สงสัยคงกลับไปแล้วผมรู้สึกเหงาๆเมื่อรู้ว่าพี่ยุไม่อยู่แล้ว  ผมเลยลุกไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน กะว่าจะไปหาฟ้าครามที่คอนโดแต่พอเดินออกมาจากห้องจมูกผมก็ได้กลิ่นหอมๆลอยมาจากในครัว คิ้วผมขมวดยุ่งทันที ผมอยู่บ้านคนเดียวแล้วใครที่ไหนมันจะมาทำกับข้าวให้ผมกันละจู่ๆหัวใจผมมันก็พองโตข้นมา ขาผมก้างลงบันไปอย่างรวดเร็วและตรงไปที่ห้องครัว ...

 

“พี่ยุ”ผมครางแผ่วเมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำอาหาร เสื้อแขนยาวถูกพับมาจนถึงข้อแขน แถมพี่ยุยังเอาผ้ากันเปื้อนมาใส่อีก ดูหล่อแบบอบอุ่นจนใจผมมันเต้นแรงไม่หยุด พี่ยุหันมาทางผมแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

 

“มานั่งสิเสร็จพอดี  หิวรึยัง”น้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ มันอันตรายต่อหัวใจข้าวฟ่างจริงๆนะ

 

“อะ อื้ม..” ผมลงมือกินมื้อเที่ยงที่พี่ยุเป็นคนทำอย่างเอร็ดอร่อยจนหมดจาน

 

“กินเสร็จก็ล่างด้วยละ”ล้างจานเหรอ แค่จับจานผมยังทำแตกเลย ผมกำลังจะปฏิเสธแต่เห็นสายตาดุๆนั่นผมก็ไม่กล้าแล้ว

 

“ครับ”ผมยกจานไปที่อ่างล้างในครัว แล้วมันต้องเริ่มยังไง เกิดมายังไม่เคยล้างจานเลย ผมยืนมองจานในอ่างนิ่งๆโดยไม่ทันมองว่าพี่ยุเดินมาซ้อนอยู่ข้างหลัง

 

“ยืนนิ่งแบบนี้ ล้างไม่เป็นใช่ไหม” เสียงเข้มๆติดจะดูถูกนิดๆ ผมรีบเถียงทันที

 

“ไม่ใช่สักหน่อย”อยากจะตีปากตัวเองจริงๆเริ่มยังเริ่มไม่ถูกเลย

 

“หึ”พายุหัวเราะออกมาเบาๆมือหนาค่อมตัวเขาไว้กับอ่างล้างจาน

 

“มัวแต่ก้มหน้าแล้วจะล้างจานยังไง”แผ่นหลังเล็กชิดกับอกกว้าง พายุจับมือเล็กพร้อมกับสอนล้างจาน  มือหนาจับมือข้าวฟ่างค่อยๆล้างจานทีละใบๆ ใจดวงเล็กเต้นตึกตักยามได้รับสัมผัสอุ่นๆจากแผ่นอกกว้างข้าวฟ่างไม่ได้ฟังพายุสอนเลยสักนิด มันแต่ตื่นเต้นกับคนข้างหลังซะมากกว่า

 

“เสร็จแล้ว ครั้งหน้าล้างเองได้แล้วนะ” กว่าจะรู้ตัว จานก็ถูกล้างจนหมดและถูกวางในชั้นวางจานหมดแล้ว

 

“อื้ออ” เสียงตอบในลำคอทำเอาคนตัวสูงยิ้มออกมานิดๆกอดจะสอดมือไปที่เอวคอดแล้วออกแรงกอดรัด

 

“อ๊ะ”ข้าวฟ่างถูกยกตัวขึ้นเหนือพื้นโดยร่างแกร่ง

 

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ เปียกหมดแล้ว” เสียงนุ่มออกคำสั่ง

 

“ก็ไม่เห็นต้องอุ้มฟ่างเลยนี่ครับ หวา!!! “ ข้าวฟ่างคว้าคอร่างสูงไว้ทันเพราะจู่ๆเขาก็เปลี่ยนท่าอุ้มเป็นท่าเจ้าสาวแทน

 

“หึหึ เอาเถอะอุ้มบ่อยๆจะได้ชิน”

 

“ไม่ชินหรอกนะครับ พี่ยุทำอะไรแบบนี้เนี้ย” ข้าวฟ่างเผลอตัวเรียกว่าพี่เพราะความอ่อนโยนและใจดีของพายุ ใจดวงน้อยเริ่มจะโอนเอน   

 

“เงียบเถอะ”เขาวางร่างเล็กลงในห้องแต่งตัวก่อนจะเลือกเสื้อผ้าที่คิดว่าเจ้าตัวใส่แล้วน่ารักออกมา

 

“ชุดนี้เหรอ มันไม่” เสื้อแขนยาวคอเต่าสีเขียวขี้ม้ากางเกงยีนขายาวทีฟ้าซีดๆถูกยัดใส่มือ ข้าวฟ่างมองแล้วทำหน้างง อยู่บ้านนะ  เมืองไทยร้อนมากๆเลยนะ แล้วจะให้ใส่มิดชิดแบบนนี้

 

“ใส่ไปเหอะน่า เดี๋ยวจะพาไปคลินิก ไม่มีงานทำไม่ใช่ไงเรานะ”ร่างสูงดันตัวร่างเล็กให้เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

พอออกมา

 

 

“พี่ยุมันร้อนอะ”ข้าวฟ่างบ่นกระปอดกระแปดขณะเดินมาขึ้นรถที่หน้าบ้าน

 

“จะบ่นทำไมรีบขึ้นรถสิเดี๋ยวก็เย็น” ฟ่างทำหน้ายู่ใส่ทันทีก่อนจะเปิดประตูแล้วขึ้นรถทันที

 

“เร็วสิเปิดแอร์สิ ร้อนๆๆๆๆ” ดีดขาไปมาอย่างกะเด็กเอาแต่ใจ พายุมองนิดแต่ก็ยอมทำตาม ไอเย็นจากช่องแอร์ค่อยๆคลายร้อนให้ร่างเล็ก อย่างช้าๆข้าวฟ่างพ่นลมออกมาเพื่อระบายความร้อนในร่างกายมือเล็กดึงเสื้อคอเต่าลงต่ำอย่างรำคาญ พายุปรายตามองแผงอกขาวๆที่คอยจะโผล่มาให้เห็น

 

              ใช้เวลาไม่นานทั้งคู่ก็มาถึงที่หมาย ด้านในมีสัตว์แพทย์ สองสามคนคอยดูแลสัตว์ป่วย พายุเดินจูงมือร่างเล็กเข้าไปด้านใน หลายคนหันมามองผู้มาใหม่

 

“หมอยุมาแล้วหรอคะ โมเซกฟื้นแล้วละคะ”พนักงานสาวบอกก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้ ข้าวฟ่างรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาซะดื้อๆ

 

“ฟ่างจะขึ้นข้างบนก่อนก็ได้นะพี่จะทำงาน”พายุหันมาบอกพร้อมกับจับหัวเล็กโยกไปมา

 

“ไม่เอาจะอยู่ด้วย” กว่าจะรู้ตัวว่าโง่มากที่ขอทำงานด้วย

 

“ว๊ากกกกกกกกก ไม่เอาโมเซก แก โอ๊ยอย่าเลียไม่ อื้อ พี่ยุ เรียกมันไปที” ร่างเล็กถูกเจ้าหมาตัวโตโถมตัวใส่เต็มแรงจนเขาเองสงสัยว่ามันป่วยจริงรึเปล่า พายุไม่ได้เรียกเจ้าหมาพันธ์โกลเด้นนี่ให้หยุดแต่กลับนั่งเท้าคงมองจากโต๊ะทำงานแทน มุมกระตุกยิ้มจนน่าหมันใส้

 

 

“โมเซก หยุดนะ หนัก พอแล้ว เหนื่อยแล้วนะ”ข้าวฟ่างคลานหนีเจ้าหมาอยู่บนพื้นพรมในห้องทำงาน ดวงหน้าขาวแดงซ่านไปหมดเพราะเหนื่อยและร้อน เสื้อแขนยาวคอเต่า เขาจะเอามันไปเผาทิ้งให้หมดเลยคอยดู

 

“โมเสกพอแล้ว” สิ้นเสียงของพายุเจ้าหมาบ้าก็นั่งลงนิ่งถ้าเขาตาไม่ฝาด เขาเห็นรอยยิ้มกว้างๆของไอ้หมาบ้านี่มันกำลังยิ้มแฉ่งให้เขา

 

“อย่าเผลอนะมึงกูจะเอายาถ่ายให้กินทั้งหมาทั้งเจ้าของหมาเลยคอยดู” ข้าวฟ่างอาฆาตไว้ในใจ

 

“ถ้าทางโมเสกคงจะชอบฟ่างอะ”ข้าวฟ่างตวัดสายตาไปหาเจ้าหมาที่นั่งส่ายหางไปมาด้วยความหมันไส้

 

“เชอะ ไอ้หมาน่าโง่  อย่าได้หวังจะทำแบบนั้นกับชั้นเป็นครั้งที่สอง”นิ้วเรียวชี้ไปที่โมเซก

 

“แล้วถ้าพี่ทำบ้างละ”ร่างสูงนั่งยองๆลงตรงหน้าคนตัวเล็กพร้อมกับรอยยิ้มพราย

 

“ทำอะไร ทำนิสัยหมาๆนะเหรอ ทำอยู่แล้วไม่ใช่รึไง” เพราะความหงุดหงิดทำเอาคนตัวเล็กพาลไปหมด

 

“อ๊ะๆ...พูดจาแบบนี้ พี่บอกแล้วไงครับ ว่าไม่ชอบ” เสียงของพายุกดต่ำลงตรงคำสุดท้าย พายุยืนขึ้นเต็มความสูงก่อนจะลงมืออุ้มคนตัวเล็กพาดบ่า

 

“เห้ยยย พี่ยุ ปล่อยนะ”

 

“ไม่ปล่อยจนกว่าจะถึงที่นอนในห้องของพี่”

 

“ไม่เอาไม่ไป” ถึงจะดิ้นให้ตายเขาก็ไม่ปล่อย.....

 

 

(พายุทอร์ก)

 

         “  ใครจะไปรู้ว่าโชคชะตามันจะเล่นตลกกับผม ตั้งวันที่ผมเดินชนผู้ชายน่าตาน่ารักคนหนึ่งในร้านอาหาร ใบหน้าสวยแต่

แววตากลับหม่นหมองจนน่าหดหู่ ผู้ชายคนนั้นขอโทษผมแต่ก็นะ  จู่ๆผมรู้สึกอยากรู้ว่าคนที่เดินชนผมนั่งตรงไหน เลยดักรออยู่

หน้าห้องน้ำ แต่ว่าพอออกมาผมก็เจอเขากำลังมีปัญหากับผู้ชายคนหนึ่ง  ผมทนอยู่เฉยไม่ได้ก็เลยเขาไปช่วยจนได้รู้ชื่อ ว่า มังกร

 

ชื่อยิ่งใหญ่ผิดกับตัวจริงๆ ผมมองปราดเดียวก็รู้ว่าผู้ชายที่มีเรื่องกับมังกรเป็นคนสำคัญสำหรับเขามาก เสียดายจัง  ยังไม่ทันได้

จีบอกก็หักซะละ หลังจากนั้นผมก็ไม่คิดว่าจะได้เจอมังกรตัวน้อยอีก  เมื่อหม่อมแม่ที่ร้อยวันพันปีจะมีเรื่องคุยกับผมสักที ท่านโทร

มาให้ผมมารับไปบ้านเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยด้วยกัน  อ่าดูจากแววตาผมก็รู้ได้ทันทีว่าแม่คิดอะไรอยู่คิดจะจับคู่ให้ผมอีกแล้วละสิ เมื่อผมไปถึงไม่คิดว่าลูกสาวของเพื่อนแม่จะกลายเป็นผู้ชายน่ารักซะได้ และที่สำคัญ       

 

      คนๆนั้นคือมังกร  .....กว่าจะรู้ตัวพวกแม่ๆกับจับเราหมั้นโดยมัดมือชกโดยการประกาศหมั้นเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนั้นเราก็คุยกันถูกคอมาก ผมรู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้จัง ทั้งเรียบร้อย มีความมุ่งมั่น เด็ดเดียวมาก มีหลายครั้งที่ คนที่ชื่อว่าฟ้าครามมาก่อกวนมังกร ผมเคยชกกับมันด้วยนะ จนผมต้องเค้นมังกรจนเขายอมเล่าให้ฟังจนหมด...อาจจะมีบางเรื่องที่เขาเลี่ยงไม่ตอบ  ผมรู้สึกสงสารคนสองคนนี้ทันทีอยากจะช่วยแต่ไม่รู้จะทำยังไง  ฟ้าครามแสดตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของมังกร

 

      อย่างออกนอกหน้า รู้หรอกว่าหวง แต่ช่วยรักษาหน้าผมนิดก็ได้ ถึงยังไงผมก็คู่หมั้นนะครับ วันหนึ่งผมไปหามังกรที่คอนโดแต่

ทะว่าผมกลับเจอฟ้าครามในสภาพล่อแหลมแถมถือชามมาม่าไว้ในมือ ประโยคแรกที่มันทักผม  “อ่อชู้เมียกูนี่เอง”ตอนแรกก็

อยากจะเข้าไปตั้นหน้าหล่อๆนั่นแต่  ผมเห็นรอยแดงไปทั้งแผงอกขาวๆของมังกร ผมเองก็ทำตัวไม่ถูกจนร่างเล็กเชิญผมเข้าไปใน

ห้อง นั่งคุยกันจนพอจะเข้าใจอะไรหลายๆอย่างจนเลยว่า ฟ้าครามชวนไปซื้อของมาทำอาหารกลางวันที่ห้างใกล้ๆ ผมขอตัวแยก

ไปห้องน้ำพอจะกลับมาหาทั้งคู่ก็เห็นใครบางคนทำตัวลับๆล่อเดินตามมังกรกับฟ้าครามอยู่ห่างๆแต่งตัวก็แปลกๆปกปิดหน้าตา

เอาไว้ในมือถือโทรศัพท์ตามถ่ายรูปของทั้งคู่เอาไว้ ด้วยความที่ผมมือไวก็คว้าเอาโทรศัพท์นั่นไว้ในมือ....หึใครจะไปคิดว่าการ

กระทำของผมในครั้งนั้นมันจะทำให้ชะตาผมพลิกผัน ดวงหน้าหวานสวยราวกับเด็กผู้หญิงยืนด่าผมป่าวๆแถมยังเรียกผมว่า ลุง

อีก ตอนแรกแค่อยากจะปราบพยศ ไปๆมาๆกลับอยากจะครอบครอง ทั้งตัวและหัวใจ  ”

   

      กลับมาปัจจุบัน ผมอุ้มข้าวฟ่างพาดบ่าถามว่าทำไมต้องทำ ก็เด็กมันยั่ว ยั่วจนผมอดใจไม่ไหว แค่หน้าแดงๆ ปากแดงๆแสดงอาการว่าร้อนว่าเหนื่อย มันก็ยั่วเสียจนผมมือไม้สั่นไปหมด  ผมปล่อยให้ฟ่างทุบหลังผมจนพอใจ ทุบให้เหนื่อยจะได้ไม่มีแรงขัดขืนผม จะได้ยอมง่ายๆสักที

 

 

 

 ตุบ

 

“โอ๊ยย พี่บ้าจะโยนทำไม เจ็บนะ” พ้นมือผมตัวเล็ก ก็โวยวายใส่ผม หึๆเวลาโกรธก็ดูน่ารักน่าหยิก แก้มแดงๆนั่นคงเกิดจากความอายผมรู้ว่าเด็กนี่ก็ใจเต้นแรงเพราะผมเหมือน ครั้งนี้ผมจะทำให้เด็กดื้อของผมเข้าใจตัวเองสักที....

  ผมไม่รอช้ากระโดดขึ้นทับตัวเด็กดื้อเอาไว้ ตัวผมใหญ่กว่าได้เปรียบแน่นอน ฟ่างดิ้นขุกขลักอยู่ใต้ร่างผม

 

“ฟ่าง....นิ่ง!”ผมแกล้งขึ้นเสียงใส่ได้ผลครับข้าวชะงักดวงตาสวยสั่นระริกคงจะตกใจ

 

“พี่ยุ..”เสียงหวานเอ่ยเรียกผมเบาๆปากบางเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง ดวงแก้มใสตอนนี้มันแดงไปจนถึงใบหู

 

“หึ” ร่างกายผมที่กำบดเบียดความเป็นตัวตนของบเข้ากับหน้าท้องแบนราบของฟ่างยิ่งฟ่างขยับมันยิ่งขยายใหญ่จนนูนออกมา ฟ่างเลิกดิ้นไปโดยปริยาย ผมจ้องมองร่างเล็กที่นอนนิ่ง เหมือนลูกแมว

 

“ฟ่าง...”

 

“คะ..ครับ”

 

“พี่ชอบฟ่าง..เรามาคบกันไหม” มันอาจจะเร็วไปแต่ความรักความชอบมันไม่เข้าใครออกใคร ผมไม่อยากจะเสียเวลาไปมากว่านี้ เพราะบางทีถ้าช้าผมอาจจะเสียใจทีหลัง ผมมองข้าวฟ่างที่กำลังมองผมอย่างอึ้งๆ

 

“อย่ามาล้อฟ่างเล่นนะ”ข้าวฟ่างยังคงไม่เชื่อผม เชื่อก็คงแปลกเพราะตลอดเวลาหลายสัปดาห์ผมกับฟ่างไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่จู่ๆจะมาบอกว่ารักว่าชอบใครๆก็คงจะไม่เชื่อ

 

“ไม่ได้ล้อเล่น พี่เอาจริง” ฟ่างบ่อน้ำตาแตกทันที

 

“ฮึก..สนุกนักหรอที่มาล้อเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นแบบนี้”น้ำตาเม็ดใสหยดเผาะลงข้างแก้มนวล

 

“พี่บอกว่าไม่ได้ล้อเล่นไง  พี่ชอบฟ่าง”

 

“โกหก พี่ไม่ชอบขี้หน้าฟ่างตั้งแต่แรกแล้วนี่ พี่ชอบว่าฟ่าง ใจร้ายกับฟ่าง แถมยัง มาทำให้ฟ่าง ฮึก รู้สึกหลงตัวเอง อีก”ข้าวฟ่างสะอื้นยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง ผมใจสั่นน้อยเพราะกลัวจะโดนปฏิเสธ

 

“พี่แน่ใจแล้วหรอว่าเป็นฟ่าง เพราะถ้าพี่เลือกฟ่างแล้วมังกรละ?” ผมลืมนึกถึงคู่หมั้นผมไปเลย

 

“พี่มีคู่หมั้นแล้วนะ แล้วคู่หมั้นพี่ก็คือเพื่อนของผม” อ่า เรื่องนี้สินะที่ทำให้เด็กดื้อของผมร้องไห้

 

“เราไม่รู้เหรอว่าฟ้าครามกับมังกรรักกัน”

 

“รู้”

 

“แล้วจะกังวลอะไรในเมื่อพี่ก็ไม่ได้รักมังกร พี่รักเรา” ผมช้อนคางมนขึ้นให้ฟ่างหันมาสบตาผมแววตาแห่งความสับสนฉายชัดในม่านตานั่น

 

“แล้วเรื่องแต่งงาน”

 

“หึแล้วเราคิดว่าคนอย่างฟ้าครามจะยอมจริงๆนะเหรอ แล้วมังกรไม่วางแผนอะไรไว้เหรอ” คิ้วเลิกสูงอย่างสงสัย

 

“แล้ว  อื้ออ”ผมไม่รอให้ข้าวฟ่างถามอะไรอีก  ผมบดจูบลงไปกับกลีบปากสีชมพู ขมเม้มริมฝีปากนิ่มอย่างหื่นกระหาย

ฟ่างยังคงต่อต้านผม โดยการกัดฟันไว้แน่น มือผมจึงเลื่อนเข้าไปในสาบเสื้อใช้ปลายเล็บสะกิดยอดตุ่มไตเล็ก

 

“อื้อออ”ได้ผลฟ่างเปิดปากร้องครางออกมา เปิดโอกาสให้ผมสอดลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อน เอารสหวานที่ผมแสนจะโหยหาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้จูบกับเขา  ผมมั่นใจว่ารสจูบผมเอาชนะเด็กรั้นๆอย่างฟ่างได้อย่างง่ายดาย

 

“อื้ออ อื้มม”แรงดูดดุนลิ้นนุ่มนิ้มทำให้ฟ่างอ่อนแรง ผมรู้ว่าฟ่างกำลังขาดอากาศ ผมถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง ร่างเล็กหอบหนักพร้อมกับโกยอากาศเข้าปอด  ดวงตาตัดพ้อในตอนแรกตอนนี้มันฉ่ำปรือ ผมไม่ปล่อยให้ฟ่างได้หายใจนานผมสูบลมหายใจของร่างเล็กอีกครั้ง และครั้งนี้ข้าวฟ่างยอมสิโรราบให้ผมเรียบร้อย.......

 

“สัญญาได้ไหมว่าจะไม่เปลี่ยนใจไปจากฟ่าง”

 

“พีไม่สัญญาหรอก” ข้าวฟ่างสะอึกมองหน้าผมนิ่งๆ

 

“พี่อยากให้ฟ่างดูการกระทำพี่มากกว่า อยากให้ฟ่างรู้ด้วยตัวเองว่าคนอย่างพี่จะรักฟ่างได้มากแค่ไหน คำสัญญาใครๆก็สัญญาได้แต่ทำได้รึเปล่ามันก็อีกเรื่อง พี่ถึงบอกว่าให้ดูการกระทำของพี่” ผมเห็นข้าวฟ่างค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา

 

“ตอนนี้พี่รักฟ่าง พี่ชอบฟ่าง ฟ่างละคิดยังไงกับพี่” ร่างเล็กตรงหน้าหลบสายตาผมทันที ผมเงียบน้องก็เงียบ เงียบจนได้ยินเสียงของหัวใจที่ดังลั่นออกมา

 

“ฟังเสียงหัวใจของฟ่างสิครับ มันตะโกนออกมาว่ารักพี่ยุ พี่ยุ เรียกหาแต่พี่ยุ ฟ่างไม่รู้หรอกว่าใจฟ่างมันลอยไปหาพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่

อาจจะตั้งแต่ตอนที่พีแย่งโทรศัพท์ฟ่างแล้วก็ได้” ผมได้ฟังที่ฟ่างพูด หัวใจผมมันก็พองโต ผมยิ้มฟ่างก็ยิ้ม ผมประทับจูบลงที่อกข้างซ้ายของฟ่าง

 



 

 

 

 

ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่19.2 อัพ 2/08/15
«ตอบ #83 เมื่อ02-09-2015 23:56:26 »

“เป็นของพี่นะครับ” ผมคงไม่รอคำตอบ ปากผมตอนนี้พรมจูบลงซอกคอขาวเนียนพร้อมกับดูดเม้มจนมันเป็นรอยแดง ตรา

ประทับของพายุมันจางเมื่อไหร่ผมก็จะตีตรามันอีก เสื้อที่ฟ่างใส่อยู่โดนผมถอดอย่างง่ายดาย อกเล็กที่ผมอยากจะสัมผัสตอนนี้

มันอยู่ตรงหน้าผมแล้ว ผมก้มลงชิมยอกอก ตุ่มเล็กๆที่เป็นจุดศูนย์รวมของการเบิกทางสู่เส้นทางสวรรค์ ผมหยอกล้อจนมันตั้ง

ยอดแข็ง ฟังเสียงครางอือ เสียงหวานๆที่ปลุกอารมณ์ชายของผมให้มันปั่นป่วน

 

“อื้ออ พี่ยุ” ผมฟ่างบิดตัวแอ่นอกเข้าหาผมมือเล็กจิกเกร็งกับที่นอนจนผ้าปูแทบขาด มือของผมค่อยๆเลื่อนลงไปกอบกุ่มแท่งเนื้อสี

อ่อนตรงกลางระหว่างขา มันค่อนข้างจะตื่นตัวมือผมชักรูดไม่กี่ครั้งฟ่างถึงกับครางหวิว ก่อนทีปากของผมจะครอบลงกับแก่น

กายน่ารักน่ากิน ใช่ครับผมทำออรัลให้คนตัวเล็กอย่างไม่นึกรังเกลียด ดูก็รู้ว่าฟ่างไม่เคยผ่านมือใคร ผมจะค่อยๆกินร่างกายนี้

อย่างละเมียดละไม ผมไม่ต้องรีบร้อนอะไรแล้ว นิ้วเรียวของผมลากผ่านช่องทางจีบเล็กๆ ร่างบางสะดุ้งน้อยๆพร้อมกับบิดสะโพกไปมา โดนเร้าทั้งหน้าและหลังแบบนี้ มีหรือใครจะทนได้

 

 

“อ๊า..พี่ยุ...อื้ออ ฟ่าง อื้อออ มันเสียวมากเลย” ปากบางกรีดร้องออกมาเสียงหวาน ผมยิ้มให้นิดๆก่อนจะเร่งจังหวะให้มันเร็วขึ้น ข้างฟ่างผงกตัวขึ้นมือเล็กละจากที่นอนมาขยุ้มหัวผม พร้อมกับ ครางออกมา

 

“อ๊ะ อ๊ะ อื้อออ อื้มม จะไม่ไหวแล้ว อ่า พี่ยุ ฟ่าง อ๊า มันมาแล้ว พอก่อน อะ อื้ออ” ฟ่างพยายามจะดันหัวผมออกแต่เปล่าเลยผมกลับกดหัวตัวเองลงเพื่อรับน้ำนมรสหวานจากตัวข้าวฟ่าง เมื่อถึงการปลดปล่อย  อ่า..น้ำแรก ของเมียผม มันหวานจริงๆนะครับ ผมกลืนมันลงคอจนหมด พร้อมกับใช้ลิ้นทำความสะอาดให้อีก ดูสิ เมียของผมน่ารักจะตาย นอนหอบตาลอยเชียว

 

“ฟ่างครับ...ถึงตาพี่แล้วนะครับ”

 

สวบ!!!

 

“อื้อออ เบานะครับ ฟ่างไม่เคย” เสียงเล็กเอ่ยขอผมไว้ เมื่อผมดันนิ้วเข้าไปครบทั้งสามนิ้ว ก่อนจะดึงดึนเข้าออก ข้าวฟ่างครางออกมาไม่เป็นภาษา เมื่อปลายนิวผมกดไปโดนจุดกระสันเข้า

 

“อ๊ะ พี่ยุ ตรงนั้น อื้ออ มัน  อ๊า.....”ฟ่างทำท่าจะไปอีกรอบ ผมเลยดึงมือออก ช่องทางรักมันพร้อมสำหรับผมแล้ว ผมถอดกางเกงและเสื้อผ้าออกหมดทุกชิ้น แผงอกและกล้ามท้องที่ผมเฝ้าฟูมฟักมันมานานจนเป็นลอนสวย ข้าวฟ่างมองแก่นกายและหน้าท้องสวยๆของผมแล้วก็หน้า แดง น่ารักจริงๆ ผมใช้มือขยับรูดแก่นกายยักษ์สองสามที ผมไม่เคยพาใครมานอนที่ห้อง และไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ของหรือตัวช่วยจึงไม่มี  ผมเดินไปหยิบวาสลีนที่ใช้ทาข้อศอกก่อนจะควักแล้วป้ายไปยังช่องทางสีสวยนั่นอย่างเบามือ ผมแทรกตัวเข้าไปก่อนจะจับขาเรียวของฟ่างให้อ้าออกกว้าง ยกสะโพกขึ้นเกยต้นขาผมไว้

 

ปลายหัวป้านค่อยๆกดลงไปในช่องทางนั้นอย่างช้าๆเพื่อให้ร่างเล็กของผมได้ปรับตัว มันเข้าไปได้แค่ครึ่ง ฟ่างก็ร้องอดโอยซะแล้ว น้ำตาเม็ดใส ค่อยๆปริ่มออกมาจากหางตาคู่สวยริมฝีปากเม้มแน่นเพราะความเจ็บ

 

“อื้อ เจ็บ พี่ยุ มันเจ็บ” ข้าวฟ่างพยายามจะดันตัวหนาๆของผมออก ผมไม่รอช้าก้มชิมยอดอกเล็กอีกครั้งเพื่อเบี่ยงเบน ได้ผลฟ่างเริ่มจะเคลิ้มอีกครั้ง ผมใช้โอกาสนี้ ยัดสวนแก่นกายเข้าไปทีเดียวมิดลำ

 

สวบ!!!!!!!!!!!

 

“โอ๊ยยยยยยยยยยยยย อื้อออ  ..จะ เจ็บ...ฮึก พี่ยุไม่เอาแล้ว ฟ่างเจ็บ ฟ่างกลัว”ข้าวฟ่างทุบอกอย่างแรง ผมรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆกำลังไหลออกมาจากช่องทางด้านหลัง  ผมจึงยังไม่ขยับ รอให้ฟ่างปรับตัวรับของใหญ่ๆของผมอีกสักพัก

 

“ฟ่างครับ...ชู่วว ฟ่างใจเย็นนะ  ผ่อนคลายก่อนสิครับ หายใจเข้าลึกๆ”ข้าวฟ่างทำตามอย่างว่าง่าย ร่างเล็กสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ จากตอนนแรกที่ช่องทางมันบีบรัดจนผมไม่สามารถขยับได้เลยตอนนี้มันเริ่มจะคลายตัว

 

 

“พร้อมนะครับ พี่จะขยับแล้วนะ”

 

ฟึบ ฟึบ ฟึบ

 

“อื้อ อื้อ อ๊ะ อ่า อิ้มมมมม” ข้าวฟ่างร้องลั่นทันที่ที่ผมขยับเอว หีหี ผมจงใจกระแทกให้โดนจุดเสียวของฟ่าง

 

“อ่า รัดพี่แน่นมากเลยฟ่าง ซี๊ดด เสียวสุดๆเลย”

 

“อ๊า..พี่ยุ เบา คะ ครับ..อื้ออ มัน อื้ออ เสียวเกินไป ใจจะขาดแล้วครับ”

 

“ฮืมม” ผมกดเอวสอบลงไปไม่ยั้ง หัวหูผมอื้อไปหมด ร่างกายข้าวฟ่าง ผิวขาวนวลเนียนน่าสัมผัส กลิ่นหอมเฉพาะตัวของฟ่างมันทำให้ผมอยากจะสูดดมไม่หยุด ไหนจะปากอิ่มนุ่มนิ่มนั้นอีก ผมคิดไว้แล้วว่าแค่รอบเดียวยังไงก็ไม่พอ

 

(จบprat’พายุ)

 

 

 

“อื้ออ พี่ยุ  อื้อออึก....”ผมร้องเรียกหาแต่ชื่อคนที่กำลังพาผมเข้าสู่สรวงสวรรค์ ครั้งแรก กับคนที่รัก มันคุ้มค่าแล้วครับ พี่ยุอ่อนโยนกับผม เสียงแหบต่ำกระซิบว่ารักผมไม่หยุดปาก ผมแอ่นตัวเข้ารับสัมผัส ตอกย้ำว่าผมเป็นของเขาทั้งตัวและหัวใจ

 

“ซี๊ดด ฟ่าง อื้อมมม แน่นจนพี่ แทบจะทนไม่ไหวแล้ว” พี่ยุเร่งจังหวะ

 

“อ๊า อ๊า อ๊า พี่ อื้ออ เร็วไป อื้อ อ๊ะ อ๊ะ

 

ปัก ปัก ปัก

 

ตับๆ ๆ ๆ

 

“อ๊ะๆๆๆ อื้อ ๆๆ”

 

“ฟ่าง อื้อ ฟ่าง  รัก รัก..”

 

“อ๊า...อื้อออ เบาครับ อื้ออ เบาๆ อ๊า มันลึกเกินไปแล้วนะครับ” ผมกรีดร้องออกมาด้วยความเสียวซ่าน

 

“ขอโทษ อื้ออ พี่ควบคุมตัวเองไม่ได้”

 

“ไม่ต้องขอโทษ อื้ออ มะ..ไม่เป็นไร ..ฟ่ง อยาก อื้อ ทำแบบนี้กับ พี่ยุ  แต่ มัน อ้า...เสียวมากเลยครับ”

ผมโน้มคอร่างสูงมาประกบจูบ ผมรู้สึกอายนิดๆที่เป็นฝ่ายจูบพี่ยุก่อน เราแลกลิ้นกานอย่างดุเดือดโดยที่พี่ยุยังขยับเอวไม่หยุด  ร่างกายของผมสอดประสานกับพี่ยุ ครั้งแรกของผม ผมมีความสุขที่สุด....

 

ตับๆๆๆๆๆ

 

ปักๆๆๆ

 

“อะ อื้ออออ”

ร่างกายผมปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง พี่ยุเองก็เหมือนจะตามผมมาติดๆ ช่องทางรักผมบีบรัดแก่นกายถี่รัว พี่ยุถอดแก่นกายออก

จนเกือบสุด ก่อนจะกระแทกเข้ามาจนมิด ทำแบบนี้อยู่สามสีครั้ง ก่อนที่ผมจะรู้สึกอุ่นวาบในช่องท้อง

 

“อ่า......”

 

 

เวลาผ่านไปเนิ่นนาน พายุไม่ปล่อยให้ร่างบางได้พัก เพราะไม่ว่าเขาจะตักตวงมันมากเท่าไหร่ เขาก็ไมรู้จักอิ่ม  ร่างสูงพลิกตัวให้

คนตัวเล็กนอนคว่ำ  ร่างบางชันแขนลงกับที่นอน รอรับแรงกระแทกจากด้านหลัง

ปึก ปึก ปึก  เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั้งห้อง ข้าวฟ่างกดหน้าลงกับหมอนทำให้สะโพกยิ่งลอยเด่น  คนตัวเล็กโยกคอนตาม

แรงของคนตัวสูง หยาดเงื้อไหลท่วมกายของคนทั้งคู่  ฟ่างกัดหมอนระบายความซ่าน  ร้องซี๊ดเสียงดังไม่แพ้คนร่างสูง

 

ตับ ตับ ตับ

 

“อ๊ะ อ๊ะ ไม่ไหวแล้ว อื้อ ฟ่างจะไปอีกแล้ว อ๊า” ไม่ทันขาดคำน้ำรักสีขาวก็พุ่งเลอะเต็มที่นอน

 

ปัป ปัป  ปับ

 

“อื้ออออออออออออออออออออ” แล้วร่างสุงก็ตามเขามา

 

 

บทรักเร้าร้อนมันวนซ้ำๆจนไปถึงเที่ยงคืน  คนตัวเล็กที่อดทนรองรับอารมณ์จนถึงยกสุดท้าย ก่อนที่สติมันจะค่อยๆหายไป และ

ภาพสุดท้ายที่รับรู้คือพายุล้มตัวนอนข้างๆเขาด้วยใบหน้าชุ่มเหงื่อ รอยยิ้มบางปรากฏให้เห็น พร้อมกับคำบอกรัก ร่างเล็กอ่อนเพ

ลียนจนสลบไปพร้อมกับรอยยิ้มนั่น....

 

“ขอบคุณนะครับเด็กดื้อของพายุ”

 

จุ๊บ

เขาจูบซับร่างเล็กพร้อมกับช้อนตัวคนไม่ได้สติให้ไปนอนที่โซฟา เพื่อที่ตนเองจะได้เปลี่ยนผ้าปูที่นอน  แล้วพาข้าวฟ่างไปอาบน้ำ

ทำความสะอาด ก่อนจะใส่เสื้อและพามานอน....ร่างสูงใช้ท่อนแขนตัวเองแทนหมอนหนุนให้ร่างเล็ก เขากระชับกอดแน่น  และหลับลงไปด้วยความเหนื่อยล้า.....

 

 

……..

 

เช้าในวันต่อมา....

 

“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณเมีย”

 

ภาพขอลชายหนุ่มที่ใบหน้าหล่อคม ปรากฏในม่านตา ปากบางคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ

“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณสามี”..

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 



 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2015 00:15:03 โดย minamiaigi »

ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่20 อัพ 2/09/15
«ตอบ #84 เมื่อ02-09-2015 23:58:14 »

ตอนที่ 20

 

      ฟ้าครามเหลือเวลาไม่มากแล้วในตอนนี้เขาจะใช้เวลาคุ้มค่าที่สุด ตลอดหนึ่งเดือน เขาพยายามจะใช้เวลาร่วมกันกับมังกรให้มากที่สุด  ไม่ว่าจะเป็นกินข้าวดูหนัง เดินเที่ยวตลาดนัด ทำงานบ้าน  ไปทำงานที่ผับ หรือ จะไปรับไปส่งมังกรที่โรงพยาบาล ร่างสูงเหลือบมองชุดแต่งงานแล้วก็ถอนหายใจ มือหนาลูบคลำแหวนที่ข้อนิ้วอย่างเหม่อลอย  ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออกมาได้...เขากดโทรศัพท์หาลูกน้องคนสนิทที่ตอนนี้ทำงานอยู่ที่บริษัทใหญ่ในอเมริกา ซึ่งครอบครัวฟ้าครามเป็นเจ้าของ  บริษัทผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีวางจำหน่ายอยู่ทั่วโลก

 

 

“พุฒ กูมีงานให้มึงทำ”

...

..

...

...

...

 

 

 

                   วันนี้เป็นอีกวันที่มังกรเลือกที่จะอยู่กับฟ้าคราม พวกเขามาที่ผับตั้งแต่บ่ายฟ้าครามเคลียงานที่คั่งค้างอยู่ในห้องทำงาน มังกรนอนเล่นเกมส์โทรศัพท์อยู่บนโซฟา.....ร่างโปร่งแอบเหลือบมองฟ้าครามเป็นระยะ พร้อมกับมองนาฬิกาไปด้วย สองทุ่มแล้ว มังกรรู้สึกหิวขึ้นมานิดๆแต่ไม่กล้าไปรบกวนเวลางานของฟ้าคราม

 

 

โครกกก ครากกก

 

 

เสียงท้องร้องของมังกรดังชัดจนฟ้าครามต้องเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารในมือ เขายกยิ้มขำกับคนรัก

 

 

“หิว?”

 

“ก็นิดหน่อย”

ฟ้าครามยกยิ้มกับคนปากแข็ง เขาเดินอ้อมจากโต๊ะทำงานเดินไปหามังกรพร้อมกับจับมือแล้วดึงให้ลุกขึ้นยืน มังกรดูงงๆกับท่าทีของฟ้าคราม

 

 

“หิวไม่ใช่ไง” ฟ้าครามไม่รอฟังคำตอบจูงมือเล็กลงไปยังส่วนของเลาจ์ทันที เขาให้มังกรนั่งรออยู่ที่บาร์ ส่วนตัวเขากลับเดินเข้าไปในครัวหลังร้านแทน ไม่นานฟ้าครามก็ออกมาพร้อมกับสปาเกตตี้คาโบนาร่าใส่กุ้งเยอะๆ

 

มังกรอมยิ้มนิดไปแต่ก็แสร้งทำหน้านิ่งทั้งที่ท้องมันร้องดังกว่าเพลงที่เปิดซะอีก

 

“อยากกิน?”

 

“..โครกกกกกกกกกก”

 

“กร”ฟ้าครามถามเสียงดุ

 

“ถ้ามึงไม่กินกุจะเอาให้ไอ้ไม้นะ” พอดีกับไม้เดินมาเอาเครื่องดื่มพอดีเลยได้ยินเข้า

 

“อะไรเฮียไหนจะเอาอะไรให้ผม” ฟ้าครามทำท่าจะยื่นจานอาหารให้ไม้ มังกรจึงรีบยื่นมือไปแย่งคืนมาทันที ร่างสูงยกยิ้มกับอาการคอแข็งของคนรัก หยิ่งไม่เข้าเรื่อง

 

“เอ้าคุณกร ไหงมาแย่งไม้งี้อะ” ไม้โวยวาย

 

“แย่งไรนี่ผัวกุเป็นคนทำให้ อย่ามามั่ว” ปากก็ยังเคี้ยวไม่หยุดสายตาก็เอาแต่จับจ้องใบหน้าหล่อคมพร้อมกับแยกเขี้ยวนิดๆใส่ ฟ้าครามทำเป็นไม่สนใจและเดินกลับไปหลังร้านหยิบเอาวุ้นเป็ดที่แช่เย็นไว้ออกมา

 

“อะไรอะ..”เสียงหวานเหล่มองของในมือ

 

“รู้แล้วยังจะถาม”

 

“กินได้ปะ”มือเล็กยื่นไปหมายจะหยิบจานวุ่นเป็ดมากิน

 

“อ่ะๆๆ กินที่จานให้หมดก่อน”ฟ้าครามดึงจานไว้ ไม้ที่มองคนทั้งคู่อยู่ก็แอบยิ้ม เพราะลุ้นจนตัวโก่ง

 

“ไรของมึงวะ กูกินหมดแล้วเห็นไหม มึงอะเรื่องมากวะ” มังกรบ่นออกมาเพราะฟ้าครามชอบขัดตนเอง

 

“เหอะถ้าอย่างนั้นเรียกว่าหมดแถวบ้านกูเรียกว่าเหลือทิ้งไอ้กร รีบกินให้หมดเลยนะ ไม่งั้นวุ้นนี่กุจะแดกเองให้หมด” ในจานสปาเกตตี้ยังมีเส้นเหลือกับกุ้งติดจานอยู่ มังกรยู่หน้าทำปากขมุบขมิบด่าด่าคราม

 

“ไอ้หมอ!!!” ฟ้าครามทำเสียงดุใส่

 

“เออรู้แล้วละน่า หูดีเป็นไอ้ตูบเชียว”ปากบ่นไปกินไปด้วยจนคาโบนาร่าหมดจานไม่เหลือ ฟ้าครามถึงส่งจานวุ่นเป็ดไปให้

 

แต่....

 

 

“ไอ้ครามมม หัวเป็ดกูไปไหน” ในจานมีวุ้นเป็ดหัวขาดทั้งจาน

 

“กูแดกไปแล้วไง”ฟ้าครามตอบหน้าตายมือก็ชงเครื่องดื่มช่วยไม้ไปด้วย ปากเคี้ยวหัวเป็ดตัวล่าสุดที่กัดไป

 

“มึงT^T” มังกรมองวุ้นเป็ดของตัวเองแล้วมองหน้าฟ้าคราม  ไม้เองก็มองคนทั้งคู่อย่าง งงๆ จะอะไรนักหนากะอิแค่หัวเป็ด

 

“อะไร” ฟ้าครามถามเสียงเรียบแต่แววตากลับหัวเราะเยาะร่างโปร่งอยู่

 

“ไอ้ บ้า แดกหัวเป็ดน้อยกูทำไม  มึงรู้ไหมว่าในหัว อะ มันมีเนื้อสตอเบอรี่ของโปรดกูอยู่”

 

“รู้ แล้วไง กูกินไม่ได้  มึงหวงกุว่างั้น”ฟ้าครามเงยหน้าขึ้นสบตา เขาไม่ได้จริงจังอะไรกับ อิ แค่หัวเป็ด แต่แค่อยากแกล้งคนตรงหน้ามากกว่า แล้วเค้าก็ไม่ได้กินมันจนหมด เขาแอบตัดหัวเป็ดไปซ่อนเพื่อจะดูอาการของหมอมากว่า

 

“กะ..ก็เปล่า แค่ กู...อะ อืมช่างมันเหอะ มึงกินไปแล้วนิกูไม่อยากจะทะเลาะกับมึงเพราะเรื่องไร้สาระแบบนี้หรอก” มังกร เอ่ยเสียงอ่อย เขาไม่อยากจะทะเลาะกับคนรักในเวลาแบบนี้ ไม่อยากจะให้มันเสียเวลาที่ต้องมานั่งงอนกันและกัน มากกว่า  ฟ้าครามสังเกตได้ เขาเรียกคนรักให้เดินมาหาที่หลังเคาท์เต้อ

 

“มานี่” มังกรเดินอ้อมไปหาด้วยใบหน้ามุ่ยๆ ฟ้าครามดันตัวมังกรไปติดกับพนังด้านหลังแล้วดึงผ้าม่านฉากกั้นมาบังตัวเขาทั้งคู่ไว้

 

“งอลกู”ฟ้าครามเชยคางมนขึ้นมาจนเขากับมังกรจ้องตากัน

 

“ป่าว...”

 

จุ๊ฟ  ริมฝีปากหนากดจูบลงเบาๆแต่ย้ำอยู่หลายครั้ง จนมังกรเป็นฝ่ายเปิดปากสอดลิ้นเข้าไปในโพลงปากของฟ้าคราม รสจูบที่มีกลิ่นของวุ้นและรสหวานๆติดอยู่ทำให้ทั้งคู่ไม่ยอมผละออกจากัน เสียงครางอือ อ่า ดัง ลอด ออกมาไม่มาก ก่อนที่ร่างโปร่งจะหอบหายใจนิดๆเพราะไม่ได้สูดอากาศเป็นเวลานาน

 

“ชอบไหม?” ฟ้าครามถาม

 

“ชอบอะไร?”

 

“ชอบกู”

 

“กูรักไม่ได้ชอบ”

 

“อืมก็ก็รักมึงกร และใครหน้าไหนก็จะพรากมึงไปจากกูไม่ได้ทั้งนั้น กูสัญญา” ร่างโปร่งเอะใจในบางน้ำเสียงของร่างสูง ทั้งคู่ได้แต่มองหน้ากันนิ่งๆ จนมีเสียงหนึ่งปลุกให้เขาเข้าสู่โลกปัจจุบัน

 

 

“เฮีย..ลูกค้าเยอะ ผมทำไม่ทัน รีบๆเอากันให้เสร็จแล้วมาช่วยกันทำมาหากินด้วยครับ” น้ำเสียงยียวนกวนอวัยวะของไอ้ไม้ดังขึ้น ทำเอาคุณหมอเกิดอาการหน้าแดงคล้ายคนป่วยขึ้นมาซะดื้อๆ ฟ้าครามเห็นแล้วรู้สึกว่ามังกรน่ารักน่าฟัดมาด แต่ก็ต้องอดใจไว้ เพราะพึ่งทำไปเมื่อคืน ก่อน ขืนทำอีก ได้โดนหาว่าเป็นคนหื่นอีก ฟ้าครามตวัดม่านออกมาแล้วชี้นิ้วคาดโทษใส่ไม้ที่ยืนทำหน้าทะเล้นยักไหล่อย่างไม่กลัว ส่วนมังกรเดินไปนั่งกินวุ้นเป็ดเงียบๆไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตาใครเลยสักคน

 

เวลาล่วงเลยจนถึงตีสาม เวลาปิดร้าน ไม้ และพนักงานคนอื่นๆก็ทยอยกันเก็บของที่เหลือและเตรียมตัวกลับบ้านไปพักผ่อน ฟ้าครามเก็บของจากห้องทำงานลงมาพร้อมกับมังกร  ไม้มองพวกเขาด้วยสาตาล้อเลียน....

มังกรยกคอเสื้อขึ้นเพื่อปกปิดริ้วรอยแดงๆบนคอตัวเอง ที่มีเยอะซะจนไม่รู้จะปิดตรงไหนก่อนดี

 

“อ่าว ๆ มองอยู่นั่นแหละ มึงจะมองเมียกูด้วยสายตาแบบนั้นอีกนานไหมไอ้ไม้ “ฟ้าครามว่าไม่จริงจังนักมังกรจิ๊ปากทำตาค้อนใส่ร่างสูงนิดๆก่อนจะหันไปแยกเขี้ยวใส่ลูกน้องคนสนิท

 

“โห่เฮีย เมียมันหากันได้ง่ายๆก็ดีนะสิ ผมไม่ได้หน้าตาหล่อเหลาราวเทพบุตรเหมือนเฮียนิ ผมมันคนไม่หล่อไม่รวย กระปู๋ไม่หยายเหมือนเฮียใครมันจะมาสนใจ”ไม้ว่าออกมาอย่างขำๆ เพราะตัวเองก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับความรัก แค่ทำมาหากินก็ไม่มีเลาจะพักแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปหาเมีย อยู่คนเดียวสบายใจกว่าเยอะ ไม่เปลืองตังด้วย ฟ้าหัวเราเบาๆกับคำตอบของอีกฝ่าย ก่อนจะกำชับให้ปิดร้านดีๆ ส่วนตัวเขาก็เดินโอบไหล่บางเดินออกจากร้านไป

 

ในรถ มังกรนั่งเงียบๆจนมาถึงคอนโด ใบหน้าสวยขมวดคิ้วเข้าหากันเพราะเห็นรถอันแสนคุ้นตาจอดอยู่

 

 

“รถไอ้ฟ่าง มันมาทำไรดึกดื่นป่านนี้วะ”มังกรหันมาหาฟ้าครามที่ทำหน้าสงสัยไม่แพ้กัน เขารีบเดินไปดูที่รถ เพราะเครื่องยนต์ยังคงติดอยู่  ภายในรถ พวกเขาเห็นข้าวฟ่างฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยรถ แล้วร้องให้ ฟ้าครามรีบเคาะกระจกรถทัน ข้าวฟ่างเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะร้องให้หนักกว่าเดิมดวงหน้าหวานเต็มไปด้วยคราบน้ำตาฟ้าครามส่งสัญญาณบอกให้คนในรถเปิดประตู ฟ่างปลดล็อคมังกรรีบเปิดประตูทันที ข้าวโถมตัวเข้ากอดร่างโปร่งเอาไว้แน่นพร้อมกับร้องให้โฮ ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบเอาแต่บอกว่า พายุใจร้ายๆ ทั้งคู่เลยพาฟ่างขึ้นไปปลอบข้างบน จนฟ่างหลับคาอกมังกรที่หลับไปพร้อมกันกับฟ้าครามเช่นเดียวกัน ....

 

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

(พายุ)

 

ผมขอย้อนอดีตก่อนนะครับหลังจากที่ผมได้ข้าวฟ่างแล้ว พวกเราก็ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ทั้งที่คลินิก

ฟ่างช่วยทำบัญชีบ้าง ดูแลลูกค้าบ้าง บางทีก็เล่นกับน้องหมาน้องแมวบ้าง ตามประสา ยอมรับเลยครับว่าผมรู้สึกมีความสุขกว่าแต่ก่อนมาก ที่ต้องไปไหนมาไหนคนเดียว กินข้าวคนเดียว ใช้ชีวิตหนุ่มโสดมานานหลายปี แต่พอฟ่างก้าวเข้ามาในชีวิต ผมรู้สึกว่าผมมีอะไรให้ทำเยอะ มีอะไรให้คิดและทำมากกว่าแต่ก่อน โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผมไม่เคยขาดเรื่องอย่างว่าเลย  ผมบังคับบ้างขู่บ้าง หรือเจ้าตัวสมยอมเองบ้าง ผมหื่นขึ้นทุกวันๆ จนฟ่างมันเริ่มจะงอแง หาว่าผมโรคจิต ติดกาม  บ้าเซ็ก สารพัดที่มันจะขุดขึ้นมาด่า ผมไม่ฟังหรอกครับผมจะเอาเพราะมันดันยั่วผมเอง

ยั่วโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว ยั่วโดยธรรมชาติของมัน...

จนผ่านมาถึงวันนี้...

 

 

“สวัสดีครับคุณเมีย”ผมเอ่ยทักร่างเล็กในอ้อมกอดยามเช้า เหมือนอย่างเช่นทุกวัน และวันนี้ก็อยู่ที่บ้านแสนรักของมัน

 

“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณสามี”..

ใบหน้าหวานยิ้มสวยให้ผมได้ชื่นใจ แต่แค่เสี้ยวนาทีเท่านั้นนะครับ ยังไม่ทันไปหุบเหงือกฝ่ามือเล็กก็ฟาดเข้าที่หน้าผมเต็มแรง ผมนี่หน้าหันเลือดซิบมุมปากเลย

 

“ไอ้พี่ยุกูบอกมึงว่ายังไง บอกว่าให้ทำเบาๆ แล้วนี้อะไร”ฟ่างมันยื่นข้อมือที่มีรอยแดงช้ำจากการถูกใส่กุญแจมือผมยิ้มแห้ง แล้วมันก็ถลกผ้าห่มออก รอยแดงเป็นจ้ำๆทั่วตัว มันชี้ไปที่รอยนั้น

 

“แล้ว จะกัดทำพ่อมึงหรอ ห๊ะ  ซาดิสรึไง รู้บ้างไหมว่ามันเจ็บ” ใบหน้าสวยของข้าวฟ่างแดงก่ำปากเล็กเม้มแน่น นั่นไงครับผมบอกแล้วว่ามันชอบยั่ว จนผมอยากจะกดมันจนจมมิดเตียงอีกรอบ

 

“ขอโทษ ก็เมื่อคืนไม่เห็นบอกว่าเจ็บเลยนี่ เอาแต่ร้องคราง พี่ก็อดใจไม่ไหวสิ” สิ้นคำข้าวฟ่างก็กรี๊ดลั่นทึ้งหัวผมทันที แต่หารู้ไม่ยิ่งมันขยับตัวมันยิ่งบดเบียดตัวผม จนพายุน้อยมันตั้งโด่ จนผมอดไม่ไหว ปล้ำมันอีกรอบ จนหนำใจไปหลายรอบ ฟ่างสลบไปตอนยกสุดท้าย ผมเลยทำความสะอาดให้ก่อนจะให้นอนพัก ส่วนผมก็ลงไปหาซื้อยาและของทำอาหารเย็น มันยังหลับอยู่ ผมเลยปลุกขึ้นมา เพราะมัน ทุ่มกว่าแล้ว หลับแบบนี้มันไม่ดี

 

“อืออ ฮึก .....เจ็บ ฟ่างเจ็บ” ข้าวฟ่างลุกขึ้นมานั่งน้ำตาซึมมองผมด้วยแววตาตัดพ้อปนความโกรธมันจ้องหน้าผมเขม็ง แววตามันไม่เป็นมิตรเลยสักนิด

 

“ฟ่าง”

 

“อะไร” มันกดเสียงลงต่ำจนหน้ากลัวผมเองก็รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่มันไม่ปลอดภัยสำหรับตัวผมเลย

 

“หิวไหม อยากอาบน้ำไหม”ผมถาม

 

“หิว”

 

“ปะงั้นไปกินข้าวกันพี่ทำเสร็จพอดี”

 

“กูจะอาบน้ำก่อน” นั่นไงคำหยาบมาเต็มขึ้นกูขึ้นมึงแล้ว

 

“ฟ่าง พูดให้มันเพราะๆสิ”ผมขึ้นเสียงนิด แต่ก็โดนสายตาพิฆาตกลับมา

 

“อย่าพูดมาก พากูไปอาบน้ำ” มันสั่งเสียงเข้ม  เหอะดูเมียผมสิดุเป็นเสือเชียว ผัวอย่างผมกลัวตายเลยทีนี้

 

“เร็วๆสิ”มันยังขู่ ฟ่อๆเป็นแมวผมเลยรีบพยุงมันไปอาบน้ำและแต่งตัวให้ตามคำสั่งมันอีกนะแหละ

 

“หิวข้าว”มันพยุงตัวเองไปที่โต๊ะและนั่งลงตรงที่ประจำของมัน..ข้าวฟ่างกินข้าวโดยไม่พูดกับผมสักคำ ผมเองก็ไม่กล้า

 

สงครามเย็นเกิดขึ้นมาอย่างเงียบๆ หลังจากที่มันกินข้าวมันก็ไม่สนใจผมเลยสักนิด  .....มันเข้านอนหลังจากดูซีรี่ย์จบนอนหันหลังให้ผมอีกต่างหาก.....ผมก็ไม่รู้จะทำ

ไงเลยล้มตัวนอนข้างๆมันแล้วก็หลับไป สะดุ้งตื่นอีกทีตอนตีสามเพราะปวดฉี่ หันมาก็ไม่เจอเมียรักแล้ว ผมรีบวิ่งลงไปข้างล่าง รถมันหายไป

 

“ฉิปหาย เมียกูหนีออกจากบ้าน”

ผมนี่นอนไม่ได้เลยขับรถออกตามหามันทุกที่จนมาถึงที่คอนโดฟ้าคราม เห็นรถมันจอดอยู่แค่นี้ผมก็โล่งใจ นอนรอมันในรถนี่แหละตอนเช้าค่อยขึ้นไปง้อ

2cb

 

 

 +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่21 อัพ 2/09/15
«ตอบ #85 เมื่อ02-09-2015 23:59:38 »

ใจร้าวตอนที่ 21 แผนการอันแยบยลของฟ้าคราม

+++++++

+++

++

+

 

 

               ในรถยนต์หรูตกแต่งแบบ สปอร์ตแมน   ที่ติดเครื่องยนต์อยู่ หลายชั่วโมง ค่อยๆลืมตาตื่นหลังจากนอนเอาแรงไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ร่างสูงหยีตาสู้แดด  หันรีหันขวามองหารถของร่างเล็กพลางลอบถอนหายใจ เพราะมันยังจอกนิ่งสนิทอยู่ที่เดิม    พายุเดินลงจากรถ เดินไปซื้อกาแฟถุง กับ กับข้าวอีกนิดหน่อย หน้าคอนโด เดาว่าทั้งสามคงยังไม่ตื่น  เขาตรงไปยังลิฟและกดชั้นที่อยู่ของฟ้าคราม

 

 

             ก็อกๆๆ   เขาเคาะและกดกริ่งอยู่นานกว่าจะมีคนมาเปิด   

 

“ใครวะมาแต่เช้า” ร่างสูงของฟ้าครามเดินเปลือยท่อนบนในสภาพหัวยุ่งๆ ดาแทบจะปิด มาเปิดประตูปากก็บ่นยาวเมื่อเห็นร่างสุงของพายุ

 

  “พี่ไปทำอะไรมันวะ แมร่งง มานอนร้องให้หลับคาอกเมียผมทั้งคืน”

 

“ก็นิดหน่อย  มันอยู่ไหนละ”

 

“นอนตายอยู่กับมังกรนู่น” ฟ้าครามบอกพร้อมกับรับถุงกับข้าวในมือพายุเดินเข้าครัวไป ส่วนคนที่มาง้อเมียก็ถือ

วิสาสะเดินเข้าห้องนอนของอีกฝ่ายเพราะเมียตัวเองนอนอยู่ มังกรนอนกอดข้าวฟ่างแน่น มิน่าฟ้าครามถึงหงุดหงิด

เพราะทั้งคู่นอนกอดกันกลมมือหนึ่งของมังกรเหมือนจะลูบหัวฟ่างเอาไว้  พายุเดินไปสะกิดมังกรเบาๆ เมื่อมังกร

ลืมตาก็เอานิ้วแตะปากไม้ให้พูด มังกรพยักหน้าค่อยคลายกอดร่างเล็ก ออกแล้วลงจากเตียง

 

“พี่ขอนอนบนที่นอนสักพักนะกร พี่รออยู่ข้างร่างทั้งคืนเลย” พายุพูดเสียงแผ่วเบา มังกรพยักหน้า ก่อนจะเดินหาววอดๆออกไปหาฟ้าคราม

 

               ร่างสูงของพายุล้มตัวนอนข้างกายคนตัวเล็ก  ฟ่างพลิกตัวเข้าซุกอกโดยอัตโนมัติ ยามได้กลิ่นอกอุ่นที่คุ้นเคย ปากเล็กครางงึมงำๆก่อนจะเอาแขนสอดเอวสอบของพายุไว้แล้วกอดแน่น

 

“พียุชอบแกล้งฟ่าง ...หื่นใส่ฟ่าง...”ร่างเล็กระเมอออกมา พร้อมกับทำหน้ายุ่ง พายุเท้าแขนมองคนในอ้อมกอดด้วย

ความเอ็นดู  ยอมรับในสิ่งที่ข้าวฟ่างพูด  แต่ใครไม่เป็นเขาไม่รู้หรอกว่า การได้อยู่ใกล้คนอย่างข้าวฟ่างต้องอดทน

มากแค่ไหน เพราะฟ่างทำตัวน่ารักรักฟัดอยู่ตลอดเวลา ยิ่งได้อยู่ใกล้ยิ่งอยากจะสัมผัส ยิ่งได้กลิ่น ยิ่งอยากจะกดให้

จมเตียง อยากจะตอกย้ำความเป็นเจ้าของ ให้คนไม่กล้ามองหรอเข้ามาคุย  หนึ่งเดือนเต็มๆที่ใช้ชีวิตร่วมกัน...เขาได้

เรียนรู้อะไรมากมายจากเด็กดื้อที่ชื่อว่าข้าวฟ่าง... 

       

 

                   ฟ่างเป็นลูกคนเดียวเหมือนกับเขา จึงถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ฟ่างไม่ใช่เด็กดื้อหรือก้าวร้าวโดยกำเนิดแต่จะร้ายกับคนที่ร้ายก่อน ฟ่างเรียนจบทางด้านอักษรสาสน์  และเป็นนักเขียนอิสระให้กับหนังชื่อหลายๆเล่ม และมีชื่อเสียงพอสมควร งานอดิเลกคือถ่ายรูปและท่องเที่ยวหาแรงบันดาลใจในการเขียนนิยาย และกลับมาไทยเพราะอยากอยู่เงียบๆเขียนนิยายเองใหม่  เวลาฟ่างทำงานจะแตกเป็นคนละกับรูปลักษณ์ที่เห็น ฟ่างจะจริงจังมาก ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาทันที  และจะไม่ใครรบกวน  เขาเองก็เยโดนเหวียงหลายครั้ง เพราะความหื่นของตนเอง ...

 

 

         “อึก...อื้อออ”  ร่างบางบิดตัวน้อยๆทำให้พายุหลุดจากภวังค์เขาขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้คนตัวเล็กได้นอนสบายขึ้น

        “น่ารักแบบนี้ พี่จะไปไหนรอด” เขาบีบจมูกเล็กๆนั้นเบาๆ

         

        “หื่อออ อย่ากวนสิจะนอน” ร่างเล็กเอ็ดเขาเบาๆ ก่อนที่ร่างสูงจะค่อยเอนหัวลงบนหมอนใบเดียวกับร่างเล็กและหลับลงในที่สุด

 

 

 

+++++++++++++++++++

 

 

            ในห้องรับแขกโซฟาหรูถูกแปลสภาพให้เป็นที่นอน  ฟ้าครามเดินเข้าไปเอาหมอนกับผ้าห่มออกมา เห็นคนสองคนนอนกอดกันบนที่นอนก็ยกยิ้ม ....ก่อนจะเดินออกมา มังกรที่นอนอยู่บนโซฟาที่นอน หันมามองเขาด้วยสายตาปรือๆ เพราะตอนนี้พึ่งจะเจ็ดโมงเช้า  ฟ้าครามหัวเราะหึๆก่อนจะวางหมอนและผ้าห่มให้คนรัก ส่วนตัวเองก็ล้มตัวนอนอยุ่ข้างๆเช่นเดียวกัน

              กว่าที่สี่จะตื่นก็เกือบเที่ยงวัน ฟ้าครามตื่นก่อน เขาอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย หยิบอาหารที่พายุซื้อมาไปอุ่นและเตรียมตั้งโต๊ะ เขาเดินไปปลุกมังกร ที่กำลังนอนกรน แถมน้ำลายยืดอีก

 

      “กร กร ลุกไปอาบน้ำอาบท่าไป “ มือหนาเขย่าตัวคนขี้เซาเบาๆ 

     

      “อืออ ไม่อาวววว”

   

     “มังกร ตื่น  มันจะเที่ยงแล้ว ตื่นเถอะ”

   

    “ง่วงงะ”

   

           “อย่าดื้อสิ ลุกเร็วเข้า ไปปลุกสองคนนั้นด้วย”  มังกรค่อยๆยันตัวลุกนั่งสะบัดหัวไปมาพร้อมกับอ้าปากหาว ดวงตาคมเหล่มองฟ้าครามนิดๆ  ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินไปปลุกพายุกับข้าวฟ่าง  ก่อนจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พออกมาก็เจอข้าวฟ่างนั่งทำหน้าเป็นตูดโดยมีพายุนอนหนุนตัก ทำตัวมุ้งมิ้งใส่ มังกรเหวอไปนิด แต่ไม่กล้าแซวอะไรเพราะเจอสายตาเชือดเฉือนของเพื่อนรักดักเอาไว้ สงสัยจะโกรธที่ปล่อยให้พายุนอนกับตนเอง...

 

“เอ่อฟ่างมึงก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย เสื้อกูอยู่ในตู้ส่วยพี่ยุ รอแปปนะครับเดี๋ยวผมให้ครามมันเอาเสื้อผ้ามาให้”

 

“ไม่ต้องกรในรถพี่มีเสื้อผ้าติดมา เดี๋ยวลงไปเอา” ร่างโปร่งพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเดินออกไปหาคนรักในครัว

 

 

++

++

“ไปอาบน้ำปะเดี๋ยวพี่ลงไปเอาเสื้อผ้าที่รถก่อน” พายุลุกขึ้นพร้อมจะเดินออกไปแต่มือบางคว้าชายเสื้อไว้ก่อน

 

“รีบขึ้นมานะ อาบน้ำด้วยกัน >///< ”ร่างสูงหัวเราะออกมาเบาๆแล้วพยักหน้า เดินออกไป ฟ่างนอนกลิ้งไป

กลิ้งมาบนเตียงแล้วนึกถึงตอนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาเจอพายุนอนกอดตัวเองอยู่ ใบหน้าหวานเห่อร้อนขึ้นมาทันที เพราะ

โดนหมอหมาจูบรับขวัญตอนสายๆ ...แถมยังสัญญาว่าจะลดความหื่นลง  ไม่หื่นพร่ำเพื่ออีก   หลังจากนั้นไม่นาน

พายุก็กลับมาและพวกเขาก็อาบด้วยกัน ...และกินข้าวพร้อมกันสี่คน ฟ่างชวนมังกรไปซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อด้าน

ล่าง ฟ้าครามเลยคุยอะไรบางอย่างกับพายุ

 

“ผมจัดการไว้หมดแล้วเหลือแต่วันงาน พี่ต้องช่วยผม” ฟ้าครามเล่าแผนการทั้งหมดให้พายุฟัง พายุพยักหน้าเข้าใจและยอมร่วมมือ ...

 

 

 

 

อีกสามวันก่อนวันแต่งงาน

   

      “ครามพ่อแม่กูเขาให้ไปหาวะ เห็นว่าเป็นเรื่องแต่งงาน” มังกรที่กำลงนอนนวดตัวตามครอสเจ้าสาวเอ่ยบอกหลังจากไดรับโทรศัพท์จากทางบ้าน

 

    “อืมก็ไปสิ” เสียงเข้มที่นั่งรออยู่ตรงโซฟาปิดหนังสือที่อ่านอยู่แล้วมองไปที่มังกร มุมปากยกยิ้มนิดๆ

 

   “แล้วมึงจะไปด้วยมะ”

 

   “ไม่ไป  แค่ไปส่งมึงก็พอ”

 

  “อืม”

 

 

++++

 

หลังจากนวดตัวนวดหน้า อาบน้ำแร่แช่น้ำนม ขัดผิว อะไรต่ออีกมิอะไรเรียบร้อย ฟ้าครามก็มาสงมังกรที่บ้าน

 

“เย็นๆจะมารับ อยู่ที่บ้านก็อย่าดื้อแพ่งละ”

 

“อืมมม เห้อออ กูยังไม่ให้ถึงวันนั้นเลยวะ” มังกรถอนหายใจแรงใบหน้าเศร้าหมองลงไปเยอะ

 

“เอาน่าอย่าคิดมากเพราะยังไงมึงก็เป็นเมียกู”

 

“ไอ้ฟ่างเองก็คงรู้สึกแบบกู  ครามมึงว่ากูถอนหมั้นไม่แต่งงานยังทันป่าววะ” ร่างโปร่งย่นคิ้วอย่างคนใช้ความคิด

 

โป๊กก!!!

 

“มึงมาเขกหัวกูทำไมเนี้ย” มังกรหันไปแว๊ดใส่ร่างสูงที่เขกหัวเขาไม่แรงแต่ก็เจ็บ

 

“ฟุ้งซ่าน  ทีตอนแรกบอกให้ถอนหมั้นเสือกเล่นตัว ทีนี้ละเป็นไง หมาหงอยเลยสิมึง สม” ฟ้าครามว่าพร้อมกับยีหัวร่างโปร่งไปด้วย

 

“ใช่สิ...ได้กูแล้วนิ  จะทิ้งกูว่างั้น ได้โอกาสพอดีเลย โถ่” มังกรว่าออกมาด้วยความน้อยใจนิดๆ

 

“อย่าเยอะไอ้หมอ   กูแค่อยากให้มึงรู้ไว้ว่าค่าตัวมึงนะแพงเหี้ยๆ....เรื่องอะไรกูปล่อยมึงไปง่ายๆ” พูดเสร็จก็ไล่คนที่กำลังทวนคำพูดของอีกอย่างงง ลงจากรถ แล้วก็ขับรถออกไปเลย

 

“ไอ้เหี้ยนี่ นึกจะทิ้งก็ทิ้งกูเลยนะมึง  แมร่ง ทิ้งกูจัง” ร่างโปร่งยืนบ่นอยู่หน้าประตูรั้วด้วยความหงุดหงิด

 

ปิ้นๆๆ  เสียงแตรรถทำให่มังกรต้องกระโดดหลบรถที่แล่นเข้ามา

 

“ใครวะ แมร่ง มึงเป็นเจ้าของบ้านไง ถึงได้ขับรถจะพุ่งชนรั้วนะห๊ะ” อหงุดหงิดปากก็ไวผิดปรกติ

 

“พี่ไม่ใช่เจ้าของบ้านหรอกครับ” ร่างสูงโปร่งเดินลงมาจากรถ ใบหน้าอันแสนคุ้นเคยภายใต้กรอบแว่นดำ นั่งทำเอามังกรตาค้าง

 

 

“พี่วีย์!!!” มังกรเรียกเสียงหลงพร้อมเดินเข้าไปกอด วีย์ถูกพอเขาให้ไปดูแลงานที่สิงค์โปร นานเป็นเดือนไม่คิดว่าจะกลับมาวันนี้

 

“ว่าไงครับคุณชายน้อยของพี่วีย์ คิดถึงจัง” วีย์กอดมังกรแน่น

 

“โห่ กว่าจะมา รู้ไหมว่ากรนะ แทบตาย” ทั้งคู่พากันเดินเข้าบ้านพร้อมกับถามสาระทุกข์สุขดิบกัน มังกรเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาที่เขาไม่อยู่ให้ฟังจนหมด ใบหน้าหวานดูเศร้าลงจนวีย์จับสังเกตได้ เขาก็ได้แต่กอดปลอบเพราะทำอะไรตอนนี้ไม่ได้แล้ว เพราะทุกอย่างถูกเตรียมการไว้หมดแล้ว และหลังงานแต่ง ผู้ถือหุ้นทั้งหมดก็จะลงนามเซ็นสัญญากัน

 

“อย่าคิดมาก แต่งแล้วพองานเสร็จแล้วก้ค่อยหย่าก็ได้นี่” วีย์บอกให้อีกฝ่ายสบายใจ

 

“กว่าโรงพยาบาลจะสร้างเสร็จ พอดี อะ ไอ้ครามมีเมียใหม่พอดี” ร่างโปร่งทำหน้างอ

 

“คนรักกันก็ต้องเชื่อใจกันและรอกันได้สิ เราจะได้พิสูจน์ไงว่าครามมันจริงจังกับเราแค่ไหน ที่ผ่านก็น่าจะรู้ ร่างโปร่งพยักหน้ารับพร้อมกับนึกย้อนไป ฟ้าครามมันหยุดทุกอย่าง และทิ้งความเจ้าชู้ลงไปจริงจังกับเขาแค่คนเดียว

 

“ครับ”แม้จะใจชื้นขึ้นมาบ้างแต่ก็งอดห่วงไม่ได้อยู่ดี

 

“คุยอะไรกันจ๊ะหนุ่มๆ” เสียงหวานของรตาแม่ของมังกรเอ่ยทักคนทั้งคู่เมื่อตนเองลงมจากชั้นบนแล้วได้ยินเสียงลูกชายกับเลขาหนุ่มของสามีตัวเองคุยกัน

 

“อ่อ เรื่องทั่วไปนะครับ แล้วนี่คุณท่านยังไม่กลับมาอีกหรอครับคุณผู้หญิง” วีย์ที่หันไปตอบคำถามพลางมองหาเจ้านายของตนไม่เจอ

 

“ขานั้นนะเหรอ...คนไข้ไม่หมด ไม่มีทางกลับมาหรอกจ๊ะ เห็นว่า มีเคสผ่าตัดเรียงกันเป็นตับ กว่าจะเลิกงานก็นู้นแหละบ่ายโมง” มังกรได้ยินแล้วก็นึกห่วงขึ้นมาทันที  เป็นเพราะเขาหยุดงาน แท้ๆ พ่อถึงได้ต้องเหนื่อยกลับบ้านดึกทุกวัน

 

“แม่ครับ ให้กรไปช่วยพ่อก็ได้นะ แค่งานแต่งไม่เห็นต้องทำอะไรแบบนี้เลย ครอสเจ้าสงเจ้าสาวเนี้ยะ อีกอย่างพี่กรกับ

พี่ก็...”พูดไม่ทันจบประโยค รตาก้พูดแทรกขึ้นมาทันที

 

“อยู่ๆไปเดี๋ยวก็รักกันเองแหละลูก นะครับ  เชื่อแม่สิ” รตายิ้มหวานพลางดึงลูกชายเพียงคนเดียวเข้ามากอด

 

“แต่ ว่า...” มังกรทำท่าจะค้านแต่โดนสายตาปรามๆของวีย์ก็เงียบไป

 

“กินอะไรมารึยังนะเรา วีย์ด้วยพึ่งกลับมาจากสิงค์โปรไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ไปพักละจ๊ะ” รตาหันไปถามเลขาคนงาม

 

“คือผมรอ ว่านครับ” ร่างสูงเอ่ยเสียงอ้อมแอ้ม รตาหรี่ตามองแล้วยิ้ม

 

“ตาว่านไปจ่ายตลาดกับป้าสุดใจ คงหาซื้อของมาทำมื้อเย็นให้เรากับเจ้าหมอนะแหละ”

 

“ครับ” มังกรยิ้มล้อ ว่านอายุเท่าๆพี่วีย์ แต่ตัวโตกว่าสูงกว่า และดูหล่อกว่า เป็นเลขาแม่ของมังกร ที่ตอนนี้เปิดบริษัทนำเข้ายาแลเคมีภัณจากต่างประเทศ  ถ้าว่างจากงานพี่ว่านมักจะเข้าครัวทำอาหารกับป้าสุดใจเป็นประจำ

 

ไม่นานป้าสุดใจก็กลับมาพร้อมกับสารถีที่ถือถุงอาหารมากมามายเต็มสองมือ

 

“ป้าครับ ซื้ออะไรมาเยอะแยะครับ”มังกรรีบเดินไปหาพร้อมกับแย่งถุงในมือมาถือ แต่ก็โดนวีย์แย่งไปอีกที รตายิ้มอ่อนๆ เธอรู้สึกดีกับความสัมพันธ์ของคนในบ้าน มังกรเป็นคนอ่อนโยนขี้สงสาร แต่ถ้าไม่เอาคือไม่เอาเลย ความใจดีและความน่ารักของมังกรทำให้เป็นที่รักของทุกคน...

 

“ก็ของคุณหนูครึ่งหนึ่งของคุณวีย์ครึ่งหนึ่งละสิคะ ขานู้นนะคุณว่านเค้าอาสาจะจัดการเอง” ป้าสุดใจว่ายิ้มๆ พลางมองตามหลังคนทั้งสองที่เดินช่วยกันถือของเข้าไปในครัว ที่บ้านเขารับความสัมพันธ์แบบชายรักชายได้  โดยไม่นึกรังเกลียดแม้แต่น้อย

 

“งั้นหรอครับ กรว่า พี่ว่านคงรักพี่วีย์มากแน่ๆ”

 

“ใช่ ห่างกันเป็นเดือนใจคุณว่านจะขาดเอา ป้าเห็นโทรหาเช้าสายบ่ายเย็น แถมยังพูดเสียงเศร้า น่าสงส้านน่าสงสารคะคุณหนู”ป้าสุดใจพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินเข้าไปสมทบในครัว

มังกรเดินมาหาแม่ของตนเองที่นั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก

 

“แล้วแม่มีเรื่องอะไรกับกรรึเปล่าครับถึงเรียกมา”

 

“วันนี้แม่นัดทานข้าวกับคุณหญิงภิมผกา พี่ยุก็ด้วย” คุณหญิงรตามีสีหน้าที่อิ่มเอิบ เพราะดีใจที่จะได้ดองกับครอบครัวของเพื่อนสนิท ที่พร้อมไปด้วย ฐานะและชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล

 

“อ๋องั้นเหรอครับ” มังกรพยักหน้าพร้อมกับเกาหัว เอียงคอถามคำถามที่ตนอยากจะรู้

 

“แม่ครับ ถ้ากร แต่งแล้วหย่าเลยได้ไหมครับ” พอถามจบคุณหญิงรตาก็ทำท่าตกใจ

 

“ทำไมละคะ ลูก”

 

“กร คืออ กร...”ร่างโปร่งอ้ำอึ้ง

 

“กรมีแฟนแล้วหรอลูก” มังกรพยักหน้า

 

“เลิกซะ “

 

“แม่!!!!”

 

“ลูกกำลังจะแต่งงานอีกไม่กี่วันนี้แล้ว ลูกอยากจะให้ฝ่ายนู้นเขาเสียใจเหรอคะที่ไปหลอกให้เขารัก ไม่สงสารแฟนรึไง”

 

“เอออ คือออ”

 

“แล้วฟ้าครามละรู้เรื่องนี้รึเปล่า”

 

“รู้ครับ” ทำไมจะไม่ละครับ ก็ฟ้าครามนะ เป็น “ผัว” ผม  แน่นนอว่าร่างโปร่งไม่ได้พูดมันออกไป

 

“มันน่านักเชียว ทำไมครามถึงปล่อยให้เรื่องมันเลยเถิดแบบนี้ละ น่าตีจริงๆเด็กพวกนี้  กรแม่ขอละนะ ไปบอกเลิกเขาซะ ก่อนที่มันจะมีปัญหา แม่ไม่อยากให้งานแต่งเราล่มหรอกนะ ถือซะว่าแม่ขอ” คุณหญิงรตาเอ่ย ออกมาด้วยด้วยความอ่อนใจ เธอไม่คิดว่าลูกชายจะมีแฟน

 

“ครับ” มังกรรับคำเสียงอ่อน พลางก้มหน้าซ่อนความรู้สึกไม่ดีเอาไว้

 

“ไปพักเถอะ เย็นๆแม่จะให้คนขึ้นไปเรียก”

 

 

+++

++

 

 

          หลังจากที่มังกรขึ้นห้องมาแล้ว เธอก็โทรหาคุณหญิงภิมผกาทันที และเล่าเรื่องราวของมังกรให้ฟัง ทางด้านคุณหญิงภิมผกาเองก็เช่นกัน  วันนี้เธอไปเยี่ยมลูกชายที่คลินิก ก็เจอพายุกำลังจูบอยู่กับผู้ชายอีกคน เธอเองก็ตกใจไม่น้อยแต่ก็ยังไม่ทันถามอะไรพายุก็ให้ผู้ชายคนนั้นกลับไปก่อน และลูกชายตนบอกแต่เพียงว่า เด็กผู้ชายคนนั้นคือคนรักของตน

 

“เราทำอะไรไม่ได้แล้วละคะ สองคนนั้นคงต้องเสียสละซึ่งกันและกัน”

 

“น่าสงสารเด็กๆนะคะ เราทำถูกแล้วใช่ไหม”

 

“รตาก็ว่างั้นแหละคะคุณพี่ ห่วงก็แต่คนของเรา จะอยู่กันได้ไหมละนั้น”

 

คนเป็นแม่ได้แต่ลอบถอนหายใจ กลุ้มใจหนักกว่าเดิม

 

 

++

++

 

มังกรที่นอนพักอยู่ได้แต่นอนครุ่นคิดหาทางออกที่ดีที่สุดแต่คิดยงไงก็คิดไม่ออก จนผล็อยหลับไป ตื่นมาอีกที ก็ป้า

สุดใจมาเรียกให้ไปทานข้าวเย็น

 

 

“อ่าวพี่ยุมานานรึยังครับ” มังกรเอ่ยทักเมื่อลงมาจากด้านบน พายุนั่งคู่กับคุณหญิงภิมผกา มังกรยกมือไหว้

 

“สวัสดีครับคุณอา”

 

“ต๊ายย  ตากร เรียกแม่สิจ๊ะ แหม่ จะเป็นทองแผ่นเดียวกันอยู่แล้ว” คุณหญิงภิมผกาว่าพร้อมกับหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ

 

“คะ..ครับคุณแม่” เขายิ้มแห้งๆ แล้วนั่งลงข้างๆแม่ของตนเอง

 

“ไปทานข้าวกันเถอะคะ ป้าสุดใจตั้งโต๊ะเสร็จพอดี วันนี้ตาวีย์กลับมาพอดี จะได้มีเพือ่นทานข้าวเยอะๆ” คุณหญิงรตาพูดพร้อมกับจูงมือเพื่อนรักเข้าไปที่ห้องรับประทานอาหาร มังกรกับพายุเดินตามหลัง แต่พายุรั้งตัวมังกรไว้ พร้อมกับบอกว่าวันนี้แม่ของตนเจอตัวเองจูบกับฟ่างอยู่

 

“หา  จริงเหรอพี่ แล้วแม่พี่ว่าไงอะ”

 

“ก็แค่อึ้ง”

 

“ผมก็เหมือนกันพี่ ผมบอกว่ามีแฟนแล้ว แม่ก็บอกให้เลิก”

 

“คึคึ ถ้าไอ้ครามได้ยิน ระเบิดลงแน่ๆ”

 

“ผมก็ว่างั้นแหละ เรารีบตามแม่ๆไปเหอะเดี๋ยวเขาจะสงสัย” ทั้งคู่รีบตามเข้าไป  พร้อมกับเสียงรถแล่นเข้ามา

 

“สงสัยคุรท่านกลับมาแล้วละคะ” สิ้นคำร่างสูงโปร่งของชายวัยใหล้50 เดินเขามาพร้อมกับใครอีกคน

 

“อ้าวคุณคะทำไมมากับคุณก้องภพได้ละคะ”คุณหญิงภิมผกาเอ่ยทักสามีของตนที่เดินเข้ามาพร้อมกับพ่อของมังกร

 

พายุกับมังกรรีบยกมือไหวผู้อาวุโสทั้งสอง แล้วลุกมานั่งข้างๆกัน ให้พ่อนั่งคู่กับแม่ไป

 

“พอดีวันนี้มีเรื่องนิดหน่อย” สหรัฐ สามีของภิมผกาบอกเสียงเหนื่อยๆ

 

“เรื่องอะไรคะคุณพี่”ภรรยารีบถามทันที

 

“กรรมการผู้ถือหุ้นโครงการโรงพยาบาลพากันถอนหุ้นกันหมด เหลือแค่ของเรา”สหรัฐมีสีหน้าที่เครียดลง

 

“แล้วอย่างนี้โรงพยาบาลในฝันของพวกคุณก็” รตาหันไปหาก้องภพที่มีสีหน้าไม่สู้ดีเช่นเดียวกัน

 

“เอาเถอะน่า ผมประกาศขายหุ้น มีนักลงทุนหลายรายติดต่อมาเหมือนกัน รอหน่อยเถอะ”สหรัฐพูดพร้อมกับหันมามองลูกๆของตนเอง

 

“ไม่ต้องกังวล เรื่องแค่นี้พ่อจัดการได้ เราได้แต่งงานแน่นอน” ฟ้าครามอยากจะบอกเสียเหลือเกินว่า “พ่อช่วยดูหน้าพวกผมสักนิดว่ายิ้มหรือว่ามันเศร้า ปากผมนี้ฉีกยิ้มจนจะถึงรูหูอยู่แล้ว

 

“กรเองก็อย่าคิดมากนะลูก เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวพี่ยุเขาเถอะ” ก้องภพหันมาบอกลูกชายตนเองบ้าง มังได้แต่ยิ้มแห้งๆแล้วลงมือกินอาหาร โดยมีสายตาของวีย์กับว่านมองอยู่ ก่อนที่พ่อของตนจะหันไปคุยเรื่องงานกับวีย์

 

มื้อค่ำมื้อนี้ทำให้มังกรเริ่มมีความหวังถ้าไม่คนซื้อหุ้นโครงการก็จะถูกยกเลิก เขาก็จะไม่ต้องแต่งงาน ดวงหน้าหวานเผลอยิ้มออกมาน้อยๆจนคนเป็นแม่จับสังเกต

 

“ยิ้มแบบนี้ดีใจละสิ ที่ไม่ต้องยกเลิกงานแต่ง”

 

“ครับ” ดีใจที่โครงการกำลังจะล่ม

 

หลังจากนั้นพวกเขาก็แยกย้าย มังกรบอกว่าฟ้าครามจะมารับ ไม่ต้องให้คนไปส่งตนที่คอนโด เขายืนรอครามที่หน้าบ้านไม่นาน เขาก็มา และที่สำคัญ ใบหน้าหล่อดูมีความสุขและอารมณ์ดีผิดปรกติ

 

“ยิ้มอะไรของมึง” มังกรเอ่ยถามหลังจากที่ออกจากบ้านมาแล้ว

 

“เปล่า”

เขาตอบแค่นั้นแต่หน้ามันยิ้มแถมยังร้องเพลงอีก มังได้แต่ส่ายหัวแล้วก็เอนตัวลงกับเบาะนอนมองฟ้าครามจนถึง

คอนโด

 

2cb

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่22 อัพ 2/09/15
«ตอบ #86 เมื่อ03-09-2015 00:02:34 »

ใจร้าว

ตอนที่ 22  วันแต่งงานกับความจริงที่น่าตกใจ

 

           ในเมื่อมันไม่ยอมพูดผมก็จะไม่ถาม ฟ้าครามเดินมาเปิดประตูรถให้ผม ท่าจะเพี้ยนร้อยวันพันปีไม่ทำ แถมเดินจูงมือ ผิวปากฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ อะไรของมันวะเนี้ย   ผมมองมันอย่างไม่เข้าใจ...

 

“คราม โรคบ้ามึงกำเริบเหรอวะ” ผมเปิดปากถามเมื่อเรามาถึงห้อง มัยยักคิ้วใส่

 

-*-  เอ้าไอ้นี่กวนตีน อีก

 

“คราม”ผมชักเสียงใส่

 

“อะไรเงียบๆเหอะน่า ไปอาบน้ำไป จะได้นอน เดี๋ยวไม่หล่อในวันงานนะเว้ย”ยังมีน่าจะมาแซวอีกรู้บ้างไหมว่ากูกลุ้ม

 

“ทำไมมึงทำหน้าละลื่นจังวะ  มีความสุขไง ที่กูจะต้องแต่งงานกับพี่ยุนะห๊ะ”ผมตีหน้าเครียดทันที ฟ้าครามหัวเราะในลำคอแล้วยีหัวผม

 

“กูจะไปมีความสุขได้ไง ในเมื่อเมียกูต้องไปแต่งงานกับคนอื่น คิดมากนะมึง เตรียมตัวให้พร้อมเถอะ อีกสองวันเอง รออีกแค่สองวัน” ผมเอาหน้าผากพิงกับอกมันไว้แล้วทุบไหล่มัน น้ำตามันจะไหล ผมเหลือเวลาแค่สองวันเองเหรอ ทำไมมันน้อยแบบนี้

 

“ฮึกก คราม กูยังไม่พร้อมเลย  กูไม่พร้อมจริงๆ ฮึก..”ผมปล่อยโฮกับอกแกร่งนั่น ฟ้าครามกอดผมไว้แน่น

 

“กูบอกแล้วไงว่ากูจะไม่ยอมยกมึงให้ใคร อย่าร้องให้นะครับ ที่รัก” เสียงอ่อนนุ่มมันดังทุ้มอยู่ในใจผม คำปลอบ

ประโลมของฟ้าครามทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจ ผมรู้ว่าแม้จะแต่งงานกัน ผมกับพี่ยุก็ไม่มีทางรักกันได้อยู่แล้ว  แต่ผมต้อง

แยกจากฟ้าครามนี่สิ แค่คิดก็ทรมานแล้วครับ ..มือหน้าของฟ้าครามช้อนคางให้ผมสบตา สายตาคมมองลึกมาที่ผม

อย่างสื่อความหมาย  ก่อนจะก้มลงมาประทับจูบแผ่วเบาที่หน้าผม  ปลายจมูก ไล่ลงมาที่ริมฝีปาก  แค่สัมผัสเบาๆ

ใจผมมันก็เต้นแรงและรู้สึกอุ่นวาบในหัวใจ

 

“ไว้ใจกูไหม” มันถามผมเสียงจริงจัง

 

“อืมม” ผมไว้ใจมัน มันไม่วอกแวกและนอกใจผมแน่นนอน

 

“ดีแล้ว อย่าคิดมาก ไปอาบน้ำได้แล้วไป”มันดันผมให้หันหลังแล้วถอดเสื้อผมออก

 

“จะทำอะไร” ผมถามเสียงแผ่ว

 

      “พาเมียอาบน้ำ” มันตอบผมก่อนจะสอดมืออ้อมมาด้านหน้าเพื่อปลดตะขอกางเกงของผมออกก่อนจะรูดมันลงไปจนสุดปลายขาพร้อมกับชั้นในสีเข้ม ตัวผมสั่นนิดๆเพราะรู้อยู่แล้วว่า ไม่ใช่แค่อาบน้ำ แต่กำลังจะโดน “เอา” ในห้องน้ำหรูนั่น...

 

     แค่คิดดวงหน้าผมมันก็เหมือนโดนกระทะร้อนนาบ มันร้อนผ่าวไปจนถึงแก่นกาย ก้นงอนงามของผมอยู่ตรงระดับสายตาของฟ้าคราม

 

 

หมับ

 

        “อื้อ...คะ..คราม..”ฟ้าครามบีบเค้นสะโพกกลมกลึงของผมอย่างมันมือ  ผมกัดริมฝีปากล่างของตัวเองข่มความเจ็บและเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน ผมพยายามเอี้ยวตัวหันไปมองด้านหลัง

       

         “เห้ย คราม อย่า ละ อื้ออ เลีย”ไม่ทันแล้วครับ ลินร้อนของฟ้าครามกำลงะสอดแทรกไปที่ร่องจีบของผม ขาผมอ่อนแรงทันที ผมทรุดตัวลงคลานสีขา แอ่นสะโพกขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ มันทั้งเสียวทั้งอาย

   

         “มันสกปรกครามไปอาบน้ำเถอะ อื้ออ”ฟ้าครามอุ้มผมในท่าเจ้าสาวตรงไปยังห้องน้ำกว้างทันที ในต็กระจก

กว้าง สายน้ำไหลออกจากฝักบัวเกรดหรู สเตนเลสสีเงินกับ สายน้ำอุ่นสัมผัสผิวกายเนียนนุ่มของผมกับฟ้าคราม ร่างสูงกันผมติดกับผนังกระจกร่างกายผมแนบชิดกับกระจกที่มีไอน้ำเกราะพราว   แก่นกลางกายของผมกำลังเสียดสีกับกระจกใส ฟ้าครามเตะขาผมให้แยกออกกว้าง พร้อมกับคุกเข่าลงใบหน้าเขากำลังก้มลงไปแนบชิดกับแก้มก้นผม

 

        “จับไว้ให้หน่อยสิ” เสียงแหบกระเส่าของฟ้าครามบอกให้ผมจับแก้มก้นของตัวเองไว้แล้วแยกมันออก

 

        “ครามจะทำอะไร” ร่างสูงไม่ตอบแต่กลับชำแรกลิ้นร้อนเข้าไปด้านในของผมแทน ปลายลิ้นตวัดชอนไชเข้าไป

ด้านใน ขนทุกเส้นในร่างกายผมมันลุกทุกอณู

 

      “อะ...อื้อคราม ไม่เอาแบบนี้ อ่า  มัน อื้ออ คราม กู จะยืนไม่ไหว ร่างกายเปลื่อยเปล่าของผมสั่นไหวจนน่ากลัว ขาผมเกินอาการไร้เรี่ยวแรงเสียเอาดื้อๆ เพราะลิ้นนั่น..

 

      “ถ้ายืนไม่ไหวก็ไม่ต้องยืน”ฟ้าครามลั้งตัวผมให้อยู่ในท่าคลานเข่าและยกสะโพกผมให้สูง มือหนาแหวกรอยแยกของผมจนกว้างและเริ่มที่จะดูดเลียมันอีกครั้ง จนผมต้องร้องครางออกมาดังๆ

 

      “อ๊า.. อื้ออ อูวว คราม ซี๊ดดด มันเสียว..อะ “ เสียงร้องหวานหูของผมมันไปกระตุ้นอารมณืดิบในกายของฟ้าครามให้พุ่งสูงขึ้น มือหน้าตบแรงที่ก้นกลมของผมเต็มแรง

 

     “โอ๊ย..อื้ออ เจ็บคราม” ผมร้องบอกเสียงสั่น

 

      “กูรู้ว่ามึงชอบ ดูสิ ร่องมึงดูดลิ้นกูใหญ่เลย” ผมรู้ว่าตัวเอ่งร่านมากเวลาโดนฟ้าครามพูดจาลามกใส่

 

      “หุบปากน่า..อื้ออ” ร่างกายผมยังคงสั้นไม่หยุด มันเสียวซ่านไปหมดทั้งตัวจนทนไม่ไหว้แขนที่เคยเท้าลงกับพื้นมันเอื้อมไปด้านหลังแล้วแหวกแก้นก้นเสียงเอง

 

      “คราม...เข้ามาเถอะ เข้ามาได้แล้ว...อื้ออ กู ไม่ไหวแล้ว” ผมเห็นฟ้าคราม เลียริมฝีปากตัวเอง มันดูเซ็กซี่แบบเถื่อนๆ

 

     “ไม่ต้องเบิกทาง?” ผมพยักหน้า

 

     “ไม่ต้องเข้ามาเลย”

   

      “ของกูใหญ่นะ บั้งไฟเงินล้านเลยนะมึง”

 

      “อึก อื้ออ อย่าพูดมากได้ไหมเล่า กู ทนไม่ไหวแล้วนะ”

 

     “ทนไม่ไหวก็ทำเองสิวะ...ช่วยตัวเองให้กูดูหน่อยสิ” น้ำเสียงโรคจิตกระซิบข้างๆหู

 

    “นะ ทำให้กูดูเป็นขวัญตาหน่อย ว่าเมียกูมันก็ร่านเป็น” ฟ้าครามใช้ลิ้นเลียตรงแผ่นหลังและลงต่ำไปเรื่อยๆ  มือหนาสอดไปที่ระหว่างขาผมก่อนจะบดขยี้ส่วนปลายแก่นกายผมเบาๆเพื่อกระตุ้นอารมณ์

 

    “อื้อออ ซี๊ดด..อย่าแกล้งสิคราม”ผมบ่นเสียงหวิว

 

    “เร็ว!”มันสั่ง ผมจำใจต้องสอดมือลอดใต้ระหว่างขาก่อนจะค่อยๆกดริ้วเรียวของตนเองเข้าไปช้าๆ มันอุ่นร้อนผมกดย้ำๆตรงจุดเสียวของตัวเองจนครางลั่นห้องน้ำอีกมือก็ชักนำแก่นกาย ตอนนี้ผมอยู่ในท่าที่เหมือนดาราเอวี ร่านเ

ซ็กมากๆ ไหล่เล็กผมพยายามที่จะทรงตัวให้ได้ ความรู้สึกอยากจะปลดปล่อยมันใกล้เข้ามา ก้นผมมันร่อนส่ายไปใน

อากาศอย่างบ้าคลั่ง ฟ้าครามเองก็ชักนำแก่นกายตัวเองตาม

 

    “อื้ออ กร มึง แมร่งโคตรเอ็กส์..อื้อ จนกูอยากจะกระแทกตัวมึงซ้ำๆๆ เอาจนมึงลุกไม่ไหว..อ่าส์”

 

    “อ๊า คราม อื้อ คราม  ของมึง กูอยากได้ของมึง แล้ว นะ ขอร้อง..อ๊า”ผมดึงมือตัวเองออกพร้อมกับส่ายสะโพกยั่วยวนมัน

 

    “ได้สิ ตอนนี้ก็ก็อยากจะเข้าไปข้างในเต็มทีแล้ว” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งตัว ฟ้าครามก็รั้งเอวผมแล้วแทงแงร้อนสวน เข้ามาทีเดียวจนสุด

 

    “อื้อออ ไอ้คราม อ๊า..ไอ้..อะ อะ อะ อื้อ เ...หี้ย”น้ำเสียงผมมันขาดช่วงไปในทันที่เพราะครามมันไม่รอให้ผมได้ปรับตัวอะไรทั้งนั้น มันกระแทกท่อนเอ็นยักษ์ของมันใส่ผมไม่ยั้ง และย้ำตรงจุดเดิมจนผมซี๊ดปากแรง

 

    “คะ..คราม เบา อื้อ แรงไปแล้ว อ๊า...กูจะแตก อื้อ” มันไม่ฟังผมสักนิด มันยังคงโหมแรงอัดมาที่ผม เอวเล็กของผมสั่นคอนเหมือนแคร่ใกล้จะหัก...ขาผมอ่อนไปหมด

 

    “อื้ออ..กร ซี๊ด แน่นชิป ..รัดกูแรงๆ..อืออย่างนั้นซี๊ดด”

 

    ปักๆๆๆ

 

    “คราม อ๊า..จะไม่ไหวแล้ว กูจะไปแล้ว” ความรู้สึกมันกำลังแล่นมาที่ส่วนปลาย

 

    “ฮื้ออ คราม ปล่อย อ๊า กู..อ๊า” ฟ้าครามกำส่วนนั่นของผมไว้พร้อมกับบีบปลายไว้ม่ให้ปลดปล่อย

 

    “จำไว้เมียกูมันต้องอดทน...อื้ออ ฮึ่ม ...อื้ออ”

 

    ตับๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

                   ฟ้าครามกระแทกผมอยู่นาน น้ำตาผมมันไหลไปพร้อมกับสายน้ำที่รดลงมา มันทรมานพร้อมเสียวสุดๆ แล้วมันก็ปลดปล่อยพร้อมกับปล่อยมือตรงส่วนนั้นของผมมอออก น้ำรักสีขาวขุ่นของผมพุ่งทะยานใส่หน้าผมเต็มๆจนมันเปื้อนไปหมด ช่องทางด้านหลังผมก็เอ่อล้นด้วยน้ำกามมากมาย ฟ้าครามหอบกระเส่าอยู่ด้านและไม่ยอมถอนแก่นกายออก มันจับผมพลิกหงาย  สอดมือเข้าไปใต้ข้อพับขา

 

     “กอดคอกูไว้”มันเอามือไปคล้องคอหนา ฟ้าครามอุ้มผมทั้งๆที่เรายังเชื่อมต่อกันอยู่

   

     “อ๊า.. อ๊า คราม อื้อ อย่าขยับ อื้อ” ฟ้าครามพาผมออกจากห้องน้ำ ทุกจะหวะการก้าวเดินมันตอกย้ำเข้าไปจนลึก ผมกอดคอมันแน่นกลัวตกก็กลัว เสียวก็เสียว

 

     “รู้สึกดีไหม แบบนี้” ผมกัดลงบนไหล่มันเป็นคำตอบฟ้าครามพาผมทัวร์ ไปทั่วพื้นที่บริเวณห้อง และหยุดอยู่ที่ริมหน้าต่าง ที่มองเห็นวิวกรุงเทพในยามค่ำคืน แผ่นหลังผมแนบกับแผ่นกระจกเย็น...

 

     “จูบกูสิกร จูบให้กูรู้ว่ามึงรักกูแค่ไหน”

                     ผมยกตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนจะประคองใบหน้าอันหล่อเหลาของฟ้าครามเข้ามาประกบจูบ ลิ้นเล็กของผมพยายามเหลือเกินที่จะเกี่ยวลิ้นเร้าร้อนนั้น ผมดูดดุน สลับกับดูดริมผีปากอิ่มได้รูปของฟ้าคราม เอวสอบก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่มีตก มันยังคงขยับแก่นกายเข้าออก

 

      “แรงอีกคราม..อื้ออ.แรงขึ้นอีก” ผมร้องขออย่างไม่อายเลยสักนิด เซ็กครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของผมกับฟ้าคราม ผมจะไม่ปล่อยให้เวลามันสูญเปล่า ผมจะตักตวงความสุขที่ร่างสูงมอบให้ จะกินมันจนล้น ต่อให้พุงแตกตายผมก็จะกิน...

 

“แรงพอไหม อื้อ ซี๊ดด”

 

ตับๆๆๆๆ

 

ปักๆๆๆ

 

                    “อื้อ ซี๊ดดด.คราม อูววว เร็วอีก...อื้อ” ฟ้าครามทำตามผมอย่างว่าง่าย เราเปลี่ยนจากหน้าต่างไปที่ ระเบียง และจบลงบนที่นอน...

 

      “อื้ออ คราม  รักกูให้มากกว่านี้ ทำกูให้มากกว่านี้อีก...”

ราตรีนียังอีกยาวเพราะไฟกามของผมมันไม่ยอมดับ ฟ้าครามเองก็ใส่ไม่ถอย มันทั้งอึดถึกทน..แถมแรงดีไม่มีตก

ผมพลิกตัวให้คนตัวโตกว่าลงมาอยู่ด้านล่างบ้าง

 

     “วันนี้กูขอเป็นอีตัวร่านรักสักวันนะคราม เพราะต่อไปกูคงไม่ได้ทำแบบนี้กับใคร มึงรอกูนะคราม ของๆมึงเป็นแค่ของกูคนเดียว รักษามันไว้ให้กู หมอมังกรคนนี้นะคราม”

 

 

     “ครับ อืมมม ซี๊ด....ฟิตจังวะ...”ฟ้าครามจับเอวผมกดลงตามจังหวะเด้งสวนของมัน แท่งร้อนค่อยๆถูกกลืนกินซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยช่องทางรักของผม ร่างกายของเราประสานซึ่งกันและกัน สะโพกกลมกลึงหมุนคว้างพร้อมกับกดกระแทกลงไม่หยุดเสียงหอบกระเส่าและครางอย่างสุขสมส่งเสียงดังไม่ขาดสาย

 

อ่า..อื้ออ อื้มมม

 

    “ตับ ตับ ตับ  อ๊า อื้ออ “

 

    “ต่อให้มันมีอำนาจมากแค่ไหนต่อให้กูต้องแลกด้วยอะไร กูก็จะดึงมึงกลับมามังกร เชื่อ..อ่า..ใจกูนะ..เมียสุกที่รัก”

ปักๆๆ

 

อื้อ

 

อ่า

          เสียงสุขสมที่พาคนทั้งสองขึ้นไปสู่สวรรค์ดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย และ สายธารแห่งความสุขจะไหลทะลักออกมาจากคนทั้งสอง  ผมและฟ้าคราม นอนกอดบนที่นอนที่ผ่านศึกหนักมาหลายชั่วโมง วันนี้ ผมเต็มอิ่มอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คำบอกรักซ้ำๆมันยังดังก้องอยู่ในหู คำมั่นสัญญามันยังคงชัดในม่านวามทรงจำ ผมจะเก็บคืนนี้ไว้ คืนที่ผมและฟ้าครามบอกรักด้วยภาษากาย......

 

    +++++++++++++++++++++

 

ทางฝั่งพายุ

 

   

                     ข้าวฟ่างอยู่บ้านของตนเอง นั่งทำงานที่คั่งค้างไว้..ก่อนสำนักพิมพ์จะตามมาทวงต้นฉบับ จากเขา แว่นหนาถูกสวมลงบนกรอบหน้าหวาน มือเรียวกดลงแป้นพิมพ์ไม่หยุด ไม่มีอะไรที่จะหยุดความคิดของคนตัวเล็กได้ ช่วงเช้าสมองมันปรอดโปร่งหลังจากได้นอนเต็มอิ่ม   ความคิดความอ่านมันแล่นฉิว ทิ้งให้คนตัวโตที่นอนอยู่ข้างกายอยู่เมื่อคืนนอนหลับอยู่อีกห้อง ร่างกายเล็กขยับเล็กน้อยเพื่อให้คลายเมื่อย โดยไม่สนใจว่ามีใครเขาแอบมอง ร่างสูงยืนพิงกรอบประตู ร่างสูงพึ่งจะตื่นพอลืมตาตื่นก็ไม่เห็นคนตัวเล็กจึงเดินมาดูที่ห้องทำงาน ก็เป็นดังคาด ร่างเล็กกำลังปั่นต้นฉบับ

 

 

                  ยามที่คนตัวเล็กจริงจังกับงาน จากเด็กดื้อก็กลายเป็นผู้ใหญ่ที่เอางานเอาการทันที มันทำให้ข้าวฟ่างดูมีเสน่ห์ และมองไม่เบื่อ ร่างสูงยกยิ้มนิดๆก่อนจะลงไปด้านล่างเข้าครัวทำอาหารให้กับคนตัวเล็ก..ตอนบ่ายเขาต้องเข้าไปที่คลินิก และจัดการบางอย่างให้ฟ้าคราม...

 

               พายุในท่าทางทะมัดทะแมงกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารเช้าง่ายๆ อย่างข้าวต้มแบบไทยๆ อย่างข้าวต้มหมู ใส่ขิงกับต้นหอมเพื่อให้โล่งจมูกโล่งคอ หลังจากนั้นก็คั่นน้ำส้ม แล้วก็ ทำสลัดผักที่คนตัวเล็กชอบทานเผื่อไว้ให้ ก่อนที่ตัวเองจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  เพื่อรอเวลาให้คนตัวเล็กรู้สึกหิว  เขาจะไม่ไปตามหรือไปเรียก

จากประสบการณ์ที่เคยเจอ  ไม่แจกันก็ กรอบรูปจะปลิวตามแรงขว้างของคนตัวเล็กมาที่เขาเสมอ

 

 

               เวลาล่วงเลยจนเกือบสิบโมงคนตัวเล็กถึงได้เดินออกมาจากห้องทำงาน พร้อมกับบิดขี้เกียจลงบันไดมา  ด้านหน้าของร่างบางคือพายุที่นั่งอ่านหนังสืออยู๋บนโซฟารับแขก ฟ่างเดินไปกอดคอเขาจากด้านหลัง

 

             “พี่ยุกินข้าวรึยังครับ” จมูกโด่งรั้นกดลงแก้มสากที่มีหนวดแข็งขนรำไรเสียฟอดใหญ่

 

            “รอเรานะแหละ หิวแล้วใช่ไหม” ข้าวฟ่างพยักหน้าออดอ้อน

ร่างสูงลุกขึ้นยืนก่อนจะจูงมือคนตัวเล็กเข้าไปในครัว...

 

         พายุอุ่นข้าวต้ม แล้วตักใส่ชามให้คนตัวเล็กที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะกินข้าว

“หอมจัง พี่ยุทำเองหรอครับ” ร่างเล็กถามด้วยความสงสัย เพราะไม่ค่อยเห็นพายุเข้าครัวสักเท่าไหร่

 

“อื้อ เห็นว่าเราทำงาน อยากให้กินอะไรอร่อยๆสมองจะได้แล่นๆมีแรงทำงานไง” ร่างสูงบอกพร้อมกับนั่งลงฝั่งตรงข้าม ทั้งคู่กินข้าวต้มไปเงียบๆ  พายุคอยตักหมูในชามตัวเองใส่ชามของข้าวฟ่างอยู่เนื่องๆ

 

“อื้ออ เยอะไปแล้วพี่ยุ แค่นี้ฟ่างก็จุกจะแย่อยู่แล้ว”

 

“พี่อยากให้เรากินเยอะๆ เพราะต่อไปพี่อาจไม่ได้ทำอะไรให้แบบนี้อีก” พายุตักข้าวเข้าปากโดยไม่ได้มองสีหน้าข้าวฟ่างเลยสักนิด  ร่างเล็กสลดลงทันที มือเล็กสั่นน้อยๆ

 

“ฮึก...”เสียงสะอื้นของข้าวฟ่างดังขึ้นเบาๆจนร่างสูงเงยหน้าขึ้นมา

 

“ฟ่างงง” เสียงพายุครางแผ่ว เมื่อเห็นร่างเล็กกินข้าวพร้อมน้ำตา หยดน้ำเม็ดใสๆหยดลงบนโต๊ะและลงในชามข้าวไม่ขาดสาย

 

“ฮึก...ฮืออ ..”ฟ่างวางช้อนลงและเดินออกจากห้องครัวทันที  พายุส่ายหน้าช้าๆอย่างอ่อนใจ ช่วงนี้ฟ่างหวั่นไหวง่ายมาก พูดเรื่องแต่งงานหรือแยกจากกันไม่ได้เลย ต่อมน้ำตาแตกตลอด...

 

พายุเดินตามข้าวฟ่างไป ร่างเล็กนอนค่ำอยู่บนที่ร้องให้สะอึกสะอื้น พายุรู้สึกสงสารคนรักแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากกอดปลอบและให้กำลังใจ...

 

“ฮึกพี่ยุ แต่งงานกับฟ่างไม่ได้เหรอ นะ เปลี่ยนมาเป็นฟ่างเหอะ ฟ่างทนไม่ได้แน่ถ้าพี่ยุจะต้อง....ฮืออ” ข้าวฟ่างนั่งกอดพายุแน่นพร้อมกับขอร้องอ้อนวอน

 

“ชูวว ไม่เอาครับไม่ร้องนะคนดี ฟ่างจะเป็นของพี่และพี่จะเป็นของฟ่างตลอดไปนะครับ ไม่มีใครมาแยกเราจากกันได้หรอกนะ โอ๋ๆไม่ร้องนะครับ” ร่างสูงโอบรอบเอวเล็กเอาไว้แล้วยกตัวขึ้นนั่งตัก จูบขมับให้ข้าวฟ่างใจเย็นและหาย

สะอื้น....

 

“ฮึก...ไม่อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เลย ฟ่างอยากจะหยุดเวลาเอาแค่ตรงนี้ ตรงที่มีพี่อยู่ข้างๆแต่ มัน ฮึก..คงเป็นไปไม่ได้แล้ว ฮึก...” ข้าวฟ่างร้องให้โฮและคิดว่าเพื่อนๆของเขาคงรู้สึกไม่ต่างกัน ฟ่างรู้ดีว่ามังกรกับฟ้าครามรักกัน เหมือนกับที่ตนรักพายุ แต่เพื่อนกับคนรักของเขาจะต้องมาแต่งงานกัน แถมตัวเขายังต้องเป็นเพื่อนเจ้าสาวอีก

.....ทรมานจริงๆ.....

 


ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่22.2 อัพ 2/09/15
«ตอบ #87 เมื่อ03-09-2015 00:03:12 »

วันแต่ง

 

                เหล่าบันดาแขกในสังคมชั้นสูงถูกเชิญมางานมากมายทั้งเซเลป ดารา นักธุรกิจ เหล่าคนดัง และเครือญาติของทั้งสอง เดินกันเต็มงาน งานแต่งงานถูกจัดในโรงแรมหรูระดับ5ดาว ตรีมงานคือ เทพนิยาย ทุกคนจึงใส่ชุดแฟนซีและมีหน้ากากกันเกือบทกคน...งานทุกอย่างดำเนินการไปอย่างราบรื่น พ่อแม่ของพายุกับมังกรก็ต้อนรับแขกกันจนไม่มีเวลาไปดูคู่บ่าวสาวว่าแต่งตัวกันไปถึงไหนแล้ว

 

ในห้องแต่งตัว....

 

ทั้งสี่ถูกแยกห้อง พายุอยู่กับข้าวฟ่างฟ้าครามอยู่กับมังกร ทั้งหมดอยู่ในอารมณืแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

“แต่งหล่อๆมึง”ฟ้าครามจัดชุดแต่งงานของร่างเล็กให้เข้าที่พร้อมกับยื่นน้ำให้ดื่ม

 

“ใจเย็นนะมึง แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย” มังกรพยักหน้านิดๆ

 

“กูรักมึงนะคราม กูขอโทษที่อยู่เคียงข้างมึงไม่ได้”พูดแล้วน้ำตาพาลจะไหล มังกรเม้มปากแน่นกลั้นเสียงร้องไห้ของตัวเอง ฟ้าครามลูบหัวช้าๆ มังกร”ม่รู้ตง ฟ้าครามลูบหัวช้าๆ มังกร”ไม่รู้ตวเองเลยว่าตัวเองกำลังจะเข้าสู่ห้วงนิทราโดยยานอนหลับที่ร่างสูงใส่ในน้ำให้กินดวงตาเรียวค่อยๆปิดลงช้าๆในอ้อมแขนของร่างสูง

 

“พุฒ จัดการได้เลย” ร่างสูงโทรหาลูกน้องคนสนิท

(//ครับนาย//)

 

       ฟ้าครามอุ้มมังกรใส่รถเข็นผ้าปูของทางโรงแรมที่เขาเตรียมเบาะนุ่มรองไว้ร่างสูงโปร่งนอนคุดคู้อยู่ในนั้น ฟ้าครามเรียกแม่บ้านที่จ้างให้เข็นรถลงไปที่ลานจอดรถ อีกยี่สิบนาทีเขาจะตามลงไป และสั่งแม่บ้านให้เฝ้ามังกรไว้อย่าให้ใครมาเห็น ผ้านวมผืนใหญ่ถูกยกคุล่มร่างที่นอนหลับสนิทจนมิด เหลือเพียงช่องว่างนิดๆให้พอมีอากาศหายใจ

พอแม่บ้านเข็นรถออกไปเขาก็โทรหาพายุที่กำลังจะเข้าพิธีว่าเรียบร้อย

 

   “จัดการได้เลยพี่ยุ”ฟ้าคราม

 

 

+++++

 

“พี่ยุ ไอ้กรหายไปไหน” เป็นร่างเล็กที่โดนพายุลากออกจากห้องแต่งตัวขึ้นไปบนแท่นพิธี  เวลล์คลุ่มของชุดเจ้าสาวปกปิดใบหน้าหวานเอาไว้

 

“นี่มันอะไรกันครับพี่ยุ”ฟ่างพยายามจะหยุดเดินเพื่อเอาคำอธิบายจากร่างสูง แต่ทว่าพวกเขามาหยุดตรงประตูพรมแดงที่จะนำพาเขาไปยังแท่นประรำพิธี

 

“เงียบๆไว้”แล้วพายุก็เดินอ้อมไปอีกด้านและเดินขึ้นเวทีไป ปล่อยให้คนตัวเล็กลอยคว้างอยู่ตรงนั้น และที่สำคัญพ่อของมังกรจะต้องเป็นคนพาเขาเดินไปส่งให้พายุ แล้วเขาไม่ใช้มังกรส่วนสูงมันต่างกัน ฟ่างยื่นสั่นเป็นเจ้าเข้า

 

หมับ!!!

 

      “เฮือกก” ร่างบางสะดุ้งจนเกือบปล่อยกรี๊ด เขาประหม่าสุดๆ แถมยังงงกับเหตุการณตรงหน้า มือหนาของฟ้าครามคว้าเอาแขเล็กและจูกงเดินไปยังพรมแดง

 

      “ใจเย็นนะฟ่าง เงียบไว้ อย่าทำเรื่องให้มันวุ่นวาย กูทำทุกอย่างเพื่อมึงกับมังกร อย่าให้มันล่มไม่เป็นท่า”เสียงเย็นเยียบกระซิบข้างหูข้าวฟ่าง

 

      “ทำอะไรของมึงวะ แล้วถ้าพ่อแม่หมอมันรู้ว่ากูไม่ใช้ลูกเค้า มึงจะทำไง”เสียงหวานกระซิบเครียด

 

     “ทำตามที่พี่ยุบอกก็พอ เข้าใจไหม” เมื่อทั้งคู่เดินมาถึงแท่นพิธี ร่างเล็กสั่นไปหมด จนมือเล็กถูกกอบกุมด้วยมือหนาของพายุและบีบมันเบาๆให้ผ่อนคลายสองคนสบตากันนิ่ง

 

       “พุฒบอกให้พ่อกับแม่มังกรว่ากูพร้อมเซ็นสัญญาแล้ว ตอนนี้ คงกำลังสาบานรักกันอยู่ ขอแค่สาบานรักกันเสร็จทุกอย่างก็จะเป็นไปตามแผน

 

        พุฒถูกสั่งให้พาตัวผู้ถือหุ้นใหญ่มาที่ห้องสูทที่เขาเตรียมไว้เซ็นสัญญากันโดยเฉพาะซึ่งสหรัฐกับก้องภพก็ยอมตามมาโดยไม่ขัดข้องเพราะให้รตากับภิมผการับหน้าแทนได้

เรื่องธุรกิจของพวกเขาสำคัญกว่า  วีย์ที่เดินอยู่รอบๆงานได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้เพราะแค่เห็นเจ้าสาวก็รู้ทันทีว่าใคร บันดาแขกต่างๆก็ไม่ได้สนใจอะไรมานักเพราะงานแต่งงานของสังคมแบบนี้ส่วนมากมักจะมีแต่เรื่องธุรกิจและการจับคู่กับทายาทดังๆรวยเท่านั้น

 

          ตอนนี้ ข้าวฟ่างกับพายุ กำลังยืนอยู่หน้า บาทหลวง โดยทั้งสองยืนหันหน้าเข้าหากัน

ฟ่างไม่พูดอะไร ใจดวงน้อยมันเต้นแรง ตอนนี้เขาต้องเข้าพิธีแต่งงานแทนเพื่อนรักกับคนรักของตัวเอง เหมือนฝันของเขาจะเป็นจริง...

 

         บาทหลวง: เจ้าบ่าว เจ้าสาว ท่านทั้งสองตั้งใจที่จะร่วมชีวิตเป็นสามีภรรยา กันตามพระประสงค์ของพระเจ้า จงให้คำมั่นสัญญาและปฏิญาณต่อกันจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า และต่อหน้าสุภาพชนในที่นี้ว่าท่านทั้งสองจะเอาใจใส่เลี้ยงดูกันจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันด้วยความอดทน และจะรักษาบัญญัติ แห่งชีวิตรมรส ที่พระเจ้าทรงตั้งไว้ด้วยความเพียรพยายาม ถ้าท่านมีความตั้งใจเช่นนั้น จงให้คำสัญญาและปฏิญาณต่อกันด้วยความจริงใจ  (พายุข้าวฟ่างหันหน้าเข้าหากันจับมือกัน )

 

            พายุ: ข้าพเจ้า นายมารุต เกรียงไกร ขอสัญญา และปฏิญาณต่อพระผู้เป็นเจ้าและต่อสุภาพชนในที่นี้ว่า ข้าพเจ้ายินดีและเต็มใจรับ นายปานณภพ สุริยะบดี เป็นภรรยาของข้าพเจ้า ไม่ว่าจะมั่งมี หรือยากจน ไม่ว่าทุกข์หรือสุข เจ็บป่วยหรือสุขสบาย ข้าพเจ้าจะเป็นสามีที่รักใคร่ และสัตย์ซื่อต่อผู้เป็นภรรยาตลอดไป

 

           ข้าวฟ่าง:...เอ่อ...คือ

ร่างเล็กอึกอักเล็กน้อยเพราะตนเองไม่ได้ท่องอะไรแบบนี้มา มองไปที่ร่างสูงด้วยใจเต้นระทึก มือสั่นไปหมด

 

“ข้าพเจ้า นายปานณภพ สุริยะบดี ขอสัญญา....เอ่อ.... และปฏิญาณต่อพระผู้เป็นเจ้าและต่อสุภาพชนในที่นี้ว่า ข้าพเจ้ายินดีและเต็มใจรับ นาย มารุต เกรียงไกร เป็นสามีของข้าพเจ้า ไม่ว่าจะมั่งมี หรือยากจน ไม่ว่าทุกข์หรือสุข เจ็บป่วยหรือสุขสบาย ข้าพเจ้าจะเป็นภรรยาที่รักใคร่ และสัตย์ซื่อต่อผู้เป็นสามี ตลอดไป….ฟู่” ร่างเล็กลอบถอนหายใจ นึกเอาคำพูดที่ร่างสูงพึ่งพูดมันออกไป พร้อมกับอ่านปากของคนรักไปด้วยเขาจึงผ่านมันมาได้...

 

           พายุหยิบแหวนออกมาจากกระเป๋า ฟ่างเองก็ทำหน้าเหรอหลา ก่อนที่พายุจะกระซิบให้เอาแหวนออกมาดีนะที่ฟ้าครามยัดแหวนใส่ในกระเป๋าตอนเดินมาส่งมอบแหวน และสวมแหวนแห่งความรักและคำมั่นสัญญา

 

บาทหลวง: เจ้าบ่าว และเจ้าสาว ท่านจะมอบของสิ่งใดให้แก่กันเพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความรัก และสัญญาของท่าน  บาทหลวงรับแหวนจากข้าวฟ่างและพายุ  แล้วท่านชูแหวนขึ้น พร้อมกล่าวว่า:

 

          แหวนทองคำบริสุทธิ์สองวงนี้ เป็นเครื่องหมายแห่งความรักและคำสัญญา แสดงว่าท่านจะช่วยกันรักษา และทะนุถนอมความรักที่มีต่อกันให้บริสุทธิ์ แหวนนี้เป็นวงกลมเชื่อมกันสนิท ไม่มีจุดเริ่มต้นและไม่มีที่สิ้นสุด จงมอบให้เป็นความรัก และเป็นเครื่องหมายตราประทับในดวงใจของท่านทั้งสอง ตั้งแต่บัดนี้ไปจนชั่วนิรันดร์

 

     เมื่อบาทหลวงกล่าวเสร็จก็มอบแหวนให้ทั้งคู่ผลัดกันสวมใส่พายุยิ้มรับกับแหวนที่เขาบรรจงใส่ให้ข้าวฟ่างมันพอดีกับนิ้วเล็กเพราะเขาเป็นคนซื้อเอง ฟ่างค่อยสวมแหวนให้ร่างสูงเช่นเดียวกัน

 

 

         “พี่สัญญาไว้แล้วไง ว่าพี่จะเป็นของฟ่างแค่คนเดียว”

 

         “ฮึก พี่ยุ...”น้ำตาแห่งความปลื้มปิติมันเอ่อล้นออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ข้าวฟ่างรู้สึกตื้นตันและมีความสุข นึกย้อนไปถึงคำมั่นที่ให้กันไว้ ว่าจะเป็นของกันและกันตลอดไป..

 

       “พี่รักฟ่างนะ...เราแต่งงานกันแล้วนะ นับจากนี้ไปฟ่างจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพี่ เป็นคนที่พี่มอบหัวใจให้เราเก็บรักษา..จำที่พี่บอกได้ไหม ว่าพี่อาจไม่มีโอกาสได้ทำอะไรแบบนั้นกับฟ่างอีก เพราะวันนี้พี่จะให้ฟ่างเป็นคนทำให้พี่ เข้าใจแล้วนะครับคนดี”

 

      “ฮึก..พี่ยุ” ร่างเล็กพูดไม่ออก เพราะวันนั้นวันที่พายุทำข้าวต้มให้กินเหตุการณ์และคำพูดมันย้อนมา...ร่างเล็กยิ้มแก้มปริพุ่งตัวเข้าสวมกอดร่างสูงไว้แน่น

 

   รตาและภิมผกาเดินมาที่หน้าเวที ทั้งคู่เบิกสายตากว้าง ด้วยความตกใจ เพราะพายุเปิดผ้าคลุมหน้าข้าวฟ่างออกและก้มลงจุมพิตร่างเล็กด้วยความรัก จูบดูดดื่ม เขาไม่อายสายตาใคร อีกทั้ง บรรดาแขกเหรอก็พากันตบมือแล้วโห่ร้องกันเกรียวกราวแสดงความยินดี หารู้ไม่ว่าเจ้าสาวคนนั้นไม่ใช่เจ้าของงาน

 

            “ตายุ!!!”

            “หนูฟ่าง?”

 

      ทั้งสองผละออกจากกัน พายุยิ้มอ่อนให้มารดาเขาจำต้องผิดสัญญาเพราะไม่อาจจะพรากความรักของใครไปจากใครได้ทั้งนั้น วันนั้นเขาจึงตัดสินใจร่วมมือกับฟ้าครามสลับตัวเจ้าสาวตอนขึ้นทำพิธี

 

 

               วีย์เดินมาสมทบและพาคุณหญิงทั้งสองที่กำลังช็อกและทำอะไรไม่ถูกเมื่อคู่รักเกิดสลับตัวกัน และที่สำคัญมังกรหายไป...

 

              “แม่ต้องการคำอธบายพายุ”

              “เราด้วยข้าวฟ่าง บอกแม่มานะว่าเพื่อนตัวดีของเราอยู่ที่ไหน”คุณหญิงรตาคาดคั้นร่างเล็กเพื่อเอาคำตอบ

 

               “นายหญิงผมว่ารอให้งานเลี้ยงเลิกเสียก่อนดีกว่าครับ ถ้าเอะอะโวยวายตอนนี้เรามีแต่เสียกับเสีย รอคุณสหรัฐกับคุณก้องภพกลับมาจากเซ็นสัญญาดีกว่านะครับ”วีย์ออกความคิดเห็น ขืนโวยวายมันจะเป็นข่าวซะเปล่าๆ

 

....

 

          อีกด้าน ในห้องสูทสุดหรู ก้องถพกับสหรัฐมองบุรุษหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาโดยเฉพาะก้องภพ ที่ดูจะตกใจมากเมื่อเห็นว่าคนที่กว้านซื้อหุ้นของเขาไปจนเกือบหมดคือ ฟ้าคราม เพื่อสนิทของมังกร คนที่เขาเห็นมาตั้งแต่ เด็ก

 

        “คราม เราหมายความว่ายังไง ที่เราซื้อหุ้นของโครงานที่เหลือทั้งหมด”ก้องภพวางเอกสารที่อ่านอย่างถี่ถ้วนและหลายรอบ

 

       “หุ้น60%   600ล้าน จะโอนเงินเข้าบัญชีของอา ถ้าอาเซ็นสัญญานี่  ตกลงว่ายังไงครับ” เขาใช้นำเสียงราบเรียบอย่างคนที่มีชัยเหนือกว่า ใบหน้าหล่อคมใช้สายตากดดัน

 

     “โครงการ 1000ล้านจะล้มเอาได้นะครับ ถ้าอาตัดสินใจช้า” ก้องหันไปขอคำปรึกษากับเพื่อนรัก

 

ร่างสูงเอนหลังพิงโซฟาอย่างใจเย็น เพราะไม่ว่ายังไงก้องภพก็ต้องยอม

 

     “เราทำแบบนี้ทำไมฟ้าคราม” ก้องถามอย่างไม่เข้าใจหลังตัดสินใจเซ็นสัญญานั่น

   

     “เพราะมังกรครับ”

 

    “เจ้ากรนี่อะนะ แล้วมันรู้รึเปล่า” ร่างสูงไม่ตอบแต่ยิ้มกริ่มกับสัญญา

 

    “หมดธุรแล้วผมขอตัวนครับป่านนี้บ่าวสาวคงจะทำพิธีเสร็จแล้ว” ร่างสูงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

 

    “ขอบคุณนครับอาก้องภพ ผมสัญญาว่าจะดูแลมันให้ดี ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ผมจะถนอมมันไปจนชั่วชีวิต” เขากล่าวทิ้งท้าย ไว้ให้คนแก่หัวหงอกที่ฟังแล้วไม่เข้าใจ พุฒเดินตามเจ้านายตัวเองออกไป

 

       “อ่อคุณก้องภพ นายคงจะลืมบอกอะไรไป 600 ล้านนั่นคือค่าสินสอดของคุณมังกรนะครับ” แล้วเขาก็รีบเดินออกไปทันที

     

              ฟ้าครามเดินหลบไปด้านหลัง ปล่อยงานด้านหน้าให้เป็นงานของพายุส่วนเขารีบลงไปที่ลานจอดรถ

 

 

               “ขอบคุณมากนะป้า นี่ครับค่าจ้างที่เหลือ” เขาส่งสองหนาสีน้ำตาลให้แม่บ้านในนั้นมีจำนวนเงินไม่น้อยเลยที่เดียวสำหรับงาง่ายๆ เขาอุ้มตัวมังกรจากรถเข็นและพาขึ้นไปนั่งในรถจัดตัวให้นอนในท่าสบาย...

 

              “ขอบใจมึงมากนะพุฒที่เป็นธุระให้”ฟ้าครามเอ่ยอย่างจริงใจ เสื้อผ้าและข้าวของจำเป็นถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบอยู่ที่เบาะหลัง มังกรยังคงหลับสนิท

 

             หลังจากที่แยกกับเจ้านาย พุฒ ต้องไปดูแลงานที่ผับแทนร่างสูง ซึ่งฟ้ครามบอกทุกอย่างให้ไม้รับรู้เรียบร้อย

 

 

             ฟ้าครามขับรถออกมาตามเส้นทางทิ้งความวุ่นวายไว้เบื้องหลัง ข้างกายมีหมอหนุ่มนอนหลับตาพริ้ม ไม่รับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น มือหนายกลูบหัวตนหลับด้วยใจรักคนที่ดูแลเขามาตลอด คนที่เขาทำระยำไว้มากมาย คนข้างกายที่เขาเคยมองข้ามและปฏิเสธความรู้ตัวเองตั้งแต่แรก...ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้มันจะครอบครองเขาไว้ทั้งกายและหัวใจ

 

           “หึ ตื่นมาคงไม่งอนฟ้อนเล็บใส่กูหรอกนะไอหมอ” เขาหัวเราะนิดๆ เพราะอีกไม่นานยาก็จะคงหมดฤทธิ์   

 

 

++++++++++++++++

 

ด้านพายุ

 

          “มันหมายความว่ายังไงข้าวฟ่างที่บอกว่า เจ้าครามมัน..โถ่วลูก” หลังจากที่ได้ฟังความจริงทั้งหมดจากพายุและข้าวฟ่างคนเป็นแม่ถือกับลมจับ

 

     

           "เป็นอย่างที่เล่านั่นแหละครับคุณป้า"ใบหน้าเล็กสลดลง ภิมผกาดูจะงงเล็กน้อย แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเรื่องมันเกิดแล้วก็ต้องปล่อยให้มันเกิดไป เธอก็ไม่ได้นึกรังเกลียดอะไรข้าวฟ่างออกจะถูกใจด้วยซ้ำ เพราะเจ้าตัวดูเป็นคนมั่นใจในตนเอง ตอนที่บอกเรื่องของพายุ

 

         “ทำไมมันผิดคู่ไปหมดเลยเนี้ย แม่ไม่คิดว่า มังกับกับฟ้าครามจะรักกัน แล้วสองคนนั้น..”เมื่อนึกขึ้นได้ก็ลุกพรวด

 

          “มังกรละ” พอดีกับชายผู้นำทั้งสองกลับมาทั้งหมดหันไปมองทั้งสอง

 

           “นี่มันอะไรกัน”สหรัฐเห็นพายุโอบกอดเด็กชายอีกคนไว้อย่างไม่พอใจในตัวข้าวฟ่างที่มายุ่งกับสามีของลูกเพื่อน

 

           “คุณคะใจเย็นคะ” ภิมผกาเล่าทุกอย่างที่ตนรู้ให้ก้องภพกับสหรัฐฟัง และทุกอย่างก็กระจ่างแจ้ง

 

            “เจ้าครามมันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในตอนนี้ และที่สำคัญมันเอาตัวเจ้ากรไปด้วย”ก้องภพกุมขมับ

 

            “ครามมันดูแลกรได้อยู่แล้วครับคุณลุง”ข้าวฟ่างพูดขึ้นมาบ้าง

 

             “แล้วเรา บอกพ่อกับแม่รึยังว่าเอาตัวเองมาแต่งงานแทนเจ้ากรมัน ร่างเล็กส่ายหน้าแล้วหันไปสบตาคนตัวสูง

 

          “ผมจะไปสู่ขอข้าวฟ่างกับพ่อแม่ของฟ่างเองครับ ผมจะรับผิดชอบทุกๆอย่าง”พายุบอกด้วยแววตามุ่งมั่น

 

         “พอครับเป็นเถ้าแกให้ยุอีกครั้งนะครับ” พายุมัดมือชกสหรัฐ

 

          “เห้ย มันจะเร็วไปไหม ถ้าพวกแกเข้ากันไม่ได้ละ ไม่ต้องมาหย่ากันทีหลังรึไง”สหรัฐแย้งขึ้นมา

 

          “พ่อ” พายุหน้าตึงทันที

 

          “เอาน่าในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปแล้ว รอให้สองคนนั่นกลับมาทำทุกอย่างให้ถูกต้องแล้วเราสองคนค่อยคิดว่าจะเอาไงกันต่อ ความรักนะพ่อกับแม่ไม่ขัด ลูกรักใครพ่อแม่ก็รักด้วย แต่ชีวิตคู่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดนะพายุ น้องก็ยังเด็ก นี่จบม.ปลายรึยังก็ไม่รู้”

 

สหรัฐพูดด้วยความเป็นห่วง

             “เอ่อ  คืออ ฟ่างจบมหาลัยมานานแล้วครับ ตอนนี้เป็นคอลัมนิสให้กับนิตยาสารที่อเมริกากับที่the risheในไทยครับ” ข้าวฟ่างแย้งขึ้นมาบ้าง สหรัฐอึ้งไปนิด ถึงว่าอายุ18จะไปเป็นเพื่อกับมังกรได้ยังไง

 

            “ผมอายุ27แล้วครับคุณอา” ฟ่างบอกอีก

 

             “27!!!”

 

            “ครับ27” สหรัฐยิ้มเจือนทันทีกับรอยร้าวบนใบหน้า ก้องได้แต่นั่งขำเพราะตนเองก็ไม่ได้บอกว่าฟ่างนั้นเป็นใครมาก่อน....

 

เรื่องทุกอย่างกำลังจะเข้าที่ งานแต่งก็ผ่านไปด้วยดี รอแค่เวลา ให้ฟ้าครามกับพายุมาคลี่คลายปัญหาทุกอย่างก็พอ....

 

 

2cb

 

cr.บทคำพูดสาบานรัก

http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums2/http/www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5094703/Y5094703.html

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ปล.ครบ100แล้ว  เห้ออเหนื่อย มากกก 555+

ถ้างง สงสัย และไม่ไหลลื่น ไม่สนุก  บอกได้นะคะ เค้าจะได้ปรับแก้

สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็น่าจะจบไปในทิศทางที่ดี

ตอนแรกตอนจบมันไม่ได้สวยงามหรอกนะคะไรท์เขียนไว้

ในแบบหน่วงจนวินาทีสุดท้าย แต่ทว่า

สงสารมังกรอะ ก็เลยอยากให้ได้หวานๆบ้าง

เรื่องนี่ป็นอีกเรื่องที่กำลังจะจบ ในตอนหน้า 555+

เราจะได้ขึ้นเรื่องสายมแห่งรักทันที ซึ่งเปิดตอนไปแล้วเบาๆ1ตอน 555+

ฝากติดตามด้วยนะคะ

และขอโทษที่ทำให้รอนะ

รักทุกคนมาก จุฟ

2015-08-02



ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ใจร้าว

 

ตอนที่ 23

 

The end …..

 

 

 

(มังกร’talk)

                       หลังจากผ่านพ้นงานแต่ง ผมถูกฟ้าครามลักพาตัวขึ้นมาบนดอยสูง มันพาผมมาเป็นหมออาสาและมันก็เป็นครูอาสาสอนเด็กบนดอย ที่ยังรอคอยคนอย่างพวกผม  ผมไม่รู้ว่าฟ้าครามจัดการเรื่องของพวกเรายังไง เพราะมันไม่ยอมบอกผมเลยสักคำ มันบอกแค่ว่า ตั้งใจรักษาคนที่นี่และอยู่อย่างมีความสุขกับมันก็พอ ไม่ต้องห่วงหรือกังวลอะไรทั้งนั้น ใช้เวลาสองอาทิตย์ให้คุ้มค่า ก่อนที่จะต้องลุยงานหนักที่โรงพยาบาล

                           บนเขาสูงหมู่บ้านแห่งใน จังหวัดเชียงใหม่  ตอนแรกที่ผมตื่นขึ้นมากลางทาง ฟ้าครามมันหันมายิ้มกว้างให้ผม ผมโวยและซัดมันไปหลายหมัดโทษฐานทำผมตกใจ ผมไม่พูดกับมันเลยสักคำ จนถึงเชียงใหม่ มันดึกมากแล้ว มันเอารถมาจอดที่บ้านของมันที่ซื้อไว้นานแล้ว เราพักผ่อนกันเพราะครามมันเหนื่อยจากการขับรถเป็นระยะเวลานาน พอหัวถึงหมอนมันก็หลับปั๊บ ผมเองก็เช่นกัน หลับตามมันไป และมันก็ปลุกผมให้ตื่นแต่เช้า ขับรถไปที่ตำบลแม่สาว เราต้องจอดรถ ไว้ที่นั่น เพราะหมูบ้านที่มันจะพาไปต้องเดินเท้าเข้าไป..ทางมันลำบากมากเลยละครับ ครามมันเคยมาเป็นครูอาสาที่นี่ มันเลยรู้ทางดี ผมต้องขึ้นเขาลงห้วย ผ่านสวนลำไย ลิ้นจี่ ผ่านป่า อะไรต่อมิอะไร

                        กระเป๋าแพทย์กับอุปกรณ์ต่างๆถูกขนขึ้นไปได้สองสามวันก่อนที่พวกผมจะมา... พอผมมาถึง บอกได้เลยครับ ว่าสวรรค์บนดินมันมีจริง ความเหนื่อยล้ามันหายไปหมด เด็กๆตัวเล็กตัวน้อยในชุดชนเผ่า พากันวิ่งกรูมาหาพวกผมด้วยความดีใจโดยมีครูอาสาท่านอื่นๆเดินตามมาทีหลังพวกเราทักทายเด็กๆซึ่งพอพูดภาษไทยได้บ้างเด็กที่นี่จะมีภาษาถิ่นของตัวเอง

 

                         ครูแม็ก ครูขิง ครูยา คือนักศึกษาครุศาสน์ ที่เลือกมาฝึกสอนที่นี่ ด้วยอุดมการณ์เดียวกันมีเพียงผมที่เป็นหมอ และที่นี่การแพทย์ยังไม่ค่อยดีนัก เพราะชนเผ่ายังคงรักษาแบบพื้นบ้านกันอยู่ ครูแม็กพาผมและฟ้าครามไปยังบ้านพัก และบ้านเรือนส่วนใหญ่ที่นี่จะสร้างจากลำไม้ไผ่ยกพื้นสูงและมีเตาไฟไว้กลางบ้าน

                       

                 เพื่อสร้างความอบอุ่นและทำอาหาร แวบแรกที่เห็นคือ ผมจะอยู่ได้ไหม เพราะที่นี่ไม่มีอะไรเลย ทั้งน้ำประปา ไฟฟ้า  หรือแม้กระทั้งคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ ที่ต้องเดินหาเอาเอง   วันแรกของการเป็นหมออาสา หนักเอาการเลยครับ... สถานีอนามัยที่สร้างจากดินและไม้ไผ่ ไม่อุปกรณ์อะไรใดๆนอกจากโต๊ะทำงานกับเตียงตรวจคนไข้ ยังดีที่ยังมีตู้ยา เพราะหมอยังไม่ได้รับความนิยมเท่ากับพ่อหมอของหมู่บ้าน  จนผมต้องเดินออกตรวจไปทุกๆบ้านโดยมีครูแม็กเป็นผู้ช่วยในการสื่อสารให้

 

          “เออ หมอครับ พักบ้างก็ดีนะครับ ตรวจมาหลายบ้านแล้ว” เสียงนุ่มๆของครูแม็กเอ่ยทักผมเมื่อผมลงจากบ้านของแม่อุ้ยคำ ซึ่งป่วยเป็นเบาหวาน กินยาต้มของพ่อหมอประจำหมู่บ้าน ผมกล่อมอยู่นานกว่าแกจะยอมรับยาที่ผมจัดเตรียมไว้ให้ ยังดีที่คนในหมู่บ้านทานผักทานปลาที่ปราศจากมลพิษทำให้ร่างกายแข็งแรง

 

            “ครับเอางั้นก็ได้ ไว้ลุยต่อพรุ่งนี้” ผมบอกพร้อมกับคลี่ยิ้มไปให้ ครูแม็กเดินนำผมไปยังร้านค้าประจำหมู่บ้านเพื่อซื้อน้ำและขนมพื้นเมือง

             “อ่าว หมอ ครู รับอะไรดีครับ”คะแซหรือผู้ใหญ่บ้านเอ่ยทักผมกับแม็ก

             

             “ขอน้ำลำไยสามขวดกับข้าวเหนียวหมูครับคะแซ”ผมบอกคะแซ แม็กมองหน้าผม

 

               “อ่อ ของครูขวดหนึ่ง ของ ผมแล้วก็ของครามนะครับ แล้วตอนนี้ครามอยู่ที่ไหรหรอครับ” ผมหันไปหาคะแซในถาม

               

             “อ่อ ครูครามนะเหรอ อยู่ตรงฝายกั้นน้ำ  เห็นว่าไปช่วยชาวบ้านทำฝายใหม่นะครับ”คะแซพูดภาไทยไม่ค่อยจะชัด แต่ก็พอฟังออก ผมยกมือไหว้ขอบคุรและจ่ายเงินเรียบร้อย

               

              “ครูแม็กพาผมไปหาครามได้ไหมครับ” ผมยืนน้ำลำไยกับข้าวเหนียวส่งให้ เขายิ้มรับ

             

              “ได้สิครับ”

 

 

             พวกเราเดินลัดไปทางป่ากล้วยทะลุผ่านสวนผักแปลงเล็กๆนิดเดียงก็ถึงฝายกั้นน้ำที่ว่า ผมเห็นฟ้าครามลงไปแช่น้ำอยู่ครึ่งท่อน เสื้อตัวบนถูกถอดออก โดยมีครูยา กับครูขิง ครูสาวยืนดูอยู่ห่างๆ จากระยะสายตาผมเองเห็นทั้งคู่จับจ้องไปที่แผงอกแกร่งของคราม..มือผมกำแน่นทันที  นึกหงุดหงิดใจขึ้นมาซะดื้อๆ ผมเดินข้ามก้อนหินที่เรียงกันเป็นทางเดินเล็กไปยังลำธารใสเบื้องล่าง ด้วยความรีบร้อน เท้าผมเดินไปเหยีบหินที่มี ตะไคร่น้ำเกาะอยู่

 

           “เหวอออ...”ผมหงายหลังทันที

 

        “ระวังหน่อยสิครับ” เสียงดุดังมาจากคนที่รับตัวผมไว้ได้ทัน สองแขนแกร่งสอดและโอบผมไว้ที่เอวอย่างหลวมๆแผ่นหลังผมพิงกับอกกว้าง ผมเงยหน้าขึ้นไปมองแล้วยิ้มแหยเป็นเอชิงขอโทษ แต่หารู้ไม่ว่าเสียงผมมันดังจนครามหันขึ้นมามอง มันทำปากขมุบขมิบก่อนจะเดินมาหาพวกผม

 

         “ขอบคุณนะ” สายตาผมมองยังยังร่างสูงที่เดินดุ่มๆขึ้นจากน้ำ ด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ

 

       “ทำอะไร”มันถามเสียงเข้มแต่สายตาหันไปมองคนด้านหลัง

 

     “กูลิ่น”ผมรีบบอก

 

     “ไม่ใช่มึงแต่เป็นมัน..กูถามก็ตอบสิ” ฟ้าครามหันไปถามแม็กที่ยืนมองครามนิ่งๆ

 

“ก็ไม่ได้ทำอะไร หมอเค้าจะลื่นผมก็แค่ช่วยรับไว้”

 

“ไม่ใช่ กูเห็นผมลูบเอวไอ้หมอแถมมึงแอบดมผมมันอีก” ฟ้าครามว่าเสียงเครียด ความสัมพันธ์แบบชายรักชายคนที่นี่ส่วนใหญ่ยังไม่ยอมรับจะมีบ้างที่คนจากหมู่บ้านที่ลงไปทำงานในเมืองหรือกรุงเทพแล้วกลับมาที่บ้านที่ยังพอรับรู้และเข้าใจเพศที่สาม

 

“.....”ผมหันไปมองคนข้างหลังทันที

 

“แล้วแต่จะคิดละกัน รู้ว่าผมไม่เคยคิดอกุศลแบบคุณ”ครูแม็กเดินลงไปที่ลำธารโดยไม่หันมามองผม

 

“เป็นไงมาได้สองวันกลิ่นมึงนี่ฟุ้งเชียว สงสัยกูคงต้องกลบกลิ่นสักรอบสองรอบ” ฟ้าครามโอบคอผมไว้แล้วกระซิบเสียงเย็นทำเอาผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว

 

“ผิดผีนะมึง...”

 

“หึ..กูผิดมานานแล้วผีนะ”พูดเสร็จมันก็จูงมือผมลงไปกั้นฝายกับมัน น้ำในลำธารเย็นสบายและใสสะอาด

           

              ครูแม็กลงมาช่วยพร้อมกับครูขิงและครูยา ส่งหินต่อกันมาเป็นทอดให้ผมกับครามและชาวบ้านช่วยกันวางเป็นชั้นๆสลับกับท่อนไม้ไผ่ที่สานเป็นแพมาอย่างดี กว่าจะเสร็จก็บ่ายคล้อย ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านเพื่อไปเตรียมอาหารเย็น ครามชายตามองแม็กที่มองมาที่ผมฟ้าครามสอดมือตัวเองเข้ามาในเสื้อผมต่อหน้าแม็กและอาศัยจังหวะที่ทุกคนหันหลัง ฟ้าครามจูบผมเย้ยครูแม็กทันที  ...

 

“อื้ออ คราม ทำอะไรของมึงเนี้ย”ร่างสูกยกยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นแม็กเดินหนีออกไป

 

“ไล่แมลงหวี่แมลงวันที่มันมาตอมขี้ของกูนะ”

 

“ -*-“

 

“หึงกูก็บอกมา ไอ้หมาหวงก้าง”ผมเหล่ตามอง

 

“เปล๊า ใครหึง ไม่มี้”ฟ้าครามลากลมลงไปในน้ำที่มันลึกขึ้นอีกนิด

 

“แล้วมึงจะลากกูลงมาทำไมให้มันเปียกเยอะกว่าเดิม” ตอนนี้ระดับน้ำอยู่ที่ใต้หน้าอกผม

 

“เอาน่า อย่าบ่นมาก มานี่”ฟ้าครามรั้งเอวผมให้เข้าหามัน แก่นกายใหญ่นูนขึ้นช้าๆ และมันกำลังถูหน้าขาผมอยู่ ใจผมเต้นแรง มันจะมาอยากอะไรตอนนี้....

 

“ครามไม่เอานะมึง...กูกลัว”ผมบอกไปตามความจริง เพราะบรรยากาศที่นี้ นอกจากจะมีมนต์ขลังทำให้หลงเสน่ห์เทือกเขาลำเนาไพรแล้วที่นี้ก็เจ้าที่แรงใช่เล่น จากที่ผมได้ฟังคำบอกเล่าของแม็ก กับคนในหมู่บ้านเล่าให้ฟัง

 

“หึหึหึ ...มึงไปฟังใครเค้าเล่าอะไรมาอีกละ...นิทานหลอกเด็กวะ 555”ผมหันไปมองมันที่ยิ้มพร้อมกับหัวเราะเห็นผมกลัวเป็นเรื่องตลก

 

“ไม่ขำฟ้าคราม” ผมว่าเสียงเขียว มัยยังคงหัวเราะแล้วขยี้หัวผมเบาๆ

 

“อย่าไปคิดมาก...กูเคยมาที่นี่ นานแล้ว ไม่อย่างที่มึงว่าหรอก คนเถ้าคนแก่เขาเอาไว้ขู่เด็กที่ชอบนอกลู่นอกทาง”

 

   เสียงนุ่มอธิบาย ทำให้ผมเบาใจ ดวงหน้าหล่อค่อยๆโน้มมาหาผมช้าๆ จนปากของเราประกบกัน รสจูบที่นุ่มนวลทำให้ผมเคลิ้มได้ไม่ยาก  ดวงตาค่อยผมหลับลงช้าๆ พร้อมกับยกแขนขึ้นคล้องคอหนา ฟ้าครามยกตัวผมขึ้น ขาเรียวผมตวัดรอบเอวสอบทันที

 

“อึอ  อืมม อื้อมม” ปาดเราหางกันได้ไม่ถึงสองวิก็ประกบกันใหม่เป็นแบบนั้นอยู่หลายรอบ  จากปากลาลงมาที่คอปากหนากัดลงทีคอผมเต็มแรง

 

“เหี้ย คราม ..กัดทำไม”ผมรองเสียงดังเพราะมันเจ็บ

 

“หมั้นใส”

 

“โรคจิตนะมึงอะ อื้ออ ..” ฟ้าครามสอดมือเข้าไปใต้สาบเสื้อของ มือหนากำลังหยอกล้อกับยอดแกของผม ร่างกายผมมันร้อนรุ่มไปหมด ทั้งๆที่ผมอยู่ในน้ำเย็นเฉียบ ... ฟ้าครามยกตัวผมขึ้นให้สูงกว่าเดิม หน้าอกผมอยู่ระดับริมฝีปากมันพอดี

 

“อื้อ คราม อา เดี๋ยวมีคนมาเห็น...อื้ม..”ผมร้องห้ามเสียงสั่น แก่นกายของผมกับมันกำลังบดเบียดกัน..มันยิ่งทำให้ความต้องการของผมมีเพิ่มมากขึ้น

 

“นิดเดียวนะ ไม่ต้องสอดใส่”ฟ้าครามว่าเสียงหื่น

 

"นะ นะ ครับน้า คนดี ผัว อยากจนจะลงแดงแล้วเนี้ย"ฟ้าครามอ้อนผมได้น่าเตะมาก ร้อยวันพันปีไม่เคนคิดจะทำ แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกว่า ตัวมันก็มีมุมน่ารัก และทำให้ผมรู้สึกเขินมากๆด้วย

 

“.....”ผมได้แต่ก้มหน้าซ่อนความอายเอาไว้  ฟ้าครามค่อยๆดึงกางเกงผมลงไปที่แก้มก้นของมันเองก็ด้วย แก่นกายต่างขนาดของผมกับมัน ตอนนี้ถูกรวบเอาไว้ในฝ่ามืออุ่นใต้น้ำ และเริ่มขยับโดยฟ้าคราม

 

“อื้ออ...คราม อื้อ”ผมกอดคอฟ้าครามแน่นพร้อมกับเอาหน้าซุกลงกับบ่าระบายความเสียวด้วยการกัดไหล่นั่นเต็มแรง

 

“ซี๊ดดด ไอ้หมอ..กัดแรงแบบนี้ เสียวละสิ อยากได้มากว่านี้ไหมละ”ไม่ต้องรอให้ผมตอบมันก้มหัวลงไปชิมยอดอกอิ่มของผมเรียบร้อย

 

“คราม...อื้ออ ...กู อ๊า..จะทนไม่ไหวแล้ว..แฮกๆๆ” ผมจิกเล็บลงบนแผ่นหลังพร้อมกับขูด เป็นทางยาวตลอดกลางหลัง

 

“ระ เร็วอีก..อื้ออ คราม อ๊า.. คราม”สัมผัสจากฟ้าคราม สัมผัสที่เป็นดั่งไฟเผาทุกอย่างให้มอดไหม้ แม้กระตัวตนของผม ที่ฟ้าคราม

ครองครอง แรงสัมผัสจากใต้น้ำที่ทั้งเร็วและรุนแรงตามความปรารถนาของผม ร่างกายผมสั่นสะท้าน กล้ามแขนฟ้าครามเกรงและ

สั่นนิดๆ บหน้าหล่อคมแสดงสีหน้าออกมาเด่นชัดว่าตอนนี้รู้สึกดีแค่ไหน ใบหน้าที่ผมปรารถนาจะอยู่ด้วยทั้งชีวิต ฟ้าครามซ๊ดปาก

ปากเบาๆ เสียงแผ่นน้ำที่กระทบกันจนเกิดเสียงน่าอาย ขาเรียวผมรัดตัวฟ้าครามากขึ้นเมื้อความรู้สึกที่มันอัดอ้นไว้พุ่งทะยานขึ้นมา

สู่ปลายยอดร่างกายผมสั่นสะท้าน และกระตุกเกร็ง พร้อมๆกับฟ้าคราม

 

“อะ อะ อะ อ๊า..........ฮื่อ..แฮกๆ”

 

“หึ่ม อื้ออออ..อื้อออ”

 

สารธารสีขาวกำลังไหลไปตามสายน้ำ ผมมองมันไหลออกไปเรื่อยๆจนสุดสายตา ไม่น่าเชื่อว่าการที่ผมปลดปล่อยครั้งนี้ มันจะ

ทำให้ผมเหนื่อยเสียจนตาผมค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆและหลับไปด้วยความเพลีย..

 

(จบมังกรpart)

 

“หึหึ หมดแรงจนหลับเลยรึไง” เสียงฟ้าครามเอ่ยขึ้นเบาๆก่อนจะจัดการดึงกางเกงของตนเองกับคนรักขึ้น ร่างสูงอุ้มหมอหนุ่มขึ้น

จากน้ำและตรงไปยังบ้านพักโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น

 

“กร ตื่นได้แล้ว ถึงบ้านแล้ว” ฟ้าครามเรียกคนที่หลับซุกซอกคอเขา

 

“อืมมม คราม กูรักมึงจัง”เสียงระเมองัวเงียอยู่ข้างหู ร่างสูงหัวเราออกมาเบาๆ

 

“เออ กูก็รักมึง แต่ตอนนี้มึงตื่นก่อนได้ไหม กูหนัก”

 

“อุ้มเมียแค่นี้ทำเป็นบ่น- -“ มังกรลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะงับติ่งหูร่างสูงเบาๆเป็นการลงโทษ

 

“ทำแบบนั้นเดี๋ยวคืนนี้ก็ไม่ต้องนอนหรอก”น้ำเสียงเย็นๆที่บอกว่าเอาจริงทำให้คนฟังขนลุกซู่

 

“คราม!!! อย่ามาหืน” ร่างสูงปล่อยคนตัวเล็กลงที่หน้าระเบียงประตู ที่มีสำรับข้าววางอยู่ มีน้ำพริกล่อซู กับผัดผัก มีไข่ต้มยางมะตูม แล้วก็ผักต้มอีกสองสามอย่าง ไข่ที่นี่สดมากเพราะเก็บเอาจากในเล้า ผักก็ปลอดสารพิษ คงจะเป็นคาแซะที่เอามาไว้ให้

 

“ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไป กูจะก่อเตาเอาไว้ให้” ฟ้าครามโยนผ้าเช็ดตัวไปให้ ร่างโปร่งรับมันได้ทันก่อนที่มันจะพุ่งกระแทกหน้า

ที่นี่ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว แต่ทุคนจะอาบน้ำกันที่บ่อบาดาลที่มีปั้มสูบน้ำใส่ตุ่มใบใหญ่ไว้แทน หรือจะไปอาบที่ลำธารก็ได้ตรงท้าย

หมู่บ้านก็ได้แต่จะไกลหน่อย ตอนนี้ ชาวบ้านคงจะอาบน้ำกันอยู่ มังกรอุ้มขันน้ำที่ใส่เครื่องอาบน้ำเดินลงบันไดไป มุงหน้าสู่สถาน

ที่อาบน้ำ  พอมาถึง...

 

“ครูแม็ก?” ในตอนนั้นแม็กเองก็พึ่งจะมาถึง มังกรเองก็ทำหน้าไม่ถูกเพราะฟ้าครามพึ่งจะจูบเขาต่อหน้าไปเมื่อบ่าย..

 

“อะ เอ่อ บังเอิญจังนะครับ”แม็กเอ่ยทักพร้อมกับหลบสายตามังกรนิดๆ

 

“ครับ ดีจังที่เจอผมนึกวาจะต้องมาอาบน้ำคนเดียวซะแล้ว”มังกรเองใจชื้นนิดๆที่แม็กยังคงพูดคุยกับเขาแบบปรกติ

 

“แล้วฟ้าครามละครับไม่มาด้วยเหรอ” แม็กพูดไปถอดเสื้อผ้าไป มังกรเองก็เช่น เพราะไม่มีอะไรจะต้องอายและไม่ได้คิดอะไรกับอีกคนเขาจึงไม่รู้สึกที่จะอาย..ผิดกับอีกคนที่แอบมองเรือนร่างของอีกฝ่ายด้วยใจเต้นระรัว  รอยกุหลาบ จางๆที่ฟ้าครามทำไว้ ยิ่งทำให้ร่างโปร่งดูน่ามองยิ่งกว่าเก่า  แม็กเป็นคนโยกคันโยกน้ำใส่ตุ่ม มังกรรอจนน้ำเต็มเพื่อจะได้อาบพร้อมกัน

 

“เต็มแล้วครับครูแม็ก”

 

“คะ ครับ งั้นเราอาบกันดีกว่าเดี๋ยวจะมืดไปกว่านี้”

 

“ครับ” ทั้งอาบน้ำไปคุยกันไป ทั้งเรื่องวิถีของคนที่อยู่ที่นี่ และ สถานที่ต่างๆที่น่าสนใจ การสนทนาที่ไม่รู้เลยว่าปีศาจเลือดเย็นกำลังก้าวเข้าหาพวกเขาอย่างช้าๆ...

ออฟไลน์ minamiaigi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: II (ใจร้าว) II up...ตอนที่23.2 the End อัพ 2/09/15
«ตอบ #89 เมื่อ03-09-2015 00:06:19 »

“คุยสนุกมากสินะ!!!”

 

“!!!!!!”

 

“หึ..มาอาบน้ำเหรอครับครู..”แม็กถามออกไปยิ้มๆแถมยังใช้สายตายียวนไปให้ร่างสูงที่เดินเข้ามา

 

“มาอาบน้ำให้ลูกแมว ลูกแมวแถมนี้มันดื้อ”ฟ้าครามปลายไปมองร่างโปร่งที่อาบน้ำอยู่เงียบ

 

“หึหึ ผมไม่เห็นจะมีลูกแมวอย่างที่ว่า เห็นจะมีก็แต่” แม็กเดินไปจับไหล่เนียนของมังกร

 

แปะ

 

“คุณหมอคนน่ารัก อยู่ตรงนี้ใช้ไหมครับ”แม็กหันไปยิ้มยิงฟัน จงใจยั่วโทสะร่างสูงเต็มที่

 

“อะ เอ่ออ คะ ครับ” มังกรหันไปมองหน้าฟ้าคราม ดวงหน้าหล่อตอนนี้ดูเงียบขรึม เขารู้สึกได้พายุลูกใหญ่กำลังจะมาในไม่ช้า

 

“อาบเสร็จรึยัง”ฟ้าครามหันมาถามหมอหนุ่มเสียงนิ่ง

 

“สะ เสร็จแล้ว”มังกรรีบพันผ้ารอบเอว

 

“แต่กูยังไม่ได้อาบ อาบให้กูหน่อย”

 

“อื้อ ถอดเสื้อผ้าสิ”ฟ้าครามหันไปยกยิ้มให้กับอีกคนที่ยืนมองทั้งไม่วางตา

 

“ถอดให้กูหน่อย”มังกรเดินเข้าไปใกล้ร่างสูงด้วยความเคยชินและถอดเสื้อให้

 

“กางเกงด้วย”ฟ้าครามบอกเสียงเรียบ สายตาของเขายังไม่ละไปจากชายหนุ่มที่ยืนมองโดยไม่พูดอะไร

 

“ห๊า มึงจะแก้ผ้าอาบน้ำเหรอคราม”มังกรถามด้วยความตกใจ ลืมไปเลยว่ามีอีกคนอยู่ด้วย

 

“หึหึ กูมีกางเกงในกลัวอะไร ไหนบอกชอบดูของกูถอดสิ”

 

“ถอดเองสิวะ แมร่งเดี๋ยวคนเค้าก็เข้าใจผิดกันพอดี เขาจะจะหาว่ากูวิตถาร”

 

“หึหึ จะเป็นไรไปมากกว่านี้มึงก็เคยไอ้หมอ” มังกรได้ยินก็หน้าร้อนทันที นึกด่าคนตัวโตในใจ

 

“พูดเหี้ยอะไรเนี้ยๆไอ้คราม...กูอายเค้า” มังกรก้มหน้าลงพื้นพูดเสียงแผ่วท้ายประโยคด้วยความอายที่ซ่อนเอาไว้ไม่อยู่ แถมตอนนี้ไม่กล้าสู้หน้าแม็กแล้วตอนนี้

 

“แล้วมึงละ อาบเสร็จแล้วทำไมไม่ไป ผัวเมียเค้าจะอาบน้ำกัน”

 

“หึ ไปแน่ครับ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะครับ ว่าจะทำอะไรเกรงใจผีปู่ผีย่าบ้างละกัน” พอแม็กเดินออกไป หมอหนุ่มก็ฟาดมือใส่ฟ้าครามทันที

 

“มึงอะ เล่นอะไรของมึง ดูครูเค้าอายลืมสบู่เลย”

“เรื่องของมันมึงจะสนใจทำ ไมสนกูนี่”

 

“ชิ”

 

                                 มังกรเดินไปโยกน้ำใส่ตุ่มอีกครั้ง จนเต็มฟ้าครามนั่งลงกับเก้าอี้ไม้ตัวเล็ก ท้องฟ้ามืดลงอย่างช้าๆ ไฟจากตะเกียงเจ้าพายุถูกจุกขึ้นจากเสาไม้ไม้ไผ่ แสงสีส้มส่องสว่างเพียงแค่พื้นที่แคบๆพอให้เห็นสรรพสิ่งรอบกาย  น้ำเย็นๆถูกลาดลงบนหัวจากบนลงล่าง มังกรขำนิดๆเมื่อเห็นว่าคนตัวโตปากสั่น มังกรสระผมให้ฟ้าคราม ส่วนตัวฟ้าครามก็ถูสบู่ตัวเองไปด้วย

 

“อื้ออ  กร ยาสระผมเข้าตา”

 

“หา ไหนๆดูซิ”ร่างสูงเงยหน้าหยีตา มังกรตักน้ำรดล้างฟองสบู่ให้

 

“หายยัง” ฟ้าครามพยักหน้า

 

“ถูหลังให้หน่อย”แล้วยื่นใยบวบให้มังกร ร่างโปร่งรับมาถูที่หลัง

 

“หือออ ปั้นควายได้เป็นคอกเลยมึง”มังกรแกล้งบอก ซึ่งจริงๆแล้วมันไม่มีเลย

 

“โกหกแล้วไอ้หมอ”

 

“ไม่เชื่อมึงจะดูมะ”

 

“ไม่ต้อง รีบๆถูดิกูหนาว”มังกรเลยตะบี้ตะบันขัดหลังขาวจนกลายเป็นสีแดง

 

“อื้ออ แมร่ง  ทั้งแสบทั้งมันเลยมึง” มังกรแอบหัวเราะในมุมบ้านๆของฟ้าคราม

 

 

                  หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ฟ้าครามจัดสำรับไว้ที่ระเบียงบ้านซึ่งด้านหน้าระเบียงยื่นออกไปตรงเนินดินสูง ด้านล่างเป็นผาเตี้ยๆ จากตรงนี้ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ทั่วถึง รวมถึงท้องฟ้าด้วยเช่นกัน ในยามค่ำคืนหมู่ห่างไกลเมืองหลวงเช่นนี้    ไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่จะอาศัยเครื่องปั่นไฟ กับแผงโซล่าเซลของหมู่บ้าน และจะถูกนำมาใช้ในยามมีงาน หรือจำเป็นเท่านั้น แสงสว่างที่ได้เลยมาจากเทียนไขหรือตะเกียงน้ำมันแทน  โต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็กๆตั้งอยู่กลางลานระเบียง มีเทียนไขปักอยู่ตรงกลาง บนโต๊ะมีอาหารพื้นบ้านแค่สองสามอย่างทั้งเดินจูงมือกันมานั่งกินข้าว อากาศเริ่มจะเย็นลงเรื่อยๆ...ฟ้าครามนั่งลงก่อน

              “หมอมึงไปหยิบน้ำมาทีกูลืม” มังกรทำหน้ายู่เพราะรู้สึกหิวมากแล้วแต่ก็ต้องจำยอมเดินไปหยิบคนโทใส่น้ำที่ทำจากดินปั้นสีแดงอย่างดีใส่น้ำฝนใสสะอาดไว้จนเต็ม กับขันเงินอันเล็กๆ เวลาดื่มน้ำ จะรู้สึกสดชื่นมาก..ทั้งคู่กินข้าวกันไปคุยกันไป มีบ้างที่เถียงกันทะเลาะกันนิดๆหน่อย  ชาวบ้านที่นี่นอนเร็วเพราะไม่มีสิ่งบันเทิงอะไรให้ดู ต้องตื่นแต่เช้าทำไร่ทำนา ทอผ้า  และยุ่งช่วงปีใหม่เพราะมีงานและต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย

 

              เมื่อกินอิ่ม ฟ้าครามก็เก็บสำรับ หยิบผ้าห่มกับหมอนติดมือออกมา ร่างสุงเดินไปนั่งพิงริมระเบียงฝ่ามือตบลงที่พื้นที่ว่าตรงระหว่างขาตัวเองเพื่อให้มังกรมานั่ง ร่างโปร่งขยับเข้าหาโดยไม่อิดออด ฟ้าครามใช้ผ้าห่มคลุมตัวเขาและหมอหนุ่มเอาไว้ หัวทุยพิงแกแกร่งแหงนหน้ามองดูดาวด้วยความชื่นชอบ

 

“ครามมึงว่ามะที่นี่น่าอยู่กว่ากรุงเทพอีก ดูสิ กูหายใจได้เต็มปอด ไม่ต้องทนฟังเสียงรถเสียงเพลง เสียงคนทะเลาะกัน”

 

“ติดใจละสิ”

 

“อืม กูว่าถ้ากูอายุมาขึ้นกูจะซื้อที่บนภูเขาสักไร่สองไร่ไว้สร้างบ้านหลังเล็กๆปลูกผักเลี้ยงปลาเลี้ยงไก่ไว้กิน  ใช้ชีวิตบั้นปลายที่เหลืออย่างสงบๆมึงว่าดีมะ” ร่างบางเงยหน้าขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม ฟ้าครามลูบผมนิ่มพร้อมกับจูบลงที่หน้าผาก...

 

“แล้วบั้นปลายชีวิตมึงจะมีกูดูแลและคอยเคียงข้าง เป็นแบบนี้ได้ไหม”ฟ้าครามเอ่ยเสียงนุ่ม หมอหนุ่มรู้สึกดีกับคำพูดของคนรัก

 

“ให้กูอยู่กับมึงจนหมดลมหายใจไปด้วยกันนะ”

 

“คราม”มังกรเอ่ยเสียงแผ่ว

 

“กูไม่คิดว่าชีวิตกูจะดูแลใครได้ หรือรักใครได้ แต่มึงทำให้กูได้รู้ว่าคนอย่างฟ้าครามยอมทำทุกๆอย่างเพื่อใครคนหนึ่งได้โดยไม่ต้องหาเหตุผลหรอหาอะไรมาตอบแทนกูเป็นเลว กูเคยทำไม่ดีมาเยอะ”พอถึงตอนนี้ฟ้าครามขยับตัวแล้วจับมังกรให้หันหน้ามาทางตน

 

“กูเคยทำร้ายมึง ทำให้มึงเสียใจ ทำให้มึงร้องให้” มือหนาจับใบหน้าหวานพร้อมกับเกลี่ยน้ำตาที่กำลังไหลออกมา ใบหน้าหวานยิ้มทั้งน้ำตา

 

“แต่ว่า ต่อจากนี้ไปให้เป็นกูได้ไหม คนที่คอยปลอบมึง คนที่ยืนอยู่ข้างๆมึง คนที่นอนกอดมึง คนที่ซับน้ำตาให้ คนที่คอยทำกับข้าวให้มึง คนที่จะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับมึง”

 

ร่างสูงสูดลมหายใจลึกจ้องเข้าไปนัยน์ตากวาง ก่อนจะเอ่ยคำบางคำออกมา

 

“แต่งงานกับกูนะกร” แหวนทองคำขาวที่สลักคำว่า Present&future  ทั้งสองวง

 

         “ฮึกก ครามมมม” ร่างโปร่งโผเข้ากอดคนตรงหน้าด้วยความตื้นตันใจ หยาดน้ำตาแห่งความดีใจมันเอ่อล้นออกมาจน

ห้ามไม่อยู่ ฟ้าครามยิ้มระไม มันเป็นครั้งที่เขาพูดอะไรที่มันเลี่ยนแบบนี้ น้ำตาหยดใสที่ไม่เคยไหลออกมาสักครั้ง แต่

 

ครั้งนี้มันซึมออกมาจากหางตา น้ำตาหยดแรกของความสุข ทั้งคู่กอดกันแน่นด้วยความรักและความห่วงใย

 

ที่มีให้กัน ไม่ต้องมีพิธีการให้มากความ พวกเขาสาบานรักต่อหน้าดวงดาวโดยมีหิ่งห้อยนับร้อยเป็นสักขีพยาน คำสาบานรักดังกึกก้องในโสตประสาทของทั้งคู่ สัญญาที่จะรักและดูแลกันและกันตลอดตราบสิ้นลมหายใจ.....

 

 

                      วันและเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ หน้าที่หมอและครูอาสาก็ดำเนินไปอย่างราบลื่น ฟ้าครามดูจะเข้ากับเด็กได้ดี ดีกว่าหมอหนุ่ม เพราะต้องคอยสู้รบตบมือกับคนเฒ่าคนแก่ที่ยังดื้อดึงจะรักษาโรคด้วยการไปหาหมอผีอยู่หมอหนุ่มได้แต่ขอให้ลูกหลานเอายาแผนปัจจุบันให้คนป่วยทาน …ส่วนครูแม็กก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาจีบหมอหนุ่มทุกครั้งที่มีโอกาส หวิดจะโดนฟ้าครามฆ่าหมกป่าอยู่หลายครั้ง มาคราวนี้ ฟ้าครามลงมือทำโรงเพาะเห็ดและวิธีปลูกให้ชาวบ้านเอง เพราะจะได้ไม่ต้องไปเสียงอันตรายในป่าเพื่อเก็บเห็ด โดยใช้วัสดุที่หาได้ในหมู่บ้านมาดัดแปลงเอา วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เขาจะทำหน้าที่หมอและครู คาแซะและชาวบ้านจึงจัดงานเลี้ยงให้อำลาให้

                     

                  ในค่ำคืนนี้  คาแซะเอาชุดชาวเผ่ามาให้ บอกว่าเป็นของขวัญจากคนในหมู่บ้าน ทั้งคู่แต่งกายด้วยผ้าพื้นเมือง ใส่คู่กันจนดูเหมือนคู่แต่งงาน แหวนเงินที่สวมอยู่บนนิ้วของทั้งสื่อความหมายได้ดี  ทุกคนมานั่งล้อมวงตรงกลางลานกว้างที่ใช้ประกอบพิธี และร้องเล่นเต้นรำกันตามประสา มังกรจะจดจำรอยยิ้มและความสุขที่นี่ไว้ ว่าครั้งหนึ่งเขาก็เคยเป็นหมออาสาเหมือนกัน และถ้ามีโอกาสเขาจะมาอีกแน่นอน

 

“ยิ้มแบบนี้ กูเห็นแล้วกูก็มีความสุข”ฟ้าครามจับมือหมอหนุ่มแล้วยกขึ้นจูบขณะที่พวกเขาเดินกลับบ้านพัก

 

“มาอีกนะ ที่นี่นะ”ร่างโปร่งก้มหน้ามองพื้นดินแล้วยิ้ม สายตาจับจ้องไปที่แหวนของฟ้าครามและของเขา ไม่อยากจะเชื่อว่าฟ้าครามจะขอเขาแต่งงาน  เขามีความสุขที่สุด จนเก็บเอาไว้ไม่อยู่

 

“กลับบ้านครั้งนี้ กูจะเป็นเมียที่ดี ไม่ดื้อไม่ซน และจะเชื่อฟังสามีทู๊กกกกกกกกอย่าง”ร่างโปร่งหันมายิ้มหน้าทะเล้น ฟ้าครามหัวเราเบาๆ

 

“กูชักไม่แน่ใจ ที่มึงทำเสียงสูง...ทำให้ได้อย่างที่ปากพูดละไม่งั้นมึงโดนหนักแน่ ไอ้หมอ”

 

“คึคึ ครับคุณสามีสุดที่รักของเมีย”....

 

จบ...THE END…

 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด