=จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: =จนกว่ารักจะทักทาย= (บันทึกรักร้อน) ตอนพิเศษ My Santa 25/12/61  (อ่าน 189104 ครั้ง)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เสียใจกับความรักของทั้งคู่ที่ไม่อาจสมหวังในวันนี้

แต่ก็ยังดีที่ได้จากกันทั้งๆที่ยังรู้สึกดีๆต่อกันนะคะ หวังว่าจะได้พบกันอีกในโอกาสหน้า ยังรออ่านต่อนะคะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ความรักไม่ได้ทำร้ายใครถ้ารู้จักรักเป็น  ยอมรับในความเข้มแข็งของกลอนและพี่ฉลามเลยค่ะ

ถึงต้องจากกันทั้งที่ยังรัก แต่ก็แค่จากเป็น ยังมีโอกาสมาพบกันอีก 

หวังว่ากลอนจะได้คบกับตัวจริงซักที ไม่ว่าจะเป็นพี่ระเบิดหรือพัดโบก เราก็แอบลุ้นกันต่อไป   o18

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
หน่วงใจ......
แล้วมันจะผ่านไป
บทใหม่กำลังจะเริ่ม
หวังว่าฉลามจะเป็นฉลามไปตลอด  แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ก็ขอให้เก็บความรู้สึกดีๆที่มีให้กันไว้ตลอดไป

ออฟไลน์ EunJin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
สนุกมากเลยค่ะ รู้สึกเหมือนได้อ่านไดอารี่ของคนคนหนึ่งจริงๆ
น่าติดตามมาก ว่าสุดท้ายแล้ว กลอนจะได้มีความรักที่สมหวังไหม ฮือออ

ออฟไลน์ Malimaru

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-4
    • facebook

กลอนเอ๋ย...
ทั้งเสียใจ และดีใจกับหนูด้วย
ความรักที่เพิ่งจบไปเป็นความรักดีๆที่อดใจหายไม่ได้ที่ต้องจากกัน
แต่เชื่อเถอะว่ามันจะตราตรึงในความรู้สึกของทั้งสองคนไปตลอด
ดีใจกับน้องเหลือเกินที่ได้มาเจอฉลาม (พี่ฉลามก็โชคดีที่ได้เจอ และรักน้อง)

เอาล่ะ... ความรักบทเก่าจบไป
รออ่านความรักครั้งใหม่ของน้องกลอนกันดีกว่า
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^ ^  :L2:


ออฟไลน์ fangdxxi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เศร้าอะอ่านแล้วร้องไห้เลย
กลอนสู้ๆๆน้า
 :mew1:   :3123:  :3123:

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บันทึกรักบทที่ 4 ล้างให้ออก ตอนที่ 1


ผมกลับมาจากวัดก็มาช่วยแม่ลงต้นไม้ ตอนนี้ที่บ้านของผมต้นไม้เยอะแยะไปหมด แม่ของผมเป็นคนชอบต้นไม้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พออยู่คนเดียวก็เลยทุ่มเทกับการแต่งสวนเต็มที่ แต่วันนี้ไม่ได้มีแค่ผมกับแม่เท่านั้น ยังมีอีกสองคนที่อาสามาช่วยแม่ของผมลงต้นไม้ก็คือเด่นกับพัดโบก ผมเห็นแม่หัวเราะได้ก็มีความสุข แม่ปลูกต้นไม้ไปก็สอนเรื่องเกี่ยวกับต้นไม้ต่างๆให้พัดโบกฟัง ดูแม่มีความสุขเมื่อได้พูดถึงสิ่งที่แม่รัก


“เสร็จเสียที ได้เด่นกับพัด แม่เบาแรงไปเยอะเลย” แม่เอ่ยชมสองคนนั่นระหว่างที่ผมเข้าไปชงน้ำแดงมาแจกทุกคน ทำไมไม่เห็นชมผมบ้างเลย ผมก็ทำนะ

“ผมก็คิดว่าถ้าปล่อยกลอนช่วยแม่คนเดียวคงจะไปเสร็จเอาตอนเปิดเทอมพอดี” เด่นมันแขวะผมตอนผมไม่อยู่ ดูมันครับ ไอ้เพื่อนขี้นินทา มันคงไม่รู้ว่าผมมาแอบฟังอยู่ไม่ไกล

“กลอนเขาไม่ถนัดลงแรงแบบนี้หรอก แต่แม่ก็ภูมิใจที่เขาเรียนเก่งเรียนดี ให้ไปสายวิชาการไปก็ดีแล้ว” แม่พูดจบผมก็ยิ้มออก

“แม่อยากให้กลอนทำงานอะไรเหรอครับ” พัดโบกถาม ผมเลยแอบยินฟังก่อน ยังไม่ได้เดินออกไป

“ใจจริงแม่ก็อยากให้เขารับราชการ มันมั่นคงดี แต่ก็ตามใจเขา แม่ก็แก่แล้ว แก่ตัวแม่ไม่ลำบากหรอก มีเงินบำนาญใช้ แม่ห่วงแต่กลอนนั่นแหละ แม่รู้ว่าเขาเลี้ยงตัวเองได้ แต่แม่กลัวเขาล้มเหลวในชีวิตครอบครัวเหมือนแม่”

“กลอนมันเข้มแข็งเหมือนแม่ แม่ไม่ต้องห่วงมันหรอกครับ ไม่ว่าจะยังไงเด่นก็จะช่วยดูแลมัน”

“แล้วกลอนมีแฟนบ้างไหม” ผมแทบทำถาดหลุดมือเมื่อแม่ถามคำถามนี้

“มีสิแม่” เด่นตอบ ผมแทบอยากจะเอาถาดตีหัวมันเดี๋ยวนี้เลย ไอ้เด่นอย่าพูดอะไรนะ

“จริงเหรอ” แม่ถามเสียงเหมือนประหลาดใจ

“หนังสือไงแม่ มันจะแต่งงานกับหนังสืออยู่แล้ว หลับนอนกับหนังสือทุกวัน ฮ่าๆๆ” ผมพรูลมหายใจเมื่อฟังเพื่อนตัวแสบพูดจบ ผมรีบเดินออกมาจากในบ้าน แอบมองพัดโบกที่เอาแต่ยิ้มอยู่ข้างไอ้เด่น

“นินทาอะไรเรา” ผมถามก่อนจะแจกน้ำแดงให้ทุกคน

“เปล๊า เนอะแม่เนอะ” ได้เด่นมันทำเสียงสูงเชียว

“นี่ถ้ากลอนเป็นลูกสาวแม่ยกให้เด่นไปแล้ว” แม่พูดจบไอ้เด่นก็สำลักน้ำทันที ผมหัวเราะขำเพื่อกลบเกลื่อนสีหน้าที่ตกใจอยู่เหมือนกันที่ได้ยิน

“แม่ โชคดีแล้วที่มันเกิดเป็นผู้ชาย ผมชอบเปรี้ยวๆ จี๊ดๆ เรียบร้อยแบบนี้ไม่เอาหรอกแม่” ไอ้เด่นรีบพูด แม่หัวเราะขำใหญ่

“ยกให้ผมก็ได้ ผมชอบคนเรียบร้อย” พัดโบกพูดแทรกขึ้นมา ผมรู้สึกว่าตัวเองหน้าชา รีบส่งสายตาไม่พอใจไปให้
 
“หมายถึงถ้ากลอนเป็นผู้หญิงครับ” พัดโบกรีบพูดต่อ แต่ผมรู้ว่าสายตาหมอนั่นมันเจ้าเล่ห์มากๆ

“แม่ไม่ยกให้ใครหรอก แม่เลี้ยงได้ลูกคนเดียว ผู้หญิงสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อนด้วย อยู่คนเดียวก็มีความสุขได้เนอะลูกแม่” แม่ลูบศีรษะของผม ผมรีบสวมกอดแม่เอาไว้

“จริงด้วย กลอนอยู่กับแม่ก็ได้”

“อย่าเพิ่งกลับกันนะ เดี๋ยวแม่จะทำขนมปังหน้าหมูให้ทานกัน” แม่บอกก่อนจะลุกเดินกลับเข้าไปในบ้าน ผมก็หยิบเครื่องมือทำสวนไปเก็บในห้องเก็บของที่แม่ต่อเติมเอาไว้ที่ด้านข้างโรงจอดรถอีกที ระกว่างที่ผมกำลังเก็บเครื่องมือเข้าที เสียงประตูห้องเก็บของเปิดออก พอผมหันไปดูพัดโบกก็มายืนประชิดตัวผมแล้ว ผมรีบใช้ศอกดันตัวพัดโบกออก

“เข้ามาทำอะไร” ผมถาม พักโบกชูสายยางที่ม้วนเก็บเรียบร้อยแล้วให้ผมดู

“เอาวางไว้ เดี๋ยวเราเก็บเอง” ผมบอก ห้องเก็บของมันแคบ อึดอัด ที่สำคัญ ผมไม่อยากอยู่กับพัดโบกสองคน

“วางถึงเหรอ ตอนเอามา เราหยิบมาจากบนโน้น” พัดโบกชี้ไปที่ชั้นที่อยู่เหนือหัวขึ้นไป

“เดี๋ยวใช้บันไดเอาได้”

“อะ ถือ” พัดโบกส่งสายยางให้ผม ผมรับเอาไว้ แต่สายยางแทบร่วงหลุดมือเมื่อพัดโบกจับเอาผมแล้วดันขึ้นเหมือนอุ้ม คือผมก็ไม่ได้ตัวเล็กมากมาย ถึงจะผอมก็เถอะ แต่ผู้ชายคนนี้ยกผมเหมือนผมเป็นแค่เก้าอี้ตัวหนึ่ง

“เฮ้ย ทำอะไร ปล่อยเราลง” ผมรีบบอก

“รีบวางก็เสร็จแล้ว เร็วดิ” เสียงของพัดโบกดูจริงจัง ผมเลยรีบดันสายยางเข้าไปวางบนชั้น แล้วหมอนั่นก็วางผมลง

“ก็แค่นี้” หมอนั่นพูดจบก็เดินออกไปเลย ผมสิ ยังตกใจอยู่เลย ผมว่าผมจำเสียงได้ แต่มาคิดอีกที อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ดูท่าทางเขาไม่ออก ก็ดูแมนๆปกติ ผมอาจจะคิดมากไป ร้อนตัวไปเอง


เรานั่งคุยกันระหว่างที่รอเวลาขนมปังหน้าหมูของแม่เสร็จ ผมก็ได้รับรู้เรื่องที่ประหลาดใจมากๆเกี่ยวกับพัดโบก อันที่จริงแล้วพัดโบกไม่ได้เป็นนักกีฬา ผมคิดไปเองเพราะได้ยินคำว่าไปเก็บตัว แล้วรูปร่างของพัดโบกก็ดูดี ดูแข็งแรง ใครจะไปคิดว่าหมอนั่นเรียนเกี่ยวกับด้านอาหาร เด่นบอกว่า พัดโบกชอบทำขนมมาตั้งแต่เด็กๆ มีพรสวรรค์ ไปเรียนกับเชฟชาวญี่ปุ่นเพื่อไปแข่งทำขนมหวานที่ปารีส ผมอึ้งไปเหมือนกัน นับกันแล้วก็อายุมากกว่าผมปีเดียว แต่ได้ทำในสิ่งที่รักและก็ก้าวไปไกลได้ขนาดนี้


“คืนนี้ว่าจะไปคาราโอเกะ ไปเปล่า เดี๋ยวกูมารับ” เด่นถามผมหลังจากที่ได้กินขนมปังหน้าหมูเสร็จ พอแม่ของผมได้รู้ว่าพัดโบกเก่งเรื่องทำขนมก็คุยกันถูกคอยกใหญ่  แถมยังขอให้พัดโบกมาสอนทำเค้กบ้าง เพราะแม่อยากทำหลังจากที่เกษียณอายุราชการแล้ว

“แม่จะให้ไปรึเปล่าไม่รู้” ผมบอก ใจก็ไม่อยากไป แต่รู้ว่าพ่อจะมาคุยอะไรกับแม่ก็เลยอยากให้ท่านอยู่คุยกันสองคน

“มึงรอแป๊ป กูไปขอให้” เด่นพูดจบก็ดินกลับเข้าไปในบ้าน

“ผอมลงนะ” พัดโบกพูดกับผมก่อน

“ก็ปกตินะ” ผมตอบไป

“ไม่ปกติ เอวนิดเดียว” พออีกฝ่ายตอบกลับมาผมก็ทำหน้าไม่ถูก

“ปกติ”

“โอเค ปกติก็ปกติ” พักโบกยกมือทำท่ายอมแพ้

“เราทำอะไรให้โกรธรึเปล่า” พัดโบกถามผม หลังจากที่ผมเงียบไปอีก รู้สึกอึดอัดยังไงบอกไม่ถูก แต่พอได้ยินคำถามก็รู้สึกว่าตัวเองตั้งแง่ไปรึเปล่า

“เปล่าหรอก ร้อนเลยหงุดหงิดนิดหน่อย” ผมแก้ตัว รู้สึกผิดเหมือนกัน พัดโบกก็ไม่ได้ทำอะไร มันเป็นเพียงการคาดเดาของผม อีกอย่าง ถึงจะใช่พัดโบกจริงๆ ผมจะโกรธเขาก็ไม่ได้ ผมสมยอมเอง ผมผิดเองที่ไม่รู้จักยับยั้งความต้องการที่เกิดขึ้นในคืนนั้น
“ชอบกินขนมอะไร” พักโบกเปลี่ยนเรื่อง

“เอแคลร์” ผมตอบดีๆ น้ำเสียงไม่ห้วนเหมือนตอนแรกๆ

“ไส้กาแฟเหรอ”

“รู้ได้ไง” ผมถาม ผมชอบเอแคลร์ไส้กาแฟจริงๆ

“คนชอบเอแคลร์ไส้กาแฟจะชอบมีเซ็กส์ที่เร้าร้อน” พัดโบกพูดจบก็ยักคิ้ว ส่วนผมนี่หน้าร้อนวูบเลย โอ้ย ไม่น่าญาติดีด้วยเลยจริงๆ

“บ้า ตรรกะบ้าๆ” ผมต่อว่าออกไปทันที อีกฝ่ายหัวเราะ จนเด่นเดินกลับมาได้จังหวะทำลายความอึดอัดนี้พอดี

“แม่มึงโอเค หัวค่ำกูมารับ” เด่นบอกผมก็พยักหน้าให้มัน ผมไม่ได้มองหน้าพัดโบกหรอก เดินกลับเข้าไปในบ้านเลย ผมว่าผมควรจะแน่ใจได้แล้วมั๊งว่าคนแปลกหน้าในคืนนั้นจะเป็นหมอนี่จริงๆ


พอหัวค่ำเด่นก็ขับรถมารับผมตามเวลาที่นัดกันเอาไว้ ตอนที่ผมจะออกจากบ้าน พ่อก็มาพอดี แต่คราวนี้มาคนเดียว ผมนึกห่วงแม่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าพ่อจะมาพูดอะไรให้แม่เสียใจอีกรึเปล่า แต่ถึงพ่อจะเสียในเรื่องนี้ พ่อก็ไม่ใช่คนไม่ดี ผมหวังว่าเรื่องที่คุยอันจะเป็นเรื่องที่ตกลงกันได้ก็แล้วกัน


ผมไปถึงโรงแรมใหญ่ประจำจังหวัดที่มีห้องคาราเกะที่ทันสมัยที่สุดในตอนนั้น เข้าไปถึงก็เจอคนหลายคนเลย ส่วนใหญ่ผมก็พอจะคุ้นเคยบ้างเพราะเป็นญาติๆของเด่น มีผู้หญิงมากันหลายคน พัดโบกก็นั่งเป็นไข่แดงอยู่ในกลุ่มสาวๆด้วย ผมทักทายทุกคนก่อนจะไปนั่งที่โซฟาที่ตั้งอยู่มุมห้อง ในห้องมีจอโทรทัศน์เครื่องใหญ่ตั้งอยู่ มีเครื่องสีดำที่ให้เราเอาไว้เลือกเพลงที่จะร้อง สาวๆแย่งรีโมทกันใหญ่ ผมได้แต่นั่งดู เด่นสั่งไวน์ขวดเล็กๆมาให้ผม แต่ผมไม่ได้ดื่มหรอก จนได้ฟังเพลงที่พี่ฉลามเคยร้องให้ผมฟังบ่อยๆ ผมถึงกับยกไวน์มาดื่มเพราะไม่อยากให้อารมณ์จมดิ่งไปกับเพลง ผมเริ่มรู้สึกอยากกลับบ้าน แต่เห็นเด่นมันกำลังป้อสาวอยู่เลย แล้วตอนนี้มันก็หายไปไหนไม่รู้ ผมเลยกระซิบบอกกับญาติอีกคนของเด่นว่าผมจะกลับบ้าน ดูเวลาแล้วยังไม่ดึกมาก รถสามล้อเครื่องน่าจะยังมีอยู่ ผมออกมาก็เจอพัดโบกยืนทำมิวสิควีดีโออยู่ที่หน้าทางเข้าโรงแรม มองที่พื้นเห็นขี้บุหรี่ด้วย นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าหมอนี่จะสูบบุหรี่


“จะกลับเหรอ เราไปส่ง” พัดโบกบอก

“กลับเองได้ จะได้ไม่ต้องเสียงเวลากลับไปกลับมา”

“ไปเหอะ เบื่อเหมือนกัน ขี้เกียจอยู่” พัดโบกเดินนำผมไปที่รถโดยไม่ฟังคำตอบจากผมเลย ผมชั่งใจอยู่ก่อนจะตัดสินใจเดินตามไป พัดโบกไม่ได้พาผมกลับบ้าน แต่พาขับรถวนรอบเมือง ไปจอดรถอยู่ที่คูเมือง ซึ่งก็ไม่ไกลบ้านของผมเท่าไหร่

“อกหักมาเหรอ” พัดโบกถามผม ผมหันไปมอง นึกเคืองเด่นที่เล่าให้หมอนี่ฟัง

“รู้ได้ไง” ผมถามทั้งที่โทษไอ้เด่นไปแล้ว

“ก็เห็นฟังเพลงรักแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้”

“เปล่าสักหน่อย”

“อย่าหลอกตัวเอง”

“ยุ่งอะไรด้วย”

“แล้วทำไมถึงยุ่งไม่ได้ละ”

“ก็นายไม่ใช่เพื่อนเราด้วยซ้ำ”

“ก็ไม่ใช่เพื่อนไง จริงไหม”

“............” ผมไปต่อไม่ถูก สมองผมกำลังคิดไปต่างๆนาๆว่าควรทำยังไงดี

“คืนนั้น ตอนวันเกิดคุณลุง นาย..นายค้างที่บ้านของเด่นใช่รึเปล่า” ผมตัดสินใจถามให้รู้เรื่อง

“เปล่า” พัดโบกปฏิเสธ ผมนิ่งไป ไม่ใช่พัดโบก รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก

“กลับตอนตีสี่ได้มั๊ง” ความโล่งอกเมื่อครู่หายวับไปในทันที

“..........................” ผมกัดริมฝีปาก กำลังคิดว่าควรพูดออกไปดีหรือไม่ดี จนพัดโบกขยับมาใกล้ผมแล้วเอาหัวแม่มือมากดริมฝีปากของผมออกจากฟันของผมเบาๆ ก่อนจะขยับกลับไปนั่งตามเดิม

“กัดทำไม ไม่เจ็บเหรอ ตอนเราอยู่ที่ญี่ปุ่นนะ ลูกสาวของครูที่สอนเรากัดริมฝีปากแบบนี้ ครูดุราวกับเป็นเรื่องใหญ่เลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ห้ามแลบลิ้นเลียบ่อยๆด้วย” พัดโบกพูดยาวกว่าทุกที แต่นี่สิ นั่งเกร็งไปหมดแล้ว จู่ๆก็มาจับปากผม

“ไปอยู่ที่โน้นเป็นไงบ้าง” ผมตัดสินใจที่จะไม่พูดเรื่องคืนนั้น แต่ชวนคุยเรื่องอื่นแทน

“ก็ดี ชอบ แต่การอยู่ต่างบ้านต่างเมืองมันก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด คนละประเพณี คนละขนบธรรมเนียม บางทีทำอะไรผิดแบบที่ไม่รู้ตัว แต่ทุกอย่างมันคือประสบการณ์ที่ดีในชีวิต” พัดโบกพูดแบบนี้ทำให้ผมนึกถึงอีกคนที่อยู่ไกลบ้าน ไกลผม เขาจะเป็นยังไงบ้าง

“แฟนอยู่ไกลเหรอ” พัดโบกถาม ผมหลุดออกมาจากความคิดถึงใครคนนั้น

“ไม่ได้เป็นแฟนแล้ว” ผมก็ไม่รู้ทำไมถึงได้พูดออกไปทั้งที่ทีแรกยังไม่ไว้ใจหมอนี่อยู่เลย

“คู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก เดี๋ยวก็เจอกันอีก” พัดโบกพูดออกมา ผมรู้สึกว่าหัวใจตัวเองมันเต้นตึกตัก คำว่า แล้วพบกันใหม่ที่ผมกับพี่ฉลามพูดกันในวันนั้น ถ้าได้พบกันใหม่ เราจะยังรู้สึกเหมือนเดิมไหมนะ

“กัดปากอีกแล้วนะ” พัดโบกมาคางผมให้หันไป ผมสบตาอีกฝ่ายอยู่สักพัก ก่อนจะรีบหันกลับไปมองเบื้องหน้าเหมือนเดิม

“แล้วจะต้องไปแข่งทำขนมเมื่อไหร่” ผมถาม

“อีกสองอาทิตย์”

“ถ้าชนะแล้วจะยังไงต่อเหรอ”

“ก็มีชื่อเสียงไง แต่ไม่ชนะหรอก เราไปเอาประสบการณ์ มีแต่คนเก่ง ความฝันเราแค่มีร้านขนมอร่อยๆ ที่ไหนก็ได้”

“เรานึกว่าพัดโบกเป็นนักกีฬาเสียอีก”

“เหรอ มีแต่คนคิดงั้น หรือไปเป็นนักกีฬาดี มวยปล้ำ ดีไหม”

“ทำไมชอบพูดลามก” ผมสวนไป

“ฮ่าๆๆๆ เขินแล้วน่ารักนะ ผู้ชายเขาก็คุยติดเรทกันแบบนี้แหละ ทำไมละ”

“ผู้ชายแถวไหน แถวนี้ไม่มีใครพูด”

“โอเคๆ ถ้าไม่ชอบไม่พูดแล้ว เชื่อแล้วว่าเรียบร้อย”

“อยากกลับบ้านแล้ว” ผมบอก

“อีกเดี๋ยวสิ กลิ่นไวน์ยังมีอยู่เลย เดี๋ยวแม่ก็ว่าหรอก” พัดโบกพูดจบผมก็อึ้งๆไปนะ ไม่ทันคิดเรื่องนี้ สะเพร่าจริงด้วย ถ้าแม่ยังไม่นอนแล้วได้กลิ่นคงไม่ชอบใจแน่ๆ ถึงผมจะโต แต่ก็ยังเรียนไม่จบ แม่คงไม่เข้าใจหรอก ดีไม่ดีคราวหน้าไม่ให้ผมไปเที่ยวกลางคืนอีก แต่ตอนที่ผมอยู่กรุงเทพ แม่ไม่เคยถามหรือจับผิดนะ ทำนอง ไม่รู้ก็ไม่ว่า แต่อย่าให้รู้

“ขอบใจนะ เราไม่ทันนึกถึงข้อนี้ ทำไงดี ยังมีกลิ่นมากเลยเหรอ” ผมถามด้วยความกังวล

“ไหนลองพูดอีกทีดิ” พักโบกบอก

“ได้กลิ่นไหม” ผมพูด แต่ก็ต้องชะงักตกใจเมื่ออีกฝ่ายโน้มตัวเอาจมูกมาใกล้ปากผมเลย ผมผงะถอยหลังจนชนประตูรถ

“ยังมีอยู่ อมลูกอมนี่” พัดโบกตีหน้าตายพร้อมกับส่งลูกอมให้ผม ผมรับมาแกะใส่ปาก

“ป่านนี้แม่คงนอนแล้วละ ไปส่งเราเถอะ” ผมว่าผมยอมถูกแม่ว่าดีกว่าอยู่ต่อ ไม่ได้กลัวว่าพัดโบกจะมาทำอะไร แต่กลัวตัวเองนี่แหละครับ วัยฮอโมนไม่ควรมีอะไรมากระตุ้น แหะๆ

“โอเค” พัดโบกตอบรับแล้วพาขับมาถึงบ้านผมในที่สุด รถของพ่อไม่อยู่แล้ว ไฟหน้าบ้านเปิดเอาไว้ ไม่รู้ว่าแม่ยังรอรึเปล่า

“ขอบใจนะที่มาส่ง ขับกลับดีๆนะ”

“อืม แล้วเจอกันใหม่” พัดโบกพูดคำนี้อีกแล้ว ผมพยักหน้าให้ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน พัดโบกยังไม่ได้ขับกลับ รอจนผมเข้าไปในบ้านผมถึงได้ยินเสียงรถแล่นออกไป

ผมเข้ามาในบ้านก็เจอแม่นั่งดูทีวีอยู่ แม่บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับผม ผมรีบบอกแม่ว่าขอไปอาบน้ำแป๊ปเดียวเพราะร้อนมาก ผมกลัวแม่ได้กลิ่นไวน์ที่ดื่มเข้าไป อาบน้ำแปรงฟัน เช็คว่าโอเคดีแล้วก็รีบลงมา สีหน้าของแม่ไม่ค่อยดี ผมไปนั่งลงข้างๆแม่ แม่ก็ถอนหายใจออกมา


“พ่อว่าไงเหรอครับ” ผมถาม

“พ่อเขาเอาพินัยกรรมของเขามาฝากแม่ แล้วก็ฝากให้แม่เป็นธุระให้” แม่เริ่มเล่าให้ผมฟัง

“ทำไมเหรอครับ เขาทะเลาะกับผู้หญิงคนนั้นหรอ”

“พ่อเขาเป็นมะเร็งตับ” ผมพูดไม่ออกเลย มันอื้ออึงและหน่วงๆ พ่อก็ดูปกติดีนี่นา

“ระยะไหนครับ”

“ระยะที่สอง แต่พ่อเขาไม่อยากประมาท อยากทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย เขาไม่ได้จดทะเบียนกับผู้หญิงคนนั้นหรอก ทุกอย่างที่สร้างมาด้วยกันกับแม่เขายกให้กลอนหมด ส่วนหลังจากที่เลิกกับแม่เขาขอให้ลูกอีกคน”

“มันมีโอกาสรักษาไหมครับ”

“แม่ก็ไม่แน่ใจ” แม่พูดจบก็ถอนหายใจ

“ผู้หญิงคนนั้นจะดูแลพ่อไหมครับ” ผมถาม รู้สึกอยากร้องไห้ แม่เองก็ตาแดงๆ แม่คงยังรักพ่ออยู่

“ก็หวังว่าจะดูแล แม่อยากให้ลูกหมั่นไปหาพ่อเขา กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เป็นยารักษาที่ดีที่สุด”

“แม่ไม่โกรธพ่อแล้วใช่ไหม”

“แม่หายโกรธนานแล้วละ แต่มันก็ไม่เหมือนเดิมหรอก ได้แต่ปลง แม่ก็พยายามดูแลตัวเองให้ดี แม่อยากอยู่กับกลอนนานๆ อยากเห็นกลอนประสบความสำเร็จในชีวิต”

“กลอนไม่ยอมให้แม่หนีหายไปไหนหรอก” ผมลงไปนั่งกับพื้นแล้วซบหน้ากับตักของแม่ รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก น้ำตามันก็ไหลมาเอง ผมยอมเสียทุกอย่างที่มีในชีวิตเพื่อแลกกับการที่มีแม่อยู่กับผม

“กลอนน่าจะเรียนหมออย่างที่พ่ออยากให้เรียน” ผมบอกกับแม่

“ชีวิตคนเรามีพบก็มีจาก ทำทุกวันดีแล้วก็ไม่มีอะไรน่าเสียใจนะกลอน แม่ภูมิใจในตัวกลอนนะ ไม่ได้เป็นหมอ แม่ก็ภูมิใจ”

“กลอนรักแม่จัง” ผมจับมือแม่มาหอมหลายที แม่ก็ลูบศีรษะของผม

“ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ไปทำบุญกันอีกวัน” แม่บอก ผมรีบคำก่อนจะลุกมาหอมแก้มแม่


..ผมอาจจะไม่มีความฝันที่ชัดเจนเหมือนกับพัดโบก ผมรู้ว่าตัวเองชอบอะไร แต่ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ชอบมันถูกหรือเปล่า มันจะพาผมไปพบความสำเร็จไหม แต่อย่างที่แม่บอก ถ้าทำวันนี้ให้ดีก็คงไม่มีอะไรน่าเสียใจ เรื่องของพี่ฉลามก็เหมือนกัน โชคดีที่เราสองคนตัดสินใจแบบนั้น แม้เราทั้งคู่จะต้องเสียน้ำตา แต่มันคงคุ้มค่าในอนาคตแน่นอน..


(มีต่อข้างล่างค่ะ)

V
V




ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
ต่อจากข้างบนค่ะ


ปิดเทอมผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ผมเป็นพี่ปีสามแล้ว เริ่มเลือกลงสายวิชาเอกมากขึ้น ผมเลือกเอกโฆษณา ผมตั้งใจกับทุกวิชามากและผมก็ทำมันได้ดี ส่วนพัดโบกแพ้การแข่งขันที่ปารีส น่าจะเป็นการแข่งขันสำหรับเชฟที่อายุยังไม่มาก แต่ดูเหมือนพัดโบกไม่ได้เสียใจอะไรกับผลการแข่งขัน ก็คงเป็นอย่างที่เขาบอกว่าเขาแค่ไปหาประสบการณ์ หลังจากจบการแข่งขัน พัดโบกก็ไปเรียนที่ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ผมติดต่อกับพัดโบกผ่านทางอีเมลล์ เราคุยกันเหมือนเพื่อน มีแตกต่างกว่าเพื่อนก็ตรงอีกฝ่ายชอบทะลึ่งใส่ผมตลอด แต่มันคงเป็นนิสัยขี้เล่นของเขามากกว่า ผมชินแล้ว แต่ผมก็ยังทำใจกล้าถามเขาไม่ได้ว่า คืนนั้นเป็นเขารึเปล่า


บุ้งมันก็พยายามถามผมว่าผมคบกับใครรึเปล่า ผมก็บอกว่าผมไม่มีใครจริงๆ แต่คนที่เข้ามาก็มีนะ เป็นผู้หญิงสักสองคน คนหนึ่งเรียนพยาบาล ผมไปเจอตอนที่พ่อไปรับเคมีบำบัด เธอเข้ามาฝึกงาน ก็หน้าตาน่ารักดี ถ้าผมชอบผู้หญิงก็คงมีใจให้เธอได้ไม่ยาก ส่วนอีกคนเรียนที่เดียวกับผม แต่อยู่คณะบริหาร คนนี้รุกผมมาก มาจีบตรงๆจนผมลืมไปเลยว่าตัวเองเป็นผู้ชาย แต่คนนี้เสือมันชอบ ผมเลยสั่งให้มันจีบ ซึ่งจุดนี้มันทำให้เสือมันสงสัยว่าผมเป็นเกย์รึเปล่า ผมอ้างว่าผมไม่ชอบผู้หญิงที่เข้ามาก่อนแบบนี้ ก็เลยพ้นข้อสงสัยไป ส่วนอีกคนที่เข้ามาจีบผมก็คือน้องมอส แต่ผมปฏิเสธ บุ้งช่วยกันให้สุดๆโดยยืนยันว่าผมไม่ใช่เกย์จริงๆ แต่ผมว่าน้องมันคงไม่เชื่อเท่าไหร่หลังจากที่เห็นพี่ฉลามมาขโมยตัวผมไปในคืนนั้น


ผมเรียนหนักแต่ก็ยังไปช่วยงานที่บริษัทของพี่เหิรเหมือนเดิม ส่วนเสาร์อาทิตย์ถ้าไม่ต้องอ่านหนังสือ ผมก็กลับไปหาแม่กับพ่อสลับกัน ผมเริ่มสนิทกับน้องสาวคนละแม่ของผม เธอน่ารัก สี่ขวบแล้ว กำลังจะเข้าเรียน เป็นเด็กช่างเจรจา พ่อบอกว่าหน้าตาเหมือนผมตอนเด็กๆ เพราผมตอนเด็กๆหน้าเหมือนผู้หญิง แฟนใหม่ของพ่อก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับผม แต่ผมดูแล้วว่าเธอก็ดูแลพ่อดี เธอคงจะรักพ่อผมจริงๆ เรื่องความรักมันยากที่จะกำหนดจริงๆว่าคนไหนจะเป็นคนสุดท้ายของเรา ผมเข้าใจพ่อ บังเอิญมาเจอคนที่ใช่กว่าแม่ แต่ไม่หมายความว่าผมเห็นชอบกับสิ่งที่พ่อทำ เพราะสำหรับผม ถ้าลองเลือกจะใช้ชีวิตกับใครสักคนจริงๆไปแล้ว ก็ไม่น่ามีสิทธิ์ทิ้งคนๆนั้นเอาไว้ข้างหลังเพียงเพราะเจอคนที่ใช่กว่า


ผมไม่ได้ข่าวของพี่ฉลามเลย ที่ไม่ได้ข่าวเพราะผมไม่ต้องการรับรู้ พี่แหบพยายามมาเลียบๆเคียงๆถามว่าอยากรู้เรื่องพี่ฉลามไหม แต่ผมปฏิเสธ พี่แหบก็สงสัยว่าผมมีคนอื่นรึเปล่า ผมก็ห้ามความคิดใครไม่ได้ คงแล้วแต่จะคิดกันไป ส่วนพี่นุ๊กไม่เคยเล่าเรื่องพี่ฉลาม พี่เขารู้นิสัยผมพอสมควร พี่นุ๊กเป็นพี่ชายที่ดีมากๆ คอยดูแลผมในหลายๆเรื่อง แต่ไม่เคยทำให้ผมลำบากใจเลยไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม ผมว่าผมรู้สึกได้นะว่าพี่นุ๊กรู้สึกพิเศษกับผม ผมก็รู้สึกดี แต่ดีในระยะที่ผมวางเอาไว้ในฐานะพี่ชาย ผมรู้ว่าบุ้งรักพี่นุ๊ก แต่เรื่องหัวใจต้องให้สองคนเป็นฝ่ายจัดการกันเอง


หลังจากการสอบปลายภาคเรียนที่สองของชั้นปีที่สามผ่านไป ผมเหลือเก็บวิชาอีกแค่สามตัว นอกนั้นก็จะเป็นการฝึกงาน ซึ่งผมไม่ได้กังวล เพราะว่าพี่เหิรให้ผมไปเข้าทำงานเต็มตัวได้เลย เท่ากับว่า เทอมที่สองของการเรียนปีสุดท้าย ผมก็จะได้งานทำไปด้วยเลย ปิดเทอมคราวนี้ผมไม่ได้กลับบ้าน เพราะอยากใช้เวลากับพ่อให้มากหน่อย โชคดีที่พ่อเข้าร่วมโครงการเกษียณก่อนกำหนดไม่ต้องไปทำงาน พ่อเลยย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพเพื่อง่ายต่อการรักษาตัว ส่วนแม่ ผมไม่ห่วงเท่าไหร่ เพราะท่านมีแม่ของเด่นเป็นเพื่อน ท่านทั้งคู่ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ่อยๆ ไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง ผมก็ดีใจที่แม่ดูมีความสุข แม่บอกว่า โสดแบบนี้แสนจะสบาย ลูกก็โตแล้ว คราวนี้แม่จะไปเปิดหูเปิดตากับเพื่อนๆบ้าง


อย่างที่ผมบอกไป พอขึ้นปีสี่ผมมีเวลาว่างมากขึ้น วันนี้ผมว่างและรู้ว่าพ่อไปพบคุณหมอตามนัด ผมก็เลยแวะมาหาพ่อ เพราะอยากรู้ผลการตรวจ พี่นิ่ม ภรรยาใหม่ของพ่อพูดให้ฟังว่า คุณหมอพบจุดดำที่ตับ 2 จุด ซึ่งยังไม่ทราบผลว่าคืออะไร พี่นิ่มบอกว่าพ่อไม่อยากรับคีโมแล้ว เพราะว่าท่านมีความรู้สึกว่าอาการท่านแย่ลงกว่าเดิม ผมได้แต่ฟัง เพราะไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยจริงๆแต่ก็ตั้งใจว่าคราวหน้าผมจะไปพบกับคุณหมอด้วย อยากรู้รายละเอียดให้มากกว่านี้


“กลอน ค้างที่นี่ไหมลูก ดึกแล้ว” พ่อถามผมหลังจากที่ผมอยู่ทานข้าวด้วยแล้วก็เล่นกับน้องสาวจนเพลินลืมเวลา

“ไม่เป็นไรครับพ่อ พรุ่งนี้กลอนต้องไปที่ทำงานแต่เช้า เจ้านายเขารับงานอีเวนท์เอาไว้ กลอนต้องไปช่วยเขา”

“แล้วไม่มีเรียนเหรอ”

“ไม่มีครับ”

“วันไหนว่างๆก็มาค้างกับพ่อนะ”

“ได้ครับ พ่อ..พ่อกินข้าวน้อยจัง ร่างกายส่วนดีของเราต้องการอาหารนะครับ กลอนรู้ว่าพ่อไม่อยาก แต่พ่อฝืนใจหน่อยนะครับ”

“พ่อกินแล้วอาเจียน มันทรมาน”

“เดี๋ยวกลอนจะถามคุณหมอว่าพ่อทานพวกอาหารเสริมได้รึเปล่า พ่อต้องมีกำลังใจนะให้ตัวเองนะ”

“อืม พ่อขอบใจนะที่กลอนไม่โกรธพ่อ ถ้าพ่อเป็นอะไรไป อย่าทิ้งน้องนะลูก”

“กลอนไม่ทิ้งน้องหรอกครับ แต่พ่อต้องบอกตัวเองว่าอย่าทิ้งเราสองคน น้องยังเด็กนะ น้องต้องการพ่อ พ่อต้องสู้กับมะเร็ง ไม่ใช้ให้มันชนะเรา นะพ่อนะ พ่อของกลอนสู้ๆ” ผมจับมือพ่อมาชูขึ้น พ่อหัวเราะแต่ท่านก็ร้องไห้ด้วย ผมไม่เคยทำแบบนี้กับพ่อเลย หมายถึงเล่นกันแบบนี้ ปกติพ่อจะเข้มงวดเจ้าระเบียบ ตอนนี้พ่อดูเหมือนเด็กงอแงคนหนึ่งตอนที่ป่วยไข้ ชีวิตคนเราก็แค่นี้จริงๆครับเป็นเด็ก โต แล้วก็เหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง

“พ่อทำไม่ดีกับลูกกับแม่เขาเลย พ่อขอโทษนะ” ผมรีบลุกมากอดพ่อ ผมไม่เคยเห็นน้ำตาของพ่อเลยตั้งแต่เกิดมา วันนี้พ่ออ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ ผมยิ่งต้องเข้มแข็งขึ้น ทั้งที่จริงๆแล้ว ผมเองก็อยากจะร้องไห้ออกมาดังๆเหมือนกัน ผมรักแม่มากเพราะแม่คือคนที่รักผมยิ่งกว่าอะไรในโลก แต่ผมก็รักพ่อเพราะท่านก็ปลูกฝังผมให้เป็นคนที่มีเหตุผลและใจเย็น พ่อกับแม่ทำให้ผมเป็นผมทุกวันนี้ ผมยังอยากอยู่กับท่านทั้งคู่ไปนานๆ


กว่าผมจะกลับมาถึงคอนโดก็ปาไปเกือบห้าทุ่ม เปิดประตูเข้ามาก็ต้องตกใจเพราะเจอพัดโบกเดินนุ่งกางเกงในตัวเดียวผ่านหน้าผมเข้าไปนั่งดูทีวีที่โซฟา


“เฮ้ย มาได้ไง เด่นละ” ผมถาม พยายามไม่โฟกัสจุดที่มันล่อแหลมกับสายตาของผม

“ไปกับแฟนมัน กินข้าวมารึยัง กินพิซซ่าไหม” พัดโบกถามผม

“กินมาแล้ว แล้วกลับมาตอนไหน ไหนว่าอาทิตย์หน้าจะมีงานขนมไง” ผมถาม ก็พัดโบกเพิ่งเมลล์มาบอกผมว่าวีคหน้าที่ญี่ปุ่นจะมีเทศกาลขนม ยังชวนให้ผมไปเลย ทำอย่างกับค่าเครื่องบินถูกๆ ไหนจะต้องขอวีซ่าอีก

“ไม่มีหรอก จะเซอร์ไพรส์ไง แล้วเซอร์ไพรส์ไหม”

“มาก แต่ไม่ได้เซอร์ไพรส์เพราะนายกลับมาหรอกนะ เพราะนึกว่าโจรโรคจิตมางัดห้อง” ผมบ่นก่อนจะเดินเอาของไปเก็บในห้อง จากนั้นก็อาบน้ำ เสร็จแล้วถึงเดินออกมา พัดโบกก็ยังนั่งที่เดิม แต่ที่เพิ่งเติมคือมาผ้าขนหนูมาพันเอวเอาไว้แล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย

“เด่นจะกลับเปล่า” ผมถาม

“ไม่รู้อะ แต่มันบอกให้เราไปนอนกับกลอน เพราะมันอาจจะพาแฟนมันมานอน”

“ก็นอนโซฟานี่ไง” ผมรีบบอกหน้าตื่นเลย

“ใจร้ายว่ะ” พัดโบกพูดคำนี้แล้วผมก็อึ้งไป ภาพพี่ฉลามลอยมาอีกแล้ว สองคนนี่มีอะไรคล้ายๆกันหลายอย่าง

“ก็ห้องนี้ก็มีแอร์ โซฟาก็กว้างจะตาย”

“เกิดเด่นมันพาแฟนมาละ เรานอนโป๊ทำไง เดี๋ยวออกไปเปิดโรงแรมก็ได้ ไม่ซีเรียส” พัดโบกพูดจบก็ยื่นพิซซ่าให้ผมอีก ผมส่ายหน้าแล้วก็นั่งคิดหลายตลบ

“นอนด้วยกันก็ได้ แต่ต้องอาบน้ำนะ ห้ามอาบแห้ง” ผมบอก ผมบอกแล้วว่าผมเป็นคนติดความสะอาดมาจากแม่ แล้วผมก็เข้าไปเปิดคอมพิวเตอร์ในห้องเพื่อเตรียมงานในส่วนของผมที่ผมจะต้องไปช่วยพี่เหิรในวันพรุ่งนี้ สักพักพัดโบกก็เข้ามา อาบน้ำตัวหอมมาเรียบร้อย มายืนอยู่ด้านหลังของผม

“คิดเองเหรอ” พัดโบกถามเมื่อเห็นรูปบูธและแผนงานที่บริษัทพี่เหิรรับจัดอีเวนท์โปรโมทให้ เป็นการเปิดตัวน้ำอัดลมรสชาติใหม่ยี่ห้อหนึ่ง

“หลายคนช่วยกัน แต่งานนี้เป็นงานแรกที่เราเป็นคนคิดพวกกิจกรรมในงาน” ผมบอกก่อนจะยิ้มออกมา รู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจในตัวเองอยู่เหมือนกันที่เสนอไปแล้วพี่ๆที่บริษัทชอบ

“เก่งนะ พรุ่งนี้ขอตามไปด้วยได้ไหม จัดที่สยามใช่เปล่า”

“เอาสิ” ผมบอก มันเป็นงานที่อยากให้คนไปเยอะๆอยู่แล้ว

“รูปแฟนเหรอ” พัดโบกชี้ไปที่รูปของพี่ฉลาม ตั้งอยู่ข้างๆคอม

“อดีต” ผมตอบสั้นๆ

“หล่อดี ไปนอนดีกว่า” พัดโบกเดินไปนอนบนที่นอน หยิบหนังสือเรียนของผมที่วางไว้มาอ่าน ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดจนผมแอบขำ ผมเลิกสนใจแล้วหันกลับมาทำงานต่อ กว่าจะเสร็จก็เกือบตีหนึ่ง พัดโบกหลับไปแล้ว ได้ยินเสียงเด่นกลับเข้ามา ผมเลยเดินออกไปดู คิดว่าถ้าเด่นมันกลับมาคนเดียว ผมจะหนีไปนอนห้องเด่นดีกว่า แต่พอแง้มประตูออกไปได้ก็ต้องรีบปิด เด่นมันยืนจูบกับแฟนมันตรงกลางห้องรับแขกเลย ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วก็ปลงว่าคงต้องนอนกับพัดโบกจริงๆ แต่หมอนั่นหลับไปแล้ว คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมเลยปิดไฟแล้วข่มตาให้หลับ สงสัยเพราะกินกาแฟเยอะไป ตามันค้างไม่ง่วงเลยสักนิด

“อ่าห์..อ่าห์ เด่น อ๊ะ อ๊ะ” ผมนอนตัวแข็งทื่อเลย คอนโดนี่กำแพงมันบางเกินไปรึเปล่านะ ทำไมผมได้ยินเสียงชัดขนาดนี้ แล้วก็นึกไปถึงตอนที่เด่นมันแซวผม ตอนที่พี่ฉลามมามีอะไรกับผมในคืนนั้น คิดแล้วก็ร้อนผ่าวๆที่หน้า ผมส่งเสียงอะไรออกไปเด่นมันคงได้ยินชัดแบบนี้เหมือนกันแน่ๆ

“ไอ้เด่นเอ้ย” เสียงพัดโบกสบถขึ้นมาท่ามกลางความเงียบที่มีเฉพาะในห้องของผม ส่วนห้องข้างๆโรมรันพันตูกันอย่างหนักหน่วง ปกติเด่นไม่เคยพาผู้หญิงมานอนเลยถ้าผมอยู่ สงสัยคนนี้จะรักจริงถึงพามาที่ห้อง

“นึกว่าหลับไปแล้วอะ” ผมพูดขึ้นมา

“หลับแล้ว แต่เสียงขนาดนี้ใครก็ตื่น ทำไมมันชัดแบบนี้ ห้องอื่นไม่ได้ยินหรือไง” พัดโบกถาม คราวนี้ผมอึ้งไปอีก ลืมนึกข้อนี้ไป แต่โชคดีที่ห้องของผมติดระเบียงและห้องรับแขก ไม่ได้ติดกับห้องคนอื่น ผมกับพักโบกนอนนิ่งฟังเสียงซาวนด์แทร็กที่เด่นบรรเลงกับแฟนจนรู้สึกว่ามันมีบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเอง ผมจะบ้าตาย ส่วนนั้นของผมมันตื่นตัวเฉยเลย ผมพยายามเข้าข้างตัวเองว่าผมคงไม่ได้เสพติดเซ็กส์หรอกใช่ไหม ก็ผมยังอยู่ในช่วงวัยว้าวุ่น มาได้ยินเสียงสดๆแบบนี้ มันก็ต้องรู้สึกกันบ้าง

“อยากไหม” จู่ๆพัดโบกก็ถามผมในความมืด ผมเงียบไม่ตอบแกล้งทำว่าหลับ

“ช่วยไหม” พัดโบกถามผม พอผมเห็นว่าพัดโบกขยับ ผมตกใจรีบเด้งลุกมายืนเลย ได้ยินสียงพัดโบกหัวเราะผมเลยเปิดโคมไฟ พัดโบกนั่งพิงหัวเตียงแล้วยังขำผมอยู่นั่นแหละ

“ทะลึ่ง ออกไปนอนข้างนอกเลย” ผมโวยวาย แต่โวยวายแบบไม่ดังนะ ออกทางสีหน้า

“ล้อเล่นแค่นี้เอง”

“ไม่ขำ” ผมรู้เลยว่าตัวเองหน้างอ แต่พอเห็นพัดโบกจ้องมาที่กางเกงของผม ผมเลยก้มไปดู แล้วก็หน้าชาไปหมด ผมรีบลงไปนั่งบนที่นอนแล้วเอาหมอนมาบัง รู้สึกอายมาก พรุ่งนี้ผมจะเตะลูกไอ้เด่นให้มันใช้การไม่ได้ไปเลย โทษฐานมาทำให้ผมขายหน้าแบบนี้

“เรื่องธรรมดานะ ที่ญี่ปุ่น เพื่อนช่วยเพื่อนบ่อยไป” พัดโบกยักไหล่แล้วก็ไถตัวลงไปนอน เสียงห้องข้างๆก็ยังไม่หยุด ผมตัดสินใจจะไปเข้าห้องน้ำสงบอารมณ์ที่น่าอายนี่ก่อน แต่พอผมลุกขึ้น พัดโบกก็ดึงข้อมือผมแรงแบบที่ผมไม่ทันตั้งตัวจนผมล้มลงไปนอนที่เตียงเพราะเสียหลัก

“ชู่ววว อย่าดื้อนะ” พัดโบกกระซิบที่หู ผมรีบดันตัวพัดโบกออก

“อย่าทำอะไร คราวนี้ไม่ยอมจริงๆด้วย” ผมรีบบอก พัดโบกหัวเราะอีกแล้ว

“แล้วทำไมคราวที่แล้วถึงยอมละ” พัดโบกถาม เอาละ ผมไม่ต้องสงสัยอีกแล้ว มั่นใจร้อยเปอร์เซนต์แล้วว่า พัดโบกนี่เองที่เป็นคนในคืนนั้น

“เมา” ผมตอบห้วนๆ

“ไม่ได้เมานะ เรามั่นใจ” อีกฝ่ายย้อน ผมหน้าชาเลย ผลของการทำอะไรไม่คิดให้รอบคอบ

“แต่มันก็ผ่านไปแล้ว มันจะไม่เกิดขึ้นอีก เราเป็นเพื่อนกันนะ” ผมพูดดีๆ พัดโบกยิ้มแล้วชะโงกหน้ามาหอมแก้มผมเฉยเลย ผมเอามือตีพัดโบกไปอย่างแรง แต่อีกฝ่ายยังทำหน้าทะเล้น

“อยากให้บอกเด่นไหม ว่าเราเคยมีอะไรกัน”

“พัดโบก!!!” ผมโกรธมากที่พัดโบกเอาเรื่องนี้มาขู่ ดีนะขู่แค่เด่น ถ้าขู่ว่าจะบอกแม่ผมคงช็อคตาย ผมคิดผิดจริงๆที่ยอมให้ผู้ชายคนนี้มาเป็นเพื่อน

“ปิดไฟ” พัดโบกบอกผม หน้าตาจริงจัง ผมไม่ยอมปิด

“หรือไปบอกคุณน้าดี ว่าเราอยากมาขอลูกคุณน้าเป็นแฟน”

“เลว” ผมว่าพัดโบก อีกฝ่ายยักไหล่

“ปิดไฟ” ผมจำต้องปิดไฟ พัดโบกดึงผมให้ขยับมานอนซบที่อก

“อย่าทำแบบนี้เลย” ผมบอก

“ชู่วๆ” พัดโบกเอื้อมมือมาสอดเข้าไปในกางเกงนอนของผม ผมรีบจับข้อมือพัดโบกเอาไว้ แต่สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้

“ถ้าทำเราจะเกลียด” ผมขู่กลับไปบ้าง

“อย่าเผลอรักก็แล้วกัน” พัดโบกพูดจบพร้อมกับมือของเขาสัมผัสลูกของผมที่มันยังตื่นตัวอยู่เลย อยากจะตีไอ้ลูกน้อยของผมให้ตาย สถานการณ์แบบนี้ยังจะตื่นอยู่อีก

“อ๊ะ..” ผมเผลอร้องก่อนจะเอามืออุดปากตัวเองเมื่อพัดโบกใช้นิ้วโป้งเคล้นคลึงปลายยอดลูกชายของผม

“ชอบไหม”

“ไม่ อย่าทำนะ ถึงเราจะมีอารมณ์แต่เราไม่อยากให้บังคับกัน” ผมพยายามพูดดีๆ อันที่จริงผมจะขัดขืนต่อสู้ก็ได้ แต่ถ้าทำแล้วเด่นกับแฟนก็คงจะได้ยิน ถ้าแฟนเด่นมารู้เรื่องของผม มันคงไม่จบแค่นี้ ผมพยายามจะคิดว่าควรทำยังไง แต่สมองของผมมันทำงานน้อยลงเต็มทีเมื่อโดนมือของอีกฝ่ายรูดรั้งลูกชายของผมเร็วขึ้นจนเกิดเสียงที่น่าอาย ผมไม่ยอมครางออกมาทั้งที่พายุอารมณ์พัดโหมในร่างกายแล้ว

“เก็บเอาไว้ทำไม ครางสิ” พัดโบกกระซิบที่หูของผม ผมส่ายหน้า หันหน้าหนี

“อึ๊ก..”


ผมแทบหลุดร้องเมื่อพัดโบกเร่งจังหวะมือ สุดท้ายแล้วผมก็ปลดปล่อยออกมา ผมไม่กล้าลุกเพราะไม่อยากมองหน้าคนข้างๆ ได้ยินเสียงพัดโบกลุกขึ้น ก่อนจะได้ยินเสียงร้องโอ้ย เหมือนเมื่อคืนนั้นเลย คนๆนั้นก็ลุกเดินในความมืดจนไปชนของ คงจะไปปลดปล่อยในห้องน้ำเหมือนคืนนั้น แต่ผมคิดผิด เขาเดินกลับมา ลูกชายของผมกำลังถูกทำความสะอาด ผ้าเปียกน้ำหมาดๆกำลังลูบไล้ที่ลูกชายของผมและรอบๆบริเวณนั้น เช็ดจนทั่วแล้วพัดโบกก็ดึงกางเกงขึ้นให้ผมก่อนจะเดินหายไปอีก สักพักถึงกลับมานอนเงียบๆ ห้องข้างๆก็เพิ่งจะเงียบไป ผมนึกว่าผมจะโดนคนทะลึ่งคนนี้บังคับทำอะไรมากกว่านี้ พัดโบกแค่ช่วยผมแล้วก็มานอน ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง ความโกรธมันหายไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะรู้สึกดี เพราะถึงยังไงก็ไม่ชอบวิธึการขู่แบบนั้นอยู่ดี เงียบไปสักพักผมก็ทนไม่ได้


“เจ็บไหม ไปชนอะไรอะ” ผมถาม

“นอนถอะ” เสียงพัดโบกบอกผม ผมกัดริฝีปาก ทำเสียงเหมือนงอนผม ผมสิต้องไม่พอใจ ทำไมขี้งอนเหมือนพี่ฉลามเลย

“แล้ว..ไม่ไปเอาออกเหรอ” ผมถาม จะว่าผมทะลึ่งก็ได้ ก็ผมอยากรู้จริงๆว่าเขาแค่อยากช่วยปลดปล่อยให้ผมแค่นั้นหรือหวังอะไรกันแน่หรือที่ญี่ปุ่นเขาทำกันแบบนี้จริงๆ แล้วผมผิดเหรอที่ไม่คุ้นเคย ถึงคืนนั้นผมจะยอม ก็ไม่ได้แปลว่าผมอยากให้มันเกิดขึ้นอีกง่ายๆ แต่ผมคงดูง่ายจริงๆ มาถึงจนตอนนี้ ผมก็ยังยอมให้เขามาทำอะไรกับร่างกายผมง่ายๆ

“เกลียดก็ไม่ต้องมาถามหรอก นอนไปเหอะ” เสียงอีกฝ่ายตอบกลับมาแบบงอนๆ ผมแทบหลุดขำ แต่ก็กลั้นเอาไว้แล้วหันหลังให้อีกฝ่าย

“เราไม่ชอบให้มาขู่” ผมพูดขึ้นมา อีกฝ่ายก็เงียบ ผมก็เลยไม่พูดอะไรอีก แล้วสุดท้ายผมก็ผล็อยหลับสนิทไปเลย


*****โปรดติดตามต่อตอนหน้านะคะ******



...ล้างให้ออก ล้างให้ออก ล้างหัวใจเธอจากเขา ให้ออก.. #ร้องเพลง

ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ ขอบคุณที่ช่วยบอกคำผิดด้วย อ่านแล้วพัดโบกก็น่ารักดีนะ
แต่ก็นะ.....กลอนของเราจะล้างใจออกไหมรึเปล่า มาเอาใจช่วยกันค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-11-2015 01:56:37 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew3:   ว้ายๆ.  เขาทำอะไรกันอะ
พัดโบกจริงๆด้วยงื้อ. นั่นแหละอย่างที่กลอนว่า. อย่ามาขู่บังคับกันเลย.
แต่ก็ยังดีที่แค่ช่วยนะ.  :hao3:   

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เสร็จแล้วพัดโบกยังมาล้างให้กลอนด้วย
ใจดีจริงๆ

แต่กลอนก็น่าจะล้างให้พัดโบกด้วย
จะได้ใจดี เหมือนกัน

อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
พัดโบกนี่ก็น่าจะดีนะ แต่จะใช่ตัวจริงหรือเปล่า ?

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ทำไงดีกัยพัดโบก เชียร์ดีไหม  :katai2-1:
ดูจากชื่อตอนแล้วเดาไม่ออกเลยอ่ะ :katai1:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1090
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ชัดเจนแล้วเนอะว่าคืนนั้นใคร
ดูท่าว่าหากพัดโพกใช้การออดอ้อนแทนการสั่งหรือบังคับ
อาจจะมีสิทธิ์ได้รางวัลกลับคืนมาบ้างนะคะ

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2
พัดโบกคือรักต่อไปสินะ แล้วจะเป็นรักตลอดไปรึเปล่า
เราเข้าใจนะ ที่ว่ามีรักก็ต้องมีเลิก
แต่ที่สุดใครๆก็อยากเจอคนที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไป
อยากให้กลอนเจอคนนั้นๆสักที

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พัดโบกก็ดูน่าจะเป็นคนดีนะ  ถึงคืนนั้นตั้งใจทำ แต่คืนนึ้ก็ก็ไม่ได้ฝืนใจกลอนถึงขั้นนั้น
แถมมีหลายอย่างคล้ายพี่ฉลาม กลอนคงหวั่นไหวในไม่ช้านี้แน่ๆ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
กลอนเป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ รู้จักแยกแยะ คิดดีทำดี  รักตัวละครตัวนี้มากๆ  เสียดายเราขาดวัยวุฒิในเล้าไป 2 วัน ไม่งั้นเราจะเอากลอนไปเสนอรางวัลเซ็งเป็ด

กับพัดโบกนี่ก็น่ารัก หยอกทีเล่นทีจริง  กลอนก็ไว้ตัว พัดโบกก็รุกแบบผิดอิมเมจเชพทำขนมเลย   เรายังอยากฝันถึงคู่กันแล้วไม่แคล้วกันกับพี่ฉลามนะ   แต่ก็ไม่อยากให้กลอนปิดใจกับรักครั้งใหม่ถ้าหากว่ามีโอกาส

ขอเมนท์เรื่องพ่อกลอนหน่อยเถอะ
ที่พ่อเป็นอยู่นี่เราอยากจะเรียกว่ากรรมนะ
กรรมที่ทำกับแม่กลอนกับกลอน
ไม่ผิดที่จะมีรักใหม่หากว่าเจอคนที่ใช่ทีหลัง
แต่ผิดที่ไม่รู้จักหักห้ามใจและเคลียร์กับคนเก่าก่อน
เพราะยังไงแม่กลอนก็ไม่ได้ผิดอะไร
มาทีหลังพอมีปัญหาก็กลับมาขอให้แม่กลอนเป็นคนจัดการ
ดีนะที่แม่กลอนปล่อยวางแล้วก็ไม่ได้สอนให้ลูกเกลียดพ่อหรือน้อง

ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเราถึงได้ปลื้มมากๆตอนที่แม่กลอนว่าถ้าเป็นผู้หญิงจะยกให้เด่น

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
ตกลงพัดโบกนี่ตัวจริงแล้วใช่มั้ย
// :z6:โดนถีบ//ถามมาก เขาเพิ่งเริ่ม

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
กลอนไม่ได้ปิดพัดโบกว่าเป็นเกย์เหรอ พัดโบกถึงทักเรื่องพี่ฉลาม
เหมือนพัดโบกจะมีปมบางอย่าง
หวังว่ากลอนคงไม่เจ็บอีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
บันทึกรักบทที่ 4 ล้างให้ออก ตอนที่ 2


เสียงนาฬิกาปลุกตามกำหนดที่ผมตั้งเอาไว้ ตื่นขึ้นมาคนที่นอนข้างๆก็หายไปแล้ว ผมรีบเข้าไปอาบน้ำเพราะว่าต้องรีบไปถึงสถานที่จัดงานก่อนแปดโมงเช้า ผมไม่รู้ว่าพัดโบกกลับไปหรือยัง เพราะเขาไม่ได้เอากระเป๋าเสื้อผ้ามาไว้ที่ห้องของผม เมื่อคืนก็ไม่ได้อาบน้ำที่ห้องของผม แต่เขาบอกผมว่าจะขอตามไปที่งานอีเวนท์ด้วย บางทีอาจจะงอนเรื่องเมื่อคืนแล้วเปลี่ยนใจกลับไปแล้วก็ได้ ผมอาบน้ำเสร็จพร้อมออกเดินทางไม่ลืมหยิบกระเป๋าเอกสารที่จัดเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนออกมาด้วย แต่พอออกมานอกห้องก็ได้กลิ่นหอมของอาหารลอยมาแตะจมูก


“เสร็จแล้วเหรอ ว่าจะเข้าไปปลุก” คนที่ผมคิดว่ากลับไปแล้วส่งยิ้มมาให้ผม อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วด้วย เบื้องหน้าเขามีอาหารวางอยู่เต็มโต๊ะเลย

“ทำอะไรเต็มไปหมดเลย หอมมาก” ผมเดินเข้าไปดู

“กินข้าวก่อน ต้องไปถึงก่อนแปดโมงใช่ไหม ทันอยู่แล้ว” พัดโบกเลื่อนเก้าอี้ให้ ผมแปลกใจที่เขารู้เวลาและคิดว่าทันอย่างที่เขาบอก ผมเลยนั่งลง อาหารบนโต๊ะมีทั้งอาหารเช้าแบบฝรั่งและข้าวต้มกุ้งตัวโตดูน่าทานมาก

“กินอะไรดี” ผมถามแต่ใจผมเลือกข้าวต้มกุ้งที่มีควันลอยกรุ่นยั่วน้ำย่อยมากๆ

“ข้าวต้มกุ้ง มีชามเดียว เราทำให้กลอน อาหารเช้าเอาไว้ให้เด่นกับแฟน ตื่นมาคงแทบหมดแรง” พัดโบกพูดจบก็หัวเราะ แต่ผมสิ ไม่ได้สบตา เสียงของสองคนนั่นยังติดในหู อีกอย่าง สิ่งที่พัดโบกทำให้ผม ผมก็รู้สึกอายเหมือนกันแม้อีกฝ่ายจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกอย่าง คำว่าทำให้ผมคนเดียว ฟังแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนสำคัญยังไงไม่รู้ครับ

“เด่นมันให้เอารถมันไป วันนี้มันไม่ได้ออกไปไหน” พัดโบกบอก ผมพยักหน้ารับรู้

“แล้วไม่กินเหรอ อร่อยอะ นึกว่าทำเป็นแต่ขนมหวาน” ผมตักข้าวต้มเข้าปากแล้วก็นึกทึ่งในความสามารถของพัดโบก อร่อยจริงๆครับ

“ค่อยๆกิน มันร้อน” พัดโบกดึงชามข้าวต้มจากผมไปคนๆแล้วก็เป่า แล้งถึงส่งกลับมาให้ผม ผมได้แต่นั่งเงียบๆกินจนหมดชามเลย กินเสร็จพัดโบกก็ดึงชามของผมไปล้าง ผมรีบลุกไปดึงชามคืนแล้วเดินไปล้างที่อ่าง พัดโบกเดินมายืนซ้อนด้านหลังของผม ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายในที่เป่ารดต้นคอ ผมยืนเกร็ง รีบๆล้างจนจนเสร็จ ล้างมือแล้วจะเบี่ยงตัวออก แต่พัดโบกเข้ามาประชิดตัวผมแล้วจับมือของผมยื่นไปที่ก็อกน้ำ

“ใครเขาล้างมือแบบนี้กัน” พัดโบกคว่ำมือของผมลง เปิดน้ำ แล้วใช้มือของตัวเองทาบมาที่มือของผม จากนั้นก็สอดนิ้วไปประกบที่ง่ามนิ้วมือของผม ถูไปมาช้าๆ ก่อนจะจับมือของผมหงายแล้วใช้หัวแม่มือถูไปตามฝ่ามือและนิ้ว ใจของผมเต้นโครมครามเลย มือของพัดโบกนิ่มมาก สัมผัสที่ส่งมาก็เบามากจนแทบไม่รู้สึก คำถามคือ ทำไมผมถึงปล่อยให้พัดโบกเข้าถึงตัวผมง่ายขนาดนี้ ปกติผมเป็นคนระวังตัวมาก แต่ทำไมผมถึงให้เขาทำอะไรแบบนี้กับผม โดยที่ผมกลับยืนนิ่งๆแค่นั้น

“สะอาดแล้ว เช็ดมือก่อน” พัดโบกจูงผมมาที่โต๊ะ หยิบผ้าขนหนูสีขาวสะอาดมาเช็ดมือให้ผม

“ขอบคุณ” ผมพูดไปสั้นๆ พัดโบกยิ้มนิดๆแล้วก็เดินไปหิ้วกล่องสีครีมที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วก็หยิบกุญแจรถของเด่นก่อนจะเดินนำไปที่ประตู ผมเลยหยิบกระเป๋าของผมแล้วเดินตามไป

"รู้ทางหรือเปล่า” ผมถาม ก็พัดโบกไปอยู่ที่ญี่ปุ่นตั้งนาน ผมกลัวจะพาผมไปหลงทางแล้วจะไม่ทัน

“รู้ ถามเด่นแล้วเมื่อเช้า”

“เด่นมันตื่นมาเหรอ” ผมถาม

“อืม มันได้กลิ่นอาหาร ตามมาเหมือนหมาดมกลิ่นเลย” พัดโบกพูดจบผมก็หลุดขำ

“จะฟ้องเด่น” ผมบอก

“ไม่กลัว”

“แล้วกลัวอะไร”

“กลัวคนเกลียด” พัดโบกพูดจบผมก็อึ้งไป อีกฝ่ายก็เงียบ มาถึงรถก็เข้าไปนั่ง พัดโบกหันมาคว้าเข็มขัดมาคาดให้ผม ผมตกใจกับการจู่โจมของพัดโบก แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ เริ่มจะชินแล้ว

“กลัวคนเกลียดก็อย่าทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบสิ” ผมพูดขึ้นมาก่อนท่ามกลางเสียงเพลงที่พัดโบกเปิดเบาๆ

“เราจะรู้ได้ไงว่าเขาไม่ชอบถ้าไม่ลองทำก่อน” อีกฝ่ายย้อนกลับ ผมก็อึ้งไปอีก

“ก็ ถ้าเขาบอกแล้วว่าไม่ชอบ ก็อย่าทำอีก”

“งั้นพูดมาสิ ไม่ชอบให้ขู่ แล้วไม่ชอบอะไรอีก” พัดโบกหันมาถามผม ผมนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะตัดสินใจถามเรื่องคืนนั้นตรงๆ

“คืนนั้น พัดโบกทำไม..คือทำไมถึงได้เข้ามาหาเรา ทำไม..” ผมกำลังคิดว่าจะใช้คำว่าอะไรดีให้ดูไม่กระอักกระอวนเกินไป แต่พัดโบกพูดแทรกขึ้นมา

“ทำไมถึงคิดว่ากลอนจะยอมเหรอ”

“อืม”

“ไม่ได้คิดอะไรเลย รู้แต่ว่า มองแล้วไม่อยากละสายตา เห็นปากแล้วอยากจูบ เห็นคอขาวๆ ตัวขาวๆแล้วอยากสัมผัส อยากกอด อยากเป็นเจ้าของ ไม่อยากให้ใคร” ผมหันไปมองคนตอบ ไม่รู้ทำไมผมถึงเห็นเต็งหนึ่ง พี่รันและพี่ฉลามรวมอยู่ในคนๆนี้ ความหื่นระดับสิบเต็มแบบเต็งหนึ่ง แสดงความต้องการแบบเปิดเผย การอ่อนโยนดูแลแบบที่พี่รันมี ความตรงไปตรงมา เปิดเผย ดูจริงใจแบบที่ผมเห็นจากพี่ฉลาม

“ถ้าไม่อยากให้ใคร แล้วทำไมถึงลุกหนีหายไป ไม่ติดต่อมาละ” ผมอยากรู้จริงๆ

“คงไม่รู้ตัวละมั๊งว่าเรียกคนชื่อรันตลอดเวลาที่เราสัมผัส” พออีกฝ่ายตอบมาผมไปต่อไม่ถูกเลย นั่งอึ้งกิมกี่อยู่เงียบๆ ไม่รู้จริงๆว่าเรียกชื่อพี่รันออกไป

“กลับมาอีกครั้งก็มีแฟนแล้วอีก เห็นเด่นบอกว่ารักมากเสียด้วย มากจนเราคิดว่าคงหมดหวังแล้ว” พัดโบกพูดต่อ

“อย่างน้อยก็น่าจะบอกเราเรื่องคืนนั้น” ผมเถียงออกไปเพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาย้อนแย้งเหตุผลที่พัดโบกพูดออกมา

“เราจะพูดได้ยังไง พูดแล้วกลอนจะรู้สึกดีเหรอ สำหรับกลอนเรื่องคืนนั้นอาจจะเป็นความผิดพลาดไม่ได้อยากให้มันเกิด แต่สำหรับเรา มันคือความตั้งใจและปรารถนาที่จะให้มันเกิด เราดีใจ เรามีความสุขนะ เราจดจำทุกอย่างได้ แต่กลอนอาจจะอยากลืม”

“ไม่ได้มองว่าเราง่ายเหรอ” ผมถาม

“แล้วกลอนมองว่าเราเลวไหม ใช้ช่วงเวลาที่กลอนอ่อนแอและเมาเอาเปรียบกลอน” พัดโบกถาม

“ก็เลวอะ” ผมตอบ พัดโบกทำตาโตมองมาที่ผม ผมหลุดหัวเราะออกไป

“ใจร้ายว่ะ” พัดโบกทำหน้าเซ็งๆ ผมขำอีกรอบ ผมไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น ผมบอกแล้ว ถ้าจะผิด ก็ผิดที่ผมเอง ผมตอบสนอง ผมยินยอม ผมเองก็ตั้งใจให้มันเกิด จะว่าพัดโบกเลวไม่ได้หรอกครับ

“ช่างมัน งั้นเราสองคนไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก เริ่มกันใหม่ เนอะ” ผมพูดออกไป รู้สึกโล่งอก มาคิดดูดีๆ เป็นพัดโบกก็ยังดีกว่าเป็นใครก็ไม่รู้ ถ้าเป็นคนที่เที่ยวเอาพูดผมก็คงแย่เหมือนกัน แต่ถึงยังไงก็ต้องระวังให้มาก เพราะผมก็เพิ่งรู้จักพัดโบกเอง

“เริ่มใหม่ ในฐานะอะไร” พัดโบกถามผม

“เพื่อนไง” ผมตอบ อีกฝ่ายเงียบไปทันที

“จีบได้ไหม” พัดโบกถาม คราวนี้ผมเป็นฝ่ายเงียบบ้าง

“เรายังลืมคนที่เรารักไม่ได้” ผมตอบไปตรงๆ การที่ผมไม่ได้พูดถึง ไม่ได้ติดตามข่าวของเขา ไม่ได้แปลว่าผมหมดรัก เป็นความรู้สึกที่ผมแอบซ่อนมันเอาไว้อย่างดี ใครๆก็คิดว่าผมเก่ง ใจแข็ง ลืมได้ง่ายๆแต่มันไม่ใช่เลย

“เฮ้อ..เจ็บดี” พัดโบกถอนหายใจ แต่ก็ส่งยิ้มมาให้ผม แต่เป็นยิ้มที่ดูเศร้าๆจนผมนึกเห็นใจ


ในที่สุดพัดโบกก็ไม่ได้พาผมหลงทาง มาถึงก่อนเวลาด้วยซ้ำ เขามาจอดให้ผมลงตรงบริเวณที่จัดงานแล้วบอกว่าจะไปหาที่จอดรถแล้วจะตามมา ผมขอบคุณเขาสำหรับอาหารเช้าและขับรถมาให้ด้วย มาถึงก็เจอทีมงานเริ่มทยอยมากันแล้ว ผมก็มัวแต่ยุ่งกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา ลืมไปเลยว่าพัดโบกมาด้วย เวลางานจะเริ่มตอนบ่ายสามโมงเย็น งานนี้เป็นงานแรกที่ผมได้รับหน้าที่สำคัญ ผมทำด้วยความสนุก ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย ตื่นเต้นมากๆ ผมคงเรียนมาถูกทางแล้ว เพราะผมรักและสนุกกับงานที่กำลังทำอยู่ นึกขอบคุณพี่เหิรที่ให้โอกาสผม ทั้งที่ผมยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ บุ้งบอกว่า พี่เหิรไม่จ้างผมก็บ้าไปแล้ว เพราะเกรดเฉลี่ยนอย่างผม คงมีแต่คนแย่งตัว แต่ผมกลับคิดต่างออกไป ต่อให้เรียนเก่งแค่ไหนก็สู้คนที่มีประสบการณ์ทำงานมากๆไม่ได้ แม้บริษัทพี่เหิรจะไม่ได้ใหญ่โต แต่ทีมงานทุกคนมีคุณภาพมากๆ และทุกคนก็ทำงานเป็นทีมเวิร์ค ทุกคนดูแลช่วยกันเหมือนพี่น้อง ผมว่าผมโชคดีมากกว่าที่ได้เข้ามาทำงานที่นี่


“กลอน กินอะไรรึยัง พี่เอาข้าวมาไว้ให้ หายไปไหนแล้ว” พี่ฝน เลขาของพี่เหิรเห็นผมนั่งอยู่คนเดียวในเตนท์ทีมงานเลยเข้ามาถาม ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเลยขอมานั่งพักครู่หนึ่ง

“ยังเลยครับ ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลอนหาอะไรง่ายกินแถวนี้ก็ได้” ผมตอบ มองหาไม่เห็นกล่องข้าว สงสัยมีคนเอาไปแล้ว

“ได้ไง พี่สั่งมาให้พิเศษเลย ทำตั้งแต่เช้าแล้วไม่ได้หยุดเลย เดี๋ยวเป็นลมทำไง”

“โห พี่ฝน กลอนแข็งแรงนะ”

“ไม่ได้ๆ เดี๋ยวพี่ไปหาให้ นั่งรออยู่นี่แหละ” พี่ฝนกำชับก่อนจะเดินออกไป แต่สวนกับพัดโบกที่เดินเข้ามาพอดี พัดโบกเอากล่องสีครีมที่หิ้วมามาตั้งตรงหน้าผม ผมมองแล้วสงสัยว่ามันคืออะไร

“เดินมาหาครั้งหนึ่งแล้วแต่ไม่เจอ เอานี่ ข้าวกลางวัน” พัดโบกเปิดกล่องมา ข้างในมีกล่องใส่อาหารสามสี่กล่อง พัดโบกเอาออกมาเรียง มีข้าวผัดกุ้ง ผัดผักรวมมิตร หมูทอดแล้วก็น้ำผลไม้ใส่ขวดมาด้วย

“ทำเองทั้งหมดเลยเหรอ ทำมาให้เราเหรอ” ผมถามด้วยความประหลาดใจ เห็นหิ้วมาตั้งแต่ออกจากบ้าน ไม่คิดว่าจะใส่อาหารมาให้ผม

“อืม คิดแล้วว่างานแบบนี้ไม่มีเวลาไปหาอะไรกินหรอก รีบกินดิ” พัดโบกยื่นช้อนให้ ผมซาบซึ้งใจมากๆกับสิ่งที่พัดโบกทำให้

“ขอบใจนะ” ผมรับช้อนมาแล้วตักข้าวทาน อร่อยมาก อร่อยทุกอย่างเลย

“กินด้วยกันนะ” ผมชวน พัดโบกยิ้มแล้วหยิบช้อนอีกคันมาตักกินด้วยกัน กล่องที่พัดโบกหิ้วมาเป็นกล่องเก็บอุณหภูมิ อาหารยังอุ่นๆอยู่ ไม่เย็นแฉะ สมแล้วกับที่ไปเรียนเกี่ยวกับอาหาร มีพรสวรรค์อย่างที่เด่นบอกจริงๆ ผมกินไปมองหน้าคนทำไป ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะทำอาหารเก่งและรักการทำอาหาร

“อ้าว พี่กำลังจะมาขอโทษเลย หาได้แต่มาม่ามาให้รองท้อง ไอ้พวกทีมงานเวทีเล่นกินเสียหมด อย่างว่านะ ผู้ชายตัวอย่างกับยักษ์ทั้งนั้น โห น่ากินทั้งนั้นเลย แล้วนี่เพื่อนเหรอจ๊ะ” พี่ฝนเดินบ่นเข้ามา พอเห็นผมมีข้าวกินแล้วเลยเลิกบ่น แต่ตอนนี้มาสนใจพัดโบกแทน

“ครับ พัดโบก..นี่พี่ฝน พี่ฝนนี่พัดโบกเพื่อนกลอนครับ เป็นเชฟเชียวนะ” ผมแนะนำ พี่ฝนทำหน้าตื่นเต้น

“จริงเหรอ ไม่น่าเชื่อ พี่นึกว่านายแบบ หล่อขาวออร่าดาราเปล่งปลั่งมาก” พี่ฝนชม พัดโบกมันยกมือไหว้พี่ฝนก่อนจะทำหน้าเขินๆ
 
“เสียดาย อยากอยู่คุยด้วย แต่พี่ต้องรีบไปเอาของให้คุณเหิรก่อน ทานข้าวกันไปก่อนนะจ๊ะ แล้วกลอนพาเพื่อนคนนี้มาอีกนะ พี่ชอบ หล๊อหล่อ” พี่ฝนพูดจบก็หัวเราะร่วน ก่อนจะออกไปยังมีทำตาวิบวับใส่พัดโบก ผมก็ขำ พี่ฝนมีครอบครัวแล้ว แต่เธอเป็นคนขี้เล่น เป็นคนน่ารักมากๆ ทำงานเก่งสุดๆด้วย

“เราหล่อมะ” พัดโบกถามผม

“ก็ดี”

“ว่าละต้องตอบแบบนี้” พัดโบกพูดจบก็ตักหมูทอดมาป้อนผม ผมส่ายหน้า มองไปรอบๆ

“เราไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราเป็นอะไร อีกหนึ่งอย่างที่เราไม่ชอบ คือให้การเปิดเผยตัวตน” ผมบอกเสียงเรียบๆ พัดโบกหน้าเจื่อนไป

“ขอโทษ ลืมตัว”

“เราไม่ได้โกรธ แต่พัดโบกบอกอยากรู้ เราเลยบอก” ผมอธิบาย อีกฝ่ายยิ้มออก

“เรียกเราว่าพัดเฉยๆก็ได้ แต่ถ้าอยากอินเตอร์ก็เรียกแฟน (fan)”

“ตลกละ” ผมส่งวายตาค้อนไปนิดหน่อย อีกฝ่ายยิ้มกรุ่มกริ่ม คงดีใจที่เล่นมุขได้

“เราไปทำงานก่อนนะ ถ้าพัดเบื่อก็กลับไปก่อน เราคงเลิกค่ำเลย เดี๋ยวให้ทีมงานไปส่งได้” ผมบอกเมื่อทานข้าวเสร็จแล้ว ได้เวลาที่งานจะเริ่มแล้วด้วย ผมต้องไปประจำจุดที่จัดกิจกรรมเล่นเกม

“เรารอได้ เสร็จแล้วรอตรงนี้ เราจะอยู่แถวๆนี้แหละ” พัดโบกบอก ผมรู้สึกเกรงใจ แต่เมื่อพัดพัดโบกยังยืนยันว่าจะอยู่ผมเลยไม่ได้ขัดอะไรอีก


งานในครั้งนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ มีคนมาร่วมงานเยอะมากกว่าที่ตั้งเป้าเอาไว้ อาจจะเพราะพรีเซนเตอร์เป็นดาราดาวรุ่งที่กำลังมาแรงมาร่วมในงานด้วย ก็มีข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ แต่ไม่ได้ทำให้งานเสียหายอะไร แต่พี่เหิรก็สั่งให้จดรายละเอียดทุกอย่างเพื่อเอาไว้ปรับปรุงในงานหน้า พี่เหิรเรียกประชุมเพื่อกล่าวขอบคุณทีมงานที่ทุ่มเท ชื่นชม ใช้เวลาสั้นๆก่อนจะบอกว่าจะพาทีมงานทุกคนไปเลี้ยงข้าวในวันอาทิตย์ ผมกลับมาเก็บของในเตนท์ก็เห็นพัดโบกนั่งรออยู่ หน้าตาดูเหมือนเพิ่งตื่น สงสัยจะงีบหลับไป สาวๆรุ่นพี่เดินมาแซวพัดโบกกันใหญ่ ทุกคนได้รู้จากพี่ฝนว่าพัดโบกเป็นเพื่อนผม ทุกคนเลยรีบมาตีซี้ผมเพื่อทำคะแนนกันใหญ่ หวังให้ผมเป็นพ่อสื่อให้ แต่ก็คงขำๆกันครับ พี่เขามีแฟนกันหมดแล้ว โชคดีที่สมัยนั้นคนยังมองว่าผู้ชายรักผู้ชายก็คือผู้ชายที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงไปเลย เลยไม่มีใครมาแซวเรื่องที่พัดโบกมารอผม ผมก็เบาใจไป


“ตอนแรกก็ว่าไม่เหนื่อย แต่พองานเสร็จรู้เลยว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาดเป็นยังไง” ผมบ่นในรถ

“กินอะไรดี” พัดโบกถามผม ผมมองเวลา ห้าทุ่มแล้ว พัดโบกก็ยังไม่ได้กินอะไรแน่ๆ

“อะไรก็ได้”

“งั้นกลับไปกินที่บ้านนะ เดี๋ยวเราทำให้”

“เฮ้ยไม่เป็นไร พัดก็เหนื่อยมารอเราทั้งวัน กินบะหมี่หน้าปากซอยก็ได้”

“งั้นไปกินที่เยาวราชกัน” พัดโบกพาผมขับไปที่เยาวราช และร้านที่พาผมมากินคือร้านก๋วยจั๊บเจ้าโปรดของผม ผมได้นั่งโต๊ะตัวเดิม เก้าอี้ตัวเดิมแบบที่เคยนั่งตอนมากับพี่ฉลาม ที่ต่างไปคือคนที่นั่งตรงกันข้ามกับผม

“ไม่ชอบเหรอ เปลี่ยนร้านไหม” พัดโบกถามผม คงเห็นผมนั่งเขี่ยตับไปมา พี่ฉลามชอบกินตับมาก เวลามากินผมจะตักตับในชามของผมให้พี่ฉลาม ผมไม่ได้ไม่ชอบ แต่ผมอยากให้พี่ฉลามได้กินเยอะๆเลยบอกไปว่าไม่ชอบ

“ชอบ เราชอบ” ผมตอบแล้วก็ตักก๋วยจั๊บเข้าปาก จู่ๆพัดโบกก็ตักตับในชามของตัวเองมาให้ผม

“ไม่ชอบกินเหรอ” ผมถาม

“ชอบ แต่เราอยากให้กลอนได้กิน มันมีประโยชน์” พัดโบกตอบแล้วก็หันไปสั่งหมูกรอบใส่กล่องสองกล่อง ส่วนผมได้แต่มองผู้ชายตรงหน้า ผมยอมรับว่ารู้สึกดี การมีใครสักคนมาใส่ใจดูแลเรามันย่อมดีอยู่แล้ว แต่ผมไม่อยากเอาเปรียบหัวใจใคร ผมไม่อยากเสียใจเพราะคนอื่น ก็ไม่อยากให้คนอื่นมาเสียใจเพราะผมเหมือนกัน

“อยากกินอะไรอีกไหม” พัดโบกถาม ผมส่ายหน้า พัดโบกเลยพาผมกลับ


กลับมาถึงบ้าก็เห็นข้อความของเด่นแปะอาไว้ที่หน้าประตูห้องของผม เด่นเขียนเอาไว้ว่า ไปบางแสนกลับวันอาทิตย์ พัดโบกเดินเข้าไปในครัว คงเอาของไปเก็บ ผมเลยกลับเข้าไปอาบน้ำ รู้สึกเมื่อยไปทั้งตัว ทั้งเหนื่อย เพลียแดดที่สาดส่องเหมือนจะเผาตัวผมมาทั้งวัน นึกถึงอ่างอาบน้ำที่บ้านของพี่ฉลาม อยากแช่ตัว นึกถึงตอนที่พี่ฉลามสวมกอดแล้วร้องเพลงให้ฟังตอนที่อาบน้ำด้วยกัน คิดถึงรอยยิ้ม


...ผมคิดถึงพี่ฉลามเหลือเกิน พี่เขาลืมผมไปรึยังนะ...


“กลอน นอนรึยัง” ผมอาบน้ำเสร็จแล้วแหละ กำลังเช็ดผมอยู่ ได้ยินเสียงพัดโบกเรียกอยู่ที่หน้าห้อง

“ยัง เข้ามาสิ” ผมบอก พัดโบกเดินถือกะละมังใบใหญ่เข้ามา

“อะไรอะ” ผมถาม

“แช่เท้า” พัดโบกวางกะละมังลงแล้วจะจับข้อเท้าของผม ผมตกใจรีบเบี่ยงหนี

“เฮ้ยไม่เป็นไรหรอก”

“เราเคยยืนทำขนมทั้งวัน มันเมื่อย สุดท้ายแล้วจะมีเส้นเลือดขอดนะ อยากให้ขามีเส้นเขียวๆขึ้นเต็มรึไง” อีกฝ่ายขู่ ผมฟังแล้วนึกกังวลตามไปเลย ไม่เอานะขาเขียวๆมีเส้นเลือดปูดๆแบบที่เคยเห็นหนังสือ พัดโบกคงเห็นผมคล้อยตามคำขู่เลยยิ้มแล้วจับเท้าผมลงไปแช่ ผมสะอุ้ง มันอุ่นค่อนไปทางร้อน

“ขอโทษนะที่ต้องขู่ ก็ดื้อทำไมละ เนี่ย คลายเส้น น้ำอุ่นจะช่วยให้เลือดหมุนเวียนดี” พัดโบกหยิบผ้าอีกผืนมาประคบที่ขาพับด้านหลังของเข่าและน่องของผม ผ้าร้อนนิดๆ แต่ผมรู้สึกสบายจัง

“ขอบคุณนะ” ผมบอกหลังจากที่พัดโบกนวดเท้าให้ผมเสร็จแล้ว ผมรู้สึกหายเมื่อยเลยจริงๆ

“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้เปล่า” พัดโบกถาม

“อะไร บอกมาก่อน” ผมถาม ถึงจะมาเอาใจผม ผมก็ต้องระแวงเอาไว้ก่อน

“ขอนอนด้วยนะ ไม่อยากนอนคนเดียว กลัวผี” พัดโบกทำหน้าอ้อนผม

“โตจะตายแล้วนะ”

“นะ ไม่ทำอะไรหรอก ถ้าไม่เต็มใจ” พัดโบกทำหน้าขอร้อง

“บ้า ใครจะไปเต็มใจ” ผมรีบพูดออกไป ทั้งที่ผ่านมาผมใจอ่อนเอง สรุปแล้ว ผมก็ยอมให้พัดโบกมานอนด้วย ผมง่วงและเพลียสุดๆ กำลังจะเคลิ้มหลับ อีกฝ่ายก็มาสวมกอดผม รีบพลิกตัวไปมองหน้าอีกฝ่ายฝ่าความมืด

“ไหนว่าจะไม่ทำอะไรไง” ผมถาม

“กอดเฉยๆ นอนนะ ตาจะลืมไม่ขึ้นอยู่แล้ว” เสียงอีกฝ่ายตอบกลับมาเบาๆ

“กอดแบบนี้จะหลับได้ไง” ผมบ่น

“ก็ลองหลับก่อนสิ” พัดโบกขยับตัวเข้าหาให้ผมมาซบที่แขน ผมเหนื่อยเกินกว่าจะมาโวยวายอะไรแล้ว ตาผมจะปิดแล้วจริงๆ

“ลองหลับก็หลับยาวอะดิ เจ้าเล่ห์นัก ห้ามทำอย่างอื่นนะ ง่วงแล้ว” ผมบ่นอู้อี้ ได้ยินแต่เสียงหัวเราะของพัดโบก แล้วผมก็หลับไปเหมือนถูกตัดสวิทช์ รู้สึกอบอุ่นดี


..พี่ฉลาม คืนนี้เราจะได้เจอกันในฝันรึเปล่า แค่ในฝันก็ยังดี กลอนคิดถึงพี่ อยากให้คนที่กอดกลอนเป็นพี่จังเลยครับ...


((มีต่อข้างล่างค่ะ))

V
V



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-11-2015 22:02:31 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ Loverouter

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 446
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +471/-12
((ต่อจากด้านบนค่ะ))


ผมได้นอนยาวอย่างเต็มอิ่ม ตื่นมารู้สึกสดชื่นสุดๆ อาการเหนื่อยล้าหายไปเหมือนได้ชาร์ตพลังเต็มที่ ตื่นมาก็เที่ยงกว่าเกือบบ่าย ท้องร้องประท้วงดังครืดคราด เดินออกมาก็เห็นพัดโบกกำลังดูโทรทัศน์อยู่ พออีกฝ่ายเห็นผมก็รีบลุกไปในครัว ผมเลยเดินตามไป บนโต๊ะมีกับข้าววางอยู่


“ดีจัง ตื่นมาได้กินเลย” ผมบอก

“อยากรู้สึกดีแบบนี้ไปตลอดชีวิตไหมละ” อีกฝ่ายถาม ผมเหลือบมองแต่ไม่ได้ตอบ ขยันหยอดจริงๆ

“ไข่ตุ๋น น่ากินจัง กินนะ” ผมรับจานข้าวจากพัดโบกมาวาง แล้วจัดการอาหารตรงหน้าทันทีเพราะแสบท้องไปหมดแล้ว พัดโบกนั่งมองผมแล้วยิ้ม ผมก็ทำเป็นกินไม่สนใจการจับจ้องของอีกฝ่าย

“เมื่อคืนจูบไปตั้งหลายที” พัดโบกพูดขึ้นมา

“แค่กๆๆๆๆ” ผมสำลักข้าวเลย พัดโบกรีบส่งแก้งน้ำให้ผมแล้วเดินมาลูบหลังให้

“ล้อเล่น”

“ติดคอตายทำยังไง” ผมค้อนใส่ เจ็บคอเลย

“ปั๊มหัวใจไง ผายปอดให้ด้วย เราเรียนมานะ”

“กระล่อนจริงๆ ติดคอตายใครเขาผายปอดกัน” ผมต่อว่าไม่จริงจัง

“กินไป ไม่กวนใจแล้ว” พัดโบกลูบหัวผมเบาๆก่อนจะเดินออกไปนั่งที่ห้องรับแขกตามเดิม ผมเลยนั่งกินข้าวไปจนอิ่ม เก็บล้างเรียบร้อยแล้วถึงมานั่งในห้องรับแขกด้วย

“วันนี้เราจะไปค้างบ้านพ่อนะ” ผมบอก อีกฝ่ายหันมามองผม สีหน้าดูเศร้าลง ก่อนจะรีบปรับเป็นยิ้ม

“อืม ไปกี่โมงละ” พัดโบกถาม

“อีกพักหนึ่งคงออกแล้วละ พรุ่งนี้คงกลับมาตอนบ่ายๆ” ผมบอก อีกฝ่ายพยักหน้าแต่ไม่ได้มองผม ผมลุกขึ้นแล้วกลับเข้าไปในห้อง เตรียมเสื้อผ้าใส่กระเป๋า พอเดินออกมาก็เห็นพัดโบกนั่งอยู่ที่เดิม

“เราไปนะ” ผมบอก

“อืม” อีกฝ่ายหันมามองแล้วตอบสั้นๆ ผมมองแล้วรู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เดินลงมาเรียกแท็กซี่แล้วบอกจุดหมายปลายทาง


ผมมาถึงบ้านพ่อ คุยกับพ่อ เล่นกับน้อง แต่ในใจของผมนึกถึงแต่คนที่อยู่ที่คอนโด ผมก็บอกไม่ถูกว่าทำไม ผมยังคิดถึงพี่ฉลาม ยังรักพี่ฉลามนะครับ ถึงผมบอกว่าจะไม่รอ แต่ผมก็ยังนึกถึงเขาตลอดเวลา แต่ตอนนี้ผมก็อดที่จะนึกถึงอีกคนที่เข้ามาในชีวิตของผมไม่ได้ ผมรู้สึกดีๆ หรือผมอาจจะแค่สงสาร ผมพยายามหาเหตุผลมาหักล้างว่า..การที่ยอมให้เขามาใกล้ชิดกับผมง่ายๆยอมให้เขามากอดมาทำอะไรให้ ซึ่งเหตุผลนั้นก็คือ เพราะเขาเคยมีอะไรกับผมมาแล้ว เราก็เป็นผู้ชายเหมือนกันคงไม่เสียหายอะไร ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ไม่ได้ความเอาเลย ผมแค่หลอกตัวเองว่าตัวเองไม่ได้ใจง่าย ทั้งที่ความจริงผมคงเป็นแบบนั้น แล้วที่เขาบอกว่าเขากลัวผี ผมควรจะเชื่อดีไหม อาจจะเป็นแค่ข้ออ้าง แต่ถ้าเขาไม่ได้โกหก เขาจะอยู่ได้ไหมคนเดียว ผมก็คิดไปมากมายจนพ่อทักผม


“เป็นอะไร ทำไมเหม่อลอยจังเลย”

“อ๋อ คิดเรื่องงานครับพ่อ” ผมโกหกอีกแล้ว

“แล้ววันนี้จะมาค้างกับพ่อไหม”

“ครับ” ผมบอก พ่อยิ้มดีใจ


ฝนหลงฤดูเริ่มจะโปรยปรายมา เสียงฟ้าร้องดังจนผมสะดุ้ง พ่อเพิ่งจะเข้านอน น้องสาวของผมก็เข้านอนแล้วเหมือนกัน ส่วนผมมานั่งมองสายฝนที่ตกมากระทบกระจกเป็นเม็ดใส ผมถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นมาแล้วคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าลงมาข้างล่าง เจอพี่นิ่มกำลังตรวจตราบ้านอยู่


“จะไปไหนเหรอคะน้องกลอน” พี่นิ่มถามผม

“กลอนลืมไปเลยว่ากลอนมีงานด่วนค้างเอาไว้ครับ กลอนต้องกลับไปเคลียร์ ฝากบอกพ่อด้วยนะครับ โอกาสหน้ากลอนจะมาค้างด้วยหลายวันเลย”

“ไม่ได้อึดอัดอะไรใช่ไหมคะ” พี่นิ่มหน้าเสีย

“อ๋อ เปล่าเลยครับพี่นิ่ม กลอนมีงานจริงๆครับ อย่าคิดมากนะครับ”

“แต่ฝนตกหนักแบบนี้จะกลับยังไงคะ เดี๋ยวพี่โทรบอกยามให้เรียกรถแท็กซี่มารับในนี้นะคะ” พี่นิ่มยังคงมีสีหน้ากังวล

“ขอบคุณมากครับ”


สักพักใหญ่แท็กซี่ก็เข้ามารับผมถึงหน้าบ้าน ไม่นานก็มาถึงคอนโด ผมมาจอดฝั่งหน้าบ้านของพี่ฉลาม อดจะมองขึ้นไปไม่ได้ ห้องของพี่ฉลามก็มืดสนิทแบบเดิม ผมรีบฝ่าสายฝนวิ่งเข้าไปถึงตัวอาคาร แต่เพราะฝนตกหนัก วิ่งไวแค่ไหนตัวผมก็เปียกอยู่ดี มาถึงหน้าห้องก็หากุญแจไม่เจออีก สงสัยเมื่อบ่ายลืมหยิบมาด้วยแน่ๆ ผมกดกริ่งหน้าประตู เริ่มรู้สึกหนาว สักพักหนึ่งประตูก็เปิดออก พัดโบกทำหน้าประหลาดใจที่เห็นผม พอเห็นตัวผมเปียกก็รีบดึงเข้ามาแล้วเดินไปเอาผ้าขนหนูมาเช็ดตัวเช็ดหัวให้ผมใหญ่


“ทำไมเปียกแบบนี้” พัดโบกรีบถอดเสื้อผมออก ผมตกใจจับมือพัดโบกเอาไว้ แต่พอเห็นสายตาอีกฝ่ายมองมาแบบดุๆก็เลยปล่อย ถอดเสื้อผมเสร็จก็เช็ดตัวให้อีก ผู้ชายเหมือนกัน ไม่ต้องอายหรอก ผมปลอบใจตัวเอง

“ฝนตกก็ต้องเปียกอะสิ ถามได้” ผมตอบแบบกวนๆไป

“แล้วกลับมาทำไม” อีกฝ่ายถาม

“เอ้า นี่ห้องเรา กลับไม่ได้รึไง”

“กวนละ เดี๋ยวโดน หมายถึง บอกจะไปค้างบ้านพ่อ แล้วทำไมถึงกลับมา” พัดโบกจิ้มหน้าผากผมเบาๆ

“ลืมไปว่ามีงานค้าง”

“มีงานหรือห่วงเรา” อีกฝ่ายถามตรงๆ ผมอึ้งไป

“ทำอะไรอยู่” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง

“ดูหนังอยู่” พัดโบกตอบ ผมชะโงกไปดูว่าเขาดูเรื่องไร

“เฮ้ย หนังผีนี่ ไหนว่ากลัวผีไง” ผมโวยวาย อีกฝ่ายรีบหยิบรีโมทมากดปิด

“ไม่ทันแล้วปะ เจ้าเล่ห์ว่ะ คนอุตส่าห์เป็นห่วง” ผมรีบต่อว่า ก็ผมอุตส่าห์ฝ่าสายฝนมา ดูดิ มานั่งดูหนังผีเฉยเลย

“ขอบคุณนะที่ห่วงเรา” พัดโบกยิ้ม สีหน้าดูจะดีใจสุดๆ

“ตรงนั้นไม่ต้องเช็ดมากก็ได้” ผมบอกเมื่อเห็นว่าผ้าเช็ดตัวมันวนอยู่แถวๆหน้าอกผมนานแล้ว

“เดี๋ยวปอดบวม ต้องเช็ดเยอะ” ดูเขาแถสิครับ ผมกัดริมฝีปากด้วยความเคยชิน กำลังคิดว่าจะโต้ตอบยังไงดี แล้วปลายนิ้วของพัดโบกก็มากดริมฝีปากให้ผมออกจากฟันเหมือนที่เคยทำ

“กัดจริงเลยนะ”

“เราไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อนนะ” ผมรู้สึกเขินๆ บรรยากาศแบบนี้ด้วย ผมว่าผมไปตั้งสติก่อนดีกว่า

“เร็วๆนะ มาดูหนังด้วยกัน” เขาบอกผม ผมค้อนเขาให้อีกทีก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง อาบน้ำเสร็จก็เดินออกมา พัดโบกขยับให้ผมมานั่งข้างๆ พอผมนั่งเขาก็เอาผ้าห่มมาห่อตัวเราสองคนด้วยกัน เขาดึงมือผมไปจับ

“สรุปว่าไม่กลัวใช่ไหม” ผมถาม

“กลัว ไม่เคยได้ยินเหรอ หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง”

“ไม่เชื่อหรอก” ผมว่า

“จริง แต่เปลี่ยนเรื่องดีกว่า” เขาบอกเสร็จก็ลุกพรวดไป

“เรื่องอะไร” ผมถาม

“ไม่รู้ แต่เจอมันหล่นอยู่ใต้เตียงกลอนตอนเราเข้าไปดูดฝุ่นให้อะ” พัดโบกบอก ผมงง นึกไม่ออกว่าแผ่นหนังเรื่องอะไร แต่ก็รอดู เพราะพัดโบกใส่แผ่นไปแล้ว สงสัยของเด่นมาลืมเอาไว้ แต่เดี๋ยวนะ ทำไมต้องเข้าไปดูดฝุ่นให้ผมด้วย จะพ่อบ้านไปไหนอะ หน้าตาท่าทางดูไม่น่าจะมาทำอะไรพวกนี้เลย เหมือนนายแบบหรือนักกีฬามากกว่าจะมาเป็นพ่อบ้านเสียอีก แต่ก็ดี..ผมขี้เกียจอยู่พอดีเลย แหะๆ

“อ๋อ หน้าแผ่นเขียนว่าบุ้งอะ”

“เฮ้ย ไม่ได้ ดูไม่ได้นะ” ผมร้องห้ามจนพัดโบกตกใจ แต่ไม่ทันแล้วครับ ดีวีดีหนัง 18+ ที่บุ้งเอามาฝากเอาไว้ให้พี่นุ๊ก ผมกลัวเด่นมาเจอเลยเอาไปซ่อนใต้เตียง แล้วผมก็ลืมไปเลย จะลุกไปปิดก็โดนมือของคนที่นั่งข้างๆยึดเอาไว้แล้ว จอภาพตรงหน้ากำลังเริ่มฉายผู้ชายสองคนโรมรันพันตูกันแล้ว

“ของเพื่อนเรา” ผมรีบบอก

“ชู่วๆ” พัดโบกหันมายิ้ม ก่อนจะกระชับมือของผม

“อย่าดูเลย” ผมบอก

“ถ้าคิดกับเราแค่เพื่อน จะกลัวอะไร ก็แค่หนังโป๊” พัดโบกบอกก่อนจะเดินไปปิดไฟ


ผมนั่งนิ่งค้างอยู่กับที่ จะรอดไหม ผมถามตัวเองเบาๆ แล้วก็เกิดคำถามใหม่ ผมอยากรอดไหม ก็แค่ลุกหนีไป ผมเชื่อว่าพัดโบกจะไม่ขืนใจผมหรอก แต่ผมกำลังสับสน หันไปมองหน้าของพัดโบก แล้วก็ถามตัวเองอีก ผมกลับมาทำไม ทั้งที่รู้ว่าต้องอยู่กับพัดโบกแค่สองต่อสอง ผมชอบพัดโบกเหรอ ผมจะเปลี่ยนสถานะของผมกับพัดโบกเพราะต้องการแค่เซ็กส์ที่ห่างหายไปนานหรือเพราะว่าผมอยากมีใครสักคนจริงๆ


“เราไม่ทำอะไรหรอก ถ้าไม่เต็มใจ บอกแล้วไง” พัดโบกคงเห็นผมนิ่งไปเลยกันมาพูดด้วย จอภาพตรงหน้าก็กำลังดุเด็ดเผ็ดมันจนผมเริ่มร้อนผ่าวๆ

“พัดโบก”

“หื้ม”

“เราลืมพี่เขาไม่ได้” ผมบอกพัดโบก เอาจริงๆคือผมตอกย้ำตัวเองอยู่

“ก็อย่าลืมสิ เรื่องดีๆก็ไม่ควรลืมนะ” พัดโบกบอกผม เราหันมาสบตากัน ผมใจเต้นแรง เส้นบางๆที่ผมกั้นเอาไว้กำลังจะขาดลง 

“ไม่เป็นไรใช่ไหม” ผมถาม

“อืม ไม่เป็นไร” 


****โปรดติดตามตอนต่อไปตอนหน้านะคะ****


เอร้ยยยยยยยยยยย ตัดไปแบบนี้ได้ไง #บอกตัวเองนี่แหละค่ะ 5555555
ขอบคุณมากที่ช่วยบอกคำผิดนะคะ ดีใจๆ เพราะรู้ตัวว่าเป็นคนพิมพ์ผิดเยอะมาก แต่มองแล้วบางทีก็ลอดสายตาไป
แล้วจะกลับแม่แก้คำผิดให้นะคะ ขอบคุณที่ยังติดตามนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-11-2015 16:13:02 โดย Loverouter »

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
กลอนจ๋า ไม่ต้องลืมพี่ฉลามอย่างที่พัดโบกบอกนั่นแหละ แล้วกลอนจ๋าก็ไม่จำเป็นต้องปิดกั้นตัวเองเนอะ  :กอด1:
ขอบคุณหนังของบุ้ง ที่ทำให้กลอนจ๋าให้โอกาสตัวเองและพัดโบก ตอนหน้าคาดหวังได้ไหมอ่ะ :impress2:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
อาจจะเป็นคนนี้
หวังว่าใจ..เค้าคงดี

+1 ให้กับพัดโบก

เฉพาะตอนนี้นะ
เพราะตอนหน้ายังไม่รู้
หุหุ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
3 in 1  ค่ะ
ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงที่ลำบากมากๆสำหรับกลอนนะ
คือเดินหน้าก็ไม่กล้ากลับหลังก็ไม่ได้
ไม่ต้องลืมความหลังหรอกค่ะ
เพราะว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรา
แต่อย่าเก็บเอามาฝังใจเพราะจะทำให้เดินหน้าไม่ได้
ความรักกับพี่ฉลามเป็นสิ่งที่ดีและสวยงาม
เก็บเอาไว้เป็นแหล่งพลังงานของชีวิต
ว่าครั้งหนึ่งกลอนมีโอกาสได้มีความรักแบบนั้น
เปิดใจให้พัดโบก ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ค่อยๆดูใจกันไปทีละนิด
ถ้ามันใช่ก็เป็นสิ่งที่ดี

สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราชื่นชมกลอนมากๆก็คือการที่กลอนคิดไตร่ตรองก่อนทำ
กลอนคิดถึงคนรอบข้างเสมอ
ใช้ชีวิตโดยระวังไม่ผลีผลาม
นี่คือเหตุผลสำคัญที่เราเชื่อว่าทำให้กลอนไม่ได้หลวมตัวเต็มที่กับความรักครั้งแรกกับครั้งที่สองและทำให้กลอนมีสติกับความรักครั้งที่สาม
กับพัดโบกนี่ถ้าจะเป็นไปได้นะ  เรามองว่าอาจจะเป็นไปในแนวที่อยู่ด้วยกันเหมือนที่อยู่มากับเด่นหลายปี จนคนรอบข้างรู้หมดแล้วว่าอะไรยังไง  เรามองแนวนี้จริงๆ

แต่เราก็ยังหวังอยู่ลึกๆว่าจะได้รับข่าวเรื่องพี่ฉลาม  หวังว่าการเสียสละความรักของเด็กสองคนนี้จะเป็นสิ่งที่คุ้มค่า

รักคนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด