✽ ✽ ✽ ต่อจากคราวที่แล้วค่ะ ✽ ✽ ✽
ร่างสูงของอชิตพลทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในสวนของทางโรงพยาบาลอย่างหงุดหงิดใจไม่น้อยที่ถูกไล่ออกมาจากห้อง ควอตซ์พ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างต้องการระบายอารมณ์ที่มันคุกรุ่นปะปนกันอยู่ตอนนี้ให้เย็นลง
"ควอตซ์"
เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรียกก่อนจะเห็นพ่อของตนเองเดินตามเข้ามา เขาจึงขยับตัวนั่งดีๆ เพื่อให้คนเป็นพ่อนั่งลงข้างๆ กัน
"เล่าให้พ่อฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราทำร้ายน้ำเหนือเขาจริงๆ อย่างนั้นเหรอ" คุณโทมัสถาม
คนถูกถามถอนหายใจออกมาอีกรอบก่อนจะตอบคำพ่อ "ครับคุณพ่อ ผมเผลอทำร้ายน้ำเหนือไปจริงๆ อย่างที่บอก... ผมผิดเองที่ไม่ยับยั้งอารมณ์ของตัวเองจนเผลอไปทำแบบนั้น"
คุณโทมัสมองหน้าลูกชายของตัวเองนิ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปตบไหล่คนที่นั่งข้างๆ เบาๆ "เรื่องในอดีตเราย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่เรื่องในปัจจุบันและอนาคตต่างหาก เราคิดจะทำยังไงต่อไปควอตซ์"
"ผมจะรับผิดชอบครับ""รับผิดชอบยังไง ให้เงินค่าเลี้ยงดูเขาทุกๆ เดือนอย่างนั้นหรือ" คุณโทมัสถามทันทีที่ควอตซ์พูดจบให้คนเป็นลูกหันมามองหน้า "คำว่ารับผิดชอบที่ลูกพูดน่ะ ลูกทำความเข้าใจหรือยัง ลูกแน่ใจหรือยังถึงพูดคำๆ นี้ออกมา คำว่ารับผิดชอบมันไม่ใช่แค่การที่เราให้เงินค่าเลี้ยงดูเขาแต่ละเดือนนะควอตซ์ ลูกถามตัวลูกเองก่อนเถอะว่าตอนนี้ลูกพร้อมหรือยัง
พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตใครอีกสองคน พร้อมที่จะดูแลเขาหรือเปล่า"
คุณโทมัสลุกขึ้นยืนพร้อมกับตบไหล่ลูกชายอีกครั้ง "คิดดีๆ นะควอตซ์ คำบางคำเมื่อเราพูดออกไปแล้วเราจะไม่สามารถกลับมาแก้ไขอะไรได้อีก คิดดูดีๆ แล้วเข้าไปคุยกับแม่เขา"
คุณโทมัสเดินออกไปแล้วเหลือเพียงควอตซ์ที่นั่งก้มหน้ามองปลายเท้าของตัวเองก่อนที่ร่างสูงจะพ่นลมหายใจออกมาอีกรอบแล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพร้อมกับนึกทวนคำพูดของพ่ออยู่ในใจ
คำว่ารับผิดชอบมันไม่ใช่แค่การที่เราให้เงินค่าเลี้ยงดูเขาแต่ละเดือน
ถามตัวลูกเองก่อนเถอะว่าตอนนี้ลูกพร้อมหรือยัง
พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตใครอีกสองคน พร้อมที่จะดูแลเขาหรือเปล่ารับผิดชอบ... ควอตซ์คิดที่จะรับผิดชอบจริงๆ อย่างที่ปากพูดแต่พอถูกพ่อทักมาเขาก็ชะงักไปเล็กน้อย ยอมรับว่าคราแรกที่พูดนั้น พูดไปเพราะมันคือสิ่งที่สมควรทำแต่เขาไม่ได้ถามตัวเองเลยว่าคำว่า รับผิดชอบ ที่เขาพูดนั้นหมายถึงแบบไหน
ควอตซ์นั่งอยู่อย่างนั้นปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปไกล นึกทบทวนอะไรบางอย่างอยู่ในใจ การที่เขาจะต้องรับผิดชอบใครสักคนมันต้องหมายถึงความรักหรือเปล่า... หากถามว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไงกับน้ำเหนือ เขาคงต้องบอกว่ามันยังไม่ใช่ความรัก แต่มันเป็นความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่ถูก ไม่ใช่ถูกใจเหมือนครั้งแรกเจอ ไม่ใช่อยากแกล้ง อยากเอาชนะเหมือนที่ผ่านมาเวลาเห็นน้ำเหนือตั้งท่ารังเกียจเขา แต่มันก็ยังไม่ใช่ความรัก
เขาไม่รู้ว่าต่อไปในอนาคตความรู้สึกที่มันพูดไม่ออกนี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้หรือเปล่า ไม่รู้ว่ามันจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน แต่ควอตซ์อยากที่จะรับผิดชอบจริงๆ เขาไม่อยากให้เด็กคนนั้นต้องเผชิญกับเรื่องทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว เขาแค่รู้สึกว่า... ไม่อยากปล่อยให้น้ำเหนือต้องนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวแบบคืนนั้น
ร่างสูงขยับลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องพักของน้ำเหนืออีกรอบ แต่เมื่อไปถึงพ่อกับแม่ของตนก็ไม่อยู่แล้วคงกลับไปเรียบร้อยนั่นไม่น่าแปลกเท่าไหร่ แต่การที่เข้ามาแล้วไม่เห็นคนที่สมควรอยู่บนเตียงทำให้ควอตซ์เริ่มเป็นกังวล น้ำเกลือยังถูกแขวนเอาไว้ที่เดิมไม่ได้ถูกเอาออกไปไหน แต่ก่อนที่จะหันหลังกลับออกไปถามพยาบาลเสียงอาเจียนที่ดังมาจากห้องน้ำก็ทำให้เขาต้องพุ่งตัวไปทันที
"อ๊อกกก!" น้ำเหนือโก่งคออาเจียนอยู่ที่อ่างล้างหน้า มือทั้งสองข้างจับขอบอ่างเอาไว้แน่นอย่างต้องการพยุงตัว ใบหน้านั้นก็ซีดเซียวเห็นแล้วดูน่าสงสารเสียจนควอตซ์ต้องขยับเข้าไปใกล้มือข้างหนึ่งโอบเข้าที่เอวเพื่อประคองตัวคนที่กำลังสั่นเอาไว้
น้ำเหนือตาโตหันกลับมามองทันที แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรก็หันกลับไปก้มหน้าลงกับอ่างล่างหน้าแล้วอาเจียนออกมาอีกชุดใหญ่
"ไหวหรือเปล่า" ควอตซ์ถามคนที่ทำท่าจะล้มถ้าหากเขาไม่ประคองตัวเอาไว้
น้ำเหนือส่ายหน้า ดวงตากลมโตนั้นเริ่มปรือลงอย่างอ่อนเพลียเห็นแบบนั้นควอตซ์ก็จัดการเปิดน้ำในอ่างก่อนจะหันไปหยิบผ้าที่แขวนอยู่ในห้องน้ำมาชุบน้ำแล้วเอามาเช็ดหน้าให้โดยจับให้คนหมดแรงยืนพิงตัวเขาเอาไว้ จนกระทั่งเช็ดหน้าให้เรียบร้อยก็จัดการช้อนตัวน้ำเหนือขึ้นแล้วพากลับไปที่เตียง หันไปกดกริ่งเรียกพยาบาลใช้เข้ามาทำแผลที่มือน้ำเหนือให้ดูท่าแล้วเจ้าตัวคงจะดึงสายน้ำเกลือออกแล้ววิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำเพราะยังมีรอยเลือดอยู่บนหลังมือ
ควอตซ์รอจนกระทั่งพยาบาลเดินออกไปจึงขยับมายืนชิดเตียงมองคนที่พยายามจะลืมตามองเขาทั้งๆ ที่แทบจะลืมไม่ขึ้นก่อนจะยื่นมือไปลูบผมนุ่มนั้นเบาๆ "นอนพักก่อนเถอะ เอาไว้เราค่อยมาคุยกันหลังเธอตื่น"
"คุณ... ต้องการอะไร"
"ฉันต้องการให้เธอนอนพัก"
"ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ" น้ำเหนือพูดด้วยเสียงเบาสติเริ่มเลือนลางลงหน่อยๆ เพราะอาการอ่อนเพลียกำลังเข้าเล่นงานจนสุดท้ายก็ได้แต่หลับตาลงแล้วหลับไปในเวลาต่อมา
"ฉันขอโทษน้ำเหนือ"น้ำเหนือสะดุ้งตื่นขึ้นมาในกลางดึกหลังจากที่หลับยาวมาตั้งแต่ตอนเย็น ดวงตากลมโตคู่นั้นหันมองไปรอบห้องก่อนจะพบกับความว่างเปล่า เขาอยู่คนเดียวในห้องนี้
"ไม่เห็นจะแปลกเลย จะมีใครมาอยู่กับเราละ เพี้ยนไปแล้วน้ำเหนือ"
แต่แล้วคนที่กำลังนั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวก็ต้องสะดุ้งเมื่อประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับควอตซ์ที่เดินออกมา ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นเมื่อเห็นว่าคนที่ก่อนหน้านี้ยังหลับอยู่ตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งแล้ว
"ทำไมคุณยังอยู่" น้ำเหนือถามพลางมองตามคนที่เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง
"แล้วทำไมถึงอยู่ไม่ได้ละ" คนถามคำถามขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้นริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างนึกขัดใจกับคำตอบที่ไม่ได้ช่วยให้เข้าใจอะไรเลย
"คุณอชิตพล"
"ก็บอกแล้วไงว่าเรายังมีเรื่องต้องคุยกันก่อน ฉันถึงได้อยู่นี่ไง" ควอตซ์พูดก่อนจะหันไปหยิบเครื่องเล่นเพลงที่วางอยู่มาถือแล้วกดเปิดเพลง "ตอนแรกไม่ได้เปิดเพลงหลับสบายหรือเปล่า"
"คุณอชิตพลครับ" น้ำเหนือเรียกอีกคนเสียงเข้มขึ้น แต่คนถูกเรียกก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่นักเพราะเขาหันเอาเครื่องเล่นเพลงกลับไปวางที่เดิมจนน้ำเหนือต้องเอื้อมมือไปคว้าไหล่กว้างนั้นเอาไว้
"เล่นอะไรเดี๋ยวก็ตกลงมาหรอก" ควอตซ์หันมาดุทันทีเพราะน้ำเหนือนั่งอยู่บนเตียง ส่วนตัวเขาแม้จะนั่งอยู่ข้างเตียงแต่ก็ไม่ได้ชิดกับเตียงขนาดยื่นมือสุดแขนก็แตะถึง แต่คนบนเตียงต้องโน้มตัวมา "ถ้าอยากจะคุยก็นั่งดีๆ ก่อน"
"ผมไม่ได้อยากจะคุยกับคุณสักหน่อย" น้ำเหนือขมวดคิ้วใส่ทันที ก็เป็นอีกฝ่ายไม่ใช่หรือยังไงที่บอกว่ามีเรื่องจะคุย
"ถ้าไม่มีเรื่องจะคุยอย่างนั้นก็นอนต่อได้แล้ว ดึกมากแล้ว" อีกคนว่าพร้อมกับลุกขึ้นมาดันตัวน้ำเหนือให้ลงนอนเหมือนเดิม
"คุณอชิตพล! คุณจะเอายังไงกันแน่"
ควอตซ์ขยับตัวกลับมานั่งที่เดิมแบบที่น้ำเหนือเองก็ลุกขึ้นนั่งเหมือนเดิมเช่นกัน ทั้งสองคนมองหน้ากันนิ่งอย่างที่ไม่มีใครเริ่มพูดอะไรออกมา แต่สุดท้ายคนที่มีเรื่องจะคุยก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน
"ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่าง"
กึก!
น้ำเหนือชะงักไปทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น "คุณ... พูดว่าอะไรนะ"
"ฉันบอกว่าฉันจะรับผิดชอบเธอทุกอย่าง ทั้งค่าเลี้ยงดู..." ควอตซ์พูดย้ำอีกรอบแต่ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคคนฟังก็สวนขึ้นมาเสียก่อน
"ไม่จำเป็น! ผมไม่ต้องการเงินของคุณ"
"ไม่ใช่แบบนั้นน้ำเหนือ ฉันจะดูแลเธอกับลูก" ควอตซ์พูดแก้ให้น้ำเหนือเข้าใจ แต่ดูเหมือนว่าน้ำเหนือจะไม่รับฟังถึงขนาดนั้น...
"ไม่ว่าจะแบบไหนผมก็ไม่ต้องการ ระหว่างคุณกับผมไม่มีอะไรที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อกัน ผมสามารถดุแลตัวเองและลูกได้ไม่ต้องพึ่งพาคุณ" น้ำเหนือพูดพร้อมกันเบือนหน้าหนีไม่มองหน้าอีกฝ่าย
รับผิดชอบอย่างนั้นเหรอ... น้ำเหนือไม่ต้องการอะไรแบบนั้นหรอก เขาสามารถทำทุกอย่างเองได้ ไม่ต้องให้ใครมารับผิดชอบทั้งนั้น"น้ำเหนือ" อชิตพลเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างนึกเหนื่อยใจ ก็พอรู้ว่าน้ำเหนือนั้นดื้อดึงแต่ไม่คิดว่าจะดื้อขนาดนี้ "อย่าดื้อได้ไหม"
ประโยคที่ทำให้น้ำเหนือหันขวับกลับมามอง "ดื้ออย่างนั้นหรือครับ! ผมไม่ได้ได้ดื้อแต่ผมไม่ต้องการความช่วยเหลือ ความเห็นใจจากคุณ คุณจะมารับผิดชอบผมทำไมในเมื่อเราสองคนไม่ได้รักกัน ทุกอย่างไม่ได้เกิดจากความตั้งใจด้วยซ้ำ"
"ก็เพราะแบบนั้นไง เธอคิดว่าเธอจะอยู่ตัวคนเดียวแล้วอุ้มท้อง เลี้ยงลูกได้อย่างนั้นเหรอน้ำเหนือ ไม่ว่าเธอจะปฏิเสธยังไงเด็กคนนี้ก็เป็นลูกของฉัน"
"เด็กคนนี้... เป็นลูกของผมไม่ใช่ของคุณ" น้ำเหนือพูดอย่างไม่ยอม "ถ้าเรื่องที่คุณต้องการจะพูดมีแค่นี้ก็กลับไปเถอะครับ ผมไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วไม่ว่าคุณจะพูดยังไงผมก็ไม่ยอมรับ"
"แม้ว่าฉันจะตื๊อ""ครับ?!" น้ำเหนือร้องออกมาอย่างงุนงง สีหน้าแววตาฉายชัดถึงความไม่เข้าใจกับสิ่งที่ควอตซ์พูด
"ฉันตัดสินใจแล้วน้ำเหนือ ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่าง" ควอตซ์พูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน "นอนหลับฝันดี แล้วฉันจะมาใหม่" แล้วตัวคนพูดก็เดินออกจากห้องไปแบบที่ปล่อยให้น้ำเหนือนั่งประมวลคำพูดของเขา
"เดี๋ยวสิคุณอชิตพล! คุณหมายความว่ายังไง" แม้น้ำเหนือจะร้องเรียกแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจ จนสุดท้ายก็ได้แต่นั่งฮึดฮัดอย่างไม่พอใจอยู่บนเตียง
"เหอะ! รับผิดชอบอย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะว่าผมจะยอมให้คุณมารับผิดชอบผม ผมไม่ต้องการหรอก!" น้ำเหนือว่าออกมาอย่างนึกหงุดหงิดในใจ จากตอนแรกที่ตื่นนอนกลางดึกอารมณ์ของเขาเต็มไปด้วยความเหงาและความอ้างว้าง แต่ตอนนี้...
น้ำเหนือกำลังหงุดหงิดใจอย่างที่ไม่เคยหงุดหงิดมาก่อนไม่รู้ว่าเพราะผู้ชายที่ชื่ออชิตพล หรือเป็นเพราะฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงและส่งผลถึงอารมณ์กันแน่...
คนที่เพิ่งไปบอกว่าจะรับผิดชอบน้ำเหนือเดินตรงไปที่รถของตัวเองที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล ร่างสูงจะก้าวเข้าไปนั่งในตำแหน่งคนขับหลังจากที่กดปลดล็อคแล้วเรียบร้อย ก่อนที่รถคนหรูจะขับออกจากโรงพยาบาล เพราะเป็นเวลาดึกมากแล้วรถบนท้องถนนจึงมีเพียงประปรายเท่านั้น ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านตระกูลบริสตัน ควอตซ์ขับรถเข้าไปจอดในโรงจอดรถแล้วจึงเดินเข้าไปในบ้าน
ภายในบ้านนั้นเงียบสนิททุกคนคงจะเข้านอนกันหมดแล้ว มีเพียงแสงไฟส่องสว่างตามทางเดินเท่านั้นที่เปิดอยู่ ชายหนุ่มเดินขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเองคว้าเอาผ้าขนหนูมาถือแล้วเดินเข้าไปชำระล้างร่างกายของก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม
และเมื่อเขามานอนอยู่บนเตียงนิ่งๆ แบบนี้ก็อดที่จะนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดเมื่อราวหนึ่งชั่วโมงที่แล้วไม่ได้ ใบหน้าดื้อดึงอย่างไม่ยอมแพ้ของน้ำเหนือตอนที่เถียงเขาเสียงแข็งไม่อยากจะเชื่อว่านั้นคือคนเดียวกับคนที่ไร้เรี่ยวแรงต่อต้านตอนที่แพ้ท้อง คิดแบบนั้นแล้วก็เผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
น้ำเหนือเป็นคนดื้อ แล้วดูท่าจะดื้อมากเสียด้วยสิชีวิตนับจากวันนี้ไปของอชิตพลคงเปลี่ยนไปจนแทบไม่อยากจะเชื่อ...
แต่ในเมื่อเขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะรับผิดชอบน้ำเหนือ เขาก็จะต้องทำแบบนั้นไม่ได้ทำเพื่อเอาใจใคร ไม่ได้ทำเพื่อให้แม่ของตนมองว่าตัวเองมีความรับผิดชอบ แต่ลึกๆ บางอย่างในใจบอกว่า... เขาอยากที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสงสาร ความเห็นใจหรือเพราะอะไรก็ตาม แต่ควอตซ์รู้ว่าเขาพร้อมที่จะรับน้ำเหนือและลูกเข้ามาในชีวิตนับจากวันนี้
ในตอนเช้าควอตซ์ลุกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดเขาจึงไม่ต้องเข้าไปทำงาน ก่อนที่จะเดินลงไปที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง ร่างสูงชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นคนเป็นแม่นั่งอยู่
"คุณแม่" ควอตซ์ส่งเสียงทักให้คุณหญิงมรกตเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่กำลังอ่านมามองแล้วคนเป็นแม่ก็มอบค้อนงามๆ ให้กับลูกชายไปหนึ่งที
"คุณแม่ครับ... ผมขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง" ควอตซ์เดินไปนั่งข้างๆ พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษ
คุณหญิงมรกตหันมามองหน้าลูกชายของตนเองแม้จะอยากยกโทษให้แต่อีกใจก็ยังนึกเคืองไม่หายกับการกระทำของลูกก่อนจะเชิดหน้าใส่พร้อมยกมือขึ้นกอดอก "แล้วลูกจะทำยังไงต่อไป แต่แม่บอกไว้เลยนะว่าลูกสะใภ้ของแม่จะต้องเป็นหนูน้ำเหนือคนเดียวเท่านั้น จะเป็นผู้ดีมาจากไหน เป็นดารา นางแบบ นางงามคนไหนแม่ก็ไม่ยอมรับ"
ควอตซ์ยิ้มบางก่อนจะเลื่อนมือไปกอดรอบเอวคนเป็นแม่ "ผมคิดดีแล้วก็ตัดสินใจดีแล้วครับ ผมจะรับผิดชอบน้ำเหนือทุกอย่าง น้ำเหนือจะเป็นสะใภ้ของบริสตัน"
"คิดได้ก็ดี" คุณหญิงว่าเสียงสูง "แต่แม่บอกไว้เลยนะว่าแม่ไม่ช่วยลูกหรอก เมื่อวานแม่คุยกับน้ำเหนือแล้วเจ้าตัวเขาไม่ยอมรับลูก ลูกก็จัดการเอาเองแล้วกัน เรื่องนี้แม่อยู่ข้างน้องไม่อยู่ข้างลูกหรอก"
"ครับคุณแม่ ผมขอโทษนะครับ"
คุณหญิงมรกตถอนหายใจออกมาก่อนจะยกมือขึ้นตีแขนลูกชายเบาๆ "เรื่องที่ผ่านมาแล้วเราย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่มันคือบทเรียนบทสำคัญนะลูก จำบทเรียนนี้เอาไว้แล้วอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก"
"ครับ ขอบคุณครับ"
************************************************
จะเอ๋ๆ มาแล้วๆ มาแล้วค่า พี่ควอตซ์เขาบอกพร้อมที่จะรับผิดชอบ แต่นั่นแหละคือตอนนี้ยังไม่ใช่ความรักไง แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะทิ้งลูกตัวเองได้ง่ายๆ นะเออ คำพูดพี่แกแลจะแปลกๆ คือมันเป็นความรู้สึกก่ำกึงๆ ตั้งใจและอยากที่จะรับผิดชอบจริงๆ แต่ถ้าถามว่ามันคือความรักไหม ไม่อะ มันยังไม่ใช่ มันคือความผูกผันลึกๆ อะเนอะ แล้วมันก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นความรัก ยังไม่ต้องยกโทษให้พี่ควอตซ์หรอกจ้า เพราะหลังจากนี้พี่แกยังเจอศึกหนักอีกเยอะ เอาไว้ตอนนั้นค่อยยกโทษให้แล้วกันนะ
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
อ่านกันแล้วก็คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งให้อ่านกันเรื่อยๆ นะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)