✽ ✽ ✽ ต่อจากคราวที่แล้วค่ะ ✽ ✽ ✽
วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมากของอชิตพล บริสตัน ทายาทคนโตของตระกูลบริสตัน ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เข้าไปทำงานแต่วันนี้เหนื่อยยิ่งกว่าทำงานตั้งแต่เช้ายันมืดค่ำเสียอีก ส่วนสาเหตุที่ทำให้เหนื่อยขนาดนี้นั่นก็เป็นเพราะว่าวันนี้น้ำเหนือออกจากโรงพยาบาลแล้ว และเนื่องจากไม่มีคนไปส่งเด็กดื้อคนนั้นกลับหอ...
โอ๊ตมีคุยงานสำคัญกับลูกค้า ส่วนแม่ของเขาก็มีพบปะเพื่อนในสมาคม แล้วใครจะเป็นคนถูกเลือกให้ไปรับน้ำเหนือที่โรงพยาบาลแล้วพาไปส่งที่หอพักถ้าไม่ใช่
เขาคนนี้...แล้วทันทีที่เขาโผล่หน้าไปที่โรงพยาบาลคนที่จะได้ออกจากโรงพยาบาลก็ออกอาการดื้อแพ่งยืนยันจะกลับเองให้ได้ต้องยืนเถียงกันอยู่นานจนหมอวิรัชเข้ามาไกล่เกลี่ยให้และให้เขาขับรถมาส่งน้ำเหนือ
ถ้าคิดว่าพอขึ้นรถได้แล้วทุกอย่างเป็นอันจบละก็ บอกเลยว่าไม่ใช่ เพราะเพียงแค่รถเลี้ยวออกจากโรงพยาบาลได้ไม่เท่าไหร่
"จอดที่ป้ายรถเมล์ก็ได้ ผมกลับเองได้" น้ำเหนือว่าพลางชี้นิ้วไปที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ไม่ไกล
"จะแวะซื้ออะไรก่อนกลับหรือเปล่า" แต่อีกคนก็ไม่สนใจแล้วถามไปอีกเรื่องแทน
"เอ๊ะ! ผมบอกว่ากลับเองได้ไง จอดรถที่ป้ายรถเมล์ก็พอ"
"น้าหมอบอกว่าให้ทานพวกผลไม้เยอะๆ นี่ใช่ไหม แวะห้างก่อนดีหรือเปล่า"
"คุณอชิตพล! ผมบอกให้จอดรถที่ป้ายรถเมล์ไง" น้ำเหนือเสียงดังขึ้นอีกนิดเมื่ออีกฝ่ายไม่สนใจคำพูดของเขาเลย
"นี่น้ำเหนือ หายเวียนหัวแล้วเหรอ ขึ้นรถเมล์คนเยอะจะไม่ขึ้นไปอาเจียนบนรถหรือไง แน่ใจว่าจะไม่เวียนหัว ปวดหัว" ควอตซ์หันมาถามเพราะก่อนหน้าที่จะออกจากโรงพยาบาลน้ำเหนือยังมีอาการแพ้ท้องอยู่
"เรื่องของผมอีกนั่นแหละ" คนดื้อก็ยังดื้อ
ควอตซ์ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเปิดไฟเลี้ยวซ้ายแล้วจอดรถที่ริมถนนเลยป้ายรถเมล์มาหน่อยพร้อมกับกดเปิดล็อคประตูรถให้ด้วย น้ำเหนือหันมามองเพียงเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูรถลงไปแล้วเดินย้อนกลับไปที่ป้ายรถเมล์ ควอตซ์ยังไม่ได้ออกรถแต่อย่างใด เขามองคนดื้อผ่านกระจกมองหลังและกระจกข้างอยากจะรู้นักว่าจะเก่งอย่างที่ปากว่าหรือเปล่า
แล้วก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างที่ควอตซ์คิด แม้ว่าเขาจะจอดรถเลยป้ายรถเมล์มาแต่ก็ไม่ไกลนักเขายังคงมองเห็นน้ำเหนือที่ตอนแรกยืนอยู่ด้านในบริเวณที่มีคนยืนรอกันเยอะๆ แต่ตอนนี้เจ้าตัวเดินออกห่างมาแล้ว
คนที่นั่งอยู่บนรถได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเปิดประตูรถลงไป น้ำเหนือท่าทางจะเริ่มแย่เพราะตอนนี้เจ้าตัวทรุดตัวลงนั่งกับขอบปูนที่ก่อล้อมต้นไม้ใหญ่บนฟุตบาท ยังดีที่มีพลเมืองดีเข้ามาถามไถ่อาการ
หมับ!
ควอตซ์เดินไปคว้าข้อมือของน้ำเหนือก่อนจะออกแรงดึงๆ เบาให้คนที่โดนจับสะดุ้งเงยหน้าขึ้นมอง
"คุณ..."
"เลิกดื้อแล้วลุกขึ้นมาน้ำเหนือ ฉันจะขับรถไปส่ง"
"ผมบอกแล้วไงว่ากลับเองได้ ไม่รบกวนคุณหรอก" คนดื้อก็ยังดื้อแม้สีหน้าท่าทางจะบอกว่าไม่ไหวแล้วก็ตาม
"ฉันจะนับถึงสามถ้าไม่ลุกฉันจะอุ้ม" ควอตซ์พูดนิ่งๆ ปล่อยมือจากข้อมือของน้ำเหนือแล้วยกขึ้นกอดอกมองคนที่นั่งทำตาโต "หนึ่ง... สอง... สาม..."
พอนับถึงสามก็ก้มลงตั้งท่าจะอุ้มเด็กดื้อทันทีแบบไม่สนใจว่าผู้คนจะมองอยู่ และนั่นทำให้น้ำเหนือรีบเด้งตัวลุกขึ้นยืน "ผมเดินเองได้!"
"แต่แรกก็หมดเรื่อง" ควอตซ์พูดก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่รถปล่อยให้น้ำเหนือยืนหงุดหงิดอยู่กับที่ "เร็วสิ จะกลับไหม"
"ฮึ่ม!! คอยดูเถอะ ผมเอาคืนคุณแน่คุณอชิตพล!"
แล้วถ้าคิดว่านั่นคือการเถียงกันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วละก็คงต้องบอกเลยว่าคิดผิด เพราะหลังจากที่ขึ้นรถควอตซ์ก็ขับรถตรงไปยังหอพักของน้ำเหนือทันที แต่เนื่องจากเขาไม่ได้มากว่าสองเดือนแล้วเขาจึงไม่แน่ใจเท่าไหร่พอหันไปถามคนที่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถแทนทีอีกฝ่ายจะตอบคำถามดีๆ ก็ต้องกวนให้รู้สึกเสียอารมณ์เสียทุกครั้ง เพราะฉะนั้นกว่าที่เขาจะขับรถพาสะใภ้ของบริสตันมาส่งถึงห้องก็เสียพลังงานไปเยอะทีเดียว
จากที่ตอนแรกคิดว่าจะกลับเข้าบริษัทไปเคลียร์งานเสียหน่อยก็เปลี่ยนใจขับรถตรงกลับบ้านทันที จนมานั่งถอนหายใจอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นนี่
"เฮ้อ..."
"เป็นอะไรไปพี่ควอตซ์ ถอนหายใจอะไรขนาดนี้ลูก" คุณหญิงมรกตที่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นร้องถามลูกชายของตนที่นั่งถอนหายใจอยู่ "แล้วนี่ไปส่งน้ำเหนือมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหม"
คนที่นั่งอยู่ก่อนพยักหน้ารับ "ครับคุณแม่ ไปส่งมาแล้ว"
"แม่นึกว่าลูกจะเข้าบริษัทต่อเสียอีก ทำไมกลับมาบ้านละ"
แล้วก็เป็นอีกรอบที่ควอตซ์ถอนหายใจออกมาจนคนเป็นแม่ยิ้มขำเพราะไม่เคยเห็นลูกชายมีท่าทางแบบนี้มาก่อน ก่อนจะหัวเราะเมื่อได้ยินคำตอบ "ก็ลูกสะใภ้คุณแม่นั่นแหละครับ ทำเอาผมเหนื่อยหมดแรงไปทำงานต่อ เด็กอะไรดื้อชะมัด พูดยากอีกต่างหาก คุณแม่รู้ไหมครับกว่าจะออกจากโรงพยาบาลได้เสียเวลาไปเป็นชั่วโมงเพราะเจ้าตัวดื้อไม่ยอมให้ผมไปส่งต้องให้น้าหมอมาพูดให้"
คุณหญิงมรกตหัวเราะกับคำบอกเล่านั้นก็พอจะนึกออกหรอกว่าลูกสะใภ้ของเธอดื้อไม่ใช่เล่น แล้วพออชิตพลได้เล่าแล้วก็รู้สึกอยากจะระบายจนเล่าต่อออกมาหมด "แล้วพอออกจากโรงพยาบาลมาได้นะครับก็บอกว่าให้ผมจอดรถจะขึ้นรถเมล์กลับเอง ดื้อที่สุด! ตอนก่อนออกจากโรงพยาบาลก็แพ้ท้องไปอีกรอบยังจะดื้อกลับเอง ผมเลยปล่อยให้เขาลงที่ป้ายรถเมล์"
"ตายแล้ว! ไปปล่อยน้องเขาแบบนั้นได้ไงลูก" พอฟังมาถึงตรงนี้คุณหญิงก็ร้องออกมายื่นมือไปตีแขนลูกชายตัวเองทันที
"ผมก็แค่แกล้งนั่นแหละครับคุณแม่ ก็ขนาดผมบอกว่าจะขึ้นรถไหวได้ยังไงเดี๋ยวก็เวียนหัวอาเจียนอีก ลูกสะใภ้คุณแม่ยังดื้อจะกลับเอง ผมก็เลยปล่อยให้ลง ลงไปได้ไม่เท่าไหร่ก็หน้าซีดแล้วละครับแบบนั้นถึงได้ยอมให้ผมไปส่ง" ควอตซ์รีบบอกก่อนที่จะโดนตีอีกรอบ "แล้วเมื่อคืนอยู่ๆ ก็ร้องไห้เพราะโดนผมดุ ผมละตามไม่ทันจริงๆ ครับ"
คุณหญิงมรกตยิ้มก่อนจะพูด "เรื่องปกติของคนท้องนะพี่ควอตซ์ อารมณ์แปรปรวนง่าย น้อยใจง่าย หงุดหงิดง่าย โมโหง่าย ตอนแม่ท้องลูกนะแม่ก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ ลำบากพ่อเขาสารพัดเลย"
"อย่างนั้นหรือครับ"
"ค่ะ" คุณหญิงรับคำก่อนจะยื่นมือมาจับแขนลูกชายเอาไว้ "ลูกต้องทำความเข้าใจนะบางทีเราก็ไม่ได้อยากจะหงุดหงิด ไม่ได้อยากจะร้องไห้แต่มันก็ทำไม่ได้ พอท้องก็ยิ่งกลายเป็นคนอ่อนไหวนิดหน่อยก็ไม่ได้แล้ว บางครั้งนะแม่ยังเบื่อตัวเองเลยว่าทำไมถึงได้เป็นแบบนี้นะ น้อยใจตัวเองว่าทำไมต้องร้องไห้ง่ายๆ กังวลไปหมดสารพัด"
"คุณอะไรกันอยู่แม่ลูก" แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรกันต่อเสียงเข้มของคุณโทมัสก็ดังขึ้นก่อนที่คุณโทมัสและลาพิสจะเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น
"คุณเรื่องสมัยตอนท้องนะค่ะ กำลังเล่าให้ลูกชายฟังว่าตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง" คุณหญิงมรกตหันไปตอบสามีก่อนจะขยับไปนั่งข้างๆ คุณโทมัส
คำบอกเล่าที่ทำให้คุณโทมัสหัวเราะออกมา "เล่าให้ตาควอตซ์ฟังเหรอว่าคุณหญิงทั้งดื้อ ทั้งขี้แย ทั้งขี้น้อยใจ"
"จริงเหรอคะ ตอนคุณแม่ท้องเป็นแบบนั้นเหรอคะ แล้วเป็นทุกคนเลยเหรอคะอย่างนี้พี่น้ำเหนือก็ต้องเป็นด้วยสิคะ" ลาพิสร้องถามทันที ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวบริสตันรู้เรื่องของน้ำเหนือหมดแล้ว และไม่มีใครนึกรังเกียจหรือไม่พอใจ ทุกคนกลับรู้สึกรักและเอ็นดูน้ำเหนือมากขึ้น
"อ๋อ... พูดถึงน้ำเหนือแล้วนึกขึ้นได้ คุณจะให้ใครไปดูน้ำเหนือละอยู่ตัวคนเดียวแบบนั้นถ้าเกิดเผลอล้มขึ้นมาจะทำยังไง" คุณโทมัสหันไปถามภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ ตนเอง
"ก็ให้พี่ควอตซ์ไปดูแลสิคะ!" แต่ก่อนที่คุณหญิงมรกตจะได้ตอบอะไรลาพิสก็แทรกขึ้นเสียก่อนพร้อมกับหันไปยิ้มให้พี่ชายที่มองด้วยดวงตาดุๆ กลับมา
"พี่ชายลูกน่ะหรือ คุยด้วยดีๆ กับพี่สะใภ้เรายังไม่ได้เลยแม่ละเห็นความปวดหัวมาแต่ไกล คงอาจจะให้ป้ายุพินไปดูแล" คุณหญิงมรกตว่า
"หือ... ทำไมไม่จ้างพยาบาลพิเศษละคุณหญิง อย่างน้อยเผื่อน้ำเหนือเป็นอะไรขึ้นมาพยาบาลก็คงจะช่วยได้ทันท่วงทีนะ" คุณโทมัสเสนอ
"แต่พิสว่านะ... แบบนั้นจ้างบุรุษพยาบาลดีกว่าค่ะ" ลาพิสพูดพลางเหล่มองพี่ชายของตนที่ขยับตัวนั่งตัวตรงทั้งๆ ที่ตอนแรกยังนั่งพิงโซฟาทำเป็นไม่สนใจอะไรอยู่เลย แบบที่คุณหญิงและคุณโทมัสก็พอจะมองออกว่าลูกสาวคนเล็กจะเล่นอะไรถึงได้แอบยิ้มกัน "เป็นบุรุษพยาบาลก็ต้องรู้เรื่องการดูแลพี่น้ำเหนืออยู่แล้วละค่ะ อีกอย่างเป็นผู้ชายด้วยถ้าเกิดพี่น้ำเหนือล้มไปหรือเป็นลมไปก็คงจะอุ้มได้สะดวก ก็จ้างแบบให้อยู่ดูแลตลอดเวลาไปเลยจะได้ปลอดภัยค่ะ"
อชิตพลขมวดคิ้วกับคำพูดของน้องสาวแต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา
"ก็ดีนะ เพราะถ้าให้ควอตซ์ไปอยู่ลูกก็คงไม่ไปหรอกใช่ไหม อย่างนั้นเดี๋ยวแม่จ้างบุรุษพยาบาลดีกว่าเดี๋ยวให้วิรัชติดต่อให้" คุณหญิงมรกตพูด "แต่เอ๊ะ... ถ้าเกิดบุรุษพยาบาลเผลอหลงรักน้ำเหนือแล้วน้ำเหนือรักตอบขึ้นมาจะทำยังไงดีละ แม่อยากได้น้ำเหนือเป็นสะใภ้ของบริสตันด้วยสิ"
คนฟังได้แต่ถอนหายใจออกมา "ผมไปดูแลเองก็ได้ครับ"
"ต้องแบบนี้สิคะพี่ควอตซ์ เมียเราจะให้คนอื่นไปดูแลได้ยังไง เยี่ยมเลยค่ะ!" ลาพิสยิ้มกว้างพร้อมกับยกนิ้วให้พี่ชายแบบที่คนเป็นพี่หันมาส่ายหน้าใส่
"เธอแหละยัยตัวดี"
ลาพิสเพียงแค่หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ส่วนคุณโทมัสก็ได้แต่ยิ้มขำกับแผนของลูกสาวและภรรยาของตน
คุณหญิงมรกตหันไปส่งเสียงเรียกแม่บ้านที่อยู่ด้านนอกห้องรับแขกให้เข้ามาในห้องก่อนจะเอ่ยสั่ง "เดี๋ยวเธอไปเก็บกระเป๋าให้คุณควอตซ์ทีนะ เตรียมทุกอย่างให้พร้อมเสื้อผ้าสำหรับหนึ่งอาทิตย์ แล้วเดี๋ยวไปบอกป้ายุพินให้เตรียมอาหารอ่อนๆ ใส่หม้อ ใส่กล่องเอาไว้ด้วยนะ"
"ค่ะ คุณผู้หญิง"
"เก็บเสื้อผ้าของผม ทำไมครับคุณแม่" ควอตซ์รีบเอ่ยถามทันที
"อ้าว... ก็ไปอยู่กับน้ำเหนือไงคะพี่ควอตซ์ หรือคืนนี้ลูกจะปล่อยให้น้องเขาอยู่คนเดียว ลูกต้องคอยอยู่ดูแลน้ำเหนือทั้งวันนะคะ"
"ทั้งวัน? แล้วงานที่บริษัทละครับ"
คุณหญิงมรกตไม่ตอบคำถามแต่หันไปหาสามีของตนที่นั่งอยู่ข้างๆ แทนแล้วพูดพร้อมรอยยิ้มหวาน "คุณคะ ยกตำแหน่งประธานบริษัทให้ฉันหน่อยสิ"
"ครับ!!" คุณโทมัสร้องออกมาอย่างตกใจ แต่เมื่อเห็นสายตาจริงจังของคุณหญิงก็พยักหน้าตกลง "ครับ ผมยกให้"
"ขอบคุณค่ะคุณ" คุณหญิงมรกตพูดก่อนจะหันกลับมาหาลูกชาย "แม่ในฐานะประธานบริษัทขอสั่งพักงานลูก"
"คุณแม่! / คุณหญิง" ทั้งควอตซ์และคุณโทมัสร้องออกมาพร้อมกัน ลาพิสเองก็ตาโตด้วยความตกใจไม่แพ้กัน
"คนที่ควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองไม่ได้จนเผลอทำร้ายคนอื่นสมควรที่จะได้ดูแลคนมากมายอย่างนั้นเหรอ" คุณหญิงมรกตพูด "โปรเจคที่แม่ให้ลูกเอาไปให้น้ำเหนือทำจะถูกพักเอาไว้ก่อนจนกว่าลูกจะสามารถกลับมาทำงานได้อีกรอบ"
"คุณแม่..."
"ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวลูกเองนะควอตซ์ ลูกนิสัยเป็นยังไงแม่รู้ดี แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนแต่ก่อนที่ลูกคิดอยากจะทำอะไรก็ทำได้แล้วนะ จากนี้ไปลูกมีคนที่ลูกต้องดูแลเขาไปอีกนานลูกจะทำนิสัยแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว และที่แม่ให้ลูกไปอยู่กับน้ำเหนือก็มีเหตุผลเหมือนกัน การที่เราจะใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ไม่ได้รักมันไม่ง่ายหรอกนะควอตซ์ ลูกต้องรู้จักปรับตัวและเอาใจใส่เขามากขึ้น" คุณหญิงมรกตพูด "เพราะฉะนั้น... ลูกต้องรู้จักเรียนรู้ให้มากขึ้นนะควอตซ์"
ควอตซ์ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพียงแค่นั่งฟังสิ่งที่แม่พูดเงียบๆ เท่านั้น
"บอกตรงๆ เลยแม่ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ที่น้ำเหนือจะกลับไปอยู่หอคนเดียวแบบนั้น มันอันตรายมากๆ จริง แล้วก็มีความเสี่ยงมาก แม่จะให้ลูกกลับไปทำงานอีกรอบถ้าลูกสามารถพาน้ำเหนือมาอยู่ที่บ้านเราได้"
"แค่ผมโผล่หน้าไปเขาก็ไล่ผมแล้วละมั้งครับ" คนที่โดนพักงานได้แต่ถอนหายใจออกมา
"เดี๋ยวแม่ให้น้าวิรัชไปส่งลูกก็แล้วกัน ให้น้าเขาช่วยพูดให้ ถึงแม้น้ำเหนือจะทิฐิเยอะ แต่น้ำเหนือก็กำลังจะเป็นแม่คน คนเป็นแม่ต้องคำนึงถึงลูกมากกว่าตัวเองเสมอ เราเถอะไปอยู่กับน้องก็พยายามเข้าใจเขาหน่อย อย่าไปโมโหหรือดุมากนักค่อยๆ พูด คุยกันดีๆ ความรู้สึกอารมณ์ของน้ำเหนือส่งผลต่อลูกในท้อง ช่วงนี้ต้องระวังเป็นพิเศษเพราะลูกจะหลุดง่าย"
"ครับ ผมจะพยายามแล้วกันครับคุณแม่"
************************************************
ครบแล้วค่ะสำหรับตอนนี้ นี่แค่จะพาไปส่งที่หอยังเถียงกันซะขนาดนี้ แล้วถ้าต้องไปอยู่ด้วยกันแบบนี้จะขนาดไหนละเนี่ย... ไม่รู้จะเหนื่อยใจ สงสารใครดีค่ะคราวนี้ ฮา... เอาเป็นว่าเอาใจช่วยพวกเขาทั้งสองคนก็แล้วกันนะคะ ใครจะอยู่ #ทีมน้ำเหนือ หรือ #ทีมพี่ควอตซ์ ก็ตามสบายเลยค่ะ เต็มที่ค่ะเต็มที่
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
อ่านกันแล้วก็คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งให้อ่านกันเรื่อยๆ นะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)