บท14ท่ามกลางแสงแดดยามเย็นตอนนี้กำลังมีคนสองคนกำลังยืนมองหน้ากันอยู่ หนึ่งรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมคายหล่อเหลา อีกหนึ่งรูปร่างบางกว่าอีกคนมากนักใบหน้าน่ารักมากกว่าหล่อ ดวงตากลมโตกำลังจับจ้องไปที่ใบหน้าของอีกคน มองสบเข้ากับดวงตาเรียวสีสวยคู่นั้น
ทั้งคู่ยืนมองหน้ากันมาแบบนี้ได้หลายนาทีแล้วแต่ก็ไม่มีใครเอ่ยปากพูดอะไร คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็ได้แต่มองมาอย่างลุ้นๆ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า
คิ้วสวยของคนตัวสูงเลิกขึ้นพร้อมกับดันลิ้นชนกระพุ้งแก้มจนเหมือนคนกำลังออกอาการกวนให้อีกคนได้แต่เม้มปากแน่น แต่สุดท้ายคนโตกว่าก็ยอมแพ้
“มายืนตากแดดทำไม เข้าบ้านไปได้แล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนจะไล่แต่ก็แฝงด้วยความเป็นห่วงเอาไว้
“คุณหนูใหญ่คะ…” เสียงของสาวใช้ที่ดังมาจากทางด้านหลังของคนที่ยืนประจันหน้ากันอยู่เรียกสายตาของควอตซ์ให้หันไปมองก็พบกับรอยยิ้มแปลกๆ ของสาวใช้
“คุณหนูใหญ่คะ ยืนอยู่ตรงนี้มาหลายนาทีแล้วนะคะ คุณควอตซ์ก็มาแล้วด้วย” สาวใช้คนเดิมยังคงพูดต่อเมื่อเห็นว่าคุณหนูใหญ่ที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ไม่กี่ชั่วโมงยังยืนเงียบ
“มีอะไรกันสาลี่” เป็นควอตซ์ที่เอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า
ถ้าให้ย้อนไปก่อนจะถึงการยืนจ้องหน้ากันระหว่างอชิตพลและน้ำเหนือก็คงเป็นหลังจากที่ควอตซ์ขับรถเข้ามาจอดไว้ในโรงจอดรถของบ้านแล้วเดินถือเสื้อสูทและกระเป๋าเอกสารตรงเข้าบ้าน แต่ยังไม่ทันจะถึงประตูร่างคุ้นตาของน้ำเหนือก็เดินออกมาพร้อมกับสาวใช้อีกสองคน ซึ่งตอนนี้ก็ยืนอยู่ด้านหลังน้ำเหนือนั่นแหละ
ควอตซ์หยุดยืนมองว่าอีกฝ่ายมีเรื่องอะไรหรือยังไงถึงได้ออกมาหาเขาแบบนี้ แต่ก็ไม่มีเสียงพูดจากคนตรงหน้านอกจากดวงตากลมโตนั้นมองตรงมาที่เขา
“คุณหนูใหญ่มีอะไรจะบอกน่ะค่ะคุณควอตซ์” สาลี่ตอบพร้อมกับยิ้มแล้วกันไปยิ้มแบบขบขันให้กับเพื่อนสาวใช้อีกคน
“มีอะไรจะบอกฉันเหรอ” พอได้คำตอบจากสาวใช้ก็เบนสายตามามองคนที่ยังยืนเม้มปากอยู่
น้ำเหนืออ้าปากขึ้นเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะหุบปากลงแล้วอ้าปากซ้ำอีกรอบ
“ว่ายังไง แดดตอนเย็นมันยังแรงอยู่ถ้าไม่มีอะไรก็เข้าบ้านไปเดี๋ยวเป็นลม” พอได้ยินน้ำเสียงกึ่งดุของควอตซ์น้ำเหนือก็ยกมือกอดอกทันที
ควอตซ์ทำท่าจะพูดอีกรอบแต่คราวนี้กลับเป็นน้ำเหนือที่เอ่ยแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“ย… ยินดีต้อนรับกลับบ้านพ… พี่ควอตซ์!” พูดจบเจ้าตัวก็หมุนตัวเดินจ้ำอ้าวเข้าไปในบ้านทันที ให้คนที่กำลังอ้าปากจะพูดอ้าปากค้างอยู่แบบนั้น
“ห๊ะ” ควอตซ์หลุดเสียงออกมา เอียงคอนิดเหมือนไม่แน่ใจว่าได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า ก่อนจะหันไปมองสาวใช้สองคนที่ยืนหัวเราะคิกคักกันอยู่ “เมื่อกี้น้ำเหนือพูดว่าอะไรนะ ฉันเหมือนจะหูฝาด”
“หูไม่ฝาดหรอกค่ะคุณควอตซ์ คุณหนูใหญ่เธอพูดว่า ‘ยินดีต้อนรับกลับบ้านพี่ควอตซ์’ ค่ะ” สาวใช้อีกคนที่ชื่อใบหม่อนพูดพร้อมกับยิ้ม
“พี่ควอตซ์…?”
“ค่ะ คุณหญิงท่านบอกให้คุณหนูใหญ่เรียกคุณแบบนี้ แล้วนี่ก็บอกให้มาพูดต้อนรับกับคุณควอตซ์ค่ะ แต่คงเขินเลยยืนมองคุณควอตซ์อยู่นาน พูดจบก็หนีเข้าไปเลย” สาลี่ว่า
ควอตซ์ได้แต่ส่ายหน้าไปมาทั้งๆ ที่บนใบหน้ายังคงปรากฏรอยยิ้มบางๆ นึกถึงคนพูดเสียงห้วนเมื่อครู่ที่เหมือนจะหาเรื่องกันมากกว่าต้อนรับแล้วก็หลุดหัวเราะออกมาอย่างขบขัน
“คุณแม่นี่ก็นะ…” เขาได้แต่พึมพำกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านบ้าง
ร่างสูงตรงไปยังห้องนั่งเล่นที่คิดว่าคุณหญิงของบ้านนี้จะต้องอยู่แน่ๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ไม่ใช่แค่คุณหญิงมรกตเท่านั้นที่อยู่แต่คนที่เพิ่งเดินหนีเขามาก็อยู่ด้วย และพอน้ำเหนือเห็นเขาเท่านั้นแหละเจ้าตัวก็ถึงกับสะดุ้งขยับไปกอดแขนคุณหญิงเอาไว้แน่น
“กลับมาแล้วครับคุณแม่” ควอตซ์เอ่ยทักคนเป็นแม่ก่อนจะตรงเข้าไปหอมแก้มคุณหญิงมรกต ตอนที่ผละออกก็หันไปมองคนที่แทบจะซุกตัวอยู่ข้างหลังคุณหญิง
เห็นท่าทางนั้นแล้วก็ได้แต่นึกขำอยู่ในใจ…“แล้วคุณพ่อละไม่ได้กลับมาพร้อมกันหรอกเหรอ” คุณหญิงมรกตถามถึงคุณโทมัส
“เปล่าครับ ผมกลับมาก่อนเห็นว่าคุณพ่อยังคุยงานอยู่ตอนผมออกมา” ควอตซ์ตอบก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาเดี่ยว เขาหันไปขอบคุณป้ายุพินที่เดินถือแก้วน้ำมาให้พร้อมกับรับมาดื่ม
“จริงสิ... แม่ยังไม่ได้พาน้องขึ้นไปดูห้องเลย มาถึงก็มัวแต่คุยเล่นกันทั้งวันเลยควอตซ์พาน้องขึ้นไปดูห้องสิ” คุณหญิงมรกตหันมองคนที่นั่งข้างๆ สลับกับลูกชายตัวเอง
“ห้องผม?” ควอตซ์พูดพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเหมือนกับเป็นการถามว่าให้ไปดูห้องของเขาอย่างนั้นเหรอ
“ก็ห้องของลูกสิจ้ะ จะให้น้องไปนอนห้องไหนกันไปๆ พาน้องไปดูห้องที่จริงแม่ตกแต่งเพิ่มเติมเอาไว้แล้วละลูกลองไปดูกันนะว่าอยากได้อะไรเพิ่มไหม” คุณหญิงมรกตว่าก่อนจะหันกลับมาหาน้ำเหนือ “คราวที่แล้วมาได้สำรวจห้องพี่เขาหรือยัง แม่ไปตกแต่งเพิ่มไว้ให้ลองไปดูนะว่าถูกใจไหม”
“คือ... ผมนอนห้องอื่นก็ได้นะครับจะได้ไม่ต้องรบกวนคุณอชิต... ผมหมายถึงไม่ต้องรบกวนพี่เขา” น้ำเหนือบอกเผลอเรียกอีกฝ่ายอย่างที่เคยชินก่อนจะเปลี่ยนคำพูดเมื่อเห็นสายตาของคุณหญิงที่มองมา
“เป็นสามีภรรยากันจะนอนแยกห้องกันได้ยังไงละ อีกอย่างเวลากลางคืนหนูเกิดแพ้ท้องขึ้นมาจะได้มีคนช่วยดูแล อยู่ห้องนอนคนเดียวอันตรายแม่ไม่อนุญาตนะคะ” คุณหญิงมรกตว่า “ไปพี่ควอตซ์พาน้องขึ้นไปดูห้อง แล้วก็พักผ่อนกันก่อนก็ได้เดี๋ยวแม่จะให้เด็กขึ้นไปตามตอนถึงเวลามื้อเย็น”
“ไปสิลูก” คุณหญิงย้ำออกมาอีกรอบเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนยังนั่งนิ่งกันอยู่
ควอตซ์เป็นฝ่ายลุกขึ้นก่อนร่างสูงยืนรออีกคนที่ยังนั่งนิ่งจนคุณหญิงมรกตต้องหันไปพยักหน้าให้ถึงจะยอมลุกมาหาเขา ทั้งสองคนเดินออกจากห้องนั่งเล่นขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน คราวก่อนที่มาน้ำเหนือไม่ทันได้สังเกตบนชั้นสอง ขึ้นมาครั้งแรกก็หลับ ตอนลงก็ไม่ได้มองซ้ายมองขวาคราวนี้เลยถือโอกาสมองไปรอบๆ การตกแต่งบนชั้นสองไม่ต่างจากชั้นหนึ่งมากนัก บ้านหลังนี้ช่างแตกต่างจากบ้านคนรวยในความคิดของน้ำเหนือมากจริงๆ
บ้าน... ที่ดูเป็นบ้านจริงๆ ไม่ใช่แค่ที่อยู่หลับนอนไปวันๆ“คุณ... ไม่มีห้องนอนอื่นเหรอผมไปนอนที่ห้องอื่นก็ได้นะ” น้ำเหนือร้องถามเมื่อเห็นว่าคนที่เดินนำหยุดอยู่หน้าประตูห้อง
“ห้องนอนแขกก็มีอยู่หรอกแต่พิสชอบพาเพื่อนมานอนด้วยบ่อยๆ” ควอตซ์หันมาบอก
“แล้วห้องนอน...”
“สรุปว่าเธอก็ต้องนอนกับฉันนี่แหละ คิดเหรอว่าถ้าไปนอนที่อื่นแล้วคุณแม่จะยอม ดีไม่ดีคุณแม่รู้เข้าได้โดนกันหมดทั้งฉันทั้งเธอ” ควอตซ์ว่าพร้อมกับจับแขนน้ำเหนือแล้วดึงอีกฝ่ายเข้าไปในห้อง และทันทีที่เข้ามาไฟในห้องก็สว่างขึ้นมาทันที
“คุณแม่นี่เก่งจริงๆ ไม่กี่วันก็เปลี่ยนห้องเสียเกือบหมด” เจ้าของห้องพูดอย่างนึกขันเมื่อเห็นห้องนอนของตัวเองที่ต่างไปจากเดิม ผ้าปูที่นอนสีเข้มเปลี่ยนเป็นสีโทนสว่าง ข้าวของหลายชิ้นที่เป็นสีดำเทาก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีอ่อนๆ
“คุณอชิตพล... ผมว่าเราลองไปขอคุณแม่คุณใหม่อีกรอบดีไหมครับ” น้ำเหนือดึงเสื้อของอีกคน
อชิตพลดึงมือของน้ำเหนือออกจากเสื้อของตัวแล้วเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนอนหลังใหญ่แทนพร้อมกับมองคนที่ยืนทำหน้ามุ่ยอยู่กลางห้อง “คิดว่าเปลี่ยนใจคุณหญิงมรกตได้หรือไง”
น้ำเหนือได้แต่ถอนหายใจก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวที่อยู่ปลายเตียง เปลี่ยนใจคุณหญิงมรกตยากยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น คงทำได้แต่ยอมรับเท่านั้นละสินะ...
“แล้ววันนี้ทำอะไรบ้าง” ควอตซ์ถามคนที่นั่งอยู่ปลายเตียงตอนนี้เขาขยับไปมานอนพิงหัวเตียงเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชายเสื้อเชิ้ตที่ตอนแรกทับอยู่ในกางเกงก็ถูกดึงออกพร้อมกับกระดุมเสื้อเม็ดบนที่ปลดออกเพื่อให้สบายขึ้น
คนถูกถามขยับไปนั่งขัดสมาธิบนโซฟาหันหน้าไปทางคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง “ก็ไม่ได้ทำอะไรครับ แค่นั่งคุยกับคุณแม่คุณทั้งวันแล้วก็กินทั้งวัน”
“วันนี้ไม่แพ้ท้องเหรอ”
“ก็มีบ้างนะครับแต่ไม่รุนแรงเท่าไหร่สงสัยจะแปลกที่จนลืมเรื่องนี้ไปละมั้ง...” น้ำเหนือตอบก่อนจะร้องขึ้นมาอย่างนึกขึ้นได้ “จริงด้วย! วันนี้ผมนั่งร่างแบบเครื่องประดับอันใหม่ ว่าแต่... อยู่ไหนนะ”
“เอาไว้ก่อนก็ได้ วันนี้ฉันคุยเรื่องงานมาทั้งวันแล้วยังไม่อยากคุยเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยดูแล้วกัน”
น้ำเหนือเลยได้แต่พยักหน้ารับหลังจากนั้นทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก ควอตซ์หลับตาลงอย่างต้องการพักสายตาส่วนน้ำเหนือก็ลุกเดินไปรอบห้องเพราะไม่รู้จะทำอะไรก่อนจะหยิบหนังสือบนโต๊ะทำงานในห้องนอนนั้นมานั่งอ่านเล่นที่ปลายเตียง แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะเลือกหนังสือผิดเล่ม ถ้าเป็นหนังสือเกี่ยวกับแฟชั่นหรือเครื่องประดับน้ำเหนือละอ่านได้ไม่มีเบื่อ แต่พอเป็นหนังสือวิชาการหรือหนังสือวรรณกรรมต่างประเทศแบบเล่มที่หยิบมานี้ไม่ถูกกับเจ้าตัวอย่างแรง เพราะเพียงแค่อ่านไปได้หน้าเดียวดวงตากลมๆ นั้นก็ชักจะเริ่มปรือเหมือนกับโดนยานอนหลับชั้นดี
“อ๊ะ!” คนที่ทำท่าจะหลับทั้งๆ ที่นั่งอยู่นั้นสะดุ้งเมื่อหนังสือในมือถูกดึงออกไป เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะเห็นคนที่คิดว่าหลับไปแล้วยืนขมวดคิ้วอยู่ตรงหน้า “คุณอชิตพล”
“ตาจะปิดอยู่แล้ว เดี๋ยวไปล้มฟาดลงกับพื้นหรอก” ควอตซ์ว่าก่อนจะเดินเอาหนังสือกลับไปวางที่โต๊ะไว้เหมือนเดิม “ไปล้างหน้าสิ อีกพักเดี๋ยวลงไปข้างล่างกัน”
“คุณไม่ได้หลับหรอกเหรอ” น้ำเหนือร้องถาม
“เปล่าแค่พักสายตาไปแปบเดียว พอลืมตามาก็เห็นเด็กนั่งโงนเงนจะหลับคาหนังสือนี่แหละ” ควอตซ์หันมาตอบ
ใบหน้าน่ารักบึ้งขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำว่าเด็กจากปากคนตรงหน้าแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากลุกเดินเข้าไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ พอออกมาก็เห็นสาวใช้เพิ่งเดินออกจากห้องไปพอดี ควอตซ์หันกลับมาหาน้ำเหนือก่อนจะเอ่ย
“ลงไปข้างล่างกันเถอะ”
“ครับ” น้ำเหนือตอบรับก่อนจะเดินตามเจ้าของร่างสูงออกจากห้องไป
และทันทีที่ลงมาถึงข้างล่างก็ได้ยินเสียงของลาพิสดังลอยออกมาทันที ควอตซ์เดินนำน้ำเหนือเข้าไปในห้องอาหารก่อนจะร้องแซวน้องสาวทันที “เสียงดังไปถึงชั้นสองนู้น”
ลาพิสหันมามองก่อนจะส่งค้อนให้พี่ชายแล้วหันไปยิ้มหวานให้กับพี่สะใภ้ “พี่ควอตซ์ก็เวอร์เกินไป สวัสดีค่ะพี่น้ำเหนือ”
“สวัสดีครับคุณ... อ่า... ลาพิส”
“ใช่แล้วค่ะไม่ต้องเรียกพิสว่าคุณแบบนี้นี่แหละ พี่น้ำเหนือน่ารักที่สุดเลย” ว่าแล้วเจ้าตัวก็แทบจะกระโดดจากเก้าอี้ที่นั่งตรงไปกอดเอวพี่สะใภ้ “ไม่เหมือนกับพี่ควอตซ์เลย ไม่เห็นน่ารักเลยสักนิด”
“พอเด็กๆ พอมานั่งทานข้าวกันได้แล้ว สองพี่น้องนี่เถียงกันเป็นเด็กๆ ไปได้” คุณโทมัสที่นั่งอยู่หัวโต๊ะเอ่ยปรายลูกทั้งสองคน น้ำเหนือจึงได้มีโอกาสยกมือไหว้สวัสดี
ถึงแม้ว่าจะเคยรวมโต๊ะอาหารกันมาก่อนแล้วแต่น้ำเหนือก็ยังรู้สึกเกร็งไม่หาย ยิ่งพอคุณหญิงมรกตถามถึงตอนที่ควอตซ์ไปอยู่ด้วยที่หอพักว่าอีกฝ่ายดูแลดีไหม มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า แล้วพอเผลอหลุดเรียกอีกฝ่ายว่า ‘คุณอชิตพล’ เมื่อไหร่ก็โดนคุณหญิงมองดุๆ เสียทุกครั้งไป เลยได้แต่เรียก ‘พี่ควอตซ์’ ด้วยเสียงที่เบาอย่างกับเสียงกระซิบ
ปฏิกิริยาของควอตซ์ตอนได้ยินน้ำเหนือเรียกตนว่าพี่นั้นค่อนข้างสร้างความแปลกใจให้กับทุกคนโดยเฉพาะกับน้ำเหนือและคุณหญิงมรกต สำหรับน้ำเหนือนั้นคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่พอใจแล้วแสดงสีหน้าออกมาให้เห็นบ้างแต่เปล่าเลย ควอตซ์ไม่ได้แสดงอาการว่าไม่พอใจกับคำเรียกของน้ำเหนือออกจะขบขันเสียด้วยซ้ำตอนเห็นท่าทางอึกอักๆ ก่อนจะเรียกเขา
สำหรับอชิตพลก็คงน่าขบขันจริงๆ นั่นแหละ เหมือนกับเป็นการได้กลั่นแกล้งน้ำเหนือเล็กๆ และการได้เห็นท่าทางนั้นของน้ำเหนือก็ทำให้เขาพอใจอยู่ลึกๆ
“จริงสิน้ำเหนือใกล้วันไปหาหมอตามนัดแล้วใช่ไหม เมื่อไหร่นะ” คุณหญิงมรกตหันมาถามลูกสะใภ้ของตน เหมือนจะจำได้ว่าหมอวิรัชเคยพูดเอาไว้เมื่อครั้งก่อน
คนถูกถามตาโตขึ้นทันทีด้วยความตกใจกับคำถามนั้นก่อนจะส่งยิ้มแหยๆ ออกมา “ผมลืมไปเลยครับว่าใกล้วันนัดแล้ว”
“พรุ่งนี้ครับ” ควอตซ์ตอบขึ้นมาให้ทุกคนหันไปมอง “ก็พรุ่งนี้ไงครับวันนัดพบกับน้าหมอ”
“แล้วพรุ่งนี้ลูกมีงานหรือเปล่า พาน้องไปโรงพยาบาลได้ไหมหรือจะให้แม่พาไปเอง” คุณหญิงมรกตหันไปถามลูกชายแทน
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปส่งเองครับ คุณแม่จะไปด้วยกันไหมครับ”
“ไปจ้ะ อย่างนั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้แม่ไปด้วยแล้วกัน” คุณหญิงมรกตว่าซึ่งน้ำเหนือกับควอตซ์ก็ตอบรับไปกับคำพูดนั้น
ในตอนนี้ทั้งน้ำเหนือและอชิตพลกำลังนั่งประชันหน้ากันอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ เมื่อตอนเย็นก็ยืนมองหน้ากันไปที่หน้าบ้านแล้ว พอตกกลางคืนพวกเขาก็นั่งมองหน้ากันอีกรอบบนเตียง ส่วนเหตุผลที่ทำให้พวกเขาต้องมานั่งมองหน้ากันแบบนี้ก็เพราะอาการดื้อดึงที่อยู่ๆ ก็เกิดขึ้นของน้ำเหนือที่จะลงไปนอนที่พื้นให้ได้
“นี่มันเริ่มดึกแล้วนะน้ำเหนือ หยุดดื้อแล้วนอนได้แล้วน่า นอนบนเตียงด้วยกันนี่แหละฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกตอนนี้ฉันอยากนอนมากกว่าคิดจะมาทำอะไรเธอนะ” ควอตซ์พูดออกมาในที่สุด หลังจากที่ขึ้นมาบนห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวเข้านอนกันแล้ว อยู่ๆ น้ำเหนือก็ตั้งท่าจะหอบหมอนลงไปไว้บนพื้น พอเขาเห็นก็รีบร้องห้ามเพราะขืนปล่อยให้นอนบนพื้นแบบนั้นถึงจะมีพรมรองอยู่แต่ก็คงไม่สบายเท่าไหร่นักสำหรับคนที่กำลังท้อง อีกอย่างถ้าเกิดคุณหญิงมรกตรู้เข้าได้เป็นเรื่องใหญ่แน่นอน
“ทีตอนฉันไปอยู่ห้องเธอจะนอนเตียงเดียวกันได้เลย นอนลงแล้วก็หลับได้แล้ว”
“นั้นคุณขึ้นไปนอนบนเตียงผมเองต่างหาก อีกอย่างผมนอนที่พื้นไม่ดีตรงไหนคุณจะได้นอนสบายๆ ยังไงละ” น้ำเหนือยังว่าอย่างดื้อแพ่ง
ควอตซ์ถอนหายใจออกมา เขาจัดการดึงหมอนที่อีกฝ่ายนั่งกอดเอาไว้อยู่ออกแล้วโยนมันวางไว้ตรงหัวเตียงแล้วตรงเข้ามารวบตัวเด็กดื้อจนลอยขึ้นน้ำเหนือได้แต่ร้องออกมาอย่างตกใจก่อนจะปิดปากเงียบเมื่ออีกฝ่ายวางเขาลงนอนบนเตียงแถมยังดึงผ้ามาห่มให้อีกด้วย ควอตซ์ลุกจากเตียงตรงไปยังตู้เสื้อผ้าร่างสูงก้มๆ เงยๆ อยู่สักพักก็ดึงผ้าขนหนูผืนใหม่ออกมาจากกล่องแล้วจัดการโยนให้คนที่นอนมองอย่างไม่เข้าใจบนเตียง
“อะไรของคุณเนี่ย!” น้ำเหนือโวยวายออกมาทันทีที่ผ้าขนหนูหล่นลงบนหน้า เจ้าตัวหยิบผ้าออกพ้นจากหน้าของตนมองคนที่โยนผ้ามาอย่างเคืองๆ
“ผ้าห่มมีผืนเดียว เอาผ้าขนหนูนี่ไปนอนกอดแทนก่อนแล้วกันเดี๋ยวจะนอนไม่หลับ แล้วก็หลับตาซะจะปิดไฟแล้วถ้ายังดื้ออีกฉันจะตีแล้วนะ”
“ผมจะฟ้องคุณแม่คุณว่าคุณจะตีผม” น้ำเหนือเถียงออกมา
“ฉันก็จะฟ้องคุณแม่ว่าเธอน่ะดื้อไม่ยอมนอน แถมยังจะลงไปนอนที่พื้นอีกต่างหาก” ควอตซ์ว่ากลับอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน ร่างสูงเดินกลับไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียง หยิบเอาหมอนใบยาวมาวางกั้นเอาไว้ตรงกลางอย่างที่เคยทำเหมือนกับตอนที่ไปนอนที่ห้องพักของน้ำเหนือ มือหนาเอื้อมไปหยิบผ้าขนหนูในมือของน้ำเหนือแล้วเอามันวางปิดหน้าอีกคนเอาไว้เหมือนเป็นการตัดบทว่าให้นอน
“คุณอชิตพล!” น้ำเหนือร้องเสียงดังตั้งท่าจะลุกขึ้นมาโวยวายต่อแต่ก็ถูกมือหนาดันหน้าผากเอาไว้เสียก่อน เจ้าตัวเลยได้แต่ส่งเสียงฮึดฮัดอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“นอนๆ นอนได้แล้ว ดื้อชะมัดเลยเธอเนี่ย ดื้อให้มันน้อยๆ ลงหน่อยเดี๋ยวลูกออกมาจะยิ่งดื้อเข้าไปใหญ่”
“เอ๊ะ! คุณนี่”
“นอนครับนอน พรุ่งนี้ต้องไปหาหมออีก” ควอตซ์ว่าก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปหยิบรีโมทอันเล็กมากดปิดไฟในห้อง เหลือเพียงแสงไฟอ่อนๆ ตรงบริเวณหน้าห้องน้ำเท่านั้นที่ดังเปิดอยู่
ส่วนคนดื้อนั้นทั้งๆ ที่ก่อนที่จะปิดไฟยังส่งเสียงเถียงมาไม่หยุดแต่พอไฟปิดได้ไม่เท่าไหร่เจ้าตัวก็หลับไปแล้วเรียบร้อยจนควอตซ์ได้แต่ส่ายหน้ายื่นมือไปดีดหน้าผากอีกคนเบาๆ เหมือนกับมั่นเขี้ยวกับอาการดื้อดึงของคนท้องก่อนที่จะขยับมาทิ้งตัวลงนอนแล้วหลับไปบ้าง
************************************************
รู้สึกแปลกๆ แต่งตอนนี้แล้วมันแปลกๆ สงสัยเกิดจากอาการเกเรไม่ยอมแต่งนิยายเลยทำให้พอแต่งจริงๆ จังๆ แล้วมันขัดๆ เหมือนสมองไม่แล่นเท่าไหร่ แฮ่... ขอโทษนะคะ ตอนหน้าจะปรับปรุงนะคะ ต่อไปจะเริ่มมุ่งเน้นมาที่ความสัมพันธ์ของพี่กับน้องแล้วนะคะ ฉากน่ารักๆ ก็คงมีเข้ามาเรื่อยๆ ให้ได้อ่านกันค่ะ เริ่มพัฒนาความรู้สึกขึ้น
ฟางต้องขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ชอบนิยายเรื่องนี้แล้วก็รออยู่ตลอด ไม่รู้จะพูดอะไรเลยนอกจากคำว่าขอบคุณนี่แหละค่ะ จะพยายามเป็นนักเขียนที่ดี แล้วอัพให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ ขอบคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจแล้วก็การรอนิยายเรื่องนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
อ่านกันแล้วก็คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งให้อ่านกันเรื่อยๆ นะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ขอบคุณทุกคะแนนบวกเป็ด คะแนนชื่นชมในตัวฟางนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ