"ฉันอาจจะขี้หึง... กว่าที่คิด" ✽ ✽ ✽ ต่อจากคราวที่แล้วค่ะ ✽ ✽ ✽
“น่าเสียดายที่ครั้งนี้ก็ยังไม่เห็นว่าเจ้าตัวเล็กเป็นเพศอะไร แต่ทั้งสองคนก็แข็งแรงดีไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงนะ” หมอวิรัชว่าหลังจากที่ทั้งควอตซ์ น้ำเหนือและตัวหมอวิรัชออกจากห้องสำหรับอัลตราซาวด์แล้วกลับมาที่ห้องตรวจ
“ไม่เป็นอะไรครับ ผู้หญิงผู้ชายเอาไว้ลุ้นตอนเขาออกมาก็ได้” น้ำเหนือว่ายิ้มๆ รู้สึกว่าในอกมันพองโตอย่างแปลกๆ ตอนที่ได้เห็นเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนในท้องที่เริ่มมีพัฒนาการมากขึ้น
“ใช่ครับน้าหมอ” ควอตซ์เองก็ว่าเช่นนั้นเหมือนกัน
“โอเค... อย่างนั้นมาพูดเรื่องพัฒนาการของเจ้าตัวเล็กกันต่อ” หมอวิรัชว่าพร้อมกับหยิบรูปมาประกอบการอธิบายด้วย “ช่วงเดือนที่ห้านี่เจ้าตัวเล็กจะเริ่มมีการพัฒนาทางด้านการได้ยิน เขาจะสามารถได้ยินเสียงของคุณแม่ มีการตอบสนองต่อเสียงภายนอก เราสามารถกระตุ้นและช่วยพัฒนาได้ด้วยการพูดคุยกับเขาบ่อยๆ”
“แล้วก็... สิ่งที่มหัศจรรย์อีกอย่างที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ เด็กจะเริ่มขยับตัวคุณแม่จะรู้สึกได้เวลาที่เขาขยับตัว บางครั้งถ้าเขาขยับตัวแรงก็จะเห็นหน้าท้องนูนออกมา ถ้าเห็นแบบนั้นก็ไม่ต้องตกใจไปนะเขาไม่ได้เป็นอะไรที่สำคัญ... ถ้ารู้สึกว่าเขาเริ่มดิ้นสม่ำเสมอก็ให้นับการดิ้นของเขาด้วย เขาจะต้องดิ้นทุกวันถ้าหากไม่ดิ้น ดิ้นน้อยลงก็ให้รีบมาหาน้าทันทีนะ”
น้ำเหนือกับควอตซ์พยักหน้ารับคำนั้น “ครับน้าหมอ”
“ต่อไปเป็นเรื่องที่คุณแม่ต้องระวังนะ ช่วงนี้คุณแม่จะมีอาการท้องผูก ปวดศีรษะ ขาเป็นตะคริวเกิดขึ้นได้ ให้ทานพวกผัก ผลไม้เยอะๆ แล้วพวกวิตามินบี12 ซึ่งมันจะอยู่ในเนื้อสัตว์จะช่วยบำรุงระบบประสาทของเจ้าตัวเล็กได้ แล้วก็... เริ่มออกกำลังกายบ้างไม่ต้องรุนแรงแค่เดิน โยคะหรือว่ายน้ำก็ได้”
“ครับน้าหมอ ขอบคุณมากนะครับ” น้ำเหนือยกมือไหว้ขอบคุณหมอวิรัชก่อนจะลุกเดินออกจากห้องพร้อมๆ กับควอตซ์
“ไปนั่งรอที่ร้านน้ำก่อนเดี๋ยวฉันไปรอรับยาให้เอง” ควอตซ์บอกกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ครับ คุณจะเอาน้ำอะไรไหมผมจะได้สั่งไว้ให้เลย” น้ำเหนือถาม
“อเมริกาโน่เย็นแล้วกัน แล้วถ้าเธอจะกินก็สั่งน้ำผลไม้ห้ามสั่งพวกชาเขียว ช็อคโกแลตเข้าใจไหม”
“รู้แล้วคร้าบบบบบ” น้ำเหนือลากเสียงยาวก่อนจะร้องออกมาเมื่ออีกคนยกมือขึ้นจับแก้มแล้วยืดอย่างนึกมันเขี้ยวกับท่าทางนั้น ซึ่งกว่าแก้มจะหลุดจากมือแก้มขาวๆ ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเจ้าตัวเลยได้แต่ยกมือลูบแก้มตัวเองแล้วทำหน้างอใส่
“มันเขี้ยว” ควอตซ์ว่าสั้นๆ จับมือน้ำเหนือออกแล้วใช้มืออีกข้างลูบแก้มที่แดงเพราะฝีมือของเขาแทนเบาๆ เหมือนจะปลอบโยน แม้จะสัมผัสได้ว่าแก้มที่เขาลูบอยู่นั้นจะร้อนขึ้นทีละนิดแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
“พอแล้วครับ... ไม่เจ็บแล้ว” น้ำเหนือพูดเสียงเบาจับมือของควอตซ์ลง คราวนี้จากแก้มที่แดงข้างเดียวก็เปลี่ยนเป็นแดงทั้งสองข้าง “ผมไปรอที่ร้านนะครับ” แล้วเจ้าตัวก็รีบหันหลังเดินไปทันที
ทำไมต้องหน้าร้อนๆ ด้วยนะน้ำเหนือ อย่าบอกนะว่าเขิน... บ้าชะมัด น้ำเหนือบ้า บ้าๆๆ บ้าที่สุดเลยได้แต่ยกมือกุมแก้มทั้งสองข้างของตัวเองยามที่เดินไปที่ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาล ตรงไปสั่งเครื่องดื่มของตัวเองและคนที่ชอบทำให้แก้มร้อนๆ คนละแก้วแล้วจึงเดินไปนั่งรอ
“คุณน้ำเหนือ... เจอกันอีกแล้วนะครับ” เสียงทักที่คุ้นหูดังขึ้นเรียกให้น้ำเหนือหันไปมอง
“คุณหมอ... เจอกันอีกแล้วครับ เพิ่งมาถึงเหรอครับ” น้ำเหนือเอ่ยทักทายอย่างสนิทสนม ก็แน่ละ... ก่อนจะมาที่โรงพยาบาลก็เพิ่งจะเจอกันไปเองนี่นะ
“มาได้เกือบสองชั่วโมงแล้วละครับ พอดีไม่มีคนไข้ผมก็เลยออกมาซื้อกาแฟดื่มสักหน่อย” คุณหมอว่าพร้อมรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้า ทุกครั้งที่เจอคนคนนี้ก็มักจะมีรอยยิ้มอยู่เสมอจนน้ำเหนือเผลอยิ้มตามตลอด
“นั่งด้วยกันสิครับ”
“ขอบคุณนะครับ” คุณหมอพูดก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงตรงข้ามกับน้ำเหนือ “แล้วคุณอชิตพลไปไหนเสียละครับ”
“เขารอรับยาให้ผมอยู่ครับ ผมเลยมานั่งรอที่นี่”
คนฟังพยักหน้ารับก่อนจะพูดต่อโดยที่รอยยิ้มยังไม่ได้จางหายไปจากบนใบหน้านั้น “ดูคุณอชิตพลจะรักคุณน้ำเหนือมากเลยนะครับ ผมเจอคุณน้ำเหนือกี่ครั้งก็เจอคุณอชิตพลอยู่ด้วยตลอดเลย”
“อย่างนั้นเหรอครับ...” น้ำเหนือได้แต่หัวเราะแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะก็ไม่รู้ว่ามันเป็นแบบนั้นหรือเปล่า
เรื่องราวระหว่างเขากับอชิตพล... น้ำเหนือคิดว่ามันยังไม่ใช่ความรัก แต่มันคือความเป็นห่วงเป็นใยที่มีให้กัน แต่มันก็ยังไม่ถึงขั้นกับคำว่ารัก
“คุณอชิตพลโชคดีที่ได้คนรักอย่างคุณน้ำเหนือ”
“น่าปวดหัวมากกว่าละมั้งครับ... เขาชอบหาว่าผมดื้อเป็นประจำเลยที่จริงคงนึกรำคาญผมมากกว่านะ”
คุณหมอส่ายหน้า ไม่รู้ว่าน้ำเหนือคิดไปเองหรือเปล่าที่รอยยิ้มบนใบหน้าของคุณหมอนั้นดูจืดจางลง แววตาก็ดูหม่นแสงลง “คุณอชิตพลโชคดี... โชคดีที่สุดเลยครับ ผมเองยังอยากโชคดีแบบเขาบ้าง”
“ค ครับ?...”
“น้ำเหนือ!”ยังไม่ทันที่น้ำเหนือจะได้พูดอะไรออกไปเสียงเรียกที่ติดเข้มและดุก็ดังขึ้นเสียก่อนให้ทั้งน้ำเหนือและคุณหมอสะดุ้งด้วยความตกใจจนหันไปมอง ก่อนจะเห็นอชิตพลยืนหน้าตึงอยู่นอกร้าน เพราะเป็นร้านในโรงพยาบาลจึงไม่มีกระจกกั้นนอกจากทำเป็นระแนงสูงแค่ระดับเอวกั้นแบ่งให้เห็นพื้นที่ของร้านเท่านั้น
“เสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอครับ” น้ำเหนือถาม
“อือ กลับได้แล้ว” อีกคนว่าเสียงห้วนติดจะไม่พอใจนิดหน่อย ไม่ได้ไม่พอใจน้ำเหนือ... แต่ไม่พอใจใครอีกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามน้ำเหนือต่างหาก
“อ่า... แต่... คุณหมอ”
“กลับเถอะครับคุณน้ำเหนือ พักผ่อนเยอะๆ นะครับ” คุณหมอพูดก่อนจะลุกขึ้นยืน “ในเมื่อพระเอกตัวจริงมาแล้ว... ก็หมดเวลาของตัวประกอบแล้วละครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับคุณน้ำเหนือ คุณอชิตพล”
น้ำเหนือได้แต่มองตามหลังคุณหมอที่เดินออกจากร้านไปอย่างงงๆ ไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเสียเท่าไหร่ ผิดกับอีกคนที่สามารถเข้าใจได้เป็นอย่างดี
คุณหมอชอบน้ำเหนือ...นั่นคือเรื่องจริง
และเขารู้สึกหงุดหงิดมากเมื่อรู้แบบนั้นนั่นก็คือความรู้สึกจริงๆ เช่นกัน
“กลับกันได้แล้ว” ควอตซ์พูดอีกรอบ ยื่นมือมาคว้าแก้วน้ำผลไม้ปั่นของน้ำเหนือและแก้วกาแฟของตัวเองไปถือทั้งๆ ที่ในมือก็ยังถือถุงยาอยู่ เจ้าตัวไม่พูดอะไรอีกนอกจากเดินจนน้ำเหนือต้องเดินออกจากร้านตามไป
แต่ถึงควอตซ์จะเดินนำ แต่ระยะห่างของทั้งสองคนก็ไม่ได้ห่างมากนัก ห่างกันเพียงแค่สองข่วงก้าวเท่านั้นอีกทั้งคนที่เดินนำก็มักจะหันมามองบ่อยๆ ความเร็วในการเดินก็ถือว่าปกติ สิ่งที่ไม่ปกติก็คงจะเป็นใบหน้าที่ติดจะหงุดหงิดและเรียบตึงของควอตซ์นั้นแหละ
ตลอดระยะทางจากโรงพยาบาลจนกลับมาถึงบ้านควอตซ์ไม่ได้พูดอะไรสักคำเดียว เมื่อขึ้นรถและขับรถออกมาก็ทำเพียงแค่ยื่นมือไปกดเปิดเพลงบรรเลงให้น้ำเหนือฟังแล้วก็หันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อ น้ำเหนือได้แต่ลอบมองคนที่เหมือนจะหงุดหงิดอยู่เป็นระยะแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป นอกจากจะไม่รู้จะพูดอะไรแล้วเขาคิดว่าควรปล่อยให้ควอตซ์อารมณ์เย็นขึ้นเองดีกว่าไปพูดอะไรที่อาจจะเป็นการกระตุ้นให้รู้สึกหงุดหงิดกว่าเดิม
แม้ว่าน้ำเหนือจะไม่รู้ก็ตามว่าเพราะอะไร... ควอตซ์ถึงได้ดูหงุดหงิดนัก
และเมื่อถึงบ้านคนที่ท่าทางยังหงุดหงิดไม่หายก็เดินลิ่วเข้าบ้านตรงเข้าห้องทำงานทันทีจนเหล่าสาวใช้ได้แต่มองตามอย่างงงๆ หันมามองคุณหนูใหญ่ของบ้านที่ได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
“กลับมาแล้วเหรอลูก ไปตรวจมาเป็นยังไงบ้าง” เสียงของคุณหญิงมรกตที่นั่งดูเครื่องเพชรอยู่ในห้องนั่งเล่นกับคุณโทมัสเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกสะใภ้ของตนเดินเข้ามา
“ทุกอย่างปกติดีครับคุณแม่ น้าหมอบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงร่างกายแข็งแรงดีทั้งสองคน” น้ำเหนือตอบก่อนจะนั่งลงข้างๆ คุณหญิงมรกตตามที่อีกฝ่ายเรียก
“แล้วรู้หรือยังว่าผู้หญิงผู้ชาย” คราวนี้เป็นคุณโทมัสที่เอ่ยถามบ้าง
คุณโทมัสก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ตื่นเต้นไม่แพ้กันกับข่าวหลานฝาแฝดที่ได้ยินแม้จะแสดงออกเพียงแค่ยิ้มอย่างยินดีก็ตาม แต่ลาพิสก็แอบเห็นว่าว่าที่คุณปู่คนนี้แอบเปิดอินเตอร์เน็ตดูของใช้ที่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดอยู่บ่อยๆ
“ยังครับ เจ้าตัวเล็กบังเอาไว้เลยไม่เห็น”
“สงสัยจะอายนะคะคุณ” คุณหญิงมรกตว่าอย่างหัวเราะ “แล้วนี่พี่ควอตซ์ไปไหนละคะ แม่ยังไม่เห็นเลย”
“เห็นเดินเข้าไปในห้องทำงานครับ พี่เขาดูอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่” น้ำเหนือตอบไปก็ขมวดคิ้วไปนึกเป็นห่วงคนที่เดินลิ่วเข้าห้องทำงาน
“อ้าว... อารมณ์ไม่ดีอะไรคะลูก ทะเลาะกันเหรอ” คุณหญิงถามต่อ
ลูกสะใภ้คนโปรดส่ายหน้าไปมา “ไม่ได้ทะเลาะนะครับ ตอนแรกที่ไปห้างก็ยังอารมณ์ดีๆ อยู่เลยแต่ตอนออกจากห้างก็ดูหงุดหงิด แต่พอเข้าห้องซาวด์กับผมก็ปกตินะครับ แล้วก็มาหงุดหงิดอีกทีตอนจะกลับจากโรงพยาบาลนี่แหละครับ”
คุณหญิงมรกตกับคุณโทมัสหันมองหน้ากันอย่างงงๆ ถึงแม้ว่าลูกชายของพวกเขาบางครั้งจะอารมณ์ร้อนและหงุดหงิดไปบ้างแต่ก็ไม่ค่อยได้เห็นอาการเดี๋ยวดีเดี๋ยวหงุดหงิดแบบนี้เท่าไหร่
“แล้วตอนที่พี่เขาหงุดหงิด... มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าละ” คุณโทมัสหันมาถามลูกสะใภ้
คนถูกถามเอียงคอนิดอย่างนึก “ก็ไม่นะครับ... ตอนก่อนออกจากห้างก็ยืนคุยกับคุณหมอ... ส่วนตอนจะออกจากโรงพยาบาลผมก็แค่คุยกับคุณหมอเองครับ”
“คุณหมอ? คุณหมอที่ไหนลูก”
“อ๋อ... คุณหมอเป็นลูกศิษย์ของน้าหมอนะครับ กำลังเรียนต่อเฉพาะทางอยู่บังเอิญเจอกันก็เลยได้คุยได้รู้จักกันครับ”
พอได้ยินแบบนั้นสองผู้ใหญ่ที่ผ่านอะไรมามากกว่าก็หันมองหน้ากันก่อนจะหลุดยิ้มออกมาก่อนคนเป็นพ่อจะเอ่ยแซวคนที่ไม่ได้อยู่ร่วมวงสนทนาด้วย “ไม่คิดว่าจะเป็นคนขี้หวงแบบนี้นะ”
“นั่นสิคะคุณ ท่าจะอาการหนักนะเนี่ย” คุณหญิงมรกตว่าก่อนจะหัวเราะออกมาแบบที่คุณโทมัสก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย
“ครับ? พี่เขาอาการหนัก?? พี่ควอตซ์เป็นอะไรหรือครับ” น้ำเหนือถามออกมาอย่างไม่เข้าใจ เวลาพูดคุยกับคุณหญิงหรือคุณโทมัสก็มักจะติดเรียกควอตซ์ว่าพี่เหมือนเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว แต่ถ้าหากพูดกับเจ้าตัวแค่สองคนก็มักจะยังเรียกคุณเหมือนเดิม นอกจากเวลาออกไปข้างนอกและเจอคนรู้จัก
“ก็... อาการของคนขี้หึงไงจ้ะ”คำตอบของคุณหญิงมรกตที่ทำให้น้ำเหนือรู้สึกอึ้งไปไม่น้อย...
หึง คนอย่างอชิตพล บริสตันเนี่ยนะจะหึงน้ำเหนือ มีอะไรให้น่าหึงกันนะ น้ำเหนือได้แต่นึกอย่างไม่เข้าใจสักเท่าไหร่
คุยอยู่กับคุณหญิงมรกตและคุณโทมัสไม่นานน้ำเหนือก็ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะวันนี้ออกไปข้างนอกมาเสียครึ่งวันเลยรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ เมื่อขึ้นมาบนห้องก็เจอกับควอตซ์อยู่ก่อนแล้ว ร่างสูงกึ่งนั่งกึ่งนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง คนที่นอนอยู่หันมามองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาก่อนจะละสายตาไป
น้ำเหนือตรงไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำและเสื้อผ้ามาถือก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปแต่ก็ไม่วายหันมามองคนที่นอนหน้านิ่งบนเตียงอีกรอบ
“นี่... คุณ” น้ำเหนือส่งเสียงเรียกคนที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง ขนาดเข้าไปอาบน้ำมาเสียตั้งนานแล้วออกมาก็ยังเจอคนหน้านิ่งอยู่อีก “เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมดูหงุดหงิดจัง”
คนที่หงุดหงิดหันมามองคนที่ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแผ่วเบาแต่ก็ยังไม่ได้ตอบคำอะไรนอกจากนั่งมองหน้าน้ำเหนืออยู่แบบนั้น
คำถามของน้ำเหนือก็เป็นคำถามที่เขาถามตัวเองตั้งแต่กลับมาถึงบ้านอย่างไม่เข้าใจในตัวเองนักว่าเขาจะหงุดหงิดอะไรนัก...
ก็แค่น้ำเหนือพูดคุยกับคนอื่นก็แค่นั้น ถึงแม้จะบอกแบบนั้นแต่ควอตซ์ก็รู้ดีว่าไม่ใช่ ทั้งความรู้สึกในใจของตัวเอง และของคนที่เข้ามาคุยกับน้ำเหนือ
ผู้ชายด้วยกันย่อมดูด้วยกันต่อ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมน้ำเหนือถึงไม่เข้าใจ แค่มองเขาก็รู้แล้วว่าคุณหมอคนนั้นคิดอะไรกับน้ำเหนือ ยิ่งคำพูดสุดท้ายนั่นอีกก็ยิ่งยืนยันในสิ่งที่เขาคิดได้เป็นอย่างดี
เขากำลังไม่พอใจกับการที่มีคนมาชอบน้ำเหนือ เข้ามาพูดคุย เข้ามาตีสนิท
นี่มันอาการของคน...
กำลังหึง?“นี่... ตกลงเป็นอะไร” น้ำเหนือชะโงกหน้าไปมองคนที่อยู่ๆ ก็ละสายตาจากเขากลับไป
ควอตซ์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นใบหน้าของน้ำเหนือเข้ามาใกล้ แต่คนที่ชะโงกหน้ามามองก็ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากเอียงหน้าไปมาอย่างสงสัย
“เป็นแมวหรือไง มาเอียงหน้ามองตาแป๋วอย่างกับแมว” ในที่สุดคนที่เอาแต่เงียบก็ยอมพูดออกมาจนได้ให้คนฟังยกยิ้มนิดอย่างชอบใจ
“นึกว่าอยู่ๆ จะกลายเป็นใบ้ไปเสียอีก พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย แล้วตกลงคุณเป็นอะไร หงุดหงิดอะไรหรือครับ” น้ำเหนือถาม
“เงียบอีกละ...” พอถามไปแล้วไม่ได้คำตอบ น้ำเหนือก็บ่นอุบออกมาพร้อมทำหน้านิ่งเหมือนจะล้อเลียนอีกฝ่าย
ควอตซ์ยกนิ้วขึ้นดีดหน้าผากของน้ำเหนือให้คนที่ยื่นหน้ามาทำหน้ายู่ยกมือขึ้นจับหน้าผากตัวเองมองอีกคนตาขวางแบบที่คนทำก็หัวเราะในลำคออย่างชอบใจ
“ไหนมาดูสิ” ควอตซ์ว่าจับมือของน้ำเหนือออกเพื่อดูหน้าผากที่เขาเป็นฝ่ายดีด
“จะตบหัวแล้วลูบหลังหรือไงกัน”
“หือ... ไม่นะนี่ดีดหน้าผากแล้วก็ลูบหน้าผาก” ควอตซ์ว่า ไม่รู้ว่าตั้งใจจะกวนหรือไม่เข้าใจสำนวนไทยที่น้ำเหนือพูดกันแน่ มือหน้าปัดผมที่ปรกหน้าผากขึ้นแล้วใช้ปลายนิ้วลูบเบาๆ มันไม่ได้เป็นรอยแดงอะไรเพราะเขาก็ไม่ได้ดีดแรงจนทำให้เจ็บ
“พอแล้ว...” น้ำเหนือว่าเสียงเบา “ไม่ได้เจ็บอะไร”
แต่ถึงแม้จะพูดแบบนั้นคนที่ลูบหน้าผากอยู่ก็ไม่ได้ละมือออกแต่อย่างใด ควอตซ์ถอนหายใจออกมาอีกรอบ พร้อมกับจ้องคนตรงหน้านิ่ง
“ครับ...”
“ฉันอาจจะขี้หึง... กว่าที่คิด”เสียงที่แม้จะไม่ได้ดังมากแต่ทว่าคนที่อยู่ใกล้กันขนาดนี้ก็ต้องได้ยินชัดอยู่แล้ว น้ำเหนือมองคนพูดอย่างไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินถูกหรือผิด หรือคนพูด... พูดผิดหรือเปล่า
“ค... คุณ”
“ฉันไม่ชอบใจเลยสักนิดเวลาที่คุณหมอคนนั้นเข้ามาคุยกับเธอ ไม่ชอบ ไม่พอใจและหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ไม่อยากให้เธอคุยด้วย แบบนี้เขาเรียกว่า
หึง... ใช่ไหม” ควอตซ์ยังคงพูดต่อโดยไม่ได้ละสายตาไปจากคนตรงหน้า
น้ำเหนือได้แต่เม้มปากแน่นพลางนึกไม่ถึงว่าจะได้ยินแบบนี้จากปากผู้ชายคนนี้ ตอนที่ได้ยินคุณหญิงมรกตพูดน้ำเหนือยังแอบนึกปฏิเสธในใจว่าไม่มีทางหรอก... ไม่มีทางที่ควอตซ์จะพูด หรือรู้สึกอะไรแบบนี้เด็ดขาด
แต่ตอนนี้เขากลับได้ยินคำคำนี้เต็มสองหูด้วยตัวของตัวเอง และคนพูดก็คือคนที่ไม่คิดว่าจะพูด
ใบหน้าน่ารักถูกรั้งเข้ามาใกล้ก่อนที่หน้าผากจะซบลงกับช่วงไหล่กว้างของควอตซ์พอดี แบบที่คนที่รั้งน้ำเหนือเข้ามาใกล้ก็เกยคางของตัวเองเอาไว้บนผมนุ่มนั่น
ไม่รู้ว่าทั้งสองคนอยู่ในความเงียบแบบนั้นนานแค่ไหน หากเป็นเมื่อก่อนความเงียบที่ปกคลุมนี้คงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจ แต่วันนี้... กลับมีเพียงบรรยากาศที่ดูอบอุ่นวนอยู่รอบตัวพวกเขาเท่านั้น
************************************************
มาแล้วค่ะ มาแล้ว อาทิตย์นี้ฟางวุ่นๆ เรื่องที่ทำงานมากมายเลยค่ะ ออกไปซื้อของ เลือกกระเบื้องเสียสามสี่วัน แก้แบบแล้วแก้แบบอีก โปรแกรมก็ไม่เก่ง โอ๊ย วุ่นวายค่ะ 55555 แต่ก็สนุกดีนะคะ ไม่อยากจะเชื่อว่าแค่ปรับปรุงห้องน้ำให้ลูกค้ามันจะเยอะแล้วก็มีรายละเอียดมากมายขนาดนี้ พอๆ จบเรื่องงานของฟาง
มาที่เนื้อเรื่องหลัก คนพี่หึงจ้า! บอกตั้งแต่คราวที่แล้วแล้วเนอะว่าความหึงของคนพี่ยังไม่หมด ก็ยังไม่หมดจริงๆ จ้า ใครที่เดาว่าคุณหมอชอบน้อง ชอบจริงๆ ค่ะ แต่ก็รู้ไงว่าตัวเองเป็นแค่ตัวประกอบ (เศร้าแปบ คุณหมอมาหาฟางก็ได้ ฟางนี่ว้างว่าง ยินดีเป็นที่ดามอกดามใจให้คุณหมอ) น่าสงสารคุณหมอเลยทีเดียว โอ๋เอ๋นะคุณหมอ แล้วอะไร๊! คือคนพี่ยอมรับแบบแมนๆ เลยจ้าว่าขี้หึง รู้ว่าพี่เขาขี้หึงก็อยากทำให้พี่เขาหึงบ่อยๆ นะน้องเหนือ (บอกตัวเอง) อุอิ อะ มันอุอิ แล้วคนน้องก็น่ารัก ไปทำตามแป๋วเอียงคอมองพี่ กลายร่างเป็นน้องแมวไปแล้วเหรอคะ อั๊ย! อยากจะฟัดจริงๆ เลย นี่ถ้าฟางเป็นพี่ควอตซ์นะคว้าหน้ามาฟัดแก้มแล้วไม่แค่คว้ามาให้ซบอกตัวเองหรอก บอกเลย! เจอกันตอนหน้าค่ะ
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
อ่านกันแล้วก็คอมเมนต์ให้กำลังใจคนเขียนหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจแต่งให้อ่านกันเรื่อยๆ นะ แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ อย่าลืม กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณทุกคะแนนบวกเป็ด คะแนนชื่นชมในตัวฟางนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ