“เรา... รักกันเหรอ...”
“คุณ... รักผมเหรอ”✽ ✽ ✽ ต่อจากคราวที่แล้วค่ะ ✽ ✽ ✽
เนิ่นนานกว่าที่ความอบอุ่นที่ริมฝีปากจะหายไป น้ำเหนือได้แต่นอนหน้าแดงก่ำเนื้อตัวสั่นเทาไปหมด ฟันขาวขบเม้มที่ริมฝีปากล่างของตัวเองจนควอตซ์ต้องยกมือขึ้นจับเพื่อที่น้ำเหนือจะได้ไม่เผลอขบปากตัวเองจนได้เลือด
“อย่ากัดปาก เดี๋ยวเลือดออก” เสียงทุ้มว่าดุๆ ปลายนิ้วก็คลึงไปที่ริมฝีปากนั้น
น้ำเหนือได้แต่ยกมือขึ้นจับมือของควอตซ์เอาไว้อย่างต้องการห้ามไม่ให้อีกคนสัมผัส ไม่ได้นึกรังเกียจหรือไม่ชอบใจในสัมผัส แต่แค่นี้หัวใจก็ทำงานหนักเกินไปแล้วหากความร้อนผ่าวจากฝ่ามือยังเที่ยวสัมผัสไม่หยุดแบบนี้ น้ำเหนือกลัวว่าตัวเองจะหัวใจวายไปเสียก่อน
นานแค่ไหนแล้ว... ที่ควอตซ์ไม่ได้สัมผัสใคร ตั้งแต่เมื่อห้าเดือนก่อน... หลังจากได้สัมผัสน้ำเหนือนั่นแหละ กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนกลิ่นเด็ก สัมผัสที่นุ่มนิ่มทำเอาในใจสั่นไหวอย่างรุนแรง ปลายจมูกโด่งเกลี่ยไปทั่วแก้มเนียนอย่างยากจะห้ามใจ
“ย... อย่า...” เสียงห้ามที่แม้จะแผ่วเบาแต่ทว่าก็ได้ยินอย่างชัดเจนทำให้คนที่สติเริ่มหลุดรู้สึกตัวอีกครั้ง
ดวงตาสีสวยจ้องมองไปที่ดวงตากลมโตคู่นั้นที่มันสั่นไหวและสะท้อนความกลัว ความไม่แน่ใจบางอย่างออกมา “ฉันขอโทษ...” เสียงทุ้มกระซิบบอกก่อนที่ระยะห่างของพวกเขาจะเพิ่มมากขึ้น ควอตซ์กลับมาทิ้งตัวลงนอนข้างๆ และหันหน้าเข้าหาคนที่ยังนอนตัวสั่นปากสั่นอยู่
มือหนาที่เอื้อมไปสัมผัสแผ่วเบาแต่ทำให้คนโดนแตะสะดุ้งก่อนที่เจ้าตัวจะผ่อนคลายลง “นึกถึงเรื่องเมื่อวันนั้นเหรอ ฉันขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้กลัว”
น้ำเหนือได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดีมือเล็กเลื่อนไปจับมือของควอตซ์ที่จับแขนของตัวเองเอาไว้ ก่อนที่มือทั้งสองจะประสานเข้าหากัน
คนตัวสูงได้แต่กระชับมือนั้นมั่นขึ้นปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบงำพวกเขาทั้งคู่เอาไว้ แต่พอสายตาหันไปเห็นเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอนาฬิกาแบบดิจิตอลก็หันมาบอกกับน้ำเหนือ “ดึกมากแล้ว นอนได้แล้วละ”
“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลย” คนที่ควรจะนอนกลับถามขึ้นมา มือที่กุมกันอยู่ก็กระตุกเบาๆ เหมือนจะเรียกร้องความสนใจ
“คำถามอะไร” คนตัวสูงกว่าถามกลับพร้อมกับขมวดคิ้วว่ายังติดค้างคำถามอะไรอยู่
“คุณ… รักผมเหรอ” เสียงที่เอ่ยถามนั้นเบาแสนเบาแต่ในห้องที่เงียบสนิทและอยู่ห่างกันแค่นี้คนฟังจึงสามารถได้ยินอย่างชัดเจน “แล้วเรา... รักกันไหม”
“เรารักกันไหมฉันไม่รู้... เพราะเธอยังไม่สามารถให้คำตอบได้” คำตอบของควอตซ์ทำให้คนที่นอนก้มหน้าอยู่เงยหน้าขึ้นมอง ดวงตากลมโตนั้นมองสบมาอย่างสนใจใคร่รู้ นึกเขินกับคำถามของตัวเองก็เขิน แต่ความอยากรู้ก็มีอยู่เช่นกัน “ส่วนคำถาม... ฉันรักเธอไหม นึกว่าเธอจะเข้าใจคำตอบแล้วเสียอีก การที่ฉันหึงไม่ได้หมายความว่ารักหรือยังไงกัน”
พอได้ยินคำบอกรักชัดๆ คนฟังก็รู้สึกว่าแก้มทั้งสองข้างมันคันยุบยิบเหลือเกิน เวลาเขินชัดๆ มันเป็นแบบนี้เองเหรอ ได้แต่เหลือบมองคนพูดที่ตีสีหน้าเรียบเฉยเสียจนอยากจะรู้ว่าอารมณ์เขินของผู้ชายคนนี้ไม่มีหรือยังไง ถึงได้พูดออกมาง่ายๆ แบบนี้
“มีคำถามอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีก็นอนได้แล้วดึกมากแล้ว” ควอตซ์ตอบเมื่อเห็นว่าเวลาล่วงเลยดึกมากแล้ว และปกติเวลาแบบนี้น้ำเหนือก็จะเข้านอนแล้วเรียบร้อย
“ผมยัง...”
“ดื้อ...” ยังไม่ทันที่น้ำเหนือจะได้พูดจนจบประโยคเสียงเข้มก็แทรกขึ้นก่อนอย่างดุๆ พร้อมกับจ้องคนที่วันนี้ทำตัวเป็นเด็กดื้อเสียจนน่าจับมาตีให้ก้นลาย
“นอนก็ได้” คนดื้อว่าก่อนจะยอมหลับตาลงแต่โดยดีเมื่อยังเห็นสายตาดุๆ ของคนที่นอนอยู่ข้างๆ ให้ควอตซ์ยกยิ้มอย่างพอใจ มือข้างที่ว่างเลื่อนไปลูบผมนุ่มของน้ำเหนือ ส่วนมืออีกข้างนั้นยังคงจับประสานอยู่กับมือของน้ำเหนือไม่ปล่อย
สุดท้ายคนดื้อที่บอกว่าไม่ง่วงก็ผล็อยหลับไปในเวลาไม่ถึงสิบนาที จริงๆ แล้วก็รู้สึกง่วงอยู่บ้างแต่ก็ยังดื้อแพ่งบอกว่าไม่ง่วง ไม่ง่วงอยู่อย่างนั้น เมื่อเห็นว่าน้ำเหนือหลับไปแล้วคนที่ยังตื่นอยู่จึงปิดเปลือกตาลงบ้างเพราะเขาเองก็รู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานตลอดช่วงบ่ายเหมือนกัน แถมยังต้องมานอนคุยกับคนดื้ออยู่นานสองนาน
ในช่วงเวลาดึกสงัดที่ทุกคนหลับสนิทกันแล้ว คนที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่เริ่มขยับตัวอย่างนอนไม่สบายตัวนัก ก่อนที่ดวงตากลมโตจะลืมขึ้นอย่างงัวเงีย มือยกขึ้นจับหน้าท้องของตัวเองที่นูนออกมาแล้วลูบเบาๆ
“นอนนิ่งๆ นะครับเด็กๆ” เสียงพร่าเนื่องจากเพิ่งตื่นนอนดังขึ้นเหมือนต้องการบอกกับเด็กทั้งสองที่อยู่ในท้อง
ไม่รู้ว่าหลับแล้วดิ้น หรือเจ้าแฝดทั้งสองคนยังไม่หลับกันแน่ถึงได้ขยับตัวกันจนน้ำเหนือต้องตื่นขึ้นมา แต่เหมือนเด็กน้อยในท้องทั้งสองจะไม่เชื่อฟังอีกทั้งยังขยับตัวเหมือนจะประท้วงเพราะหน้าท้องของน้ำเหนือดันนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด
น้ำเหนือขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงแต่ดูเหมือนการขยับตัวของเขาจะเป็นการปลุกคนที่หลับอยู่ข้างๆ ให้ตื่นขึ้นมาด้วยเช่นกัน
“เป็นอะไร แพ้ท้องเหรอ” ควอตซ์ถามพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นนั่งตาม
คนที่ตื่นก่อนส่ายหน้าไปมาก่อนจะตอบคำ “เปล่าครับ ลูกดิ้นจนผมตื่น”
ควอตซ์หันไปมองเวลาที่แสดงอยู่บนหน้าจอ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันตอนนี้เพิ่งจะตีสองเท่านั้น น้ำเหนือเองก็หลับไปได้ไม่เท่าไหร่ “ยังดิ้นอยู่ไหม”
น้ำเหนือยกมือขึ้นจับหน้าท้องของตัวเอง รับรู้ถึงแรงขยับภายในจึงพยักหน้า “ยังดิ้นอยู่ครับ”
“อือ...” ควอตซ์รับคำในลำคอก่อนที่เขาจะขยับตัวไปประคองให้น้ำเหนือลงนอนดีๆ แม้อีกคนจะมองกลับมาอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยอมนอนลง ส่วนหนึ่งเพราะเขายังรู้สึกง่วงอยู่ด้วย มือหนาของควอตซ์วางลงบนหน้าท้องของคนที่นอนอยู่ก่อนเสียงทุ้งจะดังขึ้นอย่างดุๆ พูดกับหน้าท้องของน้ำเหนือเหมือนต้องการส่งเสียงบอกไปถึงเจ้าตัวเล็กทั้งสองคน
“Behave well baby, OK?” แต่ถึงแม้เสียงจะดุแต่ฝ่ามือหนาก็ยังคงลูบหน้าท้องนั้นอย่างแผ่วเบา “ให้คุณแม่เขานอนนะครับ”
น้ำเหนือมองคนที่ดุลูกตั้งแต่เจ้าตัวเล็กทั้งสองยังอยู่ในท้องตาปริบๆ “ไม่ดิ้นแล้วครับ...” เจ้าตัวเอ่ยบอกเมื่อไม่รู้สึกถึงแรงขยับแล้ว
“อย่างนั้นก็นอนต่อเถอะ เพิ่งหลับไปได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง” คนที่ดุลูกหันไปบอกกับว่าที่คุณแม่แทน น้ำเหนือได้แต่พยักหน้ารับก่อนจะปิดเปลือกตาลงเพราะรู้สึกว่าตาทั้งสองข้างนั้นหนักอึ้งจนไม่สามารถลืมขึ้นได้แล้ว
ควอตซ์เลื่อนมือไปลูบผมของน้ำเหนืออีกรอบก่อนจะละมือออกพร้อมเสียงทุ้มที่กระซิบบอกทั้งว่าที่คุณแม่และลูกน้อยในท้องทั้งสองคน
“Good night baby”“วันนี้ตื่นสายกว่าปกตินะควอตซ์” เสียงทักของคุณโทมัสดังขึ้นเมื่อเห็นลูกชายของตัวเองเดินเข้ามาในห้องทานอาหารที่ตอนนี้ทั้งคุณโทมัส คุณหญิงมรกตและลาพิสก็นั่งอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อยแล้ว
“อรุณสวัสดิ์ครับ... เมื่อคืนนอนดึกครับเลยตื่นสาย” ควอตซ์ตอบเขาเดินไปทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างๆ น้องสาวหันไปขอบคุณป้ายุพินที่ยกแก้วเย็นมาให้
“แล้วพี่น้ำเหนือละคะ ยังไม่ตื่นเหรอ” ลาพิสถามหาพี่สะใภ้ของตนทันที วันนี้ตั้งใจว่าจะชวนพี่สะใภ้มานั่งออกแบบเครื่องประดับด้วยกันเสียหน่อย
คนถูกถามพยักหน้ารับก่อนจะพูดต่อ “อือ เมื่อคืนนอนดึก แถมตอนตีสองน้องตื่นขึ้นมาเพราะลูกดิ้นครับ ผมก็เลยปล่อยให้นอนไปก่อน”
คำตอบที่ทำให้ทุกคนพยักหน้ารับอย่างเข้าใจพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของคุณหญิงมรกตที่จับสังเกตลูกชายคนโตของเธอได้ ปกติควอตซ์จะเรียกน้ำเหนือว่า ‘น้ำเหนือ’ ตลอด ยกเว้นเวลาอยู่ข้างนอกและเจอคนรู้จักหรือนักข่าว จาก ‘น้ำเหนือ’ หรือ ‘เธอ’ จะเปลี่ยนเป็น ‘น้อง’ แต่เมื่อครู่นี้ลูกชายของเธอกลับเรียกลูกสะใภ้ว่า ‘น้อง’ ออกมาทั้งๆ ที่ปกติไม่เคยเรียก
แสดงว่า... คำถามเมื่อวานของเธอจะช่วยกระตุ้นอะไรบางอย่างได้สินะ เห็นที... ต้องเตรียมพร้อมสำหรับงานแต่งเอาไว้เสียแล้วสิ จะได้ไม่ต้องรีบร้อนเอาตอนจะแต่ง“ยิ้มอะไรน่ะคุณหญิง” คุณโทมัสหันมาถามภรรยาเมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนจะชอบใจอะไรบางอย่าง
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร แล้วควอตซ์จะทานมื้อเช้าเลยไหมลูก” คุณหญิงมรกตตอบสามีก่อนจะหันมาถามลูกชาย
คนเป็นลูกสายหน้า “ยังดีกว่าครับ เดี๋ยวผมขึ้นไปดูน้ำเหนือก่อนแล้วค่อยรอกินพร้อมน้องก็ได้ครับ”
“จ้ะ ถ้าน้องยังไม่ตื่นก็ยังไม่ต้องรีบปลุกก็ได้ ให้น้องได้นอนพักไปก่อน” คุณหญิงมรกตว่าก่อนจะเสริมต่ออย่างนึกขึ้นได้ “อ๋อ... จริงสิ เมื่อคืนน้าหมอเขาบอกว่าวันนี้จะมาอธิบายเรื่องลูกในท้องดิ้น เอาไว้ถ้าน้องตื่นแล้วก็พาไปหาน้าเขานะ วันนี้น้าเขาไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล”
“ได้ครับคุณแม่ อย่างนั้นผมขึ้นไปข้างบนก่อนครับ” ควอตซ์ว่าก่อนจะลุกเดินออกจากห้องอาหารขึ้นไปชั้นบน
“คุณโทมัสคะ” คุณหญิงมรกตเรียกสามีของตนเมื่ออีกฝ่ายหันมามองก็ถามต่อ “คุณว่างานแต่งงานของควอตซ์กับน้ำเหนือจะแต่งแบบไทยหรือแบบฝรั่งดีคะ”
“จะแต่งเมื่อไหร่เหรอคะคุณแม่” ลาพิสถามทันทีด้วยความสนใจ เธอละชอบพี่สะใภ้คนนี้มากจริงๆ แล้วก็อยากจะเห็นวันแต่งงานของทั้งคู่ด้วย
“ก็ต้องแล้วแต่ลูกสะใภ้ของแม่สิ ยังไงพี่ชายของเราก็ตามใจน้ำเหนืออยู่แล้วนี่นะ”
ในขณะที่ด้านล่างทุกคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานถึงเรื่องงานแต่งงานของรองประธานบริษัทจิลเวล บริสตัน จำกัดกับลูกสะใภ้คนโปรดของบ้านอย่างน้ำเหนือ คนที่ถูกพูดถึงอย่างควอตซ์ก็กำลังเดินกลับเข้าไปที่ห้องเพื่อดูคนที่กำลังนอนหลับอยู่ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอย่างเต็มที่กระทบกับผิวเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้อง คนบนเตียงนอนหลังใหญ่ยังคงนอนหลับอย่างสบาย ตอนนี้น้ำเหนือเลิกที่จะกอดผ้าห่มแล้วเพราะหันมากอดหมอนสำหรับคนท้องแทน
หมอนรูปตัวยูใบใหญ่ที่วางเต็มฝั่งของน้ำเหนือ สามารถรองรับครรภ์ที่จะโตขึ้นในอนาคตได้ อีกทั้งยังรองรับสรีระช่วงท้องและหลังของคุณแม่ได้ ทำให้นอนหลับสบาย ซึ่งพอได้หมอนใบนี้มาน้ำเหนือก็เปลี่ยนจากนอนกอดผ้าห่มมาเป็นกอดหมอนแทน แต่ก็มีบ้างบางคืนที่เจ้าตัวกลับไปกอดผ้าห่มเพราะเจ้าตัวบอกว่ารู้สึกหมอนนั้นเกะกะ
ควอตซ์เดินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเนื่องจากตอนก่อนที่จะลงไปด้านล่างเขาทำเพียงแค่ล้างหน้าเท่านั้น เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์เสื้อผ้าที่เลือกใส่จึงเป็นเพียงเสื้อผ้าที่ใส่สบายอย่างกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดคอกลมเท่านั้น
“Hello….” ร่างสูงคว้าโทรศัพท์มากดรับเมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าดังขึ้นก่อนจะกรอกเสียงลงไปเป็นสำเนียงต่างชาติเมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอที่ไม่ใช่เบอร์ในประเทศไทย “Cherreen?”
[Yes ไอเองเฌอรีน] ปลายสายส่งเสียงทักทายกลับมาให้คนที่รับโทรศัพท์ระบายยิ้มอ่อนๆ [ยูสบายดีไหม ขอโทษทีที่ไอโทรหากะทันหัน]
“อือ สบายดี ว่าแต่โทรมามีเรื่องอะไรให้ช่วยหรือเปล่า”
[Wowwww , how do you know? You’re so smart!!]
คำชมจากอีกฝ่ายทำให้ควอตซ์หัวเราะเบาๆ “ถ้าไม่มีเรื่องยูไม่โทรหาหรอกน่า ว่าแต่มีเรื่องอะไร” ปากก็ถามไปขาก็ก้าวเข้าไปใกล้เตียงกว้างที่น้ำเหนือนอนอยู่เมื่อเห็นความผิดปกติของคนที่นอนอยู่บนเตียง
ตอนแรกน้ำเหนือยังคงนอนหลับสนิท แต่เมื่อครู่อยู่ๆ เจ้าตัวก็เริ่มกระส่ำกระส่าย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่นเหมือนกับคนฝันร้ายทำให้ควอตซ์ที่มองอยู่ตลอดต้องรีบเดินเข้าไปใกล้ “Sorry cherren. มีเรื่องสำคัญมากหรือเปล่า ตอนนี้ไอยุ่งอยู่เอาไว้จะโทรกลับนะ”
เจ้าตัวพูดแค่นั้นก็วางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงโดยไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะพูดว่าอะไรหรือเปล่า ควอตซ์ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงข้างอีกคนยื่นมือไปจับมือของน้ำเหนือ อีกข้างก็ยื่นไปเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นประปรายบนหน้าผากมน
“อึก... พ พ่อ... พ่อครับ... ย อย่าทิ้งเหนือ...ไป” เสียงคล้ายละเมอดังมาจากคนที่ยังนอนฝันร้ายให้ควอตซ์จับมือบางนั้นแน่น
“น้ำเหนือ... น้ำเหนือ” ควอตซ์เรียกคนที่หลับอยู่มือที่วางอยู่บนหน้าผากก็เปลี่ยนเป็นลูบผมนุ่มนั้นเบาๆ
น้ำเหนือนอนกระส่ำกระส่ายพร้อมทั้งละเมอเรียกหาพ่อแต่ไม่นานก็สงบลงเพราะความอบอุ่นที่ได้รับก่อนที่ดวงตากลมโตนั้นจะลืมขึ้นช้าๆ “พ่อ...”
“น้ำเหนือ” ควอตซ์ส่งเสียงเรียกคนที่ยังไม่ตื่นดีอีกรอบ
“คุณควอตซ์...”
“ฝันร้ายเหรอ” เขาถาม ดึงหมอนสำหรับคนท้องออกแล้วโยนไปไว้ข้างๆ น้ำเหนือแทนก่อนจะช่วยจับคนที่ยันตัวจะลุกขึ้นนั่งให้นั่งพิงหมอนดีๆ
“ครับ... ฝันถึงพ่อ ผมไม่ได้ฝันถึงพ่อนานแล้ว ล่าสุดก็ตอนที่อยู่โรงพยาบาล...” น้ำเหนือเล่าออกมาก่อนจะนิ่งไปเมื่อพลันนึกไปถึงเหตุการณ์ที่โรงพยาบาล
ช่วงนั้นที่เพิ่งเข้าโรงพยาบาลน้ำเหนือฝันถึงพ่อหลายต่อหลายคืนแต่ทุกคนก็จะมีความอบอุ่นเข้ามาช่วยให้เขารู้สึกไม่โดดเดี่ยวและเหงา ความอบอุ่นที่เหมือนกับเมื่อครู่นี้ ในตอนนั้นน้ำเหนือคิดและเข้าใจไปว่าคนที่มาลูบผมและจับมือเขาในทุกๆ คืนคือหมอวิรัชแต่แท้ที่จริงแล้ว...
“เป็นคุณเหรอ” น้ำเหนือถาม เงยหน้ามองคนที่ทอดสายตามาหาเขา “ทุกคืนที่โรงพยาบาล... ที่ผมฝันร้าย คือคุณเหรอที่มาลูบผม จับมือแล้วก็...ช่วยให้ผมดีขึ้น”
ควอตซ์ไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น
“ทำไม... ครับ”
“ทำไมของเธอหมายถึงอะไร ทำไมฉันถึงทำแบบนั้น หรือทำไมถึงเป็นฉัน” ควอตซ์ถามแต่เขาก็ไม่ได้ต้องการคำตอบจากอีกฝ่ายเท่าไหร่เพราะชายหนุ่มไม่ได้รอให้น้ำเหนือตอบคำอะไรเขาก็พูดขึ้นต่อ “ทำไมถึงเป็นฉัน... ฉันเข้าไปที่ห้องเธอทุกคืนแล้วก็เห็นว่ากำลังฝันร้าย ทำไมถึงทำแบบนั้น... เพราะท่าทางเธอดูทรมานฉันก็เลยทำแบบนั้น”
“ขอบคุณนะครับ คุณทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น... เหมือนได้เจอพ่อเลย” น้ำเหนือว่าพร้อมกับหัวเราะ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่ฟังแล้วไม่ได้รื่นเริงเหมือนกับสนุกสนานเลยสักนิด
“ฉันถามเรื่องครอบครัวของเธอได้ไหม” ควอตซ์ถาม ซึ่งน้ำเหนือก็นิ่งไปนิดกับคำถามนั้นจนเขาต้องเอ่ยต่อ “ถ้ารู้สึกไม่ดีก็ไม่ต้องตอบก็ได้ ลุกไปล้างหน้าก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะได้ลงไปกินมื้อเช้ากัน”
ควอตซ์ขยับตัวลุกขึ้นเพื่อที่จะได้ให้น้ำเหนือลุกตาม แต่มือของน้ำเหนือก็คว้าที่ข้อมือของเขาเอาไว้เสียก่อนจนชายหนุ่มต้องก้มลงไปมองแล้วจึงตัดสินใจนั่งลงอีกรอบเพราะดูท่าแล้วน้ำเหนือคงไม่คิดจะลุกจากเตียงในตอนนี้
“ครอบครัวของผม... ไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร พ่อกับแม่เจอกันเพราะไปเที่ยวก็เหมือนกับหลายๆ คู่นั่นแหละครับ เจอกันตอนกลางคืนสานสัมพันธ์กันต่อเรื่อยๆ จนสุดท้ายแม่ก็ท้องผม ตอนมีผมพ่อกับแม่ก็อายุแค่ยี่สิบต้นๆ อายุพอๆ กับผมตอนนี้นี่แหละครับ ตอนแรกก็เป็นครอบครัวที่รักกันดี แต่พอมีผมได้ไม่นานแม่ก็เริ่มเที่ยวเพราะพ่อเอาแต่ทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูผม” น้ำเหนือนิ่งไปก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวของตัวเองออกมา ดวงตากลมโตหลุบลงมองมือของตัวเองที่ประสานกันอยู่บนตัก
“พ่อกับแม่ทะเลาะกันทุกวัน นานเข้าก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายพ่อก็ทิ้งผมไป ผมยังจำได้ดี... ผมร้องไห้หนักมาก ขอร้องให้พ่ออย่าไป...”
‘พ่อ... พ่ออย่าทิ้งเหนือไป อึก... พ่ออย่าทิ้งเหนือ...’ เสียงของเด็กชายวัยสิบสามปีร่ำไห้เสียงดังพร้อมกับจับมือคนเป็นพ่อของตัวเองเอาไว้แน่น ‘พ่ออย่าทิ้งเหนือ... ฮือออ’
‘น้ำเหนือ... เด็กดี...’ ฝ่ามือหนาเอื้อมมือมาลูบผมนุ่มของลูกชายก่อนจะเลื่อนมาเช็ดคราบน้ำตาออกให้ ‘แล้วพ่อจะมาหานะครับ อยู่กับแม่เขาเป็นเด็กดี เชื่อฟังที่แม่เขาพูดรู้ไหม ไม่ต้องห่วงเรื่องเรียน เรื่องค่าใช้จ่ายพ่อจะโอนเงินให้ลูกทุกเดือนนะ’
‘ฮืออออออออ ไม่เอา เหนือไม่ให้พ่อไป อึก... พ่ออย่าไป พ่ออย่าทิ้งเหนือ... แม่ฮะ แม่ห้ามพ่อที ฮือออ แม่บอกพ่อที’ ในเมื่อร้องขอคนเป็นพ่อแล้วไม่ได้ผล เด็กชายก็หันไปร้องอ้อนวอนกับคนเป็นแม่แทน
พรึบ!!
แขนของเด็กชายวัยสิบสามโดนคนเป็นแม่กระชากให้เข้าหาตัวก่อนที่คนกระชากจะตวาดออกมาเสียงดัง ‘พ่อแกจะไปก็ปล่อยให้ไป เลิกร้องไห้ได้แล้ว กลับเข้าไปในบ้านไป๊!’“ผมขอให้แม่ห้ามพ่อ แต่แม่ก็ไม่สนใจสุดท้ายพ่อก็ทิ้งผมไป...” แม้น้ำตาจะไม่ไหลแต่ควอตซ์ก็รู้สึกว่าข้างในของน้ำเหนือกำลังร้องไห้ และเหมือนกับการที่เจ้าตัวได้เล่าเรื่องราวของตัวเองที่มันอัดอั้นอยู่ในใจเป็นการระบายเพราะน้ำเหนือเล่าออกมาเรื่อยๆ ไม่หยุด
“หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยเจอพ่ออีกเลย ถามเรื่องพ่อกับแม่ทีไรถ้าไม่โดนตีก็โดนว่าจนผมเลิกถาม แม่ก็เอาแต่ดื่มเหล้ากับเล่นการพนัน เป็นหนี้สิ้น สุดท้ายแม่ก็เสียตอนผมขึ้นม.ปลาย แล้วหลังจากนั้นผมก็อยู่คนเดียว ออกจากบ้านเช่ามาหาหอพักถูกๆ อยู่แทน เริ่มทำงานทุกอย่างตั้งแต่เด็กล้างจาน เด็กเสิร์ฟ เด็กส่งหนังสือพิมพ์ ทำงานร้านสะดวกซื้อ ทำทุกๆ อย่าง... เพื่อตามฝันของตัวเอง”
“อยากร้องไห้หรือเปล่า” ควอตซ์ถามพร้อมมองคนที่นั่งทำหน้าเศร้าอยู่บนเตียง มือหนาเอื้อมไปจับมือของน้ำเหนือเอาไว้แน่น
คนถูกถามส่ายหน้าไปมาพร้อมกับส่งยิ้มให้ทั้งๆ ที่ดวงตาทั้งสองข้างนั้นแดงก่ำเหมือนคนที่อยากจะร้องไห้เต็มที่
“ดื้อ...” ควอตซ์ว่าสั้นๆ ก่อนจะดึงคนตรงหน้ามากอดเอาไว้ และทันทีที่ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามากำแพงของความเข้มแข็งที่น้ำเหนือสร้างขึ้นมาก็พังทลายลงทันที น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลออกจากดวงตากลมโตและซึมหายไปกับเสื้อของควอตซ์
คนกอดไม่ได้พูดปลอบอะไรเพียงแค่กอดคนที่ส่ายหน้าบอกไม่ร้องไห้แต่ตอนนี้กลับร้องไม่หยุดเอาไว้แน่น ไม่ต้องมีคำพูดที่สวยหรูหรือต้องฟังดูดี แค่อ้อมกอดอันอบอุ่นที่น้ำเหนือรู้สึกได้ว่า... เขาสามารถพึ่งคนคนนี้ได้เป็นตัวเชื่อมพวกเขาทั้งคู่แค่นั้น
************************************************
อ่ะๆๆๆ หวังอะไรกันนนนนนนนนนน รู้นะว่ามีคนแอบหวังจะได้อ่าน nc ของคู่นี้ใช่ไหมละ ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะคุณคาดผิด 55555555555555555555 (หัวเราะเหมือนจะสะใจมาก) มันไวไปค่ะ (อย่าย้อนไปดูตอนที่1นะ) ให้น้องเหนือได้เคลียร์ความรู้สึกอีกนิดนึงค่ะ ให้ความรักค่อยๆ ก่อตัวขึ้นทีละนิดจนมันเต็มไปทั้งดวงนะคะแล้ววันนั้นแหละ... หึหึหึ... คือแบบ... ชอบที่พี่เรียกน้องว่าดื้ออะ ดูน่ารัก แล้วก็สื่อถึงความเป็นน้องได้ดีเยี่ยมมาก คำเดียวเอาอยู่ค่ะ
ตอนนี้ได้รับรู้อดีตน้องเนอะว่าเป็นอะไรยังไง น้องจะได้เจอพ่อไหมอันนี้ต้องรอลุ้นไปค่ะฟางก็ยังไม่แน่ใจว่าจะแค่กล่าวถึงหรือจะเชิญพ่อน้องมาออกด้วยดี ยังไม่ได้ตกลงค่าตัวกัน(?) นิยายของฟางมีให้ลุ้นพล้อตตลอดค่ะ มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เอาแน่เอานอนไม่ได้ค่ะ
ปล. ยังไม่ได้เช็คคำผิดเลยค่ะ ถ้ามีโปรดแจ้งนะคะ ^^
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ อย่าลืม กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณทุกคะแนนบวกเป็ด คะแนนชื่นชมในตัวฟางนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ