“Good morning daddy.” บท 23“ทำไมพี่ควอตซ์กับน้องเหนือยังไม่ลงมาอีกนะ” คุณหญิงมรกตพูดขึ้นเมื่อใกล้ถึงเวลามื้อเช้าแล้ว ปกติทั้งสองคนนั้นก็น่าจะลงมาได้แล้ว
“เดี๋ยวเฌอไปดูให้เองค่ะ” เฌอรีนอาสา ตอนนี้ทุกคนพร้อมกันที่โต๊ะอาหารแล้ว จะเหลือก็เพียงลูกชายคนโตของบ้าน และลูกสะใภ้แค่นั้น
“ขอบใจมากจ้ะ”
เฌอรีนยิ้มรับก่อนจะลุกจากโต๊ะอาหารแล้วเดินขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อไปดูทั้งสองคน หญิงสาวยกมือขึ้นเคาะประตูห้องนอนของทั้งคู่แต่ก็ยังไม่มีใครมาเปิดจนต้องเคาะอีกรอบ
“เฌอรีน มีอะไร” ควอตซ์เปิดประตูออกมาก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเห็นเพื่อนของตนยืนอยู่หน้าประตู
“ไอก็มาตามยูกับน้ำเหนือนะสิ จะได้เวลาเบรคฟาสท์แล้วนะ” หญิงสาวขมวดคิ้วใส่เพื่อนรักที่ยังมาถามอีกว่ามีอะไร
“อ๋อ… โทษที ฝากลงไปบอกทีว่ากินกันไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันกับน้ำเหนือจะกินทีหลัง น้ำเหนือยังไม่ตื่น”
“อ้าวเหรอ เป็นอะไรอ่ะไม่สบายหรือเปล่า” เฌอรีนถามพลางชะโงกหน้าเข้าไปมองในห้อง แต่ก็เห็นเพียงน้ำเหนือที่นอนหลับหันหลังให้อยู่บนเตียง
“เพลียนิดหน่อย นอนดึกหน่ะก็เลยปล่อยให้นอนก่อน”
คำตอบของควอตซ์ทำให้หญิงสาวหันกลับมาหาก่อนจะหรี่ตามองอย่างจับผิด “เมื่อวานน้ำเหนือขึ้นมาบนห้องก็ไม่ดึกเท่าไหร่นะ ทำไมเหรอหรือว่าพอยูตามขึ้นมาแล้วก็ยังไม่ได้นอน ทำอะไรกันอะ”
ชายหนุ่มไม่ตอบอะไรเพียงแค่ไหวไหล่เท่านั้นแต่ดวงตาสีสวยนั้นพราวระยับจนคนที่รู้จักกันมานานและรู้จักเพื่อนคนนี้ดีเข้าใจอย่างชัดเจน เฌอรีนยื่นมือมาชกอกของควอตซ์เบาๆ ก่อนจะเอ่ยแซว “เพลาๆ หน่อยไหมน้ำเหนือไม่สบายอยู่ไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวเขาก็ไม่ห่ายป่วยกันพอดี โอเค~ เดี๋ยวไอจะไปบอกแด๊ดกับมัมยูให้ว่ายูแกล้งน้ำเหนือ”
“หึ ไปได้แล้วไป” ควอตซ์ส่งเสียงในลำคอก่อนจะเอ่ยไล่เพื่อนสาว ซึ่งอีกฝ่ายก็มองค้อนใส่แต่ก็ยอมเดินกลับไปลงชั้นล่าง
พอเห็นเพื่อนเดินไปแล้วควอตซ์ก็ปิดประตูห้องก่อนจะเดินกลับมาที่เตียงที่น้ำเหนือยังคงนอนหลับอยู่ เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ยื่นมือไปแตะแขนแตะหน้าผากคนหลับเพื่อวัดดูว่ามีไข้หรือเปล่า เมื่อรู้ว่าตัวไม่ร้อนอย่างที่คิดก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
คนหลับขยับตัวนิดก่อนที่จะค่อยๆ ลืมตาขึ้น ตากลมโตกระพริบเพื่อปรับภาพที่พร่ามัวให้ชัดเจน และสิ่งแรกที่เห็นหลังจากที่ตาหายพร่าก็เป็นดวงตาสีสวยที่น้ำเหนือนึกอยากมีบ้าง จมูกโด่งได้รูปที่น้ำเหนือนึกอิจฉา ใบหน้าคมคาย จนไปถึงริมฝีปากได้รูป และเมื่อจดจ้องไปที่ริมฝีปากนั้นภาพเมื่อคืนก็ฉายชัดเข้ามาในความคิดให้ใบหน้าขาวแดงก่ำ ยกผ้าห่มขึ้นคลุมทันที
“เดี๋ยวหายใจไม่ออก” เสียงของควอตซ์ดังขึ้นทันที ยื่นมือไปจับผ้าห่มเพื่อดึงออกเพราะกลัวว่าคนข้างในจะหายใจไม่ออก
คนที่มุดอยู่ในผ้าห่มส่ายหน้าไปมาอย่างไม่ยอมออกมาแน่ ใบหน้าที่ซ้อนอยู่ใต้ผ้านั้นแดงก่ำจนแทบจะหาสีเดิมไม่เจอ คราแรกยังนึกว่าฝันไป แต่พอรู้สึกตัวเต็มที่ความเจ็บ ความร้อนผ่าวและสัมผัสของคนที่นั่งอยู่ก็ตอกย้ำให้เข้าใจแน่ชัดว่าไม่ได้ฝัน
“ออกมาก่อนน้ำเหนือ” ควอตซ์ยังคงเรียก
แต่เด็กดื้อก็ยังเป็นเด็กดื้อ แม้เมื่อคืนจะกลายเป็นเด็กน้อยว่าง่ายยังไง เช้ามาก็ยังดื้อเหมือนเดิม
“อ๊ะ!” น้ำเหนือได้แต่ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ ตัวเขาก็ลอยขึ้น ก่อนจะวางแหมะบนตักของใครอีกคน “ผ ผมเจ็บ…”
“เจ็บมากไหม ขอโทษทีไม่ได้ตั้งใจ” ควอตซ์รีบถามคนบนตักทันทีเมื่ออีกฝ่ายร้องออกมา คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกกัน
พอเห็นแบบนั้นคนเจ็บก็เผลอยิ้มออกมากับท่าทางที่ดูจะเป็นห่วงจนโอเวอร์ กดนิ้วโป้งลงกับหว่างคิ้วของควอตซ์แล้วคลึงเบาๆ “ไม่เห็นต้องทำคิ้วขมวดแบบนี้เลย”
คนทำคิ้วขมวดชะงักไปนิด ยกมือขึ้นจับมือของน้ำเหนือมากุมไว้ พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ “เดี๋ยวก็ลำบากหรอก”
“ครับ? ลำบากอะไรเหรอ” น้ำเหนือร้องถามอย่างไม่เข้าใจ
ควอตซ์ส่ายหน้า “เปล่า ไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวจะได้ลงไปกินข้าวกินยา สายแล้วละ กอดคอฉัน… กอดคอพี่ไว้”
“กอดคอ?” คนงงยังคงทวนซ้ำด้วยความไม่เข้าใจแต่ก็ยอมยกมือขึ้นกอดรอบคออีกฝ่าย ก่อนจะรีบกระชับมือตัวเองแน่นเมื่ออยู่ๆ คนที่นั่งเป็นเก้าอี้ให้ก็ลุกขึ้นพร้อมกับช้อนตัวของน้ำเหนือขึ้นด้วย “ผ… ผมเดินเองก็ได้”
“คิดว่าเดินไหวหรือยังไงกัน” คนอุ้มว่า ดันประตูห้องน้ำให้เปิดกว้างออกก่อนจะวางคนในอ้อมแขนลงกับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า หยิบแปรงสีฟันยาสีฟันส่งให้ แล้วจึงเดินไปเปิดน้ำใส่อ่างเตรียมเอาไว้ให้
คนตัวสูงเดินไปยืนกอดอกพิงผนังห้องน้ำ พลางมองคนที่นั่งอยู่บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าแปรงฟัน น้ำเหนือได้แต่ก้มหน้าก้มตาแปรงฟันโดยไม่ยอมเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ตรงข้าม รู้สึกว่าแก้มทั้งสองข้างของตัวเองนั้นมันร้อนวูบวาบแบบแปลกๆ และไม่ต้องหันกลับไปมองกระจกบานใหญ่ด้านหลังก็รู้ได้ด้วยตัวเองว่าแก้มที่ร้อนนั้นมันต้องแดงอยู่แน่นอน
น้ำเหนือได้แต่นั่งเม้มปากอย่างคนกำลังคิดว่าจะเอายังไงดี ระหว่างเรียกคนที่ยืนกอดอกให้ช่วยอุ้มลงจากเคาน์เตอร์ หรือจะลงเอง ความสูงก็ไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ร่างกายไม่ค่อยเต็มร้อยจะลงเองก็กลัวว่าจะได้ทรุดลงกับพื้น
ยังไม่ทันจะได้ตัดสินใจคนที่เห็นน้ำเหนือนั่งเม้มปากทำคิ้วขมวดอยู่สักพักก็ยกยิ้มขำเดินเข้ามาใกล้สองมือท้าวลงกับเคาน์เตอร์กักร่างของอีกฝ่ายเอาไว้ “มีอะไรจะพูดหรือยังไง”
“อ่า…” น้ำเหนือได้แต่เอนตัวไปด้านหลังเพราะความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น ส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบก่อนจะได้แต่ยกมือขึ้นโอบรอบคออีกคนเอาไว้เมื่อควอตซ์สอดมือเข้าใต้ข้อพับแล้วอุ้มเขาลงจากเคาน์เตอร์
“ลงไม่ไหวก็บอก เก็บเงียบเอาไว้อยู่ได้” ควอตซ์ว่ายกมือขึ้นยีผมของน้ำเหนือหลังจากที่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ยืนแล้ว
“ก็...” คนพูดไม่ออกก็เลยได้แต่เงียบเอาไว้
“อาบน้ำเถอะ เดี๋ยวพี่ออกไปรอข้างนอก” ควอตซ์พูดก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำปล่อยให้น้ำเหนือได้อาบน้ำเสียที
ควอตซ์เดินไปหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูของตนขึ้นมาก่อนจะกดโทรออกหาเลขาคนสนิทที่พ่วงด้วยตำแหน่งพี่สาวที่เคารพเพื่อบอกว่าวันนี้เขาจะไม่เข้าบริษัท ถ้ามีเรื่องด่วนอะไรก็ให้โทรมาหา ส่วนเอกสารที่ต้องจัดการถ้าอันไหนด่วนก็ให้เอามาให้ที่บ้าน แต่ถ้าไม่วันพรุ่งนี้เขาจะเข้าไปจัดการเอง ก่อนจะพูดคุยถึงรายละเอียดร้านจิลเวอร์รี่สาขาใหม่ต่อ จนกระทั่งน้ำเหนือเดินสวมชุดคลุมออกมาจากห้องน้ำเขาถึงได้วางสาย
“คุยกับพี่ลินเหรอครับ” น้ำเหนือถาม ยกมือกระชับเสื้อคลุมตัวเองเพราะรู้สึกหนาวจากความเย็นของเครื่องปรับอากาศ
“อือ เรื่องงาน ทำไมไม่เห็นตัวให้แห้งก่อนออกมา หนาวละสิ” ควอตซ์ว่าหันไปหยิบผ้าขนหนูมาก่อนจะเดินไปหาคนที่ยังยืนกอดอกอยู่หน้าห้องน้ำ เนื้อตัวยังพราวไปด้วยหยดน้ำ เส้นผมก็เปียกชื้น
ควอตซ์ใช้ผ้าขนหนูในมือเช็ดไปตามแขนของน้ำเหนือให้ ก่อนจะเลื่อนไปเช็ดผมจนกระทั่งแห้ง ส่วนคนที่โดนปรนนิบัติก็ได้แต่ยืนก้มหน้าแก้มแดงอย่างไม่รู้จะยังอย่างไรดี
เป็นอะไรไปนะน้ำเหนือ จะเขิน จะหน้าแดงทำไมนักได้แต่นึกว่าตัวเองอยู่ในใจที่มีอาการแบบนี้ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นจะมีเลย ก็ตั้งแต่... ตั้งแต่ที่โดนสารภาพรักนั่นแหละ น้ำเหนือรู้สึกว่าตัวเขาเองไม่เหมือนตัวเขาในสมัยก่อนเลยสักนิด
“อ๊ะ! พ พี่... อือ...” น้ำเหนือได้แต่เงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ ก็โดนดันจนแผ่นหลังแนบไปกับผนังห้อง ตั้งใจจะถามว่ามีอะไรทำไมถึงได้ดันเขาแบบนี้ แต่ยังไม่ทันเสียงจะหลุดออกจากริมฝีปาก ก็โดนอีกคนช่วงชิงอากาศไปเสียก่อน
ริมฝีปากของควอตซ์แนบสนิทลงกับปากอิ่มของน้ำเหนือ ขบเม้มเบาๆ ไปทั่วกลีบปากบนและล่าง มือข้างหนึ่งเชยคางน้ำเหนือขึ้นเพื่อที่เขาจะได้มอบจุมพิตได้อย่างถนัด เนินนาบและเนินนานกว่าที่ริมฝีปากของน้ำเหนือจะเป็นอิสระ ใบหน้าน่ารักแดงก่ำจนแทบหาสีเดิมไม่เจอ
ไม่ใช่จูบที่รุนแรงหรือเร่าร้อน แต่ทว่า... มันนุ่มนวลและอ่อนหวานจนรู้สึกเหมือนกำลังจะล่องลอยแม้ริมฝีปากจะเป็นอิสระแล้ว แต่น้ำเหนือก็ยังไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้นอกจากกอบโกยลมหายใจ ปลายจมูกโด่งของควอตซ์ยังคงคลอเคลียอยู่ข้างแก้มและขมับให้น้ำเหนือได้แต่เอนหลบ สองมือกำแขนเสื้อของคนที่กักขังเขาเอาไว้ในอ้อมแขนเอาไว้แน่น
“อะ... อือ...” น้ำเหนือสะดุ้งยามที่ริมฝีปากร้อนสัมผัสเข้าที่ซอกคอขาว รู้สึกตัวสั่นขึ้นมาอย่างไม่สามารถห้ามใจ “ย... หยุดเลยนะ...”
ควอตซ์หัวเราะในลำคอกับคำห้ามปรามของ
คนรักเลื่อนไปจูบที่หน้าผากอีกรอบแล้วจึงยอมผละออก
“
ไม่รังแกแล้วก็ได้ ไปแต่งตัวเถอะเดี๋ยวจะได้ลงไปกินข้าวกัน”
น้ำเหนือนึกอยากจะหยิกคนพูดสักที แต่ถ้าหากทำแบบนั้นมีหวังได้โดนเอาคืนแน่นอน เลยได้แต่เม้มปากใส่แล้วจึงเลี่ยงหนีมาแต่งตัว หยิบเอาชุดในตู้เสื้อผ้ามากอดเอาไว้แล้วเดินเข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำให้คนที่ยืนมองอยู่นึกขำอย่างเอ็นดู
ควอตซ์ส่ายหน้ากับตัวเองแล้วได้แต่นึกในใจว่าเขาดูท่าจะอาการหนักไม่ใช่เล่น นึกมันเขี้ยวน้ำเหนือไม่หยุด ยิ่งได้ใกล้ชิดก็นึกอยากจะกอดให้หนักแต่ก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้ตามใจนึกได้
“ลงไปข้างล่างกันเถอะครับ” น้ำเหนือที่แต่งตัวเรียบร้อยเดินมาหาคนที่นั่งกดโทรศัพท์อยู่ที่โซฟาปลายเตียง
“อือ ไปสิ” ควอตซ์ตอบพร้อมลุกขึ้นยืน ก่อนที่น้ำเหนือจะเดินเขาก็จัดการคว้าเข้าที่ข้อมือของอีกคนเอาไว้ และเมื่ออีกฝ่ายหันมาก็ก้มลงจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากนั้นอีกรอบ “Good morning mommy.”
“...” น้ำเหนือได้แต่กัดปากตัวเองอย่างนึกเขินกับการกระทำของอีกคน มือไม้รู้สึกว่ามันเกะกะจนไม่รู้จะเอาไปไว้ตรงไหน ยิ่งพอเห็นสายตาของอีกฝ่ายที่มองมาเหมือนกำลังรอก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก
สุดท้ายก็ได้แต่บิดข้อมือตัวเองออก แล้วเดินจ้ำอ้าวออกจากห้องนอนไป พร้อมเสียงที่เบาอย่างกับเสียงกระซิบ
“Good morning daddy.”หลังจากจบมื้อเช้าที่กว่าจะได้ทานก็สายมากแล้ว น้ำเหนือกับควอตซ์ก็ย้ายมานั่งคุยกับคุณหญิงมรกต และเฌอรีนที่นั่งคุยกันอยู่ในห้องนั่งเล่น และเมื่อคุณหญิงมรกตเห็นลูกสะใภ้สุดที่รักก็รีบถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
“น้ำเหนือไม่สบายเหรอลูก ต้องให้น้าหมอมาดูอาการให้ไหม” คุณหญิงมรกตเรียกลูกสะใภ้ของตนมานั่งข้างๆ ทันที โดยที่ลูกชายคนโตก็ตามมานั่งที่โซฟาใกล้ๆ น้ำเหนืออีกที
“เอ่อ... ไม่เป็นไรมากครับ ขอโทษด้วยนะครับที่ผมลงมาทานมื้อเช้าด้วยไม่ทัน” น้ำเหนือตอบ
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้วละลูก” คุณหญิงมรกตยิ้มก่อนจะหันไปดุลูกชายของตนต่อ “พี่ควอตซ์ทำไมถึงไม่ดูแลน้องให้ดีๆ ปล่อยให้น้องไม่สบายได้ยังไง”
“ขอโทษด้วยครับ ต่อไปผมจะระวังไม่ให้น้ำเหนือไม่สบายอีก” ควอตซ์ว่า “อย่างนั้นวันนี้ผมจะคอยดูแลน้ำเหนือทั้งวันเลย ดีไหมครับ”
“ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่ต้องทุกวันลูกก็รู้ว่าน้องน่ะท้... ว่าน้องน่ะช่วงนี้ไม่ค่อยแข็งแรง” คุณหญิงมรกตชะงักไปนิดตอนพูดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าในห้องนี้ไม่ได้มีแค่พวกเขาสามคนแต่ยังมีเฌอรีนอยู่ในห้องด้วย
“น้ำเหนือสุขภาพไม่แข็งแรงเหรอคะ” เฌอรีนถามออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น
“ก็ประมาณนั้นแหละ” เป็นควอตซ์ที่ตอบคำถามนั้นแทน
เฌอรีนพยักหน้ารับก่อนจะหันไปพูดกับน้ำเหนือ “อย่างนั้นต้องดูแลสุขภาพดีๆ นะน้ำเหนือ ไอมีพวกยาบำรุงร่างกายเยอะนะ เอาไว้ไอจะเอามาฝากนะ”
น้ำเหนือยิ้มรับ “ขอบคุณนะครับคุณเฌอรีน ไม่ต้องลำบากหรอกครับ”
ตลอดช่วงเช้าน้ำเหนือนั่งคุยเล่นกับคุณหญิงมรกตแล้วก็เฌอรีนในห้องนั่งเล่น ส่วนควอตซ์ก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ มีบ้างที่เข้าร่วมวงสนทนากับทั้งสามคนด้วยยามที่มีเรื่องของเขาเป็นประเด็นในการพูดคุยขึ้นมา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเฌอรีนที่เล่าเรื่องสมัยตอนที่ควอตซ์เรียนอยู่ต่างประเทศให้ฟัง โดยมีคุณหญิงมรกตคอยช่วยเสริมด้วย
จนกระทั่งคล้อยบ่ายหลังจากที่ทานมื้อกลางวันกันเรียบร้อยที่สวนข้างบ้านควอตซ์ก็พาน้ำเหนือขึ้นไปนอนพัก เพราะดูท่าทางแล้วน้ำเหนือน่าจะรู้สึกอ่อนเพลียอยู่ไม่น้อยทั้งรับมือกับสองแฝดที่ขยันดิ้นกันเหลือเกิน อาการเหนื่อยง่ายของคนท้องอย่างที่เป็นอยู่ทุกวัน แล้วยังจะเมื่อคืนถูกเขากอดไปอีก
“ง่วงนอนหรือเปล่า” ควอตซ์ถาม ตอนนี้ทั้งเขาและน้ำเหนือขึ้นมาอยู่บนห้องนอนแล้วเรียบร้อย
“นิดหน่อยครับ มันเพลียๆ น่ะครับ” น้ำเหนือพยักหน้ารับพร้อมกับตอบ ขยับขึ้นไปกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงหยิบเอาผ้านวมผืนใหญ่มากอดเอาไว้อย่างที่ชอบทำ
“อย่างนั้นก็นอนดีๆ เจ้าตัวเล็กยังดิ้นอยู่ไหม” ควอตซ์ตามขึ้นไปข้างๆ จัดหมอนให้เข้าที่เข้าทางเพื่อให้คนท้องได้นอนสบาย
“ไม่แล้วครับ สงสัยคงจะหลับกันอยู่” ตอบไปก็ดึงแขนเสื้อของควอตซ์ไปด้วย ไม่ต้องพูดอะไรต่อเขาก็รู้ได้ว่าเด็กดื้อของเขาต้องการอะไร ควอตซ์จึงขยับลงนอนข้างๆ รั้งร่างที่มีน้ำมีนวลเข้ามาใกล้และจับให้นอนหนุนแขนของเขา
“วันพฤหัสน้าหมอนัดใช่ไหม” ควอตซ์ถามคนที่นอนมองเขา ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับเขาจึงพูดต่อ “อาทิตย์หน้ามีวันหยุดยาว อยากไปเที่ยวทะเลไหม พาคุณพ่อคุณแม่แล้วก็ยัยพิสไปด้วย”
พอได้ยินคำว่าทะเลน้ำเหนือก็ตาโต พราวระยับด้วยความตื่นเต้นทันที “ทะเล~~~ ไปครับ ผมอยากไปไม่ได้ไปนานแล้ว ไปล่าสุดตอนปีหนึ่งได้แต่นั่นก็ไม่ได้ไปเที่ยวด้วย ไปรับน้อง ผมอยากไป ไปกันนะครับ”
“วันหยุดแล้วเราไปกัน”
“จริงนะครับ จริงๆ นะ ไม่โกหกผมนะ” น้ำเหนือร้องถาม สองมือก็จับมือของควอตซ์เขย่าเหมือนเด็กๆ และเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้ารับก็ยิ้มกว้างอย่างดีใจ “ขอบคุณนะครับคุณ... ไม่สิ... ขอบคุณนะครับพี่ควอตซ์...”
“ดื้อเอ๊ย...” ควอตซ์พึมพำเบาๆ ยื่นมือไปบีบปลายจมูกรั้นนั้นอย่างมันเขี้ยวกับท่าทางที่ดูน่ารักของน้ำเหนือ “จะลุกไปไหน”
ควอตซ์ถามเมื่อคนที่ตอนแรกทำตาปรือเหมือนจะหลับลุกขึ้นนั่งหลังจากได้ยินว่าวันหยุดยาวจะพาไปเที่ยวทะเล เด็กดื้อหันมายิ้มก่อนจะตอบ “ก็... หาข้อมูลไปเที่ยวทะเลยังไงละครับ”
“ดื้อ ไม่ต้องเลย มานอนพักก่อนเดี๋ยวก็ไม่สบายจริงๆ หรอก เอาไว้ตื่นแล้วค่อยหาก็ยังทัน” ควอตซ์รีบคว้าแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ทันที พร้อมกับเอ่ยเสียงดุ
ปกติต้องนอนพักทุกวันตอนบ่าย แล้วนี่ก็เลยเวลาที่จะนอนมาสักพักใหญ่แล้วถ้าขืนยังดื้อฝืนไม่ยอมนอน ดีไม่ดีก็ได้ไม่สบายขึ้นมา แล้วคราวนี้คงได้วุ่นกันทั้งบ้านเพราะคุณหนูใหญ่ไม่สบาย
“แต่ว่า...”
“น้ำเหนืออย่าดื้อนะ เอาไว้ตื่นแล้วพี่จะยอมให้หาข้อมูล ให้เลือกเองทุกอย่างเลยว่าอยากจะไปไหน พักที่ไหน แต่ตอนนี้ต้องมานอนก่อน ถ้าไม่สบายขึ้นมาจะอดไปเที่ยวทะเลนะ”
พอได้ยินคนดุพูดแบบนั้น น้ำเหนือที่กำลังตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวทะเลก็หงอยลงทันที พยักหน้ายอมรับแล้วขยับมาทิ้งตัวลงนอน แต่คราวนี้จากที่นอนหันหน้าเข้าหาควอตซ์ก็เปลี่ยนเป็นนอนหันหลังให้ ให้คนดุส่ายหน้าเมื่อเจออาการแง่งอนของคนท้อง
ควอตซ์ขยับเข้าไปใกล้ สอดมือกอดรอบเอวของน้ำเหนือรั้งเบาๆ ให้คนแสนดื้อแสนงอนขยับมาพิงอก “ดื้อ”
“ครับ...”
“นอนพักเถอะ เดี๋ยวไม่สบาย” ควอตซ์ว่า แนบจมูกลงกับกลุ่มผมของคนในอ้อมแขน มือก็ลูบแขนลูบผมเหมือนเป็นการกล่อมคนดื้อให้นอนหลับ
เพราะอาการเพลียบวกกับทานยาเข้าไปน้ำเหนือจึงหลับสนิทไปในเวลาไม่นาน คราวนี้คนดื้อแสนงอนที่นอนหันหลังให้ก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายหันมาซุกตัวเข้ากับอกของควอตซ์แทน จนคนถูกคนหลับอ้อนต้องส่ายหน้า ยกมือบีบแก้มนุ่มนั้นเบาๆ
“ดื้อจริงๆ คนอะไร” พูดเหมือนจะบ่นแต่ริมฝีปากระบายเป็นรอยยิ้มน่ามองอย่างที่ไม่ค่อยได้ยิ้มเท่าไหร่นัก
************************************************
กลับมาแล้วค่าาาาา หายไปเกือบเดือนขอโทษด้วยค่ะ อย่างที่บอกเนอะว่าฟางไปสอบมา แล้วคือก่อนวันสอบป่วยจ้า เป็นหวัดลากยาวมาจนถึงอาทิตย์นี้ งานก็เยอะด้วยเลยไม่ค่อยมีเวลาแต่งนิยายเท่าไหร่ เพิ่งได้นั่งแต่งแล้วก็มาอัพนี่แหละค่ะ มีคนถาม... ว่าฟางไปสอบอะไรมา ฟางสอบ”ใบประกอบวิชาชีพทางสถาปัตยกรรม”จ้า ฟางเรียนจบแล้ว (แต่ชีวิตยังคงต้องสอบต่อไป) แล้วสายอาชีพนี้ก็ต้องมีใบประกอบวิชาชีพอะเนอะ เหมือนครูนั่นแหละค่า ฟางเลยต้องจริงจังนิดหนึ่ง ก็ได้แต่ภาวนาขอพรว่าให้สอบได้ในรอบนี้ด้วยเถอะ สาธุ~~~~~~~
เข้าที่เนื้อเรื่องต่อ เหมือนจะไม่มีอะไรแต่ไม่รู้ทำไมมันคันยุบยิบๆ ไปหมดเหมือนจะโดนมดกัด ยังคงเสิร์ฟความหวานให้ต่อเนื่องจ้า คนพี่ก็หลงน้องเข้าไปจ้า คนน้องก็เขินคนพี่เข้าไปจ้า เอาที่พี่ควอตซ์และน้องเหนือสบายใจ(?) ฮ่าาาาา เดี๋ยวเขาจะไปเที่ยวทะเลกันอะ คงจะมุ้งมิ้งนุ้งนิ้งกันน่าดูเลย เอาไว้รอติดตามกันต่อไปนะคะ ^^
ปล. คำผิดยังไม่ได้เช็คนะคะ มีบอกได้ค่า
อาจจะมาช้าหน่อยแต่ก็จะไม่ทิ้งไปไหนแน่นอนค่ะ หวังว่าจะเข้าใจกันนะคะ เป็นกำลังใจให้ฟางด้วยค่ะ ^^
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคะแนนบวกเป็ด คะแนนชื่นชมในตัวฟางนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ