“ขอแด๊ดดี๊กอดคุณแม่หน่อยนะครับ” ✽ ✽ ✽ ต่อจากคราวที่แล้วค่ะ ✽ ✽ ✽
“ฮึ่ม! พี่ควอตซ์นิสัยไม่ดี คนนิสัยไม่ดี” คนท้องได้แต่กอดอกเดินหน้างอง้ำเข้ามาในห้องอาหารของรีสอร์ท ผิดกับคนที่เดินตามมาด้านหลังที่กำลังยิ้มอย่างชอบใจที่แกล้งคนตรงหน้าได้
“น้ำเหนือเป็นอะไรไปลูก” คุณหญิงมรกตร้องถามเมื่อเห็นสีหน้างอง้ำของลูกสะใภ้ที่เดินเข้ามาหา
“ก็พี่ควอตซ์น่ะนิสัยไม่ดี แกล้งผม” ลูกสะใภ้ว่าเดินเข้ามานั่งข้างๆ คุณหญิงมรกตพร้อมกับกอดแขนคุณหญิงเอาไว้
“พี่เขาแกล้งอะไร” คุณโทมัสที่นั่งถัดจากคุณหญิงหันมาถาม
“ก็พี่ควอตซ์เขา!... อ่า…” คนที่ตั้งท่าจะฟ้องชะงักไปทันที ใบหน้าขาวๆ นั้นแดงระเรื่อได้แต่นั่งเม้มปากอย่างไม่กล้าพูดออกไป
เสียงหัวเราะในลำคอของคนช่างแกล้งดังขึ้นให้น้ำเหนือหันไปมองค้อน ยื่นมือไปตีแขนคนตัวโตอย่างนึกหงุดหงิดใจ
“หึ… เดี๋ยวผมไปตักอาหารให้คนโมโหหิวก่อนนะครับ” ควอตซ์พูด ลุกขึ้นยืนวางมือลงบนศีรษะของน้ำเหนือแล้วโยกไปมา
คนโมโหหิวยกมือขึ้นตีมือของควอตซ์อีกรอบ “รีบๆ เลยด้วย ผมหิวแล้ว ลูกในท้องก็หิวแล้วด้วย!”
“Yes sir, mommy. One moment, please.”
คนพูดเดินไปแล้วน้ำเหนือเลยได้แต่หันกลับมาที่โต๊ะก่อนจะหน้าแดงขึ้นอีกรอบเมื่อเห็นสายตาของทุกคนบนโต๊ะ
“นอนหลับสบายไหมลูก นี่เจ้าพิสกับเฌอรีนก็ยังไม่มากันเลย สงสัยจะตื่นสายกันหมด” คุณหญิงมรกตถาม
“ก็… หลับสบายดีครับ” น้ำเหนือได้แต่อ้อมแอ้มตอบอย่างไม่เต็มเสียงนัก เพราะเขาก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าหลับสบายจริงหรือเปล่า
ตอนหลับน่ะก็สบายดีอยู่หรอก หลับสนิทไม่มีตื่นกลางดึกเลยสักนิด ตอนเช้าก็… พอนึกถึงตอนเช้าน้ำเหนือก็รู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนอย่างไรชอบกล
เพราะเมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นใบหน้าของควอตซ์อยู่ใกล้ๆ
‘Good morning’ เสียงทุ้มที่ดังอยู่ใกล้ๆ ดังขึ้น น้ำเหนือได้แต่พยักหน้ารับกับคำทักทายนั้น
แล้วแทนที่เขาจะได้ลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อมาทานมื้อเช้ากลับต้องนอนอยู่บนเตียงอีกเกือบชั่วโมงปล่อยให้คนที่ตื่นก่อนเข้ามายุ่มย่ามกับริมฝีปากของน้ำเหนือไม่หยุดอยู่เป็นนานสองนาน
และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมน้ำเหนือถึงได้มีสีหน้างอง้ำตอนเดินเข้ามาในห้องอาหารของรีสอร์ท หิวก็หิวแต่ใครบางคนกลับไม่ยอมปล่อยให้มาหาอะไรทาน จะไม่ให้นึกโมโหได้อย่างไรกัน…
“กินเยอะๆ” อาหารเช้าหน้าตาน่าทานถูกวางลงตรงหน้าน้ำเหนือ มีทั้งไข่ดาว ไส้กรอก แฮม รวมไปถึงขนมปังปิ้ง
“ขอบคุณครับ” น้ำเหนือหันไปขอบคุณก่อนจะเริ่มลงมือทานมื้อเช้าไป พูดคุยกับคุณหญิงมรกตไปด้วย ส่วนควอตซ์ก็นั่งคุยกับคุณโทมัส ไม่พ้นเรื่องงานอยู่ดี
สักพักลาพิสกับเฌอรีนก็มาถึง ทั้งสองสาวอยู่ในชุดเดรสยาวเนื้อผ้าบางเบา ทั้งคู่เดินไปตักมื้อเช้ามานั่งทานด้วยกันที่โต๊ะ
“ควอตซ์ ยูใส่แหวนด้วยเหรอ ปกติไอไม่เห็นยูจะใส่เครื่องประดับอะไรเลย” เฌอรีนทักเมื่อเห็นแหวนที่ควอตซ์ใส่อยู่
คำทักของเฌอรีนทำให้ทุกคนบนโต๊ะหันมาสนใจในทันที เพราะเป็นอย่างที่เฌอรีนว่าปกติควอตซ์ไม่ใช่คนใส่เครื่องประดับ จะมีก็แค่นาฬิกาเรือนสวยที่ประดับบนข้อมือเท่านั้น
“อ๊ะ! พี่น้ำเหนือก็ใส่แหวน อ่ะๆๆๆ แหวนคู่เหรอคะเนี่ย ไหนดูสิ” ลาพิสว่าเอื้อมมือมาจับมือพี่ชายแล้วก็พี่สะใภ้ไปดูทันที “ว้าย! แหวนเพชร แหวนคู่จริงด้วย เมื่อวานยังไม่เห็นใส่เลยนี่คะ”
“จริงเหรอลูก ไหนมาให้แม่ดูบ้างสิคะ” คุณหญิงมรกตพูดจับมือลูกสะใภ้มาดูแหวนทันที
คุณโทมัสเองก็มองด้วยก่อนที่จะแย้มยิ้มแล้วพูดเสริม “แหวนสองวงนี้… เหมือนพ่อจะเห็นว่าถูกสั่งให้เร่งทำให้เร็วที่สุดนี่นะ ถ้าจำไม่ผิด… คุณแอนดริวหัวหน้าฝ่ายผลิตมาบอกกับพ่อว่า ควอตซ์สั่งทำแหวนสองวง แถมยังออกแบบเอง อ๋อ… แหวนสองวงนั้นก็มาอยู่ที่นี่เองสินะ”
น้ำเหนือได้แต่นั่งหน้าร้อน ส่วนคนถูกแฉก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ไม่ได้นึกเขินอะไรเพราะสิ่งที่คุณโทมัสพูดเป็นจริงทุกอย่าง
“พิสขอกรี๊ดได้ไหมอะ ฮูยยย~ พี่ชายพิสมีมุมโรแมนออกแบบแหวนคู่ให้ด้วยอะ ไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าจะมีมุมนี้ เนอะคุณแม่เนอะ”
“นั่นสิน้องพิส แม่เองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ พ่อเพล์บอยของแม่มาตกม้าตายเอากับหนุ่มน้อยน่ารัก” คุณหญิงมรกตแทบจะหันไปแท็กมือกับลูกสาว
“เลิกแซวได้แล้วครับ น้ำเหนือหน้าแดงหมดแล้วเนี่ย” ควอตซ์ว่าหันไปมองคนรักที่นั่งหน้าแดงก่ำอยู่ข้างๆ
“พิสละอยากให้พี่น้ำเหนือคลอดลูกเร็วๆ จัง อยากเห็นพี่ควอตซ์เลี้ยงลูก อิอิ” ลาพิสพูดหันไปหัวเราะกับพี่ชายที่ยกมือมาดีดหน้าผากน้องสาวตัวเองอย่างมันเขี้ยว
และบทสนทนาก็น่าจะดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนานถ้าไม่ใช่เฌอรีนที่นั่งฟังนั่งยิ้มอยู่ร้องทักขึ้นมาเสียก่อน จนลาพิสได้แต่ตาโตยกมือปิดปาก หน้าซีด
“น้ำเหนือท้อง?!! แต่น้ำเหนือเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ แล้วยูจะท้องได้ยังไงกัน”
ทุกคนบนโต๊ะได้แต่นิ่งไป ลืมไปสนิทว่าเฌอรีนยังไม่รู้เรื่องของน้ำเหนือ คนเป็นเจ้าของเรื่องได้แต่หันมองควอตซ์ ก่อนจะพยักหน้าเหมือนเป็นการบอกว่าให้เล่าทุกอย่างให้เฌอรีนฟัง
“ฉันกับน้ำเหนือไม่ได้จะปิดบังอะไรหรอก แต่เรื่องของน้ำเหนือคนรู้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีกับตัวน้ำเหนือเอง” ควอตซ์พูด
“ยังไง ไองงไปหมดแล้ว”
“ผมว่า… เดี๋ยวเราค่อยคุยกันที่ห้องพักดีกว่าครับ ทานมื้อเช้ากันก่อนดีกว่า” น้ำเหนือพูด ซึ่งคุณหญิงมรกตก็เห็นด้วย จึงได้บอกให้ทุกคนทานมื้อเช้ากันก่อน เรื่องอื่นค่อยคุยกันทีหลัง
เมื่อมื้อช้าจบลง ทุกคนก็ย้ายกันไปที่บ้านพักของควอตซ์แล้วก็น้ำเหนือ ก่อนที่เจ้าของเรื่องทั้งสองคนจะเริ่มเล่ารายละเอียดให้เฌอรีนฟัง
“Oh!... I can’t believe that’s true!” เฌอรีนยกมือขึ้นปิดปากทำตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “ที่นู้นไอก็ได้ยินข่าวเรื่องคนมีสองเพศ แต่ไอไม่อยากจะเชื่อว่ามันมีจริงๆ แถมเป็นคนใกล้ๆ ตัวด้วย”
“ผมเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยครับ แต่การที่ท้องผมโตขึ้นเรื่อยๆ มันก็เป็นหลักฐานที่บอกว่าผมท้องจริงๆ” น้ำเหนือยิ้มบางพลางพูดความรู้สึกของตัวเอง ก่อนจะหันไปยิ้มให้ควอตซ์เมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมากุมมือของเขา
“เพราะอยากนี้นี่เองที่ยูห้ามไอแล้วห้ามไออีกว่าไม่ให้ไปเที่ยวตลาดกับน้ำเหนือ” เฌอรีนหันไปคุยกับควอตซ์
“ก็แบบนั้นแหละ”
“I’m sorry. ขอโทษนะน้ำเหนือ” หญิงสาวหันมาพูดกับน้ำเหนืออีกรอบ
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ คุณเฌอรีนไม่รู้นี่ครับ ไม่ผิดหรอก แต่… ผมขออะไรสักอย่างได้ไหมครับ” น้ำเหนือถาม เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้ารับเขาจึงพูดต่อ “เรื่องของผม ขอให้เป็นความลับ… นะครับ”
เฌอรีนพยักหน้ายืนยันทันที “Of course, I promise”
“ขอบคุณนะครับ”
เมื่อคุยกันเสร็จเรียบร้อยทุกคนก็ออกไปเที่ยวกันหมด คุณหญิงมรกตพาน้ำเหนือไปไหว้พระขอพร โดยมีควอตซ์ตามไปด้วยเพราะเจ้าตัวนับถือศาสนาพุทธ ส่วนคุณโทมัส ลาพิสและเฌอรีนก็เดินเล่นรออยู่รอบๆ บริเวณวัด สองสาวถ่ายรูปกันสนุกสนาน
ตอนกลางวันก็แวะร้านอาหารทะเล ทานมื้อกลางวันกันก่อนที่จะกลับเข้าที่พักในตอนบ่ายเพื่อพักผ่อนกันก่อน ตั้งใจว่าตอนเย็นจะออกไปเที่ยวตลาดกันอีกรอบ
ในขณะที่ควอตซ์กำลังคุยโทรศัพท์กับลินเลขาคนสนิทเรื่องงาน น้ำเหนือก็ส่งภาษามือบอกอีกฝ่ายว่าจะไปเดินเล่นที่ชายหาด ควอตซ์ขมวดคิ้วใส่และส่ายหน้าเป็นเชิงห้ามอยากจะเอ่ยบอกว่าให้รอไปพร้อมกันแต่ก็ติดพันกับการคุยงานจึงไม่สามารถเอ่ยปากได้อย่างที่ตั้งใจ แต่ดูเหมือนคราวนี้เด็กดื้อของเขาจะดื้อเป็นพิเศษ เพราะเจ้าตัวมีการยกมือโบกให้เขาแล้วเดินออกจากบ้านพักไปทันทีให้ควอตซ์นึกมันเขี้ยวอยากจะดึงแขนอีกคนกลับมาแล้วตีก้นเสียสักสองสามที
น้ำเหนือเดินเลียบชายหาดปล่อยให้น้ำทะเลซัดเข้ามาโดนเท้าของตัวเอง โชคดีที่วันนี้ไม่มีแดด สายลมเย็นจากทะเลที่พัดเข้าหาฝั่งก็ทำให้สบายแม้จะรู้สึกเหนียวตัวไปบ้างก็ตาม
ขาทั้งสองข้างหยุดนิ่งเมื่อเดินมาถึงจุดที่เมื่อคืนทั้งเขาและควอตซ์มานั่งเล่นตรงนี้ พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็พาลทำให้แก้มใสซับสีระเรื่อชวนมอง พยายามที่จะสะบัดหน้าไล่ทั้งภาพ และเสียง รวมไปถึงสัมผัสออกจากความคิดแต่ก็ไม่สามารถห้ามรอยยิ้มที่ยกขึ้นได้เลย
ทางที่ดี... ต้องรีบเดินออกจากตรงนี้เจ้าตัวคิดเช่นนั้นก่อนจะเดินต่อ แต่คราวนี้ดวงตาทั้งสองข้างไม่ได้มองไปที่วิวสวยๆ แต่เห็นแหวนเพชรที่ประดับอยู่บนนิ้วของตัวเองแทน
คำที่คุณโทมัสเอ่ยเมื่อเช้าวิ่งเข้ามาในหัวอีกรอบ และนั่นก็ทำให้น้ำเหนือยิ้มมากขึ้น นานแล้วที่น้ำเหนือไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมากมายขนาดนี้ ครั้งสุดท้ายที่ยิ้มกว้างก็คงสมัยที่พ่อของเขายังอยู่ แต่หลังจากนั้นแม้น้ำเหนือจะยิ้ม จะหัวเราะ แต่มันก็ไม่ได้เต็มที่แบบคราวนี้
ปึก!
เพราะมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน้ำเหนือจึงเดินชนกับคนอื่นเข้า เจ้าตัวได้แต่ก้มหัวขอโทษ
“ขอโทษครับ พอดีผมไม่ทัน...” เสียงเอ่ยขอโทษหายวับเข้าไปในลำคอเมื่อน้ำเหนือเงยขึ้นมอง
ต่างฝ่ายต่างนิ่งอึ้งเมื่อเห็นหน้ากันอย่างชัดเจน เกือบนาทีที่ทั้งสองคนยืนจ้องหน้ากันอยู่แบบนั้น
“น... น้ำเหนือ...” คนที่โดนน้ำเหนือชนเป็นฝ่ายรู้สึกตัวก่อน ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วให้น้ำเหนือสะดุ้ง สติกลับมาครบถ้วนตามเดิม
ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไรต่อ เสียงเล็กๆ พร้อมกับร่างน้อยๆ ก็วิ่งเข้ามากอดเอวคนตรงหน้าน้ำเหนือ “คุณพ่ออออ ไปเล่นน้ำกัน เล่นน้ำๆ นะๆ”
น้ำเหนือดวงตาเบิกกว้างก้มมองเด็กน้อยตาใสแจ๋วที่กำลังเขย่าขากางเกงของคนที่เจ้าตัวเรียกว่าพ่อ ก่อนจะไล่สายตาขึ้นมามองคนที่กำลังมองตรงมาที่เขา
“น้ำเหนือ...”
“คุณพ่อ... ใครหยอฮะ คุณแม่ๆ คุณพ่ออยู่นี่” เด็กน้อยร้องถามคนเป็นพ่อ ก่อนจะหันไปโบกมือให้ผู้หญิงอีกคนที่เดินยิ้มเข้ามาหา
“ข... ขอโทษครับ ม... เมื่อกี้ ผมไม่ทันระวัง” น้ำเหนือพูดเสียงรัวเร็ว ขาทั้งสองข้างค่อยๆ ก้าวถอยหลังทีละก้าว ทีละก้าว ก่อนจะหันหลังกลับแล้วออกวิ่งทันที
“น้ำเหนือ!!” เขาทำท่าจะวิ่งตามแต่ติดที่ขาของเขายังมีเด็กน้อยจับเอาไว้ ก่อนที่เด็กน้อยจะถูกคนเป็นแม่อุ้มขึ้นมา เธอหันมาหาเขาแล้วส่งยิ้มให้
“ถ้าเขาคือคนที่คุณกำลังตามหามาตลอด ก็รีบตามไปสิคะ”
“อ... อือ ย ยังไงก็กลับไปรอที่โรงแรมแล้วกันนะ” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะออกวิ่ง วิ่งตามน้ำเหนือ
“น้ำเหนือรอก่อน น้ำเหนือ!”
น้ำเหนือไม่หยุดวิ่ง ไม่หยุดฟัง และไม่หยุดรออะไรทั้งนั้น สองขายังวิ่งตรงไปข้างหน้าทั้งๆ ที่รู้ว่าอีกฝ่ายก็วิ่งตามมา
น... นี่มันอะไรกัน ท ทำไม... ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่... ทำไมกัน...
พ่อ...“น้ำเหนือ!!! รอพ่อก่อน!!”น้ำเหนือยังไม่พร้อม ไม่พร้อมที่จะเจอ ไม่รู้ว่าเพราะเวลาที่มันนานแสนนานหรือเพราะอะไรกันแน่ แต่ตอนนี้น้ำเหนือยังไม่พร้อมจริงๆ
“น้ำเหนือเป็นอะไร วิ่งหนีอะไรมา” ควอตซ์เรียกคนที่อยู่ๆ ก็วิ่งเข้ามากอดเขา
พอน้ำเหนือออกไปเดินเล่น ควอตซ์ก็หันไปปิดบ้านพักและเดินตามมาห่างๆ เพราะยังคุยธุระเรื่องงานไม่เสร็จ และเมื่อวางสายจากลินไปเขาก็เร่งฝีเท้าเพื่อเดินตามหาน้ำเหนือ แต่อยู่ๆ คนที่กำลังตามหาก็วิ่งเข้ามากอดเขาเสียก่อน
“น้ำเหนือบอกพี่สิว่าเป็นอะไร เจออะไรมา หนีอะไรมา” ควอตซ์ดันอีกฝ่ายออกนิด ก้มลงมองคนที่ยังตัวสั่น ตาสั่นเหมือนคนจะร้องไห้
“น้ำเหนือ!” ยังไม่ทันที่น้ำเหนือจะได้พูดอะไร เสียงเรียกชื่อน้ำเหนือก็ดังขึ้นให้ควอตซ์เงยหน้าขึ้นมองไปทางด้านหลังของน้ำเหนือ ก่อนที่จะเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาพวกเขา
และเมื่อชายคนนั้นเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ควอตซ์ก็รู้ทันทีว่าน้ำเหนือวิ่งหนีใครมา...
เพราะเคยให้คนของเขาสืบเรื่องของพ่อของน้ำเหนือ ควอตซ์จึงได้เห็นหน้าของอีกฝ่ายในรูปถ่าย เพราะฉะนั้นเมื่อเขาเห็นตัวจริง เขาก็รู้ได้ทันที
สินธร... พ่อแท้ๆ ผู้ให้กำเนิดน้ำเหนือ คนที่จิตใต้สำนึกของน้ำเหนือร้องหาและเรียกร้องมากที่สุด“น้ำเหนือ... ไหวหรือเปล่า” ควอตซ์ก้มลงถามคนที่ยืนตาแดงก่ำหันหน้าเข้าหาเขา
คนถูกถามส่ายหน้าไปมา ใบหน้าขาวเริ่มซีดลงจนควอตซ์เป็นกังวลอยากจะพาน้ำเหนือไปพัก แต่ก็ติดที่คนตรงหน้า...
“น้ำเหนือ... ลูก...” สินธรเอ่ยเรียกน้ำเหนือเสียงเบา พร้อมกับเดินเข้ามาใกล้น้ำเหนือ แต่น้ำเหนือก็ขยับเข้ามาใกล้ควอตซ์มากขึ้นเช่นกัน
“พ... พี่ควอตซ์... ผ ผม ผมไม่ไหว... อึก... ไม่ไหว” ไหล่ทั้งสองข้างของน้ำเหนือสั่นสะท้าน น้ำใสหยดแล้วหยดเล่าไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้าง ก่อนที่ดวงตานั้นจะปรือปิดลงพร้อมกับร่างที่ค่อยๆ ทรุดลง
“น้ำเหนือ!!” ทั้งควอตซ์และสินธรร้องเรียก ควอตซ์คว้าตัวน้ำเหนือเอาไว้ได้ทันก่อนที่อีกฝ่ายจะทรุดลงกับพื้น เขาช้อนตัวน้ำเหนือขึ้นอุ้ม
“ผมจะพาน้ำเหนือไปพักก่อน... คุณสินธรตามผมมาแล้วกันครับ” แม้สินธรจะแปลกใจที่ผู้ชายตรงหน้ารู้จักเขา แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเอ่ยถามเพราะเขาเป็นห่วงน้ำเหนือที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนนั้นมากกว่า
ควอตซ์ได้แต่นั่งกุมมือของน้ำเหนือเอาไว้ มืออีกข้างก็คอยอังที่หน้าผากเพื่อเช็คดูว่าน้ำเหนือมีไข้หรือเปล่า เขาถอนหายใจออกมาพลางนึกย้อนไปก่อนหน้านี้...
หลังจากที่เขาอุ้มน้ำเหนือกลับมาที่บ้านพัก โดยมีคุณสินธรพ่อของคนรักเดินตามมาด้วย ควอตซ์ก็เอ่ยแนะนำตัวทำความรู้จักไปบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เล่าเรื่องของน้ำเหนือให้เขาฟังและก็ไม่ได้ถามถึงเหตุผลที่ทำให้น้ำเหนือเป็นแบบนี้
พูดคุยกันได้ไม่กี่ประโยคโทรศัพท์ของคุณสินธรก็มีสายเข้า เขาจึงขอตัวไปคุยโทรศัพท์และบอกว่าจะขอกลับมาดูน้ำเหนืออีกครั้ง ควอตซ์ก็ได้แต่รับคำ ไม่มีเหตุจำเป็นอะไรที่จะต้องกีดกันคนเป็นพ่อเป็นลูก อีกทั้งเขามั่นใจ...
ถึงแม้น้ำเหนือจะเหมือนวิ่งหนี แต่ลึกๆ ในใจก็คงอยากเจอพ่อไม่นานหลังจากนั้นน้ำเหนือก็ตื่น ดวงตากลมโตที่สดใสตอนนี้อ่อนลง ดูเศร้าหมองอย่างที่ควอตซ์ไม่เคยเห็นมานานแล้วตั้งแต่ที่น้ำเหนือย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านบริสตัน สายตาที่เหมือนกับตอนที่น้ำเหนือเข้าโรงพยาบาล
“น้ำเหนือ เป็นยังไงบ้าง ปวดหัวไหม” ควอตซ์ยกมือลูบผมของน้ำเหนือแล้วเอ่ยถาม
“ผม... กลับมาที่ห้องได้ยังไงเหรอครับ” น้ำเหนือไม่ได้ตอบ แต่เลือกที่จะถามคำถามออกไปแทน
“อยู่ๆ ก็หมดสติไป พี่เลยพามาที่ห้อง”
“แล้ว... พวกคุณแม่รู้เรื่องที่ผมหมดสติไปหรือเปล่าครับ” น้ำเหนือถามตอบพร้อมกับยันตัวลุกขึ้นนั่ง ควอตซ์จึงขยับมาช่วยประคอง
“เปล่า พี่ไม่ได้บอก นี่ก็ออกไปข้างนอกกันหมดแล้ว พี่บอกไปแค่ว่าเมื่อตอนบ่ายไปเดินเล่นกันมาเราเลยเพลียๆ ขอพักอยู่ห้องแทน” ควอตซ์ตอบ ขยับไปนั่งข้างๆ น้ำเหนือ ซึ่งอีกคนก็เอนหน้าลงมาซบที่ไหล่ของเขาทันที
ควอตซ์ไม่ได้พูดหรือถามอะไรออกไป และรอให้น้ำเหนือเป็นฝ่ายพูดออกมาเองเมื่อพร้อม เขาไม่อยากเร่งรัด ไม่อยากรบเร้าถ้าหากน้ำเหนือยังไม่พร้อมที่จะพูด
“พี่ควอตซ์...”
น้ำเหนือส่งเสียงเรียก ให้อีกฝ่ายขานรับ “อือ”
มือของน้ำเหนือเริ่มสั่น จนควอตซ์ต้องเอื้อมมือไปจับมือของอีกคนมากุมเอาไว้แน่น “ถ้าเก็บเอาไว้แล้วอึดอัด ก็ระบายออกมา”
“ผม...” น้ำเหนือเริ่มพูด แต่ก็เงียบลงอีกรอบ ดวงตากลมโตหลุบลงยามนึกถึงเรื่องเมื่อตอนบ่าย
ทั้งๆ ที่เขาควรจะดีใจที่ได้เจอพ่อที่เฝ้ารอ เฝ้าคิดถึง ว่าสักวันจะมีโอกาสได้เจอ แต่ทำไมน้ำเหนือถึงดีใจไม่ออก ในอกมันเจ็บปวดไปหมด เจ็บจนทรมาน เจ็บจนรู้สึกว่าเขากำลังจะหายใจไม่ออก
แรงบีบที่มือช่วยให้น้ำเหนือกลับมาหายใจได้อย่างโล่งขึ้น สัมผัสที่บอกว่าน้ำเหนือไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว แต่มีใครอีกคนอยู่ข้างๆ
“ผมสงสัย... สงสัยมาตลอดว่าทำไม ทำไมพ่อถึงไม่กลับมาหาผม” คนที่รู้สึกอึดอัดข้างในเริ่มพูด น้ำตาไหลออกจากดวงตา แต่ไม่มีเสียงสะอื้น มีเพียงหยาดน้ำใสที่ไหลรินออกมาแค่นั้น
“ผมคิดว่าพ่อคงไม่ว่าง พ่อคงงานยุ่ง พ่อไม่สะดวก... ผมคิดแบบนั้นตลอด ผมอยากเจอพ่อ... อยากเจอมากๆ อยากบอกพ่อว่าผมคิดถึง ผมรักพ่อ ผมอยากอยู่กับพ่อ...”
ควอตซ์ไม่ได้พูดอะไรแทรกขึ้นมา เขารู้ว่าตอนนี้น้ำเหนือไม่ต้องการคำปลอบโยน น้ำเหนือแค่ต้องการระบายความในใจ และต้องการคนอยู่ข้างๆ
“แต่ผมรู้แล้ว... พ่อไม่ได้ไม่ว่าง... แต่พ่อไม่รัก... อึก... ไม่รักผมแล้ว”ภาพของเด็กน้อยหน้าตาน่ารักที่วิ่งเข้ามากอดขาคนเป็นพ่อของน้ำเหนือ คำที่เรียกเสียงเจื้อยแจ้วว่าคุณพ่อ เป็นคำตอบในใจของน้ำเหนือได้เป็นอย่างดี
แรงบีบที่มือเพิ่มมากขึ้นแต่ไม่ได้ทำให้น้ำเหนือรู้สึกเจ็บเลยสักนิด เพราะความเจ็บปวดข้างในอกมันรุนแรงกว่ามาก และมันกำลังชาไปทั้งตัว
“พ่อ... อึก พ่อมีครอบครัวที่น่ารัก มีภรรยาที่สวย มีลูกที่น่ารักน่าเอ็นดู... ล แล้วพ่อ อึก... พ พ่อ จะรัก จะคิดถึงผมไปทำไมกัน”
“ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง” เสียงของควอตซ์กระซิบบอกยามรั้งร่างคนรักเข้ามาในอ้อมกอด ลูบแขนลูบหลังปลอบโยนคนหมดแรง
“พี่ควอตซ์... ผม อึก... ผมเจ็บจังเลยครับ ผมเจ็บไปหมดเลย” น้ำเหนือได้แต่ซุกหน้าลงกับอกกว้างของคนที่กำลังกอดเขาเอาไว้ มือจับทึ้งที่เสื้อของควอตซ์บริเวณหน้าอก เสียงสะอื้นเริ่มดังขึ้นปานจะขาดใจ
“คนดี... ไม่ร้องนะ ไม่ร้องนะครับ”
ควอตซ์ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา เพราะกลัวว่าถ้าหากเขาเพิ่มแรงมากกว่านี้คนตรงหน้าจะเจ็บจนทนไม่ไหว
“ทุกอย่างอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่น้ำเหนือคิดก็ได้นะ อย่าเพิ่งคิดมากเลยนะ”
“ต แต่ว่า...”
“อยากลองคุยกับเขาดูไหม ถามเขาตรงๆ ถึงเรื่องที่อยู่ในใจ เพราะถ้าหากทุกอย่างไม่ใช่อย่างที่น้ำเหนือคิด สุดท้าย... คนที่เจ็บปวดก็คือตัวเราเองนะ” ควอตซ์พูด เช็ดคราบน้ำตาที่เปรอะเปื้อนบนใบหน้าน่ารักนั้นออกให้
“ม... หมายความว่ายังไง อึก ครับ...”
“พี่ก็ไม่รู้ พี่ก็บอกไม่ได้ว่าสิ่งที่น้ำเหนือคิดถูกหรือผิด เพราะเรายังไม่ได้ฟังเขาพูด แต่ถ้าหากมันไม่ใช่อย่างที่น้ำเหนือคิด ก็เท่ากับว่าน้ำเหนือตัดโอกาสที่จะได้คุยกับพ่อนะ”
“ล แล้วถ้า... ถ้าเป็นอย่างที่ผมคิด ละครับ...”
“ครอบครัวบริสตัน รักน้ำเหนือนะ” คนพูดแนบริมฝีปากลงกับหน้าผากมนนั้น “ถ้าเป็นอย่างที่น้ำเหนือคิด บริสตันจะปกป้องและดูแลน้ำเหนือเอง”
“ขอบคุณ... อึก ครับ...”
ควอตซ์กระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น ลูบหลังของคนที่กำลังสั่นน้อยๆ อย่างปลอบโยน “แต่พี่เชื่อ เชื่อว่าพ่อของน้ำเหนือ ยังคงรักน้ำเหนือไม่เปลี่ยน”
น้ำเหนือซุกหน้าเข้าหาควอตซ์มากขึ้น สองแขนกอดรอบเอวสอบของคนที่อยู่เคียงข้างและปลอบใจเขาในเวลาที่น้ำเหนือต้องการใครสักคนอย่างในตอนนี้
“ขอบคุณครับ... ขอบคุณ”
“ด้วยความเต็มใจ”
************************************************
เปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างเนอะ ฟินมากๆ เดี๋ยวน้ำตาลในเลือกพุ่งสูงกันเกินไปค่ะ อีกอย่าง... น้องก็อยากเจอพ่อมาตลอด ฟางก็เลยพาน้องมาเจอพ่อเสียเลย อ๊ะๆๆๆ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวล แล้วก็อย่าเพิ่งว่าพ่อของน้องนะคะ ไม่มีดราม่าค่ะ มีแค่น้องร้องไห้เสียใจนิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นค่ะ ไม่มีอะไรมากมายกว่านั้นแน่นอนค่ะ ดราม่ายังไม่ถึง เนอะ ^^ ฮี่ๆๆ
ขอสักตอนที่เนื้อหาหน่วงในใจเพราะเรื่องน้องกับพ่อหน่อยนะคะ แล้วจะพากลับไปพบกับความน่ารักตามแบบฉบับพี่ควอตซ์น้องเหนือกันเหมือนเดิมค่ะ ยังไงก็ติดตามกันด้วยนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งฟางไปน๊า
ปล. มีคำผิด บอกได้ค่า
อาจจะมาช้าหน่อยแต่ก็จะไม่ทิ้งไปไหนแน่นอนค่ะ หวังว่าจะเข้าใจกันนะคะ เป็นกำลังใจให้ฟางด้วยค่ะ ^^
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคะแนนบวกเป็ด คะแนนชื่นชมในตัวฟางนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ