“ทำไมทำหน้าตกใจขนาดนั้น”
ติดแฮชแท็ก #พี่ควอตซ์น้องเหนือ ในทวิตเตอร์ บท 31“สวัสดีค่ะ… ทำไมเหรอคะ มีอะไรหรือเปล่า... จริงเหรอคะ!! แล้วน้องเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ… ค่ะ ค่ะ … ค่ะ เรื่องงานไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวพี่จัดการให้เอง ได้ค่ะ ค่ะ ถ้ามีงานด่วนพี่จะเอาเข้าไปให้นะคะ ค่ะ สวัสดีค่ะ” ลินเลาขาสาวที่พ่วงด้วยตำแหน่งพี่คนสนิทของรองประธานบริษัทจิลเวล บริสตัน ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อได้รับสายจากควอตซ์
“หึ… สมน้ำหน้า คิดที่จะมาแย่งควอตซ์ไปก็ต้องเจอแบบนี้แหละ ขอให้ตายๆ ไปทั้งแม่ทั้งลูก!!!” คนที่บังเอิญได้ยินบทสนทนาของลินก็ได้แต่แอบอยู่ซอกเสาต้นใหญ่ ที่มีกระถางต้นไม้ตั้งประดับเอาไว้จนพอที่จะซ่อนตัวไม่ให้ลินที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่มองเห็น
ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดแย้มเป็นรอยยิ้มอย่างถูกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
คนที่เป็นก้างขวางคอเธอ... เข้าโรงพยาบาลไปแล้วเรียบร้อย แต่สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่แค่นี้ เธอต้องการให้คนที่เป็นก้างขวางคอของเธอนั้น... ไม่ว่าจะเป็นคนแม่ หรือแม้แต่เด็กในท้องนั้น... เธอต้องกายให้พวกนั้นหายไปจากโลกใบนี้
“โดยเฉพาะเด็กในท้องแก ตายๆ ไปซะ เพราะถ้าไม่มีลูก คนอย่างแก... เขาก็ไม่สนใจหรอกน้ำเหนือ!” ดวงตาของเธอวาวโรจด้วยความกรุ่นโกรธ พลางนึกคิดในใจว่าจะต้องไปสืบดูให้ได้ว่าสิ่งที่เธอหวังเอาไว้เป็นจริงหรือเปล่า
ถ้าหากไม่... เธอจะได้จัดการเสียให้จบๆ ไป
หญิงสาวรอจังหวะที่ลินเดินหายไปจากตรงนี้แล้ว ค่อยๆ เดินออกมาจากที่หลบซ่อน และทำเป็นทีท่าว่าเพิ่งเดินเข้ามาในนี้
“อ้าว... คุณแอนนี่ คุณเฌอรีน สวัสดีค่ะ มากันนานหรือยังคะ” ลินเอ่ยทักเมื่อเห็นทั้งสองสาวที่นัดเข้ามาบริษัทในวันนี้ เพราะว่าวันนี้จะมีการประชุมของทีมงานที่ถ่ายซีรี่ส์โฆษณา
“ไอเพิ่งมาถึง” เฌอรีนตอบคำ
“ฉันก็เพิ่งมาถึง ว่าแต่คุณควอตซ์หล่ะ มาถึงแล้วเหรอ” แอนนี่ตอบ ก่อนจะถามหาใครอีกคนที่เธอพยายามมองหา แต่ก็ไม่เห็นเจอ
“วันนี้คุณอชิตพลไม่เข้าประชุมค่ะ มีธุระสำคัญเลยไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ ยังไงเชิญคุณแอนนี่กับคุณเฌอรีนที่ห้องประชุมเลยนะคะ อีกสักครู่ก็จะเริ่มประชุมกันแล้วค่ะ” ลินตอบ ก่อนจะผายมือเชิญหญิงสาวทั้งสองคนให้ไปที่ห้องประชุมด้วยกัน
การประชุมนั้นไม่ได้มีการพูดถึงเนื้อหาอะไรมาก แต่เป็นการเรียกประชุมเพื่อกล่าวขอบคุณทีมงานทุกคนที่ช่วยกันทำงานออกมาจนทำให้ซีรี่ส์โฆษณาเครื่องประดับคอลเลคชั่นใหม่ของคิวเอ็นได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น
ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดีทุกอย่างก็เสร็จสิ้นลง ก่อนที่ลินในนามตัวแทนของคิวเอ็นจะพาทีมงานทุกคนทั้งทีมงานในบริษัท ทีมงานฝ่ายถ่ายทำของเฌอรีน รวมไปถึงตัวนักแสดงไปเลี้ยงขอบคุณที่ร้านอาหารในโรงแรมหรูใกล้ๆ กับบริษัท
“ขอโทษนะคะ แต่แอนนี่ขอตัวดีกว่า พอดีว่ามีนัดคุยเรื่องงานต่อตอนบ่าย กลัวว่าจะไปไม่ทันนัดเอา” แอนนี่ที่แยกตัวไปคุยโทรศัพท์เดินเข้ามาบอกกับลินที่ยืนรออยู่หน้าอาคาร ระหว่างที่กำลังรอของบริษัทที่ลินจัดเตรียมเอาไว้มารับ
“เอ... ไม่แวะไปสักหน่อยเหรอคะคุณแอนนี่”
“ไม่ดีกว่าค่ะ แอนนี่ไม่สะดวกจริงๆ เอาไว้คราวหลังดีกว่าค่ะถ้ามีโอกาส” แอนนี่ยังคงเอ่ยปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นว่าเธอยืนยันแบบนั้นลินก็ทำเพียงแค่พยักหน้ารับ “โอเคค่ะ ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะที่มาในวันนี้”
“ไม่เป็นไรค่ะ แอนนี่ขอตัวนะคะ” แอนนี่พูดก่อนจะเดินแยกไปอีกทางเพื่อกลับไปที่รถของตัวเอง
“คุณเฌอรีนคงไม่ปฏิเสธด้วยอีกคนนะคะ” ลินหันกลับไปมองหญิงสาวที่ยืนข้างๆ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มกลับมา
“ไม่ปฏิเสธแน่นอนอยู่แล้ว ว่าแต่ว่าทำไมควอตซ์ถึงไม่มาอย่างนั้นเหรอ” เฌอรีนตอบก่อนจะถามถึงเพื่อนสนิทของตน
“คุณควอตซ์โทรมาบอกว่าติดธุระสำคัญน่ะค่ะ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร ลินเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน” ลินตอบ “รถมาพอดีเลย ไปกันดีกว่าค่ะคุณเฌอรีน”
เฌอรีนพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามลินไปขึ้นรถที่มาจอดเทียบรอรับพวกเขาอยู่
ร่างสูงก้าวเท้าไวๆ ไปตามทางเดินที่ทอดยาวของโรงพยาบาลด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน ควอตซ์กดลิฟต์และยืนรอด้วยความร้อนใจหวังอยากจะให้ลิฟต์มาถึงเร็วๆ ขาที่กำลังจะก้าวเข้าไปในลิฟต์ที่เปิดออกก็หยุดชะงักเมื่อเห็นคนเป็นแม่ของตนเดินออกมา
ควอตซ์พยายามที่จะปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ แต่ความกรุ่นโกรธที่อยู่ในใจนั้นมีมากเกินกว่าจะทำหน้าให้ดีได้
“พี่ควอตซ์จะไปไหนลูก แล้วน้องเป็นยังไงบ้าง” คุณหญิงเอื้อมมือไปจับแขนลูกชายเอาไว้พร้อมกับออกแรงบีบเพื่อหวังเรียกสติของลูกชายให้กลับมา
เพียงแค่มองหน้าเธอก็รู้แล้วว่าตอนนี้ควอตซ์อยู่ในอารมณ์แบบไหน อารมณ์ร้อนแบบนี้ขืนถ้าปล่อยไปอาจจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นก็ได้
“น้องหลับอยู่ครับ ผมให้สาลี่คอยดูน้องเอาไว้แล้ว”
“แล้วลูกจะไปไหน”
“ผมจะไปหาคนที่คิดจะทำร้ายลูกเมียผมน่ะสิครับ” น้ำเสียงของควอตซ์แข็งกร้าวขึ้นทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาสีสวยนั้นวาวไปด้วยความกรุ่นโกรธ
พอได้ยินควอตซ์พูดแบบนั้น คุณหญิงมรกตก็ขมวดคิ้วทันทีก่อนจะถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและเคร่งเครียดไม่ต่างกันนัก “ลูกหมายความว่ายังไง ลูกรู้แล้วเหรอว่าใครเป็นคนทำ”
ควอตซ์พยักหน้ารับ “ครับ ผมรู้แล้ว และผมจะไปจัดการด้วยตัวผมเอง”
“แล้วลูกจะจัดการยังไง ไปแจ้งความดีไหมเดี๋ยวแม่ให้เพื่อนที่เป็นผู้การจัดการให้ดีไหมลูก” คุณหญิงมรกตถาม พวกเขาไม่กลัวว่าใครจะได้ยินหรือมีใครแอบฟังเพราะบริเวณที่พวกเขาอยู่แม้ว่าจะเป็นหน้าลิฟต์แต่ก็เป็นหน้าลิฟต์ชั้นห้องพักพิเศษ ซึ่งในตอนนี้ก็มีเพียงแค่ห้องพักที่น้ำเหนืออยู่เพียงแค่ห้องเดียวเท่านั้น
“คุณแม่ครับผมขอจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองก่อนนะครับ เอาไว้ถ้าไม่เรียบร้อยยังไงผมจะขอให้คุณแม่ช่วยเองครับ”
“แล้วลูกจะจัดการยังไง…” คุณหญิงมรกตยังคงถาม “ลูกคงไม่ได้คิดที่จะ...”
ควอตซ์ถอนหายใจออกมาก่อนจะมองใบหน้าแม่ของตน “ผมไม่รู้ครับคุณแม่... ผมไม่รู้ว่าผมจะจัดการยังไง ผม... ลึกๆ ผมแทบอยากจะ...”
“พี่ควอตซ์ ไม่เอาลูก” คุณหญิงปราบ เหมือนกับรู้ว่าในใจของลูกชายเธอนั้นคิดอะไรอยู่ และความคิดนั้นมันน่ากลัวมากแค่ไหน “แม่ว่า ให้แม่จัดการเองดีกว่าไหม แล้วลูกก็อยู่เป็นเพื่อนน้องที่นี่ ส่วนเรื่องคนทำเดี๋ยวแม่จัดการให้เอง ดีไหม”
“ผมขอจัดการด้วยตัวเองเถอะนะครับคุณแม่” ควอตซ์บอก “ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมเขาถึงได้คิดจะฆ... ทำร้ายน้ำเหนือกับลูกของผมแบบนี้ ผมอยากรู้เหตุผล ผมอยากรู้สาเหตุ ผมอยากรู้ว่ามันเป็นเพราะผมหรือเปล่า”
“ถ้าหากทุกอย่างมันเป็นเพราะผม... ผมก็อยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการไถ่โทษกับน้ำเหนือ น้องเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย... ลูกของผมไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วทำไมพวกเขาถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยครับคุณแม่...”
“พี่ควอตซ์ ใจเย็นๆ ลูก ใจเย็นให้มากกว่านี้ก่อน” คุณหญิงมรกตเตือนสติลูกชาย
“ให้ผมจัดการเรื่องนี้เองนะครับคุณแม่”
แม้ในใจอยากจะห้ามลูกชายของตนเพราะตอนนี้คุณหญิงไม่สามารถเดาความคิดของลูกชายตัวเองได้เลยว่าคิดที่จะทำอะไร แต่พอเห็นสีหน้าที่จริงจังของลูกชายก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างยอมแพ้
“ตามใจลูก แม่ให้ลูกจัดการเองก็ได้ แต่แม่ขออย่างเดียว สัญญากับแม่ก่อนว่าไม่ว่าลูกคิดจะทำอะไร… นึกถึงน้ำเหนือแล้วก็ลูกทั้งสองเอาไว้เยอะๆ เข้าใจไหม”
“ไม่ว่าลูกคิดจะทำอะไรก็ต้องนึกถึงทั้งสามคนที่เขารอลูกอยู่ให้มากๆ คิดอะไรต้องนึกถึงผลดีผลเสียที่จะตามมาด้วย เข้าใจที่แม่พูดใช่ไหมพี่ควอตซ์” คุณหญิงมรกตถามย้ำอีกรอบเมื่อยังเห็นว่าลูกชายตัวเองยังนิ่งเงียบ “ถ้าลูกทำอะไรแบบไม่ยั้งคิดคนที่เสียใจที่สุดก็คือน้ำเหนือนะลูก”
“ลูกคงไม่อยากให้อารมณ์เพียงชั่ววูบมาทำลายทุกอย่างของลูกใช่ไหม... ถ้าลูกทำอะไรไม่คิดน้องจะเสียใจแค่ไหน ลูกรู้ใช่ไหม”
ถ้อยคำตักเตือนของคนเป็นแม่ทำให้ชายหนุ่มที่อารมณ์กำลังครุกรุ่นนั้นชะงักได้ในทันที ก่อนจะคิดตามคำพูดของคุณหญิงมรกต จนความรู้สึกภายในใจเริ่มลดลงได้บ้าง... แต่ก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น ควอตซ์ก็ยังพยักหน้ารับและรับปากกลับไป
“ครับคุณแม่” พยักหน้ารับคำของคนเป็นแม่ก่อนจะเอ่ยสัญญาอีกรอบเพื่อให้คุณหญิงมรกตวางใจ “ผมสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรวู่วาม ผมเพียงแค่อยากคุยกับเขาเท่านั้น”
“แม่เชื่อใจลูก ยังไงก็รีบกลับนะ ถ้าน้องตื่นมาแล้วไม่เจอลูกเดี๋ยวจะพลอยเป็นกังวลไปหมด แล้วมันจะส่งผลถึงแฝด”
“ครับคุณแม่” ควอตซ์ตอบรับ ก่อนจะกดลิฟต์และเดินเข้าไปข้างใน
ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลงคุณหญิงมรกตที่ยืนมองลูกชายก็ถอนหายใจออกมา ได้แต่หวังว่าลูกชายของเธอจะไม่ทำอะไรที่เรียกว่า… ไม่ยั้งคิด
ส่วนคนที่เดินเข้ามาในลิฟต์ก็ได้แต่กำมือแน่น อารมณ์ที่ประทุอยู่ภายในไม่ได้ลดลงไปตามคำที่บอกกับคนเป็นแม่เลยสักนิด แต่เพราะสิ่งที่คุณหญิงมรกตพูดนั้นเป็นความจริง ถ้าหากเขาทำอะไรไม่คิดคนที่จะเสียใจที่สุดก็คือน้ำเหนือ แล้วไหนจะครอบครัวของเขาอีก เขาถึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการดับอารมณ์ที่ขุ่นมัวนี้ให้เบาบางลงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลังจากที่ออกจากลิฟต์ชายหนุ่มก็ตรงไปหน้าโรงพยาบาลโบกเรียกรถแท็กซี่กลับมาที่บ้านบริสตันทันที ระหว่างทางเขาก็กดโทรศัพท์โทรออกหาลิน เลขาของตนเพื่อฝากฝังเรื่องงานเอาไว้ เพราะเขาคงไม่ได้เข้าบริษัทสักระยะ
“พี่ลินครับ ประชุมวันนี้ผมคงไม่ได้เข้าไปนะครับ แล้วก็คงไม่ได้เข้าบริษัทสักพักด้วย” ควอตซ์พูดหลังจากที่ปลายสายรับโทรศัพท์ของเขาแล้ว
“พอดีว่าน้ำเหนือเข้าโรงพยาบาลครับ ไม่ได้เป็นอะไรมาก... แต่ก็คงต้องอยู่โรงพยาบาลสักระยะ ช่วงแรกๆ ผมคงต้องอยู่ดูแลน้ำเหนือที่นี่ก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกทีว่ายังไง ถ้ามีงานด่วนหรืออะไรก็เอามาให้ผมที่โรงพยาบาลนะครับ ยังไงก็ฝากเรื่องงานด้วยนะพี่ลิน”
“ครับ... ขอบคุณมากครับ”
ควอตซ์วางโทรศัพท์เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงบ้านของตนแล้ว ชายหนุ่มส่งเงินให้คนขับรถแท็กซี่ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน ป้ายุพิน รวมไปถึงคนงานคนอื่นๆ ต่างกรูกันเข้ามาถามอาการของคุณหนูใหญ่กันยกใหญ่ด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นอะไรมากแล้วละครับ แต่คงต้องนอนอยู่โรงพยาบาลสักระยะ”
“โถ่... คุณหนูใหญ่ของป้า... เคราะห์กรรมแท้ๆ เลย” ป้ายุพินถอนหายใจออกมา
“อย่างน้อยก็ไม่เป็นอันตรายไปมากกว่านี้ครับป้ายุพิน ยังดีที่ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก”
ป้ายุพินพยักหน้าตามคำพูดของควอตซ์ “จริงอย่างที่คุณควอตซ์ว่าค่ะ หลังจากออกโรงพยาบาลคงต้องพาทั้งคุณหนูใหญ่ คุณหนูทั้งสองไปทำบุญครั้งใหญ่ ว่าแต่ว่า... คุณควอตซ์กลับมาเอาอะไรหรือเปล่าคะ ให้ป้าเตรียมอะไรให้ไหม”
ควอตซ์ส่ายหน้า “ไม่ครับ ผมแค่มาเอารถ มีที่ๆ หนึ่งจะต้องไป ยังไงช่วงนี้ผมคงไม่ได้กลับมาที่บ้านเพราะต้องอยู่ดูน้ำเหนือที่โรงพยาบาล ฝากป้ายุพินดูบ้านแล้วก็คุณพ่อคุณแม่ด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ป้าดูแลให้อยู่แล้ว ส่วนแม่สาลี่ก็ให้ไปอยู่โรงพยาบาล เผื่อช่วยเหลืออะไรคุณควอตซ์กับคุณหนูใหญ่ได้บ้าง”
“ครับ ยังไงผมขอตัวก่อนครับ” ควอตซ์พูด ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องนอนของตนบนชั้นสอง
ชายหนุ่มหยิบเอากุญแจรถมาใส่กระเป๋ากางเกงเอาไว้ ก่อนจะตรงไปที่ชั้นวางโทรทัศน์ที่ข้างๆ โทรทัศน์วางบรรดาใส่ขวดยาของน้ำเหนือเอาไว้ เขาเปิดถุงแล้วรื้อดูขวดยาข้างใน และนั่นก็ทำให้เขานึกไปถึงคนรักที่นอนอยู่ที่โรงพยาบาล อารมณ์ที่สงบนิ่งลงก่อนหน้านี้เริ่มปะทุอีกครั้ง เมื่อนึกว่าเพราะยาบ้าๆ นี้ที่ทำให้เขาเกือบจะเสียลูกทั้งสองคนไป!
ขายาวแทบจะเปลี่ยนเป็นวิ่งลงจากชั้นสอง ควอตซ์ตรงไปที่โรงจอดรถ ขึ้นรถของตัวเองและขับมันออกไป
รถคันสวยสีขาวก็แล่นออกจากประตูรั้วบ้านด้วยความเร็วที่ค่อนข้างมาก ตลอดเวลาที่ขับรถอยู่นั้นเขาพยายามนึกถึงใบหน้าของน้ำเหนือและนึกถึงลูกแฝดในท้องของคนรัก รวมไปถึงคำพูดเตือนสติของคุณหญิงมรกตซ้ำไปซ้ำมา
ถ้าหากเขาทำอะไรวู่วามลงไป คนที่เสียใจที่สุดก็คงไม่พ้นน้ำเหนือเขาคิดวนอยู่แบบนั้น ซ้ำไปซ้ำมา จนในที่สุดอารมณ์ที่ขุ่นมัวก็เบาบางลง
ไม่นานรถแบรนด์ยุโรปสีขาวของควอตซ์ก็จอดสนิทอยู่ที่ลานจอดรถหน้าอาคารสูงแห่งหนึ่ง ร่างสูงก้าวลงจากรถก่อนจะเดินเข้าไปในอาคารนั้น ตรงไปที่ลิฟต์ก่อนจะเดินสวนเข้าไปข้างในเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกและมีคนจำนวนหนึ่งเดินออกมา ควอตซ์กดเลขชั้นที่เขาต้องการไป
ตลอดเวลาที่อยู่ในลิฟต์ สายตาของเขาจดจ้องอยู่ที่ตัวเลขที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวสูงขึ้น จนกระทั่งถึงชั้นที่เขากดเลือก ควอตซ์เดินออกจากลิฟต์ไปตามทางเดินภายในจนกระทั่งหยุดอยู่ที่ประตูบานหนึ่ง
ดวงตาเรียวหลับลงพร้อมกับที่เขาพรูลมหายใจออกมา พยายามเตือนสติตัวเองเอาไว้ตลอดเวลาว่าอย่าทำอะไรวู่วาม...
มือของควอตซ์ยกขึ้นก่อนจะเลื่อนไปกดกริ่งที่หน้าประตู รอบแรกยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากด้านในเขาจึงกดกริ่งอีกรอบ รอไม่นานก็ได้ยินเสียงขานรับมาจากคนในห้อง และเสียงกุกกักบริเวณประตู ก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดออกจากคนด้านใน...
คนที่ทำให้รอยยิ้มร้ายๆ ของควอตซ์ปรากฏขึ้นบนใบหน้านั้น...
************************************************
มาแล้วครับผม 50% นะ เพราะว่าฟางยังไม่มีเวลาแต่งเลย เอาไปแค่นี้ก่อนเนอะ เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจในการสอบมาค่ะ ที่มาช้า ไม่มา หายไปนี่เพราะว่ามีสอบค่ะ สอบรับราชการเมื่อวันที่ 18 ธันวา สอบใบประกอบวิชาชีพ 24 ธันวา เลยไม่มีเวลาแต่งนิยายเลยค่ะ นี่สอบเสร็จก็มานั่งปั่น แต่คอมฯ ก็ช่างรักกันจริง ค้างแล้วค้างอีก จนปั่นออกมาได้แค่นี้แหละค่ะ เลยมาอัพให้ก่อนเพราะหายไปนานแล้ว
จะเฉลยแล้วนะคะว่าใครเป็นคนทำ จะใช่คนที่ทุกคนคิดกันเอาไว้หรือเปล่าที่ต้องรอลุ้นกันต่อไปค่ะ ยังไงก็... ฝากติดตามกันต่อจนจบด้วยนะคะ ^^
ปล. มีคำผิด บอกได้ค่า
อาจจะมาช้าหน่อยแต่ก็จะไม่ทิ้งไปไหนแน่นอนค่ะ หวังว่าจะเข้าใจกันนะคะ เป็นกำลังใจให้ฟางด้วยค่ะ ^^
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ อย่าลืม กดเมนต์ กดโหวด คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณทุกคะแนนบวกเป็ด คะแนนชื่นชมในตัวฟางนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ