"ฮาร์ทที่แปลว่าหัวใจ กับเดียร์ที่แปลว่าที่รัก"
ติดแฮชแท็ก #พี่ควอตซ์น้องเหนือ ในทวิตเตอร์✽ ✽ ✽ ต่อจากคราวที่แล้วค่ะ ✽ ✽ ✽
เสียงเพลงวันเกิดดังไปทั่วทั้งชั้นพร้อมกับเสียงร้องของเด็กสองคนที่ร้องแข่งกัน ควอตซ์ได้แต่ยืนตัวแข็งยามมองพยาบาลสองคนอุ้มเด็กทารกที่ตัวแดงสองคนไปล้างเนื้อล้างตัว
“คุณพ่อได้ลูกแฝดชายนะคะ” พยาบาลทั้งสองคนอุ้มเด็กทารกเดินมาหาควอตซ์ พร้อมกับเปิดผ้าออกเพื่อให้ควอตซ์ดูเพศของแฝด
เด็กทั้งสองดูตัวเล็กนิดเดียวในอ้อมแขนของพยาบาล “ผม... จับได้ใช่ไหมครับ”
“ได้สิคะ คุณพ่อจะลองอุ้มดูสักคนหนึ่งไหมคะ”
ควอตซ์ส่ายหน้ากับคำถามของพยาบาล “ย ยังดีกว่าครับ ผมกลัวทำเขาหล่น...” เขาว่าก่อนจะยื่นมือไปเกลี่ยแก้มแฝดทั้งสองคนเบาๆ
เขาหัวเราะออกมา บรรยายความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูก มันทั้งดีใจ ตื่นเต้นและตื้นตันใจไปหมด เป็นความรู้สึกที่ควอตซ์ไม่เคยเจอมาก่อนเลยชีวิต ความรู้สึกของคนเป็นพ่อคน...
“ไงคุณพ่อป้ายแดง” หมอวิรัชเดินมาตบไหล่หลานชายตัวเอง “น้าย้ายน้ำเหนือไปที่ห้องพักแล้วล่ะ เดี๋ยวพยาบาลจะพาแฝดไปที่ห้องด้วย”
“ขอบคุณนะครับน้าหมอ” ควอตซ์หันไปยิ้มกว้างให้น้าหมอ
"ไม่เป็นไร ไปเถอะ เดี๋ยวน้าตามไปอีกที"
ควอตซ์พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินออกจากห้องผ่าตัดไป ตรงไปยังห้องพักของน้ำเหนือ คนบนเตียงนอนหลับสนิทคงเพราะฤทธิ์ยาที่ให้ไป ร่างสูงก้าวไปหยุดอยู่ข้างเตียงยกมือลูบผมคนหลับเบาๆ
“ขอบคุณที่ทำให้พี่ได้รู้จักกับความสุขที่แท้จริง” ช่วงเวลาข้ามคืนที่เขาได้รู้จักและได้เจอกับน้ำเหนือ มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างสิ้นเชิง
ถ้าหากไม่เจอน้ำเหนือ... ไม่เจอคนคนนี้ ชีวิตของเขาก็คงไม่ได้เจอกับความสุขแบบนี้ ถ้าหากไม่เจอน้ำเหนือ ชีวิตของเขาในตอนนี้ก็ยังคงเที่ยวเสเพลไปวันๆ และไม่คิดจริงจังกับใครสักคน
สิ่งที่ต้องขอบคุณมากกว่าโชคชะตา หรือฟ้ากำหนด ก็คงเป็นคนคนนี้ ผู้ชายคนนี้ที่เดินเข้ามาในชีวิตของเขา ทำให้เขาได้เรียนรู้ รู้จักที่จะรัก... รู้จักที่จะให้...
รู้จักความสุขที่แท้จริง... “น้องมาแล้วค่ะ” ประตูห้องพักเปิดออก พร้อมกับพยาบาลที่เข็นเตียงนอนเด็กแฝดเข้ามาในห้อง เด็กน้อยทั้งสองคนหลับปุ๋ยไม่ต่างจากคนเป็นแม่นัก “ไม่ทราบว่าตั้งชื่อน้องเอาไว้หรือยังคะ”
“ครับ... ฮาร์ท กับ เดียร์ ครับ” ควอตซ์ตอบ ขยับให้พยาบาลเข็นเตียงเด็กมาไว้ตู่กับเตียงของน้ำเหนือ
“คนพี่น้องฮาร์ท คนน้องน้องเดียร์นะคะ” พยายาลทวนชื่อก่อนจะใช้ปากกาเขียนชื่อของแฝดเอาไว้ที่ป้ายชื่อตรงข้อมือเด็กน้อย
"ขอบคุณครับ” ควอตซ์ตอบรับ เขามองทั้งสามคนที่นอนหลับอยู่ก่อนจะยิ้มออกมา หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปทั้งสามคนเอาไว้หลายรูปเลยทีเดียว
“จริงสิ... ต้องโทรบอกพวกคุณแม่ก่อน” เขาพึมพำเบาๆ อย่างนึกขึ้นได้ ทุกอย่างมันกะทันหันจนเขาไม่ทันนึกถึงคนอื่น ตอนนั้นเป็นห่วงแค่น้ำเหนือ
ควอตซ์โทรหาสินธรก่อนเพื่อบอกข่าวว่าน้ำเหนือคลอดลูกแล้ว สินธรที่มีอาการง่วงนอนตกค้างถึงกับตื่นเต็มตาร้องออกมาอย่างดีใจ ก่อนวางสายก็รับปากเป็นมั่นเหมาะว่าจะรีบมาโรงพยาบาลแต่เช้า เมื่อโทรหาสินธรเสร็จควอตซ์ก็กดโทรศัพท์โทรหาคนเป็นแม่ทันที
หลังจากที่คุยกับคุณหญิงมรกตอยู่สักพักเขาก็วางสายเป็นเวลาเดียวกับที่หมอวิรัชเดินเข้ามาในห้อง หมอวิรัชเดินไปยืนอยู่ข้างเตียงเด็กแฝดก่อนจะมองหน้าเด็กทั้งสองก่อนจะยิ้มออกมา
"พรุ่งนี้น้ำเหนือตื่นมาคงจะเจ็บแผลน่าดู บางคนวันเดียวก็ดีขึ้น บางคนก็สองสามวันกว่าจะดีขึ้น แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องให้ได้ลุกเดินบ้าง เพราะมันจะทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว แผลภายนอกแค่อาทิตย์เดียวก็หาย แต่ข้างในคงต้องรอเกือบหกสัปดาห์” หมอวิรัชหันมาพูดกับหลานชายของตน
"ส่วนแฝด... วันสองวันนี้น้าจะเอาน้ำนมแม่ของคุณแม่คนอื่นมาให้ก่อน น้าเองก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่าน้ำเหนือจะมีน้ำนมให้ลูกหรือเปล่า แต่ถ้ามีอาการเจ็บคัดหน้าอกก็คงต้องลองให้น้ำเหนือให้นมลูกดู”
“หมายความว่า... น้ำเหนืออาจจะให้นมลูได้เหรอครับ” ควอตซ์ถามกลับ
หมอวิรัชเองก็พยักหน้ารับ “อาจจะนะ แต่ก็มีโอกาสอยู่นั่นแหละ ถ้าเกิดน้ำเหนือให้นมลูกได้... ก็ควรให้แฝดดื่มนมแม่ เพราะนมแม่มีสารอาหารที่ครบถ้วน อีกทั้งยังช่วยในการป้องกันโรคต่างๆ ได้ด้วย”
“ผมชักอยากเห็นตอนนั้นแล้วสิครับ...”
หมอวิรัชหัวเราะกับคำพูดของควอตซ์ ก่อนจะเอ่ยแซว “ถ้าพูดอย่างนี้ตอนน้ำเหนือตื่นอยู่ละได้โดนงอนยกใหญ่”
ควอตซ์เลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะนึกถึงคำพูดของตัวเองแล้วก็หลุดหัวเราะออกมา คงไม่ผิดจากที่หมอวิรัชพูดเอาไว้หรอก ดีไม่ดี อาจจะโดนตีอีกหลายทีก็ได้ข้อหาพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนี้
“แล้วนี่โทรบอกพี่หญิง แล้วก็คุณสินธรหรือยัง ตอนออกจากบ้านมาน้าก็รีบ จนไม่ได้บอกอะไรใครเหมือนกัน”
“บอกแล้วครับ พอรู้เรื่องก็จะมาโรงพยาบาลกันทันทีแต่ผมให้พวกเขามากันพรุ่งนี้ทีเดียวเลย เพราะมาตอนนี้น้ำเหนือก็ยังหลับอยู่” ควอตซ์ตอบคำถามของน้าชาย
หมอวิรัชพยักหน้ารับ “ดีแล้วล่ะ เราก็พักผ่อนก่อนเถอะ ดูท่าแล้วคงจะหลับยาวกันทั้งแม่ทั้งลูก แต่เดี๋ยวน้าจะให้พยาบาลพาแฝดไปที่ห้องก่อน เผื่อตื่นมากลางดึกแล้วส่งเสียงอแงจะได้ไม่รบกวนน้ำเหนือ แล้วพรุ่งนี้น้าจะให้เขาพาแฝดมาแต่เช้า”
"แล้วน้ำเหนือจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหนเหรอครับ" ควอตซ์ถามพร้อมกับหันไปมองคนรักที่นอนหลับอยู่ เพราะเดาได้เลยว่าถ้าหากต้องอยู่โรงพยาบาลนานคนที่หายดื้อไปสองเดือนต้องดื้อร้องจะกลับบ้านแน่นอน
“ก็สักสามสี่วันก็ออกได้แล้วละนะ”
“ขอบคุณน้าหมอมากนะครับ”
หมอวิรัชตบบ่าหลานชายเบาๆ “ไม่เป็นไร น้าไปพักก่อนนะ เราก็พักซะเถอะพรุ่งนี้คงต้องเหนื่อยรับมือกับคุณแม่แล้วก็แฝดนะ”
ควอตซ์พยักหน้ารับคำของน้าหมอ ซึ่งอีกฝ่ายก็ตบบ่ากลับเบาๆ แล้วเดินออกจากห้องไป ไม่นานพยาบาลก็เดินเข้ามาเข็นเตียงของแฝดออกไป ควอตซ์มองจนกระทั่งพยาบาลเดินออกจากห้องไปแล้วจึงหันกลับมามองน้ำเหนือ เดินไปจัดท่าทางของคนหลับให้นอนหลับสบาย ก่อนที่เขาจะเดินไปล้มตัวลงนอนที่เบาะริมห้องบ้าง
แม้คืนนี้จะยาวนานในความรู้สึกของควอตซ์ แต่มันก็เป็นคืนที่เต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ ที่ในฐานะคนเป็นพ่อจะไม่มีวันลืม
เช้าวันรุ่งขึ้นควอตซ์ตื่นตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง ไม่รู้ว่าเพราะตื่นเต้นกับการได้เป็นพ่อคนครั้งแรกหรือเปล่าที่ทำให้เขารู้สึกนอนไม่หลับ แต่ก็ไม่ได้มีอาการของคนง่วงนอนอยู่เลยสักนิด ในเมื่อรู้สึกตัวตื่นแล้วเขาก็ลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะเดินมานั่งข้างเตียงน้ำเหนือเหมือนเช่นเคย คุณแม่ยังคงนอนหลับสนิท
เสียงประตูห้องพักเปิดออกเรียกให้เขาหันไปมอง ก่อนจะเห็นคุณหญิงมรกต คุณโทมัส ลาพิส คุณสินธร รวมไปถึงลิน โอ๊ตก็เดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับกระเช่าผลไม้ ของบำรุงเต็มไปหมด แต่ละคนมีสีหน้ายิ้มแย้มอย่างบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ากำลังดีใจและมีความสุขมากแค่ไหน
ควอตซ์ลุกไปรับกระเช่าที่แต่ละคนหอบหิ้วมาวางไว้ที่โต๊ะริมห้อง “มากันแต่เช้าเลยนะครับทุกคน”
“แม่ตื่นเต้นลูก เมื่อคืนหลังจากลูกโทรหาแม่ก็แทบจะนอนไม่หลับ ตอนเช้าเลยเรียกพ่อแล้วก็พิสออกมานี่แหละ มาถึงก็เจอคุณสินธรแล้วก็ลินกับตาโอ๊ตพอดี เลยขึ้นมาพร้อมกันเลย” คุณหญิงมรกตว่า “ว่าแต่หลานแม่ละ”
“พยาบาลยังไม่พามาครับ แต่เดี๋ยวอีกสักพักก็คงพามา ตอนนี้น้ำเหนือก็หลับอยู่” ควอตซ์ตอบ
“แล้วหลานผู้หญิงหรือผู้ชายละคะ” ลินหันมาถาม
“ผู้ชายทั้งคู่ครับพี่ลิน” ตอบพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง
ทั้งลินและโอ๊ตก็แสดงความยินดียกใหญ่ ส่วนลาพิสก็เดินเข้ามากอดแขนกอดเอวพี่ชายไม่ปล่อย พร้อมกับยิ้มกว้างให้พี่ชายเมื่อควอตซ์ก้มลงมอง “พิสดีใจด้วยนะคะพี่ควอตซ์”
“อืม!” ควอตซ์พยักหน้ารับ หอมแก้มน้องสาวแรงๆ เป็นการขอบคุณ
แล้วดูเหมือนเสียงของทุกคนจะทำให้คนที่นอนหลับอยู่รู้สึกตัวตื่น น้ำเหนือส่งเสียงออกมาเมื่อเผลอขยับตัว เพราะเขารู้สึกเจ็บที่ท้องเป็นอย่างมาก ควอตซ์ที่ได้ยินเสียงก็รีบหันกลับไปมองแล้วเดินไปที่เตียงทันที
“น้ำเหนือ”
“พี่ควอตซ์... ผมเจ็บ...” คนเจ็บแผลร้องพร้อมกับเบะปาก ให้คนมองยกยิ้มเอ็นดูกับคำพูดคำจาที่เหมือนจะฟ้องแต่ก็อ้อนในที
“น้ำเหนือ” สินธรเดินเข้ามาหาลูกชายที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะยกมือลูบผมนั้นเบาๆ “แข็งแรง แล้วก็ปลอดภัยดีนะ”
“พ่อครับ...” น้ำเหนือเรียกก่อนจะหันไปมองรอบๆ ห้อง คุณหญิงมรกตกับคุณโทมัสเดินเข้ามาลูบผมลูกสะใภ้คนละที ก่อนที่ลาพิส ลินและโอ๊ตจะเดินเข้ามาพูดคุยด้วย
“มากันแต่เช้าเลยนะ” เสียงทักจากด้านหลังทำให้ทุกคนที่กำลังคุยกันอยู่หันไปมอง ก่อนจะเห็นหมอวิรัชเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับเข็นเตียงเด็กเข้ามาด้วย คราวนี้ทุกคนก็แทบจะละความสนใจไปมองที่เตียงเล็กๆ นั้นทันที
“ข... ขอผมอุ้มได้ไหมครับ” น้ำเหนือร้องถามก่อนจะดันตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะนอนลงไปอีกรอบเพราะรู้สึกเจ็บแผลที่ท้องของตัวเองจนส่งเสียงร้องออกมา
“อย่าเพิ่ง...” ควอตซ์ตั้งท่าจะเอ่ยห้ามคนรักเพราะไม่อยากให้น้ำเหนือฝืนตัวเองจนเกินไป แต่ก็ถูกมือของน้าหมอเอื้อมมาจับเอาไว้ก่อน
หมอวิรัชส่ายหน้าให้หลานชาย ก่อนจะหันไปหาน้ำเหนือ “ได้สิ เดี๋ยวน้าให้ลองอุ้มทั้งสองคนเลยนะ”
“แต่น้าหมอครับ น้ำเหนือยังเจ็บแผลอยู่” ควอตซ์พูดออกมาเสียงเครียด
“เชื่อน้าสิ ไปประคองน้ำเหนือให้ลุกขึ้นนั่งไป” หมอวิรัชพูด ควอตซ์จึงหันกลับมามองแม่ของตนเหมือนจะขอให้อีกฝ่ายช่วยพูด แต่คุณหญิงมรกตก็พยักหน้าเป็นเชิงบอกให้ทำตามที่หมอวิรัชสั่ง
แม้ควอตซ์จะขัดใจแต่ก็ยอมเดินไปประคองน้ำเหนือให้นั่งโดยมีสินธรช่วยปรับระดับเตียงแล้วก็เอาหมอนมารองหลังเอาไว้ให้ หมอวิรัชอุ้มแฝดคนหนึ่งขึ้นมาก่อนจะส่งให้น้ำเหนือพร้อมกับสอนวิธีอุ้มเด็กไปด้วย
“ไม่ต้องเกร็งน้ำเหนือ ประคองหัวลูกเอาไว้ก่อนอย่างนั้นแหละ” หมอวิรัชพูดกับน้ำเหนือก่อนจะให้น้ำเหนือตั้งท่าเตรียมรอรับแฝด โดยมีคุณหญิงมรกตเดินเข้ามาช่วยจัดท่าทางให้
ร่างน้อยของทารกอยู่ในอ้อมแขนของคนเป็นแม่เป็นที่เรียบร้อย น้ำเหนือเองก็คงตื่นเต้นดีใจจนลืมไปแล้วว่าตัวเองเจ็บแผลผ่าตัด ใบหน้าน่ารักก้มมองลูกน้อยในอ้อมแขนที่นอนตาแป๋วมองเขาอยู่
“คนเป็นแม่น่ะ ต่อให้เจ็บแค่ไหนแต่ถ้าเพื่อลูกแล้วละก็... ความเจ็บนั้นไม่มีผลอะไรหรอกนะ” หมอวิรัชก้าวถอยมายืนข้างๆ หลานชายพร้อมกับพูด “เอา! ลองอุ้มลูกดูบ้างสิ ต้องฝึกเอาไว้จะได้ช่วยน้ำเหนือเลี้ยง”
แล้วหมอวิรัชก็สอนควอตซ์ให้อุ้มลูก เด็กน้อยตาแป๋วอีกคนยิ้มร่าส่งให้คนเป็นพ่อในอ้อมแขนแข็งแรง ลาพิสเองก็ขยับมาดูใกล้ๆ นึกอยากจะลองจับดูบ้างแต่ก็กลัวว่าจะทำให้หลานเจ็บเลยได้แต่มองอยู่แบบนั้น
“ไม่อยากอุ้มหลานบ้างเหรอ” คุณโทมัสถาม ยกมือขึ้นจับผมลูกสาวที่มองแฝดน้อยในอ้อมแขนของพี่ชาย
ลาพิสส่ายหน้าระรัวทันที “ยังก่อนดีกว่าค่ะคุณพ่อ พิสกลัวทำหลานเจ็บ เอาไว้โตกว่านี้ก่อนแข็งแรงกว่านี้ก่อนค่อยเล่นด้วย”
คุณโทมัสและคนอื่นๆ หัวเราะกับคำพูดของหญิงสาว ก่อนที่หมอวิรัชจะหันไปแนะนำวิธีดูแลทารกกับคุณพ่อคุณแม่ป้ายแดง
“ว่าแต่พวกลูกตั้งชื่อแฝดกันหรือยัง” สินธรถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้
ทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนที่น้ำเหนือจะเป็นฝ่ายตอบพ่อของตน “มีแต่ชื่อเล่นครับ ชื่อจริงผมกับพี่ควอตซ์ยังไม่ได้ตั้ง คนพี่ชื่อฮาร์ท ส่วนคนน้องชื่อเดียร์ครับ”
“แต่ชื่อไม่ค่อยคล้องกันเท่าไหร่นะลูก” สินธรพูดต่อ
“ชื่อไม่คล้อง แต่ความหมายคล้องกันครับ ผมกับน้ำเหนือผ่านเรื่องดีเรื่องร้ายมาหลายเรื่อง แล้วไหนจะเหตุการณ์ที่ทำให้ผมกับน้ำเหนือเกือบจะเสียแฝดไปอีก ผมก็เลยคิดว่าทั้งสองคนนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เป็นหัวใจที่เราสองคนต้องประคองพวกเขาไปครับ” ควอตซ์อธิบายเพิ่มเติม
“ฮาร์ทกับเดียร์ เป็นหัวใจของที่รักที่ผมกับน้ำเหนือต้องรักษาเอาไว้ให้ดีที่สุดครับ”พอได้ยินแบบนั้นทุกคนก็ยิ้มออกมาอย่างชอบใจในความหมายของชื่อ ควอตซ์กับน้ำเหนือจะพูดว่าอายุยังน้อยก็ได้ หรือจะบอกว่าโตแล้วก็ได้ แต่สิ่งที่พวกเขาเหมือนกันคือ... พวกเขาเป็นคนที่ด้อยประสบการณ์ในความรัก
คนหนึ่งก็ไม่เคยสนใจความรักจริงๆ จังๆ เอาแต่เที่ยวเล่นสนุกสนาน ส่วนอีกคนหนึ่งก็ไม่เคยมองหาความรักเพราะชีวิตที่ต้องต่อสู้และดิ้นร้นจนรู้สึกว่าความรักไม่ใช่เรื่องจำเป็น พอบทที่พวกเขาจะได้รู้จักความรักก็เหมือนมีบททดสอบมากมาย ทั้งดีทั้งร้าย แต่พวกเขา... คนที่ด้อยประสบการณ์ความรักกับสามารถประคับประคองหัวใจของตัวเองเอาไว้ได้ จนได้รู้จักกับคำว่าความรักที่แท้จริง
ฮาร์ทกับเดียร์ถูกส่งต่อจากควอตซ์และน้ำเหนือไปให้สินธรและคุณหญิงมรกตอุ้มแทน เพราะน้ำเหนือดูจะเหนื่อยและเจ็บแผลจนอุ้มลูกต่อไม่ไหว ควอตซ์เลยต้องประคองคนรักให้นอนพักเหมือนเดิม
“เราอาจจะเจ็บแผลอยู่แบบนี้สักสองสามวันนะ แต่ไม่ว่ายังไงน้าก็อยากให้น้ำเหนือลุกเดินบ้าง เพราะเรานอนแบบนี้มาสองเดือนกว่า กล้ามเนื้อคงอ่อนแรงต้องขยับตัวบ้าง อีกอย่างมันจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น” หมอวิรัชพูดกับน้ำเหนือ โดยมีควอตซ์ยืนฟังอยู่ใกล้ๆ “แผลภายนอกไม่เกินสัปดาห์ก็จะหาย ส่วนแผลภายในมันใช้เวลาค่อนข้างนาน ลุกเดิน หยิบจับอะไรได้ แต่พยายามอย่าใช้แรงเยอะจนเกิดไป ส่วนจะออกจากโรงพยาบาล อีกสองวันก็ออกได้แล้วละนะ กลับไปพักต่อที่บ้านได้”
“พวกรายละเอียดอื่นๆ น้าจะคอยบอกเรื่อยๆ แล้วกันนะ อีกอย่างก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่หรอก เพราะมีทั้งพี่หญิงทั้งป้ายุพินคอยช่วยเลี้ยงช่วยดู คงให้คำแนะนำได้เป็นอย่างดี”
“ขอบคุณน้าหมอมากนะครับ” น้ำเหนือยกมือไหว้ขอบคุณ
“ไม่เป็นอะไรหรอก หลานแรกของบริสตันนี่นะ” หมอวิรัชพูดยิ้มๆ ให้คนฟังหัวเราะออกมา
ในช่วงสายๆ ลินกับโอ๊ตก็ขอตัวก่อนเพราะยังต้องไปทำงาน ทั้งสองเดินมาลาน้ำเหนือที่ข้างเตียง “ยังไงพี่ไปก่อนนะคะน้ำเหนือ แล้วจะแวะไปเยี่ยมที่บ้านบ่อยๆ นะ”
“ขอบคุณพี่ลินนะครับที่อุตส่าห์มาเยี่ยมตั้งแต่เช้าเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่นี้เอง”
“ยังไงพี่ไปก่อนนะ แล้วจะโทรหาบ่อยๆ ไม่ก็ไปหาบ่อยๆ นะ ดูแลสุขภาพดีๆ นะรู้ไหม ตอนนี้ลูกก็คลอดแล้วอย่ากลับไปดื้อไปซนอีกล่ะ เดี๋ยวลูกจะทำตาม” โอ๊ตพูดหยอกล้อกับรุ่นน้อง
ให้น้ำเหนือหน้างอแล้วค้อนขวับเข้าให้แบบที่ลินแล้วก็ควอตซ์พากันหัวเราะชอบใจ “ผมไม่ได้ดื้อเสียหน่อย พี่โอ๊ตก็ชอบพูดไปเรื่อย”
“ดื้อไม่ดื้อคงต้องถามคุณควอตซ์เขา”
ควอตซ์หัวเราะก่อนจะพยักหน้ารับ “ดื้อกว่านี้ก็ไม่มีใครแล้วละครับ” พอน้ำเหนือได้ยินก็ทำหน้าบึ้งใส่ทันทีจนควอตซ์ต้องเอื้อมมือไปบีบจมูกอย่างมันเขี้ยวปนเอ็นดู
โอ๊ตหัวเราะ ยกมือโบกลารุ่นน้องของตน “พี่กับพี่ลินไปแล้ว เอาไว้เจอกันใหม่นะ แล้วเจอกันครับคุณควอตซ์” หันไปเอ่ยลาควอตซ์ ร่วมไปถึงผู้ใหญ่ทุกคนในห้อง ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินออกจากห้องไป
ควอตซ์หันหลับมามองคนรักที่กำลังมองมาที่เขาอยู่ ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเหมือนจะถามว่ามีอะไรหรือเปล่า น้ำเหนือส่ายหน้าไปมา แต่ก็ยังไม่เลิกมองหน้าจนควอตซ์ยักคิ้วใส่อย่างต้องการจะกวนเล่นให้อีกคนทำหน้างอใส่ เขาจึงหลุดขำออกมา
“มองหน้าพี่ มีอะไรหรือไง”
“ก็... เปล่าหรอกครับ” น้ำเหนือตอบเสียงอ้อมแอ้ม แบบที่ไม่บอกก็รู้ว่าโกหกแน่นอน
“เปล่าได้ไง มีอะไร ไหนบอกมาสิ”
“ก็... จริงๆ แล้วก็มี คือ... ผมอยากจะขอบคุณพี่ควอตซ์ครับ” น้ำเหนือบตอบ
“ขอบคุณเรื่องอะไร” ถามอย่างไม่เข้าใจว่าสิ่งที่น้ำเหนือพูดนั้นหมายถึงอะไร
“ตอนอยู่ในห้องผ่าผมก็ไม่ค่อยรู้สึกตัวอะไรเท่าไหร่หรอกครับ มันชาๆ ไปหมด แต่ในใจผมก็ยังรู้สึกกลัวไปหมด แต่พอผมมองไปก็เห็นพี่ควอตซ์มองที่ผมตลอด แม้จะไม่ชัดแต่ผมก็รู้สึกได้ว่าพี่กำลังมองผมอยู่ จากตอนแรกที่ผมถูกพาตัวเข้าไปในห้อง ตอนที่พยาบาล... มาฉีดยาตอนนั้นผมกลัวมาก เจ็บมากจนอยากจะยอมแพ้ แต่พอเห็นพี่ผมก็เลยรู้สึกดีขึ้น แล้วก็คิดว่าพี่อยู่กับผมเสมอ ผมก็เลยไม่รู้สึกกลัวแล้ว”
ควอตซ์ได้แต่ยิ้มตอนที่ฟังคำพูดคำจาที่ฟังน่ารักของคนรัก ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยที่ผิวแก้มระเรื่อของน้ำเหนือเบาๆ ก่อนจะเลื่อนใบหน้าไปใกล้แล้วแนบริมฝีปากลงกับปากอิ่มนั้นเบาๆ แบบที่คนที่นอนอยู่ก็หลับตาลงพร้อมรอรับสัมผัสอย่างเต็มใจ “ไม่เป็นอะไร”
“อะแฮ่ม!!” เสียงกระแอมไอที่ดังขึ้นอย่างจงใจขัดจังหวะทำให้ใบหน้าของน้ำเหนือขึ้นสีทันทีอย่างนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้อยู่กับควอตซ์สองคนในห้อง
“ในห้องนี้ยังมีเด็กตาดำๆ อยู่ด้วยกันสามคนนะ สำรวมหน่อย” คุณโทมัสว่ายิ้มๆ
“ไม่ต้องห่วงค่ะพี่ควอตซ์ พิสปิดตาไม่มองแล้ว แฝดก็ด้วย” ลาพิสพูดยกมือขึ้นเป็นตาเป็นเชิงบอก
“ควอตซ์” หมอวิรัชเรียกหลานชายของตน เมื่ออีกฝ่ายขานรับก็พูดต่อ แบบที่เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี ยกเว้นก็แต่น้ำเหนือที่นอนหน้าแดงก่ำพูดไม่ออก แล้วก็หลานชายตัวเองที่ถอนหายใจออกมา “ถึงแม้อีกหนึ่งอาทิตย์แผลน้ำเหนือจะหายดี แต่ข้างในยังไม่หายนะ น้ำเหนือยังไม่พร้อมมีลูกคนที่สามหรอก อดใจไว้ก่อนนะหลานชาย”
“น้าหมอครับ...”
************************************************
เฉลยแล้วน้าว่าหลานผู้หญิงหรือผู้ชาย หลานชายจ้าาาา แต่สำหรับคนที่ติดตามเพจฟางก็รู้กันหมดแล้วละเนอะว่าเป็นแฝดชาย เพราะเคยเฉลยไปแล้วในเพจค่ะ ^^ท้ายตอนนี่ไม่รู้จะสงสารใครดี ระหว่างพี่กับน้อง คนพี่ก็น่าสงสาร ต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ ฮ่าาาา พระเอกเรื่องนี้ของฟางมีความอดทนสูงจริงๆ ต้องมอบรางวัลให้แล้วล่ะค่ะ เนอะ ได้แต่บอกพี่ว่า... รอน้องหายดีก่อนน้า
อย่างที่เคยบอกในเปิดใจ นิยายเรื่องนี้แต่งยากมาก มันยากทุกฉากทุกตอนจริงๆ ค่ะ ฉากนี้ตอนนี้ก็ยาก ไม่รู้จะสื่อยังไงให้รู้สึกถึงความเป็นพ่อคนแม่คน ไม่รู้ว่าความรู้สึกแรกของเหล่าคุณพ่อคุณแม่เป็นยังไง ก็อาศัยอ่านๆ เอาจากในเว็บที่คุณแม่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังค่ะ
ปล. มีคำผิด บอกได้ค่า
อาจจะมาช้าหน่อยแต่ก็จะไม่ทิ้งไปไหนแน่นอนค่ะ หวังว่าจะเข้าใจกันนะคะ เป็นกำลังใจให้ฟางด้วยค่ะ ^^
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ อย่าลืม กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณทุกคะแนนบวกเป็ด คะแนนชื่นชมในตัวฟางนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ