“ผมรักพี่ควอตซ์นะครับ”ติดแฮชแท็ก #พี่ควอตซ์น้องเหนือ ในทวิตเตอร์ ✽ ✽ ✽ ต่อจากคราวที่แล้วค่ะ ✽ ✽ ✽
ฟ้ามืดลงแล้ว เป็นเวลาที่ใครหลายคนต่างพักผ่อนไม่ว่าจะเป็นการดูโทรทัศน์ เล่นคอมพิวเตอร์ หรืออ่านหนังสือเพื่อผ่อนคลาย เช่นเดียวกับครอบครัวบริสตันที่รวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่นเพื่อดูโทรทัศน์ด้วยกัน จะขาดก็แค่คุณแม่ลูกสองที่หอบอุ้มลูกน้อยทั้งสองคนขึ้นไปบนห้องเพื่อป้อนนมและจับลูกเข้านอน
“ผมว่า... ผมไปช่วยน้องดูแฝดดีกว่า เกิดงอแงขึ้นมาน้ำเหนือคนเดียวคงไม่ไหว” ลูกชายคนโตของคุณหญิงมรกตว่าก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องนั่งเล่นเมื่อได้ยินเสียงตอบรับเห็นด้วยของคุณหญิงมรกตและคุณโทมัส
ร่างสูงก้าวขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านก่อนจะเปิดประตูห้องนอนของตัวเอง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าคมคายทันทีเมื่อได้ยินเสียงนุ่มๆ กำลังขับร้องเพลงกล่อมลูกน้อยนอน
“อุ่นใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม อุ่นอกอ้อมแขนอ้อมกอดแม่ตระกอง รักเจ้าจึงปลูก รักลูกแม่ย่อมห่วงใย ไม่อยากจากไปไกล แม้เพียงครึ่งวัน ให้กายเราใกล้ตา ให้ดวงตาใกล้ตา ให้ดวงใจเราสองเชื่อมโยงผูกพัน”
ควอตซ์ยืนมองคนรักที่นอนตะแคงอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ ข้างๆ มีเบาะที่นอนเด็กวางอยู่และบนเบาะนั้นก็มีเจ้าแฝดตัวน้อยนอนตาปรือมองมัมมี๊
“อิ่มใดๆ โลกนี้มิมีเทียบเทียม อิ่มอกอิ่มใจ อิ่มรักลูกหลับนอน น้ำนมจากอก อาหารของความอาทร แม่พร่ำเตือนพร่ำสอน สอนสั่ง...”
เสียงร้องเพลงของน้ำเหนือนั้นฟังสบายและลื่นหู แต่คงไม่เพราะเท่านักร้องมืออาชีพ แต่ในความรู้สึกของคนฟังอย่างควอตซ์เขาคิดว่า... เสียงนี้เป็นเสียงที่เพราะมาก เพราะ... เพราะว่าเป็นเสียงที่ร้องออกมาจากใจของคนเป็นแม่
แล้วก็ดูเหมือนว่าลูกน้อยเองก็จะชอบเสียงร้องเพลงกล่อมของมัมมี๊เช่นกัน เพราะแม้จะตาปรือใกล้หลับแต่รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยังอยู่
น้ำเหนือร้องจนจบเพลงแล้ว และเริ่มร้องใหม่อีกรอบ พร้อมๆ กับที่ลูกน้อยคล้อยหลับไป เจ้าตัวยังคงรอเพลงต่อดูจนแน่ใจว่าลูกทั้งสองหลับแล้วจึงค่อยๆ อุ้มลูกขึ้นโดยที่ยังร้องเพลงกล่อมไม่หยุด
ควอตซ์ขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะอุ้มพี่ฮาร์ทขึ้นพร้อมกับที่น้ำเหนืออุ้มน้องเดียร์ ก่อนจะวางลูกน้อยทั้งสองลงบนเตียงนอนสำหรับเด็ก แกว่งไกวเบาๆ และร้องเพลงกล่อมอีกรอบ
"น้ำเหนือร้องเพลงเพราะ” เสียงทุ้มกระซิบอยู่ข้างหูพร้อมกับแขนที่โอบรอบเอวเอาไว้
"ผมร้องไม่เพราะหรอกครับ ร้องเพี้ยนด้วย” คนร้องเพลงว่า หดใบหน้าหลบปลายจมูกโด่งๆ ที่ขยับมาคลอเคลียที่แก้มนวล
รู้สึกว่าหลายวันมานี้แด๊ดดี๊จะชอบทำรุ่มร่ามใส่บ่อยๆ ทุกครั้งที่มีโอกาส
"เพราะสิ เพราะว่ามัมมี๊ตั้งใจร้องให้ลูกฟังไง มันถึงได้เพราะ"
“พี่ควอตซ์... ทำไมซน...” คนโดนทำรุ่มร่ามใส่ปราบเสียงเบา ยกมือขึ้นจับมือของคนรักที่เริ่มสอดเข้าไปใต้เสื้อ
คนฟังหัวเราะขำ ดึงมือของตัวเองออกมาก่อนจะเปลี่ยนเป็นอุ้มคนรักขึ้นแทน “ไปอาบน้ำกันดีกว่า จะได้รีบมานอน”
“พี่ควอตซ์อาบก่อนก็ได้ เดี๋ยวผมอาบทีหลัง” น้ำเหนือว่า ใบหน้าขาวๆ เริ่มขึ้นสีระเรื่อเมื่อเห็นสายตาพราวระยับของคนรัก
ควอตซ์หัวเราะอีกรอบแต่เขาก็ไม่ปล่อยอีกฝ่ายลง อีกทั้งยังเดินตรงไปในห้องน้ำแล้วถึงได้ปล่อยน้ำเหนือ “แค่อาบน้ำด้วยกันเฉยๆ พี่ไม่ทำอะไร สัญญา”
อีกคนได้แต่ทำหน้ามุ่ยจนโดนขโมยหอมแก้มไปที ต้องรีบยกมือกุมแก้มเอาไว้ ไม่รู้ว่าเชื่อได้ไหมกับคำพูดนั้นแต่อีกฝ่าย... ก็ยังไม่เคยผิดสัญญาเลยสักครั้ง
ควอตซ์ปล่อยคนรักยืนทำมุ่ยส่วนตัวเขาก็เดินไปเปิดน้ำใน่อ่าง เติมบับเบิ้ลบาธพร้อมกลิ่นหอมอโรม่าลงในอ่าง หันกลับไปมองคนรักที่ยังยืนนิ่งก็ยกยิ้มขำ
"อาบน้ำเร็ว จะได้รีบไปนอนเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว หรือจะให้พี่ช่วยถอดชุดดี”
“ผ ผมทำเองได้ครับ พี่ควอตซ์จัดการตัวเองไปเถอะ” ใบหน้าขาวแดงก่ำตอนที่เห็นคนรักถอดเสื้อจนต้องรีบหันไปอีกทาง
ยังไงน้ำเหนือก็ยังไม่ชินสักที...
น้ำเหนือสั่งคนรักที่ลงไปแช่ในอ่างแล้วให้หลับตา ซึ่งอีกฝ่ายนอกจากจะหัวเราะขำแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรยอมหลับตาลงตามที่อีกฝ่ายบอก เมื่อดูจนแน่ใจแล้วน้ำเหนือถึงได้ถอดเสื้อผ้าตัวเองแล้วก้าวลงไปบ้าง ทันทีที่นั่งลงในอ่างคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้วก็คว้าเอวบางมากอดแล้วรั้งให้มานั่งตักทันที
“อ๊ะ! พี่ควอตซ์!!”
“ชู่... อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวเสียงก็ดังออกไปข้างนอกปลุกแฝดให้ตื่นหรอก” ควอตซ์ว่าซุกใบหน้าตัวเองลงกับลาดไหล่ของคนรัก “พี่แค่อยากอยู่กับเราสองคนบ้าง”
คำพูดที่เอ่ยออกมาทำให้น้ำเหนือชะงักไป ร่างบางที่ยังนั่งเกร็งในตอนแรกเริ่มผ่อนคลายและเอนพิงอกกว้างของคนรัก สองเดือนก่อนจะคลอดแม้ควอตซ์จะอยู่ชิดตัวไม่ห่างจากน้ำเหนือแต่นั่นก็เพื่อคอยดูแลช่วยเหลือคนท้องที่ไม่สามารถลุกเดินไปไหนมาไหนได้ อีกหนึ่งเดือนถัดมา... เวลาส่วนใหญ่ของน้ำเหนือหมดไปกับการดูแลลูกแฝดทั้งสองคน ส่วนควอตซ์เองก็ต้องกลับไปทำงาน กลับมาบ้านต่างคนก็ต่างรู้สึกเหนื่อยกันไปหมดแล้ว
"น้อยใจเหรอครับ"
ควอตซ์ยิ้มขำกับคำถามนั้น “เปล่าน้อยใจ ไม่ว่ายังไงตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือแฝด แต่ถ้าพอมีเวลาพี่ก็อยากอยู่กับเราแบบนี้บ้าง”
น้ำเหนือได้แต่พิงอกอีกคนเอาไว้ สองมือสอดประสานเข้าที่มือใหญ่ ปล่อยให้ปลายจมูกโด่งและริมฝีปากร้อนๆ สัมผัสไปทั่วแก้มนวล ทั้งคู่แช่น้ำกันอยู่ไม่นานก็พากันลุกไปล้างตัวก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ น้ำเหนือเดินไปหยิบชุดนอนมาส่งให้คนรักก่อนจะแยกไปแต่งตัว
“วันนี้แฝดดื้อหรือเปล่า” ควอตซ์ถามเมื่อคนรักเดินมาทิ้งตัวลงนอนข้างๆ กัน
“ไม่ครับ มีแค่งอแงตอนหิวกับตอนไม่สบายตัวเท่านั้น พี่ควอตซ์ละครับดื้อหรือเปล่า” น้ำเหนือตอบก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะจนคนฟังนึกมันเขี้ยวต้องยื่นหน้ามางับเบาๆ ที่ปลายจมูก
คำว่าที่ถามว่า เขาดื้อหรือเปล่า ก็หมายถึงว่าเขาตั้งใจทำงานหรือเปล่า
“ไม่ดื้อครับ ไม่ดื้อไม่ซนด้วย” ควอตซ์กำลังคิดว่าเขาชอบที่จะหอมแก้มน้ำเหนือ แก้มขาวๆ นั้นนุ่มนิ่มไม่ต่างจากแก้มแฝด เห็นแล้วน่ามันเขี้ยวจนอยากจะกัดลงไป “เดี๋ยวพรุ่งนี้มีนัดคุยกับสถาปนิกเรื่องแบบบ้านนะ”
“ที่ไหนเหรอครับ” หันหน้าหลบปลายจมูกอีกคนไปด้วย ก่อนจะมองอีกฝ่ายตาขวางเพราะสุดท้ายนอกจากจะโดนหอมแก้มไปแล้วยังโดนกัดแก้มอีกด้วย
“ที่บ้านนี่แหละ ช่วงสิบโมงสิบเอ็ดโมง พรุ่งนี้พี่ไม่ได้เข้าบริษัท” พอเห็นน้ำเหนือเอาแต่หลบไม่ยอมให้หอมแก้มควอตซ์ก็ยิ่งรู้สึกอยากแกล้งจนต้องคว้าเอวอีกฝ่ายเข้ามากอด จับมือทั้งสองข้างเอาไว้แล้วก้มลงฟัดแก้มขาวๆ นั้นจนเต็มรัก
ไม่รู้ว่าเพราะเลี้ยงลูกอยู่ใกล้เด็กอ่อนหรือเปล่า ควอตซ์รู้สึกว่าน้ำเหนือมีกลิ่นเหมือนเด็กอ่อน กลิ่นหอมๆ นุ่มๆ น่าฟัดเป็นที่สุด เขานึกอยากฟัดเจ้าแฝดวันละหลายๆ รอบ แต่ทำไม่ได้ อย่างนั้นก็ขอฟัดมัมมี๊แทนก็แล้วกัน
สุดท้ายกว่าน้ำเหนือจะโดนปล่อยตัวแก้มทั้งสองข้างก็แดงก่ำ ทั้งเขินอาย ทั้งรู้สึกว่าแก้มจะช้ำเพราะโดนฟัดไม่หยุดจากคนตัวโตกว่า พอถูกปล่อยตัวมือขาวก็ตีปักเข้าที่กลางอกพร้อมกับมองค้อนตาขวาง ยกมือกุมแก้มทั้งสองข้างของตัวเองไว้
คนโดนตีก็ไม่มีสลด อีกทั้งยังหัวเราะชอบใจอีกด้วย
“นอนๆ นอนได้แล้ว” ควอตซ์ว่า รั้งคนที่หนีไปเสียชิดเตียงเข้ามากอดอีกรอบ “ต้องให้พี่ร้องเพลงกล่อมไหม”
“ร้องสิครับ จะได้ร้องกล่อมแฝดอีกรอบด้วย” คนฟังก็พยักหน้าหงึกหงักทันที พออีกคนยังนิ่งก็อ้อนต่อ “นะครับ นะ”
“พี่ไม่รู้จักเพลงกล่อมเด็กภาษาไทยเท่าไหร่”
“อย่างนั้นเอาเพลง little star ก็ได้” มือบางจับที่แขนของคนรักพร้อมเขย่าด้วยท่าทางเหมือนเด็กๆ ใบหน้าน่ารักซบลงที่อกกว้าง “นะครับ”
“ดื้อ...” มืออีกคนยื่นมาบีบจมูกเบาๆ ก่อนจะกระชับกอดคนรักเอาไว้แน่นขึ้น
น้ำเหนือไม่เคยได้ยินอีกฝ่ายร้องเพลงมาก่อน เสียงทุ้มๆ นั้นน่าฟังแม้จะไม่ได้เพราะอย่างกับนักร้องแต่ก็มีความน่าฟังเป็นอย่างมาก ความรู้สึกที่ควอตซ์เอ่ยชมว่าเขาร้องเพลงเพราะคงจะเป็นแบบนี้ ร้องเพราะ ไม่ใช่เพราะเสียงดี แต่เพราะความรู้สึกของการร้องต่างหากที่ทำให้เพลงนั้นเพราะ แม้จะเป็นเพลงเด็กๆ อย่างเพลงนี้ก็ตาม
“Twinkle, twinkle, little star. How I wonder what you are. Up above the word so high. Like a diamond in the sky.”
ควอตซ์ร้องเพลงกล่อมคนรัก และไม่ใช่แค่กล่อมน้ำเหนือแต่รวมไปถึงฝาแฝดที่ขยับตัวเหมือนจะตื่นด้วย พอได้ยินเสียงแด๊ดดี๊ร้องเพลงปากน้อยๆ ของทั้งคู่ก็หาวกว้างก่อนที่จะหลับกันไปอีกรอบโดยที่มือของทั้งคู่กำลังจับกันอยู่
แสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้าส่องลอดผ่านต้นไม้ใหญ่จนสนามหญ้าเห็นเป็นเงาทอดยาว แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกร้อนอะไรเพราะสายลมเย็นๆ พัดผ่านตลอดเวลา คุณพ่อคุณแม่มือใหม่อุ้มแฝดน้อยเดินเล่นไปมาในสวน กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยมาตามลมทำให้รู้สึกผ่อนคลายอารมณ์
"แอะ... แอะ" น้องเดียร์ส่งเสียงร้องพร้อมขยับมือไปมา ปากน้อยๆ แย้มกว้างเหมือนจะชอบใจจนน้ำใสๆ เริ่มไหลออกมุมปาก
“น้ำลายไหลแล้วตัวเล็ก” น้ำเหนือที่อุ้มน้องเดียร์อยู่พูด หยิบผ้าอ้อมที่พาดอยู่บนไหล่ของตัวเองมาเช็ดปากให้ก่อนจะหอมแก้มนิ่มไปฟอดใหญ่ หันไปมองแฝดคนพี่ที่มุมปากก็มีน้ำไหลเยิ้มไม่ต่างกันก็ขมวดคิ้ว “พี่ควอตซ์ไม่เช็ดปากให้ลูกละครับ”
คนโดนถามเลิกคิ้วขึ้นก้มมองพี่ฮาร์ทที่เขากำลังอุ้มอยู่ ก่อนจะหยิบผ้าอ้อมบนไหล่ตัวเองบ้างแต่แทนที่จะเช็ดปากให้ลูกกลับส่งผ้าให้เสียอย่างนั้น “พี่ฮาร์ททำปากเลอะ ไหนเช็ดสิ”
“แอะ แอ้” เจ้าตัวน้อยส่งเสียงเหมือนจะประท้วงที่โดนแด๊ดดี๊แกล้ง มือน้อยๆ ที่กำอยู่ขยับขึ้นลง
“พี่ควอตซ์ก็แกล้งลูก” น้ำเหนือต่อว่าคนรักแบบไม่จริงจังมากนักก่อนจะใช้ผ้าให้มือของตัวเองเช็ดปากให้พี่ฮาร์ทแทน
คนโดนว่าหัวเราะก่อนจะก้มลงหอมแก้มมัมมี๊ไปทีเพราะมันเขี้ยวคนรักก่อนจะเลยไปหอมแก้มน้องเดียร์กับพี่ฮาร์ทอีกคนละที
“พี่ควอตซ์นี่ละก็!”
“มันเขี้ยว ไหนเอาแก้มมาให้กัดหน่อย” ควอตซ์พูดตั้งท่าจะก้มลงกัดแก้มคนรักจริงๆ อย่างที่พูด น้ำเหนือเลยได้แต่เบี่ยงหลบก่อนจะอุ้มน้องเดียร์พาเดินเล่นไปรอบๆ แทน
จนกระทั่งแดดเริ่มแรงขึ้นควอตซ์เลยชวนน้ำเหนือให้พาลูกกลับเข้าไปในบ้านก่อนที่จะไม่สบาย
"คุณควอตซ์คะ สถาปนิกที่นัดเอาไว้มาแล้วค่ะ” ลาสี่เดินเข้ามาบอก
"พาพวกเขาเข้ามาเลย" ควอตซ์หันไปตอบ วางพี่ฮาร์ทบนเบาะเด็ก ก่อนจะหันไปโอบเอวคนรักพาเดินไปที่ห้องรับแขกอีกห้อง โดยไม่ลืมบอกให้สาลี่และเมดอีกคนเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนคุณหนูน้อยในห้องนั่งเล่น
ทั้งคู่ยกมือรับไหว้แขกทั้งสองคนที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขก ก่อนที่จะเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาว ส่วนแขกทั้งสองคนนั้นยังโซฟาเดี่ยวกันคนละตัว
“ที่ได้โทรคุยกับคุณควอตซ์ คุณควอตซ์บอกกับทางเราเอาไว้ว่าอยากได้แบบบ้านสไตล์โมเดิร์น เราก็เลยเตรียมแบบมาให้ทางคุณได้เลือกดูก่อนว่าชอบแบบไหน แต่ถ้าไม่มีแบบที่ชอบจริงๆ เราก็จะดีไซน์ให้ใหม่ค่ะ” เซลล์ของบริษัทพูดพร้อมกับส่งแฟ้มเล่มหนาให้กับควอตซ์ได้เลือก
ทั้งสองคนค่อยๆ เปิดแบบบ้านดูทีละแบบเรื่อยๆ แบบไหนถูกใจก็หยิบออกมาเอาไว้ตัดสินใจอีกที ส่วนใหญ่คนโตกว่าก็จะหันไปถามความคิดเห็นของคนที่นั่งข้างๆ
ใช้เวลาเลือกกันอยู่เกือบชั่วโมงก็ได้แบบที่ถูกใจที่สุด ซึ่งสถาปนิกที่มาด้วยก็คอยให้คำแนะนำตลอด บางส่วนที่อยากเพิ่มเติม บางส่วนที่อยากเอาออก คุยรายละเอียดกันอีกเกือบชั่วโมงถึงเรียบร้อย ก่อนที่ควออตซ์จะพาแขกทั้งสองคนไปดูที่ ส่วนน้ำเหนือให้อยู่ดูแฝดแทน
ที่ดินข้างๆ ที่ตอนนี้กลายมาเป็นของบริสตันเรียบร้อยแล้ว รั้วที่เคยแบ่งกันที่ดินทั้งสองผืนเอาไว้ก็ถูกรื้อออกหลังจากที่ทำเรื่องซื้อขาย โอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อย รวมไปถึงการรื้อถอนบ้านหลังเก่า ซึ่งการดำเนินการพวกนี้ถูกจัดการเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนที่น้ำเหนือจะออกจากโรงพยาบาลเสียอีก
ตอนที่น้ำเหนือรู้เรื่องเจ้าตัวก็อึ้งไปสักพักไม่คิดว่าทุกอย่างจะรวดเร็วและง่ายดายขนาดนี้ อิทธิพลของบริสตันนี่ไม่ใช่เล่นๆ เลยทีเดียว
“ฮาร์ทกับเดียร์อยากได้บ้านหลังใหม่ไหมครับ แด๊ดดี๊จะสร้างบ้านให้นะ ชอบไหม” น้ำเหนือคุยกับฝาแฝดอยู่ในห้องนั่งเล่น
มองทั้งสองคนที่ขยับตัวเหมือนจะกระเถิบตัวไปมาแล้วก็ยิ้มออกมา จับแฝดน้อยนอนหงายอยู่ข้างๆ กัน ก่อนจะโน้มตัวลงไปใกล้ๆ ใบหน้าเล็กๆ นั้น จับมือของทั้งคู่เอาไว้แล้วใช้ริมฝีปากงับๆ ให้เจ้าตัวน้อยส่งเสียงอ้อแอ้ออกมา
“เดี๋ยวมัมมี๊จะทำสนามหญ้าไว้ให้เยอะๆ ดีไหม พวกหนูจะได้วิ่งเล่นได้” พูดคุยกับทั้งสองพี่น้อง พอทั้งฮาร์ทและเดียร์ส่งเสียงก็พยักหน้ารับเหมือนจะเข้าใจ “ชอบเหรอ ชอบใช่ไหมจะได้มีที่วิ่งเล่น”
"แอะ แอ้...”
“แอ้แอ้”
ทั้งคู่ส่งเสียงยกใหญ่พร้อมกับถีบแขนถีบขาด้วยท่าทางน่ารักจนน้ำเหนือหัวเราะออกมา พลางนึกไปถึงเต่าที่โดนจับหงายท้องแล้วมันพยายามขยับตัว ดูๆ ไปแล้วทั้งพี่ฮาร์ทน้องเดียร์ก็เหมือนไม่ใช่เล่น
นั่งโน้มตัวนานๆ ก็เริ่มเมื่อยตัว น้ำเหนือเลยเปลี่ยนเป็นนอนลงข้างๆ แฝด มองทั้งสองคนที่ร้องอ้อแอ้พร้อมขยับตัวไปมาเพลินๆ จนสุดท้ายก็เผลอหลับไป
ควอตซ์ที่ส่งแขกทั้งสองคนเรียบร้อยแล้วเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น เจ้าตัวเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงอ้อแอ้ๆ ของลูกแฝดแต่กลับไม่ได้ยินเสียงแม่ของลูกเลยสักนิด พอเดินเข้าไปใกล้ก็ต้องเผยยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคนรักของตนนั่นนอนหลับไปแล้วอยู่ข้างๆ ลูกแฝด ส่วนสองแฝดก็พงกหัวขึ้นมองเขาแล้วร้องอ้อแอ้ไม่หยุด
“ว่าไงหือ มัมมี๊หลับไม่มีเพื่อนเล่นด้วยหรือไง” ควอตซ์ก้าวข้ามที่กั้นเข้าไปก่อนจะคว้าลูกน้อยทั้งสองมากอดเอาไว้ทั้งคู่
“แอ้ๆ”
“แอ้”
ควอตซ์ไม่รู้หรอกว่าสองแฝดจะสื่ออะไรแต่ก็อดรู้สึกขำทุกครั้งไม่ได้เวลาได้ยินเสียงอ้อแอ้พวกนี้ เขาหันไปมองน้ำเหนือที่หลับสบายแล้วก็ไม่อยากจะปลุกแต่เพราะมันบ่ายแล้ว อีกฝ่ายยังไม่ได้ทานข้าวกลางวัน ยังไงก็คงต้องปลุกให้ตื่นนั่นแหละนะ
ร่างป้อมๆ ของแฝดค่อยๆ ถูกวางลงบนตัวน้ำเหนือใกล้ๆ กับใบหน้าน่ารัก “ปลุกมัมมี๊หน่อยครับ จะได้ให้มัมมี๊ลุกมากินข้าว”
“แอ้ๆ แอะ... แอ!” เหมือนจะเข้าใจคำพูดของแด๊ดดี๊ เพราะทั้งพี่ฮาร์ทและน้องเดียร์ส่งเสียงกันยกใหญ่เหมือนจะปลุกคนหลับให้ตื่น มือน้อยๆ ขยับไปมาจนโดนหน้าโดนตัวน้ำเหนือ
คนที่หลับอยู่เลยรู้สึกตัวตื่น น้ำเหนือรู้สึกหนักๆ ที่อกตัวเอง ไหนจะเสียงแง้วๆ ที่ดังรบกวนการนอนนั่นอีก ดวงตากลมโตค่อยๆ ลืมขึ้น เจ้าตัวกระพริบตาปริบๆ มองใบหน้าของลูกน้อยอย่างงุนงง แต่พอเลื่อนสายตาเลยลูกชายไปก็เห็นควอตซ์นั่งยิ้มอยู่ ไม่ต้องเดาให้ยากก็รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นคนอุ้มลูกมานอนทับเขาแน่นอน
ควอตซ์ที่เห็นคนรักตื่นแล้วก็ขยับมาอุ้มลูกออกเพื่อให้อีกฝ่ายขยับลุกขึ้นนั่ง น้ำเหนือยกมือขยี้ตาเล็กน้อย “คุยเสร็จแล้วเหรอครับ”
“เสร็จแล้ว ลุกเถอะไปกินข้าวกัน บ่ายแล้ว” ควอตซ์ตอบ ยกมือมาลูบผมที่ยุ่งนิดๆ ของคนรักให้
“เดี๋ยวผมให้นมแฝดก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวไปกินข้าวกัน” น้ำเหนือพูด ซึ่งอีกคนก็พยักหน้ารับ เห็นอย่างนั้นน้ำเหนือก็เลยอุ้มน้องเดียร์ขึ้นมาก่อนเพื่อป้อนนมให้ลูก ส่วนพี่ฮาร์ทก็ปล่อยให้เล่นกับแด๊ดดี๊ไปก่อน
หลังจากป้อนนมแฝดเสร็จคุณพ่อคุณแม่ก็พาลูกน้อยเข้านอน เมื่อฝาแฝดหลับก็ได้เวลาที่ควอตซ์กับน้ำเหนือไปทานข้าวกลางวันกันบ้าง แม้เวลาจะเลยมาเกือบบ่ายสองแล้ว
“กินเยอะๆ นะเหนือ เลี้ยงแฝดเหนื่อยๆ ต้องเพิ่มพลังเสียหน่อย” พูดไปก็ตักกับข้าวเมนูโปรดของคนรักให้
อีกฝ่ายยิ้มขอบคุณก่อนจะตักอาหารกลับคืนบ้าง “พี่ควอตซ์ก็เหมือนกันนะครับ มัวแต่ตักให้ผมไม่ตักกินสักที”
ฝ่ามือหนายกขึ้นวางบนกลุ่มผมนุ่มจับศีรษะอีกฝ่ายโยกเบาๆ อย่างเอ็นดูก่อนจะเริ่มลงมือจัดการกับอาหารของตัวเองบ้าง
“จริงสิ... อาทิตย์หน้าพาแฝดไปโรงพยาบาลใช่ไหม” ควอตซ์ถามขึ้นอย่างนึกขึ้นได้
“ใช่ครับ คุณหมอนัดไปฉีดวัคซีนด้วย ครบสองเดือนแล้ว”
“จะว่าไป... ก็เร็วเหมือนกันนะ เหมือนเพิ่งจะคลอดเอง อาทิตย์หน้าก็สองเดือนแล้ว” พูดยิ้มๆ พลางนึกไปถึงพี่ฮาร์ทกับน้องเดียร์ที่นอนหลับปุ๋ยอยู่ในห้องนั่งเล่น
ในความคิดเขารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมากทีเดียว เหมือนรู้สึกว่าเขาเพิ่งพาน้ำเหนือกับฝาแฝดกลับมาบ้านเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง แต่ตอนนี้แฝดอายุจะครบสองเดือนอยู่แล้ว เขาไม่รู้ว่าชีวิตของการเป็นพ่อเป็นแม่คนสำหรับคนอื่นจะผ่านไปเร็วเหมือนที่เขารู้สึกอยู่ตอนนี้หรือเปล่า
แม้บางวันจะเหนื่อยกับการรับมือกับความงอแงของลูกชาย แต่ในทุกๆ วัน ไม่มีวันไหนเลยสักวันที่เขาไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ
เป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ...************************************************
ครบค่ะ เรื่องนี้มีแต่ความละมุนจนไม่รู้จะพูดอะไรเลยดี ก็เอาเป็นว่า... ในแต่ละตอนก็จะเห็นพัฒนาการของหลานๆ กันไปแล้วกันเนอะ ^^ ส่วนคุณพ่อก็ยังไม่ได้หม่ำๆ มัมมี๊นะคะ ต้องรอต่อไปก่อนยาวๆ เลย ฮ่าาาา
ครอบครัวบริสตันนี่เป็นครอบครัวในฝันของใครหลายๆ คนจริงๆ เป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ คำพูดนี้เหมาะกับครอบครัวนี้จริงๆ ค่ะ เนอะๆ ยังไงก็เจอกันตอนหน้านะคะ ^^
ปล. มีคำผิด บอกได้ค่า
อาจจะมาช้าหน่อยแต่ก็จะไม่ทิ้งไปไหนแน่นอนค่ะ หวังว่าจะเข้าใจกันนะคะ เป็นกำลังใจให้ฟางด้วยค่ะ ^^
ถ้าชอบถูกใจก็คอมเมนต์กันเนอะ ขอเลยค่าขอคอมเมนต์เลย ขอกันแบบนี้นี่แหละ แฮ่...
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
ฝากอุ้มรักด้วยนะคะ อย่าลืม กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณทุกคะแนนบวกเป็ด คะแนนชื่นชมในตัวฟางนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ