<<บัลลังก์รักใต้เงาแค้น >>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<บัลลังก์รักใต้เงาแค้น >>  (อ่าน 129518 ครั้ง)

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
โอ้ยยยย คู่ฟ้าฟื้นก็น่าจะแซ่บบบบบบบ
ชอบบบบบบ
รอตลอด มาต่อไวไวนะคะ

ออฟไลน์ Noeynoey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 17
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนนี้นี่แบบ   :haun4:
เค้าละช๊อบชอบ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ช่างรุนแรงและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน สุดยอดดดด
จมกองเลือดแปป

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
หืม ถึงขั้นลืมโลกกันเลยเหรอ

ออฟไลน์ am_am

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
กรี๊ดดดดดดดดด ฟินสุด ๆ อ่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
สงสารอินทัชจัง ไอ่อัคคีใจร้าย ฮึ่ย!!!

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14

ออฟไลน์ lolata

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เกลียดตัวกินไข่กันจริงๆ สองคนนี้

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                   บัลลังก์รักใต้เงาแค้น

                                                            บทที่  8               


               มือเรียวที่เคยนุ่มบัดนี้แข็งสากเพราะทำงานหนัก ร่างสูงโปร่งของบัวกำลังขมีขมันกับการแยกเมล็ดพันธุ์พืชใน

กระจาดเพื่อจะนำไปให้คนในหุบผากาฬได้ปลูกมันต่อไป เขาเพลิดเพลินจนกระทั่งชะงักเพราะเศษผ้าสีมอแสนเก่าที่พัน

อยู่โคนนิ้วนางหลุดลุ่ยลงมา ดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวเพ่งมองมันพลางขมวดคิ้วโก่งก่อนจะดึงเศษผ้าออกช้าๆ

               เศษผ้าหลุดออกไปหมดแล้วเผยให้เห็นสิ่งที่แอบซ่อนอยู่บนนิ้วของเขามาเนิ่นนาน มันเป็นแหวนแสนสวย

ประดับด้วยเพชรน้ำงามที่ผ่านการเจียรนัยเป็นอย่างดี เปลือกตาของบัวกระพริบถี่เพื่อขับไล่หยดน้ำที่คลออยู่เต็มหน่วยตา

เขาถอดมันออกมาเพ่งมองด้วยความเจ็บช้ำ

               ยี่สิบปีแล้วสินะ ยี่สิบปีแห่งความเจ็บช้ำ แต่ก็เป็นยี่สิบปีที่เขายังทนเก็บแหวนวงนี้ไว้กับตัวเพียงเพราะคนที่ให้

มันมายังคงวนเวียนอยู่ในหัวใจของเขา ทั้งรักทั้งชังจนไม่อาจลืมเลือน

               น้ำตาหยดหนึ่งเกลือกกลิ้งและร่วงลงมาแตะต้องแหวนวงนั้น ภาพแห่งความหลังค่อยๆฉายชัดขึ้นมาในความ

ทรงจำราวกับเรื่องทั้งหมดเพิ่งจะเกิดขึ้นไม่นานมานี้เอง








               “โกมุท”


               สุรเสียงดังกังวานของเจ้าชายอาทิตยวงศ์ศตรัศม์รัชทายาทแห่งเมืองรัตนปุระนครในวัยสิบเก้าชันษาทำให้

โกมุทต้องวางหนังสือเล่มใหญ่หนาลงแล้วหันไปมองวรกายสูงที่ก้าวพระบาทเข้ามาหา


               “ทรงโดดเรียนอีกแล้ว ท่านอาจารย์เดวิดบ่นจนหูของหม่อมฉันแทบไหม้”


               แม้จะต่อว่าแต่ด้วยน้ำเสียงนุ่มชวนฟังจึงไม่ได้ทำให้เจ้าชายแห่งรัตนปุระนครเกรงกลัวเลยสักนิด ยิ่งประกอบ

กับใบหน้าอ่อนโยนที่มีแต่รอยยิ้มส่งมาเจ้าชายอาทิตยวงศ์ก็ยิ่งไม่รู้สึกรู้สากับคำต่อว่า ทรงมองใบหน้าเรียวผุดผาดที่มี

เครื่องหน้างดงามอย่างไม่เคยนึกเบื่อแม้ว่าพระองค์และโกมุทจะรู้จักกันมาตั้งแต่แรกเกิดแล้วก็ตาม


               “เราเบื่อ ทำไมต้องเรียนด้วยไอ้ประวัติศาสตร์ชนชาติตะวันตกเนี่ย”


               โกมุทยิ้มขำกับท่าทีเอาแต่พระทัยเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กน้อย จนแม้กลายเป็นเจ้าชายรัชทายาทแล้วก็ยัง

ไม่วายดื้อดึงโดยเฉพาะเวลาอยู่กับเขา


               “เรียนเพื่อให้รู้ว่าอดีตเป็นเช่นไร และพระองค์จะจัดการเช่นไรหากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในอนาคต”


               “เฮ้อ”


               ทรงทิ้งตัวไปกับโต๊ะที่เต็มไปด้วยกองหนังสือของโกมุทด้วยพระพักตร์เบื่อหน่าย


               “อดีตคืออดีต มันจะเอามาใช้ตัดสินเหตุการณ์ภายหน้าได้ยังไรหากองค์ประกอบต่างกัน โกมุท”


               ใบหน้างดงามกว่าบุรุษอื่นผินหน้าไปมองพลางคลี่ยิ้ม


               “ทรงเรียกหม่อมฉันด้วยชื่ออีกแล้ว เมื่อไหร่จะทรงเรียกหม่อมฉันว่าน้าเสียทีพะย่ะค่ะ”


               “ให้เราเรียกเจ้าว่าน้า เฮอะ ไม่ล่ะ เราไม่เรียกคนที่อายุมากกว่าเราแค่สามปีว่าน้าหรอกนะ”


               โกมุทส่ายหน้าด้วยความระอาแต่ก็ไม่เคยจัดการกับความดื้อรั้นของเจ้าชายอาทิตยวงศ์ได้เสียทีถึงแม้ว่า

พระองค์จะทรงเป็นหลานน้าแท้ๆของเขาก็ตาม

               บิดาของโกมุทคืออัครเสนาบดีเกริกซึ่งมีบุตรอยู่สองคนคือบุตรหญิงนามกุสุมาและบุตรชายคือโกมุท บุตรทั้งคู่

อายุห่างกันถึงสิบห้าปีในตอนนั้นเสนาบดีเกริกคิดว่าเขาจะไม่มีลูกคนที่สองเสียแล้ว และเป็นเพราะความงดงามฉลาด

เฉลียวของกุสุมาบุตรีเพียงคนเดียวของเสนาบดีเกริกทำให้เจ้าฟ้าเอกทัศน์วัฒนาในวัยหนุ่มใหญ่โปรดปรานจนจัดพิธีอภิ

เศกและแต่งตั้งให้กุสุมเป็นเจ้านางของพระองค์

               และเมื่อเจ้านางกุสุมามีพระประสูติกาลเจ้าชายองค์แรกให้เจ้าฟ้าเอกทัศน์โกมุทเพิ่งจะมีอายุครบสามขวบปี

เท่านั้น โกมุทยังจำได้แม้จะยังเยาว์เมื่อเขาเดินเตาะแตะไปหาพี่สาวที่ยังอยู่ไฟ เขาก้มลงมองเด็กน้อยที่อยู่ข้างกายพี่สาว


               “โกมุท จับมือหลานสิจ๊ะ”


               เจ้านางกุสุมาที่มีใบหน้างดงามแม้จะยังอ่อนเพลียแย้มสรวลก่อนจะจับมือของเขาให้มาแตะที่นิ้วน้อยๆของเด็ก

ตัวจิ๋วกว่าเขาเสียอีก


               “หลานของโกมุทนะ ชื่ออาทิตย์”


               อาทิตย์


               โกมุทจารึกชื่อทารกน้อยไว้ในใจของเขา และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาโกมุทก็มีหน้าที่พิเศษเพิ่มมาอีกอย่างหนึ่งคือ

ช่วยเจ้านางกุสุมาเลี้ยงเจ้าชายอาทิตยวงศ์ แม้ว่าทั้งคู่จะเจริญเติบโตขึ้นตามวัยหากแต่เพียงคนเดียวที่เจ้าชายแห่งรัตน

ปุระนครจะยอมให้ก็คือโกมุทพระมาตุจฉาของพระองค์นั่นเอง

               ภาพเจ้าชายตัวน้อยเดินตามเด็กชายวัยไม่ห่างกันนักวิ่งเล่นทั่ววังเป็นภาพที่ทุกคนเห็นจนเจนตาแม้ว่าโกมุทจะ

เป็นเด็กที่ชอบร่ำเรียนและอ่านหนังสือมากกว่าแต่เมื่อเจ้าชายน้อยมาชักชวนให้ไปเล่นโกมุทก็ไม่เคยขัด และเมื่อเจ้าชาย

ทรงดื้อขึ้นมาเพียงแค่โกมุททำหน้าขรึมและเรียกชื่อพระองค์ว่าอาทิตย์ ก็จะทรงหยุดดื้อและหันมาทำพักตร์สลดใส่ทันที


               “โกมุทอย่าดุสิ”


               “ก็อย่าดื้อนักสิพะย่ะค่ะ หม่อมฉันขี้เกียจวิ่งไล่ตามพระองค์แล้ว”


               “โธ่ อย่าพูดอย่างนั้นสิ”


               เจ้าชายอาทิตยวงศ์ในวัยเยาว์ตัวป้อมแก้มยุ้ยโผเข้ากอดผู้เป็นน้าที่รูปร่างเริ่มยืดสูงขึ้น เจ้าชายน้อยโน้มคอ

โกมุทมาจูบที่แก้มดังฟอด


               “เรารักโกมุทคนเดียว โกมุทอย่าโกรธเราเลยนะ”


               โกมุทอดยิ้มไม่ได้ หลังจากนั้นแล้วก็ต้องยินยอมตามพระทัยเพราะวาจาหวานที่เจ้าชายอาทิตยวงศ์ออดอ้อน

และเหตุการณ์ก็ยังเป็นเช่นนั้นแม้ว่าจะเจริญพระชนมายุมาจนเป็นเจ้าชายที่แสนสง่างามเช่นนี้ แต่กับโกมุทเจ้าชาย

อาทิตยวงศ์ก็ยังปฏิบัติพระองค์เช่นเดิม

               โกมุทมองพระพักตร์คมเข้มพระขนงดกดำที่ขมวดเพราะถูกขัดใจ พระนาสิกโด่งได้รูปทำให้พระพักตร์ของเจ้า

ชายอาทิตยวงศ์ทรงเลื่องชื่อจนกลายเป็นที่หมายปองของหญิงงามทั้งหลาย


               “อย่าทรงลืมว่าพระองค์เป็นหลานของหม่อมฉันแม้ว่าพระองค์จะอายุน้อยกว่าเพียงสามปี”


               “อะไรๆก็อายุน้อยกว่า เจ้าทำอะไรเก่งกว่าเราบ้างโกมุท อย่างมากก็แค่เรียนเก่งกว่า ยิงธนูเก่งกว่า อย่างอื่น

เราเก่งกว่าเจ้าทุกอย่าง ก็ได้ ท่านน้า ท่านน้า ท่านน้า พอใจหรือยัง”


               “อาทิตย์”


               เอ่ยเสียงดุปรามออกไปจนเจ้าชายอาทิตยวงศ์ต้องทรงหยุดตรัส


               “โธ่ โกมุทอย่าโกรธนะ เราขอโทษ”


               ทรงลุกจากท่าประทับนั่งแล้วก้าวเข้ามาโน้มกายลงประทับพระโอษฐ์เข้ากับแก้มของโกมุทอย่างรวดเร็ว

โกมุทสะดุ้งใบหน้าร้อนเห่อแดงเรื่อ


               “อาทิตย์ เราทั้งคู่ไม่ใช่เด็กแล้วนะเลิกหอมแก้มเสียที”


               “ก็แก้มเจ้าหอมนี่ หอมนิดเดียวจะเป็นไรกัน”


               บรรยากาศเป็นกันเองสูญเสียไปทันทีเมื่อทหารมหาดเล็กนายหนึ่งวิ่งเข้ามาทำความเคารพด้วยท่าทีตื่นตกใจ


               “พระอาญาไม่พ้นเกล้า บัดนี้เจ้าฟ้าเอกทัศน์ทรงประชวรหนักพะย่ะค่ะ”
               





               ด้วยประชวรเพราะพระหทัยอ่อนแออยู่แล้ว เมื่อเกิดอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดพระอาการจึงรวดเร็วจน

ยากจะคาดคิด เจ้าชายอาทิตยวงศ์ทรงกระหืดกระหอบเข้ามายังที่ประทับแห่งเจ้าฟ้ารัตนปุระนคร ทรงเห็นเจ้านางกุสุมา

ประทับอยู่ข้างแท่นบรรทมในขณะที่เจ้าฟ้าเอกทัศน์พักตร์ซีดเผือด


               “พระบิดา”


               ทรงก้าวเข้าไปอย่างตกพระทัยในเหตุการร้ายแรง เจ้านางกุสุมาประทับนิ่งเงียบจนเมื่อเห็นราชโอรสจึงได้มีน้ำ

พระเนตรคลอหน่วย


               “อาทิตย์”


               ฝ่าพระหัตถ์อ่อนแรงวางลงบนพระเศียรของเจ้าชายอาทิตยวงศ์ที่กัดพระทนต์กลั้นเสียงสะอื้นดวงเนตรแดงช้ำ


               “จงเป็นกษัตริย์ที่ดี ปกครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม”


               “พะย่ะค่ะ พระบิดา”


               ราวกับทรงรอคอยพระราชโอรส พระอัสสาสะแผ่วเบาลงเรื่อยๆจนกระทั่งหยุดนิ่งเมื่อหมอหลวงรีบตรวจ

ร่างกายแล้วหันกลับมาส่ายหน้า เสียงร่ำไห้จึงระงมไปทั่วก่อนที่จะได้ยินเสียงเป่าแตรแจ้งข่าวร้ายว่าบัดนี้ เจ้าฟ้าเอกทัศน์

วัฒนาได้สวรรคตแล้ว

               แม้แต่เจ้านางกุสุมาก็ยังลุกขึ้นมาทั้งที่น้ำพระเนตรนอง ทุกคนค้อมคำนับอย่างพร้อมเพรียง


               “ถวายบังคมเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ศตรัศม์แห่งรัตนปุระนคร”
               




               เมื่อได้อยู่เพียงลำพังในห้องบรรทมหลังจากจัดการเรื่องการสวรรคตของพระราชบิดาในเบื้องต้นแล้ว เจ้าฟ้า

องค์ใหม่จึงได้ถอนพระปัสสาสะออกมาพร้อมกับปิดพระเนตรเพื่อกลั้นความโทมนัสไว้ เสียงเปิดประตูเรียกสติให้พระองค์

มองไปยังร่างสูงโปร่งของคนที่ก้าวเข้ามาหยุดยืนใกล้ๆ


               “เจ้าฟ้า”


               “โกมุท ได้โปรด”


               ต้องแสดงความเข้มแข็งในฐานะรัชทายาทและกษัตริย์พระองค์ใหม่จนต้องเก็บงำความเศร้าเอาใจ จนกระทั่ง

บัดนี้ความอดทนจึงหมดลงไปแล้ว


               “เราขอแค่เวลานี้เท่านั้นโกมุท”


               “โธ่ อาทิตย์”


               โกมุทน้ำตาซึมด้วยความสงสาร เขาก้าวเข้าไปวางมือไปบนพระอังสาสั่นสะท้านแล้วโอบกอดไว้ เจ้าฟ้า

อาทิตยวงศ์ทรงกลั้นอารมณ์ไม่ไหวอีกต่อไป น้ำพระเนตรจึงหลั่งไหลออกมา


               “อยู่ข้างๆเรา ได้โปรด”


               โกมุทเองก็สะเทือนใจไม่น้อยหลังจากเพิ่งไปปลอบโยนเจ้านางกุสุมาผู้เป็นพี่สาว และตอนนี้เขาต้องประคับ

ประคองเจ้าฟ้าคนใหม่ที่มีวัยเพียงสิบเก้าชันษาเอาไว้


               “เราจะอยู่เคียงข้างเจ้าไม่ไปไหน เราสัญญา”


               ลูบพระอังสาอย่างอ่อนโยนเพื่อปัดเป่าความอ่อนแอออกไป จนกระทั่งเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ทรงคลายความโศก

เศร้าได้บ้างจึงได้เงยพักตร์สบพระเนตรกับโกมุท


               “นอนเสียเถิดอาทิตย์ พักผ่อนให้เต็มที่เมื่อตื่นขึ้นมาในวันพรุ่งนี้เจ้าจะต้องเป็นกษัตริย์ที่เข้มแข็ง”


               ประคองให้เจ้าฟ้าคนใหม่เอนวรกายไปบนแท่นพระบรรทม เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ทรงกระทำตามโดยดี เปลือก

พระเนตรคมปิดลงช้าๆ


               “โกมุท จูบเราหน่อย เหมือนที่เจ้าจูบเราเมื่อยังเล็ก”


               ตรัสทั้งที่ยังหลับพระเนตร โกมุทก้มหน้าลงไปจูบที่พระนลาฎแผ่วเบาก่อนจะขยับกาย แต่แล้วใบหน้าเรียว

กลับถูกพระหัตถ์ยึดไว้และดึงเข้าหาอีกครั้ง


               “อึก อาทิตย์”


               เปล่งเสียงอย่างยากเย็นเมื่อกลายเป็นว่ากลีบปากนุ่มถูกเจ้าฟ้าองค์ครอบครองอย่างไม่ทันตั้งตัว ความร้อน

วูบวาบแผ่ซ่านจนสติแทบจะเลอะเลือนกว่าเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์จะยอมปล่อย ดวงตาประสานกันอย่างค้นคว้าและสับสน


               “โกมุท เราขอโทษ”


               โกมุทเม้มปากแน่น ตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรงเหลือเกิน โกมุทรีบยันกายขึ้นมานั่งพลางหันหน้าหนีสาย

พระเนตรของลึกล้ำคู่นั้น


               “บรรทมได้แล้วพะย่ะค่ะ พรุ่งนี้พระองค์ต้องปฏิบัติภารกิจอีกมาก”


               “โกมุท”


               หักห้ามหัวใจที่เต้นรัวเร็วแล้วลุกขึ้นก้าวออกจากห้องของเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ โกมุทรีบกลับเข้าไปในห้องส่วน

ตัวของเขา ความสับสนในความรู้สึกก่อกวนจนเขาเกือบจะนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน
               






               หลังจากนั้นไม่นานพิธีเถลิงถวัลย์ราชสมบัติก็เสร็จสิ้นลง เจ้าฟ้าองค์ใหม่ขึ้นครองราชอย่างเต็มภาคภูมิ

พระองค์เสด็จมาหามหาเสนาบดีเกริกผู้เป็นพระอัยกาถึงเรือน


               “ท่านตา สบายดีหรือ”


               เกริกรับเสด็จอย่างเป็นกันเอง ตอนนี้เขาก็ชราภาพมากแล้ว


               “ปวดเข่าปวดตัวไปตามเรื่องพะย่ะค่ะ นี่เจ้าฟ้ามาถึงบ้านตามีอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่ให้ตาไปเข้าเฝ้าในวัง”


               “มาเยี่ยมท่านตาไม่ใช่เรื่องลำบากเลยนะ หลานเองก็คิดถึงตาเช่นกัน แต่มาวันนี้มีเรื่องจะปรึกษาท่านตา”


               เกริกรับฟังอย่างตั้งใจเมื่อเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ทรงเอ่ยขึ้น


               “หลานอยากจะให้โกมุท เอ่อ ท่านน้าโกมุทไปช่วยงานหลาน”


               เกริกมุ่นคิ้วอย่างแปลกใจ


               “โกมุทงั้นหรือ น้าของเจ้าฟ้าเขาไม่ได้อยากไปเป็นอาจารย์สอนเด็กๆหรอกหรือพะย่ะค่ะ”


               “ท่านตา หลานเพิ่งจะขึ้นมารับตำแหน่งหาได้มีที่ปรึกษาข้างกาย ท่านน้าเก่งหลายเรื่องควรจะมาช่วยงาน

หลาน”


               เกริกนิ่งคิดก่อนจะพยักหน้าอย่างเห็นดีด้วย


               “ให้โกมุทไปช่วยก็ดี เจ้าฟ้าจะได้มีเพื่อนช่วยคิด”


               และนั่นเองทำให้โกมุทหมั่นไส้เจ้าฟ้าองค์ใหม่เหลือเกินเมื่อรู้ข่าว


               “หม่อมฉันไม่อยากเป็นเสนาบดี”


               “ก็ไม่ต้องเป็น”


               เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ยักพระอังสาอย่างไม่แยแส


               “ตำแหน่งในวังมีเยอะแยะ อยากได้ตำแหน่งไหนก็เลือกเอา แต่ที่ต้องทำคือเจ้าต้องมาอยู่เคียงข้างเรา”


               รับสั่งกำกวมเรียกเลือดในกายมาเลี้ยงผิวหน้าจนร้อนซู่ ในที่สุดโกมุทก็ไม่อาจขัดกระแสรับสั่งได้ เขาต้องมา

รับงานเสนาบดีที่อายุน้อยที่สุด

               และแล้วบ้านเมืองที่เคยสงบก็กลับมีเหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อเมืองอุดรรังษีที่อยู่ไกลออกไปทางทิศเหนือได้ข่าวถึง

การผลัดราชสมบัติ จึงได้คิดช่วงชิงโอกาสนี้เปิดศึกตามชายแดนสร้างความเดือดร้อนจนเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ต้องหาวิธี

แก้ไข


               “มันกะจังหวะนี้มานานแล้วเพราะพระบิดาป่วยไข้มาได้พักใหญ่ แต่ก็ไม่นึกว่าจะเหิมเกริมโจมตีรัตนปุระนครจน

ได้”


               โกมุทถอนหายใจหนักหน่วงในที่ประชุมของเสนาบดีที่มีเจ้าฟ้าแห่งรัตนปุระนครทรงเป็นประธาน


               “ส่งฑูตไปเจรจาก็ไม่เป็นผล อุดรรังษีไม่ยอมเจรจา”


               “พวกเราควรจะสู้พะย่ะค่ะ”


               เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์เองก็เห็นด้วย


               “เราต้องทำให้พวกนั้นรู้ว่ารัตนปุระนครจะไม่ปล่อยให้ใครมาลูบคมง่ายๆ”


               “แล้วใครจะคุมทัพพะย่ะค่ะ”


               โกมุทกล่าวอย่างหนักใจ เขาเองไม่อยากให้เกิดการสูญเสียทั้งสองฝ่าย


               “เราจะไปเอง”


               “เจ้าฟ้า!”


               ทุกคนในที่ประชุมตกใจกับการตัดสินพระทัยของเจ้าฟ้าองค์ใหม่ พากันห้ามปรามเซ็งแซ่แต่เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์

ทรงยืนยันคำเดิม โกมุทคิดหนักก่อนจะกล่าวออกมา


               “ถ้าเช่นนั้น หม่อมฉันจะตามไปกับพระองค์ด้วย”






                                               โปรดติดตามตอนต่อไป



        คริคริ สาย Incest น้าหลานก็มาแถมเคะยังอายุมากกว่าด้วยสินะ  :hao3: :hao3: :hao3:
               
               
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2015 00:16:37 โดย Belove »

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
แล้วพ่อสมิงของเค้าล่ะ (T_T)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
นั่นจิ เชียร์สมิงงง TOT

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
รุ่นใหญ่เนี่ยรักสามเศร้าเหรอ.....สงสารสมิง :(

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไป :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
แต่ปัจจุบัน ไม่ง่ายแล้วน่ะ 3P ลงตัวน่ะ อิอิ

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :mew1: รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เหยยย เรื่องราวยุ่งเหยิงมาก เหมือนเอาเชือกมาขยุ้มจนเป็นปมที่แกะไม่ออก  :katai1:

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
กรี๊ดดดดดดด ชอบคู่คุณพ่อสุดดดดด
ขอ3p 5555555
อยากรู้เกิดอะไรขึ้นนน
มาต่อไวไวนะคะ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                            บัลลังก์รักใต้เงาแค้น

                                                                   บทที่  9.1


               การศึกไม่ได้แก้ปัญหาง่ายอย่างที่คิดแม้ว่าเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์จะเสด็จประพาสไปพำนัก ณ ขอบชายแดนด้าน

ที่มีพื้นที่ติดพันกับอุดรรังษีเมื่อเจ้าชายวัชรศรซึ่งเป็นเจ้าชายรัชทายาทแห่งอุดรรังษีเป็นผู้นิยมการต่อสู้ และเมื่อกษัตริย์ผู้

เป็นราชบิดาให้ท้ายในการแอบโจมตีรัตนปุระนครเจ้าชายวัศรศรยิ่งไม่ยอมรามือ

               เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์พำนักอยู่ในที่พักสร้างเป็นกระโจมไม่ต่างจากนายทหารคนอื่นเพียงแต่อาจจะมีพื้นที่

มากกว่าเพราะต้องแบ่งพื้นที่สำหรับประชุมการรบไว้ทางด้านหน้าและมีบังตาเข้าไปสู่แท่นพระบรรทมด้านใน ทรงปฏิบัติ

ตัวเรียบง่ายในสมรภูมิสร้างความชื่นชมให้แก่เหล่าทหารใหญ่น้อยที่เจ้าฟ้าของตนมาเป็นขวัญกำลังใจถึงชายแดน การสู้

รบดำเนินมาราวเดือนเศษแล้ว จนเหล่าทหารเริ่มจะอ่อนล้าและเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์เองก็ตึงเครียดมากขึ้นทุกที


               “มันอาศัยซุ่มโจมตีอยู่ตามหมู่บ้านตะเข็บชายแดน สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน ช่างเลวสิ้นดี”


               ตรัสด้วยความขุ่นเคืองท่ามกลางนายทหารที่เข้าเฝ้าเพื่อปรึกษาหารือการยุทธ


               “มันอาศัยวิธีนี้ทำลายเสบียงของเราลงจนร่อยหรอพะย่ะค่ะ”


               นายทหารอาวุโสท่าหนึ่งก็หนักใจไม่น้อย โกมุทที่ยืนฟังอยู่เอ่ยปากขึ้นด้วยใบหน้าครุ่นคิด


               “เราอาจจะต้องหาพันธมิตรมาช่วย”


               “ว่าไงนะ”


               เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ทรงหันไปหาที่ปรึกษาคู่ใจกับความคิดนั้น


               “พันธมิตรงั้นหรือโกมุท”


               “พะย่ะค่ะ  ศัตรูของศัตรูคือเพื่อน หม่อมฉันได้ยินมาว่าเมืองเหมราชที่อยู่ไม่ห่างจากเรานักและมีเขตชายแดน

เชื่อมกับอุดรรังษีก็มีปัญหาการสู้รบไม่ต่างจากเรานัก หากรัตนปุระนครได้เมื่อเหมราชมาเป็นพันธมิตร คิดว่าอุดรรังษีเองก็

ไม่น่าต้านทานได้”


               เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่อยู่ในวงประชุมจนเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ต้องยกหัตถ์ขึ้นห้ามไว้


               “ความคิดของท่านโกมุทเข้าทีมาก เราลืมคิดถึงความร่วมมือกับเมืองที่เดือดร้อนเช่นเรา”


               เสนาบดีฝ่ายการทหารพยักหน้าเห็นพ้อง เขาหันไปมองโกมุทอย่างชื่นชม


               “ท่านโกมุทช่างฉลาดหลักแหลมสมกับคำร่ำลือ มิเสียแรงที่เป็นบุตรของท่านเกริก นี่ถ้าหากกระผมมีบุตรสาว

คงจะรีบยกให้ท่านโกมุทเสียตั้งแต่เพลานี้”


               โกมุทคลี่ยิ้มพลางค้อมศีรษะรับคำชื่นชมนั้น


               “กระผมเพียงแค่ใช้วิธีอย่างในตำราประวัติศาสตร์ที่ได้ร่ำเรียนมาเท่านั้นขอรับ หาได้ฉลาดอย่างที่ท่านลุง

ชื่นชมเลย”


               “นอกจากเก่งแล้วยังถ่อมตนอีกจะหาคนดีพร้อมเช่นท่านโกมุทได้ที่ไหนกันเล่า นี่กระผมมีหลานสาวอยู่คน

หนึ่งถ้าท่านโกมุทไม่รังเกียจ...”


               “นี่ไม่ใช่เวลามาจับคู่คลุมถุงชน”


               สุรเสียงเข้มดังขึ้นพร้อมพระพักตร์บึ้งตึงขัดจังหวะจนการสนทนาหยุดลง เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ทอดพระเนตรพระ

มาตุลาจนโกมุทนึกเสียวสันหลัง


               “ตกลงตามที่โกมุทพูด เตรียมเรื่องไปเจรจากับเหมราชให้เร็วที่สุดแล้วก็เลิกประชุมกันได้แล้ว ข้าจะพักผ่อน”


               วงประชุมแตกทันทีเมื่อเจ้าเหนือหัวพระพักตร์ดุโดยไม่ทราบสาเหตุ โกมุทลอบมองพักตร์คมพลางถอนหายใจ

เฮือกพร้อมเตรียมก้าวเท้าออกจากที่พักของเจ้าฟ้าเป็นคนสุดท้าย


               “เดี๋ยว โกมุท เจ้าจะไปไหน”


               ใบหน้างดงามหันกลับมามองหลานชายผู้สูงศักดิ์อย่างไม่เข้าใจในพายุอารมณ์นั้น


               “ก็พระองค์จะพักผ่อน หม่อมฉันก็ไม่บังอาจรบกวนพะย่ะค่ะ”


               น้ำเสียงราบเรียบของพระมาตุลายิ่งทำให้เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ทรงหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม


               “เดี๋ยวนี้ไม่เห็นเราอยู่ในสายตาแล้วใช่ไหม พอได้เป็นเสนาบดีคนดังที่อยากจะมีแต่คนยกลูกสาวหลานสาวให้

ก็ไม่เห็นค่าของเราแล้วงั้นสิ”


               คราวนี้โกมุทเลยงงจริงๆ เขาไม่เข้าใจว่าเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ไปเสวยรังแตนมาจากไหนถึงได้พาลไปทั่วขนาดนี้


               “พระองค์คงจะเครียดจากการกรำศึกมาเป็นเวลานาน ถึงได้ทอดพระเนตรสิ่งใดก็ไม่โปรด หม่อมฉันคิดว่า

พระองค์ควรจะเปลี่ยนพระอิริยาบทไป...”


               “เลิกคิดแทนเราเสียที เราคิดอะไรเองได้”


               โกมุทกัดปากนิ่งอึ้งเมื่อได้ยินสุรเสียงดุดันราวกับตวาดออกมาจากโอษฐ์ของเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ ทั้งที่เขาไม่

เคยได้ยินมาเลยตั้งแต่เกิด ดวงตาหวานช้อนมองอย่างนึกน้อยใจจนขอบตาร้อนผ่าว


               “ขอพระราชทานอภัย หม่อมฉันลืมไปว่าพระองค์กลายเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเหนือผู้คนทั้งปวงแล้ว มิบังควรที่

หม่อมฉันจะเอ่ยวาจาไม่บังควร หม่อมฉันทูลลา”


               “โกมุท!”


               หยาดน้ำที่คลออยู่ในหน่วยตาหวานเรียกสติกลับคืนมาสู่เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ พลันร่างกายสูงโปร่งหันหลังให้

แล้วสืบเท้าก้าวเดินหนีไปที่ทางออกเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ก็ทรงก้าวพระบาทเข้าไปแล้วดึงท่อนแขนเรียวของโกมุทให้หัน

ร่างคืนสู่อ้อมกอดของพระองค์

               นิ่งงันราวกับโลกจะหยุดหมุนเมื่อทรงโอบกอดโกมุทไว้ในวงแขน โกมุทยืนนิ่งแทบจะลืมหายใจกว่าจะกล้าเงย

หน้าประสานสายตากับพระเนตรคมที่จ้องมองมา ความสนิทสนมที่อยู่ด้วยกันมานานทำให้เขาลืมสังเกตว่าเจ้าฟ้าอาทิตย

วงศ์ทรงมีพระวรกายยืดสูงกว่าพระองค์ตั้งแต่เมื่อไหร่ จนกระทั่งได้ยืนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดจึงได้รู้ว่าบัดนี้ผู้เป็นหลานชาย

แท้ๆกลับสูงกว่าเขาไปแล้วเป็นคืบ




                                                                TBC



เวลาน้อย แต่งตุนไว้ก่อน
 :z13: :z13:                

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L1:    ขอบคุณค่ะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
อ๊ากกกกกกกค้างสุดดดดดดดดดดด
ขอให้คู่พ่อจบสามพีนะคะๆๆ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
หาพันธมิตรให้บ้านเมือง พ่วงด้วยหาคู่มาให้คนรักตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ???? :pig4:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ค้างอ่ะ กอดแล้วยังไงต่อๆๆๆ
ลุ้นรุ่นพ่อมากเลยอ่ะตอนนี้

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
สมิงเค้าล่ะะะ T^T
เชียร์สมิงงง เราชอบเถื่อนๆ 555

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
หาพันธมิตรนี่ ใช่ที่จะได้แม่ของอินทัช ใช่ม๊ายยยย

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
รอๆๆๆๆๆคู่พ่อต่ออออ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                             บัลลังก์รักใต้เงาแค้น
                                                   
                                                     บทที่  9.2
     

                "เจ้าฟ้า...”


               “อาทิตย์ เราคืออาทิตย์ของเจ้า”


               ทรงแก้ไขคำพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน พระหัตถ์ที่วางแนบอยู่เหนือบั้นเอวขยับรั้งโกมุทให้ยิ่งใกล้ชิดจนรับรู้ถึง

ลมหายใจอุ่นๆ


               “ปล่อยหม่อมฉันเถิด”


               โกมุทเอ่ยเตือนด้วยหัวใจหวิวไหว อ้อมกอดของหลานชายที่เป็นถึงเจ้าฟ้าในคราวนี้ช่างแตกต่างจากการกอด

รัดในวัยเยาว์ ความรู้สึกดังกล่าวกำลังทำให้เลือดในกายชายหนุ่มวิ่งพล่านไปมา


               “เจ้าเบื่ออ้อมกอดของเราเสียแล้วหรือท่านน้า”


               หยอกเย้าอยู่ใกล้ๆใบหูจนใบหน้าเนียนของโกมุทแดงก่ำอย่างยากจากจะหักห้าม มือเรียวที่วางแนบอยู่ตรง

พระอังสากว้างออกแรงผลักทั้งที่รู้ว่าไม่อาจสะเทือนแม้แต่น้อย


               “ทรงรู้อยู่แล้วว่าอะไรคือความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมนะพะย่ะค่ะ หากมีผู้ใดมาพบเห็นจะเสื่อมเสีย

เกียรติยศของพระองค์ได้ อุ๊บ!”


               คำตักเตือนพลันหายไปทันทีเมื่อกลีบปากช่างต่อว่าถูกอีกฝ่ายปิดมันลง โกมุทยืนตัวแข็งอยู่ในอ้อมกอด

ราวกับวิญญาณกำลังจะหลุดลอยออกจากร่างเมื่อเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์กำลังจูบเขาอย่างหนักหน่วง ดวงตาเรียวดังเนื้อทราย

เบิกกว้างก่อนจะค่อยๆปรือปิดลงด้วยแรงอารมณ์ที่กำลังถูกชักจูงให้คล้อยตาม ร่างกายที่ฝืนหนีก็กลับโอนอ่อนและ

เผลอไผลบดเบียดแนบชิดโดยที่โกมุทไม่รู้ตัว


               เป็นนานกว่าเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์จะยอมคืนอิสระให้เรียวปากอิ่มที่ถูกจูบจนสั่นสะท้าน ดวงตาสองคู่ประสานสบ

กันอย่างค้นคว้าและหวามไหว


               “เลิกใช้ความเหมาะสมมาห้ามเราเสียทีโกมุท เราเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่อยากอยู่ใกล้คนที่เรารักก็แค่

นั้น”


               รักงั้นหรือ


               โกมุทตะลึงไปกับดำรัสของเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ ดวงตางามที่ช้อนมองปะปนกันไปทั้งความตกใจสงสัยและหวั่น

ไหวกับคำพูดของชายสูงศักดิ์ที่เป็นหลานแท้ๆของตน เขาฝืนยิ้มออกมาอย่างยากเย็น


               “น้าหลานก็ต้องรักกันอยู่แล้ว”


               เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ทรงกัดพระโอษฐ์อย่างขัดพระทัย พระหัตถ์เลื่อนยกมาบีบที่หัวไหล่ทั้งสองข้างของโกมุท

และเขย่าจนศีรษะสั่นคลอน


               “เมื่อไหร่เจ้าจะเลิกปฏิเสธความจริงเสียที เมื่อไหร่ที่เจ้าจะรู้สักทีว่าเราเลิกมองเจ้าเป็นน้าของเรานานแล้ว หือ

โกมุท”


               “อาทิตย์”


               น้ำเสียงแผ่วเบาจนแทบจับใจความไม่ได้เมื่อได้ยินความจริงจากโอษฐ์ของเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ หัวใจของ

โกมุทเต้นเร็วและแรงจนเกือบจะกระเด็นมานอกทรวงอก มือเรียวที่วางแนบอยู่บนอังสากว้างบีบกระชับอย่างไม่รู้ตัวเรียก

ร้องให้เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ทรงก้มพักตร์ลงไปแนบชิดจุมพิตอีกครั้ง

               จุมพิตยิ่งอ่อนหวานจนโกมุทแทบละลายลงไปกองกับพื้น ลิ้นเล็กที่พลิกหนีในคราแรกบัดนี้ตวัดตอบโต้เรียก

เสียงพึมพำอย่างถูกพระทัยและแปรเปลี่ยนจูบหวานให้กลับทวีความเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ โกมุทหลับตาพริ้มพลางยกแขนขึ้น

คล้องพระศอแล้วโอบรัดเข้าหา มันทำให้เจ้าฟ้าอาทิตยวงส์หมดความยับยั้งชั่งใจลงทันที

               ทรงช้อนพระหัตถ์ตวัดเข้าใต้เข่าของพระมาตุลาแล้วอุ้มจนร่างโปร่งบางลอยขึ้นเหนือพื้นอย่างง่ายดาย เจ้าฟ้า

อาทิตยวงศ์ที่ยังจุมพิตร้อนแรงพาโกมุทเข้าไปในบังตาด้านในที่มีเพียงแท่นพระบรรทมเล็กตั้งอยู่ ทรงวางร่างนุ่มลงไป

ก่อนจะขยับวรกายขึ้นเอนนอนทาบทับ พระหัตถ์ซุกซนดึงเครื่องแต่งกายออกไปจนเหลือเพียงกายเปล่าเปลือยเบียดแนบ

ซึ่งกันจนอุ่นร้อน


               “งามเหลือเกิน น้าของเรา”


               สุรเสียงยั่วเย้าวาบหวามเมื่อทรงสละเรียวปากอิ่มเพื่อทอดพระเนตรเรือนร่างงดงามที่ทอดกายอยู่เบื้องล่าง

ร่างสูงโปร่งขาวผ่องเนียนนุ่มน่าสัมผัสไปทุกสัดส่วน ใบหน้าแดงเรื่อด้วยเลือดลมสูบฉีดพลางหลบตาต่ำอย่างขัดเขินแต่ก็

ไม่ได้ขัดขวางอีกต่อไปเมื่อเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์จะไล่แตะต้องไปตามเนื้อนุ่มจนแม้แต่จะวางพระหัตถ์แนบไปกับแก่นกาย

งดงามพอเหมาะของเขาและนวดเฟ้นปลุกเร้าให้เขาตื่นขึ้นมาอยู่ในอุ้งหัตถ์ร้อน โอษฐ์ชื้นแตะไล้อยู่ตรงซอกคอก่อนจะ

เลื่อนกายลงมาครอบครองยอดอกสีชมพูสวยที่เต่งตูมยวนยั่ว มาถึงตอนนี้โกมุทก็ถึงกับบิดกายพล่านอยู่บนแท่นบรรทม


               “อาทิตย์ อา... พระองค์กำลังจะฆ่าหม่อมฉัน”


               น้ำเสียงสั่นพร่าตัดพ้อระคนเสียงครางหวานผะแผ่ว ดวงตาเรียวปรือฉ่ำพลางกัดปากแดงก่ำด้วยไฟแห่ง

อารมณ์ที่ทะยานขึ้นมา สองแขนโอบรัดรอบพระศอกดลงต่ำเพื่อให้วรกายหนั่นแน่นยิ่งเบียดรัดและไม่เลิกวอแวกับเม็ด

เล็กเหนือทรวงอกที่แข็งขันชูชันรอรับปลายชิวหา โกมุทกำลังทรมานไปกับความต้องการจนต้องชันขาขึ้นมาเปิดทางให้

เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์เบียดร่างสัมผัสช่องว่าง


               เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์เองก็กำลังกระเจิดกระเจิงไปกับความต้องการจนยากจะหยุดยั้ง พระชิวหากวาดไล่ดอมดม

ไปทั่วทั้งลำตัวของโกมุท ความกระหายกำลังพุ่งสูงจนปวดหนึบไปทั่วพระนาภี


               “จงเป็นของเราเถิดนะโกมุท”


               ตรัสจบประโยคพลันดันกายสอดแทรกเข้าใส่ คราแรกโกมุทถึงกับเกร็งกายรับความเจ็บปวดที่ถูกชำแรก

เข้าหา เสียงร้องดังลอดออกมาจนเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ต้องทรงจูบปลอบขวัญ


               “อย่ากลัวอย่างเกร็งนะคนดี เรารักเจ้าโกมุท เราจะไม่ทำให้เจ้าต้องเจ็บปวด”


               พรมจูบไปบนใบหน้าชื้นเหงื่อก่อนจะหยุดที่ริมฝีปาก เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ทรงดึงความสนใจด้วยลิ้นที่ตวัดเกี่ยว

อยู่ในโพรงปากและค่อยๆดันกายเข้าไปช้าๆ เสียงร้องของความเจ็บปวดเริ่มห่างหายกลับกลายเป็นเสียงหอบหายใจ

กระเส่ายามที่พระองค์ขับเคลื่อนอยู่บนร่างกายนุ่มมือใต้ล่าง


               “อา อึก อาทิตย์ ลึกไปแล้ว”


               ร้องท้วงเมื่อทรงดันกายเข้าไปจนสุดทาง ความคับแน่นที่แสนบริสุทธิ์กำลังทำให้พระองค์หน้ามืดจนอยากจะ

เร่งเร้าให้มากกว่านี้ หากแต่เป็นเพราะไม่อยากให้โกมุทบอบช้ำจึงต้องห้ามใจเพื่อให้โกมุทได้ปรับตัวจนกระทั้งความฉ่ำ

ชื้นของช่องทางหลั่งรินออกมาช่วงลดความเจ็บปวด เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์จึงได้ยันกายขึ้นมองโกมุทอย่างพอพระทัย


               “ขึ้นสวรรค์กับเรานะโกมุท”


               ขับเคลื่อนเลื่อนเอวเข้าออกอยู่ภายในร่างกายที่แอ่นรับสอดประสานกันอย่างลงตัว โกมุทขยับเอวเปิดทาง

กว้างพลางรับแรงกระแทกเร่าร้อนด้วยความยินดี เสียงลมหายใจหอบสะท้านซ่านหัวใจเมื่อเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์กำลังกำนัล

เขาให้ลุ่มหลงไปกับไฟรักก่อนจะพากันเกร็งกายเมื่อจูงมือกันไปสู่แดนสวรรค์
               







               “หายเจ็บหรือยังท่านน้า”


               เสียงหยอกล้อพร้อมกับสายพระเนตรฉ่ำหวานที่จ้องมองทำให้โกมุทถึงกับขัดเขินจนต้องใช้ปลายนิ้วหยิกเบาๆ

ไปบนหน้าท้องแข็งแกร่งของเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ที่ตะแคงกายนอนอยู่เคียงข้างบนแท่นพระบรรทมเล็กในที่พักท่ามกลาง

สงครามแย่งชิงเขตแดน โกมุทกัดริมฝีปากหักห้ามความอายเมื่อถูกกอดรัดไปทั้งตัว


               “หม่อมฉันไม่มีหลานดื้อๆอย่างนี้หรอกพะย่ะค่ะ”


               เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์แสร้งร้องสูดโอษฐ์ราวกับเจ็บปวดเสียเต็มประดากับปลายนิ้วที่หยิกเนื้อลงมา พระองค์แย้ม

สรวลเมื่อเห็นโกมุทยิ่งย่นหน้างอง้ำเมื่อถูกหยอกล้อ


               “ใช่ เจ้าไม่มีหลานดื้อๆอย่างเราหรอก เพราะเจ้ามีแต่สวามี...”


               “พูดมากจริงเชียว”


               ยกมือปิดโอษฐ์ให้หยุดเสียง แต่กลับถูกดึงไปพรมจูบทั่วฝ่ามือเรียวอย่างหลงใหล เจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ทรงทอด

พระเนตรโกมุทจริงจังยิ่งขึ้น


               “ขอโทษนะโกมุท ที่เราต้องบอกรักเจ้าอยู่บนเตียงเล็กๆแข็งๆและร้อนอบอ้าวเช่นนี้ ทั้งที่เราอยากจะให้เจ้ามี

ความสุขอยู่บนเตียงนุ่มมากกว่า”


               โกมุทช้อนสายตามองเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ด้วยความรักและภักดี


               “เท่านี้ก็ดีแล้วพะย่ะค่ะ หม่อมฉันอยากให้พระองค์มีความสุข”


               “เจ้าช่างใจเย็นเหมือนชื่อของเจ้า โกมุทแปลว่าเกิดจากน้ำซึ่งมันก็คือดอกบัวใช่ไหม”


               ทรงตระกองกอดร่างนุ่มไว้กับอกเมื่อทรงยอมรับแล้วว่ารักคนที่นอนเคียงข้างมากแค่ไหน โกมุทเองก็มองตอบ

อย่างเทิดทูน


               “ดอกบัวเกิดแต่ตม หากแต่มันกลับรักแสงแดดจากดวงอาทิตย์ยิ่งชีพ หากวันไหนไร้แสงวันนั้นดอกบัวก็จะ

เหี่ยวเฉาและตายอย่างไร้คุณค่าพะย่ะค่ะ”


               มือนุ่มที่จับแต่กองหนังสือตำราเป็นหลักยกขึ้นมาลูบพระพักตร์คมของเจ้าฟ้าอาทิตยวงศ์ สายตาที่จับจ้องบอก

ถึงความรักและภักดีแม้แต่ยอมทอดกายให้พระองค์ในสนามรบเช่นยามนั้น


               “ไม่มีวันที่เราจะทอดทิ้งเจ้า โกมุท”


               ทรงถอดธำมรงค์วงเล็กออกจากข้อนิ้วพระหัตถ์ ธำมรงค์ที่มีเพชรงามประดับอยู่บนยอดอวดแสงสวย เจ้าฟ้า

อาทิตยวงศ์ทรงดึงมือเรียวของโกมุทแล้วบรรจงสอดแหวนเข้ากับนิ้วนางของโกมุทได้อย่างพอดีจนน่าแปลกใจ


               “โกมุท เรารักเจ้า”



               ดึงมือเรียวมาจูบแล้วไล่พรมขึ้นไปก่อนจะพาโกมุทไปสู่สวรรค์อีกครา


 



                                            โปรดติดตามตอนต่อไป

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-11-2015 17:04:01 โดย Belove »

ออฟไลน์ sosi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รักแล้วทำไมถึงไม่ปกป้อง :katai1:  เชียร์สมิงดีกว่า :mew1:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :o8:   น้า-หลาน

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ถ้าไม่เกิดเรื่อง สองคนนี้คงจะอยู่กันได้อย่างเป็นสุข...ละมั้ง
...การเป็นเจ้าเหนือหัว แปลว่าต้องสละความสุขของตนเองเพื่อประชาทั้งปวง...

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด